นิตยสารแพรว Wedding ฉบับเดือน พ.ย. 63 สวยเต็มตา 4 ปก 4 นางเอกระดับท็อป

แพรว Wedding ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2563 มีทั้งความสวยหวานและเซ็กซี่ กับแฟชั่นชุดแต่งงานทั้งชุดไทยและสากล แถมสาวๆ 4 คนขึ้นปก 4 สไตล์ พร้อมสาระความรู้คู่การเตรียมงานแต่งมากมาย

“แต้ว – เบลล่า” & “ตั๊ก – จั๊กจั่น” สวยปังเลอค่า 4 ปก 4 สไตล์ใน นิตยสารแพรว Wedding ฉบับ พ.ย. 2563

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่กำลังเตรียมงานแต่งปีหน้าหรือมีแพลนว่าจะสละโสดแน่นอนต้องมีนิตยสารแพรว Wedding ฉบับนี้เก็บไว้ในมือ เพราะนอกจากจะจัดเต็มชุดเจ้าสาวทั้งชุดไทยและชุดสากลกว่าร้อยชุดให้คุณได้ดูและเก็บเป็นอินสไปเรชั่นในใจ ยังมีคอลัมน์สเปเชี่ยล Best of Praew Wedding 2020 รวมแบรนด์ที่ดีที่สุดในวงการแต่งงานปีนี้!

แพรวเวดดิ้งฉบับบนี้จัดเต็มความสวยสุดปังของเหล่านางเอกทั้ง แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์, ตั๊ก – บงกช คงมาลัย, เบลล่า – ราณี แคมเปญ และ จั๊กจั่น – อคัมย์สิริ สุวรรณศุข แล้ว ยังมีดาราสาวสวยอีกหลายท่านที่เฉิดฉายในแฟชั่นชุดแต่งงาน อาทิ

  • ดาว – พิมพ์ทอง วชิราคม
  • นาว – ทิสานาฏ ศรศึก
  • คารีสา สปริงเก็ตต์
  • เฌอเอม – ชญาธนุส ศรทัตต์
  • เกรซ – กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า

นอกจากนี้ยังอัดแน่นคุณภาพเนื้อหาจำเป็นสำหรับการเตรียมตัวเป็นว่าที่เจ้าสาวในวันสำคัญ

  • Fashion Trend ชุดแต่งงานเจ้าสาวยุคใหม่ ฮิตยาวๆ ไปถึงปี 2021
  • แฟชั่นเครื่องประดับสำหรับเจ้าสาว เสริมลุควิบวับๆ
  • เปิดไทม์ไลน์ เตรียมสวยสำหรับเจ้าสาวสายจัดเต็ม ใครจะร้อยไหม หาหมอ กรอผิวหน้า ฉีดฟิลเลอร์ ต้องมาดู!
  • New Norm for Wedding เคล็ดลับจัดงานแต่งยุคใหม่ สู้โควิด-19
  • Perfect Place for Wedding สถานที่จัดงานโดนใจ อยากได้ที่แบบไหนมาดู!
  • สเน่ห์ชุดแต่งงานไทย จับคู่สีสันแพรไหมเสริมความมงคลให้เจ้าสาว
  • พิเศษสุด Best of Praew Wedding 2020 หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว

แต้ว – ณฐพร & เบลล่า ราณี

นิตยสารแพรว Wedding

นิตยสารแพรว Wedding

จั๊กจั่น – อคัมย์สิริ & ตั๊ก – บงกช

นิตยสารแพรว Wedding

นิตยสารแพรว Wedding

ว่าที่บ่าวสาวคนไหนกำลังมองหาชุดที่ใช่ สถานที่ที่ชอบ ชอบของสวยๆ งามๆ ทั้งชุดเจ้าสาวและเครื่องเพชร สามารถสั่งซื้อนิตยสารแพรวเวดดิ้งได้ที่ร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านหนังสือชั้นนำทั่วประเทศ สำหรับใครที่พรีออเดอร์ไว้แล้ว นั่งรอสวยๆ อยู่ที่บ้าน เดี๋ยวนิตยสารจะไปส่งถึงที่แน่นอน สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ ร้านนายอินทร์ หรือติดต่อแผนกสมาชิกนิตยสาร โทร. 02-423-9999 กด 1

5 วิธีแก้ปัญหาคู่รัก คิดต่างทางการเมือง คุยกันแบบไม่ทำให้รักเราพัง

ช่วงนี้การเมืองบ้านเราค่อนข้างร้อนระอุ! มีม็อบไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดคนใกล้ตัวก็เริ่มบ่นออกมาบ้างแล้วว่า เธอกับแฟนมีความ คิดต่างทางการเมือง มีความเห็นไปคนละทาง เปิดข่าวหรือเปิดประเด็นคุยกันเรื่องนี้ไม่ได้เลย จนตอนนี้เริ่มจะรู้สึกอึดอัดซะแล้ว!

ทำอย่างไรเมื่อเรากับแฟน คิดต่างทางการเมือง

คิดต่างทางการเมือง
Photo by Samantha Sophia on Unsplash

จริงๆ แล้วเรื่องที่คู่รักมีความเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองไม่เหมือนกันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ขนาดพ่อ แม่ ลูก ญาติ พี่ น้อง ยังคิดต่างกันก็มีถมเถไป แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะไม่เลิกกันเพราะเรื่องการเมือง! งั้นไปดูว่าจะทำอย่างไรให้รักเรายังอยู่ได้โดยที่เชียร์ขั้วการเมืองคนละฝ่าย

คิดต่างทางการเมือง
Photo by Ketut Subiyanto from Pexels

1. ต้องเปิดใจฟัง แลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วยเหตุผล

คิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร เพราะต่างคนถูกเลี้ยงกันมาคนละแบบ โตมาในสังคมคนละอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ เปิดใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายคิด ตรองดูเหตุผลที่เขาเล่ามา ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งที่ไม่เห็นด้วย ก็ควรใจเย็นๆ แย้งกันด้วยเหตุผลของแต่ละฝ่าย ที่สำคัญคือ อย่ายัดเยียดความคิดในแบบเราให้เขาเด็ดขาด การบังคับว่าเธอต้องเชื่อฉันสิ แบบนี้รังแต่จะทำให้ยิ่งทะเลาะกันเปล่าๆ

คิดต่างทางการเมือง
Photo by cottonbro from Pexels

2. เมื่อเริ่มมีอารมณ์โกรธ ให้รีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการคุยเรื่องการเมืองกับคนเห็นต่างมักสร้างความหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อไหร่ที่รู้สึกตัวว่าเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น กระแทกคำเน้นย้ำมากขึ้น หัวเริ่มร้อนเหมือนน้ำกำลังจะเดือด คงถึงเวลาหยุดคุยกันแล้ว ถ้าดูข่าวอยู่ให้เปลี่ยนช่องไปเลย ไปดูหนัง Netflix ดูละคร ฟังเพลง หรือจะไปทำกิจกรรมอย่างอื่นก็ได้ ซักผ้า กวาดบ้าน ออกไปกินข้าวด้วยกันเลยยิ่งดี แล้วก็รูดซิปปากเรื่องการเมืองด้วย แมตช์นี้พักไว้ก่อน ไว้ค่อยต่อคราวหน้านะ

คิดต่างทางการเมือง
Photo by cottonbro from Pexels

3. หาจุดร่วมตรงกลางให้ได้

อันนี้สำคัญเหมือนกัน เพราะเรื่องการเมืองโดยเฉพาะทุกวันนี้มีประเด็นละเอียดอ่อน คุยโต้แย้งความคิดเห็นกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะพูดได้ทุกเรื่อง ถ้าจะเปิดใจคุยเรื่องการเมืองกันแล้ว บอกคู่สนทนาไว้ก่อนเลยว่า ประเด็นนี้อ่อนไหว ไม่พูดได้ไหม ขอคุยประเด็นอื่นแทน วิธีนี้น่าจะช่วยให้ทั้งคนพูดคนฟังสะดวกใจมากขึ้น

คิดต่างทางการเมือง
Photo by Gabby Orcutt on Unsplash

4. คิดไว้เสมอว่าความสัมพันธ์เราแน่นแฟ้นกว่าเรื่องการเมือง

แน่นอนว่าคู่รักหลายคู่เริ่มคบหากันก่อนจะมีเรื่องร้อนแรงทางการเมืองซะอีก อยากให้ทุกคนที่คิดต่างจากคนรักพึงระลึกไว้เสมอว่า ต่อให้ประเทศเปลี่ยนนักการเมืองไปอีกกี่ชุด แต่คู่ชีวิตของคุณจะยังเป็นคนนี้คนเดิมแน่นอน อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากมาย จะให้พังเพราะการเมืองไม่ได้!

คิดต่างทางการเมือง
Photo by Kristina Flour on Unsplash

5. เลี่ยงหัวข้อสนทนาทางการเมือง

ถ้าสุดท้ายต่างคนต่างหนักแน่นในความคิดของตัวเอง เริ่มคุยทีไรก็คล้ายว่าบรรยากาศจะมาคุ ทางออกสุดท้ายคงต้องเลี่ยงคุยเรื่องนี้ดีกว่า โฟกัสแค่เรื่องราวใกล้ตัวของเรา วันนี้งานหนักไหม? เหนื่อยไหม? พรุ่งนี้ไปไหนกันดี? มื้อนี้อยากกินอะไร? สารพัดเรื่องราวที่พูดคุยกันได้ก็สรรหามาคุยเถอะ ทิ้งเรื่องการเมืองไว้นอกประตูบ้าน แต่ถ้าออกจากบ้านเมื่อไหร่อยากจัดเต็มแชร์ความคิดกับคนคอเดียวกันก็ได้เลย!

ใครที่มีแฟนที่คิดเห็นทางการเมืองเหมือนกัน แพรวเวดดิ้ง ก็ขอกด 99 สาธุบุญด้วย ส่วนใครที่มีคู่คิดต่างก็ต้องหาทางลงให้ดี คุยได้ก็คุย คุยไม่ได้ก็เลี่ยง เอาความรักของเราไว้ก่อน เพราะต่อให้เปลี่ยนนายกฯ อีกสักกี่คน แต่คนรักของเราก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ดี!

สามารถติดตามเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่รักในทุกแง่มุมได้ที่นี่ >>  กดเลย

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

โปรโมชั่นงานแต่งงาน สุดคุ้มเพื่อบ่าวสาว และของแถมสุดว้าวจาก โรงแรมปรินซ์พาเลซ

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนเพิ่งตกลงปลงใจ Say Yes! และกำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานและ โปรโมชั่นงานแต่งงาน แบบพร้อมสรรพ ครบครัน แถมราคาสบายกระเป๋า โรงแรมปรินซ์พาเลซ ขอมอบประสบการณ์ดีๆ พร้อมความเป็นมืออาชีพเพื่อสร้างงานวิวาห์ในฝันของคุณให้เป็นจริง

โรงแรมปรินซ์พาเลซ จัดเต็ม โปรโมชั่นงานแต่งงาน สุดคุ้ม พร้อมของแถมสุดว้าว!

โปรโมชั่นงานแต่งงาน

ตอบโจทย์ทุกความรักด้วยแพ็กเกจงานแต่งงานที่คุ้มค่า มาพร้อมทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์การจัดงานวิวาห์ พร้อมเนรมิตวันสำคัญแบบครบทุกอย่างโดยที่คุณไม่ต้องกังวล ในราคาแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 250,000 บาท (สำหรับแขกจำนวน 250 – 300 ท่าน) โดยคู่รักจะได้ ฟรี Flower Backdrop ไซส์ M, ช่อบูเกต์สำหรับเจ้าสาว, เครื่องฉาย LCD Projector, ห้อง Honeymoon One Bedroom Suite 1 คืน พร้อมอาหารเช้า, ห้อง Superior สำหรับญาติ 1 คืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน และอื่นๆ อีกมากมาย

แพ็กเกจดีๆ แบบนี้ว่าที่บ่าวสาวคนไหนที่อยากนัดหมายปรึกษากับทีมงานเวดดิ้งเซลล์ของทางโรงแรม หรืออยากขอรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 02-681-1111 ต่อ 1256 หรือทางอีเมล [email protected] และทางไลน์ไอดี @princepalacehotel

ติดตามข่าวสารแวดวงงานวิวาห์ สถานที่ และโปรโมชั่นดีๆ อีกมามาได้ที่ Praewwedding.com

แฟนทิ้งแล้วไง!? คุณหมอบราซิลแต่งงาน กับตัวเองก็ได้ รักตัวเองสำคัญที่สุด!

เจ้าบ่าวสุดหล่อ Dr. Diogo Rebelo อายุ 33 ปี คุณหมอบราซิลแต่งงาน คนเดียวแต่ไม่เดียวดาย เพราะงานนี้มีเพื่อนพ้อง ญาติ พี่ น้อง มากมายมาร่วมยินดีในงานแต่งงาน แต่อย่าถามหาคนรักอีกคน! เพราะนางเทคุณหมอจนทำให้เขาต้องแต่งงานกับตัวเอง!

ถึงจะโดนคู่หมั้นเท แต่ คุณหมอบราซิลแต่งงาน คนเดียวกับตัวเองก็ได้!

หมอบราซิลแต่งงาน

The love must go on เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศบราซิล โดยคุณหมอดิโอโกสุดหล่อขอแต่งงานและหมั้นกับคนรัก Vitor Bueno ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อน และมีแผนว่าจะแต่งงานกันในปี 2020 แต่แล้วเรื่องกลับตาลปัตร หลังจากมีปากเสียงกันหลายต่อหลายครั้ง เขาก็ถูกคนรักบอกเลิกในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ก่อนถึงกำหนดวันแต่งงานเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น!!

หมอบราซิลแต่งงาน

งานนี้คุณหมอดิโอโกเลยต้องเข้มแข็งเดินเข้าประตูวิวาห์เพื่อแต่งงานกับตัวเองในวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ รีสอร์ทแห่งหนึ่งในเมือง Itacare, Bahia ประเทศบราซิล โดยกล่าวกับแขกเหรื่อคนสนิทที่มาร่วมงานว่า

“วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่มีความสุขมากที่สุดในชีวิต ผมได้ยืนอยู่กับกลุ่มคนที่ผมรักมากที่สุด งานวันนี้เกือบจะต้องกลายเป็นความโศกเศร้า แต่สุดท้ายผมก็เปลี่ยนมันเป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ผมใช้เวลาครุ่นคิดกว่าหนึ่งเดือนเกี่ยวกับงานแต่งงานครั้งนี้ แล้วผมก็ตัดสินใจว่า ผมต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และกลับมารักตัวเอง…”

หมอบราซิลแต่งงาน

สุดท้ายคุณหมอดิโอโกก็ตัดสินใจเดินหน้าจัดงานแต่ง โดยมีแขกร่วมให้กำลังใจกว่า 40 คน (จากที่เชิญไป 50 คน) งานนี้คุณหมอสุดหล่อกล่าวถึงเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นและโพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง กลายเป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลและมีคนเข้าไปให้กำลังใจคุณหมอกันแบบไม่ขาดสาย

หมอบราซิลแต่งงาน

แพรวเวดดิ้งคิดว่า ถึงแม้ในเวลาที่โศกเศร้าจากความรัก เราต้องอดทนและผ่านไปให้ได้ พร้อมกับการรักตัวเองและคนรอบข้างให้มากขึ้น เหมือนกับคุณหมอดิโอโกคนนี้

ติดตามเรื่องราวความรักและภาพงานแต่งอีกมากมายได้ที่ Real Weddings

ข้อมูลจาก : www.republicworld.com, gotravelblogger.com

ภาพจาก (Photo Credit) : drdiogorabelo

อยากให้เบบี๋มาไวทันใจต้องทำการบ้าน ท่าไหนท้องง่ายสุด

คู่รักข้าวใหม่ปลามันที่กำลังพยามยามปั๊มลูก อยากมีเจ้าตัวน้อยไวๆ แต่พยายามเท่าไหร่ก็เหมือนว่าเจ้าอสุจิยังวิ่งไปหาไข่ไม่เจอสักที! คราวนี้คงต้องหาตัวช่วย แพรวเวดดิ้ง มี 3 ท่าร่วมรักช่วยผลักสเปิร์มไปถึงไข่ 5 ท่านี้เบบี๊มาเร็วสุด ท่าไหนท้องง่ายสุด

อยากมีเจ้าตัวน้อยไวๆ มาดูว่า ท่าไหนท้องง่ายสุด

 

ท่าที่ 1 Basic เมคชัวร์

ท่าไหนท้องง่ายสุด
Picture by surecheck.info

คู่รักหลายคนชอบข้ามท่าเบสิกอย่าง “มิชชันนารี” เพราะคิดว่ามันไม่เร้าใจ แต่จริงๆ แล้วตำแหน่งผู้หญิงอยู่ล่าง ผู้ชายออนท็อป ท่านี้นี่แหละที่เจ้ามังกรจะลอดถ้ำเข้าไปได้ดีสุด! ยิ่งถ้าเป็นมังกรตัวยาวก็จะยิ่งลึกไปถึงมดลูกได้ดี ส่งแรงผลักให้อสุจิไปถึงไข่ได้เร็วขึ้น ลดปัญหาเรื่องอสุจิอ่อนแอว่ายไม่ไหวจากความเป็นกรดด่างในช่องคลอดได้

ท่าที่ 2 Legs on Shoulders ยกขาพา (สเปิร์ม) วิ่ง

ท่าไหนท้องง่ายสุด
Picture by www.womenshealthmag

ท่าที่จะช่วยให้ตำแหน่งของมังกรกับปากมดลูกเข้าไปลึกและใกล้กันมากที่สุด โดยเฉพาะองศาการยกสะโพกขึ้นสูง ทำให้อสุจิไหลลงสู่มดลูกได้ง่ายตามหลักของแรงโน้มถ่วงโลก

ท่าที่ 3 ประกอบร่างเป็นกรรไกร

ท่าไหนท้องง่ายสุด
Picture by www.womenshealthmag

เพิ่มความยากขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ ท่านี้ให้คุณผู้หญิงอยู่ข้างล่าง ตะแคงช่วงล่างไปข้างใดข้างหนึ่ง ยกขาขึ้นให้คุณผู้ชายสอดเข้ามาตรงกลาง อาจเมื่อยบ้างนิดหน่อย ท่านี้ช่วยลดระยะทางระหว่างสเปิร์มกับมดลูกให้สั้นลง ลดเวลาการวิ่งเข้าหาไข่ของสเปิร์ม

ท่าที่ 4 Wheelbarrow แข็งแรงจัดไป

ท่าไหนท้องง่ายสุด
Picture by www.womenshealthmag

ท่ายากระดับแอดวานซ์ แต่ตอนเริ่มทำง่ายๆ ด้วยการให้ผู้หญิงนอนคว่ำ แล้วผู้ชายสอดใส่จากข้างหลัง พอเข้าที่เข้าทางแล้ว จากนั้นคุณสามีต้องยืนขึ้น แต่จะยืนบนพื้นหรือบนเตียงขึ้นอยู่กับแรงที่คุณสองคนมีและรสนิยมส่วนตัว แล้วค่อยใช้พลังแขนจับขาภรรยาแล้วยกขึ้นมา ส่วนภรรยาต้องใช้แรงแขนค้ำร่างเอาไว้กับพื้นเตียง บอกเลยว่าท่านี้มังกรจะเข้าได้ลึกมาก ตรงมาก และใกล้กับปากมดลูกได้มากที่สุด

ท่าที่ 5 ขี่ม้ากลับหลัง

ท่าไหนท้องง่ายสุด
Picture by www.womenshealthmag

ท่านี้สำหรับผู้หญิงที่อยากเป็นคนควบคุมจังหวะเกมรัก ทำไม่ยากเลยค่ะ แค่ให้เขานอนราบแล้วคุณผู้หญิงขึ้นนั่งคร่อม หันหลังให้กับสามี มุมองศาการสอดใส่ของท่านี้จะอยู่ในตำแหน่งที่พอเหมาะพอเจาะ ท่านี้ช่วยให้ตัวมังกรตั้งตรงอยู่ภายใน ไม่โค้งงออย่างที่เคยเป็น ทำให้อสุจิจะถูกฉีดพุ่งขึ้นปากมดลูกในแนวตั้งตรงทันที

แถมอีกนิดหลังจากอสุจิถูกหลั่งออกมาแล้ว คุณผู้ชายควรกอดแนบรัดไว้เพื่อส่งให้เด็กๆ ทั้งหลายว่ายเข้าสู่มดลูกครบทุกตัว และอย่าเพิ่งจบเกมแค่ยกแรก ขอให้มียกสองยกสามเพื่อความเข้มข้นของน้ำเชื้อในชุดต่อๆ ไป ใครที่กำลังอยากมีเจ้าตัวน้อย ลองนำทั้ง 5 ท่าไปใช้ ไม่แน่ว่าใช้ที่ตรวจครรภ์คราวหน้าคุณและภรรยาอาจเห็นผลว่าขึ้นสองขีด

อ่านเคล็ดลับเรื่องรักบนเตียงและความสัมพันธ์ของคู่รักอีกมากมายที่นี่ >> กดเลย

ข้อมูลจาก : www.thebump.com

สามีนอนกรนทำไงดี ปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว!

เรื่องคนรักนอนกรนถือเป็นปัญหาหลักของสถาบันครอบครัวเลยทีเดียว เพราะหลายครั้งคนข้างๆ ที่นอนด้วยกันถึงขั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะเสียงกรนดังสนั่นราวกับแผ่นดินไหว แบบนี้ทนต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องหาวิธีแก้ด่วนๆ สามีนอนกรนทำไงดี

ไม่อยากทน สามีนอนกรนทำไงดี แก้ด้วย 5 วิธีนี้อย่างเร่งด่วน

เวลาเจอคนนอนกรนไม่อยากให้แค่ทนๆ แล้วจบไป เพราะบางครั้งการนอนกรนก็เสี่ยงกับภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับและอันตรายถึงชีวิต อย่าคิดเพียงแค่ว่าเขาสร้างความรำคาญให้เราเด็ดขาด เรื่องนี้ซีเรียสมาก!

ปรับเปลี่ยนท่านอน

สามีนอนกรน
Photo by Damir Spanic on Unsplash

แพทย์มักจะแนะนำคนที่มีปัญหานอนกรนแบบไม่ได้รุนแรงมากให้เปลี่ยนมานอนตะแคง พับแขนงอศอกขึ้นมาข้างหน้า แล้วเอามือดันคางไว้เพื่อปิดปากระหว่างนอน เพราะหากคุณยังคงนอนหงายตามปกติ โคนลิ้นและเพดานอ่อนจะเลื่อนมาปิดช่องลมหายใจ ทำให้เกิดเสียงกรน แต่ถ้าใครกลัวว่าพอหลับไม่รู้เรื่องแล้วร่างกายขยับหงายอัตโนมัติ ลองใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อน หรือลูกเทนนิสสอดไว้ด้านหลัง เพื่อป้องกันการนอนหงายแบบไม่รู้ตัว

เตรียมที่นอนให้พร้อม

สามีนอนกรน
Photo by Greg Rivers on Unsplash

วิธีนี้ควรทำควบคู่ไปกับวิธีแรก การเตรียมที่นอนให้พร้อมก็สามารถช่วยให้ร่างกายเรานอนได้สบายมากขึ้น เช่น เตรียมหมอนหนุนที่มีความสูงเล็กน้อย มารองคอตอนนอน วิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น รวมถึงทำความสะอาดที่นอนให้ปราศจากฝุ่นที่เป็นตัวการทำให้เราหายใจลำบาก โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้ที่มีอาการนอนกรนได้ง่ายกว่าปกติ

ดูแลสุขภาพและลดน้ำหนัก

สามีนอนกรนทำไงดี
Photo by i yunmai on Unsplash

สังเกตว่าคนที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า น้ำหนักเยอะ มักจะมีปัญหานอนกรนอยู่เสมอ นั่นเพราะว่าไขมันที่พอกบริเวณคอ อก และหน้าทอง จะไปเบียดช่องทางหายใจ ยิ่งต้องนอนราบยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และที่สำคัญคือ ควรงดทานอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ด้วย

หาเครื่องมือเทคโนโลยีมาช่วย

สามีนอนกรนทำไงดี

บางครั้งสภาพอากาศในห้องนอนก็เป็นสาเหตุให้นอนกรน ถ้าห้องนอนบ้านใครมีปัญหาอากาศแห้ง ตัวการทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบ แนะนำให้ลองหาเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศมาตั้งไว้ในห้อง จะช่วยให้อาการนอนกรนดีขึ้น

ปรึกษาแพทย์

สามีนอนกรนทำไงดี

ถ้าลองแก้ปัญหามาแล้วหลายวิธีแต่ยังไม่ได้ผล แนะนำว่ารีบปรึกษาหมอด่วน ไม่ควรยอมแพ้และปล่อยไปตามกรรม เพราะจะส่งผลเสียกับร่างกาย แย่ที่สุดคือภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ คนรักที่นอนด้วยกันควรหมั่นสังเกตอาการไว้ด้วย แล้วรีบไปหาหมอเพื่อทำ Sleep Test เพื่อวินิจฉัยอาการและรับการรักษาให้ทันท่วงที ซึ่งการรักษาอาจเป็นการใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP, การฝังพิลลาร์บนเพดานอ่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์

คนรักข้างกายนอนกรนอย่ามัวแต่รำคาญ รีบหาวิธีแก้ไขหรือไปหาหมอจะได้นอนหลับสบายกันทั้งคู่ ที่สำคัญมีชีวิตอยู่ด้วยกันนานๆ

ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่รักอีกมากมายหลายมุมมอง สามารถตามอ่านกันได้ใน >> Praew Wedding 

ข้อมูลจาก : www.cigna.co.th

ภาพจาก : Unsplash.com

เหตุผล 5 ข้อที่อาจทำให้ ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก ไม่แฮปปี้อย่างที่คิด!

เชื่อว่าคู่รักหลายคู่คงวาดฝันถึง ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก อันหอมหวาน เอาน่า! ช่วง 4-5 เดือนแรกก็ยังยิ้มได้อยู่ แต่มีหลายคู่ที่พอเลยครึ่งปีไปแล้วเริ่มซึมเซาและส่อแววมีปัญหา ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ไม่ใช่ความผิดใครคนใดคนหนึ่ง แต่อาจเป็นเพราะ 5 ข้อนี้ที่ทำให้เรายังปรับตัวกันไม่ได้

5 เรื่องหลักๆ ที่ทำให้ ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก ของคู่รักใหม่ไม่ราบรื่น

ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก
Image by Alexas_Fotos from Pixabay

1. ความหวานและความน่าตื่นเต้นลดลง

พอสถานะเปลี่ยนไปอะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนตอนเป็นแฟนชอบชวนกันออกไปเดท ทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง แต่พอแต่งงานกันไปสักพักกิจกรรมพวกนี้มันหายไปไหนซะหมด? หลายคู่มักคิดว่าย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน เจอกันทุกวัน จะออกไปข้างนอกทำไม! ใครคิดแบบนี้ถ้าไม่รีบปรับทัศนคติเดี๋ยวความรักจะจืดชืดกลายเป็นความหมางเมินได้นะ ทางที่ดีควรมีเวลาออกไปทำกิจกรรมเพิ่มความหวานอย่างที่เคยทำตอนเป็นแฟนกันบ้าง ไอเดียที่แนะนำคือ ชวนกันไปสถานที่ที่คุณพบกันเป็นครั้งแรก รำลึกความหลังสักหน่อยก็ไม่เลว

ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก
Photo by Luis Villasmil on Unsplash

2. คาดหวังในตัวคนรักมากเกินไป

ปัญหานี้เจอกันแทบทุกคู่ โดยเฉพาะผู้ชายบางคนที่คาดหวังว่า หลังแต่งงานไปแล้วผู้หญิงจะต้องดูแลความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ฯลฯ แต่ลืมไปว่าเธอก็มีหน้าที่การงานต้องทำเช่นกัน ในทางกลับกันผู้หญิงก็ไม่น้อยหน้า คุณสามีต้องกลับบ้านตรงเวลา โทรหาต้องรับสาย ไลน์ไปต้องอ่าน เงินเดือนมาต้องให้ภรรยาเก็บ อันนี้เกินไป! ถ้าใครรู้สึกว่าครอบครัวเล็กๆ ของเราเริ่มจะกลายเป็นแบบนี้คงต้องนั่งจับเข่าคุยกันแล้วล่ะ ว่าจะหาทางแก้ปัญหายังไง แบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานบ้านกันดีไหม หรือใครรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านได้บ้าง ลองตกลงกันให้เข้าใจ แล้วชีวิตคู่จะกลับมาสดใสเหมือนตอนเริ่มรักกันแรกๆ

ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก
Image by Michal Jarmoluk from Pixabay

3. ลืมไปว่าต้องดูแลตัวเอง

หลายคนมักชอบคิดว่า พอแต่งงานแล้วเราก็มีอีกหนึ่งชีวิตให้ต้องคอยดูแล สาละวนกับความเป็นอยู่ของคนรัก โดยลืมใส่ใจชีวิตของตัวเอง ลืมดูแลสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย ไม่ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่แต่งหน้าแต่งตัว ปล่อยให้ตัวเองเริ่มพุงออก แบบนี้ไม่ไหวนะ! ถึงแม้จะต้องดูแลคนรักแต่ต้องใส่ใจร่างกายและจิตใจของตัวเองด้วย ออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ไม่ต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านแม่บ้านตลอดเวลาก็ได้ อะไรที่เคยทำแล้วรู้สึกดี รู้สึกสนุก ก็ทำเถอะค่ะ ไม่งั้นชีวิตแต่งงานก็เปรียบเสมือนกรงขังดีๆ นี่เอง

ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก
Photo by Priscilla Du Preez on Unsplash

4. เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทะเลาะกัน

ข้อนี้หลายคนบอกว่าหนักสุด! ตอนที่ยังเป็นแฟนหากมีเรื่องบาดหมางจนทะเลาะกัน ต่างคนก็ต่างแยกย้าย ไม่อยากคุยก็วางสายโทรศัพท์ แต่พอต้องมาอยู่ด้วยกันจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้วสิ มีปัญหาแต่ละทีไม่รู้จะหนีไปไหนได้ งานนี้บ้านใครมีหลายห้องอาจพอหลบไปนั่งให้ใจเย็น แต่บ้านหลังน้อยหรือคอนโดที่ไม่ได้มีพื้นที่มากคงต้องจัดการอารมณ์และความรู้สึกกันดีๆ พูดคุยกันอย่างถนอมน้ำใจและเข้าใจ หาทางออกและข้อตกลงร่วมกันให้ได้ (แบบไม่ต้องตีกันนะ!)

ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก
Photo by cottonbro from Pexels

5. แบ่งเวลาไปหาครอบครัวไม่ลงตัว

ความจริงแล้วชีวิตแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่ยังมีครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หลายคู่รักมีปัญหาจัดสรรเวลาไปเยี่ยมครอบครัวแต่ละฝ่ายไม่ลงตัว เทศกาลนี้ต้องไปบ้านฉัน หยุดยาวคราวหน้าก็ต้องไปบ้านฉันอีก แบบนี้ครอบครัวอีกฝ่ายคงเกิดคำถามว่า ทำไมไม่มาหากันบ้างเลย พานทำให้น้อยใจกันไปยกใหญ่ เรื่องนี้คงต้องนั่งจัดสรรเวลาให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายเท่าๆ กัน

เชื่อว่าความรักของคนสองคนนั้นเข้มแข็งมากอยู่แล้วถึงได้ตัดสินใจแต่งงาน แต่บางทีการย้ายมาอยู่ด้วยกันอาจต้องอาศัยการปรับตัวและปรับความเข้าใจให้มากกว่าตอนเป็นแฟน ถ้าทำปีแรกได้ดี ปีต่อๆ ไปก็จะยิ่งแฮปปี้แน่นอน

สารพันปัญหาความสัมพันธ์คู่รักตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสุดท้าย แพรวเวดดิ้ง มีคำแนะนำให้รักอยู่ยืนยาวอีกเพียบ

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

 

7 ข้อควรรู้ก่อน เตรียมตัวออกเดท กับมิชชั่นมีคู่ให้ทันก่อนวันสิ้นปี

เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนกว่าๆ ก็จะถึงวันสิ้นปีแล้ว สาวๆ หนุ่มๆ คนไหนที่ยังไขว่คว้าหาความรัก อยากมีแฟนไว้คอยนับถอยหลังด้วยกันคืนวันปีใหม่ แถมยังมีแพลนนัดเดท ควร เตรียมตัวออกเดท ให้พร้อมกับ 7 กฎนี้ที่คุณต้องรู้ไว้ แล้วจะได้คนตรงสเป็ก

7 เรื่องต้องรู้ก่อน เตรียมตัวออกเดท แล้วจะได้คนรักแบบตรงสเป็ก

เตรียมตัวออกเดท
Photo by Jep Gambardella from Pexels

1. ตรงไปตรงมากับคู่เดท

การออกไปเดทกันครั้งแรกของหนุ่มสาววัยละอ่อนอาจมีความเขินอายกันบ้างเป็นธรรมดา แต่ใครที่กำลังจะตกรถไฟขบวนสุดท้าย ขอบอกเลยค่ะว่า เขินได้ อายได้ แต่เรื่องความต้องการที่เราตั้งหมุดหมายไว้ในใจต้องชัดเจน ควรพูดตรงๆ เลยว่าเราต้องการความสัมพันธ์แบบไหนและจริงจังมากแค่ไหนกับความสัมพันธ์นี้ แต่อย่าพูดโผงผางมากเกินไป คู่เดทอาจเกิดอาการกลัวได้ ลองค่อยๆ เผยความต้องการผ่านคำพูดแบบนุ่มนวล ถ้าเขายังอึกๆ อักๆ ไม่พร้อมรับกับความสัมพันธ์อย่างที่เราอยากมีก็ต้องปล่อยผ่านไป เพราะถ้ายิ่งคุยยิ่งยื้อกันไป ไม่ออกหัวออกก้อยสักที คนที่เสียเวลาคือตัวเราเอง

เตรียมตัวออกเดท
Photo by Tibor Pápai on Unsplash

2. เปิดใจให้กว้าง

ถึงแม้ว่าข้อที่ผ่านมาจะบอกให้ปล่อยผ่านคนที่ไม่พร้อมจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ตามแบบที่เราต้องการ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะผลักเขาให้ออกจากวงจรชีวิตเราซะที่ไหน ถึงแม้ไม่ได้เป็นคู่ แต่ก็ควรคบหาไว้เป็นเพื่อน ไม่แน่นะ บางทีเพื่อนคนนี้อาจได้รีเทิร์นมาเป็นคนรู้ใจก็ได้

เตรียมตัวออกเดท
Image by StockSnap from Pixabay

3. เดทครั้งแรก อย่าให้นานเกิน 90 นาที

การออกไปเดทกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรกโดยใช้เวลาทั้งวันมันดูนานเกินไปสักหน่อย ผู้เชี่ยวชาญด้านความรักหลายคนแนะนำว่า ระยะเวลา 1 ชั่วโมงครึ่งเพียงพอแล้วต่อการทานอาหารและพูดคุยทำความรู้จักกันเบื้องต้น หากคู่เดทยังไม่ลงล็อกกับสเป็กที่คุณวางไว้ จะได้ไม่ต้องมีระยะเวลาอิหลักอิเหลื่อให้ลำบากใจนานนัก แต่ถ้าคิดว่าคุยกันถูกคออยากสานสัมพันธ์ อาจไปต่อด้วยกันอีกสักนิด หรือจะรอนัดเจอกันครั้งต่อไปก็ได้

เตรียมตัวออกเดท
Photo by Helena Lopes on Unsplash

4. อย่าเพิ่งล้วงลึกถึงรักครั้งเก่า

เรื่องเดียวที่คุณรู้เกี่ยวกับคู่เดท คือ “เขาโสด” แต่จะโสดเพราะอะไรอย่าเพิ่งไปอยากรู้ (แต่ถ้าอยากรู้ก็เก็บเอาไว้ก่อน) เดทครั้งแรกควรทำให้การสนทนาสนุกสนาน สบายๆ ไม่ควรชวนคุยเรื่องหนักๆ ใช้เวลาทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แต่ถ้าคุณโชคร้ายเจอคู่เดทเปิดประเด็นเรื่องความรักครั้งเก่า ถ้าเขาอยากเล่าเรื่องของเขาคุณก็นั่งเป็นผู้ฟังที่ดี แต่ถ้าเริ่มถามเรื่องคนรักเก่าของคุณ ถ้าไม่พร้อมก็ควรบอกออกไปตรงๆ ว่ารอให้เราสนิทกันมากกว่านี้ก่อนแล้วจะเล่าให้ฟัง

เตรียมตัวออกเดท

5. เป็นตัวของตัวเอง

ออกไปเดทใครๆ ก็ตื่นเต้น แต่ขอเลยว่าอย่าตื่นเต้นจนไม่เป็นตัวของตัวเอง ปกติแต่งตัวแต่งหน้าแบบไหน วันไปเดทให้คงลุคเดิมแบบมั่นใจ ไม่ต้องใส่เอ็กซ์ตร้าเพิ่มพิเศษ ถ้าเดทครั้งแรกคุณเล่นใหญ่เพราะกลัวคู่เดทไม่ประทับใจ เดทครั้งต่อไปคุณจะทำตัวลำบากขึ้น เพราะฉะนั้นเป็นธรรมชาติเข้าไว้ ถ้าเขาจะชอบให้เขาชอบตัวตนเราจริงๆ

เตรียมตัวออกเดท
Photo by Maxim Mushnikov on Unsplash

6. อย่าเพิ่งรีบปล่อยตัวปล่อยใจไปกับคารมหวานๆ

ข้อนี้ควรระวังให้ดี โดยเฉพาะสาวๆ ที่กำลังวางแผนไปเจอชายหนุ่ม การออกเดทแล้วรู้สึกชอบ ถูกใจหนุ่มคนนี้มาก รู้สึกว่าคนนี้แหละใช่เลย ตรงสเป็กทุกอย่าง งั้นคืนนี้จัดเลยแล้วกัน! เดี๋ยว… หยุดก่อน อย่ามือไวใจเร็วขนาดนั้น ถ้าคุณต้องการความสัมพันธ์ที่มั่นคงและยั่งยืน ควรทำตัวเองให้มีค่าเข้าไว้ เรียนรู้กันให้มากกว่านี้อีกสักหน่อยแล้วค่อยพากันขึ้นเตียงจะดีกว่า และยังถือว่าเป็นการป้องกันตัวเองจากเรื่องอันตรายอย่างโรคทางเพศสัมพันธ์ด้วย

เตรียมตัวออกเดท
Photo by Helena Lopes on Unsplash

7. ถึงเขาจะไม่ใช่สำหรับเรา แต่อาจใช่สำหรับเพื่อนเราก็ได้

ข้อสุดท้ายนี้สำหรับคนที่ไม่สำเร็จในการออกเดท เพียงเพราะว่าเขาไม่ใช่สเป็กอย่างที่เราต้องการ แต่เราสัมผัสได้ว่าเขาเป็นคนน่ารัก นิสัยดี คุณอาจดูเพื่อนๆ รอบตัวที่กำลังมองหาความรักเหมือนกัน แล้วแนะนำเขาทั้งสองคนให้กันและกันก็ได้นะ อย่าคิดว่าเป็นการไม่ให้เกียรติเขาหรือเพื่อนเราเลยค่ะ เราแค่ทำหน้าที่แนะนำคนดีๆ ให้ได้รู้จักกัน ส่วนเขาจะสานต่อหรือไม่ ปล่อยให้เขาตัดสินใจกันเอง

ใครที่ไปออกเดทแล้วสมหวังได้คนที่พร้อมจะรักกันไปนานๆ ก็ขอยินดีด้วยนะคะ ส่วนใครที่ยังไม่เจอคนที่ใช่ก็อย่าเพิ่งท้อ ถึงแม้จะไม่มีคนมานั่งนับถอยหลังด้วยกันปีนี้ รอเคาท์ดาวน์พร้อมกันปีหน้าก็ได้ ยังไงวันปีใหม่ก็มีมาเรื่อยๆ อยู่แล้วนะ

ตามไปอ่านเคล็ดลับเตรียมตัวออกเดทอีกมากมายตามนี้เลย

ภาพจาก : Unsplash.com, Pixabay.com

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ แม่เปิดศึกภรรยา แล้วคนกลางอย่างผมควรทำไงดี?

ปัญหาคลาสสิกของชีวิตคู่มีมากมาย แต่หนึ่งอย่างที่ไม่มีใครอยากเผชิญมากที่สุดคือ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ นี่แหละ ลองคิดดูว่า เมื่อผู้หญิงที่สำคัญในชีวิตของคุณทั้งสองคนต้องมาบาดหมางกัน ในฐานะลูกและสามีจะวางตัวยังไงดี

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ แล้วคนตรงกลางอย่างผู้ชายจะช่วยอะไรได้บ้าง

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
Photo from www.scarymommy.com

1. ทำตัวเป็นกลางไว้ก่อน

ในฐานะที่ต้องเป็นคนกลาง สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือ อย่าเข้าข้างใครเป็นพิเศษ มันก็จริงอยู่ว่าในฐานะคนเป็นลูก ถ้าแฟนตัวเองพูดอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับแม่ คุณก็คงรับไม่ได้ ในขณะเดียวกันคุณก็มีสถานะเป็นสามีด้วย หากว่าแม่พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับภรรยาที่คุณเลือกมาเป็นคู่ชีวิต คุณเองก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอให้หนักแน่น อย่าเพิ่งโวยวายตัดสินว่าแม่หรือเมียใครเป็นคนผิด ควรใจเย็นและทำตัวเป็นกลางเข้าไว้ ทำหน้าที่รับฟังแต่ยังไม่ต้องออกความคิดเห็นหรือเก็บเอามาเป็นอารมณ์ รอดูสถานการณ์ก่อน ทั้งแม่และลูกสะใภ้อาจมีวิธีแก้ปัญหาในแบบของผู้หญิงก็ได้

Photo by Ketut Subiyanto from Pexels

2. เปิดใจคุยกับแม่และภรรยา

หลังจากนิ่งเป็นพระอิฐพระปูนมาแล้วระยะหนึ่ง หากว่าดูท่าสงครามน้อยๆ ครั้งนี้จะไม่จบลงง่ายๆ และมีทีท่าว่าจะกลายเป็นมหากาพย์ คงถึงคราวต้องเปิดอกคุยกับคุณแม่และภรรยาแล้ว แนะนำว่าอย่าเรียกมาคุยพร้อมกัน ให้แยกกันคุยคนละรอบ ตามแต่โอกาสและเวลาที่เหมาะสม

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
Photo by cottonbro from Pexels

สิ่งที่ควรพูดกันให้รู้เรื่อง คือ หนึ่ง คุณต้องบอกให้ชัดเจนถึงความอึดอัดและความกดดันในฐานะคนกลางที่ไม่อยากเลือกข้าง เพราะทั้งสองคนเป็นคนสำคัญในชีวิตคุณทั้งคู่ เวลาคุยกับแม่ คุณควรถามแม่ว่าทำไมถึงไม่ชอบภรรยาของคุณ มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า ในขณะเดียวกันก็แสดงออกให้แม่เห็นว่าภรรยาของคุณเป็นคนดีที่คุณอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่ได้แย่อย่างที่แม่คิด คุยแบบเดียวกันนี้กับภรรยาของคุณด้วย อย่าลืมที่จะบอกเธอว่า แม่เป็นผู้มีบุญคุณและรักคุณไม่ต่างจากที่ภรรยารัก

สอง เล่าเรื่องดีๆ ของแต่ละฝ่ายให้ฟัง ถ้าภรรยารักคุณมาก งานบ้านงานเรือนไม่เคยบกพร่อง ดูแลคุณอย่างดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ก็ต้องเล่าให้แม่ฟังไปตามนี้ (โฆษณาเมียให้แม่ฟังนั่นเอง) ส่วนเรื่องของแม่คงไม่พ้นว่าแม่เป็นผู้ให้กำเนิด ดูแลคุณมาอย่างดี และที่สำคัญคือ ความเป็นห่วงของแม่ที่มีต่อคุณ จนบางทีอาจ

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
Photo by Ketut Subiyanto from Pexels

3. ช่วยหาทางแก้ไข

เชื่อว่าคนกลางอย่างคุณสามีย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า ปัญหาระหว่างแม่และภรรยาคืออะไร ถ้าคุณเข้าใจและรู้ดีถึงต้นเหตุของการไม่ลงรอยกันระหว่างคนทั้งคู่ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณที่จะชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากไหน ภรรยาคิดอย่างไร แม่คิดอย่างไร ตรงไหนที่ทั้งสองคนคิดไม่เหมือนกัน ในขณะเดียวกันต้องไม่ตัดสินว่าใครเป็นคนผิด หรือใครควรยอมแพ้

คุณสามีควรยื่นมือช่วยหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น เช่น เจอกันเท่าที่จำเป็นดีไหม เวลาเจอกันอย่าทำเหมือนไม่สนใจกัน  แนะนำให้แม่เปิดใจ เลิกมีความคิดติดลบกับภรรยา และภรรยาก็เลิกตั้งแง่กับแม่สามี  เวลานี้ยังไม่ต้องหวังให้ความสัมพันธ์ของแม่และภรรยาดีขึ้นภายในวันสองวันหรอก เอาแค่ว่าเขาไม่เขม่นกัน และไม่มีใครมาพูดว่าร้ายกันและกันให้คุณฟังก็พอ

ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้
Photo by Tima Miroshnichenko from Pexels

4. หากิจกรรมให้ทำด้วยกัน

แนะนำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณแม่กับภรรยาไปทำกิจกรรมกันสองต่อสองนะคะ แต่คนกลางอย่างคุณผู้ชายต้องคอยไปเป็นกาวใจเชื่อมระหว่างแม่กับภรรยาด้วย อาจเป็นการไปซื้อของแล้วมาทำกับข้าวทานกันที่บ้าน หรือจะออกไปเดินเล่นที่สวน ชวนกันไปทำบุญก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย แบบนี้จะช่วยให้ทั้งสองคนมีโอกาสใกล้ชิดและเรียนรู้นิสัยใจคอกันและกันมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลือกกิจกรรม วันที่ และเวลาให้ดี เพราะถ้าเลือกพลาดอาจกลายเป็นการย้ำแผลที่มีอยู่ ปัญหาจะหนักขึ้นกว่าเดิม

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

5. ใจเย็นและใช้เวลา

ปัญหาระหว่างแม่ย่ากับลูกสะใภ้คงแก้ไขไม่ได้ในวันสองวัน เพราะมันไม่เหมือนเวลาคนทะเลาะกันแล้วคืนดี คนกลางอย่างคุณต้องเข้าใจ อดทน และใจเย็น เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆ ปรับ บอกรักทั้งแม่และภรรยาอย่างสม่ำเสมอ ให้แม่รู้สึกว่าลูกชายยังเป็นลูกที่รักแม่อยู่ ขณะเดียวกันก็เพื่อให้ภรรยารู้สึกว่าความรักระหว่างคู่ชีวิตก็สำคัญไม่แพ้รักแบบแม่ลูก แบบนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้ภรรยาว่าคุณจะไม่ทิ้งเธอเพียงเพราะเธอเข้ากับแม่สามีไม่ได้

ปัญหาระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัว เพราะไม่ใช่เพียงแค่คู่กรณีสองฝ่ายที่ไม่ลงรอยกัน แต่ยังส่งผลไปถึงคนกลางอย่างสามี ที่สำคัญคือ คนกลางอย่างคุณนี่แหละที่เป็นคนสำคัญของทั้งคู่ มันอาจจะฟังดูอึดอัดกับการต้องอยู่ตรงกลางระหว่างคนที่เรารักมีปัญหากัน แต่ความจริงคือ คุณสามีนั่นแหละคือกุญแจสำคัญในการไขปัญหาและคลีคลายให้ทุกอย่างดีขึ้น

ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์และการดูแลครอบครัวอีกมากมาย ตามอ่านได้ที่ >>> Love & Relationship

ภาพประกอบจาก : Pexels.com

คู่รักยุคใหม่เลือก อยู่ก่อนแต่ง จะบอกพ่อแม่อย่างไรให้เข้าใจและไม่โกรธ

ยุคนี้ปี 2020 คู่รักหลายคนตัดสินใจมาใช้วิธี อยู่ก่อนแต่ง มากขึ้นกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร แต่ก็มักจะขัดใจผู้หลักผู้ใหญ่ที่รู้เรื่องนี้เสมอ

คู่รัก อยู่ก่อนแต่ง เปิดใจบอกพ่อแม่อย่างไรให้ท่านเข้าใจและไม่โกรธ

อยู่ก่อนแต่ง
Photo by GUIVERG from Pexels

ความต่างของยุคสมัยและวัยเป็นสิ่งที่ทำให้รุ่นพ่อแม่ยังมองการอยู่ก่อนแต่งเป็นเรื่องไม่สมควร กลัวว่าลูกเรา (โดยเฉพาะลูกสาว) จะเสียหายจากคำติฉินนินทาของคนอื่น แบบนี้คู่รักรุ่นใหม่คงต้องนั่งอธิบายเพื่อลดช่องว่างความแตกต่างทางความคิด ระหว่างคนรุ่นใหม่กับรุ่นคุณพ่อคุณแม่

ทำให้พ่อแม่มั่นใจว่าคนที่คุณอยู่ด้วยคือคนที่ดีและใช่

สิ่งแรกที่พ่อแม่คิดเวลาลูกๆ จะไปอยู่กินกับแฟนก่อนแต่งงานคือ “เป็นห่วง” ปกติของพ่อแม่ทุกคนที่จะห่วงว่า คนที่ลูกคบหาเป็นใคร เป็นคนดีหรือไม่ มีงานการที่มั่นคงไหม อายุและวุฒิภาวะพร้อมหรือยัง เพราะฉะนั้นพาแฟนไปเจอครอบครัวของคุณบ้าง แนะนำแฟนให้พ่อแม่รู้จัก และแสดงให้เห็นถึงความพร้อมจะย้ายมาลองใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ทำให้ท่านสบายใจว่าการทดลองใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้จะราบรื่น และทำให้ท่านเป็นห่วงน้อยลง

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ คุณต้องเป็นคู่ที่คบกันมานานและมีวุฒิภาวะมากพอ คู่ไหนที่เพิ่งคบกันแปบๆ อย่าเพิ่งคิดเรื่องการย้ายมาอยู่ด้วยกันจะดีกว่า เพราะแบบนี้ไม่ใช่แค่พ่อแม่เป็นห่วง คนรอบตัวอย่างเพื่อนฝูงก็คงกังวลด้วยเช่นกัน

อยู่ก่อนแต่ง
Photo by maitree rimthong from Pexels

บอกท่านว่าถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย

หากว่าพวกคุณเป็นคู่ที่คบหากันมาสักระยะแล้วอยากจะย้ายมาอยู่ด้วยกัน ด้วยเหตุผลเรื่องการประหยัดค่าใช้จ่ายก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ โดยเฉพาะคู่ที่ต่างคนก็ต่างเช่าห้องพักหรืออพาร์ทเมนต์อยู่ทั้งคู่ การอยู่ก่อนแต่ง นอกจากจะทำให้เราเรียนรู้กันและกันมากขึ้น ยังช่วยประหยัดทั้งค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ เหลือเงินเก็บไว้เตรียมแต่งงาน

อยู่ก่อนแต่ง
Photo by Soroush Karimi on Unsplash

เรียนรู้กันและกัน ดีกว่าชีวิตพังหลังแต่งงาน

ข้อนี้อีกเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ดีพอสมควรสำหรับการออกไปอยู่ก่อนแต่ง แต่คุณควรเป็นคู่รักที่คบกันมานานและวางแผนไปถึงการแต่งงานในอนาคตแล้ว บอกกับพ่อแม่ไปตรงๆ ว่า เราอยากทำความรู้จักกันให้มากขึ้นกว่าเดิม ก่อนที่จะต้องแต่งงานและอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต มีหลายครั้งที่คู่รักตามขนบธรรมเนียมต้องเจอเซอร์ไพรส์หนักหลังงานแต่ง จนไม่สามารถปรับตัวและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้ สุดท้ายต้องจบลงที่การหย่าร้าง เงินที่ใช้จัดงานแต่งงานก็กลายเป็นว่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำไปหมด

อยู่ก่อนแต่ง
Photo by freestocks on Unsplash

รักกันมาก แต่ยังไม่พร้อมแต่งงาน

สาเหตุที่คู่รักยังไม่พร้อมแต่งงานอาจเป็นเพราะว่าเงินทองของหมั้นยังมีไม่ครบ แต่งงานแต่ละทีเดี๋ยวนี้ใช้เงินเยอะมาก ต่อให้จัดเป็นงานเล็กๆ ก็ยังมีความยุ่งยากหลายอย่าง คู่รักหลายคู่จึงเลือกย้ายมาอยู่ด้วยกันไปก่อน แล้วค่อยๆ ช่วยกันเก็บหอมรอมริบเพื่อวันสำคัญ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่สามารถอธิบายให้ผู้ใหญ่เข้าใจได้ และยังทำให้ท่านมั่นใจว่าคุณวางแผนแต่งงานไว้แล้วในอนาคต

สมัยนี้การอยู่ด้วยกันก่อนแต่งงานไม่ใช่เรื่องแปลกหรือถูกมองว่าผิดธรรมเนียมอีกแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความคิดของคนรุ่นพ่อแม่หลายครอบครัวยังติดกับวัฒนธรรมแบบเดิมอยู่บ้าง หากคู่รักคู่ไหนอยากลองออกมาใช้ชีวิตด้วยกัน เรียนรู้กันก่อนแต่งงานจริงๆ คงต้องเจรจาและอธิบายให้ท่านเข้าใจ แต่ถ้าพูดอย่างไรท่านก็ยังยืนกรานไม่เห็นด้วย แบบนี้อาจต้องพักแพลนอยู่ด้วยกันออกไปก่อน แนะนำให้พาแฟนไปเยี่ยมพ่อแม่บ่อยๆ จนท่านมั่นใจว่าแฟนของเราเป็นคนที่เหมาะสมจริงๆ ดูแลเราได้ และเราทั้งคู่สามารถรับผิดชอบชีวิตกันและกันได้แม้จะยังไม่ได้แต่งงานก็ตาม

ยังมีอีกหลายเรื่องให้คู่รักคิดให้ดีก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันหรือตกลงแต่งงาน ตามไปอ่านกันได้เลย

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

พาไปดู 3 ชุดสวยของใบเตย เจ้าสาวของปั๊บ เรียบหรูด้วยแรงบันดาลใจจากแสงเหนือ

ก็ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญ โลกกลม พรหมลิขิต หรือโชคชะตาที่นำพาให้คนน่ารักทั้งสองคน “ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข” และ “ใบเตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ” มาเจอกัน เกิดความผูกพันจนคบหาและเปลี่ยนสถานะมาเป็นคู่สามีภรรยากันในวันดีๆ วันนี้ 15 พฤศจิกายน 2563 ชุดเจ้าสาวของใบเตย

ซูมดูชัดๆ ชุดเจ้าสาวของใบเตย – สุวพิชญ์ สวย เรียบ หรู ได้แรงบันดาลใจจากแสงเหนือ

ชุดเจ้าสาวของใบเตย

เรื่องราวความรักของทั้งคู่เริ่มต้นที่การถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลง “ทิ้งไว้กลางทาง – Potato” ที่มีนางเอกเอ็มวีคือสาวใบเตย และปั๊บนักร้องนำสุดหล่อของวงที่พ่วงตำแหน่งพระเอกเอ็มวีไปด้วย แถมด้วยการต่อยอดเป็นนางเอกและพระเอก “ทิ้งไว้กลางทาง The Series” ก็ยิ่งทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทใกล้ชิดกันมากขึ้นจนปั๊บขอใบเตยเป็นแฟน

ชุดเจ้าสาวของใบเตย

จนเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปั๊บได้ฤกษ์ดีเข้าไปสู่ขอน้องใบเตยกับคุณพ่อคุณแม่ พร้อมประกาศข่าวสละโสด โดยงานมงคลจัดขึ้นในวันนี้ 15 พฤศจิกายน 2563 ณ Conrad Bangkok Hotel พร้อมกับลุคความหล่อสไตล์หนุ่มร็อคของเจ้าบ่าวปั๊บ และความสวยเรียบหรูของน้องใบเตย ซึ่งงานนี้จัดขึ้นในธีมสีโทนพาสเทลทั้งสีเขียวอ่อน สีเหลือง สีฟ้า แถมด้วยแบ็กดรอปบนเวทีสุดไฮเทคที่เปลี่ยนสีไปตามแต่ละช่วงพิธีการ สร้างบรรยากาศอบอุ่นให้กับงานแต่งงาน

วันนี้ แพรวเวดดิ้ง ขอพาไปดูชุดเจ้าสาวแบบใกล้ๆ ถึงดีเทลและแรงบันดาลใจต้นแบบของชุดเจ้าสาวสุดสวยที่มาจากฝีมือดีไซเนอร์ไทยทุกชุด

ชุดเจ้าสาวพิธีเช้า – แบรนด์ Vickteerut

ชุดนี้เจ้าสาวรีเควสต์มาว่าอยากได้ชุดแบบร่วมสมัยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นชุดไทย และใส่ได้ทั้งพิธีหมั้นของไทยและพิธียกน้ำชาตามประเพณีจีน โดยในพิธีเช้าวันนี้เจ้าสาวมาในชุดเดรสแขนยาวเรียบแต่หรู เสริมกิมมิคของชุดด้วยดอกกุหลาบช่อใหญ่บนไหล่ด้านซ้าย

ชุดแถลงข่าว – แบรนด์ IRADA

ช่วงแถลงข่าวเจ้าสาวยังคงคอนเซ็ปต์ less is more ด้วยชุดเดรสยาวสีขาวเข้ารูป โดดเด่นด้วยผ้าคลุมไหล่เพิ่มลุคหรูหราสวยงามราวกับเจ้าหญิง พร้อมกับติดเวลเข้ากับผมเนื้อผ้าเบาและพองเล็กน้อย ปล่อยสยายไปทางด้านหลัง มองกี่ครั้งก็ยิ่งดูยิ่งน่ารัก

ชุดงานฉลองมงคลสมรส – แบรนด์ Panya

เรียกว่าสวยปังสุดๆ กับชุดเจ้าสาวในพิธีฉลองมงคลสมรสที่จัดขึ้นในช่วงบ่ายที่ผ่านมา โดยเจ้าสาวเคยร่วมงานกับคุณอู๋-ปัญญา ดีไซเนอร์ไทยที่ออกแบบชุดให้คุณใบเตยใส่เดินพรมแดงมาก่อนจนเจ้าสาวและเจ้าบ่าวชอบมากเลยไว้วางใจกลับมาให้คุณอู๋ออกแบบชุดให้ในวันสำคัญ

ชุดเจ้าสาววันนี้มาในสไตล์เกาะอกและกระโปรงทรงบอลกาวน์ ด้านหลังเว้าลึกเผยความเซ็กซี่นิดๆ ตัดจากผ้าไหมไทยทั้งชุด งานปักเลื่อมระยิบระยับ สวยงามราวกับแสงเหนือตกกระทบผืนผ้า โดยได้แรงบันดาลใจมาจากตอนที่คุณปั๊บขอเจ้าสาวแต่งงานครั้งแรกท่ามกลางบรรยากาศแสงเหนือสุดโรแมนติกที่ประเทศไอร์แลนด์ ชุดนี้ถูกใจเจ้าบ่าวและเจ้าสาวสุดๆ

ปิดท้ายที่สูทของเจ้าบ่าวกันดีกว่า โดยสูทชุดสีเขียวในพิธีเช้าทำให้เจ้าบ่าวดูหล่อ จากร้าน Pinky Tailor ผ้าสีเขียวสไตล์วินเทจ เสริมลุคหนุ่มปั๊บ ยิ่งดูยิ่งแมน แต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นของเจ้าบ่าว

ต่อด้วยชุดแถลงข่าวที่เปลี่ยนมาใส่ชุดสูทสีน้ำตาลเข้ม ลายสก็อต และปิดท้ายด้วยชุดพิธีฉลองมงคลสมรส เป็นทักซิโด้สีดำขลับ เนื้อผ้าแบบ Jacquard เสริมความหล่อแบบทางการให้กับคุณเจ้าบ่าว

ขอบอกว่าวันนี้เจ้าสาวสวย เจ้าบ่าวหล่อ สุดปังทั้งคู่ แพรวเวดดิ้งขอแสดงความยินดีกับการเริ่มต้นชีวิตคู่ของคุณปั๊บและคุณใบเตยด้วยนะคะ

ข้อมูลชุดเจ้าสาวและภาพสวยๆ จาก : #toeipupwedding@pup_potato, @iiitoei, @Panya_pj, Facebook fanpage Potato, youtube channel : Zuvapitsnap, @minddmakeup, @wor_dor

“เบลล่า ราณี” ใส่ ชุดเจ้าสาวไทย งามตาตามฉบับแม่หญิง ในนิตยสาร แพรว Wedding ฉบับ พ.ย. 63

ห่างหายไปนานกับการนุ่งผ้าห่มสไบ คราวนี้นางเอกคนสวย “เบลล่า – ราณี แคมเปน” หวนกลับมาใส่ชุดไทยอีกครั้ง แต่คราวนี้ขอเป็นคอนเซ็ปต์ ชุดเจ้าสาวไทย ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็งามตาจนทำให้นึกถึงแม่หญิงการะเกดแห่งอยุธยา นุ่งผ้าไหม ห่มสไบงาม มีทั้งชุดไทยดั้งเดิมและชุดไทยประยุกต์

“เบลล่า ราณี” ยิ้มละไม หงานละมุน งดงามใน ชุดเจ้าสาวไทย พาให้คิดถึงแม่หญิงการะเกด

ก่อนที่จะไปเห็นความงามของชุดไทยหลากหลายสี หลากหลายรูปแบบ วันนี้ แพรวเวดดิ้ง มีเคล็ดลับการเลือกสีชุดไทยให้เข้ากับสีผิวของสาวๆ มาฝาก

1. สาวผิวเข้ม : เหมาะกับชุดสีโทนเหลือง ทอง ชมพูอ่อน หรือสีโอลด์โรส จะช่วยขับผิวให้ดูผ่องมากขึ้น

2. สาวผิวขาวเหลือง (ผิวน้ำผึ้ง) : ผิวสวยตามฉบับไทยแท้ เลือกใส่ชุดไทยได้ทุกสี

3. สาวผิวขาว : ถึงแม้จะใส่ชุดไทยได้ทุกสี แต่ถ้าจะให้สวยที่สุด แนะนำให้เลือกชุดไทยสีโทนเย็น เช่น สีขาว เงิน น้ำเงิน สีฟ้า และเลือกผ้านุ่งเป็นสีเข้มตัดกับสไบสีอ่อน รับรองว่าใครเห็นต้องบอกว่าสวยมาก

ชุดเจ้าสาวไทย

งดงามลงตัวด้วยชุดไทยประยุกต์สีชมพูบัวโรย โอบไหล่ระบายแขนยาว ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสจับจีบระบายเรียงชั้น ประดับตกแต่งและปักลวดลายอย่างละเมียดละไม คาดเข็มขัดเครื่องประดับเงินแท้สลักดุนทรงคุณค่าและสง่างาม จากร้าน Monique Wedding

ชุดเจ้าสาวไทย

ยกระดับความงดงามอย่างไทยสู่สากลด้วยชุดไทยจักรีประยุกต์ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมไทยแท้จากศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สร้างสรรค์ลวดลายสไบร่วมสมัย จากแรงบันดาลใจในศิลปะตะวันตกยุคบาโรก เพิ่มความโดดเด่นด้วยลูกเล่นระบายผ้าเดซี่ข้างลำตัว จากร้าน Monique Wedding

ชุดเจ้าสาวไทย

ชุดไทยสีชมพูพาสเทล เน้นให้เห็นทรวดทรงสวยงามด้วยดีเทลการปักและตกแต่งอย่างหรูหรา พร้อมเครื่องประดับไทยเงินแท้ลวดลายโบรณ ส่งให้เจ้าสาวแลดูสวยหวานนุ่มนวล จากร้าน Monique Wedding

ชุดเจ้าสาวไทย

สไบผ้าอินเดียสีเทาฟ้า ลายผ้าสีแดงตัดน้ำเงินเข้ม คู่สีที่ดูเข้ากันอย่างลงตัว ปักด้วยสวารอฟสกี้ ผ้านุ่งทำสำเร็จตัดแบบนุ่งสด เป็นฟ้าลายตามแบบโบราณ จากร้าน Bambino

ชุดเจ้าสาวไทย

“ดอกบัว” นับเป็นดอกไม้มงคลแต่ครั้งโบราณกาล เป็นมงคลนาม แสดงถึงความสะอาดบริสุทธิ์ นำยศถาบรรดาศักดิ์เกียรติยศมาสู่วงศ์ตระกูล และยังเชื่ออีกว่าสายใยของบัวนั้นสื่อถึงสายสัมพันธ์ของการสร้างครอบครัว ความรัก ความห่วงใย ความผูกพันของหัวใจที่มีให้กันสำหรับการเริ่มต้นชีวิตคู่ จึงเป็นแรงบันดาลใจของ “เจ้านางเวดดิ้ง” นำดอกบัวหลวงมาออกแบบลายปักบนผืนสไบ ตัวสไบนั้นห่มสะพักแบบโบราณ ลวดลายเป็น “ดอกบัวหลวงสีชมพู” อันแสนงดงาม บนผืนสไบแซมดิ้นเงิน แสดงถึงความสูงส่งและงดงาม คู่กับสีชุดมงคลคือ “สีเม็ดมะปราง” อันเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่มั่นคง น่าทะนุถนอม อ่อนหวาน สวยงาม อ่อนโยน และความรักแบบไม่มีเงื่อนไข จากร้าน เจ้านางเวดดิ้ง

ชุดเจ้าสาวไทย

สวยเลอค่าในชุดไทยจักรีสีชมพู ดิ้นทองหวานหรู ปักเลื่อมแวววาวและคริสตัลกระจายทั่วทั้งชุด พร้อมเครื่องประดับไทยเฉดสีทองในพระราชสำนักเข้ากันกับชุด จากร้าน Monique Wedding

ชุดเจ้าสาวไทย

ชุดไทยศิวาลัยประยุกต์ในรูปแบบเสื้อลูกไม้ไทยสีขาวแขนยาว พร้อมผ้าจับเดรปช่วงอกและสไบยาว ผ้านุ่งหางปลาสีเหลืองทองอร่าม ปักทั้งตัวเข้ารูปดูสง่างาม มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ช่วยเสริมให้ชุดดูสะดุดตามากขึ้น จากร้าน BOBO Studio

ชุดเจ้าสาวไทย

ชุดไทยประยุกต์สไตล์โมเดิร์น ให้อารมณ์สวยหวานด้วยเสื้อลูกไม้ฝรั่งเศสแขนเดียว ส่วนผ้านุ่งเป็นทรงเมอร์เมด ทำจากไหมอินดียแท้ทอยกดอก ขึ้นลายปักดอกราตรีทั้งชุด ผสมผสานเข้ากันอย่างทันสมัยลงตัว จากร้าน Coco Chic Wedding

เสื้อผ้า : Coco Chic Wedding
79/336 ถนนสาธุประดิษฐ์
แขวงช่องนนทรี
เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
โทร. 0-2115-8500, 09-9635-8585
เฟซบุ๊ก : Coco Chic Wedding
ไอจี : @cocochicwedding

BOBO Studio
19/23 ถนนมนตรี (ตรงข้ามไปรษรีย์ภูเก็ต)
ตำบลตลาดใหญ่
อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
โทร. 08-9471-5069, 09-1158-6178
เฟซบุ๊ก : BOBO Studio โบโบ้ สตูดิโอ
ไอจี : @bobo_studio

Monique Wedding
418/8-9 ถนนสาธุประดิษฐ์
แขวงบางโพงพาง
เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
โทร. 02-108-7800, 08-0279-7800
เฟซบุ๊ก : Monique Wedding
ไอจี : @moniqueweddingbkk

Bambino Wedding
ถนนเทียนร่วมมิตร แขวง/เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
โทร. 09-9442-6453
เฟซบุ๊ก : แบมบี้ เวดดิ้ง โปร เช่าชุดครบวงจร Bambino wedding and Studio
ไอจี : @bambi4uth
ไลน์ : @bambi4uth

เจ้านางเวดดิ้ง
318 โครงการธนบรีคอมเพล็กซ์ ซอย 8 ถนนพระราม 2 ซอย 60 (ใกล้เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2)
โทร. 08-6363-6555, 08-8089-5999
เว็บไซต์ : www.chaonangwedding.com
เฟซบุ๊ก : Chaonang Wedding – เจ้านางเวดดิ้ง
ไอจี : @chaonangwedding
ไลน์ : chaonangwedding

แต่งหน้า : สุรศักดิ์ วัฒนศิริ (IG: @surasak_studio)
ทำผม : ณศิษฏ์ วันขวัญ (IG: @alexandul)
ช่างภาพ : ดวงพร ใบพลูทอง
ผู้ช่วยช่างภาพ : ชโนดม แต้โพสิฐพงษ์, ณทพน จารุวัชระพน
สไตลิสต์ : สลาลี สมบัติมี
ผู้ช่วยสไตลิสต์ : อชิรญา กงมนต์
สถานที่ : House No.1 (บ้านเลขที่ 1 )
ถนนสี่พระยา แขวง/เขตบางรัก
เฟซบุ๊ก : House No.1
ไอจี : @houseno.1bangrak
ไลน์ : @houseno.1
โทร. : 0-2263-2500 #550, 0-2651-4849

 

จูบยังไงให้เคลิ้ม กับ 9 เทคนิคการ Kiss จนสาวหลงไม่อยากถอนจูบ

หลายคนมักเข้าใจว่าจูบที่ดีและเพอร์เฟ็กต์ทำให้หญิงสาวลุ่มหลงคือจูบที่ร้อนแรงและรัวลิ้น แต่จริงๆ แล้วเทคนิคการ จูบยังไงให้เคลิ้ม คือการจูบแบบที่นุ่มนวล อ่อนโยน ละเมียดละไม อาจทำให้ใครหลายคนติดใจได้มากกว่า

อยากจูบเก่งจนสาวติดใจต้องมาดูเทคนิค จูบยังไงให้เคลิ้ม แล้วเธอจะขอจูบคุณนานๆ

Photo by engin akyurt on Unsplash

1. ริมฝีปากจะช่วยให้คุณได้สัมผัสจูบที่เซ็กซี่

ใครที่คิดว่าการกวาดลิ้นไล่ต้อนไปทั่วโพรงปากจะเป็นจูบที่ดีและดูดดื่มสุดๆ ขอเลยนะคะว่า ปรับความคิดกันนิดนึง! เพราะจริงๆ แล้วการใช้ลิ้นทะลวงไปทั่วอาจทำให้สาวๆ รู้สึกว่าถูกลุกล้ำจู่โจมจนเกินไป เผลอๆ จะหายใจหายคอกันไม่ทัน แนะนำว่าให้เริ่มโฟกัสไปที่การใช้ริมฝีปากขบเม้มแบบหยอกล้อ สร้างความรู้สึกสนุกแบบเบาๆ กับสลับมาใช้ลิ้นบ้าง แบบนี้หญิงสาวเขาจะเป็นปลื้ม

Photo by Joeri Bogaert on Unsplash

2. จูบไม่ได้ใช้แค่ปาก ใช้มือบ้างก็ได้

หลายคนมักลืมไปว่า อวัยวะอย่างมือก็ช่วยเพิ่มรสจูบให้ซาบซ่านได้เหมือนกัน เวลาคุณจูบใครสักคนอย่าเอามือวางไว้แค่ที่เอว หรือปล่อยทิ้งไร้ประโยชน์ไว้ข้างตัว ยกมือขึ้นมาค่ะ สัมผัสลูบไล้ไปตามเอว หลัง ต้นแขน ลำคอ ใบหน้า ริมฝีปาก ลูบเบาๆ อย่างอ่อนโยน แบบนี้จะช่วยเพิ่มความรู้สึกอีกฝ่ายให้เขาอยากจมอยู่กับจูบของคุณต่อไปเรื่อยๆ

Photo by freestocks on Unsplash

3. จูบให้ทั่ว อย่าจบแค่ที่ปากอย่างเดียว!

เวลาจะจูบใครสักคน แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่จะเริ่มต้นจากริมฝีปาก แต่อย่าหยุดแค่นั้น! ยังมีส่วนอื่นของร่างกายรอให้ริมฝีปากคุณไปสัมผัส เช่น แก้ว หน้าผาก คาง หลังใบหู ต้นคอ ไหล่ และอวัยวะในร่างกายเกือบทุกส่วนที่คุณจูบได้ ลองดูค่ะ แล้วจะรู้ว่าจูบที่ทำให้สาวๆ ตัวสั่นนั้นมีอยู่จริง

Photo by Sharon McCutcheon on Unsplash

4. ใช้ลูกเล่นแบบถอนออกสลับดึงดูด

เชื่อไหมคะว่าบางคนจูบแบบทื่อๆ ไร้รสนิยม แบบนี้ไม่ว่าหญิงหรือชายที่ถูกจูบก็เบื่อกันทุกคน  แนะนำว่าถอนปากออกบ้าง เปิดโอกาสให้คู่จูบได้สูดหายใจและโหยหารสจูบในอีกไม่กี่วินาทีต่อไป อย่าตะบี้ตะบันเอาปากชิดติดกันตลอดเวลาเหมือนคนอดอยาก เราต้องสร้างความประทับใจจากจูบที่ดูดดื่ม แต่ไม่ใช่จูบที่โหยหิว!

Photo by Jared Sluyter on Unsplash

5.สบตากันจะทำให้ยิ่งฟิน

หลายคนพอเริ่มขยับหน้าเข้าหากัน เอาล่ะ! หลับตา!!! อันนี้เป็นอาการตอบสนองอัตโนมัติของร่างกาย ก็ไม่ผิดนะคะที่จะหลับตาเพื่อลดอาการเขินอาย แล้วปิดตาปล่อยใจไปกับจูบที่ริมฝีปาก แต่ควรจะลืมตาเพื่อสังเกตอาการความรู้สึกของคู่จูบบ้างเป็นครั้งคราว จะได้รู้ว่าคู่คุณน่ะ เขาฟินอยู่ไหม แล้วจะเล่นลิ้นพลิกแพลงยังไงต่อไปให้คู่รักของคุณเคลิ้มมากขึ้น

Photo by Enecta Cannabis extracts on Unsplash

6. ดูแลริมฝีปากให้นุ่มอยู่เสมอ

เฮ้ย! ขอนี้สำคัญมากๆ เลยนะ ผู้ชายหลายคน (ผู้หญิงบางคนด้วย) มักจะละเลยการดูแลริมฝีปากของตัวเอง เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ผลคือริมฝีปากแห้ง แตก ลอก จนสาวๆ ไม่ปลื้มเวลาโดนจูบ ถ้าอยากรู้ว่าการที่สาวๆ ต้องสัมผัสริมฝีปากแห้งๆ แตกๆ แล้วเป็นยังไง ลองริมฝีปากถูเบาๆ กับหลังมือตัวเองดู แล้วจะรู้ว่ามันไม่ฟิน แถมจั๊กจี๋ รับรองไม่มีจูบคราวหน้าอีกแน่นอน ไปซื้อลิปมันบำรุงปากมาใช้เลยค่ะ ขอร้อง!

จูบยังไงให้เคลิ้ม
Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

7. กลิ่นปากก็สำคัญ

อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้หลายคนตกม้าตายตอนจูบ ไม่ว่าคุณจะกินอะไรมา โดยเฉพาะมื้อหนักๆ อาหารคาวมีกลิ่นแรง ควรบ้วนปากแปรงฟันซะก่อน เช็คกลิ่นปากให้มั่นใจว่าคู่ของคุณจะไม่รู้สึกพะอืดพะอมตอนจูบ แต่ถ้าฉุกเฉินจริงๆ ไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้าไว้ แนะนำให้ซื้อหมากฝรั่งกลิ่นมิ้นต์หรือน้ำยาบ้วนปากขวดเล็กติดตัวไว้หน่อยก็ดี เผื่อปุบปับรับโชคขึ้นมาจะได้ไม่อายกลิ่นปากตัวเอง

แต่ข้อนี้ขอดอกจันไว้อย่างหนึ่ง เพราะมีสาวๆ หนุ่มๆ หลายคนบอกว่า เขาชื่นชอบกลิ่นขนมหวานและเครื่องดื่มบางอย่างที่หลังจากทานแล้วช่วยให้มีกลิ่นสัมผัสแบบเซ็กซี่ บางคนชอบจูบกับผู้ชายที่เพิ่งดื่มมาเบาๆ มีกลิ่นของแอลกอฮอล์จางๆ หรืออาจจะเป็นไวน์และแชมเปญรสและกลิ่นผลไม้ แบบนี้ก็ช่วยเพิ่มความเซ็กซี่ของรสจูบได้เหมือนกัน

จูบยังไงให้เคลิ้ม
Photo by Clay Banks on Unsplash

8. ควบคุมน้ำลายตัวเองหน่อย

ข้อนี้แนะนำสำหรับคนหัดจูบโดยเฉพาะคนที่เตรียมตัวจะไป First Kiss เพราะมือใหม่มักทำน้ำลายไหลย้อยออกมุมปากยาวไปยันคางบ้าง แก้มบ้าง แบบนี้สาวๆ จะร้องอี๋และพยายามถอนจูบออกทันที เพราะฉะนั้นตอนจูบก็ไม่จำเป็นต้องเปิดปากกว้างมากเหมือนจะกินหัวคู่รักก็ได้ เปิดปากแค่พอดี และหมั่นกลืนน้ำลายส่วนเกินที่ออกมากลับเข้าไปด้วย ไม่งั้นเลอะเทอะเหนียวเหนอะแน่ๆ

จูบยังไงให้เคลิ้ม
Photo by Niki Sanders on Unsplash

9. บรรยากาศและสถานที่เป็นใจ

จะจูบกันแต่ละที ไม่ใช่ว่าทำที่ไหนตอนไหนก็ได้นะ ควรจะดูความเหมาะสมด้วยว่าสถานที่และบรรยากาศเป็นใจหรือไม่ เอาง่ายๆ ถ้าอยู่ในห้างสรรพสินค้า สวนสาธารณะ หรือสนามบิน คุณก็ไม่ควรชวนสาวๆ จูบแบบดูดดื่ม จูบน่ะจูบได้ แต่ควรเป็น Light Kiss เบาๆ แล้วแยกย้าย ไม่จูบเนินนานจนตกเป็นเป้าสายตา หรือถ้าอยู่ในผับบาร์แสงไฟสลัวๆ คุณสามารถชวนสาวๆ จูบดูดดื่มได้นิดหน่อย แต่สุดท้ายก็ยังต้องแยกอยู่ดี ถ้าอยากต่อรสจูบให้นานๆ จะเดินไปที่ลับตาคนอย่างหน้าห้องน้ำก็ได้ หรือจะกลับบ้านไปจูบต่อบนเตียงก็แล้วแต่เลยจ้า

“จูบ อย่าคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบาๆ เท่านั้นยังทำฉันสั่นดังฟ้าสะเทือน… ” เห็นไหมคะว่าจูบที่ดีจนทำให้ผู้หญิงสั่นได้ไม่จำเป็นต้องโรมรันร้อนแรง แต่ต้องมีเสน่ห์ชวนหลงใหลให้สาวๆ เคลิบเคลิ้มเพลินใจ เชื่อเถอะว่าเธอจะไม่อยากถอนจูบจากปากคุณ ต่อให้ต้องหยุดจูบเธอก็จะเสียดาย โหยหา และหาทางจูบคุณอีกครั้ง

ยังมีเรื่องราวของรสจูบอีกมากมายให้คุณเรียนรู้ ตามไปอ่านกันเลย

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน จะอยู่หรือหย่าคงต้องคิดและเตรียมตัวดีๆ

ชีวิตจริงของคนเราไม่เหมือนเรื่องราวในละคร ที่จบด้วยการแต่งงานมีความสุขตลอดไปของพระเอกนางเอก แต่ในความเป็นจริงนั้นการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะจบแบบไหน จะสุขยาวนานหรือ ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน จนไปต่อไม่ได้

รักถึงทางตัน ทำอย่างไรถ้าต้องหย่า 

ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน

ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน
Photo by Zachary Kadolph on Unsplash

ก่อนจะตัดสินใจอีกครั้งในชีวิต คุณจะต้องคิดดีๆ ให้ละเอียดรอบคอบ เพราะการหย่าอาจไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ตัวเอง แต่ส่งอาจมีคนรอบข้างเราด้วย

1. ถามตัวเองดีๆ อีกครั้ง (หลายครั้งก็ได้) อยู่ดีไหมหรือไปดีกว่า?

เชื่อว่าหลายครั้งที่ชีวิตคู่มีปัญหา ทั้งสามีและภรรยาคงต้องช่วยกันหาทางแก้ไขสุดกำลัง แต่ปัญหาบางอย่างก็แก้ไขไม่ได้ เมื่อพิจารณาทบทวน แล้ว บางคนตัดสินใจไปต่อด้วยหวังว่าอะไรๆ จะดีขึ้น

แต่สำหรับบางคนที่คิดว่าปัญหาเกินจะแก้ไข ยิ่งอยู่ยิ่งทำร้ายจิตใจกัน จึงเริ่มคิดถึงการแยกทางและจดทะเบียนหย่า แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร คุณเท่านั้นที่รู้ตัวเองดีที่สุด ถามตัวเองดีๆ อย่าถามคนอื่นเด็ดขาด

ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน
Photo by Ben White on Unsplash

2. วางแผนชีวิตในอนาคต

ในขณะที่ชั่งใจว่าจะอยู่หรือหย่า คุณควรวางแผนในอนาคตไว้บ้าง แผนวางไว้แล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าไร้ซึ่งแผนใด

แผนที่คุณจะต้องแพลนไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตตัวคนเดียวหลังการหย่าเท่านั้น อาจเป็นแผนกับสามีว่า ถ้าผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้แล้ว เราทั้งคู่จะปรับตัวอย่างไรให้ชีวิตคู่พัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และไม่วนกลับมาทะเลาะกันซ้ำเดิม

ส่วนใครที่ตัดสินใจแล้วว่าต้องหย่าขาดจากกันจริงๆ คุณควรมีแผนของการอยู่คนเดียวว่าต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะคนที่เป็นแม่บ้าน ควรอย่างยิ่งที่ต้องวางแผนเรื่องเงินทองหรือการเลี้ยงชีวิตด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือหากมีลูกด้วยกัน เรื่องการเลี้ยงดูก็เป็นอีกประเด็นที่ต้องวางแผนให้ชัดเจน

ความสัมพันธ์มาถึงทางตัน
Photo by Jp Valery on Unsplash

3. เรื่องเงินทองต้องเคลียร์ชัดเจน

ข้อนี้สำหรับคนที่ตัดสินใจดีแล้วว่าจะแยกทางกันอย่างแน่นอน เรื่องทรัพย์สินทั้งส่วนตัว สินสมรส และการกู้สินเชื่อต่างๆ ที่ทำธุรกรรมร่วมกัน แบบนี้ต้องรีบคุยและหาทางเคลียร์กันให้ลงตัว หลายคู่ตอนเจรจาก็ตกลงกันได้ดิบดี แต่พอถึงเวลาต้องแบ่งจริงๆ กลับมีปัญหา ฟ้องร้องจนสุดท้ายแทบไม่เผาผีเลยทีเดียว

ใครที่สามารถฟันฝ่าประคับประคองความรักให้ผ่านปัญหาไปได้ แพรวเวดดิ้งขอยินดีด้วย ส่วนใครที่พิจารณาถี่ถ้วนแล้วว่าอยู่ไปก็มีแต่จะแย่ลงการจากกันแบบไม่เกลียดกันคงดีกว่า ขอให้ผ่านทุกปัญหาไปได้ด้วยดี มูฟออนได้ไวๆ นะคะ

ติดตามเรื่องราวและสาระดีๆ เกี่ยวกับชีวิตคู่และความสัมพันธ์ได้อีกมากมาย

ภาพจาก : Unsplash.com

ปักหมุด 5 จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว เล้าโลมให้ถูกที่มีแต่จะฟิน ฟิน ฟิน

เชื่อไหมคะว่า ที่หลายคู่ชีวิตรักล่มเพราะฝ่ายหญิงไปไม่ถึงสวรรค์ แถมฝ่ายชายยังปากหนักเกินจะถาม! แพรวเวดดิ้งเลยจัด 5 จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว มาให้คุณรู้จัก มีแฟนบอกแฟน ถ้าไม่กล้าพูดก็ส่งลิ้งค์นี้ไปให้เขาอ่านเลย!

5 จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว รู้แล้วพาเธอฟินได้ทั้งคืน

Photo by Sharon McCutcheon on Unsplash

 C Spotหรือ Clitoral Spot หาเจอง่ายไม่ต้องเข้าไปลึก

จุดนี้ถือว่าเบสิก ใครๆ ก็รู้จัก นั่นคือ “คลิตอริส” อยู่ตรงกลางด้านบน ข้างในระหว่างปลายแคมเล็กที่มาบรรจบกัน มีลักษณะเป็นรูปตัว V กลับหัว เพียงแค่ชายหนุ่มไล้นิ้วเบาๆ หญิงสาวก็สะท้านไปทั้งร่างเพราะจุดนี้มีปมประสาทถึง 8,000 ปม

สาวๆ หลายคนยอมรับว่า จุดซีทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายเพราะหาไม่ยาก จึงชอบให้หนุ่มๆ หยอกล้อกับคลิตอริส ไม่ว่าจะเป็นการใช้นิ้วหรือลิ้น แต่ต้องระวังหน่อยเพราะจุดนี้บอบบาง หากน้ำหล่อลื่นไม่เพียงพอ แล้วหนุ่มๆ ยังพยายามเล้าโลมอย่างหนัก จะทำให้ผู้หญิงเจ็บ ทางแก้คือ มีเจลหล่อลื่นติดไว้ข้างเตียง ชโลมเจลก่อนกระตุ้นจุดสำคัญของผู้หญิง

Photo by Dainis Graveris from Pexels

G Spot หรือ Grafenberg Spot ปุ่มศักดิ์สิทธิ์ อยู่ลึกแต่ฟินมากกว่า       

ให้ความรู้แบบวิชาการกันสักนิด จุด G Spot นี้ตั้งชื่อตามสูตินรีแพทย์แอนสท์ แกรเฟนแบร์ก (Ernst Grafenberg) ผู้ค้นพบจุดจีในปี 1944 และยังมีการค้นพบในตอนหลังอีกว่า จุดจีไม่ใช่แค่เสิรมความสุขด้านเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยลดความเจ็บปวดในการคลอดลูกได้อีกด้วย

จุดจีนี้อยู่ลึกเข้าไปด้านในช่องคลอดประมาณ 2.5 – 5 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความยาวช่องคลอดของแต่ละคน ถ้าจะหาให้เจอต้องมีการสอดใส่ อยากรู้ว่าอยู่ตรงไหนให้หงายมือสอดนิ้วเข้าไป จุดจีจะอยู่บริเวณด้านบนผนังช่องคลอด ลักษณะผิวขรุขระ พองเล็กน้อยเมื่อผู้หญิงมีอารมณ์ ขนาดประมาณเมล็ดถั่วเหลือง สามารถขยายใหญ่ได้เท่าปลายนิ้วก้อย การหาจุดจีต้องใช้ความช่ำชอง เนื่องจากอยู่ลึกพอสมควร

และเพราะความหายากนี่แหละที่ทำให้มันเป็นปุ่มศักดิ์สิทธิ์ หญิงใดถูกกระตุ้นจุดจีจะเสียวซ่านจนตัวสั่น มีอาการคล้ายปวดปัสสาวะ และตามมาด้วยอาการถึงจุดสุดยอดความฟินเต็ม 10! 10! 10! ผู้หญิงหลายคนบอกว่าเป็นความสุขที่เหนือกว่าการถึงจุดสุดยอดโดยการกระตุ้นคลิตอริสเสียอีก แถมบางคนมีอาการ Squirt หรือการหลั่งของผู้หญิงและปลดปล่อยน้ำออกมาจากช่องคลอดมากมายเลยทีเดียว

จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว
Photo by Dainis Graveris on Unsplash

O Spot หรือ Opposite Spot ร่วมรักประตูหลังมันสุขสรรค์ได้อย่างไร

จุด O Spot นี้มีทั้งชายและหญิงเลยค่ะ แต่หายากพอกันกับจุดจี ถ้าคุณสามารถเข้าไปถึงจุดจีได้ด้วยการหงายมือสอดนิ้ว เพียงแค่คุณกลับมือจากหงายเป็นคว่ำ ก็จะพบจุดโออยู่ตรงผนังช่องคลอดด้านล่าง มีปมประสาทกลุ่มเดียวกับทวารหนัก ทำให้คู่รักที่ชอบประตูหลังสามารถถึงจุดสุดยอดได้ แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมเซ็กส์แบบด้านหลังจึงมีคนถึงฝั่งฝันจากตรงนี้เพียงแค่ 8% เท่านั้น

จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว
Photo by Dainis Graveris on Unsplash

U Spot หรือ Uterine Spot ของใครยาวอึด…ดี!

เราจะไม่ค่อยได้ยินชื่อจุด U Spot เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ถึงจุดสุดยอดจากจุดนี้เพียงแค่ 7.5% นั่นเพราะว่าจุดนี้อยู่ลึกเข้าไปจนถึงปากมดลูก โดยเป็นตำแหน่งเชื่อมต่อของมดลูกส่วนล่างและช่องคลอด เวลาทำการบ้านกับคุณแฟน น้องชายของเขา (ถ้ายาวพอ) จะเข้าไปชนกับบริเวณจุดยู ที่มีปมประสาทอยู่มาก เมื่อถึงจุดสุดยอดจะส่งผลให้มดลูกรัดตัวเป็นจังหวะ แต่ว่า… อยู่ลึกขนาดนี้ แฟนหนุ่มของใครมีน้องชายยาวก็ได้เปรียบ ส่วนใครสั้นอวบลองไปกระตุ้นจุดอื่นๆ แล้วกัน

จุดกระตุ้นอารมณ์หญิงสาว
Photo by Charles Deluvio on Unsplash

P Spot หรือ Pubococcygeus Muscle Spot ขมิบแล้วเสร็จเพราะจุดนี้แหละ

เลิกสงสัยทำไมใครๆ ชอบบอกให้สาวๆ ฝึกขมิบ เพราะนอกจากจะช่วยให้ช่องคลอดกระชับไม่หย่อนคล้อยแล้ว ยังช่วยให้ถึงจุดสุดยอดได้ด้วย โดยจุดพีคือส่วนของกล้ามเนื้อ Pubococcygeus ทำหน้าที่เป็นหูรูด ห่อหุ้มช่องคลอด ทวารหนัก และท่อปัสสาวะ การขมิบบ่อยทำให้กล้ามเนื้อมัดนี้หดรัดตัวจนทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ และการขมิบจุดพีขณะร่วมรักยังทำให้ฝ่ายชายฟินด้วยนะ ถือว่าวินๆ ทั้งคู่

อย่างที่บอกไปข้างต้นแล้วว่า บางจุดหาง่าย บางจุดหายาก และบางจุดต้องอาศัยขนาดของฝ่ายชายถึงจะช่วยให้สุขสม แต่อย่าลืมว่าไม่จำเป็นต้องมุ่งไปที่จุดใดจุดหนึ่งเพื่อสร้างอารมณ์เสียวให้ผู้หญิง เพราะนอกจาก 5 จุดในบริเวณช่องคลอดแล้ว ยังมีจุดอื่นตามร่างกายอย่างหน้าอก ใบหู หลังคอ และริมฝีปาก ที่ช่วยสร้างความสุขได้เช่นกันลองใช้มือกระตุ้นจุดอื่นๆ ไปพร้อมกับการเข้าด้ายเข้าเข็มจะช่วยให้ผู้หญิงฟินและมีความสุขมากขึ้น

ยังมีเทคนิคเรื่องรักอีกมากมายให้คุณได้ตามอ่าน กดลิ้งไปได้เลย

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

4 ทริค เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ให้สวยเข้ากันกับหน้า ผม ชุด และสถานที่

Veil หรือ ผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว สัญลักษณ์วันแต่งงานแบบสากล หลายคนยังไม่รู้ว่าควรใส่เวลแบบยาว หรือ สั้น แบบเรียบ หรือ มีลาย วันนี้ แพรวเวดดิ้งจะพาไป เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว ให้สวยเป๊ะปังมาฝากกัน

เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว แค่ชอบ ถูกใจ ยังไม่พอ ต้องดูองค์ประกอบอย่างอื่นด้วย

Photo by Emanouil Koutsios on Unsplash

เลือกให้เข้ากับชุดเจ้าสาว

ข้อนี้เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้ดีอยู่แล้ว แต่ขอย้ำอีกสักทีว่า การเลือกเวลควรเลือกให้เข้ากับชุด เวลจะพองมาก พองน้อย ต้องพอดีกับชุดที่คุณเลือกใส่ พูดแบบนี้อาจดูกว้างไปและไม่เห็นภาพ งั้นมาลงรายละเอียดกัน

1. ถ้าคุณเลือกชุดที่ดีเทลจัดเต็มทั้งดอกไม้ ลูกไม้ หรือคริสตัล ควรเลือกเวลแบบเรียบ ไม่ลายพร้อย เพื่อไม่ให้เวลแยงซีน

2. ชุดเจ้าสาวที่เรียบหรู ไม่มีรายละเอียดมากนัก ควรเลือกเวลปักลูกไม้ หรือคริสตัลพอสมควร เพื่อเสริม และเพิ่มดีเทลให้กับชุดแบบพอดีๆ

เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว
Photo by Jonatas Domingos on Unsplash

เลือกความยาวของเวลให้ได้ระดับสวยงาม

ระดับความยาวของเวลก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะความยาวที่เข้ากับชุดจะช่วยนำสายตาคนมองให้เห็นจุดโฟกัสสำคัญบนเรือนร่างเจ้าสาว

1. ชุดเจ้าสาวทรงเชท ที่แนบไปกับลำตัว ชายกระโปรงเรี่ยพื้นและไม่ได้ยาวมาก เหมาะกับเวลชนิด Floor Length (ยาว 72 นิ้ว) หรือ Chapel Length (ยาว 90 นิ้ว) สามารถเลือกความยาวของเวลให้ยาวกว่าชายกระโปรงได้เล็กน้อย หรือถ้าใครไม่ชอบอะไรรุงรัง สามารถเลือกเวลแบบ Birdcage (นิยมทำจากผ้าตาข่าย ยาวแค่ 4-9 นิ้ว) ก็ได้เช่นกัน

2. ชุดเจ้าสาวทรงเมอร์เมด แนะนำให้เลือกเวลแบบ Fingertip (ยาว 38 – 40 นิ้ว) ความยาวระดับสะโพก เน้นให้คนมองส่วนเว้าโค้งของเรือนร่าง ไม่ควรเลือกเวลที่สั้นเกินไปเพราะจะแย่งจุดโฟกัสสายตาแล้วทำให้ทรวดทรงดูด้อยลง ส่วนเวลที่ยาวเกินไปจะบดบังรายละเอียดชายกระโปรง

เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว

3. ชุดเจ้าสาวทรงเอไลน์ สามารถเลือกเวลให้เข้ากับชุดได้หลายแบบ เช่น เวลแบบ Fingertips, Waltz Length (ยาว 60 นิ้ว) และ Chapel Length แนะนำว่าเลือกที่จะช่วยเสริมและโชว์จุดเด่นของชุดได้ด้วยจะดีมาก

4. ชุดเจ้าสาวทรงปริ้นเซสและบอลกาวน์ สองชุดนี้มีความพอง บาน อลังการอยู่แล้วจากตัวกระโปรง ดังนั้นคุณควรเลือกเวลที่ยาวประมาณสะโพก อย่างเช่น เวลแบบ Fingertip เพื่อความคล่องตัวเวลาเดินและนั่ง แต่ถ้าใครอยากเลือกเวลแบบ Chapel หรือ Cathedral ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่ต้องระมัดระวังมากหน่อยเวลาเดิน ซ้ำยังต้องคอยหยิบจับเวลอยู่เสมอ บวกกับน้ำหนักของทั้งกระโปรงและเวลอาจทำให้คุณเดินลำบาก

เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว
Photo by Eric Alves on Unsplash

เลือกให้เข้ากับสถานที่จัดงานแต่ง

สถานที่จัดงานแต่งก็มีส่วนกับการเลือกเวลไม่แพ้กัน โดยเฉพาะบ่าวสาวคู่ไหนที่ต้องเข้าพิธีวิวาห์ตามหลักศาสนาในโบสถ์ ควรศึกษาดูกฎของแต่ละโบสถ์ให้ดีว่า คุณจำเป็นต้องใส่เวลแบบที่ปิดหน้าหรือไม่ หรือสามารถใส่เวลแบบเปิดหน้าได้โดยไม่ผิดข้อกำหนด ซึ่งชนิดเวลที่เหมาะกับงานในโบสถ์นั้น สามารถเลือกได้หลากหลาย ให้ดูทรงชุดเจ้าสาวที่คุณใส่เป็นหลัก

หากจัดงานแต่งแบบเอาท์ดอร์ เช่น ในสวน หรือริมทะเล คงต้องเพลย์เซฟไว้ก่อน แนะนำให้เลือกเวลที่ไม่ยาวลากพื้น อาจเลือกเป็นเวลทรงสั้น เช่น Shoulder veil, Elbow veil, หรือ Fingertip veil เพื่อให้เดินเหินสะดวก และชายเวลไม่ระพื้นจนสกปรก หรือใครจะเลือกไม่ใส่เวลเลยก็ได้ จบปัญหา!

เลือกผ้าคลุมหน้าเจ้าสาว
Flower photo created by prostooleh

เลือกให้เข้ากับทรงผม

ปกติแล้วเวลาเจ้าสาวอยากใส่เวล มักจะต้องทำทรงผมแบบเกล้ามวยไว้ข้างหลัง แต่จะเกล้าสูงหรือต่ำ ต้องพิจารณาความยาวและความหนักของเวลด้วย เวลที่หนาและยาวจำเป็นต้องมีมวยผมที่แน่นเพื่อตรึงน้ำหนักของเวลให้ติดกับผม ควรคิดไปถึงเวลาเดินแล้วเวลลากอยู่บนพื้นตามหลังเราด้วย เพราะถ้าเลือกเวลที่จัดต็มรายละเอียด มีน้ำหนักมาก อาจทำให้เจ้าสาวปวดคอเพราะแรงดึงของเวล ส่วนเครื่องประดับผมอื่นๆ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม

อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งคิดว่าแค่เลือกเวลแต่ทำไมมันมีอะไรจุกจิกเยอะไปหมด เอาเป็นว่า คุณจะใส่ชุดแบบใด สถานที่จัดงานคือที่ไหน แล้วค่อยมาตัดช้อยส์เลือกเวลที่ใช่กันอีกที แค่นี้ง่ายมาก

ใครอยากรู้จักว่าเวลทรงนี้เรียกว่าอะไร แพรวเวดดิ้ง มีให้อ่านกันแล้วกดไปได้เลย >>> เวลเจ้าสาว 101 คอร์สเร่งรัดเรื่องเวลแต่งงานที่เจ้าสาวต้องรู้

ภาพจาก : Unsplash.com, Pinteres.com,

 

3 ปัญหา เรื่องเงินกับชีวิตคู่ ใครเพิ่งแต่งงานระวังให้ดี ถ้าไม่อยากตามใช้หนี้จนเหนื่อย

จะให้บอกกี่ทีหรือย้ำกี่ครั้งก็ไม่พ้นเรื่องเงินๆทองๆ ที่คู่รักควรระวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่ที่กำลังจะแต่งงานหรือเพิ่งเข้าพิธีวิวาห์มาหมาดๆ ถ้าจัดการปัญหา เรื่องเงินกับชีวิตคู่ ไม่ดีพอ เดี๋ยวได้มีหนี้สินก้อนโตจนตามใช้กันไม่ไหว ทะเลาะกันจนรักล่ม

เรื่องเงินกับชีวิตคู่ จัดการไม่ดีหนี้มาแน่!

เรื่องเงินกับชีวิตคู่
People photo created by wayhomestudio

 1. เป็นหนี้เพราะแต่งงาน

สิ่งสำคัญที่คู่รักรู้ดีและเตรียมการไว้อยู่แล้วคือการเก็บเงินและวางแผนจัดงานภายใต้งบประมาณที่มี แต่บางทีมันไม่จบแค่นั้น วันดีคืนดีว่าที่เจ้าสาวหรือเจ้าบ่าวอยากได้อันนั้นเพิ่ม อันนี้เพิ่ม เพื่อให้งานเพอร์เฟ็กต์แบบสุดๆ หรือพ่อแม่อยากเพิ่มจำนวนแขก และอื่นๆ อีกมากมายที่งอกเงยมาระหว่างทางคราวนี้แหละค่ะ ปัญหาเกิด! งบที่เตรียมไว้ทำท่าจะไม่พอตอบสนองความต้องการของทุกคน หลายคู่จึงแก้ปัญหาด้วยการหยิบยืมจากคนรอบตัว หรือแม้กระทั่งไปกู้เงินจากธนาคาร แบบนี้แทนที่จบงานแต่งแล้วจะได้เริ่มชีวิตใหม่อย่างมีความสุข กลับต้องมานั่งปวดหัวเพราะหนี้ก้อนโต!

ถ้าใครไม่อยากเจอปัญหาหนี้ที่มาพร้อมกับการจัดงานแต่งงาน อย่างแรกที่ต้องทำคือ คุณต้องหนักแน่นเรื่องงบประมาณเข้าไว้ มีเท่าไรใช้เท่านั้น ถ้าคู่รักหรือผู้ใหญ่ขอเพิ่มอะไรที่ต้องใช้เงิน อย่าเพิ่งด่วนรับปาก คุณต้องมากดเครื่องคิดเลขก่อนว่า งบประมาณที่เตรียมไว้มีพอที่จะเพิ่มอะไรได้อีกหรือไม่ หรือได้มากแค่ไหน หรือถ้างบที่เตรียมไว้ติดลิมิตแล้ว คงต้องปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวล พร้อมอธิบายเหตุผลให้ทุกคนเข้าใจ

เรื่องเงินกับชีวิตคู่
Image by Nattanan Kanchanaprat from Pixabay

2. รีบลงทุนซื้อของใหญ่จนกลายเป็นหนี้

ข้อนี้ แพรวเวดดิ้ง เข้าใจดีว่า หลายคู่แต่งงานใหม่อยากรีบสร้างครอบครัว มีทรัพย์สินเป็นของตัวเองเร็วๆ การเร่งสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ถ้าคุณไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง มิหนำซ้ำยังใช้เงินเก็บไปกับการจัดงานหมดแล้ว ไม่ควรรีบซื้อทรัพย์สินชิ้นใหญ่ที่ทำมีภาระผ่อนจ่ายหนักๆ

ใครที่มีบ้านหรือคอนโดเป็นของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าไม่ได้ลำบากหรืออยู่ยากเกินไป แนะนำว่าให้อยู่หลังเดิมก่อน เพราะการเพิ่งใช้เงินก้อนใหญ่จัดงานแต่ง หลังเสร็จงานคุณอาจอยากใช้ชีวิตแบบผ่อนคลาย และใช้เงินอย่างสบายๆ ดีกว่ารู้สึกว่าต้องรีบเก็บเงินผ่อนหนี้บ้านหรือรถคันใหม่  รวมถึงคนที่ต้องย้ายเข้าไปอยู่บ้านสามีหรือภรรยาที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงอยากให้อยู่ไปก่อน ถือโอกาสทำความรู้จักและคุ้นเคยกับสมาชิกครอบครัวใหม่ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่จะแยกออกมาซื้อบ้านอยู่เองก็ยังไม่สาย

ส่วนใครที่ตั้งธงไว้แล้วว่ายังไงต้องซื้อแน่ๆ ควรคิดให้รอบคอบอีกครั้งว่า ตอนนี้ทั้งคุณและคู่สมรสมีรายได้รวมกันเท่าไหร่ มีภาระผ่อนอะไรอยู่บ้าง จำนวนมากน้อยแค่ไหน และเหลือระยะเวลาผ่อนชำระที่กี่เดือน แล้วปรึกษากับธนาคารว่าจะยื่นกู้ร่วมซื้ออสังหาฯ ได้หรือไม่ และต้องเช็คเครดิตกับธนาคารให้ดี รวมถึงเอกสาร หลักฐาน และพิจารณาทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย และระยะเวลาการผ่อนชำระด้วย เพื่อให้หนี้เก่าและหนี้ใหม่ไม่ชนกันหนักมากจนแบกรับภาระไม่ไหว

เรื่องเงินกับชีวิตคู่
Image by Tumisu from Pixabay

3. ปิดบังเรื่องบัญชีทรัพย์สิน

อีกเรื่องใหญ่ที่คู่แต่งงานใหม่ไม่ควรมองข้าม คือ การเปิดเผยตัวเลขทรัพย์สินของแต่ละคน โดยเฉพาะ “หนี้สิน” (ขีดเส้นใต้ 10 เส้น)มีเงินฝากเท่าไหร่ หรืออยากเปิดบัญชีคู่กันไว้เก็บออมเพื่อชีวิตในวันข้างหน้าหรือเพื่อลูกก็ยิ่งดี แต่ที่ไม่ควรทำคือ ปิดบังหนี้สินของตัวเองโดยคิดว่าคนรักไม่จำเป็นต้องรู้ จัดการเองได้ อันนี้บอกเลยว่าถ้าคู่ของคุณมารู้ตอนหลัง อาจเลยเถิดถึงขันที่บางคู่ต้องหย่าร้างกันเลยทีเดียว ทางที่ดีควรบอก ไม่ว่าหนี้ก้อนนั้นจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าคุณจัดการเองได้ก็ดี แต่ถ้าเหนือบ่ากว่าแรงจะได้ช่วยกันแก้ไข และที่สำคัญ อย่าสร้างหนี้เพิ่ม!

บอกเลยว่าเรื่องเงินนี่แหละที่ทำให้คนรักกันมากๆ เลิกกันมานักต่อนัก ขนาดพ่อแม่ลูกพี่น้องยังตีกันเรื่องเงินได้ นับประสาอะไรกับคู่รักที่เพิ่งจะร่วมหอลงโลงด้วยกันเล่า เอาเป็นว่าจริงใจ เปิดเผย และระมัดระวังการใช้เงินในชีวิตคู่ไว้ก่อนดีกว่า จะได้เสียใจภายหลัง

ยังมีเรื่องราวการเงินกับคู่รักที่ต้องระวังอีกมาก ตามไปอ่านกันได้เลย

ภายจาก : Pixabay.com

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab Bridal 2021 คอลเล็กชั่นใหม่ สวยหรู ดูแล้วโรแมนติก

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab เป็นอีกหนึ่งแบรนด์คุณภาพระดับโลกที่สาวๆ หลายคนจับตามองทุกครั้งเวลาออกคอลเล็กชั่นใหม่ๆ อย่างล่าสุดเปิดตัวคอลเล็กชั่น Elie Saab Bridal 2021 คราวนี้มาในธีม “Radiant Muse”

ส่อง เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab Bridal 2021 โรแมนติก สวยสดใสในแสงแดด

ในคอลเล็กชั่นใหม่นี้ Elie Saab ตั้งใจดึงความโรแมนติกที่ซ่อนอยู่ในตัวหญิงสาว ให้แสดงออกมาผ่านวัสดุหลากหลายที่มาประกอบกันเป็นชุดเจ้าสาว ทั้งผ้าปักลาย, ลูกไม้, กลีบดอกไม้, และสายคาดเอว แถมยังเลือกสถานที่ถ่ายแฟชั่นเป็นสวนสีเขียวท่ามกลางแสงแดดอบอุ่น  ประหนึ่งว่านางแบบผู้ใส่ชุดคือดอกไม้สีขาวที่เบ่งบานและเปล่งประกายความงามท่ามกลางหมู่ไม้สีเขียวขจี

บอกเลยว่าคอลเล็กชั่นนี้ Elie Saab ทำให้เราเซอร์ไพรส์กับแนวคิดใหม่ๆ แม้ว่าคุณเจ้าสาวจะจัดงานแต่งในสวน ก็สามารถใส่ชุดสวยอลังฯ แบบนี้ได้ ไม่ต้องยึดติดกับผ้าพลิ้วไหว หรือสไตล์โบฮีเมียน แต่งงานครั้งเดียวในชีวิต อยากใส่อะไรก็จัดไป อย่าให้กฎเกณฑ์ใดๆ มาจำกัดตัวคุณ ว่าที่เจ้าสาวคนไหนตั้งใจจะเลือกสถานที่จัดงานแต่งเป็นสวน สามารถดูไอเดียชุดเจ้าสาวของ Elie Saab ไว้เป็นตัวอย่างได้เลย!

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

ตัวเสื้อท่อนบนสไตล์คอวี ปักลูกไม้ทั้งตัว ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงทรงเอไลน์ต่อตรงมาจากเอวช่วยให้เจ้าสาวดูสูงขึ้น

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

ชุดเจ้าสาวทรงบอลกาวน์ ตัดเย็บจาผ้า Taffeta ท่อนบนแบบโอบไหล่ โดดเด่นด้วยโบว์อันใหญ่ที่ด้านหลังชุด ทั้งสวยทั้งน่ารัก

ชุดนี้สุดปัง ชุดเจ้าสาวทรงบอลกาวน์ เนื้อผ้าสีงาช้าง ให้ความรู้สึกฟูฟองพองเบา ปักลายลูกไม้พร้อมประดับเหลือมระยิบระยับทั้งชุด และเด่นที่สุดคือโบว์อันใหญ่บนไหล่ทั้งสองข้าง น่ารักสไตล์เจ้าสาวหวานๆ

เป็นเจ้าสาวหวานๆ ด้วยตัวเสื้อสไตล์ Sweet Heart Neckline ปักลูกไม้ไล่ลงมาจนถึงกระโปรงทรงบอลกาวน์

โฉบเฉี่ยวแบบสาวโมเดิร์นด้วยชุดเจ้าสาวไหล่เดี่ยว จับเดรปช่วงตัวเป็นมินิเดรสเผยเรียวขา ผูกโบว์ใหญ่ที่เอวด้านซ้าย เสริมกระโปรงไว้ด้านหลัง

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

เกาะอกทรงหัวใจ ปักลูกไม้เต็มตัว กระโปรงทรงบอลกาวน์เป็นผ้าระบายซ้อนชั้น

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

สวยหวานสไตล์เจ้าหญิงด้วยชุดเจ้าสาวผ้าซีทรูแขนยาวผ้าลูกไม้ ตัวเสื้อปักลูกไม้สวยงามกระจายลงมาจนถึงกระโปรงทรงบอลกาวน์ พิเศษที่สายคาดเอวทำให้เห็นส่วนเว้าของเอวชัดยิ่งขึ้น

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

ชุดนี้ดูดีๆ จะเห็นว่าเป็นชุดสายเดี่ยว ท่อนบนปักลูกไม้เต็มตัว แล้วไล่ช่อลูกไม้ลงมาจนถึงกระโปรงทรงบอลกาวน์ พร้อมสายคาดเอวที่ช่วยแบ่งช่วงบนและช่วงล่าง เรียกโฟกัสสายตาไปที่เอวคอดของเจ้าสาวได้อย่างดี

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

ชุดเจ้าสาวทรงบอลกาวน์ ช่วงตัวเป็นเสื้อคอกลมผ้าซีทรู ปักลูกไม้เต็มตัวอีกเช่นเคย พร้อมด้ยสายคาดเอวเส้นเล็ก ไล่ลูกไม้ปักประดับจนถึงกระโปรง

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

เป็นชุดเจ้าสาวทรงเมอร์เมดชุดเดียวในคอลเล็กชั่นนี้ ตัวเสื้อแขนยาวแบบผ้าซีทรู ชุดนี้ปักลูกไม้ทั้งชุด เสริมเข็มขัดเส้นเล็กคาดเอว ทั้งสวย อ่อนหวาน และเซ็กซี่แบบเบาๆ

เทรนด์ชุดเจ้าสาว Elie Saab

ชุดเจ้าสาวดูสวยเรียบ ถึงไม่ได้ปักลูกไม้ แต่มีกิมมิคที่ช่วงบนเป็นแบบโอบไหล่ จับเดรปเป็นชั้นบางเบา ตัวกระโปรงทรงบอลกาวน์ดูพองมีวอลลุ่มจากการใช้ผ้า Taffeta  เสริมลุคสวยสง่าให้เจ้าสาว

ยังมีชุดเจ้าสาวอีกมากมายให้ดูเป็นไอเดีย คลิกตามนี้ไปได้เลย >>> Dresses & Suits 

ข้อมูลและภาพจาก : Brides.com