ว่าที่บ่าวสาวที่จัดงานแต่งงานแบบกลางแจ้งหรือแบบเอ้าท์ดอร์ คงไม่มีอะไรที่จะน่าห่วงหรือน่ากลัวไปกว่า ฝนตกในงานแต่งงาน !! แต่เรื่องดินฟ้าอากาศถึงแม้จะวางแผนให้ดีแค่ไหน ก็เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมสุดๆ จริงไหมคะ แพรว wedding เลยอยากจะให้ว่าที่คู่รักที่กำลังกังวลเรื่องนี้mมามองโลกในแง่ดีวิ่งเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ กับ 8 เหตุผลที่คุณอาจจะอยากให้ฝนตกในวันแต่งงานของคุณก็ได้!!
1. บ่าวสาวจะได้ภาพถ่ายงานแต่งงานที่ไม่ซ้ำใคร
หากว่าที่บ่าวสาวเคยเห็นภายถ่ายงานแต่งท่ามกลางสายฝน คุณจะรู้ว่าเรากำลังพูดถึงอะไรอยู่ “หมอกและแสงที่นุ่มนวลดูโรแมนติก ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ในวันที่มีแดดจ้า” รวมไปถึงพร็อพส์ต่างๆ ที่เหล่าบ่าวสาวต่างเฟ้นหามาใช้เพื่อให้เข้ากับธีม อย่างเช่น ร่มสีสันสดใส และรองเท้ากันฝนสุดชิค แถมจริงๆ แล้วช่างภาพบางคนก็ชอบที่จะถ่ายภาพในวันที่มีเมฆหรือฝนตกกว่าวันที่มีแดดออกด้วย
“ภาพถ่ายที่เต็มไปด้วยร่มหลากสีสันหลายลวดลาย หาไม่ได้ในวันที่แดดออก” ช่างภาพคนหนึ่งกล่าว “มีหลากเฉดสีของแสงที่นุ่มนวลในวันแต่งงานที่เป็นแรงบันดาลใจและโอกาสดีๆ ให้ช่างภาพได้สร้างสรรค์ภาพถ่ายในวันฝนตก” และหากอยากให้บรรยากาศของงานเก๋ไก๋ไปกว่าร่มหลากเฉดสี บ่าวสาวอาจจะเลือกใช้ร่มเป็นของชำร่วยในงานแต่งไปเลย โดยสกรีนโลโก้หรือชื่อของบ่าวสาวลงไปในร่มด้วย กันได้ทั้งฝนแถมใช้เป็นของชำร่วยได้อีก
2. ฝนทำให้คุณได้กอดคนข้างๆ
นิโคล แฮร์ริส เจ้าของ One Last Frog เวดดิ้งแพลนเนอร์ชื่อดังของสหรัฐฯ บอกว่า “ฝน คือความโรแมนติก” ลองคิดดูสิว่า ในบรรยากาศที่มีฝนตกปรอยๆ หรือวันที่ฝนตกแบบชุ่มฉ่ำ คุณและคนรักอยู่ในร่มคันเดียวกันแบบแนบชิดมันจะโรแมนติกแค่ไหน หรืออาจจะกระโดดโลดเต้นกันไปทามกลางสายฝนก็เป็นปาร์ตี้สนุกๆ ที่ทุกคนจะได้ปลดปล่อย นอกจากนี้แฮร์ริสยังบอกอีกว่า “เสียงฝนกระทบลงบนร่มหรือกระจกนั้น เป็นเสียงที่ให้อารมณ์โรแมนติกสุดๆ”
3. ดอกไม้ในงานดูสดชื่นชุ่มฉ่ำ
หากเป็นงานแต่งเอ้าท์ดอร์ในวันที่แดดร้อนเปรี้ยง บรรดาเซ็นเตอร์พีช หรือดอกไม้ที่ประดับประดาอยู่ทั่วทั้งงานแต่งงานของบ่าวสาวอาจจะดูเหี่ยวเฉาลงไปบ้าง เพราะไม่สามารถต้านทานกับอากาศอันร้อนอบอ้าวได้ แต่เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นหากในวันงานมีฝนตกลงมาพรำๆ พอให้บรรดาไม้ดอกไม้ประดับได้รับความชุ่มฉ่ำจากสายฝน “ดอกไม้จะมีโอกาสเหี่ยวเฉาได้น้อยกว่าในวันที่ฝนตก” อดัมส์ เจ้าของและดีไซเนอร์งานแต่งงานชื่อดังแห่งเมืองแคนซัสกล่าว “ท้องฟ้าที่ครึ้มด้วยเมฆ บวกกับอุณหภูมิที่เย็นนิดๆ และความชื้นจากสายฝนจะทำให้เหล่าดอกไม้มีความสุขมากกว่าอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ ความร้อน และสภาพอากาศที่แห้ง”
4. ฝนสร้างสายรุ้งให้เป็นแบ็คดรอปในงานแต่งได้
จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก? เมื่อฝนตกและหยุดลง ฉากหลังงานแต่งงานของคุณอาจจะมีสายรุ้งพาดผ่านปรากฏให้เห็นกลายเป็นแบ็คดร็อปแสนสวยจากธรรมชาติ แบ็คดร็อปสุดวิเศษที่ไม่ต้องจ่ายเงิน งานนี้ต้องขอบคุณธรรมชาติเลยล่ะ
5. ฝนตกในงานแต่งแสดงว่าจะโชคดี!
เมื่อฝนตกในวันแต่งงานมันหมายความว่าอะไร? คุณอาจจะรู้สึกว่าช่างเป็นวันที่โชคร้ายอะไรอย่างนี้ แต่จริงๆ แล้วมันตรงข้ามเลยนะ! “ในบางวัฒนธรรมมีความเชื่อว่าการที่ฝนตกในวันแต่งงานนั้นแสดงว่าบ่าวสาวจะโชคดี เพราะฝนเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูณ์และช่วยชะล้างสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัวบ่าวสาวได้” แค่คิดบวกชีวิตก็เปลี่ยนแล้ว
6. ฝนอาจทำให้แขกของคุณได้คุยกันมากขึ้น
แน่นอนว่าเมื่อฝนตกลงมาแขกทุกคนก็ต่างเข้าที่กำบัง และอยู่รวมกันในห้องเพื่อหลบฝน ถึงตอนนี้แขกที่ไม่ได้เจอกันมานานก็อาจจะได้พูดคุยกันมากขึ้น หรือแขกบางคนที่ไม่รู้จักกันเลยก็อาจจะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ด้วยกันได้ เพราะด้วยสภาพแวดล้อมที่บังคับ อาจทำให้เกิดความสนิทสนมกันในหมู่แขก และทำให้ว่าที่บ่าวสาวได้เดินทักทายกับแขกได้มากกว่ายืนถ่ายรูปหน้าแบ็คดรอปเฉยๆ ด้วย
7. ฝนช่วยสร้างบรรยากาศให้โรแมนติก
ถ้าสังเกตดีๆ จะพบว่าภาพยนตร์หลายเรื่องมักจะมีฉากจูบแบบอินเลิฟท่ามกลางสายฝน ทำไมหน่ะเหรอ ก็เพราะว่ามันโรแมนติกยังไงล่ะคะคุณขา เพราะฉะนั้นในเมื่อคุณไม่มีทางเอาชนะเสียงฝน คุณก็ต้องหาประโยชน์จากมันนี่ล่ะค่ะ หากเสียงฝนดังกลบเสียงเพลง ก็ใช้ซาวนด์ประกอบในงานแต่งเป็นเสียงสายฝนไปเลย
8. ฝนช่วยทำให้อากาศเย็นสบายขึ้น
บางครั้งเต็นท์ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ก็เป็นเหมือนเตาอบดีๆ ในช่วงกลางวัน แต่ปัญหานี้จะหมดไปหลังจากที่สายฝนโปรยปรายลงมา เพราะหลังจากที่สายฝนจากไป ก็จะเหลือทิ้งไว้กับอากาศภายในเต็นท์ที่เย็นสบายใจขึ้น
แต่สิ่งสุดท้ายที่บ่าวสาวจะทำได้ในวันแต่งงานที่มีฝนตกลงมาแบบไม่ได้นัดหมาย คือทำใจให้สบาย ปล่อยวางทุกสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมได้ แล้วสนุกไปกับช่วงเวลานั้นก็พอ
ติดตามไอเดียดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!
ภาพ reddit.com, pinterest