How to ประหยัดงบค่าที่พักเพื่อจัดทริป ฮันนีมูน กินหรูอยู่สบายขึ้น

นอกจากงบการจัดงานแต่งงานที่ยากเกินควบคุมแล้วงบสำหรับจัดทริปฮันนีมูนสุดสวีทก็เช่นกัน ซึ่งหลายคู่วาดฝันทริปฮันนีมูนแสนหวานในที่พักระดับลักซ์ชัวรี่ แต่ก็ต้องยอมตัดใจด้วยงบประมาณที่แสนจะแพง อย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ เชื่อเถอะคู่ไหนๆ ก็สามารถไป ฮันนีมูน แบบกินหรูอยู่สบายได้ง่ายๆ เพียงแค่ทำตามวิธีดังต่อไปนี้เลยค่ะ

ฮันนีมูน

1. วางแผนให้ดี

เริ่มต้นด้วยการวางแผนล่วงหน้า หากเป็นไปได้ให้วางแผนอย่างน้อย 6-8 เดือนสำหรับทริประยะยาว ศึกษาเรื่องการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวที่ไหนน่าสนใจบ้าง ร้านอาหารที่ต้องไปโดน บริการที่อยากได้สำหรับในทริปนี้ จากนั้นเลือกสถานที่ที่ทั้งคู่อยากไปแล้วเล็งที่พักดีๆ ไว้ได้เลย

2. เลือกวันจัดทริป

การท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูหรือช่วง Low Season อาจหมายถึงการเสี่ยงต่อสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย แต่คุณรู้หรือไม่? การท่องเที่ยวในช่วงเวลานั้นจะทำให้คุณประหยัดงบค่าที่พักได้อย่างน่าทึ่ง เนื่องจากในช่วง Low Season ไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ตามที่พักจึงต้องมีการลดราคาค่าเข้าพักลงมาเพื่อเรียกลูกค้าให้มาพักผ่อน หากคู่ไหนไม่ซีเรียสเรื่องสภาพอากาศ พร้อมลุย หรือต้องการแค่ไปพักผ่อนในที่พักดีๆ สักแห่ง ช่วงนี้แหละเหมาะกับแพลนของคุณสุดแล้ว หรือคู่ไหนมีหน้าที่การงานที่ยืดหยุ่น ลางานได้ไร้กังวล เตรียมเคลียร์คิวให้เรียบร้อยแล้วปักหมุดเป็นวันธรรมดาได้เลย เพราะค่าที่พักจะมีราคาถูกกว่าในวันหยุดค่ะ

3. ซื้อวันเดย์ทริป

การซื้อวันเดย์ทริปที่มาพร้อมที่พัก เหมาะสำหรับคู่รักที่เน้นการเที่ยวมากกว่าการเข้าพักผ่อนตามโรงแรม เพราะที่พักสำหรับวันเดย์ทริปส่วนใหญ่ไม่ได้มีการบริการพิเศษเมื่อมากับทัวร์ มีเพียงที่พักพร้อมอาหารเช้าปกติ หากคู่รักที่มีความสนใจไปเที่ยวฮันนีมูนแบบสนุกสุดมันเราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อแพ็คเกจวันเดย์ทริปพร้อมที่พักจะช่วยให้คุณประหยัดขึ้นได้เยอะเลยค่ะ

4. สอบถามแพ็คเกจกับทางที่พัก

เดี๋ยวนี้โรงแรมหรือรีสอร์ทมักทำแพ็คเกจสำหรับฮันนีมูนออกมากันเป็นระยะๆ ในแพ็คเกจส่วนใหญ่จะประกอบด้วย ที่พักสำหรับ 2 ท่าน อาหารเช้า รถรับส่งสนามบิน ชุดอาหารค่ำดินเนอร์ใต้แสงเทียน ไวน์หรือแชมเปญสำหรับเลี้ยงฉลอง จัดตกแต่งเตียงให้แบบพิเศษ ผ่อนคลายด้วยการนวดสปา ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการจ่ายแบบเหมารวม เมื่อเฉลี่ยแล้วคุณจะประหยัดงบได้มากกว่าการซื้อที่พักเพียงอย่างเดียว แถมคุณจะได้รับความสะดวกสบายตลอดทริป ข้อมูลแพ็คเกจฮันนีมูนคุณสามารถหาได้จากอินเทอร์เน็ต จากนั้นให้โทรสอบถามรายละเอียดกับราคาแพ็คเกจของที่พัก และอย่าลืมสอบถามวันหมดอายุของโปรโมชั่นด้วยนะจ๊ะ

5. สมัครสมาชิก

การสมัครสมาชิกกับทางโรงแรมคุณอาจได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษในการเข้าพัก เพียงคุณแจ้งกับทางโรงแรมว่ามาฮันนีมูนคุณก็จะได้รับบริการพิเศษสมนาคุณเพื่อคู่รักฮันนีมูนโดนเฉพาะ ในบางแห่งมอบเป็นส่วนลดพิเศษสำหรับลูกค้า ซึ่งถือเป็นหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณได้มีเงินเหลือจัดทริปฮันนีมูนในรอบหน้าได้นะคะ

ฮันนีมูน

cr. destinationweddingmag.com, money.usnews.com, bethsbeautifulgetaways.com, paradisegetaways.net

อ่านบทความเพิ่มเติม

รู้ไว้กันงานกร่อย 6 สิ่งที่จำเป็นต้องรู้เมื่อจะเลือกสถานที่แต่งงานในต่างจังหวัด

AUBE สถานที่จัดงานแต่งงานบรรยากาศเรียบหรูเจือกลิ่นมินิมอลแบบธรรมชาติ

5 เรื่องห้ามประมาท เมื่อต้องเลือกสถานที่จัดงานแต่ง

ลุคหวานก็สวยมาก! เจนิส กับแฟชั่นชุดแต่งงานในนิตยสารแพรว wedding มิ.ย. 63

“เจนิส-เจณิสตา” นักแสดงสาวสุดแซ่บขอเปลี่ยนลุคมาอวดโฉมเป็นเจ้าสาว พร้อมสะกดทุกสายตาในชุดแต่งงานที่ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวย

หลายคนอาจจะคุ้นเค้ยกับบทบาทเปรี้ยวปรี๊ดกับลุคแรงๆ และเซ็กซี่นิดๆ ของสาวเจนิสจากในละครหลายต่อหลายเรื่อง นานๆ ที่จะได้เห็นเธอในลุคหวานๆ บ้างผ่านทางผลงานละครหรืออินสตาแกรม แต่แพรวเวดดิ้งอยากให้เธอหวานกว่าที่เคยเห็นด้วยการดึงเธอมาถ่ายแฟชั่น ชุดแต่งงาน ซะเลย บอกเลยว่าเห็นสาวเจนิสในลุคนี้แล้วเผลอๆ อาจจะลืมลุคแรงๆ ของเธอในละครไปเลย

ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงาน

เสื้อผ้า : Coco Chic Wedding
ถนนสาธุประดิษฐ์
โทร. 0-2115-8500, 09-9635-8585
เฟซบุ๊ก : Coco Chic Wedding
ไอจี : @cocochicwedding

แต่งหน้า : อาชวิน กฤติยวนิชย์ (ไอจี : @armytoast)
ทำผม : เอกพล เกียรสืบ (ไอจี : @robirt_99)
ช่างภาพ : ดวงพร ใบพลูทอง
ผู้ช่วยช่างภาพ : ชโนดม แต้ไพสิฐพงษ์
สถานที่ : KIRIN SNAP x LABS
โทร. 08-9497-8328 ซอยสุขสวัสดิ์ 40
เฟซบุ๊ก : KIRINsnapxlabs studio – สตูดิโอให้เช่า
ถ่ายภาพ แฟชั่น พรีเวดดิ้ง โฆษณา

ดูชุดแต่งงานร้าน Coco Chic Wedding เพิ่มเติม คลิกเลย!

6 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยศึกษาดูใจ ทำความรู้จักกับคนรักของคุณให้มากขึ้น

จุดเริ่มต้นของความรักคือ การเริ่ม ทำความรู้จัก และ ศึกษาดูใจ กับคนคนนั้น

คนสองคนต่างมารวมตัวกัน แบ่งปันความสุขจนกลายเป็นความผูกพันและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในที่สุด งานแต่งงานอาจเกิดขึ้นหลังจากหลายปีที่มีการเดท ศึกษาดูใจ หรือบางคู่อาจเกิดขึ้นเร็วจนไม่ทันตั้งตัว อย่างไรก็ตามระยะเวลาที่คุณได้รู้จักกับคู่แต่งงานของคุณ มันอาจยังไม่เพียงพอที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับเขาหรือเธอมากยิ่งขึ้น การที่คุณจะได้ทำความรู้จักกับคนรักของคุณอย่างลึกซึ้งไม่ใช่เป็นสิ่งที่ดูก้าวก่ายเขาเลยนะคะ แต่กลับกันมันเป็นเรื่องที่ดีมากเลยต่างหาก เพราะมันจะช่วยรักษาความโรแมนติกของชีวิตคู่ไว้ได้ แต่คุณจะมั่นใจได้แค่ไหนว่าคุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเขาเป็นอย่างดีแล้ว? แพรว wedding เลยมีทริคง่ายๆ ที่จะทำให้คุณมั่นใจได้ว่า ฉันเลือกคนไม่ผิดจริงๆ 🙂 มาฝาก

1. คุณต้องรู้ความสนใจ และสิ่งที่เขาไม่ชอบ

คอยสังเกตจากชีวิตประจำวันว่าเขาดูมีความสนใจในเรื่องอะไร และคุณอาจจะเลือกทำกิจกรรมนั้นร่วมกับเขาก็ยิ่งจะช่วยให้เขารู้สึกเป็นกันเองกับคุณมากยิ่งขึ้น ลดช่องว่างระหว่างความสัมพันธ์ลง เช่น คนรักของคุณอาจจะชอบฟุตบอลเอามากๆ ในวันไหนที่มีถ่ายทอดสดฟุตบอล คุณก็อาจจะเนียนๆ ขอเขาเข้าร่วมดูด้วย ดีกว่าการที่คุณไปห้ามเขาเยอะเลยล่ะค่ะ เรียกว่าเป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณได้ดีเลยทีเดียว การที่คุณรู้เกี่ยวกับความสนใจของเขา รู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ก็แสดงถึงความเอาใจใส่ ความรู้ใจก็ยิ่งทำให้ชีวิตคู่ง่ายขึ้น และความชอบของแต่ละคนก็ยังเป็นตัวช่วยในการบ่งบอกรสนิยมได้อีกด้วยน้า

2. พูดคุยกับแม่ของเขา

ผู้เป็นแม่คือขุมทรัพย์ในการเก็บข้อมูลเลยแหละค่ะ ดีไม่น้อยถ้าแม่ของเขาบอกคุณเกี่ยวกับฝันหวานในวัยเด็ก แรงบันดาลใจ รวมถึงอาหารจานโปรดของเขาที่คุณอาจจะเลือกทำเป็นเมนูพิเศษในวันพิเศษด้วยตัวคุณเอง ช่วยสร้างความประทับใจได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้การที่คุณพูดคุยกับแม่ของเขา สนิทสนมกันเป็นอย่างดี คนรักของคุณก็ยิ่งอุ่นใจมากขึ้น เพราะวัฒนธรรมของคนเอเชีย ความรักไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคนเท่านั้น ครอบครัวก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่คุณต้องเข้าหาพวกเขาด้วย แล้วยิ่งคุณแสดงถึงความเอาใจใส่ลูกชายหรือลูกสาวท่านมากเท่าไหร่ ด้วยวิธีการถามให้ท่านช่วยเล่าเรื่องที่เกี่ยวกับคนรักของคุณ เท่านี้คุณก็อาจจะได้ใจแม่ของเขาไปเลยก็ได้ค่ะ

3. เป็นมิตรกับเพื่อนของเขา

บางครั้งกลุ่มเพื่อนก็อาจจะเป็นภาพสะท้อนในตัวเขานะคะ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะคบเพื่อนที่มีความชอบหรืออะไรคล้ายๆ กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เพื่อนผู้ชายที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ถ้าคุณมีข้อตกลงที่ดี มีการวางตัวดีในหมู่เพื่อนของเขา ไม่แน่นะพวกเขาอาจจะช่วยให้คุณได้ใกล้ชิดกับคนรักของคุณมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น ถ้าช่วงไหนเพื่อนของเขารู้สึกว่าคนรักของคุณติดพวกเขามากไป มาร่วมสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อนบ่อย พวกเขาก็จะช่วยเตือนสติคนรักของคุณให้ใช้เวลากับคุณบ้าง เป็นเรื่องที่ดีนะคะถ้าคุณจะเริ่มตีสนิทกับกลุ่มเพื่อนของคนรักตั้งแต่ตอนนี้

ทำความรู้จัก

4. ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

การทำความรู้จักที่ดีที่สุดคือการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันค่ะ บางคู่อาจจะเลือกวิธีการจัดทริปท่องเที่ยวสักสัปดาห์ เพื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนคติซึ่งกันและกัน ทีนี้แหละคุณก็จะรู้แล้วว่าอะไรจะเป็นปัญหาในการใช้ชีวิตคู่ในอนาคต แล้วคุณทั้งคู่ก็จะมีเวลาที่จะเริ่มปรับจูนสิ่งเหล่านั้นให้เข้ากันก่อนวันลั่นระฆังวิวาห์นั่นเอง

5. หางานอดิเรกที่คุณทั้งคู่ชื่นชอบ

คุณอาจจะมีความสนใจในบางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกันกับเขา จงใช้สิ่งนั้นเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาซะ แค่คุณและเขาเริ่มทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน ก็จะทำให้คุณได้รับข้อมูลเชิงลึกใหม่ๆ ของกันและกันอยู่เสมอ เช่น คนรักของคุณอาจจะมีปัญหาในที่ทำงาน แต่ไม่กล้าที่จะเล่าให้คุณฟัง เพราะกลัวคุณจะเครียดไปด้วย คุณอาจจะลองชวนเขาไปข้างนอกทำกิจกรรมที่คุณทั้งคู่ชื่นชอบ ก็จะช่วยคลายความเครียด คนรักของคุณก็อาจกล้าที่จะระบายปัญหาที่เขาพบ ในระหว่างที่พวกคุณทำกิจกรรมและพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องราวต่างๆ ผ่านการทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ

6. ไม่จำเป็นต้องเจอกันทุกวันเสมอไป

ลองเว้นระห่างออกมาเพื่อให้ได้คิดถึงกันบ้าง ความคิดถึงจะนำไปสู่การรู้ใจของตัวคุณเอง ยิ่งถ้าคุณแทบไม่มีโอกาสได้เจอกันเลย คนที่รักกันก็จะยิ่งคิดถึงกันมากกกเลยค่ะ แต่บางคนที่ยังไม่รู้ใจตัวเองดีพอ ความห่างกันอาจทำให้คุณรู้สึกเฉยๆ แล้วคุณจะพบคำตอบที่ว่าจะมีเขาหรือไม่มีเขาก็ได้ ถ้าเกิดรู้สึกแบบนั้นเมื่อไหร่ให้เบรคความสัมพันธ์ครั้งนี้ในทันที ส่วนคนที่ไม่เจอกันวันหรือสองวัน แต่ก็รู้สึกว่าคิดถึงซะแล้ว เมื่อมาเจอกันทั้งสองก็ต่างมีเรื่องราวมากมายเล่าสู่กันฟัง คุณสามารถเลือกใช้ความห่างให้เป็นประโยชน์ในการเรียนรู้ความรู้สึกที่มีต่อกันก็ได้นะคะ

การที่เราจะรู้จักคนๆ หนึ่งให้ดีนั้น ต้องอาศัยความค่อยเป็นค่อยไป ไม่ใช่ 1-2 วันเราจะตัดสินได้แล้วว่าเขาเป็นคนแบบไหน ของแบบนี้ต้องใช้เวลาเรียนรู้นิสัยใจคอกันไปสักระยะนะคะ

เรียบเรียงข้อมูลจาก : magforwomen.com
รูปภาพจาก : pexels.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

คุณสมบัติผู้หญิงที่ดี กับ 9 วรรคทองสอนหญิงโสดยันออกเรือน

เคลียร์ให้ชัดกับ 4 เรื่องต้องเข้าใจถ้าริจะรักกับเหล่าพ่อม่ายแม่ม่าย

รับมือกับ 5 แม่สามีที่ลูกสะใภ้เข็ดขยาด เปลี่ยนคุณแม่ตัวเอ้ให้เป็นคุณแม่ที่แสนดี

4 ทริคมิกซ์แอนด์แมตช์ ชุดไปงานแต่ง แบบไทยง่ายๆ ใครก็ทำได้

ชุดไปงานแต่ง สากลว่ายากแล้ว แต่จะแต่งชุดไปงานแต่งไทยนี่สิที่ยากกว่า!!

หากคุณได้รับเชิญไปงานแต่งงานแบบไทย การหาเสื้อผ้าที่เข้ากับธีมงานคงเป็นโจทย์ยากสำหรับสาวๆ ยุคนี้พอสมควร แต่ตอนนี้หายห่วงได้แล้วค่ะ เพราะเราทำสรุปทริคง่ายๆ ในการมิกแอนด์แมกซ์ ชุดไปงานแต่ง ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับให้ดูเก๋ทันสมัย แต่เข้ากับคอนเซ็ปต์งานแต่งไทยได้ง่ายๆ มาฝากกัน

ผ้าไทยกับลูกไม้

ลูกไม้

ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าผ้าลูกไม้สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมกับผ้าทุกประเภทได้อย่างกลมกลืนและสวยงาม โดยเฉพาะกับการใช้เป็นเสื้อผ้าสำหรับไปร่วมงานแต่งงานตามประเพณีไทย เพราะด้วยลวดลายของลูกไม้ที่มีลักษณะอ่อนช้อย จึงให้ความรู้สึกนุ่มนวล อ่อนหวานและมีเสน่ห์ จึงเหมาะที่จะสวมใส่ไปงานแต่งงานในบรรยากาศไทยๆ

ส่วนถ้าสาวๆ อยากใส่ไอเดียผ้าลูกไม้กับเสื้อผ้า ขอแนะนำให้ลองหยิบผ้าลูกไม้ซักผืนที่มีลวดลายถูกใจมาตัดเย็บเป็นเสื้อใส่คู่กับกระโปรงสีสดใส จากนั้นเพิ่มความน่าสนใจอีกหน่อยด้วยการเติมระบายลูกไม้ที่เอวหรือเพิ่มรายละเอียดบริเวณแขนอีกนิด รับรองเก๋ไก๋แบบซ่อนหวานแน่นอน แต่ถ้าสาวไหนอยากใส่เป็นเดรสสำเร็จในชุดเดียว ก็แค่นำผ้าลูกไม้ชิ้นที่ชอบมาให้ดีไซเนอร์คู่ใจออกแบบให้เข้ากับรูปร่าง รับรองได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเดรสลูกไม้แบบสั้นแบบยาวก็สวยงามและได้กลิ่นอายความเป็นไทยเข้ากับงานแต่งแน่นอนค่ะ

เสื้อสากลกับผ้าสไบแบบไทย

ชุดไปงานแต่ง

ผ้าสไบใส่แล้วงามอย่างไทยก็จริง แต่ถ้าเห็นว่าเจ้าสาวใส่สไบสวยๆ ไปแล้ว แขกอย่างเราๆ ก็อย่าได้ขโมยซีนนางเลยค่ะ แต่สานฝันความหวานแบบไทยๆ ด้วยการหยิบเอาลักษณะการห่มสไบมาประยุกต์ตัดเป็นเสื้อไหล่เฉียงแทน โดยเลือกผ้าไหมหรือผ้าลูกไม้มาตัดเย็บ ให้ช่างจับเดรฟเพิ่มรายละเอียดสักหน่อย แค่นี้ก็จะได้กลิ่นอายของผ้าไทยที่มีความเป็นสากลอยู่ในตัวแบบไม่ขโมยซีนเจ้าสาวค่ะ

กระโปรงงานไทยใช้ผ้าทอ

ผ้าไทย

มาถึงช่วงล่างกันบ้างนะคะ ถ้าอยากมีใส่กลิ่นอายความเป็นไทยเพิ่มอีกนิดละก็ ขอให้นึกถึงผ้าทอของคนไทยในภาคต่างๆ ดู ถ้าคุณหลงใหลในกลิ่นอายสาวเหนือต้องไม่ลืมหยิบผ้าซิ่นทอลายมาใช้งาน หรือจะเป็นผ้าฝ้ายถักพร้อมกับเพิ่มลวดลายปักสีสันต่างๆ สไตล์สาวเหนือ แต่ถ้าใครชอบความหรูหราอลังการต้องของภาคกลาง กับผ้าไหมที่ถักทอออกมาเห็นความวาวของเนื้อผ้า แค่ตัดเย็บเป็นเสื้อพอดีตัวก็ไฮโซโก้เก๋ได้แล้วค่ะ

นอกจากนี้ยังมีผ้าทอทางอีสานที่ส่วนใหญ่ใช้เทคนิกการนำเส้นด้ายหรือเส้นไหมมาย้อมให้เป็นสีต่างๆ แล้วนำไปทอขึ้นลายเลขาคณิตหรือดอกไม้ตามความนิยมของท้องถิ่นนั้นๆ แต่ไม่ว่าจะเป็นผ้าทอภาคไหนก็สามารถนำผ้าไทยมาดัดแปลงเป็นกระโปรงหรือกางเกงตัวสวยคู่กับเสื้อฝีมือปราณีตและใส่ไปในงานแต่ไทยได้ไม่แพ้ชุดแบรนด์เนมไหนๆ

เครื่องประดับขาดไม่ได้

ชุดไปงานแต่ง

ชุดปังเครื่องประดับก็ต้องปังซิคะ เห็นใส่ชุดไทยขนาดนี้เครื่องประดับที่คุณเลือกก็ต้องเลอค่าไม่แพ้กัน แต่ด้วยความที่เป็นงานไทยๆ จะให้ใส่เครื่องประดับตัวเรือนทองคำขาวก็คงไม่เข้าเท่าไหร่ ขอแนะนำให้เลือกเครื่องประดับที่มีตัวเรือนทองคำหรือทองชมพูจะเหมาะกว่า หรือจะเป็นสร้อยมุกสีขาวบริสุทธิ์ก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กัน  แต่ที่ขาดไม่ได้คือ สำหรับงานสไตล์ไทยๆ ในยุคนี้คือ การหยิบเข็มขัดทองมาคาดเอว จะขอหยิบคุณย่าคุณยายมาคาดไปงานหรือจะเลือกแบบโมเดิร์นทันสมัยไม่ว่ากัน ขอให้ทองเข้าไว้รับรองรอดและปังแน่!!

อ่านครบจบทั้ง 4 ข้อแล้ว สาวๆ คงเริ่มมีไอเดียในการแต่งตัวไปงานไทยกันมากขึ้นแล้วนะคะ ส่วนถ้าใครอยากเห็นภาพชุดสวยใส่ไปงานมากกว่านี้ เลื่อนเม้าส์ลงไปดูภาพด้านล่างได้เลยค่ะ

ขอบคุณภาพสวยๆ : Buddy’s Wedding, www.jakawin.com
ภาพเปิด : smallroom studio

อ่านบทความเพิ่มเติม

4 ลุค ชุดเพื่อนเจ้าสาวชุดไทยยอดนิยม พร้อมเทคนิคใส่ยังไงให้สวย

เช็กลิสต์สำคัญ! ก่อนตัดสินใจเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้สวยปังยกทีม

มาฟังคำแนะนำจากกูรูว่าเลือกชุดไทยเพื่อนเจ้าสาว อย่างไรให้สวยปังไม่แย่งซีน

มิกซ์ให้แมทช์ทรงผมเจ้าสาวกับชุดแต่งงานในฝัน สวยเป๊ะทุกองศา

ขั้นตอนแรกของการเลือกลุคเจ้าสาวให้สวยเป๊ะ คือการมองหาชุดแต่งงานในฝันที่ตรงสเป็ค หลังจากที่ได้ชุดในดวงใจมาแล้ว สิ่งต่อไปที่สาวๆ จะต้องทำก็คือเลือกทรงผม และเมคอัพให้เข้ากัน ซึ่งการแต่งหน้าไม่ใช่ปัญหา จะมาติดก็ตรง ทรงผมเจ้าสาว เนี่ยล่ะ ที่หลายคนก็นึกไม่ออกว่าจะทำทรงไหนดีถึงจะเข้ากับชุดแต่งงาน วันนี้เรามีเทคนิคเลือกทรงผมที่เข้ากับชุดเจ้าสาวมาฝาก

ชุดเปิดหลัง

ทรงผมเจ้าสาว

ชุดแบบเปิดหลังที่สาวๆ หลายคนชอบกันจะให้มาทำผมปล่อยสยายปกปิดแผ่นหลังและดีเทลชุดได้ยังไง แน่นอนว่าชุดแบบนี้ทรงผมต้องมวย เพื่อเปิดหลังสวยๆ แต่ถ้ารู้สึกว่าผมเกล้ามวยจะทางการเกินไป อาจจะเป็นปล่อยยาวแต่ต้องเบี่ยงไปข้างหน้าที่ด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนสาวๆ ที่อยากได้ลุคเฉียบคมจะทำทรงห้างม้าต่ำปล่อยตรงๆ ยาวๆ ก็สวยดีนะ ใช้ปลายผมเป็นจุดเรียกสายตาได้ด้วย

ชุดเกาะอก

ทรงผมเจ้าสาว

ชุดแต่งงานทรงยอดนิยมตลอดกาลสำหรับคุณเจ้าสาวทั้งหลาย เป็นชุดแต่งงานที่เข้าได้กับทุกๆ สถานการณ์ และที่สำคัญคือชุดแบบนี้สามารถเข้าได้กับทรงผมทุกแบบ! ไม่ว่าจะเป็นเก็บรวบทั้งหมด หรือปล่อยยาว จะผมสั้น ผมยาว รอดทุกทรง สำหรับชุดเจ้าสาวเกาะอกนี้

 

ชุดกระโปรงบาน

ทรงผมเจ้าสาว

ชุดกระโปรงบานสไตล์เจ้าหญิง เป็นชุดที่ดีเทลเยอะ ถ้าหากเลือกทรงผมที่มีความเยอะสิ่งก็จะยิ่งทำให้ดูเยอะไปซะหมด ทรงผมที่เข้าทางกับชุดแบบนี้จึงเป็นทรงสบาย ง่ายๆ มีความใสๆ ในลุคแบบเจ้าหญิงวัยแรกแย้ม ดูฟุ้งนิดๆ จะดีมาก เพื่อไม่ให้ดูทางการเกินไป

 

ชุดแต่งงานเรียบง่าย

ชุดแต่งงานที่เรียบง่าย มีความสบายๆ ทรงผมก็ต้องจัดเต็มนิดหน่อยด้วยเครื่องประดับอย่างที่คาดผม หรือกิ๊ฟ ส่วนผมนั้นก็สามารถทำได้ทั้งปล่อยยาว หรือจะรวบขึ้นก็ได้ แต่ก็ขอให้เน้นเป็นทรงผมที่มีความสบายเข้ากับชุด ยิ่งถ้าได้เป็นทรงดัดลอน จะยิ่งน่ารักมากๆ

 

ชุดแต่งงานสไตล์โบฮีเมียน

ชุดแต่งงานสไตล์โบโฮ เป็นชุดแต่งงานอีกแบบที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากความสบายของตัวชุด ทรงผมเจ้าสาวจึงมักปล่อยยาวไปตามทรงของชุดที่ทิ้งตัวลงแนบไปกับรูปร่าง แต่อาจเพิ่มดีเทลด้วยเปียคาดผม แล้วแซมด้วยดอกไม้ หรือมงกุฎดอกไม้ที่เน้นความน่ารักอ่อนหวาน

ภาพ pinterest

อ่านบทความเพิ่มเติม

รวม 20 แบบ ผมเจ้าสาว เกล้ามวย สำหรับเจ้าสาวทุกลุคแบบจัดเต็ม!

เผยความออร่าด้วย 5 สมูทตี้ผิวสวยทำเองได้แถมดื่มง่ายด้วย

5 วิธีช่วยว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคลายเครียดจากการเตรียมงานแต่ง

จะแต่งงานต้องอ่าน! 5 เรื่องอย่ามองข้ามเพื่อปีแรกของชีวิตคู่ดีงามอย่างฝัน

เตรียมความพร้อมในปีแรกของการมี ชีวิตคู่ ไปกับแพรว wedding กันดีกว่า กับ 5 เรื่องที่สรุปมาให้แล้วว่า ถ้าคุณคือคู่แต่งงานใหม่ต้องเตรียมรับมือให้ดี แล้วชีวิตแฮปปี้ที่มีอีกคนอยู่เคียงข้างจะดีงามอย่างฝัน

1. เตรียมวิธีการจัดการกับหัวใจและพฤติกรรมของตัวเองหลังการทะเลาะทุกครั้ง

แม้จะเคยทะเลาะกันหรืองอนๆ กันมาในช่วงที่เป็นแฟนกัน แต่พอแต่งงานแล้วไม่เหมือนนะคะ เพราะความคาดหวังของความสัมพันธ์ได้รับการยกระดับไปเองโดยอัตโนมัติ แต่หลายคู่ยังคงคิดเพียงแต่ว่า ถ้าเมื่อไหร่ที่ลิ้นกับฟันกระทบกันจะคลี่คลายไปในทิศทางไหน ซึ่งสิ่งสำคัญกว่านั้นคือ การจัดการกับความรู้สึกของตัวเองที่เพิ่งผ่านความเครียดของปัญหาชีวิตคู่ รวมถึงจะวางตัวยังไงให้ไม่รู้สึกเก้อๆ งทะเลาะกันเสร็จใหม่ๆ วิตคู่ และวางตัวไม่ถูกว่าเมื่ออยู่ในบ่านียร์ปัญหาให้จบและลงตัว โดยลืมนึกไปว่า สิ่งสำเขินๆ กับอาการเหวี่ยงวีนที่เพิ่งจัดเต็มไปเมื่อกี้นี้ เพื่อให้หัวใจและพฤติกรรมหลังทะเลาะกันเข้าสู่โหมดหวานแหววให้ได้เร็วที่สุด

2. กลับไปเยี่ยมพ่อแม่บ่อยแค่ไหน (ค้างคืนได้ไหมอ่ะ)

ในช่วงปีแรกของการแต่งงาน จัดว่าเป็นช่วงของการปรับตัวระหว่างคนสองคนก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะละทิ้งครอบครัวของคุณไปเลยนี่นา สิ่งที่คุณควรตกลงกันให้ได้ก็คือ ในช่วงปีแรกที่แต่งงานจะกลับไปเยี่ยมที่บ้านบ่อยแค่ไหน และเวลาไป คุณประสงค์อยากไปค้างกับท่านให้หายคิดถึงไหม ซึ่งถ้าไป แล้วอีกคนต้องไปด้วยไหม อันนี้ต้องเครียดให้ชัดนะคะ

3. ต้องแพ็กคู่เสมอไหมถ้าออกงานสังคมและสังสรรค์กับเพื่อนฝูง

จริงอยู่ที่ความเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันส่วนใหญ่มักออกงานด้วยกันเสมอๆ ในฐานะสามีภรรยา อย่างเวลาไปร่วมงานแต่งก็ใส่ซองเดียวกันบ่งบอกความเป็นครอบครัวอะไรแบบนั้น แต่ในกรณีที่พบปะเพื่อนฝูงละ คุณต้องไปแบบแพ็กคู่ด้วยหรือเปล่า อย่าลืมว่าบางทีอีกฝ่ายอาจจะอยากลัลลาเหมือนสมัยยังโสดหรือยังไม่แต่งงาน คุณโอเคไหม ดังนั้นเรื่องนี้ คุยกันให้ดีๆ จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องความระแวงตามมา

4. ตอบยังไงดีถ้าบุตรธิดายังไม่มาจุติ

คำถามยอดฮิตของคู่แต่งงานที่มักจะต้องตอบคือเรื่องลูกค่ะ ต่อให้คุณเพิ่งเข้าหอไปได้แค่เดือนเดียว คำถามนี้ก็ต้องเกิดขึ้นเมื่อเจอคนรู้จัก โดยเฉพาะคนที่ไปร่วมงานแต่งงานของพวกคุณ ซึ่งถ้ายังไม่พร้อมจะมี ก็ลองเตรียมคำตอบในทิศทางเดียวกันไว้บ้าง อย่างน้อยๆ ถือเป็นการเช็คความคิดเรื่องลูกไปในตัวว่าต่างฝ่ายคิดเห็นในเรื่องนี้แบบไหน เมื่อโดนยิงคำถามจะได้สบายใจจะตอบในแบบที่เข้าใจตรงกัน

ชีวิตคู่

5. วันหยุดยาวใกล้เข้ามาแล้ว เราจะไปเที่ยวกันแบบไหนดี

ไม่เหมือนกันหรอกนะคะ เรื่องเที่ยวในช่วงก่อนแต่งงานและหลังแต่งงาน เพราะอย่าลืมว่าเมื่อก่อนการไปเที่ยวของคุณอาจมีรูปแบบการเลือกที่เที่ยวหรือการใช้จ่ายเงินแบบหนึ่ง แต่เมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว คุณยังยืนยันทำแบบเดิมหรือปรับเปลี่ยนอะไรบ้างไหม อย่างเช่นเมื่อก่อนคนละกระเป๋า แต่แต่งงานแล้วรวมเงินกัน ดังนั้นการไปเที่ยวต้องปรับรูปแบบแน่นอน ซึ่งในปีแรกที่อาจจะยังไม่ชินกับสิ่งที่เปลี่ยน แต่ก็อยากเที่ยวเพราะหยุดยาวขนาดนี้ ดังนั้นก็คุยกันให้ดีๆ แล้วเที่ยวหวานๆ ในปีแรกของการแต่งงานจะเลอค่าน่าจดจำ

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : inovasee.com, dugun.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

เคล็ดลับรักทางไกล รักยังไงให้แฮปปี้ ถึงไกลแค่ไหนรักยังอยู่ดี

10 ขั้นตอนสู่ภารกิจขอสาวแต่งงาน แค่ทำตามนี้เธอก็พร้อมเซย์เยส

เคล็ดลับเสริมเฮง ทำบุญเสริมรัก แบบนี้สิ รับรองแม่สามีทั้งรักทั้งหลงชัวร์

จริงหรือมั่ว! ชัวร์หรือไม่? เช็คเลยกับ 7 สัญญาณบอกให้รู้ว่าเขาคนนี้คือคนที่ใช่

รักครั้งนี้จะจริงจังได้ไหมนะ? เขาคนนี้จะใช่จริงหรือเปล่า? คำถามเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นกับคนที่กำลังอยู่ในช่วงอินเลิฟที่กำลังจะพัฒนาความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งเกิดขึ้นกับว่าที่บ่าวสาวก็มี! เพราะในช่วงระหว่างเตรียมงานแต่ง ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวอาจจะต้องพบเจอกับแรงกดดันและความเครียดหลายด้าน บางครั้งอาจมีการกระทบกระทั่งกันบ้างจนกลายเป็นความกังวลและเกิดคำถามว่า “คนๆ นี้ใช่คนที่เราจะอยู่กับเขาไปตลอดชีวิตจริงๆ หรือ?” เพื่อ ที่จะขจัดความสงสัยที่เกิดขึ้น เรามีสัญญาณ 7 ข้อมาให้คุณได้เช็คความมั่นใจอีกครั้งว่าเขาที่คุณเลือกนั้นคือ คนที่ใช่ สำหรับคุณจริงๆ

1. เป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่ด้วยกัน

ถึงแม้ว่าเดทแรกๆ คุณจะยอมทำกิจกรรมที่เขาชอบและคอยตามใจเขาอยู่เสมอ แต่เมื่อเวลาผ่านไป หากคุณเลือกที่จะไปเสริมสวยมากกว่าไปนั่งดูฟุตบอลนัดสำคัญ นั่นหมายความว่าคุณจะได้แสดงตัวตนด้านที่คุณเป็นจริงๆ ถ้าเรื่องนี้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาสำหรับคุณคู่แล้วล่ะก็ รักครั้งนี้จะยืดยาวแน่นอน

2. สบายใจที่ได้แบ่งปันสิ่งต่างๆ ให้แก่กันและกัน

การแบ่งปันที่ว่านี้ไม่ได้หมายความถึงเพียงแค่สิ่งของเท่านั้น แต่รวมไปถึงการแชร์ความรู้สึกในทุกช่วงเวลาของชีวิต แชร์ประสบการณ์ทั้งดีและร้ายให้แก่กันและกัน ในอดีตที่คุณอาจจะมีเรื่องราวบางอย่างติดค้างอยู่ในใจและไม่เคยเล่าให้ใคร ฟัง แต่ถ้าหากว่าเขาคนนั้นคือคนที่คุณกล้าเปิดใจบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้คุณดีใจ เสียใจ ร้องไห้ หรือยิ้มอย่างมีความสุข แล้วเขาพร้อมที่จะรับฟังและอยู่เคียงข้างคุณเสมอ คนนี้แหละคือคนที่คุณจะร่วมหัวจมท้ายไปด้วยกันในอนาคต

3. เราจะเติบโตไปด้วยกัน

เมื่อคุณลองจิตนาการภาพของตัวเองในอนาคตข้างหน้า ในกรอบภาพของความคิดนั้นไม่ได้มีแค่คุณเพียงคนเดียว แต่ยังมีชายอีกคนหนึ่งที่เดินเคียงข้างกันไปบนถนนที่ทอดยาว ถึงแม้ว่าเรือนผมจะมีสีขาวแซมบ้างเล็กน้อย แต่ภาพที่คุณสร้างขึ้นมากลับเต็มไปด้วยความสุข ถ้าเป็นเช่นนั้นสิ่งที่คุณตัดสินใจในวันนี้ก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

4. พ่อและแม่ที่ดีของลูกๆ

หากว่าคุณตัดสินใจแล้วว่าจะมีเจ้าตัวน้อย คุณก็ควรเลือกแต่งงานกับคนที่รักเด็ก การได้เฝ้ามองคู่รักของคุณคลุกคลีกับเด็กๆ คงจะเป็นสิ่งที่ดูน่ารักไม่ใช่น้อย ถึงแม้ว่าเขาจะยังหวาดกลัวและดูเก้งก้างเวลาที่อุ้มเด็ก แต่ลึกๆ แล้ว คุณจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าเขาจะเป็นพ่อและแม่ที่ดีได้ในแบบของเขาเอง

5. เลือกที่จะอยู่กับเขาเสมอ

ในบางครั้งเรื่องราวร้ายๆ หรือสถานการณ์ลำบากใจก็เกิดขึ้นแบบไม่ทันให้ตั้งตัว คนที่คุณนึกถึงคนแรกก็คือเขาคนนั้นเสมอ เขาจะเป็นคนที่ช่วยปลอบประโลมและให้กำลังใจที่ดี ทำให้คุณรู้สึกว่าเมื่อมีเขาอยู่ข้างๆ คุณจะสามารถเป็นคนที่เข้มแข็ง มีความมั่นใจและก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้

6. รักโดยไม่มีเงื่อนไข

ไม่ว่าวันใดที่เกิดอารมณ์เกรี้ยวกราดเพราะความโกรธที่สุมอยู่ในใจและเผลอพูด จาร้ายๆ ออกไปจนกระทบกระทั่งกัน แต่คุณก็รับรู้ได้ว่าเขายังรักและพร้อมเข้าใจคุณอยู่เสมอถึงแม้ว่าคุณจะโมโห ร้ายใส่เขาก็ตาม

7. แม้อะไรจะเปลี่ยนไป แต่ความรู้สึกยังคงเดิม

เมื่อเวลาเปลี่ยนไป อะไรๆ ก็เปลี่ยนตาม ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่อวบขึ้น หรือริ้วรอยแห่งวัยที่ปรากฏ แต่หากว่าคุณมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มองข้ามการเปลี่ยนแปลงภายนอกนั้นไป  รักในสิ่งที่เป็นจากภายใน แน่นอนว่ากาลเวลาที่ล่วงเลยจะไม่มีผลใดๆ กับความรักของคุณแน่นอน

หากใครเกิดอาการลังเลกับความรู้สึก ก็ลองเช็คความรู้สึกตาม 7 ข้อนี้อีกสักครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการยืนยันกับตัวเองว่า เขาหรือเธอคนนี้คือคนที่คุณเลือกไม่ผิดแน่นอน

ภาพ : stocksnap.io

อ่านบทความเพิ่มเติม

สารพัดวิธีบอกรัก ตะล่อมคนข้างกายให้พูดคำว่า ‘รัก’ ให้เราให้ได้

รักนี้ไม่มีนก! เสริมดวงความรักไปกับ 5 สถานที่ขอพรยอดนิยม

10 พฤติกรรมทำลายชีวิตคู่ รักมากแค่ไหนก็ไปไม่รอด!

7 เรื่องไม่ควรมองข้าม! แล้วคุณจะหลงรักงานแต่งงานของตัวเอง

เพรามัวแต่คิดว่า งานแต่ง ของคุณที่เฝ้าฝันมาคลาดต้องดีงามพระรามแปดดังใจ เลยต้องปวดหัวกับล้านแปดดีเทลที่เกี่ยวข้องจนแทบจะไม่ได้มีเวลาหายใจ แพรว wedding เป็นห่วงสาวๆ ของเราจึงอยากมากระซิบว่ามันมีไม่กี่เรื่องหรอกที่คุณควรต้องให้ความสำคัญจริงๆ รับรองเลยว่าถ้าคุณเทกแคร์ 7 ข้อนี้ได้ ไม่ใช่แค่งานแต่งงานของคุณจะออกมาได้เป๊ะอย่างที่ต้องการ แต่มันจะยังคงประทับอยู่ในใจของคุณไปนานแสนนานอีกด้วย

 

1. เชิญแขกที่ต้องการมางานแต่งงานจริงๆ

สำหรับการเชิญแขกมาร่วมในงานแต่งงานที่จะช่วยให้งานแต่งงานดูพิเศษขึ้น คือการที่คู่บ่าวสาวเชิญแขกที่มีความสำคัญและต้องการมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวจริงๆ ลองพิจารณาถึงการเลือกเชิญแขกที่มาในงานที่จะไม่ทำให้คู่บ่าวสาวต้องมาคอยกังวลถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น อย่างเรื่องดราม่าของครอบครัวหรือเรื่องต้องคอยระวังการดื่มแชมเปญต่อหน้าเจ้านาย ซึ่งอาจจะทำให้คู่บ่าวสาวมีช่วงเวลาที่ยากขึ้นสำหรับความสุขในงานแต่งงานของตัวเอง

2. ไอเท็มพิเศษต่อใจ

เพิ่มเติมความดีต่อใจที่มีความนัยแสนอบอุ่นไปในงานแต่งงาน อย่างเช่นการใส่เครื่องประดับของครอบครัว จะเป็นสร้อยคอของคุณย่าหรือต่างหูของคุณป้าก็ตามแต่ใจคุณ หรือการเสิร์ฟแขกด้วยสูตรลับขนมหวานที่มีเฉพาะครอบครัวเพื่อสื่อถึงความผูกพันอันยาวนานของครอบครัว

3. หลีกเลี่ยงโซเชียลมีเดีย

เจ้าสาวหลายคนคงไม่อยากให้ภาพของตัวเองในชุดแต่งงานปรากฏใน Facebook หรือ Instagram ก่อนที่เจ้าบ่าวจะได้เห็น นอกจากนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรบอกแขกที่มาร่วมงานว่าไม่ให้ถ่ายภาพในระหว่างพิธีแต่งงาน ถึงแม้การถ่ายภาพเป็นสิ่งที่เป็นปกติสำหรับงานแต่งงานและแขกที่มาร่วมงานสามารถถ่ายภาพได้ทุกช่วงเวลา แต่สำหรับในพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวคงไม่อยากให้รูปตัวเองตอนเดินเข้าสู่พิธีหรือกล่าวคำสาบานมีรูปแขกที่ถือกล้องถ่ายภาพหรือมือถือเป็นฉากหลังประกอบอยู่ในรูปภาพด้วย และเพื่อความแน่ใจว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นควรมีคนคอยบอกแขกถึงข้อปฏิบัติบางอย่างก่อนเริ่มงานพิธี

4. การรับรองแขก

ก่อนเริ่มงานแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรใช้เวลาสักนิดก่อนการต้อนรับแขกในงานตรวจสอบดูสถานที่จัดงานหรือลองชิมผลไม้หรือเครื่องดื่มก่อนที่จะใช้ต้อนรับแขก รวมถึงดอกไม้ แสงหรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ที่จำเป็นด้วย ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรจะมีความสุขกับสิ่งที่จัดขึ้นในงานก่อนที่แขกจะเข้ามาร่วมในงาน เพราะเมื่อแขกสักคนเริ่มเดินเข้ามาในงานแล้ว ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องวิ่งวุ่นโดยใช้พลังงานและสายตาอย่างไม่มีการหยุดพัก และทางที่ดีอย่าลืมมีช่างภาพสำหรับการถ่ายภาพสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในงานด้วย

5. อาหาร

คู่บ่าวสาวบางคู่อาจใช้อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสร้างเรื่องราวและความเป็นตัวของตัวเองเข้าไป คู่บ่าวสาวบางคู่อาจใช้เวลาทั้งวันเพื่อตามหาร้านไอศกรีมท้องถิ่นที่ใช่สำหรับไอศกรีมรสพิเศษที่จะสามารถนำเสนอความเป็นตัวเองเข้าไปได้ ลองพยายามรวบรวมสิ่งของที่ชอบ สิ่งที่ใช่และความเป็นประเพณีเข้าด้วยกันและสื่อออกมาทางรูปแบบอาหาร เพื่อสร้างความประทับใจให้แขกรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้

6. เซอรไพร์ส

หลายๆ คู่แต่งงานต้องการมีบางสิ่งหรือทำบางอย่างเพื่อเซอร์ไพร์สคู่แต่งงานของตัวเองในวันแต่งงาน บางทีข้อความแห่งรักอาจไม่ต้องรอนานที่จะปรากฏในโต๊ะระหว่างงานเลี้ยงรับรอง เพราะการเซอร์ไพร์สสามารถทำได้ก่อนหน้านั้นอย่างวีดีโอเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคู่บ่าวสาวในระหว่างช่วงการต้อนรับแขกหรือรถหรูๆ ที่จะมารับหรือส่งคู่บ่าวสาวระหว่างมาสถานที่จัดงานและออกจากงาน สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้สึกพิเศษที่ยิ่งใหญ่เมื่อเจ้าบ่าวทำสิ่งเหล่านี้ให้กับเจ้าสาวในขณะที่เจ้าสาวก็เป็นผู้นำทางความคิดในการวางแผนขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงาน มันเป็นความพิเศษที่ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเตรียมจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีมากแค่ไหน

7. ใช้เวลากับคนที่รัก

ใช้เวลาสักพักกับคนที่รักสองต่อสองทันทีหลังพิธีงานแต่งงานหรือระหว่างการต้อนรับ อาจจะใช้ห้องสักห้องหรือวางตารางไว้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีการโดยแอบกำหนดไว้หลังจากพิธีการประมาณ 10-15 นาที ก่อนที่ขั้นตอนต่อไปของงานจะเริ่มต้นขึ้น เพราะในช่วงเวลาเหล่านี้แขกจะไม่ทันสังเกตเห็นและทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้ใช้ช่วงเวลาจดจำช่วงเวลาเล็กๆ นี้ด้วยกันในที่ที่สามารถอยู่ด้วยกันได้สองต่อสอง

Cr : shefinds.com, chris-seddon.co.uk

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 เทคนิคขั้นเทพ! จัดงานแต่งให้ดูแพงในงบจำกัดได้เองแบบไม่ยาก

7 ธีมสี ไอเดียงานแต่งที่ช่วยเสกให้งานแต่งออกมาเก๋เวอร์

8 เหตุผลน่ารักๆ ที่บ่าวสาวอาจจะหลงรักเมื่อเกิดฝนตกในงานแต่งงาน

4 ลุค ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดไปงานแต่ง แต่งแบบนี้รับรองสวยเซฟ

แก๊งสาวๆ ทั้งหลายเตรียมกันไว้ให้ดีเพราะปีหมูปีนี้เป็นปีฤกษ์ดีของการแต่งงาน เพราะฉะนั้นไม่แน่ว่านอกจากคุณจะได้ไปเป็นแขกแล้ว เผลอๆ อาจจะต้องทัวร์เป็นแก๊งเพื่อนเจ้าสาวด้วย แพรว wedding เลยเตรียม ชุดเพื่อนเจ้าสาว 4 ลุค 4 สไตล์สำหรับงานเลี้ยงตอนเย็นมาฝาก มีพร้อมตั้งแต่งานแต่งสุดทางการแบบค็อกเทล ไปจนถึงงานแต่งแบบเป็นกันเองในธีมปาร์ตี้สุดมัน แถมยังเป็นลุคที่แต่งได้ทั้งในฐานะแขกที่ไปร่วมงานและฐานะเพื่อนเจ้าสาวอีกด้วย

 

แมตช์เดรสกับเข็มขัดสุดหรู

แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าต้องเหมาะสำหรับงานแต่งงานแบบทางการภายในห้องบอลรูมสุดหรู เพราะฉะนั้นก็ต้องเติมดีเทลสุดพิเศษให้กับเดรสตัวเก่งกันหน่อย อย่าง เข็มขัดลูกปัดหรือเข็มขัดเพชร ที่เข้ากับชุดเดรสที่คุณใส่ไปร่วมงาน ซึ่งข้อดีของเข็มขัดคือจะช่วยเน้นทรวดทรงของหญิงสาวให้สวยได้รูป หากคุณเป็นสาวอวบเจ้าเนื้อ สาวผอม สาวเตี้ย หรือมีปัญหาช่วงเอวหรือสะโพก ขอแนะนำให้เลือกเป็นเข็มขัดเส้นเล็กเอาไว้ก่อน เพราะจะช่วยพรางรูปร่างได้ดีที่สุด

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว

เซฟสุดด้วยเฉดสีกลางๆ

สาวๆ บางคนก็ไม่มั่นใจที่จะใส่ชุดเดรสที่สีสันจัดจ้าน เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้เลือกเฉดสีแบบ neutrals หรือเฉดสีกลางๆ เอาไว้ก่อนค่ะ อย่างเช่น สีแชมเปญ, สีชมพูมุก, สีเทา

ชุดเพื่อนเจ้าสาว
สีแชมเปญ – เหมาะกับสาวผิวขาว ขาวอมชมพู หรือสีผิวกลางๆ ขาวเหลืองไปทางน้ำผึ้งก็ยังใส่ได้ ห้าม! สาวผิวคล้ำไม่แนะนำให้ใส่สีนี้นะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

สีชมพู – เหมาะกับสาวผิวขาว ขาวอมชมพู ห้าม! สาวผิวสองสีมองหาสีอื่นด่วนๆ เลยจ้า

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

สีเทา – เหมาะกับสาวผิวเข้ม และผิวขาวเหลือง ห้าม! ผิวแบบขาวซีดจงหลีกให้ห่าง

สีสันโทนอัญมณียังมาแรง

สีสันในโทนอัญมณีทั้งหลายสามารถสร้างสีสันให้กับผู้สวมใส่และงานแต่งงานได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบของสีที่หนักแน่นและสวยหรู เสริมด้วยการเลือกเนื้อผ้าอ่อนนุ่มแบบพลิ้วไหว แล้วเพิ่มเครื่องประดับเข้าไปอีกนิด เท่านี้ก็ได้ลุคสุดหรูที่สามารถไปได้ทั้งงานแบบทางการหรืองานปาร์ตี้ก็สวยเริด ส่วนสาวๆ ที่เลือกสีสันในโทนนี้สำหรับชุดเดรสสั้น เราแนะนำให้คุณเลือกแมตช์กับต่างหูระย้าสักคู่เพื่อปรับสมดุลของลุคโดยรวม พร้อมสวมส้นสูงแล้วเดินเข้างานได้เลยจ้า


Infinity Dress

ชุดเดรสที่สามารถสร้างสรรค์สไตล์ด้วยเดรสแบบผูกเองง่ายๆ แต่ทันสมัยสุดๆ นะคะคุณขา แถมยังช่วยลดปัญหาแก๊งเพื่อนเจ้าสาวตีกันเพราะรูปแบบชุด เพราะเพียงแค่ตกลงเรื่องสีกันได้ คราวนี้พอถึงเวลาแต่งตัวก็ครีเอทการผูกการพันผ้าได้ตามใจชอบของใครของมันไปเลยค่ะ แถมชุดเดรสสไตล์นี้ยังเหมาะกับสาวๆ ทุกรูปร่างอีกด้วย แต่ข้อควรระวังของการใส่เดรสสไตล์นี้ก็คือ ต้องเรียนรู้เทคนิคการผูกจากร้านมาให้ดี จากนั้นก็พันให้แน่น ทางที่ดีควรลองแต่งด้วยตัวเองก่อนหนึ่งครั้ง แล้วลองทำอิริยาบถต่างๆ ดูก่อนว่าเวลาจะลุก นั่ง ยืน เดิน มีส่วนไหนที่พร้อมจะหลุดบ้าง สุดท้ายเตรียมบราแบบปีกนกไว้ด้วย อย่าได้คิดที่จะใส่ชุดชั้นในแบบสีสายแม้แต่สายใสก็ไม่ได้เด็ดขาด!

ภาพ pinterest, simple-dress.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

มิกซ์แอนด์แมตช์ชุดเพื่อนเจ้าสาว 4 สไตล์สวยกันได้แบบยกแก๊ง

ชุดเพื่อนเจ้าสาวสำหรับเพื่อนสาวที่ตั้งครรภ์ การันตีว่าสวยไม่แพ้คนอื่นแน่นอน

เทคนิคเลือกโทนสีชุดเพื่อนเจ้าสาวที่ใช่ให้เหมาะกับสไตล์ของแก๊ง

6 ทริคเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้สวยแถมด้วยความสุขแบบยกแก๊ง

การเลือก ชุดเพื่อนเจ้าสาว เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและยุ่งยากอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเลือกใส่ชุดที่เหมือนหรือต่างกันก็สร้างความปวดหัวแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นการวางแผนให้สวยแบบครบแก๊งจึงเป็นสิ่งสำคัญ แพรว wedding เลยนำ 6 สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีความสุขแบบยกแก๊งในชุดเพื่อนเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์มาฝาก

1. กำหนดคีย์หลักของชุดแล้วแยกย้ายกันไปหา

สิ่งสำคัญในชุดเพื่อนเจ้าสาวก็คือการสะท้อนธีมงานหรือธีมสี เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงสามารถนำมากำหนดคีย์หลักให้กับชุดเพื่อนเจ้าสาวได้ เพราะฉะนั้นลองคิดคีย์หลักสัก 3-6 ข้อแล้วช่วยกันโหวตออกความคิดเห็น ซึ่งอาจจะให้เจ้าสาวมาเป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจด้วยกันก็ได้ และเมื่อได้คีย์หลักซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้วก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปหาชุดในฝันของแต่ละคนที่เหมาะกับสไตล์และสรีระของตัวเอง แค่เลือกทำให้อยู่ในกรอบของคีย์หลักที่ตกลงกันไว้ เท่านี้ก็ช่วยให้แก๊งเพื่อนเจ้าสาวสวยได้ง่ายๆ แบบครบแก๊งแล้ว

2. รู้สึกสะดวกสบายทั้งกายและใจเมื่อสวมใส่

บางครั้งการเลือกใส่ชุดที่เหมือนกันแบบครบแก๊ง ก็อาจจะสร้างความลำบากใจหรือไม่สะดวกสบายกับเพื่อนบางคน เพราะอย่าลืมว่าความชอบและสรีระของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน จนอาจทำเกิดความไม่มั่นใจเมื่อสวมใส่ได้ เพราะฉะนั้นชุดที่ดีคือ ชุดที่เหมาะกับตัวเอง ไม่คับหรือหลวจนเกินไป และไม่สั้นหรือยาวจนเกินเหตุ ดังนั้นเพื่อให้คุณยังสวยได้แบบเข้ากันทั้งแก๊ง การเลือกปรับบางอย่างเพื่อให้เหมาะกับสไตล์และรูปร่างของแต่ละคนจึงเป็นเรื่องจำเป็น เช่น การปรับเนคไลน์ให้ต่างกัน หรือการเลือกความยาวของชุดให้เหมาะกับความสูงของแต่ละคน เป็นต้น รับรองว่างานนี้ยังสวยแบบคุมธีมแน่นอน

3. อย่าลืมเผื่อเวลาหากสั่งตัดชุดใหม่

หากเลือกที่จะตัดชุดใหม่อย่าลืมเผื่อเวลาล่วงหน้าไว้สัก 6 เดือนก่อนถึงวันงาน หรือหากรายละเอียดของชุดมีความยุ่งยากก็อาจจะต้องเผื่อเวลาให้มากกว่านั้น เพราะการตัดชุดใหม่มีกระบวนการที่ค่อนข้างนานตั้งแต่การเลือกแบบ เลือกเนื้อผ้า นัดฟิตติ้ง ไปจนถึงขั้นตอนการปรับแก้ไขชุดหากไม่พอดีหรือไม่เป็นที่พอใจ เพราะฉะนั้นคุณควรกำหนดวันที่จะใช้ชุดกับทางร้านให้ชัดเจน และอย่าลืมถามไทม์ไลน์ในขั้นตอนต่างๆ กับทางร้านมาให้ดีเพื่อที่จะได้เช็กให้ชัวร์ว่าคุณจะได้รับชุดทันวันงานแน่นอน

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

4. อย่าสั่งซื้อชุดออนไลน์กระชั้นกับวันงาน

แน่นอนว่าการสั่งซื้อชุดทางออนไลน์นอกจากจะสะดวกสบายแล้วยังช่วยประหยัดด้วย แต่อย่าลืมว่าการสั่งซื้อทางออนไลน์นั้นเท่ากับว่าคุณจะไม่ได้ลองชุด เพราะฉะนั้นจึงควรเผื่อเวลาในการสั่งซื้อทางออนไลน์สักหน่อยเพื่อที่คุณจะได้เห็นชุดล่วงหน้าก่อนจะถึงวันงาน เพราะหากชุดที่สั่งซื้อมานั้นไม่พอดีหรือไม่ตรงกับที่ใจคิดไว้จะได้หาทางปรับแก้ไขได้ทันการ เพราะฉะนั้นอย่าวางใจหรือชะล่าใจมากจนเกินไปนะคะเพราะกรณีนี้ทำเพื่อนเจ้าสาวเสียใจมาหลายคนแล้ว

5. นัดรับชุดก่อนถึงวันงานให้นานสักหน่อย

อย่าลืมว่าร้านชุดนั้นไม่ได้มีออเดอร์แค่ของคุณหรือแก๊งคุณเพียงแก๊งเดียว เพราะฉะนั้นจะเป็นการดีกว่าหากคุณและเพื่อนจะไม่ต้องมานั่งกังวลใจว่าร้านจะส่งชุดมาให้ทันเวลาหรือไม่ ยิ่งถ้าหากวันแต่งงานของเพื่อนสาวนั้นตรงกับวันฤกษ์ดีที่คู่รักนิยมแต่งงานด้วยแล้ว ยิ่งต้องเผื่อเวลาให้นานขึ้นไปอีก เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาการได้ชุดล่าช้าหรือหากมีปัญหาจะได้พอมีเวลาแก้ไขทัน

6. อย่าลืมเครื่องประดับที่เข้ากับชุด

ไม่ใช่เรื่องผิดหากเพื่อนเจ้าสาวคิดอยากจะใส่เครื่องประดับเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับลุค ไม่ว่าจะต่างหู สร้อยคอ หรือกำไลข้อมือ ก็ได้หมดแล้วแต่รสนิยมและความชอบ หรือหากอยากเพิ่มความสนุกให้กับลุคเพื่อนเจ้าสาวลองเลือกเครื่องประดับที่เหมือนกันก็ช่วยสร้างสีสันให้กับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวได้ไม่น้อย

ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับชุดเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : www.azazie.com, www.sukcesnaszpilkach.pl

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

Checklist!! 22 ภาพที่บ่าวสาวต้องมีในอัลบั้มภาพงานแต่ง บอกช่างภาพให้จัดโลด

ไม่ว่าคุณจะจ้างช่างภาพมือโปรหรือมือสมัครเล่นมาช่วยเก็บภาพความทรงจำวันสำคัญก็ตาม แต่ 22 ภาพงานแต่ง ต่อไปนี้ แพรว wedding ขอให้รู้ไว้เลยว่าต้องมี

1 การ์ดเชิญ :จะเป็นงานเช้าหรืองานเย็นอะไรก็ตาม คุณต้องมารูปการ์ดแบบจัดถ่ายสวยๆ เก็บไว้ให้ลูกหลานได้ดู ยิ่งมาพร้อมของชำร่วยได้ยิ่งแจ่ม เพราะของพวกนี้เป็นเซ็ตเดียวกันดูสวยดี

2 แหวนแต่งงาน : ไม่ต้องใช้กล้องระดับเทพแบบว่าเห็นรายละเอียดเพชรที่ฝังไว้ทุกเม็ดก็ได้ค่ะ แต่ควรมีภาพแหวนแต่งงานของคุณทั้งคู่ ซึ่งอาจวางในกล่อง หรือโพสต์อยู่บนมือ อะไรก็ตามเก็บไว้

3 ทรงผมเจ้าสาว : ตอนที่กำลังทำผมอยู่ก็อีกเรื่องค่ะ แต่ที่เราหมายถึงคือทรงผมเจ้าสาวที่เสร็จแล้วทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง เก็บไว้เป็นตัวอย่างให้คนอื่นก็ได้หรือเก็บไว้ขำว่าครั้งหนึ่งเคยอลังก็ดีนะคะ

4 กำลังแต่งตัว : โมเม้นสนุกๆ ที่ต้องแขม่วท้องสุดฤทธิ์เพื่อให้ซิปสามารถดึงขึ้นได้ เป็นอะไรที่ไม่เก็บไว้ยิ้มคงไม่ได้แล้ว

ภาพงานแต่ง

5 ด้านหลังที่มีผ้าคลุมผม : เดี๋ยวนี้เจ้าสาวใส่ผ้าคลุมผมเยอะขึ้นนะคะ แล้วแบบนี้จะไม่บอกช่างภาพให้เก็บช็อตนี้ไว้ได้ยังไง

6 บ่าวสาวในชุดแต่งงานเต็มตัวหน้าตรง : จัดมาให้เห็นกันเต็มๆ ตากันไปเลยหลังคุณแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จว่าสวยงามหล่อเป๊ะแค่ไหนแต่ให้ถ่ายเก็บแยกไว้ด้วยนะคะแล้วค่อยมาจับคู่ถ่ายด้วยกัน

7 บ่าวสาวในรูปคู่หน้าตรงสไตล์ Portrait: ต่อยอดจากข้อเมื่อกี้ แต่รอบนี้ดึงเจ้าบ่าวมาร่วมเฟรมเก็บแค่ใบหน้าเอาไว้ดูรอยยิ้มแห่งความสุข

8 ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับดอกไม้ :ไม่ว่าจะเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือของเพื่อนเจ้าสาว รวมถึงดอกไม้ติดหน้าอกแขกผู้ใหญ่ จับถ่ายไว้ให้หมดค่ะ เพราะนั่นคือส่วนเล็กๆ ในความทรงจำที่ขาดไม่ได้

9 ภาพการพบกันครั้งแรกของพระนาง : หลายคู่เลือกที่จะแยกกันแต่งตัวคนละที่ ฉะนั้นช็อตที่เป็นการพบกันครั้งแรกต้องเก็บไว้ โฟกัสเน้นไปที่ดวงตารับรองมีซึ้ง

10 เปิดตัวเข้างาน : เดินควงกันมาในงานท่ามกลางสายตาแขกนับร้อย เป็นอะไรที่ต้องเก็บเป็นภาพกว้างไว้ดูทั้งหน้าบ่าวสาวและความยินดีของแขกในงาน

11 มุมสูงภายในงาน : บอกให้รู้ว่างานแต่งครั้งเดียวในชีวิตของคุณมีแขกมาร่วมยินดีมากแค่ไหน และกำลังสนุกสนานสุดๆ

12 การสวมแหวน :จังหวะที่ต่างคนต่างสวมแหวนให้กัน จะไม่มีเก็บไว้ไม่ได้แน่นอน

13 กราบ! : อ่านไม่ผิดค่ะ จังหวะที่เจ้าสาวก้มกราบนี่คือฮิตมากมาย เจ้าบ่าวโพสต์ท่าได้เว่อร์วัง ถึงจะดูโหล แต่เชื่อเถอะว่าลูกๆ เห็นต้องมีแซว

14 จุมพิต :แน่นนอนว่าโมเม้นคิสกันในงานแต่งต้องเกิดขึ้น จะปากประกบปากหรือจุ๊บเบาๆ ที่แก้มก็โอเคทั้งนั้น

15 จังหวะเดินออกจากบริเวณทำพิธี :ถ้าจัดงานในโบสถ์ก็จะมีพร้อมโปรยปรายทั้งกากเพชร กลีบกุหลาบ แต่งานไทยๆ อาจมีพวกเปเปอร์ชู้ตมาช่วยให้ภาพมีสีสัน

16 ภาพครอบครัว :เมื่อแต่งงานแล้วก็หมายถึงการรวมกันของสองครอบครัวจริงไหมคะ อย่างน้อยๆ ควรมีภาพถ่ายที่มีครอบครัวของคุณทั้งคู่ถ่ายด้วยกันนะคะ

17 ทีมเพื่อนบ่าวสาวขาดได้ไง :เชิญเขามาช่วยเป็นเพื่อนบ่าวสาวแล้วก็ต้องไม่ลืมเก็บภาพรวมกันทุกคนนะคะ

18 เค้กแต่งงาน :แน่นอนว่าของสำคัญระดับนี้ไม่มีถ่ายเก็บไว้ไม่ได้นะคะ บอกช่างภาพให้เก็บไว้สวยๆ สักภาพ จากนั้นก็เป็นภาพตอนที่ร่วมกันตัดไงคะ

19 โยนดอกไม้ :ทุกคนตั้งใจมากกับจังหวะการโยน แต่ช่างภาพที่มาถ่ายถ้าไม่โปรอาจเก็บภาพสวยไม่ได้เลย แต่ช็อตนี้เป็นอะไรที่ต้องมีเก็บ ฉะนั้นก็นัดแนะ นับถอยหลังให้ดีล่ะ

20 ใครกันได้ดอกไม้ :แน่นอนว่าว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปคือรายละเอียดในบันทึกความทรงจำวันงานของคุณ ฉะนั้นแล้ว อย่าลืมถ่ายภาพคู่กับเธอเก็บไว้นะคะ

22 อาฟเตอร์ปาร์ตี้ :ปาร์ตี้หลังเลิกงานสุดเหวี่ยงแค่ไหนห้ามลืม!

23 โต๊ะอาหาร :ถึงจะเป็นงานแบบค็อกเทลก็ต้องมีโต๊ะวีไอพี ถ้าคุณออเดอร์ให้จัดจนสวย ก็อย่าลืมเก็บภาพนี้ไว้ด้วย

ปิดท้ายอีกนิดถ้าคุณไม่ว่าอะไร ก็บอกให้ช่างภาพตามไปตอนส่งตัวเข้าหอ รับรองได้ว่า คุณจะมีภาพโมเม้นดีๆ เก็บไว้ดูอีกเพียบ

 ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง :ดอกปีบ

ภาพ :Brides, wikimedia

5 เทรนด์สร้างลุคสูทเจ้าบ่าวแบบธรรมดาให้ดูแตกต่างแบบหล่อระเบิด

เจ้าบ่าวก็มีสิทธิ์ที่จะได้ลองเทรนด์ใหม่ๆ เทียบเท่ากันเจ้าสาวเช่นกันเพราะนี่ก็เป็นวันสำคัญในชีวิตของเขาด้วย ซึ่งบางครั้งชุดสูทแบบธรรมดาๆ ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าบ่าวหลายคนกำลังมองหาก็ได้ เพราะปัจจุบันในโลกของแฟชั่นนั้นเต็มไปด้วยสไตล์สูทที่ให้ลุคสนุกสนาน สีสันสดใส และมีสไตล์ไม่ซ้ำใครซึ่งเหมาะกับเจ้าบ่าวสายแฟชั่นที่อยากจะปรับลุคให้ดูไม่ธรรมดาในวันพิเศษ และนี่คือ 5 เทรนด์ สูทเจ้าบ่าว ที่แพรว wedding ขอนำเสนอให้กับเหล่าเจ้าบ่าวสายแฟชั่นที่อยากมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

สูทเจ้าบ่าว

1. แจ็คเกตสูทสีสันสดใส

เทรนด์นี้เหมาะกับเจ้าบ่าวใจกล้าที่อยากจะฉีกลุคเจ้าบ่าวแบบเดิมๆ ในชุทสูทสีดำหรือสีน้ำเงินธรรมดาๆ ด้วยการเพิ่มลูกเล่นของสีสันหรือรูปแบบชุดให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น อย่างเช่น สูทสีเบอร์กันดี หรือสีเขียวที่ให้อารมณ์แบบฤดูใบไม้ร่วงหน่อยๆ หรือจะเป็นเฉดสีสดใสสไตล์ซัมเมอร์ไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นหากเจ้าบ่าวอยากโดดเด่นไม่ซ้ำใครแนะนำให้ลองมิกซ์แอนด์แมตช์สีสันที่เจ้าบ่าวชื่นชอบหรือสีเดียวกับธีมงานเข้ากับสูทผ้ากำมะหยี่ ผ้าลินิน หรือผ้าเซียร์ซัคเกอร์ก็ดูดีใช่เล่น

สูทเจ้าบ่าว

2. โบไทแบบพิเศษ

สไตล์ของโบไทก็สามารถเปลี่ยนลุคและบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเจ้าบ่าวได้เช่นกัน ในขณะที่เจ้าบ่าวหลายคนเลือกที่จะเซฟลุคด้วยโบไทแบบผ้าสีดำธรรมดา แต่สำหรับเจ้าบ่าวอินเทรนด์อย่างเราจะเพลนๆ คงจะไม่ได้ เพราะฉะนั้นการเติมความสนุกสนานอย่างลวดลายหรือรูปแบบลงไปนั้นสำคัญมาก เพราะถึงแม้เจ้าบ่าวจะใส่สูทธรรมดาแค่ไหน แต่ถ้าได้เติมโบไทสุดทันสมัยเข้าไป รับรองว่าได้ลุคเป็นหนุ่มมาดคูลขึ้นมาทันที

สูทเจ้าบ่าว

3. บูโทเนียร์สุดเก๋

แทนที่เจ้าบ่าวจะเลือกเป็นดอกไม้ติดหน้าอกธรรมดา มาเสริมลุคให้เท่ขึ้นทันตาด้วยบูโทเนียร์แบบเก๋ๆ กันดีกว่า อาจจะเป็นดอกไม้ชนิดพิเศษที่มีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยที่ไม่ใช่แค่ดอกกุหลายหรือดอกกล้วยไม้ธรรมดา

สูทเจ้าบ่าว

4. ต้องโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนเจ้าบ่าว

ก็เหมือนๆ กับเจ้าสาวที่ต้องโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนเจ้าสาวนั่นแหละค่ะ แต่สำหรับเจ้าบ่าวก็อาจจะยากสักหน่อนหากไม่เลือกเพิ่มลูกเล่นให้ดีๆ เพราะอย่าลืมว่าผู้ชายนั้นไม่ได้มีแบบชุดให้เลือกมากมายแบบผู้หญิง แต่มีแค่ชุดสูทให้เลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นการสร้างความแตกต่างได้ง่ายที่สุดก็คือการเลือกสูทที่ต่างสีสันกัน หรือจะเลือกสวมเนคไทหรือโบไทคนละสีก็ได้ หรือจะเลือกเป็นพ็อคเก็ตสแควร์ให้ดูแตกต่างก็ช่วยให้ลุคเจ้าบ่าวดูโดดเด่นได้เช่นกัน

สูทเจ้าบ่าว

5. ถุงเท้าหลากสี รองเท้าหลายสไตล์

บอกเลยว่าลุคนี้เจ้าสาวและเหล่าแก๊งเพื่อนสาวจะต้องอิจฉาเพราะมีแค่บรรดาคุณผู้ชายเท่านั้นที่แต่งได้ ไม่ว่าจะเป็น ถุงเท้าแพตเทิร์นธรรมดาที่เลือกแมตช์เข้ากับสนีกเกอร์สุดเท่ หรือจะเท่ให้สุดด้วยลุคแบบบูทคาวบอย หรือจะเป็นรองเท้าเท่ๆ แบบยกแก๊งก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ลุคที่ดูสนุกสนานและแตกต่างแนะนำให้เลือกถุงเท้าหลากสีหลายสไตล์ก็ช่วยสร้างสไตล์ให้กับลุคและงานแต่งงานได้เช่นกัน

สูทเจ้าบ่าว

ดูไอเดียชุดเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าวเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : www.insideweddings.com, www.pinterest.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

5 เคล็ดลับสวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอกในวันแต่งงาน

หลายคู่ที่มักจะจัดงานหมั้นก่อนวันแต่งงาน เพราะฉะนั้นเจ้าสาวจึงต้องให้ความสำคัญในการดูแลผิวหน้าตั้งแต่ก่อนงานหมั้นจะมาถึง เพราะนี่จะเป็นใบเบิกทางที่ดีสำหรับผิวหน้าดี๊ดีในวันแต่งงาน แพรว wedding เลยจัด สวยจากภายใน ที่เพียงแค่เปลี่ยนกิจวัตรประจำนิดๆ ก็ช่วยให้มีผิวสวยใสในวันสำคัญแล้ว

1. ไม่ควรลดน้ำหนักอย่างหนักหน่วง เพราะการโหมลดน้ำหนักในระยะเวลาอันสั้นนั้นจะเป็นการทำลายสุขภาพของเจ้าสาว แถมยังลดพลังงานของร่างกาย ที่สำคัญจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใส และอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ในระยะยาวหากเจ้าสาวคิดจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป รับรองว่าหากเจ้าสาวควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอตั้งวันที่ฝ่ายชายคุกเข่าขอแต่งงานล่ะก็ ไม่ว่าจะวันหมั้นหรือวันแต่งก็ดูดีได้ในชุดแสนสวยแน่นอน

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากเจ้าสาวไม่มีเพื่อนไปออกกำลังกายด้วย ขอแนะนำให้ว่าที่เจ้าสาวลองเลือกคลาสออกกำลังกายที่ตัวเองสนใจดูสักคลาส ซึ่งปัจจุบันก็มีการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมายเต็มไปหมด รับรองว่าคุณจะสนุกและสดชื่น เผลอๆ อาจจะไปเจอเจ้าสาวรุ่นพี่หรือเพื่อนว่าที่เจ้าสาวเหมือนกันก็ได้นะคะ

3. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่มีอะไรที่จะบูสต์อัพร่างกายได้ดีไปกว่าการพักผ่อนอีกแล้ว ซึ่งช่วงเวลาของการพักผ่อนที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ 8 ชั่วโมง บอกเลยว่าถ้าทำได้ผิวของเจ้าสาวจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังไม่มีปัญหาขอบตาเป็นหมีแพนด้ามากวนใจแน่นอน เพราะฉะนั้นเคลียร์ตารางงานวางแผนชีวิตให้ดีแล้วพักผ่อนให้ได้ตามที่ร่างกายต้องการ งานนี้รับรองว่าสวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอกที่แท้จริง

4. ผ่อนคลายจิตใจใหสงบ อย่างเช่น การนั่งสมาธิ เป็นต้น แต่ถ้าหากว่าที่เจ้าสาวยังไม่พร้อมเพราะจิตไม่นิ่งพอ ก็ลองทิ้งความกังวลทั้งหมดในใจเกี่ยวกับงานหมั้นหรือการจัดงานแต่งงานของตัวเองไปก่อน แล้วลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น คลาสกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยให้จิตใจของคุณสงบเพื่อช่วยลดความกังวลที่จะส่งผลต่อใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในวันงาน

5. ทานอาหารคลีน เหมือนเป็นการช่วยดีท็อกซ์ร่างกายไปในตัว ซึ่งอาจจะไม่ต้องทานทุกมื้อก็ได้เอาตามที่คุณสะดวกเราว่าน่าจะเวิร์กกว่า แต่ก็ต้องทานเป็นประจำสม่ำเสมอนะคะจะได้เห็นผล ลองเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพด้วยตัวเองง่ายๆ แล้วอย่าลืมชวนคุณว่าที่เจ้าบ่าวมาคุ้กกิ้งร่วมกันเพื่อเป็นการเพิ่มระดับความหวานให้กับหัวใจ แถมอาจจะได้เมนูถูกใจที่เป็นเมนูของคุณสองคนอีกด้วย ถือซะว่าเป็นการซ้อมก่อนที่จะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการล่ะกันนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับเคล็ดลับที่เรานำมาฝาก เพราะความสวยนั้นต้องเริ่มจากภายในเพราะฉะนั้นหากว่าที่เจ้าสาวดูแลทั้งร่างกายและจิตใจเป็นอย่างดี เชื่อเถอะคะว่างานผิวสวยหน้าใสอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : www.pinterest.com, akstudiodesign.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

เฉลิมฉลอง “วันจูบสากล” ด้วย ข้อดีของการจูบ ที่คู่รักอาจยังไม่รู้!!

จูบนั้นสำคัญไฉน? จูบนั้นดีอย่างไร? งั้นมาดู ข้อดีของการจูบ กันค่ะ

เนื่องจากทุกวันที่ 6 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันจูบสากล” หรือ “World Kissing Day” แพรว wedding เลยไปรวบรวม ข้อดีของการจูบ มาให้เหล่าคู่รักได้รู้กัน ว่าการจูบนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงความรักแต่เพียงอย่างเดียวนะ แต่ยังช่วยเรื่องสุขภาพและจิตใจไปอีก แหม ชักจะอยากรู้แล้วสิว่าการจูบเนี่ยมันจะดีขนาดไหน อิอิ

1. จูบ…ช่วยลดความเครียดและทำให้เรามีความสุข

จากผลการวิจัยของ Western Journal of Communication พบว่าการแสดงความรักอย่างการจูบนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการลดระดับฮอร์โมนความเครียด และเพิ่มระดับฮอร์โมนความสงบ และหากคุณจูบกัน 20 วินาทีหรือมากกว่านั้น สมองจะหลั่งสารเคมีที่ช่วยทำให้สงบและลดระดับความเครียด ซึ่งการจูบจะช่วยกระตุ้นให้เกิดระบบการให้รางวัลของสมอง หรือ brain’s reward system ทำให้ระหว่างการจูบนั้นจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า อ๊อกซิโตซิน หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนแห่งความรัก, หลั่งสาร เอ็นดอร์ฟิน หรือฮอร์โมนแห่งความสุข, ฮอร์โมนโดพามีน และฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่ไปกระตุ้นความพึงพอใจในสมองของเรา จึงช่วยรักษาสมดุลของอารมณ์ให้คงที่ ทำให้สงบ และลดความวิตกกังวล แถมยังให้ผลดีเหมือนกับการทำสมาธิอีกด้วย

2. จูบ…ลดความดันโลหิต ทำให้หัวใจแข็งแรง

การจูบช่วยขยายหลอดเลือด จึงช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งระหว่างการจูบจะมีสื่อประสาทที่ชื่อ เอพิเนฟรีน เดินทางเข้าไปในเลือด ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความดันโลหิตแล้ว ยังทำให้ระดับ LDL (ไขมันไม่ดี) และคลอเรสเตอรอลลดลงได้อีกด้วย

ข้อดีของการจูบ

3. จูบ…ช่วยป้องกันฟันผุ

การจูบจะไปช่วยกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำลาย ซึ่งจะไปช่วยชะล้างคราบพลัคและคราบต่างๆ จึงช่วยป้องกันฟันผุได้อีกทางหนึ่ง

4. จูบ…ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว

การจูบจะไปช่วยกระตุ้นการหลั่งสารอดรีนาลีน และโนราดรีนาลีน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รู้สึกตื่นเต้นเนื่องจากหัวใจเต้นเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวอีกด้วย!!

5. จูบ…ช่วยเบิร์นแคลอรี่

การจูบในเวลา 1 นาที จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ 2-3 แคลอรี่ แต่ถ้าคุณจูบกันอย่างดูดดื่มเป็นพิเศษจะสามารถช่วยเผาผลาญได้ถึง 6 แคลลอรี่! และยังไปช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญหรือเมตาบอลิซึ่มได้อีกด้วย ซึ่งนักวิจัยกล่าวว่า การจูบกันครั้งละ 20 วินาทีต่อวันจะช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วยนะ และถึงแม้การจูบจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญได้ไม่เท่ากับการวิ่งไปสัก 5 กิโล แต่การจูบก็ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญพลังงานขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมได้ งานนี้จริงไม่จริงสงสัยจะต้องลองพิสูจน์กันด้วยตัวเองนะจ๊ะ อิอิ

6. จูบ…ช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยของใบหน้า

ในขณะที่จูบกล้ามเนื้อ 30 มัดบนใบหน้าของคุณก็ทำงานไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณจูบให้บ่อยขึ้นหรือทุกวันก็เหมือนเป็นการได้ออกกำลังกายใบหน้าไปในตัว ซึ่งมีผลช่วยให้ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้น และยังช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ไปอีก

7. จูบ…ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

การจูบคือการแลกเปลี่ยนแบคทีเรีย 10 ล้านถึง 1,000 ล้านแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลสองทางคือ สามารถทำให้คุณป่วย แต่อีกทางก็สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ เพราะร่างกายได้รับแบคทีเรียใหม่ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้นขึ้นมา เพราะฉะนั้นการจูบจึงสามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกทาง เพราะคุณและคนรักมีการแลกเปลี่ยนแบคทีเรียแบบใหม่ซึ่งกันและกัน ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ ในอนาคตที่ดียิ่งขึ้น

ข้อดีของการจูบ

8. จูบ…ช่วยเรื่องภูมิแพ้

แพ้ในที่นี่ไม่ใช่ แพ้ทางคนอย่างเธอนะ…แต่หมายถึงอาการภูมิแพ้ต่างหาก ซึ่งอาการภูมิแพ้นั้นสามารถแย่ลงได้หากเกิดภาวะเครียด และอย่างที่ทราบไปจากข้อ 1. ว่าการจูบสามารถช่วยลดความเครียดได้ นั่นก็เท่ากับว่าการจูบก็เป็นการช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน โดยมีงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า เมื่อให้ผู้ทดลองที่มีอาการลมพิษและอาการแพ้ฝุ่นละออง จูบกัน 30 นาทีในห้องส่วนตัว พร้อมเปิดเพลงคลอเบาๆ พบว่าผู้ที่มีอาการดังกล่าวนั้นอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

9. จูบ…บ่งบอกความเข้ากันและสานความสัมพันธ์

คุณอาจคิดว่าจูบที่ไม่เกิดจากเทคนิคที่แย่ แต่จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเผยว่า การแลกเปลี่ยนสารเคมีระหว่างการจูบเป็นตัวบ่งชี้ต่อความเข้ากันของการสืบพันธ์ ดังนั้นถ้าคุณจูบกับใครแล้วรู้สึกไม่ประทับใจ อาจแปลเป็นนัยๆ ได้ว่า คุณอาจไม่ใช่คู่ยีนส์ที่เข้ากันก็เป็นได้ นอกจากนี้การจูบยังช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อีกด้วย ซึ่งจากการศึกษาจากคู่รักพบว่า การจูบนั้นช่วยให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับอีกฝ่าย และเพิ่มความมั่นคง และความพึงพอใจในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักได้มากขึ้น อีกทั้งงานศึกษาของ Archives of Sexual Behavior กล่าวว่า ยิ่งคู่รักจูบกันมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น ซึ่งความสุขในที่นี้ยังไม่เกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์อีกด้วย

10. จูบ…ทำให้ผู้หญิงฟินได้มากกว่า

จูบทำให้ผู้หญิงมีความเป็นไปได้ที่จะถึงจุดสุดยอดได้มากกว่า มีงานวิจัยเผยว่า คู่รักที่ให้ความใส่ใจในการจูบอย่างดูดดื่มทั้งก่อนและหลังการมีเซ็กซ์จะมีความรู้สึกเติมเต็มทางเพศได้มากกว่า อาจเป็นเพราะว่าบริเวณริมฝีปากนั้นเป็นส่วนที่เซนซิทีฟมากกว่าที่อื่นๆ และไวต่อการสัมผัสได้มากกว่าปลายนิ้วถึง 100 เท่า เพราะบริเวณริมฝีปากมีเซลล์ประสาทมากกว่า 10,000 ปลายเส้นประสาทเลยทีเดียว!! ซึ่งมีมากกว่าบริเวณจุดสงวนของคุณผู้หญิงเสียอีก (บริเวณคลิคอริสมีประมาณ 8,000 ปลายเส้นประสาท)

และนี่คือข้อดีของการจูบ แถมคู่รักที่จูบกันเป็นปกติมักอายุยืนขึ้น 5 ปี เมื่อเทียบกับคู่รักที่ไม่ค่อยได้แสดงความรักด้วยการจูบอีกด้วย หรือจะสร้างซีนจูบให้ประทับใจตามฉากหนังรักเพื่อเป็นไอเดียในการถ่ายพรีเวดดิ้งก็ได้นะ 35 ซีนจูบแสนหวานในวันแต่งงานน้ำตาลเรียกพี่…มีคู่ทั้งทีงานนี้ต้องแสดงออก

เรียบเรียงข้อมูลจาก secretsinhealth.com, mentalfloss.com, cosmopolitan.com,
mindbodygreen.com, articles.mercola.com

ภาพ unsplash.com, pinterest

บทเจรจารับขันหมากเวอร์ชั่นจัดเต็ม รับรองงานนี้ผ่านฉลุย

บทเจรจารับขันหมาก เวอร์ชั่นเต็ม เซฟเก็บไว้ได้เลย

เมื่อขบวนขันหมากมาถึงหน้าบ้าน พิธีการต่อไปก็คือการเจรจารับขันหมก โดยฝ่ายหญิงจะต้องเตรียมเด็กรับขันหมากไว้ 1 คนเพื่อคอยรับขบวนขันหมากที่มาถึงหน้าประตู โดยจะมีผู้ใหญ่ 1 คนยืนประกบเพื่อเป็นผู้พูด บทเจรจารับขันหมาก ด้วย ซึ่งปกติมักนิยมใช้คู่สามีภรรยาที่มีความรักมั่นคงครอบครัวอบอุ่นมาทำหน้าที่นี้ เพื่อให้ความรักของบ่าวสาวมั่นคงและยืนยาว

ซึ่งช่วงติดขัดตะกุกตะกักก็คือช่วงการเจรจารับขันหมากนี้เอง เพราะบางครั้งผู้ใหญ่ก็อาจเกิดอาการประหม่าจนพานลืมบทพูดทุกอย่างที่เตรียมไว้ในหัวไปหมดสิ้น หรือบางท่านอาจไม่ทราบมาก่อนว่าช่วงนี้ต้องมีการพูดจาหรือเจรจาประมาณไหน เราเลยจัดบทเจรจารับขันหมากแบบโต้ตอบกันทั้งสองฝ่ายมาฝาก เพื่อที่บ่าวสาวจะได้ให้ผู้ใหญ่ของฝ่ายตัวเองได้นำไปซักซ้อมหรือปรับใช้ ถึงเวลาจริงจะได้ผ่านฉลุยเข้าสู่พิธีการต่อไปได้อย่างรวดเร็ว

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว: “ไม่ทราบว่า ขบวนขันหมากนี้จะไปไหนกัน ค่ะ/ครับ ดูคึกคักสนุกสนานดีจัง”

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว : “ขบวนขันหมากนี้ไม่ได้จะไปที่ไหนหรอกค่ะ/ครับ ก็จะมาขอเจ้าสาว……. (ชื่อเจ้าสาว)ให้กับเจ้าบ่าว……(ชื่อเจ้าบ่าว) เพื่อรับเข้ามาเป็นสะใภ้ ยินดีหรือไม่คะ/ครับ”

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว : “ทั้งคู่ก็รักกันมานานและเหมาะสมกันเช่นกิ่งทองใบหยกเหตุใดจะไม่ยินดีต้อนรับให้มาเป็นทองแผ่นเดียวกัน เชิญผ่านเข้ามาได้เลยค่ะ/ครับ”

เมื่อสิ้นสุดบทสนทนาเด็กที่ถือพานเชิญขันหมากของฝ่ายหญิงจะเดินมาเชิญขันหมากเข้าบ้าน เถ้าแก่จะหยิบหมากในพานขึ้นมาถือพอเป็นพิธีแล้วส่งคืนพร้อมกับยื่นซองให้เด็กรับขันหมาก 1-2 ซอง ก่อนจะผ่านเข้าบริเวณบ้านฝ่ายหญิง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี พร้อมเข้าสู่พิธีการช่วงต่อไปแล้ว

ภาพเปิด : งานแต่งคุณเอ๊บ & คุณก้อง ถ่ายโดย Box Wedding

อ่านบทความเพิ่มเติม

เตรียมแจกได้เลยกับ ผังขบวนขันหมาก รู้ไว้ไม่งงหน้างาน

เคลียร์ปัญหาเขยฝรั่ง พิธีแต่งงานไทยเต็มไปด้วยอะไรที่ I ไม่เข้าใจสักนิด?!

แหล่งจ้าง วงดนตรีงานแต่งไทย พร้อมเรื่องพึงระวังที่บ่าวสาวต้องรู้

ช่อบูเกต์เจ้าสาว 7 สไตล์ เลือกให้เข้ากับรูปร่าง พร้อมเทคนิคเลือกยังไงให้งบไม่บาน

ช่อบูเกต์เจ้าสาว ไม่ใช่จะมีแต่ทรงกลมอย่างที่เราคุ้นตากันอยู่เท่านั้น แต่ยังมีมากถึง 7 แบบ 7 ทรง ซึ่งแต่ละทรงก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป มาดูกันว่ามีแบบไหนกันบ้าง แถมด้วยทิปส์เด็ดในตอนท้ายว่าเลือกช่อดอกไม้ยังไงไม่ให้ราคาพุ่งกระฉูด

ช่อดอกไม้ทรงกลม (Round)

เป็นช่อบูเกต์แบบดั้งเดิม และเห็นบ่อยที่สุดเพราะเข้ากันได้ดีกับชุดเจ้าสาวทุกสไตล์ แถมในการเข้าช่อของดอกไม้สามารถเลือกเพื่อให้เข้ากับรูปแบบของงานได้ด้วยนะ เช่น หากจัดช่อแบบแน่นๆ ก็จะเหมาะกับงานแบบทางการ แต่หากจัดช่อแบบหลวมๆ ก็จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เข้ากันได้ดีกับงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก ที่สำคัญคือสามารถคละดอกไม้ได้หลากหลาย จึงควบคุมราคาได้ง่ายเช่นกัน

 

ช่อดอกไม้ทรงโค้ง (Pageant)

ช่อดอกไม้ทรงยาวโค้ง ไม่เหมาะกับการใช้ถือแต่เหมาะกับการอุ้มไว้ในวงแขนมากกว่า เนื่องจากเป็นช่อดอกไม้ที่มีความยาวจึงเหมาะกับเจ้าสาวที่มีรูปร่างสูงโปร่งในชุดเข้ารูป จะยิ่งส่งเสริมให้ดูสง่ามากขึ้น และเข้ากันได้ดีกับงานแต่งสมัยใหม่ ที่ไม่เน้นความเป็นทางการ ดอกไม้ที่นิยมนำมาใช้จะมีลักษณะก้านยาว เช่น ดอกคาลล่า ลิลลี่, กุหลาบก้านยาว, เดลฟินเนียม

 

ช่อดอกไม้ทรงน้ำตก (Cascade)

เป็นช่อดอกไม้ที่มีความเป็นทางการสูงมาก และเป็นอีกทรงที่มีมาแต่เนิ่นนานเหมือนช่อดอกไม้ทรงกลม และเนื่องจากมีดอกไม้ห้อยย้อยลงมาเกือบจรดพื้น เจ้าสาวที่ถือจึงควรมีรูปร่างสูงโปร่ง แม้จะเป็นทรงที่ค่อนข้างทางการ แต่ก็สามารถเลือกใช้ดอกไม้ได้ทุกชนิด หรือจะแต่งเพิ่มด้วยกิ่งไม้ก็ให้ความสวยงามไปอีกแบบ

 

ช่อดอกไม้แบบโนสเกย์ (Nosega)

เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวขนาดเล็กที่สุด จึงเหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างเล็ก ใช้วิธีการเข้าช่ออย่างง่ายๆ แล้วผูกด้วยริบบิ้น มักแซมด้วยใบไม้จึงให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เหมาะกับงานกลางแจ้งที่ไม่ต้องพิธีการมากนัก และไม่ได้เป็นเพียงช่อดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวเท่านั้น เพราะยังสามารถทำเป็นช่อดอกไม้ของเพื่อนเจ้าสาวได้อีกด้วย

 

ช่อดอกไม้แบบผูกปลายคล้องแขน (Pomander)

ช่อดอกไม้ทรงกลม มีสายริบบิ้นห้อยเหมือนเป็นกระเป๋าดอกไม้ที่เจ้าสาวจะใช้คล้องแขนเข้าสู่พิธีแต่งงาน เหมาะกับเจ้าสาวทุกรูปร่าง และสามารถใช้ดอกไม้ทรงไหนก็ได้ในการมาเข้าช่อ แถมยังเป็นการเข้าช่อที่สวยหรูดูแพงกว่าช่อดอกไม้ทรงปกติอีกด้วย

 

ช่อดอกไม้แบบทรงกลมขนาดเล็ก (Posy)

ช่อดอกไม้ทรงกลมขนาดเล็กที่สามารถถือได้ในมือเดียว และเป็นอีกทรงที่ได้รับความนิยมจากเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว สามารถตกแต่งได้หลากหลายสีสัน ในปัจจุบันยังนิยมประดับช่อดอกไม้ด้วยเครื่องประดับมีค่า อย่าง เพชรหรือสร้อยมุก เป็นต้น จึงเหมาะกับเจ้าสาวที่ใส่ชุดเรียบๆ เพื่อที่ชุดจะได้ไม่ตีกับเครื่องประดับในช่อดอกไม้

 

หลังจากที่เรารู้วิธีเลือกช่อดอกไม้แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะเลือกดอกไม้ยังไงไม่ให้รู้สึกว่า แพงจัง….

  1. ช่อบูเกต์ไม่จำเป็นต้องเป็นดอกไม้สดทั้งหมด อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยใบไม้ที่มีรูปทรงสวยๆ ในขณะที่ดอกไม้ก็อาจจะเลือกเป็นดอกไม้ชนิดเดียวกับที่ใช้ประดับในงานแต่ง ไม่เพียงแค่ลดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นการคุมโทนสีของงานแต่งด้วย
  2. สำรวจดอกไม้ในตลาด พร้อมสำรวจราคาไปด้วยในตัวว่าดอกไม้ชนิดไหนราคาเป็นอย่างไร หากเป็นเจ้าสาวสาย DIY ก็อาจจะจัด ช่อบูเกต์เจ้าสาว ของตัวเองไปเลยก็ได้
  3. ดอกไม้จากธรรมชาติสวยๆ มีเพียบเลย ที่สำคัญคือเราสามารถเก็บได้เอง โดยไม่ต้องเสียเงิน
  4. การเลือกดอกไม้ตามฤดูกาลก็ทำให้เราประหยัดเงินไปได้เยอะเลย เพราะดอกไม้นอกฤดูกาลจะบวกราคาเพิ่มอีกหลายเท่าเลยทีเดียว

 

ช่อดอกไม้แต่ละแบบก็มีความสวยโดดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกช่อดอกไม้แบบไหน ก็อย่าลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไปในช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพราะจะยิ่งเพิ่มความพิเศษให้กับช่อดอกไม้มากกว่าที่จะเป็นแค่บูเกต์ในงานแต่งงานเท่านั้น

ยังมีเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้งานแต่งงานออกมาสวยปิ๊งอีกเพียบ คลิกเลย

ภาพเปิด pixabay
ภาพประกอบ pinterest

คอลเล็คชั่นชุดแต่งงานไทยประยุกต์จาก Deep Love Wedding สวยทุกมุมมอง

Shade of Light คอลเล็คชั่น ชุดแต่งงาน ไทยประยุกต์จาก Deep Love Wedding ความงามรูปแบบใหม่ที่สวยสะกดทุกมุมมอง

ชุดแต่งงานไทย

คุณเจี๊ยบ – ชยานิษฐ์ พฤตพีระวิทย์ กรรมการบริษัทดีพ เลิฟ จำกัด ผู้นำเทรนด์ด้านชุดแต่งงานที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเวดดิ้งมายาวนานกว่า 15 ปี และล่าสุดคือผู้อยู่เบื้องหลัง ชุดแต่งงานไทย คอลเล็คชั่นใหม่ของห้องเสื้อ Deep Love Wedding ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจว่าที่เจ้าสาวสมัยใหม่โดยเฉพาะกับชุดไทยที่สามารถปรับเปลี่ยนลุคได้ภายใต้ชุดแต่งงานเพียงชุดเดียว

“Shade of Light”

ชุดไทยคอลเล็คชั่น “Shade of Light” เป็นการนำโครงสร้างของชุดไทยพระราชนิยมมาดีไซน์ใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น และตอบโจทย์
รูปแบบการจัดงานในปัจจุบัน ซึ่งคอลเล็คชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ชุดไทยมาจากภาพเขียนสไตล์อิมเพรสชั่นนิสต์ที่มีความโดดเด่น
ในเรื่องแสงเงาและสีสัน โดยนำเสนอผ่านชุดแต่งงานไทยในโทนสีพาสเทลที่ดูอ่อนหวานละมุนตา อย่างเช่น สีงาช้าง สีชมพู สีฟ้า สีเหลืองทอง
และสีโรสโกลด์

ชุดแต่งงานไทย

สำหรับการตัดเย็บ ทางร้านเลือกผ้าไหมไทยที่มีเอกลักษณ์สวยงามและมีความหรูหรา โดยใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการตัดเย็บ รวมถึงช่างฝีมือที่มีความสามารถในงานด้านหัตถศิลป์ในการปักประดิษฐ์ลวดลายและสร้างสีสันอันสวยงามที่ดูอ่อนช้อย จึงมั่นใจได้ว่าเจ้าสาวจะสวยสง่าอย่างทรงคุณค่าในวันแต่งงานแน่นอน

ชุดแต่งงานไทย

1 = 2 = 3 ความพิเศษจาก Shade of Light

สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ดีไซน์โดยคำนึงถึงการใช้งานจริงเป็นหลัก โดยเฉพาะเจ้าสาวสมัยใหม่ที่นิยมจัดงานแต่งงานที่มีขนาดเล็กลงและมีพิธีการที่รวบรัดมากขึ้น จึงได้ออกแบบชุดไทยที่สามารถประยุกต์ใส่ในอีกช่วงพิธีการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนชุด เพราะฉะนั้นชุดไทยในคอลเล็คชั่นนี้จึงเน้นไปที่ฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายแบบตามความต้องการของเจ้าสาวและรูปแบบพิธีการ โดยดีไซน์อยู่บนพื้นฐานของ
ชุดไทยพระราชนิยมเป็นหลัก เช่น บางชุดแค่เพิ่มหรือปลดบางชิ้นออกก็สามารถเปลี่ยนเป็นอีกชุดสำหรับสวมใส่ในพิธีการต่อไปได้ หรือบางชุด
สามารถเปลี่ยนจากชุดไทยให้กลายเป็นชุดราตรีสำหรับพิธีฉลองต่อได้ทันทีแต่ถ้าเจ้าสาวต้องการประหยัดเวลาขึ้นอีก Deep Love Wedding ก็
สามารถดีไซน์ชุดไทยที่มีความร่วมสมัยโดยสามารถสวมใส่ได้ทั้งพิธีไทยและพิธีฉลองได้ในชุดเดียวกัน

ชุดแต่งงานไทย

บ่าว – สาวที่สนใจมาลองชุดในช่วงนี้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อง Covid-19 เพราะทางร้านมีมาตรการป้องกันเป็นอย่างดี

ดูคอลเล็คชั่น ริชชี่ สวยหวานเบอร์แรง แฟชั่นชุดแต่งงานไทยจาก Deep Love Wedding << คลิกเลย <<

DEEP LOVE WEDDING
ซอยอุดมสุข 49 ถนนสุขุมวิท 103
โทร. 0-2398-5739, 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ : www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeplovewedding

HOT! Bridesmaid Dress 5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาว ใส่ได้ยาวถึงปีหน้า

สำหรับ ชุดเพื่อนเจ้าสาว ทั้งชุดสากลหรือชุดราตรีค่อนข้างฟรีสไตล์และมีแบบให้เลือกมากมาย เอาเป็นว่าให้ดูเรื่องของธีม สี และสถานที่ จากนั้นเพิ่มเติมด้วยไอเดียเหล่านี้ค่ะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ต่างได้…แต่ต้องไปด้วยกัน

  • ต่างด้วยดีไซน์ เลือกใช้ผ้าแบบเดียวกัน แล้วใช้ดีไซน์แตกต่าง ข้อนี้ถือว่าปลอดภัยและสวยงาม
  • ต่างด้วยเนื้อผ้า เช่น บางคนใช้ผ้าลูกไม้ อีกคนอาจใช้ผ้าซาตินหรือชีฟอง แต่สวยมาในเฉดสีเดียวกัน ถือว่ายังได้อยู่

HOT! Bridesmaid Dress

  • Satin & Silk

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากสาวๆ นั่นคือ เดรสผ้าซาตินและผ้าไหม เนื่องจากเนื้อผ้ามีความมันวาว เนียนไปกับรูปร่าง เรียบหรูดูแพงแบบ
ไม่ต้องแต่งเยอะ ใส่เครื่องประดับเพียงน้อยชิ้นก็สามารถคอมพลีตลุคสวยจบและไม่แย่งซีนเจ้าสาวแน่นอน

  • Halter Neckline

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดเดรสคล้องคอ หรือมีดีเทลผูกช่วงคอเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะด้วยซิลลูเอตต์ที่สวยงามเสริมให้เหล่าเพื่อนเจ้าสาวดูมีเสน่ห์และ
รูปร่างที่สง่างาม

  • Cowl Neckline

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

เดรสที่มีดีเทลบริเวณหน้าอก หรือเรียกง่ายๆ ว่าเดรสคอถ่วง ซึ่งเป็นซิลลูเอตต์ที่ได้รับความนิยมเมื่อยุค 90 และกลับมาฮ็อตฮิตอีกครั้งในหมู่สาวๆ เมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และยาวต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยนิยมเลือกเป็นเดรสผ้าซาตินที่มีความมันวาว อีกทั้งด้วยน้ำหนักที่เบา แพตเทิร์นที่เรียบง่าย ทำให้คล่องตัวสามารถใส่ยาวไปถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้เลย

  • Infinity Dress

ต้องบอกว่ามาแรงแซงทางโค้งมากๆ สำหรับ Infinity Dress หรือพูดให้เห็นภาพคือ ชุดราตรียาวที่ท่อนบนออกแบบให้มีผ้า 2 ชิ้น เพื่อให้คุณครีเอตชุดของตัวเองได้ตามใจชอบ โดยการผูก มัด ดีไซน์ออกมาได้ทั้งเดรสเกาะอก ไหล่เดียว คล้องคอ ซึ่งข้อดีของชุด Infinity Dress ก็คือ เพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนสามารถครีเอตชุดของตัวเองได้ ไม่ต้องเถียงกันให้วุ่นว่าย แถมยังมั่นใจด้วยว่าทุกคนมาในธีมเดียวกัน

แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะคะ เพราะว่าเป็นชุดที่ต้องผูก มัด พันเองฉะนั้นกว่าจะได้แบบที่สวยงามอาจต้องใช้เวลา และถ้ารูปร่างไม่ได้เป๊ะปัง
ก็อาจจะสร้างความกังวลใจเวลาสวมใส่ให้กับสาวๆ ได้เช่นกันค่ะ

  • Wrap Dresses

เดรสผูกหน้าหรือเดรสผูกช่วงเอว เหมาะสำหรับเหล่าเพื่อนเจ้าสาวที่ใส่ชุดแบบเดียวกัน เพราะว่าเหมาะกับสาวๆ ทุกรูปร่าง เนื่องจากซิลลูเอตต์ทรงหลวม ไม่รัดหรือเน้นสัดส่วนเฉพาะส่วน อีกทั้งเชือกผูกด้านหน้าสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 ทริคเลือกและตัดสินใจเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาวยังไงให้มีความสุข

เช็กนิสัยเพื่อนเจ้าสาวแต่ละราศี ให้พร้อมรับหน้าที่สำคัญในวันแต่งงาน

4 ไอเดีย ชุดเพื่อนเจ้าสาว แบบ Mix แต่ไม่ Match ยังไงให้สวยเริด!