มาดูการเตรียมตัวเพื่อ ความงามเจ้าสาว ช่วง 5-2 เดือนก่อนแต่งงาน!

วันสำคัญของเราเริ่มใกล้เข้ามาแล้ว ความงามเจ้าสาว ที่ต้องเตรียมตัวในช่วงนี้มีอะไรบ้างเพื่อให้เราเป็นเจ้าสาวที่สวยเป๊ะปังที่สุด มาดูกันค่ะ

หลังจากที่เราได้แนะนำการเตรียมตัว เพื่อความงามเจ้าสาว ช่วง 1 ปี ถึง 6 เดือน ก่อนวันสำคัญกันไปแล้ว (คลิกอ่านเลยที่นี่!) แล้วถ้าเริ่มขยับเวลาเข้ามาใกล้อีกนิด เป็นช่วง 5-2 เดือนก่อนแต่งงาน ช่วงนี้เหล่าว่าที่เจ้าสาวมีอะไรที่ควรจะต้องทำบ้าง มาดูกันค่ะ

  1. เริ่มออกกำลังกายเพื่อเน้นสร้างรูปร่างที่สวยงามสมส่วน หลังจากที่เราเริ่มออกกำลังกายแบบเบาๆค่อยเป็นค่อยไปในช่วงแรกๆแล้ว ช่วงระยะเวลา 5 เดือนก่อนแต่งงาน เราสามารถเริ่มเพิ่มความเข้มเข้นของการเวิร์คเอาท์ขึ้นได้ โดยเน้นเวทเทรนนิ่งเพื่อสร้างกล้ามเนื้อที่สวยงามตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น แขน ท้อง หลัง และขา การเวทเทรนนิ่งนอกจากช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้รูปร่างเราดูเฟิร์มสวย ยังช่วยเพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมัน ให้เราอ้วนยากขึ้นด้วยนะคะ 
  2. เน้นการมาส์กหน้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสกินแคร์ ช่วงนี้คุณสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของสกินแคร์ที่ใช้อยู่ด้วยการมาสก์หน้าค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการใช้มาส์กยี่ห้อที่คุณใช้อยู่แล้ว และแน่ใจว่าไม่แพ้ อาจจะใช้ถี่ขึ้นเป็นอาทิตย์ละครั้งหรือสองครั้ง หรือถ้าเป็นเจ้าสาวสายประหยัด เดี๋ยวนี้มีโลชั่นน้ำราคาน่ารักที่ใช้ดีหลายตัว และยังมีมาส์กหน้ากากแบบเยื่อกระดาษสำเร็จรูปขายแยก ให้คุณซื้อมาใช้คู่กันได้ ประหยัดแล้วยังเวิร์คอีกด้วยนะ
  3. หากใครอยากโบท็อกซ์ หรือฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า เริ่มเข้าไปปรึกษาคุณหมอประมาณ 2 เดือนก่อนวันงานได้เลยค่ะ เพราะปกติแล้วโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์จะเริ่มเข้ารูปจริงจังก็หลังจากทำแล้วประมาณ 1 เดือน เราเผื่อระยะเวลาให้คุณได้ปรึกษาคุณหมอ เผื่อจะต้องทำอะไรเพิ่มเติมจะได้พอมีเวลาไม่รีบร้อนเกินไปค่ะ 
  4. งดการทำสีผมใหม่ช่วง 2 เดือนก่อนวันงาน โดยเฉพาะการกัดสีผมให้อ่อนลง หรือทำไฮไลต์ใดๆ เพราะการทำให้สีสม่ำเสมอกันหลังจากนั้นเป็นเรื่องยากค่ะ คุณอาจจะกลายเป็นเจ้าสาวที่เกล้าผมแล้วเห็นเฉดสีผมที่ตัดกันจนดูไม่สวยงามก็ได้ แต่ถ้าเป็นการทำสีผมเข้ม หรือเติมโคนสีที่ทำอยู่แล้ว สามารถทำได้นะคะ 
  5. ประมาณ 2 เดือนก่อนวันงาน เริ่มหารูปสไตล์การแต่งหน้า ทำผม แบบที่เราชอบ ทำไมเราถึงไม่ได้แนะนำให้คุณหารูปเหล่านี้ตั้งแต่ 1 ปีก่อนแต่งงาน? เพราะสไตล์หน้าผมเจ้าสาวที่คุณชอบในตอนนั้น ระยะเวลาผ่านไปอาจจะรู้สึกเฉยๆแล้วก็ได้ หรือพอเวลาผ่านไปอาจจะเจอสไตล์หรือแบบที่ชอบมากกว่า เพราะฉะนั้นสไตล์ของทรงผมและเมกอัพที่ชอบ ค่อยๆหา รวบรวมไว้ แล้วตัดสินใจช่วงใกล้ๆวันงานก็ยังทันนะ

เป็นยังไงบ้างคะ?ช่วงระยะเวลา 5-2 เดือนก่อนวันงาน ทุกอย่างเริ่มเข้มข้นขึ้นแล้ว! มาติดตามตอนต่อไปกันนะ ว่าพอถึงโค้งสุดท้าย 1 เดือนก่อนวันสำคัญ ว่าที่เจ้าสาวต้องทำอะไรบ้าง!

credit photo: www.stylemepretty.com, unitedwithlove.com, behance.net

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

รู้ทันผู้ชาย กับหลากหลายเล่ห์เหลี่ยม และลูกเล่นเอาตัวรอดสุดแพรวพราว

หากเปรียบผู้ชายเป็นเพชร แต่ละเม็ดคงมีเหลี่ยมและประกายไม่เท่ากัน แต่ถึงอย่างไรผู้หญิงทุกคนก็ถวิลหาอยากเป็นเจ้าของ ยิ่งเพชรเม็ดไหนมีประกายสวยงามแพรวพราว ยิ่งหลอกล่อให้หลงใหลและอยากครอบครอง แต่อย่าลืมว่าความสวยงามนั้นแฝงด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่คุณอาจตกหลุมพรางได้ง่ายๆ แต่ถ้าคุณอยากได้เพชรเม็ดนี้มาครองแบบเป็นเจ้าของเต็มตัวและไม่ถูกหลอก เราขออาสาพาไปหา เหลี่ยมรัก จากชายหนุ่มหลากหลายอาชีพมาฝาก ลองอ่านและคิดตามให้ดีว่า คนที่เขามาจีบหรือคนที่อยู่ข้างๆ มีอะไรแบบนี้หลุดมาให้เห็นบ้างไหม เพราะ รู้ทันผู้ชาย ตอนนี้ดีกว่าอกตรมวันหน้าเพราะตัดสินใจเลือกคนผิดนะจ้ะ

1

1. เล่ห์เหลี่ยมแบบนี้สิ ถึงได้เธอมา

เริ่มกันที่จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์กันก่อน ซึ่งเราขอบอกว่าสาวๆ โปรดทราบ เวลาที่บรรดาชายหนุ่มทั้งหลายอยากจะเข้ามาพิชิตใจคุณ เขาจะมีเล่ห์เหลี่ยมหรือมีทริคบางอย่าง เพื่อเขามาหาคุณ ซึ่งถ้าเจอมุกต่อไปนี้ เตรียมเล่นตัวไว้ก่อนเลย

หนุ่มคนแรกดีกรีนักบินหนุ่มคารมดีเล่าถึงเล่ห์เหลี่ยมรักที่ใช้กับสาวที่เขาหมายปองว่า “ผมใช้วิธีอ้างเพื่อนเวลาขอเบอร์โทรศัพท์กับสาวที่ผมชอบหรือสนใจ แต่ความจริงแล้วเป็นผมเองนี่แหละที่เป็นคนขอและโทรไปหาเขาเอง หลังจากนั้นผมก็โทรไปเรื่อยๆ หยอกเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะรับรักผมครับ” 

ด้านนักร้องหนุ่มเสียงนุ่มที่ต้องใช้ชีวิตกลางคืนบ่อยครั้งตามสถานบันเทิงบอกว่า “ผมใช้วิธีสร้างตัวตนให้เขาเห็นและจดจำครับ เช่น หยอกล้อ แซว ใช้อารมณ์ขันของผมทำให้เขาหัวเราะหรือแกล้งจนเขารำคาญ แต่สุดท้ายผมก็เอาความดีสร้างความประทับใจ อาจจะช่วยเหลือเมื่อเขาเดือดร้อน หรือเมื่อเขาต้องการผมก็จะรีบไปอยู่ตรงนั้นทันที” เป็นไงละเหลี่ยมแพรวพราวแต่เริ่มต้นใช่ไหม

GettyImages-4949912372. แอบมองสาวอยู่นะ

จะแอบมองสาวๆ ทั้งที จะให้มองตรงๆ ก็คงไม่ตื่นเต้นเร้าใจน่ะสิ ลองมาฟังเทคนิคเหล่สาวแบบเนียนๆ จากชายหนุ่มอายุ 27 ปีที่มีอาชีพเป็นคุณครูว่าเขามีแผนการอย่างไรในการแอบมองสาวๆ โดยที่หวานใจไม่หันมาแยกเขี้ยวใส่ เขาบอกว่า “หากผมจะมองสาวสวยที่เดินผ่านมาซักคน ผมคงใช้วิธีเหล่ก่อน แล้วคงทำเป็นบอกว่าผู้หญิงคนนั้นใส่เสื้อผ้าสวยดีนะ อาจจะพูดเสริมไปอีกว่าเดี๋ยวนี้เขานิยมแต่งตัวกันแบบนี้เหรอ หรือไม่อย่างนั้นก็ชี้ให้ดูสิ่งที่น่าสนใจแต่อยู่ในทิศทางเดียวกับเป้าหมาย ทีนี้เขาจะได้ไม่ต้องสงสัย ว่าเราแอบมองผู้หญิงอื่นอยู่หรือเปล่า” 

อีกหนึ่งแผนเด็ดที่สาวๆ อาจคาดไม่ถึงจากชายหนุ่มอายุ 31 ปี เจ้าของสตูดิโอถ่ายภาพที่งานของเขาทำให้ได้เจอสาวสวยมากมาย ไม้เด็ดที่เขางัดขึ้นมาใช้คือ “ผมใส่แว่นตากันแดดเพื่ออำพรางสายตาครับ ข้อดีคือมองสะดวก เนียน ไม่ต้องกลัวด้วยว่าแฟนจะจับผิด หรืองอนใส่เรา” รู้แบบนี้แล้วเวลาออกไปข้างนอกกับหวานใจ ลองสังเกตดูสิว่าเขามีพฤติกรรมแบบนี้บ้างหรือเปล่า!! ถ้าใช่ก็อย่าเพิ่งโมโหโทโสไป เพราะชายหนุ่มส่วนใหญ่ล้วนบอกกับเราว่า “มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ชอบมองของสวยๆ งามๆ แต่จริงๆ แล้วพวกผมรักเดียวใจเดียวนะ” (เหรอ??)

GettyImages-5243844033. อยากไปกับเขาหรือเธอมากกว่า

ทีนี้มาดูเล่ห์เหลี่ยมคนีคู่กันบ้างว่าเวลาที่นัดกับแฟนหรือภรรยาไว้แล้ว แต่ใจก็อยากไปสังสรรค์กับเพื่อนหรือกิ๊กที่นานๆ จะเจอกันทีจะทำยังไง เพราะครั้นจะยกเลิกนัดก็คงจะแปลกๆ หรือจะบอกความจริงเลยก็คงได้ทะเลาะกันบ้านแตก แล้วจะมีข้ออ้างอย่างไรล่ะ ที่จะไม่โดนระแวงแถมได้ไปเที่ยวอย่างสนุกสนาน วิศวกรหนุ่มดีกรีนักเรียนนอกผู้ผ่านสาวน้อยสาวใหญ่มามากหน้าหลายตาเผยแผนลับที่ไม่ว่าสาวๆ คนไหนก็คงโกรธไม่ลง บอกกับเราวิธีการของเขาก็คือ “อ้างครอบครัวครับ บอกติดธุระกับที่บ้าน แต่ก็ต้องมั่นใจว่าเขาอยู่ที่ไหน เราจะได้ไม่ไปที่นั่นหรือรัศมีใกล้ๆ กับที่ตรงนั้น อีกอย่างคือต้องห้ามเพื่อนหรือกิ๊กที่จะไปด้วยว่าห้ามลงรูปผมในโซเชียลมีเดียเด็ดขาด”

แต่สำหรับอดีตหนุ่มเพลย์บอย อายุ 37 ปี ที่ตอนนี้กลายเป็นคุณพ่อลูกหนึ่ง มีข้ออ้างเบสิกที่สาวๆ หลายคนก็ยังไม่วายตกหลุมพรางว่า “งานของผมต้องพบปะลูกค้าบ่อยครั้ง และมักติดประชุมยาวจนถึงดึก ผมจึงมักใช้ข้ออ้างนี้เวลาที่อยากจะหนีไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลย รู้ขอบเขตของตัวเอง เพราะผมรู้หน้าที่ว่าผมควรทำอะไรและสิ่งที่สำคัญสุดคือลูกกับภรรยาครับ” แต่ในใจก็ยังไม่ทิ้งลาย เพราะเขายึดคติ 

“ถ้ารักจะเจ้าชู้ต้องทำตัวให้เนียนและเงียบที่สุด”

GettyImages-1261546884. เนียนอย่างไรให้รอด !

ใจก็อยากบอกไปตรงๆ ว่าทำผิดอะไร แต่ไม่รู้จะเริ่มสารภาพยังไง ครั้นจะบอกไปโต้งๆ ก็กลัวระเบิดจะลง เลยต้องหาวิธีสารภาพผิดแบบเนียนๆ แต่จะเป็นวิธีไหนที่ทำให้คุณที่รักไม่กรีดร้องบ้านแตกซะก่อน สถาปนิกหนุ่มผู้ชื่นชอบการต่อและออกแบบโมเดลกันดั้มเป็นชีวิตจิตใจ ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าของเล่นชนิดนี้ราคาไม่ธรรมดา เขาจะเอาตัวรอดจากการแอบซื้อของเล่นราคาแพงแสนแพงนี้ได้อย่างไร ลองมาฟังคำตอบจากเขากัน

“ก็บอกแหละครับว่าซื้อมาจริง แต่ใช้มุกตลกกลบเกลื่อน บอกราคาจริงบ้างไม่จริงบ้าง ทำเป็นพูดติดตลกไป เดี๋ยวเขาก็งงครับว่าอันไหนพูดจริง อันไหนพูดเล่น รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ก็เอาความตลกเข้าว่า เนียนๆ ไปเดี๋ยวเรื่องก็จบเอง” แต่หากคุณสาวๆ ตะหงิดใจในเรื่องนั้นอยู่แล้ว หนุ่มๆ หลายคนเลือกใช้วิธีนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว ดังเช่นวิธีที่ชายหนุ่มอายุ 30 ปลายๆ ใช้เป็นประจำ เขายอมปริปากบอกกับเราว่า ใช้ความนิ่งสงบเข้าข่มก่อนครับ ถึงแม้ว่าเรื่องนั้นเขาอาจจะรู้อยู่ แล้วถ้าเขาคาดคั้น ก็รับบ้างไม่รับบ้าง แถไปเรื่อยๆ ถ้าไม่โดนจับผิดแบบคาหนังคาเขา ยังไงก็ไม่ยอมรับครับ” #คารวะตัวพ่อค่ะ

GettyImages-1435047825. คุณเมียที่รัก VS. คุณแม่ที่เคารพ

ละครมักสร้างจากชีวิตจริง ฉากมาคุระหว่างแม่สามีกับลูกสะใภ้ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ลองดูซิว่า คนกลางอย่างหนุ่มๆ จะมีกลเม็ดแบบไหนที่ทำให้ทั้งคู่สมานฉันท์ คุณหมอผู้เงียบขรึมวัย 33 ปี เล่าประสบการณ์ระหว่างแฟนกับแม่ว่า “ส่วนใหญ่ผมรักใครคุณแม่ผมก็จะรักด้วย นอกจากว่าท่านไม่ถูกชะตา ซึ่งผมก็จะหาวิธีทำให้ทั้งคู่ได้มีโอกาสพูดคุยและใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น เช่น หาเรื่องที่เขาสนใจร่วมกันแล้วจัดกิจกรรมนั้นขึ้นมาเพื่อให้แม่กับแฟนทำร่วมกัน จะได้สนิทกันมากขึ้น”

ส่วนหนุ่มวัย 27 ปี อาชีพที่ปรึกษาทางกฎหมาย ผู้รักความยุติธรรมเป็นชีวิตจิตใจมองว่าความรักไม่ควรปิดบังกัน ก็ยังต้องแอบโกหกเล็กๆ เพื่อให้คนรักและแม่จูบปากกัน เช่น “พูดข้อดีของแฟนให้แม่ฟังเยอะๆ ครับ อาจจะเป็นเรื่องที่เขาคอยช่วยเหลือผมหรือทำเป็นว่าแฟนไปเที่ยวเลยซื้อของมา ฝาก แต่ความจริงแล้วผมนี่แหละครับที่เป็นคนซื้อ” 

จะทำให้แม่และคนรักปรับตัวเข้าหากันบางทีก็ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่หากมันยากนักก็ลองเอาวิธีของสองหนุ่มไปใช้ดูน่าจะเข้าท่าอยู่นะคะ

เป็นไงกันบ้างคะ กับเหตุผลต่างๆ ที่สาวๆ อย่างเราต้อง รู้ทันผู้ชาย เรียกได้ว่าเป็นทริคเด็ดของหนุ่มๆ ที่เรานำมาฝากกัน ลองสังเกตคนข้างๆ ของคุณดู ว่ามีอะไรเข้าข่ายไหม แต่แพรวเวดดิ้งขอบอกตรงนี้ว่า บางทีรู้แล้วนิ่งก็ดีกว่ารู้แล้วโวยวาย เพราะถ้าเขาไหวตัวทันเมื่อไหร่ คุณต้องมานั่งหาวิธีใหม่ให้เหนื่อยอีกนะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.gqindia.com

ว่าที่เจ้าสาวจงทำตาม 7 วิธีนี้รับรองเพื่อนเจ้าสาวไม่มีน้อยอกน้อยใจ

ทันทีที่รู้ข่าวดีว่าคุณจะแต่งงาน เชื่อได้เลยว่ามีเพื่อนสาวหลายคนเสนอตัวมาช่วยงานเป็นจำนวนมาก แต่จะให้ทุกนางมาเป็น เพื่อนเจ้าสาว แต่งตัวสวยเดินเด่นทั้งหมดก็คงไม่ได้ แล้วจะทำยังไงให้เพื่อนที่เหลือรู้สึกว่าคุณยังเห็นความสำคัญ แพรวเวดดิ้งมีทางออกดีๆ มาบอกกัน

1. ขอให้เธอมีส่วนร่วมในการจัดงาน

ในช่วงที่คุณกำลังวางแผนรายละเอียดของงานหรือกำลังมองหาสิ่งของที่จะนำมาใช้ในงาน เช่น ไวน์ ขนมหวาน หรือแม้แต่หาคนรู้ใจที่จะมาช่วยชิมอาหาร อาจจะมอบหมายให้เธอเข้ามาช่วยดูแลส่วนนี้ร่วมกับคุณ หรือถ้ารู้ว่าเพื่อนคนไหนเป็นกูรูในเรื่องใดๆ ก็อย่าลืมที่จะขอความเห็นจากเธอ เพราะจะทำให้เธอรู้สึกว่าคุณยังนึกถึงและให้ความสำคัญกับเธอ

2. ขอให้เธอมาช่วยจัดของต้อนรับแขก

มอบหมายหน้าที่ให้เธอเข้ามาช่วยคุณเลือกของใช้ที่จำเป็นสำหรับต้อนรับแขก รวมถึงอาจให้เธอมาช่วยต้อนรับและแนะนำแขกเกี่ยวกับการเขียนสมุดอวยพร หรือพาแขกเดินเข้างานก็ได้

3. ไม่ลืมชวนเธอมาร่วมปาร์ตี้สละโสด

ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นส่วนหนึ่งของงานในครั้งนี้ ด้วยการเชิญเธอมาร่วมสนุกในงานปาร์ตี้สละโสดของคุณซะเลย

4. เชิญเธอให้มาเตรียมตัวกับคุณ

เพียงแค่เธอไม่ได้เป็นเพื่อนเจ้าสาว ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะไม่ได้เป็นเพื่อนคนสำคัญของคุณ ในช่วงที่คุณกำลังแต่งหน้า-ทำผม อย่าลืมชวนเธอมาทำสวยพร้อมกับคุณ เพราะจะช่วยทำให้เธอรู้สึกว่าคุณยังนึกถึงเธอและใส่ใจเธอตลอดเวลา ส่วนเธอจะมาหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเธอ ขอเพียงแค่คุณอย่าลืมชวนก็พอ

5. ให้เธอมาเป็นมือขวาคอยช่วยคุณ

เชื่อว่าเจ้าสาวหลายๆ คน ต่างต้องการคนรู้ใจคอยอยู่เคียงข้างคุณตลอดงาน คุณอาจให้เธอมาช่วยดูแล จัดระเบียบชุด หรือแม้แต่คอยชวยซับน้ำตาให้กับคุณในช่วงพิธีก็ดีไม่น้อย

6. แต่งตั้งตำแหน่งใหม่สำหรับเธอโดยเฉพาะ

หากงานแต่งของคุณเป็นงานเล็กๆ คุณอาจแต่งตั้งให้เธอมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวอย่างไม่เป็นทางการ หรือที่รู้จักกันว่า เพื่อนเกียรติยศ โดยให้เธอแต่งชุดโทนสีเดียวกันกับกลุ่มเพื่อนเจ้าสาว แต่อาจไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นรูปแบบเดียวกัน หรืออาจจัดที่นั่งแถวพิเศษให้กับเธอด้วยก็ได้

7. เชิญเธอมานั่งในโต๊ะเดียวกันกับคุณ

ช่วงระหว่างรับประทานอาหารที่คุณอาจจัดโต๊ะแบบ Long table ก็อย่าลืมชวนเธอมาร่วมโต๊ะเดียวกันกับคุณก็ได้ หรือจัดที่นั่งของเธอให้อยู่ในโต๊ะที่ใกล้กับโต๊ะของคุณ เพื่อที่เธอจะได้รู้สึกว่ายังคุณยังมองเห็นเธออยู่ตลอดเวลานั่นเอง

ทั้งหมดนี้คือ 7 วิธีที่จะทำให้เพื่อนที่ไม่ได้ถูกเลือกให้เป็นเพื่อนเจ้าสาวไม่รู้สึกน้อยใจ แถมยังทำให้เธอรู้สึกรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นคนที่คุณยังนึกถึงและยังมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าเพื่อนเจ้าสาวคนอื่นๆ อีกด้วย ลองทำดูไม่เสียหาย แล้วรับรองว่าความรู้สึกดีๆ ของคุณและเพื่อนจะยังคงกระชับแน่นไม่เสื่อมคลาย

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติมได้อีกเพียบ คลิกเลย <<

เสริมความเป็นมงคลด้วยข้าวของ 4 อย่างที่ต้องมีใน พิธีรดน้ำสังข์

พิธีรดน้ำสังข์ หรือ พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานวิวาห์ที่ทำให้บ่าวสาวหลายคู่ซาบซึ้งใจจนหลั่งน้ำตา โดยพิธีนี้มีมาแต่โบราณ เป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือหลายท่านต่างก็มาร่วมรดน้ำและให้พรอันประเสริฐ อีกทั้งยังถือเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ ใช้สิ่งของมงคล 4 อย่าง ต้องเตรียมให้ครบ จะขาดอะไรไปไม่ได้เด็ดขาด

พิธีรดน้ำสังข์ ต้องใช้ข้าวของอะไรบ้าง? … เตรียมจดกันเลยจ้า

1. มงคลแฝด

พิธีรดน้ำสังข์

มงคลแฝด หรือ มงคลจักร คือด้ายมงคลสำหรับสวมศีรษะคู่บ่าวสาวในพิธีรดน้ำสังข์ เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลและสื่อความหมายถึงการเชื่อมโยงคู่บ่าวสาวให้กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

2. มาลัยบ่าวสาว

พิธีรดน้ำสังข์

มาลัยคล้องคอบ่าวสาวที่นิยมใช้คือมาลัยสองชาย ซึ่งหมายถึงมาลัยที่ผูกต่อริบบิ้นหรือโบทั้งสองชาย และมีอุบะห้อยชายมาลัย โดยมีความเชื่อว่าให้ใช้มาลัยบ่าวสาวคู่เดียวกันคล้องคอทั้งพิธีรดน้ำสังข์ช่วงเช้าและพิธีฉลองสมรสช่วงเย็น เพราะจะทำให้คู่บ่าวสาวใช้ชีวิตกันอย่างราบรื่น ไม่มีการเลิกราหรือเปลี่ยนคู่

3. หอยสังข์

พิธีรดน้ำสังข์

เหตุที่ใช้หอยสังข์มาเป็นภาชนะใส่น้ำพระพุทธมนต์หลั่งอวยพรให้คู่บ่าวสาวนั้น เพราะว่าหอยสังข์เป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ 14 อย่าง อันเกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของเหล่าเทวดากับอสูร และยังเป็นหนึ่งใน 4 อย่างที่พระนารายณ์ทรงถือ ด้วยเหตุนี้หอยสังข์จึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่อุดมมงคลอย่างสูงและถูกนำมาใช้ในพิธีมงคลสมรส

4. น้ำพระพุทธมนต์

พิธีรดน้ำสังข์

น้ำเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ดังนั้นการใช้น้ำหลั่งอวยพรให้คู่บ่าวสาวจึงเสมือนเป็นการอวยพรให้ครองรักกันยั่งยืน อีกทั้งน้ำพระพุทธมนต์ที่หลั่งออกมาจากสังข์ยังถือเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยเสริมสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาวอีกด้วย

คู่รักที่กำลังเตรียมงานแต่งพิธีไทยรีบดาวน์โหลด แจก!! ขั้นตอนลำดับพิธีแต่งงานไทยฉบับสมบูรณ์ เตรียมไว้ใช้จะได้ไม่ติดขัด

ไม่ไหวอย่าฝืน! กับ 8 สัญญาณเตือนภัยปัญหาชีวิตคู่ เกิดขึ้นเมื่อไหร่อย่าไปต่อ

ความสัมพันธ์ของคนสองคน ไม่ได้จะหวานเสมอไป และแพรวเวดดิ้งไม่ได้อยากให้คุณไม่ยอมรับความจริงในเรื่องความสัมพันธ์ที่อาจเปลี่ยนไป ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคู่รัก แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ถ้าคุณได้พยายามจนสุดทางแล้ว หากว่ายังเจอเรื่องต่อไปนี้จากอีกฝ่าย หรือเกิดรู้สึกขึ้นกับตัวเองขอให้คิดดีๆ ว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้กับ ปัญหาชีวิตคู่ ที่ไม่ไหวอย่าฝืน!

ปัญหาชีวิตคู่ บางครั้งก็เกินจะรับไหว อาจจะถึงเวลาบอกลา

Photo by Boho Photography from Pexels

1. ทำผิดซ้ำซาก

ไม่ว่าจะผิดเรื่องผู้หญิง เรื่องการลงไม้ลงมือ การกินเหล้าเมามายจนมากเกินขอบเขต คุยกันก็แล้ว ลองหาวิธีมาดูแลและจูงใจให้ปรับเปลี่ยนพฤติก็ยังไม่มีอะไรดี แถมยังหนักข้อขึ้น คุณจะไหวต่อไปอีกนานแค่ไหน

2. ระแวงไม่สิ้นสุด

เป็นหรือเปล่าคะ ที่ตัวคุณเองรู้สึกว่าการอยู่ด้วยกัน ไม่ได้อยู่แล้วปลอดโปร่งโล่งใจ แต่อยู่แล้วต้องระแวงตลอดเวลา แค่แฟนขับรถออกนกบ้านไกลสายตาก็ต้องโทรฯ เช็คหรือให้รายงานตัวทุกชั่วโมง ถ้าเป็นละก็ ถามตัวเองนะคะ อยากสบายใจไหม อยากปลอดโปร่งใจหรือเปล่า

Photo by cottonbro from Pexels

3. ไร้ซึ่งความเป็นเรา นึกถึงแต่เรื่องของตัวเอง

ไม่ว่าคุณหรือเขา ถ้าสิ่งที่ทำอยู่บ่งบอกว่า คิดถึงแต่ตัวเองหรือครอบครัวตัวเองก่อน ประมาณว่าต้องทำทุกอย่างให้กับตัวเองเท่านั้น นั่นก็เป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่า ความรู้สึกของคุณไม่ได้มีเขาอยู่สักเท่าไหร่ ลองถามตัวเองดูนะคะ คุณหรือคู่องคุณเป็นแบบนั้นไหม

4. ทำทุกสิ่งแบบมีข้อแม้

ไม่มีความเสียสละ อยากจะทำอะไรให้กันต้องมีข้อแม้ มีข้อแลกเปลี่ยน แบบนั้นไม่ได้เรียกว่าใจแลกใจแล้วค่ะ

Photo by Vera Arsic from Pexels

5. รำคาญบุพการีของอีกฝ่าย

เรื่องบุพการีถือเป็นเรื่องใหญ่นะคะ ถ้าคุณเจอว่าคู่ของคุณแสดงกริยารำคาญบุพการีต่างๆ นานา ทั้งชักสีหน้าใส่ เสียงดังใส่ ทำบ่อยๆ เข้าจนแม้คุณเตือนก็ยังทำอยู่ละก็ ลองคิดดูนะคะว่า คุณจะไปต่อกับคนแบบนี้ได้นานแค่ไหน

6. ไม่คิดจะปรับตัว

ก่อนแต่งงานนิสัยด้านลบเป็นแบบไหน หลังแต่งงานก็ไม่เคยเปลี่ยน ถ้ามันไม่ร้ายแรงเชื่อว่าคงมองข้ามกันได้ แต่ถ้าเจอเรื่องหนักๆ เช่นการใช้เงินมือเติบ ไม่คิดจะเก็บไม่คิดจะหา แถมยังสร้างหนี้ ติดการช้อปออนไลน์ทั้งๆ รายได้ไม่อำนวย หรือจะเป็นนิสัยประเภทเข้ากับใครไม่ได้ ฉันคือศูนย์กลางทุกอย่าง แบบนั้นละก็ พอเถอะ ปล่อยเขาอยู่ในโลกส่วนตัวของเขาไปคนเดียวดีที่สุด

Photo by cottonbro from Pexels

7. อยู่ต่อเพราะกลัวโดนเม้า

เรื่องนี้อันตรายเป็นที่สุด แต่เชื่อไหมคะว่า หลายคู่ในสังคมโลกนี้ยังเป็นอยู่ เพียงเพราะว่าไม่อยากโดนเม้า ทั้งๆ ที่ใจไม่ไหวจะอยู่แล้ว ก็เลยขอทนอยู่กันไปในหลังคาเดียวกัน แบบแยกกันอยู่คนละมุม ต่างคนต่างใช้ชีวิต เรียกว่าเป็นเพื่อนร่วมบ้านมากกว่า คิดดูสิคะว่า ความรู้สึกแบบนั้น มันตัดโอกาสชีวิตที่ดีในอนาคตของตัวเองขนาดไหน

8. อยู่ไปวันๆ ไม่เห็นอนาคต

เคยคุยเรื่องอนาคตข้างหน้าร่วมกันไหม ว่า 10 ปี 20 ปีต่อไป เราจะเป็นยังไง เราจะมีลูกไหม ถ้ามีจะมีกี่คน เลี้ยงดูยังไง ถ้าไม่มีเลย ก็เป็นสัญญาณบอกอย่างหนึ่งว่า เตรียมตัวแยกย้ายเถอะค่ะ เพราะการไม่มีแผนที่จะมองไปข้างหน้าด้วยกัน ก็เหมือนคุณทั้งคู่ไม่ได้มีปลายทางร่วมกันสักนิด แล้วจะอยู่รออะไรล่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

10 นิสัยผู้หญิงที่ผู้ชายถึงกับต้องส่ายหน้า ไม่อยากให้เขาหนีอย่าทำ!

7 วิธีเผชิญหน้าแฟนเก่าแบบไหลลื่นไม่กระอักกระอ่วนทั้งสองฝ่าย

รับมือกับ Groomchilla ถึงเวลาจับเจ้าบ่าวสุดชิลมาช่วยเตรียมงานแต่ง

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ จาก 2 ร้านชุดแต่งงาน ตอบโจทย์ทั้งสไตล์และบัดเจ็ต

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ คืออีกหนึ่งชุดไทยที่บรรดาเจ้าสาวสมัยใหม่ให้ความสนใจ ด้วยดีไซน์ที่เก๋ โดดเด่น อีกทั้งยังสวมใส่ง่ายกว่าชุดไทยพระราชนิยมแบบปกติ ทำให้ได้ชุดไทยแบบผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์นที่สวยงาม คล่องตัว ตอบสนองการใช้งานในพิธีต่างๆ บางชุดยังได้รับการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนนำไปใช้ได้หลายงาน แพรว wedding จึงขอพาไปชมชุดไทยประยุกต์จากแบรนด์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันงดงาม – เรื่อง : Tomalin

VANUS FIRST

“คุณสรรค์ สุดเกตุ” แห่ง Vanus Couture ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ชุดแต่งงานสุดวิจิตรทั้งแบบไทยและแบบตะวันตก เปิดแบรนด์ใหม่สุดพรีเมียมในนาม Vanus First เพื่อเสิร์ฟความพิเศษแบบ Customized ให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ ดังเช่นชุดไทยประยุกต์สุดหรูหราเปี่ยมดีเทล

ชุดแรกโดดเด่นด้วยท่อนบนปักประดับคริสตัลระยิบระยับ ผ้านุ่งลวดลายโบราณและกระโปรงด้านหลังยาวฟูฟ่อง คุณสรรค์เล่าถึงที่มาว่า “โจทย์ของชุดนี้คือต้องเป็นชุดไทยที่เซ็กซี่มีความซีทรู เพราะเจ้าสาวเซ็กซี่มาก ต้องบอกว่าเจ้าสาวเป็นคนรุ่นใหม่ที่แต่งงานกับคนต่างชาติ
จึงอยากให้เจ้าบ่าวได้เห็นความเป็นไทยบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้ดูไทยจ๋ามาก ขณะเดียวกันในงานก็มีผู้ใหญ่เยอะทำอย่างไรให้มีความเป็นไทย แต่เซ็กซี่และไม่โป๊ ผมจึงออกแบบให้เป็นชุดไทยประยุกต์ที่สามารถใส่เป็นชุดราตรีได้ด้วย มีส่วนผสมของความเป็นสากลเบาๆ จากกระโปรงฟูฟ่อง
ที่สวมทับผ้านุ่ง จุดเด่นอยู่ที่ท่อนบนซึ่งประยุกต์มาจากชุดไทยจักรีที่ห่มสไบ แต่เป็นซีทรูทั้งหมด ซึ่งเมื่อสวมใส่แล้วจะเห็นเนื้อผิวเบาๆ แต่ไม่โป๊ เพราะเราปักคริสตัลกับปิดด้วยสไบโปร่งใสปักประดับอีกชั้นช่วยให้ดูเรียบร้อยขึ้น

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“โดยตัวเสื้อกับสไบเป็นงานปักมือทั้งหมดจนออกมาเป็นลวดลายลูกไม้ ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินชมงานศิลปะตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เราใช้ทั้งเลื่อมขาว เลื่อมแบบใส และคริสตัลหลากหลายรูปทรงทั้งเหลี่ยมและกลม เพื่อให้เกิดลวดลายที่มีน้ำหนักและมิติ ไม่แบน ส่วนท่อนล่างเป็นผ้านุ่งทำจากผ้าไหมยกใหญ่สอดดิ้นเงินของลำพูน (ยกใหญ่คือลักษณะวิธีการทอไหม จะมีเชิงที่หัวและท้ายผ้า ลายจะประณีตและสวยกว่ายกเล็กที่มีเชิงอยู่ด้านเดียว) ซึ่งได้รับตรานกยูงพระราชทาน และได้ขึ้นทะเบียนของกรมหม่อนไหม โดยปักประดับเลื่อมและคริสตัลเป็นลวด
ลายวนัชหรือลายดอกบัวที่หน้านางกับชายกระโปรง ส่วนที่เหลือเว้นโล่งไว้เพื่อชูลวดลายของผ้ายกให้โดดเด่น แล้วเติมกระโปรงหางปลาทำจากผ้าทูล (tulle) เข้าไป ซึ่งกระโปรงนี้สามารถปลดออกได้เพื่อให้เหลือแต่ผ้านุ่งเดี่ยวๆ สำหรับงานเช้า แล้วค่อยใส่ตัวกระโปรงฟูๆ เข้าไปสำหรับงานเลี้ยงฉลอง ชุดนี้ใส่ได้เช้าถึงเย็นเลย

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“เนื่องจากชุดนี้มีการปักประดับค่อนข้างเยอะแล้ว เวลาใส่จริง ผมแนะนำให้เจ้าสาวลดทอนเครื่องประดับลงหน่อย เหลือแค่เข็มขัดกับต่างหูก็พอ อย่างเข็มขัดที่นำมาวันนี้เป็นเครื่องประดับของอาจารย์ไพโรจน์ สืบสาม เรียกว่าเป็นงานชั้นครูซึ่งหากเจ้าสาวคนไหนอยากได้เครื่องประดับพิเศษเพิ่ม เราก็สามารถยืมงานอาจารย์มาให้ได้ครับ

“ส่วนอีกชุดเป็นชุดในจินตนาการของผมเอง ใช้ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสแล้วนำมาปักประดับเพิ่ม โดยออกแบบด้านล่างให้เป็นเหมือนผ้านุ่งที่มีจีบหน้านางและใส่เข็มขัดแบบไทย ไอเดียมาจากนางฟ้าแบบฝรั่งผสมกับเทพธิดาของไทย อย่างท่อนบน ถ้าตามเทพนิยายกรีก นางฟ้าก็ต้องมีปีกจึงเลือกใช้ขนนกมาเป็นจุดเด่นของชุด โดยทำเป็นชุดคอวีลึกแขนกุดประดับขนนกกระจอกเทศเพื่อปิดช่วงส่วนเกินตรงต้นแขน ตอบโจทย์เจ้าสาวที่ไม่มั่นใจบางจุด กลัวอ้วนหรือกลัวโป๊ ชุดนี้ท่อนบนเป็นซีทรู แต่เวลาใส่จริงมีซับในสีนู้ดที่เราคัดผ้าให้เป็นเฉดสีเดียวกับผิวเลย ถ้ากลัวโป๊ก็สามารถทำซับในเป็นแบบเกาะอกได้ เพราะชุดนี้คอค่อนข้างลึก

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“ส่วนกระโปรงทำเป็นทรงผ้านุ่ง แต่ชายเป็นแบบเมอร์เมด โดยคงซิกเนเจอร์แบบไทยไว้ คือหน้านางกับการปักลายแบบไทย โดยการเซาะลูกไม้
มาวางแล้วปักทับให้มีเอฟเฟ็กต์มีมิติ ดูรวมๆ แล้วชุดนี้ก็เป็นเหมือนนางฟ้านางสวรรค์

“ยุคนี้สัดส่วนของเจ้าสาวที่เลือกชุดไทยประยุกต์ใกล้เคียงกับชุดไทยพระราชนิยมนะครับ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าสาวสมัยใหม่ อยากได้ความมินิมัล
หรือโมเดิร์นหน่อย ให้มีส่วนผสมที่ไม่ดูเป็นไทยจัดๆ หรือบางกลุ่มก็ต้องการให้ไปได้ถึงสองประเพณี เช่น ไทยบวกจีน คือจัดงานไทยแล้วอาจต่อด้วยยกน้ำชา ดังนั้นชุดไทยประยุกต์จะตอบโจทย์คนที่ต้องการความยืดหยุ่นพอสมควร ส่วนเจ้าสาว ผมแนะนำว่าควรมาคุยกันและมาลองชุดก่อน ส่วนใหญ่เจ้าสาวจะคิดมาแล้วว่าอยากได้ชุดแบบไหน แต่หลายครั้งก็มาเปลี่ยนหน้างานหลังจากได้ลองชุดแล้ว เพราะจะเห็นเลยว่าแบบไหนที่ใส่แล้วดูสวยโปร่ง เพรียวบาง หรือช่วยปกปิดจุดบกพร่องเสริมความมั่นใจ แต่หลักๆ ที่ต้องตกลงกันเลยคือ ชุดของเราจะมีสัดส่วนความเป็นวนัชอยู่ที่ 60 – 70 เปอร์เซ็นต์ และมีความเป็นตัวเจ้าสาวอยู่ 30 – 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะการที่เขาเลือกแบรนด์เรา แปลว่าเขาชอบงานเราแล้ว ที่เหลือคือเราต้องประยุกต์ให้เข้ากับเขา

“จุดเด่นของแบรนด์เราที่ทำให้ลูกค้าชอบคือ เราพิถีพิถันกับวัตถุดิบ โดยเฉพาะแบรนด์วนัช เฟิร์ส ซึ่งแตกต่างจากวนัชกูตูร์ตรงที่มีการดูแลลูกค้า
แบบให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า และเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมมากๆ ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุที่จะนำมาใช้ได้หมดเลย อย่างสมมติผ้าไทยเราก็
จะใช้ผ้าไทยจริงๆ อย่างไหมแพรวา ไหมลำพูน ไหมปักธงชัย ซึ่งเวลาสวมใส่แล้วจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะเวลาไหมสะท้อนแสง
จะแวววาวแบบเป็นธรรมชาติ ไม่วิบวับเหมือนผ้าพอลิเอสเตอร์ โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ตั้งแต่เส้นไหมว่าจะใช้ไหมแบบไหน เรามีตัวอย่างผ้ามาให้เลย รวมไปถึงลวดลายที่จะทอ ซึ่งเราจะส่งขึ้นทะเบียนที่กรมหม่อนไหมให้ด้วยว่าจะตั้งชื่อลายว่าอะไร เพราะเราออกแบบให้คุณโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับตัวคริสตัล ถ้าเป็นลูกค้า Customized เราจะมีชาร์ตให้เลือกจากสวารอฟสกี้เลยว่า อยากใช้นัมเบอร์อะไร รูปทรงไหน เพื่อสร้างเป็น
กิมมิกแต่ละคนไม่ให้เหมือนกัน นอกจากนี้ผมยังบินไปต่างประเทศเพื่อคัดลูกไม้และวัสดุต่างๆ เอง เพราะอยากให้แต่ละชุดมีความเฉพาะตัวชนิดที่หาไม่ได้อีกแล้ว ต่อให้มีชุดที่คล้ายแต่ก็แค่ใกล้เคียง รายละเอียดจะไม่เหมือนกัน จึงชื่นใจทุกครั้งเวลาลูกค้ามีฟีดแบ็กกลับมาว่าชุดของเราแตกต่างไม่เหมือนใคร

“แบบดูก็รู้ว่านี่แหละ Vanus”

ภาพ : อิทธิศักดิ์ ผู้ช่วยช่างภาพ : ณรงศักดิ์ บำรุงกิจ

 

CHAONANG WEDDING

“เจ้านาง เวดดิ้ง” กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เจ้าสาวรุ่นใหม่ ด้วยงานที่พิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด เอาใจใส่และเข้าใจความต้องการของลูกค้าทำให้ได้ผลงานที่สวยงามโดดเด่น และเข้ากับตัวตนของเจ้าสาว

สำหรับชุดไทยประยุกต์ที่ทางร้านนำมาให้ชมวันนี้ คุณก้อย – ดาริษา รัตนธนาภัทร์ ได้ร่วมออกแบบกับทีมช่างขึ้นมาเป็นพิเศษให้ชุดเดียวสามารถนำไปปรับใช้ได้ถึง 3 แบบ สำหรับพิธีไทยในช่วงเช้า งานเลี้ยงตอนค่ำ ไปจนถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้กันเลยทีเดียว เริ่มกันที่ชุดไทยในช่วงพิธีการ คุณก้อยเล่าว่า “เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการแต่งงานเปลี่ยนไปพิธีการค่อนข้างสั้น กระชับ โจทย์ของเราคือทำชุดไทยประยุกต์ที่สามารถใส่ได้ง่าย จึงออกแบบชุดที่มีคัตติ้งเรียบโก้สไตล์มินิมัลและสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในงานกลางคืนต่อได้อย่างรวดเร็วทันเวลา ลดขั้นตอนการหาชุดและเวลาแต่งตัวของเจ้าสาว แต่คงรายละเอียดชุดไทยและงานเลี้ยงฉลองไว้อย่างครบถ้วนด้วยการผสมผสานผ้าลูกไม้และลายปักให้ดูทันสมัย

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“โดยชุดนี้ประยุกต์มาจากชุดไทยจักรีที่มีการห่มสไบ โดยออกแบบให้ด้านในเป็นจั๊มป์สูท (เสื้อ – กางเกงติดกัน) ไหล่เดี่ยว แล้วสวมทับด้วยซิ่นสำเร็จที่มีจีบหน้านางและชายหางปลา ติดซิปด้านหลัง สวมใส่ได้ง่าย แล้วห่มทับด้วยสไบซึ่งอาจทำเป็นกระดุมแป๊กติดไว้เพื่อให้เจ้าสาวสวมใส่
เองได้ แต่หากอยากให้ออกมาดูเนียนหน่อยอาจต้องใช้วิธีเย็บสด ซึ่งไม่ยากค่ะ เราจะตามไปทำให้ในวันงาน

“จุดเด่นของชุดอยู่ที่ลวดลายปักซึ่งเราดีไซน์ขึ้นมาเอง ทุกครั้งที่ทำงานเราจะดีไซน์ลายใหม่หมดและเป็นงานปักมือทั้งสิ้น อย่างลายปักบริเวณจีบหน้านางเป็นลวดลายช่อดอกทานตะวัน แทนสัญลักษณ์ของแสงสว่างในยามรุ่งอรุณซึ่งเป็นช่วงเวลาจัดพิธีไทย เพื่อเพิ่มพลังและเป็นมงคลในชีวิต สำหรับลายปักบนสไบนั้นเป็นลายปักลูกไม้ที่ม้วนเป็นเกลียวเถาวัลย์เลื้อยสลับกันไปสื่อถึงรักกันกลมเกลียว ลายเถาวัลย์นี้ยังพาดผ่านต่อเนื่องยาวไปถึงด้านหลังของสไบสื่อถึงความรักที่ยืนยาว ส่วนลายปักรูปดอกไม้บานก็เปรียบเสมือนความรักที่เบ่งบาน ทุกอย่างมีความหมายหมดค่ะ

“ในเรื่องของเนื้อผ้า ชุดนี้เราเลือกผ้าไหมมิคคาโด้สีขาวออฟไวท์มาทำเป็นจั๊มป์สูทและกระโปรงซิ่นให้ความหรูหราเล็กๆ ได้อารมณ์เหมือนชุดราตรี เพราะเป็นชุดไทยในสไตล์โมเดิร์นมาก ๆ แต่เจ้าสาวต้องผิวขาวหน่อยจึงจะใส่สีออฟไวท์แล้วสวย ถ้าผิวสองสี ผิวคล้ำ อาจต้องเปลี่ยนเป็นโทนสีทองหรือชมพูกลีบบัวจะช่วยขับผิวให้สว่างขึ้น ส่วนสไบทำจากผ้ากึ่งไหมที่มีลายแวววาวอยู่ในตัว เวลาโดนแสงสไบจะดูมีเลเยอร์เด่นออกมาจากตัวชุดเลยค่ะ

“พอถึงช่วงงานกลางคืน เราก็แค่ถอดผ้าซิ่นและปลดสไบออก เหลือแค่ตัวจั๊มป์สูท แล้วสวมเสื้อลูกไม้ปักเลื่อมระยิบระยับเข้าไปเพื่อเพิ่มจุดเด่น
ให้เจ้าสาวในยามค่ำคืน คอเสื้อเป็นคอตั้งปักมุกเพื่อให้เรียบหรูดูแพงด้านหลังเสื้อจะมีกระดุมลายดอกกุหลาบประดับเพชรซึ่งเป็นซิกเนเจอร์
ของร้าน ส่วนท่อนล่างมีกางเกงจั๊มป์สูทที่ปักชายกางเกงเป็นลายเถาไม้ขึ้นมาเพื่อให้รับกับความแวววาวของตัวเสื้อ และมีกระโปรงทำจากผ้าออร์แกนดี้ต่อด้านหลัง (ใช้ตะขอเกี่ยว) ให้มีความหวานขึ้น เราเลี่ยงไม่ปักที่ตัวกระโปรงเพราะเดี๋ยวจะดูทึบและแน่นเกินไป หลังจบงานเลี้ยงฉลองแต่งงานแล้วพอเข้าสู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ถอดกระโปรงออก ใส่แต่เสื้อลูกไม้กับจั๊มป์สูท หรือจะถอดเสื้อลูกไม้ออกเหลือแค่จั๊มป์สูทเรียบๆ ตัวเดียวก็ได้ คล่องตัว เท่ๆ ไปอีกแบบ แด๊นซ์ได้ทั้งคืน

“สรุปว่าตอนค่ำ ชุดนี้จะมีทั้งหมด 3 ชิ้น คือ จั๊มป์สูท เสื้อลูกไม้ และกระโปรง ซึ่งลูกค้าสามารถนำบางชิ้นไปใช้ต่อในงานอื่นได้ ที่ผ่านมาเคยทำให้เจ้าสาวบางคนในลักษณะใกล้ๆ กันนี้มาแล้ว คือทำแยกเป็นชิ้นๆ ปรากฏเขานำเสื้อไปใช้ในงานเลี้ยงบริษัท กระโปรงก็นำไปใส่ในงานอื่นได้ เป็นชุดแต่งงานที่ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวจบ ลูกค้าแฮ็ปปี้มากค่ะ ดังนั้นความต้องการของลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก หรือถ้ามีบัด
เจ็ตมาแล้วก็มาคุยกันได้ เพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ เราเข้าใจ ก็จะคุยกับลูกค้าตรงๆ เช่น ถ้ามีบัดเจ็ตเท่านี้จะได้ผ้าลักษณะนี้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นผ้าอีกชนิด เพิ่มราคานิดหน่อย แต่จะดูหรูหราขึ้นมาเลย ไหวไหม ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะชอบ เพราะสิ่งที่ออกมานั้นคุ้มค่ามาก

“จึงอยากให้เข้ามาคุยกันก่อน ไม่ต้องเกร็งหรือกดดัน จะเลือกเราหรือไม่ก็ไม่ซีเรียส เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่า ‘เราคือเพื่อนคู่ใจ’ ที่สามารถปรึกษาให้คำแนะนำในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะแบบชุด ธีมงาน รูปร่าง หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เราจัดการได้หมด เช่น ถ้ามีหน้าท้อง เราก็จะออกแบบชุดไทยให้ท่อนล่างมีสีเข้มและมีสะพักปิดหน้าท้อง คือปรับเปลี่ยนเพื่อปกปิดจุดบกพร่องและเพิ่มจุดเด่นให้คุณโดดเด่น งานของเราจึงมีความยูนีค เพราะอยากให้เจ้าสาวรู้สึกภูมิใจในความเป็นหนึ่งเดียว ได้สวมใส่ชุดที่เป็นของตัวเองคนเดียว

“สมกับที่เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต”

ภาพ : วรสันต์ ผู้ช่วยช่างภาพ : ณัฐชา ชาวเกวียน

เสื้อผ้า : Vanus First
โทร. 09-1750-1111
เฟซบุ๊ก : Vanus First – วนัชเฟิร์ส
ไอจี : @vanusfirst_official

เจ้านางเวดดิ้ง
โครงการธนบุรีคอมเพล็กซ์ ซอย 8
ถนนพระราม 2 ซอย 60 (ใกล้เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2)
โทร. 08-6363-6555, 08-8089-5999
เว็บไซต์ : www.chaonangwedding.com
เฟซบุ๊ก : Chaonang Wedding – เจ้านางเวดดิ้ง
ไอจี : @chaonangwedding
ไลน์ : @chaonangwedding

อ่านบทความเพิ่มเติม

3 แบบเทรนด์ชุดเจ้าสาว ตัดครั้งเดียวแต่นำกลับมาใส่ซ้ำได้หลายโอกาส

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแต่งชุดไทยพระราชนิยมให้สมส่วนสวยปังในวันวิวาห์

เคล็ดลับเลือกชุดแต่งงานชุดไทย ก่อนที่บ่าวสาวจะตัดสินใจเซย์เยส

ทรงผมเจ้าสาวสไตล์ Bun แบบมินิมอล จะแต่งปีไหนก็ทำได้ไม่มีเอ๊าต์

Best Bridal Bun ทรงผมเจ้าสาว สุดคลาสสิค

บ่อยครั้งที่เราเห็นภาพแต่งงานเก่าๆ ของหลายคนแล้วเผลอรำพึงว่า เธอไม่น่าพลาดเลือกทรงผมแบบนี้ในวันสำคัญเล้ย!!! เพราะความเยอะแยะรุงรังห้อยย้อยนั้น ย้อนกลับมาดูอีกครั้งทำไมมันช่างดูทั้งเอ๊าต์ทั้งแย่งซีนความสวยของเจ้าสาวจนแอบเสียดายโมเมนต์ดีๆ แทน – เรื่อง Padcha_Praewnista

สำหรับเจ้าสาวที่มีช่วงคอเรียวยาวสวยระหง ช่วงไหล่ที่น่ามองอยู่แล้ว ทรงผมมวยหรือที่เรียกว่าการเกล้าบันนี่แหละสวยส่งเสริมยิ่ง เพราะจะทำให้ช่วงคอดูโปร่ง เพรียว เหมือนน้ำหนักหายไปหลายกิโล

ดีเทลของผมมวยมีหลากหลาย ทั้งเกล้าสูงและต่ำ ความเยอะมีมากน้อยต่างกัน ทั้งมวยเรียบตึงเป็นลูกกลมเนี้ยบ มีสไตล์เป็นมินิมัลชัดเจน ผมมวยแบบลูกจันทน์บิดเป็นเกลียวมีรูตรงกลางเหมือนโดนัท ไปจนถึงมวยกึ่งเปียหากชอบสไตล์ที่มีดีเทลเพิ่มขึ้นไปอีก

TIPS & TRICKS
ทิปส์ในการเลือกมวยผมให้เหมาะสมอยู่ที่ระดับความสูงต่ำของมวยเป็นสำคัญ สาวรูปหน้ายาวแบบที่มีหน้าผากกว้างหรือมีคางยาวกว่าปกติไม่ควรเลือกมวยสูง และไม่ต้องยกโคน ไม่ยีฟูเพราะจะทำให้รูปหน้ายิ่งดูยาวผิดสัดส่วน ควรเลือกมวยต่ำหวีเรียบแล้วค่อยมาใส่ดีเทลที่เครื่องประดับผมจะดูเก๋เข้ากับรูปหน้าได้ดีกว่า

Perfect Pairing

Bun Hairstyle + Stud Earrings

ทรงผมเจ้าสาว

ไม่ถึงกับเป็นกฎเหล็ก แต่ผมบันกับต่างหูแบบติดหูหรือห้อยลงมาเพียงสั้นๆ ดึงดูดความสนใจไปที่ช่วงคอ ดูคลาสสิกปนเซ็กซี่ สวย รอดง่าย

Bun Hairstyle + Hairpin

ทรงผมเจ้าสาว

มวยเรียบสวยจะดูเก๋แถมไม่เสียคอนเซ็ปต์ความมินิมัลได้ด้วยปิ่นมุกลายดาวหรือดอกไม้เล็กๆ แต่งลงไปแค่ 2 – 3 อัน เพิ่มดีเทลความน่าสนใจ
ให้ผมมวยเรียบๆ ได้เยอะเชียว

Bun Hairstyle + Ribbon

ทรงผมเจ้าสาว

หากต้องการให้ทรงผมเรียบหรูดูโรแมนติกขึ้นลองจับคู่ผมมวยกับโบทั้งเส้นเล็กเส้นใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการร้อยถักโบเข้าไปในเปียแล้วขมวดให้เป็นมวย หรือเกล้ามวยเรียบแล้วผูกโบเส้นเล็กทิ้งหางยาว ใส่กับชุดเจ้าสาวแบบเปิดหลังแล้วสวยน่ามองสุดๆ

Bun Hairstyle + Crown/Headband

ทรงผมเจ้าสาว

เติมความสง่างามให้ผมมวยต่ำด้วยมงกุฎทรงเตี้ยกำลังน่ารัก อย่างที่นางเอกเอมมี่ รอสซัม เคยใส่ไปเฉิดฉายบนพรมแดง หรือที่คาดผมมุกแสนสวยรับกับผมแสกกลางช่วยเน้นกรอบหน้าให้เด่นสมเป็นวันสำคัญ

Bride in Focus

Miranda Kerr

นางฟ้ามิแรนด้างามสุดๆ กับลุคเจ้าสาวผมมวยต่ำแสกกลางจับคู่กับที่คาดผมดอกไม้อันโต รับกับชุดเจ้าสาวผ้าไหมเรียบหรู แต่ไม่ถึงกับดูเป็นทางการจนเกินไป

ทรงผมเจ้าสาว

Hailey Baldwin

เจ้าสาวของหนุ่มจัสติน บีเบอร์ เลือกผมบันเกล้าต่ำแสกกลางมาจับคู่กับชุดเจ้าสาวเปิดไหล่ ติดเวลเจ้าสาวด้านหลังปุ๊บก็สวยครบพร้อมเข้าพิธี

STAR in FOCUS

ถามว่าสาวฮอลลีวู้ดคนไหนสไตลลิ่งผมเกล้าบันได้งดงามหลากหลาย สมควรแก่การให้เจ้าสาวได้จำไว้ใช้มากที่สุด ต้องยกให้แอล แฟนนิ่ง ด้วยบทบาทเจ้าหญิงออโรร่าที่ฮิตยาวนาน มีรอบกาล่าหลายรอบหลายภาคให้น้องแอลได้โชว์ทรงผมเกล้ามวยสไตล์โรแมนติกอยู่บ่อยครั้ง

ทั้งมวยเกล้าสูงติดช่อดอกไม้แห้งทิ้งโบหางยาวในตำนาน สู่มวยสูงกับที่คาดผมเพชรจากแบรนด์ MIU MIU มวยเรียบจับค่กับต่างหูอันใหญ่เบิ้ม มวยต่ำแสกข้างติดเครื่องประดับเพชรที่ล้วนสวยโรแมนติกชวนตะลึง เหล่านี้ต้องชี้เป้าว่าเหมาะกับความเป็นเจ้าสาวแบบสุดๆ

อ่านบทความเพิ่มเติม

มิกซ์ให้แมทช์ทรงผมเจ้าสาวกับชุดแต่งงานในฝัน สวยเป๊ะทุกองศา

รวม 20 แบบ ผมเจ้าสาว เกล้ามวย สำหรับเจ้าสาวทุกลุคแบบจัดเต็ม!

15 สไตล์ผมเจ้าสาว ตั้งแต่ผมสั้นไปจนถึงผมสั้นมากของเจ้าสาวตัวจริง

HOT! Bridesmaid Dress 5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาว ใส่ได้ยาวถึงปีหน้า

สำหรับ ชุดเพื่อนเจ้าสาว ทั้งชุดสากลหรือชุดราตรีค่อนข้างฟรีสไตล์และมีแบบให้เลือกมากมาย เอาเป็นว่าให้ดูเรื่องของธีม สี และสถานที่ จากนั้นเพิ่มเติมด้วยไอเดียเหล่านี้ค่ะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ต่างได้…แต่ต้องไปด้วยกัน

  • ต่างด้วยดีไซน์ เลือกใช้ผ้าแบบเดียวกัน แล้วใช้ดีไซน์แตกต่าง ข้อนี้ถือว่าปลอดภัยและสวยงาม
  • ต่างด้วยเนื้อผ้า เช่น บางคนใช้ผ้าลูกไม้ อีกคนอาจใช้ผ้าซาตินหรือชีฟอง แต่สวยมาในเฉดสีเดียวกัน ถือว่ายังได้อยู่

HOT! Bridesmaid Dress

  • Satin & Silk

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากสาวๆ นั่นคือ เดรสผ้าซาตินและผ้าไหม เนื่องจากเนื้อผ้ามีความมันวาว เนียนไปกับรูปร่าง เรียบหรูดูแพงแบบ
ไม่ต้องแต่งเยอะ ใส่เครื่องประดับเพียงน้อยชิ้นก็สามารถคอมพลีตลุคสวยจบและไม่แย่งซีนเจ้าสาวแน่นอน

  • Halter Neckline

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดเดรสคล้องคอ หรือมีดีเทลผูกช่วงคอเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะด้วยซิลลูเอตต์ที่สวยงามเสริมให้เหล่าเพื่อนเจ้าสาวดูมีเสน่ห์และ
รูปร่างที่สง่างาม

  • Cowl Neckline

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

เดรสที่มีดีเทลบริเวณหน้าอก หรือเรียกง่ายๆ ว่าเดรสคอถ่วง ซึ่งเป็นซิลลูเอตต์ที่ได้รับความนิยมเมื่อยุค 90 และกลับมาฮ็อตฮิตอีกครั้งในหมู่สาวๆ เมื่อ 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และยาวต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยนิยมเลือกเป็นเดรสผ้าซาตินที่มีความมันวาว อีกทั้งด้วยน้ำหนักที่เบา แพตเทิร์นที่เรียบง่าย ทำให้คล่องตัวสามารถใส่ยาวไปถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้เลย

  • Infinity Dress

ต้องบอกว่ามาแรงแซงทางโค้งมากๆ สำหรับ Infinity Dress หรือพูดให้เห็นภาพคือ ชุดราตรียาวที่ท่อนบนออกแบบให้มีผ้า 2 ชิ้น เพื่อให้คุณครีเอตชุดของตัวเองได้ตามใจชอบ โดยการผูก มัด ดีไซน์ออกมาได้ทั้งเดรสเกาะอก ไหล่เดียว คล้องคอ ซึ่งข้อดีของชุด Infinity Dress ก็คือ เพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนสามารถครีเอตชุดของตัวเองได้ ไม่ต้องเถียงกันให้วุ่นว่าย แถมยังมั่นใจด้วยว่าทุกคนมาในธีมเดียวกัน

แต่ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียนะคะ เพราะว่าเป็นชุดที่ต้องผูก มัด พันเองฉะนั้นกว่าจะได้แบบที่สวยงามอาจต้องใช้เวลา และถ้ารูปร่างไม่ได้เป๊ะปัง
ก็อาจจะสร้างความกังวลใจเวลาสวมใส่ให้กับสาวๆ ได้เช่นกันค่ะ

  • Wrap Dresses

เดรสผูกหน้าหรือเดรสผูกช่วงเอว เหมาะสำหรับเหล่าเพื่อนเจ้าสาวที่ใส่ชุดแบบเดียวกัน เพราะว่าเหมาะกับสาวๆ ทุกรูปร่าง เนื่องจากซิลลูเอตต์ทรงหลวม ไม่รัดหรือเน้นสัดส่วนเฉพาะส่วน อีกทั้งเชือกผูกด้านหน้าสามารถปรับได้ตามความเหมาะสม

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 ทริคเลือกและตัดสินใจเรื่องชุดเพื่อนเจ้าสาวยังไงให้มีความสุข

เช็กนิสัยเพื่อนเจ้าสาวแต่ละราศี ให้พร้อมรับหน้าที่สำคัญในวันแต่งงาน

4 ไอเดีย ชุดเพื่อนเจ้าสาว แบบ Mix แต่ไม่ Match ยังไงให้สวยเริด!

คอลเล็คชั่นชุดแต่งงานไทยประยุกต์จาก Deep Love Wedding สวยทุกมุมมอง

Shade of Light คอลเล็คชั่น ชุดแต่งงาน ไทยประยุกต์จาก Deep Love Wedding ความงามรูปแบบใหม่ที่สวยสะกดทุกมุมมอง

ชุดแต่งงานไทย

คุณเจี๊ยบ – ชยานิษฐ์ พฤตพีระวิทย์ กรรมการบริษัทดีพ เลิฟ จำกัด ผู้นำเทรนด์ด้านชุดแต่งงานที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการเวดดิ้งมายาวนานกว่า 15 ปี และล่าสุดคือผู้อยู่เบื้องหลัง ชุดแต่งงานไทย คอลเล็คชั่นใหม่ของห้องเสื้อ Deep Love Wedding ที่ออกแบบมาเพื่อเอาใจว่าที่เจ้าสาวสมัยใหม่โดยเฉพาะกับชุดไทยที่สามารถปรับเปลี่ยนลุคได้ภายใต้ชุดแต่งงานเพียงชุดเดียว

“Shade of Light”

ชุดไทยคอลเล็คชั่น “Shade of Light” เป็นการนำโครงสร้างของชุดไทยพระราชนิยมมาดีไซน์ใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น และตอบโจทย์
รูปแบบการจัดงานในปัจจุบัน ซึ่งคอลเล็คชั่นนี้ได้แรงบันดาลใจในการรังสรรค์ชุดไทยมาจากภาพเขียนสไตล์อิมเพรสชั่นนิสต์ที่มีความโดดเด่น
ในเรื่องแสงเงาและสีสัน โดยนำเสนอผ่านชุดแต่งงานไทยในโทนสีพาสเทลที่ดูอ่อนหวานละมุนตา อย่างเช่น สีงาช้าง สีชมพู สีฟ้า สีเหลืองทอง
และสีโรสโกลด์

ชุดแต่งงานไทย

สำหรับการตัดเย็บ ทางร้านเลือกผ้าไหมไทยที่มีเอกลักษณ์สวยงามและมีความหรูหรา โดยใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการตัดเย็บ รวมถึงช่างฝีมือที่มีความสามารถในงานด้านหัตถศิลป์ในการปักประดิษฐ์ลวดลายและสร้างสีสันอันสวยงามที่ดูอ่อนช้อย จึงมั่นใจได้ว่าเจ้าสาวจะสวยสง่าอย่างทรงคุณค่าในวันแต่งงานแน่นอน

ชุดแต่งงานไทย

1 = 2 = 3 ความพิเศษจาก Shade of Light

สำหรับคอลเล็คชั่นนี้ดีไซน์โดยคำนึงถึงการใช้งานจริงเป็นหลัก โดยเฉพาะเจ้าสาวสมัยใหม่ที่นิยมจัดงานแต่งงานที่มีขนาดเล็กลงและมีพิธีการที่รวบรัดมากขึ้น จึงได้ออกแบบชุดไทยที่สามารถประยุกต์ใส่ในอีกช่วงพิธีการได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนชุด เพราะฉะนั้นชุดไทยในคอลเล็คชั่นนี้จึงเน้นไปที่ฟังก์ชันการใช้งานที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลากหลายแบบตามความต้องการของเจ้าสาวและรูปแบบพิธีการ โดยดีไซน์อยู่บนพื้นฐานของ
ชุดไทยพระราชนิยมเป็นหลัก เช่น บางชุดแค่เพิ่มหรือปลดบางชิ้นออกก็สามารถเปลี่ยนเป็นอีกชุดสำหรับสวมใส่ในพิธีการต่อไปได้ หรือบางชุด
สามารถเปลี่ยนจากชุดไทยให้กลายเป็นชุดราตรีสำหรับพิธีฉลองต่อได้ทันทีแต่ถ้าเจ้าสาวต้องการประหยัดเวลาขึ้นอีก Deep Love Wedding ก็
สามารถดีไซน์ชุดไทยที่มีความร่วมสมัยโดยสามารถสวมใส่ได้ทั้งพิธีไทยและพิธีฉลองได้ในชุดเดียวกัน

ชุดแต่งงานไทย

บ่าว – สาวที่สนใจมาลองชุดในช่วงนี้ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่อง Covid-19 เพราะทางร้านมีมาตรการป้องกันเป็นอย่างดี

ดูคอลเล็คชั่น ริชชี่ สวยหวานเบอร์แรง แฟชั่นชุดแต่งงานไทยจาก Deep Love Wedding << คลิกเลย <<

DEEP LOVE WEDDING
ซอยอุดมสุข 49 ถนนสุขุมวิท 103
โทร. 0-2398-5739, 0-2399-1693, 09-5789-9556
เว็บไซต์ : www.deeplovewedding.com
เฟซบุ๊ก : DeepLove ชุดแต่งงาน ชุดไทย
ไอจี : @deeplove_official
ไลน์ : @deeplovewedding

ช่อบูเกต์เจ้าสาว 7 สไตล์ เลือกให้เข้ากับรูปร่าง พร้อมเทคนิคเลือกยังไงให้งบไม่บาน

ช่อบูเกต์เจ้าสาว ไม่ใช่จะมีแต่ทรงกลมอย่างที่เราคุ้นตากันอยู่เท่านั้น แต่ยังมีมากถึง 7 แบบ 7 ทรง ซึ่งแต่ละทรงก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป มาดูกันว่ามีแบบไหนกันบ้าง แถมด้วยทิปส์เด็ดในตอนท้ายว่าเลือกช่อดอกไม้ยังไงไม่ให้ราคาพุ่งกระฉูด

ช่อดอกไม้ทรงกลม (Round)

เป็นช่อบูเกต์แบบดั้งเดิม และเห็นบ่อยที่สุดเพราะเข้ากันได้ดีกับชุดเจ้าสาวทุกสไตล์ แถมในการเข้าช่อของดอกไม้สามารถเลือกเพื่อให้เข้ากับรูปแบบของงานได้ด้วยนะ เช่น หากจัดช่อแบบแน่นๆ ก็จะเหมาะกับงานแบบทางการ แต่หากจัดช่อแบบหลวมๆ ก็จะให้ความรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เข้ากันได้ดีกับงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก ที่สำคัญคือสามารถคละดอกไม้ได้หลากหลาย จึงควบคุมราคาได้ง่ายเช่นกัน

 

ช่อดอกไม้ทรงโค้ง (Pageant)

ช่อดอกไม้ทรงยาวโค้ง ไม่เหมาะกับการใช้ถือแต่เหมาะกับการอุ้มไว้ในวงแขนมากกว่า เนื่องจากเป็นช่อดอกไม้ที่มีความยาวจึงเหมาะกับเจ้าสาวที่มีรูปร่างสูงโปร่งในชุดเข้ารูป จะยิ่งส่งเสริมให้ดูสง่ามากขึ้น และเข้ากันได้ดีกับงานแต่งสมัยใหม่ ที่ไม่เน้นความเป็นทางการ ดอกไม้ที่นิยมนำมาใช้จะมีลักษณะก้านยาว เช่น ดอกคาลล่า ลิลลี่, กุหลาบก้านยาว, เดลฟินเนียม

 

ช่อดอกไม้ทรงน้ำตก (Cascade)

เป็นช่อดอกไม้ที่มีความเป็นทางการสูงมาก และเป็นอีกทรงที่มีมาแต่เนิ่นนานเหมือนช่อดอกไม้ทรงกลม และเนื่องจากมีดอกไม้ห้อยย้อยลงมาเกือบจรดพื้น เจ้าสาวที่ถือจึงควรมีรูปร่างสูงโปร่ง แม้จะเป็นทรงที่ค่อนข้างทางการ แต่ก็สามารถเลือกใช้ดอกไม้ได้ทุกชนิด หรือจะแต่งเพิ่มด้วยกิ่งไม้ก็ให้ความสวยงามไปอีกแบบ

 

ช่อดอกไม้แบบโนสเกย์ (Nosega)

เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวขนาดเล็กที่สุด จึงเหมาะกับเจ้าสาวรูปร่างเล็ก ใช้วิธีการเข้าช่ออย่างง่ายๆ แล้วผูกด้วยริบบิ้น มักแซมด้วยใบไม้จึงให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย เหมาะกับงานกลางแจ้งที่ไม่ต้องพิธีการมากนัก และไม่ได้เป็นเพียงช่อดอกไม้ที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวเท่านั้น เพราะยังสามารถทำเป็นช่อดอกไม้ของเพื่อนเจ้าสาวได้อีกด้วย

 

ช่อดอกไม้แบบผูกปลายคล้องแขน (Pomander)

ช่อดอกไม้ทรงกลม มีสายริบบิ้นห้อยเหมือนเป็นกระเป๋าดอกไม้ที่เจ้าสาวจะใช้คล้องแขนเข้าสู่พิธีแต่งงาน เหมาะกับเจ้าสาวทุกรูปร่าง และสามารถใช้ดอกไม้ทรงไหนก็ได้ในการมาเข้าช่อ แถมยังเป็นการเข้าช่อที่สวยหรูดูแพงกว่าช่อดอกไม้ทรงปกติอีกด้วย

 

ช่อดอกไม้แบบทรงกลมขนาดเล็ก (Posy)

ช่อดอกไม้ทรงกลมขนาดเล็กที่สามารถถือได้ในมือเดียว และเป็นอีกทรงที่ได้รับความนิยมจากเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว สามารถตกแต่งได้หลากหลายสีสัน ในปัจจุบันยังนิยมประดับช่อดอกไม้ด้วยเครื่องประดับมีค่า อย่าง เพชรหรือสร้อยมุก เป็นต้น จึงเหมาะกับเจ้าสาวที่ใส่ชุดเรียบๆ เพื่อที่ชุดจะได้ไม่ตีกับเครื่องประดับในช่อดอกไม้

 

หลังจากที่เรารู้วิธีเลือกช่อดอกไม้แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าเราจะเลือกดอกไม้ยังไงไม่ให้รู้สึกว่า แพงจัง….

  1. ช่อบูเกต์ไม่จำเป็นต้องเป็นดอกไม้สดทั้งหมด อาจจะเพิ่มลูกเล่นด้วยใบไม้ที่มีรูปทรงสวยๆ ในขณะที่ดอกไม้ก็อาจจะเลือกเป็นดอกไม้ชนิดเดียวกับที่ใช้ประดับในงานแต่ง ไม่เพียงแค่ลดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นการคุมโทนสีของงานแต่งด้วย
  2. สำรวจดอกไม้ในตลาด พร้อมสำรวจราคาไปด้วยในตัวว่าดอกไม้ชนิดไหนราคาเป็นอย่างไร หากเป็นเจ้าสาวสาย DIY ก็อาจจะจัด ช่อบูเกต์เจ้าสาว ของตัวเองไปเลยก็ได้
  3. ดอกไม้จากธรรมชาติสวยๆ มีเพียบเลย ที่สำคัญคือเราสามารถเก็บได้เอง โดยไม่ต้องเสียเงิน
  4. การเลือกดอกไม้ตามฤดูกาลก็ทำให้เราประหยัดเงินไปได้เยอะเลย เพราะดอกไม้นอกฤดูกาลจะบวกราคาเพิ่มอีกหลายเท่าเลยทีเดียว

 

ช่อดอกไม้แต่ละแบบก็มีความสวยโดดเด่นที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะเลือกช่อดอกไม้แบบไหน ก็อย่าลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไปในช่อดอกไม้ด้วยนะคะ เพราะจะยิ่งเพิ่มความพิเศษให้กับช่อดอกไม้มากกว่าที่จะเป็นแค่บูเกต์ในงานแต่งงานเท่านั้น

ยังมีเทคนิคดีๆ ที่จะทำให้งานแต่งงานออกมาสวยปิ๊งอีกเพียบ คลิกเลย

ภาพเปิด pixabay
ภาพประกอบ pinterest

บทเจรจารับขันหมากเวอร์ชั่นจัดเต็ม รับรองงานนี้ผ่านฉลุย

บทเจรจารับขันหมาก เวอร์ชั่นเต็ม เซฟเก็บไว้ได้เลย

เมื่อขบวนขันหมากมาถึงหน้าบ้าน พิธีการต่อไปก็คือการเจรจารับขันหมก โดยฝ่ายหญิงจะต้องเตรียมเด็กรับขันหมากไว้ 1 คนเพื่อคอยรับขบวนขันหมากที่มาถึงหน้าประตู โดยจะมีผู้ใหญ่ 1 คนยืนประกบเพื่อเป็นผู้พูด บทเจรจารับขันหมาก ด้วย ซึ่งปกติมักนิยมใช้คู่สามีภรรยาที่มีความรักมั่นคงครอบครัวอบอุ่นมาทำหน้าที่นี้ เพื่อให้ความรักของบ่าวสาวมั่นคงและยืนยาว

ซึ่งช่วงติดขัดตะกุกตะกักก็คือช่วงการเจรจารับขันหมากนี้เอง เพราะบางครั้งผู้ใหญ่ก็อาจเกิดอาการประหม่าจนพานลืมบทพูดทุกอย่างที่เตรียมไว้ในหัวไปหมดสิ้น หรือบางท่านอาจไม่ทราบมาก่อนว่าช่วงนี้ต้องมีการพูดจาหรือเจรจาประมาณไหน เราเลยจัดบทเจรจารับขันหมากแบบโต้ตอบกันทั้งสองฝ่ายมาฝาก เพื่อที่บ่าวสาวจะได้ให้ผู้ใหญ่ของฝ่ายตัวเองได้นำไปซักซ้อมหรือปรับใช้ ถึงเวลาจริงจะได้ผ่านฉลุยเข้าสู่พิธีการต่อไปได้อย่างรวดเร็ว

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว: “ไม่ทราบว่า ขบวนขันหมากนี้จะไปไหนกัน ค่ะ/ครับ ดูคึกคักสนุกสนานดีจัง”

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว : “ขบวนขันหมากนี้ไม่ได้จะไปที่ไหนหรอกค่ะ/ครับ ก็จะมาขอเจ้าสาว……. (ชื่อเจ้าสาว)ให้กับเจ้าบ่าว……(ชื่อเจ้าบ่าว) เพื่อรับเข้ามาเป็นสะใภ้ ยินดีหรือไม่คะ/ครับ”

ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว : “ทั้งคู่ก็รักกันมานานและเหมาะสมกันเช่นกิ่งทองใบหยกเหตุใดจะไม่ยินดีต้อนรับให้มาเป็นทองแผ่นเดียวกัน เชิญผ่านเข้ามาได้เลยค่ะ/ครับ”

เมื่อสิ้นสุดบทสนทนาเด็กที่ถือพานเชิญขันหมากของฝ่ายหญิงจะเดินมาเชิญขันหมากเข้าบ้าน เถ้าแก่จะหยิบหมากในพานขึ้นมาถือพอเป็นพิธีแล้วส่งคืนพร้อมกับยื่นซองให้เด็กรับขันหมาก 1-2 ซอง ก่อนจะผ่านเข้าบริเวณบ้านฝ่ายหญิง เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จพิธี พร้อมเข้าสู่พิธีการช่วงต่อไปแล้ว

ภาพเปิด : งานแต่งคุณเอ๊บ & คุณก้อง ถ่ายโดย Box Wedding

อ่านบทความเพิ่มเติม

เตรียมแจกได้เลยกับ ผังขบวนขันหมาก รู้ไว้ไม่งงหน้างาน

เคลียร์ปัญหาเขยฝรั่ง พิธีแต่งงานไทยเต็มไปด้วยอะไรที่ I ไม่เข้าใจสักนิด?!

แหล่งจ้าง วงดนตรีงานแต่งไทย พร้อมเรื่องพึงระวังที่บ่าวสาวต้องรู้

เฉลิมฉลอง “วันจูบสากล” ด้วย ข้อดีของการจูบ ที่คู่รักอาจยังไม่รู้!!

จูบนั้นสำคัญไฉน? จูบนั้นดีอย่างไร? งั้นมาดู ข้อดีของการจูบ กันค่ะ

เนื่องจากทุกวันที่ 6 กรกฎาคมของทุกปีเป็น “วันจูบสากล” หรือ “World Kissing Day” แพรว wedding เลยไปรวบรวม ข้อดีของการจูบ มาให้เหล่าคู่รักได้รู้กัน ว่าการจูบนั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่การแสดงความรักแต่เพียงอย่างเดียวนะ แต่ยังช่วยเรื่องสุขภาพและจิตใจไปอีก แหม ชักจะอยากรู้แล้วสิว่าการจูบเนี่ยมันจะดีขนาดไหน อิอิ

1. จูบ…ช่วยลดความเครียดและทำให้เรามีความสุข

จากผลการวิจัยของ Western Journal of Communication พบว่าการแสดงความรักอย่างการจูบนั้นเกี่ยวข้องโดยตรงต่อการลดระดับฮอร์โมนความเครียด และเพิ่มระดับฮอร์โมนความสงบ และหากคุณจูบกัน 20 วินาทีหรือมากกว่านั้น สมองจะหลั่งสารเคมีที่ช่วยทำให้สงบและลดระดับความเครียด ซึ่งการจูบจะช่วยกระตุ้นให้เกิดระบบการให้รางวัลของสมอง หรือ brain’s reward system ทำให้ระหว่างการจูบนั้นจะมีการหลั่งฮอร์โมนที่ชื่อว่า อ๊อกซิโตซิน หรือที่เรียกว่าฮอร์โมนแห่งความรัก, หลั่งสาร เอ็นดอร์ฟิน หรือฮอร์โมนแห่งความสุข, ฮอร์โมนโดพามีน และฮอร์โมนเซโรโทนิน ที่ไปกระตุ้นความพึงพอใจในสมองของเรา จึงช่วยรักษาสมดุลของอารมณ์ให้คงที่ ทำให้สงบ และลดความวิตกกังวล แถมยังให้ผลดีเหมือนกับการทำสมาธิอีกด้วย

2. จูบ…ลดความดันโลหิต ทำให้หัวใจแข็งแรง

การจูบช่วยขยายหลอดเลือด จึงช่วยลดความดันโลหิตได้ ซึ่งระหว่างการจูบจะมีสื่อประสาทที่ชื่อ เอพิเนฟรีน เดินทางเข้าไปในเลือด ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ซึ่งนอกจากจะช่วยลดความดันโลหิตแล้ว ยังทำให้ระดับ LDL (ไขมันไม่ดี) และคลอเรสเตอรอลลดลงได้อีกด้วย

ข้อดีของการจูบ

3. จูบ…ช่วยป้องกันฟันผุ

การจูบจะไปช่วยกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำลาย ซึ่งจะไปช่วยชะล้างคราบพลัคและคราบต่างๆ จึงช่วยป้องกันฟันผุได้อีกทางหนึ่ง

4. จูบ…ช่วยให้รู้สึกตื่นตัว

การจูบจะไปช่วยกระตุ้นการหลั่งสารอดรีนาลีน และโนราดรีนาลีน ซึ่งนอกจากจะช่วยให้รู้สึกตื่นเต้นเนื่องจากหัวใจเต้นเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณรู้สึกตื่นตัวอีกด้วย!!

5. จูบ…ช่วยเบิร์นแคลอรี่

การจูบในเวลา 1 นาที จะช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ 2-3 แคลอรี่ แต่ถ้าคุณจูบกันอย่างดูดดื่มเป็นพิเศษจะสามารถช่วยเผาผลาญได้ถึง 6 แคลลอรี่! และยังไปช่วยเร่งกระบวนการเผาผลาญหรือเมตาบอลิซึ่มได้อีกด้วย ซึ่งนักวิจัยกล่าวว่า การจูบกันครั้งละ 20 วินาทีต่อวันจะช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วยนะ และถึงแม้การจูบจะช่วยเร่งระบบการเผาผลาญได้ไม่เท่ากับการวิ่งไปสัก 5 กิโล แต่การจูบก็ช่วยเร่งระบบการเผาผลาญพลังงานขึ้นเป็นสองเท่าจากเดิมได้ งานนี้จริงไม่จริงสงสัยจะต้องลองพิสูจน์กันด้วยตัวเองนะจ๊ะ อิอิ

6. จูบ…ช่วยป้องกันการหย่อนคล้อยของใบหน้า

ในขณะที่จูบกล้ามเนื้อ 30 มัดบนใบหน้าของคุณก็ทำงานไปด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคุณจูบให้บ่อยขึ้นหรือทุกวันก็เหมือนเป็นการได้ออกกำลังกายใบหน้าไปในตัว ซึ่งมีผลช่วยให้ใบหน้าดูเฟิร์มขึ้น และยังช่วยเพิ่มระบบการไหลเวียนโลหิตบนใบหน้า ส่งผลให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ไปอีก

7. จูบ…ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน

การจูบคือการแลกเปลี่ยนแบคทีเรีย 10 ล้านถึง 1,000 ล้านแบคทีเรีย ซึ่งส่งผลสองทางคือ สามารถทำให้คุณป่วย แต่อีกทางก็สามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ เพราะร่างกายได้รับแบคทีเรียใหม่ ทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคนั้นขึ้นมา เพราะฉะนั้นการจูบจึงสามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายได้อีกทาง เพราะคุณและคนรักมีการแลกเปลี่ยนแบคทีเรียแบบใหม่ซึ่งกันและกัน ทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ ในอนาคตที่ดียิ่งขึ้น

ข้อดีของการจูบ

8. จูบ…ช่วยเรื่องภูมิแพ้

แพ้ในที่นี่ไม่ใช่ แพ้ทางคนอย่างเธอนะ…แต่หมายถึงอาการภูมิแพ้ต่างหาก ซึ่งอาการภูมิแพ้นั้นสามารถแย่ลงได้หากเกิดภาวะเครียด และอย่างที่ทราบไปจากข้อ 1. ว่าการจูบสามารถช่วยลดความเครียดได้ นั่นก็เท่ากับว่าการจูบก็เป็นการช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้เช่นกัน โดยมีงานวิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า เมื่อให้ผู้ทดลองที่มีอาการลมพิษและอาการแพ้ฝุ่นละออง จูบกัน 30 นาทีในห้องส่วนตัว พร้อมเปิดเพลงคลอเบาๆ พบว่าผู้ที่มีอาการดังกล่าวนั้นอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

9. จูบ…บ่งบอกความเข้ากันและสานความสัมพันธ์

คุณอาจคิดว่าจูบที่ไม่เกิดจากเทคนิคที่แย่ แต่จากการวิจัยของมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดเผยว่า การแลกเปลี่ยนสารเคมีระหว่างการจูบเป็นตัวบ่งชี้ต่อความเข้ากันของการสืบพันธ์ ดังนั้นถ้าคุณจูบกับใครแล้วรู้สึกไม่ประทับใจ อาจแปลเป็นนัยๆ ได้ว่า คุณอาจไม่ใช่คู่ยีนส์ที่เข้ากันก็เป็นได้ นอกจากนี้การจูบยังช่วยสานความสัมพันธ์ระหว่างกันได้อีกด้วย ซึ่งจากการศึกษาจากคู่รักพบว่า การจูบนั้นช่วยให้เกิดความรู้สึกผูกพันกับอีกฝ่าย และเพิ่มความมั่นคง และความพึงพอใจในความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักได้มากขึ้น อีกทั้งงานศึกษาของ Archives of Sexual Behavior กล่าวว่า ยิ่งคู่รักจูบกันมากเท่าไร พวกเขาก็ยิ่งมีความสุขมากเท่านั้น ซึ่งความสุขในที่นี้ยังไม่เกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์อีกด้วย

10. จูบ…ทำให้ผู้หญิงฟินได้มากกว่า

จูบทำให้ผู้หญิงมีความเป็นไปได้ที่จะถึงจุดสุดยอดได้มากกว่า มีงานวิจัยเผยว่า คู่รักที่ให้ความใส่ใจในการจูบอย่างดูดดื่มทั้งก่อนและหลังการมีเซ็กซ์จะมีความรู้สึกเติมเต็มทางเพศได้มากกว่า อาจเป็นเพราะว่าบริเวณริมฝีปากนั้นเป็นส่วนที่เซนซิทีฟมากกว่าที่อื่นๆ และไวต่อการสัมผัสได้มากกว่าปลายนิ้วถึง 100 เท่า เพราะบริเวณริมฝีปากมีเซลล์ประสาทมากกว่า 10,000 ปลายเส้นประสาทเลยทีเดียว!! ซึ่งมีมากกว่าบริเวณจุดสงวนของคุณผู้หญิงเสียอีก (บริเวณคลิคอริสมีประมาณ 8,000 ปลายเส้นประสาท)

และนี่คือข้อดีของการจูบ แถมคู่รักที่จูบกันเป็นปกติมักอายุยืนขึ้น 5 ปี เมื่อเทียบกับคู่รักที่ไม่ค่อยได้แสดงความรักด้วยการจูบอีกด้วย หรือจะสร้างซีนจูบให้ประทับใจตามฉากหนังรักเพื่อเป็นไอเดียในการถ่ายพรีเวดดิ้งก็ได้นะ 35 ซีนจูบแสนหวานในวันแต่งงานน้ำตาลเรียกพี่…มีคู่ทั้งทีงานนี้ต้องแสดงออก

เรียบเรียงข้อมูลจาก secretsinhealth.com, mentalfloss.com, cosmopolitan.com,
mindbodygreen.com, articles.mercola.com

ภาพ unsplash.com, pinterest

5 เคล็ดลับสวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอกในวันแต่งงาน

หลายคู่ที่มักจะจัดงานหมั้นก่อนวันแต่งงาน เพราะฉะนั้นเจ้าสาวจึงต้องให้ความสำคัญในการดูแลผิวหน้าตั้งแต่ก่อนงานหมั้นจะมาถึง เพราะนี่จะเป็นใบเบิกทางที่ดีสำหรับผิวหน้าดี๊ดีในวันแต่งงาน แพรว wedding เลยจัด สวยจากภายใน ที่เพียงแค่เปลี่ยนกิจวัตรประจำนิดๆ ก็ช่วยให้มีผิวสวยใสในวันสำคัญแล้ว

1. ไม่ควรลดน้ำหนักอย่างหนักหน่วง เพราะการโหมลดน้ำหนักในระยะเวลาอันสั้นนั้นจะเป็นการทำลายสุขภาพของเจ้าสาว แถมยังลดพลังงานของร่างกาย ที่สำคัญจะทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำไม่สดใส และอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ในระยะยาวหากเจ้าสาวคิดจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง เพราะฉะนั้นค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป รับรองว่าหากเจ้าสาวควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอตั้งวันที่ฝ่ายชายคุกเข่าขอแต่งงานล่ะก็ ไม่ว่าจะวันหมั้นหรือวันแต่งก็ดูดีได้ในชุดแสนสวยแน่นอน

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ แต่ถ้าหากเจ้าสาวไม่มีเพื่อนไปออกกำลังกายด้วย ขอแนะนำให้ว่าที่เจ้าสาวลองเลือกคลาสออกกำลังกายที่ตัวเองสนใจดูสักคลาส ซึ่งปัจจุบันก็มีการออกกำลังกายในรูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมายเต็มไปหมด รับรองว่าคุณจะสนุกและสดชื่น เผลอๆ อาจจะไปเจอเจ้าสาวรุ่นพี่หรือเพื่อนว่าที่เจ้าสาวเหมือนกันก็ได้นะคะ

3. พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่มีอะไรที่จะบูสต์อัพร่างกายได้ดีไปกว่าการพักผ่อนอีกแล้ว ซึ่งช่วงเวลาของการพักผ่อนที่ดีและมีประสิทธิภาพที่สุดคือ 8 ชั่วโมง บอกเลยว่าถ้าทำได้ผิวของเจ้าสาวจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมยังไม่มีปัญหาขอบตาเป็นหมีแพนด้ามากวนใจแน่นอน เพราะฉะนั้นเคลียร์ตารางงานวางแผนชีวิตให้ดีแล้วพักผ่อนให้ได้ตามที่ร่างกายต้องการ งานนี้รับรองว่าสวยจากภายในเปล่งประกายสู่ภายนอกที่แท้จริง

4. ผ่อนคลายจิตใจใหสงบ อย่างเช่น การนั่งสมาธิ เป็นต้น แต่ถ้าหากว่าที่เจ้าสาวยังไม่พร้อมเพราะจิตไม่นิ่งพอ ก็ลองทิ้งความกังวลทั้งหมดในใจเกี่ยวกับงานหมั้นหรือการจัดงานแต่งงานของตัวเองไปก่อน แล้วลองหากิจกรรมอย่างอื่นทำ เช่น คลาสกิจกรรมต่างๆ ที่จะช่วยให้จิตใจของคุณสงบเพื่อช่วยลดความกังวลที่จะส่งผลต่อใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในวันงาน

5. ทานอาหารคลีน เหมือนเป็นการช่วยดีท็อกซ์ร่างกายไปในตัว ซึ่งอาจจะไม่ต้องทานทุกมื้อก็ได้เอาตามที่คุณสะดวกเราว่าน่าจะเวิร์กกว่า แต่ก็ต้องทานเป็นประจำสม่ำเสมอนะคะจะได้เห็นผล ลองเตรียมอาหารเพื่อสุขภาพด้วยตัวเองง่ายๆ แล้วอย่าลืมชวนคุณว่าที่เจ้าบ่าวมาคุ้กกิ้งร่วมกันเพื่อเป็นการเพิ่มระดับความหวานให้กับหัวใจ แถมอาจจะได้เมนูถูกใจที่เป็นเมนูของคุณสองคนอีกด้วย ถือซะว่าเป็นการซ้อมก่อนที่จะแต่งงานเป็นสามีภรรยากันอย่างเป็นทางการล่ะกันนะคะ

เป็นยังไงกันบ้างคะกับเคล็ดลับที่เรานำมาฝาก เพราะความสวยนั้นต้องเริ่มจากภายในเพราะฉะนั้นหากว่าที่เจ้าสาวดูแลทั้งร่างกายและจิตใจเป็นอย่างดี เชื่อเถอะคะว่างานผิวสวยหน้าใสอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : www.pinterest.com, akstudiodesign.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

5 เทรนด์สร้างลุคสูทเจ้าบ่าวแบบธรรมดาให้ดูแตกต่างแบบหล่อระเบิด

เจ้าบ่าวก็มีสิทธิ์ที่จะได้ลองเทรนด์ใหม่ๆ เทียบเท่ากันเจ้าสาวเช่นกันเพราะนี่ก็เป็นวันสำคัญในชีวิตของเขาด้วย ซึ่งบางครั้งชุดสูทแบบธรรมดาๆ ก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เจ้าบ่าวหลายคนกำลังมองหาก็ได้ เพราะปัจจุบันในโลกของแฟชั่นนั้นเต็มไปด้วยสไตล์สูทที่ให้ลุคสนุกสนาน สีสันสดใส และมีสไตล์ไม่ซ้ำใครซึ่งเหมาะกับเจ้าบ่าวสายแฟชั่นที่อยากจะปรับลุคให้ดูไม่ธรรมดาในวันพิเศษ และนี่คือ 5 เทรนด์ สูทเจ้าบ่าว ที่แพรว wedding ขอนำเสนอให้กับเหล่าเจ้าบ่าวสายแฟชั่นที่อยากมีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร

สูทเจ้าบ่าว

1. แจ็คเกตสูทสีสันสดใส

เทรนด์นี้เหมาะกับเจ้าบ่าวใจกล้าที่อยากจะฉีกลุคเจ้าบ่าวแบบเดิมๆ ในชุทสูทสีดำหรือสีน้ำเงินธรรมดาๆ ด้วยการเพิ่มลูกเล่นของสีสันหรือรูปแบบชุดให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น อย่างเช่น สูทสีเบอร์กันดี หรือสีเขียวที่ให้อารมณ์แบบฤดูใบไม้ร่วงหน่อยๆ หรือจะเป็นเฉดสีสดใสสไตล์ซัมเมอร์ไปเลยก็ได้ เพราะฉะนั้นหากเจ้าบ่าวอยากโดดเด่นไม่ซ้ำใครแนะนำให้ลองมิกซ์แอนด์แมตช์สีสันที่เจ้าบ่าวชื่นชอบหรือสีเดียวกับธีมงานเข้ากับสูทผ้ากำมะหยี่ ผ้าลินิน หรือผ้าเซียร์ซัคเกอร์ก็ดูดีใช่เล่น

สูทเจ้าบ่าว

2. โบไทแบบพิเศษ

สไตล์ของโบไทก็สามารถเปลี่ยนลุคและบ่งบอกถึงเอกลักษณ์ของเจ้าบ่าวได้เช่นกัน ในขณะที่เจ้าบ่าวหลายคนเลือกที่จะเซฟลุคด้วยโบไทแบบผ้าสีดำธรรมดา แต่สำหรับเจ้าบ่าวอินเทรนด์อย่างเราจะเพลนๆ คงจะไม่ได้ เพราะฉะนั้นการเติมความสนุกสนานอย่างลวดลายหรือรูปแบบลงไปนั้นสำคัญมาก เพราะถึงแม้เจ้าบ่าวจะใส่สูทธรรมดาแค่ไหน แต่ถ้าได้เติมโบไทสุดทันสมัยเข้าไป รับรองว่าได้ลุคเป็นหนุ่มมาดคูลขึ้นมาทันที

สูทเจ้าบ่าว

3. บูโทเนียร์สุดเก๋

แทนที่เจ้าบ่าวจะเลือกเป็นดอกไม้ติดหน้าอกธรรมดา มาเสริมลุคให้เท่ขึ้นทันตาด้วยบูโทเนียร์แบบเก๋ๆ กันดีกว่า อาจจะเป็นดอกไม้ชนิดพิเศษที่มีรูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยที่ไม่ใช่แค่ดอกกุหลายหรือดอกกล้วยไม้ธรรมดา

สูทเจ้าบ่าว

4. ต้องโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนเจ้าบ่าว

ก็เหมือนๆ กับเจ้าสาวที่ต้องโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนเจ้าสาวนั่นแหละค่ะ แต่สำหรับเจ้าบ่าวก็อาจจะยากสักหน่อนหากไม่เลือกเพิ่มลูกเล่นให้ดีๆ เพราะอย่าลืมว่าผู้ชายนั้นไม่ได้มีแบบชุดให้เลือกมากมายแบบผู้หญิง แต่มีแค่ชุดสูทให้เลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นการสร้างความแตกต่างได้ง่ายที่สุดก็คือการเลือกสูทที่ต่างสีสันกัน หรือจะเลือกสวมเนคไทหรือโบไทคนละสีก็ได้ หรือจะเลือกเป็นพ็อคเก็ตสแควร์ให้ดูแตกต่างก็ช่วยให้ลุคเจ้าบ่าวดูโดดเด่นได้เช่นกัน

สูทเจ้าบ่าว

5. ถุงเท้าหลากสี รองเท้าหลายสไตล์

บอกเลยว่าลุคนี้เจ้าสาวและเหล่าแก๊งเพื่อนสาวจะต้องอิจฉาเพราะมีแค่บรรดาคุณผู้ชายเท่านั้นที่แต่งได้ ไม่ว่าจะเป็น ถุงเท้าแพตเทิร์นธรรมดาที่เลือกแมตช์เข้ากับสนีกเกอร์สุดเท่ หรือจะเท่ให้สุดด้วยลุคแบบบูทคาวบอย หรือจะเป็นรองเท้าเท่ๆ แบบยกแก๊งก็ได้ แต่ถ้าอยากได้ลุคที่ดูสนุกสนานและแตกต่างแนะนำให้เลือกถุงเท้าหลากสีหลายสไตล์ก็ช่วยสร้างสไตล์ให้กับลุคและงานแต่งงานได้เช่นกัน

สูทเจ้าบ่าว

ดูไอเดียชุดเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าวเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : www.insideweddings.com, www.pinterest.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

Checklist!! 22 ภาพที่บ่าวสาวต้องมีในอัลบั้มภาพงานแต่ง บอกช่างภาพให้จัดโลด

ไม่ว่าคุณจะจ้างช่างภาพมือโปรหรือมือสมัครเล่นมาช่วยเก็บภาพความทรงจำวันสำคัญก็ตาม แต่ 22 ภาพงานแต่ง ต่อไปนี้ แพรว wedding ขอให้รู้ไว้เลยว่าต้องมี

1 การ์ดเชิญ :จะเป็นงานเช้าหรืองานเย็นอะไรก็ตาม คุณต้องมารูปการ์ดแบบจัดถ่ายสวยๆ เก็บไว้ให้ลูกหลานได้ดู ยิ่งมาพร้อมของชำร่วยได้ยิ่งแจ่ม เพราะของพวกนี้เป็นเซ็ตเดียวกันดูสวยดี

2 แหวนแต่งงาน : ไม่ต้องใช้กล้องระดับเทพแบบว่าเห็นรายละเอียดเพชรที่ฝังไว้ทุกเม็ดก็ได้ค่ะ แต่ควรมีภาพแหวนแต่งงานของคุณทั้งคู่ ซึ่งอาจวางในกล่อง หรือโพสต์อยู่บนมือ อะไรก็ตามเก็บไว้

3 ทรงผมเจ้าสาว : ตอนที่กำลังทำผมอยู่ก็อีกเรื่องค่ะ แต่ที่เราหมายถึงคือทรงผมเจ้าสาวที่เสร็จแล้วทั้งจากด้านหน้าและด้านหลัง เก็บไว้เป็นตัวอย่างให้คนอื่นก็ได้หรือเก็บไว้ขำว่าครั้งหนึ่งเคยอลังก็ดีนะคะ

4 กำลังแต่งตัว : โมเม้นสนุกๆ ที่ต้องแขม่วท้องสุดฤทธิ์เพื่อให้ซิปสามารถดึงขึ้นได้ เป็นอะไรที่ไม่เก็บไว้ยิ้มคงไม่ได้แล้ว

ภาพงานแต่ง

5 ด้านหลังที่มีผ้าคลุมผม : เดี๋ยวนี้เจ้าสาวใส่ผ้าคลุมผมเยอะขึ้นนะคะ แล้วแบบนี้จะไม่บอกช่างภาพให้เก็บช็อตนี้ไว้ได้ยังไง

6 บ่าวสาวในชุดแต่งงานเต็มตัวหน้าตรง : จัดมาให้เห็นกันเต็มๆ ตากันไปเลยหลังคุณแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จว่าสวยงามหล่อเป๊ะแค่ไหนแต่ให้ถ่ายเก็บแยกไว้ด้วยนะคะแล้วค่อยมาจับคู่ถ่ายด้วยกัน

7 บ่าวสาวในรูปคู่หน้าตรงสไตล์ Portrait: ต่อยอดจากข้อเมื่อกี้ แต่รอบนี้ดึงเจ้าบ่าวมาร่วมเฟรมเก็บแค่ใบหน้าเอาไว้ดูรอยยิ้มแห่งความสุข

8 ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับดอกไม้ :ไม่ว่าจะเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือของเพื่อนเจ้าสาว รวมถึงดอกไม้ติดหน้าอกแขกผู้ใหญ่ จับถ่ายไว้ให้หมดค่ะ เพราะนั่นคือส่วนเล็กๆ ในความทรงจำที่ขาดไม่ได้

9 ภาพการพบกันครั้งแรกของพระนาง : หลายคู่เลือกที่จะแยกกันแต่งตัวคนละที่ ฉะนั้นช็อตที่เป็นการพบกันครั้งแรกต้องเก็บไว้ โฟกัสเน้นไปที่ดวงตารับรองมีซึ้ง

10 เปิดตัวเข้างาน : เดินควงกันมาในงานท่ามกลางสายตาแขกนับร้อย เป็นอะไรที่ต้องเก็บเป็นภาพกว้างไว้ดูทั้งหน้าบ่าวสาวและความยินดีของแขกในงาน

11 มุมสูงภายในงาน : บอกให้รู้ว่างานแต่งครั้งเดียวในชีวิตของคุณมีแขกมาร่วมยินดีมากแค่ไหน และกำลังสนุกสนานสุดๆ

12 การสวมแหวน :จังหวะที่ต่างคนต่างสวมแหวนให้กัน จะไม่มีเก็บไว้ไม่ได้แน่นอน

13 กราบ! : อ่านไม่ผิดค่ะ จังหวะที่เจ้าสาวก้มกราบนี่คือฮิตมากมาย เจ้าบ่าวโพสต์ท่าได้เว่อร์วัง ถึงจะดูโหล แต่เชื่อเถอะว่าลูกๆ เห็นต้องมีแซว

14 จุมพิต :แน่นนอนว่าโมเม้นคิสกันในงานแต่งต้องเกิดขึ้น จะปากประกบปากหรือจุ๊บเบาๆ ที่แก้มก็โอเคทั้งนั้น

15 จังหวะเดินออกจากบริเวณทำพิธี :ถ้าจัดงานในโบสถ์ก็จะมีพร้อมโปรยปรายทั้งกากเพชร กลีบกุหลาบ แต่งานไทยๆ อาจมีพวกเปเปอร์ชู้ตมาช่วยให้ภาพมีสีสัน

16 ภาพครอบครัว :เมื่อแต่งงานแล้วก็หมายถึงการรวมกันของสองครอบครัวจริงไหมคะ อย่างน้อยๆ ควรมีภาพถ่ายที่มีครอบครัวของคุณทั้งคู่ถ่ายด้วยกันนะคะ

17 ทีมเพื่อนบ่าวสาวขาดได้ไง :เชิญเขามาช่วยเป็นเพื่อนบ่าวสาวแล้วก็ต้องไม่ลืมเก็บภาพรวมกันทุกคนนะคะ

18 เค้กแต่งงาน :แน่นอนว่าของสำคัญระดับนี้ไม่มีถ่ายเก็บไว้ไม่ได้นะคะ บอกช่างภาพให้เก็บไว้สวยๆ สักภาพ จากนั้นก็เป็นภาพตอนที่ร่วมกันตัดไงคะ

19 โยนดอกไม้ :ทุกคนตั้งใจมากกับจังหวะการโยน แต่ช่างภาพที่มาถ่ายถ้าไม่โปรอาจเก็บภาพสวยไม่ได้เลย แต่ช็อตนี้เป็นอะไรที่ต้องมีเก็บ ฉะนั้นก็นัดแนะ นับถอยหลังให้ดีล่ะ

20 ใครกันได้ดอกไม้ :แน่นอนว่าว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปคือรายละเอียดในบันทึกความทรงจำวันงานของคุณ ฉะนั้นแล้ว อย่าลืมถ่ายภาพคู่กับเธอเก็บไว้นะคะ

22 อาฟเตอร์ปาร์ตี้ :ปาร์ตี้หลังเลิกงานสุดเหวี่ยงแค่ไหนห้ามลืม!

23 โต๊ะอาหาร :ถึงจะเป็นงานแบบค็อกเทลก็ต้องมีโต๊ะวีไอพี ถ้าคุณออเดอร์ให้จัดจนสวย ก็อย่าลืมเก็บภาพนี้ไว้ด้วย

ปิดท้ายอีกนิดถ้าคุณไม่ว่าอะไร ก็บอกให้ช่างภาพตามไปตอนส่งตัวเข้าหอ รับรองได้ว่า คุณจะมีภาพโมเม้นดีๆ เก็บไว้ดูอีกเพียบ

 ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง :ดอกปีบ

ภาพ :Brides, wikimedia

6 ทริคเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้สวยแถมด้วยความสุขแบบยกแก๊ง

การเลือก ชุดเพื่อนเจ้าสาว เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและยุ่งยากอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเลือกใส่ชุดที่เหมือนหรือต่างกันก็สร้างความปวดหัวแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นการวางแผนให้สวยแบบครบแก๊งจึงเป็นสิ่งสำคัญ แพรว wedding เลยนำ 6 สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีความสุขแบบยกแก๊งในชุดเพื่อนเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์มาฝาก

1. กำหนดคีย์หลักของชุดแล้วแยกย้ายกันไปหา

สิ่งสำคัญในชุดเพื่อนเจ้าสาวก็คือการสะท้อนธีมงานหรือธีมสี เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จึงสามารถนำมากำหนดคีย์หลักให้กับชุดเพื่อนเจ้าสาวได้ เพราะฉะนั้นลองคิดคีย์หลักสัก 3-6 ข้อแล้วช่วยกันโหวตออกความคิดเห็น ซึ่งอาจจะให้เจ้าสาวมาเป็นผู้ช่วยในการตัดสินใจด้วยกันก็ได้ และเมื่อได้คีย์หลักซึ่งเป็นที่ยอมรับร่วมกันแล้วก็ได้เวลาแยกย้ายกันไปหาชุดในฝันของแต่ละคนที่เหมาะกับสไตล์และสรีระของตัวเอง แค่เลือกทำให้อยู่ในกรอบของคีย์หลักที่ตกลงกันไว้ เท่านี้ก็ช่วยให้แก๊งเพื่อนเจ้าสาวสวยได้ง่ายๆ แบบครบแก๊งแล้ว

2. รู้สึกสะดวกสบายทั้งกายและใจเมื่อสวมใส่

บางครั้งการเลือกใส่ชุดที่เหมือนกันแบบครบแก๊ง ก็อาจจะสร้างความลำบากใจหรือไม่สะดวกสบายกับเพื่อนบางคน เพราะอย่าลืมว่าความชอบและสรีระของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน จนอาจทำเกิดความไม่มั่นใจเมื่อสวมใส่ได้ เพราะฉะนั้นชุดที่ดีคือ ชุดที่เหมาะกับตัวเอง ไม่คับหรือหลวจนเกินไป และไม่สั้นหรือยาวจนเกินเหตุ ดังนั้นเพื่อให้คุณยังสวยได้แบบเข้ากันทั้งแก๊ง การเลือกปรับบางอย่างเพื่อให้เหมาะกับสไตล์และรูปร่างของแต่ละคนจึงเป็นเรื่องจำเป็น เช่น การปรับเนคไลน์ให้ต่างกัน หรือการเลือกความยาวของชุดให้เหมาะกับความสูงของแต่ละคน เป็นต้น รับรองว่างานนี้ยังสวยแบบคุมธีมแน่นอน

3. อย่าลืมเผื่อเวลาหากสั่งตัดชุดใหม่

หากเลือกที่จะตัดชุดใหม่อย่าลืมเผื่อเวลาล่วงหน้าไว้สัก 6 เดือนก่อนถึงวันงาน หรือหากรายละเอียดของชุดมีความยุ่งยากก็อาจจะต้องเผื่อเวลาให้มากกว่านั้น เพราะการตัดชุดใหม่มีกระบวนการที่ค่อนข้างนานตั้งแต่การเลือกแบบ เลือกเนื้อผ้า นัดฟิตติ้ง ไปจนถึงขั้นตอนการปรับแก้ไขชุดหากไม่พอดีหรือไม่เป็นที่พอใจ เพราะฉะนั้นคุณควรกำหนดวันที่จะใช้ชุดกับทางร้านให้ชัดเจน และอย่าลืมถามไทม์ไลน์ในขั้นตอนต่างๆ กับทางร้านมาให้ดีเพื่อที่จะได้เช็กให้ชัวร์ว่าคุณจะได้รับชุดทันวันงานแน่นอน

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

4. อย่าสั่งซื้อชุดออนไลน์กระชั้นกับวันงาน

แน่นอนว่าการสั่งซื้อชุดทางออนไลน์นอกจากจะสะดวกสบายแล้วยังช่วยประหยัดด้วย แต่อย่าลืมว่าการสั่งซื้อทางออนไลน์นั้นเท่ากับว่าคุณจะไม่ได้ลองชุด เพราะฉะนั้นจึงควรเผื่อเวลาในการสั่งซื้อทางออนไลน์สักหน่อยเพื่อที่คุณจะได้เห็นชุดล่วงหน้าก่อนจะถึงวันงาน เพราะหากชุดที่สั่งซื้อมานั้นไม่พอดีหรือไม่ตรงกับที่ใจคิดไว้จะได้หาทางปรับแก้ไขได้ทันการ เพราะฉะนั้นอย่าวางใจหรือชะล่าใจมากจนเกินไปนะคะเพราะกรณีนี้ทำเพื่อนเจ้าสาวเสียใจมาหลายคนแล้ว

5. นัดรับชุดก่อนถึงวันงานให้นานสักหน่อย

อย่าลืมว่าร้านชุดนั้นไม่ได้มีออเดอร์แค่ของคุณหรือแก๊งคุณเพียงแก๊งเดียว เพราะฉะนั้นจะเป็นการดีกว่าหากคุณและเพื่อนจะไม่ต้องมานั่งกังวลใจว่าร้านจะส่งชุดมาให้ทันเวลาหรือไม่ ยิ่งถ้าหากวันแต่งงานของเพื่อนสาวนั้นตรงกับวันฤกษ์ดีที่คู่รักนิยมแต่งงานด้วยแล้ว ยิ่งต้องเผื่อเวลาให้นานขึ้นไปอีก เพื่อที่จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาการได้ชุดล่าช้าหรือหากมีปัญหาจะได้พอมีเวลาแก้ไขทัน

6. อย่าลืมเครื่องประดับที่เข้ากับชุด

ไม่ใช่เรื่องผิดหากเพื่อนเจ้าสาวคิดอยากจะใส่เครื่องประดับเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์แบบให้กับลุค ไม่ว่าจะต่างหู สร้อยคอ หรือกำไลข้อมือ ก็ได้หมดแล้วแต่รสนิยมและความชอบ หรือหากอยากเพิ่มความสนุกให้กับลุคเพื่อนเจ้าสาวลองเลือกเครื่องประดับที่เหมือนกันก็ช่วยสร้างสีสันให้กับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวได้ไม่น้อย

ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับชุดเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ : www.azazie.com, www.sukcesnaszpilkach.pl

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

4 ลุค ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดไปงานแต่ง แต่งแบบนี้รับรองสวยเซฟ

แก๊งสาวๆ ทั้งหลายเตรียมกันไว้ให้ดีเพราะปีหมูปีนี้เป็นปีฤกษ์ดีของการแต่งงาน เพราะฉะนั้นไม่แน่ว่านอกจากคุณจะได้ไปเป็นแขกแล้ว เผลอๆ อาจจะต้องทัวร์เป็นแก๊งเพื่อนเจ้าสาวด้วย แพรว wedding เลยเตรียม ชุดเพื่อนเจ้าสาว 4 ลุค 4 สไตล์สำหรับงานเลี้ยงตอนเย็นมาฝาก มีพร้อมตั้งแต่งานแต่งสุดทางการแบบค็อกเทล ไปจนถึงงานแต่งแบบเป็นกันเองในธีมปาร์ตี้สุดมัน แถมยังเป็นลุคที่แต่งได้ทั้งในฐานะแขกที่ไปร่วมงานและฐานะเพื่อนเจ้าสาวอีกด้วย

 

แมตช์เดรสกับเข็มขัดสุดหรู

แค่ชื่อก็รู้แล้วว่าต้องเหมาะสำหรับงานแต่งงานแบบทางการภายในห้องบอลรูมสุดหรู เพราะฉะนั้นก็ต้องเติมดีเทลสุดพิเศษให้กับเดรสตัวเก่งกันหน่อย อย่าง เข็มขัดลูกปัดหรือเข็มขัดเพชร ที่เข้ากับชุดเดรสที่คุณใส่ไปร่วมงาน ซึ่งข้อดีของเข็มขัดคือจะช่วยเน้นทรวดทรงของหญิงสาวให้สวยได้รูป หากคุณเป็นสาวอวบเจ้าเนื้อ สาวผอม สาวเตี้ย หรือมีปัญหาช่วงเอวหรือสะโพก ขอแนะนำให้เลือกเป็นเข็มขัดเส้นเล็กเอาไว้ก่อน เพราะจะช่วยพรางรูปร่างได้ดีที่สุด

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาว

เซฟสุดด้วยเฉดสีกลางๆ

สาวๆ บางคนก็ไม่มั่นใจที่จะใส่ชุดเดรสที่สีสันจัดจ้าน เพราะฉะนั้นเราขอแนะนำให้เลือกเฉดสีแบบ neutrals หรือเฉดสีกลางๆ เอาไว้ก่อนค่ะ อย่างเช่น สีแชมเปญ, สีชมพูมุก, สีเทา

ชุดเพื่อนเจ้าสาว
สีแชมเปญ – เหมาะกับสาวผิวขาว ขาวอมชมพู หรือสีผิวกลางๆ ขาวเหลืองไปทางน้ำผึ้งก็ยังใส่ได้ ห้าม! สาวผิวคล้ำไม่แนะนำให้ใส่สีนี้นะ

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

สีชมพู – เหมาะกับสาวผิวขาว ขาวอมชมพู ห้าม! สาวผิวสองสีมองหาสีอื่นด่วนๆ เลยจ้า

ชุดเพื่อนเจ้าสาว

สีเทา – เหมาะกับสาวผิวเข้ม และผิวขาวเหลือง ห้าม! ผิวแบบขาวซีดจงหลีกให้ห่าง

สีสันโทนอัญมณียังมาแรง

สีสันในโทนอัญมณีทั้งหลายสามารถสร้างสีสันให้กับผู้สวมใส่และงานแต่งงานได้เป็นอย่างดี ด้วยรูปแบบของสีที่หนักแน่นและสวยหรู เสริมด้วยการเลือกเนื้อผ้าอ่อนนุ่มแบบพลิ้วไหว แล้วเพิ่มเครื่องประดับเข้าไปอีกนิด เท่านี้ก็ได้ลุคสุดหรูที่สามารถไปได้ทั้งงานแบบทางการหรืองานปาร์ตี้ก็สวยเริด ส่วนสาวๆ ที่เลือกสีสันในโทนนี้สำหรับชุดเดรสสั้น เราแนะนำให้คุณเลือกแมตช์กับต่างหูระย้าสักคู่เพื่อปรับสมดุลของลุคโดยรวม พร้อมสวมส้นสูงแล้วเดินเข้างานได้เลยจ้า


Infinity Dress

ชุดเดรสที่สามารถสร้างสรรค์สไตล์ด้วยเดรสแบบผูกเองง่ายๆ แต่ทันสมัยสุดๆ นะคะคุณขา แถมยังช่วยลดปัญหาแก๊งเพื่อนเจ้าสาวตีกันเพราะรูปแบบชุด เพราะเพียงแค่ตกลงเรื่องสีกันได้ คราวนี้พอถึงเวลาแต่งตัวก็ครีเอทการผูกการพันผ้าได้ตามใจชอบของใครของมันไปเลยค่ะ แถมชุดเดรสสไตล์นี้ยังเหมาะกับสาวๆ ทุกรูปร่างอีกด้วย แต่ข้อควรระวังของการใส่เดรสสไตล์นี้ก็คือ ต้องเรียนรู้เทคนิคการผูกจากร้านมาให้ดี จากนั้นก็พันให้แน่น ทางที่ดีควรลองแต่งด้วยตัวเองก่อนหนึ่งครั้ง แล้วลองทำอิริยาบถต่างๆ ดูก่อนว่าเวลาจะลุก นั่ง ยืน เดิน มีส่วนไหนที่พร้อมจะหลุดบ้าง สุดท้ายเตรียมบราแบบปีกนกไว้ด้วย อย่าได้คิดที่จะใส่ชุดชั้นในแบบสีสายแม้แต่สายใสก็ไม่ได้เด็ดขาด!

ภาพ pinterest, simple-dress.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

มิกซ์แอนด์แมตช์ชุดเพื่อนเจ้าสาว 4 สไตล์สวยกันได้แบบยกแก๊ง

ชุดเพื่อนเจ้าสาวสำหรับเพื่อนสาวที่ตั้งครรภ์ การันตีว่าสวยไม่แพ้คนอื่นแน่นอน

เทคนิคเลือกโทนสีชุดเพื่อนเจ้าสาวที่ใช่ให้เหมาะกับสไตล์ของแก๊ง

7 เรื่องไม่ควรมองข้าม! แล้วคุณจะหลงรักงานแต่งงานของตัวเอง

เพรามัวแต่คิดว่า งานแต่ง ของคุณที่เฝ้าฝันมาคลาดต้องดีงามพระรามแปดดังใจ เลยต้องปวดหัวกับล้านแปดดีเทลที่เกี่ยวข้องจนแทบจะไม่ได้มีเวลาหายใจ แพรว wedding เป็นห่วงสาวๆ ของเราจึงอยากมากระซิบว่ามันมีไม่กี่เรื่องหรอกที่คุณควรต้องให้ความสำคัญจริงๆ รับรองเลยว่าถ้าคุณเทกแคร์ 7 ข้อนี้ได้ ไม่ใช่แค่งานแต่งงานของคุณจะออกมาได้เป๊ะอย่างที่ต้องการ แต่มันจะยังคงประทับอยู่ในใจของคุณไปนานแสนนานอีกด้วย

 

1. เชิญแขกที่ต้องการมางานแต่งงานจริงๆ

สำหรับการเชิญแขกมาร่วมในงานแต่งงานที่จะช่วยให้งานแต่งงานดูพิเศษขึ้น คือการที่คู่บ่าวสาวเชิญแขกที่มีความสำคัญและต้องการมาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวจริงๆ ลองพิจารณาถึงการเลือกเชิญแขกที่มาในงานที่จะไม่ทำให้คู่บ่าวสาวต้องมาคอยกังวลถึงปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น อย่างเรื่องดราม่าของครอบครัวหรือเรื่องต้องคอยระวังการดื่มแชมเปญต่อหน้าเจ้านาย ซึ่งอาจจะทำให้คู่บ่าวสาวมีช่วงเวลาที่ยากขึ้นสำหรับความสุขในงานแต่งงานของตัวเอง

2. ไอเท็มพิเศษต่อใจ

เพิ่มเติมความดีต่อใจที่มีความนัยแสนอบอุ่นไปในงานแต่งงาน อย่างเช่นการใส่เครื่องประดับของครอบครัว จะเป็นสร้อยคอของคุณย่าหรือต่างหูของคุณป้าก็ตามแต่ใจคุณ หรือการเสิร์ฟแขกด้วยสูตรลับขนมหวานที่มีเฉพาะครอบครัวเพื่อสื่อถึงความผูกพันอันยาวนานของครอบครัว

3. หลีกเลี่ยงโซเชียลมีเดีย

เจ้าสาวหลายคนคงไม่อยากให้ภาพของตัวเองในชุดแต่งงานปรากฏใน Facebook หรือ Instagram ก่อนที่เจ้าบ่าวจะได้เห็น นอกจากนี้เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรบอกแขกที่มาร่วมงานว่าไม่ให้ถ่ายภาพในระหว่างพิธีแต่งงาน ถึงแม้การถ่ายภาพเป็นสิ่งที่เป็นปกติสำหรับงานแต่งงานและแขกที่มาร่วมงานสามารถถ่ายภาพได้ทุกช่วงเวลา แต่สำหรับในพิธีแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวคงไม่อยากให้รูปตัวเองตอนเดินเข้าสู่พิธีหรือกล่าวคำสาบานมีรูปแขกที่ถือกล้องถ่ายภาพหรือมือถือเป็นฉากหลังประกอบอยู่ในรูปภาพด้วย และเพื่อความแน่ใจว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นควรมีคนคอยบอกแขกถึงข้อปฏิบัติบางอย่างก่อนเริ่มงานพิธี

4. การรับรองแขก

ก่อนเริ่มงานแต่งงาน เจ้าบ่าวเจ้าสาวหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรใช้เวลาสักนิดก่อนการต้อนรับแขกในงานตรวจสอบดูสถานที่จัดงานหรือลองชิมผลไม้หรือเครื่องดื่มก่อนที่จะใช้ต้อนรับแขก รวมถึงดอกไม้ แสงหรือรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ ที่จำเป็นด้วย ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวควรจะมีความสุขกับสิ่งที่จัดขึ้นในงานก่อนที่แขกจะเข้ามาร่วมในงาน เพราะเมื่อแขกสักคนเริ่มเดินเข้ามาในงานแล้ว ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องวิ่งวุ่นโดยใช้พลังงานและสายตาอย่างไม่มีการหยุดพัก และทางที่ดีอย่าลืมมีช่างภาพสำหรับการถ่ายภาพสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในงานด้วย

5. อาหาร

คู่บ่าวสาวบางคู่อาจใช้อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสร้างเรื่องราวและความเป็นตัวของตัวเองเข้าไป คู่บ่าวสาวบางคู่อาจใช้เวลาทั้งวันเพื่อตามหาร้านไอศกรีมท้องถิ่นที่ใช่สำหรับไอศกรีมรสพิเศษที่จะสามารถนำเสนอความเป็นตัวเองเข้าไปได้ ลองพยายามรวบรวมสิ่งของที่ชอบ สิ่งที่ใช่และความเป็นประเพณีเข้าด้วยกันและสื่อออกมาทางรูปแบบอาหาร เพื่อสร้างความประทับใจให้แขกรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งเหล่านี้

6. เซอรไพร์ส

หลายๆ คู่แต่งงานต้องการมีบางสิ่งหรือทำบางอย่างเพื่อเซอร์ไพร์สคู่แต่งงานของตัวเองในวันแต่งงาน บางทีข้อความแห่งรักอาจไม่ต้องรอนานที่จะปรากฏในโต๊ะระหว่างงานเลี้ยงรับรอง เพราะการเซอร์ไพร์สสามารถทำได้ก่อนหน้านั้นอย่างวีดีโอเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคู่บ่าวสาวในระหว่างช่วงการต้อนรับแขกหรือรถหรูๆ ที่จะมารับหรือส่งคู่บ่าวสาวระหว่างมาสถานที่จัดงานและออกจากงาน สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้สึกพิเศษที่ยิ่งใหญ่เมื่อเจ้าบ่าวทำสิ่งเหล่านี้ให้กับเจ้าสาวในขณะที่เจ้าสาวก็เป็นผู้นำทางความคิดในการวางแผนขั้นตอนการเตรียมงานแต่งงาน มันเป็นความพิเศษที่ต่างฝ่ายต่างรู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเตรียมจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่และทำให้อีกฝ่ายรู้สึกดีมากแค่ไหน

7. ใช้เวลากับคนที่รัก

ใช้เวลาสักพักกับคนที่รักสองต่อสองทันทีหลังพิธีงานแต่งงานหรือระหว่างการต้อนรับ อาจจะใช้ห้องสักห้องหรือวางตารางไว้เป็นส่วนหนึ่งของพิธีการโดยแอบกำหนดไว้หลังจากพิธีการประมาณ 10-15 นาที ก่อนที่ขั้นตอนต่อไปของงานจะเริ่มต้นขึ้น เพราะในช่วงเวลาเหล่านี้แขกจะไม่ทันสังเกตเห็นและทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะได้ใช้ช่วงเวลาจดจำช่วงเวลาเล็กๆ นี้ด้วยกันในที่ที่สามารถอยู่ด้วยกันได้สองต่อสอง

Cr : shefinds.com, chris-seddon.co.uk

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 เทคนิคขั้นเทพ! จัดงานแต่งให้ดูแพงในงบจำกัดได้เองแบบไม่ยาก

7 ธีมสี ไอเดียงานแต่งที่ช่วยเสกให้งานแต่งออกมาเก๋เวอร์

8 เหตุผลน่ารักๆ ที่บ่าวสาวอาจจะหลงรักเมื่อเกิดฝนตกในงานแต่งงาน