คุณเคยเบื่อสามีกันไหมคะ? ถ้าถามคำถามนี้กับภรรยาหลายๆ คน คงต้องได้ยินคำตอบว่า “เบื่อมาก-ก-ก-ก-ก” แน่นอน แต่ไม่ต้องตกใจเพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องเจอกันทุกคู่ โดยเฉพาะคนที่อยู่ด้วยกันมาเนินนาน เจอพฤติกรรมน่าเหนื่อยหน่ายของสามีทุกวัน บางทีถึงกับสารภาพว่า เบื่อมาก ทนไม่ไหวละ อยากเลิก! ภรรยาเบื่อ สามี

ไหนดูซิ สามี คนไหนทำ 10 เรื่องนี้บ่อยๆ จน ภรรยาเบื่อ เหนื่อยหน่ายใจจนอยากขอลาบ้าง!

1. ไม่หยิบจับงานบ้าน

เหตุผลอันดับหนึ่งที่สมาคมภรรยาลงความเห็นกันว่า ใช่! พ่อยอดขมองอิ่มสุดที่รักชอบทำตัวเป็นคุณชาย ไม่เคยกวาดบ้าน ล้างห้องน้ำ จานชามไม่เคยแตะ! แถมยังชอบให้เหตุผลว่า “ก็ทำงานมาเหนื่อยนะ!” โอ้  ภรรยาได้ยินคำนี้แล้วควันออกหู เพราะตัวเองก็ต้องทำงานเหมือนกัน กลับบ้านมายังต้องทำงานบ้านคนเดียวอีก แบบนี้ไม่ไหวนะคะ ควรช่วยหยิบจับอะไรบ้าง เล็กน้อยก็ถือนเป็นกำลังใจน่ะ

2. ขี้บ่น

สมัยคบกันแรกๆ ไม่มีปริปากสักแอะ! พอแต่งงานอยู่ด้วยกัน ไม่รู้ไปเพิ่มสกิลฝีปากมาจากไหน วานให้ช่วยหยิบอะไรนิดหน่อยก็บ่น เดินผ่านแล้วบังทีวีแป๊บเดียวก็บ่น บ่นขิงบ่นข่าอย่างเดียวไม่พอ ภรรยาบางคนเจอสามีจอมบงการอีก เฮ้อ! เพลียคูณสองเลย

3. โกหก กะล่อน

สามีบางคนยิ่งกว่าพ่อปลาไหล จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน ในหมู่ผู้ชายอาจเรียกว่าเอาตัวรอดเก่ง แต่ผู้หญิงคงไม่ชื่นชมด้วย เพราะมันทำให้เกิดความระแวงในความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ ถ้ามีแค่ครั้งสองครั้งคุณภรรยาก็พอให้อภัยได้ แต่ถ้ามีบ่อยๆ ระวังรอยร้าวในความรักจะกว้างขึ้น สุดท้ายภรรยาทนไม่ไหวคงต้องบอกลา

4. วางของไม่เป็นที่เป็นทาง เสื้อผ้าไม่เคยลงตะกร้า

ข้อนี้ภรรยาขอบอกว่าทั้งเบื่อ ทั้งเหนื่อย! พูดก็แล้ว บอกก็แล้ว แต่ไม่เคยเปลี่ยนพฤติกรรม ภรรยายังต้องเดินตามเก็บให้ตลอด บางคนกางเกงในม้วนเป็นเกลียวยิ่งกว่าเลขแปด ถึงเวลาซักภรรยาต้องมาคลี่ให้อีก เจอแบบเดิมซ้ำกันหลายๆ ปี ทำใจยังไงก็ไม่ชิน มีแต่ความเหนื่อยที่เพิ่มขึ้นไม่ลดลงเลย

5. เล่นแต่เกมจนลืมว่าภรรยานั่งอยู่ข้างๆ

คู่รักสมัยใหม่เจอปัญหานี้เกือบทุกคู่ สามีติดเกมหนักมาก! ถ้าไม่ชวนคุยก่อนก็คงไม่ได้สนทนากันเลย เลิกงานกลับบ้านมาก็เล่นแต่เกม นั่งกินข้าวด้วยกันยังไม่วายจะหยิบมือถือมากดเกมเล่นอีก เจอแบบนี้บ่อยเข้า จะกลายเป็นว่าคุณไม่สนใจคนข้างกายจนเธอรู้สึกไร้ตัวตน ทำให้ภรรยาหลายคนเริ่มสงสัยว่า เลิกกันแล้วไปแต่งงานกับเกมดีกว่าไหมจ๊ะ คุณสามี!

6. ต้องให้เตือน ให้บอก ตลอดเวลาว่าควรทำอะไร

ข้อนี้ต้องเปรียบเปรยว่า ได้สามีเหมือนมีลูกชายเพิ่มอีกคน ถ้าเป็นช่วงข้าวใหม่ปลามันหลายคนอาจจะมองว่าเป็นความใส่ใจและห่วงใยของภรรยาที่มาพร้อมเสียงซอฟท์โทน เช่น ที่รักไปอาบน้ำได้แล้วนะ ที่รักทานข้าวได้แล้วค่ะ ที่รักนอนได้แล้วนะเดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นเช้าไปทำงานไม่ทัน ฯลฯ แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ถ้าภรรยายังต้องพูดแบบนี้ทุกวันๆ เสียงนุ่มนวลจะกลายเป็นเสียงกระแทกกระทั้น คำว่าที่รักอาจแทนด้วยคำอื่นที่ไม่น่าฟัง สุดท้ายถ้าเลิกพูดประโยคเหล่านี้เมื่อไหร่ก็เตรียมตัวเซย์กู๊ดบายได้เลย

7. สามีไม่ทำการบ้าน เซ็งมาก

แต่งงานแรกๆ ก็จู๋จี๋กันดีอยู่หรอก แต่พออยู่ไปนานๆ เหมือนจะเป็นพระอิฐพระปูนเข้าไปทุกที สะกิดสะเกาตอนเข้านอนไม่เคยได้ดั่งใจ หนักเข้าชิงหลับไปก่อนภรรยาจะขึ้นเตียงอีก! พอพยายามเปิดใจ คุยสามีก็ไม่ให้ความร่วมมือ เลยไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ไหน เจอแบบนี้ภรรยาหงอยเหงา ไม่ได้รับการเติมเรื่องเซ็กส์ในชีวิตคู่ แต่จะให้มีคนอื่นก็ทำไม่ได้ ทางออกสุดท้ายคงไม่พ้นต่างคนต่างไป เพื่อจะไปเจอคนที่เติมเต็มได้มากกว่า

8. ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ไม่คิดจะเลิก

เจอแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งภรรยาคงพอทำใจ หรือเป็นครั้งคราวคงยังพอไหว แต่ถ้าเจอคอมโบแบบนี้คงทนได้ไม่นาน สามีคนไหนที่ติดหนัก ดื่มทุกวัน เมาทุกวัน บุหรี่วันละ 3 ซอง หมดเงินไปกับของมึนเมาไม่ใช่น้อยๆ เจอแบบนี้ไม่อยากจะทน เพราะไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ร่างกายของสามีเท่านั้น ยังลามมาถึงสุขภาพกายและใจของภรรยาด้วย ผู้หญิงหลายคนยื่นคำขาด ถ้าเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ไม่ได้ ก็เลิกกันไปเลยง่ายกว่า!

9. ติดพนัน

เดี๋ยวนี้การพนันมีทุกรูปแบบ มาทุกช่องทาง ทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ บาคาร่า พนันบอล ฯลฯ หลายคนถอนตัวออกจากวงจรนี้ได้ภรรยาดีใจน้ำตาไหล แต่ก็ยังมีอีกมากที่วนเวียนเสียเงินพนันให้เจ้ามือไม่ใช่น้อยๆ แบบนี้มองไม่เห็นอนาคตอันสดใสของชีวิตคู่เลยค่ะ สุดท้ายจบที่การเลิกรากันทุกราย

10. ทำร้ายร่างกาย

ฮาร์ดคอร์สุดๆ แล้วกับพฤติกรรมนี้ สามีบางคนชอบใช้กำลังเวลาทะเลาะกัน อ้างว่าโมโห ยั้งมือไม่ทัน สุดท้ายมาอ้อนวอนขอคืนดี สำนึกผิดและจะปรับปรุงตัว บอกเลยนะคะว่า ฉากตบจูบแบบในละครไม่เคยสร้างความแฮปปี้ในชีวิตจริง ครั้งแรกทนได้ ครั้งที่สองยังไหว ครั้งที่สามเริ่มถอดใจ ครั้งต่อไปภรรยาคงชวนไปจดทะเบียนหย่าไม่ปล่อยให้ปัญหาเรื้อรังแน่นอน หรือถ้าพูดกันตามจริง ควรไปหย่าเสียตั้งแต่เจ็บตัวครั้งแรก ไม่ควรปล่อยให้มีครั้งอื่นๆ ตามมา เพราะแค่ลงไม้ลงมือกับเราเพียงสักครั้ง แค่นั้นก็เกินพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว

ความน่าเบื่อหน่ายเหล่านี้มักจะปรากฏหลังแต่งงานไปแล้ว ยิ่งอยู่ด้วยกันนานๆ ก็ยิ่งได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันมากขึ้น ในขณะเดียวกัน ความผูกพันของสามีภรรยาก็ทวีคูณด้วยเช่นกัน พฤติกรรมบางอย่างภรรยาหลายคนยอมทนเพราะความรัก ความผูกผัน หรือแม้กระทั่งยอมทนเพื่อลูก แต่สุดท้ายแล้วความอดทนของคนเราย่อมมีขีดจำกัด ถึงวันนั้นเมื่อไหร่คงต้องทางใครทางมัน

ยังมีอีกหนึ่งเรื่องคือ สามีชอบกลับบ้านไม่เป็นเวลา คุณภรรยาคงต้องฝึกสกิล >> How To ตามแต่ไม่จิก – ตามสามีกลับบ้าน แบบนี้รับรองว่าไม่มีอึดอัด <<

ภาพจาก : Pexels.com

Sex กับชีวิตคู่เป็นของคู่กันนะคะ ตราบใดที่ชายหญิงยังไม่ละทางโลกหรืออายุมากจนฮอร์โมนลดลง เรื่องบนเตียงกับความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยาก็ยังถือว่าสำคัญ แต่สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาเซ็กส์จืดชืด หรือภรรยาที่สามีไม่ทำการบ้าน ลองมาดูไอเดียปลุกใจชายหนุ่มกับ ชุดนอนไม่ได้นอน เผื่อว่าอะไรๆ จะดีขึ้น

ชุดนอนไม่ได้นอน ใส่แล้วเผื่อจะได้ทำกิจกรรมตลอดคืน!

ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าชุดนอนปลุกใจชายหนุ่มบางทีก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผ้าตาข่ายซีทรูเสมอไปนะคะ สำหรับคู่ไหนที่ชอบเล่นคอสเพลย์ ก็สามารถสวมบทบาทตามชุดที่ใส่ได้ แต่ต้องรู้ก่อนว่า คุณสามีของเราเขาชอบ Role Play แบบไหน ลองเช็กดูสักนิดก่อนคิดจะซื้อชุดมาใส่

คอสเพลย์สายอาชีพ

มีให้เลือกมากมายเลยจ้า แต่อาชีพยอดฮิตที่หลายคนเลือกเครื่องแบบมาใส่ก็คือ พยาบาล สาวใช้ และตำรวจ ลองเลือกเอาว่าจะใส่แต่ชุดหรือมีอุปกรณ์อย่างอื่นเพิ่มมาด้วย

คอสเพลย์สาวต่างชาติ

สร้างอารมณ์หวือหวาด้วยชุดแต่งกายประจำชาติที่หนุ่มๆ ชอบใจ ไม่ว่าจะเป็นชุดกี่เพ้าของจีน หรือชุดกิโมโนแบบญี่ปุ่น แอบเซ็กซี่ยั่วใจนิดๆ (อย่าเผลอซื้อชุดจัดเต็มแบบถอดยากแล้วกัน) หรือใครจะห่มกระโจมอก นุ่งผ้าถุงแบบไทยๆ ก็ได้ไม่ว่ากัน

คอสเพลย์สัตว์น้อยน่ารัก

อีกหนึ่งธีมที่นิยมนำมาคอสเพลย์เพื่อเพิ่มความสนุกให้เรื่องบนเตียงก็คือ การแต่งกายด้วยชุดสัตว์น้อยน่ารักปนเซ็กซี่ จะเป็นกระต่ายตาใส หรือจะเป็นแมวขี้อ้อนก็ลองเลือกดูตามที่ชอบกันได้

สำหรับใครที่ไม่ถนัดเรื่องการสวมบทบาท คงต้องมาทางชุดนอนวาบหวิว เซ็กซี่ขยี้ใจชายหนุ่มกันไปเลย มีให้เลือกใส่หลายแบบหลายสไตล์ ลองดูว่าชอบแบบไหนก็จัดไปโลด

ชุดผ้าลูกไม้

เริ่มกันด้วยชุดผ้าลูกไม้แบบซีทรูยอดฮิตอันดับหนึ่ง แนะนำว่าเลือกผ้าลูกไม้นิ่มๆ ไม่แข็งบาดผิวจนต้องแกะเกาตลอดเวลานะคะ เดี๋ยวหมดอารมณ์ซะเปล่าๆ

ชุดผ้าซาติน

สาวๆ คนไหนที่ไม่ถนัดชุดลูกไม้เต็มตัว และอยากได้สัมผัสสบายๆ ลองหันมาใส่ชุดนอนผ้าซาตินนุ่มๆ แต่ยังแฝงด้วยความเซ็กซี่ เลือกได้ว่าจะใส่เป็นเดรสตัวสั้นหรือเสื้อสายเดี่ยว กางเกงนอนขาสั้นเสมอ… ก็ดูเย้ายวนใจไม่น้อย

ชุดนอนกึ่งบราส์

ทีเด็ดไม้ตายต้องชุดนอนกึ่งยกทรง ใส่แบบน้อยชิ้น มีแค่เสื้อตัวบนกับจีสตริงตัวล่าง เลือกได้หลายแบบ มีทั้งแบบลูกไม้ปล่อยชายพลิ้วไหว เดรสสายเดี่ยวผ้าซาตินประดับลูกไม้ ชุดเดรสลายจุด ลายดอกไม้ หรือเดรสผ้าตาข่าย จัดเต็มเพื่อปลุกใจ ปลุกอารมณ์เสือป่าแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบไปเลย!

รวบรวมไอเดียชุดนอนไม่ได้นอนมาเยอะขนาดนี้ สาวๆ คนไหนลองแล้วเห็นผลดั่งใจ แพรวเวดดิ้งก็ดีใจด้วย ส่วนใครที่ลองมาทุกรูปแบบแล้วยังกะเทาะเปลือกพระอิฐพระปูนไม่ได้ คงต้องเปิดใจคุยกันแล้วหาทางแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ แล้วล่ะ

มีะคล็ดลับจัดรักฟินๆ บนเตียงอีกมากมาย ตามไปอ่านกันได้เลย

• ปักหมุด 5 จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว เล้าโลมให้ถูกที่มีแต่จะฟิน ฟิน ฟิน
• เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ใหม่

ภาพจาก : pixels.com, esty.com, pinterest.com

ข้อดีของการแต่งงานมีมากมายหลายอย่างเลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น แต่งงานแล้วมีความสุข สุขภาพดี ช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว มีคู่ชีวิตไว้คอยปรึกษา และอีกหนึ่งประโยชน์ล่าสุดของการ แต่งงาน คือ สิทธิลดหย่อนภาษี คู่สมรส คำนวณกันให้ดีๆ ลดได้ถึง 120,000 บาท!

แต่งงาน กันทั้งทีได้ สิทธิลดหย่อนภาษี คู่สมรสเพียบ

ในปัจจุบันนี้ คู่สมรสที่แต่งงานและจดทะเบียนกันอย่างถูกกฎหมาย สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีคู่สมรสได้ โดยมีรายละเอียดการยื่นภาษีและข้อกำหนดสำหรับการลดหย่อนหลักๆ ดังนี้

1. กรณีสามีหรือภรรยา คนใดคนหนึ่งไม่มีรายได้

สำหรับข้อนี้ใครที่เป็นแม่บ้าน ไม่ได้มีเงินได้จากการทำงานประจำ เมื่อถึงเวลายื่นแบบภาษี สามีจะนำค่าเลี้ยงดูภรรยามาคำนวณลดหย่อนภาษีได้ถึง 60,000 บาท / ปี ถึงแม้ว่าสามีจะให้เงินภรรยาใช้จ่ายเป็นรายเดือน แต่ในทางกฎหมายก็ยังถือว่าภรรยาเป็นผู้ไม่มีเงินได้

สำหรับภรรยาที่เป็นผู้มีเงินได้ แต่สามีไม่มีเงินได้ กรณีนี้ ภรรยาสามารถหักลดภาษีในฐานะผู้มีเงินได้ 60,000 บาท และหักลดในส่วนของสามีได้อีก 60,000 บาท รวมเป็น 120,000 บาท โดยการยื่นแบบภาษีให้แจ้งสถานะคู่สมรสไม่มีรายได้

ในข้อนี้ยังครอบคลุมไปถึงเงินในรูปแบบดอกเบี้ยเงินฝากและเงินปันผล ซึ่งถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายไว้แล้ว 15% และ 10% ตามลำดับ โดยไม่มีการนำเงินที่ได้จากดอกเบี้ยและเงินปันผลดังกล่าวมาคำนวณรวมกับเงินได้อื่นๆ กรณีนี้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ 60,000 บาท เช่นกัน

2. ลดหย่อนภาษีของบิดามารดาคู่สมรส

ข้อนี้หลายคนคงทราบดีอยู่แล้วว่า สามารถลดหย่อนภาษีจากการเลี้ยงดูบิดา-มารดาของตนเองได้ (ลดหย่อนได้คนละ 30,000 บาท) แต่รู้หรือไม่ว่า ค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดาของคู่สมรส (พ่อตาแม่ยาย) ก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน

ในกรณีต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีบิดามารดาคู่สมรส มีเงื่อนไขดังนี้

• คู่สมรสไม่มีรายได้เลยในปีภาษีนั้น
• คู่สมรสเป็นลูกแท้ๆ ตามกฎหมายของบิดา-มารดา
• บิดา-มารดาของคู่สมรสต้องมีอายุครบ 60 ปีแล้วในปีภาษีนั้น (ไม่ใช่ปีที่ยื่นแบบภาษี)
• บิดา-มารดาของคู่สมรสอยู่ในความดูแลของเราเอง
• บิดา-มารดาของคู่สมรสมีรายได้ทั้งปีภาษีไม่เกิน 30,000 บาท (รวมถึงเงินบำนาญ, ดอกเบี้ยเงินฝาก และเงินจากการขายหุ้น)
• บิดาหรือมารดาต้องอยู่ในประเทศไทยอย่างน้อย 180 วันในปีภาษีนั้น

สำหรับใครที่ต้องการยื่นขอลดหย่อนภาษีทั้งพ่อแม่ของเราเอง และพ่อตาแม่ยาย ในกรณีนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยสามารถลดหย่อนภาษีได้ท่านละ 30,000 บาท ถ้าเราใช้สิทธิลดหย่อนของทุกคน ก็จะลดได้ถึง 120,000 บาท แต่มีข้อควรระวังอย่างหนึ่ง คือ ถ้าคุณมีพี่น้องพ่อแม่เดียวกัน ต้องแบ่งค่าลดหย่อนกันให้ลงตัว เพราะบิดาและมารดาจะคิดเป็น 1 คน 1 สิทธิ และสามารถนำไปใช้สิทธิได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น เช่น ในปีภาษีนี้น้องสาวของคุณใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของพ่อ คุณจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของแม่ได้เท่านั้น โดยใช้หลักการเดียวกันนี้กับบิดา-มารดาของคู่สมรสด้วย ระวังอย่าให้มีการใช้สิทธิซ้ำกัน เพราะจะไม่มีใครได้สิทธิลดหย่อนภาษีเลย

3. ลดหย่อนค่าประกันสุขภาพของบิดา-มารดาคู่สมรส

นอกจากจะสามารถลดหย่อนค่าประกันสุขภาพของพ่อแม่ตัวเองได้แล้ว หากคุณซื้อประกันสุขภาพให้พ่อตาแม่ยาย ก็สามารถนำมาใช้ลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน โดยสามารถลดได้ตามที่จ่ายจริง และไม่เกิน 15,000 บาท รวมถึงใช้เงื่อนไขเดียวกันกับการลดหย่อนค่าเลี้ยงดูบิดา-มารดาตามในข้อ 2

4. ลดหย่อนภาษีของบุตร

ข้อนี้เฉพาะเจาะจงสำหรับคู่สมรสที่มีลูก สามารถยื่นขอลดหย่อนภาษีบุตรได้คนละ 30,000 บาท หากบุตรคนที่สองเป็นต้นไปเกิดในปีพ.ศ. 2561 หรือหลังจากนั้น จะได้สิทธิลดหย่อนคนละ 60,000 บาท / ปี

ในกรณีมีบุตรบุญธรรมที่เซ็นรับรองตามกฎหมาย สามารถนำมาใช้ขอสิทธิลดหย่อนทางภาษีได้เช่นกัน ซึ่งลดได้คนละ 30,000 บาท อย่างไรก็ตาม ถ้าคู่สมรสมีทั้งลูกแท้ๆ และลูกบุญธรรม จะสามารถขอลดหย่อนภาษีบุตรได้ไม่เกิน 3 คน และจะต้องนับลูกแท้ๆ ในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีก่อน กล่าวคือ มีลูกแท้ๆ 2 คน ลูกบุญธรรม 1 คน แบบนี้ยังสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของบุตรได้ครบทั้งหมด แต่ถ้ามีลูกแท้ๆ 3 คน ลูกบุญธรรม 1 คน จะไม่สามารถใช้สิทธิลดหย่อนของลูกบุญธรรมได้

เงื่อนไขการยื่นขอลดหย่อนภาษีบุตรมีดังนี้

• บุตรอายุไม่ถึง 20 ปี หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะ
• อายุ 20-25 ปี หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ยังอยู่ในวัยเรียนระดับอนุปริญญาหรือระดับปริญญาตรีขึ้นไป
• อายุเท่าไหร่ก็ได้ แต่มีคำสั่งศาลให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
• บุตรที่ใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ ต้องไม่มีรายได้ หรือหากมีรายได้ต้องไม่ถึง 30,000 บาท

สิทธิประโยชน์สำหรับคนมีคู่แบบนี้เหมือนได้โปรโมชั่น ลดสนั่น กระหน่ำเซลล์ รู้แบบนี้แล้วหนุ่มสาวคนไหนที่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำแต่ยังไม่ได้แต่งงาน รีบชวนหวานใจมาจัดงานแต่งและจดทะเบียนสมรสกันให้เรียบร้อย จะได้ใช้สิทธิลดหย่อนภาษี เก็บเงินส่วนนั้นไว้เป็นสร้างรากฐานครอบครัวที่มั่นคงกันเถอะจ้า

ยังมีข้อดีจากการแต่งงานอีกมากมาย ตามไปอ่านกันได้ เผื่อคู่รักคู่ไหนจะเปลี่ยนใจมาแต่งงานกันเร็วขึ้น

• 6 ข้อดีของการมีชีวิตคู่ที่รู้แล้วจะซึ้งใจว่ามีรักที่ดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
• 4 เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าแต่งงานแล้วสุขภาพจะดีขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : itax.in.th, rd.go.th (กรมสรรพากร)