ไม่ว่าคุณทั้งคู่จะตั้งใจอยากลองย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดู ก่อนแต่งงาน หรือจะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังเดียวกันหลังจากแต่งงานไปแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างในบางเรื่องร่วมกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ เพราะการมีข้อตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน จะนำความสบายใจมาให้คุณในเบื้องต้นอย่างแน่นอน แล้วเรื่องจุกจิกใจจะลดน้อยลง เมื่อทั้งคู่มีข้อตกลงต่อไปนี้
1. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์
ทุกสิ่งค่ะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารเข้าบ้าน ค่าซื้อของจิปาถะ จะแบ่งกันดูแลยังไง ถ้าบ้านยังผ่อนอยู่จะต้องช่วยผ่อนไหม ใครผ่อนมากผ่อนน้อย บางคู่บอกว่าต้องจุกจิกหยุมหยิมขนาดนี้เลยหรือ ใช่ค่ะ ก็เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แล้วชีวิตจริงไม่ใช่ในละครที่จะมีพระเอกร่ำรวยมาดูแลคุณทุกอย่าง หรือจะแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ เราต้องอยู่กับโลกของความจริงค่ะ เอาเรื่องจริงมาคุยกันเลยจะได้กินอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแบบสบายใจ ไม่มีเกร็ง ไม่รู้สึกเสียเปรียบได้เปรียบ
2. หน้าที่ดูแลบ้านที่ต้องแบ่ง
ยุคนี้แล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเรื่องดูแลบ้านต้องเป็นของฝ่ายหญิงเท่านั้นซะที่ไหน คุยกันเลยค่ะ เช่นเราจะมีวันทำงานบ้านด้วยกันไหม อะไรเสียอะไรต้องซ่อมจะเรียกช่างหรืออะไรยังไง ตัดต้นไม้ใครจะทำ เพราะบางอย่างผู้หญิงก็ทำไม่ไหว ผู้ชายก็ไม่ถนัดตกลงกันคร่าวๆ ไว้ก่อน อะไรช่วยกันได้ก็ลองดู แต่อย่าฝืนกำลังตัวเองซะล่ะ เพราะเดี่ยวข้าวของเสียหายไปจะเป็นเรื่อง
3. พื้นที่ส่วนตัวมีไหม
ต่อให้คุณจะรักกันมากแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น คุณอาจไม่ถึงกับขีดเส้นแบ่งเขตว่าห้ามเข้ามาในโซนนี้ แต่ต้องมีมารยาทเวลาจะเข้าไปในพื้นที่ของเขา หรือแม้แต่จะเปิดกระเป๋าสตางค์ หรือหยิบดูไอแพดของเขามาเล่นก็ควรคิดสักนิดว่านั่นน่ะ พื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ ต่อให้คุณจะบอกว่า ขนาดคุณยังเปิดเผยทุกอย่าง ทำไมเขาไม่เปิดบ้างล่ะ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ อย่าคาดหวังเด็ดขาด แต่จงเคารพในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น แล้วจะอยู่กันอย่างเข้าใจได้ไม่ยาก
4. จัดปาร์ตี้ได้บ่อยแค่ไหน
ในเมื่อมาอยู่ด้วยกัน คงมีบ้างที่อยากชวนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ต้องตกลงกันให้ได้ ว่าถ้าอยากมีปาร์ตี้ ชวนเพื่อนมากินข้าว ถี่บ่อยได้แค่ไหน เพราะคนที่อยู่ร่วมบ้านอาจไม่ใช่สายปาร์ตี้ และเพื่อนของคุณ อีกฝ่ายอาจไม่สนิทหรือไม่ชอบหน้า แต่จะไม่ให้จัดปาร์ตี้เลยอาจจะยาก งั้นก็ฝากเรื่องนี้ไปคิดกันอีกสักเรื่องละกันนะคะ
5. มีเคอร์ฟิวหรือเปล่า
ถึงจะมาอยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่จะเข้าออกตอนไหนไม่เป็นเวลาได้นะ เพราะคนที่รออยู่ที่บ้านก็คงได้แต่รอ เป็นห่วง แต่คุณไม่กลับสักที คำว่าเคอร์ฟิวของเราจึงขอสื่อว่า เป็นเวลาที่คุณควรกลับเข้าบ้านมาดึกมากที่สุดประมาณไหน แล้วถ้ามีกรณ๊พิเศษควรบอกกล่าวกันสักหน่อยยังไง ถึงจะถือกุญแจบ้านไปด้วยก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับเวลาไหนก็ได้นะ อย่าลืมว่า นี่คือคนอยู่ด้วยกัน ต้องนึกถึงกันเสมอ
อ่านบทความเพิ่มเติม
คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด
บ่าวสาวต้องอ่าน! 5 วิธีรับมือกับความขัดแย้งช่วงเตรียมงานแต่ง
ลดปัญหาครอบครัวกับ 5 วิธีสานสัมพันธ์ให้พ่อแม่ของเธอกับฉันเลิฟกันได้