ชวนชิม “เห็ดทรัฟเฟิล” วัตถุดิบชั้นดี ณ ห้องอาหารจีนวาล็อค และคูลลิ่ง ทาวน์เวอร์ รูฟท็อป บาร์

เมนูพรีเมี่ยมทำจาก “เห็ดทรัฟเฟิล” พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคู่รักได้ลิ้มรสอร่อยที่ห้องอาหารจีน วาล็อค และ คูลลิ่ง ทาวเวอร์ รูฟท็อป บาร์

เชฟแลม ก๊อก เวง Executive Chinese Chef ประจำห้องอาหารจีน วาล็อค เลือก “แบล็ค ทรัฟเฟิล” มาเป็นวัตถุดิบหลักในการรังสรรค์เมนูสุดพิเศษ “ซุปเห็ดทรัฟเฟิล” แถมยังใส่ส่วนผสมคุณภาพดี อาทิ กระเพาะปลาแท้, กังป๋วย, เยื่อไผ่, เก๋ากี้ เคี่ยวรวมกับเครื่องเทศและสมุนไพรจีนนานนับชั่วโมง เพื่อรสชาติที่เข้มข้นแบบไร้ที่ติ คุ้มค่ากับราคา 780++บาท และยังเสิร์ฟ “ชาจีนสูตรพิเศษ” ให้คุณได้จิบคล่องคอแบบฟรีๆ เมื่อสั่งซุป เห็ดทรัฟเฟิล

เห็ดทรัฟเฟิล, Black truffle
ซุปเห็ดทรัฟเฟิล

สำหรับคู่รักที่ชื่นชอบอาหารสไตล์ฝรั่ง สามารถแวะไปเยือนคูลลิ่ง ทาวเวอร์ รูฟท็อป บาร์ ชั้น 34 และพบกับเมนูสุขภาพดี “บูราต้าสลัด” ปรุงด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสดและน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล ชูโรงจานสลัดด้วยชีสบูราต้าชิ้นใหญ่ (Burrata) เสิร์ฟพร้อมกับผักร็อกเก็ตและมะเขือเทศเชอร์รี่ โรยหน้าด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสไลด์ เมนูนี้สนนราคาที่ 590++ บาท

เห็ดทรัฟเฟิล, Black truffle
บูราต้าสลัด

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ สายเนื้อรักการทานสเต็กต้องได้ลองเมนู “Steak and Truffle” เนื้อออสเตรเลียนุ่มๆ ย่างสุกกำลังดี ราดซอสไวน์แดงเข้มข้น ท็อปปิ้งด้วยเห็ดทรัฟเฟิลสไลด์ มาพร้อมเครื่องเคียงอย่างถั่วลันเตา และเฟรนช์ฟรายส์คลุกเคล้าน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล หอม อร่อย ฟิน ในราคา 790++ บาท พร้อมรับส่วนลด 10% ทันทีเมื่อสั่งเมนูเห็ดทรัฟเฟิลในจานถัดไป

เห็ดทรัฟเฟิล, Black truffle
Steak and Truffle

พาคู่รักและครอบครัวไปทาน 3 เมนูเห็ดทรัฟเฟิลแสนอร่อยได้แล้วตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ ห้องอาหารจีน วาล็อค และ คูลลิ่ง ทาวเวอร์ รูฟท็อป บาร์ ชั้น 34 ณ โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพฯ สุขุมวิท

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งได้ที่ โทร. 02 090 7888, เว็บไซต์ www.carltonhotel.co.th หรืออีเมล [email protected]

เจ้าสาวใส่แว่น ก็สวยได้กับ 6 เทคนิคเลือกแว่นและแต่งหน้า

การเป็น เจ้าสาวใส่แว่น ไม่ได้ทำให้ความสวยลดลง เพียงแต่ต้องเลือกแว่นและแต่งหน้าให้ถูกวิธี

สำหรับว่าที่เจ้าสาวบางคนที่ต้องมีแว่นคู่ใจเพราะสายตาสั้น-ยาวอาจจะคิดหนักสักหน่อย เพราะการใส่แว่นมาตลอดชีวิตทำให้มันกลายเป็นอวัยวะอย่างหนึ่งของร่างกายไปเสียแล้ว แต่ถึงอย่างไร การจะเป็นเจ้าสาวใส่แว่นใช่ว่าจะหมดสวยซะหน่อย

แพรวเวดดิ้ง เข้าอกเข้าใจเรื่องนี้ดีว่า การจะเปลี่ยนมาใส่คอนแทคเลนส์อาจทำให้หลายคนเสียความมั่นใจเพราะรู้สึกไม่คุ้นเคย วันนี้เลยมี 6 เทคนิคเลือกแว่นและทริคแต่งหน้าสำหรับ เจ้าสาวใส่แว่น ในวันแต่งงานที่จะทำให้ความรักชัดเจนและความสวยงามชัดตา

1.แว่นใหม่เพื่อวันพิเศษ

ถือเอาฤกษ์งามยามแต่งงานเป็นฤกษ์เปลี่ยนแว่นใหม่ไปในตัวเลยทีเดียวก็ดีนะ เพราะสำหรับคนที่ใส่แว่นเป็นประจำอยู่แล้ว การตัดแว่นใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก เพียงแต่ว่าการตัดแว่นครั้งนี้คุณอาจจะต้องลองเลือกสไตล์กรอบแว่นที่ต่างจากปกติสักหน่อย ควรเลือกให้เข้ากับชุดเจ้าสาว และเครื่องประดับ อย่างเช่น เจ้าสาวอาจเลือกกรอบแว่นเป็นสีเงิน, ทอง หรือ โรสโกลด์ เพื่อให้แมตช์กับแหวนหมั้น สีชุดแต่งงาน สไตล์การแต่งหน้า และสีผิวของตัวเอง

เจ้าสาวใส่แว่น, แต่งหน้า
Frame photo created by freepik

2.หาเวลาไปลองแว่นตา

สิ่งที่สำคัญอีกอย่างของการเลือกแว่นสำหรับงานแต่งคือ ลักษณะโครงหน้าของตัวเอง เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ประจำร้านแว่นสามารถแนะนำทรงของแว่นให้เหมาะกับรูปหน้าของคุณได้ อย่างเช่น คนหน้ากลมควรใส่แว่นที่มีกรอบครึ่งเฟรม (Browline Glasses) และ คนหน้าเหลี่ยมเหมาะกับแว่นทรงกลม  เป็นต้น

นอกจากนี้ขนาดของแว่นก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะคุณไม่ได้ใช้ใส่แค่นั่งทำงานหรือเดินไปไหนมาไหนตามปกติ แต่อาจจะต้องก้ม ไหว้ หรือแม้แต่ออกสเต็ปแดนซ์ ดังนั้นแว่นที่มีขนาดพอดีกับรูปหน้า ใส่แล้วกระชับ ไม่หลวมไป ไม่แน่นไปจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะฉะนั้นหาเวลาไปลองใส่แว่นและปรึกษาพนักงานที่เชี่ยวชาญจะดีกว่า

เจ้าสาวใส่แว่น, แต่งหน้า
Photo by Ali Pazani from Pexels

3.เลือกสไตล์การแต่งหน้าที่ตอบโจทย์

การเลือกช่างแต่งหน้าและสไตล์การแต่งหน้าเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเช่นกัน ช่างแต่งหน้ามือฉมังจะรู้ว่าการใส่แว่นคือความมั่นใจของผู้ใส่และจะไม่แก้ปัญหาด้วยการโน้มน้าวให้คุณเปลี่ยนไปใส่คอนแทคเลนส์ (ถ้าคุณไม่อยากใส่) แต่จะต้องช่วยเสริมลุคให้ เจ้าสาวใส่แว่น ได้เฉิดฉายภายใต้เลนส์ใสด้วยเทคนิคต่างๆ เพื่อให้ตาของคุณยังดูสวยเสมอแม้มองผ่านเลนส์

เจ้าสาวใส่แว่น, แต่งหน้า
Photo by Timothy Dykes on Unsplash

4.ให้ช่างหน้าช่างผมเห็นแว่นของเรา

หลังจากเลือกรูปแบบและสไตล์ของแว่นได้แล้วคุณควรจะให้ช่างหน้าช่างผมของคุณได้เห็นแว่นด้วย เพื่อที่จะให้เขาช่วยปรับลุคและสไตล์การแต่งหน้าให้รับกับรูปทรงและสีกรอบของแว่น ถ้าเป็นไปได้ควรเปิดรูปชุดแต่งงานและเครื่องประดับที่จะใส่ให้ช่างแต่งหน้าดูก็จะยิ่งทำให้ช่างปรับลุค ปรับโทนการแต่งหน้าได้ง่ายขึ้นไปอีก

เจ้าสาวใส่แว่น, แต่งหน้า
Beauty photo created by freepik

5.แว่นสายตาสั้น-ยาว มีผลกับการแต่งตา

สาวแว่นคนไหนที่สายตาสั้น เลนส์แว่นจะทำให้ตาของคุณดูเล็กลง เทคนิคที่ช่างตาหน้าใช้แก้ปัญหาคือการเลือก eyeshadow สีสว่างมีชิมเมอร์ เพื่อทำให้ดวงตาดูโดดเด่น ในขณะเดียวกัน เลนส์แว่นสำหรับสาวสายตายาวจะทำให้ดวงตาดูโตกว่าปกติ ควรจะเลือกใช้ eyeshadow สีแมท และเลี่ยงการกรีดอายไลเนอร์หนาๆ คมๆ

เจ้าสาวใส่แว่น, แต่งหน้า
Photo by Elvis Ray on Unsplash

6.ต้องระวังคราบรองพื้นติดแว่น

ปัญหาประจำของสาวแว่นที่มักจะมีคราบรองพื้นติดแว่น โดยเฉพาะตรงแป้นจมูก ถ้าคุณเป็นคนที่หน้ามันมาก ควรบอกช่างแต่งหน้าเพื่อให้เขาช่วยเลือกใช้รองพื้นและแป้งเนื้อแมทแบบควบคุมความมัน เน้นไปที่ตรงจมูกและสันดั้ง และอย่าลืมพ่นสเปรย์เพื่อให้เครื่องสำอางเซ็ตตัวบนผิวหน้า กันไหล กันเยิ้มด้วย

ดวงตาของเจ้าสาวเป็นสิ่งสำคัญเสมอทั้งกับร่างกาย การมองเห็น และรูปลักษณ์ที่สวยงาม หากใครอยากใส่คอนแทคเลนส์เพื่อเสริมลุคให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิมก็สามารถทำได้ตามใจชอบ แต่ถ้าใครไม่สะดวกหรือไม่กล้าใส่คอนแทคเลนส์เพราะกลัวจะเสียความมั่นใจ และไม่อยากเจอปัญหาตาแห้งจนตองหยีตาตลอดทั้งงาน การใส่แว่นตามความคุ้นเคยก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ต้องเลือกแว่นให้เหมาะกับวันสำคัญเท่านั้นเอง

เรียบเรียงจาก : https://bit.ly/34OLq7g

Photo Credit : Freepik by prostooleh, Frame photo created by freepik , Beauty photo created by freepik,  Photo by Ali Pazani from Pexels, Photo by Timothy Dykes on Unsplash, Photo by Elvis Ray on Unsplash

A Roadmap To Become A Better Android Developer

This advanced academic certificate can be taken after earning a bachelor’s degree. Students are required to complete at least four courses , with the average overall learning window lasting one year. The following are a few skills Android developers should have to be successful. Proving your mettle with your skills and a positive attitude towards work could guarantee you a permanent place in a firm in no time.

The program offers seven courses for students to choose from. These include iPad/iPhone Mobile Application Development and its Android counterpart. There’s also a Multi-Platform Mobile App Development course to hone your skills on both platforms. One typo could cause an application to crash or malfunction. You should spend time looking through every detail when coding.

  • For that reason, we’re going to choose the “Empty Activity.” This will create an activity and some files for us, but it won’t add a lot of additional code.
  • Once the app goes live, the app developers make sure it runs smoothly and that the build is stable.
  • It’s a safe bet that you use applications on your smartphone every day.
  • The exact implementation may vary depending on the company.
  • It is not always necessary to dive deep into learning one or another backend technology to know how to be an Android developer.
  • From messaging, language-learning, and calorie-tracking to banking and investing, it seems like there’s an app for everything.

This is actually a write-up or even picture approximately the The 2022 Android Developer Roadmap, if you prefer even more info approximately the short post or even picture feel free to click on or even check out the complying with web link or even web link . This is actually a post or even photo approximately the Android Developer Roadmap 2022, if you desire even more info approximately the write-up or even photo satisfy click on or even see the adhering to web link or even web link . This is actually a post or even photo around the Android Developer Roadmap 2022 Codelivly A Way For Coders, if you prefer even more relevant information around the write-up or even picture feel free to click on or even go to the observing web link or even web link . Only thing we ask is when you get a job in technology, you help someone behind you. Fill out Career Karma Common Application and receive offers, scholarships and financial aid from top online and in-person coding programs near you. Companies are hiring internees with little to no experience all the time.

Of course it’s still not as fast as we’d like, and we’d love to hire additional developers to help us go faster, but as a company, we work responsibly to realistically support our hires. All money from purchases goes back into app development for all platforms. This specialization takes you through five different courses that each teach you some new Android developer skills. Start with learning Java programming, then the components of a Java app, various development and testing methods, and much more, ending with a capstone project. It is absolutely up to you whether or not to apply for these Android developer jobs.

System Design Roadmap – Roadmap to learn system design and architecture . We’d like to share some background on the development of our Windows and Android versions in relation to iOS, and provide a roadmap of what is coming next and when. The second and more important thing is that there is a huge community of Java programmers, which means you can find answers when you are stuck. This is very important because, as a beginner, you will face a lot of technical problems and you might not know where to head when you are stuck. The learning curve involved in Android has a relatively smaller slope compared to learning other technologies such as NodeJS. It is also relatively easier to understand and make contributions towards AOSP hosted by Google.

For the above-mentioned apps, you can get the API publicly available or you can create the mock API using the mock API website. Learn to build Instagram like Login, Feed, Post Creation, and Profile page using the MVVM Architecture with Architecture components, LiveData, ViewModel, ViewModelFactory, Dagger, Retrofit, and RxJava. Using WorkManager, NewsApp can fetch the data even when you are sleeping and show you fresh news when you open the app in the morning even if you are not connected to the Internet at that particular time. Apps like WhatsApp take advantage of thread to make the app run faster and give you the best user experience. Also for anyone who has already started on Android Development but wants to become better. “Practice makes a man perfect” which tells the importance of continuous practice in any subject to learn anything.

If you are just starting out I would recommend learning Kotlin over java, Kotlin is the recommend langue by the Android Dev team, Kotlin takes advantage of coroutines. Take control of your codebase with automated testing, developer tooling, and everything else you need to build production-quality apps. https://wizardsdev.com/ 2022 suggests learning paths to understanding Android development.

Professional Android By Reto Meier, Ian Lake

It forces you to follow architecture in the codebase, helps in fast failure detection in the development cycle, and helps you in safer code refactoring, letting you optimize code without worrying about regressions. Testing is a software development process in which we do so many different things to find bugs. Less the number of bugs, the more the chances of performing well in production for that particular software. Apps like WhatsApp use databases to store your data at the Android end and design the database to make the query faster so that your app runs faster. Nowadays, the new projects at most companies are getting started with Kotlin. Also, the older Java projects are getting migrated into Kotlin.

Android developer roadmap

Bugs unfortunately just come with the territory of Android app development. Your task as an engineer is to find at least a portion of those bugs in your code, as well as fix the bugs that were found by other team members like Quality Assurance engineers. An Android developer commonly has to work with external sources such as various APIs and databases. This means you should be skilled enough at dealing with third-party code written by other software engineers. Your first step is understanding what responsibilities you’ll have as an Android developer and what technical and non-technical Android developer skills you’ll need.

Google developed the Material-UI library in 2014 that enables developers to import and use different components to create a user interface. Developers need to have ample knowledge about the guidelines of Material-UI and hone their design skills. They are more inclined towards a better user interface and user experience. We hope that with this roadmap new developers will find it easier to start building beautiful Android applications.

What Is Mobile Development?

The developer must also coordinate with business leaders regarding launch strategies. Mobile apps can be installed onto a phone, can send notifications to users, and are native to the device. It’s the job of the mobile app developer to ensure mobile apps work correctly so the company can achieve its goals.

Android developer roadmap

Now the questions arise are, Why Android(Decide the Goal First?), how to start? Do you need to learn all the concepts from a book or you should go with some online tutorials or you should learn Android by doing some projects on it? So in this article, we are going to discuss all these things in detail. In this code example, we first create an “object” in the code called “helloButton.” Inside our “onCreate” method we then tell Android that this object represents the button in our layout file. The code you place here is what will run first when you launch an app. Kotlin, on the other hand, has become Google’s preferred choice for Android development.

Roadmap

If you don’t know, Kotlin was development by JetBrains, the company behind one of the most popular Java IDEs, IntelliJ IDEA. They were a Java shop developing IDEs like IntelliJ IDEA, PyCharm, and ReSharper, all in Java. But at the same time, they couldn’t rewrite all their code in Kotlin, so that’s why they made Kotlin fully interoperable with Java. What technical Android developer job skills do you need to be an Android developer? Let’s see what skills employers are looking at when they decide to hire for Android developer jobs. Those are the basic responsibilities of Android developers, but definitely not all of them. Keep in mind that responsibilities usually differ from company to company and depend on your working experience.

Android developer roadmap

As a mobile app developer, you’ll most likely have to work in teams. You should be able to respond well in collaborative environments. More than that, you’re going to have to work well with others to accomplish a certain task. With help from a bootcamp, you could be a mobile app developer in 12 months.

Java Programmers Should Learn Kotlin

From simple games and utility apps to full-blown music players, there are many opportunities to create something meaningful with Android. The Android developer community is widespread, and the documentation and resources online are easy to find, so that you can tackle any issue you’re facing. Having experience working in an Agile software development environment may complement your resume and work well for you during an interview for an Android developer job. If you have no experience like this, you should be at least familiar with the principles of Agile methodology. Being a software engineer means mastering new skills and gaining fresh knowledge all the time. It is barely possible to be a good developer in today’s rapidly developing high-tech world without paying due attention to learning.

Online Mobile Development Programs

Mobile application development is the process of writing software for mobile devices. It’s a unique endeavor in that it gives the developer the chance to build an application from scratch in a relatively short period. If you’d like to know more about mobile application development, Career Karma has you covered. In this guide, we’ve provided everything you’ll need to decide whether a career in the field is for you.

Similar Projects And Alternatives To Android

If you need help getting set up, check out our Android Studio tutorial for beginners. Hacker Roadmap – Roadmap for amateur pen testers and a collection of hacking tools, resources and references. Data scientist Roadmap 2 – Roadmap of tutorials for those interested in data science. Game Developer Roadmap – Roadmap to becoming a game developer in 2022 . IOS Developer Roadmap – Roadmap to becoming an iOS developer in 2020 . Android Developer Roadmap – Roadmap to becoming an Android developer in 2020 .

Natalia Kharchenko is a Technical Writer at Cleveroad, a web and mobile app development company in Ukraine. They are focused on helping startups, small, and medium businesses create competitive and winning software. She enjoys bringing a digital world closer to people and writing about technology, mobile apps, innovations, and progressive management models. This bachelor of science program at Full Sail Universitygives students strong foundations in programming. The lessons equip students with the expertise they need to jump into a career in mobile development.

Android Studio allows you to access libraries and APIs from the Android SDK, thereby giving you access to native functions of the operating system. You’ll also be able to build your app into an APK using Gradle, test it via a “virtual device” , and debug your code while it runs. Check out the guides in this folder to learn about the 4 core components that make up an Android app and how you can get started with a sample app. Then delve into the more advanced topics such as fragments and the Gradle build system. Finally, check out the material design specifications guide as well to learn how to make your apps beautiful and user friendly.

ไม่ใช่แค่คุณกับฉัน! 4 ปัญหาชีวิตคู่ อย่าปล่อยให้หมักหมม รีบเคลียร์เดี๋ยวนี้

ปัญหาชีวิตคู่ เชื่อว่าเจอกันทุกคู่ชีวิต ไม่ว่าจะฐานะใด สัญชาติไหน ไม่มีใครหลีกพ้นสักราย

ก็คิดดูเถอะ คนสองคนที่ภูมิหลังแตกต่างกัน วันหนึ่งเมื่อมาอยู่ร่วมกัน แม้จะมี “ความรัก” ้เป็นตัวจูน แต่หลายครั้งก็พบว่า “รักคำเดียว” นั้นยังไม่พอ คำถามคือเมื่อเกิด ปัญหาชีวิตคู่ ขึ้นมา คนสองคนจะจับมือฟันฝ่ากันไปด้วยวิธีใด

ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งลองไล่เลียงตัวอย่างปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไขมาให้ดู หลายคนที่อ่านแค่หัวข้อ อาจเบ้หน้าว่า เบๆ (เบสิค) แต่ปัญหาพื้นๆ อย่างนี้แหละ ถ้าไม่คุย ไม่ปรับ ก็ทำเอาทางใครทางมันมาเยอะแล้ว

1.ไม่ชินกับสถานภาพ “สมรสแล้ว”

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: innokurnia on Pixabay

อย่างที่เคยได้ยินคนเพิ่งแต่งงานบ่นบ่อยๆ ว่ายังไม่ชินกับความรู้สึกที่ว่า “นี่เราแต่งงานแล้วเหรอ”  ความรู้สึกนี้เป็นเรื่องปกติของคนทั้งโลก  ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย  การจะปรับทัศนคติและปรับตัวให้ชินกับสถานภาพใหม่ย่อมต้องใช้เวลา  ต้องลดความรู้สึกแบบคนโสดลง  ซึ่งนักจิตวิทยาบอกว่าคู่สมรสอาจต้องใช้เวลาในปีแรกเพื่อปรับตัวไปสู่การใช้ชีวิตคู่ที่แท้จริง

เจ้าสาวป้ายแดงคนหนึ่งเล่าว่า  “ช่วงแรกรู้สึกว่าคุณสามียังไม่เคยชินกับการมีอีกคนอยู่ในบ้าน  เขาเคยชินกับการทำอะไรคนเดียว จนบางครั้งลืมนึกถึงเรา  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็กระตุ้นต่อมน้อยใจทุกที”

แนวทางแก้ปัญหา

เมื่อไม่ชินกับสถานภาพใหม่ สามี- ภรรยามักมีปัญหาเรื่องความอิหลักอิเหลื่อในบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน ทางที่ดีควรคุยกันให้เข้าใจก่อนว่า หลังแต่งงานแล้ว ใครต้องมีหน้าที่อะไรในบ้านและในความสัมพันธ์ใหม่บ้าง

แนะนำว่าการกำหนดกะเกณฑ์ทุกอย่างจนเป๊ะไปเสียหมดอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดได้ทั้งที่เพิ่งแต่งงาน  จึงควรคุยกันในลักษณะของการวางแผนในจังหวะที่เหมาะสม เช่น  ตอนที่ช่วยกันเลือกซื้อของแต่งบ้าน จัดบ้าน นี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะคุยถึงความชอบและความถนัดของแต่ละคน  อาจแจกแจงหน้าที่กันคร่าวๆ  ขณะเลือกซื้อของ  หรือต่างคนต่างอาสาดูแลในสิ่งที่ตนถนัดก็เป็นวิธีประนีประนอมที่ดีมาก

2.ญาติเพิ่มกะทันหัน!

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: Broesis on Pixabay

 

“นั่นก็ญาติ  นี่ก็ญาติ  มาจากไหนกันเยอะแยะ!”  แน่นอนว่าเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว  ญาติเขาก็เหมือนเป็นญาติคุณไปด้วย  ละครไทยตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์สอนให้ระลึกไว้เสมออยู่แล้วว่า  การปรับตัวโดยเฉพาะถ้าต้องย้ายเข้าบ้านที่เป็นบ้านเดิมของครอบครัวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันไม่เคยง่าย การเคารพผู้ใหญ่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด  ไม่ว่าผู้ใหญ่จะเป็นยังไง  สะใภ้หรือเขยที่ดีก็ควรต้องพยายามหาข้อดีและยกยอท่านบ้างในบางโอกาส  เพราะหากเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี  ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของคุณก็จะราบรื่นไปด้วย

แต่หากแต่งแล้วเจอศึกดราม่ายุงไข่เหมือนในละครไทยหลังข่าว ประมาณว่าโดนพ่อแม่ของอีกฝ่ายเพ่งเล็ง  จะทำอะไรก็ไม่มีอิสระ  แถมวงวารญาติเครือยังเฮโลมาเป็นทัพหนุน ช่วยออกเสียง (ทั้งที่ไม่ได้ขอ) ในทุกสถานการณ์ ความรู้สึกอ่วมหนักถือเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งปรี๊ดแตกออกมาเชียว

แนวทางแก้ปัญหา

พ่อแม่ของคู่ชีวิตคือคนที่เราควรยกไว้เหนือเหตุผล  ไม่ควรวิพากษ์- วิจารณ์  แม้จะไม่ชอบนิสัยหรือทัศนคติบางอย่างของท่านก็ตาม  เวลาสามีหรือภรรยาบ่นเรื่องพ่อแม่ของเขา ทางที่ดีที่สุดคือรับฟังและอย่าคอมเมนต์อะไรที่รุนแรง

มองโลกในแง่ดีสักหน่อยว่าท่านก็มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อแม่เรา  สนใจไต่ถามเรื่องสุขภาพของท่านบ้าง  และที่สำคัญที่สุด  ทำให้ท่านมั่นใจว่าท่านยังเป็นคนสำคัญ แม้ว่าลูกของท่านจะมีคุณมาอยู่เคียงข้าง  ด้วยการถามความคิดเห็นของท่านอย่างสม่ำเสมอ

ปัญหาทั้งหลายที่พูดกันนั้น  หากคุณยอมรับได้ว่าลึกๆ แล้วมันมาจากใจเราเองที่ไม่ยอมรับว่าครอบครัวเราต้องขยายตัวแล้วจึงรู้สึกอึดอัด  หากมองอีกมุมว่าบนโลกที่เต็มไปด้วยปัญหา  โชคดีแค่ไหนที่ยังมีอีกครอบครัวที่คอยเป็นกำลังใจ  ทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แค่กระโดดข้ามกำแพงที่ตั้งไว้ได้  ก็จะพบว่าการอยู่ในสถาบันครอบครัวที่อบอุ่นนั้นเป็นเหมือนกำลังใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้

3.‘ลูกติด’ ‘เมียเก่า’ พันธะจำเป็นที่ต้องทำใจ

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: Free-Photos on Pixabay

หากตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายมีตำหนิ  จะเคยหย่าร้างหรือมีลูกติดก็ล้วนมีเรื่องให้ต้องสะกิดใจทั้งนั้น  คนที่ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยง  นอกจากจะต้องใจพระ  เลี้ยงและรักลูกติดสามีแล้ว  ยังต้องทำใจกว้างเมื่อแม่แท้ๆ ยังต้องติดต่อกับลูกและสามี  ไม่ว่าจะมาเยี่ยมหรือมารับก็ล้วนทำให้เกิดความรู้สึกอิหลักอิเหลื่อทั้งนั้น

เจ้าสาวหมาดๆ คนหนึ่งต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงทันทีหลังแต่งงาน  เพราะฝ่ายชายเคยพลาดพลั้งไปมีลูกสมัยยังวัยรุ่น  เธอรู้สึกรำคาญใจทุกครั้งที่ “แม่ของเด็ก” กลับมาเยี่ยมลูก  แต่ทำได้แค่เพียงวางตัวให้ดี

แต่ถึงสามีจะไม่มีลูกติด  ทว่าด้วยธรรมชาตินิสัยของผู้ชายที่เป็นเพศไม่ซับซ้อนเอาซะเลย จึงใจดีเห็นอกเห็นใจภรรยาเก่าจนสร้างแผลในใจให้ภรรยาใหม่ นี่คือเสียงบ่นจากผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีเป็นคนดีเสียเหลือเกิน

“หย่ากับเมียเก่ามาก็ตั้งนานแล้ว  แต่ฝ่ายนั้นโทร.มาให้ช่วยเหลืออะไร  สามีก็ยังคอยช่วยตลอด  ขาดเหลือเรื่องเงิน  ขนาดหาเงินลงทุนยังกล้าโทร.มาขอ  สามีก็ไม่เคยปฏิเสธ  แม้จะเป็นเงินส่วนตัวของเขา  แต่ก็ทำให้หงุดหงิดใจที่สุด”

แนวทางแก้ปัญหา

ปัญหานี้จัดว่าใหญ่หลวงทีเดียว  เพราะมีอีกบุคคลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา  ทางเดียวที่ทำได้คือทำความเข้าใจกับคนของเราว่าการดูแลหรือปฏิสัมพันธ์นั้นต้องมีขอบเขต และเรายอมรับได้ในระดับไหน  เมื่อเป็นข้อตกลงร่วมกัน  สามีก็ควรให้อีกฝ่ายทราบข้อตกลงนี้ด้วย

หากคิดว่ามีภาระที่อาจวุ่นวายในภายหลังก็ควรปรึกษาผู้ใหญ่ในครอบครัว  ท่านจะเข้าใจนิสัยใจคอของทุกฝ่ายได้ดีกว่า  อาจจะมีคำแนะนำที่ดีทั้งสำหรับเราและสามีเรื่องการวางตัวและขอบเขตที่เหมาะสม  หรือแม้กระทั่งช่วยคุยหรือแนะนำให้อีกฝ่าย (ในอดีต) ได้เข้าใจด้วย

4.เงินทองของนอกกาย (แต่ถ้ายังไม่ตายก็ต้องเอาให้เคลียร์)

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: stevepb on Pixabay

แม้เงินทองจะเป็นของนอกกาย  แต่ขาดเงินเมื่อไร ปัญหาก็เกิดเมื่อนั้น  เรื่องการเงินเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตครอบครัว  เพราะฉะนั้นควรพูดคุยตกลงกันเสียตั้งแต่ก่อนแต่งว่าจะจัดการอย่างไร

บ่าว- สาวคู่หนึ่งตัดสินใจเก็บเงินร่วมกันตั้งแต่ตกลงจะแต่งงาน  โดยเจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างแบ่งเงินรายเดือนจำนวนหนึ่ง (ไม่เท่ากันเพราะเจ้าบ่าวได้เงินเดือนเยอะกว่า) ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน  ซึ่งก็ครอบคลุมและยังมีเงินส่วนที่เหลือบวกกับเงินใส่ซองนำมาใช้เป็นเงินกองกลาง

หลังจากแต่งงานแล้วทั้งคู่ยังเก็บเงินรายเดือนร่วมกันในจำนวนเท่าเดิม  เงินเดือนส่วนที่เหลือก็แยกกันใช้จ่าย ฟังดูก็โอเคดีใช่ไหมคะ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่คุณๆ คงเคยได้ยินวลีที่ว่า “ซุกปัญหาไว้ใต้พรม” มาบ้าง ยิ่งกับค่านิยมไทยๆ ที่ฝ่ายหญิงยังคาดหวังว่าฝ่ายชายมีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าไม่ควรจะแบ่งแยก “เงินเขา-เงินเรา” ชัดเจนขนาดนี้

แนวทางแก้ปัญหา

ใจเขาใจเราค่ะ โลกหมุนมาถึงสองพันกว่าปีแล้ว ผู้หญิงก็ควรปรับเปลี่ยนทัศนคติเรื่องเงินทองได้แล้วเหมือนกัน แต่หากปรับแล้วยังรู้สึกตะหงิดๆ เหมือนมีอะไรติดค้างคาใจอยู่ ก็ต้องคุยกันให้เคลียร์ เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและบั่นทอนทุกความสัมพันธ์ของชีวิตคู่มานักต่อนักแล้ว

การจัดสรรปันส่วนเรื่องรายรับรายจ่ายแท้จริงแล้วถือว่ามีความสำคัญมากกับการสร้างครอบครัว ยิ่งถ้าสามีหรือภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องรับภาระดูแลครอบครัวของตัวเองด้วยแล้วจะยิ่งยุ่งยาก  การพูดคุยในส่วนนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก  ดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาหรือระแวงกันภายหลัง

การแยกรายจ่ายหลักๆ ของแต่ละฝ่าย  โดยเฉพาะภาระหนี้สินเดิม (จะได้รู้ศักยภาพว่าเราควรมีหนี้ใหม่หรือไม่) เป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง  เพราะเมื่อทราบรายจ่ายแน่นอนก็จะประเมินรายจ่ายของครอบครัวที่กำลังจะสร้างร่วมกันได้  จากนั้นจะได้ประเมินรายรับของทั้งคู่ว่าเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในระดับไหน

ทุกเดือนเมื่อมีรายรับเข้ามา  ควรแยกส่วนเงินออมไว้ก่อน ตามด้วยรายจ่ายและภาระทั้งหลาย  จากนั้นจะเหลือส่วนที่สามารถใช้สำหรับความบันเทิงของชีวิตคู่ก็ย่อมได้  ถือเป็นการยึดหลักการใช้จ่ายอย่างถูกวิธีและยังสุขในแบบข้าวใหม่ปลามันได้ด้วย

ส่วนคู่ไหนที่มีปัญหานอกเหนือจากนี้ แล้วอยากแชร์พร้อมแนะวิธีแก้ เชิญคอมเม้นต์มาได้ในกล่องใต้ล่างนี้ได้เลยค่ะ

 

ที่มาภาพ: Pixabay

ไม่เป็นอย่างที่คิด! 5 Tips รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน ที่เจ้าสาวมือใหม่ต้องรู้

ปัญหาชีวิตคู่ สามีเปลี่ยนไปหลังแต่งงาน หลังแต่งงานไม่เป็นอย่างที่คิด กับอีกสารพัน บลาๆๆ ที่บีบให้เจ้าสาวต้องตื่นจากฝัน แล้วก้าวเข้าสู่โลกแห่งความจริง โลกที่ต้อง รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน

งานแต่งงานที่งดงามเหมือนฝัน ความสนใจของคนรอบข้างที่จ้องมองมาที่คุณราวกับคุณเป็น “เจ้าหญิง” ได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงคุณกับเขาที่ต้องดำเนินชีวิตคู่กันต่อไป และนั่นคือจุดเริ่มต้นของปัญหาหลังแต่งงานทั้งหลายแหล่ อะไรที่ไม่เคยเจอ ก็จะได้เจอตอนนี้แหละ

แต่จะดีกว่าไหม ถ้าคุณเจ้าสาวมือใหม่ได้รู้เคล็ดวิชา รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน ฉบับ Expert Tip ที่แพรวเวดดิ้งรวบรวมมาไว้ในสิลต์นี้

1. Wedding Blues ซึมเศร้าหลังงานแต่งผ่านพ้นไป

รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน, เจ้าสาวมือใหม่, ปัญหาชีวิตคู่, คู่รัก, คู่แต่งงาน
Photo: Takmeomeo on Pixabay

อาการซึมเศร้าหลังแต่งงานที่ฝรั่งเรียกภาษาบ้านๆ ว่า “Wedding Blues” (ภาษาทางการเรียก Postnuptial Depression) เป็นคำตอบของความเศร้าหลังแต่งงานที่เจ้าสาวหลายคนอาจประสบ  แต่ไม่สามารถนิยามสิ่งที่ ตัวเองเป็นได้ว่าคืออะไร งานแต่งงานงดงามดั่งฝันเพิ่งจบไป  แม้แต่ชุดเจ้าสาวแสนสวยก็จะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ทำให้เจ้าสาวทั้งหลายเกิดความรู้สึกใจหาย จากที่เคยวุ่นวายเตรียมงานมาเป็นปี  บัดนี้เป้าหมายได้สำเร็จลุล่วงไปแล้ว ความรู้สึกราวกับเจ้าหญิงจบลงแล้วเมื่อแขกคนสุดท้ายลากลับ  ทำให้เจ้าสาวหลายคนรู้สึกหดหู่จนถึงกับว่างเปล่า

วิธีรับมือ:

การเตรียมงานแต่งงานเป็นเรื่องวิเศษ  ตราบใดที่คุณไม่ถึงขนาดบ้าคลั่งไปกับมัน  การใช้ชีวิตหนึ่งปีก่อนแต่งงานเพื่อวันเพียงวันเดียวจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนสูญเสียกะทันหันเมื่อมันจบลง ควรแบ่งเวลาสำหรับการเตรียมงานและใช้ชีวิตปกติของคุณให้พอดี  จำไว้ว่าปีแรกของการแต่งงานก็ควรเป็นช่วงเวลาที่พิเศษเช่นกัน  อย่ามัวนอยด์จนพลาดเก็บเกี่ยวช่วงเวลาดีๆ ลองจัดปาร์ตี้เล็กๆ  นัดเพื่อนและครอบครัวมาดูรูปถ่ายและวิดีโองานแต่ง หาเวลาว่างในช่วงวันหยุดสั้นๆ ไปเที่ยวใกล้ๆ กันสองคน ไม่ใช่กลับจากฮันนีมูน มาแล้วก็ไม่คิดจะไปไหนอีกเลย  สิ่งนี้จะช่วยให้คุณค่อยๆ ก้าวลงจากจุดพีคในวันแต่งงานได้อย่างไม่หักดิบจนเกินไป

2.เวลาอยู่บ้านคุณเป็นแบบนี้เหรอ!

รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน, เจ้าสาวมือใหม่, ปัญหาชีวิตคู่, คู่รัก, คู่แต่งงาน
Photo: sasint on Pixabay

ผู้หญิงบางคนไม่เคยรู้เลยว่า เวลาอยู่บ้าน ผู้ชายของเธอมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างไร  เตรียมใจไว้เถอะว่า  คุณอาจต้องเจอเรื่องน่าหงุดหงิดหลายเรื่อง อย่างเช่นที่เจ้าสาวป้ายแดงคนหนึ่งเคยช็อกกับพฤติกรรมการใช้ห้องน้ำของคุณสามีมาแล้ว

“เคยได้ยินจากเพื่อนบางคนว่า  สามีไม่ยกฝารองนั่ง  ทำให้เลอะเทอะมาก  สำหรับสามีเรา  แม้จะยกฝารองนั่งขึ้นแล้ว  แต่ด้วยความไม่ระวังก็ทำให้เหลือร่องรอยเลอะตามขอบโถ  บางครั้งตื่นมาเข้าห้องน้ำ กลางดึก  งัวเงียนั่งลงไปก็เลอะ  ทำให้รู้สึกไม่สะดวกใจ ทุกครั้งเมื่อต้องใช้ห้องน้ำต่อ  ต้องคอยเตือนและให้คุณสามีเป็นคนทำความสะอาดเอง  นอกจากนี้ยังชอบนอนกรน  แย่งผ้าห่มกันตอนหลับ  และนิสัยแบบผู้ชายเรื่องอื่นๆ  เช่น  ไม่ค่อยมีระเบียบ  และชอบผัดวันประกันพรุ่งจนต้องตั้งฉายาให้ว่า ‘มิสเตอร์เดี๋ยว’ ”

วิธีรับมือ:

คิดเสียว่านี่แหละคือความแตกต่างของชายหญิงที่พระเจ้าให้มา  และกำหนดให้ชายต้องคู่กับหญิง เพื่อเติมเต็มสิ่งที่อีกฝ่ายไม่มี  เพราะเขาเป็นอย่างนี้จึงต้องมีเราคอยดูแล  แค่เข้าห้องน้ำเลอะเทอะ วางของไม่เป็นที่ เราช่วยเก็บกวาดนิดหน่อยก็เป็นความสุขและความภูมิใจ มองอีกมุมเขาก็ต้องคอยดูแลเราเหมือนกัน  แต่ก่อนเขาไปไหนคนเดียวก็เดินตัวปลิว  พอมีเรา  เขาก็ต้องรอ ต้องคอยถือกระเป๋า ถือของให้  เลิกงานก็ต้องฝ่ารถติดมารับ ซื้อเสบียงมาให้  คอยปกป้องสารพัด  นี่ก็เป็นความภูมิใจของผู้ชายที่ได้ดูแลคนรักเช่นกัน

3. จากมดเรียกพี่ เดี๋ยวนี้ความหวานของเราหายไปไหนหมด!

รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน, เจ้าสาวมือใหม่, ปัญหาชีวิตคู่, คู่รัก, คู่แต่งงาน
Photo: Annie Spratt on Unsplash

จากที่เคยโทรหากันเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน  คุยโทรศัพท์กันทีนานสองนาน  เจอเรื่องอะไรมาตั้งแต่เช้าจดเย็นก็แทบจะบรรยายให้ฟังทุกรายละเอียด  แต่ทำไมแต่งงานแล้วกลับแทบไม่มีเวลาคุยกันเลย  ปัญหาของสามี- ภรรยาคือการหยุดทำอะไรที่เคยทำก่อนแต่งงาน  ไม่มีเดตที่ตื่นเต้นในวันสุดสัปดาห์ ไม่มีกิจกรรมเริ่ดๆ ที่ต่างฝ่ายต่างช่วยกันหามา  ความโรแมนติกที่เคยท่วมท้นหดหายไปกะทันหัน

วิธีรับมือ:

เป็นธรรมดาของทุกคู่รักที่ความหวานจะน้อยลงเมื่อเทียบกับวันแรกๆ ที่จีบกัน  ยิ่งเมื่อเริ่มต้นสร้างครอบครัวในวัยที่หน้าที่การงานกำลังก้าวหน้า ผู้ชายส่วนใหญ่จะยิ่งรู้สึกว่าต้องทุ่มเทให้หนัก เพื่อสร้างความมั่นคงให้กับครอบครัว จนหลายครั้งไม่มีเวลาที่จะอยู่นิ่งๆ ช้าๆ หรือหันมามองหน้าพูดคุยกันเลยก็มี

ในฐานะศรีภริยาที่มีสามีแบบนี้ บอกเลยว่าต้องเพลาๆ เอาการงอน หรือน้อยใจลงให้มากๆ ท่องไว้ว่ากำลังใจคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณสามีหายเหนื่อยได้  และถ้าทำได้ก็ควรหมั่นแฝงความหวานไว้ในทุกวันเวลา แม้เขาจะยุ่งก็ต้องให้รู้ว่าเรานึกถึงเขาอยู่ตลอด เช่น หากต้องออกไปทำงานก่อน ก็แนบกระดาษโน้ตบอกรักหรือให้กำลังใจตามตู้เย็นหรือประตูบ้าน  แค่นี้ก็ช่วยให้เขามีกำลังใจและมีรอยยิ้มไปผจญกับงานหนักแล้วละ

นอกจากนี้ต้องไม่ลืมที่จะกอดและบอกรักกันก่อนนอน  เพื่อย้ำว่าเรายังมีกันเสมอ  และควรมีหนึ่งวันในสัปดาห์ซึ่งเป็นวันที่ครอบครัวจะทำกิจกรรมร่วมกัน  หากในบ้านมีผู้ใหญ่  อาจมีกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ด้วยการร้องคาราโอเกะร่วมกัน  หรือเมื่อมีลูก  ก็ขอความเมตตาจากผู้ใหญ่ฝากลูกอาทิตย์ละวัน  ออกไปดูหนัง  ฟังเพลง  ดินเนอร์ใต้แสงเทียน แล้วอย่าลืมต้องแต่งตัวสวยเซ็กซี่ด้วยนะ  แค่นี้เขาก็ไม่เหลือสายตาไว้แลใครแล้ว

4. ไม่เห็นคุณจะดีขึ้นบ้างเลย!

รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน, เจ้าสาวมือใหม่, ปัญหาชีวิตคู่, คู่รัก, คู่แต่งงาน
Photo: Priscilla Du Preez on Unsplash

เพราะเชื่อมั่นว่าความรักเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งได้  ผู้หญิงจึงมักคิดว่าผู้ชายของเธอจะดีขึ้น  โดยเฉพาะหลังแต่งงาน เขาจะรักเธอมากขึ้น  จะทำตัวดีขึ้น  แม้สัจธรรมจะสอนว่า ทุกสิ่งเกิดขึ้น  ตั้งอยู่  และดับไป  แต่เชื่อเถอะว่านิสัยบางอย่างของคน  รอให้ตายดับกันไปข้างยังง่ายกว่าให้เขาเปลี่ยนแปลง  แล้วอย่าเอาแต่โทษเขาฝ่ายเดียว แม้แต่นิสัยบางอย่างของตัวเองที่คุณอยากเปลี่ยนจะแย่  สุดท้ายก็ยังเปลี่ยนไม่ได้  หากคาดหวังกับคู่ชีวิตแบบนี้  เตรียมตัวผิดหวังได้เลย

“คนเราเปลี่ยนไม่ได้หรอก  แค่ว่าจะปรับได้มากน้อยแค่ไหน  หลังแต่งงานผู้ชายอาจจะดีขึ้นในแง่ที่พยายามเป็นหัวหน้าครอบครัว  เป็นผู้นำให้มากขึ้น  ผู้หญิงก็อาจเป็นแม่บ้านแม่เรือนขึ้นบ้างจากที่ทำอะไรไม่เป็นเลย  แต่นิสัยส่วนตัวอย่างอื่น  เอาเป็นว่าอย่าไปคาดหวัง  เพราะการแต่งงานไม่ได้ช่วยเปลี่ยนนิสัยที่เป็นมาทั้งชีวิตของคนคนหนึ่งได้หรอก  อย่าไปหวังว่าเขาจะทุ่มเทเวลาและทุกอย่างให้คุณแบบหน้ามือเป็นหลังมือ คุณแต่งงานเพราะรักเขาแบบที่เขาเป็น  เพราะฉะนั้นหลังแต่งงานก็ควรรักเขาในแบบนั้น ไม่ใช่หวังให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามใจคุณ” คือคำพูดจากปากคำของสามีมือใหม่นายหนึ่ง

วิธีรับมือ:

เมื่อเราตัดสินใจเลือกใครสักคนมาเป็นคู่ชีวิต  สุดท้ายเขาคือคู่ทุกข์คู่ยาก  สิ่งยิ่งใหญ่ของชีวิตคู่คือการมีคนคนหนึ่งที่เราจะบอกเขาได้ทุกเรื่อง  คนที่คอยรับฟังและช่วยเราแก้ปัญหา ซึ่งเราเองก็ต้องเป็นคู่ทุกข์ของเขาเช่นกัน  ดังนั้นนิสัยบางอย่างของเขาที่เราไม่ชอบ  ถ้าไม่ร้ายแรงก็ให้รับรู้ไว้ว่านั่นแหละคือตัวเขา  และพยายามดูแลชีวิตคู่ไปด้วยกัน

5.ทำไมเราไม่เห็นจะมีอะไรเหมือนกันเลย?

รับมือกับปัญหาหลังแต่งงาน, เจ้าสาวมือใหม่, ปัญหาชีวิตคู่, คู่รัก, คู่แต่งงาน
Photo: Eric Ward on Unsplash

เหตุผลที่ได้ยินบ่อยๆ เวลาคนรักเลิกรา หรือสามี- ภรรยาหย่าร้างคือ  “ทัศนคติ ไม่ตรงกัน”  เพราะตอนคบกันเป็นแฟน  ต่างคนต่างมองแต่ข้อดีและพยายามมองข้ามข้อเสียของอีกฝ่าย  แต่ความจริงที่ว่าการเป็นแฟนกับการเป็นสามี- ภรรยานั้นแตกต่างกัน  เมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน  การมองข้ามข้อเสียต่างๆ เหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลย  ฉะนั้นควรท่องไว้ว่าการแต่งงานเป็นเรื่องของการประนีประนอมและการปรับตัว ทัศนคติบางอย่างของอีกฝ่ายไม่มีวันเปลี่ยนมาเหมือนกับทัศนคติของคุณ

ยกตัวอย่างให้เครียดหน่อยก็เช่นเรื่องมุมมองการเมืองที่คุกรุ่นอยู่ในประเทศไทยมานาน มีหลายคู่ที่หย่าร้างกันเพราะเพราะมีความคิดเห็นทางการเมืองไม่ตรงกัน  พูดง่ายๆ คือเชียร์กันคนละฝ่าย  แถมเป็นฝ่ายตรงข้ามกัน  ดูข่าวด้วยกันทีไรเป็นมีเรื่องทะเลาะ  หรือไม่ก็หงุดหงิด  เก็บมาเป็นอารมณ์  และระบายลงกับเรื่องอื่นจนความสัมพันธ์แย่ลงไปด้วย

วิธีรับมือ:

ไม่มีใครมีความเห็นตรงกันไปหมดเสียทุกอย่าง แม้แต่หัวหน้าหรือเพื่อนร่วมงานที่มีความเห็นไม่ตรงกัน เรายังทำงานร่วมกับเขาเหล่านั้นได้เลย  เพียงแต่กับสามี หรือภรรยา  เรายึดติดว่าเขาเป็นของเรา  ต้องเป็นอย่างที่เราต้องการทุกอย่าง  จึงเป็นทุกข์และต้องการเอาชนะจนลืมนึกไปว่า  เขาก็เป็นคนที่มีชีวิตจิตใจคนหนึ่ง เราต้องให้เกียรติเขาเท่ากับหรือมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ ก็เขาคือคนที่เราต้องแคร์ที่สุดไม่ใช่หรือ

สำหรับคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน แน่นอนว่ายังมีตัวแปรอีกมากมายที่ต้องจูน ต้องปรับกัน แต่ถ้ามีความรักเป็นสิ่งเชื่อมโยง หนักนิดเบาหน่อยจะทนกันได้แน่นอน

 

ที่มาภาพ: Pixabay และ Unsplash

SOS รับมือยังไงดี? เมื่อเจอ 4 เรื่องไม่คาดคิด ก่อนถึงวันวิวาห์

เพราะโลกนี้เต็มไปด้วย เรื่องไม่คาดคิด แม้แต่เรื่องมงคลอย่างงานวิวาห์ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

ที่ผ่านมาเรามักได้ยินข่าวที่ฟังแล้วชวนเศร้าแทนเกี่ยวกับงานแต่ง หรือวันวิวาห์อยู่บ่อยๆ อาทิ เจ้าบ่าวหาย มีมือที่สามโผล่มากลางงานแต่ง เจ้าสาวเสียชีวิต ฯลฯ ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งเลยลองรวบ เรื่องไม่คาดคิด 4 ประเด็นท็อปฮิตพร้อมวิธีรับมือ เพื่อเป็นคู่มือให้ว่าที่บ่าว-สาวทั้งหลายได้เรียนรู้ เผื่อมีสถานการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นจริงๆ

1. แฟนเก่าขอแจมงานแต่ง

เรื่องไม่คาดคิด ก่อนถึงวันวิวาห์, การแต่งงาน, การแยกทาง, รัก, ความรัก, ถ่ายภาพแต่งงาน, แฟนเก่า
Photo: WenPhotos on Pixabays

เมื่อคนรักเก่าของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดโผล่มาในช่วงที่ทุกอย่างเกือบจะแฮ็ปปี้เอนดิ้ง โดยแจ้งความประสงค์ว่า อยากมาร่วมงานแต่งเพื่อแสดงความยินดี และเพื่อเป็นการบอกใครต่อใครว่าไม่มีอะไรติดค้าง ก่อนจะแว่บคิดไปถึงคู่วิวาห์ของคุณว่าจะรู้สึกยังไง ให้ถามตัวเองก่อนเถอะว่า พลันเมื่อได้ยินเสียงอดีตคนรัก ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากตัวจริง หรือเสียงตามสาย คุณมีอาการใจสั่น สับสน ลังเล ระหว่างรักเก่าฝังใจกับรักใหม่ที่นับวันถอยหลังเข้าประตูวิวาห์หรือเปล่า

ถ้าตอบตัวเองได้ว่าสิ้นเยื่อขาดใยแล้วจริงๆ ตอนนี้แหละที่คุณต้องคะแนอารมณ์ของ “คุณว่าที่…” ของคุณว่าเขาแฮ็ปปี้ที่จะให้คุณเชิญไหม ถ้าไม่ ก็ไม่ควรเชิญ แม้แฟนเก่าคนนั้นจะีต่อคุณแค่ไหน ก็ควรต้องแคร์คุณว่าที่มากกว่า แต่ถ้าเขาเป็นคนไม่ขี้หึง ไม่คิดมากจริงๆ ก็ค่อยกลับมาพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับแฟนเก่าว่า “ประวัติศาสตร์วันเลิก” ของคุณกับเขาเป็นเช่นไร

ถ้าเลิกกันดี และที่ผ่านมาก็คุยกันเป็นเพื่อนมาสักระยะหนึ่ง จนรู้สึกสนิทใจแล้ว ก็ร่อนการ์ดเชิญเขาเหมือนเป็นแขกคนหนึ่งได้เลย

ถ้าเลิกกันดี แต่เขายังตัดใจไม่ได้ ก็อย่าเชิญมาเลย เพราะไม่มีอะไรการันตีว่าเขาจะแปลงอาการตัดใจไม่ลงออกมาเป็นท่าทีแบบไหน

แต่ถ้าเลิกกันไม่ดี อันนี้สัญญาณค่อนชัดเชียวแหละ เหตุผลที่ว่ามาเพื่อโชว์ว่าไม่มีสิ่งใดติดค้าง ฟังดูสวยหรูเกินไป ให้คิดทางร้ายไว้ก่อนว่าเขาอาจตั้งใจมาทำอะไรไม่สมควรในงานแต่งงานของคุณ เพื่อตัดปัญหา ก็อย่าเชิญดีกว่า อีกอย่างถ้าคุณตัดสินใจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคนที่คุณเลือกแล้ว ก็ไม่ควรทำอะไรเพื่อเป็นการตอกย้ำเรื่องราวเก่าๆ อีก โดยเฉพาะในวันที่กำลังจะกลายเป็นวันสำคัญของคุณ

2. ท้องก่อนแต่ง

เรื่องไม่คาดคิด ก่อนถึงวันวิวาห์, การแต่งงาน, การแยกทาง, รัก, ความรัก, ถ่ายภาพแต่งงาน, แฟนเก่า, ท้องก่อนแต่ง
Photo: Josh Applegate on Unsplash

ไม่ว่าจะท้องแล้วตัดสินใจแต่ง หรือกำลังเตรียมงานแต่งแล้วถึงรู้ตัวท้อง ก็หนีไม่พ้นคำว่า “ท้องก่อนแต่ง” อยู่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นแน่ๆ คือความเครียด ความกังวล ซึ่งไม่ใช่แค่เฉพาะว่าที่เจ้าสาว แต่ยังรวมไปถึงคุณว่าที่ญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เพราะเกรงว่าผู้คนจะครหา หรือชูนิ้วขึ้นมานั่งนับเดือนตอนคุณคลอด

เอาเข้าจริง เรื่องนี้ไม่ร้ายแรงเลยสักนิด ยิ่งสังคมสมัยนี้เปิดกว้างมากขึ้น ใครอยากชูนิ้วนับเดือนก็ช่าง โนสน โนแคร์ไปเลย เพราะเมื่อเวลาผ่านไป คนพวกนั้นเห็นคุณใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เขาก็จะเลิกสนใจและลืมเรื่องพวกนี้ไปเอง และแม้ประเทศไทยจะยังไม่มีการเก็บสถิติเรื่องเจ้าสาวท้องในวันแต่งงาน แต่ถ้าดูจากธุรกิจบริการชุดเจ้าสาวประเภทท้องก่อนแต่งที่นับวันก็เพิ่มสูงขึ้น ยิ่งสะท้อนว่าปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอีกต่อไป

3. เจอโรคเลื่อน เพราะฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดประสบอุบัติเหตุ ป่วยกะทันหัน หรือญาติผู้ใหญ่เสีย

เรื่องไม่คาดคิด ก่อนถึงวันวิวาห์, การแต่งงาน, การแยกทาง, รัก, ความรัก, ถ่ายภาพแต่งงาน, แฟนเก่า, เลื่อนงานแต่ง
Photo: viarami on Pixabays

ไม่มีกะจิตกะใจแบบนี้ยังไงก็ต้องเลื่อน ยกเว้นกรณีญาติผู้ใหญ่ที่เสียไปสั่งเสียไว้ก่อน ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องแต่ง

พลันที่ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น สิ่งแรกที่ต้องทำคือโทร.แจ้งทางโรงแรมและช่างต่างๆ ที่จองคิวไว้ เผื่อว่าเขาจะมีโอกาสรับลูกค้ารายอื่น แล้วเมื่อได้ฤกษ์ใหม่ (ควรหาเผื่อไว้หลายๆ วัน) ค่อยโทร.สอบถามอีกครั้งว่ายังว่างหรือไม่ โดยเริ่มจากโรงแรมก่อน  เพราะโรงแรมส่วนใหญ่มักให้เราจ่ายมัดจำไว้ครึ่ง และขอสงวนสิทธิ์การคืนมัดจำอยู่แล้ว แต่หากต้องการแค่เลื่อนออกไป มักรับพิจารณา เป็นรายๆ ไป ขึ้นอยู่กับสถานะห้องจัดเลี้ยงในวันที่ต้องการเลื่อนออกไป จากนั้นจึงโทร.หาส่วนอื่นๆ เพื่อรักษาเงินมัดจำที่จ่ายไปแล้วให้ได้มากที่สุด

หากพิมพ์การ์ดเสร็จไปแล้วก็คงต้องพิมพ์ใหม่ หรือถ้างบจำกัดจริงๆ จะพิมพ์วันที่ใหม่ในกระดาษมาแปะทับวันที่จัดงานเดิมก็ได้ แม้จะไม่สวยงามเป๊ะ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่แขกทุกคนคงเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ของชำร่วย ก็เช่นกัน ยิ่งเป็นของที่ไม่ได้มีชื่อบ่าว-สาว และวันที่สกรีนหรือฝังติดอยู่ แค่เปลี่ยนสติ๊กเกอร์ที่แปะอยู่บนกล่องหรือบนถุงก็นำมาใช้ได้แล้ว

4. เลิกฟ้าผ่า

เรื่องไม่คาดคิด ก่อนถึงวันวิวาห์, การแต่งงาน, การแยกทาง, รัก, ความรัก, ถ่ายภาพแต่งงาน, แฟนเก่า, ชุดแต่งงาน, เจ้าสาว, เลื่อนงานแต่งงาน,
Photo: maya_7966 on Pixabays

เมื่อต้องยกเลิกงานแต่งงาน โดยเฉพาะต้องจัดการทุกอย่างคนเดียว จะเริ่มยังไง ทำใจยังไงดีล่ะ แพรวเวดดิ้งมีเคสตัวอย่างมาเล่าสู่กันฟัง

ว่าที่สะใภ้อินเตอร์คนหนึ่งถูกว่าที่เจ้าบ่าวชาวฮอลแลนด์ขอยกเลิกงานแต่งงานขณะมาส่งเธอที่สนามบินเพื่อเดินทางกลับเมืองไทย ด้วยเหตุผลว่า “ยังไม่พร้อม” ทั้งที่อีกสามเดือนก็จะถึงกำหนดแต่งงานอยู่แล้ว

เมื่อกลับถึงบ้าน ด่านแรกที่เธอต้องทำคือบอกเรื่องทั้งหมดกับครอบครัว ด้วยเวลาที่กระชั้นซึ่งเท่ากับบีบให้เธอต้องตั้งสติอย่างรวดเร็ว เธอเริ่มจากลิสต์รายการที่ได้ทำไปแล้วทุกอย่าง เธอพบว่าได้วางมัดจำค่าสถานที่จัดเลี้ยงตอนเย็นไปแล้วครึ่งหนึ่ง จ่ายเงินสำหรับพิธีเช้าที่โรงพยาบาลสงฆ์ไปทั้งหมดแล้ว แพ็คเกจเช่าชุดและช่างแต่งหน้าสำหรับพิธีเช้าก็จ่ายไปหมดแล้ว นอกจากนี้ยังซื้อชุดเจ้าสาวมาแขวนไว้พร้อมแล้วด้วย

ท่ามกลางความโชคร้ายที่ลิสต์เจอ เธอรู้สึกว่าตัวเองยังโชคดีอยู่บ้างที่ยังไม่ได้พิมพ์การ์ด เมื่องานแต่งถูกยกเลิกจึงติดต่อเฉพาะญาติและเพื่อนสนิทเพื่อแจ้งข่าว จากนั้นญาติและเพื่อนก็ไปบอกต่อกันเองโดยที่เธอไม่ต้องพูดซ้ำๆ เพื่อตอกย้ำตัวเอง

เธอค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้องเพื่อดูเงื่อนไขการเลื่อนและยกเลิกต่างๆ จากนั้นตัดใจประกาศขายแพ็คเกจพิธีเช้าในอินเทอร์เน็ต เดินทางไปพบเซลล์ที่สตูดิโอเพื่อเจรจาเรื่องแพ็คเกจเช่าชุดไทย รวมแต่งหน้า – ทำผม และติดต่อสถานที่ จัดเลี้ยงตอนเย็นที่วางมัดจำไว้ ผลคือเธอขายแพ็คเกจงานเช้าได้เงินคืนมาครึ่งหนึ่ง โดยต้องนัดคู่ที่จะซื้อต่อมาเจอที่โรงพยาบาลสงฆ์เพื่อเซ็นเปลี่ยนชื่อบ่าว- สาวในบันทึก และให้เจ้าหน้าที่ออกใบเสร็จรับเงินใบใหม่ให้คู่บ่าว – สาวที่ซื้อแพ็คเกจต่อเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนแพ็คเกจเช่าชุดไทย เธอบอกว่าตัดใจหั่นครึ่งราคาไม่ลง จึงตัดสินใจเก็บไว้โดยทางสตูฯ รับปากจะคงสิทธิ์ของเธอไว้ หากหาเจ้าบ่าวคนใหม่ได้  แต่เพราะเธอไม่อยากสะกิดแผลตัวเองให้ลึกกว่าเดิม จึงไม่ได้ขอแก้ไขเอกสารใดๆ แค่พอสตูดิโอบอกว่าเลื่อนได้ก็ไม่อยากถามอะไรอีก เธอจึงฝากย้ำว่าควรต้องขอให้ทางร้านเขียนบันทึกไว้เป็นหลักฐานว่าจะคงสิทธิ์ไว้นานเท่าไหร่ก็ได้อย่างที่ตกลงด้วยวาจา ส่วนค่ามัดจำสถานที่งานกลางคืน หลังจากพยายามเจรจาอยู่นานก็ได้เงินคืนมาครึ่งหนึ่ง

เธอเอาชุดเจ้าสาวไปเก็บไว้ในห้องแม่ เพราะไม่อยากเห็นให้แสลงใจ แต่ก็รักษาอย่างดีโดยห่อกระดาษไขให้มิดชิดและใส่ในถุงคลุมชุด เพราะตั้งใจว่าจะเก็บไว้ใส่ในวันแต่งงานกับเจ้าบ่าวคนใหม่ที่ต้องดีกว่าเดิม เธอใช้เวลาเกือบสองเดือนสะสางทุกเรื่องเพื่อยกเลิกงานแต่งงาน ส่วนเจ้าบ่าวซึ่งอยู่คนละประเทศ ทำเพียงส่งเงินส่วนหนึ่งมาชดเชยค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เสียไป

สามปีผ่านไป เธอพบว่าเวลาช่วยเยียวยาทุกสิ่งได้ดีจริงๆ จากที่เคยเครียด เก็บตัว ไม่ยอมเจอใครในช่วงแรก เธอพบว่าทุกการกระทำนั้นไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายตัวเองดีๆ นี่เอง ส่วนคนใจร้ายที่ชิ่งหาย เธอเชื่อว่าเขาคงไม่มีแม่แต่ความรู้สึกสำนึกผิดเลยสักนิด เมื่อคิดได้แบบนี้ เธอก็ลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองใหม่ ใช้ชีวิตเหมือนกับที่เคยใช้ก่อนที่จะพบกับเจ้าคนสารเลว ปรากฏว่าพอมุมมองเธอเปลี่ยน ทุกอย่างกลับกลายเป็นดีขึ้น และยิ่งดีขึ้นเมื่อเธอได้พบว่าที่เจ้าบ่าวคนใหม่ในที่สุด

เห็นไหมล่ะว่าทุกอย่างมีทางออก เรื่องไม่คาดคิด สิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้เสมอ แต่หากคุณมีสติ แก้ไข และเดินหน้าต่อไปให้ดีที่สุด เรื่องดีๆ ย่อมมาหาคุณในสักวัน

ท้ายนี้แพรวเวดดิ้งขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านทุกปัญหาไปให้ได้นะคะ

 

ที่มาภาพ : Pixabays

10 เพลงรักในงานแต่ง เปิดได้เรื่อยๆ เพิ่มความหวานได้ไม่มีเบื่อ

เพลงรักในงานแต่ง เพิ่มความหวานและระดับน้ำตาลในหัวใจ

คราวก่อนเราแนะนำ 10 เพลงรักฝรั่งไม่ซ้ำไม่เบื่อ ให้ลองไปฟังกันแล้ว วันนี้เลยขอนั่งเครื่องบินกลับมาแลนดิ้งฝั่งวงการเพลงเมืองไทยกันบ้าง ใครที่กำลังมองหา เพลงรักในงานแต่ง ที่เพราะๆ ความหมายซึ้งๆ แพรวเวดดิ้งคัดสรรมาฝากกันตรงนี้แล้วจ้าาา
ได้พบเธอ1. ได้พบเธอ – Pchy

ขอบอกเลยว่าเป็นเพลงที่ฟังครั้งแรกแล้วน้ำตาแทบไหล เพลงอะไรจะเพราะและมีความหมายลึกซึ้งได้ขนาดนี้ (คนโสดแห้งเหี่ยวอย่างฮีบินฟังแล้วยังอยากรีบมีคู่เลย!) ลองคิดดูว่าถ้าเพียงแค่วินาทีเดียวที่คุณและคนรักเดินผ่านกันไป ไม่ได้หยุดสบตากัน คุณอาจจะพลาดคนที่ดีที่สุดในชีวิตไปก็ได้นะ

สำหรับเพลงนี้ไม่ได้ดังแค่ในบ้านเรานะคะ เพราะก่อนที่จะมาทำเป็นเวอร์ชั่นภาษาไทยเขาก็ตีตลาดเพลงจีนกระจายไปแล้วหนึ่งรอบ ยิ่งปล่อยเวอร์ชั่นไทยออกมายอดวิวในยูทูปก็พุ่งกว่า 27 ล้านวิวแล้วด้วย ส่วนท่อนเพลงที่ฟังแล้วซึ้งกินใจมากๆ ต้องประโยคนี้เลย “จะไม่ทิ้งเธอไปจากฉัน จากวันนี้จนนานแค่ไหน จะขอแค่มีเธอข้างกาย โชคดีแค่ไหนเมื่อหมดใจที่ฉันมี ได้พบเธอ…”

คำตอบของทุกอย่าง2. คำตอบของทุกอย่าง – No One Else

เพลงรักที่บรรยายความรู้สึกของคนที่ตามหาความรักที่รอมานาน สุดท้ายก็ได้เจอกับคนรักที่เป็น “คำตอบของทุกอย่าง” ในชีวิต หนุ่มๆ คนไหนที่อยากร้องให้ว่าที่เจ้าสาวของตัวเองฟังก็จดเนื้อเพลงแล้วไปฝึกร้องโลด โดยเฉพาะท่อนซึ้งๆ ที่บอกว่า “แค่ฉันมีเธอ ชีวิตจากนี้ก็ไม่ต้องการสิ่งใด เพราะเธอคือคำตอบของทุกอย่าง…” รับรองว่าเจ้าสาวน้ำตาซึมแน่นอน

รักคำโตโต3. รักคำโตโต – ลุลา feat. เบน ชลาทิศ

เพลงบอกรักแสนอบอุ่นที่ทำให้รู้ว่า ไม่ว่าจะมีคำดีๆ อีกมากมายเท่าไหร่ แต่เพียงแค่คำว่า “รัก” คำเดียวก็สามารถแทนทุกความรู้สึก แทนทุกคำพูดที่อยู่ในใจของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี อย่างในประโยคที่ว่า “คำที่รวมในทุกความสุข ทุกอย่าง เธอคนเดียวที่จะได้ไป ได้ยินไหมรักคำโตโต”

มัดใจ4. มัดใจ – มัดหมี่ พิมดาว

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่อยากจะบอกกับเจ้าบ่าวของคุณว่า เขาอาจจะไม่ใช่คนตามสเป็กที่คุณใฝ่ฝัน แต่เขาคือคนที่ “มัดใจ” คุณ และเป็นคนที่คอยอยู่ข้างๆ คุณตลอดเวลา ฮีบินแนะนำเพลงนี้เลยค่ะ โดยเฉพาะเนื้อร้องที่บอกว่า “คนในฝันไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อเรื่องจริงคือฉันได้เจอ คนธรรมดา ที่ข้างกันตรงนี้” ถ้าเจ้าบ่าวได้ฟังต้องยิ้มแก้มปริแน่เลยเนอะ

เราสองคนบนทางแห่งรัก5. เราสองคนบนทางแห่งรัก – Mr. Team (Ost. ทางเดินแห่งรัก)

บทเพลงที่สามารถใช้แทนคำสัญญาระหว่างคู่รักที่ตัดสินใจร่วมทางเดินชีวิตไปด้วยกัน ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ก็จะคอยอยู่ข้างๆ และฝ่าฝันไปด้วยกัน ตามเนื้อเพลงที่ร้องว่า “จับมือฉัน จับกันไว้ ให้เชื่อใจว่าฉันจะเคียงข้างเธอ สุขหรือทุกข์ที่เราเจอ เธอและฉันมีกันและกันเรื่อยไป เราสองคนบนทางแห่งรัก” ลองนึกภาพว่าถ้าเจ้าบ่าวเจ้าสาวจับมือกันและช่วยกันร้องเพลงนี้ บรรยากาศงานแต่งจะมีความสุขขนาดไหน  ฮิ้ววว!

รักที่ตามหา6. รักที่ตามหา – แมกซ์ เจนมานะ feat. ตุ๊กตา จมาพร (Ost. ภพรัก)

อีกหนึ่งเพลงคู่ที่เปิดโอกาสให้บ่าวสาวโชว์ความสามารถถือไมค์ร้องเพลงรักซึ้งๆ บอกให้คนข้างกายคุณรู้ว่าเขาและเธอคือคนที่คุณตามหามานาน และโชคดีแค่ไหนที่ได้อยู่ข้างกายกันเสมอ ประโยคเด็ดในเพลงขอยกให้กับท่อนนี้เลย “เธอคือรักที่ใจเฝ้าตามหา คนที่ฟ้าให้มาเป็นคู่กัน เธอมาเติมเวลาที่มีค่าให้ฉัน อย่างที่ฉันไม่เคยได้จากใคร”

อย่าเปลี่ยนไป7. อย่าเปลี่ยนไป – โรส ศิรินทิพย์ feat. ต้อล วันธงชัย

จุดเริ่มต้นของความรักมักเกิดขึ้นจากการเป็นคนรู้จักกัน เปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์เป็นคนรู้ใจ คนรัก จนถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือการเป็นคู่ชีวิต แต่หลังจากนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่อยากให้อะไรเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว อยากจะอยู่ดูแลกันและรักกันอย่างนี้ตลอดไป ดั่งเนื้อเพลงที่ร้องว่า “ให้เธอรู้มีเธอคนเดียว ที่ฉันรักหมดใจ ถ้าเธอให้สัญญาด้วยหัวใจ ข้อเดียวเพียงเท่านี้ได้หรือไม่ อย่าเปลี่ยนไป…”

คนที่ฟ้าส่งมาให้รักกัน-ละอองฟอง8. คนที่ฟ้าส่งมาให้รักกัน – ละอองฟอง

เพลงรักอารมณ์ดีที่ “คุณออน” นักร้องนำแต่งไว้แล้วนำไปร้องเซอร์ไพร้ส์เจ้าบ่าวของตัวเองในงานแต่งงาน หลายคนอาจเคยสงสัยว่าคุณและคนรักมาพบเจอกันได้อย่างไร แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าคำตอบจะเป็นอะไรก็คงต้องขอบคุณฟ้าที่ส่งให้คุณสองคนมาเจอกันและรักกัน เหมือนกับเนื้อเพลงเพราะๆ ที่บอกว่า “อาจจะเป็นฟ้า ที่ส่งให้เธอมา เพียงแรกพบเมื่อเราสบสายตา ฉันก็รู้ว่า เธอคือคนที่ฉันรอ…”

คู่ชีวิต9. คู่ชีวิต – Superbaker

เพลงหวานสุดซึ้ง เมโลดี้เพราะๆ กับเนื้อเพลงจับใจที่บอกว่า “ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ จะอีกนานเพียงใด จากวันแรกเจอ ฉันเชื่อเสมอว่าเธอคือคู่ชีวิต” เจ้าบ่าวคนไหนที่เสียงนุ่มสามารถร้องเพลงนี้ให้กับเจ้าสาวฟังได้เลยนะ หรือถ้าเขินมากก็สามารถนำเพลงนี้ไปใช้ในวิดีโอพรีเซนเทชั่นได้เช่นกัน

แต่งงานกันมั้ย10. แต่งงานกันไหม – โอ้ เสกสรร

ชายหนุ่มคนไหนที่มั่นใจแล้วว่าเธอคนนี้แหละที่คุณอยากจะดูแลเธอและจะรักเธอไปตลอดชีวิต อย่ารอช้าค่ะ ใช้เพลงนี้ขอเธอแต่งงานเลย ถ้าใครเล่นกีต้าร์เป็นก็หาคอร์ดมาฝึกดีดฝึกร้องแล้วไปเล่นให้สาวผู้โชคดีคนนั้นฟัง เจ๋งสุดๆ!  อย่าลืมประโยคเด็ด “แต่งงานกันไหมเธอ ฉันพร้อมดูแลให้เธอจงเชื่อใจ จะรักเธอตลอดไป แต่งงานกันนะเธอ ก็ร้องเป็นเพลงออกมาจากหัวใจ ก็หวังเพียงเธอเข้าใจ และตอบตกลง” รับรองว่าจะได้เห็นรอยยิ้มของเธอ แล้วได้ยินเธอตอบ Yes! อย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ 10 เพลงรัก ที่ฮีบินฟังแล้วเป็นปลื้มและยิ้มตาม ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนอยากจะหยิบไปใช้ในวิดีโอพรีเซนเทชั่น ใช้ตอนเปิดตัวบ่าวสาว ช่วงตัดเค้ก ช่วงโยนดอกไม้ หรือเปิดฟลอร์เต้นรำก็เลือกได้ตามที่ชอบเลยนะจ๊ะ

ขอขอบคุณ : StudioCommuan Channel, No One Else, OfficialWhiteMusic, Studio54 Records, Ch3 Soundtrack Official เพลงละครช่อง 3, GMM GRAMMY OFFICIAL, Spicydisc, SmallroomOfficial, GotAgigMusic  สำหรับภาพและเนื้อเพลงบางส่วนเพื่ออรรถรสในการอ่าน

เสน่ห์บนเตียงตามราศี ความลึกลับของดวงชะตาที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ไม่มีใครรู้แน่ชัดหรอกว่าดวงชะตาราศีสามารถส่งผลกับชีวิตรักของคนได้มากน้อยเพียงใด แต่ถ้าเป็นเรื่อง เสน่ห์บนเตียงตามราศี ละก็ เขาว่ามีชัวร์นะยูว์

อย่างที่เรารู้กันว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนจะเวิร์กหรือไม่นั้น ในทางวิทยาศาสตร์อาจตัดสินกันด้วยความรู้สึกเข้ากันได้ทางเคมี แต่ถ้าเป็นทางโหราศาสตร์ การยิงคำถามแรกใส่คนที่เพิ่งคบหาว่า “คุณเกิดราศีอะไร?”  คงถูกมองบนใส่ว่าเพี้ยนแหง ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นสำหรับคนที่ “อิน” กับดวงชะตา มันถือเป็นเรื่องดีมากๆ หากได้รู้ราศีของอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มสานสัมพันธ์ เพราะตามตำราว่าด้วยราศีต่างๆ ไม่ใช่ว่าทุกราศีจะเข้ากันได้ดีไปซะหมด มันจะมีราศีที่ “ส่งเสริมให้เป็นคู่ชิด” กับราศีที่ “ขัดแย้งเพราะเป็นคู่ปฏิปักษ์” ซึ่งแน่นอนว่าทุกคู่รักคงไม่ต้องการให้ตัวเองกับคู่ของตนเป็นอย่างหลังหรอกใช่ไหม?

แต่ถึงคุณจะไม่อินเรื่องดวงชะตาราศี การได้เรียนรู้รสนิยมทางเพศของคนราศีต่างๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ดี ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งเลยจัดหลักสูตร “เรียนลัด” เพื่อให้คุณได้รู้เรื่อง เสน่ห์บนเตียงตามราศี ครบทั้ง 12 ราศี เผื่อว่ามันจะช่วยให้คุณเข้าใจและสานสัมพันธ์กับคู่ของคุณได้ใกล้ชิดมากขึ้น

ราศีเมษ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีเมษ
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ในทางโหราศาสตร์ ดาวอังคารคือตัวแทนของความเร่าร้อนและความปรารถนา ซึ่งความเร่าร้อนที่ว่านั้น แน่นอนว่าต้องรวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย โดยคนที่เกิดในราศีเมษนั้นมีทั้งความอึดที่น่าทึ่งและความรักที่ร้อนแรงอยู่ในตัว ด้วยลักษณะเด่นของคนที่มีวิญญาณนักรบ ชางเมษมักเป็นพวกรุกไม่ยั้ง จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ชาวเมษจะรุกหนักเพื่อครองใจคุณอย่างรวดเร็ว ความท้าทายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวราศีเมษชื่นชอบ คำเตือนคือคุณไม่ควรปล่อยให้ชาวราศีเมษต้องอดทนรอนานจนเกินไป จนพวกเขารู้สึกหมดความอดทนอ่ะนะ

และด้วยลักษณะเด่นชัดนี้เอง ส่งผลให้การมีเซ็กส์ของชาวราศีเมษมักเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและดุดัน แถมยังชอบเป็นฝ่ายคุมเกมอย่างสมบูรณ์แบบ 100% อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตาม

อย่าเพิ่งจุ๊ปากจิ๊จ๊ะว่า… ชั้นเป็นหญิง รุกก่อนหน้าเกลียดตาย แพรวเวดดิ้งช่วยตีโจทย์คำศัพท์ว่าด้วยการ “คุมเกม” คือ หากเป็นหนุ่มราศีเมษ เขาจะต้องการคู่นอนที่เป็นฝ่ายรับ ส่วนสาวราศีเมษก็ต้องการเป็นเจ้าของคู่ของตนอย่างสมบูรณ์

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีตุลย์ และ ราศีธนู

ราศีพฤษภ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีพฤษภ
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ตรงข้ามกับชาวราศีเมษที่ร้อนแรง ชาวราศีพฤษภนั้นใจเย็นและอ่อนโยน ด้วยอิทธิพลของดาวศุกร์ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักและความงาม ผู้ที่เกิดในราศีพฤษภจึงชอบที่จะใช้เวลาดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันหวานชื่น แต่เดี๋ยวก่อน อย่าให้ท่าทีที่ดูสงบของชาวราศีพฤษภหลอกคุณได้ เพราะคนราศีนี้ทั้งหัวแข็งและมีความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อ และยังเต็มไปด้วยความหลงใหลอย่างตรงไปตรงมา

แล้วคุณจะได้เจออะไรในเกมรักของชาวพฤษภ?

เกมรักของชาวราศีพฤษภนั้นเต็มไปด้วยการแลกจูบและการสัมผัสทั่วเรือนร่าง ด้วยความเป็นธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่ง เขาหรือเธอจะกล่อมคุณด้วยสเน่หาและความโรแมนติกซึ่งมาจากอิทธิพลของดาวศุกร์ นอกจากนี้ชาวราศีพฤษภจะชอบคู่ที่ชอบทำอาหารมากพอ ๆ กับการกอดจูบ นั่นเป็นสาเหตุให้พวกเขาชอบการมีเซ็กส์ที่ไม่เร่งรีบแต่ลืมไม่ลง เหมือนกับการทานอาหารนั่นเอง

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีกรกฎ และ ราศีมกร

ราศีเมถุน

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีเมถุน,
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยความช่างสงสัยและเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ชาวราศีเมถุนจึงถือเป็นตัวป่วนในกลุ่มราศีทั้งหมด ด้วยอิทธิพลของดาวพุธซึ่งเป็นตัวแทนของการสื่อสาร ผู้ที่เกิดในราศีเมถุนจึงชื่นชอบการสนทนาที่กระตุ้นความคิดและความรู้สึกอย่างมีชั้นเชิง ระบบความคิดของชาวราศีเมถุนนั้นรวดเร็วและอยู่ไม่สุข ทำให้พวกเขาสามารถแสดงบุคลิกได้หลากหลาย แต่ก็วอกแวกได้ง่ายเช่นกัน จึงอย่าแปลกใจที่อยู่ดี ๆ ชาวราศีเมถุนจะอยากเปลี่ยนบทบาทหรือรูปแบบของเกมรักขึ้นมากระทันหัน

ชาวราศีเมถุนจะมองความรักเป็นเรื่องสนุกสนานไม่ซีเรียส เขาหรือเธอจึงมักชอบเล่นเกมความรัก โดยมีเป้าหมายคือทำให้อีกฝ่ายหลงรักตัวเองในเกมนี้ และเมื่ออยู่บนเตียง ด้วยมุมมองว่าการมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ทำให้ขั้นตอนที่จะนำไปสู่กิจกรรมบนเตียงของชาวราศีธาตุลมนี้ออกจะแตกต่างจากราศีอื่น ๆ ไปไม่น้อย เซ็กส์ที่เพอร์เฟคต์ของชาวราศีเมถุนต้องมีการเล้าโลมมาก ๆ เพื่อถ่วงเวลาในการทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างจงใจ

จุดเด่นอีกอย่างของชาวราศีนี้ไม่ว่าหญิงหรือชายคือพวกเขาล้วนชอบความตื่นเต้นและแปลกใหม่ เพราะฉะนั้นคนที่คบหากับชาวราศีนี้ก็อย่าได้แปลกใจ หากคุณจะได้รับแชทหวิว หรือการใช้คำหยอกเย้าแบบสองแง่สองง่าม เพราะการใช้ถ้อยคำเป็นเสน่ห์หลักของชาวราศีนี้เลยแหละ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีกุมภ์

ราศีกรกฎ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีกรกฎ
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยความเป็นคนเอาใจใส่และไวต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง ชาวราศีกรกฎจึงเป็นกลุ่มที่อ่านบรรยากาศได้เก่งที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด  นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดในราศีกรกฎนั้นจะเป็นผู้ที่เปิดรับความรู้สึกของคนรอบข้างโดยธรรมชาติ และมีความรู้สึกอ่อนไหวง่าย ด้วยอิทธิพลของดวงจันทร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ชาวราศีธาตุน้ำนี้จึงมีส่วนผสมของความรู้สึกโหยหาอดีตและความรู้สึกที่กดทับอยู่ภายในไหลเวียนเป็นวังวนอยู่ภายในใจ

สำหรับชาวราศีกรกฎแล้ว ความรักจะเกิดขึ้นได้ต้องมีทั้งความจริงจังในความสัมพันธ์และความผูกพันที่ลึกซึ้ง จึงอย่าแปลกใจถ้าชาวราศีกรกฎจะไม่ชื่นชอบการมีสัมพันธ์ฉาบฉวยหรือเซ็กส์ที่เร่าร้อนรุนแรง เพราะพวกเขาต้องการความรู้สึกปลอดภัยและเป็นที่ต้องการในฐานะคนรัก ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะหลบเข้ากระดองไปตลอดกาลเอาง่าย ๆ

แต่ถ้าเมื่อใดที่ชาวราศีกรกฎรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยขึ้นมาละก็ พวกเขาจะเผยด้านที่เซ็กซี่เย้ายวนใจอย่างมากออกมา ซึ่งแปลว่าชาวกรกฎจะเป็นฝ่ายรับที่ทุ่มเทและพร้อมอุทิศตนให้คนรักเมื่ออยู่บนเตียงเลยละ ว้าว! เลยใช่ไหม

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีมีน และ ราศีพฤษภ

ราศีสิงห์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีสิงห์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

เช่นเดียวกับราศีธาตุไฟอย่างราศีเมษ ชาวราศีสิงห์นั้นกระตือรือร้นและเร่าร้อนอย่างมาก ด้วยอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ผู้ที่เกิดในราศีสิงห์จึงมีทั้งเสน่ห์ที่โดดเด่นและออร่าที่น่าประทับใจ อย่าแปลกใจถ้าชาวราศีสิงห์จะทำให้ห้องดูสดใสขึ้น  เพราะด้วยราศีเกิดที่ส่งเสริมสุด ๆ ทำให้พวกเขามีแต้มบุญตรงที่เป็นหัวใจของการปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด อุปมาให้เห็นภาพ ชาวราศีสิงห์ก็คือคนที่ใช้ชีวิตเป็นเวทีที่มีตัวเองเป็นนักแสดงนำนั่นเอง

สำหรับเรื่องบนเตียง เนื่องจากชาวราศีธาตุไฟนี้ต้องการเป็นที่รัก เป็นที่ต้องการ และเคารพนับถือ การอวดของดีให้คู่รักได้เห็น รวมถึงการสรรหาลีลาที่น่าตื่นตาตื่นใจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวราศีนี้ โดยพวกเขามักคาดหวังว่าคู่ของพวกเขาจะทำแบบเดียวกัน คำแนะนำสำหรับคนที่เป็นคู่รักของชาวราศีสิงห์ ขอให้รู้ไว้เลยว่า คู่ของคุณเขาคาดหวังให้คุณชื่นชมเขาเมื่ออยู่บนเตียง แต่คุณไม่ต้องลำบากใจไป เพราะเมื่ออคุณได้สัมผัสลีลาของชาวสิงห์แล้ว เชื่อว่าคุณก็คงอดชื่นชมไม่ได้เช่นกัน เพราะเรื่องบนเตียงของคนราศีนี้ย่อมไม่ใช่แค่กิจกรรมธรรมดา ทว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ดังมหรสพเลยทีเดียว

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีพิจิก

ราศีกันย์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีกันย์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ชาวราศีกันย์นั้นอาจจะเรื่องมากอยู่สักหน่อยเมื่ออยู่บนเตียง ด้วยบุคลิกที่รอบคอบและใฝ่หาความสมบูรณ์แบบ ชาวราศีกันย์จึงเป็นนักทำงานผู้เก่งกาจที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด ด้วยอิทธิพลของดาวพุธ ชาวราศีกันย์จึงมีความคิดที่เป็นระบบแบบแผนและล้ำลึกซึ่งส่งผลให้ชาวราศีกันย์นั้นมีความแม่นยำและใส่ใจในทุกรายละเอียด

และแม้ว่าสาวพรหมจรรย์จะเป็นสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์ของราศีกันย์ จนทำให้เกิดภาพจำว่าความรักของชาวราศีธาตุดินนี้ค่อนข้างจริงจังและหัวโบราณ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงทุกวันนี้ ชาวกันย์ก็พร้อมจะปลดปล่อยตัวเองจากความยึดติด เมื่อรู้สึกสบายใจกับความสัมพันธ์ที่มี  แถมยังพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาใจคู่ของพวกเขาด้วย

เคล็ดลับเผด็จศึกชาวกันย์น่ะเหรอ? ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนไง ห้องนอนที่สะอาดเอี่ยมคือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวราศีกันย์ หรือคุณจะเลือกย้ายไปทำกิจกรรมระหว่างอาบน้ำก็ไม่ว่ากัน

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีมกร และ ราศีพิจิก

ราศีตุลย์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีตุลย์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ชาวราศีตุลย์ผู้เป็นชาวดาวแห่งความรักเจ้าเสน่ห์นั้นเป็นนักรักตัวจริงในกลุ่มราศีทั้งหมด นั่นแปลว่าชาวราศีธาตุลมนี้มีเสน่ห์เหลือร้ายและชื่นชอบการมีความรักเป็นที่สุด

ด้วยอิทธิพลของดาวศุกร์ ชาวราศีตุลย์จะรู้สึกดีที่สุดเมื่อถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนหน้าตาดี และการมีคู่ที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเป้าหมายสำคัญของชาวตุลย์ ปัญหาก็คือ การตกหลุมรักชาวตุลย์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้ชาวตุลย์ตกหลุมรักคุณนั้นเป็นเรื่องท้าทายสุด ๆ นั่นก็เพราะผู้ที่เกิดในราศีตุลย์นั้นมีพรสวรรค์ในการหว่านเสน่ห์ ซึ่งส่งผลให้ชาวราศีตุลย์หลงเสน่ห์ใครได้ยาก

ดังนั้นถ้าคุณสนใจหนุ่มราศีตุลย์ วิธีฮุคให้อยู่หมัดคือคุณต้องทำให้เขาเป็นฝ่ายไล่ตาม เพราะสำหรับพวกเขาแล้วเซ็กส์ไม่สำคัญเท่าความสุข และความสมหวังในความสัมพันธ์ แต่งตัวให้น่าประทับใจและยอมเปย์เงินซื้อน้ำหอมราคาแพงคือด่านแรกที่คุณต้องผ่าน

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีพฤษภ

ราศีพิจิก

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีพิจิก
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยอิทธิพลของดาวพลูโต ดาวแห่งความเปลี่ยนแปลง สัญลักษณ์ของเทพผู้ปกครองดินแดนหลังความตาย ชาวราศีพิจิกจึงมีความเป็นนักล่าที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด

โดยปกติชาวพิจิกนั้นอาจปกปิดตัวจริงไว้ใต้เปลือกอันลึกลับ น่ากลัว และใช้บรรยากาศคุกคามเป็นเครื่องมือเริ่มแผนการอันเร่าร้อน  ด้วยลักษณะเด่นที่มีออร่าสะกดใจ และอำนาจจิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นทั้งพรสวรรค์และคำสาปของชาวราศีนี้ ชีวิตของชาวราศีพิจิกจะเป็นแบบเทหมดหน้าตัก และความรักของพวกเขาก็เหมือนฉากในนิยายเรื่อง Dracula ของ Bram Stoker ที่ทั้งเร่าร้อนและน่ากลัว

เสน่ห์ของชาวราศีพิจิกคือเมื่ออยู่ในห้วงรัก ชาวราศีธาตุน้ำนี้จะเต็มไปด้วยความปรารถนาทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ และเมื่ออยู่บนเตียงพวกเขาจะเต็มไปด้วยราคะและความต้องการที่ล้ำเส้น สำหรับเคล็ดลับมัดใจชาวพิจิกน่ะเหรอ? ลองอ่านนิยายเรื่อง Fifty Shades Of Gray แล้วเลือกซีนเร่าร้อนในนั้นมาลองใช้ดูสิ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีสิงห์ และ ราศีกันย์

ราศีธนู

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีธนู
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยอิทธิพลของดาวพฤหัส ทำให้ชาวราศีธนูเต็มไปด้วยพลังแง่บวกและความกระตือรือร้น ชอบออกเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่และสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ดูแล้วคล้ายลม จับต้องยาก ไม่น่าจะฝากชีวิตด้วยนักใช่มั้ยล่ะ?

เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งปักใจกับข้อมูลสองบรรทัดบนนัก เพราะจริงๆ แล้วการจะมัดใจชาวธนูนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยเหตุว่าเมื่อเป็นเรื่องความรักแล้ว ชาวราศีธนูจะเปิดเผยอย่างมาก พวกเขาจะแสดงออกอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ไม่ชอบเสียเวลาเล่นเกมกับหัวใจ เพราะเกมเดียวที่ชาวธนูจะเล่นก็มีแต่เกมรักบนเตียงเท่านั้นแหละ

ความตื่นเต้น ความน่าประหลาดใจ และความแปลกใหม่คือสิ่งที่ปลุกเร้าอารมณ์ของชาวธนูได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ กับชาวธนู นั่นเพราะเซ็กส์ที่เป็นเหมือนการผจญภัยครั้งใหม่ คือสิ่งที่ชาวราศีนี้ต้องการ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีเมถุน

ราศีมกร

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีมกร
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ผู้ที่เกิดในราศีมกรนั้นเป็นคนเฉลียวฉลาดและเต็มไปด้วยความมั่นใจ เมื่อพวกเขาตัดสินใจในเรื่องใดแล้วก็จะมองเป็นการลงทุนไปเสียหมด นั่นทำให้ก่อนที่ชาวมกรจะร่วมเตียงกับใคร พวกเขามักต้องการรู้จักคู่ของตนเป็นอย่างดีและมีความสนิทสนมในระดับหนึ่งก่อน ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของดาวเสาร์ที่เป็นตัวแทนของความจริงจัง ทำให้ผู้ที่เกิดในราศีมกรเป็นผู้ที่มีความรอบคอบและระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเขาต้องการที่จะรู้จุดยืนที่ชัดเจนของตนเองในความสัมพันธ์

ทั้งความเจ้าพิธีการและหัวโบราณทำให้ชาวมกรมีแนวคิดเรื่องเซ็กส์แบบหนังคลาสสิก ดังนั้นชาวมกรอาจจะเปิดเพลง Mozart และดื่มด่ำไปกับไวน์ดี ๆ สักแก้วก่อนจะขึ้นเตียงกับคนรักก็ได้ แต่เมื่อเกมรักเริ่มขึ้นเมื่อไรก็อย่าหวังว่าคุณจะได้นอนในคืนนั้น เพราะชาวราศีมกรมีความอึดไม่เป็นรองใครจริง ๆ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีกันย์ และ ราศีพิจิก

ราศีกุมภ์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีกุมภ์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ชาวราศีกุมภ์เป็นคนที่มากด้วยสติปัญญาและยากจะคาดเดา ถือเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นในกลุ่มราศีทั้งหมด ด้วยอิทธิพลของดาวยูเรนัสที่เป็นตัวแทนของการปฏิวัติ ผู้ที่เกิดในราศีกุมภ์จึงเป็นคนที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์และสติปัญญา แต่ด้วยความมีเหตุผลและมีโลกส่วนตัวสูง ชาวราศีกุมภ์จึงมักถูกเข้าใจผิดได้ง่าย

เช่นเดียวกับราศีพี่น้องร่วมธาตุอย่างราศีเมถุน ชาวราศีธาตุลมนี้ชื่นชอบการผูกสัมพันธ์ด้วยวาจาและการชิงไหวชิงพริบก่อนสานสัมพันธ์ทางกาย ซึ่งถ้าคุณมัดใจชาวกุมภ์ด้วยสติปัญญาได้เมื่อไร คุณก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ชาวราศีกุมภ์ที่เข้ากับคนได้ง่ายนั้นไม่ชื่นชอบการผูกมัด เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับอิสรภาพและความเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก ชาวกุมภ์จึงนิยมเป็น “มากกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ใช่แฟน” ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ หรืออาจจะคบแบบชิล ๆ ก่อนความสัมพันธ์จะจริงจังเกินไป นอกจากนี้ ชาวกุมภ์ยังชอบทดลองสิ่งใหม่ ๆ และชอบทำอะไรตามความสนใจแบบไม่มีขอบเขต แต่ก็ยังคงมีโลกส่วนตัวสูงอยู่ดี

นั่นทำให้เซ็กส์สำหรับชาวราศีกุมภ์นั้นไม่มีขีดจำกัด ยิ่งไม่ธรรมดาเท่าใดยิ่งถูกใจพวกเขาเท่านั้น

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีพิจิก และ ราศีเมถุน

ราศีมีน

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีมีน
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยอิทธิพลของดาวเนปจูนที่เป็นตัวแทนของความเพ้อฝัน ผู้ที่เกิดในราศีราศีมีนจึงเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเชื่อทางจิตวิญญาณและออกจะหลุดโลกอยู่สักหน่อย พวกเขามักดูลึกลับและกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม และด้วยธรรมชาติที่ชอบเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ชาวราศีมีนจะรู้สึกดีมากเมื่อได้เยียวยาใจให้กับคนรอบข้าง เพราะเชื่อมั่นว่าตนมีคาถามหาเสน่ห์อยู่กับตัว

สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือความเพ้อฝันของชาวราศีมีนนั้นเต็มไปด้วยสีสันและความลึกล้ำ ด้วยพรสวรรค์ในการจินตนาการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา เมื่อพูดถึงความรัก ชาวราศีมีนนั้นแสนเย้ายวนและโรแมนติก พวกเขาจะเอาความพึงพอใจของคู่รักมาก่อนเป็นอย่างแรก และพวกเขาก็ใฝ่ฝันที่จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคนรักทั้งร่างกายและจิตวิญญาณเช่นเดียวกับราศีพี่น้องร่วมธาตุอย่างราศีพิจิก

อย่าแปลกใจ ถ้าชาวราศีมีนจะยั่วยวนเก่งอย่างเหลือเชื่อ นั่นเพราะเซ็กส์ของชาวราศีมีนทั้งร้อนแรงและน่าลุ่มหลงราวกับความฝัน โดยเฉพาะเซ็กส์ตอนตื่นนอนคือสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ดังนั้นคุณคงต้องเลื่อนเวลากาแฟหลังตื่นนอนออกไปสักชั่วโมงหนึ่ง

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีกรกฎ และ ราศีพิจิก

ท้ายนี้แพรวเวดดิ้งหวังว่าด้วยข้อมูลเสน่ห์บนเตียงตามราศีนี้ จะช่วยให้คุณสานสัมพันธ์บนเตียงได้อย่างถึงใจ และยังช่วยสานสัมพันธ์รักหลังจากนั้นให้ลึกซึ้งและยั่งยืนขึ้นอีกด้วย


ที่มาข้อมูล: https://www.popsugar.com/love/Sexual-Traits-Based-Zodiac-Sign-44082661

 

ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ใครมอง แฟนเก่า ในแง่ดีกว่ากัน?

คนส่วนมากมักจะมอง แฟนเก่า ของตัวเองแย่ลง หลังจากที่ความสัมพันธ์หวานชื่นสิ้นสุดลง คำถามก็คือมุมมองของผู้หญิงกับผู้ชายที่มีต่ออดีตคนรักนั้นมีความแตกต่างกันไหม?

ต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักมองคนรักเก่าแย่ลงภายหลังเลิกลากันนั้น มีเหตุผลรองรับที่ดีอยู่ 2 ข้อ เหตุผลแรกก็คือการเลิกราเกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ดี แต่เหตุผลที่ว่ากลับดูเลวร้ายลงเมื่อเวลาผ่านไปจนทำให้รู้สึกแย่กับอดีตคนรัก

อีกเหตุผลหนึ่งคือโดยทั่วไปแล้ว ตอนที่ยังคบกับคนรักเก่าอยู่นั้น เรามักจะเชื่อว่าคนที่คบด้วยนั้นเป็นคนที่ดีพอสำหรับเรา แต่เมื่อเลิกรากันไปแล้ว เราจะปกป้องตัวเองว่าการตัดสินใจเลิกกับคนเก่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

ด้วยเหตุนี้ Ursula Athenstaedt แห่งมหาวิทยาลัย University of Graz ประเทศออสเตรีย และทีมวิจัยจึงได้ทำการสำรวจความแตกต่างทางทัศนคติของผู้หญิงกับผู้ชายที่มีต่อคนรักเก่า จนนำมาตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ Social Psychological and Personality Science

ผลจากการสำรวจความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยจำนวนมากกว่า 800 คน ด้วยการสอบถามความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยที่มีต่อคนรักเก่า ปรากฏว่าได้รับคำตอบที่หลากหลาย ตั้งแต่คำตอบแง่ดีอย่าง “แฟนเก่าของฉันมีข้อดีหลายอย่าง” ไปจนถึงคำตอบแบบ “นึกถึงแฟนเก่าทีไร ฉันโมโหทุกที”

และเมื่อนำคำตอบทั้งหมดมาแปลงเป็นค่าประมาณโดยเฉลี่ยของมุมมองแง่ดีที่คนเรามีต่อคนรักเก่าแล้วพบว่า … ผู้ชายมองอดีตคนรักในแง่ดีมากกว่าผู้หญิง

คำถามคือแล้วทำไมผู้ชายจึงมอง แฟนเก่า ในแง่ดีมากกว่าผู้หญิงล่ะ?

เรื่องนี้มีเหตุปัจจัยที่สนับสนุนคำตอบนี้ 4 ข้อ คือ

1.เพราะผู้ชายชอบมีความต้องการสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดหรือไม่ยืนยาว

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @kevin_butz on Unsplash

ในแง่ของการวิวัฒนาการ ผู้ชายจะต้องการมีคู่จำนวนมาก ในขณะที่ผู้หญิงจะต้องการมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมั่นคง ดังนั้นผู้ชายจึงเลือกรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรักเก่ามากกว่า เนื่องจากมองว่ามีโอกาสที่จะผูกสัมพันธ์กันได้อีกเป็นครั้งคราวในโอกาสถัดๆ ไป

2.เพราะผู้ชายมีแนวโน้มต้องการที่พึงพาทางใจ จึงทำให้ยังมีความรู้สึกติดยึดพึ่งพากับคนรักเก่า

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @wiradyatmika on Unsplash

ข้อนี้มีงานวิจัยอีกสายหนึ่งที่เคยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายมีการพึ่งพาทางใจกับคู่ของตนมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมักจะมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วยกันมากกว่าผู้ชาย และผู้หญิงมีบุคลิกเป็นที่พึ่งทางใจได้ดีกว่าผู้ชาย บทบาทของผู้หญิงในความสัมพันธ์จึงเป็นมากกว่าแค่คนรัก

ดังนั้นผู้ชายจะรู้สึกขาดที่พึ่งทางใจเมื่อไม่มีคนรักคอยช่วย นั่นคือสาเหตุที่เรามักจะพบว่าผู้ชายมีความวิตกกังวลและซึมเศร้าหลังเลิกกับคนรักมากกว่าผู้หญิง

3.เพราะผู้ชายยังงงๆ ว่าการเลิกราที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของใคร

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @niclasmoser on Unsplash

ค่าเฉลี่ยของการเลิกรากันของคู่รัก ผู้หญิงมีแนวโน้มจะโทษคู่ของตนมากกว่าผู้ชายเมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง จากกรณีศึกษาคู่หย่าร้างชิ้นหนึ่งพบว่า ส่วนมากแล้วฝ่ายชายจะไม่เข้าใจสาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่ล้มเหลว ในขณะที่ผู้หญิงมักจะมองว่าคนรักเก่านั้นทำตัวเป็นปัญหาตั้งแต่ก่อนจะเลิกรากันเสียอีก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงจึงมองคนรักเก่าแย่กว่าผู้ชาย

4.เพราะผู้ชายไม่ถนัดรับมือกับความรู้สึกหลังเลิกรา

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @samr1os_official on Unsplash

โดยมากแล้วผู้หญิงจะรับมือกับความรู้สึกหลังเลิกรากับคนรักได้ดีกว่าผู้ชาย ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ และการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ในขณะที่ผู้ชายมักจะหนีปัญหาไปพึ่งพาแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติดอื่น ๆ ผู้หญิงจึงฟื้นตัวจากการเลิกรากับคนรักได้ดีกว่าผู้ชาย และนั่นทำให้ผู้หญิงมองอดีตคนรักในแง่ลบแบบจริงๆ จังๆ เพราะพวกเธอโปรแกรมความรู้สึกชัดเจนไปแล้วว่า… ดีแล้วที่เลิกกัน

ด้วยเหตุผลทั้ง 4 ข้อนี้ ยิ่งทำให้เป็นที่ประจักษณ์ชัดว่าความแตกต่างทางเพศมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุว่าผู้ชายมีการพึ่งพาทางความรู้สึกกับอดีตคนรักของตนมากกว่า ผู้ชายยอมรับการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดมากกว่า

ขณะที่ผู้หญิงต้องการความสัมพันธ์ที่พิเศษและยืนยาวมากกว่า จึงมีแนวโน้มโทษอดีตคนรักหรืออาจโทษทั้งตนเองและอดีตคนรักมากกว่าเมื่อเลิกรากัน แม้ว่าคุณเธอทั้งหลายรับมือกับอาการอกหักได้ดีกว่าก็เถอะ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยปลีกย่อยอื่น ๆ ที่ส่งผลกับความแตกต่างทางมุมมองที่ว่านี้ อย่างเช่นผู้ชายให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาของคู่รักมากกว่าองค์ประกอบอื่น รูปร่างหน้าตาของอดีตคนรักจึงส่งผลต่อมุมมองของผู้ชายอย่างมาก ซึ่งการให้คะแนนรูปร่างหน้าตานี้มักไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้จะมีปัญหาความสัมพันธ์ก็ตาม

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือผู้ชายมักจะมองคู่ของตนสมบูรณ์แบบมาตลอด และแม้ว่าเธอคนนั้นจะเปลี่ยนสเตตัสไปเป็นอดีตคนรัก เขาก็ยังคงมองเธอด้วยความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเมื่อรูปร่างหน้าตาเธอยังทำให้เขาติดอกติดใจได้อยู่ มันยิ่งทำให้เขามีเจตคติว่าการรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตคนรักนั้นเป็นข้อดีหลังการเลิกรามากกว่าผู้หญิง

และด้วยมุมมองที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดของผู้ชายทำให้ผู้ชายอาจมองอดีตคนรักในฐานะของเพื่อนที่เป็นมากกว่าเพื่อน ตลอดจนภาวะขาดที่พึ่งทางใจที่หาไม่ได้จากกลุ่มเพื่อนของตัวเอง การรักษาความสัมพันธ์กับอดีตคนรักจึงอาจเป็นทางออกเดียวที่ผู้ชายมี

รู้อย่างนี้แล้วผู้หญิงทั้งหลายก็อย่าได้สงสัยกับอารมณ์หึงโหดของตัวเองว่าโอเวอร์ไปไหมที่รู้สึกทนไม่ได้ที่คนของคุณยังพูดคุยกับคนรักเก่าของเขาด้วยดี

ก็งานวิจัยเขาชี้ชัดมาขนาดนี้ อย่างไรซะก็จำกัดให้เขาแค่รู้สึกว่าอีกคนก็แค่คนเคยรัก อย่าถึงกับมีแอคติ้ง ไม่งั้นเพลง “ถ่านไฟเก่า” จะดังนะคุณ

ไม่อ่านพลาดแรง! 10 Q&A ถาม-ตอบตรงใจ ว่าที่เจ้าสาว กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ใกล้ถึงวันแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาว ส่วนใหญ่มักจะมี “เจ้าหนูจำไม” โผล่เข้ามาสิงร่าง ผุดคำถามแนวกังวลประมาณว่า … ถ้าเลือกอย่างโน้น ถ้าเลือกอย่างนี้ จะดีกว่าไหมนะ

หลายคนตีบตันไม่รู้จะไปสรรหาคำตอบจากไหน กลายเป็นโมเม้นต์นับถอยหลังวันแต่งแบบเครียดๆ ก็มาก

ไม่เป็นไรค่ะ แพรวเวดดิ้งเข้าใจหัวอกคุณๆ ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายเป็นอย่างดี ผสมกับอยากให้คุณเฟรชสดชื่นไร้ความกังวลในวันสำคัญแบบสุดๆ จึงอาสารวบ 10 สารพันปัญหาคาใจที่เจ้าสาวตัวจริงและเวดดิ้งกูรูทั้งหลายฟันเฟิร๋มว่าถ้าว่าที่เจ้าสาวได้รู้ก่อนถึงวันแต่งงานของตน รับรองจะขจัดปัญหาอุปสรรคที่ไม่คาดฝันในวันแต่งงานไปได้มากกว่าครึ่ง

ใจดีรวบมาขนาดนี้ ว่าที่เจ้าสาว อย่าลืมส่งมินิฮาร์ทมาให้เราด้วยน้าาาา

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @beatriz_perez on Unsplash

Q1: ลองแหวนแต่งงานตอนไหน ได้แหวนถูกใจที่สุด?

A1: คำตอบง่ายๆ เลยคือ ตอนที่คุณอารมณ์ดี และมีสติมากที่สุด อย่าชวนกันไปเลือกแหวนช่วงที่รู้สึกไม่สบายหรือมีประจำเดือน ที่สำคัญ ไม่ควรลองไซส์แหวนในช่วงเช้า เพราะร่างกายอาจบวมจากการสะสมเกลือหรือแอลกอฮอล์จากคืนก่อนหน้านั้น  หลังออกกำลังกายหรือ เดินเหนื่อยๆ ก็อาจจะทำให้นิ้วบวมได้เช่นกัน

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @photos_by_lanty on Unsplash

Q2: จัดงานวันธรรมดา ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรเป็นพิเศษบ้าง?

A2: ควรคำนึงเรื่องการคอนเฟิร์มอาหาร  เพราะงานวันธรรมดาแขกจะมาค่อนข้างตามจำนวนซองที่แจก และมักไม่ค่อยพาลูกมา ด้วย ซึ่งบางงานอาจมีแขกแค่ 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือแขกจำนวนหนึ่งจะมาก่อนกำหนดมาก แต่อีกกลุ่ม หนึ่งที่อยู่ในส่วนที่การจราจรคับคั่งจะมาช้าไปเลย เพราะฉะนั้นจึงต้องกะจำนวนแขกก่อนเริ่มพิธีให้ดี ไม่อย่างนั้นแขกที่มาช้าจะไม่ได้เห็นงานช่วงพิธีการเลย

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @hermez777 on Unsplash

Q3: จะบอกว่าที่คุณแม่สามีได้ไหมว่าอยากให้ใส่ชุดแบบไหนและบอกอย่างไรดี?

A3: เจ้าสาวตัวจริงคนหนึ่งเล่าประสบการณ์ของเธอให้ฟังว่า ว่าที่คุณแม่สามีซื้อเดรสผ้าคอตต้อนสีขาวไว้สำหรับใส่ในงานแต่ง ในขณะที่คุณแม่ของเธอเองเตรียมชุดราตรีสีมิดไนท์บลูสุดคลาสสิก ความแตกต่างสุดขั้วแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและคิดไม่ตกว่าจะบอกว่าที่แม่สามียังไงดี

คำแนะนำนะคะ ขึ้นอยู่กับระดับความสัมพันธ์ของคุณกับท่าน หากเข้าขั้นสนิทอาจจะอธิบายกับท่านไปตรงๆ ได้ว่า ปกติแล้วคุณแม่ ทั้งสองฝ่ายน่าจะแต่งตัวเป็นทางการใกล้เคียงกัน อาจแนะนำให้ใส่ชุดที่เตรียมไว้แล้วสำหรับงานเลี้ยงกันเองในครอบครัว

แต่หากไม่ค่อยสนิทกันนัก งานนี้ก็ต้องบอกให้ว่าที่สามีช่วยพูดให้แล้วละ หรือถ้าที่บ้านคุณว่าที่สามี มีพี่สาวหรือน้องสาวหรือใครที่เป็นผู้หญิง ลองขอให้เขาช่วยพูดก็จะแลดูซอฟท์ขึ้นมาก เพราะคนในครอบครัวน่าจะสนิทและรู้วิธีพูดกับท่านมากกว่าเรา

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @jamesbold on Unsplash

Q4: จำเป็นไหมที่รองเท้าแต่งงานจะต้องเป็นสีขาว?

A4: แคร์ลีย์ โรนีย์ บรรณาธิการ “The Knot” นิตยสารเวดดิ้งชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่เคยมีใครกำหนดว่ารองเท้าแต่งงานต้องเป็นสีขาว เพียงแต่เพราะเจ้าสาวส่วนใหญ่ใส่ชุดแต่งงานโทนขาว จึงนิยมเลือกรองเท้าที่ดูเข้ากันได้ง่ายที่สุด ซึ่งก็คือสีขาว

อย่างไรก็ตาม เจ้าสาวยุคใหม่หลายคนที่ยังติดกับชุดแต่งงานสีขาวก็หันมาเล่นสนุกกับดีไซน์ของรองเท้ามากขึ้น ด้วยการเลือกรองเท้าโทนเมแทลลิกให้แมตช์กับความวาววับของเครื่องประดับ หรือดีเทลบนชุดแต่งงานก็ดูเก๋ไม่เบา

นอกจากนี้แคร์ลีย์ยังยุให้เจ้าสาวอินดี้เลือกรองเท้าแต่งงานที่แสดงความ เป็นตัวของตัวเอง เธอเล่าว่าเคยเห็นเจ้าสาวใส่บู๊ตขี่มอเตอร์ไซค์และบู๊ตคาวบอยปักอักษรย่อ บ่าว- สาว เดินอย่างมาดมั่นเข้าโบสถ์มาแล้ว

สรุปคุณบอกอนิตยสาร The Knot เธอต้องการจะบอกว่า เลือกรองเท้าที่คุณชอบน่ะแหละ และไม่ว่ามันจะเป็นสีอะไร ขอแค่ใส่แล้วคุณมั่นใจเป็นพอ

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: https://www.stargidap.com/

Q5: จะหอบชุดแต่งงานขึ้นเครื่องไปแต่งงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ต้องทำอย่างไร?

A5: มีหลายช้อยส์ให้เลือกค่ะ

1. แพ็คหลวมๆ ลงกล่อง กระเป๋า หรือใส่ที่คลุมหิ้วขึ้นไปเก็บในช่องเก็บกระเป๋า แต่อย่างหลังแนะนำให้เช็คอินน์ขึ้นเครื่องเนิ่นๆ เพื่อจะได้ยังมีที่ว่างพอ

2. ฝากแอร์โฮสเตสนำไปแขวน ตรงที่แขวนสูทใน Business Class ได้ (แต่ถ้าชาวบิสเนสคลาสครองที่แขวนไปเต็มหมดแล้วก็อาจ จะมีปัญหาได้นะคะ)

3. เครื่องบินบางเครื่อง โดยเฉพาะเครื่องเล็กและสายการบินราคาประหยัดจะไม่มีที่แขวนให้  หรือหากมีความสูงก็ไม่พอสำหรับแขวนชุดแต่งงานยาวๆ  แนะนำให้ซื้อตั๋วสำหรับวางชุดเพิ่มไปเลยเพื่อความสบายใจ

4. ถ้าไปประเทศไกลๆ ยิ่งที่ต้องทรานซิทเครื่องด้วยแล้ว แนะนำให้ใช้บริการชิบปิ้งอย่าง FedEx หรือ DHL ไปเลย น่าจะทำให้อุ่นใจกว่า

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @chiro on Unsplash

Q6: ใส่ชุดแต่งงานอย่างไรให้นั่งแล้วไม่ยับ?

A6: ทำผม – แต่งหน้าให้เรียบร้อย (อย่าเพิ่งทาลิปสติก) แล้วค่อยสวมชุด โดยให้เพื่อนช่วยจับชุด หากมีสุ่มก็จับซ้อนกันให้เรียบร้อยก่อน แล้วสวมจากทางปลายเท้าขึ้นมา จะช่วยให้ชุดไม่ยับมาก ในกรณีต้องเดินทางด้วยรถ ควรแผ่ชายกระโปรงด้านนอก (นั่งทับสุ่ม) ลงบนเบาะให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ชุดยับยู่ยี่

ส่วนคุณเจ้าสาวที่สวมกระโปรงแคบ ให้นั่งหมิ่นๆ เอียงตัวเล็กน้อย เพื่อกระโปรงจะได้ไม่ยับ ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง เพราะจะทำให้กระโปรงยับมากขึ้น

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo; @victoriapriessnitz on Unsplash

Q7: มีรอยสักทำให้ไม่ค่อยมั่นใจ ควรทำอย่างไรดี?

A7: อีกหนึ่งปัญหาคลาสสิคที่กวนใจเจ้าสาวแทททูคือกลัวว่ารอยสักจะไปสะดุดสายตา ทำให้ว่าที่คุณแม่สามีและผู้ใหญ่หลายๆ ท่านรู้สึกไม่ปลื้ม  ที่จริงปัญหานี้แก้ไขได้หลายวิธี เช่น

1. เลือกชุดที่ปกปิดช่วงที่มีรอยสักเสียตั้งแต่แรก ปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดกับรอยสักช่วงหัวไหล่และหลัง ลองเลือกชุดเจ้าสาวแบบไหล่เดี่ยว หรือแบบที่มีเสื้อคลุมก็ช่วยได้

2. สาวๆ ที่ตัดใจจากชุดเกาะอกไม่ได้ ให้ใช้เมคอัพช่วยปกปิด ซึ่งช่างแต่งหน้ามืออาชีพส่วนใหญ่จะมีรองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่ปกปิดรอยสักได้ดีติดกระเป๋าช่างอยู่แล้ว คุณเจ้าสาวจึงแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องปกปิดรอยสักเลย เพราะช่างจะมีอุปกรณ์และเทคนิคเนรมิตผิวใหม่ให้คุณได้อยู่แล้ว

แต่หากงานแต่งของคุณเป็นแบบกันเอง ไม่ได้จ้างช่างแต่งหน้า แถมยังหารองพื้นปกปิดขั้นเทพไม่ได้ อีกเทคนิคหนึ่งที่แนะนำคือลงคอนซีลเลอร์แล้วพ่นทับด้วยแอร์สต๊อกกิ้ง (Air Stocking) กดเบาๆ ให้เนียน และรอให้แห้ง ก็พอช่วยได้อยู่นะ

3. ถ้าเป็นรอยสักเล็กๆ ที่ช่วงแขน แนะนำให้ลองหากำไลข้อแขนสวยๆ ที่มีความหนาพอจะปิดรอยสักมาใส่ แพรวเวดดื้งเคยห็นเจ้าสาวคนหนึ่งใช้วิธีนี้ กลายเป็นเก๋ไปเสียอีก

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @victoriapriessnitz on Unsplash

Q8: เตรียมงานมาอย่างหนักหน่วง กลัวว่าตื่นมาวันแต่งงานแล้วตาจะคล้ำ แถมบวมตุ่ย มีวิธีแบบเอสโอเอสช่วยบ้างไหม?

A8: ความรู้ทั่วไปเวลาตาบวมคือให้ใช้ถุงชา ช้อนแช่เย็น หรือน้ำแข็งมาประคบ บางคนบอกควรใช้ความร้อน เช่น สำลีชุบน้ำอุ่นประคบจะดีกว่า ความเชื่อที่ขัดแย้งกันแบบนี้ยิ่งทำให้หลายคนงงเข้าไปใหญ่ว่าตกลงแล้วควรต้องใช้ความเย็นหรือความร้อนกันแน่

แพรวเวดดิ้งขอเฉลยว่า ที่จริงแล้วทั้งความเย็นและความร้อนก็ช่วยให้ตาหายบวมได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุด้วย ถ้าเป็นอาการใต้ตาบวม หมองคล้ำ เพราะเส้นเลือดฝอยใต้ตาขยาย ซึ่งมักเกิดจากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ และเกิดร่วมกับคนที่มีพันธุกรรมใต้ตาคล้ำเนื่องจากมีเส้นเลือดฝอยใต้ตาจำนวนมากหรือคนที่มีภาวะภูมิแพ้ ก็ต้องใช้ความเย็นประคบเพื่อให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระชับขึ้น

แต่หากตาบวมจากการร้องไห้หรืออดนอน ทำให้มีของเหลวคั่งอยู่บริเวณเนื้อเยื่ออ่อนใต้ดวงตา ก็ต้องใช้ความร้อนประคบเพื่อระบายน้ำระหว่างเซลล์ออกไป ทำให้อาการบวมลดน้อยลง เพราะฉะนั้นหลังตื่นนอนในเช้าวันแต่งงานลองประคบอุ่นก่อนเพื่อระบาย ของเสียออกจากเซลล์ จากนั้นประคบเย็นตามเพื่อให้เส้นเลือดหดตัว

จากนั้นทาครีมรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของ Bi-mineral Complex หรือวิตามิน K ก็ได้ เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำและรอยเขียวคล้ำ  ทำให้ผิวรอบดวงตาใสวิ้งมากขึ้น

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @foodess on Unsplash

Q9: เช้าวันแต่งงานควรกินอะไรให้อยู่ท้องไปทั้งวัน และที่สำคัญ… พุงไม่ป่อง?

A9: ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติมักแนะนำให้กินอาหารที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาล แต่ไม่หนักท้องและไม่ทำให้ท้องอืด เช่น ชีสกับแครกเกอร์ โยเกิร์ตกับกล้วย ซึ่งอาจไม่ค่อยคุ้นปากคนไทยเท่าไร แพรวเวดดิ้งอาสาจัดเมนูอาหารเบาๆ แต่อยู่ท้อง ได้แก่ น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง ขนมปังโฮลวีต ร่วมกับผลไม้ที่มีไฟเบอร์ แต่ไม่หวานจัด เช่น แอ๊ปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่

และหากยังกลัวง่าหิว แต่ก็ไม่อยากให้ท้องป่อง ให้เตรียมผลไม้ที่กล่าวมาไว้กินระหว่างวัน หรือดื่มน้ำผลไม้ผสมบุก จะทำให้อยู่ท้อง และอิ่มได้นาน แถมสดชื่นไปถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอด้วยนะ

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @tronle_sg on Unsplash

Q10: ทำอย่างไรจึงไม่ปรี๊ดแตก เมื่อว่าที่สามีไม่ยอมช่วยจัดการอะไรเลย โดยให้เหตุผลสวยหรูว่า “ผมให้เกียรติคุณ คุณจะได้มีงานแต่งงานที่ถูกใจคุณที่สุดไง”

A10: ปัญหาระดับชาตินี้คงต้องอาศัยความสามารถเฉพาะบุคคลในการจัดการกับว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเอง แต่ทางที่ดีแพรวเวดดิ้งแนะนำว่า ควรจะเปิดใจคุยกันอย่างจริงจัง บอกเขาไปตรงๆ ว่า คุณคาดหวังให้เขาช่วยอะไรบ้าง ให้เขาเข้าใจว่า คุณไม่สามารถเตรียมงานทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวได้

การแบ่งหน้าที่แยกส่วนกันไปตามความสนใจและความสามารถ ก็เป็นวิธีที่เวิร์คอยู่ เช่น ให้เขาเป็นคนหาวงดนตรี หาช่างภาพ ฯลฯ พูดง่ายๆ คือ ให้พ่อเจ้าประคุณทำอะไรก็ได้ตามความถนัดของเขาไปเลย

อีกเทคนิคที่อยากแนะนำคือ ให้ถามถึงความต้องการของผู้ใหญ่ฝ่ายเขาเยอะๆ และสุดท้ายก็โอนหน้าที่นั้นไปให้เขาช่วยจัดการเลย ด้วย เหตุผลว่าเราอยากเอาใจฝ่ายเขา แต่กลัวว่าจะจัดการให้ไม่ถูกใจ หรือเวลาคุณว่าที่เสนออะไรที่พอจะเข้าท่ามาสักนิด ให้รีบชื่นชมว่ามันช่างเลิศล้ำ นี่ละเป็นโอกาสโยนหน้าที่นั้นให้อีกฝ่ายรับไปแบบเนียนๆ

สุดท้ายถ้าให้ช่วยทำอะไรแล้วยังบ่ายเบี่ยงว่าไม่ถนัดอะไรสักอย่าง แนะนำว่าควรใช้วิจารณญาณไตร่ตรองอย่างรอบคอบอีกครั้ง ถ้าทำทุกเม็ดแล้วเขายังงงๆ ทำอะไรไม่ถูก ก็ให้ท่องไว้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยืนอยู่กับเราในวันแต่งงาน

ถ้าขาดเขา ทั้งหมดที่เราทำไปก็ไร้ประโยชน์เนอะ

17 เหตุผลที่คนเลือก นอกใจแฟน มันทั้งน่าตกใจและชวนใจสลายมาก!

ปัญหา นอกใจแฟน เป็นปัญหาระดับสากลโลกที่มีอยู่ในทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว และทุกเพศ

จากข้อมูลของสมาคมที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวและชีวิตคู่แห่งอเมริการะบุว่า กว่า 60% ของคู่ชีวิตทั้งหมด ล้วนเคยประสบปัญหาคู่ครองนอกใจ อย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงชีวิตแต่งงาน

เห็นตัวเลขสูงเกินกึ่งแล้วก็อย่าเพิ่งตาโต ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพียงตัวเลขประมาณขั้นต่ำ เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับว่าตนเองหรือคู่ครองของตนเคยนอกใจกันมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อยังมีกลุ่มคนที่มีแนวความคิดว่าแค่พูดคุย คบหากับ “กิ๊ก” ไม่เรียกว่าเป็นการนอกใจแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันซะหน่อย

จะว่าไปมุมมองต่อปัญหานอกใจนี้ก็เข้าข่าย คนทำไม่ได้คิด(มาก) แต่คนที่ถูกกระทำ(ไม่ได้ทำ) ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน กลับคิดและต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงจะเป็นการนอกใจแบบไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยวข้อง แต่ความรุนแรงของมันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ และเป็นการบ่งบอกว่า “คู่ของเรา” ได้ตัดสินใจลาออกจากชีวิตคู่แล้ว

เพราะการนอกใจในรูปแบบนี้สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้ยิ่งกว่าการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ ค่าที่มันสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองได้มากกว่าการยอมรับตรง ๆ ว่านอกใจเสียอีก

เนื่องด้วยมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการหลอกลวงนี้เกิดขึ้นอย่างจงใจ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทรยศเลยทีเดียว โดยผู้หญิง 88% จะให้ความสำคัญกับการที่คู่ครองคบหากับคนอื่นมากกว่าการที่คู่ครองมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากกว่าคำตอบของฝั่งผู้ชายถึง 2 เท่า

แล้วทำไมเมื่อรู้ว่าผลของการนอกใจสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองเพียงใดแล้ว คนจำนวนมากถึงยังเลือก นอกใจแฟน กันอีกล่ะ?

17 เหตุผลชวนใจสลายต่อไปนี้ อาจทำให้คุณที่ผ่านพบประสบการณ์แย่ๆ เข้าใจถึงสาเหตุมากขึ้น

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @nathan_mcb on Unsplash

1.คนที่นอกใจเป็นพวกหลงตัวเองและต้องการย้ำเตือนความสำคัญของตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด

คนประเภทนี้มักจะค้นหาเป้าหมายใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกมั่นใจอยู่ จึงมีอาการเหมือนเสพติดการเป็นคนสำคัญที่ต้องการให้คนอื่นคอยช่วยย้ำเตือนความสำคัญของตนเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะแท้จริงแล้วคนประเภทนี้รู้สึกไม่มั่นใจและมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับคนพวกนี้ในการหาคนอื่นมาคอยชื่นชมตัวเองแทนที่จะเผชิญหน้ากับความไม่มั่นใจที่คอยหลอกหลอนตัวเองอยู่

2.คนที่นอกใจมีปัญหาในการควบคุมความต้องการของตนเอง

สัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาความบกพร่องในการควบคุมความต้องการของตนเองนั้นคือการเสพติด “ความสุข” จากสิ่งต่าง ๆ เช่น สุรา อาหาร หรือการพนัน มากเกินไป ซึ่งการนอกใจก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของปัญหานี้เช่นกัน แม้แต่เรื่องที่ดูเล็กน้อยอย่างการให้ท่าแบบไม่มีพิษภัยหรือการคบหาที่ไปไกลกว่าคำว่า “เพื่อน” ก็ส่งผลให้คนเหล่านี้ต้องปกปิดความผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้

3.คนที่นอกใจเชื่อว่าการมีกิ๊กเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับตนเอง

คนประเภทนี้ชอบอ้างว่า “มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร คนเรามีชีวิตเพื่อเติมเต็มความต้องการเป็นธรรมชาติ” และข้ออ้างนี้ก็ถูกใช้สร้างความชอบธรรมให้กับพฤติกรรมของคนประเภทนี้ พร้อมกับเหตุผลอีกสารพัดว่าทำไม “เพื่อน” คนนี้หรือการมีคนอื่นถึงสำคัญกับชีวิตของเขา และการคบซ้อนแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์แต่อย่างใด

ที่สำคัญคนประเภทนี้ยังเชื่อจริง ๆ อีกว่า ตัวเอง “ไม่ได้เจ้าชู้” และพร้อมจะหาเหตุผลสารพัดมายืนยันตัวเอง ซึ่งเหตุผลอย่างหนึ่งก็คือรายได้ของคนที่นอกใจมากพอที่จะไปมีคนอื่นได้

4.คนที่นอกใจเชื่อว่าตัวเองเป็นคนดีและไม่คิดว่าพฤติกรรมของตนเป็นเรื่องผิด

คนประเภทนี้เชื่อว่าการนอกใจที่เป็นความผิดหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนเท่านั้น และในเมื่อเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้สึกผิดอะไรกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ และคิดเพียงแค่ว่าคู่ของตนนั้นคิดมาก ขี้หึง กลัวถูกทิ้ง หรือเจ้ากี้เจ้าการน่ารำคาญ ฯลฯ

คนประเภทนี้จะชอบย้ำว่าตัวเองไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะ “ทำผิด” (คือแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น) แต่จะเพิกเฉยกับการกระทำอื่น ๆ ที่ก็ถือเป็นการนอกใจทั้งหมด

5.คนที่นอกใจปฏิเสธใครไม่เป็น

คนประเภทนี้มองว่าตนเองเป็นที่พึ่งสำคัญของคนอื่น ไม่ว่าจะเพราะคนอื่นที่ว่านี้ต้องการ “ความช่วยเหลือ” หรือเพราะตัวคนที่นอกใจต้องการรู้สึกเป็นคนสำคัญอยู่ลึก ๆ ก็ตาม

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @naveenkumar on Unsplash

6.คนที่นอกใจไม่ชอบให้คู่ครองคอย “บงการชีวิต”

คนประเภทนี้มักล้มเหลวในการสื่อสารความต้องการของตนเองอย่างถูกวิธี จึงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่คือการต่อสู้เพื่ออิสรภาพในชีวิต ทั้งที่แท้จริงแล้วก็ยังติดอยู่กับการถูกบงการ ด้วยการไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคู่ของตน คนประเภทนี้ก็เพียงแค่แสดงให้คู่ของตนเห็นว่าขอบเขตของการควบคุมอยู่ตรงไหนเท่านั้น

7.คนที่นอกใจโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการนอกใจ

คนประเภทนี้อาจมีญาติพี่น้องที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันและไม่คิดว่าการนอกใจเป็นเรื่องผิด เมื่อค่านิยมในครอบครัวคือการป้องกันตัวอย่างไร้ความรับผิดชอบและแก้ปัญหาด้วยการโยนความผิด ไม่รับผิด มีความเชื่อผิด ๆ และไม่ยอมรับความจริง คนประเภทนี้ก็ย่อมมีพฤติกรรมไม่ต่างกัน

8.คนที่นอกใจไม่พอใจคู่ของตนเองแต่ไม่แสดงออก

คนประเภทนี้ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของตน (โดยเฉพาะความรู้สึกแง่ลบ) ออกมาได้ และมักตามใจคนอื่นเพื่อหลีกหนีปัญหา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าที่จะแสดงตัวเป็น “คนดี” แล้วแอบไปหาที่เติมพลังที่อื่น

9.คนที่นอกใจรู้สึกผิดหวังในความสัมพันธ์หรือในตัวคู่ครอง

คล้ายกับเหตุผลก่อนหน้า คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกตรง ๆ เมื่อความโกรธขึ้นมา คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวังในแง่ของชีวิตคู่ที่ไม่เหมือนฝัน หรือคู่ครองที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม การแสดงออกถึงความรู้สึกแง่ลบกับคู่ครองของตนโดยตรงก็ดูจะเสี่ยงเกินไปสำหรับคนประเภทนี้

10.คนที่นอกใจกลัวการผูกมัด

การผูกมัดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนประเภทนี้ ที่แม้จะใจใฝ่หาแต่ก็หวาดกลัว มันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะหามือที่ 3 มาผสมโรงแทนที่จะพูดคุยกับคู่ของตนตรง ๆ คนประเภทนี้จะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ลึกซึ้งและเลือกที่จะคบหาแบบปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยความกลัวว่าจะเป็นฝ่ายถูกทิ้ง คนประเภทนี้จึงมักเตรียมทางออกไว้เพื่อให้ตัวเองไม่เสียความรู้สึก เพราะการเป็นฝ่ายทิ้งย่อมรู้สึกดีกว่า

11.คนที่นอกใจเคยพบว่าพ่อแม่ของตนก็นอกใจ

ประสบการณ์แบบนี้ทำให้คนประเภทนี้มองว่าการนอกใจเป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตคู่ที่ดีนั้นเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับคนประเภทนี้ คนกลุ่มนี้จึงทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นได้อย่างไม่มีกาลเทศะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการนอกใจเช่นกัน

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @etonesabina on Unplash

12.คนที่นอกใจกำลังอยู่ในห้วงทุกข์ของความสูญเสีย

คนประเภทนี้ยังมีใจกับคนรักเก่า (อาจจะเป็นคู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว คู่ที่เลิกรากันไป หรือแม้แต่รักแรก) ทำให้คนประเภทนี้ไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ใหม่เมื่อเทียบกับคนเก่าที่ยังอยู่ในใจ

13.คนที่นอกใจมีคู่ครอง(หรือลักษณะความสัมพันธ์)ที่ไม่ตอบสนองความคาดหวัง

คนประเภทนี้อาจมีคู่แต่งงานที่จริงจังและหัวโบราณจนน่าเบื่อ ก็เลยเลือกที่จะไปตีสนิทกับคนอื่นที่สนุกสนาน มีสีสัน และอิสระมากกว่า คนประเภทนี้มักรู้สึกเก็บกดเวลาอยู่กับคู่ครอง แต่จะรู้สึกมีอิสระในการเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับชู้รัก และการได้ปลดปล่อยตัวตนที่เก็บซ่อนไว้ก็เป็นเรื่องที่รู้สึกดีเสียด้วย

14.คนที่นอกใจใฝ่หาความรู้สึกสดใหม่

คนประเภทนี้ต้องการความรู้สึกสดใหม่ในชีวิตที่หาไม่ได้จากที่บ้าน

15.คนที่นอกใจต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

คนประเภทนี้เหนื่อยกับการทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลา จึงอยากทำเรื่องไม่ดีเพื่อปลดปล่อยตัวเองบ้าง ซึ่งก็เป็นข้ออ้างที่คนประเภทนี้มักเอามาใช้

16.คนที่นอกใจชอบมีความลับ

การมีความลับนั้นเย้ายวนใจและให้ความรู้สึกว่าเป็นฝ่ายมีอำนาจเหนือกว่าในความสัมพันธ์ คนประเภทนี้อาจจะชอบมีความลับตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นนิสัย

17.คนที่นอกใจเป็นพวกไม่ยอมโต

ไม่ว่าจะความรู้สึกว่าอยากเป็นเด็กตลอดไป หรือความไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองแบบผู้ใหญ่ก็ทำให้คนประเภทนี้เลือกที่จะหนีความจริง ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีอุปสรรคแต่คนประเภทนี้จะตัดสินใจหนีมากกว่าเผชิญหน้ากับปัญหา

แต่ไม่ว่าคู่ของคุณจะนอกใจคุณเพราะสาเหตุใด การเข้าใจที่มาที่ไปของเขาก็ไม่ใช่เพื่อจุดมุ่งหมายให้คุณ “ยอม” อยู่ตกอยู่ในสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่มันควรจะเป็นความเข้าใจที่อยู่บนพื้นฐานว่าคุณจะหาทางออกให้กับปัญหาการนอกใจนี้ในทิศทางใด

ให้เวลาเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรรม หรือเดินจากมา

5 เช็กสิสต์ที่คู่รักต้องเข้าใจเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดปริมาณความต้องการจากค่าของฮอร์โมนในกระแสเลือด เหมือนเวลาเราไปเจาะเลือดหาค่าคลอเรสเตอรอล หรือไตรกลีเซอไรด์ได้

ทั้งนี้ในแต่ละคนจะมีระดับความต้องการทางเพศ มากน้อยต่างกันไป โดยความเหมาะสมของความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก

ความต้องการทางเพศควรมีแค่ไหน

คำว่า “พอเหมาะ” ไม่อาจบอกได้ว่าเท่าไหร่ เพราะไม่มีค่าฮอร์โมนหรือสารเคมีวัดได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของตนเองและคู่ครอง ความพอเหมาะของคนหนึ่งอาจน้อยไปหรือมากไปสำหรับคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่หากวัดจากการมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ ซึ่งทำให้มีลูกง่ายในวัยเจริญพันธุ์ ควรมีความต้องการทางเพศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ส่วนคนที่มีความต้องการมากทางเพศทุกวัน แต่สามารถควบคุมตนเอง แสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น ช่วยตนเองในสถานที่ส่วนตัว ไม่เป็นปัญหากับการทำงาน หรือการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ยังเรียกว่ามีความต้องการทางเพศในระดับที่พอเหมาะได้เช่นกัน

แต่สำหรับคนที่มีความต้องการที่เข้าข่ายใช้คำว่า “ไม่เหมาะสม” คือ คนที่มีความต้องการทางเพศมากเกินไป หรือที่เรียกว่า Allosexual โดยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตนเองได้ ชอบแสดงออกในทางผิด จนเลยเถิดถึงขั้นกระทำผิดกฎหมาย เช่น  ทำอนาจารผู้อื่น หรือชอบโชว์ (Exhibitionist)  กลุ่มนี้ควรได้รับการบำบัดรักษาจากทางแพทย์

เหมาะสมหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง แต่ระดับความต้องการเข้ากันได้รึเปล่า นี่สิที่สำคัญ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @wevibe on Unsplash

ต้องบอกว่าสำหรับคู่ชีวิต ระดับความต้องการทางเพศที่เข้ากันได้ของคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากฝ่ายหนึ่งมีความต้องการทางเพศสูง ในขณะที่อีกฝ่ายมีความต้องการทางเพศต่ำ การสานสัมพันธ์คู่รักก็คงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าฝ่ายหนึ่งมีความรู้สึกว่าการมีเซ็กส์เป็นส่วนสำคัญกับชีวิตคู่ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ต้องการมีเซ็กส์เอาซะเลย

แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่คุณจะเริ่มจิ๊จ๊ะว่า “คู่ฉันมีปัญหาไหม?” แพรวเวดดิ้งแนะนำว่า คุณกับคู่ของคุณควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความต้องการทางเพศในระดับที่ทัดเทียมกันด้วย

และนี่คือ 5 เช็กสิสต์ความเข้าใจ ที่ทุกคู่รักต้องรู้เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

1.ความเปลี่ยนแปลงของระดับความต้องการทางเพศเป็นเรื่องปกติ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @henrimeilhac on Unsplash

Mayo Clinic ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ความต้องการทางเพศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงเวลาที่ผ่านไป ผนวกกับปัจจัยแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่อาจส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง เช่น

ความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว หรือวิถีชีวิตที่สะสมความเครียดมาเป็นเวลานานก็ส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลงได้

ปัญหาความสัมพันธ์ การทะเลาะ การนอกใจ และการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจสามารถส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลงได้

แผลใจ ประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงใจในอดีตสามารถส่งผลให้เกิดความเครียดและนำไปสู่ความต้องการทางเพศที่มีระดับผิดปกติได้

อายุ ความต้องการทางเพศอาจเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุได้เช่นกัน โดยทั่วไปความต้องการทางเพศจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

ความเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมน ช่วงหมดประจำเดือน ช่วงการตั้งครรภ์ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอื่น ๆ ก็ส่งผลกับความต้องการทางเพศได้

การใช้ยา ยารักษาโรคหลายชนิดมีผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อความต้องการทางเพศ เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาความดัน และยารักษาภูมิแพ้ เป็นต้น

โรคประจำตัวบางอย่าง ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคระบบหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน ความดัน มะเร็ง อาจส่งผลทำให้ความต้องการทางเพศลดต่ำลงได้

อย่างไรก็ตามปัญหาความต้องการทางเพศต่ำจากอาการเจ็บป่วยนั้น โดยปกติแล้วสามารถรักษาให้หายได้ โดยคุณอาจพบว่าความต้องการทางเพศของคุณกลับสู่ระดับปกติเมื่อเวลาผ่านไปหลังทำการรักษา นอกจากนี้ยังมีวิธีทางธรรมชาติอีกหลายทางที่ช่วยเพิ่มระดับความต้องการทางเพศของคุณได้

2.สารสื่อประสาทในสมอง อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกับความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @wevibe on Unsplash

หากพบว่ามีสารซีโรโทนิน (Serotonin ) สูง จะมีความต้องการทางเพศลดลง แต่ถ้ามีสารโดปามีน (Dopamine) และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ในสมองสูง ความต้องการทางเพศจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความแข็งแรงของระบบประสาทสมอง ระบบไหลเวียนโลหิต ก็มีผลต่อระดับความต้องการทางเพศเช่นกัน

3.เชื้อชาติ สิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และวัฒนธรรม ตัวแปรสำคัญของความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @aiony on Unsplash

ในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้มงวดเรื่องการแสดงความต้องการทางเพศ อาจทำให้ผู้ที่โตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมดังกล่าวมีความต้องการทางเพศที่ลดลง แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกระตุ้นทางเพศมาก ก็จะทำให้มีความต้องการทางเพศสูง

เพราะฉะนั้นในคู่ที่เป็นคู่รักข้ามชาติ รักข้ามพรมแดน การจูนความต้องการทางเพศจึงต้องคิดถึงปัจจัยข้อนี้พ่วงเข้าไปด้วย

4.ต้องเข้าใจว่าระดับความต้องการทางเพศที่ไม่เท่ากันสามารถส่งผลกับชีวิตคู่ในระยะยาวได้จริงๆ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @cristian_newman on Unsplash

บางคู่อาจยอมรอให้คู่รักฟื้นความต้องการทางเพศจนพร้อมจะกลับมาสานสัมพันธ์กันได้ ขณะที่บางคู่อาจยอมอดทนกับคนรักที่มีความต้องการทางเพศต่ำจนแทบจะไม่มีกันเซ็กส์เลย บางคู่อาจเผชิญอุปสรรคในชีวิตจากการไม่มีเซ็กส์เป็นเวลานาน ซึ่งการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก ถ้าเซ็กส์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ แต่ไม่ใช่สิ่งที่คู่ของคุณต้องการ

ดังนั้น หากว่าคุณกับคู่ของคุณมีระดับความต้องการทางเพศที่ไม่ตรงกัน การพูดคุยเพื่อปรับตัวและทำความเข้าใจจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้นได้โดยที่ไม่มีใครต้องเสียใจ

5.ถ้าคุณรู้สึกว่าการมีเซ็กส์กับคู่ของคุณมีบางอย่างไม่เหมือนเดิมต้องพูดออกมา

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @priscilladupreez on Unsplash

การพูดคุยเป็นสิ่งสำคัญในการสานสัมพันธ์รัก โดยเฉพาะเมื่อความต้องการทางเพศของคุณเปลี่ยนไป คุณอาจจะลองเปิดประเด็นด้วยประโยคต่อไปนี้:

“ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าความอยากทำการบ้านเปลี่ยนไป และฉันอยากคุยกับคุณเรื่องนี้สักหน่อย”

“ถ้าคุณรู้สึกว่าฉันไม่เหมือนเดิมตอนที่เรามีอะไรกัน คุณไม่ต้องคิดมากนะ คือสาเหตุมันเป็นเพราะ…..”

“ช่วงหลัง ๆ นี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเลย เรามาลองอะไรใหม่ ๆ กันหน่อยมั้ย?”

“ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้คุณไม่ค่อยอยากจู๋จี๋กันเท่าไหร่ คุณอยากคุยกันหน่อยมั้ย?”

“เราไม่ได้มีอะไรกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน และฉันอยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม คุณคิดว่ายังไง?”

แต่ถ้าคุณคิดว่าการพูดคุยตรง ๆ ยากเกินไป ลองปรึกษากับที่ปรึกษาครอบครัวหรือนักบำบัดทางเพศดู พวกเขาอาจช่วยให้คุณพูดคุยกับคู่รักและหาทางออกร่วมกันได้ง่ายขึ้น

บางครั้ง ถ้าคุณรู้สึกว่าการมีเซ็กส์มันไม่รู้สึกดีเหมือนเก่าอย่างบอกไม่ถูก การลองทำอะไรใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดทสุดสัปดาห์ การลองท่าร่วมรักที่ไม่เคยลอง หรือการลองของเล่นใหม่ก็อาจช่วยได้เหมือนกัน

 

ภาพ: https://unsplash.com/

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ใหม่

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? วินาทีแรกที่ใครก็ตามถูกยิงคำถามนี้ใส่ ใจต้องคิด… ทำไมต้องถาม? มีคู่แล้วไม่มีเซ็กส์ จะมีไปทำไม เพราะฉะนั้นไม่ต้องให้หมอไหนมาฟันธง เพราะมันสำคัญชัวร์

แต่ในความเป็นจริงกับคำถามที่ไร้ความซับซ้อนใดๆ นี้ แพรวเวดดิ้งกลับพบว่าไม่มีคำตอบใดที่จะตอบคำถามนี้ได้อย่างถูกต้อง 100% เพราะคนเราแต่ละคนมีสิ่งที่ให้คุณค่าไม่เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนๆ หนึ่ง อาจไม่มีความหมายใดๆ กับคนอีกคนหนึ่งเลยก็ได้

คำตอบที่ถูกต้องของคำถามว่า… เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? จึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเชื่อ ความต้องการทางกาย และลักษณะของความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่กับคู่ของคุณ

และต่อจากนี้คือ 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจจะทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ในมุมมองใหม่

1.เซ็กส์ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิตคู่เสียทีเดียว

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @freestocks on Unsplash

บนโลกนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถมีชีวิตคู่ที่ดีและมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ (หรือมีเซ็กส์บ้างเป็นครั้งคราวกับคู่ของตน) ซึ่งเหตุผลที่คนเหล่านี้ไม่มีเซ็กส์หรือไม่ต้องการมีเซ็กส์นั้นก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการทางเพศต่ำ มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง อยากคบดูใจกันนาน ๆ ก่อนจะตัดสินใจมีเซ็กส์ ยังไม่ได้แต่งงานและไม่ต้องการมีเซ็กส์ก่อนแต่ง

แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลข้อใดก็ล้วนไม่ได้ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคู่รักต้องพังทลายลง และก็ไม่ได้เป็นสัญญาณบอกว่าคู่รักของคุณหมดใจกับคุณแล้วอีกด้วย ขอย้ำอีกครั้งว่าการมีเซ็กส์ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่ดีเสมอไป

2.แต่การมีเซ็กส์ก็มีความสำคัญกับคนอีกกลุ่มเช่นกัน

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
ภาพ: @dainisgraveris on Unsplash

แน่นอนว่าสำหรับคนอีกกลุ่มแล้ว การมีเซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและรักษาชีวิตคู่ คนอีกจำนวนไม่น้อยต้องการมีเซ็กส์กับคู่ของตน ซึ่งความต้องการทางเพศนี้ก็มีหลายระดับ ทั้งกลุ่มคนที่เป็น Asexual ซึ่งมีความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศต่ำจนถึงขั้นอาจจะไม่สนใจเลย ในขณะที่กลุ่มคนที่เป็น Allosexual จะมีความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศสูง

และด้วยความหลากหลายทั้งในด้านความรู้สึกที่มีต่อการมีเซ็กส์และความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศนี้เอง ทำให้คนเราตอบสนองต่อการมีเซ็กส์แตกต่างกันไป ซึ่งก็ไม่มีสิ่งใดที่ผิดอีกเช่นกัน

3.เหตุผลที่แต่ละคนเลือกจะมีเซ็กส์นั้นมีหลากหลาย

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @heftiba on Unsplash

เหตุผลที่การมีเซ็กส์อาจเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตคู่ของคุณนั้นมีมากมาย เช่น เป็นโอกาสสานสัมพันธ์ทางกายกับคู่รักของคุณ เป็นโอกาสแสดงความรักและความหลงใหลของคุณที่มีต่อคู่รัก เป็นหลักฐานทางความรู้สึกที่เพิ่มความมั่นคงให้ชีวิตคู่ตามความถี่ของกิจกรรม หรืออาจจะเป็นกิจกรรมยามว่างเพื่อความสนุกสนานหรือความผ่อนคลายก็ได้

และแน่นอนว่าการมีเซ็กส์จะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากคุณอยากจะเพิ่มสมาชิกตัวน้อยในครอบครัว

4.การมีเซ็กส์เป็นปกตินั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @womanizer on Unsplash

จากผลวิจัยต่าง ๆ พบว่าการมีเซ็กส์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้:

ช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2004 พบว่าคนที่มีเซ็กส์บ่อยกว่าจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่า

เป็นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2013 โดย studyTrusted Source พบว่าการมีเซ็กส์นั้นเป็นการออกกำลังกายที่ดีกว่าที่คิด

ช่วยเสริมความแข็งแรงของหัวใจ จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2010 พบว่าการมีเซ็กส์เป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้

ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2016 พบว่าผู้ที่มีเซ็กส์เป็นประจำในช่วงอายุ 50 ถึง 90 ปีมีความจำที่ดีกว่า

ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2013 พบว่าการมีเซ็กส์ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนและอาการปวดหัวได้

5.แน่นอนว่าการมีเซ็กส์มีผลดีๆ ก่อเกิดกับจิตใจไม่น้อย

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @thoughtcatalog on Unsplash

นอกจากประโยชน์ทางสุขภาพกายแล้ว การมีเซ็กส์ยังส่งผลดีกับสภาพจิตใจของคู่รักหลาย ๆ คู่ด้วย เช่น ช่วยให้คุณมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น หรือช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายของตนเองพร้อมกับรู้สึกดีไปด้วย นอกจากนี้ การมีเซ็กส์ยังช่วยสานสัมพันธ์ของคุณกับคนรักให้แน่นแฟ้นขึ้น และยังเป็นการแสดงความรักและความห่วงใยต่อคนรักได้อีกด้วย

และที่สำคัญเซ็กส์ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม เหตุผลเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าคนที่ไม่มีเซ็กส์จะมีความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ หรือมีปัญหาทางอารมณ์แต่อย่างใด เพียงแต่คนที่มีเซ็กส์เป็นประจำจะได้รับประโยชน์จากการมีเซ็กส์ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นเท่านั้น ข้อดีของการมีเซ็กส์เหล่านี้จึงไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้คนที่ไม่ต้องการมีเซ็กส์ต้องรู้สึกผิดหรือเป็นปมด้อย

6.การมีเซ็กส์ช่วยสานสัมพันธ์คู่รักได้ไม่รู้จบ

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @son_of_media on Unsplash

จากงานวิจัยเมื่อ ค.ศ. 2017 โดย studyTrusted Source ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Personality and Social Psychology Bulletin แสดงให้เห็นว่าความถี่ในการมีเซ็กส์กับคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักนั้นมีความสัมพันธ์กัน ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าการมีเซ็กส์ส่งผลต่อความรู้สึกรักและผูกพันที่เพิ่มขึ้น

และในทางกลับกันความรู้สึกรักและผูกพันก็ส่งผลต่อการมีเซ็กส์ที่บ่อยขึ้นเช่นกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือ การมีเซ็กส์ส่งผลให้คนเรามีเซ็กส์บ่อยขึ้น

ดังนั้น ถ้าคุณอยากมีเซ็กส์ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือมีเซ็กส์ให้บ่อยขึ้น!

อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่การมีเซ็กส์นั้นสามารถเพิ่มความต้องการทางเพศและพัฒนาสมรรถภาพทางเพศของคุณให้ดีขึ้นได้จริง ๆ

7.แต่การมีเซ็กส์ก็ไม่ได้เป็นวิธีเดียวที่ช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนรักได้

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @raduflorin on Umsplash

ปกติแล้วเรามักจะมองว่าการมีเซ็กส์สะท้อนความสุขของคู่รัก ซึ่งก็จริงที่เซ็กส์นั้นเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสานสัมพันธ์กับคนรักได้ด้วยการมีเซ็กส์เพียงวิธีเดียว

การสัมผัสกายในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การมีเซ็กส์ก็ช่วยเพิ่มความสุขของคู่รักได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการนวด การจูบ การโอบกอด หรือจับมือ

นอกจากการสัมผัสทางกายแล้ว การสัมผัสทางใจ อย่างการพูดคุยแบบเปิดใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุขอีกด้วย

ย้ำอีกครั้ง

การมีเซ็กส์ไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวในการเติมเต็มชีวิตคู่ให้มีความสุขสมบูรณ์แบบเสมอไป เพียงแต่สำหรับบางคนแล้ว เซ็กส์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคู่ แต่สุดท้ายแล้ว …

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่คุณได้พบกับคู่ที่เข้าใจและยอมรับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม

 

ที่มาภาพ: www.unsplash.com

5 เรื่องก่อนแต่งงานที่คู่รักควรตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันให้เสร็จ

ไม่ว่าคุณทั้งคู่จะตั้งใจอยากลองย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดู ก่อนแต่งงาน หรือจะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังเดียวกันหลังจากแต่งงานไปแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างในบางเรื่องร่วมกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ เพราะการมีข้อตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน จะนำความสบายใจมาให้คุณในเบื้องต้นอย่างแน่นอน แล้วเรื่องจุกจิกใจจะลดน้อยลง เมื่อทั้งคู่มีข้อตกลงต่อไปนี้

1. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์

ทุกสิ่งค่ะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารเข้าบ้าน ค่าซื้อของจิปาถะ จะแบ่งกันดูแลยังไง ถ้าบ้านยังผ่อนอยู่จะต้องช่วยผ่อนไหม ใครผ่อนมากผ่อนน้อย บางคู่บอกว่าต้องจุกจิกหยุมหยิมขนาดนี้เลยหรือ ใช่ค่ะ ก็เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แล้วชีวิตจริงไม่ใช่ในละครที่จะมีพระเอกร่ำรวยมาดูแลคุณทุกอย่าง หรือจะแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ เราต้องอยู่กับโลกของความจริงค่ะ เอาเรื่องจริงมาคุยกันเลยจะได้กินอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแบบสบายใจ ไม่มีเกร็ง ไม่รู้สึกเสียเปรียบได้เปรียบ

2. หน้าที่ดูแลบ้านที่ต้องแบ่ง

ยุคนี้แล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเรื่องดูแลบ้านต้องเป็นของฝ่ายหญิงเท่านั้นซะที่ไหน คุยกันเลยค่ะ เช่นเราจะมีวันทำงานบ้านด้วยกันไหม อะไรเสียอะไรต้องซ่อมจะเรียกช่างหรืออะไรยังไง ตัดต้นไม้ใครจะทำ เพราะบางอย่างผู้หญิงก็ทำไม่ไหว ผู้ชายก็ไม่ถนัดตกลงกันคร่าวๆ ไว้ก่อน อะไรช่วยกันได้ก็ลองดู แต่อย่าฝืนกำลังตัวเองซะล่ะ เพราะเดี่ยวข้าวของเสียหายไปจะเป็นเรื่อง

3. พื้นที่ส่วนตัวมีไหม

ต่อให้คุณจะรักกันมากแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น คุณอาจไม่ถึงกับขีดเส้นแบ่งเขตว่าห้ามเข้ามาในโซนนี้ แต่ต้องมีมารยาทเวลาจะเข้าไปในพื้นที่ของเขา หรือแม้แต่จะเปิดกระเป๋าสตางค์ หรือหยิบดูไอแพดของเขามาเล่นก็ควรคิดสักนิดว่านั่นน่ะ พื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ ต่อให้คุณจะบอกว่า ขนาดคุณยังเปิดเผยทุกอย่าง ทำไมเขาไม่เปิดบ้างล่ะ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ อย่าคาดหวังเด็ดขาด แต่จงเคารพในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น แล้วจะอยู่กันอย่างเข้าใจได้ไม่ยาก

4. จัดปาร์ตี้ได้บ่อยแค่ไหน

ในเมื่อมาอยู่ด้วยกัน คงมีบ้างที่อยากชวนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ต้องตกลงกันให้ได้ ว่าถ้าอยากมีปาร์ตี้ ชวนเพื่อนมากินข้าว ถี่บ่อยได้แค่ไหน เพราะคนที่อยู่ร่วมบ้านอาจไม่ใช่สายปาร์ตี้ และเพื่อนของคุณ อีกฝ่ายอาจไม่สนิทหรือไม่ชอบหน้า แต่จะไม่ให้จัดปาร์ตี้เลยอาจจะยาก งั้นก็ฝากเรื่องนี้ไปคิดกันอีกสักเรื่องละกันนะคะ

5. มีเคอร์ฟิวหรือเปล่า

ถึงจะมาอยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่จะเข้าออกตอนไหนไม่เป็นเวลาได้นะ เพราะคนที่รออยู่ที่บ้านก็คงได้แต่รอ เป็นห่วง แต่คุณไม่กลับสักที คำว่าเคอร์ฟิวของเราจึงขอสื่อว่า เป็นเวลาที่คุณควรกลับเข้าบ้านมาดึกมากที่สุดประมาณไหน แล้วถ้ามีกรณ๊พิเศษควรบอกกล่าวกันสักหน่อยยังไง ถึงจะถือกุญแจบ้านไปด้วยก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับเวลาไหนก็ได้นะ อย่าลืมว่า นี่คือคนอยู่ด้วยกัน ต้องนึกถึงกันเสมอ

อ่านบทความเพิ่มเติม

คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด

บ่าวสาวต้องอ่าน! 5 วิธีรับมือกับความขัดแย้งช่วงเตรียมงานแต่ง

ลดปัญหาครอบครัวกับ 5 วิธีสานสัมพันธ์ให้พ่อแม่ของเธอกับฉันเลิฟกันได้

ครอบครัวเธอใหญ่ ครอบครัวฉันเล็ก ปัญหาชีวิตคู่ ทำยังไงให้ลงตัว

การแต่งงานคือการที่คนสองคนรักกันน่ะใช่ค่ะ แต่เมื่อแต่งไปแล้วคุณไม่ได้รักกันแค่สองคนนะคะ แพรวเวดดิ้งเชื่อว่าหลายคู่เคยได้ยินประโยคที่ว่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของสองคน เพราะคือการแต่งกับทั้งครอบครัวของอีกฝ่าย แล้วทีนี้จะทำอย่างไรล่ะค่ะ เมื่อครอบครัวของคุณทั้งคู่มีขนาดที่ไม่เท่ากัน กรณีครอบครัวฝ่ายหนึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยญาติพี่น้องที่ทุกเทศกาลต้องมาเจอกัน แต่อีกครอบครัวอยู่กันไม่กี่คน เทศกาลต่างๆ ก็ทำกันเงียบๆ แล้วเมื่อต้องมาแต่งงานกันจะทำยังไงให้ ปัญหาชีวิตคู่ นี้ลงตัว ลองดูวิธีเหล่านี้ค่ะ

  • เริ่มต้นที่เราสองคนก่อน

ก่อนจะพาคนที่บ้านมาเจอกัน ลองใช้ตัวเองเข้าไปสัมผัสกับครอบครัวอีกฝ่ายให้มากก่อน เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของบ้านอีกฝ่าย เพราะคุณย่อมรู้อยู่แล้วว่าบ้านคุณเป็นแบบไหน ถ้าเจอแบบบ้านเขาจะว่ารู้สึกอย่างไร เรียกง่ายๆ คือเอาตัวคุณเองเป็นตัวแทนวัดความรู้สึกกันก่อน จากนั้นค่อยมาคิดพิจารณาว่า สไตล์บ้านของอีกฝ่ายเป็นแบบนั้น จะมีวิธีไหนเหมาะๆ ที่จะให้ครอบครัวตัวเองเข้าไปจอยได้อย่างสบายใจ

  • บอกกล่าวเล่าเรื่องก็ช่วยได้

คุณอาจใช้วิธีพูดถึงครอบครัวของคุณให้ครอบครัวอีกฝ่ายได้รู้จัก แต่ต้องรู้จักพูดในระดับพอดีๆ ไม่พูดมากพูดเยอะหรือแนวอวดตัวเด็ดขาด แบบนั้นจะนำพาความรู้สึกติดลบตั้งแต่ก่อนเจอมากกว่าจะชื่นชม

  • ใช้ของฝากเชื่อมสัมพันธ์

ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวไหน ก็อย่าลืมซื้อของมาฝากคนทางบ้านทั้งสองบ้านให้พอๆ กัน หรือหากคุณไปเที่ยวกับครอบครัวของคุณก็ซื้อมาฝากครอบครัวของเขา โดยอาจบอกว่าครอบครัวฝากมาให้ อะไรแบบนั่น ความรู้สึกนึกถึงจะช่วยจูงใจให้ความต่างมาผสานกันได้ง่ายขึ้นอีกทาง

  • ค่อยๆ พาครอบครัวเข้าแทรกซึม

เมื่อคุณพอจะรู้รูปแบบของอีกครอบครัวแล้ว ลองค่อยๆ พาคนในครอบครัวของคุณเข้าไปแทรกซึมทำความคุ้นเคย ซึ่งถ้าคุณเป็นฝ่ายครอบครัวใหญ่ก็อาจเลือกพี่น้องสักคนสองคนค่อยๆ เข้าไปทำความคุ้นเคยกับบ้านอีกฝ่ายก่อน ส่วนคุณฝั่งครอบครัวเล็กก็ทำเช่นกัน เพื่ออย่างน้อยเวลาไปร่วมงานเทศกาลอะไรของอีกบ้านจะได้มีคนรู้จักอื่นๆในบ้านอีกฝ่ายให้พูดคุย ไม่ใช่คุยได้แต่กับลูกเขยหรือสะใภ้ตัวเอง

  • อย่าบังคับใจโดยเด็ดขาด

ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายครอบครัวใหญ่หรือเล็ก อย่าบังคับใจคนในครอบครัวของตัวเองให้ต้องมีส่วนร่วมถ้าเขาไม่ต้องการ เช่น บ้านฝ่ายหญิงมีงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีที่มาทั้งตระกูลแต่บ้านฝ่ายชายอยู่กันเองแค่พ่อลูก ถ้าพ่อสามีไม่ได้อยากไปร่วมก็อย่าไปบังคับ ขณะเดียวกันถ้าคุณเองไม่อยากไปเพราะอะไรก็ตามจงบอกอีกฝ่ายด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ ไม่ใช่ฐิติ อย่าฝืนความรู้สึกไปนั่งหน้าเซ็งในงานโดยเด็ดขาด พร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปยังได้

อ่านบทความเพิ่มเติม

15 นิสัยผู้ชายแบบนี้ที่ผู้หญิงทุกคนร้องยี้ไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้

6 เรื่องต้องคิดให้ดีสักนิดก่อนตัดสินใจแต่งงานกับพ่อแม่เรือพ่วง

คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด

วิธีถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแบบประหยัดงบ ไม่ต้องไปไหนไกลแต่ได้ภาพสวย

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังหาสถานที่ถ่าย ภาพพรีเวดดิ้ง แบบเซฟงบ ไม่อยากเดินทางไกล ต้องอ่าน

แพรวเวดดิ้งมีวิธีถ่าย ภาพพรีเวดดิ้ง แบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องเดินทางไกล แถมเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะ กับสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งสีเขียวอย่างเช่น สวนสาธารณะ หรือถ่ายแค่สวนหลังบ้านก็รอด ใกล้มากเลยใช่ไหมล่ะ งั้นมาดูกันเลยดีกว่า ว่าถ่ายภาพในสวนอย่างไรให้ออกมาสวยปัง

จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน

ถ่ายภาพในสวยเขียวๆ แบบนี้ก็ต้องหาสตอรี่ให้กับภาพถ่ายดูหน่อย บ่าวสาวอาจจะลองจับมือกันเดินชื่นชมความงามของสวนสวยๆ เดินหันหน้าให้กล้องนิด เดินหันหลังให้กล้องหน่อย แต่ที่สำคัญต้องเดินกุมมือกันไว้นะจ๊ะ หรือจะลองช็อตแบบสโลว์ซบก็น่ารักมุ้งมิ้งโรแมนติกชวนฟินดีเหมือนกันนนะ

เลือกใช้ใบไม้เป็นฉากหน้า

สำหรับบ่าวสาวที่ชอบความมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง ลองเลือกโลเคชั่นที่มีใบไม้ไม่สูงมาก แล้วใช้ใบไม้เป็นฉากด้านหน้า ส่วนคุณและคนรักก็แค่ยืนอยู่ด้านหลังของใบไม้พร้อมโพสท่าสุดหวาน ไม่ว่าจะ กอดกัน หันหน้าเข้าหากัน จุมพิตกันเบาๆ ก็แล้วแต่ความหวานของแต่ละคู่ และที่สำหรับภาพสไตล์นี้ไม่ต้องไปไกลถึงสวนใหญ่ๆ ก็ถ่ายได้นะ เพราะแค่หากิ่งไม้มาแล้วถ่ายภาพผ่านกิ่งไม้ก็จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้เลยค่ะ

เลือกมุมหาที่นั่งพัก

ถ้าเริ่มเหนื่อยๆ จากการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ลองหามุมสวยๆ ที่มีสนามหน้าเขียวๆ ดู จากนั้นบ่าวสาวก็แค่นั่งลงและแอคชั่นท่าโพสแบบหวานๆ สบายๆ แบบไม่ต้องสนใจกล้อง ไม่ว่าจะนั่งพิงกัน หรือนอนตักก็ได้แล้วแต่ความสะดวก เรียกได้ว่าเป็นมุมและช็อตง่ายๆ แต่ได้ภาพออกมาน่ารักแน่นอน

ภาพพรีเวดดิ้ง

เลือกช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก

การเลือกถ่ายภาพในช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก คู่บ่าวสาวจะได้ภาพแสงสวยๆ ละมุนๆ ไม่แรงมาก ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบเก็บของ หากใกล้เวลาพระอาทิตย์ตก รับรองเลยว่าภาพที่ได้นั้นจะได้มู้ดแอนด์โทนแบบโรแมนติกชวนฝันที่คุณและคนรักแทบจะไม่ต้องโพสท่าให้เหนื่อยเลย ทั้งนี้สามารถหาดอกไม้สวยๆ มาเป็นพร้อบได้ด้วยนะคะ

 

เล่นกับใบไม้ กิ่งไม้เยอะๆ

อย่าเพิ่งมองข้ามใบไม้ กิ่งไม้ไปนะคะ ลองหาใบไม้ใหญ่ๆ มาขดเป็นรูปหัวใจดู รับรองว่าภาพนี้ออกมาเก๋ไก๋แน่นอน แถมไม่ต้องเสียเวลาหาฉากให้วุ่นวายเลยค่ะ

ภาพพรีเวดดิ้ง

ถ่ายภาพกับป่า

ป่าที่ว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าป่าจริงๆ หรอกนะ แต่บ่าวสาวอาจจะลองหามุมตามสวนสาธารณะ หรือซอยเล็กๆ ข้างทางที่มีต้นไม่เยอะๆ ดู แล้วแค่ไปยืนโพสท่าถ่ายรูปตรงกลางเฟรม แต่ช็อตนี้อาจจะต้องอาศัยเทคนิคการถ่ายภาพของช่างภาพด้วย ว่าจะถ่ายข้างทางออกมาอย่างไรให้สวยเหมือนถ่ายในป่าเขาใหญ่

ภาพพรีเวดดิ้ง

เลือกถ่ายกับต้นไม้ใหญ่

ใครว่าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งจะถ่ายกับต้นไม้เปล่าๆ ที่ไร้ใบไม่ได้ล่ะจ้ะ แถมถ้าถ่ายแบบช็อตซิลลูเอทนิดๆ ก็จะได้ภาพพรีเวดดิ้วแนวใหม่ที่มีกลิ่นอายสไตล์แฟชั่นหน่อยๆ ด้วย เอาเป็นว่าบ่าวสาวลองมองหาสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ๆ แล้วจะเลือกถ่ายภาพให้เห็นต้นไม้แบบเต็มๆ หรือจะนั่งใต้ต้นไม้มองวิวทิวทัศน์ แล้วให้ช่างภาพบันทึกภาพในสไตล์แคนดิดก็อารมณ์แบบฟีลกู้ดอีกแบบดีเหมือนกันนะ

ภาพพรีเวดดิ้ง

ถ่ายภาพในช่วงเวลาที่แสงใกล้หมด

หลังจากที่ถ่ายภาพตอนช่วงพระอาทิตย์ตกไปแล้ว หลังพระอาทิตย์ตก ก็สามารถ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ได้อยู่ดีนะจ๊ะ มุมนี้สามารถถ่ายตามสวนสาธารณะได้ หรือ สวนหลังบ้านก็ดีเลยล่ะ บ่าวสาวจะเลือกนั่งบนม้านั่งแล้วนั่งซบกัน นั่งตักกัน แล้วมองตาหวานๆ ก็ได้ หรือจะยืนโอบกอดกัน ก็สวยไปอีกแบบนะ

ภาพพรีเวดดิ้ง

บอกเลยว่าถ้าลองทำตามนี้ คุณจะได้ภาพพรีเวดดิ้งที่สวยงามโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ ไม่ต้องออกเดินทางไปไหนไกลๆ เพียงแค่ใช้สถานที่ใกล้ตัวให้เกิดประโยชน์เท่านั้นเอง แถมช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้วด้วย ต้นไม้ใบหญ้าก็จะเขียวชอุ่มมากเป็นพิเศษอีกต่างหาก หากเลือกสถานที่ได้แล้วก็ไปต่อกันที่ >> โพสท่าแชะภาพพรีเวดดิ้งหน้าฝนสุดโรแมนติกที่ฤดูอื่นก็ทำไม่ได้ << กันเลย

ภาพจาก : Pinterest.com, pixabay.com

4 ทริคง่ายมากแค่เลือกตามก็ได้ชุดแต่งงานริมทะเลสุดเป๊ะ

การเลือกชุดแต่งงานให้ถูกกับสถานที่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณเลือกที่จะจัดงานแต่งงานในสถานที่พิเศษอย่างหาดทรายสวยริมทะเล ชุดแต่งงานริมทะเล ที่เลือกต้องมีความพิเศษที่นอกจากจะให้ความสวยยังต้องมีความเหมาะด้วยนะคะ

ความยาวของชุด

ความยาวของชุดแต่งงานริมทะเลนั้น คุณสามารถเลือกใส่ได้ทั้งแบบสั้นและแบบยาวกรอมเท้าได้ แต่ไม่ควรยาวแบบลากพื้น เพราะคุณจะเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้นทรายได้ลำบาก และอาจเผลอทำชุดเปียกน้ำทะเลโดยไม่รู้ตัว ลองนึกสภาพที่ชายกระโปรงชุดเจ้าสาวเปียกชุ่มและกำลังลากทรายจำนวนล้านๆ เม็ดไปพร้อมๆ กันสิคะ หนักแย่เลยเนอะว่าไหม

ผ้าเนื้อต้องนุ่มและเบา

คงไม่ต้องบอกว่าทำไมชุดแต่งงานริมทะเลจึงควรเป็นชุดที่มีความนุ่ม ผ้าเนื้อบางเบาและสามารถพลิ้วไหวไปกับสายลมได้แบบไม่ต้องลำบากยกมากระพือ เพราะอารมณ์งานแต่งานริมทะเลเลี่ยงไม่ได้กับลมทะเลเย็นๆ ที่มาพร้อมเสียงคลื่นกระทบหาด ถ้าคุณไม่เลือกผ้าชีฟอง ผ้าเครป ผ้าด่วน ผ้าฝ้าย แต่ไปเลือกผ้าเนื้อแข็งจำพวกผ้าไหม ผ้าแก้ว คุณจะกลายเป็นเจ้าสาวในชุดเกราะแบบหุ่นยนต์ยืนถ่ายรูปริมทะเลทันที แถมเวลาลมทะเลพัดมาความระคายเคืองผิวบังเกิดแน่ และนั่นส่งผลต่อสมาธิในงานแต่งงานที่คุณตัองมาพะวงว่าชั้นไม่สวยอย่างตั้งใจเลยสักนิด

โบกมือลาผ้าลูกไม้

อยากเซ็กซี่ก็ทำได้ แต่ไม่ใช่ด้วยผ้าลูกไม้ ฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอย่าเด็ดขาดที่จะคิดเอาผ้าลูกม้าฝรั่งเศสมาเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญของชุดแต่งงานริมทะเล เพราะจะทำหุดแข็ง ไม่พลิ้วไหว คุณควรเลือกชุดแต่งงานเรียบๆ ที่มีการตกแต่งเล็กน้อย ไม่ก็ชุดที่ไม่มีการตกแต่งไปเลย แล้วเพิ่มความเซ็กซี่มีระดับด้วยช่วงหลังถ่วงโชว์ผิวเบาๆ แทน

เลือกทรงชุดที่เหมาะกับงานทะเล

ทรงชุดแต่งงานที่เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่สุด คือ ชุดเจ้าสาวแบบต่อใต้อก หรือเรียกว่า Empire Line ที่ให้อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ และพานให้นึกถึงเทพธิดาแห่งท้องทะเลในนิยายกรีกโรมัน รองลงมาได้แก่สไตล์ชุดสั้น และชุดหน้าสั้นหลังยาวที่วัดความยาวของกระโปรงให้สมดุลกับความสูงของเจ้าสาว โดยไม่ลืมนึกถึงรองเท้าเจ้าสาวที่จะมาจับคู่ด้วย ถ้าคุณเลือกชุดโชว์เรียวขาเมื่อไหร่ ต้องไม่ลืมใส่ใจความสวยงามของรองเท้าเจ้าสาวริมทะเลด้วยนะคะ

>> ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

คุณแม่เจ้าสาวต้องรู้! 5 เคล็ดลับเลือกใช้เครื่องประดับแบบนี้ไม่โดนเม้า

ใช่ว่างานแต่งงานจะเป็นวันที่น่าจดจำเฉพาะแค่บ่าวสาวเท่านั้นนะคะ เพราะสำหรับคนเป็นแม่ โดยเฉพาะ แม่เจ้าสาว วันนี้คืออีกวันที่จะตราตรึงความประทับใจไว้กับตัวเองในฐานะผู้ให้กำเนิดเจ้าสาวคนสวยในงานแต่ง ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องประดับแสดงฐานะต้องเป๊ะและปัง แต่จะแต่งยังไงไม่ให้โดนเม้าว่ามากไปน้อยไป ตามแพรว wedding มาเลย

อย่าใส่ชิ้นใหญ่ไปซะหมด

ไม่อยากโดนบ้านเจ้าบ่าวหรือแขกในงานเม้าว่าอวดร่ำอวยรวยหรือเว่อร์เกินไปก็จงระวัง อย่าเลือกเครื่องประดับชิ้นใหญ่มาประโคมไว้บนตัวเด็ดขาด ถ้าตัดใจไม่ได้จริงๆ อาจเลือกเพียงแค่ชิ้นเดียวที่จะยกตำแหน่งไฮไลท์ของเครื่องประดับในวันนั้นก็พอ

เลี่ยงเครื่องประดับที่ทำให้เกิดเสียง

เครื่องประดับที่ทำให้เกิดเสียงก็คือ การใส่เครื่องประดับแบบเดียวกันหลายชิ้น เช่นกำไลข้อมือ หรืออาจเป็นต่างหูห้อยระย้าที่มาเป็นพวงยาวแล้วมีเสียงทุกทีที่หันหน้าไปยิ้มรับแขกไงล่ะคะ ซึ่งข้อเสียที่เครื่องประดับเกิดเสียงไม่ได้มีแค่ความน่ารำคาญให้กับคนที่ได้ยิน แต่ยังไม่ส่งผลดีกับเครื่องประดับเพชรของคุณแม่ด้วยนะคะ เพราะเมื่อหน้าเพชรชนกันจะเกิดรอยได้ง่ายๆ แบบนี้พอจะส่งต่อมรดกให้เจ้าสาวหรือลูกหลานคนอื่นๆ เครื่องประดับชิ้นนั้นก็มีตำหนิติดตัวแล้วน่ะสิคะ

ตัดใจเลือกชิ้นที่เข้ากับชุดที่ใส่จริงๆ

ถึงเวลาตัดใจก็ต้องทำนะคะ เพราะถ้าชิ้นที่คุณเล็งไว้ว่าอยากจะใส่อวดใครต่อใครในงานให้สมฐานะแม่เจ้าสาว เกิดไม่เข้าพวกกับชุดสวยที่ตัดมา ก็อย่าไปฝืนหยิบขึ้นมาใส่เลยค่ะ เก็บชิ้นนั้นไว้งานอื่นดีกว่าให้ใครมาเม้าว่า แม่เจ้าสาวแต่งตัวไม่เป็นหรือเป็นคนที่เอาแต่จะอวดขนาดเพชรจนลืมคำว่า ดูดีและเข้ากัน นอกเสียจากว่า คุณจะออกแบบชุดให้เข้ากับเครื่องเพชรชิ้นนั้นแต่แรก แบบนั้นก็ใส่เลยค่ะ รับรองว่าดี๊ดีอ่ะ

แม่เจ้าสาว

ไม่แข่งสวยกับเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว

เช็คให้แน่ใจก่อนว่า คุณลูกสาวและแก๊งเพื่อนเจ้าสาวของเธอใส่ชุดอะไรและมีเครื่องประดับแบบไหนเป็นพร้อพบ้าง จากนั้นนำข้อมูลมาเทียบเคียงกับชุดและเครื่องประดับที่คุณแม่เตรียมไว้ ถ้าใกล้เคียงกันมากๆ ก็จะได้เลี่ยงทันไงคะ ซึ่งแม้จะเสียดายแค่ไหนก็จงบอกตัวเองว่า อย่าได้ใส่ตามแผนที่วางไว้เด็ดขาด เพราะคุณไม่ใช่เพื่อนเจ้าสาวแต่เป็นแม่เจ้าสาว ถ้ารู้แล้วยังใส่ เตรียมใจโดนเม้าหนักในข้อหากระชากวัยผิดเวลาและกาลเทศะนะคะคุณแม่

ถือกระเป๋าใบเล็กเป็นเครื่องประดับ

ในกรณีที่คุณแม่ไม่ได้มีเครื่องประดับชิ้นเป้งเลยสักนิด หรือแม้แต่ไม่มีเพชรมาใส่อวดใครก็ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ ทำตัวให้ดูดีได้ด้วยไอเท็มควรมีอย่างกระเป๋าถือใบเล็กๆ ที่อาจตกแต่งด้วยคริสตัลเนื้อดีหรือถักทอเป็นสีทอง ลองดูแบบที่ถือแล้วพอดีมือ และใช้งานได้จริง เช่นใส่ใบเครดิตและลิปสติกได้  ที่สำคัญต้องดูแล้วแข็งแรงไม่ก๊องแก๊งเป็นกระเป๋าของฉากละคร

ส่วนมือถือที่ต้องพกติดตัว ก็เลือกเคสที่ดูดีมีราคาเข้าไว้ อาจไม่ต้องประดับคริสตัลให้มากไป แต่เลือกเคสมือถือเรียบหรูดูดี แค่นี้ก็เดินเฉิดฉายสมฐานะแม้เจ้าสาวแล้วค่ะ

>> ดูไอเดียเกี่ยวกับแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : https://kissandtell.com, https://vintagepartyware.co.uk