10 ร้านเช่าแบ็กดร็อปในงานแต่งดีไซน์ดีราคาประหยัด
บ่าวสาวที่กำลังมองหาตัวช่วยลดค่าใช้จ่ายในงานแต่งงาน เรามีอีกวิธีมานำเสนอ ด้วยการ “เช่า” โดยครั้งนี้เราหาร้าน เช่าแบ็กดร็อป มาฝากกัน บอกเลยค่ะว่า นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินทิ้งเปล่า ยังได้ของตกแต่งงานที่สวยถูกใจด้วยนะคะ
- All about Love
ร้านเช่าแบ็กดร็อปที่เน้นความหลากหลายมีให้เลือกมากมายครบทุกธีมโดยเฉพาะใหม่มาแรงสำหรับสิ้นปีนี้ในแนว Minimalist ที่เน้นสีขาวและงานเลียนแบบหินอ่อน ที่สำคัญคือในงานดีเทลยิบย่อยล้วนแล้วแต่เป็นแฮนด์เมด ที่บ่าวสาวสามารถเพิ่มเติมรายละเอียดให้เป็นสไตล์ของตัวเองได้
เงื่อนไขการใช้บริการ : ราคาเช่าเริ่มต้น 9,000 บาท มัดจำ 40 % และต้องจองล่วงหน้า 3 – 6 เดือน
ติดต่อ : โทร 08-9761-9449
เฟชบุ๊ค : allaboutpraewwedding
ID Line: allaboutpraewwedding
- Bokeh Wedding
เป็นอีกหนึ่งที่รับงานออกแบบตั้งแต่โลโก้ไปจนถึงตกแต่งสถานที่ ส่วนแบ็กดร็อปนั้นก็เต็มไปด้วยความแปลกตา งานนี้ไม่ได้มาเป็นแผ่นแบนๆ แต่จัดเป็นงานโครงสร้างเก๋ๆ มีมิติให้ดูแปลกตา แถมยังแน่นด้วยงานพร็อพทั้งประกอบแบ็กดร็อปและตกแต่งสถานที่ เรียกว่าเต็มทั้งแสงและสี
เงื่อนไขการใช้บริการ : ราคาเช่าเริ่มต้น 10,500 บาท มัดจำ 3,000 บาท และต้องจองล่วงหน้า 3 – 6 เดือน
ติดต่อ :โทร.08-6507-7070
เฟชบุ๊ค : bokehbackdrop
3. Elite Professional
งานดีเทล งานละเอียดต้องยกให้เขา ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ทั้งสดทั้งเสมือนจริง และงานตกแต่งทั้งแบบใช้ผ้า ใช้ไฟวิบวับ ตั้งแต่ธีมหรูหราโรมันไปจนถึงรัสติคเขียวสดชื่น แถมมีครบทั้งแบ็กดร็อป พร็อพตกแต่งสถานที่ไปจนถึงโลโก้งานแต่ง
เงื่อนไขการใช้บริการ : ราคาเช่าแบ็กดร็อปเริ่มต้น 12,000 บาท
ติดต่อ : โทร. 06-2515-6416, 09-1951-6154
เฟชบุ๊ค : eliteproplanner
4. iStein
งานแปลกแหวกแนวกับแบ็กดร็อปที่เปี่ยมไปด้วยความประณีตอย่างไม้ฉลุลาย ให้อารมณ์วินเทจเบาๆ แต่หรูหนักมาก ด้วยโครงสร้างแบบนี้ทำให้เกิดเป็นงานที่ผสมผสานระหว่างความแข็งแกร่งของเจ้าบ่าวและอ่อนโยนของเจ้าสาว จึงเหมาะสุดๆ สำหรับงานแต่งที่อยากได้ความแตกต่าง
เงื่อนไขการใช้บริการ : สอบถามกับทางร้าน
ติดต่อ : โทร. 08-9897-3663
เว็บไซต์ : http://www.isteindecor.com/
เฟชบุ๊ค : signdd
5. Labor of Love
ไม่ใช่แค่แบ็กดร็อปแต่ที่นี่ยังมีทั้งซุ้มประดับในงานและเวทีด้วย ถ้าถามว่าธีมไหนคือจุดเด่นบอกเลยดังๆว่า ธีมเจ้าหญิงนี้ละ ยังกับเกิดมาเพื่อสานฝันสาวๆ ที่อยากเป็นเจ้าหญิงไม่ว่าจะเป็นแบ็กดร็อปรูปปราสาทเอย รถฟักทองเอย แถมเจ้ารถคันนี้ยังเคยไปอวดโฉมในงานครบรอบ 46 ปีช่อง 3 ด้วยนะ เก๋ไก๋ไปอีก
เงื่อนไขการใช้บริการ : ราคาเช่าแบ็กดร็อปเริ่มต้น 8,000 บาท มัดจำ 50%
ติดต่อ : โทร. 08-1458-4061
เว็บไซต์ laboroflove-wedding.com
เฟชบุ๊ค : laboroflove.wedding
ติดตามอีก 5 ร้าน ได้ที่หน้า 2
วันฟ้าใส ในหน้าฝน ที่ กระบี่
เมื่อ MBK Group เชิญไปทริป Grow Happiness ที่จังหวัด กระบี่ เราสัมผัสได้ทันทีว่าความสุขของเราต้องเบ่งบานตลอดทริปนี้แน่นอน
เช้ามืดของวันฝนพรำ เราออกเดินทางไปสุวรรณภูมิเพื่อไปขึ้นเครื่องบินตามเวลานัดหมาย ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงก็ถึงกระบี่โดยสวัสดิภาพ เห็นได้ชัดถึงความเหนื่อยล้าจากการตื่นเช้าและการเดินทางของชาวคณะ แต่เมื่อได้ยินว่าจะได้กินอาหารอร่อยๆ จากร้านชื่อดังของจังหวัดกระบี่ ก็ทำเอาหลายคนตาตื่นเลยทีเดียว
แบ่งสรร ปันสุข
เมื่ออิ่มหนำสำราญจากอาหารใต้รสจัดกันแล้ว เราได้ออกเดินทางไป โรงเรียนบ้านร่าหมาด อ.เกาะลันตา เพื่อนำคอมพิวเตอร์ไปมอบให้เด็กๆ ที่โรงเรียน เนื่องจากคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการและยังซ่อมแซมห้องพยาบาลเก่าให้สะดวกสบายมากขึ้น โดยทริปนี้มีผู้ใหญ่ใจดีอย่าง MBK Group และ ธนาคารธนชาต เป็นสปอนเซอร์หลัก อีกทั้งภายในงานยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก นนท์และหนุ่ม เดอะวอยซ์ ที่มาสร้างความสนุกสนานให้กับทุกคน ทำให้เราเห็นความสุขและรอยยิ้มที่เปื้อนหน้าของเด็กๆและชาวบ้านตลอดทั้งงาน ต่อจากนั้นจึงได้เดินทางไปปลูกต้นมะพร้าวน้ำหอมในพื้นที่ใกล้เคียงชุมชนอีกจำนวนหนึ่งไร่ เพื่อให้ชาวบ้านนำผลผลิตที่ได้จากการปลูกมาสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนต่อไปในอนาคต
ผ่อนคลาย สบายอารมณ์
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำกิจกรรมมาทั้งวัน ก็ได้เวลาเดินทางไปยัง ดุสิตธานี กระบี่บีช รีสอร์ท เมื่อมาถึงรีสอร์ทพระอาทิตย์ก็ลาลับฟ้าไปนานแล้ว มีเพียงแสงไฟจากโรงแรมที่ส่องให้เห็นบรรยากาศโดยรอบแต่ไม่ชัดมากนัก พอสัมผัสได้ว่าบรรยากาศต้องดีมากแน่นอน หลังจากแยกย้ายกันไปพักผ่อนก็ถึงเวลาปาร์ตี้ริมชายหาด พร้อมโชว์ควงกระบองไฟที่เห็นแล้วก็แอบเสียวไม่น้อยแต่ต้องยอมรับว่าคนแสดงนั้นเก่งจริงๆ บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง เมื่ออิ่มท้องกันแล้วโปรแกรมถัดไปคือการทำสปาผ่อนคลาย ณ มันดาราสปา ซึ่งเป็นอีกไฮไลท์ของรีสอร์ท ที่นี่มีโปรแกรมสปา
ทรีทเม้นท์ให้เราเลือกสรรมากมาย ทั้งสครับ นวด แช่ ทำเอาสบายและผ่อนคลายก่อนจะล้มตัวลงนอน
สรรสร้าง ด้วยมือเรา
วันนี้เรารีบตื่นแต่เช้าเพื่อมาสำรวจบรรยากาศโดยรอบรีสอร์ท บอกเลยว่าเหมาะแก่การมาฮันนีมูนเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีชายหาดส่วนตัวที่ทอดยาวถึงสองกิโลเมตรอีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย เช่น ฟิตเนสที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง กีฬาทางน้ำ แฟมิลี่คลับ เรียนทำแพนเค้กนานาชาติ หรือ จะเลือกปั่นจักรยานไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ก็ดีไม่น้อยเพราะที่นี่เขามีบริการนำทางปั่นเป็นหมู่คณะ หลังจากที่เราเพลิดเพลินกับการทำกิจกรรมต่างๆ ก็ยังมีเวิร์คช็อป Sea Terrarium ให้ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสรรสร้างโหลใบน้อยด้วยการย่อส่วนหาดทรายสีขาวและน้ำทะเลสีฟ้ามาไว้ในมือ
อลังการแสง สี เสียง
ปิดท้ายทริปนี้ด้วยการรับประทานอาหารเย็นพร้อมกับชมโชว์มโนราห์เรืองแสงการแสดงพื้นบ้านของภาคใต้ที่ Paka Show โชว์ที่ได้ชมนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ ทั้งแสง สี เสียง มาเต็ม หากใครได้มาจังหวัดกระบี่เราขอแนะนำว่าคุณไม่ควรพลาดที่จะมาที่นี่ เพราะนอกจากจะได้อิ่มอร่อยกับมื้ออาหารค่ำสุดพิเศษแล้ว ยังได้ตื่นตา ตื่นใจกับโชว์ที่หาดูได้ยาก อย่างมโนราห์เรืองแสงอีกด้วย
ความสุขของคนเรานั้นแตกต่างกันไป บางคนได้รับความสุขจากสิ่งที่คนอื่นมอบให้ บางคนสร้างความสุขด้วยตัวเอง แต่หากคุณอยากเติมเต็มความสุขให้กับคนรักลองแวะเวียนมาผ่อนคลายและปล่อยใจไปกับบรรยากาศดีๆ ของทะเลกระบี่ดูสิ แล้วจะรู้ว่าความสุขนั้นอยู่ไม่ไกล
รวมแหวนหมั้นแห่งปี 2016 แสงเพชรวูบวาบกระแทกตา
ใกล้สิ้นปีแล้วก็ถึงเวลาส่อง แหวนหมั้นนิ้วนางข้างซ้ายของคนดัง ที่ประกาศรักกันในปี 2016 ว่าจะมีวงไหนบ้างนะ ที่ส่องแสงเปล่งรัศมีทั้งความรัก ความรวยจนละสายตาไปไม่ได้
Cara Santana
คาร่า ซานตาน่า แฟชั่นบล็อกเกอร์ ลูกสาวคนสวยของคารอส ซานตาน่า นักกีตาร์ชื่อก้องโลก ถูกจองตัวไปแล้วเรียบร้อยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ระหว่างล่องเรือสุดสวีทอยู่ในแม่น้ำฮัดสันกับแฟนหนุ่ม ด้วยแหวนเพชรทรงมรกตน้ำหนัก 5.5 กะรัต ที่ฝ่ายชายออกแบบเอง
Miranda Kerr
ม่ายสาวไม่ขาดรัก ถูกจองตัวเป็นรอบที่สองแล้วเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม โดย Evan Spiegel ผู้บริหารหนุ่มหล่อไฟแรงแถมเด็กกว่า ด้วยแหวนเพชรกลมน้ำงามประดับเพชรทรงสี่เหลี่ยมข้างหมูข้างละเม็ด แต่ที่หลายคนอิจฉานางมากกว่าแหวนคือ ฝ่ายชายภูมิใจ ดีใจและปลื้มใจมากที่นางเซย์เยส ก็เลยจัดการโพสต์ภาพแหวนด้วยตัวเองซะเลย
Pippa Middleton
น้องสาวเจ้าหญิงเคท มิดเดิลตัน ก็เป็นกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาไปอีกคน โดยผู้ชิงหัวใจอดีตคู่จิ้นเจ้าชายเจ้าชายแฮร์รี่ไปครองคือนาย เจมส์แมทธิว งานนี้จับจองหัวใจกันด้วยแหวน 3.5 กะรัต ดีไซน์แปดเหลี่ยมที่ขอบอกเลยว่า แลดูสวยสะดุดตาและมีความเป็นตัวของตัวเองมาก
Beth Behrs
ในที่สุดนักแสดงสาวจากซีรีย์ดัง The 2 Broke Girls ก็ได้รับแหวนจากแฟนหนุ่มร่างใจ ไมเคิล กลาดิส ที่คบหากันมายาวนานกว่า 6 ปีสักที เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม โดยเป็นแหวนเพชรแบรนด์ดัง ทิฟฟานีแอนด์โค ทรงสี่เหลี่ยมล้อมเพชร
Emilie de Ravin
หัวใจของนักแสดงสาวจากซีรีย์ Lost ถูกจับจองโดยผู้กำกับหนุ่ม Eric Bilitch เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมสักที ด้วยแหวนหมั้นเพชรทรงหมอนก้านแหวนประดับเพชรเล็กๆ เป็นแถวเรียงรายสวยงาม แต่ขอบอกว่า งามกว่านั้นคือ ทั้งคู่มีโซ่ทองคล้องใจเป็นสาวน้อยน่ารักเรียบร้อยแล้ว 1 คน
Anne Vyalitsyna
นางแบบสาวหน้าเก๋ก็ไม่น้อยหน้าใคร หลังได้รับแหวนหมั้นจากแฟนหนุ่ม Adam Cahan เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ด้วยแหวนเพชรที่หลายคนบอกว่าก็คือ Solitaire Engagement Ring นั่นแหละ แต่เท่าที่เรามองๆ ดู เหมือนว่าจะเป็นเพชรทรงวงรีนะ แต่ไม่ว่าจะเป็นทรงไหน สุดท้ายคือ นางกำลังจะมีคู่ก็เท่านั้นเอง
Johanna Braddy
นักแสดงสาวจากซีรีย์ The Quantico หมั้นแล้วนะจ๊ะ นางได้รับแหวนไพลินเม็ดโตล้อมเพชรน้ำงามจากแฟนหนุ่ม Freddie Stroma เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา
Kaitlynn Carter
แฟชั่นบล็อกเกอร์สาวที่ต้องร้องเพลงรอมานานหลายปีดีดัก ในที่สุดก็มีได้รับแหวนจากหนุ่มหล่อตระกูลดัง Brody Jenne งานนี้ก็สมการรอคอยด้วยแหวนทรงไข่เม็ดโตไม่พอ ยังน้ำเลิศอีกด้วย
Blac Chyna
นางแบบสาวแซ่บเจ้าของเครื่องสำอาง Lashed by Blac Chynaได้รับแหวนหมั้นจากหนุ่มสุดที่เลิฟ Rob Kardashian ชนิดไวไฟสุดๆ หลังคบหากันแค่ 2 เดือนเท่านั้น แถมแหวนหมั้นก็อลังการเพราะหนักตั้ง 7 กะรัตแน่ะ
Kate Upton
นางแบบชุดว่ายน้ำคนสวยไม่น้อยหน้าใคร เพราะแฟนหนุ่ม Justin Verlander นักเบสบอลคนเก่งจัดแหวนหมั้นเพชรน้ำหนักเบาๆ แค่ 8 กะรัต ให้นาง แหม..เม็ดโตขนาดนี้ ช่างรับกับนิ้วเรียวยาวดีจริงๆ
Ciara
ขอหยิบแว่นกันแดดมาใส่แพร่บ แบบว่าประกายเพชรนักร้องสาวมันเข้าตา หูย ก็พ่อ Russell Wilsonจัดแหวนเพชร 16 กะรัตให้นางเมื่อวันที่ 11 มีนาคม โดยไฮไลน์อยู่ที่เม็ดกลาง 16 กะรัต ประดับเก๋ๆ ด้วยเพชรข้างทรงหยดน้ำและสามเหลี่ยมอีกข้างละ 2 เม็ด ขนาดใหญ่น้ำงามขนาดนี้ไม่กลัวนิ้วหักหรือไงนะ
Maria Menounos
หลังบ่มเพาะความรักกันมายาวนานกว่า 19 ปี นิ้วนางข้างซ้ายก็ได้แหวนมาสวมสักที เป็นแหวนจากการออกแบบของ Jean Dousset กับรูปแบบสุดเรียบแค่เพชรกลมล้อมเพชรทั่วไป แต่ที่มากกว่านั้นคือ Keven Undergaro คุกเข่าสวมแหวนให้นางกลางรายการทีวีเลยนะจ๊ะ
Mariah Carey
จะมีสาวใดไหนเลยจะมีความอลังการเท่าขุ่นแม่มาลัยไม่มีอีกแล้ว เพราะแหวนประดับนิ้วนางก็ต้องคู่ควรบารมีขุ่นแม่ งานนี้ค่าตอบ เซย์เยส คือเป็นแหวนเพชร 35 กะรัต ที่ James Packer แฟนหนุ่มลงทุน เอ๊ย…ตั้งใจมอบให้เธอ
Rosie Huntington-Whiteley
งานลูกโลกทองคำ เมื่อวันที่ 10 มกราคม คงเป็นวันที่ Rosie นักแสดงสาวจาก The Mad Max: Fury Road จะจดจำไปอีกนาน ด้วย Jason Statham แฟนหนุ่มที่คบกันมายาวนาน มอบแหวนเพชร 5 กะรัตจาก Neil Lane ซึ่งว่ากันว่าแหวนหมั้นวงนี้มีมูลค่าสูงถึง 350,000 ดอร์ล่าเลยทีเดียว
Jodie Sweetin
นักแสดงสาวจากซีรีย์ The Fuller House เข้าชมรม ค.อ.ผ. แบบเนียนๆและเริ่ดมากด้วยการโพสต์แหวนหมั้น เพชรล้อมเพชรสองชั้นที่ได้รับจากแฟนหนุ่ม จัสติน โฮดัก ผ่าน IG ส่วนตัวพร้อมแคปชั่นเกร๋ๆ ว่า So… Looks like the cats outta the bag! Haha! I’m so happy and he did a GREAT job with the ring! Good taste @justinhodak_ I love you!!”
Anna Camp
นักแสดงสาวเสียงดีจากภาพยนตร์ Pitch Perfect ก็ยอมตกล่องปล่องชิ้นกับแฟนหนุ่ม Skylar Astin ระหว่างวันหยุดช่วงปีใหม่ที่ฮาวาย ด้วยแหวนเพชรบนตัวเรือนทองชมพูสุดหวาน
Rebecca Lo Robertson
นักแสดงสาวจากซีรีย์ Duck Dynasty ก็ได้รับแหวนหมั้นจากแฟนหนุ่มในปีนี้เช่นกัน ด้วยแหวนของนางไม่เหมือนใครนะคะ เพราะหัวแหวนประดับโอปอล์น้ำหนัก 14 กะรัต ซึ่งเป็นอัญมณีที่เธอชอบมากที่สุด และแหวนวงนี้ยังแฝงความพิเศษตรงที่แฟนหนุ่มของเธอมีส่วนร่วมกันออกแบบกับนักออกแบบเครื่องประดับจนได้มาเป็นแหวนหมั้นสไตล์อาร์ทเดคโคที่ไม่มีใครเหมือนอย่างที่เห็น
Amanda Seyfried
สาวสวยในใจหนุ่มๆก็ไม่ว่างให้หนุ่มที่ไหนมาเต๊าะอีกแล้ว เมื่อเธอปรากฏตัวในนิวยอร์คเมื่อวันที่ 6 กันยายน พร้อมแหวนตัวเรือนทองสุดเรียบที่แฝงไว้ด้วยความเท่ ประมาณว่ารักนี้ไม่ต้องมีเพชรมาเอี่ยวและคำยืนยันจากผู้ใกล้ชิดว่านั่นไม่ใช่เครื่องประดับนะ แต่เป็นแหวนหมั้นของคนทั้งคู่จริงๆ
Idina Menzel
นักร้องสาว เจ้าของเพลง Let it Go ที่แฟนหนุ่มคงไม่ปล่อยเธอไปอีกแล้ว เพราะจับจองสาวมากความสามารถคนนี้ด้วยแหวนเพชรขนาด 2 กะรัตที่เรียกว่าไม่มากไม่น้อยจนเกินไป แต่กำลังพอดิบพอดีกับนิ้วเรียวๆ ของเธอ ซึ่งแน่นอนว่าเธอปลื้มเจ้าแหวนวงนี้มากถึงขนาดอวดความสุขครั้งนี้ผ่านทวิตเตอร์ให้อิจฉาตาร้อนเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมานี้เอง
Nicole Williams
อีกหนึ่งดาราซีรีย์ที่สวมแหวนไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา โดยหนุ่ม Larry English มอบแหวนเพชรที่ออกแบบเองร่วมกับ Ritani เป็นแหวนเพชรเม็ดโต 18 กะรัตบนตัวเรือนทองชมพูที่ถ้าเพ่งกันดีๆ จะเห็นว่ามีเพชรประกอบระยิบระยับเป็นร้อยเม็ดเชียวล่ะ
อ่านจบแล้วก็ได้แต่อิจฉาตาร้อนว่านิ้วของพวกเธอช่างวาสนาดีเสียเหลือเกินได้แหวนราคาแพงลิบลิ่วมาประดับ แต่อ่ะเราเบี้ยน้อยหอยน้อยยังพอเข้าใจ แต่ไอ้ที่ยังโสดอยู่เนี่ยมันน่าน้อยใจในวาสนานัก สงสัยต้องไปเล็งแหวนอัญมณีราคาไม่แพง แต่ดีไซน์เก๋กู๊ดที่ช้อปเองน่าจะดีกว่า กระซิกๆ
http://www.usmagazine.com
รู้จัก 10 เพลงพระราชนิพนธ์ รักหวานละมุน
พระอัจฉริยะภาพด้านการดนตรีของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช เป็นที่ประจักษ์แก่ปวงชนชาวไทย ด้วย ๔๘ เพลงพระราชนิพนธ์ ซึ่งในวันนี้เราจะขออัญเชิญ ๑๐ เพลงพระราชนิพนธ์พร้อมที่มา ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความรักอันหวานซึ้ง มาเล่าสู่กันฟัง
เพลงที่ 1 “อาทิตย์อับแสง” และ เพลงที่ 2 “เทวาพาคู่ฝัน”
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
จากบันทึกส่วนพระองค์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์ เพ็ญศิริ ได้กล่าวถึงที่มาของบทเพลงทั้งสองว่า เกิดขึ้นในยามที่ทั้งสองพระองค์ต้องประทับห่างไกลกัน โดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ประทับ ณ เมือง ดาโวส์ ขณะที่ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร (พระยศในขณะนั้น) ทรงประทับอยู่ที่ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิซเซอร์แลนด์ โดยเพลง “อาทิตย์อับแสง” ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 อันเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 8 และในเวลาอันไล่เลี่ย วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2492 ก็ได้พระราชนิพนธ์เพลง “เทวาพาคู่ฝัน”
เพลงที่ 3 “รักคืนเรือน”
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
เนื้อเพลงรักคืนเรือนกล่าวถึง รักอันห่างไกลที่ใจพะวงขอไม่ให้แปรเปลี่ยนเช่นสายลมที่หมุนวน และขอให้รักนี้คงมั่นไม่อับเฉา โดยทรงพระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2495 ซึ่งเพลง “รักคืนเรือน” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 14
เพลงที่ 4 “ค่ำแล้ว”
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์ และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา
คำร้องภาษาไทย : ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา
มีเรื่องเล่าขานกันว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช เคยทรงอิเลคโทนขณะทรงอุ้มสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จนทรงบรรทมหลับไปจึงเป็นที่มาของ เพลงค่ำแล้ว หรือที่มีอีกชื่อว่า Lullaby เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ ในลำดับที่ 24 ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2498 แม้เนื้อหาเพลงอาจไม่ได้กล่าวถึงความรักระหว่างชายหญิง แต่ก็มีเนื้อร้องที่แสนหวานจับใจ
เพลงที่ 5 “แสงเดือน”
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
เพลงแสงเดือน เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 27 โดยทรงพระราชทานให้อัญเชิญไปประกอบการแสดงบัลเล่ต์ ในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2501 เนื่องด้วยเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองอ่อนหวาน แต่สง่างาม ได้นำออกบรรเลงในงานสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2501
เพลงที่ 6 “ภิรมย์รัก”
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาอังกฤษ : พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ
คำร้องภาษาไทย : พลเรือตรี ปรีชา ดิษยนันทน์
เป็นเพลงที่ทรงเรียบเรียงประสาน และควบคุมการฝึกซ้อมด้วยพระองค์เองโดยทรงโปรดเกล้าให้วงดนตรีสุนทราภรณ์บรรเลง เพื่อประกอบการแสดงบัลเลต์ชุดมโนห์รา หรือ Kinari Suite ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร ในวันที่ 5-7 มกราคม พ.ศ.2505 ซึ่งเพลง “ภิรมย์รัก” นี้ เป็นเพลงเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 30 ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. 2502
เพลงที่ 7 “ในดวงใจนิรันดร์”
ทำนอง และคำร้องภาษาอังกฤษ : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาไทย : ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์คำร้องด้วยพระองค์เอง ในปีพ.ศ. 2508 และเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 37 เดิมทรงตั้งชื่อเพลงว่า “I Can’t Get You Out of My Mind” แต่ต่อมาทรงเปลี่ยนเป็น “Still on My Mind” โดยในเนื้อเพลงกล่าวถึงความรักที่ฝั่งแน่น แม้ว่าจะผ่านเวลาไปนานเพียงใดก็ตาม แต่รักนี้ติดตรึงอยู่ในใจชั่วนิรันดร์ไม่มีวันลบเลือน ดังประโยคที่ว่า “You’ll be ever and ever, Still on my mind.”
เพลงที่ 8 “เตือนใจ”
ทำนอง และคำร้องภาษาอังกฤษ : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาไทย : ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์
อีกหนึ่งบทเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทั้งทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษด้วยองค์เอง ในปีพ.ศ. 2508 นับเป็น บทเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 38 โดยทรงกล่าวถึงบทเพลงเก่าๆ ที่เป็นสื่อแทนใจ และความคิดคำนึง ดังเนื้อเพลงที่ว่า “Now there’s no word that can say, I can’t tell you in anyway. Let me tell you with this Old Fashioned melody.”
เพลงที่ 9 “แว่ว”
ทำนอง และคำร้องภาษาอังกฤษ : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้องภาษาไทย : ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร
บทเพลงพระราชนิพนธ์ในลำดับที่ 41 ในปีพ.ศ. 2508 ที่หลังจากนิพนธ์ไปแล้วหนึ่งปี ได้ทรงพระราชทานให้วงดนตรีสุนทราภรณ์นำออกบรรเลงเป็นครั้งแรกในงานสังคีตมงคล ครั้งที่ 1 ณ บริเวณพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต โดยเนื้อเพลงกล่าวถึง การแว่วเสียงเพลงหวานที่ทำให้หวนนึกถึงความรักของสองเรา ที่แม้โลกจะไม่จีรัง แต่รักของเราจะยั่งยืน “I know Our love will Linger on For eternity.”
เพลงที่ 10“รัก”
ทำนอง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช
คำร้อง : สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เป็นเพลงที่เกิดจากขึ้นจากบทพระราชนิพนธ์กลอนสุภาพในพระบาทสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปีพ.ศ. 2510 โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถกราบบังคมทูลพระกรุณา ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2537 โดยนับเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ลำดับที่ 47
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพลงนี้ให้วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์บรรเลงทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม พ.ศ. 2537 และในงานพระราชทานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พ.ศ. 2538 ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง โดยทรงเชิญ คณะองคมนตรี นายกรัฐมนตรี และนายทหาร ตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ ขึ้นไปร้องเพลง “รัก” บนเวที โดยทรงบรรเลงดนตรีนำด้วยพระองค์เอง
ทั้ง 10 บทเพลง ล้วนเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองรักหวานซึ้ง และแฝงไว้ด้วยความหมายพิเศษจนมิอาจมีผู้ใดปฏิเสธได้ว่า บทเพลงเหล่านี้ไม่ตราตรึงอยู่ในใจ
ขอบคุณที่มา web.ku.ac.th/king72/2530/music.htm
http://www.oknation.net/blog/balladdrums/2010/10/09/entry-1
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/balladdrums
16 ภาพพรีเวดดิ้งสุดเลิฟ นิวเคลียร์ & เพชรจ้า กับฝีมือการลั่นชัตเตอร์ของ เปา – ทวีวัฒน์
เพียงแค่ช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังการลง ภาพพรีเวดดิ้ง สไตล์โคเรียของนิวเคลียร์-หรรษา และดีเจเพชรจ้า ก็ทำเอาโลกออนไลน์ร้อนฉ่าไปด้วยแรงอิจฉาในความมุ้งมิ้งน่ารักและตามมาด้วยกระแสที่หลายคนอยากรู้กันมากว่าเป็นฝีมือใครกันที่ลั่นชัตเตอร์ให้ แน่นอนว่าเราสืบมาให้แล้ว พร้อม 16 ภาพพรีเวดดิ้งที่นิวเคลียร์คัดมาให้เราได้ดูโดยเฉพาะ
ภาพพรีเวดดิ้งที่คุณเห็นทั้งหมดนี้คือ เป็นฝีมือของ “เปา – ทวีวัฒน์ บรรยงบุญฤทธิ์” ช่างภาพพอร์ตเทรตที่หลายคนชื่นชอบในผลงานจากใน IG @paophoto เพราะด้วยสไตล์ที่ชัดเจนในการดึงอารมณ์คนถูกถ่ายออกใปรากฏเป็นภาพนิ่งที่ดูกี่ทีก็ได้อารมณ์ร่วมเสมอ
“การถ่ายภาพพรีเวดดิ้งมีหลายแบบอยู่แล้วนะครับ แต่ถ้าโดยส่วนตัว เมื่อให้ตีโจทย์ความเป็นคู่รักในมุมมองของผมคือ คู่รักที่เป็นเพื่อนกัน ไม่ได้มีความโรแมนติกมากมาย การที่คนเราจะแต่งงานกันต้องมีพื้นฐานความเป็นเพื่อนที่จะใช้ชีวิตร่วมกันต่อไปได้ในระยะยาว เป็นคู่ที่สามารถหยอกกันได้ สนิทสนม กอดคอกันได้ และใช้ชีวิตร่วมกันแบบสนุก โดยในบางครั้งก็อาจจะแทรกอารมณ์โรแมนซ์ลงไปเป็นวาระๆ
“สำหรับคู่นี้ ตอนที่คุยสรุปแนวการถ่ายภาพ ทั้งนิวเคลียร์และพี่เพชรจ้าไม่ได้ให้โจทย์อะไรเป็นพิเศษ เพียงแต่นิวเคลียร์อยากได้ภาพสไตล์พอร์ตเทรต ผมจึงเสนอไปว่า ถ้าอย่างนั้นภาพที่ออกมาเป็นพอร์ตเทรตที่สื่ออารมณ์และอิริยาบทที่เป็นธรรมชาติของคนสองคนดีไหม ไม่ได้เป็นการถ่ายภาพที่ต้องเก๊กหรือเกร็ง ไม่ต้องโพสต์แบบหันหน้า 45 องศานะ หรือคุณต้องเอียงตัวแบบนี้ แต่เป็นการแสดงท่าทางที่คุณสามารถกอดกัน ขยับตัวได้อิสระ จับผมลูบหัวด้วยท่าทางธรรมชาติๆ ที่ปกติเคยทำแบบไหนก็ทำแบบนั้น ซึ่งน่าจะเหมาะกับคาแรกเตอร์ของทั้งคู่ที่ชอบความเป็นธรรมชาติ เน้นการแสดงออกในตัวตน ภาพที่ออกมาจึงเป็นภาพที่ทุกคนเห็นนั่นแหละครับ”
ส่วนถ้าใครสงสัยเหลือเกินว่า แล้วเสื้อผ้าหน้าผมล่ะ ทั้งคู่ให้ใครดูแลให้ สาวนิวเคลียร์บอกกับเราว่า เสื้อผ้าทั้งหมดจัดหามาเอง ส่วนหน้าผมก็เลือกช่างด้วยตัวเอง ที่สำคัญทรงผมของเพชรจ้าที่ดูแล้วทำให้คนทั้งเมืองพากันเรียกโอปป้าๆ เนี่ย บอกตรงนี้เลยว่า พี่เค้าก็จัดมาเองนะจ้ะ
สุดว้าว! แพ็คเกจงานแต่งแถมเที่ยวฟรีทั่วไทย
จองด่วน แพ็คเกจงานแต่งธีมอเมซซิ่งไทยแลนด์ ที่นอกจากจ่ายน้อยแต่ได้งานเว่อร์วัง ยังมีสถานที่เที่ยวสุดอัศจรรย์ทั่วเมืองไทยเป็นของชำร่วย
วิวาห์ล้านบัว จ. อุดรธานี
Wedding Concept :
แห่งเดียวในเมืองไทยกับการแต่งงานท่ามกลางความโรแมนติกของทุ่งทะเลบัวแดงที่มีดอกบัวสีชมพูนับล้านผลิบานพร้อมๆ กัน สำหรับการจัดงานนั้นแบ่งเป็น 2 วัน โดยวันแรกจะเป็นการพาคู่รักทั้งหมดนั่งรถรางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเมืองอุดรฯ ในชุดผ้าซิ่นของอีสาน และต่อด้วยงานบายศรีสู่ขวัญในช่วงเย็น ส่วนวันถัดมาเป็นความอลังการของพิธีการกลางทะเลบัว และเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม งานนี้บ่าว สาวอาจจะต้องรีบนอนแต่หัวค่ำแล้วตื่นมาแต่งหน้ากันแต่ก่อนไก่โห่สักนิด เพราะถ้าจะให้ได้ภาพเวดดิ้งที่สวยที่สุดก็แน่นอนว่าต้องเป็นช็อตตอนพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลบัวแดงเท่านั้น แน่นอนว่าบ่าวสาวจะต้องตื่นมาแต่งหน้ากันตั้งแต่ 4.00 น.พร้อมทำพิธีผูกข้อมือเสร็จสรรพไม่เกินเวลา 8.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ดอกบัวนับล้านบานสะพรั่งพร้อมกัน
- ชุดแต่งงาน : ชุดผ้าซิ่นพื้นเมืองของอีสาน และชุดสากล
- ราคา : 4,999 บาท
- เวลาในการจัดงาน : 14-15 กุมภาพันธ์
- สถานที่จัดงาน : อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี
- ติดต่อ : หอการค้าจังหวัดอุดรธานี โทร. 0-4224-2693, 0-4224-8582 ททท.สำนักงานอุดรธานี โทร. 0-4232-5406-7
จดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง, สุรินทร์
Wedding Concept :
ใครที่ยังอินกับความรักหวานของอ้ายเหมและแม่ลำดวน เราขอชวนมาสืบทอดประเพณีโบราณที่ตกทอดมาช้านานของชวยกวยแห่งหมู่บ้านช้าง “ตากลาง” พร้อมตื่นเต้นไปกับการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้างที่มีหนึ่งเดียวในโลก ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ณ ศูนย์คชศึกษาจังหวัดสุรินทร์ โดยงานนี้จะเริ่มตั้งแต่การฉลองมงคลสมรสในเย็นวันที่ 13 กุมภาพันธ์ จากนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นจึงเป็นความยิ่งใหญ่ของการแห่ขบวนขันหมากบนหลังช้าง และการทำพิธีแต่งงานโบราณที่เรียกว่า “พิธีซัตเต” ซึ่งมีทั้งการบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือ และถอดกระดูกไก่เสี่ยงทายชีวิตคู่ และที่จะขาดไม่ได้คือการจดทะเบียนสมรสบนหลังช้าง
- ชุดแต่งงาน : ชุดพื้นเมืองของชาวกวย
- ราคา : ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในส่วนของพิธีการ นอกจากค่าชุดที่คิดราคาตามแบบที่บ่าวสาวเลือก
- เวลาในการจัดงาน : 13-14 กุมภาพันธ์
- สถานที่จัดงาน : บ้านตากลาง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
- ติดต่อ : องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ โทร. 044-511-975 , 044-514-524 ททท.สำนักงานสุรินทร์ โทร. 044-514-447-8
วิวาห์ใต้สมุทร, ตรัง
Wedding Concept :
ก้าวสู่ปีที่ 21 อย่างสวยงามสำหรับต้นแบบการจัดวิวาห์ใต้สมุทร ณ บริเวณจุดดำน้ำเกาะกระดาน จ.ตรัง ซึ่งเป็นจุดที่ขึ้นชื่อเรื่องสีสันของประการังปละฝูงปลาใต้ทะเล โดยไฮไลต์ของงานนี้นอกจากจะเป็นการให้เจ้าสาวได้แปลงโฉมเป็นลิตเติ้ลเมอร์เมดดำน้ำลึกกว่า 10 เมตร ลงไปจดทะเบียนสมรสโดยมีฝูงปลาเป็นสักขีพยานแล้ว หลังจากการดำน้ำก็ยังมีการจัดพิธีรดน้ำสังข์ตามประเพณีไทย นอกจากนี้ทางผู้จัดงานยังจัดเต็มด้วยการพาคู่บ่าวสาวท่องเที่ยวชมความอเมซซิ่งของเมืองตรัง ไม่ว่าจะเป็นการนั่งรถไฟขบวนพิเศษสายกันตัง ร่วมงานเลี้ยงต้อนรับของท้องถิ่นที่เรียกว่า ประเพณีกินเหนียว พาไปทำเค้กแต่งงานต้นตำรับของเค้กเมืองตรังที่ร้านขุกมิ่ง-ลำภูรา ก่อนจะปิดท้ายด้วยกิจกรรมดีๆ ที่ชวนว่าที่บ่าวสาวไปเพราะพันธุ์หญ้าทะเลซึ่งเป็นอาหารของพะยูน และรับประทานอาหารทะเลสดใหม่ที่บ่อหินฟาร์มสเตย์เป็นการฉลองอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่คู่รักที่รักทะเลห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด
- ชุดแต่งงาน : ทางผู้จัดได้เตรียมชุดแต่งงานไทยและสากลไว้ให้ ส่วนชุดและอุปกรณ์ดำน้ำลึกนั้นบ่าวสาวต้องเตรียมไปเอง
- ราคา : คู่บ่าวสาว 30,000 บาท / ญาติ 1,000 และ 1,500 บาท
- เวลาในการจัดงาน : 13-15 กุมภาพันธ์
- สถานที่จัดงาน : หาดปากมง อ.สิเกา จ.ตรัง
- ติดต่อ : www.underwaterwedding.com โทร: 075-225-353, 075-210-238
วิวาห์บาบ๋า, ภูเก็ต
Wedding Concept :
ตอกย้ำความเป็นโรแมนติกเดสติเนชั่นของเมืองภูเก็ตด้วยการรื้อฟื้นประเพณีแต่งงานบาบ๋า ในอดีตให้กลับมีสีสันขึ้นมาใหม่ในชื่อ “วิวาห์บาบ๋า สุดปลายฟ้าอันดามัน” โดยจุดเด่นของงานนอกจากจะเป็นความงามของสถานที่จัดงานในเมืองเก่าภูเก็ตแล้ว ไฮไลต์แต่งงานบาบ๋าคือความอลังการของชุด ซึ่งทางฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นมาในมาดสุขุมของนายหัวที่เป็นนายเหมืองเก่า ส่วนเจ้าสาวนั้นเป็นชุดสไตล์เพอรานากันที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจีนและมลายูได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะความงามของเครื่องทองที่นำมาทำเป็นดอกไม้ไหวประดับศีรษะนั้น ปัจจุบันหาชมได้ยากยิ่ง สำหรับพิธีการนั้นจะมีการนำเที่ยวเมืองภูเก็ตในวันแรก วันที่สองจึงเป็นการทำพิธียกน้ำชาแบบจีน การจดทะเบียนสมรสแบบจีนโบราณ ต่อด้วยขบวนแห่บ่าวสาวกลางเมืองภูเก็ตที่ยิ่งใหญ่ ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเลี้ยงฉลองสมรสริมชายหาด
- ชุดแต่งงาน : ชุดบาบ๋า ย่าหยา
- ราคา : 39,990 บาท
- เวลาในการจัดงาน : 16-17 มิถุนายน
- สถานที่จัดงาน : อ.เมือง จ.ภูเก็ต
- ติดต่อ : www.phuketbaba.com โทร.08-1691-1955
เรื่อง : ศรัณยู
3 สถาบันกำจัดขนระดับโปร สุดเกลี้ยงเกลา
เจ้าสาวที่กำลังขมวดคิ้วหน้ามุ่ยกับขนในส่วนต่างๆ ที่ขึ้นมายุ่บยั่บทำเอาหมดศรัทธาความสาวของตัวเอง แต่ใจก็ไม่กล้าลองแว็กซ์เพราะกลัวเจ็บ เราจึงทำการส่งสแตนด์อิน มิสรีวิว 3 สาว ไปใช้บริการ บอกเลยว่าแต่ละทีคัดมาแล้วเพื่อเจ้าสาวสวยใสไร้ขนในวันแต่งงาน
Bare Hare Wax Studio
สวัสดีค่ะ ชื่อ ‘จูน’ นะคะ เป็นหญิงสาวที่ชอบแต่งตัวเปรี้ยวนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ หลักๆ มักชอบใส่เดรสสั้น แต่ก็ไม่เคยแว็กซ์ขนขามาก่อน ปล่อยยาวพลิ้วปลิวไสว เพราะไม่เห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จนเพื่อนหลายคนเริ่มทัก “นี่ถ้าไม่ได้มองหน้าคงคิดว่าเป็นแข้งผู้ชาย ปล่อยขนขายาวอะไรเบอร์นั้น” ได้ยินมากๆ จิตตกสิคะ และก็เหมือนสวรรค์บันดาลในยามที่สับสนว่าจะจัดการยังไงกับหน้าแข้งผู้ชายนี้ดี จูนได้รับเกียรติให้เข้ารับบริการแว็กซ์ขนขาที่ร้าน Bare Hare Wax Studio และครั้งแรกกับการแว็กซ์ขนขาของจูน…ก็ได้เริ่มขึ้น
เมื่อแรกพบ
ตอนดูเส้นทางเห็นรูปหน้าร้านเป็นสีชมพู แต่พอมาหยุดยืนมองหน้าร้านจริงๆ กลับเป็นสีม่วง ยืนเล็งลัคณาอยู่นาน เอ…ร้านเดียวกันหรือเปล่า พอตรวจตราชื่อร้าน เบอร์ร้าน โอเคใช่ โกออนค่ะ พอเข้าไปในร้านได้กลิ่นคล้ายๆแอลกอฮอล์แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียว ซึ่งก็จัดว่าเป็นกลิ่นที่ดีอยู่นะคะ ไม่ใช่ไม่ดี ภายในร้านดูแออัดนิดหน่อย แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการกำจัดขนไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด พอกวาดตามองไปที่พนักงาน รู้สึกถึงความเป็นมิตรทันที เพราะพนักงานต้อนรับดี ตรวจตราคิวให้อย่างรวดเร็ว แล้วก็ทวนว่าเราจองอะไรไว้ ทำอะไรบ้าง ชัดเจนมากค่ะ
เมื่อเดินตามพนักงานเข้าไปในห้อง เตรียมกำจัดขนขายาวพลิ้วปลิวไสวออกไป แอบตื่นเต้นเบาๆ เพราะเป็นครั้งแรก ไม่เคยทำมาก่อนจึงไม่รู้เลยว่าอะไรเป็นอะไรบ้าง พอเข้ามาภายในห้องบริการ เรื่องความสะอาดอยู่ในระดับกลางๆ แอบติงนิดหน่อย เพราะตรงข้างๆ เตียงที่วางตุ๊กตา น่าจะคลีนกว่านี้สักนิด ตุ๊กตาดูเก่าและเปื้อนไปหน่อย ส่วนการจัดเรียงอุปกรณ์ดูเป็นระเบียบ สะอาดดี ถังขยะอยู่ใต้โต๊ะจะถูกเลื่อนออกมาแค่ตอนพนักงานจะทิ้งขยะเท่านั้น ภาพรวมถือว่าเรื่องความสะอาดนั้นดีพอสมควร
ปฎิบัติการแว๊กซ์
เอาล่ะค่ะ มาถึงขั้นตอนการแว็กซ์ ตื่นเต้นแค่ไหนถามใจดู เคยได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างจากประสบการณ์ของคนเคยแว็กซ์ขนขาตามอินเทอร์เนต ส่วนมากบอกเจ็บจนน้ำตาเล็ด นี่ก็แอบประหวั่นพรั่นพรึง แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพื่อเรียวขาที่เรียบเนียน ไฟ้ท์ค่ะ! ที่ร้านนี้เป็นการแว็กซ์ร้อนแบบใช้แผ่นดึง (ไม่รู้ศัพท์เฉพาะเรียกยังไง ขอเล่าแบบสิ่งที่เห็นก็แล้วกันนะคะ) พอพนักงานเอาขี้ผึ้งทารู้สึกร้อนที่ขาพอสมควร พอตอนเอาแผ่นนาบขาแล้วดึง อืม…ชอบจัง ชอบตอนความรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างถูกลอกออกไป ก็เจ็บนิดๆ นะคะ เหมือนมดกัด แปลกใจตรงไม่เจ็บมากอย่างที่คิด ในเรื่องของน้ำหนักมือพนักงาน ส่วนตัวคิดว่าเขาลงน้ำหนักพอสมควรเลยล่ะค่ะ แม้จะลงน้ำหนักมาก แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ็บจนทนไม่ไหว สำหรับระยะเวลาในการแว็กซ์น่อง ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แล้วไม่เจ็บด้วย ถือว่าเวลากำลังดีค่ะ
พอแว็กซ์เสร็จรู้สึกเกลี้ยงเกลากว่าเดิมมาก ขาเนียนขึ้น ลูบขาอย่างแผ่วเบาแล้วก็ชื่นใจเพราะเจอกับผิวสัมผัสเรียบเนียนไม่ขรุขระอีกแล้ว คิดในใจ เออ น่าจะทำตั้งนานแล้วนะ แต่ไม่เป็นไรได้ทำตอนนี้ก็ยังดีกว่าปล่อยปละให้คนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแข้งผู้ชายอย่างเดิม
ทีนี้ขอเล่าในส่วนของพนักงานบ้างนะคะ พนักงานดูใส่ใจดีเลย เพราะเมื่อเห็นว่าชุดที่ลูกค้าใส่เป็นกระโปรงสั้นก็จะให้ใส่ผ้าถุงไว้กันโป๊ ส่วนเรื่องของการตอบคำถาม พนักงานมีการตอบคำถามที่ฉะฉาน มีการชวนคุยระหว่างการแว็กซ์ และมีการพยายามโน้มน้าว รวมถึงแนะนำให้แว็กซ์บริเวณอื่นด้วย จูนว่าพนักงานคุยสนุกก็ได้นะคะ แถมยังให้ข้อมูลได้ลึกพอสมควร ตอบได้ทุกข้อสงสัย แล้วก็มีการถ่ายรูปก่อนและหลังทำเพื่อให้เห็นความต่างมากขึ้น ถือว่าเป็นข้อดี ดูใส่ใจอยากให้ลูกค้าเห็นความเปลี่ยนแปลง
ความเกลี้ยงเกลาแห่งเรียวขา
คราวนี้ช่วงติดตามผล ผ่านไป 1 วัน รู้สึกคันขายุบยิบ แต่อยู่ในลักษณะที่ทนได้ค่ะ คันเป็นระยะ แต่พอสัมผัสที่ขาทุกครั้งจะรู้สึกถึงความเกลี้ยงเกลา แต่จะสังเกตเห็นขนสีขาวเล็กๆขึ้นมาเป็นบางจุด พอลูบดูก็ไม่รู้สึกขรุขระแต่อย่างใด ยังจัดว่าเรียบเนียนเหมือนเดิม พอผ่านมา 5 วัน ความคันลดลง พอลูบขาดูเหมือนเจอกับเข็มเล็กๆ ผุดขึ้นมา พอมองใกล้ๆ มันคือขนสีขาว คราวนี้เป็นขนสีขาวที่แข็งตัวมากกว่าเดิม แต่ถ้ามองในระยะปกติก็จะเห็นเป็นขาเรียบเนียนเหมือนเพิ่งออกจากร้านไม่มีผิดเพี้ยนเลยล่ะค่ะ
โดยรวมการไปแว๊กซ์ขนขาครั้งนี้ เนียนกริบดีค่ะ ราวกับขาไม่เคยผ่านการมีขนมาก่อน ชอบค่ะ
ติดต่อ : เอกมัยช็อปปิ้งมอล์(เวิ้งโบราณ) เอกมัยซอย10 ถนนสุขุมวิท 63 กรุงเทพมหานคร โทร. 08-1100-7971
เฟซบุ๊ก : BareHare Eyebrow & Wax Salon
แจกของรางวัล Gift Voucher มูลค่ารวม 1,000 บาท 10 รางวัล
เทรนด์งานแต่งปี 2017 อะไรบ้างควรเก็บอะไรบ้างต้องโบกมือลา
“เทรนด์” เป็นเรื่องที่เปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่เรื่องแต่งงานก็มีเทรนด์กับเขาเหมือนกัน วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า เทรนด์งานแต่งไหนของปี 2016 ได้ไปต่อ และเทรนด์อะไรเอ่ยที่ต้องเก็บกระเป๋าม้วนเสื่อกลับบ้าน
เลิกอาฟเตอร์ปาร์ตี้ไปซะ!!
อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ในเรื่องนี้เวดดิ้งแพลนเนอร์เมืองนอกเมืองนาอย่าง Mr. David Tutera บอกว่า แนวโน้มในการจัดงานแต่งงานและอาฟเตอร์ปาร์ตี้จะแยกกันในปี 2017 ค่ะ คือวันแต่งงานก็ให้งานแต่งงานเป็นอีเวนท์เดียวไปเลย เพื่อจะได้สนุกกันได้เต็มที่กับงานแต่งงาน เพราะหลังพิธีแต่งงานจบบรรดาแขกเหรื่อก็อยากกลับบ้านกันแล้ว (อันนี้เห็นด้วยนะ โดยเฉพาะกับนิสัยคนไทยที่เบื่อแสนเบื่อที่จะต้องมาติดอยู่บนท้องถนนยามราตรี) ส่วนอาฟเตอร์ปาร์ตี้ถ้าอยากจะจัดจริงๆ ไม่มีใครว่า แต่ค่อยไปจัดวันอื่นแทน
งานสไตล์โมเดิร์น โชว์โครงสร้างกำลังมา
บอกเลยว่างานนี้สาวกชาวลอฟท์ต้องดีใจ เพราะงานลอฟท์โชว์โครงสร้างผสมความเมทัลลิคและสีขาวเป็นอะไรที่กำลังมา แถมแรงไปจนถึงปี 2018 เลยทีเดียว ซึ่งหัวข้อนี้คุณจะเชื่อหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ที่เห็นจะๆ กันคือ เทรนด์นี้กำลังมาแรงในช่วงคึรึ่งปีหลังของบ้านเราเลยค่ะ
เข้ากันทั้งหมด
คุณเจ้าสาวที่กำลังคิดธีม คิดกิมมิค และเดรสโค้ด จงรู้ไว้เถอะว่าคุณกำลังทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว และถ้าจะให้ดีคือ ทั้งหมดต้องไปด้วยกันได้รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งการเข้ากันทั้งหมดแบบนี้ คือสิ่งที่จะยังคงอยู่แบบชั่วนิจนิรันดร์เลยค่ะ
งานกระดาษมาแรงอินเทรนด์แน่นอน
ครั้งหนึ่งงานกระดาษป็นที่นิยมมากมายในบ้านเรา โดยเฉพาะฉากถ่ายภาพที่ใช้ดอกไม้กระดาษประดับประดา ตอนนี้เทรนด์นี้กำลังมาอีกแล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นฉากถ่ายภาพ ช่อบูเกต์ หรือส่วนอื่นๆ ของการตกแต่งงาน ถ้าทำจากกระดาษจะทำให้งานเก๋ขึ้นเยอะ นอกจากจะทำให้แขกแปลกใจแล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
รูปถ่าย “เห็นเธอในชุดเจ้าสาวครั้งแรก”
รูปสแนบในช็อตที่เจ้าสาวปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าบ่าวเป็นครั้งแรกยังคงเป็นเทรนด์ที่ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า แถมไม่ใช่แค่อินเทรนด์นะ แต่รูปถ่ายแบบนี้จะตราตรึงทั้งบ่าวสาวและแขกในงานได้อีกนานแสนนานเลยทีเดียว
จากเทรนด์ทั้งหมด เราขอแสดงความเสียใจกับคุณอาฟเตอร์ปาร์ตี้ที่ต้องโบกมือลากันไป และขอต้อนรับน้องใหม่ สำหรับการจัดงานแบบลอฟ์ทค่ะ ที่จะมาแรงแซงรุ่นพี่
ขอบคุณข้อมูลจาก brides
ภาพ : webdesignonlineschools
ส่องงานแต่งงานริมทะเลสุดสวีทที่เม็กซิโก
เมืองไทยมีทะเลสวยๆ จนติดอันดับว่าเป็น Wedding Destinations ของโลก อย่างทะเลทางใต้ก็จะมีจังหวัดเด็ดๆ ที่ถูกใจหลายคนอย่าง ภูเก็ต กระบี่ พังงา ยังไม่นับรวมเกาะเล็กเกาะน้อยที่ทะเลยสวยมากกกกก และถ้าคิดจะจัด งานแต่งงานริมทะเล ทั้งทีต้องมีรายละเอียดครบแบบที่แขกต้องประทับใจและบ่าวสาวต้องปลื้มจิต
เราจึงสรรหาคู่บ่าวสาวตัวอย่างจากประเทศนอกอย่างคู่ของ Brittney Magee และ Chase Stone ที่ได้เลือกริมชายหาด ประเทศเม็กซิโก เป็นสถานที่จัดงานริมทะเลขนาดเล็กที่มีแขกเพียง 55 คนมาฝากกัน ลองไปดูไอเดียของเขาทั้งคู่นะคะ ดูสิว่าไอเดียไหนน่าเอาอย่าง ไอเดียไหนประยุกต์มาใช้ได้บาง ดีไม่ดี งานแต่งริมทะเลในฝันของคุณอาจเจ๋งกว่าคู่นี้ก็ได้นะคะ
เริ่มที่ที่การ์ดเชิญกันก่อนเลย ทั้งคู่เลือกการ์ดเชิญสีนู๊ดอมชมพูและสีทอง คาดด้วยสายแถบสีทองกลิตเตอร์ ไม่ดูเป็นทางการเกินไป และเข้ากันได้ดีกับหาดทรายซึ่งเป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน
ส่วนชุดเจ้าสาวต้องไม่ธรรมดา แต่เอื้อต่อการแต่งงานริมทะเลแบบเข้ากันได้ Brittney เลือกชุดเจ้าสาวเกาะอกสีนู๊ดอมชมพูประดับคริสตัล ต่อช่วงกระโปรงด้วยผ้าบางเบาสีขาวพร้อมปลิวตามสายลมจาก Watters คอมพลีทลุคเจ้าสาวริมทะเลด้วย รองเท้าแตะสานทรงแกลดิเอเตอร์ประดับคริสตัล และดอกกุหลาบที่มัดรวบกันไว้เป็นช่ออย่างง่ายๆ เป็นช่อดอกไม้เจ้าสาวที่ดูสบายเข้ากับงานแต่งริมชายทะเล
แน่นอนว่างานนี้เพื่อนเจ้าสาวต้องไม่พลาด เพราะแต่ละนางจัดมาเต็มๆ ตามธีมเอาใจเจ้าสาวเต็มที่ กับชุดผ้าลูกไม้แขนกุดยาวจรดพื้นจาก Watters เช่นเดียวกับชุดเจ้าสาว
มาถึงไฮไลน์ของงานอย่างสถานที่จัดงานกันบ้าง ทั้งคู่ช่วยกันตกแต่งซะงานริมทะเลที่อาจมีลมพัดแรงกลายเป็นงานที่แฝงไปด้วยความอบอุ่น เพราะดูเป็นกันเอง ด้วยศาลาไม้สีเสาคลุมด้วยผ้าสีขาว ประดับช่อดอกไม้ที่กลางเสาทั้งสี่ต้น
ในส่วนของคุณเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าวก็หล่อเท่ด้วยชุดสูทสีเทาอ่อน ประดับบูโทเนียร์ดอกกุหลาบสีขาว มาพร้อมเท้าที่เปล่าเปลือยสัมผัสกับพื้นทรายอุ่นอย่างเต็มที่
ส่วนของชำร่วยก็น่ารักกุ๊งกิ๊งด้วยแชมเปญขวดจิ๋วผูกโบว์สีชมพูมุ้งมิ้ง ที่บ่าวสาวผูกเองกับมือเลยทีเดียว
หลังพิธีกล่าวคำสาบานก็ลัลลากันต่อกับงานเลี้ยงฉลองตอนเย็นที่ชุดของเจ้าสาวยังคงเหมือนเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือช่วงกระโปรงที่สั้นขึ้น เพื่อความสนุกสนานตอนแดนซ์ แถมยังถ่ายรูปออกมาได้สวยงามมีชีวิตชีวาสุดๆ
บ่าวสาวนั่งอยู่ที่โต๊ะรูปหัวใจ และแน่นอนว่าตกแต่งทุกอย่างเป็นสีนู๊ดอมชมพูหวานใส ในการ์ดเมนูแนบมาด้วยดอกกุหลาบดอกเล็กส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
ส่วนของเค้กเธอเลือกเป็นเค้กชิ้นเล็กจิ๋ว และเสิร์ฟแขกด้วยเค้กป๊อบทรงกลม เพราะอากาศริมทะเลของประเทศเม็กซิโกอาจทำให้เค้กก้อนโตละลายได้
เป็นไงคะ งานแต่งของ Brittney และ Chase เป็นงานแต่งเล็กๆ ที่น่ารัก แถมมีหลายไอเดียน่าเอามาประยุกต์ใช้ในงานแต่งริมทะเลที่บ้านเรา ทั้งเรื่องของชุดเจ้าสาว หรือเรื่องเค้ก ที่อากาศไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ถ้ามีงานแต่งน่ารักๆ แบบนี้อีกเมื่อไหร่ เราจะนำมาให้ชมกันอีกแน่นอนค่ะ
Behind the scenes แนท อนิพรณ์ เฉลิมบูรณะวงศ์ ปก WE ธันวาคม 2559
จากเกลียดแรกพบสู่ “69 ปีแห่งรัก”
บันทึกความทรงจำอันแสนหวานตลอดเส้นทางรักอันยาวนานแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ธ ผู้ทรงเป็นแบบอย่างแห่งรักแท้และการครองเรือน
“สำหรับข้าพเจ้าเป็นการ ‘เกลียดแรกพบ’ มากกว่า ‘รักแรกพบ’ เนื่องเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรับสั่งว่า จะเสด็จมาถึงในเวลา 4 โมง แต่กลับเสด็จมาถึงในเวลา 1 ทุ่ม ทรงปล่อยให้ข้าพเจ้ายืนรออยู่ตรงนั้น และได้แต่ซ้อมถอนสายบัวอยู่จนแล้วจนเล่า จึงเป็นการเกลียดเมื่อแรกพบมากกว่ารักเมื่อแรกพบ…จากนั้นมันก็คือความรัก เป็นสิ่งธรรมดาๆ ที่คุณเคยได้ยินรักแรกพบ ข้าพเจ้าไม่รู้ว่าพระองค์ทรงรักข้าพเจ้า เพราะขณะนั้นข้าพเจ้ามีอายุเพียง 15 ปี” พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขณะพระราชทานสัมภาษณ์แก่เดวิด โลแมกซ์ ผู้สื่อข่าวบีบีซี
หลังจากที่ภาพยนตร์สารคดี “ขวัญของชาติ (Soul of Nation)” ซึ่งเคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ BBC กรุงลอนดอน เมื่อ พ.ศ. 2521ได้ถูกนำกลับมาฉายซ้ำอีกครั้งเพื่อน้อมรำลึกถึงองค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เรื่องราวแห่งรักที่เกิดขึ้น ณ แดนไกลระหว่างธิดาองค์ใหญ่ของท่านเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศฝรั่งเศส “หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร” และกษัตริย์หนุ่มวัย 20 พรรษา ผู้ทรงเป็นมิ่งขวัญแห่งปวงประชาชาวไทยจึงถูกเปิดเผยขึ้น…เป็นรักแรก รักเดียว และเป็นความรักต้นแบบที่ประทับอยู่คู่ผืนแผ่นดินไทยมาตลอด 69 ปี
รักแรกเมื่อแรกพบ
ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนเลยว่าการพบกันครั้งแรก ณ กรุงปารีส อันเป็นต้นเหตุของการเกลียดแรกพบในมุมมองของหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์จะเป็นที่มาของรักแรกพบที่เก็บอยู่ในส่วนลึกพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
แม้เมื่อครั้งที่สมเด็จพระราชชนนีมีรับสั่งทางโทรศัพท์ถามถึงธิดาของท่านทูตไทย พระองค์จะทรงรับสั่งตอบกลับเพียงสั้นๆ ว่า “เห็นแล้ว น่ารักมาก” ทว่าหลังจากนั้นไม่นานเมื่อคราวที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชประชวรจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ สิ่งแรกที่ทรงทำเมื่อรู้สึกพระองค์ คือหยิบรูปหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ออกมาจากกระเป๋า แล้วถวายแด่สมเด็จพระราชชนนีพร้อมมีรับสั่ง
“แม่…เรียกสิริมาที”1
ไม่มีใครเคยล่วงรู้มาก่อนว่าภาพหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ที่ทรงหยิบออกมาจากกระเป๋าส่วนพระองค์ เป็นภาพเฉพาะใบหน้าที่ตัดออกมาจากภาพหมู่ที่ทรงถ่ายให้กับคณะบุคคลที่มาเข้าเฝ้าฯ ที่สถานทูตไทยประจำกรุงปารีส และในขณะที่พระองค์ทรงกำลังเตรียมกล้องถ่ายภาพอยู่นั้นทรงพบว่า หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ซึ่งยืนเป็นคนสุดท้ายอยู่ในมุมที่มองไม่เห็น พระองค์จึงทรงมีรับสั่งก่อนลั่นชัตเตอร์ว่า
“ยู้ฮู! คนข้างหลังโผล่หน้ามาหน่อยสิ”2
เสพศิลป์ในอ้อมกอดแห่งขุนเขา
ปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการแพ็คกระเป๋าแล้วออกเดินทางสู่ความชุ่มฉ่ำกลางผืนป่ามรดกโลกเขาใหญ่ กับการเช็คอินในวิลล่าสุดไพรเวท “เขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม (Khao Yai Art Museum)” รีสอร์ตที่นำความงามของศิลปะมาผสานกับธรรมชาติจนกลายเป็นนิยามใหม่ของความผ่อนคลาย
หากพูดถึงเขาใหญ่ หลายต่อหลายคนคงนึกถึงความสดชื่นของผืนป่า และบรรยากาศสุดโรแมนติกของร้านอาหารอิตาเลียน รวมทั้งรีสอร์ตสไตล์ทัสคานีที่ผสานกับหมอกจางๆ เหนือผืนป่า แต่มากไปกว่านั้น เขาใหญ่ยังมีอาร์ตแกลเลอรีเล็กๆ ซ่อนอยู่กลางดงไพร โดยความพิเศษของอาร์ตแกลเลอรีที่ว่า คือการจัดสรรระหว่างห้องจัดแสดงงานศิลปะส่วนตัว และวิลล่าสุดหรูให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันชนิดที่ว่าลืมตาตื่นขึ้นมาก็สามารถชื่นชมงานศิลปะได้อย่างใกล้ชิด
บนพื้นที่ 20 ไร่ของเขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียมแห่งนี้แบ่งออกเป็น Art Gallery และ Art Space โดยในส่วนของ Art Gallery นั้นเป็นการจัดแสดงผลงานศิลปะอันเป็นของรักและของสะสมของ คุณพงษ์ชัย จินดาสุข หัวเรือใหญ่แห่งก๊อกน้ำ Sanwa ซึ่งมีให้ได้ชมทั้งภาพวาดของศิลปินไทยระดับแนวหน้า และงานประติมากรรมกลางสวนที่หาชมยาก
ด้วยความชื่นชอบในงานศิลปะจนถึงขั้นคลั่งไคล้นี่เองที่ทำให้คุณพงษ์ชัยเลือกที่จะสร้าง Art Space ให้เป็นคอมมิวนิตี้สำหรับศิลปิน และเป็นที่พักสำหรับคนที่ชื่นชอบงานศิลปะโดยเฉพาะ โดย Art Space ที่ว่ามีลักษณะเป็นวิลล่าส่วนตัวขนาดใหญ่ 2 ชั้นริมทะเลสาบ หนึ่งหลังมีห้องนอนมากถึง 3 ห้อง พร้อมห้องนั่งเล่น และครัวที่มีอุปกรณ์สำหรับจัดปาร์ตี้เล็กๆ ครบครัน
นอกจากจากุชชี่ที่อยู่ริมทะเลสาบในวิลล่าทุกหลังแล้ว อีกความเซอร์ไพร้ส์ของที่นี่คือการนำงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซมาตกแต่งห้องพักโดยไม่ซ้ำกันสักรูป ซึ่งนั่นทำให้วิลล่าแต่ละหลัง ห้องแต่ละห้องมอบอารมณ์ความผ่อนคลายที่แตกต่างกันไป รวมทั้งทำให้การเช็คอินที่เขาใหญ่กลายเป็นประสบการณ์ใหม่ที่มีทั้งความงามของธรรมชาติและศิลปะให้ได้ดื่มด่ำไปพร้อมกัน
เขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม บ้านท่าช้าง ซ.6 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โทร.0-4475-6060-6 www.khaoyaiartmuseum.com
เรื่อง : ศรัณยู
ภาพ : ดวงพร
“คุ้มไม่คุ้มกับเงินแสนที่ต้องจ่าย” กับ 4 ช่างภาพเวดดิ้งตัวพ่อของเมืองไทย
4 คำถามสุดฮิตที่บ่าวสาวอยากได้คำตอบก่อนตัดสินใจจ้างช่างภาพเวดดิ้งคิวทองค่าตัวเหยียบแสน เราหาคำตอบมาให้แล้ว ซึ่งแน่นอนว่า จะเป็นคำตอบสวยๆ จากใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ 4 ช่างภาพเวดดิ้งค่าตัวเหยียบแสนทั้ง 4 ท่านต่อไปนี้
หมายเหตุ : เรียงลำดับการสัมภาษณ์ตามตัวอักษรภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียงตามราคาหรือฝีมือนะจ้ะ
คุณอาร์ม-จักร์กวินทร์ ภู่สวาสดิ์ จาก JAKAWIN PHOTOGRAPHY
แพงจัง ดีจริงเหรอ เว่อร์ไปรึเปล่า?
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่
“ฉะนั้นถ้าบ่าวสาวสงสัยว่า คุ้มไหมเนี่ยถ้าจ่ายไปขนาดนั้น ผมว่า ความรู้สึกคุ้มไม่คุ้มขึ้นอยู่
จ่ายแพงขนาดนั้น แปลว่างานนี้ไม่มีคำว่าพลาดใช่
“ไม่มีใครอยากให้งานที่
ว่ากันว่าถ้าคุณไปถ่
“ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า เงื่อนไขในการมีผมไปด้วยหรือไม่
“ส่วนในเรื่องราคาคงต้องบอกว่า เรามีหลากหลายราคาให้ลูกค้าเลื
ในระดับราคาและช่างภาพเกรดเดี
“เริ่มต้นที่การนัดเจอช่างภาพก่
บอกกันชัดๆ ตรงนี้เป็นการปิดท้าย เผื่อจะมีอีกหลายคนที่สับสนว่า เจ้าของแบรนด์ Jakawin Photography มีชื่อเล่นว่าอะไรกันแน่ เฉลย…คุณอาร์ม-จักร์กวินทร์ ภู่สวาสดิ์ นะจ้ะ ส่วนรูปร่างหน้าตาก็…
บทสัมภาษณ์ คุณนุก NARAKORN PHOTOGRAPHY อยู่ที่หน้าถัดไปค่ะ
มนตราอาหรับราตรี @หัวหิน
รับลมหนาวแบบหวานๆ ริมทะเลหัวหิน ที่มากล้นด้วยมนตร์เสน่ห์แห่งศิลปะสไตล์โมร็อกโก รวมทั้งเสน่ห์ชวนฝันของเทพนิยายอาหรับราตรี ณ มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
เมื่อผืนทรายละเอียดและน้ำทะเลสีครามมาบรรจบกับความงามอันหรูหราของสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโมร็อกกัน (Neo-Moroccan) ผลลัพธ์จึงเป็นความลงตัวของรีสอร์ตสุดโรแมนติกริมทะเลหัวหิน ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสีสันแห่งดินแดนโมร็อกโกอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้านศิลปะ ที่พร้อมจะทำให้ประสบการณ์การเข้าเช็กอินริมทะเลหัวหินนั้นเปลี่ยนไป
ผู้ที่มาเยือน “มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา” จะได้สัมผัสบรรยากาศสุดพิเศษราวกับหลุดเข้าไปในโอเอซิสกลางทะเลทราย ซุ้มประตูสู่ล็อบบี้สีส้มอิฐตั้งสูงตระหง่านงดงามราวปราสาทในโมร็อกโก ไม่ว่าหันมองมุมไหนก็สามารถสัมผัสได้กับกลิ่นอายโมร็อคโกที่ผสานกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ทั้งตะเกียง หมอน ผ้าทอพื้นเมือง แจกัน ชุดเครื่องทองเหลือง กระเบื้องหลากสีสัน รวมทั้งน้ำพุแห่งดวงดาวที่เป็นสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในวิลล่าหรูของโมร็อกโก
ห้องพักทั้ง 4 แบบนั้นผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นและกลิ่นอายของดินแดนแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันสะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นสีส้มอิฐ และโทนสีน้ำเงิน ตัดกับกระเบื้องโมเสกที่ถอดแบบลวดลายมาจากโมร็อกโกอย่างไม่ผิดเพี้ยน โดยห้องจากุซซี่ สวีท มีจากุชชี่เอาท์ดอร์ขนาดใหญ่พิเศษให้คู่รักได้สวีตหวานอยู่ด้านตรงระเบียง
ห้องฟาวน์เทน พูล สวีท มาพร้อมสระน้ำสำหรับผ่อนคลายแบบเป็นส่วนตัวนอกระเบียงห้องพัก ด้านห้องโอเชี่ยน ฟรอนท์ สวีท สามารถชื่นชมความงามของผืนน้ำทะเลและเส้นขอบฟ้าได้แบบ 180 องศา พร้อมอ่างจากุชซี่ขนาดใหญ่พิเศษ เลือกได้ทั้งแบบข้างเตียงและริมระเบียง ส่วนห้องเซเลสเทียล สวีท เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการเพิ่มความหวานแบบเต็มพิกัด บนสวนดาดฟ้าส่วนตัวที่สามารถชมวิวสวยของทะเล หาดทราย และแสงธรรมชาติสวยๆ ได้ทุกเวลา ทั้งยังควงแขนคนรักมานอนนับดาวกันทั้งคืนก็ยังได้
นอกจากห้องพักและสวนปาล์มที่ถอดแบบความงามมาจากโมร็อกโกได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน สเตชั่นถัดไปที่จะพลาดไม่ได้คือห้องอาหาร “อัล ฮัมรา” ที่นำเสนอความอร่อยของสไตล์โมร็อกโกและสไตล์เมดิเตอเรเนียนฟิวชั่น ส่วน “อัล บาห์” บาร์ริมชายหาดเหมาะสำหรับนอนจิบค็อกเทลปลดปล่อยความชิลเป็นที่สุด เพราะมีค็อกเทลซิกเนเจอร์ให้ลิ้มลองถึง 10 เมนู และสำหรับคู่รักห้ามพลาดอาฟเตอร์นูนทีสไตล์โมร็อกโก หรือดินเนอร์ที่สามารถจัดพิเศษใต้กระโจมสีขาวริมทะเลได้อลังการราวกับอยู่ในดินแดนอาหรับราตรี
หากใครกำลังแพลนหาสถานที่พักผ่อนริมทะเลแบบเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครในช่วงวันหยุด หรืออยากควงแขนว่าที่เจ้าบ่าวมาเซอร์เวย์สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งในราคาสบายกระเป๋า รับรองว่าที่นี่ต้องเป็นคำตอบของคุณแน่นอน
มาราเกช หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา
63/411 ถนนเพชรเกษม ระหว่างซอยหัวหิน 83/1-85 ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110
โทร.0-3261-6777
เว็บไซต์ : www.marrakeshresortandspa.com
เรื่อง วิวรรธนี Photo วิรัช Asst. Photo นัทธี ทองแจ้ง
VICHY Mineral Masks 3 พลังมาส์กหน้าจากน้ำแร่ภูเขาไฟฝรั่งเศสเพื่อผิวแข็งแรงสุขภาพดี
ปัญหาสุขภาพผิวเป็นปัญหาใหญ่ที่รบกวนใจของผู้หญิงหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ผิวขาดน้ำ แห้งเสียสะสม หมองคล้ำ มีจุดด่างดำ ผิวมันและมีสิวอุดตัน ซึ่งล้วนเกิดจากหลากหลายปัจจัยอีกทั้งสภาพผิวของคนเรายังแตกต่างกันด้วย จึงควรเลือกวิธีปรนนิบัติดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหมาะกับแต่ละปัญหาเพื่อแก้ไขได้ตรงจุด วิชี่ (Vichy) แบรนด์เวชสำอางอันดับ 1^ของยุโรปนำเข้าจากฝรั่งเศส100% มีความอ่อนโยนใช้ได้แม้กับผิวบอบบางระคายเคืองง่ายในกลุ่มผู้บริโภคคนไทย ขอแนะนำ“VICHY Mineral Masks”(วิชี่ มิเนอรัล มาส์ก) ผลิตภัณฑ์มาส์กผิวหน้า 3 สูตรที่ผสานพลังน้ำแร่จากภูเขาไฟฝรั่งเศส เพื่อผิวแข็งแรงดูสุขภาพดี ประกอบด้วย
วิชี่ พอร์ เพียวริฟายอิง เคลย์มาส์ก(VICHY PORE PURIFYING CLAY MASK) มาส์กโคลนพอกบำรุงผิวหน้าเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวผสมถึงผิวมัน และผู้ที่เผชิญปัญหาสิวอุดตัน รูขุมขนกว้าง มีกลิ่นหอมของใบมิ้นท์สีเหลืองอำพัน ด้วยประสิทธิภาพของโคลนเนื้อละเอียด 2 ชนิด ได้แก่ เกาลิน (Kaolins) จากอังกฤษ และ เบนโทไนท์ (Bentonite) จากอเมริกาที่มีคุณสมบัติช่วยขจัดสิ่งสกปรกและดูดซับความมันส่วนเกินบนผิว ช่วยกระชับรูขุมขนป้องกันการอุดตันพร้อมปลอบประโลมผิวให้ชุ่มชื่นไม่แห้งตึงจากอโลเวร่า (Aloe Vera) เพื่อผิวสะอาดหมดเสมือนดีท็อกซ์ผิว
วิชี่ ดับเบิ้ล โกลว์ พีล มาส์ก (VICHY DOUBLE GLOW PEEL MASK) เหมาะสำหรับผู้มีผิวหมองคล้ำ เนื้อสัมผัสเจลมีกลิ่นหอมอ่อนของ คาสซีท (Cassis) หรือผลแบล็คเคอร์แร้นท์ (Black Currant), แอปเปิ้ล และไวท์มัสค์ (White musk) ผสาน 2 พลังปฏิบัติการของAHA (กรดผลไม้) เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก และหินภูเขาไฟ (Volcanic rock) ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวออกอย่างอ่อนโยน พร้อมด้วยวิตามินซีจี หรือวิตามินซีที่คงตัว เพื่อผิวหน้ากระจ่างใส สีผิวเนียนเรียบสม่ำเสมอ
วิชี่ เควนชิง มิเนอรัล มาส์กVICHY (QUENCHING MINERAL MASK) เหมาะสำหรับผิวขาดน้ำ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของชาเขียว, ดอกมะลิและใบไผ่ จากส่วนผสมของวิตามินบี3 ที่ช่วยปลอบประโลมผิว ทำให้โทนสีของผิวกระจ่างใสขึ้น น้ำแร่วิชี่ กลีเซอรีน และเมนทอลช่วยให้ผิวรู้สึกเย็นสดชื่น เย็นสบายในทันทีที่ใช้ช่วยรักษาสมดุลให้กับผิวหน้าเพื่อผิวนุ่มชุ่มชื่น
เพียง 5 นาทีกับการให้เวลาปรนนิบัติผิวหน้าของคุณด้วย VICHY Mineral Masks ทั้ง 3 สูตรผ่านการทดสอบการระคายเคืองผิวสูตรปราศจากสารกันเสียประเภทพาราเบนมีส่วนผสมของน้ำแร่วิชี่ ช่วยปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคืองผ่านการทดสอบการระคายเคืองบนผิวบอบบางแพ้ง่าย ภายใต้การควบคุมของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณขนาด75 มล. ราคา 800 บาท สนใจรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญได้ที่เคาน์เตอร์วิชี่ในบู๊ทส์ วัตสัน ร้านขายยา และโรงพยาบาลชั้นนำทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ศูนย์สุขภาพผิววิชี่ โทร.02 684 3291 และ www.vichy-th.com, www.facebook.com/VichyTH
จากผลสำรวจยอดขายโดย IMS Europe 8 -YTD November 2014 (face care, anti-aging & hair care product)ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล
4 ชุดแต่งงาน หรูหราอลังการสมฐานะลูกสาว หม่ำ จ๊กมก
ผ่านพ้นช่วงเวลาแห่งความสุขไปหมาดๆ แต่ ชุดแต่งงานของ เอ็ม – บุษราคัม วงษ์คำเหลา ยังคงตราตรึงใจว่าที่เจ้าสาวหลายคน เพราะแต่ละชุดสวยปิ๊งเตะตา ตั้งแต่ชุดไทยจนถึงชุดฉลองสมรส เราไม่ขอปล่อยให้ชุดลอยนวล ยกหูหาผู้รังสรรค์ชุดทั้ง 4 มาบอกกัน
สู่ขอ – รดน้ำสังข์ ด้วยชุดไทยประยุกต์ งามวิจิตร
ชุดไทยในพิธีสู่ขอและรดน้ำสังข์ เป็นชุดไทยจักรีประยุกต์ นุ่งแบบไทยจักรพรรดิ แต่ใช้ผ้าสไบเพียงผืนเดียวเพื่อให้น้องเอ็มดูสวยโปร่ง สีที่ใช้เป็นสีบรอนซ์เทา สไบปักด้วยปล้องอ้อยและลูกปัดจากสวารอฟสกี้สร้างประกายระยิบระยับ ส่วนผ้านุ่งก็เป็นผ้าทอลายที่ออกแบบโดย Finale Wedding Studio ทิ้งชายหางทรงเมอร์เมดเข้ารูป เพิ่มความสง่างามด้วยการจับจีบหน้านางหลายชั้นดูงดงามตระการตา
สะใภ้จีนต้องแดง แรงฤทธิ์
ในส่วนของชุดพิธีรดน้ำชาและส่งตัวตามแบบประเพณีจีนนั้น สาวเอ็มเลือกชุดสีแดงอันเป็นสีมงคลตามความเชื่อของชาวจีน มาเป็นสีชุดสวย และออกแบบร่วมกับ Privé Couture ออกมาเป็นชุดลูกไม้ฝรั่งเศสสีแดงปักลงบนผ้าแก้วออร์แกนซ่าสีนู้ด เป็นการจับคู่สีที่ทำให้ผ้าลูกไม้ดูโดดเด่นขึ้น ในส่วนของกระโปรงเป็นประโปรงสั้นบานเพื่อความสะดวกและเรียบร้อยในยามลุกนั่ง เล่นลวดลายทั้งลูกไม้ด้านนอก และผ้าด้านใน
แถลงข่าว มาดนางพญา
น้องเอ็มเป็นเจ้าสาวที่ไม่ชอบชายผ้าฟุ้งๆ มุ้งมิ้ง แต่ชอบลูกเล่นของผ้าที่ซ้อนทับกันไปมามากกว่า ดีไซน์เนอร์จาก Privé Couture จึงออกแบบชุดแถลงข่าวสีขาวแขนกุด คอวี ทรงเมอร์เมด ลูกไม้ซีทรู ซับในด้วยผ้าโปร่ง ทำให้เจ้าสาวที่มีรูปร่างเล็ก ดูสูงระหงมากขึ้น ประดับด้วยชายผ้าที่ซ้อนพับไปมาที่ด้านหลังตั้งแต่ช่วงเอวลงมาจนถึงชายที่ยาวระพื้น ผ้าลูกไม้ก็เลือกในแบบที่บ่งบอกความเป็นตัวเองด้วยลายดอกไม้ผสมโพกาด๊อท แฝงความเป็นเด็กอยู่เล็กๆ เพิ่มความหรูหราด้วยมุกและเลื่อมวิบวับ
ชุดฉลองสมรส อลังการงานลูกไม้
ชุดฉลองสมรสสุดหรูหราในค่ำคืนแห่งความทรงจำของ 2 ครอบครัว เป็นผลงานการออกแบบจาก Finale Wedding Studio บอกเลยว่าชุดนี้คัตติ้งเนี๊ยบเข้ารูปเผยทรวดทรงที่สวยงามของเจ้าสาว เป็นชุดทรงเมอร์เมด เลือกใช้ลูกไม้ฝรั่งเศสวางลายใหม่บนผืนผ้าซีทรูตั้งแต่ช่วงอกจนถึงปลายกระโปรง ด้านหลังแต่งลูกไม้เว้าลึกจนถึงเหนือเอวติดกระดุมมุกละเอียด สร้างความอ่อนหวานด้วยการประดับผ้าคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมา เพิ่มความหรูหราด้วยเพชรสวารอฟสกี้ให้เจ้าสาวส่องแสงเปล่งประกายตลอดงาน
ช่างเป็น 4 ชุดที่มีดีเทลละเอียดยิบ แถมแต่ละชุด แต่ละแบบก็ใส่ความเป็นตัวเจ้าสาวลงไปได้อย่างพอเหมาะ พอเจาะ ผสมกับประโยชน์การใช้งานได้ดีเริ่ดจริงๆ
ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก : Finale Weddinng Studio, sitphotograph.com ไอจี : privecouture
ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ
ดื่มน้ำผึ้งใต้พระจันทร์ ย่ำเชียงใหม่
ในวันที่กรุงเทพอากาศร้อนสุดๆ Riya ก็เก็บกระเป๋าแพ็คเสื้อผ้า หนีร้อนไปพึ่งเย็นที่ เชียงใหม่ เที่ยงโครงการหลวง แถมแอบส่องโรงแรมที่บอกเลยว่าเหมาะสุดๆ กับการถ่ายพรีเวดดิ้ง และพักผ่อนฮันนีมูนแบบสองต่อสองโลกนี้มีเพียงเรา
โรงแรมที่ว่าคือ ฟลอร่า ครีค เชียงใหม่ (Flora Creek Chiang Mai) บอกแบบนี้อาจไม่คุ้น แต่ถ้าบอกว่า สวนกฤษดาดอย งานนี้ใครหลายคนคงร้องอ๋อ เพราะเป็นสวนดอกไม้และที่พักชื่อดังในจังหวัดเชียงใหม่เมื่อครั้งอดีต
งานนี้คืนชีฟในสไตล์โรงแรมหรูที่ยังคงความสวยงามของสวนดั้งเดิมเอาไว้อย่างครบครันเหมาะสุดๆ กับการไปพรีเวดดิ้งหวานๆ ท่ามกลางไม้เมืองหนาว พอๆ กับห้องพักที่จัดได้สวีทมากๆ ควรค่าแก่การฮันนีมูนยิ่งนัก
หลังจากที่ฟินเว่อร์กันจนไม่อยากหิ้วกายหยาบออกจากห้องพักของโรงแรมแล้ว ฉันก็ต้องฝืนพาร่างฝ่าแดดไปยังที่เที่ยวในเมืองเชียงใหม่ เปิดประเดิมด้วยโครงการหลวงม่อนเงาะ ที่แห่งนี้เป็นโครงการหลวงที่เด่นนักในเรื่องฟักทองญี่ปุ่นนุ่มๆ ที่กินได้ทั้งเปลือก และ ไร่ชาลุงเดช
ไร่ชาออร์แกนิคแห่งหญ่ายของม่อนเงาะ มีที่พักและโรงน้ำชาให้กินชาไป ชมความงามของไร่ชาขั้นบันไดและทิวเขาสีเขียวสลับซับซ้อน
ต่อจากนั้นในยามมืดก่อนกลับที่พัก เราก็มุ่งหน้าสู่ความตื่นตาตื่นใจและสนุกสนานที่ ไนท์ซาฟารี สวนสัตว์กลางคืนที่ทำให้ได้ใกล้ชิดกับน้องกวางตาแป๋ว และยีราฟคอยาวแค่เพียงลมหายใจต้องกัน คือแบบคุณเอ้ยยย มันใกล้ชนิดที่ว่ายีราฟยื่นหน้าเข้ามากินของจากในมือ ลิ้นตวัดเลียหน้าประดุจเป็นน้องหมาไซส์จิ๋วก็ไม่ปาน นี่ยังไมนับเจ้าไฮยีน่าหน้าตาไม่น่ารักแถมเสียงหอนยังน่ากลัวจนอยากหาอกมาซบหลบพักปลอบใจกัน
หลังจากเอาแรงนอนหลับอุตุบนที่นอนแสนนุ่มมองเห็นสวนดอกไม้เมืองหนาวแล้ว เช้านี้เราก็ต้องไปเข้าวัดทำบุญกันบ้างที่ วัดพระธาตุดอยคำ วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,300 ปี ที่มีทั้งพระธาตุขนาดย่อม พระพุทธรูปองค์โต วิวเมืองเชียงใหม่แบบสุดลูกหูลูกตา
แล้วก็ยังมีทีเด็ดเป็น หลวงพ่อทันใจ ที่เลื่องลือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ใครบนบานศาลกล่าวอะไรเป็นประสบความสำเร็จทั้งนั้น ริยาจึงต้องขอพรให้ท่านส่งผู้หน้าตาดีหุ่นมีซิกค์แพค
ไหว้พระขอพรกันแล้ว คราวนี้ก็มุ่งหน้าขึ้นดอยเที่ยวโครงการหลวงกันต่อที่ “โครงการหลวงหนองหอย” ดูงานการเกษตรเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเขา จนตอนนี้บางคนรายได้ต่อเดือนมากกว่าชาวเราๆ เสียอีกนะจ๊ะ และมาถึงหนองหอยแล้ว จะไม่แวะม่อนอันเลื่องชื่อได้อย่างไรจริงม่ะ?
งานนี้จึงมุ่งหน้าไปที่ “ม่อนแจ่ม” ที่มีทั้งจุดชมวิวระดับพันล้าน ร้านอาหาร แปลงไม้ดอก และแถมตลอดเส้นทางขึ้นสู่แปลงนี้อย่างกับ Walking Street เต็มไปด้วยสินค้าชาวเขาที่ดูดเงินออกจากกระเป๋าไปไม่น้อยเลยทีเดียว เรียกว่างานนี้เจ็บตัวจนต้องขอปิดทริปแบบดื้อๆ ตรงนี้แหละ กลับไปนอนซับน้ำตา ถ่ายเซลฟี่กลางดงดอกไม้ที่กฤษดาดอย ส่องคู่รักที่มาถ่ายพรีเวดดิ้งดีกว่า บั่ยยย ฟ ฟฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ ฟ