เตรียมตัวแต่งงานกับชาวมุสลิม และเข้าศาสนาอิสลาม ทำอย่างไร?

ความรักเป็นสิ่งสวยงามและเกิดขึ้นได้กับทุกคนเสมอ หลายคนอาจสงสัยว่า หากมีความรักและกำลังจะ แต่งงานกับชาวมุสลิม จะต้องทำอย่างไร จำเป็นต้องเปลี่ยนศาสนาหรือไม่ วันนี้ แพรวเวดดิ้ง จะชวนไปทำความเข้าใจและเตรียมพร้อมกับความรักครั้งนี้กันค่ะ

เตรียมตัว แต่งงานกับชาวมุสลิม และเปลี่ยนมานับถืออิสลาม ไม่ยากอย่างที่คิด

 แต่งงานกับชาวมุสลิม
Photo by Rio Syhputra on Unsplash

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนเรื่องการเปลี่ยนศาสนาจากความเชื่อเดิมมาสู่ความเชื่อใหม่ในหลักศาสนาอิสลาม สำหรับคู่รักต่างศาสนา คือ ชายหรือหญิงคนใดคนหนึ่งไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม เหตุที่การแต่งงานกับชาวมุสลิม (ผู้ชายที่นับถืออิสลาม) หรือ มุสลิมะฮ์ (ผู้หญิงที่นับถืออิสลาม) แล้วจะต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาเดียวกันนั้น เนื่องจากว่า การแต่งงานและการใช้ชีวิตคู่ในความเชื่อของศาสนาอิสลาม มิใช่เป็นเพียงประเพณีนิยม แต่เป็นศาสนบัญญัติและศาสนกิจอย่างหนึ่ง โดยถือว่าการแต่งงานเป็นจุดเริ่มต้นการสร้างสถาบันครอบครัว คู่รักจึงจำเป็นต้องผ่านพิธีนิกะห์ (พิธีแต่งงาน) ตามหลักศาสนา

 แต่งงานกับชาวมุสลิม

การจะเข้าพิธีนิกะห์ได้ ทั้งชายและหญิงจะต้องมีความเชื่อและศรัทธาเดียวกัน กล่าวคือ เชื่อในองค์พระอัลลอฮ์ ดังนั้นบุคคลที่มาจากต่างศาสนาจึงจะต้องเรียนรู้และศรัทธาในศาสนาอิสลามเสียก่อน  หากตัดสินใจแล้วว่าจะแต่งงานกันแน่ๆ เรื่องการเปลี่ยนศาสนาจะต้องคุย ทำความเข้าใจกับครอบครัวของทั้งสองฝ่ายให้ชัดเจน เพื่อให้เห็นพ้องต้องกัน จากนั้นจึงดำเนินขั้นตอนการเข้านับถือศาสนาอิสลามให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจัดพิธีนิกะห์ ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ได้ยุ่งยาก

  1. ศึกษาคำสอนและความเชื่อของศาสนาให้เข้าใจ และศรัทธา

ในข้อแรกนี้บุคคลที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม ควรศึกษาคำสอนและหลักทางศาสนาให้เข้าใจเสียก่อน เหตุที่แนะนำให้ศึกษาจนเข้าใจและเกิดความศรัทธา ก็เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจากความคิดและความเชื่อภายหลังจากการแต่งงานไปแล้ว หรืออีกนัยหนึ่งคือ เมื่อคู่ชีวิตมีความเชื่อที่ตรงกันก็จะทำให้การใช้ชีวิตคู่ราบรื่น

  1. กล่าวปฏิญาณตนเข้ารับอิสลาม

การกล่าวปฏิญาณตนเข้ารับศาสนาอิสลาม หรือการกล่าวซะฮาดะฮฺ ซึ่งต้องกล่าวทั้งแบบภาษาอาหรับและคำแปลภาษาไทย ซึ่งการกล่าวปฏิญาณตนนี้ ควรมีพยานรู้เห็นอย่างน้อย 2 คน เพื่อให้มีผู้ยืนยันการเข้านับถือศาสนาอิสลามของตนเอง และสามารถช่วยแนะนำการออกเสียงการกล่าวคำปฏิญาณได้อย่างถูกต้อง

 แต่งงานกับชาวมุสลิม
Photo by Rayyu Maldives photographer on Unsplash
  1. การอาบน้ำซุนนะฮฺเพื่อชำระร่างกาย (ทำหรือไม่ทำก็ได้)
  2. หากเป็นผู้ชายต้องทำพิธีคิตานหรือการเข้าสุนัต (การขลิบหนังปลายหุ้มอวัยวะเพศ)
  3. การตั้งชื่อมุสลิม (มีคนตั้งให้หรือสามารถตั้งเองได้)
  4. ศึกษาคัมภีร์อัลกุรอาน และภาษาอาหรับเพื่อใช้สำหรับการทำละหมาด

เมื่อเสร็จขั้นตอนของการเข้ารับอิสลามและกลายเป็นมุสลิมหรือมุสลิมะห์แล้ว ก็สามารถทำพิธีนิกะห์ได้ตามหลักศาสนาอิสลาม แต่อย่างหนึ่งที่ต้องแนะนำสำหรับฝ่ายหญิง คือ จำเป็นต้องมี “วะลีย์” หรือผู้ปกครองของที่เป็นผู้ชาย ได้แก่ บิดา พี่ชาย หรือปู่ที่ต้องเข้าร่วมในพิธีนิกะห์ ซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องเป็นมุสลิม แต่หากไม่มีผู้ปกครองหรือคนในครอบครัวที่จะมาเป็นวะลีย์ สามารถขอให้ผู้ใหญ่ที่เป็นมุสลิมที่ตนเองเคารพนับถือและสนิทสนมมาเป็นวะลีย์ให้ได้เช่นกัน เพื่อให้พิธีนิกะห์สำเร็จสมบูรณ์ตามหลักศาสนา

อย่างไรก็ตาม ศาสนาอิสลามกล่าวไว้เสมอว่า จะไม่บังคับผู้ใดให้มานับถือศาสนาอิสลาม หากแต่ให้พิจารณาความพร้อมและความเหมาะสม ถ้ารักกัน เข้าใจกัน ไม่มีปัญหาใดๆ ก็สามารถเปลี่ยนศาสนาเพื่อทำพิธีแต่งงานอย่างถูกต้องได้ แต่ในปัจจุบันก็มีคู่รักต่างศาสนาหลายคู่ (โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่) ที่ยังคงรักและใช้ชีวิตด้วยกันโดยที่สามารถรักษาความเชื่อและความศรัทธาในแบบของตนเองไว้ได้ เรื่องนี้คงต้องแล้วแต่ปัจจัยทั้งตัวเอง ครอบครัว และสังคมของแต่ละคน

ตามไปชมลุคเจ้าสาวมุสลิมสวยๆ และพิธีแต่งงานจีน-มุสลิมได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลย

ข้อมูลจาก : islamhouse.muslimthaipost.com, knowislamthailand.org, รายการ “ถามมาซิ” จากช่องยูทูป รวมรายการตอบคำถามและการบรรยายศาสนาของ อ. ฟารีด เฟ็นดี, รายการ “มุมศรัทธา” จากช่องยูทูป MetroTV โทรทัศน์มหานคร, รายการ “แต่งกับมุสลิม ทำไมต้องเข้าอิสลาม?” จากช่องยูทูป อันกุ๊ก aunkook channel

ภาพจาก : Unsplash.com

Recommended