ไม่ใช่สีชมพูก็หวานได้ กับ 10 ธีมสีงานแต่งงานหวานแหววสุดโรแมนติก

เบื่อกันไหมกับ ธีมสีงานแต่งงาน สีชมพูสุดหวานแหวว ซึ่งถ้าคุณกำลังตามหาสีอื่นๆ ที่มาให้ความหวานโรแมนติกในวันงาน แพรว wedding หามานำเสนอแล้ว กับไอเดียสีหวาน 10 สีที่ไม่มีสีชมพูมาเอี่ยว มาเริ่มที่สีแรกกันเลยค่ะ

Soft Gray

หวานได้ด้วยสีเทาอ่อนและการจัดเซ็นเตอร์พีชทรงสูงด้วยไม้ใบแบบนี้ ให้ความรู้สึกเป็นงานแต่งงานที่ใส่ไอเดียไม่ซ้ำใครแถมยังได้อารมณ์สดชื่นและโปร่งสบาย

Peach

เลี่ยงสีสุดฮิตอย่างสีชมพูด้วยการหันมาใช้บริการสีพีชที่ให้ความส้มอ่อนๆ และแซมใส่ด้วยสีเหลืองคู่กับสีขาวกับดอกไม้สวยๆ ที่คู่ควรกับเจ้าสาวแบบคุณ

Sea Glass

งานแต่งงานริมทะเลสุดโรแมนติกด้วยสีฟ้าน้ำทะเลในหลายเฉดที่ให้ทั้งความรู้สึกผ่อนคลายและแสนเข้ากันกับงานแต่งงานในฝันของคุณ 

White & Beige

อ่อนหวานและให้ความละมุนแบบบวกๆ กับการจับคู่สีนุ่มๆ ของสีขาวและสีเบจ ถ้าจะให้ดีและดูมีความเป็นธรรมชาติ ต้องไม่ลืมใส่ดอกไม้แห้งสีน้ำตาลลงไปด้วย

Gentle Blue

สีฟ้าอ่อนๆ ถึงอ่อนมากจับคู่กับเก้าอี้สีขาวและตั้งไว้ในงานแต่งงานเอาทดอร์ รับรองว่าความฟ้านี้จะช่วยเพิ่มความสดใสให้งานแต่งงานภายใต้ท้องฟ้าสีครามอย่างแน่นอน

Muted Orange

ใส่สีส้มให้กับเซ็นเตอร์พีชของงานด้วยการเลือกใช้ผลส้มและลูกพีช ตัดด้วยใบ้ไม้สีเขียวบนโต๊ะไม้ในงานแต่งสไตล์รัสติค

Gray & Marigold

อย่าคิดว่าสีเทาคือความหม่นหมอง ของแบบนี้อยู่ที่ว่าคุณจะเลือกให้สีเทาอยู่คู่กับอะไร อย่างครั้งนี้คือเทาคู่กับส้มทองที่แซมด้วยสีเหลืองสุดสดใส ให้ความรู้สึกถึงครอบครัวใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว

Green & White

สีขาวเขียวยังคงเป็นสีสุดฮิตและอมตะนิรันดร์กาล เพราะจับคู่เข้ากันได้ไม่ยาก แต่ถ้าอยากใส่กิมมิคลงไป ลองเอาใบโคลเวอร์มาเป็นอินสไปเรชั่นดูสิคะ

Lavender

เมื่อก่อนคนไทยบอกว่า สีม่วงคือสีแม่ม่าย แต่ตอนนี้สีม่วงคือสียอดฮิตที่ช่วยนำมาซึ่งความสงบ เยือกเย็น แต่แฝงไว้ด้วยความหรูหรา

Soft Yellow 

ไม่มีอะไรที่จะนำความรู้สึกของความสุขได้มากกว่าสีเหลือง และนี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการทำให้แขกของคุณรู้สึกสดชื่นตามไปกับสตอรี่เลิฟของคุณ ยิ่งถ้าเติมแต่งด้วยคำศัพท์น่ารักๆ หรือประโยครักๆ โดนใจลงไปในงานแต่งแบบนี้ รับรองว่าอินกันทั้งงาน

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 สีที่ให้ความหวานในงานไม่แพ้สีชมพู ลองเลือกใช้สีที่เหมาะกับคุณดูนะคะ เราเชื่อว่างานแต่งของคุณจะออกมาดูดีและหวานมากไม่แพ้งานไหนๆ แน่นอนค่ะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม คลิกเลย <<

เคล็ดลับปรับลุคออกงานสำหรับผู้ชาย เช็คด้วยตัวเองก็ได้ง่ายนิดเดียว

ลุคออกงานสำหรับผู้ชาย กับการแต่งสูทให้หล่อเนี้ยบ

เมื่อแฟนหนุ่ม หรือสามีต้องออกงานสังคมจะปล่อยให้สวมแค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแล็คคงไม่ไหว ถึงเวลาที่แฟนสาว (ที่กำลังจะเป็นว่าที่ภรรยาในอนาคต) หรือศรีภรรยาต้องทำหน้าที่เป็นกระจกคอยเช็กความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน ด้วยการดูแลหวานใจให้หล่อทุกมุม เป๊ะทุกองศาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยเคล็ดลับ ลุคออกงานสำหรับผู้ชาย ที่แพรว wedding นำมาฝาก

  • เช็กให้เรียบร้อยก่อนเดินเข้างานว่าคอปกเสื้อของสูทแนบสนิทดีกับเสื้อเชิ้ตและควรให้ปกเสื้อสูทอยู่ต่ำกว่าขอบคอปกเสื้อเชิ้ตประมาณ 1 นิ้ว
  • ปลายแขนเสื้อสูทควรอยู่บริเวณข้อมือ โดยมีปลายแขนเสื้อเชิ้ตแลบออกมาประมาณครึ่งนิ้ว
  • หากไปงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก ลองเปลี่ยนมาสวมเสื้อสูทแบบกระดุมเม็ดเดียวก็ดูอินเทรนด์ไม่น้อย แต่ถ้าต้องการความเป็นทางการต้องเป็นเสื้อสูทกระดุม 2 เม็ดจะเนี้ยบกว่า
  • การกลัดกระดุมเสื้อสูทก็ต้องเป๊ะ หากเป็นเสื้อสูทกระดุม 4 เม็ดให้ติด 2 เม็ดกลาง, เสื้อสูทกระดุม 3 เม็ดให้ติดแค่ 2 เม็ดบน เหลือเม็ดสุดท้ายไว้เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหว แต่สำหรับสูทกระดุม 2 เม็ดควรติดกระดุมให้ครบทุกเม็ด

ลุคออกงานสำหรับผู้ชาย

และถ้าหากมีเวลาไปเดินช้อปปิ้งสูทตัวใหม่ ลองเปลี่ยนจากสไตล์ Men in Black มาเป็นหนุ่มแคชชวลด้วยการเลือกสูทที่มีสีสัน เช่น สูทสีถ่าน สีเทา สีกรมท่า หรือสีน้ำตาล แต่อย่าไปคว้าสีแดง เขียว เหลือง มาเป็นอันขาดเพราะอาจจะกลายเป็นพนักงานร้านอะไรสักอย่างแบบไม่รู้ตัว และถ้าอยากเพิ่มลูกเล่นให้กับลุค ลองหยิบสูทลายขวางเป็นเส้นเล็กๆ มาลองสักชุด คุณอาจพบว่าใส่แล้วเหมาะก็ได้ ^^

แล้วอย่าลืมการมิกซ์แอนด์แมตช์ปกสูทกับแอคเซศซอรี่ด้วยน้า อ่านเลย >> 10 แบบปกคอเสื้อคุณผู้ชายกับการแมตช์แอคเซสซอรี่ยังไงให้ลงตัว

ภาพจาก www.pexels.com, pinterest.coma a a a a a a a a a a a a

6 ไอเดียเก๋ๆ ให้บ่าวสาวเนรมิตงานแต่งเอาท์ดอร์ง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง

หากเปิดโหวตงานแต่งในฝันของสาวๆ หลายคน แพรว wedding เชื่อว่า งานแต่งเอาท์ดอร์ ต้องติดโผเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน แต่น่าเสียดายที่บ่าวสาวหลายคู่ต้องพับโครงการกันไป เพราะกังวลใจกับการจัดงานแต่งสไตล์นี้ หากไม่รู้จะเริ่มอย่างไรหรือยังหาไอเดียไม่ได้ ลองมาดูหลากหลายไอเดียเก๋เนรมิตงานแต่งสไตล์เอาท์ดอร์ ทำเองได้ที่เรานำมาฝากในวันนี้กันเลยค่ะ

 

1. เลือกตกแต่งซุ้มเวทีหรือซุ้มเค้กด้วยผ้า ให้บรรยากาศสบายๆ ไม่เป็นทางการมากจนเกินไป

งานแต่งเอาท์ดอร์

2. ป้ายบอกทางที่ทำด้วยไม้ ให้ความรู้สึกเรียบง่าย สไตล์วินเทจ ได้ประโยชน์แบบทูอินวัน ทั้งบอกทางแขกเหรื่อและเป็นพร็อปส์ตกแต่งแสนเก๋

งานแต่งเอาท์ดอร์

3. ริบบิ้นหลากสีสันที่พลิ้วไหวในบรรยากาศลมพัดเย็นสบาย ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

งานแต่งเอาท์ดอร์

4. สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับงานแต่งเอ๊าท์ดอร์ยามค่ำคืน คือแสงไฟสลัวๆ หรือแสงเทียน ที่นอกจากจะช่วยให้แสงสว่างแล้วยังช่วยสร้างบรรยากาศโรแมนติกได้ดีอีกด้วย

http://www.marryinglaterinlife.com

5. ลูกโป่งสีสันน่ารัก ช่วยสร้างบรรยากาศสดใส ย้อนวัย อาจใช้ตกแต่งในงาน หรือเป็นไอเท็มให้เพื่อนบ่าวสาวถือ ก็เก๋ไม่เบานะคะ

งานแต่งเอาท์ดอร์

6. หากจัดงานแต่งในสวน อย่าปล่อยให้ต้นไม้ต้องเหงาเดียวดาย เนรมิตต้นไม้โดยรอบให้กลายเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับงานแต่งของคุณโดยการตกแต่งด้วยดอกไม้ ไฟประดับ โคมสีสันสดใส ป้ายข้อความสุดประทับใจ หรือรูปพรีเวดดิ้ง นอกจากจะน่ารักโดนใจแล้วยังถือเป็นไอเดียประหยัดงบประมาณการตกแต่งสถานที่ที่เจ๋งสุดๆ อีกด้วย

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ pinterest

ใส่ไอเดียแสนหวานให้ธีมงานแต่งสีพาสเทลมุ้งมิ้งในธีมสีชมพู-เขียวมินท์อ่อน

ธีมคู่สีที่เราจะนำเสนอในวันนี้ บอกเลยว่าหวานละมุน พาสเทลมุ้งมิ้งถูกใจสาวๆ แต่ก็ไม่ทิ้งลายความหรูหราตามแบบฉบับของงานแต่งงานกับ ธีมงานแต่งสีพาสเทล สุดหวานตามนี้เลย

้่่้ธีมงานแต่งสีพาสเทล

สีที่เรากำลังจะพูดถึงก็คือ สีเขียวและชมพู เพิ่มเติมกิมมิคคือ เขียวอ่อนออกมินท์ และชมพูพีชสุดละมุน เพิ่มเติมความหรูหราด้วยสีทองสุดหรูหรา

บ่าวสาว

ธีมงานแต่งสีพาสเทล

งานนี้คุณเจ้าสาวแอนด์เดอะแก๊งค์ ได้ถูกใจแน่ๆ ด้วยสีพาสเทล ไม่ว่าจะเป็นเขียวมิ้นท์และชมพูอ่อนๆ ส่วนทรงผมก็จัดเต็มมาเลยจ้า จะมงกุฎดอกไม้หรือจะใช้ดอกไม้แซมเป็นหย่อมๆ แบบเทพธิดาน้อยๆ ส่วนเครื่องประดับบอกเลยว่ามุ้งมิ้งถูกจริตสาวๆ แถมราคาไม่แรงด้วยเพราะเราขอแนะนำพลอยสีหวานๆ

คุณเจ้าบ่าวไม่ต้องกลัวสีหวานจะทำร้ายลุคหนุ่มหล่อ เพราะเราว่าคุณใส่สูทโทนสีเทาๆ ไม่เข้ม ไม่อ่อน แล้วเพิ่มเติมด้วยไทสีอ่อน ช่อบูโทเนียร์สีหวาน ก็เป็นการคอมพลีทลุคที่เข้ากับธีมงานแล้ว

ดอกไม้บูเกต์

ธีมงานแต่งสีพาสเทล

เป็นการเข้าช่อดอกไม้ที่ทั้งสวยหวานและละมุนมาก ด้วยดอกไม้โทนสีชมพูพีชอมส้ม เข้าคู่กับใบไม้ทรงสวยๆ หรือจะเป็นแคตตัสสีเขียวหม่นอมเทาก็ทำให้ดูแปลกใหม่

เค้ก

ธีมงานแต่งสีพาสเทล

งานนี้เค้กสีหวานก็มา แถมยังประดับด้วยดอกไม้สีสวย เพิ่มเติมกิมมิคด้วยสีทองช่วยดับความหวานของเค้กให้ดูหรูหราอลังการ หรือถ้าเบื่อเค้กแล้ว มาการอง ก็จับคู่สีได้สวยมั่กๆ

การตกแต่ง

ธีมงานแต่งสีพาสเทล

บอกเลยว่าโทนนี้จัดได้หลายทางมาก ทั้งหวานมุ้งมิ้งดุจดั่งเทพนิยายด้วยสีพีชทองแล้วหยอดสีเขียวเพิ่มเติม หรือจะเป็นรัสติคหวานๆ ใช้ใบไม้เป็นวัสดุหลัก และเพิ่มเติมความหวานด้วยดอกไม้

เป็นยังไงบ้างค่ะ โทนสีนี้ถูกใจสาวๆ กันใช่ไหมค่ะ ส่วนหนุ่มๆ ก็อย่าเพิ่มน้อยใจไป เรายังมีโทนสีอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกเพียบเลย ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติม >> คลิกเลย <<

ฮวงจุ้ยเสริมรัก กับความเชื่อและเคล็ดลับการตกแต่งเรือนหอให้เวิร์ก

เพื่อความสุขสมหวังของคนรักกัน แพรว wedding จะมาแนะการแต่งเรือนหอให้ชีวิตคู่มีแต่สดชื่อสดใสแฮปปี้ดี๊ด๊า ให้ฮวงจุ้ยที่ว่าเป็น ฮวงจุ้ยเสริมรัก ของคุณทั้งคู่ ไปดูกันเลยค่ะว่ามีทริกอย่างไรบ้าง

ภาพคู่เสริมพลังบวก

“ในทางฮวงจุ้ยรูปภาพช่วยเปลี่ยนพลังของบ้าน ดังนั้นภาพคู่ที่ดูอบอุ่นไม่ควรจะอยู่แต่ในอัลบั้มหรือในโซเชียลมีเดียอวดคนอื่นๆ ควรหาที่แขวนรูปในบ้านที่สามารถเปลี่ยนภาพได้สะดวก เพราะความรักต้องมีการพัฒนา มุมมองเราก็เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลา ดังนั้นรูปภาพก็ควรจะสะท้อนความรักที่เป็นปัจจุบัน เช่น ไปเที่ยวด้วยกันกลับมาก็อัดภาพแขวนไว้ จะทำให้มีพลังใหม่ๆ เกิดขึ้น

“โดยเฉพาะรูปที่เปลี่ยนได้จะดีมากในทางฮวงจุ้ย อาจหาแท็ปเลตเก่าๆ มาทำกรอบรูปดิจิตัลแล้วให้รูปเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เวลาเราเห็นรูปที่ไปเที่ยวต่างประเทศกับครอบครัวเมื่อปีก่อนก็อาจจะอยากไปกันอีก เหมือนเป็นการช่วยสร้างความรู้สึกบวกในความรัก”

เธอ + ฉัน = เรา

“ส่วนเรื่องอื่นๆ อย่างสีหรือสไตล์การตกแต่ง ถ้าตามศัพท์วัยรุ่นก็ต้องบอกว่าเอาที่สบายใจ แต่อยากให้เป็นการตัดสินใจร่วมกัน สังเกตว่าคู่รักจะทะเลาะกันตอนทำบ้านใหม่กับแต่งงาน ตรงนี้เป็นการพิสูจน์ว่าพอต้องมาทำอะไรร่วมกันแล้วจะเป็นอย่างไร ซึ่งถ้าชอบไม่เหมือนกันแนะนำให้เอาตรงที่ต่างคนต่างชอบไปอยู่ในมุมของตัวเอง เช่น ห้องแต่งตัว โต๊ะทำงาน ฯลฯ ซึ่งจำเป็นต้องมีเพื่อที่เราจะมีพลังของตัวเอง แต่ส่วนกลางควรเลือกที่รู้สึกสบายใจทั้งสองฝ่าย”

ของต้องห้ามในเรือนหอ

“ความจริงไม่มีอะไรที่ต้องห้ามเป็นพิเศษ แต่ของที่ดูแล้วไม่เป็นมงคล เช่น อาวุธ ของมีคม ดาบที่ไม่อยู่ในฝัก ปืน เขาสัตว์ ก็ไม่แนะนำ นอกจากนี้ก็จะเป็นของที่แสดงถึงความชอบของคนคนเดียว

“คนที่ชอบประดับสัญลักษณ์ปีนักษัตรก็ต้องระวัง เช่น คนเกิดปีหนูที่ชอบตั้งรูปหนูตามจุดต่างๆ ของบ้าน ถ้าเกิดปีนั้นเป็นปีม้าก็จะชงกัน ต้องคอยเก็บออก อาจทำให้เกิดความวุ่นวาย ถ้ารักสัตว์อาจเลือกเป็นสัตว์อื่นๆ เช่น ยีราฟ จะดีกว่า”

>> ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคู่รักเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ unsplash.com

4 ข้อว่าที่เจ้าสาวต้องจำให้ขึ้นใจห้ามหลุดเมื่อถึงเวลาลองชุดแต่งงาน

การ ลองชุดแต่งงาน สำหรับว่าที่เจ้าสาวก็เหมือนการจำลองสถานการณ์ของวันจริงที่คุณต้องอยู่ในชุดนั้นๆเป็นเวลาหลายชั่วโมง ดังนั้นคุณจึงควรเตรียมตัว และเตรียมของจำเป็นให้เหมือนวันจริงมากที่สุด เพราะมีหลายสิ่งที่บรรดาว่าที่เจ้าสาวมักลืมเมื่อไปถึงที่ร้านลองชุด วันนี้ แพรว wedding เลยลิสต์มาเตือนกันไว้ก่อน ถึงวันไปลองชุดทุกอย่างจะได้ราบรื่นอยู่ในการคอนโทรลนะคะ

รองเท้า

ลองชุดทุกครั้งควรสวมรองเท้าส้นสูงคู่ที่จะใส่สำหรับวันงานไปพร้อมกันนะคะ ทั้งคุรและดีไซเนอร์จะได้ดูว่าชุดนั้นคลุมรองเท้าหรือไม่ เพราะหากต้องแก้ไขไม่ว่าจะชุดสั้นหรือยาวไปก็จะได้จัดการได้อย่างทันท่วงที

ชุดกระชับสัดส่วน

คงไม่มีเจ้าสาวคนไหนอยากให้เนื้อดูปลิ้น หรือมีส่วนเกินออกมาใช่ไหมล่ะคะ นี่คือเหตุผลที่เราว่าคุณต้องเตรียมชุดกระชับสัดส่วนเอาไว้ด้วย เพราะถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญเลยทีเดียว โดยเฉพาะเจ้าสาวที่เลือกชุดแนวรัดรูปที่ต้องการความเป๊ะยิ่งต้องให้ความสำคัญกับการเก็บสัดส่วนให้ดูดีที่สุดใช่ไหมล่ะคะ ดังนั้นเตรียมไว้ย่อมอุนใจกว่าแน่นอนค่ะ

สวมชุดให้เรียบร้อยเหมือนวันงาน

ชุดเจ้าสาวบางแบบที่เป็นแบบคอร์เซ็ตนั้นควรดึงเชือกให้พอดีไม่หลวมหรือไม่แน่นจนเกินไป ใส่ให้เสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนเหมือนกับวันงานไปเลยจะดีที่สุด เพราะชุดที่สวมใส่แบบหลวมๆ ย่นๆ แค่ส่งๆไปจะทำให้เราไม่เห็นสัดส่วนที่แท้จริงนะคะ

ลองชุดจนลืมเรื่องค่าใช้จ่าย

ข้อสุดท้ายที่สำคัญสุดๆคือ อย่าลืมคำนึงถึงงบประมาณสำหรับชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ชุดที่แพงกว่าจะดูสวยกว่าก็จงอย่าวอกแวก นิ่งเข้าไว้เพราะมันจะกระทบต่อค่าใช้จ่ายส่วนอื่นได้ และต้องมานอนก่ายหน้าผากเครียดเอาทีหลังซึ่งไม่คุ้มเลยจริงๆ

>> ดูไอเดียและคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับชุดแต่งงานอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : montenr.com

ลูกหลานชาวจีนต้องรู้ .. ที่มาชุดแต่งงานสีมงคลของบ่าวสาวจีน

เมื่อพูดถึงชุดแต่งงาน คนส่วนใหญ่จะต้องนึกถึงชุดสีขาวสะอาดที่แสดงถึงความบริสุทธิ์กันอย่างแน่นอน แต่ในทางกลับกัน ทำไม ชุดแต่งงานสีมงคล ของลูกหลานชาวจีนถึงใช้สีแดงไม่ใช้สีขาว เรามาดูกัน

สาเหตุที่ชุดเจ้าสาวจีนใช้ สีแดง หรือ สีชมพู แต่ไม่ใช้สีขาวมาเป้นชุดเจ้าสาวแสนสวย ในวันแต่งงาน  เนื่องจากว่า ในวัฒนธรรมจีนเชื่อกันว่า สีขาว เป็นสีที่เกี่ยวกับความตายและงานศพ จึงนิยมใช้สีขาวในงานอวมงคลเป็นส่วนใหญ่

ส่วนทำไมคนจีนถึงใช้ ชุดเจ้าสาวสีแดง หรือชุดหมั้นสีชมพู เนื่องจากเชื่อกันว่า สีแดง เป็นสีที่มงคล แสดงถึงความกล้าหาญ ความจงรักภักดี ความสำเร็จ โชคลาภ และความโชคดี ซึ่งเจ้าสาวจะใส่ชุดสีแดงในช่วงพิธีรับตัวเจ้าสาว พร้อมกับปักปิ่นที่มีคำว่า หยู่อี่ แปลว่าสมหวัง กับ กิ่งทับทิม แปลว่า สาวบริสุทธิ์ ด้วยเชื่อกันว่า จะทำให้คนรักใคร่เอ็นดู ทั้งนี้ รวมไปถึง ให้ครอบครัวของฝ่ายชาย เอ็นดู รักใคร่ ประหนึ่งคนในครอบครัวอีกด้วย

ในปัจจุบัน ได้มีเจ้าสาวหลายๆ คน นิยมใช้ชุดแต่งงานที่มีสีทอง หรือชุดสีแดง ประดับลายสีทองกันมากขึ้น เนื่องจากเป็นสีที่แสดงถึง ความมั่งคั่ง ความสนุกสนาน และ ความโชคดี  อีกทั้งเมื่อนำสีทั้งสองมาจับคู่กัน ก็จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของชายหญิงอีกด้วย หรืออาจประดับลวดลายหงส์และมังกรสีทองลงบนชุดสีแดง อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความสมดุลของพลังเพศชายและเพศหญิงก็ได้

สำหรับเจ้าบ่าวนอกจากจะนิยมสวมชุดสูทสากลสีสุภาพอย่างสีดำ สีกรม และสีเทา แล้ว นิยมเพิ่มรายละเอียด และใส่ลูกเล่นบริเวณเนคไท และผ้าเช็ดหน้าด้วยสีมงคลแล้ว ยังสามารถเลือกสวมเสื้อเชิ้ตผ้าไหมสีแดง ดำ และสีขาว พร้อมประดับลวดลายมังกร อันเป็นตัวแทนของพลังและเป็นที่เคารพนับถือได้เช่นกัน

นอกจากนี้ไม่ได้มีแค่ชาวจีนเท่านั้นที่เชื่อ ยังมีคนอินเดีย คนเวียดนาม และคนไต้หวันที่เชื่อว่าสีแดงเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและเป็นมงคลเช่นกัน รู้อย่างนี้แล้วบ่าวสาวชาวไทยเชื่อสายจีน อย่าลืม เลือกชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวสีมงคลอย่างที่เราแนะนำนะจ๊ะ รับรองว่ามีแต่เฮงกับเฮง

Read More : ผังที่นั่งงานแต่งพิธีจีน จัดง่ายไม่สับสน

เรียบเรียงและแปลข้อมูลจาก : www.marryjim.com, chinese.983invitation.com, iml.jou.ufl.edu
ภาพประกอบจาก : Vin Buddy

7 เรื่องเช็คให้ชัวร์ก่อนพาคนรักไปเจอครอบครัวของคุณ

แทบจะทุกครั้งที่วันหยุดยาวมาเยือน ถือว่าเป็นช่วงเวลาดีๆ ที่หลายคนมักจะใช้เป็นโอกาสพา คนรัก ไปเปิดตัวกับครอบครัว อ๊ะๆ แต่ช้าก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งด่วนได้ใจเร็วไปพาคนๆ นั้นไปเจอครอบครัวโดยไม่เตรียมตัวก่อน ลองเช็คความพร้อมด้วยคำถาม 7 ข้อนี้สักนิด ถ้าได้คำตอบที่หายห่วงค่อยควงแขนเข้าบ้านโลด

 

1. คนรักของคุณมีเงื่อนไขเรื่องอาหารการกินอะไรบ้าง

การกินข้าวร่วมกันถือเป็นกิจกรรมเบสิกในการพาแฟนไปเปิดตัวกับครอบครัว ดังนั้นเงื่อนไขเรื่องอาหารการกินของเขาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้ เช่น ไม่กินเนื้อ ไม่กินหมู กินมังสวิรัติ ฯลฯ เพราะหากรู้ก่อนก็จะได้จัดเตรียมอาหารไว้ให้ถูกปาก ซึ่งนั่นยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่คุณและครอบครัวของคุณมีให้เขาอีกด้วย อ่ะๆ ในข้อนี้ผู้มาเยือนเองก็ต้องรู้ไว้เหมือนกันนะว่า ครอบครัวคนรักที่จะเข้าไปเจอ เขามีเงื่อนไขในนี้บ้างหรือเปล่า จะได้ไม่เผลอพูดช่วยไปกินข้าวในเมนูต้องห้ามไงล่ะ

2. คนรักของคุณซีเรียสกับเรื่องมารยาทมากแค่ไหน

เช็คให้ดีก่อนว่าเขาซีเรียสกับเรื่องมารยาทมากแค่ไหน เพราะสำหรับคนในครอบครัวกันเอง เรื่องบางเรื่องที่คนอื่นมองว่าเป็นการเสียมารยาท ก็อาจเป็นเพียงเรื่องขำขันเท่านั้นก็ได้ ซึ่งหากเขาเป็นคนไม่ซีเรียสก็คงขำตามไปด้วย แต่หากเขาเกิดไม่ขำด้วยขึ้นมา ทีนี้ก็คงอึดอัดใจกันทั้งเขาและครอบครัวของคุณ

3. คนรักของคุณเข้าสังคมง่ายหรือไม่

คนแต่ละคนมีทักษะในการเข้าสังคมที่แตกต่างกัน บางคนก็เฟรนด์ลี่มากๆ ช่างพูดช่างคุย แต่บางคนก็เงียบกริบ ขี้เขินขี้อาย ดังนั้นจึงต้องเช็คก่อนว่าแฟนของคุณเป็นคนแบบไหน หากเขาเป็นคนที่เข้าสังคมง่ายก็หมดห่วงได้ แต่หากเขาเป็นคนเงียบๆ ก็อย่าปล่อยให้เขาต้องเดียวดายท่ามกลางญาติมากหน้าหลายตาของคุณเป็นอันขาด คอยอยู่ดูแลทั้งแบบใกล้ชิดและทิ้งระยะ เพื่อที่ว่าบ้านคุณเองจะได้ไม่มองว่าเขาไม่กล้าเผชิญหน้า

4. คนรักของคุณยอมรับความแตกต่างระหว่างครอบครัวของคุณกับเขาได้หรือไม่

แน่นอนว่าคนที่เป็นแฟนกันก็ต้องรู้พื้นฐานชีวิตของกันและกันมากพอสมควร ซึ่งการพาไปเจอครอบครัวก็จะยิ่งทำให้คุณรู้จักกันมากขึ้นไปอีก ดังนั้นคุณจึงต้องมั่นใจได้ว่าเขาจะยอมรับความแตกต่างระหว่างครอบครัวของคุณกับเขาได้ ไม่ใช่คิดแต่ว่าจะรักฉันต้องรับได้ทุกอย่างทั้งตัวฉันและครอบครัว อย่าลืมสิคะว่าต่างคนต่างมาจากคนละครอบครัวจะให้โอเคกันทั้งหมดคงจะยาก

meeting-his-parents_ygzvew

5. คนรักของคุณมีท่าทีอย่างไรหากต้องคุยกับคนที่คิดต่างกัน

ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันทำให้คนผิดใจกันมานักต่อนักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง ศาสนา หรือเหตุการณ์ทั่วไป ดังนั้นจึงต้องระวังมากๆ หากรู้แน่ว่าเขาจะต้องเจอกับคนในครอบครัวของคุณที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ซึ่งหากเขาเป็นคนใจเย็นก็คงไม่น่าห่วงเท่าไหร่ แต่ถ้าใจร้อนเป็นไฟก็ต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ให้ดี อ้อ…เรื่องความเชื่อ การเมือง และศาสนา เลี่ยงๆ ได้ก็อย่าได้เสี่ยงเอามาเป็นหัวข้อคุณกันในครั้งแรกจะดีที่สุดค่ะ

6. คนรักของคุณไว้ใจได้หรือไม่

เป็นธรรมดาที่ในวงสนทนาของครอบครัวจะต้องขุดเอาเรื่องลับลมคมในหรือเรื่องน่าอายมาคุยกันบ้าง ดังนั้นคุณจึงต้องมั่นใจได้ว่าแฟนของคุณเป็นคนที่ไว้ใจได้โดยไม่เอาเรื่องลับๆ ของครอบครัวคุณไปแพร่งพรายต่อแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้เราขอแนะนำให้มองไกลๆ ประมาณว่าเจอกันครั้งแรกอาจเออๆ ออๆ แต่เจอครั้งต่อไปอาจเปลี่ยน ถ้าจะให้ดี นัดแนะกับคนในครอบครัวดูเชิงกันก่อนก็จะปลอดภัยนะคะ

7. คนรักของคุณเข้าใจความสำคัญของการเจอครอบครัวของคุณหรือไม่

การพาแฟนไปเจอครอบครัวถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะหมายถึงการให้ความสำคัญ การให้เกียรติ และความจริงใจ ดังนั้นคุณจึงต้องมั่นใจว่าเขาก็ให้ความสำคัญกับการไปเจอครอบครัวของคุณเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังต้องมั่นใจว่าเขาเข้าใจความหมายของการที่คุณตัดสินใจพาเขาไปเจอครอบครัวของคุณด้วย เพราะนั่นแปลว่าคุณอยากให้เขาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแล้ว

cr : marthastewartweddings.com, sheknows.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

รักข้ามรุ่นไม่วุ่นแน่กับ 5 สิ่งที่หนุ่มสาวพึงกระทำถ้าริจะรักคนแก่

8 พฤติกรรมบอกรักให้รู้ว่า “รัก” คำที่แม้ไม่พูดแต่อีกฝ่ายก็รู้สึกได้

รักเป็น …ไม่เห็นทุกข์ ข้อคิดเรื่องความรัก จากแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต

5 วิธีลดความเครียด ช่วยคลายอารมณ์ให้สุดที่รักของคุณได้แฮปปี้

เพราะชีวิตของเราต้องเจอกับปัญหามากมายในแต่ละวัน ทั้งที่ทำงาน เพื่อนร่วมงาน การเดินทาง และอื่นๆ ซึ่งบางทีสุดที่รักของเราก็หน้าบูดบึ้ง คิ้วขมวดชนกันอยู่บ่อยๆ กลายเป็นเครียดไปกันทั้ง 2 ฝ่าย ลองมาหาทางช่วยให้สุดที่รักของคุณ ลดความเครียด และได้ผ่อนคลายกันจากวิธีที่เรานำมาฝาก แล้วเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับคู่ของตัวเองดูนะคะ

  • ให้อีกฝ่ายได้อยู่คนเดียวบ้าง

ในแต่ละวันคู่รักของคุณอาจได้รับความเครียดหรือแรงกดดันจากนอกบ้านมาไม่น้อย ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายกลับมาถึงบ้าน คุณอาจต้องเงียบๆ เอาไว้บ้าง ให้เขาได้นั่งคิดอะไรเงียบๆ คนเดียว หรือปล่อยให้เดินเล่น ฟังเพลง เล่นเกม ทำงานอดิเรกที่ชอบไป ก็จะช่วยทำให้เขาหายเครียดลงได้ระดับนึง

  • บีบนวดเสียหน่อย

โอเคว่าบางคนก็อาจจะไม่ได้นวดเก่งกาจมาจากไหน เพียงแค่บีบๆ นวดๆ ให้หวานใจของคุณบรรเทาอาการเครียดลงเสียบ้าง เริ่มจากนวด คอ บ่า ไหล่ ไล่ลงมาช่วงบริเวณหลัง หรือนวดตรงบริเวณศรีษะอย่างนุ่มนวล จะทำให้คนรักของคุณสบายตัวและรู้สึกดีมากขึ้นแล้ว ดีต่อกายแถมดีต่อใจไปอีก

  • รับฟังและให้กำลังใจ

ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ การที่คุณเป็นผู้ฟังเพื่อให้เขาได้ระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใจออกมา แล้วพยายามช่วยแก้ไข้ปัญหานั้น แต่ถ้าหากคุณช่วยไม่ได้ ก็เพียงทำหน้าที่รับฟังและให้กำลังใจให้ดีที่สุด ให้รู้ว่าคุณยังอยู่ตรงนี้ เพราะการอยู่เคียงข้างคนรักของคุณเพียงเท่านี้ก็ทำให้เค้าหายจากความเครียดได้แล้วละจ้า

  • ชวนทานของอร่อยๆ กันดีกว่า

เรื่องทานของอร่อยๆ นี่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรือของหวาน บางอย่างมีผลต่อด้านอารมณ์ หรือแม้แต่อาหารที่เขาชอบก็ตาม ลองนึกดูว่าที่รักชอบทานอะไรก็ไปจัดหามาซะ ยิ่งถ้าคุณได้ควงตะหลิวเข้าครัวเองเลยล่ะก็ สุดที่รักของคุณคงจะหายเหนื่อย แล้วพาลหายเครียดเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว ได้กินอาหารจากฝีมือคนรักเนี่ย ยังไงก็อร่อยชิมิ

  • สร้างบรรยากาศให้ครื้นเครง

ถ้าเมื่อไหร่หมดมุกไม่รู้จะช่วยแก้ปัญหาความเครียดของคู่รักอย่างไร ก็สร้างความสนุก สร้างเสียงหัวเราะให้บันเทิงไว้ดีกว่า นำเรื่องตลกๆ มาเล่าให้ฟัง เมื่อเค้าได้ยิ้มได้หัวเราะจิตใจก็จะดีมากขึ้น หากครอบครัวไหนมีลูกน้อย ก็ให้เขาได้ลองคุยเล่น หยอกล้อ กับลูกๆ เชื่อเถอะค่ะว่าที่รักของคุณต้องยิ้มปริ่ม หัวเราะกับความไร้เดียงของลูกอย่างแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 เรื่องเช็กให้ชัวร์ก่อนแต่ง ช่วยถนอมชีวิตหลังแต่งงานให้ราบรื่น

แต่งงานอายุเท่าไหร่ดี? สาวไป แก่ไป แต่งตอนนี้เร็วไปหรือช้าไปนะ

10 วิธีง้อแฟนให้เธอยอมใจอ่อนแบบง่ายๆ รับรองสำเร็จภายใน 1 วัน

Do & Don’t กลเม็ดเคล็ดลับในการเลือกรองเท้าเจ้าสาว อย่างถูกวิธี

เลือก รองเท้าเจ้าสาว อย่างไรดี?

กว่าจะเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในงานแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ดูได้จากในลิสต์รายการเครื่องประดับที่ยาวเหยียดที่จะมาช่วยเสริมราศีให้กับเจ้าสาว อย่างเช่น การหารองเท้าที่สมบูรณ์แบบเข้ากับคนใส่ได้นั้น ยากพอๆ กับการตกหลุมรักใครสักคนเลยแหละค่ะ อิอิ ทั้งต้องเลือกรองเท้าที่จะมามิกซ์แอนด์แมทช์เข้ากับชุดแต่งงาน รองเท้าที่สวมใส่สบาย เพราะคุณต้องใส่ตลอดทั้งวัน และต้องเป็นรองเท้าที่มีไซส์เข้ากับคุณได้อย่างพอดิบพอดี จะมีวิธีอย่างไรในการเลือกรองเท้าของคุณเจ้าสาวบ้าง สไตลิสล์ตัวท็อปของวงการแฟชั่นก็ได้ออกมาแบ่งปันวิธีเลือกและสิ่งที่ไม่ควรทำในการเลือก รองเท้าเจ้าสาว ซึ่งจะมีอะไรบ้างมาดูกันค่า

รองเท้าเจ้าสาว

  • Do

1. ค้นหาชุดเจ้าสาวสวยๆ ก่อนเป็นอันดับแรก

แม้คุณจะเจอกับรองเท้าที่อยากจะใส่ในงานแต่งงานของคุณ ขอให้คุณหักห้ามใจเสียก่อนที่จะซื้อมันหากคุณยังไม่ได้ชุดแต่งงาน เหตุผลก็คือ รองเท้าเป็นแค่ตัวช่วยที่จะมาเติมเต็มการแต่งตัวของคุณให้โดดด่นยิ่งขึ้น เช่น เรื่องความยาวของชุด ถ้าชุดของคุณเป็นมินิเดรสหรือชุดแต่งงานแบบสั้น รองเท้าจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างดี อาจเลือกรองเท้าที่มีสีสัน มีกลิตเตอร์วิ้งค์ๆ ก็จะช่วยให้คุณโดดเด่นได้ ส่วนถ้าชุดแต่งงานของคุณเป็นแบบยาวที่เห็นกันทั่วไป ก็อาจจะเน้นรองเท้าที่มีความสะดวกสบายให้คุณเดินเหินได้ง่ายไม่เหยียบชุดสะดุดหกล้ม ไม่งั้นเขินแย่เลยนะคะ นอกจากนี้ก็ต้องเลือกรองเท้าที่มีความสูงให้เหมาะสมกับชุดด้วย ที่สำคัญควรเลือกคู่ที่จะช่วยให้คุณใส่แล้วรู้สึกหุ่นเพรียวขึ้นด้วยน้า

2. ร้านรองเท้ามืออาชีพ

คุณจะต้องเผื่อเวลาในการเลือกซื้อรองเท้าที่เหมาะสมกับคุณ เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกจากร้านที่มีชื่อเสียงที่ได้รับการการันตีด้านคุณภาพ ที่สำคัญเจ้าสาวจะต้องระวังเรื่องเวลาเพราะอาจจะมีไม่มากพอให้คุณได้ไปเดินช้อปปิ้งเลือกรองเท้าอย่างใจเย็น โดยเจ้าสาวอาจจำเป็นต้องเรียกดูจากเว็บไซต์ของร้านเหล่านั้น ก่อนการไปเดินช้อปปิ้งอย่างมีจุดหมาย เพื่อที่จะได้ประหยัดเวลา เพราะฉะนั้นทางที่ดีคือเริ่มจากการท่องเว็บไซต์ของร้านรองเท้า ดูแบบที่คุณชื่นชอบ ดูรายละเอียดของรองเท้าหรือจะเซฟรูปไปด้วยก็จะดีมากค่ะ หลังจากนั้นคุณก็แค่ตรงไปยังช็อปที่คุณต้องการแล้วขอลองไซส์ ขอดูของจริงกันได้เลย

3. ก่อนซื้อรองเท้าต้องรู้สถานที่จัดงานเสียก่อน

เช่นเดียวกับที่คุณต้องตรวจสอบสภาพอากาศให้แน่ใจว่า คุณกำลังสวมใส่รองเท้าที่เหมาะสมทั้งกับสภาพอากาศและสถานที่หรือไม่ เพราะสถานที่จัดงานแต่งงานของคุณจะมีผลต่อวิธีการเลือกส้นรองเท้าของคุณอย่างมาก เจ้าสาวบางคนพยายามที่จะสง่างามด้วยรองเท้าส้นสูง แต่กลับลืมไปว่างานแต่งงานของตนจัดบริเวณชายหาด ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะสวมใส่รองเท้าส้นสูงนะคะ

4. ดูจากสไตล์ของคุณ

เช่น ถ้าคุณจัดงานแต่งงานเป็นสไตล์วินเทจ บรรยากาศ การจัดตกแต่งสถานที่ เสื้อผ้าหน้าผม ทุกอย่างในงานออกมาเป็นแบบวินเทจย้อนยุคหมด คุณก็ต้องเลือกลักษณะของรองเท้าให้อยู่ในยุคเดียวกันตรงกับธีม และต้องเป็นรองเท้าที่บ่งบอกสไตล์ของตัวคุณด้วยนะคะ เพราะจะยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่ให้กับคุณได้อีกด้วย

5. ก่อนซื้อก็ลอง หลังซื้อก็ต้องลอง

ตราบใดที่คุณได้ลองแล้วถูกใจซื้อรองเท้ากลับมาที่บ้านแล้ว ให้คุณลองสวมใส่ในบ้าน (พื้นบ้านต้องสะอาดหรือปูพรหมด้วยก็จะดีนะจ๊ะ) ลองใส่เดิน ใส่ยืน สักประมาณ 1 ชั่วโมง หากคุณไม่สามารถใส่ได้นานถึง 1 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ แสดงว่ารองเท้าคู่นี้อาจไม่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณแล้วนะคะ เพราะฉะนั้นจงเลือกรองเท้าที่เมื่อคุณกลับมาลองใส่เดินที่บ้านแล้วรู้สึกสบาย ไม่เมื่อย ไม่กัด คู่ไหนที่สามารถทำให้คุณใส่ได้เพลินๆ จนลืมถอด คู่นั้นแหละมันเกิดมาเพื่อคุณค่ะ

รองเท้าเจ้าสาว

รู้สิ่งที่ต้อง DO แล้ว ก็ไปรู้สิ่งที่ต้อง DON’T กันต่อเลย คลิกหน้าต่อไป >>>

  • Don’t

1. รอจนกระทั่งนาทีสุดท้ายเพื่อที่จะหาซื้อรองเท้า

ในขณะที่คุณกำลังหาหาชุดเจ้าสาว ก็อาจจะเริ่มๆ มองหารองเท้าไปด้วย เพื่อที่คุณจะได้พิจารณาทั้งสองสิ่งไปพร้อมๆ กัน เพราะมันไม่ใช่แค่ว่าคุณจะแมตช์ชุดแต่งงานและรองเท้าให้เข้ากันอย่างไร แต่ยังมีเหตุผลอื่นๆ อีกคือ ความสูงของรองเท้าต้องพอดีกับความยาวของชุดด้วย เพราะฉะนั้นถ้าชุดเสร็จแล้ว แต่เจ้าสาวยังหารองเท้าไม่ได้เลย หรือดันไปใส่รองเท้าคู่อื่นที่ไม่ได้ตั้งใจจะใส่วันงานแทน อาจจะต้องแก้ความยาวของชุดกันไม่เสร็จสิ้น แถมเผลอเดี๋ยวแก้ไม่ทันวันงานไม่รู้ด้วยน้า

2. ไม่ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์

เว็บไซต์ออนไลน์เป็นวิธีที่ง่ายต่อการเลือกซื้อสินค้าก็จริงนะคะ แต่สไตล์ลิสล์ขอเตือนเลยว่าไม่ควรเลือกซื้อรองเท้าผ่านเว็บไซต์หรือระบบออนไลน์ต่างๆ เพราะนี่เป็นรองเท้าคู่ที่คุณจะต้องยืนเป็นชั่วโมง ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่ต้องจะลองรองเท้าก่อน แถมการเลือกซื้อที่ร้านยังดีกว่าเยอะด้วยค่ะ เพราะคุณจะสามารถเห็นของจริง ต่างจากรูปภาพในเว็บไซต์ที่ผ่านการแต่งรูปให้ดูสวยงาม แถมถ้าคุณเห็นของจริงคุณก็ยังมีสิทธิ์ตรวจเช็คสภาพสินค้าเพื่อเพิ่มความชัวร์ได้ยิ่งขึ้น

3. อย่ายึดติดว่าจะต้องเป็นสีขาว

ในวันสำคัญของคุณทุกการตัดสินใจอยู่ที่ตัวคุณเอง อย่าไปยึดติดกับอะไรเดิมๆ มากจนเกินไป หากคุณอยากที่จะเป็นเจ้าสาวสไตล์เปรี้ยวซ่าส์ ไม่ขอเป็นเจ้าสาวที่ดูหวานเรียบร้อยแบบทั่วๆ ไป คุณสามารถพิจารณารองเท้าสีอื่นๆ ได้นอกจากสีขาว เช่น สีเงิน สีทอง สีโรสโกลด์ ซึ่งสามารถแมทช์คู่ชุดของคุณหรือเครื่องประดับที่เลือกใช้ในสีเดียวกับรองเท้าได้ด้วยก็ได้ นอกจากนี้คุณยังสามารถแมทช์รองเท้าให้เข้ากับช่อดอกไม้เจ้าสาวและเครื่องแต่งกายเจ้าบ่าวได้อีกด้วย เช่น ในมือเจ้าสาวใช้เป็นช่อดอกกุหลาบสีแดง คุณก็สามารถใช้รองเท้าสีแดงได้เช่นกัน หรือเลือกสีรองเท้าที่เป็นสีเดียวกับสีทักซิโด้ เสื้อกั๊ก หรือโบไทของเจ้าบ่าวก็ดูน่ารักดีน้า

4. อย่าลืมที่จะจัดลำดับความสำคัญของความสะดวกสบาย

สิ่งที่คุณไม่ควรลืมมากที่สุดคือ เรื่องความสะดวกสบายในการสวมใส่ เรามักจะมุ่งเน้นไปที่รูปแบบสไตล์ของรองเท้าเป็นอันดับต้นๆ แต่ถ้าเท้าของคุณตกอยู่ในความเจ็บปวด คุณก็จะหมดสนุกกับงานนี้ไปได้เลย เพราะฉะนั้นในการพิจารณารองเท้าที่คุณจะสวมใส่ครั้งแรกอาจจะเลือกส้นที่มีความสูงมากหน่อย เพื่อให้คุณดูสง่างาม แต่ถ้าคุณไม่ชินกับการใส่รองเท้าส้นสูงในชีวิตประจำวัน ขอแนะนำให้คุณลดระดับความสูงของรองเท้าลงมาหรืออาจจะเลือกใส่เป็นรองเท้าคัชชูไปเลยก็ได้นะคะ ถ้าคุณเจ้าสาวมีความสูงที่กำลังดีอยู่แล้ว

เป็นไงกันบ้างคะ คำแนะนำดีๆ จาก Burju Perez ดีไซเนอร์ด้านรองเท้า ที่มาสอนวิธีเลือกรองเท้าสำหรับเจ้าสาวในวันนี้ เมื่อทราบกันแล้วว่าต้องเลือกรองเท้าอย่างไรถึงจะใส่สบายและทำให้คุณดูสวยได้ในเวลาเดียวกัน ก็ไปต่อกันที่สไตล์รองเท้าที่จะกี่ปีๆ ก็ไม่มีเอ้าท์กับ >> สวยหรูดูดีด้วย 5 สไตล์ รองเท้าเจ้าสาวที่เลอค่าใส่แล้วเริด

เรียบเรียงข้อมูลจาก : brides.com
ภาพ : thebridalboutique.ca, pinterest.com

4 เคล็ดลับมัดใจครอบครัวแฟน รับรองเห็นผลผู้ใหญ่ปลื้ม

การจะไปหาผู้ใหญ่ของแฟนก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมใจกันบ้าง ไม่ใช่ทะเล่อทะล่าเข้าไปก็คงไม่เหมาะ แต่ควรดูแลเสื้อผ้าหน้าผมให้สมกับการที่คุณจะเข้าไปเกี่ยวดองเชิงสร้างสรรค์กับ ครอบครัวแฟน กันไว้ก่อน เพราะถึงยังไงคุณก็ต้องทำตัวให้เอาชนะใจพ่อแม่ของเค้าให้ได้ งั้นมาดูแลตัวเองในวันที่รู้ว่าต้องไปพบญาติผู้ใหญ่ของแฟนด้วยการทำตามที่ แพรว wedding แนะนำกันดีกว่า รับรองว่าเวิร์คสุดๆ 😉

ระมัดระวังเรื่องคำพูดคำจา

คุณควรหัดพูดจาให้ไพเราะเสนาะหูเข้าไว้ และใช้คำว่า คะ ขา ค่ะ หรือครับผมกันบ่อยๆ พูดให้ชินกันซะเดี๋ยวนี้ เผื่อวันหน้าได้ไปพบพ่อแม่ของหวานใจจะได้ไม่เคอะเขิน ก็แหม ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่จะไปทำตัวตามสบายเกินเหตุแบบตอนอยู่กับเพื่อนฝูงคงไม่ได้หรอก เพราะฉะนั้นเริ่มใช้คำพูดดีๆกันตั้งแต่วันนี้เลยก็แล้วกัน

การแต่งกายควรเรียบร้อย

เลือกชุดที่คุณใส่แล้วดูเรียบร้อย, น่ารักแต่คล่องแคล่วจะดีกว่า คุณควรแต่งกายให้ทะมัดทะแมงเข้าไว้ ท่านจะได้รู้สึกว่าคุณแข็งแรงพอที่จะทำงานทำการสู้ชีวิตต่อไปในวันข้างหน้าได้ยังไงล่ะคะ

กริยามารยาทก็ต้องเรียบร้อยแต่พอดีเอาไว้ก่อน

เรื่องนี้ถือเป็นธรรมเนียมกันเลยเชียวนะ เวลาที่คุณจะไปบ้านใครก็ควรจำไว้ให้ขึ้นใจว่า ความเป็นคนสุภาพเรียบร้อยและมีสัมมาคารวะนั้นเป็นเรื่องจำเป็น ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ด้วยแล้วยิ่งสำคัญ ตรงนี้ก็ขอให้ คุณอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้หลักผู้ใหญ่ไว้ก่อน ยังไงเราเป็นเด็กเป็นเล็กก็ควรรู้จักการไปลามาไหว้ จะให้ดีก็ควรหลีกเลี่ยงการสกินชิพกันตลอดเวลาตอนพูดคุยอยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ด้วยนะคะ กันไว้ก่อน เพราะผู้ใหญ่แต่ละบ้านทัศนคติต่อเรื่องนี้ย่อมไม่เหมือนกันแน่นอน

เวลาจะเข้าไปหาพ่อแม่ของเค้าก็ควรถือของฝากติดไม้ติดมือไปด้วย

ของฝากที่จะนำไปมอบให้คราวนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องลงทุนเทกระเป๋าซื้อของอะไรที่มันแพงๆไปให้ท่านหรอก แค่มี ดอกไม้ไปฝาก, มีขนมไปให้ หรือหาผลไม้ตามฤดูกาลไปเยี่ยมก็เพียงพอแล้ว ถือเป็นการแสดงความมีน้ำใจทำให้ท่านเห็นว่าเรารลึกถึง และให้ความสำคัญกับการเข้ามาหาท่านเพราะมีการเตรียมข้าวของมา ที่เหลือก็เพียงให้ท่านรู้ว่า คุณมีความจริงใจและรักลูกหลานของท่านอย่างไม่มีเงื่อนไข เท่านี้ก็น่าจะสอบผ่านแล้วล่ะค่ะ

cr : rd.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

“ศีลเสมอกัน” ทริคการเลือกคู่ให้ดีตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

รักหนักแน่น กับ 4 เรื่องช่วยเสริมความสตรองให้ชีวิตคู่

เตรียมตัวยังไง ถ้าเจ้าสาว ท้องก่อนแต่ง ช่วงเตรียมงานแต่งงานพอดี!

6 ข้อเตือนใจว่าที่บ่าวสาวถึงสิ่งที่ควรใส่ใจกับรายละเอียดในงานแต่ง

บางครั้งด้วยความวุ่นวายจากอะไรหลายๆ อย่างก็อาจจะทำให้ว่าที่บ่าวสาวหลงลืมนู่นนี่ใน งานแต่ง หรือลืมให้ความสำคัญกับบางอย่าง หรือลืมว่าควรทำ- ไม่ควรทำสิ่งใดบ้างที่เกี่ยวกับ งานแต่งงาน ของคุณ แพรว wedding เลยจัดมาให้กับ 6 ข้อเตือนใจที่ว่าที่บ่าวสาวควรใส่ใจกับรายละเอียดต่างๆ ใน งานแต่ง ที่เรานำมาฝาก จะได้ไม่พลาดช็อตสำคัญสำหรับวันสำคัญที่กำลังจะมาถึง

1. แขกที่เชิญมางานปาร์ตี้สละโสด จะเป็นแขกที่บ่าวสาวต้องเชิญไปงานแต่งโดยปริยาย

หากว่าที่บ่าวสาวจัดงานปาร์ตี้สละโสด เราขอแนะนำให้คุณเลือกเชิญเฉพาะแขกที่คุณอยากจะให้พวกเขาไปร่วมงานแต่งงานของคุณ เพราะแขกที่คุณเชิญให้มาร่วมงานปาร์ตี้นั้น จะเป็นแขกชุดเดียวกับที่คุณจะเชิญพวกเขาให้มาร่วมงานแต่งงานของคุณไปโดยปริยาย เพราะฉะนั้นแขกที่บ่าวสาวจะเชิญมาร่วมงานปาร์ตี้จะต้องเป็นแขกที่บ่าวสาวตั้งใจจะเชิญพวกเขามาร่วมงานแต่งด้วยจริงๆ ซึ่งส่วนมากแล้วปาร์ตี้สละโสดมักจะมีแต่เพื่อนสนิท หรือแก๊งเพื่อนที่คุณวางตัวไว้ว่าจะให้เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวนั่นแหละค่ะ เพราะคงไม่ดีแน่หากแขกที่คุณเชิญมาร่วมงานปาร์ตี้ กลับไม่ได้รับเชิญให้ไปร่วมในงานแต่งงานของคุณ เพราะเขาคงจะเสียใจและเสียความรู้สึกไม่น้อยเลยนะคะ

2. หลีกเลี่ยงการเชิญแขกผ่านทางข้อความหรือโซเชียลมีเดีย

ถ้าเป็นไปได้บ่าวสาวไม่ควรจะเชิญแขกให้มาร่วมงานแต่งงานของคุณผ่านทางข้อความหรือทางโซเชียลมีเดีย แต่ควรจะแสดงความจริงใจว่าคุณอยากให้เขามาร่วมงานแต่งงานของคุณจริงๆ ด้วยการส่งการ์ดเชิญไปให้อย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปให้ด้วยตัวเอง ส่งไปรษณีย์ หรือฝากคนใกล้ชิดหรือคนรู้จัก ก็ล้วนเป็นการแสดงความจริงใจที่อยากให้พวกเขามางานได้ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะแขกที่เป็นแขกผู้ใหญ่ที่ว่าที่บ่าวสาวควรจะไปเรียนเชิญและมอบการ์ดแต่งงานให้ด้วยตัวเอง แต่งานนี้เราไม่ได้ห้ามให้ชักชวนผ่านทางโซเชียลนะจ๊ะ ชวนได้แต่ก็อย่าลืมส่งการ์ดเชิญไปให้อย่างเป็นทางการด้วยก็แค่นั้นเอง

3. หากเผลอบอกใคร หรือบังเอิญมีคนรู้เรื่องคุณจะแต่งงาน ก็ถือโอกาสชวนเขาไปเลย

ถ้าหากว่าที่บ่าวสาวบอกใครสักคนถึงวันแต่งงาน หรือคนๆ นั้นดันทราบวันที่คุณจะแต่งงานโดยบังเอิญ ก็อย่าลืมเชิญพวกเขาไปร่วมงานแต่งงานตามมารยาทด้วยนะคะ ถึงแม้ว่าเขาคนนั้นจะบอกคุณแล้วก็ตามว่าเขา (อาจจะ) ไม่สะดวกที่จะไปร่วมงานแต่งของคุณก็ตาม ซึ่งว่าที่บ่าวสาวอาจจะเลือกเชิญแขกกลุ่มนี้ด้วยปากเปล่าเพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือจะส่งการ์ดเชิญตามหลังไปให้ก็แล้วแต่ความสะดวกของว่าที่บ่าวสาวเลยค่า

งานแต่ง

4. หากแขกที่เชิญมามีคู่ อย่าลืมเพิ่มชื่อคู่ของเขาไปด้วย

หากแขกที่บ่าวสาวเชิญมีคู่รักหรือเป็นคู่สามีภรรยา นอกจากที่จะเขียนชื่อของแขกที่บ่าวสาวตั้งใจจะเชิญแล้ว อย่าลืมเขียนชื่อคนรักหรือสามี/ ภรรยาของแขกคนนั้นด้วย ซึ่งถ้าหากทราบชื่อก็ควรจะเขียนชื่อไปเลย แต่ถ้าหากไม่ทราบชื่อก็อาจจะเขียนเป็น …..+สามี/ ภรรยา/ ครอบครัว/ แฟน เป็นต้น เพื่อที่เขาจะได้ไม่ลังเลว่างานนี้ได้รับเชิญคนเดียว หรือไปเป็นคู่ได้กันแน่

5. อย่าลืมให้ความสำคัญกับวงดนตรี

แน่นอนว่าภายในงานต้องมีเสียงเพลงคอยขับกล่อมบรรเลงให้บรรยากาศภายในงานมีสีสัน ซึ่งถ้าหากบ่าวสาวเลือกใช้บริการวงดนตรีสด ไม่ว่าจะเป็นในช่วงฉลองมงคลสมรสหรือช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ตาม แน่นอนว่าวงดนตรีวงนั้นจะต้องอยู่กับบ่าวสาวไปจนเสร็จสิ้นพิธีการหรือจนจบงานเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นในช่วงพักเบรกหรือหลังเสร็จงานแล้ว ว่าที่บ่าวสาวอย่าลืมใส่ใจพวกเขาด้วยการให้เวดดิ้งแพลนเนอร์ หรือทางสถานที่จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้ให้กับวงดนตรีของคุณด้วยนะคะ เพราะกว่าดนตรีจะเลิกเล่นถึงตอนนั้นซุ้มอาหารหรือซุ้มค็อกเทลต่างๆ ก็คงจะโดนกวาดเกลี้ยงไปหมดแล้ว!!

6. ส่งการ์ดขอบคุณให้กับแขกที่มอบของขวัญให้คุณ

หากมีแขกท่านใดที่มอบของขวัญสุดพิเศษให้กับบ่าวสาวในวันแต่งงานนอกเหนือจากซองแต่งงานแล้วล่ะก็ อย่าลืมแสดงน้ำใจเพื่อเป็นการขอบคุณพวกเขาด้วยการส่งการ์ดที่คุณทั้งคู่เขียนข้อความขอบคุณเอาไว้ด้วยตัวเองอย่างสุดซึ้ง และจัดส่งไปให้ถึงมือของผู้ที่ให้ของขวัญแก่คุณทั้งคู่ด้วยนะคะ

Read More : ว่าที่เจ้าบ่าวช่วยได้! กับ 6 เรื่องการเตรียมงานแต่งที่คุณผู้ชายควรออกหน้า

CR. taylor-dawn.com

ปล่อยให้เป็นแค่เรื่องเก่าๆ…เลิกคิดมากเรื่อง แฟนเก่า ของเขาซักทีเถอะนะ

ปล่อยให้ แฟนเก่า เป็นแค่เรื่องเก่าๆ เถอะนะคะ

เป็นเรื่องปกติที่คุณมักจะรู้สึกไม่ถูกชะตากับ แฟนเก่า ของคนรักนัก ทั้งๆ ที่คุณอาจไม่เคยเจอหรือรู้จักกันเลยด้วยซ้ำ แล้วการมานั่งวิตกกังวลคิดมากไปเรื่อยก็อาจทำให้ความสัมพันธ์ของคุณและคนรักไม่ราบรื่นไปเสียอีก ซึ่งเอาเข้าจริงๆแล้วเรื่องนี้มันไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ง่ายสุดๆเพียงเริ่มต้นที่วิธีคิดของคุณเองเท่านั้น มาจูนวิธีคิดกันเถอะค่ะสาวๆ

 

เสียสุขภาพจิตสุดๆ

การที่คุณหวาดระแวง หรือมัวแต่กลัวว่าคนข้างกายจะกลับไปคืนดีกับแฟนเก่านั้นไม่เพียงแต่ทำให้คุณเกิดความรู้สึกเครียด วิตกกังวล หรือเสียสุขภาพจิตแล้วเท่านั้น แต่มันอาจทำให้คนรักของคุณเกิดความรู้สึกเบื่อคุณก็ได้นะคะ ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจทำให้ความสัมพันธ์ของคุณสั่นคลอนได้ง่ายๆเลย

คุณไม่ไว้ใจคนรัก ?

การที่คุณมัวแต่คิดถึงเรื่องแฟนเก่าของเขานั้น สามารถตีความได้ไม่กี่อย่างและหนึ่งในนั้นก็คือ คุณไม่ไว้ใจในตัวคนรัก อย่าลืมว่าความไว้ใจเป็นสิ่งจำเป็นหากคุณต้องการให้ความสัมพันธ์ราบรื่น  เพราะฉะนั้นคุณก็ควรไว้ใจเขาบ้าง มิเช่นนั้นชีวิตคู่ของคุณอาจมีปัญหาได้นะคะ

ผู้หญิงคนนั้นอาจไม่ได้สนใจคนรักของคุณแล้ว

ในขณะที่คุณคิดไปเยอะแยะเกี่ยวกับแฟนเก่าของคนรักคุณจนหน้าดำคร่ำเครียด บางทีเธออาจมีแฟนใหม่ไปแล้ว หรือไม่ก็ไม่ได้สนใจคนรักของคุณอีก พูดตรงๆก็คือ คุณอาจมโนไปเองทั้งหมดว่าทั้งคู่ยังคงรู้สึกดีๆ ต่อกันทั้งๆ ที่ต่างฝ่ายต่างก็มีชีวิตใหม่ของตัวเองแล้ว

ทำให้อีกฝ่ายได้คุมเกมส์

ในกรณีที่แฟนเก่าของคนรักยังคงอาลัยอาวรณ์กับความสัมพันธ์ครั้งเก่า คุณควรแสดงให้เธอเห็นว่าคุณไม่รู้สึกกระวนกระวายใจเลยแม้แต่น้อย อย่าปล่อยให้เธอถือไพ่เหนือกว่า และให้ผู้หญิงคนนั้นมามีอิทธิพลกับชีวิตและความรักของคุณ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดก็คือ โนสน โนแคร์ และใช้ชีวิตของคุณให้มีความสุขเท่านั้นก็พอค่ะ

เขาเลือกคุณ

แม้ว่าแฟนหนุ่มของคุณจะเคยรักผู้หญิงคนอื่น แต่นั่นมันก็เป็นเพียงแค่อดีตค่ะ การที่เขาเลือกคุณนั้นก็แสดงให้เห็นแล้วว่าผู้หญิงเหล่านั้นไม่ได้มีความสำคัญกับเขาแล้ว เราทุกคนนั้นต่างก็เคยมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่คุณที่อาจเคยมีคนรักมาก่อนหน้านี้ ไม่มีประโยชน์ที่คุณจะฟื้นฝอยหาตะเข็บ เพราะมันจะทำให้คุณทั้งคู่ทะเลาะกันเสียเปล่า

cr. cosmopolitan.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

4 ข้อผิดพลาดต้องเตรียมการให้ดีเกี่ยวกับการขอแต่งงานที่หนุ่มๆ ควรรู้

5 ปัญหาก่อกวน ชีวิตคู่ ให้ล่มก่อนได้เริ่ม ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรู้ก่อนแต่งงาน

ฮวงจุ้ยงานแต่งงาน เปิดตำราโดยซินแส เป็นหนึ่ง จัดตามนี้รับรองว่าดี!

มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต สถานที่แต่งงาน แห่งใหม่ริมทะเลในบรรยากาศแบบส่วนตัว

มีเพียงหาดทราย สายลม และสองเรา … ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังมีฟีลแบบนี้ และมองหา สถานที่แต่งงาน ริมทะเลอยู่ล่ะก็ แพรวเวดดิ้งไม่ทำให้ผิดหวังค่ะ เพราะเรามีสถานที่แห่งใหม่ล่าสุดริมทะเลภูเก็ตมานำเสนอกับ“โรงแรม มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต” ที่การันตีวิวดีหลักล้าน เพราะเพียงแค่ก้าวออกมาจากหน้าโรงแรมไม่กี่ก้าวก็สามารถสัมผัสกับทะเลอันดาอันกว้างใหญ่มันได้แล้ว ที่สำคัญที่นี่ยังได้รับคัดเลือกในคู่มือ มิชลิน ไกด์ Thailand 2019 ด้วยนะ

สถานที่แต่งงาน

โรงแรม มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเบื้องหลังเป็นขุนเขา ส่วนเบื้องหน้าเป็นทะเลอันดาสุดโรแมนติก เป็นสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัว ห่างไกลจากความวุ่นวายในเมือง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถเข้าไปสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าภูเก็ตและแหล่งช้อปปิ้งได้เพียงแค่ 15 นาทีจากที่พัก และอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติภูเก็ตเพียงแค่ 45 นาที

สถานที่แต่งงาน

ถ้าถามว่าที่นี่เหมาะกับการแต่งงานอย่างไร ก็ต้องเริ่มจากวิวก่อนเลย เพราะหน้าหาดและบริเวณที่สามารถจัดงานแต่งงานได้นั้นเป็นทิศตะวันตก เพราะฉะนั้นบ่าวสาวจะได้ภาพสวยๆ ของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า คู่มากับพระจันทร์ดวงโตสวยๆ เป็นแบ็คกราวนด์บรรยากาศของงานแต่งงาน บวกกับแสงส้มอำพันที่ตัดกับทะเลสีฟ้าครามที่ไม่โรแมนติกก็ให้มันรู้ไป นอกจากวิวดีแล้ว ที่นี่ยังมีหาดส่วนตัวที่บ่าวสาวและแขกสามารถสนุกสนานกับงานแต่งงานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

แพ็คเกจจัดงานแต่งงาน @ มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต
1. บริเวณชายหาด สำหรับจัดงานแต่งแบบพิธีการตะวันตก จุแขกได้ 60 ท่าน
2. ห้องอาหาร My Café สำหรับจัดงานเลี้ยงและอาฟเตอร์ปาร์ตี้ จุแขกได้ 60 ท่าน
3. บริเวณ Miracle Lawn สำหรับจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทลและปาร์ตี้ จุแขกได้ 100 ท่าน
4. บริเวณ My Lounge สำหรับจัดพิธีแต่งงานแบบไทย และงานเลี้ยงค็อกเทล / ปาร์ตี้ จุแขกได้ 40 ท่าน
5. บริเวณรอบสระว่ายน้ำ สำหรับจัดงานเลี้ยงแบบค็อกเทล และอาฟเตอร์ปาร์ตี้ จุแขกได้ 40 – 150 ท่าน

  • แพ็คเกจ Western Wedding ราคาเริ่มต้น 99,000 บาท
  • แพ็คเกจ Morning Wedding ราคาเริ่มต้น 58,999 บาท
    (พิธีหมั้น, พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์, พิธีสงฆ์)
สถานที่แต่งงาน
ห้องอาหาร My Café
สถานที่แต่งงาน
บริเวณ Miracle Lawn
สถานที่แต่งงาน
บริเวณ My Lounge
สถานที่แต่งงาน
บริเวณรอบสระว่ายน้ำ

ที่สำคัญเมื่อคืนวิวาห์ผ่านพ้นไป บ่าวสาวสามารถดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่นี่ต่อได้ทันทีแบบไม่มีเบรก ซึ่งที่นี่มีห้องพักให้เลือกหลากหลาย ทุกห้องได้รับการออกแบบในสีเอิร์ธโทนที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย ช่วยให้คุณและคนรักได้พักผ่อนอย่างรื่นรมย์หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากงานแต่งงาน

โรงแรม มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต เป็นห้องพักบนเนินเขาทั้งหมด 82 ห้อง ทุกห้องสามารถดื่มด่ำได้ทั้งวิวทะเลและภูเขา นอกจากนี้ยังมีห้องพักที่สามารถเดินลงสระได้จากหน้าเฉลียงห้องพักของตัวเองอีกด้วย

ดีลักซ์ ห้องพักระเบียงกว้างเหมาะกับการนั่งชิลสุดๆ

สถานที่แต่งงาน

ดีลักซ์ พูลวิว รื่นรมย์ไปกับการแช่ตัวในอ่างอาบน้ำพร้อมชมวิวริมสระน้ำ

พรีเมียร์ ซีวิว ชมวิวทะเลอันดามันได้แบบไม่มีเบื่อจากระเบียงอันกว้างขวางของห้องพัก

พรีเมียร์ พูล แอคเซส จะนั่งหย่อนเท้าแช่น้ำในสะว่ายน้ำ หรือจะกระโดดลงสระจากระเบียงส่วนตัวหน้าห้องพักเลยก็ได้

พรีเมียร์ ซีวิว สตูดิโอ แช่อ่างอาบน้ำกลางแจ้งส่วนตัวในห้องพัก พร้อมชมวิวทะเล

พรีเมียร์ บีชฟร้อนท์ อยู่บนชั้นที่มีความเป็นส่วนตัว สามารถเดินไปยังชายหาดได้อย่างสบาย


พรเวท พูล บีชฟร้อนท์ ห้องพักที่อยู่ใกล้กับชายหาด พร้อมทางเดินตรงสู่สระว่ายน้ำจากเฉลียงส่วนตัว

นอกจากห้องพักที่มีวิวหลักล้านแล้ว โรงแรม มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ยังมีอาหารและของหวานที่คุณต้องลิ้มลองก่อนที่จะเช็คเอ้าท์ ซึ่งหัวหน้าเชฟ “เพิ่มพร วิไลพรไสว” ตั้งใจคัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพดี และอาหารทะเลสดๆ อย่างดีมาปรุงรสเป็นอาหารไทยรูปแบบใหม่ที่มีกลิ่นอายตะวันตกที่รสชาติเข้าถึงง่าย ถูกใจคนทุกเพศทุกวัย

และนี่คือสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกมากมาย ทั้ง
** มาย บาร์ จิบเครื่องดื่มพร้อมชมทะเลอันดามันอันสวยงามจากริมสระน้ำ หรือบีชคาบาน่า
**มาย บอร์ดรูม ห้องสำหรับจัดประชุม หรือจัดเลี้ยงอาหาร
**มาย คาเฟ่ คาเฟ่ริมสระน้ำชิลได้ทั้งยามเช้าและยามเย็น
**มาย ฟิต ห้องฟิตเนสที่มีวิวเป็นทะเลอันกว้างใหญ่
**มาย เล้าจน์ เพลิดเพลินกับ “สกายบาร์” ชมความสวยงามของอ่าวยนในมุมมองแบบ 270 องศา
**มาย พูล สระว่ายน้ำแบบ infinity pool จำนวน 2 สระ พร้อมสระเด็ก และลานอาบแดด

มาย บีช รีสอร์ท ภูเก็ต
โทร. 0-7630-5066 ถึง 69
เว็บไซต์ www.mybeachphuket.com
อีเมล [email protected]

ขอผู้ชายแต่งงาน ได้ไหม? แล้วขอยังไงไม่ให้น่าเกลียด?

ก็ในเมื่อเขาคนนั้นไม่ยอมเอ่ยปากซักที! เป็นสาวเป็นนางอย่างเรา จะ ขอผู้ชายแต่งงาน กับเขาบ้างได้ไหมนะ? แล้วจะขอยังไงไม่ให้โดนเม้าท์ไปสามบ้านแปดบ้าน? อ่านเลย

ใครกำลังตกอยู่ในสภาพการณ์แบบนี้บ้าง อยาก ขอผู้ชายแต่งงาน เพราะคนรักข้างกายน่ะก็มีกับเขาอยู่หรอก คบกันมาก็นานพอสมควร พาเขาเข้าบ้านเรา เราก็เข้าบ้านเขา สนิทสนมกลมเกลียวกันดีเหมือนทุกอย่างจะเพอร์เฟ็คแต่วันแล้ววันเล่าเดือนเคลื่อนผ่านไปเป็นปีที่รอคำขอจากปากเขา แต่ใกล้เคียงที่สุดที่เขาพูดคงเป็นการชวนไปกินชาบูหน้าหมู่บ้านแค่นั้น รอแล้วรอเล่าจนเกิดความสงสัยว่าจะให้รอถึงเมื่อไหร่กันนะ หรือว่าที่จริงแล้วควรเป็นชั้นเองที่จะต้องเอ่ยปากขอ  เขา? แล้วจะเริ่มยังไงดี? พูดแล้วไปแล้วเขาเซย์โนจะทำยังไงละ? แถมใครรู้มิโดนเม้าท์ไปสามบ้านแปดบ้านจนพ่อแม่ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนรึเปล่าเนี่ย? ใจเย็น..ตั้งสติก่อนที่จะเอ่ยปากขอผู้ชายข้างกายของเราร่วมหอลงโรง ไม่ต้องยกหูโทรศัพท์โทรหาพี่อ้อยพี่ฉอด อ่านสิ่งที่เราแนะนำต่อไปนี้ แล้วพูดออกไปเลย!

ขอผู้ชายแต่งงาน

ต้องแน่ใจว่าเขาคิดจะแต่งงานกับเราเหมือนกัน

เราเชื่อว่าดูไม่ยาก ระหว่างผู้ชายที่คิดจะคบกับเราไปเรื่อยๆ ไร้จุดหมาย กับผู้ชายที่คิดจะจริงจังกับเราเพียงแต่ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดเป็นเรื่องเป็นราว สิ่งสำคัญคือคุณสาวๆต้องไม่เข้าข้างตัวเองว่าการกระทำของเขานั้นชัดเจนกับเราแค่ไหน สัญญาณที่บ่งบอกว่าเขาคิดจริงจังกับคุณ เช่น เขาเปิดเผยสถานะที่ชัดเจนกับคุณเวลาไปเจอเพื่อนหรือญาติๆ เขาดูมีการวางแผนที่ชัดเจน เช่น อยากซื้อบ้าน อยากมีกิจการ หรืออยากวางแผนอนาคตร่วมกับคุณ รวมทั้งถ้าหากถูกถามเรื่องการแต่งงานจากเพื่อนหรือญาติๆ เขาอาจจะตอบทำนองว่ารอเวลาแต่ไม่ได้บ่ายเบี่ยง เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะยังรอเวลาให้ชีวิตมั่นคงกว่านี้ อยากซื้อบ้านก่อน หรืออยากประสบความสำเร็จในการงานก่อนแล้วค่อยเอ่ยปากขอคุณ ถ้าเป็นในกรณีนั้นแล้วคุณแน่ใจมากๆว่าชีวิตของคุณทั้งคู่สามารถดำเนินไปด้วยกันได้แม้สิ่งที่เขาตั้งใจจะยังไม่เกิดขึ้น ก็เอ่ยปากขอเขาเลยค่ะ

อย่าขอเพราะขี้เกียจรอเขาแล้ว

อย่าคิดว่าการเอ่ยปากเรื่องแต่งงานจะเป็นเครื่องมือในการเร่งรัดเขาทางอ้อมได้ เพราะผู้ชายนั้น (ย้อนกลับไปอ่านข้อแรก) ถ้าเขาไม่คิดจะแต่งงานกับคุณ ต่อให้คุณไปเร่งรัดเขาแค่ไหนสิ่งที่คุณต้องการก็จะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าหากคุณแน่ใจมากๆว่าเขาอยากแต่งงานกับคุณแน่ เปลี่ยนจากการเอ่ยปากขอเขาแต่งงาน เป็นการนั่งจับเข่าคุยกันจะดีกว่า ว่าแผนการแต่งงานนั้นจะอีกกี่ปี? มีอะไรที่คุณจะช่วยเหลือเขาได้ไหมเพื่อให้ชีวิตคู่ของคุณทั้งสองเริ่มเร็วขึ้น เน้นย้ำกับเขาว่าคุณไม่ได้ต้องการที่จะเร่งรัด แต่การจะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันได้นั้น คุณทั้งสองต้องมองภาพปลายทางเป็นภาพเดียวกันเท่านั้นเอง

ขอผู้ชายแต่งงาน

ไม่จำเป็นต้องทำตามธรรมเนียมปฏิบัติ

ถ้าหากคุณแน่ใจเต็มอกว่าการแต่งงานของคุณและเขาจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่ดูท่าทีแล้วเขาคงไม่ใช่ฝ่ายที่จะพูดแน่ๆ เราเชียร์ให้คุณเป็นฝ่าย ขอเขาแต่งงาน ได้เลย ลืมธรรมเนียมปฏิบัติทั้งสิ้นไปให้หมด! คุณไม่ต้องเป็นฝ่ายคุกเข่าแล้วเปิดกล่องใส่แหวนต่อหน้าเขาเหมือนที่ผู้ชายทั้งหลายทำหรอกค่ะ ลองหาวิธีอื่นที่น่ารัก เช่น ซ่อนแหวนในเค้กที่คุณทำ ในแก้วแชมเปญ หรือใช้น้องหมาน้องแมวที่คุณสองคนเลี้ยงด้วยกันเป็นสื่อกลาง แต่เราแนะนำว่าให้คิดดีๆเรื่องการขอเขาแต่งงานในที่สาธารณะหรือท่ามกลางหมู่เพื่อนๆของเขาและเรา เพราะผู้ชายโดยธรรมชาติเป็นเพศที่เปี่ยมด้วยอีโก้ ถ้าหากเขาไม่เปิดใจยอมรับ การขอเขาแต่งงานต่อหน้าเพื่อนๆเขาและเราอาจจะทำให้เขารู้สึกอายและไม่พอใจได้ค่ะ

แล้วคนอื่นจะมองเรายังไง”?

แน่นอนว่านี่คือคำถามที่หลายคนต้องคาใจและเป็นคำถามที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนลบความคิดที่จะขอผู้ชายแต่งงานก่อนออกไปจากหัว เพราะกลัวโดนเม้าท์นี่แหละ เราอยากจะบอกว่า  ถ้าคุณคิดจะเอ่ยปากขอผู้ชายข้างกายแต่งงานแล้วจริงๆ คนที่คุณควรจะแคร์ มีเพียงคนสำคัญที่สุดก็คือ คนข้างกายของคุณ รวมทั้งคนในครอบครัวที่คุณรัก และเพื่อนสนิทจริงๆเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นคนอื่นๆจะว่าอย่างไรเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรจะสนใจ เพราะเราไปห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้อยู่แล้วแหละค่ะ

ขอผู้ชายแต่งงาน

แล้วถ้าเขาดันตอบว่าไม่”!

อีกหนึ่งฝันร้ายของสาวๆที่คิดจะขอแฟนหนุ่มแต่งงานก่อน ถึงแม้จะแน่ใจแล้วขนาดไหนว่าเขาคิดเหมือนกับเรา แต่ก็อาจจะมีผิดแผนตอนหลังได้เหมือนกัน ถ้าหากเขาตอบว่า ไม่ สิ่งแรกที่สาวๆควรทำคือตั้งสติ อย่าวีน อย่าดราม่า นั่งลงคุยกับเขาตรงๆ ถึงสิ่งที่อยู่ในใจเรา ถามเขาตรงๆก็ได้ว่าที่จริงแล้วความสัมพันธ์เรากำลังดำเนินไปทางไหน? เราสองคนมองเป้าหมายเดียวกันหรือเปล่า? และถึงแม้ว่าการแต่งงานอาจจะไม่ใช่ปลายทางที่เขากำลังมองหา แล้วเขายังต้องการเราให้อยู่เคียงข้างเขาต่อไปหรือเปล่า? และสุดท้ายแล้วถ้าเขาและเราจะต้องแยกจากกัน อย่างน้อยคุณจะได้ไม่ต้องเสียเวลากับความสัมพันธ์ที่ไม่ได้มองจุดหมายปลายทางเดียวกันอีกต่อไปค่ะ

สุดท้ายอย่าลืมนะคะสาวๆ ว่าการแต่งงานไม่ใช่จุดสิ้นสุดหรือเส้นชัยของความสัมพันธ์ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นอีกจุดหนึ่งของชีวิตคู่เท่านั้น การที่เขาไม่ได้เอ่ยปากขอเราแต่งงานไม่ได้หมายความว่าความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่มีปัญหา สุดท้ายแล้ว อยู่ที่คุณทั้งสองคนเข้าใจกันและกันมากแค่ไหน และพร้อมจะจับมือเดิมร่วมทางกันต่อไปหรือไม่ แม้ว่าจะมีการแต่งงานเกิดขึ้นหรือไม่ก็ตามค่ะ

ชอบคอนเท้นต์นี้ของเราไหมคะ? >> ลองอ่าน 5 วิถีคนขี้กั๊กถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่า คุณคือตัวเลือก

credit photo: telegraph.co.uk, shanghaiist.com

6 ข้อดีของการมีชีวิตคู่ที่รู้แล้วจะซึ้งใจว่ามีรักที่ดีมันเป็นอย่างนี้นี่เอง

เพราะเห็นตัวอย่างความรักที่ผิดหวังหรือเคยมีประสบการรักสุดแป้กมาจนสุดทน สาวๆ ยุคนี้ก็เลยเกิดอาการขยาดที่จะฝากหัวใจให้ใครดูแล แต่อย่าเพิ่งผลีผลามตัดสินใจครองตัวโสดไปตลอดช่วงอายุขัยค่ะ ลองมาอ่านข้อดีของการมี ชีวิตคู่ จากแพรวเวดดิ้งกันก่อนเพราะทั้ง 6 ข้อข้างล่างนี้ คือเรื่องดีๆ ที่คนมีคู่เขาโหวตมาแล้วว่านี่แหละคือข้อดีที่เธอและเขาตัดสินใจเป็นคู่ชีวิตกัน

 1. มีเพื่อนอยู่ด้วยเสมอเรื่อยๆ ไปจนแก่

ข้อดีสุดฮอตที่แทบจะทุกคนที่ตัดสินใจแต่งงานกันบอกกับเราก็คือ ความรู้สึกที่ว่าจะมีเพื่อนอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ  จนแก่เฒ่า ซึ่งแม้การอยู่นั้นจะเป็นการอยู่แบบเลิฟมากไม่มีนาทีไหนทะเลาะกันเลยหรือยู่แบบลิ้นกับฟันที่กระทบกันมากบ้างน้อยมาก แต่สุดท้ายก็คือความเป็นเพื่อนที่แฝงอยู่นฐานะสามีภรรยาที่ไม่เคยทิ้งกัน ทำให้บ้านหลังนั้นไม่เงียบเหงา และอย่างน้อยๆ เดินไปในบ้านยังมีเพื่อนคนนี้นั่งอยู่เสมอ

2. มีคนคอยอยู่ดูแลกันไม่ห่างเมื่อยามเจ็บป่วย

จริงอยู่ที่ความไม่มีโรคคือลาภอันประเสริฐ แต่ใครบ้างจะไม่มีโรคจริงไหมค่ะ ซึ่งนี่แหละคืออีกหนึ่งข้อดีของการมีคู่ นั่นคือเมื่อคุณเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาเมื่อไหร่ จะมีคนๆ หนึ่งที่คอยอยู่ดูแลคุณไม่ห่าง หรือแม้บางคู่ที่อาจจะเถียงว่า ไม่จริงอะ เวลาป่วยยังต้องไปหาหมอคนเดียวเลย แต่ลองคิดดีๆ สิคะ อย่างน้อยๆ คุณก็บอกอีกคนใช่ไหมล่ะว่าป่วย ซึ่งหลังจากนั้น คุณจะได้รับความห่วงใยดูแลไม่มากก็น้อยในสไตล์ของคนๆ นั้น ซึ่งนั่นก็คือรูปแบบหนึ่งของการดูแลกันไงคะ

3. ได้ที่ปรึกษาส่วนตัว

เวลาที่มีปัญหากับที่ทำงานหรือเรื่องส่วนตัว คู่ชีวิตของเรานี่แหละที่เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวที่คุณจะเอ่ยปากบ่นละขอความเห็นเป็นอันดับแรก เพราะคุณก็อยู่กันแค่สองคนผัวเมียแล้วจะบ่นให้ใครฟัง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อบ่นไปแล้ว คุณจะได้คำปรึกษาหรือความเห็นกลับมาไม่มากก็น้อย ซึ่งจะมีประโยชน์ไหมก็ว่ากันไปแล้วแต่กรณี แต่อย่างน้อยๆ คุณก็ไม่ต้องนั่งคิดคนเดียวให้ปวดหัว เพราะสามีหรือภรรยาของคุณคือเพื่อนคู่คิดที่พร้อมจะให้คำปรึกษากับคุณเสมอ

ชีวิตคู่

4. ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายในโลกกว้าง

คู่รักนักเที่ยวบอกกับเราว่า การมีคู่ชีวิตคือมีบัดดี้ไปไหนต่อไหนด้วยกันเสมอ เป็นคนที่ได้เห็นโลกกว้างไปพร้อมๆ กัน ทำให้ได้รับรู้เรื่องราวต่างๆ แบบคนมีประสบการณ์ร่วมที่คุยกันในเรื่องเดียวกันได้สบายๆ เพราะคู่ของคุณจะเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์นั้นเสมอ ทำให้การผจญภัยของคุณที่อาจเคยลุยเดี่ยวไม่เดียวดายหรือเงียบเหงาอีกต่อไป ทั้งนี้ทั้งนั้นรวมไปถึงการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตที่เคยทำคนเดียวตอนเป็นโสด ก็จะมีคนมาร่วมทำด้วยมากขึ้น แม้จะทำได้ไม่ดีแต่อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต้องวิ่งคนเดียว กินข้าวคนเดียว หรือขับรถคนเดียวจริงไหม

5. มีคนช่วยเรื่องเงินทองไม่ว่ามากหรือน้อย

สำหรับข้อนี้บางคนอาจรู้สึกว่าไม่จริงอ่ะ เพราะคู่เราแยกกระเป๋ากันใช้เงิน แต่เป็นข้อดีที่อีกหลายคู่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันในประเด็นนี้อย่างตรงไปตรงมาว่า เมื่อประสบปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่ว่าจะหมุนเงินไม่ทัน เพื่อนยืมตังไม่จ่ายหรือใช้หนี้บัตรเครดิตไม่ได้ อย่างน้อยๆ คู่ชีวิตของคุณนี่แหละจะเป็นคนแรกๆ ที่รับรู้ และยื่นมือเข้าช่วยเหลือตามกำลังที่ทำได้ หรือแม้ช่วยไม่ได้ก็จะเป็นคนช่วยคิดแก้ไขเรื่องการเงินร่วมกับคุณ

6. มีคนร่วมฝันและช่วยกันทำให้เป็นจริง

ข้อสุดท้ายเรียกได้ว่า สำคัญมากๆ สำหรับการมีคู่ชีวิตที่คู่รักทั้งหลายบอกกับเรา นั่นคือ ความฝันที่ฝันไว้มีคนร่วมรับรู้และร่วมแชร์ภาพฝันไปจนถึงช่วยกันเติมฝันให้เป็นจริง แม้บางคู่จะฝันกันไปคนละทาง แต่การอยู่กันเป็นคู่ชีวิตยทำให้สามารถนำฝันของเธอและฉันมาร่วมกันได้ หรือบางฝันที่นำมารวมเป็นฝันของเราไม่ได้ อย่างน้อยก็ยังมีอีกคนร่วมรับรู้และสนับสนุนให้อีกคนได้มุ่งไปสู่ฝันได้ในที่สุด

แต่ทั้งนี้ทั้งนี้ ทุกเรื่องที่เราบอกจะเป็นจริงได้ คุณต้องเลือกและมั่นใจในคู่ชีวิตที่ใช่ที่ถูกตั้งแต่แรก ไม่ใช่การเลือกเพียงเพราะผู้ใหญ่เห็นชอบ หรืออายุมากแล้วก็เลยแต่งงานกัน เพราะถ้าเป็นแบบนั้นละก็ รอไปเถอะค่ะ กว่าจะบิ้วความสัมพันธ์จนเจอข้อดีแบบที่เราบอกไปได้คงต้องใช้เวลา

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ :  https://www.insideweddings.com

ชวนส่องเครื่องประดับผมเจ้าสาวว่าเขาใช้แบบไหนบ้าง มาดูกัน

เจ้าสาวยุคนี้ เครื่องประดับ ผมเจ้าสาว เขาฮิตใช้แบบไหนกันบ้าง?ต้องจับคู่กับทรงผมแบบไหนดี? แล้วแบบที่เราเคยเห็นเรียกว่าอะไร? เรามีคำตอบค่ะ

เครื่องประดับ ผมเจ้าสาว ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้สด ดอกไม้ประดิษฐ์ มาลัยดอกไม้ เทียร่า หรือแอ็คเซสเซอรี่อื่นๆหลากชนิด ล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องประดับที่ช่วยเสริมให้ทรงผมเจ้าสาวยิ่งดูเลอค่า เสริมลุค และเป็นลูกเล่นที่ช่วยให้ลุคของเราดูตรงกับธีมงานมากขึ้นได้ด้วยค่ะ เหล่าว่าที่เจ้าสาวหลายคนน่าจะพอมีไอเดียเครื่องประดับทรงผมชุดของเราทั้งชุดไทยและชุดเจ้าสาวงานเลี้ยงกันบ้างแล้ว แต่ถ้ายังไม่มี ลองมาดูกันค่ะว่ายุคนี้เจ้าสาวเขาฮิตเครื่องประดับผมแบบไหนกันบ้าง และแบบที่เราชอบนั้นเค้าเรียกว่าอะไรนะ?

ดอกพุด

ดอกพุดเป็นดอกไม้สีขาวที่เหล่าเจ้าสาวในชุดไทยนิยมนำไปประดับผมกันมาก ซึ่งดอกพุดมีหลายสายพันธุ์ แต่ดอกพุดที่นิยมนำมาติดผมเจ้าสาวเพราะมีรูปร่างสวยงามนั้นคือ ดอกพุดซ้อนที่มีกลิ่นหอม และ ดอกพุดกุหลาบที่ลักษณะกลีบดอกสวยงามคล้ายกุหลาบค่ะ

ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ดอกกุหลาบ

อีกหนึ่งดอกไม้ยอดฮิตของเจ้าสาวที่สื่อถึงความรักนิรันด์ และยังเข้ากับทั้งชุดไทยและชุดเจ้าสาวสีขาว ดอกกุหลาบสายพันธุ์ที่นิยมนำมาประดับผมเจ้าสาวคือดอกกุหลาบหนูที่มีขนาดดอกเล็กกว่ากุหลาบปกติ และกลีบดอกเรียงตัวกันแน่นสวยงามค่ะ

ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ดอกไม้นำเข้า

ยุคนี้เหล่าเจ้าสาวยังนิยมนำเอาดอกไม้สดชนิดใหม่ๆ หน้าตาสวยแปลกตามาประดับผมกันอีกด้วย อย่างดอก ฟรีเชีย (ภาพซ้ายมือ) ที่มีจุดเด่นคือลักษณะช่อดอกไม้จากดอกตูมไปถึงดอกบานเรียงกันเหมือนโคมระย้าสวยงาม หรือ ดอก ลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ (ภาพขวามือ) ที่เป็นดอกไม้ซึ่งดาราสาวชื่อดัง ซอง เฮ เคียว ใช้เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวในวันแต่งงานเพราะสื่อถึงความรักที่บริสุทธิ์อันเป็นนิรันด์ค่ะ

ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @gee_jiwat, IG @teethory

มาลัยดอกพุด

อีกหนึ่งเครื่องประดับผมสุดฮิตของเจ้าสาวชุดไทย แมทช์กับผมหวีเรียบเพิ่มความเรียบร้อยเลอค่าประดุจแม่หญิงไทยแท้ๆ จะเป็นมาลัยดอกพุดแบบบิดเกลียว หรือแบบตรงธรรมดา จับคู่กับดอกไม้สดชนิดอื่น หรือเครื่องประดับผมชุดไทยอื่นๆอย่างปิ่น หรือเกี้ยว ก็ได้ค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย IG @gee_jiwat

มาลัยแบน

จุดเด่นของมาลัยแบนร้อยแบบลายยกดอก (แบบในภาพทั้งซ้ายและขวา) หรือแบบลายคุณหญิง คือเป็นมาลัยติดผมเจ้าสาวชุดไทยที่มีลวดลายสวยงาม และยังสามารถเปลี่ยนสีกลีบดอกไม้ให้เข้ากับสีชุดเราด้วย ไม่ว่าจะจับคู่กับผมหางม้า หรือผมเกล้ามวยก็สวยเลอค่าแบบคุณหญิงสูงศักดิ์ จะจับคู่กับปิ่นปักผมแบบไทยโบราณก็ได้อีกเหมือนกันค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ปิ่นปักผม หรือเกี้ยว

ชุดไทยสไตล์โบราณแท้ๆ ก็ต้องคู่กับเครื่องประดับผมสไตล์ไทยอย่างปิ่นปักผม และเกี้ยวประดับศีรษะ ซึ่งเกี้ยวที่นิยมใช้สำหรับผมเจ้าสาวชุดไทยคือเกี้ยวชนิดครึ่งวงกลม และมักจะจับคู่กับปิ่นปักผมที่เข้าคู่กัน ว่าที่เจ้าสาวคนไหนสนใจอยากประดับผมด้วยเครื่องประดับเลียนอย่างโบราณ อย่าลืมแมทช์สีของเครื่องประดับให้เข้ากับสีชุดนะคะ ทางที่ดีลองปรึกษาร้านที่เราเช่าชุดไทยดูค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

เทียร่า และแอ็คเซสเซอรี่ผมอื่นๆ

สำหรับเจ้าสาวยุคโมเดิร์นที่ต้องการสไตล์เก๋ไก๋แนวแฟชั่น หรือแนวหรูหราแบบเจ้าหญิงในเทพนิยาย ลองเลือกเครื่องประดับผมหลากสไตล์ให้เข้ากับธีมและชุดของคุณดูค่ะ อย่างเทียร่า (Tiara) หรือมงกุฏเจ้าสาวที่ช่วยส่งให้คุณดูเป็นเจ้าหญิงแห่งค่ำคืนสำคัญ หรืออาจจะเป็นเครื่องประดับรูปแบบอื่นๆ เช่น กิ๊บติดผม หรือ ที่คาดผมที่ดูหรูหรา ประดับด้วยเพชร ไข่มุก หรือดอกไม้ประดิษฐ์ ก็ดูดีไม่แพ้กันค่ะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย IG @gee_jiwat

ดอกไม้สดจัดเป็นช่อ หรือ มงกุฏดอกไม้

ธีมงานแต่งงานในสวนเป็นอะไรที่กำลังมาเลยนะคะตอนนี้ เหล่าว่าที่เจ้าสาวก็เลยน่าจะสนใจเครื่องประดับผมสไตล์มงกุฏดอกไม้สด หรือดอกไม้สดที่จัดเป็นช่อเล็กๆ ติดผม อย่าลืมให้ช่างจัดดอกไม้ของคุณดูธีมงานและสีของธีมงานให้ชัดเจน เพื่อให้โทนสีของดอกไม้เข้ากับสีธีมงานของคุณด้วยละคะ หรือจะเซฟภาพสวยๆ จาก Pinterest ไปประกอบด้วยก็ได้นะ

ผมเจ้าสาว
ผมโดย (จากซ้ายไปขวา) IG @teethory, IG @gee_jiwat

ได้ไอเดีย เครื่องประดับผมเจ้าสาว กันไปเยอะแล้ว เราแนะนำให้อ่าน >> วิธีการแมทช์ทรงผมกับต่างหูและรูปหน้าให้เข้ากันไม่เยอะเกิน << ที่นี่เลยค่ะ

ผมโดย: Instagram @gee_jiwat, @teethory

ประสบการณ์ดีๆ ที่อยากบอกต่อ แหวนแต่งงาน จาก Vijittra’s Jewelley ราคาดี คุณภาพแน่น พร้อมบริการที่น่าประทับใจ

แหวนแต่งงาน คือสิ่งสำคัญที่เปรียบเหมือนสัญลักษณ์และตัวแทนแห่งความรักของคนสองคน เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่คู่รักจะให้ความสำคัญกับการเลือกแหวนแต่งงานมากๆ ซึ่งแหวนแต่งงานวงนี้นอกจากที่จะต้องมีดีไซน์สวยงาม เหมาะกับการใส่ติดนิ้วในชีวิตประจำวันแล้ว เรื่องราคาและคุณภาพก็เป็นสิ่งที่ต้องมาคู่กัน ซึ่ง Vijittra’s Jewelley ร้านเพชรชื่อดังที่มีชื่อเสียงมายาวนั้นสามารถตอบโจทย์ทุกอย่างได้ตามที่คู่รักต้องการ ถ้าไม่เชื่อ ลองมาดูประสบการณ์ดีๆ จากลูกค้าตัวจริงที่จะมาการันตีให้ว่า “ดีไซน์หลากหลาย ราคาจับต้องได้ คุณภาพเกินราคา” นั้นมีอยู่จริง

รีวิวแหวนแต่งงาน Vijittra’s Jewelley จากคุณคะแนน & คุณเรเน

แหวนแต่งงาน

  • เริ่มต้นมองหาแหวนแต่งงานยังไง?

เราหาข้อมูลร้านต่างๆ ในอินเทอร์เน็ตก่อนที่จะออกไปเซอร์เวย์ตามร้านต่างๆ ด้วยกัน  ซึ่งเราไม่ได้มีแบบแหวนแต่งงานในใจ แค่อยากได้แหวนแต่งงานที่มีดีไซน์สวยงาม เหมาะกับผู้หญิงและผู้ชายในยุคปัจจุบัน ซึ่งจากที่เราได้เดินดูหลายๆ ร้านก็ได้ข้อสรุปว่าร้านที่ถูกใจเรามากที่สุดคือร้าน Vijittra’s Jewellery ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากในเรื่องของคุณภาพเพชร น่าจะไว้ใจได้ มีสาขาเยอะ และมีสาขาที่ใกล้บ้านด้วย ซึ่งสะดวกในการเดินทางก็เลยลองตัดสินใจลองไปที่ร้านดู

  • ทำไมต้องเป็นที่ Vijittra’s Jewellery

อย่างแรกเลยคือ เรื่องการบริการที่ค่อนข้างต่างจากที่อื่น และมีแหวนแต่งงานหลากหลายแบบให้เลือก ที่สำคัญทางร้านสามารถแนะนำแหวนแต่งงานที่เหมาะกับงบประมาณที่เรามีได้ พร้อมมีใบ certificated รับรองแหวนแต่งงานทุกแบบให้กับลูกค้า รวมไปถึงการให้คำแนะนำต่างๆ ที่พนักงานของร้านพร้อมตอบทุกปัญหาของเราอย่างเต็มใจ ไม่มีการบังคับให้ซื้อ แต่ให้เราดูและกลับไปตัดสินใจก่อน ซึ่งรู้สึกประทับใจในเรื่องนี้มากๆ

แหวนแต่งงาน

  • ก่อนหน้านี้มีความรู้เรื่องเพชรไหม

แฟนผมคือไม่รู้เลย ส่วนผมมีศึกษาข้อมูลในเว็บไซต์มาบ้าง เพราะก่อนหน้านั้นผมเคยซื้อสร้อยเพชรให้เขา ตอนนั้นก็ต้องหาข้อมูลคร่าวๆ ว่าซื้อเพชรต้องมีใบเซอร์ไหม? แล้วถ้าไม่มีก็ต้องดูว่าเป็นเพชรมาจากที่ไหน อะไรยังไง ก็รู้แค่ข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งตอนที่ไปร้าน Vijittra’s Jewellery ทางร้านให้คำแนะนำดีมาก บอกว่าต้องเป็นน้ำประมาณไหน ขนาดต้องเท่าไหร่ พร้อมนำเพชรตัวอย่างมาให้ลองส่องกล้องดู ถึงแม้ตอนนั้นผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อแหวนแต่งงานที่ร้านเขาด้วยซ้ำ ทางร้านก็สอนให้ดูว่าเพชรแบบ D Color เป็นยังไง น้ำ 100 น้ำ 99 ต่างกันยังไง ซึ่งผมก็ได้ความรู้ตรงนี้เพิ่มขึ้น เลยรู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างหนึ่ง

  • ความประทับใจบริการก่อนและหลังการขายของร้าน Vijittra’s Jewellery

ความประทับใจก่อนซื้อเพชรที่ร้าน Vijittra’s Jewellery คือ ประทับใจการให้บริการของพนักงานขายที่คอยให้คำแนะนำในเรื่องต่างๆ ไม่ได้พูดเพื่อมุ่งเน้นการขายของเพียงอย่างเดียว ถึงแม้เราจะยังไม่ได้ตัดสินใจซื้อ  ส่วนหลังการขายทางร้านก็ยังดูแลเราเป็นอย่างดี แนะนำวิธีการดูแลแหวนว่าต้องทำยังไงหลังจากซื้อไปแล้ว พร้อมบอกว่าหากมีปัญหาอะไรก็สามารถนำแหวนมาให้ทางร้านแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มไซส์ สลักชื่อฟรี และมีบริการล้างแหวนฟรีตลอดอายุการใช้งานด้วย อีกทั้งยังสามารถติดต่อได้ตลอดทุกสาขาไม่จำเป็นว่าต้องเป็นสาขาที่ซื้อ ซึ่งถือว่าคุ้มค่าสำหรับการซื้อมากๆ ทำให้รู้สึกอุ่นใจว่าทางร้านจะดูแลเราตลอดอายุการใช้งานจริงๆ

แหวนแต่งงาน

  • ความประทับใจที่มีกับร้าน Vijittra’s Jewellery

รู้สึกประทับใจในเรื่องการบริการ ดีไซน์ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ความสะดวกเพราะมีหลายสาขา และแบบแหวนแต่งงานหน้าร้านที่มีให้เลือกเยอะมาก หลากหลายดีไซน์ ที่สำคัญเรื่องราคาคือตอบโจทย์มาก ทางร้านมีตัวเลือกราคาที่หลากหลาย ถ้าเรามีบัตเจ็ตเท่านี้ทางร้านก็สามารถจัดสรรให้ได้ว่าเราควรจะเลือกแหวนแบบไหน เพื่อให้ตรงกับงบประมาณที่เรามีมากที่สุด

  • ให้คำแนะนำกับคู่รักที่กำลังมองหาแหวนแต่งงาน

ก่อนอื่นต้องคำนึงถึงความชอบของเราก่อน และดูว่าดีไซน์แบบไหนที่เราสามารถใส่ได้ในชีวิตประจำวันหรือในโอกาสอื่นๆ ได้ด้วย เช่น หากใส่ทุกวันก็ควรเลือกดีไซฯให้เหมาะกับงานที่ทำ และมีความคงทน ต่อมาต้องคำนึงเรื่องงบประมาณว่าสามารถจ่ายได้เท่าไหร่ วิเคราะห์ว่าจ่ายไปแล้วคุ้มค่าไหม ได้ในสิ่งที่ต้องการหรือเปล่า เพราะแหวนวงนี้เราต้องใส่ทุกวัน ที่สำคัญคือขายไม่ได้ หรือถ้าเกิดเป็นความตกลงใจของทั้งคู่ว่าอยากจะอัพเกรดแหวนทางร้าน Vijittra’s Jewellery ก็ยินดีให้บริการ เช่น สามารถนำกลับไปเปลี่ยนดีไซน์ได้ ซึ่งตรงนี้ก็เป็นความน่าสนใจอีกแบบของที่ร้าน เพราะมีทางเลือกให้บ่าวสาวต่อไปในอนาคต

ทั้งผมและแฟนแฮปปี้มาก เพราะแหวนแต่งงานที่ได้ตรงกับความต้องการของเราทุกอย่าง และรู้สึกว่าคุ้มค่ากับการซื้อมากๆ ทั้งเรื่องราคาคุณภาพ และดีไซน์ที่ตอบโจทย์ ที่สำคัญที่ร้านยังมีใบรับรองจาก GIA ให้ด้วย

อ่านมาถึงตรงนี้ ก็การันตีได้จริงๆ ว่าที่ Vijittra’s Jewellery พร้อมที่จะตอบโจทย์เรื่องแหวนแต่งงานให้กับคู่รักมากๆ ทั้งเรื่องราคา ดีไซน์ คุณภาพ และบริการ ที่คงต้องบอกว่าให้เต็มสิบไม่มีหักเหมือนอย่างเช่นที่คู่รักคู่นี้เทใจให้

Vijittra’s Jewellery
โทร. 06-1614-5096
ไลน์ : @Vijittra
ชั้น 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 0-2103-4008
ชั้น 1 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โทร. 0-2958-0598
ชั้น 1 เจ.เจ.มอลล์ โทร. 0-2265-9618
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 0-2363-3044
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค โทร. 0-2454-9159
ชั้น 2 แฟชั่นไอส์แลนด์ โทร. 0-2116-4889