ปัญหาคลาสสิกของชีวิตคู่มีมากมาย แต่หนึ่งอย่างที่ไม่มีใครอยากเผชิญมากที่สุดคือ ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ นี่แหละ ลองคิดดูว่า เมื่อผู้หญิงที่สำคัญในชีวิตของคุณทั้งสองคนต้องมาบาดหมางกัน ในฐานะลูกและสามีจะวางตัวยังไงดี
ปัญหาแม่ผัวลูกสะใภ้ แล้วคนตรงกลางอย่างผู้ชายจะช่วยอะไรได้บ้าง
1. ทำตัวเป็นกลางไว้ก่อน
ในฐานะที่ต้องเป็นคนกลาง สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือ อย่าเข้าข้างใครเป็นพิเศษ มันก็จริงอยู่ว่าในฐานะคนเป็นลูก ถ้าแฟนตัวเองพูดอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับแม่ คุณก็คงรับไม่ได้ ในขณะเดียวกันคุณก็มีสถานะเป็นสามีด้วย หากว่าแม่พูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับภรรยาที่คุณเลือกมาเป็นคู่ชีวิต คุณเองก็คงไม่สบายใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอให้หนักแน่น อย่าเพิ่งโวยวายตัดสินว่าแม่หรือเมียใครเป็นคนผิด ควรใจเย็นและทำตัวเป็นกลางเข้าไว้ ทำหน้าที่รับฟังแต่ยังไม่ต้องออกความคิดเห็นหรือเก็บเอามาเป็นอารมณ์ รอดูสถานการณ์ก่อน ทั้งแม่และลูกสะใภ้อาจมีวิธีแก้ปัญหาในแบบของผู้หญิงก็ได้
2. เปิดใจคุยกับแม่และภรรยา
หลังจากนิ่งเป็นพระอิฐพระปูนมาแล้วระยะหนึ่ง หากว่าดูท่าสงครามน้อยๆ ครั้งนี้จะไม่จบลงง่ายๆ และมีทีท่าว่าจะกลายเป็นมหากาพย์ คงถึงคราวต้องเปิดอกคุยกับคุณแม่และภรรยาแล้ว แนะนำว่าอย่าเรียกมาคุยพร้อมกัน ให้แยกกันคุยคนละรอบ ตามแต่โอกาสและเวลาที่เหมาะสม
สิ่งที่ควรพูดกันให้รู้เรื่อง คือ หนึ่ง คุณต้องบอกให้ชัดเจนถึงความอึดอัดและความกดดันในฐานะคนกลางที่ไม่อยากเลือกข้าง เพราะทั้งสองคนเป็นคนสำคัญในชีวิตคุณทั้งคู่ เวลาคุยกับแม่ คุณควรถามแม่ว่าทำไมถึงไม่ชอบภรรยาของคุณ มีเหตุผลอะไรหรือเปล่า ในขณะเดียวกันก็แสดงออกให้แม่เห็นว่าภรรยาของคุณเป็นคนดีที่คุณอยู่ด้วยแล้วมีความสุข ไม่ได้แย่อย่างที่แม่คิด คุยแบบเดียวกันนี้กับภรรยาของคุณด้วย อย่าลืมที่จะบอกเธอว่า แม่เป็นผู้มีบุญคุณและรักคุณไม่ต่างจากที่ภรรยารัก
สอง เล่าเรื่องดีๆ ของแต่ละฝ่ายให้ฟัง ถ้าภรรยารักคุณมาก งานบ้านงานเรือนไม่เคยบกพร่อง ดูแลคุณอย่างดี อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ก็ต้องเล่าให้แม่ฟังไปตามนี้ (โฆษณาเมียให้แม่ฟังนั่นเอง) ส่วนเรื่องของแม่คงไม่พ้นว่าแม่เป็นผู้ให้กำเนิด ดูแลคุณมาอย่างดี และที่สำคัญคือ ความเป็นห่วงของแม่ที่มีต่อคุณ จนบางทีอาจ
3. ช่วยหาทางแก้ไข
เชื่อว่าคนกลางอย่างคุณสามีย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่า ปัญหาระหว่างแม่และภรรยาคืออะไร ถ้าคุณเข้าใจและรู้ดีถึงต้นเหตุของการไม่ลงรอยกันระหว่างคนทั้งคู่ ก็ต้องเป็นหน้าที่ของคุณที่จะชี้ให้เห็นว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากไหน ภรรยาคิดอย่างไร แม่คิดอย่างไร ตรงไหนที่ทั้งสองคนคิดไม่เหมือนกัน ในขณะเดียวกันต้องไม่ตัดสินว่าใครเป็นคนผิด หรือใครควรยอมแพ้
คุณสามีควรยื่นมือช่วยหาวิธีแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น เช่น เจอกันเท่าที่จำเป็นดีไหม เวลาเจอกันอย่าทำเหมือนไม่สนใจกัน แนะนำให้แม่เปิดใจ เลิกมีความคิดติดลบกับภรรยา และภรรยาก็เลิกตั้งแง่กับแม่สามี เวลานี้ยังไม่ต้องหวังให้ความสัมพันธ์ของแม่และภรรยาดีขึ้นภายในวันสองวันหรอก เอาแค่ว่าเขาไม่เขม่นกัน และไม่มีใครมาพูดว่าร้ายกันและกันให้คุณฟังก็พอ
4. หากิจกรรมให้ทำด้วยกัน
แนะนำแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณแม่กับภรรยาไปทำกิจกรรมกันสองต่อสองนะคะ แต่คนกลางอย่างคุณผู้ชายต้องคอยไปเป็นกาวใจเชื่อมระหว่างแม่กับภรรยาด้วย อาจเป็นการไปซื้อของแล้วมาทำกับข้าวทานกันที่บ้าน หรือจะออกไปเดินเล่นที่สวน ชวนกันไปทำบุญก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อย แบบนี้จะช่วยให้ทั้งสองคนมีโอกาสใกล้ชิดและเรียนรู้นิสัยใจคอกันและกันมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเลือกกิจกรรม วันที่ และเวลาให้ดี เพราะถ้าเลือกพลาดอาจกลายเป็นการย้ำแผลที่มีอยู่ ปัญหาจะหนักขึ้นกว่าเดิม
5. ใจเย็นและใช้เวลา
ปัญหาระหว่างแม่ย่ากับลูกสะใภ้คงแก้ไขไม่ได้ในวันสองวัน เพราะมันไม่เหมือนเวลาคนทะเลาะกันแล้วคืนดี คนกลางอย่างคุณต้องเข้าใจ อดทน และใจเย็น เรื่องแบบนี้ต้องค่อยๆ ปรับ บอกรักทั้งแม่และภรรยาอย่างสม่ำเสมอ ให้แม่รู้สึกว่าลูกชายยังเป็นลูกที่รักแม่อยู่ ขณะเดียวกันก็เพื่อให้ภรรยารู้สึกว่าความรักระหว่างคู่ชีวิตก็สำคัญไม่แพ้รักแบบแม่ลูก แบบนี้เป็นการสร้างความมั่นใจให้ภรรยาว่าคุณจะไม่ทิ้งเธอเพียงเพราะเธอเข้ากับแม่สามีไม่ได้
ปัญหาระหว่างแม่สามีและลูกสะใภ้ถือเป็นเรื่องใหญ่ของครอบครัว เพราะไม่ใช่เพียงแค่คู่กรณีสองฝ่ายที่ไม่ลงรอยกัน แต่ยังส่งผลไปถึงคนกลางอย่างสามี ที่สำคัญคือ คนกลางอย่างคุณนี่แหละที่เป็นคนสำคัญของทั้งคู่ มันอาจจะฟังดูอึดอัดกับการต้องอยู่ตรงกลางระหว่างคนที่เรารักมีปัญหากัน แต่ความจริงคือ คุณสามีนั่นแหละคือกุญแจสำคัญในการไขปัญหาและคลีคลายให้ทุกอย่างดีขึ้น
ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์และการดูแลครอบครัวอีกมากมาย ตามอ่านได้ที่ >>> Love & Relationship
ภาพประกอบจาก : Pexels.com