สารพัดเรื่องที่บุพการีและญาติผู้ใหญ่ควรรู้เมื่อลูกหลานจะแต่งงาน

เคยได้ยินคำบ่นมากมายจากบ่าวสาวที่ผ่านประตูวิวาห์มาแล้วว่าช่วง แต่งงาน เนี่ย ทำให้รู้อิทธิฤทธิ์บุพการีมากกว่าที่เคยรู้ เพราะบางบ้านก็จุกจิกใส่ใจเกินเหตุ บางบ้านปล่อยเบลอมาตลอดแต่มาวุ่นวายเอาตอนวันใกล้งาน แบบนี้ ความเครียดที่บ่าวสาวมีในช่วงนั้นยิ่งทวีคูณสิคะ

แต่แหม…ทำไงได้ละ ก็การ แต่งงาน เป็นเรื่องของสองครอบครัวนี่นา จะให้ผู้หลักผู้ใหญ่วางเฉยไปก็กระไรอยู่ แพรวเวดดิ้งจึงสรุปมาให้ว่า มีเรื่องไหนบ้างที่บ่าวสาวเคยเจอและบ่นกันมากๆ และอยากให้บุพการีและญาติผู้ใหญ่รู้ถึงความในใจ เมื่อถึงเวลาช่วยลูกหลานจัดงาน จะได้เจอกันตรงกลางแบบไม่มีขัดแย้งไงละคะ

1. อย่ารีบเชิญแขกโดยไม่ปรึกษาบ่าวสาว

เรื่องนี้บ่อนกันมาอันดับหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะหลังจากที่คุณพ่อคุณแม่ทราบข่าวดีของลูกๆ แล้ว ขอนะคะว่าอย่าตื่นเต้น รีบโทรศัพท์ไปเชื้อเชิญทุกคนที่คุณรู้จัก รอให้ได้ฤกษ์วันดีที่แน่นอนซะก่อน แล้วค่อยมาคิดและปรึกษากันว่าจะจัดงานใหญ่แค่ไหน เชิญแขกกี่คน และเชิญใครบ้าง

2. จะช่วยออกค่าจัดงานก็ต้องชัดเจนกันนิดนึง

เรื่องเงินก็ต้องคุยค่ะ เพราะถ้าเกิดคุณพ่อคุณแม่ใจดีอยากช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่าย ตรงนี้ก็อย่าขัดใจ แต่สิ่งที่อยากให้โฟกัสก็คือท่านจะออกเงินให้ในส่วนไหนและเท่าไหร่บ้าง รบกวนคุณพ่อคุณแม่ชี้แจงความใจดีนี้ให้ละเอียดค่ะ บ่าวสาวเขาจะได้จัดสรรปันส่วนงบประมาณได้ลงตัว

3. อย่าพูดเปรียบเทียบ

ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะไปเห็นงานแต่งของลูกเพื่อน หรือได้รับเชิญไปงานแต่งของใครก่อนหน้านี้ก็ตาม อย่าได้นำมันมาพูดเปรียบเทียบว่า ทำแบบนั้นสิดีกว่า ทำแบบนี้สิดีกว่า งานนู้นสวยอย่างนั้น งานนั้นสวยอย่างนี้ ให้ถือคติว่า งานแต่งใครงานแต่งมัน บ่าวสาวเขาชอบแบบนี้ก็ควรจะสนับสนุนการตัดสินใจของลูกๆ ให้เต็มที่เนอะ

 4. ทำหน้าที่เป็นผู้รักษาความสงบ

ถ้าแขกที่คุณพ่อคุณแม่เชิญมาเกิดมีเซอร์ไพร้ส์แบบที่ว่าคนนั้นไม่ถูกกับคนนี้ คุณป้าคนนั้นไม่ชอบคุณน้าคนนี้ ก็คงต้องรบกวนคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นผู้ใหญ่ช่วยดูแลความสงบนิดนึงนะคะ อย่าให้พวกท่านมีปากเสียงกันกลางงาน ไม่อย่างนั้นงานคงกร่อย และไม่สนุกแน่ๆ

5. เป็นกำลังใจให้ลูกๆ เสมอ

เชื่อเถอะค่ะว่าระหว่างเตรียมงานแต่งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะต้องเครียดกันแน่นอน ในฐานะของคนเป็นพ่อแม่และรักลูกไม่แพ้ใครๆ เราอยากแนะนำว่า ลองอ้าแขนกอดคุณลูกแน่นๆ และให้กำลังใจเขาทั้งคู่นะคะ เขาจะได้มีแรงเตรียมวันสำคัญในชีวิตให้ดีและสวยงามตามที่เขาต้องการ

6. แม่เจ้าบ่าว แม่เจ้าสาว ต้องเป็นทีมเดียวกัน!

งานนี้ทั้งสองแม่จะมาเปิดศึกใส่กันเองไม่ได้นะคะ ต้องเป็นทีมเดียวกันค่ะ ทำความสนิทกันเข้าไว้ บ่าวสาวเขาจะได้มีกำลังใจและมีความสุขในวันแต่งงานของเขาเนอะ แพรวเวดดิ้งเคยเห็นคุณแม่เจ้าบ่าวและคุณแม่เจ้าสาวช่วยกันเลือกชุด เลือกดอกไม้ คุยกันถูกปากถูกคอ งานนั้นเจ้าบ่าวเจ้าสาวยิ้มหน้าบานเลยจ้า

7. “ถ้าเป็นงานแต่งแม่/พ่อ แม่/พ่อจะ…”

เอิ่ม… เจอประโยคนี้บางทีบ่าวสาวก็ไปไม่ถูกนะคะ เอาเป็นว่าให้อิสระในการตัดสินใจเลือกสิ่งที่เขาต้องการละกันเนอะ (แต่ถ้าพ่อแม่เป็นสปอนเซอร์ใหญ่อันนี้บ่าวสาวต้องคิดหนักหน่อย) เพราะนี้ก็เป็นวันสำคัญของชีวิตลูก ครั้งหนึ่งในชีวิตลูกก็อยากจะได้งานที่ตัวเองชอบและสะท้อนสไตล์ของบ่าวสาว เพราะฉะนั้นให้ถือคติที่ว่า “ลูกว่าดีแม่ก็ว่าดีค่ะ!”

Cr. Pinterest

8. อย่าจู้จี้จุกจิก

เราเชื่อว่า ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวทุกคนคงเตรียมพร้อมและเตรียมการสำหรับงานแต่งมาเป็นอย่างดีแล้วค่ะ ฉะนั้นขอให้คุณพ่อคุณแม่วางใจหายห่วง ไม่จำเป็นต้องจู้จี้จุกจิก คอยเตือนเรื่องนั้นเรื่องนี้กับบ่าวสาวเช้าค่ำนะคะ เดี๋ยวพวกเขาจะอึดอัด พาลให้รู้สึกหงุดหงิดเอาได้ ถ้าเป็นห่วงจริงๆ ลองเตือนกันเป็นรายอาทิตย์ หรือถามความคืบหน้าของการเตรียมงานจะดีกว่าค่ะ

9. ผู้ปราบ Bridezilla และ Groomzilla

ลูกเรา เราเลี้ยงมา เราก็ต้องรู้จักเขาดีที่สุดใช่ไหมละคะ เพราะฉะนั้นแพรวเวดดิ้งอยากบอกว่า เมื่อไหร่ที่ว่าที่บ่าวสาวเริ่มจะออกอาการเหวี่ยงวีน ไอ้นั่นก็ไม่ดี ไอ้นี่ก็ไม่ได้ดั่งใจ และกำลังจะแปลงร่างเป็น Bridezilla หรือ Groomzilla จนเพื่อนฝูงไม่สามารถทัดทานได้ รบกวนคุณพ่อคุณแม่ช่วยเอาน้ำเย็นเข้าลูบให้เขาใจเย็นลงทีนะคะ สถานการณ์จะได้กลับมาปกติ

10. ปล่อยวางได้ก็ควรปล่อยวางนะคะ

เราเชื่อว่า 90% ของคุณพ่อคุณแม่บ่าวสาวคงไม่ได้ชอบทุกสิ่งอย่างที่มีในงานแต่งหรอกคะ บางท่านก็ไม่ชอบดอกไม้ บางท่านก็ไม่ชอบธีมสี บางท่านก็บอกว่าตรงนั้นไม่สวย หรือทำไมชุดเจ้าสาวดูโป๊จัง แต่ค่ะแต่! เพื่อความสุข ความสบายใจ และเพื่อรอยยิ้มในวันสำคัญของลูกเรา ถ้าอะไรมันเล็กๆ น้อยๆ ปล่อยวางได้ก็ควรทำ ที่สำคัญอย่าเก็บเอาไปบ่นให้คนอื่นฟัง ลูกๆ รู้เข้าจะเสียใจนะ

11. เตือนสติลูกเสมอ

หลายๆ ครั้งที่บ่าวสาวกระทบกระทั่งกันเองระหว่างเตรียมงาน คนที่เขาเลือกจะเล่าปัญหาให้ฟังก็คงหนีไม่พ้นคุณพ่อคุณแม่แน่นอน หากว่าปัญหามันรุนแรงเราอยากจะให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยเตือนเขาสักนิดว่า เขาทั้งคู่แต่งกันเพราะอะไร และอย่าให้ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มาทำลายความตั้งใจและความรักของเขาสองคนเด็ดขาด

Cr. http://thebigfatjewishwedding.com

12. มีความสุขกับวันพิเศษ

แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่ต่างก็เคยผ่านวันสำคัญอย่างนี้มาแล้ว แต่เชื่อเถอะค่ะว่าความรู้สึกมันไม่เหมือนกันแน่นอน แพรว Wedding อยากให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุขกับทุกวินาทีในวันสำคัญของลูก จดจำทุกโมเม้นต์ภายในงาน เพราะนี่ก็เป็นอีกครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณจะเก็บเป็นความทรงจำตลอดไป

13. อย่าเอาแต่จ้องจับผิดคนทำงาน

คนทำงานในที่หมายถึงทีมงานทุกคนค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเวดดิ้งแพลนเนอร์ นักดนตรี คนจัดดอกไม้ หรือช่างภาพ ควรปล่อยให้เขาทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ต้องคอยไปดูว่าเขาจะทำอะไร ถูกใจไหม ดีหรือเปล่า จะเปิดเพลงอะไร จัดดอกไม้เป็นยังไงบ้าง เชื่อเรานะคะว่าพวกเขาคือผู้เชี่ยวชาญ ทุกอย่างจะต้องออกมาดี ถ้ายังเป็นห่วงแนะนำว่าว่าคอยดูห่างๆ ก็ได้ แต่ถ้าเขาขอความช่วยเหลือก็ค่อยว่ากันอีกทีนะ

14. เตรียมบทพูดซึ้งๆ ให้กับลูก

เชื่อค่ะว่าคุณพ่อคุณแม่คงมีหลายสิ่งหลายอย่างอยากจะบอกบ่าวสาวแน่นอน เพื่อเป็นการกันลืมก็ต้อง “จด” ค่ะ อยากพูดอะไร อยากบอกสิ่งไหน จะฝากฝังลูกสาวกับว่าที่ลูกเขยอย่างไรก็หยิบปากกาขึ้นมาเขียนโลด แล้วก็คิดไว้ด้วยว่าจะพูดตอนไหน บนเวที หรือในห้องส่งตัวแบบบรรยากาศครอบครัว รับรองว่านี่ต้องเป็นอีกช่วงเวลาที่ซึ้งกินใจแน่ๆ เลย ที่สำคัญไม่ควรจะยาวเกินไป เพราะนอกจากบ่าวสาวจะจำไม่หมดแล้ว คนอื่นๆ ในพิธีอาจจะไม่อินไปกับเราก็ได้

ทั้งหมดที่ว่ามานี้ไม่ได้ยากเกินฝีมือคุณพ่อคุณแม่ใช่ไหมคะ ลองนำไปทำตามดูเผื่อว่างานแต่งครั้งนี้จะได้มีความสุขกันทั้งพ่อ แม่ ลูกเนอะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

คิดจะแต่งงานกันทั้งที 5 เรื่องต่อไปนี้ต้องคุยกันให้ดีก่อนแต่งงาน

เช็กเลย 10 พฤติกรรมที่ทำให้เดทแรกของหนุ่มๆ สาวๆ แป้กไม่เป็นท่า

https://praewwedding.com/love-and-relationships/29506

ภาพเปิด : www.easyweddings.com.au

Recommended