ไม่ใช่แค่คุณกับฉัน! 4 ปัญหาชีวิตคู่ อย่าปล่อยให้หมักหมม รีบเคลียร์เดี๋ยวนี้

ปัญหาชีวิตคู่ เชื่อว่าเจอกันทุกคู่ชีวิต ไม่ว่าจะฐานะใด สัญชาติไหน ไม่มีใครหลีกพ้นสักราย

ก็คิดดูเถอะ คนสองคนที่ภูมิหลังแตกต่างกัน วันหนึ่งเมื่อมาอยู่ร่วมกัน แม้จะมี “ความรัก” ้เป็นตัวจูน แต่หลายครั้งก็พบว่า “รักคำเดียว” นั้นยังไม่พอ คำถามคือเมื่อเกิด ปัญหาชีวิตคู่ ขึ้นมา คนสองคนจะจับมือฟันฝ่ากันไปด้วยวิธีใด

ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งลองไล่เลียงตัวอย่างปัญหาพร้อมแนวทางแก้ไขมาให้ดู หลายคนที่อ่านแค่หัวข้อ อาจเบ้หน้าว่า เบๆ (เบสิค) แต่ปัญหาพื้นๆ อย่างนี้แหละ ถ้าไม่คุย ไม่ปรับ ก็ทำเอาทางใครทางมันมาเยอะแล้ว

1.ไม่ชินกับสถานภาพ “สมรสแล้ว”

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: innokurnia on Pixabay

อย่างที่เคยได้ยินคนเพิ่งแต่งงานบ่นบ่อยๆ ว่ายังไม่ชินกับความรู้สึกที่ว่า “นี่เราแต่งงานแล้วเหรอ”  ความรู้สึกนี้เป็นเรื่องปกติของคนทั้งโลก  ไม่ว่าจะหญิงหรือชาย  การจะปรับทัศนคติและปรับตัวให้ชินกับสถานภาพใหม่ย่อมต้องใช้เวลา  ต้องลดความรู้สึกแบบคนโสดลง  ซึ่งนักจิตวิทยาบอกว่าคู่สมรสอาจต้องใช้เวลาในปีแรกเพื่อปรับตัวไปสู่การใช้ชีวิตคู่ที่แท้จริง

เจ้าสาวป้ายแดงคนหนึ่งเล่าว่า  “ช่วงแรกรู้สึกว่าคุณสามียังไม่เคยชินกับการมีอีกคนอยู่ในบ้าน  เขาเคยชินกับการทำอะไรคนเดียว จนบางครั้งลืมนึกถึงเรา  แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ก็กระตุ้นต่อมน้อยใจทุกที”

แนวทางแก้ปัญหา

เมื่อไม่ชินกับสถานภาพใหม่ สามี- ภรรยามักมีปัญหาเรื่องความอิหลักอิเหลื่อในบทบาทหน้าที่ของแต่ละคน ทางที่ดีควรคุยกันให้เข้าใจก่อนว่า หลังแต่งงานแล้ว ใครต้องมีหน้าที่อะไรในบ้านและในความสัมพันธ์ใหม่บ้าง

แนะนำว่าการกำหนดกะเกณฑ์ทุกอย่างจนเป๊ะไปเสียหมดอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดได้ทั้งที่เพิ่งแต่งงาน  จึงควรคุยกันในลักษณะของการวางแผนในจังหวะที่เหมาะสม เช่น  ตอนที่ช่วยกันเลือกซื้อของแต่งบ้าน จัดบ้าน นี่ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะคุยถึงความชอบและความถนัดของแต่ละคน  อาจแจกแจงหน้าที่กันคร่าวๆ  ขณะเลือกซื้อของ  หรือต่างคนต่างอาสาดูแลในสิ่งที่ตนถนัดก็เป็นวิธีประนีประนอมที่ดีมาก

2.ญาติเพิ่มกะทันหัน!

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: Broesis on Pixabay

 

“นั่นก็ญาติ  นี่ก็ญาติ  มาจากไหนกันเยอะแยะ!”  แน่นอนว่าเมื่อเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว  ญาติเขาก็เหมือนเป็นญาติคุณไปด้วย  ละครไทยตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์สอนให้ระลึกไว้เสมออยู่แล้วว่า  การปรับตัวโดยเฉพาะถ้าต้องย้ายเข้าบ้านที่เป็นบ้านเดิมของครอบครัวฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง มันไม่เคยง่าย การเคารพผู้ใหญ่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด  ไม่ว่าผู้ใหญ่จะเป็นยังไง  สะใภ้หรือเขยที่ดีก็ควรต้องพยายามหาข้อดีและยกยอท่านบ้างในบางโอกาส  เพราะหากเข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี  ความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ของคุณก็จะราบรื่นไปด้วย

แต่หากแต่งแล้วเจอศึกดราม่ายุงไข่เหมือนในละครไทยหลังข่าว ประมาณว่าโดนพ่อแม่ของอีกฝ่ายเพ่งเล็ง  จะทำอะไรก็ไม่มีอิสระ  แถมวงวารญาติเครือยังเฮโลมาเป็นทัพหนุน ช่วยออกเสียง (ทั้งที่ไม่ได้ขอ) ในทุกสถานการณ์ ความรู้สึกอ่วมหนักถือเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งปรี๊ดแตกออกมาเชียว

แนวทางแก้ปัญหา

พ่อแม่ของคู่ชีวิตคือคนที่เราควรยกไว้เหนือเหตุผล  ไม่ควรวิพากษ์- วิจารณ์  แม้จะไม่ชอบนิสัยหรือทัศนคติบางอย่างของท่านก็ตาม  เวลาสามีหรือภรรยาบ่นเรื่องพ่อแม่ของเขา ทางที่ดีที่สุดคือรับฟังและอย่าคอมเมนต์อะไรที่รุนแรง

มองโลกในแง่ดีสักหน่อยว่าท่านก็มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับพ่อแม่เรา  สนใจไต่ถามเรื่องสุขภาพของท่านบ้าง  และที่สำคัญที่สุด  ทำให้ท่านมั่นใจว่าท่านยังเป็นคนสำคัญ แม้ว่าลูกของท่านจะมีคุณมาอยู่เคียงข้าง  ด้วยการถามความคิดเห็นของท่านอย่างสม่ำเสมอ

ปัญหาทั้งหลายที่พูดกันนั้น  หากคุณยอมรับได้ว่าลึกๆ แล้วมันมาจากใจเราเองที่ไม่ยอมรับว่าครอบครัวเราต้องขยายตัวแล้วจึงรู้สึกอึดอัด  หากมองอีกมุมว่าบนโลกที่เต็มไปด้วยปัญหา  โชคดีแค่ไหนที่ยังมีอีกครอบครัวที่คอยเป็นกำลังใจ  ทำให้เราไม่รู้สึกโดดเดี่ยว แค่กระโดดข้ามกำแพงที่ตั้งไว้ได้  ก็จะพบว่าการอยู่ในสถาบันครอบครัวที่อบอุ่นนั้นเป็นเหมือนกำลังใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้

3.‘ลูกติด’ ‘เมียเก่า’ พันธะจำเป็นที่ต้องทำใจ

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: Free-Photos on Pixabay

หากตัดสินใจแต่งงานกับผู้ชายมีตำหนิ  จะเคยหย่าร้างหรือมีลูกติดก็ล้วนมีเรื่องให้ต้องสะกิดใจทั้งนั้น  คนที่ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยง  นอกจากจะต้องใจพระ  เลี้ยงและรักลูกติดสามีแล้ว  ยังต้องทำใจกว้างเมื่อแม่แท้ๆ ยังต้องติดต่อกับลูกและสามี  ไม่ว่าจะมาเยี่ยมหรือมารับก็ล้วนทำให้เกิดความรู้สึกอิหลักอิเหลื่อทั้งนั้น

เจ้าสาวหมาดๆ คนหนึ่งต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงทันทีหลังแต่งงาน  เพราะฝ่ายชายเคยพลาดพลั้งไปมีลูกสมัยยังวัยรุ่น  เธอรู้สึกรำคาญใจทุกครั้งที่ “แม่ของเด็ก” กลับมาเยี่ยมลูก  แต่ทำได้แค่เพียงวางตัวให้ดี

แต่ถึงสามีจะไม่มีลูกติด  ทว่าด้วยธรรมชาตินิสัยของผู้ชายที่เป็นเพศไม่ซับซ้อนเอาซะเลย จึงใจดีเห็นอกเห็นใจภรรยาเก่าจนสร้างแผลในใจให้ภรรยาใหม่ นี่คือเสียงบ่นจากผู้หญิงคนหนึ่งที่มีสามีเป็นคนดีเสียเหลือเกิน

“หย่ากับเมียเก่ามาก็ตั้งนานแล้ว  แต่ฝ่ายนั้นโทร.มาให้ช่วยเหลืออะไร  สามีก็ยังคอยช่วยตลอด  ขาดเหลือเรื่องเงิน  ขนาดหาเงินลงทุนยังกล้าโทร.มาขอ  สามีก็ไม่เคยปฏิเสธ  แม้จะเป็นเงินส่วนตัวของเขา  แต่ก็ทำให้หงุดหงิดใจที่สุด”

แนวทางแก้ปัญหา

ปัญหานี้จัดว่าใหญ่หลวงทีเดียว  เพราะมีอีกบุคคลที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเรา  ทางเดียวที่ทำได้คือทำความเข้าใจกับคนของเราว่าการดูแลหรือปฏิสัมพันธ์นั้นต้องมีขอบเขต และเรายอมรับได้ในระดับไหน  เมื่อเป็นข้อตกลงร่วมกัน  สามีก็ควรให้อีกฝ่ายทราบข้อตกลงนี้ด้วย

หากคิดว่ามีภาระที่อาจวุ่นวายในภายหลังก็ควรปรึกษาผู้ใหญ่ในครอบครัว  ท่านจะเข้าใจนิสัยใจคอของทุกฝ่ายได้ดีกว่า  อาจจะมีคำแนะนำที่ดีทั้งสำหรับเราและสามีเรื่องการวางตัวและขอบเขตที่เหมาะสม  หรือแม้กระทั่งช่วยคุยหรือแนะนำให้อีกฝ่าย (ในอดีต) ได้เข้าใจด้วย

4.เงินทองของนอกกาย (แต่ถ้ายังไม่ตายก็ต้องเอาให้เคลียร์)

ปัญหาชีวิตคู่, ชีวิตคู่, ความรัก, คนรัก, ความสัมพันธ์
Photo: stevepb on Pixabay

แม้เงินทองจะเป็นของนอกกาย  แต่ขาดเงินเมื่อไร ปัญหาก็เกิดเมื่อนั้น  เรื่องการเงินเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตครอบครัว  เพราะฉะนั้นควรพูดคุยตกลงกันเสียตั้งแต่ก่อนแต่งว่าจะจัดการอย่างไร

บ่าว- สาวคู่หนึ่งตัดสินใจเก็บเงินร่วมกันตั้งแต่ตกลงจะแต่งงาน  โดยเจ้าสาวและเจ้าบ่าวต่างแบ่งเงินรายเดือนจำนวนหนึ่ง (ไม่เท่ากันเพราะเจ้าบ่าวได้เงินเดือนเยอะกว่า) ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการแต่งงาน  ซึ่งก็ครอบคลุมและยังมีเงินส่วนที่เหลือบวกกับเงินใส่ซองนำมาใช้เป็นเงินกองกลาง

หลังจากแต่งงานแล้วทั้งคู่ยังเก็บเงินรายเดือนร่วมกันในจำนวนเท่าเดิม  เงินเดือนส่วนที่เหลือก็แยกกันใช้จ่าย ฟังดูก็โอเคดีใช่ไหมคะ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่คุณๆ คงเคยได้ยินวลีที่ว่า “ซุกปัญหาไว้ใต้พรม” มาบ้าง ยิ่งกับค่านิยมไทยๆ ที่ฝ่ายหญิงยังคาดหวังว่าฝ่ายชายมีหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว จึงอดไม่ได้ที่จะคิดว่าไม่ควรจะแบ่งแยก “เงินเขา-เงินเรา” ชัดเจนขนาดนี้

แนวทางแก้ปัญหา

ใจเขาใจเราค่ะ โลกหมุนมาถึงสองพันกว่าปีแล้ว ผู้หญิงก็ควรปรับเปลี่ยนทัศนคติเรื่องเงินทองได้แล้วเหมือนกัน แต่หากปรับแล้วยังรู้สึกตะหงิดๆ เหมือนมีอะไรติดค้างคาใจอยู่ ก็ต้องคุยกันให้เคลียร์ เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและบั่นทอนทุกความสัมพันธ์ของชีวิตคู่มานักต่อนักแล้ว

การจัดสรรปันส่วนเรื่องรายรับรายจ่ายแท้จริงแล้วถือว่ามีความสำคัญมากกับการสร้างครอบครัว ยิ่งถ้าสามีหรือภรรยาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องรับภาระดูแลครอบครัวของตัวเองด้วยแล้วจะยิ่งยุ่งยาก  การพูดคุยในส่วนนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลก  ดีกว่าปล่อยให้เกิดปัญหาหรือระแวงกันภายหลัง

การแยกรายจ่ายหลักๆ ของแต่ละฝ่าย  โดยเฉพาะภาระหนี้สินเดิม (จะได้รู้ศักยภาพว่าเราควรมีหนี้ใหม่หรือไม่) เป็นเรื่องที่สมควรทำอย่างยิ่ง  เพราะเมื่อทราบรายจ่ายแน่นอนก็จะประเมินรายจ่ายของครอบครัวที่กำลังจะสร้างร่วมกันได้  จากนั้นจะได้ประเมินรายรับของทั้งคู่ว่าเพียงพอสำหรับการใช้ชีวิตในระดับไหน

ทุกเดือนเมื่อมีรายรับเข้ามา  ควรแยกส่วนเงินออมไว้ก่อน ตามด้วยรายจ่ายและภาระทั้งหลาย  จากนั้นจะเหลือส่วนที่สามารถใช้สำหรับความบันเทิงของชีวิตคู่ก็ย่อมได้  ถือเป็นการยึดหลักการใช้จ่ายอย่างถูกวิธีและยังสุขในแบบข้าวใหม่ปลามันได้ด้วย

ส่วนคู่ไหนที่มีปัญหานอกเหนือจากนี้ แล้วอยากแชร์พร้อมแนะวิธีแก้ เชิญคอมเม้นต์มาได้ในกล่องใต้ล่างนี้ได้เลยค่ะ

 

ที่มาภาพ: Pixabay

Recommended