Strip : Ministry of Waxing
เคยได้ยินชื่อร้าน Strip มาก็นานนม เคยแว็กซ์น้องสาวมาแล้วก็หลายหน แต่กลับไม่เคยมาลองเมนูนี้กับร้านนี้สักครั้ง พอได้รับสายให้ไปลองแว็กซ์น้องสาวสุดเกลี้ยงเกลา Brazillian Wax เราก็เลยตอบรับคำเชิญทันที เพราะใจลึกๆ ก็อยากรู้ว่า จะแตกต่างจากร้านเจ้าประจำแค่ไหน
ร้านเปิดโล่งเพราะคอนเซ็ปต์ห้าง
ทันทีที่ก้าวเข้าไปยังพื้นที่ร้าน Strip ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอร์รี่ ในรูปโฉมใหม่ บอกเลยว่า แอบอึ้งเล็กๆ กับความรู้สึกเปิดโล่งของตัวร้านที่ไม่มีกระจกหรือผนังกำแพงที่หน้าร้าน แถมยังมีเตียงเรียงรายด้านหนึ่งให้ใจเต้นจนสมองคิดเตลิดเรื่อยเปื่อยไปว่า นี่ต้องนอนแว๊กซ์กันตรงหน้าร้านอวดประชาชีเลยรึ ไม่เอานะๆ ไม่ได้เด็ดขาด แต่สุดท้ายก็โล่งอกไปได้ เมื่อมีเสียงหวานๆ ของคุณพนักงานประจำร้านในแบบฟอร์มชุดผ้ากันเปื้อนสีม่วงมาทักทาย พร้อมแนะนำบริการคู่กับคำอธิบายในข้อสงสัยหลายๆ อย่างโดยเฉพาะความเปิดโล่งที่ได้ข้อสรุปจากทางร้านว่า เป็นเรื่องของคอนเซ็ปต์การออกแบบห้าง ทำให้ร้านต้องเปิดโล่งขนาดนี้ ซึ่งสำหรับผู้ใช้บริการอาจตกใจเล็กๆ ในตอนแรก แต่คิดๆ ไปก็รู้สึกว่าดีเหมือนกัน เพราะเราได้ดูการบริการของร้านกับลูกค้าคนอื่นๆ ก่อนการตัดสินใจ
ส่วนเจ้าเตียงที่เห็นเป็นอีกหนึ่งบริการของทางร้าน กับการทำคิ้วสวยๆ ในชื่อ Browhaus ต่างหาก
ความสะอาด คือ หัวใจสำคัญที่เราใส่ใจ
สิ่งที่มีผลสำคัญในการตัดสินใจใช้บริการร้านแว็กซ์ของเราก็คือ เรื่องของความสะอาด ซึ่งบอกเลยว่า เราให้ Strip ผ่านฉลุยแบบเต็ม 10 แต้ม เพราะไม่เพียงแต่หน้าร้านที่สะอาดมากแม้จะมีลูกค้าเพียบ แต่พอเข้ามาภายในห้องบริการยังไม่เหมือนร้านอื่นๆ ซึ่งเราขอสรุปเรื่องความสะอาดทุกอย่างที่เราสัมผัสได้ ดังนี้
เตียงนอนทำการแว็กซ์ : แม้จะเป็นผ้าปูสีม่วง เพราะเป็นสีธีมของร้าน แต่ก็ตึงเปรี๊ยะ แถมยังสะอาดสะอ้านด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นปอดเวลาหายใจ
ตู้เก็บของในห้อง : หลายคนอาจมองข้ามเพราะคิดว่าก็แค่เก็บของ แต่สำหรับเราสำคัญรองลงมาเลยนะ เพราะเคยมีประสบการณ์ตอนไปทำสปาแล้วกำลังเคลิ้มๆ กลับต้องสะดุ้งเพราะรู้สึกว่ามีคนมาเปิดตู้ใส่กระเป๋าที่หัวนอน ตั้งแต่นั้นเลยเหมือนโรคจิตนิดๆ ต้องเห็นตู้เก็บกระเป๋าทุกครั้งที่ลืมตา ซึ่งที่นี่ตอบโจทย์เพราะตู้อยู่ปลายเท้า เวลานอนแว็กซ์ไปก็มองเห็นตู้เก็บสมบัติตลอดเวลา แบบนี้สบายใจกว่าเยอะ
บริเวณเก็บอุปกรณ์แว็กซ์ : ปกติที่เราเคยเจอมาคือจะเป็นเหมือนรถเข็นใส่อุปกรณ์แว็กซ์เข็นไปมาได้ แต่สำหรับที่นี่ เก็บทุกอย่างจัดวางไว้ในตู้ปลายเท้าอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ซึ่งระยะทางจากเตียงไปตู้นี้แค่ 3 ก้าว ทำให้รู้สึกว่าได้พักความจี๊ดจากการแว็กซ์ในช่วงที่พนักงานก้าวเท้าไปจิ้มแว็กซ์มาป้าย
ไม้พายใช้ครั้งเดียว : ไม้พายที่เอาไปจิ้มแว็กซ์มาป้ายน้องสาว ที่นี่ใช้หนึ่งไม้ต่อหนึ่งการจิ้มแว็กซ์หนึ่งครั้งเสมอ เชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมที่อาจจะติดมาจากการป้ายเนื้อสาวจะได้ไม่ลงมาแพร่กระจายในหม้อแว็กซ์
ถุงมือพนักงานสำคัญมาก : เคยไปอยู่ที่หนึ่ง (ไม่ขอเอ่ยนาม) แม้จะแว็กซ์ดีมากๆ แต่ก็มีเรื่องหนึ่งสะดุดใจเรามากเหมือนกันคือ พนักงานไม่ใส่ถุงมือตอนแว็กซ์ด้วยเหตุผลว่า จะจับเนื้อแว็กซ์และดึงไม่ถนัด แต่สำหรับที่นี่ ยังไงก็ต้องใส่
จนถุงมือเสมือนหนึ่งในแบบฟอร์มที่พนักงานต้องมี แถมถ้าออกจากห้องไประหว่างแว็กซ์ กลับมาทำงานต่อต้องเปลี่ยนถุงมือใหม่เสมอด้วยนะ
สำลีและทิชชูขาวสะอาดและเป็นระเบียบ : สองสิ่งที่ต้องใช้ที่ว่ามานี้ แม้จะดูว่าเป็นอะไรที่ธรรมดาๆ แค่แกะจากกล่องมาจัดวางก็แลดูสะอาดตา แต่ที่ทำให้เรามั่นใจมากขึ้นด้วยการจัดวางทิชชู่และสำลีแยกกันอย่างเป็นระเบียบ ประมาณว่าโชว์กันเห็นๆ ว่าอะไรอยู่ตรงไหน และสะอาดมั่นใจได้ทุกครั้งที่นำมาสัมผัสน้อง
อัธยาศัยใจคอคนบริการ
ด้วยความที่เราชอบพูดคุยถามซอกแซกถึงรายละเอียดการแว็กซ์อยู่เสมอ เพราะรู้สึกว่าใครจะทำอะไรกับน้องเราก็ขอมั่นใจนิดนึง เราก็เลยยิงคำถามมากมายสารพัดไปยังพี่พนักงาน ซึ่งก็ได้คำตอบที่เข้าใจง่าย ไม่วิชาการเกินไป แถมเรายังสัมผัสได้ถึงความพยายามที่จะอธิบายความสงสัยบางอย่างของเราแบบไม่มีกั๊กอีกด้วย
อีกอย่างที่ปลื้มมากสำหรับที่นี่คือ ไม่ใช่การก้มหน้าแว็กซ์ให้จบๆ ไป แต่พนักงานจะคอยถามเป็นระยะๆ ว่าโอเคไหม ไหวหรือเปล่า แถมยังบอกจังหวะว่าจะดึงตอนไหน เพื่อเตรียมใจสูดหายใจลึกๆ ก็พี่จะดึงแว็กซ์ เราเลยรู้สึกว่า ถ้ามาทำแว็กซ์ที่นี่ครั้งแรกไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่ถนอมน้องสาว เพราะเรารู้สึกว่าเขาดูแลน้องสาวของเราประหนึ่งเป็นน้องสาวของเขา (จริงๆ นะ)
เนื้อแว็กซ์ของที่นี่ดี๊ดีละขอบอก
เคยเจอมาแต่แว๊กซ์ขี้ผึ้งสีเหลืองๆ มาลองที่นี่เจอแบบช้อกโกแลตแล้วชอบใจจัง เนื้อแว๊กซ์มีชื่อเรียกว่า Strip Berry Chocolate Wax ที่ยังคงมีพื้นฐานของขี้ผึ้งที่อ่อนนุ่มและยื่นหยุ่นมาก ที่บอกว่าชอบใจเพราะมีกลิ่นหอมละมุนของช็อคโกแลตและเบอร์รี่ผสานส่วนผสมของคาโมมายล์และว่านหางจระเข้ ที่พี่พนักงานบอกว่าเจ้าสองสิ่งนี่แหละที่ช่วยลดการระคายเคืองและเหมาะกับคนที่ไม่เคยทำบราซิลเลียนแว็กซ์มาก่อน แถมแค่ปาดบางๆ ก็แห้งพอดีดึง ไม่ต้องรอนาน ซึ่งก็จริงอย่างคำว่านี้ทั้งหมด เพราะรู้สึกได้เลยว่า ตอนที่ปาดลงไป ความอุ่นกำลังพอดี ปาดแป๊บเดียวก็ดึงได้แล้ว ทำให้เวลาการแว็กซ์กระชับลงไปอีก
30 นาที หมดจรดเกลี้ยงเกลา
“วันนี้มีเวลามากหรือน้อยคะ?” เป็นคำถามที่เราได้รับจากพี่พนักงานตั้งแต่ตัดสินใจเลือกบริการ เพราะปกติการทำ Brazillian Wax จะใช้เวลาอยู่ที่ 30 นาที แต่ก็มีบ้างที่ลูกค้ามีเวลาน้อย พี่พนักงานก็จะสปีดให้ได้ ซึ่งรายละเอียดในการแว็กซ์จะครบถ้วนเกลี้ยงเกลาไหม ก็ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นขนมีมากน้อยแค่ไหน เพราะบางคนทำเดือนต่อเดือนก็จะเก็บรายละเอียดไม่ต้องมาก เพราะขนไม่ยุบยับ แต่บางคนทิ้งไว้นานต้องเริ่มใหม่ ความเนี้ยบก็อาจผันตามเวลาที่มีให้ได้ แต่โดยรวมแล้ว 30 นาทีคือเวลาที่พี่พนักงานจะดูแลให้แบบละเอียดยิบ จึงรับประกันความเกลี้ยงเกลาแบบที่เราได้รับนี่แหละ
ความรู้สึกระหว่างและหลังแว็กซ์
อย่างที่เราออกตัวไปแต่แรกแล้วว่า เราเคยไปแว็กซ์ที่อื่นมา พอได้สัมผัสการแว็กซ์ที่นี่ ก็ต้องแอบสังเกตมากกว่าปกติ ฉะนั้นขอบอกสั้นๆ ว่า การแว็กซ์ที่ Strip ไม่เจ็บเท่าที่เดิมทั้งๆ ที่เราไม่ได้แว็กซ์มานาน ประมาณว่าก็เหมือนเริ่มแว็กซ์ครั้งแรก แต่ทุกครั้งที่ดึง แม้แต่ตรงบริเวณที่บอบบางที่สุด น้ำตาไม่มีเล็ดสักนิด อันนี้คือเกินคาดจริงๆ
การเก็บรายละเอียดขนอ่อนรอบๆ ก็ดีเยี่ยม เพราะแว็กซ์มาก็เยอะไม่เคยเจอที่ไหนช่วยดูแลบริเวณแวดล้อมน้องสาวอย่างขนอ่อนที่เนินช่วงบนของน้อง หรือแม้แต่ด้านข้างขาหนีบที่หลายคนมองข้าม แบบนี้ไม่ให้ประทับใจยังไงไหว
ส่วนความรู้สึกหลังแว็กซ์อาจไม่ต่างจากที่อื่นๆ แต่เพราะที่นี่มีครีมที่ช่วยดูแลหลังการแว็กซ์โดยเฉพาะ บวกกับคำแนะนำที่ไม่เคยได้รับจากที่ไหนละเอียดขนาดนี้มาก่อน ก็เลยซื้อใจเราให้ตัดสินใจไม่ยากว่า จะกลับมาซื้อบริการที่นี่แน่นอน
ติดต่อ : ชั้น 4 สยามดิสคัฟเวอรี่ กรุงเทพมหานคร โทร. 0-265-80343
เฟซบุ๊ก : Strip Thailand
แจกของรางวัล “Boy&Girl” zilian Waxing Threatment” จำนวน 2 รางวัล ให้ควงคู่กันไปทำ Brazilian ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย