ตามธรรมเนียมของไทยหากว่าใครจะแต่งงาน สินสอด ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นปัญหาสำหรับบ่าวสาวสมัยนี้พอสมควร บางคนบอกน้อยไปก็ต้องไปหามาเพิ่มให้มันเยอะขึ้น แถมบางคนยังเผชิญเหตุฉุกเฉินโดนแม่เจ้าสาวบอกเพิ่มสินสอดขึ้นมาซะงั้น แล้วทีนี้ฝ่ายชายควรจะทำอย่างไร เรามีคำตอบมาแนะนำค่ะ
เรื่องของสินสอดเนี่ยมันมีอยู่ 2 ประเด็นค่ะ ประเด็นที่หนึ่งคือเวลาไปเจรจาสู่ขอ มักจะตกลงกันแบบไม่เคลียร์ ไม่ชัดเจน ส่วนเรื่องที่สองคือ ประโยคเกรงใจที่ชอบพูดกันว่า “จัดมาตามความเหมาะสม” ไอ้ที่เหมาะสมเนี่ยจะถูกใจหรือเปล่าก็ไม่รู้เนอะ แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ?
1. ขอเตือนว่า “ตกลงกันให้ชัดเจน” ซะนะ!
เรื่องเงินทองของมีค่าแบบนี้อย่าอายที่จะพูดค่ะ ถ้าพ่อแม่เจ้าสาวมีตัวเลขในใจไว้อยู่แล้วก็ขอให้บอกฝ่ายเจ้าบ่าวออกไปตรงๆ เลย แต่ก็ต้องเผื่อใจสำหรับการต่อรองไว้ด้วยก็ดีนะคะ
ส่วนฝ่ายเจ้าบ่าวจะให้ได้ตามที่เขาเรียกหรือไม่ หรือให้ได้เท่าไหร่ ขอให้ตกลงกันให้ชัดเจน ส่วนไหนพร้อมแล้ว ส่วนไหนยังติดขัดก็อธิบายเหตุผลประกอบว่าเป็นเพราะอะไร ไม่ใช่ว่าไปรับปากส่งๆ เพราะกลัวว่าท่านจะไม่ยกลูกสาวให้ แล้วก็ต้องมานั่งปวดหัววิ่งหาเงินจนเป็นหนี้ทีหลัง เพราะฉะนั้นการพูดคุยแบบเปิดอกกันให้ชัดเจนจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับขั้นตอนนี้
2. จัดมาตามความเหมาะสม ประโยคยอดฮิตจากฝ่ายเจ้าสาว
ประโยคนี้มักได้ยินอยู่เสมอจากพ่อแม่เจ้าสาว ในกรณีนี้ เจ้าบ่าวก็ต้องดูเครื่องเงิน เครื่องทอง และสิ่งของอื่นๆ ให้มันสมน้ำ สมเนื้อ และสมฐานะของครอบครัวทั้งสองฝ่าย อาจจะลองเกริ่นกับเจ้าสาวก่อนสักนิดว่าให้เงินเท่านั้นให้ทองเท่านี้ แล้วลองให้เจ้าสาวเลียบๆ เคียงๆ ถามคุณพ่อคุณแม่ว่าท่านโอเคไหม ถ้าท่านบอกว่าไฟเขียว ขอให้ได้แต่งเป็นพอ แบบนี้ก็ผ่านฉลุย แต่ทั้งนี้ทางผู้ใหญ่ก็ต้องไม่มีปัญหามาขอเพิ่มสินสอดหน้างานหลังจากตกลงกันไปเรียบร้อยแล้วด้วยนะคะ
จบพาร์ทการเจรจาไปแล้วในเบื้องต้น ถ้าเกิดว่าทำตามนี้ได้แบบผ่านฉลุยเจ้าบ่าวสาวเจ้าสาวก็คงสบายใจไปได้เยอะเลยจริงไหมคะ แต่! แต่! แต่! สถานการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ ความสะเทือนขวัญที่ว่านั้นก็คือ “ขอเพิ่มสินสอดทั้งที่ตกลงกันไปแล้ว” จึงทำให้เจ้าบ่าวบางคน (บางครั้งก็เจ้าสาวด้วย) เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ หน้ามือคล้ายจะเป็นลมขึ้นมาทันที ถ้าอย่างนั้นมาดูกันว่าจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร
ถ้ารักจริงก็เพิ่มเล้ย!
เจ้าบ่าวคนไหนเป็นพ่อบุญทุ่ม ถ้าคุณคิดว่าเพื่อหญิงสาวหนึ่งเดียวในใจคนนี้เพิ่มนิด เพิ่มหน่อย หรือเพิ่มมากแล้วขนหน้าแข้งไม่ร่วงก็จัดไปโลด แฮปปี้กันทั้งสองครอบครัว แต่ก็อย่าลืมคิดสักนิดว่า การเพิ่มสินสอดในครั้งนี้จะไม่กระทบกระเทือนกับการเงินในส่วนอื่นๆ เช่น ค่าจัดงาน ค่าฮันนีมูน รวมถึงการเงินของคุณในอนาคตด้วย เพราะฉะนั้น บวก ลบ คูณ หาร ตัวเลขในบัญชีให้ดีๆ นะ
ขอเปลี่ยนเป็น “อย่างอื่น” ได้หรือเปล่า?
เจ้าบ่าวบางคนอาจไม่สะดวกเพิ่มเงิน หรือสิ่งของตามที่พ่อแม่เจ้าสาวขอมา เพราะฉะนั้น “อย่างอื่น” ที่เราหมายถึงก็คือ เพชร ทอง เครื่องประดับ หรือจัดโฉนดที่ดินสักแปลง! บางคนอาจสงสัยว่าขนาดเงินยังไม่ได้เลย แล้วอย่างอื่นที่ว่าจะมีได้ยังไร คำตอบก็คือ สิ่งของนั้นทางฝั่งเจ้าบ่าวจะต้องมีอยู่แล้ว คล้ายๆ เป็นสมบัติติดตัวประจำตระกูล เช่น แหวนมรดก เครื่องเพชร เครื่องประดับ หรือเครื่องทองมรดก แบบนี้เป็นต้น แต่ในการณ์นี้ก็ต้องอาศัยวาทศิลป์ในการเจรจาต่อรองของเจ้าบ่าวพอสมควร ว่าจะมีเทคนิคพูดจาโน้มน้าวให้ผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวคิดว่า สิ่งของที่ขอเปลี่ยนเพิ่มมานี้ไม่ใช่ของเก่านะครับ แต่เป็นของมรดกตกทอด เป็นของมีค่าทั้งทางมูลค่าและจิตใจ เพราะฉะนั้นคิดคำพูด ซ้อมพูดหน้ากระจกให้ดี แล้วตั้งสติขณะพูด รับรองว่าช่วยให้ผ่านสถานการณ์ฉุกเฉินนี้ได้แน่นอน
Everything for cash!
ชายหนุ่มคนไหนที่ลงทุนทำแบบนี้แสดงว่าต้องรักเจ้าสาวของเขามากแน่ๆ (อิจฉาไปอีกก!) แต่เราก็อยากให้ทั้งสองฝ่ายคิดให้หนัก โดยเฉพาะฝ่ายเจ้าบ่าว เพราะการนำสิ่งของไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถยนต์ไปจำนำเพื่อให้ได้เงินมาแต่งสาวเนี่ยไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะคะ เพราะอย่าลืมว่าหลังจากนี้มันคืออนาคตการใช้ชีวิตคู่ การใช้ชีวิตครอบครัวของคุณทั้งสอง ฉะนั้นจึงต้องคิดเผื่อไปถึงอนาคตทางการเงินของคุณทั้งคู่ด้วย เพราะการทำแบบนี้เท่ากับว่าคุณจะมีภาระค่าใช้จ่ายหลังแต่งงานเพิ่มขึ้นแน่นอน ลำบากชีวิตไปอี๊ก!
อย่างที่บอกไปค่ะว่า เรื่องสินสอดเป็นเรื่องใหญ่ ใครที่ตกลงกันได้ลงตัวก็สบายไป ส่วนใครที่เกิดปัญหาขึ้นมาก็ลองถามใจตัวเองดูว่า “คุณพร้อมจะแต่งแล้วจริงหรือ” ถ้าคำตอบของคุณคือพร้อมแล้ว พร้อมสุดๆ แบบนี้ก็แต่งเถอะค่ะ แต่ถ้าใครมีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องสินสอดหรือเรื่องอะไรก็ตาม จะดีกว่าไหมที่จะรออีกนิดเพื่อให้ถึงเวลาที่พร้อมจริงๆ เราเชื่อว่าคู่กันแล้วยังไงก็ไม่แคล้วกันหรอกเนอะ
ภาพ : www.milunananya.com