10 ไอเดียงานแต่งให้ว่าที่บ่าวสาวได้หยอดความเป็นตัวเองลงไปแบบจัดเต็ม

จะคู่แต่งงานไหนๆ ก็อยากให้ ไอเดียงานแต่ง มีความเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับงานแต่งงานตั้งแต่เล็กไปจนใหญ่ ทั้งดอกไม้ เค้กหรือรูปแบบของการตกแต่งต่างๆ แต่จะมีวิธีอะไรบ้างที่จะดึงความเป็นตัวของตัวเองออกมาให้เห็นในงานได้มากที่สุด วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวมมาให้แบบจัดเต็มถึงใจ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

ป้ายต้อนรับ

ป้ายต้อนรับคือสิ่งแรกที่แขกที่มาร่วมงานจะเห็น ลองตกแต่งป้ายต้อนรับด้วยข้อความหรือคำคมที่แสดงถึงความเป็นตัวตนของเจ้าของงาน และอาจทำป้ายต้อนรับแบบนี้ในขนาดเล็กลงเพื่อทำเป็นของชำร่วยด้วยก็ได้

แบ๊กดร็อปถ่ายภาพ

เพิ่มความสนุกสนานสำหรับงานแต่งงานมากขึ้นด้วยฉากหลังสำหรับการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นฉากหลังที่มีข้อความหรือรูปภาพต่างๆ ที่สื่อถึงความรักและงานแต่งงาน หรือฉากหลังที่ตกแต่งเต็มไปด้วยริบบิ้นสีสันสวยๆ เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานได้ใช้เวลาร่วมกันในการถ่ายภาพ

ภาพถ่ายส่วนตัว

ครอบครัวและเพื่อนคือสิ่งสำคัญสำหรับงานแต่งงาน  ลองจัดวางรูปถ่ายของครอบครัวและเพื่อนลงบนโต๊ะที่จัดเอาไว้ในงานแต่งงานพร้อมข้อความดีดีที่สื่อถึงความผูกพันและความทรงจำที่มีค่าระหว่างกัน หรืออาจทำเป็นแบบสมุดเยี่ยม เพื่อแขกพิเศษที่มาร่วมงานจะได้รู้สึกถึงความผูกพันเมื่อเห็นภาพของตัวเองในงานแต่งงาน

การตั้งชื่อและตัวเลข

การตั้งชื่อและตัวเลขที่มีความหมายสื่อถึงความทรงจำดีดีในอดีตเป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับงานแต่งงาน พยายามเลือกเรื่องราวที่แขกจะสนใจและนำมาเป็นหัวข้อสำหรับการสนทนาได้ โดยชื่อและตัวเลขอาจเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่ชอบ สถานที่ที่พบรัก เพลงหรืออะไรที่ดูพิเศษ และอาจอธิบายความหมายด้านหลังการ์ดที่เขียนชื่อและตัวเลขแต่ละอันเพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับแขกถึงความหมายหรือความทรงจำที่ต้องการจะสื่อด้วย

ของชำร่วย

การแจกของชำร่วยเป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับงานแต่งงาน และเป็นสิ่งง่ายๆที่จะทำให้งานแต่งงานเป็นที่จดจำ คู่บ่าวสาวสามารถใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปในของชำร่วยได้อย่างเต็มที่และไม่มีขีดจำกัดของการสร้างสรรค์ชิ้นงานเหล่านี้ขึ้นมา

อาหารและเครื่องดื่ม

อาหารและเครื่องดื่มเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานแต่งงาน อาจใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงไปในอาหาร เครื่องดื่มหรือของหวานได้ตามความต้องการ

ดนตรี

ดนตรีที่บรรเลงประกอบในงานแต่งงานมีส่วนสำคัญในการช่วยสร้างอารมณ์และบรรยากาศทั้งในขั้นตอนพิธีและการรับรองแขก คู่บ่าวสาวสามารถใส่ความเป็นตัวของตัวเองลงในบทเพลงและส่งให้ DJ หรือวงดนตรีเปิดหรือเล่นสดในงานแต่งงานได้ นอกจากนี้ยังสามารถให้แขกที่มาร่วมงานส่งเพลงที่ต้องการฟังให้ DJ หรือวงดนตรีเปิดได้ด้วยเช่นกัน

CAKE TOPPER

CAKE TOPPER คือสิ่งสนุกๆ สำหรับคู่แต่งงานที่จะช่วยกันคิดและสร้างสรรค์ร่วมกัน โดยอาจแต่งด้านบนของเค้กด้วยนามสกุลหรือตัวการ์ตูนตัวเล็กๆ ตามความความชอบและความต้องการของแต่ละคน

HASHTAG

hashtag คือความสนุกเล็กๆ แบบง่ายๆ ที่แขกสามารถใช้ประกอบรูปภาพเมื่อแบ่งปันรูปบนโซเชียล มีเดีย มันเป็นสิ่งง่ายๆ ที่จะช่วยแชร์ประสบการณ์ในวันแต่งงานให้คนอื่นได้รับรู้

เจ้าบ่าว

ไอเดียงานแต่ง

ในงานแต่งงานส่วนใหญ่ เจ้าบ่าวมักไม่ค่อยมีบทบาทสำคัญอะไรมากนักสำหรับการจัดเตรียมงานในขั้นตอนต่างๆ และความต้องการของเจ้าบ่าวเองอาจถูกละเลยจากเจ้าสาวไปเลยก็ได้ สำหรับทางออกของเรื่องนี้คือการทำให้เจ้าบ่าวได้มีโอกาสแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งอาจเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างกระดุมข้อมือหรือหูกระต่ายที่เจ้าบ่าวสามารถเลือกเพื่อให้เหมาะกับบุคลิคและเอกลักษณ์ของตัวเองได้อย่างเต็มที่

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติม คลิกเลย! <<

cr : modernwedding.com.au, fionasweddingphotography.co.uk

เมื่อแฟนทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วคนกลางอย่างเราจะวางตัวอย่างไร?

เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าบังเอิญว่าคุณต้องกลายเป็นคนกลางเวลาที่ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ยิ่งถ้าอยู่ในสถานที่บังคับแบบไปไหนไม่ได้อย่างในรถ ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในบ้านของตัวเอง แล้วคนกลางอย่างคุณจะวางตัวแบบไหนดี เพื่อให้คุณเองไม่ต้องกลายเป็นอีกคนที่มีปัญหา

นิ่งไว้ก่อนปลอดภัยสุด

คำแนะนำแรกที่เราขอให้คุณทำเมื่อสถานการณ์ตรงหน้ามาคุคือ การอยู่นิ่งๆ ค่ะ อย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นเอี่ยว เพราะเดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ นิ่งและฟังอย่างเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วดูเชิงสักนิดว่าคุณออกมาจากเหตุการณ์ตรงนั้นได้ไหม เหตุผลคือ เป็นการให้เกียรติคนในครอบครัวคุยกันเองยังไงละค่ะ ต่อให้คุณจะสนิทกับครอบครัวของเขามากแค่ไหนก็ตาม หรือแม้จะแต่งงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาก็ตาม นิ่งค่ะ ขอย้ำให้นิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ

ห้ามไม่ได้ให้นิ่งไว้

บางคนบอกว่า เหตุการณ์มันสุดๆ จริงๆ ไม่เอี่ยวไม่ได้ ถ้าคุณลองเอ่ยปากพูดไกล่เกลี่ยให้ต่างฝ่ายใจเย็นลงแล้วก็ยังไม่ได้ผล อย่าพยายามค่ะ เพราะเสียงที่สามอาจไปกระตุ้นให้เรื่องไปกันใหญ่ และดีไม่ดี คนที่ทะเลาะกันอยู่ อารมณ์กำลังพุ่ง อาจจะลากคุณเข้าไปเอี่ยวจนกลายเป็นไฝว้หนักไปใหญ่ตามประสาคนพาลหรือคุมอารมณ์ไม่ได้ ฉะนั้น จำไว้เลย เมื่อเอ่ยปากห้ามแล้ว ไกล่เกลี่ยแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น จงนิ่ง!!

อย่าเข้าข้างใครเด็ดขาด

เวลาที่คนเราทะเลาะกันแล้วมีบุคคลที่สาม (อย่างคุณ) ที่ไม่เกี่ยวอยู่รับรู้เหตุการณ์ด้วย มีสิทธิ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหันมาถามความเห็นของคุณว่าคิดยังไง ใครคือคนผิด จะต้องการหาพวก หรือให้คุณตัดสินก็ตามที แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเอ่ยปากทำนองเข้าข้างใครคนนึงแล้วละก็ งานเข้าแต่ๆเพราะอีกคนจะหมางใจกับคุณได้ทันที ถ้าคนที่คุณเข้าข้างคือแฟนตัวเอง อีกคนที่อาจเป็นพ่อแม่พี่น้องเขาจะพลอยไม่ชอบคุณขึ้นมา หรือถ้าคุณเข้าข้างอีกฝ่าย คุณก็มีสิทธิ์ทะเลาะกับแฟนตัวเอง แต่ถ้าโดนถามขึ้นมาจะตอบยังไงใช่ไหม วิธีที่ดีที่สุดคือ พยายามยืนยันให้ทั้งสองฝ่ายใจเย็นๆ พูดกันด้วยเหตุผล และเลี่ยงจะให้คำตอบแบบเลือกข้างเด็ดขาด

อย่ายุส่ง

ถึงจะรักแฟนแค่ไหน หรือจะอยากเอาใจครอบครัวของเขามากสุดไปก็อย่าได้พูดจากทำนองยุส่งหรือเสี้ยมให้ตีกันจนแตกแยกเด็ดขาด อันนี้ไม่ว่าจะในขณะที่เขาไฝว้กันอยู่หรือลับหลังแบบที่อีกคนมาบ่นมาข้อความเห็นนะคะ ถึงคุณจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดจริงๆ แต่อย่าลืมนะคะว่า คุณในฐานะคนกลางจะอยู่ยาก ถ้าพูดจายุยงให้คนในครอบครัวเขาตีกันเอง เพราะเมื่อไหร่เขามีสติ เชื่อเถอะว่า เลือดข้นกว่าน้ำ เข้าใจเนอะ

เมื่อสงครามสงบเมื่อไหร่ จงจำไว้ค่ะ ขอให้คุณจงเป็นผู้ฟังที่ดีไม่ว่าฝ่ายไหนมาระบายความในใจให้ฟัง จงฟังและอย่าวิจารณ์ ถ้าอยากพูด ขอแนะนำให้พูดให้ต่างคิดถึงความหวังดี ความรักของแต่ละฝ่าย เพื่อเป็นการเตือนสติอ้อมๆ ให้เห็นถึงความผูกพันธ์ของความเป็นครอบครัว แบบนั้นจะดีและจบสวย คนที่ต้องวางตัวเป็นกลางอย่างคุณปลอดภัยชัวร์ เชื่อสิ!!

อ่านบทความเพิ่มเติม

สกัด! สต๊อป! ความเยอะของญาติเพื่อการจัดงานแต่งงานอย่างมีความสุข

แชร์ต่อให้เขารู้! 8 เรื่องที่เจ้าสาวอยากให้เจ้าบ่าวช่วยช่วงเตรียมงานแต่ง

ฮวงจุ้ยเสริมรัก กับความเชื่อและเคล็ดลับการตกแต่งเรือนหอให้เวิร์ก

เพิ่มความงามเจ้าสาวด้วยไอเท็ม 4 สไตล์ช่วยหยอดเสน่ห์ให้สวยหรูดูดี

สำหรับเจ้าสาวบางคนที่กำลังคิดว่าลุคเจ้าสาวของตัวเองในวันงานดูน้อยเกินไปหรือเปล่า เลยคิดอยากจะเพิ่มแอคเซสซอรี่สักชิ้นเผื่อจะช่วยเสริมความโดดเด่นให้กับลุคของตัวเองได้ แพรว wedding เลยจัดให้กับ 4 ไอเท็มที่จะช่วยเสริม ความงามเจ้าสาว และมาพร้อมความงามแบบเรียบหรูดูดีที่จะช่วยให้ทั้งชุดแต่งงานและลุคของเจ้าสาวให้คอมพลีตในวันแต่งงาน

เครื่องประดับศีรษะ

ความงามเจ้าสาว

แอคเซสซอรี่สุดฮิตของเจ้าสาวที่มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ ตั้งแต่เครื่องประดับชิ้นเล็กๆ อย่าง กิ๊บติดผมไปจนถึงเครื่องประดับสุดอลังการอย่างเวลเจ้าสาว หรือเจ้าสาวคนไหนที่อยากได้ลุคแบบเจ้าหญิงต้องไม่พลาดกับลุคเทียร่าที่ช่วยเพิ่มความสง่าให้กับลุคของคุณได้เป็นอย่างดี เอาเป็นว่าเลือกให้เหมาะกับชุดและทรงผมเป็นพอ ซึ่งเรื่องนี้ช่างทำผมของเจ้าสาวในวันงานจะสามารถให้ความช่วยเหลือได้ เพราะฉะนั้นหากเจ้าสาวมีเครื่องประดับที่อยากใส่ในวันงานอยู่แล้ว ก็อย่าลืมส่งไปให้ช่างได้ดูก่อนที่จะทำผมจริงในวันงานด้วยนะคะ เพื่อที่ช่างจะได้ออกแบบทรงผมให้เข้ากับเจ้าสาวและเครื่องประดับ หรือจะขอความคิดเห็นจากช่างทำผมมืออาชีพก็ได้เช่นกันว่า ชุดแบบนี้ งานประมาณนี้ คุณควรจะเลือกแอ็คเซสซอรี่แบบไหนดีถึงจะเข้ากัน รับรองว่าคำแนะนำจากช่างผมมืออาชีพช่วยคุณได้แน่นอน

เข็มขัดชุดแต่งงาน

อีกหนึ่งไอเท็มง่ายๆ ที่เพิ่มมาปุ๊บเอวมาปั๊บ แถมยังช่วยให้ชุดแต่งงานดูหรูหราขึ้นมาทันที ไม่ว่าจะเป็น เข็มขัดผ้าธรรมดา เข็มขัดประดับเพชร ประดับเลื่อม หรือเข็มขัดประดับลูกปัด เพียงแค่เลือกให้แตช์กับชุดของเจ้าสาวก็ช่วยให้ลุคโดยรวมคอมพลีตแล้ว แต่ถ้าหากความวิบวับระยิบระยับไม่ใช่สไตล์คุณก็อาจจะเลือกเป็นเข็มขัดประดับดอกไม้แบบ 3D ก็ได้ หรือถ้าเจ้าสาวไม่มั่นใจว่าแบบไหนจะดีที่สุด แนะนำให้ปรึกษากับร้านชุดหรือดีไซเนอร์เลยค่ะ รับรองว่าออกมาดูดีแน่นอน

รองเท้าเจ้าสาว

ถือเป็นไอเท็มสำคัญที่สุดของลุคเจ้าสาวก็ว่าได้ เพราะหากมองไล่ลงมาตั้งแต่ศีรษะแล้วมาสะดุดที่รองเท้าก็ดูน่าตกใจไม่น้อย เจ้าสาวบางคนอาจจะคิดว่าชุดแต่งงานยาวขนาดนี้จะใส่รองเท้าแบบไหนก็ได้คงไม่มีใครเห็นหรอก แต่อย่าลืมนะคะไม่ว่าคุณจะอยู่ในชุดแต่งงานยาวขนาดไหน แต่ในช่วงที่ต้องเดินเข้างานตอนนั้นล่ะค่ะที่ความลับจะถูกเปิดเผย เพราะหากรองเท้าที่ไม่งามโผล่พ้นออกมาทักทายโลกภายนอกเมื่อไหร่ก็เป็นอันจบกัน เพราะฉะนั้นหากเจ้าสาวกลัวเมื่อยหรือกลัวว่ารองเท้าแสนสวยจะพังเพราะต้องยืนรับแขกที่แบ็กดรอปเป็นเวลานาน ก็อาจจะเตรียมรองเท้าสำรองในช่วงถ่ายรูปที่แบ็กดรอปไว้สักคู่ แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นรองเท้าคู่สวยเพื่อช่วยให้ลุคโดยรวมเพอร์เฟกต์ในช่วงเดินเข้างาน หรือถ้าเจ้าสาวคนไหนที่ไม่ชอบใส่ส้นสูง ก็สามารถสวยในแบบฉบับเจ้าสาวที่สวมรองเท้าไร้ส้นได้เช่นกัน

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ไอเท็มสุดท้ายที่ช่วยเสริมลุคให้กับเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี กับช่อบูเกต์ดอกไม้แสนสวย ที่เจ้าสาวสามารถครีเอตลุคช่อดอกไม้ได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้ที่ชอบ สีสันที่เข้ากับงาน หรือจะเพิ่มกิมมิกสนุกๆ เข้าไปในช่อดอกไม้ให้เข้ากับธีมงานหรือสถานที่ก็ยังได้

เป็นยังไงบ้างคะ กับไอเท็มสวยๆ งามๆ ที่ช่วยเสริมลุคเจ้าสาวที่เรานำมาฝาก เอาเป็นว่าเลือกที่ชอบในแบบที่ใช่และเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด แล้วอย่าลืมถ่ายรูปสวยๆ มาฝากเราด้วยนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

CR. www.noononthemoon.com, www.azazie.com, www.pinterest.com, www.watters.com, www.brides.com, www.notonthehighstreet.com, www.amazon.com, www.weddingomania.com, www.pexels.com

 

สวยไม่หลุดกรอบกับการเลือก ชุดเพื่อนเจ้าสาว ให้เหมาะกับสถานที่แต่งงาน

ชุดเพื่อนเจ้าสาว จะสวยปัง ถ้าเลือกให้เข้ากันกับสถานที่ด้วย

นอกจากที่ว่าที่เจ้าสาวจะต้องเลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับสถานที่แล้ว แก๊งเพื่อนเจ้าสาวก็ต้องเลือก ชุดเพื่อนเจ้าสาว ให้กับสถานที่เช่นเดียวกันนะ เพราะแก๊งเพื่อนเจ้าสาวก็เปรียบเหมือนเพื่อนนางเอกที่ต้องดูดีในวันงานเช่นกัน เพราะฉะนั้นสไตล์ของทุกคนในแก๊งต้องเข้ากัน แมตช์กับลุคเจ้าสาว และที่สำคัญต้องเข้ากับสถานที่ด้วยถึงจะชนะเลิศ

ซึ่งหากเป็นงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ สาวๆ ก็อาจจะเลือกดีเทลของชุดให้มีความสดใสเข้ากับแสงแดดของธรรมชาติ เช่น ลายดอกไม้ หรือสีสันสดใสแบบแฟชั่น เช่น สีม่วงอ่อนๆ หรือสีเหลืองขมิ้น เป็นต้น

แต่ถ้าหากเป็นงานแต่งงานริมทะเล ก็อาจจะเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้มีเฉดสีอ่อนลงมาอีกนิด เช่น สีเขียวน้ำทะเล (seafoam green) สีฟ้าพาสเทล หรือสีชมพู หรือขาวก็ได้ (หากเจ้าสาวอนุญาต)

ส่วนงานแต่งงานในบรรยากาศโรงแรมสุดหรูนั้น อาจจะต้องเลือกความโดดเด่นให้กับลุคมากเป็นพิเศษ เช่น เลือกใช้ผ้าซาติน หรือผ้าชีฟองที่มีความหรูหราอยู่ในตัวเอง

เพราะฉะนั้นการเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้เหมาะกับสถานที่ จะทำให้แก๊งสาวของคุณดูดีขึ้นแบบคูณร้อยเลยทีเดียว

ชายทะเล

เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศอาจจะนำเอาแรงบันดาลใจอย่างสไตล์โบฮีเมียนมาเป็นแรงบันดาลใจก็ได้นะคะ โดยเน้นผ้าชีฟองที่บางเบาพลิ้วไหวไปตามลมทะเล เน้นเฉดสีพาสเทลอ่อนๆ เพื่อให้เข้ากับผืนน้ำและผืนฟ้า อาจจะเสริมความโดดเด่นให้ชุดเดรสตัวสวยด้วยดีเทลผ้าลูกไม้ก็ดูเข้ากับบรรยากาศทะเลไม่น้องเหมือนกันน้า

 

โบสถ์

เนื่องจากเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เพราะฉะนั้นสาวๆ ก็ต้องแต่งตัวให้เกียรติสถานที่ด้วยนะ หลีกเลี่ยงชุดสไตล์แบบเปิดไหล่ที่อาจดูโป๊เกินไปไม่เหมาะกับสถานที่ ลองมองหาเป็นชุดเดรสสวยๆ มีแขนดีไซน์แบบมีระบายดูหรูหรา หรือจะเลือกเป็นชุดเดรสที่เป็นดีไซน์แบบเสื้อคลุมก็ดูทันสมัยและเข้ากระแสในช่วงนี้อีกด้วย

โรงแรมสุดหรู

งานสวยหรูดูแพงต้องมา เน้นชุดที่มีดีเทลโดดเด่น เนื้อผ้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น ผ้าเครป ผ้าชีฟอง หรือผ้าลูกไม้ รูปแบบชุดที่ดูทันสมัย นำแฟชั่น หรือการสร้างสรรค์ที่เต็มไปด้วยความสวยงาม (แต่ต้องไม่เกินหน้าเกินตาเจ้าสาวนะจ๊ะ) เรียกได้ว่าเป็นสถานที่แต่งงานที่เพื่อนเจ้าสาวสามารถจัดเต็มได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว

งานแต่งในสวน

เพื่อนเจ้าสาวต้องเลือกชุดแต่งงานให้เหมาะสมกับบรรยากาศของงาน โดยอาจเลือกเป็นผ้าลายดอกที่เข้ากับบรรยากาศสวน ส่วนรูปแบบชุดนั้นก็เลือกได้หลากหลายตามสไตล์ของแต่ละแก๊ง ตั้งแต่เกาะอกไปจนถึงแขนยาว เอาเป็นว่าเลือกให้เข้ากับธีมงานและตัวตนของแก๊งและตัวคุณเป็นพอ

เลือกแบบเลือกสไตล์กันได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาชุดได้ที่ไหน ตามลิงค์นี้มาเลย >> รวมร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวสวยงามอลังการ ราคาแค่หลักร้อยถึงหลักพัน

ภาพ brides.com, shoprevelry.com, pinterest

ว่าที่ลูกสะใภ้รู้ไว้ก็ดีจะได้ทำตัวถูกกับ 4 นิสัยพื้นฐานของพ่อสามี

ส่วนใหญ่เราจะได้ยินปัญหาของแม่ผัวลูกสะใภ้ใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้ว พ่อผัวกับลูกสะใภ้ก็มีปัญหาให้เห็น แถมบางบ้านสะสมความขุ่นใจกันมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นสงครามเย็นโดยไม่รู้ตัวซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณมองข้ามนิสัยบางอย่างของ พ่อสามี หรืออาจเป็นเรื่องคาดไม่ถึง ซึ่งไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด วันนี้เราจึงสรุปแบบกว้างๆ มาให้ ถ้าคุณกำลังจะเข้าไปเป็นสะใภ้บ้านไหน ลองอ่านบทความนี้ดู จะได้เตรียมปรับตัวให้เข้ากับพ่อสามีในอนาคตได้

  • พ่อสามีส่วนใหญ่ไม่พูดเยอะแต่ดูอยู่ห่างๆ

อย่าคิดว่าพ่อสามีจะละเลยเรื่องชีวิตคู่ของคุณกับลูกชายของเขานะคะ เพราะส่วนใหญ่จะเน้นดูการกระทำของคุณอยู่เงียบๆ ประกอบกับดูปฏิกริยาของลูกชายตัวเองว่ามีความสุขดีอยู่ไหม ชีวิตคู่เป็นไปอย่างที่ลูกชายเคยคุยเคยฝันหรือเปล่า และการไม่พูดไม่ใช่กำลังจับผิด แต่เป็นการให้เกียรติในการใช้ชีวิตของคุณต่างหาก ฉะนั้นว่าที่สะใภ้ทั้งหลายอย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน พ่อนั้นไม่สนหรอก ขอบอกเลยว่าคิดผิด

  • พ่อสามีพูดทีมีอึ้ง

ต่อเนื่องให้รู้กันไปจากข้อที่แล้ว คือไม่พูดก็คือไม่พูด แต่ถ้าเปิดปากพูดเมื่อไหร่ ส่วนใหญ่จะแปลว่าสุดๆ แล้วล่ะ ไม่พูดให้รู้ตัวคงไม่ได้ อะไรประมาณนั้น ซึ่งตรงนี้จะต่างจากแม่สามีที่เห็นปุ๊บก็อาจพูดปั๊บจนคุณอาจรู้สึกเบื่อหน่ายจนฟังทะลุหูไปเลยด้วยความเคยชิน แต่ถ้าเป็นพ่อสามีพูดเมื่อไหร่ รู้ไว้เถอะค่ะว่าพฤติกรรมของคุณนั้น เข้าขั้นต้องตรวจสอบแล้วนะ

  • พ่อสามีก็มีความเป๊ะเหมือนกัน

จริงๆ แล้วพ่อสามีมีความหยวนมากกว่าแม่สามีก็จริงนะคะ ฉะนั้นทำความสะอาดบ้านเนี้ยบไหม ทำอาหารอร่อยหรือเปล่าไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะมานั่งจุกจิกกันทุกวี่วัน แต่มักจะจุกจิกเฉพาะเรื่องมากกว่า เช่น ความเป๊ะในเรื่องที่เกี่ยวกับประเพณีสืบทอด การไหว้เจ้า ธรรมเนียมทำตามกันมา (โดยเฉพาะครอบครัวคนจีน) หรือบางบ้านอาจมีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาในบางสถานการณ์ซึ่งหากคุณเป็นคนไม่ละเอียด ไม่ค่อยจะเป๊ะกับหลายๆ เรื่อง อาจค่อยๆ เริ่มสร้างความละเอียดให้กับตัวเองผ่านเรื่องเหล่านี้ก็ดีนะคะ

  • พ่อสามีไม่หวงลูกชายแต่จะห่วงมากกว่า

อันนี้ต้องเข้าใจให้ถูกประเด็นนะคะแม่สามีอาจจะหวงลูกชายที่ลูกสะใภ้มาแบ่งความรักไปแต่สำหรับพ่อสามีไม่ใช่นะคะท่านจะห่วงในเรื่องการใช้ชีวิตคู่ การสร้างครอบครัว การเป็นผู้นำของลูกชาย ซึ่งก็ทำให้ไปคาดหวังกับตัวลูกสะใภ้อยู่ลึกๆ ว่าจะเป็นคู่ชีวิตที่เข้ามาช่วยกันคิดช่วยกันให้เกิดเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ได้ไหม

อ่านถึงตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งส่ายหน้าว่าจะไหวไหม เพราะหากคุณมั่นใจว่าจะทำหน้าที่สะใภ้ได้ดี เชื่อเถอะค่ะว่า 4 นิสัยพื้นฐานเห่านี้คุณเอาอยู่แน่นอน และดีไม่ดี คุณอาจจะกลายเป้นลูกสะใภ้คนโปรดของพ่อสามีไปเลยก็ได้

สิ่งสำคัญที่แพรวเวดดิ้งอยากบอกกับว่าที่ลูกสะใภ้หรือคนที่เป็นสะใภ้ไปแล้วให้รู้ไว้คือ ความคาดหวังมีได้ทั้งสองฝ่ายนะคะ คุณพ่อสามีก็คาดหวังการเป็นลูกสะใภ้ที่ดีของคุณ ขณะที่คุณก็คาดหวังให้ท่านเอ็นดู ฉะนั้นค่อยๆ ปรับตัวในการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว และไม่ลืมสื่อสารสิ่งที่คิดอยู่ เพราะหาก

ขาดการสื่อสารไม่คุยกัน หรือคุยกันน้อยแบบว่าคุยเท่าที่จำเป็น ก็ทำให้ไม่เกิดการเรียนรู้ ไม่มีการปรับตัว และทำให้ไม่เข้าใจในความต้องการของอีกฝ่ายสักที ซึ่งเมื่อขาดการสื่อสารมากๆ เข้า การปรับจูนกันก็ยากขึ้นจนจูนไม่ได้แล้วแบบนี้จะไม่เป็นปัญหาไปได้ยังไงไหว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย <<

ภาพ www.rd.com

5 พฤติกรรมชวนยี้ที่คุณอาจต้องเจอหลังแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัว

นี่เหรอ คือสิ่งที่เราต้องเจอ หลังแต่งงาน !!

“ไม่คิดว่าเขา/เธอจะเป็นแบบนี้” หรือ “ตอนเป็นแฟนกันไม่เห็นทำเลย” ประโยคเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ในทุกคู่แต่งงานค่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้ว พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันจะมาปรากฏก็เมื่อร่วมหอกันไปเรียบร้อยแล้ว ก็แหม…คนเราต้องอยู่ด้วยกันนี่นา จะกั๊กตัวตนได้ตลอดเหมือนตอนอยู่บ้านใครบ้านมันได้ไงล่ะ ซึ่งพออีกฝ่ายรู้ก็อาจมีอึ้ง มียี้และมีส่ายหน้าได้ ว่าแต่มีพฤติกรรมอะไรบ้าง ที่คุณอาจเจอ หลังแต่งงาน แพรวเวดดิ้งรวมมาให้แล้ว จะได้เตรียมตัวรับมือกับยี้ที่คาดไม่ถึง

ผายลมเรี่ยราด

ตอนเป็นแฟนกันต้องระวังตัวสุดๆ แต่พอมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้วคุณคงเลี่ยงที่จะเจอไม่ได้ บางคนบอกว่าปวด_ด ก็เดินออกไป_ด ที่โซนอื่นสิ ไม่ใช่มา_ดต่อหน้า ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็ไม่ใช่พฤติกรรมชวนยี้หรอกค่ะ เพราะคุณไม่ต้องเหวอหรือยี้ๆๆ กับสิ่งที่อีกคนทำ

เรอดังลำโพงแตก

มาแต่เสียงยังไม่เท่าไหร่ บางคนมาพร้อมกลิ่น ใครที่คิดว่าชาตินี้ไม่น่าจะเจอก็อาจเจอได้หลังแต่งงาน แม้ว่าตอนเป็นแฟนกันคุณจะเคยกินข้าวด้วยกันเป็นร้อยมื้อมาแล้วก็ตาม แต่อย่างที่บอกไงค่ะว่า เมื่อมาร่วมบ้านเรื่องเหล่านี้เลี่ยงยากจริงๆ ฉะนั้นละก็ ทำใจซะ!!

ถ่ายหนักแล้วไม่กดชักโครก

ถ้าคุณสงสัยว่าจะมีคนแบบนั้นเหรอ คำตอบคือ มีค่ะ มีแน่นอน เพียงแต่จะมีใครมาพูดเท่านั้นเอง แต่แพรวเวดดิ้งขอเป็นตัวกลางมาบอกให้คุณรับรู้ และทำความเข้าใจสักนิดว่า จริงๆ แล้วเขาอาจไม่ใช่คนซกมกหรอกค่ะ เพียงแต่ใช้ชีวิตแบบนี้มาจนชิน พอมีคนมาอยู่ด้วยก็เผลอไป

ชีวิตส่วนตัวตอนที่ยังใหม่แต่งงานของคนกลุ่มนี้คือ พอขับถ่ายแล้ว ไม่กดชักโครกทันที แต่จะมีการสำรวจตรวจตราสุขภาพตัวเองก่อนเสมอ อาจลืมกดจนเป็นนิสัย ซึ่งเมื่อก่อนอยู่คนเดียวหรืออยู่ร่วมกับคนในครอบครัวก็ยังมากดกันทีหลังได้ แต่บังเอิญนี่คือหลังแต่งงาน และคุณเพิ่งใช้ชีวิตร่วมกัน ก็อาจเป็นไปได้ที่คุณจะโป๊ะแตกเจอของแถมหลังจากใช้ห้องน้ำต่อจากเขาหรือเขาไปใช้ห้องน้ำด้วยเมื่อตอนเขายังใช้ไม่เสร็จ

นอนเป่าปาก เป๊าะๆๆ

เป่าปากค่ะไม่ใช่กรน อันนี้คุณคงโกรธเขาไม่ได้ เพราะเจ้าตัวเองอาจไม่เคยรู้ตัว ซึ่งแม้จะไม่หนักหนาเท่านอนกรน แต่ถ้าไม่ชินก็แอบหนวกหูเหมือนกันนะทีนี้ถ้าถามว่ามันชวนยี้ยังไง ข้อมูลที่ได้มาคือ เป่าปากที่แค่มีลมออกมาไม่เท่าไหร่ เจอบางคนที่มีน้ำลายในปากเยอะ การเป่าปากเลยมีน้ำลายเป็นของแถม แล้วเวลานอนพลิกไปมาก็อาจเจอน้ำบ่อน้อยกระเด็นใส่หน้าซะงั้น

ถอนผมมาแปะหน้ากระจก

อันนี้ไม่ใช่โรคจิตนะคะ แต่เพราะเวลาดึงผมหงอก หรือผมคัน มันต้องทำที่หน้ากระจก แล้วทีนี้จะเอาผมที่ดึงได้ไว้ไหนดี อ่ะ แปะมันไว้ที่กระจกก่อน แต่สุดท้ายคือลืม!! แล้วใครเดือดร้อนล่ะ ก็คนที่อยู่ร่วมห้องร่วมบ้านอย่างคุณไงล่ะ แม้เส้นผมจะไม่ได้เป็นสิ่งสกปรก แต่แปะไว้เยอะไปก็ยี้เหมือนกันนะ

ถ้าคุณพยายามปล่อยวางกับพฤติกรรมนี้ด้วยความเข้าใจแล้วยังไม่ไหวก็บอกอีกฝ่ายได้นะคะ แต่อย่างหนึ่งที่เราขอบอกคุณคือ มันเป็นธรรมดาของคนที่ใช้ชีวิตร่วมกันที่ต้องเจอ บางเรื่องบางอย่างที่เขาไม่แสดงออกมาตอนเป็นแฟนเพราะอาจจะยังรู้สึกไม่สนิทใจและยังเกรงใจ แต่พอมาอยู่ด้วยกันมันคือเรื่องของตัวตนซึ่งไม่ได้หมายความว่าปรับกันไม่ได้ ฉะนั้นหากเจอพฤติกรรมชวนยี้เหล่านี้ ลองค่อยๆ ปรับทัศนคติของคุณและอีกฝ่ายนะคะ จะได้อยู่ด้วยกันได้อย่างแฮปปี้

อ่านบทความเพิ่มเติม

รู้ทันและเอาอยู่ กับ 4 ปัญหากวนใจหลังแต่งงานที่หลายคนต้องเจอ

7 เรื่องสำคัญที่บ่าวสาวต้องเห็นพ้องต้องกันก่อนจะวางแผนจัดงานแต่ง

เรื่องเงินต้องพูด “งานไหนใครจ่าย” ในงานแต่งงานของสองเรา

5 นิสัยคนมีคู่ต้องรู้และต้องเปลี่ยนเมื่อคิดจะย้ายเข้าบ้านอีกฝ่าย

หลังแต่งงานจะอยู่บ้านใครไม่ใช่ประเด็น เพราะสำคัญกว่านั้นคือ การย้ายเข้าไปอยู่กับครอบครัวของอีกฝ่าย คุณจะใช้นิสัยแบบเดิมๆ เมื่อครั้งอยู่กับครอบครัวตัวเองไม่ได้เด็ดขาด แล้วมีนิสัยอะไรบ้างล่ะ ที่คุณต้องเปลี่ยนเมื่อคิดจะ ย้ายเข้าบ้านอีกฝ่าย มาดูกันค่ะ

1. นอนตื่นสาย

ตอนอยู่กับครอบครัวตัวเอง คุณจะทำตัวเป็นคุณนายตื่นสาย หรือเจ้าชายสายเสมอไม่มีใครว่า แต่เมื่อเข้ามาอยู่กับบ้านอีกฝ่ายจะทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่า แต่ละบ้านก็มีกิจกรรมยามเช้าที่ต่างกัน เช่น การร่วมกันกินข้าวเช้า การทำความสะอาดบ้าน ฯลฯ ลองคิดดูสิว่า ขณะที่คนทั้งบ้านตื่นมาทำนั่นนี่แต่คุณนอนสายตะวันโด่งกว่าจะลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว มันดูดีซะที่ไหน

2. ไม่ช่วยงานบ้าน

แม้อยู่ที่บ้านของตัวเอง คุณจะมีใครต่อใครทำงานบ้านให้จนคุณแทบไม่ต้องกระดิกตัว แต่เมื่อมาอยู่บ้านอีกฝ่าย ต้องรู้จักหยิบจับทำนั่นนี่ซะบ้าง และแม้ว่าบ้านหลังใหม่ที่คุณย้ายเข้าไป จะมีคนช่วยทำงานบ้านให้ก็เถอะ คุณเองก็ควรช่วยเป็นหูเป็นตา หรือลงมือช่วยทำงานเล็กๆ น้อยๆ บ้าง ไม่ใช่เอาแต่ชี้นิ้วสั่ง หรือรอให้ฝุ่นปลิวหายไปเอง

3. ช่างติ

แม้คุณจะรู้สึกว่า ที่บ้านคุณไม่ได้มีวิถีชีวิตแบบนี้ก็เถอะ อย่าลืมว่าบ้านใครบ้านมัน บ้านหลังนี้คือครอบครัวใหม่ที่คุณเข้ามาอยู่ การเรียนรู้และเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามสำคัญมาก เห็นอะไรไม่ถูกใจอย่าเพิ่งเปิดปากเอาแต่ติ ลองดูไปสักพักเพื่อให้ได้ข้อมูลก่อนว่า ก่อนคุณจะเข้ามาอยู่ คนที่นี่เขาใช้ชีวิตกันอย่างไร ถ้าสิ่งที่เป็นอยู่ไม่เข้าท่า เลือกใช้คำพูดดูดีที่ไม่ใช่การเอาแต่ติ หรือแต่พูดว่าที่บ้านของคุณเป็นอย่างนั้นอย่างนี้

4. หัดมีน้ำใจและช่วยจ่ายซะบ้าง

แม้ครอบครัวของอีกฝ่ายร่ำรวยเงินทองแต่นั่นก็คือเงินของครอบครัวฝ่ายนั้น อะไรที่คุณช่วยดูแลจับจ่ายให้ได้ก็ควรแสดงน้ำใจ เช่น เห็นยาสีฟันหมด ก็ไปซื้อมาเติม ขนมบนโต๊ะกินข้าวพร่องไปก็ซื้อมาใหม่ หรือแม้แต่คุณซื้ออาหารอะไรมากินในบ้าน ก็ควรซื้อมาเผื่อคนอื่นๆ บ้าง อย่าคิดเด็ดขาดว่า ไม่ใช่บ้านของคุณ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องจ่าย หรือประเภทว่าซื้อไปไม่รู้กินไหม รอให้เจ้าของบ้านซื้อก็พอ แบบนี้ไม่น่ารัก ไม่มีน้ำใจและเอาแต่ได้สุดๆ

5. ไม่เข้าสังคม

จะช่วยใช้ชีวิตปลีกวิเวกเงียบๆ คนเดียวมากแค่ไหนต้องปรับ เพราะเมื่อเข้าไปอยู่กับครอบครัวอีกฝ่าย การมีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัวนั้นๆ คือเรื่องสำคัญ จึงควรมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของที่บ้าน หรือแม้แต่แค่นั่นดูโทรทัศน์ด้วยกันก็เป็นการละลายพฤติกรรมและทำให้ใกล้ชิดกับครอบครัวใหม่มากขึ้น

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย <<

คุณแม่เจ้าสาวต้องรู้! 5 เคล็ดลับเลือกใช้เครื่องประดับแบบนี้ไม่โดนเม้า

ใช่ว่างานแต่งงานจะเป็นวันที่น่าจดจำเฉพาะแค่บ่าวสาวเท่านั้นนะคะ เพราะสำหรับคนเป็นแม่ โดยเฉพาะ แม่เจ้าสาว วันนี้คืออีกวันที่จะตราตรึงความประทับใจไว้กับตัวเองในฐานะผู้ให้กำเนิดเจ้าสาวคนสวยในงานแต่ง ซึ่งแน่นอนว่าเครื่องประดับแสดงฐานะต้องเป๊ะและปัง แต่จะแต่งยังไงไม่ให้โดนเม้าว่ามากไปน้อยไป ตามแพรว wedding มาเลย

อย่าใส่ชิ้นใหญ่ไปซะหมด

ไม่อยากโดนบ้านเจ้าบ่าวหรือแขกในงานเม้าว่าอวดร่ำอวยรวยหรือเว่อร์เกินไปก็จงระวัง อย่าเลือกเครื่องประดับชิ้นใหญ่มาประโคมไว้บนตัวเด็ดขาด ถ้าตัดใจไม่ได้จริงๆ อาจเลือกเพียงแค่ชิ้นเดียวที่จะยกตำแหน่งไฮไลท์ของเครื่องประดับในวันนั้นก็พอ

เลี่ยงเครื่องประดับที่ทำให้เกิดเสียง

เครื่องประดับที่ทำให้เกิดเสียงก็คือ การใส่เครื่องประดับแบบเดียวกันหลายชิ้น เช่นกำไลข้อมือ หรืออาจเป็นต่างหูห้อยระย้าที่มาเป็นพวงยาวแล้วมีเสียงทุกทีที่หันหน้าไปยิ้มรับแขกไงล่ะคะ ซึ่งข้อเสียที่เครื่องประดับเกิดเสียงไม่ได้มีแค่ความน่ารำคาญให้กับคนที่ได้ยิน แต่ยังไม่ส่งผลดีกับเครื่องประดับเพชรของคุณแม่ด้วยนะคะ เพราะเมื่อหน้าเพชรชนกันจะเกิดรอยได้ง่ายๆ แบบนี้พอจะส่งต่อมรดกให้เจ้าสาวหรือลูกหลานคนอื่นๆ เครื่องประดับชิ้นนั้นก็มีตำหนิติดตัวแล้วน่ะสิคะ

ตัดใจเลือกชิ้นที่เข้ากับชุดที่ใส่จริงๆ

ถึงเวลาตัดใจก็ต้องทำนะคะ เพราะถ้าชิ้นที่คุณเล็งไว้ว่าอยากจะใส่อวดใครต่อใครในงานให้สมฐานะแม่เจ้าสาว เกิดไม่เข้าพวกกับชุดสวยที่ตัดมา ก็อย่าไปฝืนหยิบขึ้นมาใส่เลยค่ะ เก็บชิ้นนั้นไว้งานอื่นดีกว่าให้ใครมาเม้าว่า แม่เจ้าสาวแต่งตัวไม่เป็นหรือเป็นคนที่เอาแต่จะอวดขนาดเพชรจนลืมคำว่า ดูดีและเข้ากัน นอกเสียจากว่า คุณจะออกแบบชุดให้เข้ากับเครื่องเพชรชิ้นนั้นแต่แรก แบบนั้นก็ใส่เลยค่ะ รับรองว่าดี๊ดีอ่ะ

แม่เจ้าสาว

ไม่แข่งสวยกับเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว

เช็คให้แน่ใจก่อนว่า คุณลูกสาวและแก๊งเพื่อนเจ้าสาวของเธอใส่ชุดอะไรและมีเครื่องประดับแบบไหนเป็นพร้อพบ้าง จากนั้นนำข้อมูลมาเทียบเคียงกับชุดและเครื่องประดับที่คุณแม่เตรียมไว้ ถ้าใกล้เคียงกันมากๆ ก็จะได้เลี่ยงทันไงคะ ซึ่งแม้จะเสียดายแค่ไหนก็จงบอกตัวเองว่า อย่าได้ใส่ตามแผนที่วางไว้เด็ดขาด เพราะคุณไม่ใช่เพื่อนเจ้าสาวแต่เป็นแม่เจ้าสาว ถ้ารู้แล้วยังใส่ เตรียมใจโดนเม้าหนักในข้อหากระชากวัยผิดเวลาและกาลเทศะนะคะคุณแม่

ถือกระเป๋าใบเล็กเป็นเครื่องประดับ

ในกรณีที่คุณแม่ไม่ได้มีเครื่องประดับชิ้นเป้งเลยสักนิด หรือแม้แต่ไม่มีเพชรมาใส่อวดใครก็ไม่ต้องเสียใจไปค่ะ ทำตัวให้ดูดีได้ด้วยไอเท็มควรมีอย่างกระเป๋าถือใบเล็กๆ ที่อาจตกแต่งด้วยคริสตัลเนื้อดีหรือถักทอเป็นสีทอง ลองดูแบบที่ถือแล้วพอดีมือ และใช้งานได้จริง เช่นใส่ใบเครดิตและลิปสติกได้  ที่สำคัญต้องดูแล้วแข็งแรงไม่ก๊องแก๊งเป็นกระเป๋าของฉากละคร

ส่วนมือถือที่ต้องพกติดตัว ก็เลือกเคสที่ดูดีมีราคาเข้าไว้ อาจไม่ต้องประดับคริสตัลให้มากไป แต่เลือกเคสมือถือเรียบหรูดูดี แค่นี้ก็เดินเฉิดฉายสมฐานะแม้เจ้าสาวแล้วค่ะ

>> ดูไอเดียเกี่ยวกับแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : https://kissandtell.com, https://vintagepartyware.co.uk

4 ทริคง่ายมากแค่เลือกตามก็ได้ชุดแต่งงานริมทะเลสุดเป๊ะ

การเลือกชุดแต่งงานให้ถูกกับสถานที่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อคุณเลือกที่จะจัดงานแต่งงานในสถานที่พิเศษอย่างหาดทรายสวยริมทะเล ชุดแต่งงานริมทะเล ที่เลือกต้องมีความพิเศษที่นอกจากจะให้ความสวยยังต้องมีความเหมาะด้วยนะคะ

ความยาวของชุด

ความยาวของชุดแต่งงานริมทะเลนั้น คุณสามารถเลือกใส่ได้ทั้งแบบสั้นและแบบยาวกรอมเท้าได้ แต่ไม่ควรยาวแบบลากพื้น เพราะคุณจะเดินหรือเคลื่อนไหวบนพื้นทรายได้ลำบาก และอาจเผลอทำชุดเปียกน้ำทะเลโดยไม่รู้ตัว ลองนึกสภาพที่ชายกระโปรงชุดเจ้าสาวเปียกชุ่มและกำลังลากทรายจำนวนล้านๆ เม็ดไปพร้อมๆ กันสิคะ หนักแย่เลยเนอะว่าไหม

ผ้าเนื้อต้องนุ่มและเบา

คงไม่ต้องบอกว่าทำไมชุดแต่งงานริมทะเลจึงควรเป็นชุดที่มีความนุ่ม ผ้าเนื้อบางเบาและสามารถพลิ้วไหวไปกับสายลมได้แบบไม่ต้องลำบากยกมากระพือ เพราะอารมณ์งานแต่งานริมทะเลเลี่ยงไม่ได้กับลมทะเลเย็นๆ ที่มาพร้อมเสียงคลื่นกระทบหาด ถ้าคุณไม่เลือกผ้าชีฟอง ผ้าเครป ผ้าด่วน ผ้าฝ้าย แต่ไปเลือกผ้าเนื้อแข็งจำพวกผ้าไหม ผ้าแก้ว คุณจะกลายเป็นเจ้าสาวในชุดเกราะแบบหุ่นยนต์ยืนถ่ายรูปริมทะเลทันที แถมเวลาลมทะเลพัดมาความระคายเคืองผิวบังเกิดแน่ และนั่นส่งผลต่อสมาธิในงานแต่งงานที่คุณตัองมาพะวงว่าชั้นไม่สวยอย่างตั้งใจเลยสักนิด

โบกมือลาผ้าลูกไม้

อยากเซ็กซี่ก็ทำได้ แต่ไม่ใช่ด้วยผ้าลูกไม้ ฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอย่าเด็ดขาดที่จะคิดเอาผ้าลูกม้าฝรั่งเศสมาเป็นส่วนประกอบหลักสำคัญของชุดแต่งงานริมทะเล เพราะจะทำหุดแข็ง ไม่พลิ้วไหว คุณควรเลือกชุดแต่งงานเรียบๆ ที่มีการตกแต่งเล็กน้อย ไม่ก็ชุดที่ไม่มีการตกแต่งไปเลย แล้วเพิ่มความเซ็กซี่มีระดับด้วยช่วงหลังถ่วงโชว์ผิวเบาๆ แทน

เลือกทรงชุดที่เหมาะกับงานทะเล

ทรงชุดแต่งงานที่เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่สุด คือ ชุดเจ้าสาวแบบต่อใต้อก หรือเรียกว่า Empire Line ที่ให้อารมณ์ที่เป็นธรรมชาติ และพานให้นึกถึงเทพธิดาแห่งท้องทะเลในนิยายกรีกโรมัน รองลงมาได้แก่สไตล์ชุดสั้น และชุดหน้าสั้นหลังยาวที่วัดความยาวของกระโปรงให้สมดุลกับความสูงของเจ้าสาว โดยไม่ลืมนึกถึงรองเท้าเจ้าสาวที่จะมาจับคู่ด้วย ถ้าคุณเลือกชุดโชว์เรียวขาเมื่อไหร่ ต้องไม่ลืมใส่ใจความสวยงามของรองเท้าเจ้าสาวริมทะเลด้วยนะคะ

>> ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

วิธีถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแบบประหยัดงบ ไม่ต้องไปไหนไกลแต่ได้ภาพสวย

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังหาสถานที่ถ่าย ภาพพรีเวดดิ้ง แบบเซฟงบ ไม่อยากเดินทางไกล ต้องอ่าน

แพรวเวดดิ้งมีวิธีถ่าย ภาพพรีเวดดิ้ง แบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องเดินทางไกล แถมเซฟค่าใช้จ่ายได้เยอะ กับสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งสีเขียวอย่างเช่น สวนสาธารณะ หรือถ่ายแค่สวนหลังบ้านก็รอด ใกล้มากเลยใช่ไหมล่ะ งั้นมาดูกันเลยดีกว่า ว่าถ่ายภาพในสวนอย่างไรให้ออกมาสวยปัง

จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน

ถ่ายภาพในสวยเขียวๆ แบบนี้ก็ต้องหาสตอรี่ให้กับภาพถ่ายดูหน่อย บ่าวสาวอาจจะลองจับมือกันเดินชื่นชมความงามของสวนสวยๆ เดินหันหน้าให้กล้องนิด เดินหันหลังให้กล้องหน่อย แต่ที่สำคัญต้องเดินกุมมือกันไว้นะจ๊ะ หรือจะลองช็อตแบบสโลว์ซบก็น่ารักมุ้งมิ้งโรแมนติกชวนฟินดีเหมือนกันนนะ

เลือกใช้ใบไม้เป็นฉากหน้า

สำหรับบ่าวสาวที่ชอบความมุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้ง ลองเลือกโลเคชั่นที่มีใบไม้ไม่สูงมาก แล้วใช้ใบไม้เป็นฉากด้านหน้า ส่วนคุณและคนรักก็แค่ยืนอยู่ด้านหลังของใบไม้พร้อมโพสท่าสุดหวาน ไม่ว่าจะ กอดกัน หันหน้าเข้าหากัน จุมพิตกันเบาๆ ก็แล้วแต่ความหวานของแต่ละคู่ และที่สำหรับภาพสไตล์นี้ไม่ต้องไปไกลถึงสวนใหญ่ๆ ก็ถ่ายได้นะ เพราะแค่หากิ่งไม้มาแล้วถ่ายภาพผ่านกิ่งไม้ก็จะได้ภาพสวยๆ แบบนี้เลยค่ะ

เลือกมุมหาที่นั่งพัก

ถ้าเริ่มเหนื่อยๆ จากการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ลองหามุมสวยๆ ที่มีสนามหน้าเขียวๆ ดู จากนั้นบ่าวสาวก็แค่นั่งลงและแอคชั่นท่าโพสแบบหวานๆ สบายๆ แบบไม่ต้องสนใจกล้อง ไม่ว่าจะนั่งพิงกัน หรือนอนตักก็ได้แล้วแต่ความสะดวก เรียกได้ว่าเป็นมุมและช็อตง่ายๆ แต่ได้ภาพออกมาน่ารักแน่นอน

ภาพพรีเวดดิ้ง

เลือกช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก

การเลือกถ่ายภาพในช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ตก คู่บ่าวสาวจะได้ภาพแสงสวยๆ ละมุนๆ ไม่แรงมาก ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบเก็บของ หากใกล้เวลาพระอาทิตย์ตก รับรองเลยว่าภาพที่ได้นั้นจะได้มู้ดแอนด์โทนแบบโรแมนติกชวนฝันที่คุณและคนรักแทบจะไม่ต้องโพสท่าให้เหนื่อยเลย ทั้งนี้สามารถหาดอกไม้สวยๆ มาเป็นพร้อบได้ด้วยนะคะ

 

เล่นกับใบไม้ กิ่งไม้เยอะๆ

อย่าเพิ่งมองข้ามใบไม้ กิ่งไม้ไปนะคะ ลองหาใบไม้ใหญ่ๆ มาขดเป็นรูปหัวใจดู รับรองว่าภาพนี้ออกมาเก๋ไก๋แน่นอน แถมไม่ต้องเสียเวลาหาฉากให้วุ่นวายเลยค่ะ

ภาพพรีเวดดิ้ง

ถ่ายภาพกับป่า

ป่าที่ว่านี้ ไม่จำเป็นต้องเข้าป่าจริงๆ หรอกนะ แต่บ่าวสาวอาจจะลองหามุมตามสวนสาธารณะ หรือซอยเล็กๆ ข้างทางที่มีต้นไม่เยอะๆ ดู แล้วแค่ไปยืนโพสท่าถ่ายรูปตรงกลางเฟรม แต่ช็อตนี้อาจจะต้องอาศัยเทคนิคการถ่ายภาพของช่างภาพด้วย ว่าจะถ่ายข้างทางออกมาอย่างไรให้สวยเหมือนถ่ายในป่าเขาใหญ่

ภาพพรีเวดดิ้ง

เลือกถ่ายกับต้นไม้ใหญ่

ใครว่าถ่ายภาพพรีเวดดิ้งจะถ่ายกับต้นไม้เปล่าๆ ที่ไร้ใบไม่ได้ล่ะจ้ะ แถมถ้าถ่ายแบบช็อตซิลลูเอทนิดๆ ก็จะได้ภาพพรีเวดดิ้วแนวใหม่ที่มีกลิ่นอายสไตล์แฟชั่นหน่อยๆ ด้วย เอาเป็นว่าบ่าวสาวลองมองหาสวนสาธารณะที่มีต้นไม้ใหญ่ๆ แล้วจะเลือกถ่ายภาพให้เห็นต้นไม้แบบเต็มๆ หรือจะนั่งใต้ต้นไม้มองวิวทิวทัศน์ แล้วให้ช่างภาพบันทึกภาพในสไตล์แคนดิดก็อารมณ์แบบฟีลกู้ดอีกแบบดีเหมือนกันนะ

ภาพพรีเวดดิ้ง

ถ่ายภาพในช่วงเวลาที่แสงใกล้หมด

หลังจากที่ถ่ายภาพตอนช่วงพระอาทิตย์ตกไปแล้ว หลังพระอาทิตย์ตก ก็สามารถ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง ได้อยู่ดีนะจ๊ะ มุมนี้สามารถถ่ายตามสวนสาธารณะได้ หรือ สวนหลังบ้านก็ดีเลยล่ะ บ่าวสาวจะเลือกนั่งบนม้านั่งแล้วนั่งซบกัน นั่งตักกัน แล้วมองตาหวานๆ ก็ได้ หรือจะยืนโอบกอดกัน ก็สวยไปอีกแบบนะ

ภาพพรีเวดดิ้ง

บอกเลยว่าถ้าลองทำตามนี้ คุณจะได้ภาพพรีเวดดิ้งที่สวยงามโดยไม่ต้องลงทุนเยอะ ไม่ต้องออกเดินทางไปไหนไกลๆ เพียงแค่ใช้สถานที่ใกล้ตัวให้เกิดประโยชน์เท่านั้นเอง แถมช่วงนี้เข้าสู่ฤดูฝนแล้วด้วย ต้นไม้ใบหญ้าก็จะเขียวชอุ่มมากเป็นพิเศษอีกต่างหาก หากเลือกสถานที่ได้แล้วก็ไปต่อกันที่ >> โพสท่าแชะภาพพรีเวดดิ้งหน้าฝนสุดโรแมนติกที่ฤดูอื่นก็ทำไม่ได้ << กันเลย

ภาพจาก : Pinterest.com, pixabay.com

ครอบครัวเธอใหญ่ ครอบครัวฉันเล็ก ปัญหาชีวิตคู่ ทำยังไงให้ลงตัว

การแต่งงานคือการที่คนสองคนรักกันน่ะใช่ค่ะ แต่เมื่อแต่งไปแล้วคุณไม่ได้รักกันแค่สองคนนะคะ แพรวเวดดิ้งเชื่อว่าหลายคู่เคยได้ยินประโยคที่ว่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องของสองคน เพราะคือการแต่งกับทั้งครอบครัวของอีกฝ่าย แล้วทีนี้จะทำอย่างไรล่ะค่ะ เมื่อครอบครัวของคุณทั้งคู่มีขนาดที่ไม่เท่ากัน กรณีครอบครัวฝ่ายหนึ่งเป็นครอบครัวใหญ่ที่เต็มไปด้วยญาติพี่น้องที่ทุกเทศกาลต้องมาเจอกัน แต่อีกครอบครัวอยู่กันไม่กี่คน เทศกาลต่างๆ ก็ทำกันเงียบๆ แล้วเมื่อต้องมาแต่งงานกันจะทำยังไงให้ ปัญหาชีวิตคู่ นี้ลงตัว ลองดูวิธีเหล่านี้ค่ะ

  • เริ่มต้นที่เราสองคนก่อน

ก่อนจะพาคนที่บ้านมาเจอกัน ลองใช้ตัวเองเข้าไปสัมผัสกับครอบครัวอีกฝ่ายให้มากก่อน เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมของบ้านอีกฝ่าย เพราะคุณย่อมรู้อยู่แล้วว่าบ้านคุณเป็นแบบไหน ถ้าเจอแบบบ้านเขาจะว่ารู้สึกอย่างไร เรียกง่ายๆ คือเอาตัวคุณเองเป็นตัวแทนวัดความรู้สึกกันก่อน จากนั้นค่อยมาคิดพิจารณาว่า สไตล์บ้านของอีกฝ่ายเป็นแบบนั้น จะมีวิธีไหนเหมาะๆ ที่จะให้ครอบครัวตัวเองเข้าไปจอยได้อย่างสบายใจ

  • บอกกล่าวเล่าเรื่องก็ช่วยได้

คุณอาจใช้วิธีพูดถึงครอบครัวของคุณให้ครอบครัวอีกฝ่ายได้รู้จัก แต่ต้องรู้จักพูดในระดับพอดีๆ ไม่พูดมากพูดเยอะหรือแนวอวดตัวเด็ดขาด แบบนั้นจะนำพาความรู้สึกติดลบตั้งแต่ก่อนเจอมากกว่าจะชื่นชม

  • ใช้ของฝากเชื่อมสัมพันธ์

ไม่ว่าคุณจะไปเที่ยวไหน ก็อย่าลืมซื้อของมาฝากคนทางบ้านทั้งสองบ้านให้พอๆ กัน หรือหากคุณไปเที่ยวกับครอบครัวของคุณก็ซื้อมาฝากครอบครัวของเขา โดยอาจบอกว่าครอบครัวฝากมาให้ อะไรแบบนั่น ความรู้สึกนึกถึงจะช่วยจูงใจให้ความต่างมาผสานกันได้ง่ายขึ้นอีกทาง

  • ค่อยๆ พาครอบครัวเข้าแทรกซึม

เมื่อคุณพอจะรู้รูปแบบของอีกครอบครัวแล้ว ลองค่อยๆ พาคนในครอบครัวของคุณเข้าไปแทรกซึมทำความคุ้นเคย ซึ่งถ้าคุณเป็นฝ่ายครอบครัวใหญ่ก็อาจเลือกพี่น้องสักคนสองคนค่อยๆ เข้าไปทำความคุ้นเคยกับบ้านอีกฝ่ายก่อน ส่วนคุณฝั่งครอบครัวเล็กก็ทำเช่นกัน เพื่ออย่างน้อยเวลาไปร่วมงานเทศกาลอะไรของอีกบ้านจะได้มีคนรู้จักอื่นๆในบ้านอีกฝ่ายให้พูดคุย ไม่ใช่คุยได้แต่กับลูกเขยหรือสะใภ้ตัวเอง

  • อย่าบังคับใจโดยเด็ดขาด

ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายครอบครัวใหญ่หรือเล็ก อย่าบังคับใจคนในครอบครัวของตัวเองให้ต้องมีส่วนร่วมถ้าเขาไม่ต้องการ เช่น บ้านฝ่ายหญิงมีงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปีที่มาทั้งตระกูลแต่บ้านฝ่ายชายอยู่กันเองแค่พ่อลูก ถ้าพ่อสามีไม่ได้อยากไปร่วมก็อย่าไปบังคับ ขณะเดียวกันถ้าคุณเองไม่อยากไปเพราะอะไรก็ตามจงบอกอีกฝ่ายด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ ไม่ใช่ฐิติ อย่าฝืนความรู้สึกไปนั่งหน้าเซ็งในงานโดยเด็ดขาด พร้อมเมื่อไหร่ค่อยไปยังได้

อ่านบทความเพิ่มเติม

15 นิสัยผู้ชายแบบนี้ที่ผู้หญิงทุกคนร้องยี้ไม่อยากแม้แต่จะอยู่ใกล้

6 เรื่องต้องคิดให้ดีสักนิดก่อนตัดสินใจแต่งงานกับพ่อแม่เรือพ่วง

คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด

5 เรื่องก่อนแต่งงานที่คู่รักควรตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกันให้เสร็จ

ไม่ว่าคุณทั้งคู่จะตั้งใจอยากลองย้ายมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันดู ก่อนแต่งงาน หรือจะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านหลังเดียวกันหลังจากแต่งงานไปแล้ว เราขอแนะนำให้คุณทั้งคู่มีข้อตกลงบางอย่างในบางเรื่องร่วมกัน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นชีวิตคู่ค่ะ เพราะการมีข้อตกลงก่อนย้ายมาอยู่ด้วยกัน จะนำความสบายใจมาให้คุณในเบื้องต้นอย่างแน่นอน แล้วเรื่องจุกจิกใจจะลดน้อยลง เมื่อทั้งคู่มีข้อตกลงต่อไปนี้

1. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเคลียร์

ทุกสิ่งค่ะ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหารเข้าบ้าน ค่าซื้อของจิปาถะ จะแบ่งกันดูแลยังไง ถ้าบ้านยังผ่อนอยู่จะต้องช่วยผ่อนไหม ใครผ่อนมากผ่อนน้อย บางคู่บอกว่าต้องจุกจิกหยุมหยิมขนาดนี้เลยหรือ ใช่ค่ะ ก็เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร แล้วชีวิตจริงไม่ใช่ในละครที่จะมีพระเอกร่ำรวยมาดูแลคุณทุกอย่าง หรือจะแต่งงานกับคุณหนูของตระกูลใหญ่ เราต้องอยู่กับโลกของความจริงค่ะ เอาเรื่องจริงมาคุยกันเลยจะได้กินอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแบบสบายใจ ไม่มีเกร็ง ไม่รู้สึกเสียเปรียบได้เปรียบ

2. หน้าที่ดูแลบ้านที่ต้องแบ่ง

ยุคนี้แล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าเรื่องดูแลบ้านต้องเป็นของฝ่ายหญิงเท่านั้นซะที่ไหน คุยกันเลยค่ะ เช่นเราจะมีวันทำงานบ้านด้วยกันไหม อะไรเสียอะไรต้องซ่อมจะเรียกช่างหรืออะไรยังไง ตัดต้นไม้ใครจะทำ เพราะบางอย่างผู้หญิงก็ทำไม่ไหว ผู้ชายก็ไม่ถนัดตกลงกันคร่าวๆ ไว้ก่อน อะไรช่วยกันได้ก็ลองดู แต่อย่าฝืนกำลังตัวเองซะล่ะ เพราะเดี่ยวข้าวของเสียหายไปจะเป็นเรื่อง

3. พื้นที่ส่วนตัวมีไหม

ต่อให้คุณจะรักกันมากแค่ไหน แต่เราเชื่อว่าทุกคนย่อมต้องมีพื้นที่ส่วนตัวด้วยกันทั้งนั้น คุณอาจไม่ถึงกับขีดเส้นแบ่งเขตว่าห้ามเข้ามาในโซนนี้ แต่ต้องมีมารยาทเวลาจะเข้าไปในพื้นที่ของเขา หรือแม้แต่จะเปิดกระเป๋าสตางค์ หรือหยิบดูไอแพดของเขามาเล่นก็ควรคิดสักนิดว่านั่นน่ะ พื้นที่ส่วนตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ ต่อให้คุณจะบอกว่า ขนาดคุณยังเปิดเผยทุกอย่าง ทำไมเขาไม่เปิดบ้างล่ะ คนเราไม่เหมือนกันค่ะ อย่าคาดหวังเด็ดขาด แต่จงเคารพในสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น แล้วจะอยู่กันอย่างเข้าใจได้ไม่ยาก

4. จัดปาร์ตี้ได้บ่อยแค่ไหน

ในเมื่อมาอยู่ด้วยกัน คงมีบ้างที่อยากชวนเพื่อนๆ มาปาร์ตี้ ฉะนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ต้องตกลงกันให้ได้ ว่าถ้าอยากมีปาร์ตี้ ชวนเพื่อนมากินข้าว ถี่บ่อยได้แค่ไหน เพราะคนที่อยู่ร่วมบ้านอาจไม่ใช่สายปาร์ตี้ และเพื่อนของคุณ อีกฝ่ายอาจไม่สนิทหรือไม่ชอบหน้า แต่จะไม่ให้จัดปาร์ตี้เลยอาจจะยาก งั้นก็ฝากเรื่องนี้ไปคิดกันอีกสักเรื่องละกันนะคะ

5. มีเคอร์ฟิวหรือเปล่า

ถึงจะมาอยู่ด้วยกันก็ไม่ใช่จะเข้าออกตอนไหนไม่เป็นเวลาได้นะ เพราะคนที่รออยู่ที่บ้านก็คงได้แต่รอ เป็นห่วง แต่คุณไม่กลับสักที คำว่าเคอร์ฟิวของเราจึงขอสื่อว่า เป็นเวลาที่คุณควรกลับเข้าบ้านมาดึกมากที่สุดประมาณไหน แล้วถ้ามีกรณ๊พิเศษควรบอกกล่าวกันสักหน่อยยังไง ถึงจะถือกุญแจบ้านไปด้วยก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับเวลาไหนก็ได้นะ อย่าลืมว่า นี่คือคนอยู่ด้วยกัน ต้องนึกถึงกันเสมอ

อ่านบทความเพิ่มเติม

คัมภีร์ 4 ข้อต้องจำวิธีทำให้รักยืนยาว ต่อโปรรักให้ยืดยาวไม่มีสิ้นสุด

บ่าวสาวต้องอ่าน! 5 วิธีรับมือกับความขัดแย้งช่วงเตรียมงานแต่ง

ลดปัญหาครอบครัวกับ 5 วิธีสานสัมพันธ์ให้พ่อแม่ของเธอกับฉันเลิฟกันได้

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ใหม่

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? วินาทีแรกที่ใครก็ตามถูกยิงคำถามนี้ใส่ ใจต้องคิด… ทำไมต้องถาม? มีคู่แล้วไม่มีเซ็กส์ จะมีไปทำไม เพราะฉะนั้นไม่ต้องให้หมอไหนมาฟันธง เพราะมันสำคัญชัวร์

แต่ในความเป็นจริงกับคำถามที่ไร้ความซับซ้อนใดๆ นี้ แพรวเวดดิ้งกลับพบว่าไม่มีคำตอบใดที่จะตอบคำถามนี้ได้อย่างถูกต้อง 100% เพราะคนเราแต่ละคนมีสิ่งที่ให้คุณค่าไม่เหมือนกัน สิ่งที่สำคัญมากสำหรับคนๆ หนึ่ง อาจไม่มีความหมายใดๆ กับคนอีกคนหนึ่งเลยก็ได้

คำตอบที่ถูกต้องของคำถามว่า… เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? จึงขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเชื่อ ความต้องการทางกาย และลักษณะของความสัมพันธ์ที่คุณมีอยู่กับคู่ของคุณ

และต่อจากนี้คือ 7 ประเด็นน่าคิดที่อาจจะทำให้คุณมองเรื่องเซ็กส์ในมุมมองใหม่

1.เซ็กส์ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นกับชีวิตคู่เสียทีเดียว

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @freestocks on Unsplash

บนโลกนี้ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถมีชีวิตคู่ที่ดีและมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเซ็กส์ (หรือมีเซ็กส์บ้างเป็นครั้งคราวกับคู่ของตน) ซึ่งเหตุผลที่คนเหล่านี้ไม่มีเซ็กส์หรือไม่ต้องการมีเซ็กส์นั้นก็มีหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการทางเพศต่ำ มีอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง อยากคบดูใจกันนาน ๆ ก่อนจะตัดสินใจมีเซ็กส์ ยังไม่ได้แต่งงานและไม่ต้องการมีเซ็กส์ก่อนแต่ง

แต่ไม่ว่าจะเป็นด้วยเหตุผลข้อใดก็ล้วนไม่ได้ส่งผลให้ความสัมพันธ์ของคู่รักต้องพังทลายลง และก็ไม่ได้เป็นสัญญาณบอกว่าคู่รักของคุณหมดใจกับคุณแล้วอีกด้วย ขอย้ำอีกครั้งว่าการมีเซ็กส์ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ที่ดีเสมอไป

2.แต่การมีเซ็กส์ก็มีความสำคัญกับคนอีกกลุ่มเช่นกัน

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
ภาพ: @dainisgraveris on Unsplash

แน่นอนว่าสำหรับคนอีกกลุ่มแล้ว การมีเซ็กส์ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาและรักษาชีวิตคู่ คนอีกจำนวนไม่น้อยต้องการมีเซ็กส์กับคู่ของตน ซึ่งความต้องการทางเพศนี้ก็มีหลายระดับ ทั้งกลุ่มคนที่เป็น Asexual ซึ่งมีความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศต่ำจนถึงขั้นอาจจะไม่สนใจเลย ในขณะที่กลุ่มคนที่เป็น Allosexual จะมีความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศสูง

และด้วยความหลากหลายทั้งในด้านความรู้สึกที่มีต่อการมีเซ็กส์และความรู้สึกสนใจในกิจกรรมทางเพศนี้เอง ทำให้คนเราตอบสนองต่อการมีเซ็กส์แตกต่างกันไป ซึ่งก็ไม่มีสิ่งใดที่ผิดอีกเช่นกัน

3.เหตุผลที่แต่ละคนเลือกจะมีเซ็กส์นั้นมีหลากหลาย

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @heftiba on Unsplash

เหตุผลที่การมีเซ็กส์อาจเป็นสิ่งที่สำคัญต่อชีวิตคู่ของคุณนั้นมีมากมาย เช่น เป็นโอกาสสานสัมพันธ์ทางกายกับคู่รักของคุณ เป็นโอกาสแสดงความรักและความหลงใหลของคุณที่มีต่อคู่รัก เป็นหลักฐานทางความรู้สึกที่เพิ่มความมั่นคงให้ชีวิตคู่ตามความถี่ของกิจกรรม หรืออาจจะเป็นกิจกรรมยามว่างเพื่อความสนุกสนานหรือความผ่อนคลายก็ได้

และแน่นอนว่าการมีเซ็กส์จะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากคุณอยากจะเพิ่มสมาชิกตัวน้อยในครอบครัว

4.การมีเซ็กส์เป็นปกตินั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @womanizer on Unsplash

จากผลวิจัยต่าง ๆ พบว่าการมีเซ็กส์นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้:

ช่วยเสริมความแข็งแรงของระบบภูมิคุ้มกัน จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2004 พบว่าคนที่มีเซ็กส์บ่อยกว่าจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงกว่า

เป็นการออกกำลังกายแบบเบา ๆ จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2013 โดย studyTrusted Source พบว่าการมีเซ็กส์นั้นเป็นการออกกำลังกายที่ดีกว่าที่คิด

ช่วยเสริมความแข็งแรงของหัวใจ จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2010 พบว่าการมีเซ็กส์เป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้

ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2016 พบว่าผู้ที่มีเซ็กส์เป็นประจำในช่วงอายุ 50 ถึง 90 ปีมีความจำที่ดีกว่า

ช่วยบรรเทาอาการปวดหัว จากการสำรวจเมื่อ ค.ศ. 2013 พบว่าการมีเซ็กส์ช่วยบรรเทาอาการไมเกรนและอาการปวดหัวได้

5.แน่นอนว่าการมีเซ็กส์มีผลดีๆ ก่อเกิดกับจิตใจไม่น้อย

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @thoughtcatalog on Unsplash

นอกจากประโยชน์ทางสุขภาพกายแล้ว การมีเซ็กส์ยังส่งผลดีกับสภาพจิตใจของคู่รักหลาย ๆ คู่ด้วย เช่น ช่วยให้คุณมีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น หรือช่วยให้คุณได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายของตนเองพร้อมกับรู้สึกดีไปด้วย นอกจากนี้ การมีเซ็กส์ยังช่วยสานสัมพันธ์ของคุณกับคนรักให้แน่นแฟ้นขึ้น และยังเป็นการแสดงความรักและความห่วงใยต่อคนรักได้อีกด้วย

และที่สำคัญเซ็กส์ยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม เหตุผลเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าคนที่ไม่มีเซ็กส์จะมีความเสี่ยงต่อโรคต่าง ๆ หรือมีปัญหาทางอารมณ์แต่อย่างใด เพียงแต่คนที่มีเซ็กส์เป็นประจำจะได้รับประโยชน์จากการมีเซ็กส์ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นเท่านั้น ข้อดีของการมีเซ็กส์เหล่านี้จึงไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการทำให้คนที่ไม่ต้องการมีเซ็กส์ต้องรู้สึกผิดหรือเป็นปมด้อย

6.การมีเซ็กส์ช่วยสานสัมพันธ์คู่รักได้ไม่รู้จบ

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @son_of_media on Unsplash

จากงานวิจัยเมื่อ ค.ศ. 2017 โดย studyTrusted Source ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Personality and Social Psychology Bulletin แสดงให้เห็นว่าความถี่ในการมีเซ็กส์กับคุณภาพของความสัมพันธ์ระหว่างคู่รักนั้นมีความสัมพันธ์กัน ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าการมีเซ็กส์ส่งผลต่อความรู้สึกรักและผูกพันที่เพิ่มขึ้น

และในทางกลับกันความรู้สึกรักและผูกพันก็ส่งผลต่อการมีเซ็กส์ที่บ่อยขึ้นเช่นกัน หรือพูดอีกอย่างก็คือ การมีเซ็กส์ส่งผลให้คนเรามีเซ็กส์บ่อยขึ้น

ดังนั้น ถ้าคุณอยากมีเซ็กส์ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือมีเซ็กส์ให้บ่อยขึ้น!

อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่การมีเซ็กส์นั้นสามารถเพิ่มความต้องการทางเพศและพัฒนาสมรรถภาพทางเพศของคุณให้ดีขึ้นได้จริง ๆ

7.แต่การมีเซ็กส์ก็ไม่ได้เป็นวิธีเดียวที่ช่วยสานสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนรักได้

เซ็กส์สำคัญกับชีวิตคู่แค่ไหน? การมีเซ็กส์, ความต้องการทางเพศ, ปัญหาคู่รัก, ความสำคัญของเซ็กส์, เรื่องบนเตียง
Photo: @raduflorin on Umsplash

ปกติแล้วเรามักจะมองว่าการมีเซ็กส์สะท้อนความสุขของคู่รัก ซึ่งก็จริงที่เซ็กส์นั้นเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะสานสัมพันธ์กับคนรักได้ด้วยการมีเซ็กส์เพียงวิธีเดียว

การสัมผัสกายในรูปแบบอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การมีเซ็กส์ก็ช่วยเพิ่มความสุขของคู่รักได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการนวด การจูบ การโอบกอด หรือจับมือ

นอกจากการสัมผัสทางกายแล้ว การสัมผัสทางใจ อย่างการพูดคุยแบบเปิดใจก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและมีความสุขอีกด้วย

ย้ำอีกครั้ง

การมีเซ็กส์ไม่ได้เป็นเพียงวิธีเดียวในการเติมเต็มชีวิตคู่ให้มีความสุขสมบูรณ์แบบเสมอไป เพียงแต่สำหรับบางคนแล้ว เซ็กส์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตคู่ แต่สุดท้ายแล้ว …

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการที่คุณได้พบกับคู่ที่เข้าใจและยอมรับความต้องการของคุณ ไม่ว่าจะในด้านใดก็ตาม

 

ที่มาภาพ: www.unsplash.com

5 เช็กสิสต์ที่คู่รักต้องเข้าใจเมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถวัดปริมาณความต้องการจากค่าของฮอร์โมนในกระแสเลือด เหมือนเวลาเราไปเจาะเลือดหาค่าคลอเรสเตอรอล หรือไตรกลีเซอไรด์ได้

ทั้งนี้ในแต่ละคนจะมีระดับความต้องการทางเพศ มากน้อยต่างกันไป โดยความเหมาะสมของความต้องการของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอีก

ความต้องการทางเพศควรมีแค่ไหน

คำว่า “พอเหมาะ” ไม่อาจบอกได้ว่าเท่าไหร่ เพราะไม่มีค่าฮอร์โมนหรือสารเคมีวัดได้ ขึ้นอยู่กับความพอใจของตนเองและคู่ครอง ความพอเหมาะของคนหนึ่งอาจน้อยไปหรือมากไปสำหรับคนอื่น ๆ ก็ได้ แต่หากวัดจากการมีเพศสัมพันธ์สม่ำเสมอ ซึ่งทำให้มีลูกง่ายในวัยเจริญพันธุ์ ควรมีความต้องการทางเพศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง

ส่วนคนที่มีความต้องการมากทางเพศทุกวัน แต่สามารถควบคุมตนเอง แสดงออกอย่างเหมาะสม เช่น ช่วยตนเองในสถานที่ส่วนตัว ไม่เป็นปัญหากับการทำงาน หรือการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ยังเรียกว่ามีความต้องการทางเพศในระดับที่พอเหมาะได้เช่นกัน

แต่สำหรับคนที่มีความต้องการที่เข้าข่ายใช้คำว่า “ไม่เหมาะสม” คือ คนที่มีความต้องการทางเพศมากเกินไป หรือที่เรียกว่า Allosexual โดยไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกตนเองได้ ชอบแสดงออกในทางผิด จนเลยเถิดถึงขั้นกระทำผิดกฎหมาย เช่น  ทำอนาจารผู้อื่น หรือชอบโชว์ (Exhibitionist)  กลุ่มนี้ควรได้รับการบำบัดรักษาจากทางแพทย์

เหมาะสมหรือไม่ก็เรื่องหนึ่ง แต่ระดับความต้องการเข้ากันได้รึเปล่า นี่สิที่สำคัญ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @wevibe on Unsplash

ต้องบอกว่าสำหรับคู่ชีวิต ระดับความต้องการทางเพศที่เข้ากันได้ของคนสองคนที่ตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกันถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะหากฝ่ายหนึ่งมีความต้องการทางเพศสูง ในขณะที่อีกฝ่ายมีความต้องการทางเพศต่ำ การสานสัมพันธ์คู่รักก็คงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะถ้าฝ่ายหนึ่งมีความรู้สึกว่าการมีเซ็กส์เป็นส่วนสำคัญกับชีวิตคู่ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ต้องการมีเซ็กส์เอาซะเลย

แต่เดี๋ยวก่อน ก่อนที่คุณจะเริ่มจิ๊จ๊ะว่า “คู่ฉันมีปัญหาไหม?” แพรวเวดดิ้งแนะนำว่า คุณกับคู่ของคุณควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความต้องการทางเพศในระดับที่ทัดเทียมกันด้วย

และนี่คือ 5 เช็กสิสต์ความเข้าใจ ที่ทุกคู่รักต้องรู้เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ระดับความต้องการทางเพศ

1.ความเปลี่ยนแปลงของระดับความต้องการทางเพศเป็นเรื่องปกติ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @henrimeilhac on Unsplash

Mayo Clinic ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ความต้องการทางเพศนั้นมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งเป็นผลมาจากช่วงเวลาที่ผ่านไป ผนวกกับปัจจัยแวดล้อมหลาย ๆ อย่างที่อาจส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลง เช่น

ความเครียด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชั่วคราว หรือวิถีชีวิตที่สะสมความเครียดมาเป็นเวลานานก็ส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลงได้

ปัญหาความสัมพันธ์ การทะเลาะ การนอกใจ และการขาดความไว้เนื้อเชื่อใจสามารถส่งผลให้ความต้องการทางเพศลดลงได้

แผลใจ ประสบการณ์ที่ไม่น่าพึงใจในอดีตสามารถส่งผลให้เกิดความเครียดและนำไปสู่ความต้องการทางเพศที่มีระดับผิดปกติได้

อายุ ความต้องการทางเพศอาจเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงอายุได้เช่นกัน โดยทั่วไปความต้องการทางเพศจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

ความเปลี่ยนแปลงของระบบฮอร์โมน ช่วงหมดประจำเดือน ช่วงการตั้งครรภ์ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอื่น ๆ ก็ส่งผลกับความต้องการทางเพศได้

การใช้ยา ยารักษาโรคหลายชนิดมีผลข้างเคียงที่ส่งผลต่อความต้องการทางเพศ เช่น ยารักษาโรคเบาหวาน ยารักษาความดัน และยารักษาภูมิแพ้ เป็นต้น

โรคประจำตัวบางอย่าง ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เป็นโรคเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ โรคระบบหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน ความดัน มะเร็ง อาจส่งผลทำให้ความต้องการทางเพศลดต่ำลงได้

อย่างไรก็ตามปัญหาความต้องการทางเพศต่ำจากอาการเจ็บป่วยนั้น โดยปกติแล้วสามารถรักษาให้หายได้ โดยคุณอาจพบว่าความต้องการทางเพศของคุณกลับสู่ระดับปกติเมื่อเวลาผ่านไปหลังทำการรักษา นอกจากนี้ยังมีวิธีทางธรรมชาติอีกหลายทางที่ช่วยเพิ่มระดับความต้องการทางเพศของคุณได้

2.สารสื่อประสาทในสมอง อีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกับความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @wevibe on Unsplash

หากพบว่ามีสารซีโรโทนิน (Serotonin ) สูง จะมีความต้องการทางเพศลดลง แต่ถ้ามีสารโดปามีน (Dopamine) และนอร์เอพิเนฟริน (Norepinephrine) ในสมองสูง ความต้องการทางเพศจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ความแข็งแรงของระบบประสาทสมอง ระบบไหลเวียนโลหิต ก็มีผลต่อระดับความต้องการทางเพศเช่นกัน

3.เชื้อชาติ สิ่งแวดล้อม ชุมชน สังคม และวัฒนธรรม ตัวแปรสำคัญของความต้องการทางเพศ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @aiony on Unsplash

ในสภาพแวดล้อมที่มีความเข้มงวดเรื่องการแสดงความต้องการทางเพศ อาจทำให้ผู้ที่โตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมดังกล่าวมีความต้องการทางเพศที่ลดลง แต่ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งกระตุ้นทางเพศมาก ก็จะทำให้มีความต้องการทางเพศสูง

เพราะฉะนั้นในคู่ที่เป็นคู่รักข้ามชาติ รักข้ามพรมแดน การจูนความต้องการทางเพศจึงต้องคิดถึงปัจจัยข้อนี้พ่วงเข้าไปด้วย

4.ต้องเข้าใจว่าระดับความต้องการทางเพศที่ไม่เท่ากันสามารถส่งผลกับชีวิตคู่ในระยะยาวได้จริงๆ

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @cristian_newman on Unsplash

บางคู่อาจยอมรอให้คู่รักฟื้นความต้องการทางเพศจนพร้อมจะกลับมาสานสัมพันธ์กันได้ ขณะที่บางคู่อาจยอมอดทนกับคนรักที่มีความต้องการทางเพศต่ำจนแทบจะไม่มีกันเซ็กส์เลย บางคู่อาจเผชิญอุปสรรคในชีวิตจากการไม่มีเซ็กส์เป็นเวลานาน ซึ่งการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีนั้นอาจจะเป็นเรื่องยาก ถ้าเซ็กส์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ แต่ไม่ใช่สิ่งที่คู่ของคุณต้องการ

ดังนั้น หากว่าคุณกับคู่ของคุณมีระดับความต้องการทางเพศที่ไม่ตรงกัน การพูดคุยเพื่อปรับตัวและทำความเข้าใจจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่อาจช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้นได้โดยที่ไม่มีใครต้องเสียใจ

5.ถ้าคุณรู้สึกว่าการมีเซ็กส์กับคู่ของคุณมีบางอย่างไม่เหมือนเดิมต้องพูดออกมา

ระดับความต้องการทางเพศ, ความต้องการทางเพศสูง, ความต้องการทางเพศต่ำ, เซ็กส์, การมีเพศสัมพันธ์
Photo: @priscilladupreez on Unsplash

การพูดคุยเป็นสิ่งสำคัญในการสานสัมพันธ์รัก โดยเฉพาะเมื่อความต้องการทางเพศของคุณเปลี่ยนไป คุณอาจจะลองเปิดประเด็นด้วยประโยคต่อไปนี้:

“ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าความอยากทำการบ้านเปลี่ยนไป และฉันอยากคุยกับคุณเรื่องนี้สักหน่อย”

“ถ้าคุณรู้สึกว่าฉันไม่เหมือนเดิมตอนที่เรามีอะไรกัน คุณไม่ต้องคิดมากนะ คือสาเหตุมันเป็นเพราะ…..”

“ช่วงหลัง ๆ นี้ฉันรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นเลย เรามาลองอะไรใหม่ ๆ กันหน่อยมั้ย?”

“ฉันรู้สึกว่าช่วงนี้คุณไม่ค่อยอยากจู๋จี๋กันเท่าไหร่ คุณอยากคุยกันหน่อยมั้ย?”

“เราไม่ได้มีอะไรกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อน และฉันอยากให้เรากลับไปเป็นเหมือนเดิม คุณคิดว่ายังไง?”

แต่ถ้าคุณคิดว่าการพูดคุยตรง ๆ ยากเกินไป ลองปรึกษากับที่ปรึกษาครอบครัวหรือนักบำบัดทางเพศดู พวกเขาอาจช่วยให้คุณพูดคุยกับคู่รักและหาทางออกร่วมกันได้ง่ายขึ้น

บางครั้ง ถ้าคุณรู้สึกว่าการมีเซ็กส์มันไม่รู้สึกดีเหมือนเก่าอย่างบอกไม่ถูก การลองทำอะไรใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการเดทสุดสัปดาห์ การลองท่าร่วมรักที่ไม่เคยลอง หรือการลองของเล่นใหม่ก็อาจช่วยได้เหมือนกัน

 

ภาพ: https://unsplash.com/

17 เหตุผลที่คนเลือก นอกใจแฟน มันทั้งน่าตกใจและชวนใจสลายมาก!

ปัญหา นอกใจแฟน เป็นปัญหาระดับสากลโลกที่มีอยู่ในทุกเชื้อชาติ ทุกสีผิว และทุกเพศ

จากข้อมูลของสมาคมที่ปรึกษาปัญหาครอบครัวและชีวิตคู่แห่งอเมริการะบุว่า กว่า 60% ของคู่ชีวิตทั้งหมด ล้วนเคยประสบปัญหาคู่ครองนอกใจ อย่างน้อย 1 ครั้งในช่วงชีวิตแต่งงาน

เห็นตัวเลขสูงเกินกึ่งแล้วก็อย่าเพิ่งตาโต ถ้าจะบอกว่ามันเป็นเพียงตัวเลขประมาณขั้นต่ำ เนื่องจากว่าไม่ใช่ทุกคนจะยอมรับว่าตนเองหรือคู่ครองของตนเคยนอกใจกันมาก่อน โดยเฉพาะเมื่อยังมีกลุ่มคนที่มีแนวความคิดว่าแค่พูดคุย คบหากับ “กิ๊ก” ไม่เรียกว่าเป็นการนอกใจแต่อย่างใด เพราะยังไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กันซะหน่อย

จะว่าไปมุมมองต่อปัญหานอกใจนี้ก็เข้าข่าย คนทำไม่ได้คิด(มาก) แต่คนที่ถูกกระทำ(ไม่ได้ทำ) ไม่ว่าจะเป็นเพศไหน กลับคิดและต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงจะเป็นการนอกใจแบบไม่มีเพศสัมพันธ์มาเกี่ยวข้อง แต่ความรุนแรงของมันก็ไม่ต่างอะไรกับการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ และเป็นการบ่งบอกว่า “คู่ของเรา” ได้ตัดสินใจลาออกจากชีวิตคู่แล้ว

เพราะการนอกใจในรูปแบบนี้สามารถทำลายความสัมพันธ์ได้ยิ่งกว่าการนอกใจแบบมีเพศสัมพันธ์ ค่าที่มันสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองได้มากกว่าการยอมรับตรง ๆ ว่านอกใจเสียอีก

เนื่องด้วยมันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าการหลอกลวงนี้เกิดขึ้นอย่างจงใจ ซึ่งถือเป็นหัวใจของการทรยศเลยทีเดียว โดยผู้หญิง 88% จะให้ความสำคัญกับการที่คู่ครองคบหากับคนอื่นมากกว่าการที่คู่ครองมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่มากกว่าคำตอบของฝั่งผู้ชายถึง 2 เท่า

แล้วทำไมเมื่อรู้ว่าผลของการนอกใจสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ครองเพียงใดแล้ว คนจำนวนมากถึงยังเลือก นอกใจแฟน กันอีกล่ะ?

17 เหตุผลชวนใจสลายต่อไปนี้ อาจทำให้คุณที่ผ่านพบประสบการณ์แย่ๆ เข้าใจถึงสาเหตุมากขึ้น

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @nathan_mcb on Unsplash

1.คนที่นอกใจเป็นพวกหลงตัวเองและต้องการย้ำเตือนความสำคัญของตัวเองไม่มีที่สิ้นสุด

คนประเภทนี้มักจะค้นหาเป้าหมายใหม่ไปเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวเองยังรู้สึกมั่นใจอยู่ จึงมีอาการเหมือนเสพติดการเป็นคนสำคัญที่ต้องการให้คนอื่นคอยช่วยย้ำเตือนความสำคัญของตนเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะแท้จริงแล้วคนประเภทนี้รู้สึกไม่มั่นใจและมีความมั่นใจในตัวเองต่ำ มันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าสำหรับคนพวกนี้ในการหาคนอื่นมาคอยชื่นชมตัวเองแทนที่จะเผชิญหน้ากับความไม่มั่นใจที่คอยหลอกหลอนตัวเองอยู่

2.คนที่นอกใจมีปัญหาในการควบคุมความต้องการของตนเอง

สัญญาณที่บ่งบอกถึงปัญหาความบกพร่องในการควบคุมความต้องการของตนเองนั้นคือการเสพติด “ความสุข” จากสิ่งต่าง ๆ เช่น สุรา อาหาร หรือการพนัน มากเกินไป ซึ่งการนอกใจก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของปัญหานี้เช่นกัน แม้แต่เรื่องที่ดูเล็กน้อยอย่างการให้ท่าแบบไม่มีพิษภัยหรือการคบหาที่ไปไกลกว่าคำว่า “เพื่อน” ก็ส่งผลให้คนเหล่านี้ต้องปกปิดความผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้

3.คนที่นอกใจเชื่อว่าการมีกิ๊กเป็นเรื่องที่ถูกต้องสำหรับตนเอง

คนประเภทนี้ชอบอ้างว่า “มันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร คนเรามีชีวิตเพื่อเติมเต็มความต้องการเป็นธรรมชาติ” และข้ออ้างนี้ก็ถูกใช้สร้างความชอบธรรมให้กับพฤติกรรมของคนประเภทนี้ พร้อมกับเหตุผลอีกสารพัดว่าทำไม “เพื่อน” คนนี้หรือการมีคนอื่นถึงสำคัญกับชีวิตของเขา และการคบซ้อนแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์แต่อย่างใด

ที่สำคัญคนประเภทนี้ยังเชื่อจริง ๆ อีกว่า ตัวเอง “ไม่ได้เจ้าชู้” และพร้อมจะหาเหตุผลสารพัดมายืนยันตัวเอง ซึ่งเหตุผลอย่างหนึ่งก็คือรายได้ของคนที่นอกใจมากพอที่จะไปมีคนอื่นได้

4.คนที่นอกใจเชื่อว่าตัวเองเป็นคนดีและไม่คิดว่าพฤติกรรมของตนเป็นเรื่องผิด

คนประเภทนี้เชื่อว่าการนอกใจที่เป็นความผิดหมายถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่คู่ของตนเท่านั้น และในเมื่อเขาไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องรู้สึกผิดอะไรกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ และคิดเพียงแค่ว่าคู่ของตนนั้นคิดมาก ขี้หึง กลัวถูกทิ้ง หรือเจ้ากี้เจ้าการน่ารำคาญ ฯลฯ

คนประเภทนี้จะชอบย้ำว่าตัวเองไม่มีแม้แต่ความคิดที่จะ “ทำผิด” (คือแอบไปมีเพศสัมพันธ์กับคนอื่น) แต่จะเพิกเฉยกับการกระทำอื่น ๆ ที่ก็ถือเป็นการนอกใจทั้งหมด

5.คนที่นอกใจปฏิเสธใครไม่เป็น

คนประเภทนี้มองว่าตนเองเป็นที่พึ่งสำคัญของคนอื่น ไม่ว่าจะเพราะคนอื่นที่ว่านี้ต้องการ “ความช่วยเหลือ” หรือเพราะตัวคนที่นอกใจต้องการรู้สึกเป็นคนสำคัญอยู่ลึก ๆ ก็ตาม

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @naveenkumar on Unsplash

6.คนที่นอกใจไม่ชอบให้คู่ครองคอย “บงการชีวิต”

คนประเภทนี้มักล้มเหลวในการสื่อสารความต้องการของตนเองอย่างถูกวิธี จึงคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำอยู่คือการต่อสู้เพื่ออิสรภาพในชีวิต ทั้งที่แท้จริงแล้วก็ยังติดอยู่กับการถูกบงการ ด้วยการไม่ยอมอ่อนข้อให้กับคู่ของตน คนประเภทนี้ก็เพียงแค่แสดงให้คู่ของตนเห็นว่าขอบเขตของการควบคุมอยู่ตรงไหนเท่านั้น

7.คนที่นอกใจโตมาในสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการนอกใจ

คนประเภทนี้อาจมีญาติพี่น้องที่มีพฤติกรรมแบบเดียวกันและไม่คิดว่าการนอกใจเป็นเรื่องผิด เมื่อค่านิยมในครอบครัวคือการป้องกันตัวอย่างไร้ความรับผิดชอบและแก้ปัญหาด้วยการโยนความผิด ไม่รับผิด มีความเชื่อผิด ๆ และไม่ยอมรับความจริง คนประเภทนี้ก็ย่อมมีพฤติกรรมไม่ต่างกัน

8.คนที่นอกใจไม่พอใจคู่ของตนเองแต่ไม่แสดงออก

คนประเภทนี้ไม่สามารถแสดงความรู้สึกของตน (โดยเฉพาะความรู้สึกแง่ลบ) ออกมาได้ และมักตามใจคนอื่นเพื่อหลีกหนีปัญหา ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าที่จะแสดงตัวเป็น “คนดี” แล้วแอบไปหาที่เติมพลังที่อื่น

9.คนที่นอกใจรู้สึกผิดหวังในความสัมพันธ์หรือในตัวคู่ครอง

คล้ายกับเหตุผลก่อนหน้า คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกตรง ๆ เมื่อความโกรธขึ้นมา คนประเภทนี้จะไม่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นความผิดหวังในแง่ของชีวิตคู่ที่ไม่เหมือนฝัน หรือคู่ครองที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม การแสดงออกถึงความรู้สึกแง่ลบกับคู่ครองของตนโดยตรงก็ดูจะเสี่ยงเกินไปสำหรับคนประเภทนี้

10.คนที่นอกใจกลัวการผูกมัด

การผูกมัดเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับคนประเภทนี้ ที่แม้จะใจใฝ่หาแต่ก็หวาดกลัว มันจึงเป็นเรื่องง่ายกว่าที่จะหามือที่ 3 มาผสมโรงแทนที่จะพูดคุยกับคู่ของตนตรง ๆ คนประเภทนี้จะทำทุกอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ลึกซึ้งและเลือกที่จะคบหาแบบปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยความกลัวว่าจะเป็นฝ่ายถูกทิ้ง คนประเภทนี้จึงมักเตรียมทางออกไว้เพื่อให้ตัวเองไม่เสียความรู้สึก เพราะการเป็นฝ่ายทิ้งย่อมรู้สึกดีกว่า

11.คนที่นอกใจเคยพบว่าพ่อแม่ของตนก็นอกใจ

ประสบการณ์แบบนี้ทำให้คนประเภทนี้มองว่าการนอกใจเป็นเรื่องธรรมดา ชีวิตคู่ที่ดีนั้นเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับคนประเภทนี้ คนกลุ่มนี้จึงทำตัวใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นได้อย่างไม่มีกาลเทศะ ซึ่งก็ถือว่าเป็นการนอกใจเช่นกัน

นอกใจแฟน, คนนอกใจ, มีกิ๊ก, แอบมีกิ๊ก, มือที่สาม
Photo: @etonesabina on Unplash

12.คนที่นอกใจกำลังอยู่ในห้วงทุกข์ของความสูญเสีย

คนประเภทนี้ยังมีใจกับคนรักเก่า (อาจจะเป็นคู่ที่เสียชีวิตไปแล้ว คู่ที่เลิกรากันไป หรือแม้แต่รักแรก) ทำให้คนประเภทนี้ไม่มีความสุขกับความสัมพันธ์ใหม่เมื่อเทียบกับคนเก่าที่ยังอยู่ในใจ

13.คนที่นอกใจมีคู่ครอง(หรือลักษณะความสัมพันธ์)ที่ไม่ตอบสนองความคาดหวัง

คนประเภทนี้อาจมีคู่แต่งงานที่จริงจังและหัวโบราณจนน่าเบื่อ ก็เลยเลือกที่จะไปตีสนิทกับคนอื่นที่สนุกสนาน มีสีสัน และอิสระมากกว่า คนประเภทนี้มักรู้สึกเก็บกดเวลาอยู่กับคู่ครอง แต่จะรู้สึกมีอิสระในการเป็นตัวของตัวเองเมื่ออยู่กับชู้รัก และการได้ปลดปล่อยตัวตนที่เก็บซ่อนไว้ก็เป็นเรื่องที่รู้สึกดีเสียด้วย

14.คนที่นอกใจใฝ่หาความรู้สึกสดใหม่

คนประเภทนี้ต้องการความรู้สึกสดใหม่ในชีวิตที่หาไม่ได้จากที่บ้าน

15.คนที่นอกใจต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

คนประเภทนี้เหนื่อยกับการทำตัวเป็นคนดีตลอดเวลา จึงอยากทำเรื่องไม่ดีเพื่อปลดปล่อยตัวเองบ้าง ซึ่งก็เป็นข้ออ้างที่คนประเภทนี้มักเอามาใช้

16.คนที่นอกใจชอบมีความลับ

การมีความลับนั้นเย้ายวนใจและให้ความรู้สึกว่าเป็นฝ่ายมีอำนาจเหนือกว่าในความสัมพันธ์ คนประเภทนี้อาจจะชอบมีความลับตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นนิสัย

17.คนที่นอกใจเป็นพวกไม่ยอมโต

ไม่ว่าจะความรู้สึกว่าอยากเป็นเด็กตลอดไป หรือความไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบชีวิตของตัวเองแบบผู้ใหญ่ก็ทำให้คนประเภทนี้เลือกที่จะหนีความจริง ทุกความสัมพันธ์ล้วนมีอุปสรรคแต่คนประเภทนี้จะตัดสินใจหนีมากกว่าเผชิญหน้ากับปัญหา

แต่ไม่ว่าคู่ของคุณจะนอกใจคุณเพราะสาเหตุใด การเข้าใจที่มาที่ไปของเขาก็ไม่ใช่เพื่อจุดมุ่งหมายให้คุณ “ยอม” อยู่ตกอยู่ในสถานการณ์อิหลักอิเหลื่อแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่มันควรจะเป็นความเข้าใจที่อยู่บนพื้นฐานว่าคุณจะหาทางออกให้กับปัญหาการนอกใจนี้ในทิศทางใด

ให้เวลาเขาปรับเปลี่ยนพฤติกรรรม หรือเดินจากมา

ไม่อ่านพลาดแรง! 10 Q&A ถาม-ตอบตรงใจ ว่าที่เจ้าสาว กว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

ใกล้ถึงวันแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาว ส่วนใหญ่มักจะมี “เจ้าหนูจำไม” โผล่เข้ามาสิงร่าง ผุดคำถามแนวกังวลประมาณว่า … ถ้าเลือกอย่างโน้น ถ้าเลือกอย่างนี้ จะดีกว่าไหมนะ

หลายคนตีบตันไม่รู้จะไปสรรหาคำตอบจากไหน กลายเป็นโมเม้นต์นับถอยหลังวันแต่งแบบเครียดๆ ก็มาก

ไม่เป็นไรค่ะ แพรวเวดดิ้งเข้าใจหัวอกคุณๆ ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายเป็นอย่างดี ผสมกับอยากให้คุณเฟรชสดชื่นไร้ความกังวลในวันสำคัญแบบสุดๆ จึงอาสารวบ 10 สารพันปัญหาคาใจที่เจ้าสาวตัวจริงและเวดดิ้งกูรูทั้งหลายฟันเฟิร๋มว่าถ้าว่าที่เจ้าสาวได้รู้ก่อนถึงวันแต่งงานของตน รับรองจะขจัดปัญหาอุปสรรคที่ไม่คาดฝันในวันแต่งงานไปได้มากกว่าครึ่ง

ใจดีรวบมาขนาดนี้ ว่าที่เจ้าสาว อย่าลืมส่งมินิฮาร์ทมาให้เราด้วยน้าาาา

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @beatriz_perez on Unsplash

Q1: ลองแหวนแต่งงานตอนไหน ได้แหวนถูกใจที่สุด?

A1: คำตอบง่ายๆ เลยคือ ตอนที่คุณอารมณ์ดี และมีสติมากที่สุด อย่าชวนกันไปเลือกแหวนช่วงที่รู้สึกไม่สบายหรือมีประจำเดือน ที่สำคัญ ไม่ควรลองไซส์แหวนในช่วงเช้า เพราะร่างกายอาจบวมจากการสะสมเกลือหรือแอลกอฮอล์จากคืนก่อนหน้านั้น  หลังออกกำลังกายหรือ เดินเหนื่อยๆ ก็อาจจะทำให้นิ้วบวมได้เช่นกัน

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @photos_by_lanty on Unsplash

Q2: จัดงานวันธรรมดา ต้องคำนึงถึงเรื่องอะไรเป็นพิเศษบ้าง?

A2: ควรคำนึงเรื่องการคอนเฟิร์มอาหาร  เพราะงานวันธรรมดาแขกจะมาค่อนข้างตามจำนวนซองที่แจก และมักไม่ค่อยพาลูกมา ด้วย ซึ่งบางงานอาจมีแขกแค่ 80 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามคือแขกจำนวนหนึ่งจะมาก่อนกำหนดมาก แต่อีกกลุ่ม หนึ่งที่อยู่ในส่วนที่การจราจรคับคั่งจะมาช้าไปเลย เพราะฉะนั้นจึงต้องกะจำนวนแขกก่อนเริ่มพิธีให้ดี ไม่อย่างนั้นแขกที่มาช้าจะไม่ได้เห็นงานช่วงพิธีการเลย

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @hermez777 on Unsplash

Q3: จะบอกว่าที่คุณแม่สามีได้ไหมว่าอยากให้ใส่ชุดแบบไหนและบอกอย่างไรดี?

A3: เจ้าสาวตัวจริงคนหนึ่งเล่าประสบการณ์ของเธอให้ฟังว่า ว่าที่คุณแม่สามีซื้อเดรสผ้าคอตต้อนสีขาวไว้สำหรับใส่ในงานแต่ง ในขณะที่คุณแม่ของเธอเองเตรียมชุดราตรีสีมิดไนท์บลูสุดคลาสสิก ความแตกต่างสุดขั้วแบบนี้ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและคิดไม่ตกว่าจะบอกว่าที่แม่สามียังไงดี

คำแนะนำนะคะ ขึ้นอยู่กับระดับความสัมพันธ์ของคุณกับท่าน หากเข้าขั้นสนิทอาจจะอธิบายกับท่านไปตรงๆ ได้ว่า ปกติแล้วคุณแม่ ทั้งสองฝ่ายน่าจะแต่งตัวเป็นทางการใกล้เคียงกัน อาจแนะนำให้ใส่ชุดที่เตรียมไว้แล้วสำหรับงานเลี้ยงกันเองในครอบครัว

แต่หากไม่ค่อยสนิทกันนัก งานนี้ก็ต้องบอกให้ว่าที่สามีช่วยพูดให้แล้วละ หรือถ้าที่บ้านคุณว่าที่สามี มีพี่สาวหรือน้องสาวหรือใครที่เป็นผู้หญิง ลองขอให้เขาช่วยพูดก็จะแลดูซอฟท์ขึ้นมาก เพราะคนในครอบครัวน่าจะสนิทและรู้วิธีพูดกับท่านมากกว่าเรา

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @jamesbold on Unsplash

Q4: จำเป็นไหมที่รองเท้าแต่งงานจะต้องเป็นสีขาว?

A4: แคร์ลีย์ โรนีย์ บรรณาธิการ “The Knot” นิตยสารเวดดิ้งชื่อดังของสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำไว้อย่างน่าสนใจว่า ไม่เคยมีใครกำหนดว่ารองเท้าแต่งงานต้องเป็นสีขาว เพียงแต่เพราะเจ้าสาวส่วนใหญ่ใส่ชุดแต่งงานโทนขาว จึงนิยมเลือกรองเท้าที่ดูเข้ากันได้ง่ายที่สุด ซึ่งก็คือสีขาว

อย่างไรก็ตาม เจ้าสาวยุคใหม่หลายคนที่ยังติดกับชุดแต่งงานสีขาวก็หันมาเล่นสนุกกับดีไซน์ของรองเท้ามากขึ้น ด้วยการเลือกรองเท้าโทนเมแทลลิกให้แมตช์กับความวาววับของเครื่องประดับ หรือดีเทลบนชุดแต่งงานก็ดูเก๋ไม่เบา

นอกจากนี้แคร์ลีย์ยังยุให้เจ้าสาวอินดี้เลือกรองเท้าแต่งงานที่แสดงความ เป็นตัวของตัวเอง เธอเล่าว่าเคยเห็นเจ้าสาวใส่บู๊ตขี่มอเตอร์ไซค์และบู๊ตคาวบอยปักอักษรย่อ บ่าว- สาว เดินอย่างมาดมั่นเข้าโบสถ์มาแล้ว

สรุปคุณบอกอนิตยสาร The Knot เธอต้องการจะบอกว่า เลือกรองเท้าที่คุณชอบน่ะแหละ และไม่ว่ามันจะเป็นสีอะไร ขอแค่ใส่แล้วคุณมั่นใจเป็นพอ

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: https://www.stargidap.com/

Q5: จะหอบชุดแต่งงานขึ้นเครื่องไปแต่งงานต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ต้องทำอย่างไร?

A5: มีหลายช้อยส์ให้เลือกค่ะ

1. แพ็คหลวมๆ ลงกล่อง กระเป๋า หรือใส่ที่คลุมหิ้วขึ้นไปเก็บในช่องเก็บกระเป๋า แต่อย่างหลังแนะนำให้เช็คอินน์ขึ้นเครื่องเนิ่นๆ เพื่อจะได้ยังมีที่ว่างพอ

2. ฝากแอร์โฮสเตสนำไปแขวน ตรงที่แขวนสูทใน Business Class ได้ (แต่ถ้าชาวบิสเนสคลาสครองที่แขวนไปเต็มหมดแล้วก็อาจ จะมีปัญหาได้นะคะ)

3. เครื่องบินบางเครื่อง โดยเฉพาะเครื่องเล็กและสายการบินราคาประหยัดจะไม่มีที่แขวนให้  หรือหากมีความสูงก็ไม่พอสำหรับแขวนชุดแต่งงานยาวๆ  แนะนำให้ซื้อตั๋วสำหรับวางชุดเพิ่มไปเลยเพื่อความสบายใจ

4. ถ้าไปประเทศไกลๆ ยิ่งที่ต้องทรานซิทเครื่องด้วยแล้ว แนะนำให้ใช้บริการชิบปิ้งอย่าง FedEx หรือ DHL ไปเลย น่าจะทำให้อุ่นใจกว่า

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @chiro on Unsplash

Q6: ใส่ชุดแต่งงานอย่างไรให้นั่งแล้วไม่ยับ?

A6: ทำผม – แต่งหน้าให้เรียบร้อย (อย่าเพิ่งทาลิปสติก) แล้วค่อยสวมชุด โดยให้เพื่อนช่วยจับชุด หากมีสุ่มก็จับซ้อนกันให้เรียบร้อยก่อน แล้วสวมจากทางปลายเท้าขึ้นมา จะช่วยให้ชุดไม่ยับมาก ในกรณีต้องเดินทางด้วยรถ ควรแผ่ชายกระโปรงด้านนอก (นั่งทับสุ่ม) ลงบนเบาะให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้ชุดยับยู่ยี่

ส่วนคุณเจ้าสาวที่สวมกระโปรงแคบ ให้นั่งหมิ่นๆ เอียงตัวเล็กน้อย เพื่อกระโปรงจะได้ไม่ยับ ไม่ควรนั่งไขว่ห้าง เพราะจะทำให้กระโปรงยับมากขึ้น

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo; @victoriapriessnitz on Unsplash

Q7: มีรอยสักทำให้ไม่ค่อยมั่นใจ ควรทำอย่างไรดี?

A7: อีกหนึ่งปัญหาคลาสสิคที่กวนใจเจ้าสาวแทททูคือกลัวว่ารอยสักจะไปสะดุดสายตา ทำให้ว่าที่คุณแม่สามีและผู้ใหญ่หลายๆ ท่านรู้สึกไม่ปลื้ม  ที่จริงปัญหานี้แก้ไขได้หลายวิธี เช่น

1. เลือกชุดที่ปกปิดช่วงที่มีรอยสักเสียตั้งแต่แรก ปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดกับรอยสักช่วงหัวไหล่และหลัง ลองเลือกชุดเจ้าสาวแบบไหล่เดี่ยว หรือแบบที่มีเสื้อคลุมก็ช่วยได้

2. สาวๆ ที่ตัดใจจากชุดเกาะอกไม่ได้ ให้ใช้เมคอัพช่วยปกปิด ซึ่งช่างแต่งหน้ามืออาชีพส่วนใหญ่จะมีรองพื้นและคอนซีลเลอร์ที่ปกปิดรอยสักได้ดีติดกระเป๋าช่างอยู่แล้ว คุณเจ้าสาวจึงแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องปกปิดรอยสักเลย เพราะช่างจะมีอุปกรณ์และเทคนิคเนรมิตผิวใหม่ให้คุณได้อยู่แล้ว

แต่หากงานแต่งของคุณเป็นแบบกันเอง ไม่ได้จ้างช่างแต่งหน้า แถมยังหารองพื้นปกปิดขั้นเทพไม่ได้ อีกเทคนิคหนึ่งที่แนะนำคือลงคอนซีลเลอร์แล้วพ่นทับด้วยแอร์สต๊อกกิ้ง (Air Stocking) กดเบาๆ ให้เนียน และรอให้แห้ง ก็พอช่วยได้อยู่นะ

3. ถ้าเป็นรอยสักเล็กๆ ที่ช่วงแขน แนะนำให้ลองหากำไลข้อแขนสวยๆ ที่มีความหนาพอจะปิดรอยสักมาใส่ แพรวเวดดื้งเคยห็นเจ้าสาวคนหนึ่งใช้วิธีนี้ กลายเป็นเก๋ไปเสียอีก

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @victoriapriessnitz on Unsplash

Q8: เตรียมงานมาอย่างหนักหน่วง กลัวว่าตื่นมาวันแต่งงานแล้วตาจะคล้ำ แถมบวมตุ่ย มีวิธีแบบเอสโอเอสช่วยบ้างไหม?

A8: ความรู้ทั่วไปเวลาตาบวมคือให้ใช้ถุงชา ช้อนแช่เย็น หรือน้ำแข็งมาประคบ บางคนบอกควรใช้ความร้อน เช่น สำลีชุบน้ำอุ่นประคบจะดีกว่า ความเชื่อที่ขัดแย้งกันแบบนี้ยิ่งทำให้หลายคนงงเข้าไปใหญ่ว่าตกลงแล้วควรต้องใช้ความเย็นหรือความร้อนกันแน่

แพรวเวดดิ้งขอเฉลยว่า ที่จริงแล้วทั้งความเย็นและความร้อนก็ช่วยให้ตาหายบวมได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับสาเหตุด้วย ถ้าเป็นอาการใต้ตาบวม หมองคล้ำ เพราะเส้นเลือดฝอยใต้ตาขยาย ซึ่งมักเกิดจากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ และเกิดร่วมกับคนที่มีพันธุกรรมใต้ตาคล้ำเนื่องจากมีเส้นเลือดฝอยใต้ตาจำนวนมากหรือคนที่มีภาวะภูมิแพ้ ก็ต้องใช้ความเย็นประคบเพื่อให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง กระชับขึ้น

แต่หากตาบวมจากการร้องไห้หรืออดนอน ทำให้มีของเหลวคั่งอยู่บริเวณเนื้อเยื่ออ่อนใต้ดวงตา ก็ต้องใช้ความร้อนประคบเพื่อระบายน้ำระหว่างเซลล์ออกไป ทำให้อาการบวมลดน้อยลง เพราะฉะนั้นหลังตื่นนอนในเช้าวันแต่งงานลองประคบอุ่นก่อนเพื่อระบาย ของเสียออกจากเซลล์ จากนั้นประคบเย็นตามเพื่อให้เส้นเลือดหดตัว

จากนั้นทาครีมรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของ Bi-mineral Complex หรือวิตามิน K ก็ได้ เพื่อช่วยลดอาการบวมช้ำและรอยเขียวคล้ำ  ทำให้ผิวรอบดวงตาใสวิ้งมากขึ้น

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @foodess on Unsplash

Q9: เช้าวันแต่งงานควรกินอะไรให้อยู่ท้องไปทั้งวัน และที่สำคัญ… พุงไม่ป่อง?

A9: ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติมักแนะนำให้กินอาหารที่ช่วยรักษาระดับน้ำตาล แต่ไม่หนักท้องและไม่ทำให้ท้องอืด เช่น ชีสกับแครกเกอร์ โยเกิร์ตกับกล้วย ซึ่งอาจไม่ค่อยคุ้นปากคนไทยเท่าไร แพรวเวดดิ้งอาสาจัดเมนูอาหารเบาๆ แต่อยู่ท้อง ได้แก่ น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง ขนมปังโฮลวีต ร่วมกับผลไม้ที่มีไฟเบอร์ แต่ไม่หวานจัด เช่น แอ๊ปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่

และหากยังกลัวง่าหิว แต่ก็ไม่อยากให้ท้องป่อง ให้เตรียมผลไม้ที่กล่าวมาไว้กินระหว่างวัน หรือดื่มน้ำผลไม้ผสมบุก จะทำให้อยู่ท้อง และอิ่มได้นาน แถมสดชื่นไปถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอด้วยนะ

ว่าที่เจ้าสาว, ถาม-ตอบ, Q&A, ปัญหาของว่าที่เจ้าสาว
Photo: @tronle_sg on Unsplash

Q10: ทำอย่างไรจึงไม่ปรี๊ดแตก เมื่อว่าที่สามีไม่ยอมช่วยจัดการอะไรเลย โดยให้เหตุผลสวยหรูว่า “ผมให้เกียรติคุณ คุณจะได้มีงานแต่งงานที่ถูกใจคุณที่สุดไง”

A10: ปัญหาระดับชาตินี้คงต้องอาศัยความสามารถเฉพาะบุคคลในการจัดการกับว่าที่เจ้าบ่าวของตัวเอง แต่ทางที่ดีแพรวเวดดิ้งแนะนำว่า ควรจะเปิดใจคุยกันอย่างจริงจัง บอกเขาไปตรงๆ ว่า คุณคาดหวังให้เขาช่วยอะไรบ้าง ให้เขาเข้าใจว่า คุณไม่สามารถเตรียมงานทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวได้

การแบ่งหน้าที่แยกส่วนกันไปตามความสนใจและความสามารถ ก็เป็นวิธีที่เวิร์คอยู่ เช่น ให้เขาเป็นคนหาวงดนตรี หาช่างภาพ ฯลฯ พูดง่ายๆ คือ ให้พ่อเจ้าประคุณทำอะไรก็ได้ตามความถนัดของเขาไปเลย

อีกเทคนิคที่อยากแนะนำคือ ให้ถามถึงความต้องการของผู้ใหญ่ฝ่ายเขาเยอะๆ และสุดท้ายก็โอนหน้าที่นั้นไปให้เขาช่วยจัดการเลย ด้วย เหตุผลว่าเราอยากเอาใจฝ่ายเขา แต่กลัวว่าจะจัดการให้ไม่ถูกใจ หรือเวลาคุณว่าที่เสนออะไรที่พอจะเข้าท่ามาสักนิด ให้รีบชื่นชมว่ามันช่างเลิศล้ำ นี่ละเป็นโอกาสโยนหน้าที่นั้นให้อีกฝ่ายรับไปแบบเนียนๆ

สุดท้ายถ้าให้ช่วยทำอะไรแล้วยังบ่ายเบี่ยงว่าไม่ถนัดอะไรสักอย่าง แนะนำว่าควรใช้วิจารณญาณไตร่ตรองอย่างรอบคอบอีกครั้ง ถ้าทำทุกเม็ดแล้วเขายังงงๆ ทำอะไรไม่ถูก ก็ให้ท่องไว้ว่าอย่างน้อยเขาก็ยืนอยู่กับเราในวันแต่งงาน

ถ้าขาดเขา ทั้งหมดที่เราทำไปก็ไร้ประโยชน์เนอะ

ระหว่างผู้หญิงกับผู้ชาย ใครมอง แฟนเก่า ในแง่ดีกว่ากัน?

คนส่วนมากมักจะมอง แฟนเก่า ของตัวเองแย่ลง หลังจากที่ความสัมพันธ์หวานชื่นสิ้นสุดลง คำถามก็คือมุมมองของผู้หญิงกับผู้ชายที่มีต่ออดีตคนรักนั้นมีความแตกต่างกันไหม?

ต้องบอกก่อนว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักมองคนรักเก่าแย่ลงภายหลังเลิกลากันนั้น มีเหตุผลรองรับที่ดีอยู่ 2 ข้อ เหตุผลแรกก็คือการเลิกราเกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ดี แต่เหตุผลที่ว่ากลับดูเลวร้ายลงเมื่อเวลาผ่านไปจนทำให้รู้สึกแย่กับอดีตคนรัก

อีกเหตุผลหนึ่งคือโดยทั่วไปแล้ว ตอนที่ยังคบกับคนรักเก่าอยู่นั้น เรามักจะเชื่อว่าคนที่คบด้วยนั้นเป็นคนที่ดีพอสำหรับเรา แต่เมื่อเลิกรากันไปแล้ว เราจะปกป้องตัวเองว่าการตัดสินใจเลิกกับคนเก่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องแล้ว

ด้วยเหตุนี้ Ursula Athenstaedt แห่งมหาวิทยาลัย University of Graz ประเทศออสเตรีย และทีมวิจัยจึงได้ทำการสำรวจความแตกต่างทางทัศนคติของผู้หญิงกับผู้ชายที่มีต่อคนรักเก่า จนนำมาตีพิมพ์ไว้ในหนังสือ Social Psychological and Personality Science

ผลจากการสำรวจความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยจำนวนมากกว่า 800 คน ด้วยการสอบถามความเห็นของผู้เข้าร่วมการวิจัยที่มีต่อคนรักเก่า ปรากฏว่าได้รับคำตอบที่หลากหลาย ตั้งแต่คำตอบแง่ดีอย่าง “แฟนเก่าของฉันมีข้อดีหลายอย่าง” ไปจนถึงคำตอบแบบ “นึกถึงแฟนเก่าทีไร ฉันโมโหทุกที”

และเมื่อนำคำตอบทั้งหมดมาแปลงเป็นค่าประมาณโดยเฉลี่ยของมุมมองแง่ดีที่คนเรามีต่อคนรักเก่าแล้วพบว่า … ผู้ชายมองอดีตคนรักในแง่ดีมากกว่าผู้หญิง

คำถามคือแล้วทำไมผู้ชายจึงมอง แฟนเก่า ในแง่ดีมากกว่าผู้หญิงล่ะ?

เรื่องนี้มีเหตุปัจจัยที่สนับสนุนคำตอบนี้ 4 ข้อ คือ

1.เพราะผู้ชายชอบมีความต้องการสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดหรือไม่ยืนยาว

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @kevin_butz on Unsplash

ในแง่ของการวิวัฒนาการ ผู้ชายจะต้องการมีคู่จำนวนมาก ในขณะที่ผู้หญิงจะต้องการมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวและมั่นคง ดังนั้นผู้ชายจึงเลือกรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรักเก่ามากกว่า เนื่องจากมองว่ามีโอกาสที่จะผูกสัมพันธ์กันได้อีกเป็นครั้งคราวในโอกาสถัดๆ ไป

2.เพราะผู้ชายมีแนวโน้มต้องการที่พึงพาทางใจ จึงทำให้ยังมีความรู้สึกติดยึดพึ่งพากับคนรักเก่า

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @wiradyatmika on Unsplash

ข้อนี้มีงานวิจัยอีกสายหนึ่งที่เคยแสดงให้เห็นว่าผู้ชายมีการพึ่งพาทางใจกับคู่ของตนมากกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้หญิงมักจะมีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้หญิงด้วยกันมากกว่าผู้ชาย และผู้หญิงมีบุคลิกเป็นที่พึ่งทางใจได้ดีกว่าผู้ชาย บทบาทของผู้หญิงในความสัมพันธ์จึงเป็นมากกว่าแค่คนรัก

ดังนั้นผู้ชายจะรู้สึกขาดที่พึ่งทางใจเมื่อไม่มีคนรักคอยช่วย นั่นคือสาเหตุที่เรามักจะพบว่าผู้ชายมีความวิตกกังวลและซึมเศร้าหลังเลิกกับคนรักมากกว่าผู้หญิง

3.เพราะผู้ชายยังงงๆ ว่าการเลิกราที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของใคร

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @niclasmoser on Unsplash

ค่าเฉลี่ยของการเลิกรากันของคู่รัก ผู้หญิงมีแนวโน้มจะโทษคู่ของตนมากกว่าผู้ชายเมื่อความสัมพันธ์สิ้นสุดลง จากกรณีศึกษาคู่หย่าร้างชิ้นหนึ่งพบว่า ส่วนมากแล้วฝ่ายชายจะไม่เข้าใจสาเหตุที่ทำให้ชีวิตคู่ล้มเหลว ในขณะที่ผู้หญิงมักจะมองว่าคนรักเก่านั้นทำตัวเป็นปัญหาตั้งแต่ก่อนจะเลิกรากันเสียอีก นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้หญิงจึงมองคนรักเก่าแย่กว่าผู้ชาย

4.เพราะผู้ชายไม่ถนัดรับมือกับความรู้สึกหลังเลิกรา

แฟนเก่า, คนรักเก่า, อดีตคนรัก, คนเคยรักกัน
Photo: @samr1os_official on Unsplash

โดยมากแล้วผู้หญิงจะรับมือกับความรู้สึกหลังเลิกรากับคนรักได้ดีกว่าผู้ชาย ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ และการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด ในขณะที่ผู้ชายมักจะหนีปัญหาไปพึ่งพาแอลกอฮอล์หรือสิ่งเสพติดอื่น ๆ ผู้หญิงจึงฟื้นตัวจากการเลิกรากับคนรักได้ดีกว่าผู้ชาย และนั่นทำให้ผู้หญิงมองอดีตคนรักในแง่ลบแบบจริงๆ จังๆ เพราะพวกเธอโปรแกรมความรู้สึกชัดเจนไปแล้วว่า… ดีแล้วที่เลิกกัน

ด้วยเหตุผลทั้ง 4 ข้อนี้ ยิ่งทำให้เป็นที่ประจักษณ์ชัดว่าความแตกต่างทางเพศมีผลอย่างมากต่อความรู้สึกนึกคิดที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้วยสาเหตุว่าผู้ชายมีการพึ่งพาทางความรู้สึกกับอดีตคนรักของตนมากกว่า ผู้ชายยอมรับการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดมากกว่า

ขณะที่ผู้หญิงต้องการความสัมพันธ์ที่พิเศษและยืนยาวมากกว่า จึงมีแนวโน้มโทษอดีตคนรักหรืออาจโทษทั้งตนเองและอดีตคนรักมากกว่าเมื่อเลิกรากัน แม้ว่าคุณเธอทั้งหลายรับมือกับอาการอกหักได้ดีกว่าก็เถอะ

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยปลีกย่อยอื่น ๆ ที่ส่งผลกับความแตกต่างทางมุมมองที่ว่านี้ อย่างเช่นผู้ชายให้ความสำคัญกับรูปร่างหน้าตาของคู่รักมากกว่าองค์ประกอบอื่น รูปร่างหน้าตาของอดีตคนรักจึงส่งผลต่อมุมมองของผู้ชายอย่างมาก ซึ่งการให้คะแนนรูปร่างหน้าตานี้มักไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้จะมีปัญหาความสัมพันธ์ก็ตาม

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือผู้ชายมักจะมองคู่ของตนสมบูรณ์แบบมาตลอด และแม้ว่าเธอคนนั้นจะเปลี่ยนสเตตัสไปเป็นอดีตคนรัก เขาก็ยังคงมองเธอด้วยความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเมื่อรูปร่างหน้าตาเธอยังทำให้เขาติดอกติดใจได้อยู่ มันยิ่งทำให้เขามีเจตคติว่าการรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับอดีตคนรักนั้นเป็นข้อดีหลังการเลิกรามากกว่าผู้หญิง

และด้วยมุมมองที่ยอมรับความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดของผู้ชายทำให้ผู้ชายอาจมองอดีตคนรักในฐานะของเพื่อนที่เป็นมากกว่าเพื่อน ตลอดจนภาวะขาดที่พึ่งทางใจที่หาไม่ได้จากกลุ่มเพื่อนของตัวเอง การรักษาความสัมพันธ์กับอดีตคนรักจึงอาจเป็นทางออกเดียวที่ผู้ชายมี

รู้อย่างนี้แล้วผู้หญิงทั้งหลายก็อย่าได้สงสัยกับอารมณ์หึงโหดของตัวเองว่าโอเวอร์ไปไหมที่รู้สึกทนไม่ได้ที่คนของคุณยังพูดคุยกับคนรักเก่าของเขาด้วยดี

ก็งานวิจัยเขาชี้ชัดมาขนาดนี้ อย่างไรซะก็จำกัดให้เขาแค่รู้สึกว่าอีกคนก็แค่คนเคยรัก อย่าถึงกับมีแอคติ้ง ไม่งั้นเพลง “ถ่านไฟเก่า” จะดังนะคุณ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี ความลึกลับของดวงชะตาที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

ไม่มีใครรู้แน่ชัดหรอกว่าดวงชะตาราศีสามารถส่งผลกับชีวิตรักของคนได้มากน้อยเพียงใด แต่ถ้าเป็นเรื่อง เสน่ห์บนเตียงตามราศี ละก็ เขาว่ามีชัวร์นะยูว์

อย่างที่เรารู้กันว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนจะเวิร์กหรือไม่นั้น ในทางวิทยาศาสตร์อาจตัดสินกันด้วยความรู้สึกเข้ากันได้ทางเคมี แต่ถ้าเป็นทางโหราศาสตร์ การยิงคำถามแรกใส่คนที่เพิ่งคบหาว่า “คุณเกิดราศีอะไร?”  คงถูกมองบนใส่ว่าเพี้ยนแหง ทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นสำหรับคนที่ “อิน” กับดวงชะตา มันถือเป็นเรื่องดีมากๆ หากได้รู้ราศีของอีกฝ่ายก่อนจะเริ่มสานสัมพันธ์ เพราะตามตำราว่าด้วยราศีต่างๆ ไม่ใช่ว่าทุกราศีจะเข้ากันได้ดีไปซะหมด มันจะมีราศีที่ “ส่งเสริมให้เป็นคู่ชิด” กับราศีที่ “ขัดแย้งเพราะเป็นคู่ปฏิปักษ์” ซึ่งแน่นอนว่าทุกคู่รักคงไม่ต้องการให้ตัวเองกับคู่ของตนเป็นอย่างหลังหรอกใช่ไหม?

แต่ถึงคุณจะไม่อินเรื่องดวงชะตาราศี การได้เรียนรู้รสนิยมทางเพศของคนราศีต่างๆ ก็ยังเป็นสิ่งที่น่าสนใจอยู่ดี ลิสต์นี้แพรวเวดดิ้งเลยจัดหลักสูตร “เรียนลัด” เพื่อให้คุณได้รู้เรื่อง เสน่ห์บนเตียงตามราศี ครบทั้ง 12 ราศี เผื่อว่ามันจะช่วยให้คุณเข้าใจและสานสัมพันธ์กับคู่ของคุณได้ใกล้ชิดมากขึ้น

ราศีเมษ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีเมษ
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ในทางโหราศาสตร์ ดาวอังคารคือตัวแทนของความเร่าร้อนและความปรารถนา ซึ่งความเร่าร้อนที่ว่านั้น แน่นอนว่าต้องรวมถึงเรื่องบนเตียงด้วย โดยคนที่เกิดในราศีเมษนั้นมีทั้งความอึดที่น่าทึ่งและความรักที่ร้อนแรงอยู่ในตัว ด้วยลักษณะเด่นของคนที่มีวิญญาณนักรบ ชางเมษมักเป็นพวกรุกไม่ยั้ง จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ชาวเมษจะรุกหนักเพื่อครองใจคุณอย่างรวดเร็ว ความท้าทายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวราศีเมษชื่นชอบ คำเตือนคือคุณไม่ควรปล่อยให้ชาวราศีเมษต้องอดทนรอนานจนเกินไป จนพวกเขารู้สึกหมดความอดทนอ่ะนะ

และด้วยลักษณะเด่นชัดนี้เอง ส่งผลให้การมีเซ็กส์ของชาวราศีเมษมักเริ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและดุดัน แถมยังชอบเป็นฝ่ายคุมเกมอย่างสมบูรณ์แบบ 100% อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพศอะไรก็ตาม

อย่าเพิ่งจุ๊ปากจิ๊จ๊ะว่า… ชั้นเป็นหญิง รุกก่อนหน้าเกลียดตาย แพรวเวดดิ้งช่วยตีโจทย์คำศัพท์ว่าด้วยการ “คุมเกม” คือ หากเป็นหนุ่มราศีเมษ เขาจะต้องการคู่นอนที่เป็นฝ่ายรับ ส่วนสาวราศีเมษก็ต้องการเป็นเจ้าของคู่ของตนอย่างสมบูรณ์

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีตุลย์ และ ราศีธนู

ราศีพฤษภ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีพฤษภ
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ตรงข้ามกับชาวราศีเมษที่ร้อนแรง ชาวราศีพฤษภนั้นใจเย็นและอ่อนโยน ด้วยอิทธิพลของดาวศุกร์ซึ่งเป็นตัวแทนของความรักและความงาม ผู้ที่เกิดในราศีพฤษภจึงชอบที่จะใช้เวลาดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาอันหวานชื่น แต่เดี๋ยวก่อน อย่าให้ท่าทีที่ดูสงบของชาวราศีพฤษภหลอกคุณได้ เพราะคนราศีนี้ทั้งหัวแข็งและมีความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อ และยังเต็มไปด้วยความหลงใหลอย่างตรงไปตรงมา

แล้วคุณจะได้เจออะไรในเกมรักของชาวพฤษภ?

เกมรักของชาวราศีพฤษภนั้นเต็มไปด้วยการแลกจูบและการสัมผัสทั่วเรือนร่าง ด้วยความเป็นธรรมชาติที่ไม่มีการปรุงแต่ง เขาหรือเธอจะกล่อมคุณด้วยสเน่หาและความโรแมนติกซึ่งมาจากอิทธิพลของดาวศุกร์ นอกจากนี้ชาวราศีพฤษภจะชอบคู่ที่ชอบทำอาหารมากพอ ๆ กับการกอดจูบ นั่นเป็นสาเหตุให้พวกเขาชอบการมีเซ็กส์ที่ไม่เร่งรีบแต่ลืมไม่ลง เหมือนกับการทานอาหารนั่นเอง

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีกรกฎ และ ราศีมกร

ราศีเมถุน

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีเมถุน,
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยความช่างสงสัยและเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ชาวราศีเมถุนจึงถือเป็นตัวป่วนในกลุ่มราศีทั้งหมด ด้วยอิทธิพลของดาวพุธซึ่งเป็นตัวแทนของการสื่อสาร ผู้ที่เกิดในราศีเมถุนจึงชื่นชอบการสนทนาที่กระตุ้นความคิดและความรู้สึกอย่างมีชั้นเชิง ระบบความคิดของชาวราศีเมถุนนั้นรวดเร็วและอยู่ไม่สุข ทำให้พวกเขาสามารถแสดงบุคลิกได้หลากหลาย แต่ก็วอกแวกได้ง่ายเช่นกัน จึงอย่าแปลกใจที่อยู่ดี ๆ ชาวราศีเมถุนจะอยากเปลี่ยนบทบาทหรือรูปแบบของเกมรักขึ้นมากระทันหัน

ชาวราศีเมถุนจะมองความรักเป็นเรื่องสนุกสนานไม่ซีเรียส เขาหรือเธอจึงมักชอบเล่นเกมความรัก โดยมีเป้าหมายคือทำให้อีกฝ่ายหลงรักตัวเองในเกมนี้ และเมื่ออยู่บนเตียง ด้วยมุมมองว่าการมีเซ็กส์ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย ทำให้ขั้นตอนที่จะนำไปสู่กิจกรรมบนเตียงของชาวราศีธาตุลมนี้ออกจะแตกต่างจากราศีอื่น ๆ ไปไม่น้อย เซ็กส์ที่เพอร์เฟคต์ของชาวราศีเมถุนต้องมีการเล้าโลมมาก ๆ เพื่อถ่วงเวลาในการทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างจงใจ

จุดเด่นอีกอย่างของชาวราศีนี้ไม่ว่าหญิงหรือชายคือพวกเขาล้วนชอบความตื่นเต้นและแปลกใหม่ เพราะฉะนั้นคนที่คบหากับชาวราศีนี้ก็อย่าได้แปลกใจ หากคุณจะได้รับแชทหวิว หรือการใช้คำหยอกเย้าแบบสองแง่สองง่าม เพราะการใช้ถ้อยคำเป็นเสน่ห์หลักของชาวราศีนี้เลยแหละ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีกุมภ์

ราศีกรกฎ

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีกรกฎ
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยความเป็นคนเอาใจใส่และไวต่อความรู้สึกของคนรอบข้าง ชาวราศีกรกฎจึงเป็นกลุ่มที่อ่านบรรยากาศได้เก่งที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด  นี่คือเหตุผลว่าผู้ที่เกิดในราศีกรกฎนั้นจะเป็นผู้ที่เปิดรับความรู้สึกของคนรอบข้างโดยธรรมชาติ และมีความรู้สึกอ่อนไหวง่าย ด้วยอิทธิพลของดวงจันทร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ชาวราศีธาตุน้ำนี้จึงมีส่วนผสมของความรู้สึกโหยหาอดีตและความรู้สึกที่กดทับอยู่ภายในไหลเวียนเป็นวังวนอยู่ภายในใจ

สำหรับชาวราศีกรกฎแล้ว ความรักจะเกิดขึ้นได้ต้องมีทั้งความจริงจังในความสัมพันธ์และความผูกพันที่ลึกซึ้ง จึงอย่าแปลกใจถ้าชาวราศีกรกฎจะไม่ชื่นชอบการมีสัมพันธ์ฉาบฉวยหรือเซ็กส์ที่เร่าร้อนรุนแรง เพราะพวกเขาต้องการความรู้สึกปลอดภัยและเป็นที่ต้องการในฐานะคนรัก ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะหลบเข้ากระดองไปตลอดกาลเอาง่าย ๆ

แต่ถ้าเมื่อใดที่ชาวราศีกรกฎรู้สึกผ่อนคลายและปลอดภัยขึ้นมาละก็ พวกเขาจะเผยด้านที่เซ็กซี่เย้ายวนใจอย่างมากออกมา ซึ่งแปลว่าชาวกรกฎจะเป็นฝ่ายรับที่ทุ่มเทและพร้อมอุทิศตนให้คนรักเมื่ออยู่บนเตียงเลยละ ว้าว! เลยใช่ไหม

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีมีน และ ราศีพฤษภ

ราศีสิงห์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีสิงห์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

เช่นเดียวกับราศีธาตุไฟอย่างราศีเมษ ชาวราศีสิงห์นั้นกระตือรือร้นและเร่าร้อนอย่างมาก ด้วยอิทธิพลของดวงอาทิตย์ ผู้ที่เกิดในราศีสิงห์จึงมีทั้งเสน่ห์ที่โดดเด่นและออร่าที่น่าประทับใจ อย่าแปลกใจถ้าชาวราศีสิงห์จะทำให้ห้องดูสดใสขึ้น  เพราะด้วยราศีเกิดที่ส่งเสริมสุด ๆ ทำให้พวกเขามีแต้มบุญตรงที่เป็นหัวใจของการปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด อุปมาให้เห็นภาพ ชาวราศีสิงห์ก็คือคนที่ใช้ชีวิตเป็นเวทีที่มีตัวเองเป็นนักแสดงนำนั่นเอง

สำหรับเรื่องบนเตียง เนื่องจากชาวราศีธาตุไฟนี้ต้องการเป็นที่รัก เป็นที่ต้องการ และเคารพนับถือ การอวดของดีให้คู่รักได้เห็น รวมถึงการสรรหาลีลาที่น่าตื่นตาตื่นใจจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชาวราศีนี้ โดยพวกเขามักคาดหวังว่าคู่ของพวกเขาจะทำแบบเดียวกัน คำแนะนำสำหรับคนที่เป็นคู่รักของชาวราศีสิงห์ ขอให้รู้ไว้เลยว่า คู่ของคุณเขาคาดหวังให้คุณชื่นชมเขาเมื่ออยู่บนเตียง แต่คุณไม่ต้องลำบากใจไป เพราะเมื่ออคุณได้สัมผัสลีลาของชาวสิงห์แล้ว เชื่อว่าคุณก็คงอดชื่นชมไม่ได้เช่นกัน เพราะเรื่องบนเตียงของคนราศีนี้ย่อมไม่ใช่แค่กิจกรรมธรรมดา ทว่าเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ดังมหรสพเลยทีเดียว

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีพิจิก

ราศีกันย์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีกันย์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ชาวราศีกันย์นั้นอาจจะเรื่องมากอยู่สักหน่อยเมื่ออยู่บนเตียง ด้วยบุคลิกที่รอบคอบและใฝ่หาความสมบูรณ์แบบ ชาวราศีกันย์จึงเป็นนักทำงานผู้เก่งกาจที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด ด้วยอิทธิพลของดาวพุธ ชาวราศีกันย์จึงมีความคิดที่เป็นระบบแบบแผนและล้ำลึกซึ่งส่งผลให้ชาวราศีกันย์นั้นมีความแม่นยำและใส่ใจในทุกรายละเอียด

และแม้ว่าสาวพรหมจรรย์จะเป็นสัญลักษณ์ทางโหราศาสตร์ของราศีกันย์ จนทำให้เกิดภาพจำว่าความรักของชาวราศีธาตุดินนี้ค่อนข้างจริงจังและหัวโบราณ แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงทุกวันนี้ ชาวกันย์ก็พร้อมจะปลดปล่อยตัวเองจากความยึดติด เมื่อรู้สึกสบายใจกับความสัมพันธ์ที่มี  แถมยังพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาใจคู่ของพวกเขาด้วย

เคล็ดลับเผด็จศึกชาวกันย์น่ะเหรอ? ไปอาบน้ำให้เรียบร้อยก่อนไง ห้องนอนที่สะอาดเอี่ยมคือสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวราศีกันย์ หรือคุณจะเลือกย้ายไปทำกิจกรรมระหว่างอาบน้ำก็ไม่ว่ากัน

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีมกร และ ราศีพิจิก

ราศีตุลย์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีตุลย์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ชาวราศีตุลย์ผู้เป็นชาวดาวแห่งความรักเจ้าเสน่ห์นั้นเป็นนักรักตัวจริงในกลุ่มราศีทั้งหมด นั่นแปลว่าชาวราศีธาตุลมนี้มีเสน่ห์เหลือร้ายและชื่นชอบการมีความรักเป็นที่สุด

ด้วยอิทธิพลของดาวศุกร์ ชาวราศีตุลย์จะรู้สึกดีที่สุดเมื่อถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนหน้าตาดี และการมีคู่ที่เข้ากันได้สมบูรณ์แบบคือเป้าหมายสำคัญของชาวตุลย์ ปัญหาก็คือ การตกหลุมรักชาวตุลย์ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การทำให้ชาวตุลย์ตกหลุมรักคุณนั้นเป็นเรื่องท้าทายสุด ๆ นั่นก็เพราะผู้ที่เกิดในราศีตุลย์นั้นมีพรสวรรค์ในการหว่านเสน่ห์ ซึ่งส่งผลให้ชาวราศีตุลย์หลงเสน่ห์ใครได้ยาก

ดังนั้นถ้าคุณสนใจหนุ่มราศีตุลย์ วิธีฮุคให้อยู่หมัดคือคุณต้องทำให้เขาเป็นฝ่ายไล่ตาม เพราะสำหรับพวกเขาแล้วเซ็กส์ไม่สำคัญเท่าความสุข และความสมหวังในความสัมพันธ์ แต่งตัวให้น่าประทับใจและยอมเปย์เงินซื้อน้ำหอมราคาแพงคือด่านแรกที่คุณต้องผ่าน

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีพฤษภ

ราศีพิจิก

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีพิจิก
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยอิทธิพลของดาวพลูโต ดาวแห่งความเปลี่ยนแปลง สัญลักษณ์ของเทพผู้ปกครองดินแดนหลังความตาย ชาวราศีพิจิกจึงมีความเป็นนักล่าที่สุดในกลุ่มราศีทั้งหมด

โดยปกติชาวพิจิกนั้นอาจปกปิดตัวจริงไว้ใต้เปลือกอันลึกลับ น่ากลัว และใช้บรรยากาศคุกคามเป็นเครื่องมือเริ่มแผนการอันเร่าร้อน  ด้วยลักษณะเด่นที่มีออร่าสะกดใจ และอำนาจจิตที่แข็งแกร่ง ซึ่งเป็นทั้งพรสวรรค์และคำสาปของชาวราศีนี้ ชีวิตของชาวราศีพิจิกจะเป็นแบบเทหมดหน้าตัก และความรักของพวกเขาก็เหมือนฉากในนิยายเรื่อง Dracula ของ Bram Stoker ที่ทั้งเร่าร้อนและน่ากลัว

เสน่ห์ของชาวราศีพิจิกคือเมื่ออยู่ในห้วงรัก ชาวราศีธาตุน้ำนี้จะเต็มไปด้วยความปรารถนาทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ และเมื่ออยู่บนเตียงพวกเขาจะเต็มไปด้วยราคะและความต้องการที่ล้ำเส้น สำหรับเคล็ดลับมัดใจชาวพิจิกน่ะเหรอ? ลองอ่านนิยายเรื่อง Fifty Shades Of Gray แล้วเลือกซีนเร่าร้อนในนั้นมาลองใช้ดูสิ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีสิงห์ และ ราศีกันย์

ราศีธนู

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีธนู
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยอิทธิพลของดาวพฤหัส ทำให้ชาวราศีธนูเต็มไปด้วยพลังแง่บวกและความกระตือรือร้น ชอบออกเดินทางเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่และสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน ดูแล้วคล้ายลม จับต้องยาก ไม่น่าจะฝากชีวิตด้วยนักใช่มั้ยล่ะ?

เดี๋ยวก่อน อย่าเพิ่งปักใจกับข้อมูลสองบรรทัดบนนัก เพราะจริงๆ แล้วการจะมัดใจชาวธนูนั้นไม่ยากอย่างที่คิด ด้วยเหตุว่าเมื่อเป็นเรื่องความรักแล้ว ชาวราศีธนูจะเปิดเผยอย่างมาก พวกเขาจะแสดงออกอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ไม่ชอบเสียเวลาเล่นเกมกับหัวใจ เพราะเกมเดียวที่ชาวธนูจะเล่นก็มีแต่เกมรักบนเตียงเท่านั้นแหละ

ความตื่นเต้น ความน่าประหลาดใจ และความแปลกใหม่คือสิ่งที่ปลุกเร้าอารมณ์ของชาวธนูได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอย่ากลัวที่จะลองอะไรใหม่ ๆ กับชาวธนู นั่นเพราะเซ็กส์ที่เป็นเหมือนการผจญภัยครั้งใหม่ คือสิ่งที่ชาวราศีนี้ต้องการ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีเมษ และ ราศีเมถุน

ราศีมกร

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีมกร
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ผู้ที่เกิดในราศีมกรนั้นเป็นคนเฉลียวฉลาดและเต็มไปด้วยความมั่นใจ เมื่อพวกเขาตัดสินใจในเรื่องใดแล้วก็จะมองเป็นการลงทุนไปเสียหมด นั่นทำให้ก่อนที่ชาวมกรจะร่วมเตียงกับใคร พวกเขามักต้องการรู้จักคู่ของตนเป็นอย่างดีและมีความสนิทสนมในระดับหนึ่งก่อน ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของดาวเสาร์ที่เป็นตัวแทนของความจริงจัง ทำให้ผู้ที่เกิดในราศีมกรเป็นผู้ที่มีความรอบคอบและระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเขาต้องการที่จะรู้จุดยืนที่ชัดเจนของตนเองในความสัมพันธ์

ทั้งความเจ้าพิธีการและหัวโบราณทำให้ชาวมกรมีแนวคิดเรื่องเซ็กส์แบบหนังคลาสสิก ดังนั้นชาวมกรอาจจะเปิดเพลง Mozart และดื่มด่ำไปกับไวน์ดี ๆ สักแก้วก่อนจะขึ้นเตียงกับคนรักก็ได้ แต่เมื่อเกมรักเริ่มขึ้นเมื่อไรก็อย่าหวังว่าคุณจะได้นอนในคืนนั้น เพราะชาวราศีมกรมีความอึดไม่เป็นรองใครจริง ๆ

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีกันย์ และ ราศีพิจิก

ราศีกุมภ์

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีกุมภ์
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ชาวราศีกุมภ์เป็นคนที่มากด้วยสติปัญญาและยากจะคาดเดา ถือเป็นอัจฉริยะที่โดดเด่นในกลุ่มราศีทั้งหมด ด้วยอิทธิพลของดาวยูเรนัสที่เป็นตัวแทนของการปฏิวัติ ผู้ที่เกิดในราศีกุมภ์จึงเป็นคนที่เต็มไปด้วยวิสัยทัศน์และสติปัญญา แต่ด้วยความมีเหตุผลและมีโลกส่วนตัวสูง ชาวราศีกุมภ์จึงมักถูกเข้าใจผิดได้ง่าย

เช่นเดียวกับราศีพี่น้องร่วมธาตุอย่างราศีเมถุน ชาวราศีธาตุลมนี้ชื่นชอบการผูกสัมพันธ์ด้วยวาจาและการชิงไหวชิงพริบก่อนสานสัมพันธ์ทางกาย ซึ่งถ้าคุณมัดใจชาวกุมภ์ด้วยสติปัญญาได้เมื่อไร คุณก็มีชัยไปกว่าครึ่ง

สิ่งที่ต้องระวังก็คือ ชาวราศีกุมภ์ที่เข้ากับคนได้ง่ายนั้นไม่ชื่นชอบการผูกมัด เพราะพวกเขาให้ความสำคัญกับอิสรภาพและความเป็นตัวของตัวเองอย่างมาก ชาวกุมภ์จึงนิยมเป็น “มากกว่าเพื่อนแต่ยังไม่ใช่แฟน” ในช่วงแรกของความสัมพันธ์ หรืออาจจะคบแบบชิล ๆ ก่อนความสัมพันธ์จะจริงจังเกินไป นอกจากนี้ ชาวกุมภ์ยังชอบทดลองสิ่งใหม่ ๆ และชอบทำอะไรตามความสนใจแบบไม่มีขอบเขต แต่ก็ยังคงมีโลกส่วนตัวสูงอยู่ดี

นั่นทำให้เซ็กส์สำหรับชาวราศีกุมภ์นั้นไม่มีขีดจำกัด ยิ่งไม่ธรรมดาเท่าใดยิ่งถูกใจพวกเขาเท่านั้น

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีพิจิก และ ราศีเมถุน

ราศีมีน

เสน่ห์บนเตียงตามราศี, ดวงชะตา, โหราศาสตร์, ดวงชะตาราศี, ชีวิตรัก, คู่นอน, ราศีมีน
Photo: DarkmoonArt_de on Pixabay

ด้วยอิทธิพลของดาวเนปจูนที่เป็นตัวแทนของความเพ้อฝัน ผู้ที่เกิดในราศีราศีมีนจึงเป็นคนที่เต็มไปด้วยความเชื่อทางจิตวิญญาณและออกจะหลุดโลกอยู่สักหน่อย พวกเขามักดูลึกลับและกลมกลืนไปกับสิ่งแวดล้อม และด้วยธรรมชาติที่ชอบเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ชาวราศีมีนจะรู้สึกดีมากเมื่อได้เยียวยาใจให้กับคนรอบข้าง เพราะเชื่อมั่นว่าตนมีคาถามหาเสน่ห์อยู่กับตัว

สิ่งหนึ่งที่ต้องรู้ก็คือความเพ้อฝันของชาวราศีมีนนั้นเต็มไปด้วยสีสันและความลึกล้ำ ด้วยพรสวรรค์ในการจินตนาการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีชีวิตชีวา เมื่อพูดถึงความรัก ชาวราศีมีนนั้นแสนเย้ายวนและโรแมนติก พวกเขาจะเอาความพึงพอใจของคู่รักมาก่อนเป็นอย่างแรก และพวกเขาก็ใฝ่ฝันที่จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคนรักทั้งร่างกายและจิตวิญญาณเช่นเดียวกับราศีพี่น้องร่วมธาตุอย่างราศีพิจิก

อย่าแปลกใจ ถ้าชาวราศีมีนจะยั่วยวนเก่งอย่างเหลือเชื่อ นั่นเพราะเซ็กส์ของชาวราศีมีนทั้งร้อนแรงและน่าลุ่มหลงราวกับความฝัน โดยเฉพาะเซ็กส์ตอนตื่นนอนคือสิ่งที่พวกเขาชื่นชอบ ดังนั้นคุณคงต้องเลื่อนเวลากาแฟหลังตื่นนอนออกไปสักชั่วโมงหนึ่ง

คู่นอนที่เข้ากันได้ดีที่สุด: ราศีกรกฎ และ ราศีพิจิก

ท้ายนี้แพรวเวดดิ้งหวังว่าด้วยข้อมูลเสน่ห์บนเตียงตามราศีนี้ จะช่วยให้คุณสานสัมพันธ์บนเตียงได้อย่างถึงใจ และยังช่วยสานสัมพันธ์รักหลังจากนั้นให้ลึกซึ้งและยั่งยืนขึ้นอีกด้วย


ที่มาข้อมูล: https://www.popsugar.com/love/Sexual-Traits-Based-Zodiac-Sign-44082661