การเลือกชุดแต่งงานให้ถูกกับสถานที่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณเลือกที่จะจัดงานแต่งงานในสถานที่พิเศษอย่างหาดทรายสวยริมทะเล ชุดแต่งงานริมทะเล ที่เลือกต้องมีความพิเศษที่นอกจากจะให้ความสวยยังต้องมีความเหมาะด้วยนะคะ
ความยาวของชุด
ความยาวของชุดแต่งงานริมทะเลนั้น คุณสามารถเลือกใส่ได้ทั้งแบบสั้นและแบบยาวกรอมเท้าได้ แต่ไม่ควรยาวแบบลากพื้น เพราะคุณจะเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้นทรายได้ลำบาก และอาจเผลอทำชุดเปียกน้ำทะเลโดยไม่รู้ตัว ลองนึกสภาพที่ชายกระโปรงชุดเจ้าสาวเปียกชุ่มและกำลังลากทรายจำนวนล้านๆ เม็ดไปพร้อมๆ กันสิคะ หนักแย่เลยเนอะว่าไหม
ผ้าเนื้อต้องนุ่มและเบา
คงไม่ต้องบอกว่าทำไมชุดแต่งงานริมทะเลจึงควรเป็นชุดที่มีความนุ่ม ผ้าเนื้อบางเบาและสามารถพลิ้วไหวไปกับสายลมได้แบบไม่ต้องลำบากยกมากระพือ เพราะอารมณ์งานแต่งานริมทะเลเลี่ยงไม่ได้กับลมทะเลเย็นๆ ที่มาพร้อมเสียงคลื่นกระทบหาด ถ้าคุณไม่เลือกผ้าชีฟอง ผ้าเครป ผ้าด่วน ผ้าฝ้าย แต่ไปเลือกผ้าเนื้อแข็งจำพวกผ้าไหม ผ้าแก้ว คุณจะกลายเป็นเจ้าสาวในชุดเกราะแบบหุ่นยนต์ยืนถ่ายรูปริมทะเลทันที แถมเวลาลมทะเลพัดมาความระคายเคืองผิวบังเกิดแน่ และนั่นส่งผลต่อสมาธิในงานแต่งงานที่คุณตัองมาพะวงว่าชั้นไม่สวยอย่างตั้งใจเลยสักนิด
โบกมือลาผ้าลูกไม้
อยากเซ็กซี่ก็ทำได้ แต่ไม่ใช่ด้วยผ้าลูกไม้ ฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอย่าเด็ดขาดที่จะคิดเอาผ้าลูกม้าฝรั่งเศสมาเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญของชุดแต่งงานริมทะเล เพราะจะทำหุดแข็ง ไม่พลิ้วไหว คุณควรเลือกชุดแต่งงานเรียบๆ ที่มีการตกแต่งเล็กน้อย ไม่ก็ชุดที่ไม่มีการตกแต่งไปเลย แล้วเพิ่มความเซ็กซี่มีระดับด้วยช่วงหลังถ่วงโชว์ผิวเบาๆ แทน
เลือกทรงชุดที่เหมาะกับงานทะเล
ทรงชุดแต่งงานที่เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่สุด คือ ชุดเจ้าสาวแบบต่อใต้อก หรือเรียกว่า Empire Line ที่ให้อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ และพานให้นึกถึงเทพธิดาแห่งท้องทะเลในนิยายกรีกโรมัน รองลงมาได้แก่สไตล์ชุดสั้น และชุดหน้าสั้นหลังยาวที่วัดความยาวของกระโปรงให้สมดุลกับความสูงของเจ้าสาว โดยไม่ลืมนึกถึงรองเท้าเจ้าสาวที่จะมาจับคู่ด้วย ถ้าคุณเลือกชุดโชว์เรียวขาเมื่อไหร่ ต้องไม่ลืมใส่ใจความสวยงามของรองเท้าเจ้าสาวริมทะเลด้วยนะคะ