หากยังไม่มี ไอเดียงานแต่ง มาส่องธีมสีงานแต่งเหล่านี้ดู รับรองว่าสวยจนต้องจัดตาม
สี คือเรื่องต้นๆ ที่ว่าที่บ่าวสาวจะคิดถึงเมื่อต้องจัดงานแต่งงาน แต่สีไหนล่ะที่ทั้งสวย บ่งบอกตัวตนและดูทันสมัย แพรว wedding เลยจัดคู่สีสุดคลาสสิค แถมยังช่วยทำให้งานออกมาดูสวยปังได้แบบไม่ยากมาฝาก เผื่อจะช่วยเป็น ไอเดียงานแต่ง ของว่าที่บ่าวสาวที่กำลังลังเลว่าจะใช้สีไหนเป็นธีมในการจัดงานดี
Pure White
งานสีขาวสุดคลาสสิคให้ความรู้สึกบริสุทธิ์สะอาดตาแฝงไปด้วยความสง่างาม ยิ่งนำมาแมตช์กับคริสตัลราคาแพงระยับยิ่งขับความวิบวับและเพิ่มความหรูหราให้มากขึ้นเป็นทวีคูณ แถมสีขาวยังเข้าได้กับทุกสีและให้อารมณ์ที่ต่างกันอย่างสุดขั้ว เช่น เมื่อจับคู่กับโทรสีอ่อน งานจะดูหวานหยดมดตอม แต่เมื่อจับคู่กับสีเข้ม งานก็จะดูชิคขึ้นมาทันตา นอกจากนี้สีขาวยังสามารถนำไปผสมกับลวดลายต่างๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นลายบนพื้นพรม หรือเส้นโค้งของตัวเสา รวมถึงหากจัดวางพร็อปส์สีขาวให้มีระดับตื้นลึกในแนวระนาบ ก็จะช่วยสร้างเลเยอร์ให้กลายเป็นสีขาวหลายเฉด
Multi-Colours
หากบ่าวสาวคิดว่างานแต่งสีเดียวไม่ใช่ตัวตนคู่ของคุณอย่างแน่นอน และกำลังสนใจกลุ่มสีแรงๆ ที่สามารถสะท้อนความมั่นใจในตัวเอง รวมทั้งอยากสร้างความโดดเด่นให้กับงานแต่งงานของคุณล่ะก็ ขอแนะนำให้คุณเลือกสีที่คุณและคนรักชอบมากที่สุดมาสักหนึ่งสีเพื่อใช้เป็นสีหลัก แล้วค่อยจับคู่สีต่างกันเข้าไปอีกสองสี โดยเฉลี่ยเปอร์เซ็นต์การใช้ให้ลดหลั่นกันลงมา รับรองเลยว่างานของคุณจะโดดเด่น แถมประหยัดงบค่าดอกไม้ได้มากกว่าการเลือกใช้ดอกไม้สีที่ได้รับความนิมยมอีกด้วย
“เทคนิคการผสมคู่สีต่างๆ เข้าด้วยกันคือ ใช้สีหลักประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ ตัดด้วยคู่สีที่ต่างกันประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ แล้วเติมสีขาวอีก 5 เปอร์เซ็นต์เพื่อเบรกความแรงของสีทั้งหมด”
หรืออาจจะตกแต่งงานโดยใช้สีตรงข้ามที่ตัดกันชัดเจนเพื่อสร้างความโดดเด่น ยิ่งเป็นงานเอ้าท์ดอร์ที่มีพื้นที่ในการตกแต่งมาก ก็ยิ่งสามารถออกแบบสีให้เป็นกลุ่มๆ ได้เต็มที่ และยังสามารถใส่ความไม่ธรรมดาด้วยการนำคู่สีนั้นมาจัดให้เป็นลวดลายต่างๆ เช่น ลายกราฟิก ลายยูโรเปี้ยนคลาสสิค หรือลายชนเผ่า รวมถึงอาจนำวัสดุอื่นๆ ที่ต่างกัน เช่น แก้ว กระจก พลาสติก หินธรรมชาติ หรือโลหะ มาแทรกหรือจัดวางองค์ประกอบให้สวยงาม ก็จะทำให้งานที่เต็มไปด้วยสีสันยิ่งดูหวือหวา มีรายละเอียดน่าค้นหาและไม่น่าเบื่ออีกด้วย
Pastel
โทนสีพาสเทลยังคงเป็นนางเอกของงงานแต่งทุกยุคทุกสมัย แต่ถึงอย่างนั้นการเลือกใช้โทนสีพาสเทลให้สวยงามก็มีหลักอยู่ว่า ไม่ควรเลือกสีพาสเทลมาใช้เกิน 3 สี แต่ถ้านักออกแบบที่คู่ของคุณจ้างมานั้นมีฝืมือเก่งกาจและกล้าเล่นกับสีสัน การเลือกใช้สีพาสเทลอย่างน้อย 5-7 สีก็ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายและได้ผลลัพธ์ที่คุณจะคาดไม่ถึงเลยทีเดียว แต่ก็มีข้อควรระวังว่า รสนิยมของนักออกแบบที่คุณจ้างมานั้นจะต้องดีเริด! ไม่อย่างนั้นงานที่คุณคาดหวังว่าอาจจะออกมาสวยอาจจะเสี่ยวได้แบบไม่รู้ตัว…
White & Green
สีขาว-เขียว คือคู่โทนสีสุดคลาสสิคที่คู่บ่าวสาวทุกงบประมาณนิยมจัด ซึ่งบ่าวสาวส่วนใหญ่ที่เลือกใช้ธีมสีขาว-เขียวคือคู่ที่ฝันอยากจะจัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ แต่ด้วยข้อจำกัดเรื่องภูมิอากาศของบ้านเรา การยกสวนมาไว้ในโรงแรมใหญ่จึงเป็นทางออกที่ตอบโจทย์และได้รับการตอบรับได้ดีที่สุด แถมการเลือกสีเขียวมาใช้นั้นก็สามารถเลือกได้หลายเฉดตามลักษณะของสีใบไม้นับพันๆ หมื่นๆ ชนิดที่มีในบ้านเรา ดังนั้นการตกแต่งงานด้วยโทนขาว-เขียวจึงไม่ได้มีแค่เพียงสองสี หากแต่เต็มไปด้วยเฉดสีมากมาย
White-Cream White
การใช้สีขาว-ครีมนั้นจะให้ความรู้สึกอ่อนโยน เหมาะสุดๆ กับอารมณ์รักสุดโรแมนติกและเพลงหวานๆ ในค่ำคืนแต่งงาน อย่างไรก็ตามการใช้สีครีมมีข้อควรระวังคือ ถ้าเลือกโทนสีอ่อนมากเกินไปก็อาจดูกลืนไปกับสีขาว เพราะฉะนั้นคู่บ่าวสาวอาจจะผสมสีส้มโอลด์โรส สีทอง หรือสีแชมเปญ (ในสัดส่วนประมาณ 10-15 เปอร์เซ็นต์) ลงไปในสีขาว-ครีม เพื่อเพิ่มความหรูหราอลังการ แต่ยังคงธีมสีขาว-ครีมได้อย่างที่ใจต้องการ
“ถ้ากลัวว่าสีจะกลืนกันจนแยกไม่ออก ลองนำสีทองมาแต้ม รับรองได้ว่างานจะไม่ดูจืดชืดแน่นอน”
Glittering Silver
อีกหนึ่งธีมงานที่ว่าที่บ่าวสาวบางคู่ยังคงกล้าๆ กลัวๆ ที่จะหยิบมาใช้ เพราะถ้าไม่เจ๋งจริงงานจะดูเวอร์วังอลังการจนออกเป็นงานลิเกแทนที่จะเป็นงานแต่ง ซึ่งเทคนิคการจัดธีมนี้ให้ออกมาดูดีคือ ควรเลือกจับคู่สีเงินกับโทนสีที่ช่วยเสริมให้สีเงินดูเด่นขึ้น และควรเกลี่ยสัดส่วนให้ดูกลมกลืนกัน โดยให้สีใดสีหนึ่งมีเปอร์เซ็นต์มากกว่าอีกสี จากนั้นเสริมด้วยสีทองและพร็อปส์ตกแต่งที่เน้นความแวววาว ไม่ว่าจะเป็นคริสตัล แก้ว เครื่องเงิน หรือไฟหยดน้ำ เพื่อเพิ่มความหรูหราให้งานดูทันสมัยและโก้มากขึ้น
“นำพร็อปส์ตกแต่งที่มีความแวววาววิบวับมาเพิ่มความหรูหราให้กับงาน”
Warm Colour
โทนสีร้อนที่บ่าวสาวหลายคู่มองว่าให้ความรู้สึกร้อนแรงและยากที่จะจับมาสร้างความสวยงามแตกต่างให้กับงานแต่งงานได้ กลับมีข้อดีที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนคือ สีโทนร้อนสามารถจับคู่ได้กับทั้งสีขาวและสีดำ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้จะให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน เช่น หากจับคู่สีโทนร้อนอย่างสีเหลือง และส้มกับสีขาว ก็จะให้ความรู้สึกสว่างไสว ร่าเริง และสนุกสนาน แต่ถ้าหากจับคู่กับสีดำก็จะยิ่งขับสีสันให้โดดเด่นสะดุดตามากขึ้น
ภาพ pinterest.com
อ่านบทความเพิ่มเติม
https://praewwedding.com/planning/109019