ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน จะอยู่หรือหย่าคงต้องคิดและเตรียมตัวดีๆ

ชีวิตจริงของคนเราไม่เหมือนเรื่องราวในละคร ที่จบด้วยการแต่งงานมีความสุขตลอดไปของพระเอกนางเอก แต่ในความเป็นจริงนั้นการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะจบแบบไหน จะสุขยาวนานหรือ ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน จนไปต่อไม่ได้ รักถึงทางตัน ทำอย่างไรถ้าต้องหย่า  ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน ก่อนจะตัดสินใจอีกครั้งในชีวิต คุณจะต้องคิดดีๆ ให้ละเอียดรอบคอบ เพราะการหย่าอาจไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวเอง แต่ส่งอาจมีคนรอบข้างเราด้วย 1. ถามตัวเองดีๆ อีกครั้ง (หลายครั้งก็ได้) อยู่ดีไหมหรือไปดีกว่า? เชื่อว่าหลายครั้งที่ชีวิตคู่มีปัญหา ทั้งสามีและภรรยาคงต้องช่วยกันหาทางแก้ไขสุดกำลัง แต่ปัญหาบางอย่างก็แก้ไขไม่ได้ เมื่อพิจารณาทบทวน แล้ว บางคนตัดสินใจไปต่อด้วยหวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้น แต่สำหรับบางคนที่คิดว่าปัญหาเกินจะแก้ไข ยิ่งอยู่ยิ่งทำร้ายจิตใจกัน จึงเริ่มคิดถึงการแยกทางและจดทะเบียนหย่า แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร คุณเท่านั้นที่รู้ตัวเองดีที่สุด ถามตัวเองดีๆ อย่าถามคนอื่นเด็ดขาด 2. วางแผนชีวิตในอนาคต ในขณะที่ชั่งใจว่าจะอยู่หรือหย่า คุณควรวางแผนในอนาคตไว้บ้าง แผนวางไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าไร้ซึ่งแผนใด แผนที่คุณจะต้องแพลนไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตตัวคนเดียวหลังการหย่าเท่านั้น อาจเป็นแผนกับสามีว่า ถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้แล้ว เราทั้งคู่จะปรับตัวอย่างไรให้ชีวิตคู่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และไม่วนกลับมาทะเลาะกันซ้ำเดิม ส่วนใครที่ตัดสินใจแล้วว่าต้องหย่าขาดจากกันจริงๆ คุณควรมีแผนของการอยู่คนเดียวว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่บ้าน ควรอย่างยิ่งที่ต้องวางแผนเรื่องเงินทองหรือการเลี้ยงชีวิตด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือหากมีลูกด้วยกัน เรื่องการเลี้ยงดูก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องวางแผนให้ชัดเจน 3. เรื่องเงินทองต้องเคลียร์ชัดเจน ข้อนี้สำหรับคนที่ตัดสินใจดีแล้วว่าจะแยกทางกันอย่างแน่นอน เรื่องทรัพย์สินทั้งส่วนตัว สินสมรส […]

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ แม่เปิดศึกภรรยา แล้วคนกลางอย่างผมควรทำไงดี?

ปัญหาคลาสสิกของชีวิตคู่มีมากมาย แต่หนึ่งอย่างที่ไม่มีใครอยากเผชิญมากที่สุดคือ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ นี่แหละ ลองคิดดูว่า เมื่อผู้หญิงที่สำคัญในชีวิตของคุณทั้งสองคนต้องมาบาดหมางกัน ในฐานะลูกและสามีจะวางตัวยังไงดี ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ แล้วคนตรงกลางอย่างผู้ชายจะช่วยอะไรได้บ้าง 1. ทำตัวเป็นกลางไว้ก่อน ในฐานะที่ต้องเป็นคนกลาง สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือ อย่าเข้าข้างใครเป็นพิเศษ มันก็จริงอยู่ว่าในฐานะคนเป็นลูก ถ้าแฟนตัวเองพูดอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับแม่ คุณก็คงรับไม่ได้ ในขณะเดียวกันคุณก็มีสถานะเป็นสามีด้วย หากว่าแม่พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับภรรยาที่คุณเลือกมาเป็นคู่ชีวิต คุณเองก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอให้หนักแน่น อย่าเพิ่งโวยวายตัดสินว่าแม่หรือเมียใครเป็นคนผิด ควรใจเย็นและทำตัวเป็นกลางเข้าไว้ ทำหน้าที่รับฟังแต่ยังไม่ต้องออกความคิดเห็นหรือเก็บเอามาเป็นอารมณ์ รอดูสถานการณ์ก่อน ทั้งแม่และลูกสะใภ้อาจมีวิธีแก้ปัญหาในแบบของผู้หญิงก็ได้ 2. เปิดใจคุยกับแม่และภรรยา หลังจากนิ่งเป็นพระอิฐพระปูนมาแล้วระยะหนึ่ง หากว่าดูท่าสงครามน้อยๆ ครั้งนี้จะไม่จบลงง่ายๆ และมีทีท่าว่าจะกลายเป็นมหากาพย์ คงถึงคราวต้องเปิดอกคุยกับคุณแม่และภรรยาแล้ว แนะนำว่าอย่าเรียกมาคุยพร้อมกัน ให้แยกกันคุยคนละรอบ ตามแต่โอกาสและเวลาที่เหมาะสม สิ่งที่ควรพูดกันให้รู้เรื่อง คือ หนึ่ง คุณต้องบอกให้ชัดเจนถึงความอึดอัดและความกดดันในฐานะคนกลางที่ไม่อยากเลือกข้าง เพราะทั้งสองคนเป็นคนสำคัญในชีวิตคุณทั้งคู่ เวลาคุยกับแม่ คุณควรถามแม่ว่าทำไมถึงไม่ชอบภรรยาของคุณ มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า ในขณะเดียวกันก็แสดงออกให้แม่เห็นว่าภรรยาของคุณเป็นคนดีที่คุณอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่ได้แย่อย่างที่แม่คิด คุยแบบเดียวกันนี้กับภรรยาของคุณด้วย อย่าลืมที่จะบอกเธอว่า แม่เป็นผู้มีบุญคุณและรักคุณไม่ต่างจากที่ภรรยารัก สอง เล่าเรื่องดีๆ ของแต่ละฝ่ายให้ฟัง ถ้าภรรยารักคุณมาก งานบ้านงานเรือนไม่เคยบกพร่อง ดูแลคุณอย่างดี […]

พ่อสามี

ว่าที่ลูกสะใภ้รู้ไว้ก็ดีจะได้ทำตัวถูกกับ 4 นิสัยพื้นฐานของพ่อสามี

ส่วนใหญ่เราจะได้ยินปัญหาของแม่ผัวลูกสะใภ้ใช่ไหมคะ แต่จริงๆ แล้ว พ่อผัวกับลูกสะใภ้ก็มีปัญหาให้เห็น แถมบางบ้านสะสมความขุ่นใจกันมาเรื่อยๆ จนกลายเป็นสงครามเย็นโดยไม่รู้ตัวซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะคุณมองข้ามนิสัยบางอย่างของ พ่อสามี หรืออาจเป็นเรื่องคาดไม่ถึง ซึ่งไม่ใช่ความผิดแต่อย่างใด วันนี้เราจึงสรุปแบบกว้างๆ มาให้ ถ้าคุณกำลังจะเข้าไปเป็นสะใภ้บ้านไหน ลองอ่านบทความนี้ดู จะได้เตรียมปรับตัวให้เข้ากับพ่อสามีในอนาคตได้ พ่อสามีส่วนใหญ่ไม่พูดเยอะแต่ดูอยู่ห่างๆ อย่าคิดว่าพ่อสามีจะละเลยเรื่องชีวิตคู่ของคุณกับลูกชายของเขานะคะ เพราะส่วนใหญ่จะเน้นดูการกระทำของคุณอยู่เงียบๆ ประกอบกับดูปฏิกริยาของลูกชายตัวเองว่ามีความสุขดีอยู่ไหม ชีวิตคู่เป็นไปอย่างที่ลูกชายเคยคุยเคยฝันหรือเปล่า และการไม่พูดไม่ใช่กำลังจับผิด แต่เป็นการให้เกียรติในการใช้ชีวิตของคุณต่างหาก ฉะนั้นว่าที่สะใภ้ทั้งหลายอย่าคิดว่าทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน พ่อนั้นไม่สนหรอก ขอบอกเลยว่าคิดผิด พ่อสามีพูดทีมีอึ้ง ต่อเนื่องให้รู้กันไปจากข้อที่แล้ว คือไม่พูดก็คือไม่พูด แต่ถ้าเปิดปากพูดเมื่อไหร่ ส่วนใหญ่จะแปลว่าสุดๆ แล้วล่ะ ไม่พูดให้รู้ตัวคงไม่ได้ อะไรประมาณนั้น ซึ่งตรงนี้จะต่างจากแม่สามีที่เห็นปุ๊บก็อาจพูดปั๊บจนคุณอาจรู้สึกเบื่อหน่ายจนฟังทะลุหูไปเลยด้วยความเคยชิน แต่ถ้าเป็นพ่อสามีพูดเมื่อไหร่ รู้ไว้เถอะค่ะว่าพฤติกรรมของคุณนั้น เข้าขั้นต้องตรวจสอบแล้วนะ พ่อสามีก็มีความเป๊ะเหมือนกัน จริงๆ แล้วพ่อสามีมีความหยวนมากกว่าแม่สามีก็จริงนะคะ ฉะนั้นทำความสะอาดบ้านเนี้ยบไหม ทำอาหารอร่อยหรือเปล่าไม่ใช่ประเด็นหลักที่จะมานั่งจุกจิกกันทุกวี่วัน แต่มักจะจุกจิกเฉพาะเรื่องมากกว่า เช่น ความเป๊ะในเรื่องที่เกี่ยวกับประเพณีสืบทอด การไหว้เจ้า ธรรมเนียมทำตามกันมา (โดยเฉพาะครอบครัวคนจีน) หรือบางบ้านอาจมีเรื่องเงินๆ ทองๆ เข้ามาในบางสถานการณ์ซึ่งหากคุณเป็นคนไม่ละเอียด ไม่ค่อยจะเป๊ะกับหลายๆ เรื่อง อาจค่อยๆ เริ่มสร้างความละเอียดให้กับตัวเองผ่านเรื่องเหล่านี้ก็ดีนะคะ พ่อสามีไม่หวงลูกชายแต่จะห่วงมากกว่า […]

แฟนทะเลาะกับพ่อแม่

เมื่อแฟนทะเลาะกับพ่อแม่ แล้วคนกลางอย่างเราจะวางตัวอย่างไร?

เลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าบังเอิญว่าคุณต้องกลายเป็นคนกลางเวลาที่ แฟนทะเลาะกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ ยิ่งถ้าอยู่ในสถานที่บังคับแบบไปไหนไม่ได้อย่างในรถ ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในบ้านของตัวเอง แล้วคนกลางอย่างคุณจะวางตัวแบบไหนดี เพื่อให้คุณเองไม่ต้องกลายเป็นอีกคนที่มีปัญหา นิ่งไว้ก่อนปลอดภัยสุด คำแนะนำแรกที่เราขอให้คุณทำเมื่อสถานการณ์ตรงหน้ามาคุคือ การอยู่นิ่งๆ ค่ะ อย่าเอาตัวเองเข้าไปเป็นเอี่ยว เพราะเดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ นิ่งและฟังอย่างเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วดูเชิงสักนิดว่าคุณออกมาจากเหตุการณ์ตรงนั้นได้ไหม เหตุผลคือ เป็นการให้เกียรติคนในครอบครัวคุยกันเองยังไงละค่ะ ต่อให้คุณจะสนิทกับครอบครัวของเขามากแค่ไหนก็ตาม หรือแม้จะแต่งงานเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาก็ตาม นิ่งค่ะ ขอย้ำให้นิ่ง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ ห้ามไม่ได้ให้นิ่งไว้ บางคนบอกว่า เหตุการณ์มันสุดๆ จริงๆ ไม่เอี่ยวไม่ได้ ถ้าคุณลองเอ่ยปากพูดไกล่เกลี่ยให้ต่างฝ่ายใจเย็นลงแล้วก็ยังไม่ได้ผล อย่าพยายามค่ะ เพราะเสียงที่สามอาจไปกระตุ้นให้เรื่องไปกันใหญ่ และดีไม่ดี คนที่ทะเลาะกันอยู่ อารมณ์กำลังพุ่ง อาจจะลากคุณเข้าไปเอี่ยวจนกลายเป็นไฝว้หนักไปใหญ่ตามประสาคนพาลหรือคุมอารมณ์ไม่ได้ ฉะนั้น จำไว้เลย เมื่อเอ่ยปากห้ามแล้ว ไกล่เกลี่ยแล้วยังไม่มีอะไรดีขึ้น จงนิ่ง!! อย่าเข้าข้างใครเด็ดขาด เวลาที่คนเราทะเลาะกันแล้วมีบุคคลที่สาม (อย่างคุณ) ที่ไม่เกี่ยวอยู่รับรู้เหตุการณ์ด้วย มีสิทธิ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหันมาถามความเห็นของคุณว่าคิดยังไง ใครคือคนผิด จะต้องการหาพวก หรือให้คุณตัดสินก็ตามที แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณเอ่ยปากทำนองเข้าข้างใครคนนึงแล้วละก็ งานเข้าแต่ๆเพราะอีกคนจะหมางใจกับคุณได้ทันที ถ้าคนที่คุณเข้าข้างคือแฟนตัวเอง อีกคนที่อาจเป็นพ่อแม่พี่น้องเขาจะพลอยไม่ชอบคุณขึ้นมา หรือถ้าคุณเข้าข้างอีกฝ่าย คุณก็มีสิทธิ์ทะเลาะกับแฟนตัวเอง […]

ปัญหาครอบครัว

ลดปัญหาครอบครัวกับ 5 วิธีสานสัมพันธ์ให้พ่อแม่ของเธอกับฉันเลิฟกันได้

เมื่อคุณทั้งคู่รักและอยากจะแต่งงานกันเสียที แต่ติดอยู่ที่ว่าพ่อและแม่ของทั้งคู่เกิดไม่ชอบหน้ากันขึ้นมาซะอย่างงั้น เอาเป็นว่าไปดูวิธีรับมือกันปัญหานี้กันดีกว่าค่ะ...

ชีวิตหลังแต่งงาน

8 คำถามที่มาพร้อมคำตอบกับ ชีวิตหลังแต่งงาน เรามีทางออกให้แล้ว

เช็กด่วน! คุณกำลังเจอปัญหา ชีวิตหลังแต่งงาน เหล่านี้อยู่หรือเปล่า? การแต่งงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ ชีวิตหลังแต่งงาน นี่สิของจริง! แพรวเวดดิ้งได้รวบรวมปัญหา พร้อมคำตอบในการรับมือกับ ปัญหาหลังแต่งงานที่คุณอาจจะต้องเจอมาให้แล้ว รับรองได้ว่า เวลาเจอกับตัวเมื่อไหร่ ไม่เกิดอาการน็อกคาบ้านแน่นอน Q : ใครบ้างในครอบครัวของอีกฝ่ายที่มีความเสี่ยงจะขัดแย้งกับเรามากที่สุด A : ขอบอกเลยว่า ทุกคนในบ้านมีสิทธิ์วางมวยกับคุณทั้งหมด อยู่ที่ว่าจริตใครจะโดนต่อมขัดใจของใครก็เท่านั้น เพราะการที่เข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังใหม่ จะต้องมีการปรับตัวเข้าหากันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริง การที่จะให้คนเก่าที่เคยอยู่กันอย่างมีความสุข มาปรับตัวเพื่อคนใหม่เพียงคนเดียวก็คงจะยาก ฉะนั้นคนที่มีโอกาสขัดแย้งกันมากที่สุดคือ คนที่ไม่ยอมปรับตัวเอง นั่นเองจ้า Q : บ้านสามีคาดหวังให้สะใภ้เป็นแม่บ้านแม่เรือน เพียบพร้อมทุกด้าน แต่เราเป็นคนทำงานนอกบ้านเก่ง แต่เรื่องในบ้านห่วยแตก จะทำอย่างไรดี A : ถ้าอยากให้ครอบครัวของสามียอมรับในสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามคาดหวัง คุณก็ต้องมีสิ่งอื่นมาทดแทนความเป็นแม่บ้านแม่เรือน เช่น คุณอาจหาแม่บ้านมืออาชีพมาช่วยงาน หรือแม้จะทำอาหารไม่อร่อยแต่ก็พยายามเรียนรู้ รวมทั้งการได้รับการยอมรับและชื่นชมในฝีมือการทำงานนอกบ้านจากคนอื่นๆ ก็สามารถทำให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีคุณค่ามากกว่าการเป็นแม่บ้านแม่เรือนแล้วละ (แต่บอกไว้ด้วยความหวังดีนะ แม้จะทำงานบ้านได้ห่วยแตก แต่ยังขึ้นชื่อว่าได้ทำ ก็ยังโอเคกว่าไม่ทำเลยนะ) Q : น้องสาวสามีชอบชวนสามีไปไหนต่อไหนด้วยจนแทบไม่เหลือเวลาส่วนตัว จะมีวิธีใดทำให้รู้สึกสบายใจและได้เวลาของสามีกลับมาเป็นของตัวเองบ้าง A […]