5 กิจวัตรชีวิตคู่ต้องทำตามเพื่อชีวิตรักสุดสตรอง

เลสลี โดอาเรส โค้ชชีวิตสมรส ผู้เขียนหนังสือ “Blueprint For A Lasting Marriage” กล่าวไว้ว่า  “สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณทำให้คนรักจะทำให้เขารับรู้ว่า คุณนึกถึงเขา ซึ่งนั่นทำให้ความสัมพันธ์ของ ชีวิตคู่ ที่มีอยู่ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น” ว่าแต่คุณพร้อมหรือยังที่จะไปดูพร้อมกับเราว่ามีกิจวัตรไหนบ้างที่คุณควรทำให้คนรักทุกวัน

เติมความหวานให้ ชีวิตคู่ เสริมใยรักให้แข็งแรง

Photo by Hannah Olinger on Unsplash

1. ทักทายและบอกลา

ในหนึ่งวันจะมีช่วงเวลาที่คุณทั้งสองจะได้ใกล้ชิดกันอย่างแน่นอนอยู่  2 ช่วง คือเมื่อคุณกำลังจะแยกกันไปทำงาน และเมื่อคุณกลับมาเจอกัน การสร้างเวลาส่วนตัวช่วงสั้นๆ เพื่อบอกลาก่อนแยกย้ายกันนั้น “จะช่วยสร้างความรู้สึกทางบวกและบรรยากาศที่ดี รวมถึงลดความตึงเครียดในเวลาเช้าที่เร่งรีบลงได้การทักทายเมื่อกลับมาเจอกันหลังเลิกงานก็ให้ผลอย่างเดียวกัน” โทนี โคลแมน นักจิตวิทยาบำบัดและโค้ชชีวิตสมรสกล่าว

“การเดินเข้าบ้านมาหลังจากวันที่เหน็ดเหนื่อยและหนักหน่วงโดยไม่ได้รับสัญญาณตอบรับจากคู่ของเรานั้นทำให้เกิดความรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ดีใจที่ได้เจอเรา ไม่แคร์ว่าเรายืนอยู่ตรงนั้น หรือรู้สึกว่าเราไม่สำคัญมากพอที่จะได้รับความสนใจจากเขา” โทนีกล่าว การให้เวลากันเพียงแค่ช่วงสั้นๆ จะทำให้การรับรู้แตกต่างไปเลย”

2. เล่าสู่กันฟัง

หลายคนอาจจะบอกว่าเรื่องนี้เก่าแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น การได้รับรู้เรื่องราวของกันและกันว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในแต่ละวันนั้นเป็นสิ่งสำคัญ” ดังนั้น เราจึงควรคอยถามไถ่ถึงความเป็นไปของคนรัก และแบ่งปันเรื่องของเราด้วยเช่นกันเพื่อให้ความสัมพันธ์ยังใกล้ชิดแน่นแฟ้นอยู่เสมอ และที่สำคัญอย่าทำแบบขอไปที และตั้งใจฟังเมื่อคนรักของคุณกำลังเล่าเรื่องราวต่างๆ ถ้าคุณสามารถพูดคุยได้นานกว่า 2-3 นาที คุณจะเริ่มอินกับเรื่องที่อีกฝ่ายเล่า และนี่เป็นช่วงเวลาที่คุณทั้งสองจะได้เพิ่มความใกล้ชิดระหว่างกันให้มากขึ้น

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

3. เข้านอนพร้อมกัน

คุณอาจจะเป็นนกฮูก ในขณะที่คู่ของคุณเป็นไก่ตัวแรกของวันแต่ถ้าคุณสามารถเอาชนะสัญชาตญาณกลางคืนของคุณได้ คุณทั้งสองคนจะใกล้ชิดกันมากขึ้น “ความใกล้ชิดและกายสัมผัสจะเกิดขึ้นได้ง่ายมากเมื่อคุณอยู่ด้วยกัน” โดอาเรสอธิบาย “แม้ว่าคุณยังไม่รู้สึกง่วงหรืออยากนอนในตอนนั้น แต่คุณสามารถใช้เวลาอย่างสงบร่วมกัน แล้วค่อยลุกขึ้นมาทำอะไรของคุณต่อหลังจากที่คู่ของคุณหลับไปแล้วก็ได้ การทำแบบนี้เป็นประจำจะทำให้คุณเคยชินกับการใกล้ชิดกันอยู่เสมอ แม้ในวันที่ทั้งคู่จะมีอารมณ์ไม่มั่นคงก็ตาม”

4. เช็คสภาพกันเป็นระยะ

“มันง่ายมากที่จะติดพันอยู่กับงานและภาระความรับผิดชอบทั้งหลายแหล่ที่ถาโถมเข้ามาในแต่ละวัน และทำให้คุณต้องวางความสัมพันธ์ส่วนตัวไว้เป็นเรื่องรองจนกว่าจะพอหาเวลาได้” โทนี โคลแมนกล่าว แต่การคอยเช็คสภาพกันเป็นระยะระหว่างวันนั้นก็ไม่ได้ยากไปกว่าการส่งอีเมล์ “คุณแค่สละเวลาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเพื่อส่งข้อความหาคู่รักของคุณ เพียงเพื่อบอกเขาว่าคุณคิดถึงเขาและรอเวลาที่จะได้เจอกันหลังเลิกงาน มันเป็นการแสดงความใกล้ชิด และยังเป็นเหมือนรั้วที่คอยป้องกันความไม่ซื่อสัตย์ทั้งทางกายและทางใจอีกด้วย” 

Photo by Candice Picard on Unsplash

5. บอก “รัก” ด้วยภาษาของคู่รัก

คุณอาจจะตอบสนองต่อการกระทำต่างๆ ที่คู่ของคุณทำให้ เช่น การที่สามีที่รักของคุณเอาขยะออกไปทิ้งให้นั้นเป็นเรื่องเซ็กซี่ที่สุดที่เขาจะสามารถทำให้คุณได้ แต่สิ่งที่คู่รักของคุณต้องการคือการได้ยินคำพูดที่ยืนยันว่าเขาเป็นที่รักของคุณจริงๆ เมื่อคู่ของคุณมองเห็นความรักที่คุณมีให้ได้อย่างชัดเจนแล้ว ความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่จะยิ่งแข็งแรงและแข็งแกร่งมากขึ้น “การบอกรักกันทุกวันนั้นจะทำให้ความสัมพันธ์มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ” โดอาเรสอธิบาย “ความรู้สึกเหล่านี้จะมีความหมายมากที่สุดเมื่อคุณแสดงออกในรูปแบบที่คู่รักของคุณรับรู้ได้จริงๆ”

ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ แค่ 5 กิจวัตรที่หากคุณทำได้เราการันตีค่ะว่า ความสัมพันธ์ในชิวิตคู่ของคุณจะดำเนินไปอย่างราบรื่นและหอมหวานไม่เสื่อมคลาย

อ่านบทความเพิ่มเติม

วางแผนให้เป๊ะตามนี้ พร้อมข้อควรรู้ก่อนคิดวางเงินเตรียมซื้อเรือนหอ

รู้ก่อนแก้ก่อน 7 เหตุสร้างความปั่นป่วนปัญหาเรื่องเงินที่คู่รักต้องระวัง

ภาพ : pexels.com

ความเชื่องานแต่งไทยของคนแต่ก่อน ผู้ที่มีคุณสมบัติแบบไหนต้องถือพานอะไร มาส่องกัน

การแต่งงานของแต่ละประเพณีทั่วโลกก็แตกต่างกันออกไป และล้วนมีสิ่งที่ยึดถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ ความเชื่องานแต่งไทย ที่แต่ละครอบครัวก็มีสิ่งที่ทำตามๆ กันมา และนี่คือความเชื่อเกี่ยวกับขบวนขันหมากในพิธีแต่งงานไทยที่ว่าด้วยเรื่อง ผู้ที่มีคุณสมบัติแบบไหนต้องถือพานอะไร และว่าที่เจ้าบ่าวต้องทำอะไรก่อนไปถึงบ้านเจ้าสาวหรือไม่ ซึ่งแพรวเวดดิ้งย่อมาไว้ให้เข้าใจง่ายตามนี้เลย

การจัดขบวนขันหมากจะต้องนำหน้าด้วยคนถือมัดอ้อยหรือหน่อกล้วย 1 คู่ ต่อด้วยเฒ่าแก่ (มาเป็นคู่สามี-ภรรยา) และเจ้าบ่าว บางบ้านอาจให้ถือพานใส่ธูปเทียนแพเพื่อเคารพญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงด้วย

จากนั้นตามด้วย ขบวนขันหมากเอก ซึ่งมักจะเป็นหญิงสาวสะสวยที่เกิดจากพ่อแม่แต่งงานกันถูกต้องตามประเพณี แต่งตัวด้วยชุดไทยเต็มยศ บางตำราบอกว่าหญิงที่ยกขันหมากเอกต้องเป็นสาวพรหมจรรย์ และ บางตำราบอกว่าให้เป็นหญิงที่ออกเรือนมีสามีแล้ว (อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อ และวิจารณญาณของแต่ละครอบครัวนะคะ) ทั้ง 4 คนจะยกเตียบทั้ง 4 ซึ่งเปรียบเป็นมเหสีของพระอินทร์

ส่วนขันหมากโท เป็นชายหรือหญิงก็ได แต่ห้ามเป็นหญิงหม้าย ส่วนกลองยาว แตรวง และการฟ้อนรำสนุกสนานนำขบวนแล้วแต่ทางเจ้าบ่าวจะจัดหามา แต่ไม่ระบุว่าต้องอยู่ในธรรมเนียม เพราะเป็นเพียงแค่การสร้างความคึกคักเพื่อให้บ้านเจ้าสาวรู้ว่า ขบวนขันหมากของเจ้าบ่าวกำลังจะมาถึงเท่านั้น

และก่อนที่จะเคลื่อนขบวนไปยังบ้านเจ้าสาว เจ้าบ่าวจะต้องไปจุดธูปเทียนไหว้ผีปู่ย่าตายายที่ล่วงลับ และกราบพ่อแม่ และญาติผู้ใหญ่เพื่อลาไปเข้าพิธีแต่งงาน และแยกเรือนไปอยู่กับฝ่ายหญิง เพราะธรรมเนียมไทยแต่ก่อน ฝ่ายชายจะต้องไปปลูกเรือนหอในที่ของฝ่ายหญิง เมื่อผู้ใหญ่ให้ศีลให้พร เจ้าบ่าวจึงเข้าร่วมขบวนเพื่อเดินหน้าไปยังบ้านเจ้าสาว เพื่อทำพิธีต่างๆ ตามธรรมเนียมไทยต่อไป

ปัจจุบันความเชื่อบางอย่างอาจจะถูกลดทอนลงไปบ้าง ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อและวิจารณญาณของแต่ละครอบครัวนะจ๊ะ ส่วนว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่ยังเริ่มต้นจัดงานแต่งงานไทยกันไม่ได้ ตามไปดู บทความเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานไทย ที่นี่ได้เลย!!

ภาพเปิด : งานแต่งคุณเอ๊บ & คุณก้อง ถ่ายโดย Box Wedding

7 ข้อเตือนใจระหว่างคู่รักที่ควรจะต้องทำหลังการทะเลาะกันจบลง

จริงอยู่ที่การ ทะเลาะกัน อาจไม่ใช่เรื่องที่แย่เสมอไป เพราะหากคุณสามารถปรับความเข้าใจกันได้ มันก็จะยิ่งช่วยให้คุณรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ดี หากช่วงนี้คุณกำลังมีปากเสียงกับคนรัก ให้ลองนำคำแนะนำข้างล่างนี้ไปปรับใช้ดู เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะช่วยรักษาความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ให้ผ่านวันแย่ๆ ไปได้อย่างแน่นอน

กระชับความสัมพันธ์คู่รัก ถึงแม้ ทะเลาะกัน แต่เราจะยังรักกันไม่เปลี่ยน

Photo by Gift Habeshaw on Unsplash

1. พักเบรคทางอารมณ์

การที่คุณกับแฟนกำลังอยู่ในช่วงอารมณ์ร้อน นั่นอาจทำให้คุณและเขาคุยกันไม่รู้เรื่องค่ะ ทั้งนี้การยุติศึกชั่วคราวแล้วให้ต่างฝ่ายไปสงบสติอารมณ์เสียก่อน จากนั้นค่อยกลับมาคุยกันใหม่ก็อาจช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ค่ะ

2. รับฟังความคิดเห็นอีกฝ่าย

การที่คุณมัวแต่จมปลักกับความเชื่อของตัวเองโดยไม่รับฟังคำอธิบายของคนรัก อาจทำให้เรื่องบานปลายและไม่มีข้อยุติค่ะ บางทีการให้โอกาสอีกฝ่ายได้พูดสิ่งที่เขาคิดหรือได้ชี้แจงความจริง ก็จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ค่ะ

Photo by cottonbro from Pexels

3. หลีกเลี่ยงการทำท่าทางไม่พอใจ

การแสดงสีหน้าหรือท่าทางว่าคุณกำลังโกรธจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายยิ่งกว่าเดิม ถ้าอยากเคลียร์ปัญหาให้จบไวๆ คุณทั้งคู่ควรใจเย็นและพูดจากันดีๆ โดยพยายามหลีกเลี่ยงการขึ้นเสียงหรือใช้กำลังค่ะ

4. อย่าขุดคุ้ยเรื่องในอดีต

ทุกครั้งที่คุณและคนรักมีปากเสียงกัน สิ่งที่คุณทั้งคู่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือการขุดเรื่องในอดีตมาพูดค่ะ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้อะไรๆดีขึ้นมาแล้ว มันก็ยังค่อยๆบั่นทอนความสัมพันธ์โดยที่คุณไม่รู้ตัว

5. อย่าพูดคำว่าหย่า หรือเลิก

เข้าใจว่าอารมณ์กำลังขึ้น แต่การพูดคำว่าหย่า หรือเลิก ในขณะที่คุณทั้งคู่กำลังอยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียวถือเป็นคำต้องห้ามเลยค่ะ เพราะมันเป็นเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะทำให้ความสัมพันธ์เปราะบางลงและนำไปสู่การเลิกราได้ในที่สุด

6. เป็นฝ่ายขอโทษก่อน

การเอ่ยคำว่าขอโทษโดยที่คุณไม่ได้เป็นฝ่ายผิด จะช่วยลดอารมณ์โกรธหรือขุ่นเคืองใจของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเหลือเชื่อ แม้ว่าอาจดูเหมือนไม่แฟร์แต่เชื่อเถอะค่ะว่าการจะมีชีวิตรักที่ยืนยาวได้นั้น บางทีอาจต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมถอยให้สักก้าวค่ะ

7. เยียวยาด้วยกอด

เป็นเรื่องปกติของชีวิตคู่ที่จะต้องมีปากเสียงกันบ้าง แต่หากมันเกิดบ่อยครั้งเกินไป ก็อาจทำให้ความรู้สึกดีๆค่อยๆเลือนหายไปด้วย ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ความสัมพันธ์สั่นคลอน คุณก็อย่าอายที่จะบอกรักหรือกอดหลังจากทะเลาะกันด้วยค่ะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

ข้อควรรู้ชีวิตหลังแต่งงาน ให้สามีภรรยาป้ายแดงสดใสเหมือนข้าวใหม่ปลามันทุกวัน

วางแผนชีวิตคู่ให้ปลอดภัย เพื่องานแต่งงาน บ้านใหม่ และเจ้าตัวเล็ก

cr : curejoy.com

3 ขั้นตอนอย่างง่ายสำหรับวางแผนทางการเงินของคนอยากมีคู่

เคล็ดลับ วางแผนทางการเงิน อย่างง่ายสำหรับคนอยากมีคู่

เมื่อคิดจะมีคู่ สิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยคือค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะต้องใช้ในการแต่งงาน ใครที่กำลังมีแผนแต่งงาน ลองสำรวจความพร้อมก่อนแต่งงานว่าเราได้เตรียมวางแผนรับมือกับสิ่งเหล่านี้แล้วหรือยัง วันนี้ แพรว wedding นำคำแนะนำดีๆจากผู้เชี่ยวชาญด้านการ วางแผนทางการเงิน จากไทยพาณิชย์ประกันชีวิตมาแชร์กัน 3 ข้อง่ายๆ มาสละเวลาทำความเข้าใจเพื่อเริ่มต้นบทใหม่แห่งการมีชีวิตคู่อย่างปลอดภัย และยั่งยืนกันเถอะค่ะ

 

ประเมินค่าสินสอดทองหมั้น

ประตูด่านแรกของชีวิตคู่คือสินสอดทองหมั้น เพื่อแทนคำสัญญาของฝ่ายชาย ที่ให้แก่ฝ่ายหญิงและพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเป็นการตอบแทนที่อนุญาตให้ฝ่ายหญิงสมรส ดังนั้นทั้งสองฝ่ายควรตกลงค่าใช้จ่ายส่วนนี้ให้ชัดเจน ตั้งแต่ขั้นต้นของการวางแผน แล้วจึงวางแผนการออมต่อไป

ประเมินค่าใช้จ่ายในการจัดงาน

งบประมาณส่วนนี้ไม่ควรเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อปี

ค่าใช้จ่ายในการจัดงานแต่งงาน เช่น ค่าดูฤกษ์แต่งงาน ค่าถ่ายรูป Pre-wedding ค่าการ์ดแต่งงาน ค่าของชำร่วยงานหมั้นและงานแต่ง ค่าชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวในงานหมั้นและงานแต่ง ค่าแต่งหน้าทำผมค่าเช่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าวงดนตรี ค่าถ่ายรูปและวีดีโอในงาน เห็นรายการจำนวนมากอย่างนี้คนจะมีคู่อย่าเพิ่งท้อ ควรลงมือจดรายการและประเมินค่าใช้จ่ายต่างๆเหล่านี้ให้ละเอียด สิ่งที่สำคัญคือควรตั้งงบประมาณ โดยพื้นฐานจากการประเมินรายได้ของตนเองเพื่อจะได้ไม่เสียค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยมากเกินไป

ประเมินค่าเรือนหอ

อัตราการผ่อนชำระหนี้สินบ้านไม่ควรจะเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ และไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านที่ แพงมากกว่า 3 เท่าของรายได้ต่อปี

สำหรับคนที่เตรียมพร้อมตรงนี้ไว้แล้วก็หายห่วง หรือบางคนที่ไม่ต้องการจะแยกออกมาอยู่ต่างหากงบ ประมาณตรงนี้ก็สบายใจได้ แต่สำหรับคนที่คิดจะสร้างครอบครัวใหม่และคิดที่จะมีเรือนหอส่วนตัวในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ควรจะตั้งงบประมาณของเรือนหอที่เหมาะสม นกน้อยทำรังแต่พอตัว ไม่เช่นนั้นอาจจะกลายเป็นการแต่งงานกับหนี้ก้อนโตแทน จนอาจจะมีหนี้ไปตลอดชิวิตคู่ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นมา >> างแผนให้เป๊ะตามนี้ พร้อมข้อควรรู้ก่อนคิดวางเงินเตรียมซื้อเรือนหอ << คลิกเลย

cr : scblifea a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

4 ชนิดดอกไม้ในงานแต่งยอดฮิตใช้ได้ทุกฤดู ประหยัดงบแน่แค่เลือกเป็น

แพรว wedding สรุปมาให้กับ ดอกไม้ในงานแต่ง ยอดฮิตที่ไม่ว่าคุณจะไปร่วมงานแต่งงานในฤดูกาลไหน ก็มีดอกไม้เหล่านี้ให้เห็น ซึ่งข้อดีของดอกไม้ที่เรานำมาฝากนี้มีมากกว่าที่คิด เพราะในหนึ่งชนิดมีหลายสายพันธุ์ ฉะนั้นเวลาจะเลือกใช้ก็ไม่ยาก แค่เลือกให้ตรงกันกับช่วงเวลาที่ออกดอกของพันธุ์นั้นก็พอ ดังนั้นเมื่อกำหนดวันแต่งงานได้เรียบร้อยแล้ว ก็ลองดูว่าในช่วงเวลานั้นจะมีดอกไม้อะไรออกมาบ้าง วิธีการนี้จะทำให้คุณมีดอกไม้ในปริมาณที่เพียงพอเพราะหาได้ง่ายตามท้องตลาด และที่สำคัญคือราคาที่สบายกระเป๋าขึ้นอีกเป็นกอง หรือจะลองเลือกดูจาก >> ดอกไม้ 12 เดือน เพื่อวันแต่งงาน 1 วันของคุณ << รับรองว่าต้องมีสักชนิดที่สะกิดใจคุณได้แน่นอน

สุดฮิตชนิดที่ 1 : ดอกกุหลาบ เป็นดอกไม้ที่สามารถเลือกใช้ได้ตลอดทั้งปี แต่หากคุณแต่งงานในช่วงวันวาเลนไทน์ล่ะก็ ราคาของดอกกุหลาบจะแพงโหดมาก หากแต่งงานในช่วงนี้อาจจะหลีกเลี่ยงการใช้ดอกกุหลาบไปก่อน แล้วลองดูพวกดอกเยอบีร่า คาร์เนชั่น ดอกยิปโซ ดอกบัว หรือหน้าวัวที่มีราคาน่าคบหาแถมยังหาได้ตลอดทั้งปีด้วยนะคะ

สุดฮิตชนิดที่ 2 : ดอกไฮเดรนเยียร์ ที่มีแพร่หลายในประเทศไทยนั้นออกดอกทั้งปี แต่จะสวยงามและออกดอกมากที่สุดในช่วงหน้าร้อนถึงช่วงต้น ฤดูฝน เพราะเมื่อเริ่มเข้าสู่หน้าหนาวดอกจะเริ่มแคระแกรนไม่เหมาะแก่การใช้งานแล้วค่า

สุดฮิตชนิดที่ 3 : กล้วยไม้ เป็นดอกไม้ที่หาง่ายในบ้านเราและมีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือก ความสวยงามก็จะแตกต่างกันไป ทั้งนี้กล้วยไม้อาจจะสามารถหาได้ง่ายก็จริง แต่ดอกจะสวยและออกสู่ตลาดในปริมาณมากๆ พร้อมกับราคาถูกสุดๆ ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นนะคะ

สุดฮิตชนิดที่ 4 : ดอกลิลลี่ ปัจจุบันเมืองไทยเราปลูกดอกลิลลี่กันแพร่หลายมากที่ภาคเหนือ และจะออกดอกมากตั้งแต่เดือนสิงหาคมไปจนถึงช่วงฤดูหนาวของทุกปี ใครหลงรักลิลลี่ห้ามพลาดเชียว

เป็นยังไงกันบ้างคะ แต่ละชนิด สวยงามอย่างที่หวังทั้งนั้นใช่ไหมล่ะ

ฟิตหุ่นให้ทันวันวิวาห์ด้วย 10 ของว่างมีคุณค่าแต่ไม่เพิ่มน้ำหนัก

ลดน้ำหนัก หรือ ฟิตหุ่น เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าสาวหลายคนให้ความสำคัญมาก แต่ก็เป็นเรื่องยากที่หลายคนจะสามารถทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้เช้นกัน ก็เวลาเดินผ่านตู้ขนมทีไรตัวมันก็จะเซๆ ไปจนนิ้วเผลอจะจิ้มเลือกออเดอร์ทุกที แพรว wedding เลยขอสกัดความโหยของคุณเจ้าสาวด้วย 10 ของว่างแสนอร่อยที่ช่วยเพิ่มพลังงานแต่น้ำหนักไม่เพิ่มตามมาฝาก ไปดูกันดีกว่า 10 เมนูนี้จะมีเมนูไหนที่มีของโปรดของคุณกันบ้าง 

1. กรีกโยเกิร์ตและมิกซ์เบอร์รี่

เป็นการควบรวมของว่างที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ เพราะกรีกโยเกิร์ต นั้นให้โปรตีนสูงแต่มีไขมันต่ำจึงเหมาะกับการไดเอตเป็นที่สุด และยังมีแคลเซียมและโพแทสเซียมอีกด้วย ส่วนผลเบอร์รี่นั้นก็เป็นแหล่งอาหารชั้นดีที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระแถมยังหาซื้อง่ายไม่ลำบากอย่างที่คิด เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่ให้ความฟิตไปพร้อมๆ กับผิวที่มีสุขภาพดีกันเลยทีเดียว

ผสมเบอร์รี่ต่างๆ ลงในกรีกโยเกิร์ตประมาณ 3.5 ออนซ์ จะให้โปรตีนประมาณ 10 กรัม และให้พลังงานต่ำกว่า 150 แคลอรี่

2. แอปเปิ้ลและเนยถั่ว

ถึงแม้แว้บแรกอาจจะรู้สึกว่ามันจะเข้ากันเหรอ! แต่เชื่อเถอะว่ารสชาติดีกว่าที่คุณคิด แอปเปิ้ลถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 สำหรับอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใยอาหาร ส่วนเนยถั่วนั้น ถึงแม้จะให้แคลิรี่ในปริมาณที่สูงสักนิดแต่กลับเต็มไปด้วยเส้นใยและโปรตีน ที่จะช่วยเพิ่มพลังงานทำให้คุณอิ่มได้นานขึ้น ไม่หิวบ่อยๆ ยังไงล่ะคะ

แอปเปิ้ล 1 ลูกนำมาสไลด์ให้เป็นชิ้นพอดีคำ ทานคู่กับเนยถั่ว 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานน้อยกว่า 200 แคลอรี่

3. ก้านเซเลอรี่กับครีมชีส

เป็นของว่างที่เหมาะกับการไอเดตเป็นที่สุดเพราะมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่ต่ำมาก เซเลอรี่นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ, วิตามินต่างๆ และเส้นใยอาหารที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยในการย่อยอาหารและลดน้ำหนัก ส่วนการเพิ่มครีมชีสในปริมาณเล็กน้อย ก็เพื่อทำให้อาหารที่มีกลิ่นแรกและทานยากนี้ดูน่ารับประทานและช่วยเพิ่มรสชาติมากขึ้น

ก้านเซเลอรี่ 5-10 ก้าน ทานคู่กับครีมชีสปริมาณ 2 ออนซ์ ให้พลังงานน้อยกว่า 200 แคลอรี่

4. ไข่ต้มสุก

อีกหนึ่งของว่างที่เป็นมิตรกับคนที่กำลังลดน้ำหนัก และเราเชื่อว่าทุกบ้านต้องมีไข่ติดไว้ในตู้เย็น และหากใครที่รู้สึกว่ากินเฉพาะไข่อย่างเดียวจะดูฝืดๆ หนืดๆ คอไปหรือเปล่า ก็สามารถนำไข่ต้มไปผสมในสลัดผักปวยเล้งที่อุดมไปด้วยโปรตีนก็ยังได้ เพราะไข่จะช่วยให้อาหารสลัดผักมื้อนั้นอยู่ท้องได้นานขึ้น ทำให้ช่วยลดความอยากอาหารหรืออยากทานจุบจิบ แถมไข่ยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารชั้นเยี่ยมอีกต่างหาก

ฟิตหุ่น

ไข่ต้ม 2 ฟองให้พลังงานประมาณ 140 แคลอรี่ และให้โปรตีนประมาณ 13 กรัม

ทานของวางคู่กับเมนูเครื่องดื่มสูตรเฮลท์ตี้ตามนี้ >> 4 วัตถุดิบสำคัญ สมูทตี้ไม่อ้วน เพื่อเจ้าสาวจะปั่นเมนูไหนรับรองอร่อยชัวร์

5. โอ๊ตมีลกับเนยอัลมอนด์

ข้าวโอ๊ตเป็นอาหารที่ทำให้อยู่ท้องและมีเส้นใยสูง และหากนำไปผสมเข้ากับเนยอัลมอนด์ที่มีไขมันประเภท monounsaturated และ polyunsaturated ที่ช่วยลดคอเรสเตอรอลและมีสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ควรเลือกข้าวโอ๊ตที่ไม่มีการปรุงแต่งรสหรือเติมน้ำตาลหรือสารให้ความหวานลงไป แต่หากคุณอยากเพิ่มความหวานสักนิดแนะนำให้โรยผงชินนามอนลงไปแทน รับรองว่านอกจากจะหวานแล้วยังได้กลิ่นหอมน่ารับประทานอีกด้วย

ฟิตหุ่น

ข้าวโอ๊ตครึ่งชามผสมกับเนยอัลมอนด์ 1 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงานน้อยกว่า 250 แคลอรี่

6. ชีสหั่นเป็นชิ้น

งงล่ะสิว่าชีสสามารถนำมาทานเป็นของว่างได้ด้วยเหรอ เรายืนยันว่าได้! เพราะชีสอุดมไปด้วยโปรตีนที่ดี แต่ต้องรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะนะตะไม่อย่างนั้นจากให้คุณจะกลายเป็นให้โทษได้ ถึงแม้ว่าชีสนั้นจะไม่มีไขมันที่ดีสักเท่าไหร่ แต่จากผลการวิจัยพบว่าการกินชีสปริมาณเล็กน้อยต่อวันจะไม่ทำให้เกิดผลเสียกับร่างกายหรือระดับคอลเรสเตอรอลแต่อย่างใด

ชีสปริมาณ 2 ออนซ์ ให้พลังงาน 200 แคลอรี่ และให้โปรตีน 14 กรัม

7. บลูเบอร์รี่บานาน่าสมูทตี้

เมนูสมูทตี้เป็นเครื่องดื่มที่ดีที่จะช่วยให้คุณอิ่มก่อนที่จะทานมื้ออาหารต่อไป (แต่ต้องเป็นสมูทตี้เพื่อสุขภาพด้วยนะจ๊ะ) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่จะทานควบคู่ไปกับการลดน้ำหนัก เพราะจะได้ไม่ทำให้คุณฟาดอาหารมื้อหนักแบบไม่รู้ตัว หรือคุณจะนำผลไม้หรือผักสดต่างๆ ที่คุณชื่นชอบมาครีเอตเป็นเมนูเครื่องดื่มประจำวันของคุณเองก็ได้ เพราะในผักและผลไม้นั้นอุดมไปด้วยวิตามินและโปรตีนที่ร่างกายต้องการอยู่แล้ว

ฟิตหุ่น

บลูเบอร์รี่, กล้วย และกรีกโยเกิร์ต นำมาปั่นรวมกันเป็นเครื่องดื่มลดน้ำหนักชั้นดีให้พลังงานประมาณ 210 แคลอรี่

8. ดาร์กช็อกโกแลตและอัลมอนด์

เป็นของหวานที่ให้รสชาติหวานๆ มันๆ ที่สนองความโหยของหวานของคนที่กำลังลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เพราะดาร์กช็อกโกแลตนั้นมีไฟเบอร์และแร่ธาตุต่างๆ ผสมกันอยู่เป็นจำนวนมาก และหากนำไปผสมกับอัลมอนด์ 1 กำมือก็จะกลายเป็นของหวานที่ให้พลังงานและไขมันชั้นดี เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์และโปรตีนที่จะช่วยให้คุณอิ่มได้นาน ลดความอยากอาหารก่อนที่จะถึงมื้อหลักได้เป็นอย่างดี

ดาร์กช็อกโกแลต 1 ออนซ์ และอัลมอนด์ 1 ออนซ์ ให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่

9. ถั่วแระญี่ปุ่น

เป็นของว่างที่ปราศจากน้ำตาลและอุมดมไปด้วยโปรตีน ถั่วแระญี่ปุ่น 1 ถ้วยสามารถให้แคลเซียมได้ถึง 10% ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ ถือเป็นอีกหนึ่งของว่างที่ดีระหว่างวันที่นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย

ฟิตหุ่น

ถั่วแระญี่ปุ่น 1 ถ้วยให้โปรตีน 17 กรัม และให้พลังงาน 180 แคลอรี่

10. อกไก่และอะโวคาโด

อีกหนึ่งเมนูที่อุดมไปด้วยโปรตีนและปราศจากคาร์โบไฮเดรตโดยสิ้นเชิง โดยสไสล์อะโวคาโดให้บางแล้วนำไปพันกับเนื้อไก่ เท่านี้ก็ได้ของว่างแสนอร่อยแถมยังไม่เพิ่มน้ำหนักอีกด้วย ของว่างชนิดนี้อุดมไปด้วยไฟเบอร์และวิตามิน รับรองว่าจะเป็นอีกหนึ่งเมนูของว่างที่คุณจะทานได้ไม่มีเบื่อเลย

ฟิตหุ่น

เนื้อไก่ 4 ชิ้นและอะโวคาโดสไลด์บาง ให้พลังงานประมาณ 350 แคลอรี่

ลดน้ำหนัก ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ยังไงก็อย่าลืมออกกำลังกายและควบคุมอาหารในมื้ออื่นๆ เสริมไปด้วยนะคะ รับรองว่าหุ่นเป๊ะฟิตแอนด์เฟิร์มแน่นอน

ภาพ : livelearnloveeat.com, www.marthastewart.com, cookingmama.wikia.com, www.pbfingers.com, goldenagecheese.com, www.archanaskitchen.com, www.mysequinedlife.com, wonkywonderful.com

ว่าที่สามี-ภรรยาทั้งหลายเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปจดทะเบียนสมรสตามนี้

การจัดงานแต่งสวยๆ อลังการเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของชีวิตคู่ที่คุณและคนรักจะได้เฉลิมฉลองและประกาศให้คนรอบตัวรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่ในสถานะโสดอีกต่อไป แต่! ถ้าจะให้พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าคุณและคนรักเป็นของกันและกัน เป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมาย การ จดทะเบียนสมรส ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ไม่ควรจะมองข้ามเด็ดขาด

แต่ช้าก่อน! ถ้าคุณคิดว่าการ จดทะเบียนสมรส นั้นทำได้ง่ายๆ แค่เดินไปอำเภอก็จดได้ ขอบอกว่าคิดผิดไปสักหน่อยนะจ๊ะ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การจรดปลายปากกาลงบนกระดาษ แต่คุณก็ต้องเตรียมตัว และเตรียมเอกสารให้พร้อม เวลาไปอำเภอจะได้ไม่เสียเที่ยวนะ แต่ไอ้เจ้าเอกสารที่ว่านั้นมีอะไรที่ต้องเตรียมบ้าง แพรว wedding จะชี้แจ้งให้ฟังจ้า

ส่วนคู่ไหนที่อยากแต่งปุ๊ปจดปั๊ปในวันแต่งงาน คลิกเลย >> จดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ บริการดีๆ ที่รัฐเขามีไว้ให้

คุณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรส

เริ่มที่คุณสมบัติของผู้ที่จะจดทะเบียนสมรสก่อน แน่นอนว่าสิ่งที่จะต้องมีอยู่ด้วยกันทั้งคู่ก็คือ “ความรัก” (ฮิ้วววว!) แต่นอกจากความรักแล้ว ฮีบินอยากให้คุณสำรวจตัวเองด้วยว่ามีคุณสมบัติเหล่านี้พร้อมหรือไม่ เริ่ม!

  1. จะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ แต่ถ้ายังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องมีบิดา มารดา หรือผู้ปกครองมาให้ความยินยอมด้วย ส่วนสาวๆ หนุ่มๆ คนไหนที่มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์แล้ว สามารถทำการจดทะเบียนสมรสได้ด้วยตัวเอง ส่วนสาวน้อยหนุ่มน้อยคนไหนที่อายุไม่ถึง 17 ปีบริบูรณ์ แต่อยากจะสมรสสมรักจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมาย จะต้องได้รับอนุญาตจากศาลซะก่อน
  2. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต หรือไร้ความสามารถ
  3. ไม่เป็นพี่น้องร่วมบิดามารดา หรือร่วมแต่บิดามารดา (ที่เขาเรียกว่าลูกติดพ่อ ลูกติดแม่นั่นแหละ)
  4. ไม่เป็นคู่สมรสของบุคคลอื่น (ผิดศีลธรรมและผิดกฎหมายด้วยนะ)
  5. ผู้รับบุตรบุญธรรมจะสมรสกับบุตรบุญธรรมไม่ได้ (พ่อหรือแม่บุญธรรมจะจดทะเบียนกับลูกบุญธรรมไม่ได้นะจ๊ะ)

หมายเหตุ : กรณีผู้ร้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ (20 ปีบริบูรณ์) บิดา มารดา หรือผู้ใช้อำนาจปกครองจะต้องให้ความยินยอมด้วยตนเอง หากไม่สามารถมาด้วยตนเองได้ให้ใช้หนังสือให้ความยินยอมเป็นหลักฐาน

หมายเหตุ : สำหรับผู้หญิงที่เคยจดทะเบียนสมรสมาก่อน (หญิงหม้าย) ถ้าจะจดทะเบียนกับชายคนเดิม (สามีคนเดิม) สามารถจดได้เลย แต่! ถ้าจะจดกับชายคนใหม่จะต้อง เว้นระยะเวลาจากการหย่าครั้งล่าสุดอย่างน้อย 310 วัน เว้นแต่
(1) คลอดบุตรแล้วในระหว่างนั้น
(2) สมรสกับคู่สมรสเดิม
(3) มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
(4) ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้
(5) ชายหญิงที่มีอายุไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์ที่ศาลอนุญาตให้สมรสได้

ส่วนผู้ชายถ้าหย่าแล้วสามารถจดทะเบียนใหม่กับหญิงคนใหม่ได้เลยไม่ต้องรอ เพราะผู้ชายท้องไม่ได้จ้า

ภาพจาก : Vin Buddy’s Wedding
ภาพจาก : Vin Buddy’s Wedding

เอกสารสำคัญที่ต้องเตรียมไปจดทะเบียนสมรส

  1. บัตรประชาชนตัวจริงของชายหญิง (บัตรที่ยังไม่หมดอายุ) หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้
  2. ทะเบียนบ้านตัวจริงของชายหญิง (ถ่ายสำเนาไปเผื่อด้วยก็ดีนะ)
  3. พยาน 2 คน (พร้อมบัตรประชาชนของพยานด้วย) อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์
  4. ใครที่เคยหย่ามาก่อนต้องเอาหลักฐานการหย่ามาด้วย
  5. กรณีคู่สมรสเสียชีวิตคนก่อน ให้ใช้หลักฐานการตาย เช่น ใบมรณะบัตร
  6. สูจิบัตรและทะเบียนบ้านของบุตร (หากมีบุตรที่เกิดก่อนจะมาจดทะเบียนสมรส)
  7. แบบฟอร์ม “คร.1” (ไปเอาที่อำเภอก็ได้)

หมายเหตุ : ใครจะจดทะเบียนสมรสกับคนรักที่เป็นชาวต่างชาติต้องมี สำเนาหนังสือเดินทาง (Passport) และ หนังสือรับรองสถานภาพบุคคลจากสถานทูต หรือสถานกงสุล หรือองค์การของรัฐบาลประเทศนั้นมอบหมาย พร้อมคำแปล (ที่มีการรับรองว่าแปลถูกต้อง) มาด้วย

เปลี่ยนคำนำหน้า เปลี่ยนนามสกุล

แถมให้อีกนิดสำหรับฝ่ายหญิงที่คิดจะเปลี่ยนคำนำหน้าจาก “นางสาว” เป็น “นาง” หรือเปลี่ยนไปใช้ “นามสกุลสามี” (สมัยนี้จะไม่เปลี่ยนก็ได้นะ กฎหมายเขาให้เลือกได้จ้า) หลังจากจดทะเบียนสมรสและทำการเปลี่ยนคำนำหน้าและเปลี่ยนนามสกุลเสร็จแล้ว เอกสารที่คุณจะต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีก็คือ “หนังสือสำคัญการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อสกุล (ช.๕)” เพราะมันจะต้องใช้ในการเปลี่ยนชื่อสกุลของคุณกับเอกสารอื่นๆ ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น หนังสือเดินทาง บัตรเดบิต บัตรเครดิต บัญชีธนาคาร ฯลฯ (ถ้าเจ้าหน้าที่ลืมให้ ช.๕ ต้องรีบทวง!)

การจดทะเบียนสมรสจริงๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยากหรอกนะคะ แต่ก็ใช่ว่านึกจะจดก็เดินไปอำเภอแล้วจะทำได้เลยทันที ของแบบนี้ต้องเตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้พร้อมซะก่อน พอถึงฤกษ์ดีจรดปากกาจะได้ไม่ต้องหันรีหันขวางหาเอกสารจนเลยฤกษ์ยามที่กำหนดไว้

การจดทะเบียนสมรสแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ ไปจดที่อำเภอกับจดนอกอำเภอ ซึ่งในแต่ละแบบจะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. จดทะเบียนที่อำเภอ

การจดทะเบียนที่อำเภอถือเป็นวิธีที่สะดวกและง่ายมากๆ เพียงแค่คุณเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบพร้อมกรอกรายละเอียดแบบใบคำร้องฯ (คร.1) ให้ครบ พร้อมพยานบุคคลอีก 2 คน ก็สามารถเดินทางไปห้องทะเบียน ในที่ว่าการอำเภอเพื่อติดต่อและยื่นเอกสารคำร้องฯ แก่นายทะเบียนได้แล้ว โดยสามารถยื่นคำร้องขอจดทะเบียนได้ทุกแห่ง โดยไม่ต้องคำนึงถึงภูมิลำเนาของคู่สมรส หรือหากบ้านใครไม่ได้อยู่ในเขตอำเภอ ก็สามารถไปจดได้ที่กิ่งอำเภอหรือสำนักงานเขตใกล้บ้านก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องยึดที่อยู่ตามภูมิลำเนา

แต่หากคู่สมรสของคุณยังไม่บรรลุนิติภาวะแล้วละก็ จะต้องให้บิดา-มารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบธรรมมาเซ็นต์แสดงความยินยอมด้วย และถ้าหากคู่สมรสเป็นบุคคลต่างด้าว จะต้องใช้หนังสือรับรองสถานภาพบุคคลจากสถานกงสุลหรือสถานฑูตที่ตนสังกัด พร้อมแปลเป็นภาษาไทยและมีคำรับรองการแปล มายื่นพร้อมคำร้องฯ ต่อนายทะเบียน ณ ที่ว่าการอำเภอ กิ่งอำเภอ หรือสำนักงานเขต

เมื่อเรายื่นเอกสารหลักฐานและใบคำร้องฯ เรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าจะทำการาตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ยื่นคำร้องทั้งสองฝ่ายก่อนที่จะใบทะเบียนสมรสและใบสำคัญการสมรส ซึ่งในขั้นตอนี้หากคู่รักมีความประสงค์จะให้บันทึกข้อตกลงเรื่องทรัพย์สินหรือเรื่องอื่นๆ ก็สามารถแจ้งนายทะเบียนให้รับทราบได้ และที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้ถี่ถ้วน เพราะหากมีการพิมพ์ออกมาแล้วจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลได้อีก

สุดท้ายหากไม่มีการแก้ไขอะไรแล้ว ทางนายทะเบียนก็จะพิมพ์ตัวทะเบียนสมรสและใบสำคัญการสมรสเพื่อให้ผู้ร้อง ผู้ให้ความยินยอม และพยานเซ็นต์ชื่อลงในทะเบียนสมรส สำหรับในสำคัญการสมรสนายทะเบียนจะเป็นคนเซ็นต์เอง พร้อมยื่นทะเบียนสมรสให้กับคู่สมรสคนละ 1 ฉบับ เป็นอันเสร็จสมบูรณ์

2. จดทะเบียนสมรสนอกที่ว่าการอำเภอ

หากบ่าวสาวคู่ไหนที่อยากได้ภาพบรรยากาศการจดทะเบียนสมรสสวยๆ สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ให้นำเอกสารไปจดทะเบียนฯ ภายในงานได้ เพียงแต่จะต้องไปติดต่อที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่โรงแรมนั้นๆ ตั้งอยู่ รวมถึงจะต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนวันงานอย่างน้อย 7 วัน เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะได้จัดคิวไปงานของเราได้ถูก

สำหรับเอกสารที่จะต้องนำไปติดต่อ จะต้องเตรียมสำเนาบัตรประชาชนของคู่บ่าว-สาว สำเนาทะเบียนบ้านของคู่บ่าว-สาว รวมถึงสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของพยาน 2 คน โดยพยานทั้ง 2 คนจะต้องเป็นผู้ที่มาร่วมงานในวันงานด้วย

ซึ่งรายละเอียดในการทำก็เหมือนกับขั้นตอนของการจดทะเบียนที่อำเภอเกือบทุกขั้นตอน ต่างกันเพียงแค่ขั้นตอนของการเซ็นต์ชื่อรับเอกสารเท่านั้น

ค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขข้อตกลง

การจดทะเบียนสมรส ณ สำนักทะเบียนที่จดไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่ถ้าหากจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียนต้องเสียค่าธรรมเนียน 200 บาท พร้อมทั้งต้องจัดยานพาหนะรับ – ส่งนายทะเบียนด้วย และการจดทะเบียนสมรสนอกสำนักทะเบียนในท้องที่ห่างไกลจะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียม 1 บาท

นี่คือขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสทั้ง 2 แบบ สำหรับบ่าว-สาวที่ไม่เคนผ่านการจดทะเบียนสมรสมาก่อน เพราะถ้าหากเป็นหญิงหม้ายเคยผ่านการจดทะเบียนมาแล้ว จะต้องมีการตรวจสอบหลักฐานการหย่าและหากคู่สมรสตายจะต้องมีหลักฐานการตายมาแสดง รวมถึงจะต้องรอให้การสมรสครั้งก่อนสิ้นสุดไปแล้วไม่น้อยกว่า 310 วัน ถึงจะสมรสใหม่ได้ เว้นเสียแต่

  • มีการคลอดบุตรไปแล้วในระหว่างที่รอ
  • สมรสกับคู่สมรสเดิม
  • มีใบรับรองแพทย์ว่าไม่ได้ตั้งครรภ์
  • ศาลมีคำสั่งให้สมรสได้

ทั้งหมดนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับการจดทะเบียนสมรสทั้งหมดที่คู่รักมือควรทราบ เพื่อที่เวลาไปจดจะได้ทำอย่างถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาดนะจ๊ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.bora.dopa.go.th

ภาพเปิด : งานแต่งงานคุณจุ๋มและคุณเป้ โดย SmallmoonPhoto (www.smallmoonphoto.com)
ภาพงานแต่งคุณกุ๊บกิ๊บ-คุณบี้จาก : Vin Buddy’s Wedding โทร. 08-1199-1119

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 กุญแจสำคัญทำธุรกิจกับแฟนอย่างไรไม่ให้แตกหักรักต้องร้าว

4 เรื่องเล็กน้อยแต่สำคัญมากสำหรับใช้ชีวิตคู่สู่ความรักที่ยืนยาว

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/59596

น้อยแต่มากด้วยมงคล! กับข้าวตอก ดอกไม้ ถั่ว และงา ของสำคัญในงานแต่งไทย

ของที่ต้องใช้ใน งานแต่งไทย นั้นมีมากมายหลายอย่าง และแต่ละอย่างก็ล้วนแฝงความหมายอันเป็นมงคลไว้ทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั่งข้าวตอก ดอกไม้ ถั่ว และงา สิ่งของเล็กๆ น้อยๆ เพียงไม่กี่หยิบมือ แต่กลับให้ความหมายที่มีพลังมหาศาล 

ข้าวตอก – ธัญพืชเมล็ดสีขาวที่เกิดจากการนำเมล็ดข้าวเปลือกไปคั่วจนแตกพองออกมาเป็นสีขาว เปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้ความรักของบ่าวสาวเบ่งบานเช่นเดียวกับข้าวตอก

งานแต่งไทย

ดอกไม้ – กลีบดอกไม้มงคลที่มักจะนำมาใช้โรยสินสอด ได้แก่ ดอกรัก ดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบ และดอกบานไม่รู้โรย โดยเปรียบเสมือนการอวยพรให้บ่าวสาวครองรักกันมั่นคง ยืนยาว และให้ชีวิตครอบครัวมีความสุข เจริญรุ่งเรือง

ถั่ว งา – เป็นธัญพืชที่เติบโตง่าย เพราะฉะนั้นการโปรยถั่วและงาลงบนสินสอด เปรียบเสมือนเป็นการอวยพรให้สิ่งของมีค่าเหล่านั้นงอกงาม เพิ่มพูน หรือหากว่าทำการค้าใดๆ ก็ให้เจริญรุ่งเรืองด้วยดี

รู้อย่างนี้แล้วก็รีบเตรียมมาไว้กันด่วนๆ นะคะ จะได้ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตคู่

สาระหน้ารู้เกี่ยวกับข้าวตอกดอกไม้ยังมีอีกเพียบ
>> ตีแผ่ให้รู้จะได้เตรียมถูก ‘ข้าวตอกดอกไม้’ ในงานแต่งไทย
>> ข้าวตอก-ดอกไม้-ถั่วงา ของหาง่ายในพิธีแต่งงานที่ต้องพิถีพิถันในการซื้อ

ภาพข้าวตอก : www.jatiewpainai.coma a a

รวม เทคนิคคลายร้อน ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ทำตามได้ไม่ยาก

เทคนิคคลายร้อน ในงานแต่งแบบเอ้าท์ดอร์ เย็นชื่นใจทั้งบ่าวสาวและแขก

หากใครอยากจะจัดงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์อาจจะคิดหนักกันเสียหน่อย ยิ่งถ้าหากจัดในช่วงซัมเมอร์ที่ร้อนจนทอดไข่ดาวสุกด้วยแล้วล่ะก็ อาจจะแยกไปออกว่าอยู่ในงานแต่งหรืองานสงกรานต์ แต่ถ้าวางแผนเอาไว้แล้วว่ายังไงก็ต้องจัดแบบเอ้าท์ดอร์ให้ได้ ก็ไม่ต้องเครียดไปนะจ๊ะ เพราะทุกปัญหามีทางออก แพรว wedding เลยนำ เทคนิคคลายร้อน ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์มาฝาก ที่ทำตามได้แบบไม่ยากเลย แถมไม่ต้องเล่นใหญ่ไฟกระพริบก็สามารถทำให้แขกในงานเย็นได้ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มกิมมิคให้งานน่าสนใจอีกด้วยน้า มาดูกันเลยดีกว่า ว่ามีวิธีใดบ้าง

1. พัด

ไอเทมง่ายๆ ที่ราคาไม่สูง บ่าวสาวสามารถแจกพัดให้กับแขกในงานได้ ถ้าใครร้อนก็สามารถพัดเองได้เลย ระดับความเย็นขึ้นอยู่กับตัวเองว่าจะพัดแรงขนาดไหน ขอบอกเลยว่าพัดนั้น สามารถเพิ่มไอเดียความน่ารักกุ๊กกิ๊กได้เยอะมากนะจ๊ะ ไม่ว่าจะเลือกเป็นพัดไม้ที่มีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย หรือพัดจักรสานของคนไทยก็เก๋ แต่ถ้าอยากให้เป็นไอเดียเฉพาะงานแต่งบ่าวสาวเท่านั้นก็สามารถสั่งทำพัดเป็นโลโก้งานแต่งงานขึ้นมา แจกแก้ร้อนแถมยังเป็นของชำร่วยได้อีกน้า

เทคนิคคลายร้อน

2. เครื่องดื่มคลายร้อน

สิ่งที่ดับร้อนที่ดีที่สุดคือน้ำเย็นๆ ในแก้วน้ำแข็ง จะเป็นน้ำเปล่า น้ำผลไม้ น้ำอัดลม น้ำสมุนไพร หรือม็อคเทลก็แล้วแต่สะดวก เพราะถ้าเสิร์ฟมาคูลๆ แล้วล่ะก็ยังไงก็คลายร้อนได้แน่ๆ ยิ่งถ้าหากมีรสหวานหน่อยๆ ก็จะยิ่งช่วยดับกระหายได้อย่างดีเยี่ยมไปอีก หรือบ่าวสาวอาจลองหาน้ำสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการดับกระหายมาลองเสิร์ฟดูก็ได้นะจ๊ะ ทั้งชื่นใจทั้งดีต่อสุขภาพด้วย

> เครื่องดื่มในงานแต่ง เตรียมเองง่ายๆ แบบไม่ต้องง้อบาร์เทนเดอร์

> เครื่องดื่มในงานแต่ง ครีเอทใหม่ได้ให้เป็นซิกเนเจอร์เฉพาะงานแต่งของเรา

เทคนิคคลายร้อน

3. ร่ม

หลบร้อนไม่ได้ก็สู้แดดไปเลย กับไอเดียการแจกร่มที่ช่วยกันแดดได้อย่างดีเยี่ยม ยิ่งถ้าหากร่มนั้นมีสีสันสดใสหรือลวดลายน่ารักๆ ด้วยแล้ว ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มความน่ารักสดใสให้กับงานแต่งงานของบ่าวสาวได้อีกด้วยนะ อาจจะลองดูธีมงานของเราก็ได้ว่าเป็นสไตล์ไหน แล้วก็แค่เลือกใช้ร่มให้เหมาะกับธีมงานหรือสถานที่ เช่น ถ้าธีมงานเป็นแนวโมเดิร์น ก็อาจเลือกใช้เป็นร่มกันยูวีเฉดสีสดใส แต่ถ้าเป็นงานแต่งไทยก็แค่เปลี่ยนมาใช้ร่มสไตล์บ่อสร้างก็เพิ่มความเป็นออเจ้าทันทีเลยหนา

เทคนิคคลายร้อน

4. พัดลมไอน้ำ

ถ้าในกรณีที่ต้องการความเย็นแบบชัวร์ๆ เราขอแนะนำพัดลมไอน้ำค่ะ จัดเตรียมนำมาไว้ในงานแต่งงานให้ทั่วบริเวณไปเลย เพราะนอกจากจะได้ความเย็นฉ่ำจากพัดลมขนาดใหญ่แล้ว ยังได้ไอน้ำนิดๆ ที่ช่วยลดความร้อนเพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี แต่ควรจัดตำแหน่งพัดลมดีๆ นะจ๊ะ เพราะถ้ามากเกินไปแขกในงานอาจจะเปียกแทนที่จะร้อนก็ได้น้า และที่สำคัญเตรียมงบกันไว้ด้วยนะ หรืออาจจะลองสอบถามกับทางสถานที่จัดงานดูก็ได้ว่ามีบริการเสริมให้ในส่วนนี้หรือเปล่า จะได้ช่วยบ่าวสาวประหยัดงบไปอีกแรง

แต่งงานoutdoor

5. ไอศครีม

ของหวานที่เย็นชื่นใจและไม่ค่อยมีใครปฏิเสธก็คือไอศกรีม ไม่ว่าจะเป็น ไอศกรีมแท่ง ไอศกรีมแบบตัก หรือไอศกรีมโคน ก็แล้วแต่ดีไซน์ได้ตามความชอบของบ่าวสาวแต่ล่ะคู่เลยค่ะ แต่ถ้าอยากให้สดชื่นลองเลือกไอศครีมที่มีส่วนผสมของผลไม้ หรือเพิ่มความเป็นโซดาเพื่อความซาบซ่าชื่นใจ

แต่งงานoutdoor

เป็นยังไงค่ะกับเทคนิคคลายร้อน ง่ายมากเลยใช่มั้ย แถมยังคลายร้อนอย่างเห็นผลอีกด้วย … แต่ถ้าอัพเลเวลการคลายร้อนขึ้นมาอีกหนึ่งสเต็ป ลองทำตามคำแนะนำนี้ดีไหมจ๊ะกับ >> ดับความร้อนด้วยธีมงานแต่งงานสีเขียวสุดคูลที่ทั้งสวยและดูแพง

ภาพจาก : marthastewartweddings.com , Pinterest.com

ข้อควรรู้ชีวิตหลังแต่งงาน ให้สามีภรรยาป้ายแดงสดใสเหมือนข้าวใหม่ปลามันทุกวัน

ชีวิตหลังแต่งงาน ที่สามี-ภรรยาป้ายแดงทั้งหลายต้องรู้ มาทำชีวิตคู่ให้เป็นข้าวใหม่ปลามันในทุกวันกันเถอะ

ละครแนวแฮปปี้เอนดิ้งหลายเรื่องมักจะปิดฉากด้วยงานวิวาห์ของพระเอกและนางเอกที่ทำให้ละครจบอย่างสวยงาม แต่ในความเป็นจริงเมื่อคืนแห่งความสุขนั้นสิ้นสุดลง ชีวิตหลังแต่งงาน ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการในเช้าวันใหม่ แพรวเวดดิ้งเลยนำข้อควรรู้มาฝากคู่ชีวิตป้ายแดงกันค่ะ ทำตามนี้ประจำสม่ำเสมอคอนเฟิร์มเลยว่าคุณจะเป็นคู่รักข้าวมันปลามันในทุกวันแน่นอน 

ข้อที่ 1 นับหนึ่งแล้วเดินหน้า

วันแต่งงานเป็นวันที่สำคัญที่สุด ตื่นเต้นที่สุด และมีความสุขที่สุด ทว่างานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อวันวิวาห์ผ่านพ้นไป บ่าวสาวก็จะกลับมาสู่ชีวิตประจำวันตามปกติ เจ้าสาวบางคนอาจจะรู้สึกเศร้าใจที่วันแห่งความสุขนั้นช่างผ่านไปไวเหลือเกิน บางคนอาจจิตตกเล็กน้อยที่สูญเสียความโสด อย่ามัวทำหน้าหงอยคอยแต่นึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งผ่านไปเลยค่ะ เพราะว่าหนทางแห่งชีวิตคู่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ยังมีอะไรรอให้พบเจออีกเยอะ!

ข้อที่ 2 ขอให้เหมือนเดิม

เมื่อผ่านการแต่งงานไปแล้วดูเหมือนว่าระดับความหวานของคู่รักหลายคู่จะลดลง ปล่อยไว้นานอาจทำให้ความรักจืดจาง คุณควรเอาใจใส่กันและกันให้เหมือนกับก่อนจะเซย์เยส ไหนๆ ก็มีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นแล้ว ทำทุกวินาทีให้มีค่า ให้สมกับที่รอคอยคู่ชีวิตมาตั้งนานดีกว่า

ข้อที่ 3 วางแผนเรื่องลูก

ในช่วงเวลาที่คุณกำลังจะแต่งงาน แน่นอนว่าหัวข้อที่คนรอบข้างจะหยิบยกมาคุยกับคุณมักจะเป็นเรื่องการเตรียมงาน แต่หลังจากคืนสมรสผ่านพ้นไปแล้ว คราวนี้เรื่องที่จะได้ยินได้พูดกันอยู่เสมอคงหนีไม่พ้นเจ้าตัวเล็กที่จะมาเป็นโซ่ทองคล้องใจคุณทั้งคู่ ซึ่งนั่นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาแล้วที่คุณทั้งคู่จะต้องปรึกษาเรื่องนี้กันอย่างจริงจังเสียทีว่าจะมีหรือไม่มี และถ้ามีควรเตรียมความพร้อม เตรียมสุขภาพ และวางแผนให้เจ้าตัวน้อยอย่างไร

สำหรับคู่ชีวิตมือใหม่อาจมีความรู้สึกแปลกๆ บ้างเล็กน้อยที่สถานะของพวกคุณเปลี่ยนจากคำว่าแฟนมาเป็นคำว่าสามีภรรยา แต่นั่นหมายถึงว่าความรักได้ถูกพัฒนาไปอีกขั้น อย่าลืมนะคะว่าคุณเพิ่งจะผ่านพ้นคืนวันวิวาห์มาหมาดๆ เก็บภาพความทรงจำและบรรยากาศที่สวยงามไว้ในใจแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ไปพร้อมๆ กัน

อ่านบทความเพิ่มเติม

7 เรื่องเล็กๆ ปัญหาชีวิตคู่ที่ส่งผลแรงถึงทรวงต่อชีวิตรักที่อาจทำให้ไปต่อไม่ได้

5 วิถีคนขี้กั๊ก ความรักไม่ชัดเจน ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่าคุณคือตัวเลือก

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/91682

ภาพ : pexels.com

วางแผนชีวิตคู่ให้ปลอดภัย เพื่องานแต่งงาน บ้านใหม่ และเจ้าตัวเล็ก

การ วางแผนชีวิตคู่ เป็นอีกก้าวสำคัญในชีวิต เกิดจากคนสองคนต่างครอบครัวตัดสินใจสร้างครอบครัวร่วมกัน ช่วยกันสร้างฐานะความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นและให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไป โดยทั้งก่อนและหลังสร้างครอบครัวใหม่ ต้องทยอยเก็บเงินสำหรับค่าใช้จ่ายใหญ่ 3 ประเภท คือ งานแต่งงาน บ้านใหม่ และเจ้าตัวเล็กในอนาคตนั่นเองนะคะ เพราะการเตรียมตัวเพื่ออนาคตนั้นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แพรวเวดดิ้งจึงนำเทคนิคดีๆ มีประโยชน์โดยกูรูเรื่องการวางแผนจากธนาคารกรุงศรีอยุยามาฝากกันค่ะ ว่า 3 เรื่องหลักที่ว่านั้น เราควรจัดการอย่างไรให้ไม่พลาดกัน 😉

 

งานแต่งงาน         

ชีวิตคู่

  • จงวางแผนใช้ชีวิตร่วมกัน

หลังจากตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะใช้ชีวิตคู่ ก็ควรพูดคุยทำความเข้าใจกันเพื่อให้ชีวิตคู่ราบรื่น โดยเรื่องเงินเป็นประเด็นหลักอันหนึ่งที่ควรคุยกันให้ชัดเจน ตกลงกันว่าเป้าหมายทรัพย์สินที่ต้องการมีมากน้อยเพียงใด จะบริหารทรัพย์สินเหล่านี้ยังไง รายได้-ค่าใช้จ่ายต่างๆ ใครเป็นผู้ดูแล เงินออม-หนี้สินควบคุมควรอยู่ในระดับใด อะไรประะมาณนี้เป็นต้นนะคะ

  • จงหาข้อมูลก่อนจ่ายเงินเสมอ

เคยไหมจ่ายเงินไปแล้วรู้สึกว่าเสียดายเงิน รู้งี้หาข้อมูลก่อนซื้อน่าจะดี สมัยนี้ข้อมูลมีให้ศึกษากันเต็มโลกออนไลน์ ควรหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าที่เล็งเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายขนาดใหญ่อย่างงานแต่ง หากพลาดไปแล้วเทียบเท่ากับทำงานฟรีไม่รับเงินเดือนไปนานหลายเดือนเชียวนะคะ

  • จงควบคุมค่าใช้จ่ายในงานแต่ง

จริงอยู่ว่าปกติจัดงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตควรจัดออกมาให้ดูดี สถานที่สวยงาม อาหารอร่อย แขกผู้ใหญ่เพื่อนสนิทมากันพร้อมหน้า แต่ก็ไม่ควรจัดจนถึงขั้นมีปัญหาเรื่องเงินกลายเป็นหนี้ ควรควบคุมค่าใช้จ่ายโดยดูจากตัวเลข ค่าใช้จ่ายต่อหัวและค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คุณรับไหว ไม่ให้สูงจนเกินกำลังทรัพย์ที่มี โดยพิจารณาดูว่าค่าใช้จ่ายบางรายการลดได้ไหม ตัวอย่างเช่น ค่าถ่ายภาพแต่งงาน ซึ่งสตูดิโอขนาดใหญ่คิดรูปละพันกว่าบาท พอรวมทั้งอัลบั้มก็เป็นจำนวนเงินหลายหมื่นบาท อาจเปลี่ยนไปจ้างช่างภาพอิสระหรือเพื่อนที่มีฝีมือถ่ายภาพทำให้แทนก็ย่อมได้

  • จงเขียนรายชื่อแขกมาร่วมงานแต่ง

หลายงานเจอกับปัญหาจำนวนแขกมาผิดคาดมากมีทั้งเยอะเกินหรือน้อยไป ปริมาณอาหารก็เช่นกันมีสิทธิ์ผิดคาดไปได้มาก วิธีแก้ไขทำได้ด้วยการลิสต์รายชื่อแขกที่มาร่วมงานและสอบถามไปตรงๆ เลยว่าสะดวกมาร่วมงานมงคลหรือไม่ เหตุผลเพื่อเตรียมสิ่งต่างๆ ได้เพียงพอ ซึ่งช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายจัดงานได้ถูกต้องอีกด้วย

 

บ้านหลังใหม่

ชีวิตคู่

  • จงเลือกซื้อบ้านไม่เกินฐานะ

คนไทยกว่า 80% ซื้อบ้านด้วยการกู้ธนาคารเพราะบ้านที่น่าอยู่มีราคาหลายล้านบาทเกินกำลังจะจ่ายไหวในคราวเดียว ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงเลือกกู้ธนาคารแล้วค่อยผ่อนจ่ายทีละเดือนเอา หากผ่อนจ่ายทุกงวดตามค่างวดบ้านที่มาเรียกเก็บแบบไม่โปะเลย ดอกเบี้ยที่จ่ายไปทั้งหมดเทียบเท่ากับซื้อบ้านได้อีกหลังเลยนะครับ จึงควรซื้อบ้านที่ราคาไม่แพงเกินไป ช่วยให้ยอดผ่อนชำระรายเดือนน้อยลง จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง และควรโปะบ้างถ้ามีเงินเหลือเก็บเพื่อไม่ให้เป็นภาระในระยะยาว

  • จงเยี่ยมชมโครงการบ้านหลายแห่งก่อนตัดสินใจซื้อ

ก่อนซื้อบ้านควรไปดูคอนโด ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว ตึกแถว หรือบ้านมือสอง ในหลายทำเลในหลายโครงการที่คุณสนใจ เพื่อมาเปรียบเทียบทำเลที่สะดวก ความคุ้มค่าด้านราคา โปรโมชั่น วัสดุและการออกแบบ ประโยชน์ใช้สอย  ฯลฯ เลือกสิ่งที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับครอบครัวคุณเองนะคะ

  • จงเก็บเงินอย่างน้อย 20% ของราคาบ้านก่อนซื้อ

ปกติธนาคารให้กู้ไม่เกิน 90% ของราคาประเมินนั้น หมายถึง ส่วนที่เหลือประมาณ 10% ผู้ซื้อบ้านต้องเตรียมเงินสดมาจ่ายเอง แล้วเงินเก็บอีก 10% ใช้สำหรับค่าใช้จ่ายอื่นๆ ช่วงโอนและสำหรับค่าตกแต่งบ้านอีกด้วย กรณีที่ดินเปล่า ตึกแถว และบ้านมือสอง อาจต้องเตรียมเก็บเงินเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ของราคาบ้าน เพราะธนาคารอาจให้กู้ได้น้อยกว่า 90% อาจให้กู้ในระยะเวลาที่สั้นลง และอาจต้องเตรียมจ่ายค่าปรับปรุงซ่อมแซมเพิ่มเติมไว้ด้วยนะคะ

  • จงรักษาประวัติการชำระเงินให้ดี

ข้อนี้สำคัญมากเลยนะคะ เพราะประวัติการชำระเงินบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ของคุณจะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่สำนักงานข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ซึ่งจะมีผลโดยตรงต่อการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของคุณในอนาคต ดังนั้นวางแผนชำระเงินให้ดีและะตรงเวลานะคะ

 

เจ้าตัวเล็ก

ชีวิตคู่

  • จงวางแผนเรื่องมีเจ้าตัวเล็ก

ควรพูดคุยกันเรื่องต้องการมีลูกหรือไม่ แล้วถ้าต้องการมีอยากมีซักกี่คน เพื่อเตรียมเงินไว้ให้พร้อมสำหรับการเลี้ยงดูซึ่งค่าใช้จ่ายลูกแต่ละคนเลี้ยงจนโตเป็นหลักล้าน และจำนวนเงินที่ใช้มีความไม่แน่นอนซะด้วย ควรแบ่งเงินไว้เลี้ยงลูกแยกต่างหากจากเงินก้อนอื่น โดยเฉพาะเงินที่เอาไว้ลงทุนเพราะมีความเสี่ยงสูญหายไปจากการขาดทุน

  • จงอย่ารอนานไปที่จะมีเจ้าตัวเล็ก

เพราะสังคมสมัยนี้แข่งขันสูงมีความเครียดมากขึ้น จึงมีลูกกันช้าลงและน้อยลงทุกที โดยอาจลืมไปว่าอายุยิ่งมากโอกาสมีลูกน้อยลงทวีคูณ จนทำให้บางคนอยากมีลูกตอนอายุมากแต่หมดโอกาสไป บางคนโอกาสเหลือน้อยต้องใช้เทคโนโลยีการแพทย์เข้าช่วยแต่ไม่มีเงินที่จะทำ ซึ่งน่าเสียดายมากเลย ดังนั้นอย่าลืมคิดเรื่องนี้กันไว้แต่เนิ่นๆเลยนะคะ

  • จงเลี้ยงดูลูกตามกำลังทรัพย์ที่มี

บางคนส่งลูกเข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติทั้งๆ ที่เกินกำลังทรัพย์จะจ่ายไหว เหนี่ยวกันสุดชีวิตจนบางทีก็ไม่ไหว จนลืมไปว่าการศึกษาในห้องเรียนนั้นไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสมัยนี้การศึกษานอกห้องเรียนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะคำสอนจากพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย และคนที่อยู่ใกล้ชิดลูก จึงควรเอาความรู้เอาประสบการณ์ที่มีบวกกับหาความรู้เพิ่มเติมจากสื่อต่างๆ มาสอนลูก แล้วอาจเลือกให้เข้าโรงเรียนสองภาษาหรือโรงเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี ปลูกฝังให้ลูกเป็นคนดีของสังคมแทน

  • จงมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพียงพอ

การเติบโตและพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยมีความสำคัญไม่แพ้ความสำเร็จเรื่องงาน ดังนั้นควรมีเวลาเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยตั้งแต่เล็กจนโต โดยเลือกงานเลือกวิธีการหาเงินให้มีเวลาเพียงพอ โอกาสมีเข้ามาในชีวิตเสมอขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเห็นและคว้าโอกาสนั้นได้หรือเปล่า

สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่เปิดโอกาสให้แชร์แนวคิดเตรียมเงินสร้างครอบครัวที่มีประโยชน์อย่างยิ่ง แพรวเวดดิ้งขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านประสบความสำเร็จในการมีชีวิตครอบครัวกันนะคะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

7 เรื่องเล็กๆ ปัญหาชีวิตคู่ที่ส่งผลแรงถึงทรวงต่อชีวิตรักที่อาจทำให้ไปต่อไม่ได้

5 วิถีคนขี้กั๊ก ความรักไม่ชัดเจน ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่าคุณคือตัวเลือก

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/91682

cr : krungsri.com, asyouwishweddings.ca, quickenloans.com, nationalpost.com

เทคนิคการจองคิวช่างหน้าช่างผมระดับตัวท็อปมาไว้ในงานแต่ง

เคล็ดลับได้ ช่างหน้าช่างผม ที่อยากได้ พร้อมสร้างลุคให้เป๊ะปังในวันวิวาห์

ว่าที่เจ้าคนไหนที่กำลังวางแผนแต่งงาน หลายคนอาจจะมี ช่างหน้าช่างผม อยู่ในใจกันแล้ว แต่จะทำยังไงถึงจะได้เหล่าตัวท็อปมาเสกความงามเนรมิตความสวยให้ได้กันล่ะ เพราะช่างระดับคิวทองเหล่านี้อาจจะมีงานที่รับไปจนถึงปลายปีหน้าแล้วก็ได้ อย่าเพิ่งเสียอกเสียใจและอย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะ แพรว wedding มีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณว่าที่เจ้าสาวนั้นได้ช่างในดวงใจมาไว้ที่งานแต่ง

เช็คตัวเองรอบด้าน

ก่อนที่เจ้าสาวจะยกหูโทรจองคิวช่างแต่งหน้าและช่างทำผม คุณจะต้องเช็คความต้องการและข้อจำกัดของตัวเองซะก่อน โดยเราขอแนะนำให้ทำการบ้านสำรวจตัวเองให้แน่ใจ 100 % ดังนี้

1. เช็คสไตล์หน้าผมที่คุณชื่นชอบ จะสายแบ๊ว สายหวาน หรือสายเปรี้ยวเผ็ช แต่ถ้านึกไม่ออกก็ลองหาเรฟเฟอร์เรนซ์ได้ใน Real Wedding 

2. สรุปวันจัดงานแต่งงานให้เป๊ะ จะ 100% หรือหย่อนๆ แค่ 98% ก็ได้ แต่คุณเจ้าสาวต้องกำหนดวันแต่งงานให้ชัวร์ก่อนแล้ว เพื่อจะได้ระบุวันกับช่างหน้าผมได้แบบไม่ลังเล ประมาณว่าถามปุ๊บตอบได้ปั๊บแบบทันใจ เพื่อที่ช่างจะได้มั่นใจว่าจะไม่โดนคุณเท และอีกเรื่องสำคัญคือจัดที่ต่างจังหวัดหรือกรุงเทพฯ เพราะเรื่องสถานที่ก็มีผลต่อราคาด้วยเหมือนกันนะคะ

3. หาช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ที่รู้สึกชื่นชอบผลงานเป็นพิเศษถึงขั้นติดตามอินสตาแกรมและกดเข้าไปดูเป็นว่าเล่น ประมาณว่าช่างคนนี้แหละที่เกิดมาเพื่อฉัน ซึ่งระหว่างทางเจ้าสาวอาจจะเจอช่างคนใหม่ที่ถูกใจเพิ่มมาอีกหนึ่งคนก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ลองจัดลำดับความเลิฟและความอยากได้เผื่อไว้สำหรับเป็นตัวสำรอง เผื่อว่าช่างคิวทองคนแรกที่เล็งไว้ไม่ว่าง ก็ยังมีช่างอีกคนที่เรารู้สึกไว้ใจ

4. ตั้งงบประมาณค่าหน้าผมไว้เท่าไหร่ เรื่องนี้ถึงเราไม่บอกคุณเจ้าสาวก็น่าจะรู้กันดี ว่าช่างระดับตัวท็อปหน่ะถ้างบไม่ถึงก็ต้องทำใจ และช่างแต่งหน้าทำผมระดับนี้จะคิดราคาแยกเป็นงานนะคะ เพราะฉะนั้นเริ่มสตาร์ทออมเงินกันได้เลย

เช็คช่างแต่งหน้า ช่างทำผมให้ชัวร์

หลังจากรู้ความต้องการและความสามารถในการจ่ายเงินของตัวเองแล้ว สิ่งต่อมาที่คุณว่าที่ต้องทำก็คือ เช็คช่างแต่งหน้าซึ่งข้อมูลทั้งหมดสามารถหาได้จากอินเตอร์เน็ต

1. เช็คเอกลักษณ์ของช่างแต่งหน้าที่คุณจัดลิสต์ไว้ในใจว่าตรงกับจริตและสไตล์ที่คุณชื่นชอบหรือเปล่า อย่างบางคนเน้นที่การปรับรูปหน้า หรือบางคนเน้นน้อยแต่มาก หรือแต่งบางๆ แบบเผยผิว

2. ราคาค่าตัวของช่างที่คุณปิ๊งในฝีมือ ว่ามีราคาแรงแค่ไหน และคุณต้องมั่นใจนะว่าราคาที่ได้มาเป็นราคาอัพเดตล่าสุด ไม่ใช่ราคาสมัยพระเจ้าเหายังไม่เกิด และลองดูว่างานเช้ากับงานเย็นคิดเท่ากันหรือเปล่า หรือว่ามีโปรราคาพิเศษเหมาทั้งงานเช้างานเย็นหรือไม่ สอบถามให้ชัวร์เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองนะจ๊ะ

3. เขาทำงานเป็นทีมแบบที่ต้องมีผู้ช่วยข้างกายหรือเปล่า ช่างบางคนอาจไม่ได้ทำงานแค่คนเดียวแต่มีคู่หูในการทำผมแต่งหน้าร่วมกัน หรือบางทีคุณอาจจะเจอว่าจ้างช่างแต่งหน้าแล้วพ่วงช่างทำผมมาด้วยก็ได้ ซึ่งตรงนี้อาจทำให้งบประมาณงอกเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะฉะนั้นเช็กให้ชัวร์ถามให้ดีนะคะ

4. เช็คคอมเม้นท์และรีวิวต่างๆ เกี่ยวกับเสียงลือเสียงเล่าอ้างของคุณช่างในดวงใจ ว่าเหวี่ยงประมาณไหน มาตรงเวลาที่นัดเป๊ะหรือเปล่า หรือแต่งหน้าช้าละเมียดสุดๆ เพื่อที่คุณจะได้ตัดสินใจได้ว่าจะเดินหน้าโทรหาหรือพอแค่นี้ แต่ถ้าอยากเดินหน้าต่อก็อย่าลืมเผื่อเวลากันไว้ให้ก็แล้วกัน

5. เช็คความชอบส่วนตัวของช่างในดวงใจ ดูเหมือนไม่สำคัญแต่อยากบอกว่าจะช่วยเพิ่มคะแนนจิตพิสัยของคุณได้ค่ะ เช่น ช่างคนนี้ไม่ชอบการพูดจาเยิ่นเย้อประมาณว่ายกสายปั๊บยิงข้อมูลได้ทันที แบบนี้เป็นต้น

6. เช็คเบอร์ติดต่อ ว่าสามารถติดต่อช่างได้โดยตรงหรือว่าท็อปฮิตขนาดต้องมีผจก.แบบดารา เช็กให้ดีจะได้โทรไปหาได้ถูกคน

7. เช็ดว่าแต่งให้เองหรือเปล่า ช่างเบอร์ใหญ่บางคนบอกราคาเสร็จปุ๊บคุณว่าที่เจ้าสาวตกลงปั๊บ แต่พอถึงวันจริงกับเจอแต่ลูกทีมไม่เจอตัวแม่ก็มีถมไป เพราะฉะนั้นเช็คให้ชัวร์ว่าราคานี้คือตัวแม่มิใช่ตัวลูก(ทีม)

เตรียมตัวก่อนยกหู

เป็นช่วงที่คุณเจ้าสาวต้องตั้งสติให้ดี เพราะต้องจับข้อมูลของตัวเองและของช่างมาชนกันเพื่อจดสรุปเป็นข้อๆ จะได้มั่นใจว่าได้ทั้งคิวและใจของช่างด้วย

1. มั่นใจเรื่องงบประมาณ ต่อให้คุณช่างเรียกมาเท่าไหร่คุณก็ไม่ยั่น ประมาณว่าเรามันสายเปย์อยู่แล้ว

2. มั่นใจในวันและเวลาแต่งงาน กำหนดวันและเวลานัดว่าวันไหน เวลาไหน งานเช้าหรืองานเย็น ซึ่งการกำหนดเวลาก็อย่าลืมเผื่อสำหรับช่างที่ต้องใช้เวลาแต่งหน้านานๆ หรือช่างบางคนที่ชอบสายด้วย

3. มั่นใจในลุคเจ้าสาวที่อยากได้ อธิบายลุคที่คุณอยากได้แบบคร่าวๆ อย่าแบบ “แล้วแต่พี่เลยค่ะ” แบบนี้ไม่ได้เด็ดขาดเพราะช่างอาจเกิดอาการมึนตึ๊บๆ จนอาจจะแต่งออกมาไม่ได้แบบที่คุณเจ้าสาวหวังไว้ก็ได้

4. เผื่อใจไว้เจ็บ เป็นกรณีที่ช่างที่คุณอยากได้ คิวแน่นเต็มเอี๊ยดมากจริงๆ อย่าเสียใจนานรีบโทรหาช่างในใจลำดับที่ 2 3 4 ต่อไป สู้เขาค่ะ

ถ้าคุณเจ้าสาวทำการบ้านได้ครบ เซย์เยสไดหมดทุกเงื่อนไข ก็อย่ารอช้ารีบโทรจองคิวกันด่วนๆ อย่าชะล่าใจ เพราะในขณะที่เราคิดว่าเราเร็วแล้ว ก็ยังมีเจ้าสาวคนอื่นที่อยากได้และเร็วกว่าเราเหมือนกันนะคะ ยิ่งโทรจองไว้เนิ่นๆ นานเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้คิวมาก็มากเท่านั้น ได้ปุ๊บแจ้งรายละเอียดวันเวลาและสถานที่ให้เรียบร้อย รับรองได้ชัวร์!!

>> ดูไอเดียความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย! <<

ภาพ : www.southernliving.com

สารพัดเรื่องที่บุพการีและญาติผู้ใหญ่ควรรู้เมื่อลูกหลานจะแต่งงาน

เคยได้ยินคำบ่นมากมายจากบ่าวสาวที่ผ่านประตูวิวาห์มาแล้วว่าช่วง แต่งงาน เนี่ย ทำให้รู้อิทธิฤทธิ์บุพการีมากกว่าที่เคยรู้ เพราะบางบ้านก็จุกจิกใส่ใจเกินเหตุ บางบ้านปล่อยเบลอมาตลอดแต่มาวุ่นวายเอาตอนวันใกล้งาน แบบนี้ ความเครียดที่บ่าวสาวมีในช่วงนั้นยิ่งทวีคูณสิคะ

แต่แหม…ทำไงได้ละ ก็การ แต่งงาน เป็นเรื่องของสองครอบครัวนี่นา จะให้ผู้หลักผู้ใหญ่วางเฉยไปก็กระไรอยู่ แพรวเวดดิ้งจึงสรุปมาให้ว่า มีเรื่องไหนบ้างที่บ่าวสาวเคยเจอและบ่นกันมากๆ และอยากให้บุพการีและญาติผู้ใหญ่รู้ถึงความในใจ เมื่อถึงเวลาช่วยลูกหลานจัดงาน จะได้เจอกันตรงกลางแบบไม่มีขัดแย้งไงละคะ

1. อย่ารีบเชิญแขกโดยไม่ปรึกษาบ่าวสาว

เรื่องนี้บ่อนกันมาอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ทราบข่าวดีของลูกๆ แล้ว ขอนะคะว่าอย่าตื่นเต้น รีบโทรศัพท์ไปเชื้อเชิญทุกคนที่คุณรู้จัก รอให้ได้ฤกษ์วันดีที่แน่นอนซะก่อน แล้วค่อยมาคิดและปรึกษากันว่าจะจัดงานใหญ่แค่ไหน เชิญแขกกี่คน และเชิญใครบ้าง

2. จะช่วยออกค่าจัดงานก็ต้องชัดเจนกันนิดนึง

เรื่องเงินก็ต้องคุยค่ะ เพราะถ้าเกิดคุณพ่อคุณแม่ใจดีอยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย ตรงนี้ก็อย่าขัดใจ แต่สิ่งที่อยากให้โฟกัสก็คือท่านจะออกเงินให้ในส่วนไหนและเท่าไหร่บ้าง รบกวนคุณพ่อคุณแม่ชี้แจงความใจดีนี้ให้ละเอียดค่ะ บ่าวสาวเขาจะได้จัดสรรปันส่วนงบประมาณได้ลงตัว

3. อย่าพูดเปรียบเทียบ

ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไปเห็นงานแต่งของลูกเพื่อน หรือได้รับเชิญไปงานแต่งของใครก่อนหน้านี้ก็ตาม อย่าได้นำมันมาพูดเปรียบเทียบว่า ทำแบบนั้นสิดีกว่า ทำแบบนี้สิดีกว่า งานนู้นสวยอย่างนั้น งานนั้นสวยอย่างนี้ ให้ถือคติว่า งานแต่งใครงานแต่งมัน บ่าวสาวเขาชอบแบบนี้ก็ควรจะสนับสนุนการตัดสินใจของลูกๆ ให้เต็มที่เนอะ

 4. ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาความสงบ

ถ้าแขกที่คุณพ่อคุณแม่เชิญมาเกิดมีเซอร์ไพร้ส์แบบที่ว่าคนนั้นไม่ถูกกับคนนี้ คุณป้าคนนั้นไม่ชอบคุณน้าคนนี้ ก็คงต้องรบกวนคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นผู้ใหญ่ช่วยดูแลความสงบนิดนึงนะคะ อย่าให้พวกท่านมีปากเสียงกันกลางงาน ไม่อย่างนั้นงานคงกร่อย และไม่สนุกแน่ๆ

5. เป็นกำลังใจให้ลูกๆ เสมอ

เชื่อเถอะค่ะว่าระหว่างเตรียมงานแต่งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องเครียดกันแน่นอน ในฐานะของคนเป็นพ่อแม่และรักลูกไม่แพ้ใครๆ เราอยากแนะนำว่า ลองอ้าแขนกอดคุณลูกแน่นๆ และให้กำลังใจเขาทั้งคู่นะคะ เขาจะได้มีแรงเตรียมวันสำคัญในชีวิตให้ดีและสวยงามตามที่เขาต้องการ

6. แม่เจ้าบ่าว แม่เจ้าสาว ต้องเป็นทีมเดียวกัน!

งานนี้ทั้งสองแม่จะมาเปิดศึกใส่กันเองไม่ได้นะคะ ต้องเป็นทีมเดียวกันค่ะ ทำความสนิทกันเข้าไว้ บ่าวสาวเขาจะได้มีกำลังใจและมีความสุขในวันแต่งงานของเขาเนอะ แพรวเวดดิ้งเคยเห็นคุณแม่เจ้าบ่าวและคุณแม่เจ้าสาวช่วยกันเลือกชุด เลือกดอกไม้ คุยกันถูกปากถูกคอ งานนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวยิ้มหน้าบานเลยจ้า

7. “ถ้าเป็นงานแต่งแม่/พ่อ แม่/พ่อจะ…”

เอิ่ม… เจอประโยคนี้บางทีบ่าวสาวก็ไปไม่ถูกนะคะ เอาเป็นว่าให้อิสระในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่เขาต้องการละกันเนอะ (แต่ถ้าพ่อแม่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่อันนี้บ่าวสาวต้องคิดหนักหน่อย) เพราะนี้ก็เป็นวันสำคัญของชีวิตลูก ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกก็อยากจะได้งานที่ตัวเองชอบและสะท้อนสไตล์ของบ่าวสาว เพราะฉะนั้นให้ถือคติที่ว่า “ลูกว่าดีแม่ก็ว่าดีค่ะ!”

Cr. Pinterest

8. อย่าจู้จี้จุกจิก

เราเชื่อว่า ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคนคงเตรียมพร้อมและเตรียมการสำหรับงานแต่งมาเป็นอย่างดีแล้วค่ะ ฉะนั้นขอให้คุณพ่อคุณแม่วางใจหายห่วง ไม่จำเป็นต้องจู้จี้จุกจิก คอยเตือนเรื่องนั้นเรื่องนี้กับบ่าวสาวเช้าค่ำนะคะ เดี๋ยวพวกเขาจะอึดอัด พาลให้รู้สึกหงุดหงิดเอาได้ ถ้าเป็นห่วงจริงๆ ลองเตือนกันเป็นรายอาทิตย์ หรือถามความคืบหน้าของการเตรียมงานจะดีกว่าค่ะ

9. ผู้ปราบ Bridezilla และ Groomzilla

ลูกเรา เราเลี้ยงมา เราก็ต้องรู้จักเขาดีที่สุดใช่ไหมละคะ เพราะฉะนั้นแพรวเวดดิ้งอยากบอกว่า เมื่อไหร่ที่ว่าที่บ่าวสาวเริ่มจะออกอาการเหวี่ยงวีน ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ได้ดั่งใจ และกำลังจะแปลงร่างเป็น Bridezilla หรือ Groomzilla จนเพื่อนฝูงไม่สามารถทัดทานได้ รบกวนคุณพ่อคุณแม่ช่วยเอาน้ำเย็นเข้าลูบให้เขาใจเย็นลงทีนะคะ สถานการณ์จะได้กลับมาปกติ

10. ปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวางนะคะ

เราเชื่อว่า 90% ของคุณพ่อคุณแม่บ่าวสาวคงไม่ได้ชอบทุกสิ่งอย่างที่มีในงานแต่งหรอกคะ บางท่านก็ไม่ชอบดอกไม้ บางท่านก็ไม่ชอบธีมสี บางท่านก็บอกว่าตรงนั้นไม่สวย หรือทำไมชุดเจ้าสาวดูโป๊จัง แต่ค่ะแต่! เพื่อความสุข ความสบายใจ และเพื่อรอยยิ้มในวันสำคัญของลูกเรา ถ้าอะไรมันเล็กๆ น้อยๆ ปล่อยวางได้ก็ควรทำ ที่สำคัญอย่าเก็บเอาไปบ่นให้คนอื่นฟัง ลูกๆ รู้เข้าจะเสียใจนะ

11. เตือนสติลูกเสมอ

หลายๆ ครั้งที่บ่าวสาวกระทบกระทั่งกันเองระหว่างเตรียมงาน คนที่เขาเลือกจะเล่าปัญหาให้ฟังก็คงหนีไม่พ้นคุณพ่อคุณแม่แน่นอน หากว่าปัญหามันรุนแรงเราอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยเตือนเขาสักนิดว่า เขาทั้งคู่แต่งกันเพราะอะไร และอย่าให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายความตั้งใจและความรักของเขาสองคนเด็ดขาด

Cr. http://thebigfatjewishwedding.com

12. มีความสุขกับวันพิเศษ

แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ต่างก็เคยผ่านวันสำคัญอย่างนี้มาแล้ว แต่เชื่อเถอะค่ะว่าความรู้สึกมันไม่เหมือนกันแน่นอน แพรว Wedding อยากให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขกับทุกวินาทีในวันสำคัญของลูก จดจำทุกโมเม้นต์ภายในงาน เพราะนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะเก็บเป็นความทรงจำตลอดไป

13. อย่าเอาแต่จ้องจับผิดคนทำงาน

คนทำงานในที่หมายถึงทีมงานทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์ นักดนตรี คนจัดดอกไม้ หรือช่างภาพ ควรปล่อยให้เขาทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยไปดูว่าเขาจะทำอะไร ถูกใจไหม ดีหรือเปล่า จะเปิดเพลงอะไร จัดดอกไม้เป็นยังไงบ้าง เชื่อเรานะคะว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญ ทุกอย่างจะต้องออกมาดี ถ้ายังเป็นห่วงแนะนำว่าว่าคอยดูห่างๆ ก็ได้ แต่ถ้าเขาขอความช่วยเหลือก็ค่อยว่ากันอีกทีนะ

14. เตรียมบทพูดซึ้งๆ ให้กับลูก

เชื่อค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่คงมีหลายสิ่งหลายอย่างอยากจะบอกบ่าวสาวแน่นอน เพื่อเป็นการกันลืมก็ต้อง “จด” ค่ะ อยากพูดอะไร อยากบอกสิ่งไหน จะฝากฝังลูกสาวกับว่าที่ลูกเขยอย่างไรก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนโลด แล้วก็คิดไว้ด้วยว่าจะพูดตอนไหน บนเวที หรือในห้องส่งตัวแบบบรรยากาศครอบครัว รับรองว่านี่ต้องเป็นอีกช่วงเวลาที่ซึ้งกินใจแน่ๆ เลย ที่สำคัญไม่ควรจะยาวเกินไป เพราะนอกจากบ่าวสาวจะจำไม่หมดแล้ว คนอื่นๆ ในพิธีอาจจะไม่อินไปกับเราก็ได้

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่ได้ยากเกินฝีมือคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมคะ ลองนำไปทำตามดูเผื่อว่างานแต่งครั้งนี้จะได้มีความสุขกันทั้งพ่อ แม่ ลูกเนอะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

คิดจะแต่งงานกันทั้งที 5 เรื่องต่อไปนี้ต้องคุยกันให้ดีก่อนแต่งงาน

เช็กเลย 10 พฤติกรรมที่ทำให้เดทแรกของหนุ่มๆ สาวๆ แป้กไม่เป็นท่า

https://praewwedding.com/love-and-relationships/29506

ภาพเปิด : www.easyweddings.com.au

9 เทคนิคใช้ได้จริงกับการจัดงานแต่งงานแบบประหยัดราคาไม่เกินงบ

เทคนิค จัดงานแต่งงานแบบประหยัด มีเพียบ แต่จะจัดยังไงให้ไม่เกินงบ Ladawan the Wedding Planner มีคำตอบมาฝากค่ะ

1. เช็กของตกแต่งที่ทางโรงแรมให้ก่อนว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นปรับให้เข้ากับความต้องการ เช่น หากโรงแรมให้ดอกไม้มา 5 จุด อาจใช้จริงตามแพ็คเกจเพียง 2 จุด ดอกไม้ที่เหลือนำไปตกแต่งส่วนอื่นตามธีมที่วางไว้

2. ตกแต่งเฉพาะจุดใหญ่ๆ ให้โดดเด่นสะดุดตา เช่น ฉากถ่ายภาพ แกลเลอรี่ เวทีเค้ก ดีกว่าตกแต่งทั่วทุกจุด เพราะสุดท้ายแล้วจุดเล็กๆ ก็จะกลืนไปกับฝูงชนที่มาร่วมยินดี

3. ไม่ใช้ดอกไม้สด 100% แต่นำวัสดุอื่นมาผสมให้กลมกลืน เช่น ดอกไม้ผ้าหรือดอกไม้กระดาษ

4. เช่าพร็อปส์สำเร็จมาตั้ง

>> รวม 8 ร้านเช่าเต็นท์ที่บ่าวสาวจัดงานกลางแจ้งควรดูไว้

>> รวมร้านเช่า แบ็กดร็อปงานแต่ง งานดี ดีไซน์เก๋ และราคาประหยัด

>> 5 ร้านเช่าเก้าอี้สำหรับงานแต่งงาน

5. ไม่จำเป็นต้องพริ้นต์ภาพถ่ายขนาดใหญ่เว่อร์ แค่ขนาด 20 × 24 นิ้วก็เพียงพอ หลังจากตั้งโชว์ในงานแล้วยังนำไปตกแต่งต่อที่บ้านได้ด้วย

6. ดอกไม้ตามฤดูกาลไม่ได้ประหยัดเสมอไป เพราะในช่วงที่คนนิยมแต่งงาน ไม่ว่าดอกไม้ชนิดใดก็แพงทั้งนั้น ถ้าไม่จำเป็นแนะนำให้เลี่ยงสีขาว ชมพู ฟ้า เพราะตัวเลือกน้อยทำให้ราคาแพงทุกฤดูกาล

7. ใช้ใบไม้ปูพื้นแทนการปักดอกไม้สดแน่น ๆ ทั้งผืน เช่น ใบยูคาลิปตัส ใบสน ใบปรง ใบเฟิร์น ใบพุด เป็นต้น

8. ในกรณีที่เช่าห้องเปล่าๆ จัดงาน ให้หามุมสวย ๆ ไว้เป็นมุมโชว์ ถ้าไม่มีแนะนำให้ใช้การจับผ้ามาสร้างจุดเด่นให้มุมที่ต้องการแล้วตกแต่งดอกไม้เพิ่มอีกนิดหน่อย

9. ดอกไม้ไทยประหยัดกว่าดอกไม้นอกครึ่งหนึ่ง แม้ดอกจะเล็กกว่า แต่หากใช้เป็นก็สวยได้

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : unsplash.com

4 เรื่องเล็กน้อยแต่สำคัญมากสำหรับใช้ชีวิตคู่สู่ความรักที่ยืนยาว

เมื่อคนสองคนตัดสินใจที่จะอยู่ร่วมกัน ถึงจะมีพื้นฐานความรักเป็นตัวชักนำแต่ แพรวเวดดิ้งแนะนำว่าอย่างไรเสียการ ใช้ชีวิตคู่ ก็จำเป็นต้องมีข้อตกลงอะไรกันบ้าง เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายละเมิดหรือก้าวล้ำไปในสิทธิ์ของอีกคนมากเกินไป โดยให้ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน และยินดีที่จะปฏิบัติตาม สำหรับข้อตกลงพื้นฐานที่สำหรับคนรักกันแล้วนั้นทำได้ง่ายมากๆ แต่ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคู่อาจมองข้ามไป 

1. ต้องใส่ใจกันและกัน

การอยู่ร่วมกัน การใส่ใจความรู้สึกของกันและกันสำคัญมากโดยเราต้องระมัดระวังอย่าให้การกระทำของเรา หรือคำพูดของเราไปทำให้คนรักเจ็บช้ำ แต่ถ้ามันพลาดไปคำขอโทษจากใจจริงสำคัญมากๆ อย่าคิดว่าผ่านแล้วผ่านเลย เพราะสุดท้ายอาจนำมาซึ่งการเลิกราได้ในที่สุด

2. มีอะไรต้องตัดสินใจให้ปรึกษากัน

เพราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่คนเดียว การตัดสินใจเรื่องอะไรเกี่ยวกับครอบครัว จึงต้องมีการปรึกษากัน เพื่อให้ทั้งสองคนรู้สึกว่ามีส่วนร่วม และต่างมีความสำคัญต่อกัน แบบนี้การอยู่ด้วยกันก็จะมีความสุข ไม่มีเรื่องของช้างเท้าหน้า ช้างเท้าหลัง เพราะปัจจุบันนี้สิทธิทั้งสองเพศเท่าเทียมกันแล้ว

ชีวิตคู่

3. โทรหากันเมื่อต้องห่างไกล

เวลาที่ไปต่างจังหวัดหรือไปต่างประเทศ อย่าเสียดายเงินค่าโทรศัพท์ ควรจะโทรศัพท์หากันบ้าง เพื่อจะบ่งบอกว่าตัวเองอยู่ที่ไหน และแสดงความห่วงใยอีกฝ่าย นอกจากนี้หากมีการเปลี่ยนแผนของชีวิตประจำวันก็ควรจะโทรศัพท์ไปบอกกันหน่อย จะได้รู้ว่าไปไหนอย่างไร

4. หากจะกลับบ้านช้าให้โทรบอก

หากถึงเวลากลับบ้านแล้วไม่สามารถกลับได้หรือกลับช้ากว่ากำหนด ให้รีบโทรบอกคนที่บ้าน อย่าอายเพื่อนเด็ดขาด เพราะท้ายที่สุดความรักและความเข้าใจกันของคนสองคนสำคัญกว่าอย่างอื่นซึ่งการที่ไม่บอกอะไรเลยนี่แหละ มักจะนำมาซึ่งการทะเลาะกันจนเป็นเรื่องราวใหญ่โตและเลิกรากันไปในที่สุด ถ้าให้ดีใส่ใจคนที่บ้านไว้ก่อนจะดีกว่า

การอยู่ร่วมกันไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความรู้สึกในจิตใจของคนสองคน หากเราอยู่ในข้อตกลง รู้จักเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกันชีวิตก็จะมีแต่ความสุข ใครๆก็จะอิจฉาคู่ของคุณแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติม

วางแผนให้เป๊ะตามนี้ พร้อมข้อควรรู้ก่อนคิดวางเงินเตรียมซื้อเรือนหอ

รู้ก่อนแก้ก่อน 7 เหตุสร้างความปั่นป่วนปัญหาเรื่องเงินที่คู่รักต้องระวัง

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/82573

cr : playbuzz.com, twoology.com, healthandtrend.com, goodenoughmother.com

7 เรื่องเล็กๆ ปัญหาชีวิตคู่ที่ส่งผลแรงถึงทรวงต่อชีวิตรักที่อาจทำให้ไปต่อไม่ได้

ชีวิตคู่เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน อย่าว่าแต่ปัญหาใหญ่ๆ อย่างแอบซุกกิ๊ก หรือไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันเลยที่จะทำให้คู่รักกลายเป็นคู่ร้าง แต่ปัญหาเล็กๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามก็ทำให้ชีวิตคู่พังได้เช่นกัน ซึ่ง ปัญหาชีวิตคู่ เล็กๆ ที่ว่านั้นจะเป็นเรื่องอะไรบ้าง เรากำลังจะบอกให้รู้กันค่ะ 

  • ไม่เป็นผู้ฟังที่ดี

การเป็นผู้ฟังที่ดีคือคุณสมบัติอันดับต้นๆ ของคนที่พร้อมจะใช้ชีวิตคู่ เพราะแน่นอนว่าคนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันก็ต้องอยากแบ่งปันเรื่องราวให้อีกคนรับรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้ายก็ตาม อีกทั้งการเป็นผู้ฟังที่ดียังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่มีต่อกัน ดังนั้นหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในชีวิตคู่ของคุณขาดคุณสมบัติข้อนี้ไป หรือเป็นผู้ฟังที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีแววว่าปัญหาจะเกิดแล้วล่ะค่ะ

  • ติดโซเชียลออนไลน์

การติดโซเชียลออนไลน์มากจนเกินไปเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็ก (แต่ไม่เล็ก) ของคนในสังคมยุคนี้ เพราะบางคนเลือกที่จะก้มหน้าก้มตาอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ จนลืมไปว่ามีคนข้างๆ รอที่จะพูดคุยเพื่อแบ่งปันเรื่องราวกับคุณอยู่ หรือบางคนก็เลือกที่จะแบ่งปันเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตให้สังคมออนไลน์ได้รับรู้ก่อน ซึ่งนั่นเป็นการจัดลำดับความสำคัญที่ผิดมหันต์ ดังนั้นหากไม่อยากให้ชีวิตคู่ต้องพัง จงวางโทรศัพท์หรือดับหน้าจอคอมพิวเตอร์ลงบ้าง แล้วหันมาทำกิจกรรมคู่รักให้ความรักหวานชื่นกันดีกว่า

  • ละเลยการช่วยเหลือกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ

การละเลยที่จะช่วยเหลือกันในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ความรักสั่นคลอนได้ เพราะสำหรับการใช้ชีวิตคู่นั้น น้ำใจเล็กน้อยที่หมั่นหยิบยื่นให้แก่กันช่วยกระตุ้นให้หัวใจกระชุ่มกระช่วยขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นหยิบน้ำเย็นๆ สักแก้วให้เขาดื่มในยามที่เขาเหนื่อยช่วยล้างจานชามในยามที่เธอไม่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับบางคู่ที่แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนว่าใครต้องทำอะไร การแอบช่วยเหลือกันในบางโอกาสก็ทำให้เขาแอบยิ้มกว้างได้เหมือนกัน

  • มองข้ามช่วงเวลาร่วมกันบนโต๊ะอาหาร

หลายคนกินข้าวคนเดียวจนเคยชิน หลายคู่มองข้ามช่วงเวลาร่วมกันบนโต๊ะอาหารไปอย่างน่าเสียดาย เพราะบางคนอาจคิดว่าต่างคนต่างกินก็ไม่เห็นจะเป็นไร หรือฉันหิวก่อนกินก่อนจะผิดตรงไหน  ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่มีกฎเกณฑ์ว่าถูกหรือผิด ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคน แต่เราแค่อยากจะบอกว่าช่วงเวลาบนโต๊ะอาหารเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาดีๆ ของคู่รัก เพราะนอกจากคุณจะได้กินข้าวร่วมกันแล้ว ยังได้ถือโอกาสในช่วงเวลานี้สำหรับแบ่งปันสารทุกข์สุขดิบต่อกันอีกด้วย

  • ไม่คิดถึงกัน

คิดถึงในที่นี้ไม่ได้หมายถึงความคิดถึงที่เกิดขึ้นในยามที่ต้องห่างไกลหรือไม่ได้เจอกัน แต่หมายถึงการไม่ลืมที่จะคิดถึงกันอยู่เสมอ เช่น ไปเดินตลาดแล้วเห็นของที่เขาชอบกินก็ซื้อมาฝาก เลือกซื้อของขวัญวันเกิดที่เธอจะได้ใช้ประโยชน์แน่ๆ แต่หากคุณจะทำอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องปรึกษาหรือบอกกล่าวต่อกันให้รับรู้ อย่างนี้แปลว่าคุณละเลยที่จะคิดถึงกัน ถ้าเป็นอย่างนั้นเมื่อไหร่ ต้องเริ่มเช็ครอยร้าวที่ขาเตียงแล้วล่ะค่ะ

  • ชอบต่างกัน

การมีความชอบหรือความสนใจที่แตกต่างกันเป็นเรื่องปกติที่ไม่ว่าคู่รักคู่ไหนๆ ก็เป็นกันทั้งนั้น เพราะเป็นเรื่องยากมากๆ ที่คนสองคนจะชอบอะไรเหมือนกัน แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ควรมองข้าม เพราะสำหรับบางคู่ความต่างอาจทำให้เกิดปัญหาสะสม ซึ่งหากมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะกลายเป็นความเบื่อหน่ายต่อกันในที่สุด ดังนั้นคู่รักที่มีปัญหาเรื่องความชอบที่ต่างกันควรเปิดใจคุยกัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับชีวิตคู่

  • มักพูดคำว่า “ใช่…แต่”

“ใช่…แต่” คำสั้นๆ ที่ส่งผลกระทบแรงๆ ต่อชีวิตคู่ได้ เพราะแสดงถึงการมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นต้นเหตุของการถกเถียงหรือทะเลาะเบาะแว้ง สำหรับบางคนมักพูดคำนี้จนติดปาก ทำให้อีกฝ่ายคิดว่าคุณไม่เคยเห็นดีเห็นงามกับเขาเลย เราก็พอจะเข้าใจนะคะว่าบางเรื่องคุณอาจมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันจริงๆ แต่ลองปรับเปลี่ยนคำพูดให้อ่อนโยนขึ้นสักนิด ก็จะทำให้คุณทั้งคู่สื่อสารกันได้ราบรื่นมากยิ่งขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม

เปลี่ยนด่วน! 4 นิสัยเห็นแก่ตัว ที่คุณหรือคนรักอาจเผลอทำที่ส่อเค้าทำรักพังไม่รู้ตัว

มีลูก กันเถอะ! คำชวนทำเอาอีกฝ่ายอึดอัด คู่ไหนยังเคลียร์เรื่องนี้ไม่ได้ มาดูทางออกเรื่องนี้กัน

https://praewwedding.com/love-and-relationships/80205

5 วิถีคนขี้กั๊ก ความรักไม่ชัดเจน ถ้าเจอแบบนี้ให้รู้ไว้เลยว่าคุณคือตัวเลือก

เคยไหมคะที่รู้สึกว่าคนที่คุยอยู่ด้วยจะชอบเราจริงไหม เพราะบางทีก็ดูเหมือนใส่ใจแต่บางทีก็ดูเหมือนเราไม่สำคัญ จนรู้สึกว่าเดาทางยากจัง ความรักไม่ชัดเจน เอาซะเลย แพรวเวดดิ้งว่าไม่แน่งานนี้คุณอาจกำลังเจอคนขี้กั๊กอยู่ก็ได้นะคะ แต่เพื่อความชัวร์ มาดูกันสิว่าพฤติกรรมแบบไหนบ้างที่เรียกว่ากั๊ก

  • มาเมื่อคุณหาย นิ่งเมื่อคุณตาม

คนขี้กั๊กจะไม่ทำอะไรแบบประจำๆ หรอกค่ะ พูดง่ายๆ คือเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเงียบๆ ไปจากการติดต่อกับเขาไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน เขาจะทักทายมาเสมอ ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบต่างๆ นานา แต่เมื่อคุณคุยด้วยดีๆ และกลับไปติดต่อเขาเหมือนเดิม เขาก็จะเริ่มนิ่งๆ ไม่สนใจจะตามคุณเหมือนตอนคุณเงียบ จนทำให้คุณรู้สึกว่า เห้ย! นี่มันยังไงอ่ะ แล้วที่ติดต่อมาคือไร พอเราติดต่อไปไหงดูไม่แคร์

  • เฉไฉตอบไม่ตรงคำถาม สุดท้ายต้องเดาเองไปเรื่อย

คนขี้กั๊กจะไม่มีทางเผยความรู้สึกหรือความจริงให้คุณได้รู้ทันอย่างแน่นอน ฉะนั้นฝันไปเถอะค่ะว่าเขาจะตอบคำถามนั่นนี่ที่คุณอยากรู้อย่างตรงไปตรงมา โดยเฉพาะความรู้สึกในใจของเขา แม้หลายคนที่อดรนทนไม่ไหวกับความไม่ชัดเจนแล้วตัดสินใจถามออกไปว่า คิดยังไงต่อกัน ก็ไม่เคยได้รับคำตอบใดๆ จะมีก็แต่ประโยคงงๆ ประเภทว่าจะคิดอะไรได้ไง ก็เรายังไม่ได้เป็นแฟนกัน? อ้าว…ข้ามขั้นตอนไปอีก แต่ไหนล่ะคือคำตอบในความรู้สึกที่มี จะรักไม่รัก ชอบไม่ชอบหรือดูท่าทีอยู่ก็พูดมาสิ จะให้เดาเองก็กลัวไม่ใช่ โอ๊ยยยอย่างนี้คืองงไปล่ะ

  • พยายามทำให้รู้สึกว่าใส่ใจเสมอ แต่แค่เฉพาะที่อยากทำนะ

คนขี้กั๊กจะทำให้คุณรู้สึกว่า เขาใส่ใจคุณอยู่นะ แต่ภารกิจชีวิตบางอย่างไม่สะดวกให้ทำได้เต็มที่ ฉะนั้นในวันสำคัญของคุณ เขาไม่เคยลืม แต่จะไม่มาปรากฎตัวทำเซอร์ไพร้ส์ให้ของหรือพาไปกินข้าวกันอย่างเปิดเผย จะมีแต่ยกหูมาอวยพรหรือส่งของมาให้ นั่นเพียงเพราะต้องการให้คุณรู้สึกว่าสำหรับเขาคุณก็สำคัญนะ แต่แบบว่าจำเป็นจริงๆ แต่ถ้าจะให้เราตีความในเรื่องนี้ก็คือ การปรากฏตัวคือการผูกมัดตัวอย่างอย่างหนึ่ง เป็นการยืนยันความจริงๆ ทางหนึ่งที่อาจทำให้คุณคิดไปไกล ซึ่งนั่นจะยากมากถ้าเขาไม่คิดจะกั๊กคุณต่อหรือแม้แต่จะจริงจังกับคุณในอนาคต

  • ทำทีว่าอยากเริ่มต้นแต่ไม่เริ่มสักที

คนขี้กั๊กหลายคนที่หล่อเลี้ยงหัวใจอีกฝ่ายด้วยการให้ความหวังว่าอยากเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ (แต่ไม่ระบุว่ากับใคร) จากนั้นมักให้เหตุผลว่าไม่สามารถทำได้สักทีเพราะยังลืมอดีตไม่ได้ ซึ่งคนที่มีหัวใจรักแสนบริสุทธิ์ก็จะรู้สึกเห็นอกเห็นใจและคิดหวังเอาเองว่า ไม่แน่นะ วันหนึ่งข้างหน้าเขาจะลุกขึ้นมายืนและเลือกฉันเป็นคำตอบ แต่คุณค่ะ เขาบอกแบบนี้กี่คนแล้วก็ไม่รู้เนอะ

  • ทำให้เกิดอาการเดาทางยากตลอดๆ

คอนเซ็ปต์ของคนขี้กั๊กคือ ทำอะไรก็ได้ให้คุณเดาทางยากเข้าไว้เขาจะไม่เผื่อสิ่งที่คิดหรือเหตุผลที่ทำให้คุณได้เข้าใจแบบชัดเจน เพราะเขาไม่ต้องการให้คุณเดาทางวิถีของได้ ก็แหมมมม ถ้าเดาได้ก็ไม่สนุกน่ะสิจริงไหม ทำอะไรให้ต้องเกิดอาการฉงนไว้ก่อนดีกว่า เวลาต้องพลิกลิ้นจะได้ไม่สะดุด

ถ้าอ่านถึงตรงนี้แล้วเกิดคำถามว่า แล้วเขาจะกั๊กคุณไว้เพื่ออะไร เพราะเขาไม่แน่ใจในตัวคุณหรือเปล่า เอาเถอะค่ะ ถ้าคิดแบบนั้นแล้วสบายใจก็ตามใจ แต่ แพรวเวดดิ้งอยากให้คุณคิดอีกด้านว่า บางทีที่เขากั๊กคุณไว้ก็เพื่อเปรียบเทียบกับตัวเลือกอื่นหรือเปล่า ไม่อย่างนั้น ทำไมไม่แสดงออกอะไรให้ชัดเจน เอาเป็นว่า เขาแค่วางกับดักกั๊กๆ ไว้แค่นี้ คุณก็งงจนตัดสินใจไม่ได้แล้วล่ะค่ะว่าจะอยู่กับเขาต่อหรือจะสละเรือไปลำอื่นดี เพราะถ้าชัดเจน คุณคงไม่ต้องมานั่งอ่านบทความนี้หรอกค่ะ จริงไหม

อ่านบทความเพิ่มเติม

7 เรื่องเล็กๆ ปัญหาชีวิตคู่ที่ส่งผลแรงถึงทรวงต่อชีวิตรักที่อาจทำให้ไปต่อไม่ได้

สารพัดเหตุและผลที่หลายๆ คนตัดสินใจเชิญแฟนเก่ามางานแต่ง

https://praewwedding.com/love-and-relationships/sex-and-relationship/56200

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : qygjxz, amightylove

รวมแบบชุดแต่งงานไทยแขนยาวทั้งไทยแท้-ไทยประยุกต์ ธีมงานแต่งแบบไหนใส่ก็สวย

แบบ ชุดแต่งงานไทยแขนยาว ที่ว่าที่เจ้าสาวน่าใส่ตามสุดๆ

ชุดแต่งงานไทยแขนยาว เป็นอีกหนึ่งแบบชุดไทยที่เจ้าสาวหลายคนนิยมสวมใส่ เพราะเป็นชุดที่ดูเป็นทางการและสวยหรู แถมยังมีดีไซน์ที่หลากหลายทั้งไทยแท้และไทยประยุกต์ ชอบแบบไหนก็เลือกใส่ให้เหมาะกับธีมงานและความชอบได้เลย

ชุดไทยบรมพิมาน

ใช้ในพิธีตอนค่ำ ตั้งชื่อตามพระที่นั่งบรมพิมาน เป็นเสื้อคอกลม ขอบตั้ง แขนยาว เข็มขัดใช้ยกผ้าไหมหรือยกทอง  เป็นชุดติดกัน ซิ่นมีจีบข้างหน้า ยาวจรดข้อเท้า ที่ชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด ชุดชนิดนี้เป็นชุดที่เจ้าสาวนิยมใช้ใส่ในการเข้ารับพระราชทานน้ำสังข์ หรือพิธีรดน้ำสังข์  สามารถสวมสร้อยคอ ต่างหู สร้อยข้อมือและเกี้ยวประดับผมร่วมด้วยได้ สมรสพระราชทาน มีพิธีสงฆ์

ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Coco Chic Wedding


ชุดไทยศิวาลัย

ใช้ผ้ายกไหมหรือยกทอง ด้านหน้ามีชายพก ใช้เข็มขัดไทยคาด ตัวเสื้อแขนยาว คอกลม ตัวเสื้อตัดติดกับซิ่นคล้ายแบบไทย บรมพิมาน แต่ห่มผ้าปักลายไทย เจ้าสาวของไทยมักนิยมใส่ชุดนี้ในพิธีรดน้ำสังข์หรือพิธีเลี้ยงฉลองในตอนค่ำ มักประดับด้วยเครื่องประดับทอง มีพิธีสงฆ์

ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Vanus Couture

ถ้างานของคุณมีพิธีสงฆ์ด้วยก็ยิ่งควรแต่งกายให้เรียบร้อยมิดชิด เช่น ชุดไทยบรมพิมานชุดไทยศิวาลัย (คล้ายชุดไทยบรมพิมานแต่ห่มสไบทับอีกชั้น) หรือชุดไทยประยุกต์ที่ท่อนบนเป็นเสื้อลูกไม้ท่อนล่างเป็นผ้าถุง ไม่แนะนำให้ใส่สไบเปิดไหล่เห็นเนินเนื้อแต่ถ้าอยากใส่จริงๆ ควรเปลี่ยนใช้ในช่วงรดน้ำ

ความยาวของแขนเสื้อ  

ต่อมาคือความยาวของแขนเสื้อสำหรับชุดไทยที่เป็นแขนกระบอกอย่าง ชุดไทยบรมพิมาน ชุดไทยศิวาลัย ซึ่งทั้งหมดนี้ความยาวของแขนเสื้อจะอยู่ในระดับข้อมือ

ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Vanus Couture

 

แบบชุดแต่งงานไทยแขนยาวที่น่าใส่ตามสุดๆ แพรว wedding รวมชุดเด็ดๆ มาให้แล้วค่า

ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน วสันต์ ชุดไทย Wasan Shudthai
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Deep Love Wedding
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Deep Love Wedding
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Coco Chic Wedding
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดร้าน Smile In Love & Wedding Studio
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน Bobo Studio
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน เจ้านางเวดดิ้ง
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดจากร้าน เรือนวิวาห์ ชลบุรี
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว
ชุดแต่งงานไทยแขนยาว จากร้าน Vanus Couture

>> ดูแบบชุดแต่งงานและชุดไทยเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<<