“สิบหมื่นๆๆ แหม… ยิ้มระรื่น คงกลืนลงคอ…” เรื่องน่าปวดหัวสำหรับว่าที่เจ้าบ่าวอีกหนึ่งอย่างก็คือ “ สินสอดแพง ” หนุ่มๆ หลายคนบอกไปไม่เป็น ว่าที่แม่ยายกับพ่อตาเรียกเงินสินสอดสูงลิบลิ่ว จนลูกๆ ถึงกับหน้าซีด เพราะไม่รู้จะไปหามาจากไหน! เจอแบบนี้ฝ่ายชายจะทำไงได้บ้าง?
พ่อแม่เจ้าสาวเรียก สินสอดแพง มาก ฝ่ายชายทำไงดี?
เรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้หลายคู่รักปิดประตูงานวิวาห์ จนบางครั้งสร้างความบาดหมางระหว่างทั้งสองครอบครัว สุดท้ายก็ไม่ได้แต่ง เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมครอบครัวฝ่ายหญิงถึงต้องเรียกสินสอดแพงขนาดนั้น ฝ่ายชายพอได้ยินจำนวนเงินแล้วคิ้วขมวด ไอ้รักน่ะมันก็รัก แต่เงินที่ผมมีคงไม่มากพอตามว่าที่แม่ยายเรียกมา คงต้องหาวิธีแก้ปัญหาแบบประนีประนอม ความรักจะได้ยังไม่จากไปไหน
- ลองเจรจาดูอีกรอบ
แบบนี้ฝ่ายชายต้องเอาความจริงใจเข้าสู้ค่ะ ลองคุยกับครอบครัวฝ่ายหญิงไปตรงๆ ว่า คุณเตรียมไว้เท่าไหร่ แนะนำให้แยกตัวเลขไปชัดๆ เลยว่า ค่าสินสอดมีเท่านี้ ของหมั้นเตรียมไว้เท่านี้ และที่เหลือเตรียมไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่ง แจกแจงแผนให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงเห็นละเอียดๆ ไปเลยว่า ที่คุณมีเงินสินสอดไม่ครบตามที่ผู้ใหญ่เรียก เพราะคุณกันเงินไว้สำหรับส่วนอื่นๆ ด้วย เพื่อไม่ให้คุณพ่อคุณแม่ต้องลำบากออกเงินของท่านเอง และควรให้แฟนสาวของคุณช่วยพูดช่วยเจรจา แบบนี้เชื่อว่าผู้ใหญ่จะเข้าใจ
- รักกันต้องรอได้ ขอเวลาเก็บเงิน
ถ้าหากเจรจาแล้วทางผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงยังยืนยันว่าจะต้องได้เงินสินสอดตามที่เรียกไป แบบนี้ฝ่ายชายก็วัดใจไปเลยค่ะว่า ถ้ารักมากแต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมจริงๆ คงต้องบอกฝ่ายหญิงไปตามตรงว่า ไม่พร้อมและไม่อยากไปยืมเงินใครมาใช้ขอสาวแต่งงาน ขอให้คบกันแบบนี้ไปก่อน เพื่อที่จะได้มีเวลาเก็บหอมรอมริบเพิ่มมากขึ้น เมื่อได้สินสอดครบตามที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการแล้ว จะมาสู่ขอแฟนสาวอีกครั้ง ถ้าผู้ใหญ่ส่งสัญญาณโอเค คุณก็ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินไป แต่ถ้าท่านไม่เข้าใจ คราวนี้คงต้องเลือกว่าจะคบต่อหรือพอแค่นี้
- ถ้าหามาได้แล้วจะคืนให้ไหม?
คุณรู้อยู่แล้วว่าตอนนี้มีเงินไม่พอ แต่ก็ใช่ว่าจะสิ้นไร้ไม้ตอกเสียทีเดียว พ่อแม่ พี่น้องยังพอมีให้หยิบยืมมา “วางโชว์” ได้บ้าง แต่ก่อนจะไปเอ่ยปากยืมเงินใคร คุณต้องถามผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเสียก่อนว่า เงินสินสอดที่นำมาใช้ในพิธีนั้น สุดท้ายแล้วคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายหญิงจะคืนให้หรือไม่ บางครั้งผู้ใหญ่อาจอยากได้การเชิดหน้าชูตาจากจำนวนเงินก้อนโต แล้วคืนให้หมดเพื่อให้บ่าวสาวตั้งตัว ถ้าตกลงกันได้แบบนี้ คุณก็พอจะขอยืมญาติพี่น้องที่สนิทกันเพื่อนำมาใช้ในพิธี เมื่อเสร็จงานแต่งก็คืนให้ครบทุกบาททุกสตางค์
อีกหนึ่งไอเดียคือ “การเช่าสินสอดม็อกอัพ” จากผู้ให้บริการเช่าสินสอดมาวางไว้ให้ดูหรูหรา มีทั้งเงินสด ทอง เครื่องประดับ ฯลฯ จ่ายค่าเช่าไม่เท่าไหร่ เสร็จแล้วก็ส่งคืนร้านเช่าไป
อย่างไรก็ตาม หากผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวยืนยันหนักแน่นว่าสินสอดคือค่าน้ำนม ค่าเลี้ยงดู และคงไม่ได้คืนให้บ่าวสาว แบบนี้คงต้องบอกว่า อย่าหายืม หรือ กู้ใครเด็ดขาด ควรรอให้ถึงเวลาที่พร้อมจริงๆ แล้วค่อยมาเจรจาสู่ขอกันอีกที
สินสอดทองหมั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนพอสมควร หลายๆ คำถามที่ตามมา และความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้นระหว่างสองครอบครัวจะพานให้เกิดความไม่ชอบใจกันและกัน อย่างนี้คงต้องคิดดีๆ ว่า แต่งงานไปแล้วชีวิตคู่จะมีความสุขหรือไม่ ทางที่ดีที่สุดคงต้องปรึกษากันระหว่างคุณกับคนรัก ถ้ารอได้ก็รอหน่อย ช่วยกันเก็บเงิน ถึงเวลาจะได้แต่งงานและใช้ชีวิตด้วยกันอย่างมีความสุข
เรื่องราวของสินสอดยังมีอีกมากมายให้ต้องเตรียมตัว ตามไปอ่านเพิ่มเติมตามลิ้งค์ข้างล่างได้เลย