สาวๆ หลายคนมักเกิดคำถามว่า ถ้ากำลังจะแต่งงาน ควรเริ่มเตรียม ตัดชุดเจ้าสาว กี่เดือนก่อนวันแต่ง? ข้อนี้ก็ตอบยากนะคะ เพราะช่วงเวลาในการเตรียมงานวิวาห์ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมีเวลาเตรียม 1 ปี บางคนแค่ 1 เดือน แต่สิ่งที่ตอบได้แน่นอนที่สุดคือ As soon as possible!
ไทม์ไลน์ ตัดชุดเจ้าสาว เตรียมตัวให้เร็ว จะได้ชุดสวยถูกใจ
สำหรับช่วงเวลาในการเริ่มเตรียมชุดเจ้าสาว หากถามห้องเสื้อหลายๆ ที่ จะมีระยะเวลาในอุดมคติคือ 6-8 เดือนก่อนวันแต่งงาน เพราะชุดเจ้าสาวมีรายละเอียดค่อนข้างมาก ใช้เวลาตัดเย็บพอสมควร โดยเฉพาะเจ้าสาวที่เลือกชุดแบบเช่าตัดหรือตัดซื้อที่บางครั้งดีไซเนอร์ต้องร่างแบบขึ้นมาใหม่ตามความชอบของเจ้าสาว ส่วนใครที่ตัดสินใจเช่าชุดก็สามารถเริ่มช้ากว่านี้ได้สักเล็กน้อย
6-8 เดือนก่อนวันงาน
หลังจากที่หนุ่มๆ ขอแต่งงานเรียบร้อยแล้ว ว่าที่เจ้าสาวต้องรีบทำการบ้าน คือ มองหาแบบชุดเจ้าสาวที่ชอบและถูกใจจาก Praew Wedding Library หรือโซเชียลมีเดียอื่นๆ แล้วเซฟรูปเก็บไว้ แนะนำว่าให้ดูชุดสวยๆ ไว้สัก 2-3 สไตล์เพื่อให้เข้ากับหุ่นมากที่สุด แล้วกำหนดงบประมาณของชุดเจ้าสาวเอาไว้เลย
หลังจากนั้นต้องรีบมองหาร้านชุดเจ้าสาว แนะนำว่าเลือกร้านที่ถูกใจและอ่านรีวิวของร้านนั้นๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจด้วย ควรนำรูปชุดที่เราชอบเข้าไปสอบถามรายละเอียดอย่างน้อย 2-3 ร้าน เพื่อเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่า
หากตัดสินใจเลือกร้านชุดได้แล้ว ส่วนใหญ่ว่าที่เจ้าสาวจะต้องเซ็นสัญญาและวางเงินมัดจำ (จำนวนเงินขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละร้าน) อย่าลืมเตรียมเงินให้พร้อมนะคะ หลังจากนั้นช่างก็จะเริ่มวัดตัว และนัดลองชุดครั้งถัดไป
4-5 เดือนก่อนวันงาน
ช่วงนี้ว่าที่เจ้าสาวต้องเลือกสไตล์ทรงผมและการแต่งหน้าให้เข้ากับชุดที่เลือกไว้ ธีมงาน และสถานที่ รวมถึงมองหาเครื่องประดับ รองเท้า และชุดชั้นในไว้ใส่คู่กับชุดเจ้าสาว ในขณะเดียวกัน ร้านชุดจะนัดเข้าไปลองชุดครั้งแรก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการลองโครงอ่อน (ผ้าดิบ) เพื่อเช็กสัดส่วน โครงร่าง และความยาวที่พอดีกับตัวเจ้าสาว แนะนำเลยว่าให้นำเครื่องประดับ รองเท้า และชุดชั้นในที่เลือกไปลองใส่พร้อมกันด้วย
2-3 เดือนก่อนวันงาน
ช่วงนี้ว่าที่เจ้าสาวจะต้องเข้าไปลองชุดเป็นครั้งที่สอง คราวนี้จะเป็นชุดจริงที่ต้องใส่ซึ่งควรตัดเสร็จเกือบ 100% แล้ว เช็กอีกครั้งเรื่องขนาดตัว ความยาว และรายละเอียดการปักประดับต่างๆ ให้สวยเป๊ะ เช่น ผ้าลูกไม้ คริสตัล และลูกปัด ที่สำคัญคือ ต้องนำรองเท้า ชุดชั้นใน และเครื่องประดับไปลองด้วยนะจ๊ะ ห้ามลืม!
2-3 สัปดาห์ก่อนวันงาน
เข้าสู่โค้งสุดท้ายของชุดเจ้าสาวแล้ว ทั้งชุดควรจะต้องเสร็จเรียบร้อยทุกดีเทลพร้อมใช้งานจริง ในช่วงนี้ทางร้านจะนัดลองชุดครั้งที่สามเพื่อเช็กรายละเอียดโดยรวม เช่น ขนาดตัวของเจ้าสาว ความยาว รายละเอียดการปักลูกไม้ ความคล่องตัวในการยืน เดิน นั่ง หากมีจุดที่ต้องปรับแก้จะได้ทำทันเวลา หรือบางคนใส่แล้วเป๊ะ ก็สามารถรับชุดกลับไปได้เลย พร้อมชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือให้เรียบร้อย อย่าลืมนำชุดชั้นใน เครื่องประดับ และรองเท้าไปลองพร้อมกับชุด และที่สำคัญคือ พาเพื่อนเจ้าสาวหรือญาติสนิทที่จะช่วยเราแต่งตัวในวันจริงไปด้วย
ก่อนรับชุดมาจากทางร้าน ควรสอบถามเรื่องการใส่ชุดให้ละเอียดว่า ต้องใส่อย่างไร? ถ้าเกิดว่าไซส์เจ้าสาวเปลี่ยนเล็กน้อยควรทำอย่างไร? มีอุปกรณ์อะไรให้บ้างสำหรับการแต่งตัว? หรือถามตรงๆ ไปเลยว่า มีเจ้าหน้าที่ไปช่วยแต่งตัวในวันงานหรือไม่? อย่าอายหรือเกรงใจที่จะถามและขอความช่วยเหลือจากทางร้าน อย่าลืมว่าคุณจ่ายเงินไปแล้ว ต้องได้ความสวยมั่นใจที่สุดในวันสำคัญ
สำหรับช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนวันแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวควรรักษาหุ่นให้ได้มากที่สุด อย่าให้ผอมไป และระวังไม่ให้อ้วนขึ้น เพื่อที่จะได้ใส่ชุดแต่งงานได้สวยเป๊ะเหมือนตอนที่ลองชุด
2-3 วันก่อนวันงาน
ในกรณีที่ไม่มีเจ้าหน้าที่จากร้านชุดมาช่วยแต่งตัว เมื่อรับชุดแต่งงานมาแล้ว ควรลองใส่เองที่บ้านก่อนสักครั้ง ให้คนที่จะช่วยเราแต่งตัวมาลองฝึกมือพร้อมกันก่อนวันจริง หากติดขัดตรงไหนจะได้โทรสอบถามทางร้านได้ทันที พร้อมกับจัดของสำคัญ เช่น ชุดเจ้าสาว ชุดชั้นใน เครื่องประดับ และรองเท้า วางเป็นเซ็ตไว้ด้วยกันให้เรียบร้อย ถึงเวลาจะได้ไม่ต้องตามหาให้วุ่นวาย
1 วันก่อนวันงาน
เชื่อว่าสาวๆ หลายคนตื่นเต้นสำหรับวันสำคัญที่จะมาถึง แพรวเวดดิ้งขอแนะนำว่า ให้นัดเวลากับคนที่จะมาช่วยแต่งตัวให้เป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวหรือเจ้าหน้าที่จากทางร้าน ย้ำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจว่าเขาจะไม่มาผิดเวลา และจากนั้นก็ควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อความสวยเพอร์เฟ็กต์ของเจ้าสาวในวันแต่งงาน
แถมกันอีกสักหน่อยกับการเตรียมตัวเดินเข้าร้านชุดแต่งงาน ควรเผื่อเวลาสำหรับการปรึกษา วัดตัว ลองชุด อย่างน้อยๆ 1 ชั่วโมงทุกครั้ง เพราะแต่ละครั้งจะมีดีเทลและรายละเอียดแตกต่างกันออกไป รวมถึงเลี่ยงการไปร้านชุดในวันเสาร์-อาทิตย์ที่ค่อนข้างวุ่นวายจากว่าที่บ่าวสาวหลายๆ คู่ หาเวลาไปวันธรรมดาจะดีกว่า
สำหรับใครที่ได้ฤกษ์แต่งงานช่วง High Season เช่น เดือนกุมภาพันธ์, มีนาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม แนะนำว่าต้องรีบเตรียมตัวและเผื่อเวลามากขึ้นอีกนิด เพราะร้านชุดหลายร้านจะมีออเดอร์และยุ่งกันเป็นพิเศษ ส่วนใครที่ตัดสินใจเช่าชุดที่ทางร้านมีอยู่แล้วก็อย่าชะล่าใจนะคะ เพราะไม่เช่นนั้นชุดสวยๆ ที่คุณอยากใส่อาจถูกว่าที่เจ้าสาวคนอื่นเลือกไปแล้วก็ได้
ยังมีเคล็ดลับเตรียมชุดเจ้าสาวอีกมากมาย ตามไปอ่านต่อได้เลยค่ะ
- 4 ข้อว่าที่เจ้าสาวต้องจำให้ขึ้นใจห้ามหลุดเมื่อถึงเวลาลองชุดแต่งงาน
- 10 จุดว่าที่เจ้าสาวต้องเช็คชุดแต่งงานให้ชัวร์ก่อนรับมาใส่ในวันแต่งงาน
- 6 ข้อสำหรับว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายควรจะต้องรู้ก่อนเลือกซื้อชุดแต่งงาน
ภาพจาก : Unsplash.com