ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ จาก 2 ร้านชุดแต่งงาน ตอบโจทย์ทั้งสไตล์และบัดเจ็ต

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์ คืออีกหนึ่งชุดไทยที่บรรดาเจ้าสาวสมัยใหม่ให้ความสนใจ ด้วยดีไซน์ที่เก๋ โดดเด่น อีกทั้งยังสวมใส่ง่ายกว่าชุดไทยพระราชนิยมแบบปกติ ทำให้ได้ชุดไทยแบบผสมผสานกับความเป็นโมเดิร์นที่สวยงาม คล่องตัว ตอบสนองการใช้งานในพิธีต่างๆ บางชุดยังได้รับการออกแบบให้สามารถปรับเปลี่ยนนำไปใช้ได้หลายงาน แพรว wedding จึงขอพาไปชมชุดไทยประยุกต์จากแบรนด์ต่างๆ ที่เต็มไปด้วยรายละเอียดอันงดงาม – เรื่อง : Tomalin

VANUS FIRST

“คุณสรรค์ สุดเกตุ” แห่ง Vanus Couture ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้างสรรค์ชุดแต่งงานสุดวิจิตรทั้งแบบไทยและแบบตะวันตก เปิดแบรนด์ใหม่สุดพรีเมียมในนาม Vanus First เพื่อเสิร์ฟความพิเศษแบบ Customized ให้กับลูกค้าโดยเฉพาะ ดังเช่นชุดไทยประยุกต์สุดหรูหราเปี่ยมดีเทล

ชุดแรกโดดเด่นด้วยท่อนบนปักประดับคริสตัลระยิบระยับ ผ้านุ่งลวดลายโบราณและกระโปรงด้านหลังยาวฟูฟ่อง คุณสรรค์เล่าถึงที่มาว่า “โจทย์ของชุดนี้คือต้องเป็นชุดไทยที่เซ็กซี่มีความซีทรู เพราะเจ้าสาวเซ็กซี่มาก ต้องบอกว่าเจ้าสาวเป็นคนรุ่นใหม่ที่แต่งงานกับคนต่างชาติ
จึงอยากให้เจ้าบ่าวได้เห็นความเป็นไทยบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้ดูไทยจ๋ามาก ขณะเดียวกันในงานก็มีผู้ใหญ่เยอะทำอย่างไรให้มีความเป็นไทย แต่เซ็กซี่และไม่โป๊ ผมจึงออกแบบให้เป็นชุดไทยประยุกต์ที่สามารถใส่เป็นชุดราตรีได้ด้วย มีส่วนผสมของความเป็นสากลเบาๆ จากกระโปรงฟูฟ่อง
ที่สวมทับผ้านุ่ง จุดเด่นอยู่ที่ท่อนบนซึ่งประยุกต์มาจากชุดไทยจักรีที่ห่มสไบ แต่เป็นซีทรูทั้งหมด ซึ่งเมื่อสวมใส่แล้วจะเห็นเนื้อผิวเบาๆ แต่ไม่โป๊ เพราะเราปักคริสตัลกับปิดด้วยสไบโปร่งใสปักประดับอีกชั้นช่วยให้ดูเรียบร้อยขึ้น

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“โดยตัวเสื้อกับสไบเป็นงานปักมือทั้งหมดจนออกมาเป็นลวดลายลูกไม้ ซึ่งผมได้แรงบันดาลใจมาจากการเดินชมงานศิลปะตามพิพิธภัณฑ์ต่างๆ เราใช้ทั้งเลื่อมขาว เลื่อมแบบใส และคริสตัลหลากหลายรูปทรงทั้งเหลี่ยมและกลม เพื่อให้เกิดลวดลายที่มีน้ำหนักและมิติ ไม่แบน ส่วนท่อนล่างเป็นผ้านุ่งทำจากผ้าไหมยกใหญ่สอดดิ้นเงินของลำพูน (ยกใหญ่คือลักษณะวิธีการทอไหม จะมีเชิงที่หัวและท้ายผ้า ลายจะประณีตและสวยกว่ายกเล็กที่มีเชิงอยู่ด้านเดียว) ซึ่งได้รับตรานกยูงพระราชทาน และได้ขึ้นทะเบียนของกรมหม่อนไหม โดยปักประดับเลื่อมและคริสตัลเป็นลวด
ลายวนัชหรือลายดอกบัวที่หน้านางกับชายกระโปรง ส่วนที่เหลือเว้นโล่งไว้เพื่อชูลวดลายของผ้ายกให้โดดเด่น แล้วเติมกระโปรงหางปลาทำจากผ้าทูล (tulle) เข้าไป ซึ่งกระโปรงนี้สามารถปลดออกได้เพื่อให้เหลือแต่ผ้านุ่งเดี่ยวๆ สำหรับงานเช้า แล้วค่อยใส่ตัวกระโปรงฟูๆ เข้าไปสำหรับงานเลี้ยงฉลอง ชุดนี้ใส่ได้เช้าถึงเย็นเลย

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“เนื่องจากชุดนี้มีการปักประดับค่อนข้างเยอะแล้ว เวลาใส่จริง ผมแนะนำให้เจ้าสาวลดทอนเครื่องประดับลงหน่อย เหลือแค่เข็มขัดกับต่างหูก็พอ อย่างเข็มขัดที่นำมาวันนี้เป็นเครื่องประดับของอาจารย์ไพโรจน์ สืบสาม เรียกว่าเป็นงานชั้นครูซึ่งหากเจ้าสาวคนไหนอยากได้เครื่องประดับพิเศษเพิ่ม เราก็สามารถยืมงานอาจารย์มาให้ได้ครับ

“ส่วนอีกชุดเป็นชุดในจินตนาการของผมเอง ใช้ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสแล้วนำมาปักประดับเพิ่ม โดยออกแบบด้านล่างให้เป็นเหมือนผ้านุ่งที่มีจีบหน้านางและใส่เข็มขัดแบบไทย ไอเดียมาจากนางฟ้าแบบฝรั่งผสมกับเทพธิดาของไทย อย่างท่อนบน ถ้าตามเทพนิยายกรีก นางฟ้าก็ต้องมีปีกจึงเลือกใช้ขนนกมาเป็นจุดเด่นของชุด โดยทำเป็นชุดคอวีลึกแขนกุดประดับขนนกกระจอกเทศเพื่อปิดช่วงส่วนเกินตรงต้นแขน ตอบโจทย์เจ้าสาวที่ไม่มั่นใจบางจุด กลัวอ้วนหรือกลัวโป๊ ชุดนี้ท่อนบนเป็นซีทรู แต่เวลาใส่จริงมีซับในสีนู้ดที่เราคัดผ้าให้เป็นเฉดสีเดียวกับผิวเลย ถ้ากลัวโป๊ก็สามารถทำซับในเป็นแบบเกาะอกได้ เพราะชุดนี้คอค่อนข้างลึก

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“ส่วนกระโปรงทำเป็นทรงผ้านุ่ง แต่ชายเป็นแบบเมอร์เมด โดยคงซิกเนเจอร์แบบไทยไว้ คือหน้านางกับการปักลายแบบไทย โดยการเซาะลูกไม้
มาวางแล้วปักทับให้มีเอฟเฟ็กต์มีมิติ ดูรวมๆ แล้วชุดนี้ก็เป็นเหมือนนางฟ้านางสวรรค์

“ยุคนี้สัดส่วนของเจ้าสาวที่เลือกชุดไทยประยุกต์ใกล้เคียงกับชุดไทยพระราชนิยมนะครับ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าสาวสมัยใหม่ อยากได้ความมินิมัล
หรือโมเดิร์นหน่อย ให้มีส่วนผสมที่ไม่ดูเป็นไทยจัดๆ หรือบางกลุ่มก็ต้องการให้ไปได้ถึงสองประเพณี เช่น ไทยบวกจีน คือจัดงานไทยแล้วอาจต่อด้วยยกน้ำชา ดังนั้นชุดไทยประยุกต์จะตอบโจทย์คนที่ต้องการความยืดหยุ่นพอสมควร ส่วนเจ้าสาว ผมแนะนำว่าควรมาคุยกันและมาลองชุดก่อน ส่วนใหญ่เจ้าสาวจะคิดมาแล้วว่าอยากได้ชุดแบบไหน แต่หลายครั้งก็มาเปลี่ยนหน้างานหลังจากได้ลองชุดแล้ว เพราะจะเห็นเลยว่าแบบไหนที่ใส่แล้วดูสวยโปร่ง เพรียวบาง หรือช่วยปกปิดจุดบกพร่องเสริมความมั่นใจ แต่หลักๆ ที่ต้องตกลงกันเลยคือ ชุดของเราจะมีสัดส่วนความเป็นวนัชอยู่ที่ 60 – 70 เปอร์เซ็นต์ และมีความเป็นตัวเจ้าสาวอยู่ 30 – 40 เปอร์เซ็นต์ เพราะการที่เขาเลือกแบรนด์เรา แปลว่าเขาชอบงานเราแล้ว ที่เหลือคือเราต้องประยุกต์ให้เข้ากับเขา

“จุดเด่นของแบรนด์เราที่ทำให้ลูกค้าชอบคือ เราพิถีพิถันกับวัตถุดิบ โดยเฉพาะแบรนด์วนัช เฟิร์ส ซึ่งแตกต่างจากวนัชกูตูร์ตรงที่มีการดูแลลูกค้า
แบบให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า และเลือกใช้วัตถุดิบพรีเมี่ยมมากๆ ลูกค้าสามารถเลือกวัสดุที่จะนำมาใช้ได้หมดเลย อย่างสมมติผ้าไทยเราก็
จะใช้ผ้าไทยจริงๆ อย่างไหมแพรวา ไหมลำพูน ไหมปักธงชัย ซึ่งเวลาสวมใส่แล้วจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน เพราะเวลาไหมสะท้อนแสง
จะแวววาวแบบเป็นธรรมชาติ ไม่วิบวับเหมือนผ้าพอลิเอสเตอร์ โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ตั้งแต่เส้นไหมว่าจะใช้ไหมแบบไหน เรามีตัวอย่างผ้ามาให้เลย รวมไปถึงลวดลายที่จะทอ ซึ่งเราจะส่งขึ้นทะเบียนที่กรมหม่อนไหมให้ด้วยว่าจะตั้งชื่อลายว่าอะไร เพราะเราออกแบบให้คุณโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับตัวคริสตัล ถ้าเป็นลูกค้า Customized เราจะมีชาร์ตให้เลือกจากสวารอฟสกี้เลยว่า อยากใช้นัมเบอร์อะไร รูปทรงไหน เพื่อสร้างเป็น
กิมมิกแต่ละคนไม่ให้เหมือนกัน นอกจากนี้ผมยังบินไปต่างประเทศเพื่อคัดลูกไม้และวัสดุต่างๆ เอง เพราะอยากให้แต่ละชุดมีความเฉพาะตัวชนิดที่หาไม่ได้อีกแล้ว ต่อให้มีชุดที่คล้ายแต่ก็แค่ใกล้เคียง รายละเอียดจะไม่เหมือนกัน จึงชื่นใจทุกครั้งเวลาลูกค้ามีฟีดแบ็กกลับมาว่าชุดของเราแตกต่างไม่เหมือนใคร

“แบบดูก็รู้ว่านี่แหละ Vanus”

ภาพ : อิทธิศักดิ์ ผู้ช่วยช่างภาพ : ณรงศักดิ์ บำรุงกิจ

 

CHAONANG WEDDING

“เจ้านาง เวดดิ้ง” กำลังเป็นที่นิยมในหมู่เจ้าสาวรุ่นใหม่ ด้วยงานที่พิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียด เอาใจใส่และเข้าใจความต้องการของลูกค้าทำให้ได้ผลงานที่สวยงามโดดเด่น และเข้ากับตัวตนของเจ้าสาว

สำหรับชุดไทยประยุกต์ที่ทางร้านนำมาให้ชมวันนี้ คุณก้อย – ดาริษา รัตนธนาภัทร์ ได้ร่วมออกแบบกับทีมช่างขึ้นมาเป็นพิเศษให้ชุดเดียวสามารถนำไปปรับใช้ได้ถึง 3 แบบ สำหรับพิธีไทยในช่วงเช้า งานเลี้ยงตอนค่ำ ไปจนถึงอาฟเตอร์ปาร์ตี้กันเลยทีเดียว เริ่มกันที่ชุดไทยในช่วงพิธีการ คุณก้อยเล่าว่า “เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการแต่งงานเปลี่ยนไปพิธีการค่อนข้างสั้น กระชับ โจทย์ของเราคือทำชุดไทยประยุกต์ที่สามารถใส่ได้ง่าย จึงออกแบบชุดที่มีคัตติ้งเรียบโก้สไตล์มินิมัลและสามารถปรับเปลี่ยนไปใช้ในงานกลางคืนต่อได้อย่างรวดเร็วทันเวลา ลดขั้นตอนการหาชุดและเวลาแต่งตัวของเจ้าสาว แต่คงรายละเอียดชุดไทยและงานเลี้ยงฉลองไว้อย่างครบถ้วนด้วยการผสมผสานผ้าลูกไม้และลายปักให้ดูทันสมัย

ชุดแต่งงานไทยประยุกต์

“โดยชุดนี้ประยุกต์มาจากชุดไทยจักรีที่มีการห่มสไบ โดยออกแบบให้ด้านในเป็นจั๊มป์สูท (เสื้อ – กางเกงติดกัน) ไหล่เดี่ยว แล้วสวมทับด้วยซิ่นสำเร็จที่มีจีบหน้านางและชายหางปลา ติดซิปด้านหลัง สวมใส่ได้ง่าย แล้วห่มทับด้วยสไบซึ่งอาจทำเป็นกระดุมแป๊กติดไว้เพื่อให้เจ้าสาวสวมใส่
เองได้ แต่หากอยากให้ออกมาดูเนียนหน่อยอาจต้องใช้วิธีเย็บสด ซึ่งไม่ยากค่ะ เราจะตามไปทำให้ในวันงาน

“จุดเด่นของชุดอยู่ที่ลวดลายปักซึ่งเราดีไซน์ขึ้นมาเอง ทุกครั้งที่ทำงานเราจะดีไซน์ลายใหม่หมดและเป็นงานปักมือทั้งสิ้น อย่างลายปักบริเวณจีบหน้านางเป็นลวดลายช่อดอกทานตะวัน แทนสัญลักษณ์ของแสงสว่างในยามรุ่งอรุณซึ่งเป็นช่วงเวลาจัดพิธีไทย เพื่อเพิ่มพลังและเป็นมงคลในชีวิต สำหรับลายปักบนสไบนั้นเป็นลายปักลูกไม้ที่ม้วนเป็นเกลียวเถาวัลย์เลื้อยสลับกันไปสื่อถึงรักกันกลมเกลียว ลายเถาวัลย์นี้ยังพาดผ่านต่อเนื่องยาวไปถึงด้านหลังของสไบสื่อถึงความรักที่ยืนยาว ส่วนลายปักรูปดอกไม้บานก็เปรียบเสมือนความรักที่เบ่งบาน ทุกอย่างมีความหมายหมดค่ะ

“ในเรื่องของเนื้อผ้า ชุดนี้เราเลือกผ้าไหมมิคคาโด้สีขาวออฟไวท์มาทำเป็นจั๊มป์สูทและกระโปรงซิ่นให้ความหรูหราเล็กๆ ได้อารมณ์เหมือนชุดราตรี เพราะเป็นชุดไทยในสไตล์โมเดิร์นมาก ๆ แต่เจ้าสาวต้องผิวขาวหน่อยจึงจะใส่สีออฟไวท์แล้วสวย ถ้าผิวสองสี ผิวคล้ำ อาจต้องเปลี่ยนเป็นโทนสีทองหรือชมพูกลีบบัวจะช่วยขับผิวให้สว่างขึ้น ส่วนสไบทำจากผ้ากึ่งไหมที่มีลายแวววาวอยู่ในตัว เวลาโดนแสงสไบจะดูมีเลเยอร์เด่นออกมาจากตัวชุดเลยค่ะ

“พอถึงช่วงงานกลางคืน เราก็แค่ถอดผ้าซิ่นและปลดสไบออก เหลือแค่ตัวจั๊มป์สูท แล้วสวมเสื้อลูกไม้ปักเลื่อมระยิบระยับเข้าไปเพื่อเพิ่มจุดเด่น
ให้เจ้าสาวในยามค่ำคืน คอเสื้อเป็นคอตั้งปักมุกเพื่อให้เรียบหรูดูแพงด้านหลังเสื้อจะมีกระดุมลายดอกกุหลาบประดับเพชรซึ่งเป็นซิกเนเจอร์
ของร้าน ส่วนท่อนล่างมีกางเกงจั๊มป์สูทที่ปักชายกางเกงเป็นลายเถาไม้ขึ้นมาเพื่อให้รับกับความแวววาวของตัวเสื้อ และมีกระโปรงทำจากผ้าออร์แกนดี้ต่อด้านหลัง (ใช้ตะขอเกี่ยว) ให้มีความหวานขึ้น เราเลี่ยงไม่ปักที่ตัวกระโปรงเพราะเดี๋ยวจะดูทึบและแน่นเกินไป หลังจบงานเลี้ยงฉลองแต่งงานแล้วพอเข้าสู่อาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ถอดกระโปรงออก ใส่แต่เสื้อลูกไม้กับจั๊มป์สูท หรือจะถอดเสื้อลูกไม้ออกเหลือแค่จั๊มป์สูทเรียบๆ ตัวเดียวก็ได้ คล่องตัว เท่ๆ ไปอีกแบบ แด๊นซ์ได้ทั้งคืน

“สรุปว่าตอนค่ำ ชุดนี้จะมีทั้งหมด 3 ชิ้น คือ จั๊มป์สูท เสื้อลูกไม้ และกระโปรง ซึ่งลูกค้าสามารถนำบางชิ้นไปใช้ต่อในงานอื่นได้ ที่ผ่านมาเคยทำให้เจ้าสาวบางคนในลักษณะใกล้ๆ กันนี้มาแล้ว คือทำแยกเป็นชิ้นๆ ปรากฏเขานำเสื้อไปใช้ในงานเลี้ยงบริษัท กระโปรงก็นำไปใส่ในงานอื่นได้ เป็นชุดแต่งงานที่ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวจบ ลูกค้าแฮ็ปปี้มากค่ะ ดังนั้นความต้องการของลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก หรือถ้ามีบัด
เจ็ตมาแล้วก็มาคุยกันได้ เพราะด้วยภาวะเศรษฐกิจทุกวันนี้ เราเข้าใจ ก็จะคุยกับลูกค้าตรงๆ เช่น ถ้ามีบัดเจ็ตเท่านี้จะได้ผ้าลักษณะนี้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นผ้าอีกชนิด เพิ่มราคานิดหน่อย แต่จะดูหรูหราขึ้นมาเลย ไหวไหม ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าก็จะชอบ เพราะสิ่งที่ออกมานั้นคุ้มค่ามาก

“จึงอยากให้เข้ามาคุยกันก่อน ไม่ต้องเกร็งหรือกดดัน จะเลือกเราหรือไม่ก็ไม่ซีเรียส เราอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่า ‘เราคือเพื่อนคู่ใจ’ ที่สามารถปรึกษาให้คำแนะนำในราคาที่จับต้องได้ ไม่ว่าจะแบบชุด ธีมงาน รูปร่าง หรือมีข้อจำกัดอะไรบ้าง เราจัดการได้หมด เช่น ถ้ามีหน้าท้อง เราก็จะออกแบบชุดไทยให้ท่อนล่างมีสีเข้มและมีสะพักปิดหน้าท้อง คือปรับเปลี่ยนเพื่อปกปิดจุดบกพร่องและเพิ่มจุดเด่นให้คุณโดดเด่น งานของเราจึงมีความยูนีค เพราะอยากให้เจ้าสาวรู้สึกภูมิใจในความเป็นหนึ่งเดียว ได้สวมใส่ชุดที่เป็นของตัวเองคนเดียว

“สมกับที่เป็นครั้งหนึ่งในชีวิต”

ภาพ : วรสันต์ ผู้ช่วยช่างภาพ : ณัฐชา ชาวเกวียน

เสื้อผ้า : Vanus First
โทร. 09-1750-1111
เฟซบุ๊ก : Vanus First – วนัชเฟิร์ส
ไอจี : @vanusfirst_official

เจ้านางเวดดิ้ง
โครงการธนบุรีคอมเพล็กซ์ ซอย 8
ถนนพระราม 2 ซอย 60 (ใกล้เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2)
โทร. 08-6363-6555, 08-8089-5999
เว็บไซต์ : www.chaonangwedding.com
เฟซบุ๊ก : Chaonang Wedding – เจ้านางเวดดิ้ง
ไอจี : @chaonangwedding
ไลน์ : @chaonangwedding

อ่านบทความเพิ่มเติม

3 แบบเทรนด์ชุดเจ้าสาว ตัดครั้งเดียวแต่นำกลับมาใส่ซ้ำได้หลายโอกาส

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยแต่งชุดไทยพระราชนิยมให้สมส่วนสวยปังในวันวิวาห์

เคล็ดลับเลือกชุดแต่งงานชุดไทย ก่อนที่บ่าวสาวจะตัดสินใจเซย์เยส

Recommended