ชุดเจ้าบ่าว ต้องมี 4 สิ่งนี้รับรองว่าเจ้าบ่าวจะหล่อเนี้ยบเกินต้าน

ชุดเจ้าบ่าว เป็นชุดที่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันไม่แพ้ชุดเจ้าสาว เพราะไหนจะเรื่องสี เรื่องไซส์ เรื่องพร็อพส์ประกอบต่างๆ ต้องดูเข้ากันทั้งชุด แพรวเวดดิ้งเลยมีเคล็ดลับการเลือกชุดเจ้าบ่าวมาให้ เพราะเพียงแค่คุณมี 4 สิ่งนี้ก็ช่วยคอมพลีตลุคให้ดูดีในวันแต่งงานได้แล้ว

สี

ชุดเจ้าบ่าว

โทนสีเข้มๆ อย่าง ดำ เทา กรมท่า น้ำเงิน เลือกไปเลยจ่ะ เพราะเป็นเฉดสีสุดคลาสสิคที่ใส่แล้วรอดทุกคน แต่ถ้าอยากได้ลุคดูดีแบบท่านชายก็ต้อง สีขาว รับรองว่าเท่สุดๆ ไปเลย

ชุดเจ้าบ่าว

ชุดเจ้าบ่าว

ชุดเจ้าบ่าว

เนคไท

ชุดเจ้าบ่าว

เป็นส่วนที่จะเล่นไปกับสีของธีมงานได้ ซึ่งเจ้าบ่าวจะใส่ได้ทั้ง โบไทและเนคไท ซึ่งเนคไทจะเลือกเป็นแบบปมเล็ก ปมใหญ่ก็ได้แล้วแต่ความมั่นใจกันไปเลย แล้วเพิ่มความเนี้ยบ ความคุณชายด้วยพ็อคเก็ตสแควร์ที่จะโผล่ออกมาจากกระเป๋าสูทด้วย แต่ทั้งเนคไทและพ็อคเก็ตสแควร์ต้องเป็นสีเดียวกันนะ

ชุดเจ้าบ่าว

งานแต่งธีมเทพนิยาย

สูท

งานแต่งธีมเทพนิยาย

สูททางการ คือคำตอบสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น ทักซิโด สูทหางยาว สูทสามชิ้น สูทอลังการ ก็สามารถใส่ได้หมดสำหรับงานนี้ และหากอยากเพิ่มลุคคลาสสิคเราขอแนะนำให้มีพร้อพเป็นไม้เท้าสีดำเท่ๆ และนาฬิกาพกเรือนสวย รับรองว่าคลาสสิคมากกก a a a a  a a  a a a a  a a a a  

งานแต่งธีมเทพนิยาย

งานแต่งธีมเทพนิยาย

งานแต่งธีมเทพนิยาย

รองเท้า

ในเมื่อชุดมาทางการขนาดนี้แล้ว รองเท้าจะพร่องไปก็ใช่ที่ ความทางการต้องมา รองเท้าเชือกผูกทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Brogue Shoes รองเท้าหนังที่โดดเด่นด้วยลายฉลุ Oxford Shoes รองเท้าของเหล่านักเรียนอ๊อกซ์ฟอร์ด และ Derby Shoes ก็ยังได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องเป็นสีดำเท่านั้น! สีอื่นถือว่าผิดระเบียบ a a a  a  a a a a a

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าบ่าวเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ภาพ pinterest

ช็อตเด็ด!! ภาพถ่ายงานแต่งของเจ้าสาวที่ห้ามลืมบอกช่างภาพให้สแนปไว้

เมื่อวันสำคัญในชีวิตอย่างวันแต่งงานเดินทางมาถึง และสิ่งที่คุณได้เตรียมการไว้ก็กำลังจะปรากฏเป็นรูปร่างในวันนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่บ่าวสาวต้องทำในวันนี้ก็เพียงแค่ปล่อยใจปล่อยกายให้มีความสุขในวันสำคัญ และเตรียมตัวฉีกยิ้มให้กว้างอย่างมีความสุขเพื่อให้ช่างภาพได้เก็บโมเม้นต์สุดพิเศษนี้ไว้ แต่…ในเมื่อจะเก็บภาพความประทับใจทั้งทีงานนี้ก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะคุณเจ้าสาวที่ทั้งแต่งหน้า ทำผม และแต่งตัวแบบจัดเต็มก็อาจจะต้องเพิ่มความพิเศษใน ภาพถ่ายงานแต่ง มากสักหน่อย แพรว wedding เลยจัด 12 ช็อตเด็ดที่เจ้าสาวอย่าลืมบอกช่างภาพให้สแนปไว้มาฝาก

ภาพถ่ายงานแต่ง

นอกจากเจ้าบ่าว คุณพ่อคุณแม่ และครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งคนที่อยู่ใกล้ชิดและคอยให้ความช่วยเหลือกับเจ้าสาวมากที่สุดก็คือเพื่อนสาวสุดซี้ที่ยกแก๊งกันมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว ซึ่งแน่นอนว่านอกจากพวกเธอจะให้การช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงานแล้ว แม้กระทั่งในช่วงเวลาของการเตรียมตัวของเจ้าสาว เพื่อนๆ แก๊งนี้ก็จะคอยอยู่ช่วยเหลือคุณในทุกโมเม้นต์ ซึ่งช่วงเวลาแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เหมือนยกแก๊งไปเที่ยวกันจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมบอกช่างภาพให้คอยเก็บภาพความประทับใจขณะที่แก๊งเพื่อนเจ้าสาวกำลังช่วยทำนู่นทำนี่ให้กับเจ้าสาวด้วยนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งภาพที่จะช่วยย้ำเตือนถึงความสัมพันธ์ได้อย่างน่าประทับใจ

ภาพถ่ายงานแต่ง

นอกจากที่จะเก็บภาพความประทับใจขณะที่แก๊งเพื่อนเจ้าสาวกำลังช่วยเจ้าสาวแต่งตัวแล้ว การสแนปภาพอารมณ์และความรู้สึกของแก๊งเพื่อนเจ้าสาวและเจ้าสาวเอาไว้ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องกระซิบบอกช่างภาพไว้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายสวยๆ โพสต์ท่าสุดเป๊ะจิกกล้องกันยกแก๊ง หรือจะเป็นภาพแคนดิดที่เก็บทุกโมเม้นต์ของคุณและเพื่อนๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ หรือกอดกัน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโมเม้นต์ดีๆ ที่เมื่อหยิบมาดูอีกทีเมื่อไหร่ก็ประทับใจเมื่อนั้น

กว่าจะได้ทรงผมเจ้าสาวทรงนี้มา เราว่าคุณก็คงเลือกแล้วเลือกอีก เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกอยู่หลายรอบจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นหากเจ้าสาวพิถีพิถันขนาดนี้ก็อย่าลืมให้ช่างภาพเก็บภาพโคลสอัพทรงผมของเจ้าสาวทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังเอาไว้ด้วย รวมไปถึงระหว่างที่ช่างกำลังทำผม หรือทำเสร็จแล้ว เราเชื่อว่าภาพถ่ายชุดนี้หากเจ้าสาวได้ย้อนกลับมาดูอีกทีก็คงเผลอยิ้มตามไปกับความงามแน่นอน

ภาพถ่ายงานแต่ง

เก็บภาพทรงผมไปแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเก็บภาพเมคอัพด้วยสิค่ะ เพราะใบหน้าถือว่าเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนที่เจ้าสาวให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แถมยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะสวยเริดพร้อมอวดโฉมอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นการเก็บภาพช่วงเวลานี้ไว้ก็ถือเป็นอีกโมเม้นต์ที่ไม่ควรพลาด คล้ายๆ กับการเก็บภาพแบบ behind the scenes เอาไว้ แถมถ้าในห้องแต่งหน้าแต่งตัวมีแก๊งเพื่อนสาวที่นั่งเสริมสวยอยู่ด้วยกันแล้วล่ะก็ รับรองว่าภาพถ่ายเซตนี้จะเป็น topic ให้คุณและเพื่อนได้โพสต์ ได้แชร์ และได้พูดถึงไปอีกนาน

นอกจากช่วงถ่ายภาพที่แบ็กดร็อป ช่วงเดินเข้างาน หรือช่วงเฉลิมฉลองบนเวทีแล้ว อีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญในงานแต่งของคุณก็คือช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ยิ่งถ้าหากเจ้าสาวหรือแก๊งเพื่อนเจ้าสาวมีชุดแซ่บๆ ที่เตรียมไว้สำหรับช่วงนี้แล้วด้วย ยิ่งต้องไม่พลาดเด็ดขาดที่จะให้ช่างภาพสแนปไว้

เก็บผม เก็บหน้าแล้ว จะลืมเก็บเล็บเจ้าสาวสวยๆ ในแหวนเพชรวงงามได้ยังไง แถมช็อตนี้อาจจะเป็นช็อตแรกๆ ที่เจ้าสาวต้องให้ช่าภาพรีบสแนปไว้ โดยเฉพาะในช่วงพิธีสวมแหวน ซูมได้เท่าไหร่ยิ่งดี เพราะยิ่งนานเท่าไหร่เวลาเจ้าสาวหยิบนู่นทำนี่บางทีเล็บสวยๆ ก็อาจจะไม่สวยแล้วก็ได้ ถึงตอนนั้นมาเก็บภาพเอาตอนหลังอาจจะได้เล็บสีถลอกหรือหักไปล่ะก็เสียใจแย่

ภาพถ่ายงานแต่ง

ถึงแม้จะเป็นมุมที่เรียบง่ายดูไม่มีอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปเชื่อเถอะว่ารูปนี้จะดูคลาสสิคเสมอ กับภาพถ่ายเจ้าสาวเต็มตัวที่สีหน้าและแววตาเปี่ยมไปด้วยความสุข เพราะฉะนั้นอย่าลืมให้ช่างภาพสแนปภาพเต็มตัวเจ้าสาวอีกครั้งก่อนที่ประตูเข้างานจะเปิด รับรองว่าช่วงเวลานั้นทั้งสีหน้าและแววตาของเจ้าสาวจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกแบบไม่ต้องพยายามบิ้วด์แน่นอน

ภาพถ่ายงานแต่ง

ชุดแต่งงานมักจะเป็นชุดที่เน้นการโชว์ผิวของเจ้าสาวเสมอ เพราะฉะนั้นภาพอีกหนึ่งช็อตที่จะช่วยพรีเซ้นต์ผิวของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดีก็คือ ภาพถ่ายผ่านหัวไหล่ของเจ้าสาวไป รับรองว่าได้ทั้งลุคสวยหวาน ปนเซ็กซี่น่าค้นหาแน่นอน

ภาพถ่ายงานแต่ง

หากเจ้าสาวสวมเวลแล้วล่ะก็ อย่าลืมบอกช่างภาพให้เก็บภาพของเจ้าสาวในเวลเอาไว้ด้วย โดยอาจจะให้ช่างภาพถ่ายภาพใบหน้าของเจ้าสาวที่มีเวลบดบังอยู่ก็ช่วยให้ลุคของภาพดูโรแมนติก หรือจะเป็นช่วงที่เจ้าสาวกำลังจะติดเวลเตรียมพร้อมเข้าสู่งานก็ได้เช่นกัน

ภาพถ่ายงานแต่ง

แน่นอนว่าในภาพถ่ายจุดรวมสายตาก็คือใบหน้าของเจ้าสาว แต่ถ้าหากลุคของเจ้าสาวนั้นมีแอคเซสซอนี่ชิ้นสำคัญที่คุณพิถีพิถันเลือกมาเป็นอย่างดีเพื่อใช้ในวันสำคัญแล้วล่ะก็ อาจจะให้ช่างภาพเก็บภาพแอคเซสซอรี่นี้ไว้ต่างหาก เช่น เฮดพีช เซตเครื่องประดับ หรือรองเท้าคู่งาม เป็นต้น เพราะหากวันหนึ่งของชิ้นนี้เกิดชำรุดเสียหาย คุณก็ยังมีภาพถ่ายสวยๆ เอาไว้ดูแทน

ภาพถ่ายมุมสูง เป็นอีกหนึ่งมุมภาพที่สวยงามและสามารถเก็บรายละเอียดรอบด้านไว้อย่างครบถ้วน เพราะฉะนั้นในช่วงที่ทุกคนกำลังรุมล้อมช่วยกันแต่งตัวให้เจ้าสาว หรือกำลังตรวจเช็กความเรียบร้อยก่อนเข้างาน ภาพมุมนี้ก็จะช่วยเก็บอีกหนึ่งโมเม้นต์ดีๆ ภายใต้มุมภาพสุดเก๋นี้ได้อีกด้วย

กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี…จงจินตนาการว่าตัวคุณคือสโนไวท์ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าชายรูปหล่อ ด้วยการให้ช่างภาพถ่ายเจ้าสาวผ่านกระจก ก็เป็นอีกหนึ่งภาพที่สวยงามที่เจ้าสาวไม่ควรพลาด

Read More : 10 ไอเดียถ่ายรูปแต่งงาน กับโมเม้นต์เปิดตัวเจ้าสาวสุดประทับใจ

CR. popsugar.com, eveevent.com, washingtonian.com, pinterest.com

‘โกหกให้รู้สึกดี’ เหตุผลฟังดูดีแต่คนรักกันไม่ควรใช้

หนึ่งในเหตุผลของการโกหกที่หลายคนใช้เพื่อให้สถานการณ์หมางใจตรงหน้าดีขึ้นคือ โกหกให้รู้สึกดี ซึ่งบางคนคิดเข้าข้างตัวเองว่า ขอเลวเองที่เป็นคนโกหกดีกว่าพูดออกไปแล้วเธอไม่มีความสุข แต่แบบนั้นน่ะ คุณว่าเป็นการกระทำที่คนรักกันควรทำให้กันจริงเหรอคะ แล้วคุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าอีกฝ่ายรู้ในเหตุผลนี้จะซึ้งหรือเศร้า

เอาล่ะค่ะ ก่อนจะมารู้ว่าคนที่ได้รับการ “โกหก” จะ “รู้สึกดี” จริงอย่างที่หวังหรือเปล่า มาฟังเหตุผลมราเราสรุปมาให้จากใจคนโกหกถึงความคิดที่ทำให้ตัดสินใจ “โกหกให้รู้สึกดี” ด้วยเหตุผลนี้กันดีกว่า

  • เพราะคิดว่ารู้จักนิสัยของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

เพราะมั่นใจว่ารู้จักนิสัยของคนรักเป็นอย่างดีในเรื่องที่ว่า ปัญหาไหนหรือเหตุการณ์อะไรที่คนรักรับไม่ได้แน่นอนหรือรู้เรื่องแล้วต้องคิดมากเสียความรู้สึกจนชีวิตคู่หม่นหมอง แต่สิ่งที่คุณต้องทำก็เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ฉะนั้นการโกหกด้วยเหตุผลว่าอยากให้รู้สึกดีจึงเกิดขึ้น ด้วยประการฉะนี้ แต่เราขอบอกในฐานะคนโดนกระทำว่า “อย่าคิดแทนได้ไหม”

  • เพราะทำผิดจริงแต่บังเอิญว่ารู้จุดอ่อน

คนที่ทำผิดจริงแต่พยายามหาทางออกให้กับตัวเอง มักเลือกการโกหกเพื่อเอาตัวรอด โดยงัดเอาคำว่าอยากให้รู้สึกดีเป็นไม้ตาย เพราะรู้ดีว่าถ้าคุณได้ยินคำนี้คุณเป็นต้องใจอ่อนยอมยกโทษให้แน่นอน อ้าวแหม…ก็พอฟังแล้วจะรู้สึกถึงความรักที่อีกฝ่ายมีให้เต็มหัวใจ ประมาณว่า เขาคิดถึงเราเนอะเลยต้องโกหก คนรักของคุณก็เลยใช้คำพูดนี้เสมอเมื่อทำผิด ส่วนคุณน่ะเหรอ ซึ้งใจไปค่ะ อุ้ยตาย! เขารักฉันไม่อยากให้คิดมาก ก็เพ้อกันไปแบบหลอกตัวเองเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวอ่ะค่ะ

  • เพราะคุณไม่เชื่อความจริง

เขาอาจเพียรพยายามพูดความจริงแบบสุดพลังแต่คุณก็ยังไม่เชื่อ อาจเพราะฝังใจกับความผิดเก่าหรือยึดติดกับความคิดของตัวเองบวกกับมีเพื่อนเป่าข้างหูจนลืมมองความจริง สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาเลือกทำเพื่อให้จบสถานการณ์น่าอึดอัดตรงหน้าคือ ไหนๆ บอกความจริงก็ไม่เชื่อ ถ้างั้นก็ฟังเวอร์ชั่นโกหกไปเลยละกันนะที่รัก ซึ่งแน่นอนว่าที่ต้องพูดเวอร์ชั่นโกหกก็จะเพื่ออะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้คุณรู้สึกดี แหม…ถ้าด้วยเหตุผลนี้ก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันนะเนี่ย

  • เพราะทำซะเคยจนเป็น…นิสัย

แรกๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกให้รู้สึกดีหรอกค่ะ แต่เพราะใช้เหตุผลนี้บ่อยครั้งเข้าแล้วได้ผลเสมอเลยเหมือนเป็นเหตุผลอัตโนมัติไปซะแล้ว เวลาเกิดเรื่องขึ้นมาปากก็เลยพูดออกไปก่อนเลยว่าที่โกหกไปเพราะอยากให้รู้สึกดี พูดแบบนี้จนเป็นนิสัยทุกทีทุกรอบจนแก้ไม่ได้เหมือนเป็นมุกแก้ตัวแรกประจำตัวไปเลยก็ว่าได้ ทีนี้พอเรื่องอะไรก็ตามเกิดขึ้นก็จะพูดทันทีว่า ไม่ได้อยากโกหกแต่อยากให้รู้สึกดี…ดี๊ดีเนอะ!!

หลังจากที่รู้ถึงความคิดที่คนโกหกใช้เหตุผลว่าอยากให้ “รู้สึกดี” กันไปแล้ว มาดูความคิดคนที่เป็นผู้ได้รับการโกหกกันบ้างไหมว่ารู้สึกยังไง…คำตอบสั้นๆ ที่เรียกได้ว่าเกือบ 100% ของทั้งชายและหญิงคือ สำหรับคนที่โดนโกหกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม แม้จะเข้าใจในเหตุผล แต่ลึกๆ แล้วก้ไม่สามารถยอมรับได้เต็มที่ เพราะไม่มีใครชอบหรอกที่จะฟังเรื่องเท็จ และที่สำคัญถ้าทุ่มใจให้เต็มที่ จริงใจให้เต็มร้อย ไม่เคยพูดโกหกใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว ความคาดหวังที่จะได้รับความจริงใจจะมีตามมา

และสุดท้ายของความรู้สึกของคนที่โดนโกหกให้รู้สึกดีที่อยากบอกก็คือ “คนรักกันไม่ควรโกหก แต่ควรเลือกที่จะพูดความจริงกันมาเสียตั้งแต่แรก และอย่าได้คิดแทนว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง คนที่จะตัดสินว่ารับได้ไหมกับสิ่งที่เกิดคือเจ้าตัวเอง ไม่ใช่คุณ”

จำไว้นะคะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ถ้าคุณพูดความจริงตั้งแต่วันแรกกับคนที่รัก ความจริงนั้นยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ และคนๆ นั้นจะรู้สึกดีกับความจริงใจที่คุณได้แสดงออกมาแม้คุณจะทำความผิดไม่ว่าจะตั้งใจหรือจำเป็นที่ต้องทำ ถ้าคนรักของคุณรักคุณจริงๆ ก็พร้อมจะเข้าใจในเหตุผลทั้งหมดได้ แต่ถ้าคุณเลือกที่จะโกหกแล้วไปไม่รอดหรือแม้แต่ลืมว่าเคยโกหกว่ายังไงไว้ กลับมาพูดอีกครั้งคนละเรื่องคนละราว คนที่จำได้จะรู้สึกแย่มาก และความสัมพันธ์ดีๆ ที่คุณคิดไว้จะลดลงไปจนอาจหายไปสิ้น

ฉะนั้นเพื่อให้การอยู่ร่วมกันของคุณและคนรักเป็นไปได้อย่างที่ใจปรารถนา จงพูดแต่ความจริงให้กัน เพราะต่อให้ความจริงนั้นเลวร้าย หรือทำร้ายความรู้สึก ก็คือความจริงที่ยังดีกว่าเจอความจริงที่โหดร้ายแบบบวกเพิ่มความโกหกเพราะปรารถนาดีค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์และชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : www.inovasee.com

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน สามารถทำเองง่ายๆ ประหยัดงบ แถมสวยสุดๆ

บ่าวสาวที่กำลังจะจัดงานแต่งงาน อย่าลืมนึกถึง ฉาก ถ่ายรูปแต่งงาน นะจ๊ะ เพราะเป็นสิ่งที่เวลาแขกมาร่วมงาน เขาจะต้องถ่ายภาพตรงจุดนี้เป็นที่แรก

ถึงแม้จะมีความสำคัญไม่แพ้กับเรื่องอื่นๆ แต่เราก็สามารถเนรมิต ฉากถ่ายรูปแต่งงาน ขึ้นมาเองได้ง่ายๆ แบบ DIY ไม่ต้องเสียเงินเยอะ เพราะงานแต่งเราก็ต้องเสียเงินไปกับอย่างอื่นเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นเรามาเซฟงบ และทำฉากถ่ายรูปแต่งงานให้ออกมาสวยที่สุดกันดีกว่า แพรวเวดดิ้งจึงขอนำไอเดีย DIY ฉากถ่ายรูปแต่งงาน ที่ทำเองง่ายๆ มาให้ว่าที่บ่าวสาวลองดูเอาไว้ เผื่อเป็นตัวอย่างกันนะจ๊ะ

กระดาษสี

ลองหากระดาษสีที่ขายกันเป็นม้วนๆ ดู โดยติดปลายกระดาษไว้บนเพดานห้อง และปล่อยให้ม้วนกระดาษ ยาวลงมาจนถึงพื้น ไอเดียนี้เซฟงบลงไปได้เยอะ แต่ถ้าจะให้สวย บ่าวสาวควรเลือกสีกระดาษที่มีสีไปในโทนเดียวกัน เช่น โทนร้อนก็คือ แดง ชมพู ส้ม โทนเย็น ฟ้า เขียว เป็นต้น หรือจะไล่โทนสี แล้วให้กระดาษแต่ละม้วนสับหว่างกันก็จะยิ่งดูเก๋นะจ๊ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

ริบบิ้นสีสันสดใส

สิ่งที่บ่าวสาวต้องเตรียมมีผ้าสีขาวผืนใหญ่ สำหรับเป็นฉากถ่ายรูปแต่งงาน จากนั้นก็เลือกริบบิ้นสีที่ชื่นชอบมาค่ะ หลายๆ สี จะเน้นไปในทางโทนเดียวกัน หรือจะเลือกสีให้ตัดกันฉึบฉับก็ได้นะจ๊ะ วิธีการติดริบบิ้นลงบนผ้าได้แบบสวยงามก็คือ หากาวมาติด หรือถ้าขยันหน่อย จะเย็บติดลงไปเลยก็ได้ค่ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

รูปภาพ

ไอเดียนี้ทำง่ายสุดๆ แทบจะไม่ต้องมานั่งลงมือประดิษฐ์ประดอยเลยล่ะค่ะ เริ่มแรกบ่าวสาวลองหาสถานที่ที่ทั้งคู่ชอบ หรือ สถานที่สวยๆ อาจจะมีความหมายกับทั้งคู่ ถ้าคิดไม่ออกจะเลือกจากความสวยงามก็ได้ แล้วก็ไปตามร้านปริ้นต์ภาพลงบนผ้า เท่านี้ก็จะได้ฉากสวยๆ ออกมาแล้วค่ะ

ถ่ายรูปแต่งงาน

พระจันทร์และดวงดาว

กำลังฮิตกันเลยทีเดียวกับเรื่องของพระจันทร์และดวงดาว แถมสามารถทำตามได้ไม่ยากนะคะ เพียงแค่หากระดาษที่มีความมันวาว มาตัดให้เป็นรูปพระจันทร์และดวงดาว ถ้าอยากจะให้โดดเด่นขึ้นมาก็เพียงแค่หาโฟมมาเป็นฐานรอง หรือไม่คุณสามารถหาเชือกมาร้อยดวงดาวให้ห้อยลงมาจากเพดานก็จะสวยงามไปอีกแบบค่ะ

ถ่ายรูปแต่งงาน

ดอกไม้กระดาษ

เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะราคาถูกแต่ติดตรงคุณต้องพับกระดาษให้เป็น และนำมาตัดให้เป็นกลีบกุหลาบ (สามารถดูวิธีการทำตามเว็ปไซต์ต่างๆ ได้ค่ะ) เมื่อทำดอกไม้ออกมาแล้ว ก็นำมาแปะลงบนฉากถ่ายรูปแต่งงาน โดยแปะให้เต็มทั่วทั้งฉาก มองดูแล้วจะเป็นเหมือนกับฉากดอกไม้ขนาดใหญ่ แต่ราคาเบามากกว่าใช้ดอกไม้จริงค่ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

ม่านดอกไม้

ถ้าอยากใช้ดอกไม้จริงในการจัดฉากถ่ายรูปแต่งงาน แต่ไม่อยากใช้เยอะลองทำตามไอเดียนี้ดูค่ะ เพียงแค่คุณหาดอกไม้สดสีสันสดใส หรือจะเลือกใช้สีตามธีมงานแต่งก็ได้ จากนั้นนำมาร้อยลงบนสายเอ็นใส และเว้นระยะห่างของดอกไม้แต่ละดอกไว้ แล้วร้อยให้ได้เยอะๆ และนำมาห้อยไว้ให้เป็นฉากถ่ายรูปแต่งงาน คุณก็จะได้ม่านดอกไม้สวยสดใส และไม่แพงแล้วค่ะ

ถ่ายรูปแต่งงาน

ฉากใบไม้

เอาใจบ่าวสาวสายรักษ์ธรรมชาติ ที่ชอบสไตล์แบบมินิมอล ลองเลือกกระดาษขาวหรือผ้าแคนวาสสีขาวมาเพื่อเป็นฉากหลัง และเลือกใบไม้มาประดับตรงแต่งโดยทิ้งพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ให้แขกมายืนถ่ายภาพ โดยอาจจะเลือกใบไม้จากความสวยงาม หรือความหมายดีๆ ก็ได้นะจ๊ะ และแน่นอนราคาใบไม้ถูกกว่าราคาดอกไม้แน่นอน

ถ่ายรูปแต่งงาน

ดอกไม้พร้อมกับก้าน

เน้นความสะดวกเรียบง่าย สวยงาม และไม่เหมือนใคร เพียงแค่เลือกดอกไม้สีสันงดงามมาพร้อมกับก้านของดอกไม้ที่เป็นธรรมชาติ จากนั้นวางประดับลงไปบนฉากถ่ายรูปแต่งงาน โดยเรียงเอาไว้ให้สวยงาม สับหว่างให้ดูดี เพราะถ้าวางแบบตามใจฉัน ฉากจะออกมารก และดูไร้รสนิยมไปเลยค่ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

เป็นอย่างไรบ้างคะกับการ DIY ฉากถ่ายรูปแต่งงานแบบง่ายๆ ใครก็ทำได้ ที่สวยงามและปังสุดๆ และที่สำคัญเซฟงบในกระเป๋าลงไปได้เยอะเลย สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานเล็กๆ แต่หาฉากถ่ายรูปแต่งงานแบบสวยๆ ไม่ได้ลองดู งบน้อยแต่ไม่ตกเทรนด์ด้วย 20 ฉากถ่ายรูปงานแต่งสไตล์ Greenery เพื่องานแต่งงานขนาดเล็ก

ภาพจาก : Pinterest.com

คาถามัดใจญาติแฟน ไม่ว่าจะมากันแนวไหนก็สามารถชนะใจทุกกรณี

คาถามัดใจ ญาติแฟน ไม่ว่าจะมากันแนวไหนก็สามารถชนะใจทุกกรณี

ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเสมอไป เพราะสำหรับบางคู่ยังหมายถึงพ่อแม่พี่น้อง ลุงป้าน้าอา และสมาชิกในครอบครัวของเขาด้วย ว่าแต่จะทำอย่างไรให้ฝ่าด่านอรหันต์ของบรรดาญาติแฟนได้ฉลุย เราจะร่ายคาถามัดใจ ญาติแฟน ให้ฟังกันค่ะ

มือไม้อ่อนไว้ก่อน

คาถาข้อนี้ต้องท่องจำให้ขึ้นใจเลยนะคะ เพราะสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจอญาติแฟนครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม หรือครั้งไหนๆ ก็ตามที จะรู้จักหรือไม่รู้จัก จะใช่ญาติหรือไม่ใช่ญาติ ยังไงก็ต้องยกมือไหว้เพื่อทำความเคารพหรือสวัสดีทักทายกันไว้ก่อน เพราะการไปลามาไหว้ถือเป็นธรรมเนียมของคนไทย และเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องปฏิบัติ อย่าเผลอมือแข็งเชียวนะคะ รับรองว่าโดนญาติแฟนตาเขียวใส่แน่นอน

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ทำการบ้านมาดี รับรองว่ามีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ ก่อนจะร่ายคาถาข้ออื่นๆ ต่อไป คุณต้องรู้ก่อนว่าญาติแฟนของคุณนั้น เขาชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวให้เขาพอใจ หรือไม่เผลอทำอะไรที่เขาไม่ชอบออกไป เช่น คุณป้าชอบกินมะม่วงน้ำปลาหวานก็หมั่นซื้อติดไม้ติดมือมาฝาก คุณลุงชอบคนเรียบร้อยก็ไม่ใส่กระโปรงสั้นจนเกินงาม หรือน้องสาวกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ชวนเธอคุยในเรื่องการศึกษา เป็นต้น

หยิบยื่นน้ำใจไมตรี

คนมีน้ำใจอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรักใคร่ ดังนั้นควรหมั่นหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้ญาติแฟนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการอาสาเป็นลูกมือในครัว ช่วยล้างจานชามหลังจากกินข้าวที่บ้านของเขา ช่วยถือของในวันที่ไปช้อปปิ้งด้วยกัน หรือรับหน้าที่เป็นผู้จัดแจงทริปท่องเที่ยว น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ พอสะสมเข้ามากๆ ก็สามารถเพิ่มพูนคะแนนนิยมให้คุณได้มหาศาลเลยล่ะค่ะ

ของฝากติดไม้ติดมือต้องมี

คาถาข้อนี้เป็นวิธีเอาอกเอาใจญาติแฟนได้แบบเนียนๆ เลยล่ะค่ะ แถมยังแสดงถึงความมีน้ำใจของคุณอีกด้วย แต่ก่อนอื่นอย่าลืมร่ายคาถารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งก่อนนะคะ จะได้เอาใจได้ตรงจุด หรือใครชอบอะไรจะได้ซื้อมาฝากถูก ถ้าร่ายคาถาข้อนี้บ่อยๆ แล้วญาติแฟนไม่รักไม่หลงก็ให้มันรู้ไปค่ะ

คารมเป็นต่อ

คำพูดคำจาเป็นเรื่องสำคัญนะคะ เพราะหากพูดไม่เข้าหู ทีนี้ล่ะขุ่นเคืองใจกันยาวเลย ดังนั้นจะพูดอะไรก็ต้องระมัดระวัง ช่วงแรกๆ ควรจะพูดให้น้อยแล้วฟังให้มาก และคิดก่อนพูดเสมอ นอกจากนี้วาจาที่สุภาพอ่อนหวานก็เป็นเรื่องสำคัญ คะ ขา ครับ หางเสียงควรมีสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะรื่นหูคนฟังแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการรู้จักกาลเทศะ ความมีมารยาท และความนอบน้อมถ่อมตนของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

รู้จักกาลเทศะ

การรู้จักกาลเทศะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิบัติตัว คำพูดคำจา หรือการแต่งกาย คุณควรรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ คนนี้หยอกล้อได้หรือคนไหนไม่ควรปีนเกลียว หากอยากมัดใจญาติแฟนให้อยู่หมัดก็ต้องท่องคาถาข้อนี้ไว้ให้มั่นนะคะ

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

คาถาข้อนี้แปลง่ายๆ ก็คือ ทำตัวให้กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับครอบครัวของเขานั่นเอง เขาทำกิจกรรมอะไรกันเราก็ทำด้วย เขาไปไหนกันเราก็ไปด้วย เขาคุยเรื่องอะไรกันเราก็คุยด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่ามากจนเกินงาม ดูลาดเลาความพึงพอใจและเรียนรู้วัฒนธรรมของเขาให้ดีเสียก่อน ถ้าสังเกตได้ว่าเขาเริ่มเปิดใจให้เราเมื่อไหร่ ก็เดินหน้าเต็มกำลังได้เลยค่ะ

อวยให้เป็น

สำหรับคาถาข้อนี้คนที่ถือศีล 5 อาจจะไม่ค่อยถนัดนัก แต่เอาเป็นว่าการพูดบิดเบือนความจริงเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถือเป็นการโกหก หากแต่เป็นการทำให้อีกฝ่ายสบายใจมากกว่า ไม่ได้สนับสนุนให้พูดโกหกแต่อย่างใดนะคะ แต่เรากำลังจะบอกว่าการพูดอวยหรือเยินยอก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พิชิตใจญาติแฟนได้ ใครจะเอาไปใช้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใดค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : www.spokeo.com

คอนเฟตตี้ ไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่ไม่ว่าจะทำเป็นอะไรก็น่ารักสดใสไปหมด

มาสร้างความสดใสให้งานแต่งด้วย คอนเฟตตี้ สุดน่ารักกันดีกว่า

Confetti หรือ คอนเฟตตี้ ที่เรามักจะคุ้นตาในงานปาร์ตี้ หรืองานเฉลิมฉลอง ก็นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจสำหรับว่าที่บ่าวสาวที่ต้องการสร้างลุคที่มีสีสันหรือสร้างบรรยากาศความสนุกสนานให้กับงานแต่งแล้วคอนเฟตตี้ที่ว่านี้จะสามารถนำไปครีเอทเป็นอะไรในงานแต่งได้บ้าง แพรว wedding มีไอเดียดีๆ มาฝากแล้วจ้า

คอนเฟตตี้

สำหรับว่าที่เจ้าสาวคาแรคเตอร์สนุกสนาน พร้อมกับไม่ต้องการความเป็นทางการให้กับลุคของตัวเองมากนัก อาจจะเลือกเพิ่มสีสันให้กับชุดแต่งงานด้วยการโปรยคอนเฟตตี้ไว้บนชุดแต่งงานซะเลย ไม่ว่าจะเป็นคอนเฟตตี้แนวระยิบระยับเพื่อเพิ่มความโดดเด่น หรือจะเลือกเป็นคอนเฟตตี้ดอกไม้ดอกเล็กๆ น่ารักเพื่อความสดใสก็ได้หมด เอาเป็นว่าแค่เลือกให้เข้ากับคาแรคเตอร์งานและคาแรคเตอร์เจ้าสาวก็พอเนอะ อย่างเช่น ชุดแต่งงานของเจ้าสาวในภาพจากแบรนด์ Valentino ที่โปรยปรายเอาไว้ด้วยดอกไม้ดอกเล็กดอกน้อยคละไซส์กันไป ก็ให้อารมณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดีเหมือนกันนะ

คอนเฟตตี้

คอนเฟตตี้

เบื่อไหมกับเค้กแต่งงานสีขาวประดับดอกไม้แบบเดิมๆ มาเปลี่ยนความจำเจนั้นให้สนุกขึ้นด้วยไอเดียคอนเฟตตี้กันดีกว่า แถมงานนี้ไม่ว่าจะเป็นเค้กแต่งงานกี่ชั้น หรือมินิเค้ก ก็สามารถทำได้แบบไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น คอนเฟตตี้สีสันแบบพาสเทลที่ช่วยเพิ่มให้บรรยากาศงานแต่งงานของบ่าวสาวดูน่ารักอบอุ่นขึ้น หรือจะเลือกเป็นคอนเฟตตี้เฉดสีทองเมทัลลิค เฉดสีที่กำลังฮิตในปีนี้ โปรยไว้บนเค้กแต่งงานสีขาวก็ช่วยอัพความหรูให้กับงานได้เป็นอย่างดี ส่วนมินิเค้กถึงจะเล็กก็ดีไซน์น้า ลองเล่นกับชั้นเค้กด้วยการเพิ่มเลเยอร์ของเยลลี่หลากสีสันที่ตัดไว้เป็นชิ้นเล็กสลับกับตัวเค้กสัก 2-3 ชั้น เท่านี้ก็ช่วยเพิ่มความน่ารักในไซส์มินิได้แล้ว

คอนเฟตตี้

คอนเฟตตี้

หากงานแต่งของคุณเป็นแบบซิตดาวน์ดินเนอร์ ก็อาจจะเพิ่มบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองบนโต๊ะอาหารด้วยการตกแต่งในสไตล์มินิมอลสุดน่ารักบนจานอาหารใบสวย ที่โรยไว้ด้วยคอนเฟตตี้หลากสีสันแบบคละไซส์กันไป ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยบิ้วด์อารมรณ์แห่งการเฉลิงฉลองให้กับแขกได้เป็นอย่างดีก่อนงานเริ่ม

คอนเฟตตี้

แต่ถ้าหากบ่าวสาวคู่ไหนต้องการเล่นใหญ่กว่าการโปรยคอนเฟตตี้ไว้บนจานอาหาร ก็อาจจะเพิ่มความอลังการด้วยการดีไซน์ tablescape หรือ table runner (การจัดตกแต่งโต๊ะอาหารตรงกลางในแนวยาว) ให้เต็มไปด้วยคอนเฟตตี้ก็ได้ โดยอาจจะเลือกสีสันให้เข้ากับบรรยากาศของสถานที่หรือธีมงานแต่งก็ได้ แต่งานนี้อาจจะแค่โปรยไว้เฉยๆ ไม่ได้เนอะ เพื่อความสวยงามอาจจะต้องหาวิธีล็อคคอนเฟตตี้ให้ติดกับตัว tablescape ให้ดีสักหน่อย เพื่อที่จะได้ช่วยล็อคความสวยงามให้อยู่จนจบงาน ไม่ใช่ว่างานยังไม่เริ่มแต่คอนเฟตตี้ดันโดนปัดร่วงลงไปอยู่ใต้โต๊ะซะหมด

เพิ่มความสดใสให้บอลลูนที่ล่องลอยอยู่ภายในงานหรือที่ประดับไว้ตรงเซ็นเตอร์พีช ด้วยการประดับประดาคอนเฟตตี้ไว้ให้ทั่วบอลลูนลูกโต รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความน่ารักสดใสให้บรรยากาศของงานได้ไม่ยาก แต่งานนี้บ่าวสาวจะต้องเมกชัวร์ว่า ธีมงานแต่งหรือบรรยากาศงานของคุณนั้นเข้ากับบอลลูนสีสันสดใสที่เตรียมไว้ด้วยน้า หรือถ้าอยากเพิ่มความโรแมนติกให้กับงานอีกนิดแนะนำให้เลือกเป็นบอลลูนรูปหัวใจที่เต็มไปด้วยคอนเฟตตี้กลิตเตอร์ระยิบระยับให้ลอยฟ่องสดใสไปทั่วทั้งงานไปเลยค่า

อันนี้สำคัญมากแบบพลาดไม่ได้ กับการเตรียมคอนเฟตตี้ใส่กรวยไว้แล้วแจกให้แขกที่มาร่วมงานได้ช่วยกันโปรยในช่วงเปิดตัวบ่าวสาว แล้วอย่าลืมเตรียมคอนเฟตตี้เอาไว้ในหลากหลายสีสันนะคะ โดยอาจจะเลือกผสมกับคอนเฟตตี้แบบกลิตเตอร์ หรือแบบเมทัลลิค เพื่อที่เมื่อถ่ายภาพออกมาจะได้เต็มไปด้วยสีสันที่สวยงามปนความระยิบระยับ รับรองว่าจะเป็นช็อตภาพถ่ายที่สวยงามน่าประทับใจแน่นอน

ใครว่าคอนเฟตตี้ต้องทำมาจากระดาษอย่างเดียว ไม่จริงสักนิด เพราะกลีบดอกไม้ก็สามารถนำมาดีไซน์ให้กลายเป็นคอนเฟตตี้สวยๆ ไว้แจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งได้เหมือนกันน้า โดยอาจจะเลือกกลีบดอกไม้ที่มีขนาดเล็ก หลากสีสันที่มีกลิ่นหอม แล้วนำไปอบให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาแพ็คไว้ในแพ็คเกจจิ้งสวยหรู เท่านี้บ่าวสาวก็ได้ของชำร่วยแสนเก๋แถมยังเป็นมิตรกับธรรมชาติอีกด้วย

อีกหนึ่งไอเดียคอนเฟตตี้ฉบับ DIY กับการประดับคอนเฟตตี้ไว้บนการ์ดแต่งงาน โดยอาจจะเลือกคอนเฟตตี้ทรงกลมที่มีขนาดต่างกันไป พร้อมเฉดสีสันสดใสหรือสวยหรู (ก็แล้วแต่ธีมงานของแต่ละคู่นะคะ) จากนั้นก็นำมาประดับตกแต่งไว้บนการ์ดแต่งงาน เท่านี้ก็ได้การ์ดแต่งงานทำมือที่ผู้รับจะสามารถเห็นได้ถึงความตั้งใจของผู้ให้แล้ว แต่..อาจจะเหมาะกับงานแต่งที่มีแขกน้อยสักหน่อยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะนั่งแปะกันจนมือหงิกได้ หรือจะเลือกเพิ่มความเซอร์ไพรส์แบบเปล่งประกายด้วยการโรยผงกลิตเตอร์ระยิบระยับไว้ที่ด้านในของซองการ์ดแต่งงานก็ได้นะ

สุดท้ายกับไอเดียสุดครีเอท ด้วยการนำสไตล์คอนเฟตตี้กับทรงกลมมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นการ์ดเชิญในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร โดยอาจจะดีไซน์ให้การ์ดทรงกลมแต่ละใบมีขนาดและ สีสันที่ต่างกันไป (แต่ถึงสีสันจะต่างแค่ไหน ก็ต้องเลือกให้เข้ากันแบบคุมธีมนะ) รับรองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ของการ์ดแต่งงานที่เพื่อนๆ อยากทำตามแน่นอน

เอาเป็นว่าลองเลือกสิ่งที่ดูจะเข้ากับสไตล์ของบ่าวสาวและบรรยากาศงานแต่งงานของคุณทั้งคู่ดูนะคะ หรือจะลองแบบงานคราฟสไตล์มินิมอลกับไอเดีย ดอกไม้กระดาษ ไอเดียงานแต่งแบบ DIY สำหรับบ่าวสาวสายอาร์ต ก็ได้น้า

ภาพ www.marthastewartweddings.com

4 พายุอารมณ์ของนิสัยผู้หญิง ที่อาจทำให้คุณเสียแฟนไปได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าอารมณ์ของผู้หญิงและผู้ชายมีความต่างกัน เพราะผู้หญิงอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนที่มีระดับขึ้นลงตามรอบเดือน แพรวเวดดิ้งเลยจะพามาดู  4 อารมณ์ยอดแย่ นิสัยผู้หญิง ที่อาจทำให้หนุ่มๆ ทั้งหลายถึงกับปวดหัวถ้าหากว่าคุณสาวๆ มีอาการแบบนี้

1. ขี้งอน

อาการงอนเกิดจากอาการน้อยใจของสาวๆที่ได้รับความสนใจ การเอาใจใส่จากฝ่ายชายน้อยกว่าที่ตัวเองตั้งความหวังเช่น การโทรไปไม่รับแถมยังไม่โทรกลับ หรือเวลานัดแล้วไม่ตรงเวลา สาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้สาวๆ แทบทุกคนเกิดอาการงอนได้ การงอนหากเกิดขึ้นนิดๆ หน่อยๆ เขาก็พอที่จะรับได้ แต่หากเป็นมากถึงขั้นเริ่มงอนแบบไร้สาเหตุ หรือ งอนนานข้ามวันข้ามคืน งานนี้อาจทำให้หนุ่มๆเบื่อจนหายไปเลยก็ได้

2. ขี้บ่น  

เมื่อสาวๆ เริ่ม ”บ่น” หนุ่มๆหลายคนคงต้องรีบหาอะไรมาอุดหูกันแทบไม่ทัน การบ่นของผู้หญิงเป็นผลมาจากความจู้จี้  จุกจิก หรือเข้มงวด ทั้งเรื่องการแต่งตัว  การรับประทาน หรือพฤติกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าถ้าไม่ถูกใจก็จะบ่นไปเรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่าผู้ชายเค้าไม่ชอบการถูกบังคับ  ดังนั้นคุณควรปล่อยให้เค้าได้ทำตามใจตนเองบ้าง เพราะคุณอย่าลืมว่าก่อนมาเป็นแฟนเราเค้ายังทำด้วยตนเองได้ แม้บางอย่างจะไม่ถูกใจเราก็ตาม

3. ขี้หึง

แน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นประเภทของๆข้าใครอย่าแตะ เพราะโดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะเป็นเพศที่ยึดมั่นในความรัก จึงยากนักที่จะให้ผู้หญิงหน้าใหนมาเข้าใกล้คนที่ตัวเองรัก อาการหึงหากเกิดนิดๆ หน่อยๆ ฝ่ายชายก็อาจจะยอมได้แต่หากเป็นมากถึงขั้นไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น นี่ก็อาจจะเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ของคุณและเขาได้

เชื่อมั่นในตัวเอง  วางใจในตัวคนรัก” เป็นสูตรสำเร็จที่ต้องแนะนำให้สาวขี้หึงทั้งหลายนำไปลองใช้เพราะนอกจากจะทำให้ลดอาการขี้หึงในตัวคุณให้น้อยลงแล้วสูตรนี้ยังได้รับการยอมรับจากหนุ่มๆ ส่วนใหญ่อีกด้วย

4. ขี้เหงา

สาวๆ ขี้เหงาที่ต้องอยู่ติดแฟนตลอดเวลาขอให้คุณรู้ไว้เลยว่า ไม่ว่าจะรักกันมากแค่ใหนแต่คนเราย่อมอยากมีเวลาส่วนตัวทั้งสิ้น ไม่อยากมีแฟนตามติดเป็นลูกแหง่ตลอดเวลา คุณควรฝึกตัวเองให้รับผิดชอบตัวเองได้  มีสังคมของตัวเอง เวลาที่ห่างกันจะได้รู้สึกคิดถึงได้

ทั้งหมดนี้คืออารมณ์ที่อาจจะทำให้คุณเสียแฟนไปก็ได้  คุณแค่รู้จักการจัดการกับอารมณ์และวิธีการแสดงออก เท่านี้ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณและแฟนยืดยาวแล้ว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : board.postjung.com

ไม่ง่ายแต่เอาอยู่! 5 วิธีการรับมือปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้

ไม่ง่ายแต่เอาอยู่! 5 วิธีการรับมือปัญหา แม่สามีกับลูกสะใภ้

เชื่อเถอะว่าปัญหา แม่สามีกับลูกสะใภ้ ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในครอบครัวของคุณเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นทั่วโลกแทบจะตลอดเวลา เราอาจเคยได้เห็นเรื่องของคนอื่นที่ชนวนปัญหามาจากความสัมพันธ์ที่ไม่ลงรอยกันระหว่างคุณแม่สามีและคุณลูกสะใภ้ จนบางทีอาจบานปลายเป็นเรื่องใหญ่โตไปเลยก็มี แล้วเราจะรับมือกับปัญหานี้ได้อย่างไร วันนี้ แพรว wedding มีทีเด็ด 5 ข้อที่จะช่วยให้คุณผ่านมรสุมชีวิตในเรื่องนี้ไปได้ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

 

อย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไป

ถ้าความสัมพันธ์ของคุณกับแม่สามีเป็นไปได้อย่างราบรื่น บอกเลยว่าคุณคือกลุ่มคนที่โชคดีมาก แต่ถ้าไม่ใช่ ใจเย็นๆ อย่าไปกดดันจนเกินไป ลองพยายามปรับตัวดูก่อนเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ แต่ไม่ใช่การฝืนทนนะ คุณแค่ต้องปล่อยวางและทำตัวตามสบายเท่านั้น ถ้าทำได้แม้ความสัมพันธ์จะไม่ดีขึ้นแต่อย่างน้อยคุณก็จะไม่ทุกข์ใจจนเกินไป

หาที่ปรึกษาสักคน

ถ้าบางครั้งมันเกินจะทนจริงๆ ก็อย่าเก็บมันไว้จนถึงขั้นระเบิดขึ้นมาจนสร้างรอยร้าวที่เกินเยียวยาภาย เราแนะนำให้คุณลองพูดคุยกับใครสักคนที่พร้อมจะรับฟัง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือครอบครัวฝ่ายคุณ เพราะการได้ระบายออกไปบ้างจะทำให้ความกดดันลดลงตามธรรมชาติ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความเสียหายใหญ่โตตามมา

มั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่ฝ่ายระราน

ไม่ว่าคุณแม่สามีจอมเฮี้ยบจะวิพากษ์วิจารณ์ชีวิตของคุณมากแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการมีลูก เรื่องการงาน เรื่องภายในบ้าน หรือเรื่องอะไรก็ตาม ให้คุณคิดเสมอว่า ชีวิตของเรา เราต้องฟังการตัดสินใจของตัวเองในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง ในขณะเดียวกันก็อย่าดันทุรังเพียงหวังเอาชนะ ถ้าคำแนะนำไหนที่มีประโยชน์ก็ควรที่จะรับฟังและนำมาใช้ เพื่อความสุขของครอบครัวอย่างแท้จริง

คำชื่นชมอย่างจริงใจ

อย่าลืมว่าคุณและคุณแม่สามีนั้นมีจุดศูนย์กลางร่วมกันก็คือ สามีของคุณและลูกชายของคุณแม่นั่นเอง การที่คุณตกหลุมรักสามีของคุณ ส่วนหนึ่งก็เพราะคุณแม่สามีเลี้ยงดูจนเขาเติบโตขึ้นมา การมอบคำชื่นชมอย่างจริงใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆที่คุณแม่สามีทำ เช่น ช่วยจัดระเบียบในบ้าน ช่วยดูแลลูกของคุณ หรือแม้กระทั่งเวลาที่คุณแม่ไปตัดผมมาใหม่แล้วดูสวยขึ้น การเอ่ยคำชื่นชมก็เหมือนการเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ในครอบครัวของคุณดีขึ้นไม่มากก็น้อยนะคะ

อย่าใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หากคุณจำเป็นต้องคุยกับสามี

ถึงแม้คุณอาจจะมีที่ปรึกษาบ้างเพื่อระบายความอัดอั้นในใจ แต่บางเรื่องสามีคือที่พึ่งสุดท้ายของปัญหานี้ สิ่งที่คุณควรต้องทำคือพูดด้วยเหตุผลถึงความกดดันที่ได้รับ ที่สำคัญอย่าใช้ถ้อยคำสบถ หรือคำพูดที่รุนแรง เพราะคงไม่มีใครอยากได้ยินคนมาพูดแบบนี้กับแม่ของตัวเองออย่างแน่นอน การพูดคุยควรเป็นการหาทางออกร่วมกัน มากกว่าฟูมฟายเพื่อให้ตัวเองดูดีในสายตาสามี ย้ำอีกครั้งว่า อย่าใช้คำพูดที่รุนแรงพูดถึงคุณแม่สามีอย่างเด็ดขาดนะคะ

>> ติดตามคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : huffpost.com, purewow.com

ชุดแต่งงานไทยสีเงิน – ขาว อีกหนึ่งเฉดสีที่ช่วยส่งให้เจ้าสาวดูหรู

ชุดแต่งงานไทยมีมากมายหลายเฉดสีให้เลือก ซึ่ง ชุดแต่งงานไทยสีเงิน – ขาวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยเสริมให้ว่าที่เจ้าสาวดูสวยสง่าในวันสำคัญได้

สำหรับว่าที่เต้าสาวที่กำลังมองหาชุดแต่งงานไทยที่ดูเรียบร้อย สง่าสมฐานะเจ้าสาว ชุดแต่งงานไทยสีเงิน – ขาว ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถตอบโจทย์นั้นให้กับคุณเจ้าสาวได้ เพราะด้วยเฉดสีอ่อนนี้จะช่วยส่งให้ว่าที่เจ้าสาวดูเป็นหญิงงามเรียบร้อย และดูหรูหราด้วยการปักดิ้นหรือลูกปัดสีเงิน แถมเฉดสีนี้ก็ยังสามารถชวนว่าที่เจ้าบ่าวมาใส่ให้แมตช์กันได้ง่ายอีกด้วย

แต่ชุดแต่งงานเฉดสีนี้อาจจะมีข้อจำกัดตรงที่ว่า เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่มีผิวขาวหน่อยนะจ๊ะ แต่ถึงอย่างนั้นว่าที่เจ้าสาวผิวเข้มก็อย่าเพิ่งน้อยอกน้อยใจไป เพราะถ้าหากคุณอยากใส่เฉดสีนี้จริงๆ เพียงแค่เลือกเข้าไปปรึกษากับดีไซเนอร์หรือร้านตัดชุดที่คุณไว้ใจ เพื่อขอคำแนะนำให้ช่างเลือกเฉดสีขาว-เงินที่เข้ากับสีผิวของคุณ เท่านี้ก็สวยมั่นในวันงานได้แล้ว

ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Vanus Couture
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Vanus Couture
ชุดแต่งงานไทยสีเงิน
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Milan Bridal Couture & Wedding Studio
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Coco Chic Wedding
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Coco Chic Wedding

เลือกเป็นชุดไทยแบบประยุกต์ เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้สีขาวของชุดมีความโดดเด่นมากขึ้น เช่น เลือกผ้านุ่งท่อนล่างให้เป็นทรงชุดแต่งงานร่วมสมัยอย่างทรงเมอร์เมด หรือแบบหางปลา แต่อาจจะมีข้อจำกัดตรงที่ว่า เจ้าสาวอาจจะลุกนั่งกับพื้นลำบาก แต่ถ้าหากจะใส่สำหรับถ่ายภาพ หรือในพิธีรดน้ำสังข์ ก็พอจะยังได้อยู่

ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Smile in Love & Wedding Studio
ชุดแต่งงานไทยสีเงิน
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Surasak Studio
ชุดแต่งงานไทยสีเงิน
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน บางแสนมายเลิฟ เวดดิ้งสตูดิโอ
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Deep Love Wedding

ชุดแต่งงานไทยดุสิตสีขาวเงินตลอดทั้งชุด ก็ช่วยให้ลุคของว่าที่เจ้าสาวดูเป็นสาวไทยสุดเรียบร้อย โดยอาจจะเพิ่มความน่าสนใจให้ลุคนี้ดูไม่จืดชืดจนเกินไปด้วยการสวมเครื่องประดับที่มีสีสันที่ตัดกับสีชุด หรือการประดับทรงผมด้วยดอกไม้ไทยสีสด ก็จะดูตัดและช่วยขับความงามสีขาวของชุดไทยที่สวมใส่ให้โดดเด่นมากขึ้น

ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Vanus Couture
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Vanus Couture
ชุดแต่งงานไทยสีเงิน
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Vanus Couture
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Coco Chic Wedding
ชุดแต่งงานไทย สีขาว-เงิน จากร้าน Coco Chic Wedding

ดูสวยสง่าในชุดไทยจักรพรรดิสีขาวเงิน ที่แมตช์เข้ากับเซตเครื่องประดับสีเงิน และรองเท้าสีขาวแบบเข้าชุด และยังสามารถสวมสีนี้คู่กับคุณเจ้าบ่าวได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากว่าที่บ่าวสาวจัดพิธีแต่งงานภายในเรือนไทยที่มีสีหลักเป็นสีน้ำตาลของไม้ หรือภายในสวนสีเขียว ก็จะช่วยให้ว่าที่บ่าวสาวในชุดสีขาวดูโดดเด่นท่ามกลางเฉดสีและบรรยากาศของสถานที่อีกด้วย a

ติดตามไอเดียดีๆ เกี่ยวกับชุดแต่งงานไทยและสากลทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

5 เหตุผลพึงเข้าใจและทำใจเมื่อเขา (ยัง) ไม่พร้อมจะแต่งงาน

“Will you marry me… แต่งงาน กับผมนะครับ” ประโยคในฝันที่สาวๆ หลายคนอยากได้ยินจากปากชายคนรัก แหม… ก็ในเมื่อคบหาดูใจกันมาก็นาน ผู้หญิงคนไหนๆ ก็อยากจะเซย์ “I Do” กันทั้งนั้นแหละใช่ไหมล่ะ แต่! แต่! แต่! มันดันติดอยู่ที่ว่าพ่อหนุ่มข้างกายยังไม่คิดจะคุกเข่ายื่นแหวนให้สักที พอลองถามก็ตอบคำเดียวว่า “ยังไม่พร้อม” เอ้า! แบบนี้สาวๆ คงต้องมีวิธีทำใจกันซะหน่อยแล้ว

1. อย่าโทษตัวเอง

ผู้หญิงหลายคนมักคิดว่าการที่ฝ่ายชายไม่ขอเธอแต่งงานเป็นเพราะว่าตัวเองนั้น “ไม่ดีพอ ไม่เพอร์เฟ็กต์ ไม่คู่ควร” ขอบอกเลยนะคะว่า ห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาด! อย่าปล่อยให้อาการนอยด์เหล่านี้มาครอบงำคุณ เพราะทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง ขณะเดียวกัน คุณควรจะลองถามเขาสักนิดว่าติดปัญหาอะไรอยู่หรือเปล่า? มีอะไรที่ยังไม่พร้อมหรือไม่? หรือมีเหตุผลอะไรอย่างอื่น แล้วค่อยคิด ค่อยคุย ทำความเข้าใจกันและกัน เพราะในความเป็นจริงแล้ว ถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่ไม่มีอะไรดีเลย เขาจะเสียเวลามาคบกับคุณทำไม ฉะนั้นจำไว้ค่ะว่าคุณมีดีพอให้เขามารักคุณแน่นอน (แค่เขาอาจมีเหตุผลที่ยังไม่พร้อมแต่ง)

2. ทำใจและเข้าใจเหตุผลที่เขาบอก

อย่างที่บอกไปเมื่อข้อที่แล้วว่าให้คุณลองถามเหตุผลที่เขาไม่พร้อมจะแต่งงาน ซึ่งจากประสบการณ์ที่เจอมา เหตุผลส่วนใหญ่ที่ทำให้ผู้ชายยังไม่คิดจะแต่งงานก็คือ เงินไม่พร้อม ถ้าเป็นแบบนี้อย่างแรกที่คุณควรทำก็คือ ทำความเข้าใจในเหตุผลของเขาก่อน จากนั้นค่อยคุยกันว่าถ้าอยากแต่งงานจะต้องใช้เวลาเก็บเงินอีกนานแค่ไหน เป็นไปได้ไหมที่จะช่วยๆ กันเก็บเงิน (สมัยนี้หลายคู่ทำกันเยอะ) แบบนี้ก็จะทำให้คุณร้องเพลงรอแบบมีจุดหมาย

3. เหตุผลส่วนตัวของเขาที่ต้องยอมรับ

นอกจากเหตุผลด้านการเงินแล้ว เหตุผลส่วนตัวบางอย่างก็อาจจะเป็นตัวการทำให้เขาไม่พร้อมจะขอคุณแต่งงาน อย่างเช่น พ่อหรือแม่ป่วย แล้วมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการรักษา หรือถ้าคุณมีความรักกับคุณพ่อเรือพ่วง เขาอาจจะยังติดปัญหาในส่วนของลูกก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นถ้ารักกันก็ต้องเข้าใจเหตุผลส่วนตัวของเขาด้วยนะ

4. เขาอยู่ในช่วงจุดเปลี่ยน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ผู้ชายหลายคนยังไม่พร้อมจะแต่งงานนั่นก็คือ เขาคิดว่าชีวิตและฐานะของเขายังไม่มั่นคงพอที่จะดูแลชีวิตใครอีกคน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากแต่งงานหรือมองคุณเป็นภาระ แต่ในความเป็นจริงเขาอาจจะเพิ่งเปลี่ยนงานหรือเพิ่งจะลงทุนธุรกิจไปหมาดๆ ถ้าเป็นเหตุผลนี้ขอให้คุณคิดไว้เลยว่า เขารักคุณและอยากดูแลคุณให้ดีที่สุดในเวลาที่เขามั่นคงในทุกๆ ด้าน และไม่อยากให้คุณต้องมาลำบากล้มลุกคลุกคลานไปกับเขาในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ขอเพียงแค่คุณคอยอยู่เคียงข้างและให้กำลังใจเขาในการพิสูจน์ตัวเขาเองก็พอ

5. ร้องเพลงรออย่างมีความหวัง

ในเมื่อฝ่ายชายเอ่ยปากว่ายังไม่พร้อม สิ่งเดียวที่คุณพอจะทำได้นอกจากทำใจก็คือ ร้องเพลงรอ รอ รอ ค่ะ ถ้าคุณมั่นใจว่ารักกันจริง รักนี้ยืนยง รักนี้มั่นคง และมีวี่แววว่าจะได้แต่งก็สามารถรอได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรอไป 10 ปี 20 ปี จนแก่หงำเหงือกนะ เพราะฉะนั้นคุณคงต้องตั้งเวลาให้ตัวเองและคนรักว่าอีกกี่ปีถึงจะแต่งงาน แบบนี้ดีกว่ารออย่างไร้จุดหมายตั้งเยอะ

ผู้หญิงหลายคนคบกับแฟนมาก็นานแล้ว อายุก็มากขึ้นทุกปี แต่ไม่มีวี่แววว่าคนรักจะขอแต่งงานสักที ถ้าคุณเป็นผู้หญิงประเภทที่คิดว่าชีวิตนี้ฉันจะขอจัดงานแต่งแล้วใส่ชุดเจ้าสาวสวยๆ ก็ควรจะต้องคุยกับคนรักว่าวางแผนอนาคตของเราสองคนไว้ยังไงบ้าง จะแต่งงานไหม และแต่งเมื่อไหร่ดี ส่วนใครที่ลองถามแล้วได้คำตอบกลับมาว่า “ยังไม่พร้อม” แพรว wedding ก็หวังว่า 5 ข้อนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจและทำใจได้บ้างไม่มากก็น้อยนะคะ

 >> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

พานขันหมาก อะไรที่ว่าที่เจ้าบ่าวตระเตรียมไปขอสาวบ้าง มาเช็กกัน

ครบครันเรื่อง พานขันหมาก ที่เจ้าบ่าวต้องเตรียมไว้ไปขอสาว

พิธีแห่ขันหมากจัดเป็นพระเอกของพิธีแต่งงานแบบไทย เพราะเจ้าบ่าว และเครือญาติจะต้องยก “ขบวนขันหมาก” ไปสู่ขอเจ้าสาวถึงบ้าน จากที่แพรว wedding พบเห็นมา ส่วนใหญ่การจัดชุด พานขันหมาก จะมี 2 แนวทางปฏิบัติ ตามนี้

1. มี “พานขันหมากเอก” 1 พาน และ “พานขันหมากโท” 1 พาน ซึ่งมีขนาดย่อมกว่า สื่อถึงความเป็นคู่ผัวตัวเมีย ส่วนพานอื่นๆ จัดเป็นเครื่องประกอบขันหมาก ดังนี้

พานขันหมากเอก 1 พาน บรรจุหมาก-พลูเป็นจำนวนคู่ ถั่ว-งา-ข้าวเปลือก-ข้าวตอก ในถุงเงินถุงทอง ดอกรัก และใบเงิน ใบทอง ในบาก

พานขันหมากโท 1 พาน ประกอบด้วยหมากและพลู สมัยก่อนเมื่อเสร็จพิธีแล้วจะนำไปไว้ในห้องพระ

พานขันหมาก

พานดอกไม้ธูปเทียนแพ 1 พาน สำหรับเจ้าบ่าวถือในขบวนขันหมาก และใช้ไหว้ผู้ใหญ่ในพิธีหมั้น หรือบางคู่ก็ใช้ในพิธีไหว้ผู้ใหญ่ด้วย

พานขันหมาก

พานแหวนหมั้น 1 พาน

พานสินสอด-ทองหมั้น จำนวนพานตามฐานะ ส่วนใหญ่นิยมแยกเป็นพานเงินสด 1 พาน กับพานเครื่องประดับอีก 1 พาน จะได้คู่กันพอดี แต่หากบ้านไหนสินสอดเยอะมากก็อาจจะมีการแยกย่อยลงไปอีก เช่น พานเงินสด พานทองคำแท่ง พานเครื่องเพชร พานโฉนดที่ดิน เป็นต้น

พานขันหมาก

พานขนมมงคล 9 ชนิด 1 คู่ ประกอบด้วยทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมชั้น ทองเอก จ่ามงกุฎ เสน่ห์จันทร์ ถ้วยฟู และเม็ดขนุน ซึ่งขนมแต่ละชนิดสื่อถึงความหมายที่ดี เช่น ความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยเงินทอง มีคนคอยสนับสนุน ความเฟื่องฟู มีคนเอ็นดูรักใคร่ และมียศถาบรรดาศักดิ์

“พานขนมมงคลจะมีปัญหาแมลงวัน ผึ้ง และแมลงอื่นๆ มาตอมเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่น่าดู แถมคนถือก็รำคาญและกลัวถูกกัด บ่าวสาวบางคู่จึงทำมุ้งผ้าโปร่งสวยงามครอบไว้ บ้างก็ตักขนมแต่ละชนิดใส่โหลแก้วเล็กๆ ปิดฝาไว้แล้วค่อยเรียงลงพานอีกที นับเป็นไอเดียที่ชาญฉลาดมาก นอกจากจะดูสะอาดสะอ้าน ถือสะดวก ยังแลดูสวยงามอีกด้วย”

พานผลไม้มงคล 1 คู่ ประกอบด้วยผลไม้ที่มีชื่อหรือลักษณะเป็นมงคล เช่น มะพร้าว ส้มโอ ทับทิม องุ่น ส้มสายน้ำผึ้ง (บางบ้านอาจมีมากกว่า 1 คู่ แต่ต้องเป็นจำนวนคู่)

พานต้นกล้วย-ต้นอ้อย 1 คู่ สมัยก่อนเมื่อเสร็จพิธีแล้วนิยมนำไปปลูกเพื่อความเป็นสิริมงคล

2. นับ “ขันหมากเอก” เป็นชุดพานหลัก ส่วน “ขันหมากโท” เป็นชุดพานบริวาร

ขันหมากเอก ประกอบด้วยพานขันหมากเอก พานสินสอดทองหมั้น พานธูปเทียนแพ และพานแหวนหมั้น

ขันหมากโท ประกอบด้วยพานขนมมงคล พานต้นกล้วย-ต้นอ้อย พานผลไม้มงคล

นอกจากนี้บางบ้านอาจมีการผสมผสานวัฒนธรรมจีนเข้ามาด้วย เช่น มีคู่พานวุ้นเส้น พานไก่ต้มคู่กับพานหมูนอนตอง (หมูสามชั้นต้มวางบนใบตอง) ฯลฯ ซึ่งก็ไม่ผิดแต่อย่างใด ถ้ามีพานเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะวางไว้ระหว่างพานผลไม้มงคลกับพานขนมมงคล อันนี้ก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบ้านเลยค่า

คลิก! >>> แจกกันแบบสเต็ปบายสเต็ป กับขั้นตอนลำดับพิธีแต่งงานไทยฉบับสมบูรณ์

ภาพเปิด งานแต่งคุณอ้อม & คุณโน๊ต ถ่ายโดย Pause by Pro Photography, Aitop Friday, Box Wedding

8 คำถามที่มาพร้อมคำตอบกับ ชีวิตหลังแต่งงาน เรามีทางออกให้แล้ว

เช็กด่วน! คุณกำลังเจอปัญหา ชีวิตหลังแต่งงาน เหล่านี้อยู่หรือเปล่า?

การแต่งงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ ชีวิตหลังแต่งงาน นี่สิของจริง! แพรวเวดดิ้งได้รวบรวมปัญหา พร้อมคำตอบในการรับมือกับ ปัญหาหลังแต่งงานที่คุณอาจจะต้องเจอมาให้แล้ว รับรองได้ว่า เวลาเจอกับตัวเมื่อไหร่ ไม่เกิดอาการน็อกคาบ้านแน่นอน

2
Q : ใครบ้างในครอบครัวของอีกฝ่ายที่มีความเสี่ยงจะขัดแย้งกับเรามากที่สุด

A : ขอบอกเลยว่า ทุกคนในบ้านมีสิทธิ์วางมวยกับคุณทั้งหมด อยู่ที่ว่าจริตใครจะโดนต่อมขัดใจของใครก็เท่านั้น เพราะการที่เข้าไปเป็นสมาชิกใหม่ของบ้านหลังใหม่ จะต้องมีการปรับตัวเข้าหากันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริง การที่จะให้คนเก่าที่เคยอยู่กันอย่างมีความสุข มาปรับตัวเพื่อคนใหม่เพียงคนเดียวก็คงจะยาก ฉะนั้นคนที่มีโอกาสขัดแย้งกันมากที่สุดคือ คนที่ไม่ยอมปรับตัวเอง นั่นเองจ้า


Q : บ้านสามีคาดหวังให้สะใภ้เป็นแม่บ้านแม่เรือน เพียบพร้อมทุกด้าน แต่เราเป็นคนทำงานนอกบ้านเก่ง แต่เรื่องในบ้านห่วยแตก จะทำอย่างไรดี

A : ถ้าอยากให้ครอบครัวของสามียอมรับในสิ่งที่ไม่ได้เป็นไปตามคาดหวัง คุณก็ต้องมีสิ่งอื่นมาทดแทนความเป็นแม่บ้านแม่เรือน เช่น คุณอาจหาแม่บ้านมืออาชีพมาช่วยงาน หรือแม้จะทำอาหารไม่อร่อยแต่ก็พยายามเรียนรู้ รวมทั้งการได้รับการยอมรับและชื่นชมในฝีมือการทำงานนอกบ้านจากคนอื่นๆ ก็สามารถทำให้พวกเขาเห็นว่าคุณมีคุณค่ามากกว่าการเป็นแม่บ้านแม่เรือนแล้วละ (แต่บอกไว้ด้วยความหวังดีนะ แม้จะทำงานบ้านได้ห่วยแตก แต่ยังขึ้นชื่อว่าได้ทำ ก็ยังโอเคกว่าไม่ทำเลยนะ)


Q : น้องสาวสามีชอบชวนสามีไปไหนต่อไหนด้วยจนแทบไม่เหลือเวลาส่วนตัว จะมีวิธีใดทำให้รู้สึกสบายใจและได้เวลาของสามีกลับมาเป็นของตัวเองบ้าง

A : ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบใจ แต่ก็ต้องรู้ไว้ว่าเลือดยังไงก็ย่อมข้นกว่าน้ำอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นพยายามทำใจไม่ไห้ปฏิปักษ์ต่อกัน คิดเสียว่าก็ยังดีกว่าโดนสาวอื่นมาจกตัวสามีคุณไม่ใช่หรือ เอาเป็นว่า ลองดูซิว่าน้องสาวสามีจะทำได้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้าทำเรื่อยๆ จนคุณทนไม่ไหว ก็แค่เปลี่ยนตัวเองให้กลมกลืนกับพวกเขาไปเสียเลย จงจำไว้ว่าความสำเร็จจากการเรียนรู้ที่จะอดทน รอคอย ปรับตัวและพยายามเข้าใจครอบครัวอีกฝ่าย จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ และได้ความสุขจากการรอคอยที่หอมหวานอย่างแน่นอน

1

Q : เขาเป็นครอบครัวคนไทย เรามาจากครอบครัวคนจีน ทำอย่างไรจึงจะปรับมาสู่ตรงกลางได้ หรือมีวิธีทำให้อีกฝ่ายยอมรับความต่างได้ไหม

A : เราเชื่อว่าในความต่างย่อมจะมีความเหมือนอยู่ในตัวเอง แค่ไม่ยึดติดกับ “ตัวกูของกู” โดยเริ่มจากเท่านี้คุณก็สามารถที่จะเข้ากับบุพการีของคนที่คุณรักได้แล้ว เพราะถ้าคุณอยากให้เขาเข้าใจคุณ พวกเขาก็อยากให้คุณเข้าใจเขาเหมือนกัน เท่านี้คุณก็สามารถที่จะเข้ากับบุพการีของคนที่คุณรักได้แล้ว


Q : เพื่อนขี้ยุ ญาติช่างเสี้ยม สามีดันเชื่อ ทำอย่างไรให้ฟังกันบ้าง

A : คุณจะต้องรู้ก่อนว่าที่อยากให้เขาฟังคุณเพราะอะไร หรือเพียงแค่อยากมีอำนาจเหนือกว่าคนที่คอยเสี้ยม ซึ่งถ้าคุณอยากให้เขาฟังด้วยความหวังดี คุณก็ต้องจับจุดให้ได้ก่อนว่าอะไรทำให้สามีของคุณหัวอ่อนและเชื่อคนเหล่านั้น และถ้าคุณเจอจุดที่ว่านั้นแล้ว ก็ให้หาข้อเท็จจริงพร้อมหลักฐานมาแสดงเพื่อให้เขาตระหนักถึงความจริงที่เขากำลังเชื่อผิด ๆ อยู่ และใช้คำพูดให้นุ่มนวล พูดอย่างใจเย็น มีเหตุผล และอย่าพึ่งคาดหวังว่าเขาต้องเชื่อคุณทั้งหมด แต่ถ้าคุณอยากให้เธอฟังเพียงเพราะแค่โชว์พาวน์ คุณก็ไม่ต่างอะไรกับตัวเสี้ยมเหล่านั้นหรอก


Q : อยากได้วิธีรับมือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของอีกฝ่าย เพราะก่อนแต่ง – หลังแต่ง บรรยากาศของครอบครัวอีกฝ่ายต่างกันราวฟ้ากับเหว

A : แม้ว่าความคิดเหล่านี้จะดูโลกสวยไปหน่อย แต่จงจำไว้ว่า มีชีวิตคู่เมื่อไหร่ ชีวิตเราก็ต้องเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เพราะในการเจอกันครั้งแรกทุกคนก็จะมองว่าคุณเป็นแขก จะทำอะไรก็จะต้องรักษามารยาทกันซักหน่อย แต่เมื่อใดที่คุณกลายมาเป็นทองแผ่นเดียวกับพวกเขาแล้ว ทุกคนก็จะปฏิบัติกับคุณเช่นเดียวกับคนในครอบครัว แต่ถึงกระนั้นก็ขอให้คุณเรียนรู้วัฒนธรรมบ้านเขาไปเรื่อยๆ อีกทั้งหากมีใครมาบ่นอะไรให้คุณฟัง ขอแนะนำว่าให้นิ่งเงียบรับฟังไว้จะปลอดภัยที่สุด เรียกง่าย ๆ ว่าดูเชิงไปก่อนไม่จำเป็นอย่าออกความเห็นเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นว่าคุณได้เลือกข้างไปแล้ว ทีนี้ละความซวยจะตกเป็นของคุณเอง

3


Q : การแยกครอบครัวออกมาอยู่กันเองสองคนสามีภรรยาคือทางออกที่ดีที่สุดหรือเปล่า

A : อย่าถามว่าอะไรดีที่สุด แต่จงเลือกว่าอะไรเหมาะสมที่สุด ซึ่งความเหมาะสมนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนว่าพร้อมที่จะอยู่ด้วยกันและฝ่าฟันอุปสรรคไปด้วยกันไหม โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “ต้องรักกันจริง” จึงจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ รวมถึงต้องมีความอดทนในการรอคอยและมองไปข้างหน้าในทางที่ดี คิดในแง่บวก และเจริญสติภาวนาไว้ตลอดเวลา พยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับธรรมชาติที่ย่อมมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ได้


Q : เคยแต่งงานมาก่อน กลัวว่าครอบครัวอีกฝ่ายจะตั้งแง่รังเกียจควรวางตัวอย่างไร

A : ยิ้มสู้เข้าไว้ อย่าได้หงุดหงิดหรือน้อยใจเด็ดขาด และพยายามทำให้อีกฝ่ายเห็นด้านดีของคุณให้ได้ แน่นอนความอดทนและเวลาเท่านั้นที่จะช่วยคุณได้ ทั้งนี้ถ้าจะให้เจาะลึกในรายละเอียด ก็ต้องดูว่าสถานการณ์ที่เจอเป็นอย่างไร เช่น ถ้าคุณเป็นฝ่ายเคยแต่งงานมาก่อน ก็นิ่งเฉยไว้เวลาโดนกระทบกระเทียบ อย่าไปตอบโต้ใด ๆ ทั้งสิ้น มั่นใจในเนื้อแท้ที่ดีของตัวเองว่าอดีตไม่เกี่ยวกับปัจจุบัน แต่หากคุณมีลูกติด ก็ควรเคลียร์กับลูกให้ชัดเจนก่อนว่าจะเลือกทางเดินชีวิตแบบไหน พร้อมแล้วจึงค่อยเดินเข้าบ้านอีกฝ่าย เพื่อเวลาโดนคำพูดจี้ใจดำ อย่างน้อยคุณก็มีคำตอบว่าทางคุณไร้ซึ่งปัญหาใด และที่สำคัญจะต้องห้ามแข็งกร้าวและไม่ตอบโต้ด้วยความรุนแรงเด็ดขาดนะจ๊ะ

ทั้งหมดนี้คือคำถามเด็ดๆ เกี่ยวกับแม่ผัว-ลูกสะใภ้ ที่เรารวบรวมมาฝาก หากใครที่มีปัญหาเหมือนกับที่เรานำมาแนะนำแล้วละก็ สามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตของคุณๆ กันได้นะจ๊ะ

>> ติดตามคำแนะนำดีๆ เกี่ยวกับความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพประกอบจาก : mommyish.com, huffingtonpost.com

ไอซ์ อภิษฎา กับลุคสุดโรแมนติกในแฟชั่นชุดแต่งงาน และเครื่องประดับเพชรสุดหรู

เห็นแต่ลุคแซ่บๆ ลองมาแอบส่องลุคหวานๆ ของ ไอซ์ อภิษฏา กับ แฟชั่นชุดแต่งงาน สวยๆ พร้อมเครื่องประดับเพชรเจ้าสาวแบบครบเซตกันบ้างดีกว่า

แต่ก่อนที่จะไปส่อง แฟชั่นชุดแต่งงาน ที่แมตช์กับเครื่องประดับเพชรมาให้แบบเข้ากัน แพรวเวดดิ้งมีเทคนิคการเลือกต่างหูพอกรุบกริบให้เจ้าสาวสวยมั่นมาฝาก นอกจากจะใช้ได้ในวันแต่งงานแล้ว เคล็ดลับนี้ยังใช้กับต่างหูแฟชั่นในชีวิตประจำวันได้ด้วยนะ

ต่างหูแบบหมุด เป็นต่างหูแบบฟรีสไตล์ที่สามารถใส่ได้กับทุกลุค แนะนำให้เลือกแบบเรียบโก้ดูดี แต่เจ้าสาวที่ใบหน้ากลมอาจต้องเลี่ยงต่างหูที่มีขนาดเล็กและทรงกลมทุกชนิดนะคะ

ต่างหูแบบห่วง สำหรับเจ้าสาวที่อยากได้ลุคเป็นทางการมากหน่อย อาจเลือกเป็นต่างหูแบบห่วงเล็กประดับเพชร แต่เจ้าสาวคนไหนที่อยากได้ลุคโดดเด่นแบบเต็มขั้นก็ต้องต่างหูแบบห่วงขนาดโอเวอร์ไซส์ที่รับรองว่าใหญ่แค่ไหนก็ไม่ขโมยซีนเจ้าสาวแน่นอน

ต่างหูแบบห้อยระย้า เจ้าสาวที่อยากได้ความเป็นทางการดูเป็นเจ้าสาวแบบสุดๆ ต่างหูแบบห้อยระย้าลงมานี่ล่ะตอบโจทย์ที่สุด แถมต่างหูสไตล์นี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเจ้าสาวทุกคนอีกด้วย เพราะเป็นสไตล์ต่างหูที่ใส่แล้วรอดทุกนาง เพียงแค่เลือกรูปทรงเพชรให้เหมาะกับรูปหน้าของตัวเองเท่านี้ก็สวยพร้อมอวดโฉมหน้าแบ็กดร็อปแล้ว โดยเฉพาะเจ้าสาวที่มีใบหน้าเหลี่ยม หากเลือกสวมต่างหูสไตล์นี้แล้วล่ะก็ รับรองว่าจะลบเหลี่ยมแล้วเหลือแต่ความสวยสุดโดดเด่นบนใบหน้าอย่างแน่นอน

แฟชั่นชุดแต่งงาน

แฟชั่นชุดแต่งงาน

แฟชั่นชุดแต่งงาน

แฟชั่นชุดแต่งงาน

เครื่องประดับ Vijittra’s Jewellery
โทร. 06-1614-5096
ไลน์ : @Vijittra
ชั้น 3 เซ็นทรัล ลาดพร้าว โทร. 0-2103-4008
ชั้น 1 ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โทร. 0-2958-0598
ชั้น 1 เจ.เจ.มอลล์ โทร. 0-2265-9618
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางกะปิ โทร. 0-2363-3044
ชั้น 1 เดอะมอลล์ บางแค โทร. 0-2454-9159
ชั้น 2 แฟชั่นไอส์แลนด์ โทร. 0-2116-4889

>> ดูแบบแหวนแต่งงานและเครื่องประดับร้าน  Vijittra’s Jewellery เพิ่มเติม คลิกเลย <<

10 สถานที่จัดงานแต่งงานไทย จะไทยแท้หรือไทยประยุกต์รับรองสวยทุกมุม

สถานที่คือสิ่งจำเป็นอันดับต้นๆ ที่ใครก็ตามที่จะแต่งงานต้องรีบจับจองไว้แต่เนิ่นๆ แต่ถ้าเป็นงานแต่งแบบไทยๆ ล่ะจะไปใช้ห้องจัดเลี้ยงแบบฝรั่งก็กระไรอยู่ วันนี้ แพรวเวดดิ้ง จึงได้สรรหา 10 สถานที่จัดงานแต่งงาน ที่เหมาะกับงานแต่งแบบไท้ไทย! มาให้คู่รักได้เลือก และที่สำคัญอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วยนะคะ จะดีงามแค่ไหนไปชมกันเลย

 

1. บ้านก้ามปู

สถานที่จัดงานแต่งแบบไทย

บ้านก้ามปูหรือบ้านก้ามปูทรอปิคอลแกลอรี่ เป็นสถานที่สำหรับจัดเลี้ยงสังสรร ที่เหมาะอย่างยิ่งในการจัดงานแต่งงานแบบไทยๆ เพราะภายในตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพรรณทำให้ดูร่มรื่นเหมาะอย่างยิ่งกับคู่รัก ที่ชอบธรรมชาติ นอกจากนี้ความกว้างขวางของสถานที่ยังสามารถรองรับแขกได้เยอะ แถมยังมีบ้านเรือนไทยบริการแล้วแบบนี้จพลาดได้ไง

ที่อยู่ : ซอยโยธินพัฒนา 3
โทร : 0-2946-6016, 0-2946-7223
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/bankampu/

2. บ้านคึกฤทธิ์ สถานที่จัดงานแต่งแบบไทย

เมื่อพูดถึงสถานที่จัดงานแต่งแบบไทยๆ หลายคนต้องนึกถึงเรือนไทยสวยๆ อย่างบ้านคึกฤทธิ์แน่นอน เพราะด้วยชื่อเสียงที่โด่งดังของเรือนไทยอายุกว่า 200 ปีซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอย่าง ถ. นราธิวาสฯ บวกกับราคาเช่าสถานที่ไม่ได้แพงจนเอื้อมไม่ถึงทำให้บ้านคึกฤทธิ์แห่งนี้โดดเด่นและถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ซึ่งนอกจากให้เช่าเพื่อจัดพิธีแต่งงานแล้วยังเปิดให้เข้าชมอีกด้วยนะคะ

ที่อยู่ : ถนนพระราม 4
โทร : 0-2286-8185

3. สยามเฮาส์ โคโลเนียล

สถานที่จัดงานแต่งแบบไทย

คู่รักที่ชอบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลพลาดไม่ได้กับบ้านสยามเฮ้าส์ โคโลเนียล ตัวบ้านเป็นสีเหลืองอ่อนตัดกับสีเขียวของหน้าต่างทำให้นึกถึงหนังรักโรแมนติกยุดเก่าๆ และเหมาะกับงานแต่งพิธีไทยอย่างแน่นอน อ่ะๆ เจ้าสาวคนสวยก็อย่าลืมเลือกชุดแต่งงานแบบแขนหมูแฮมนะคะ เพราะจะดูเข้ากันมากกับสไตล์โคโลเนียล สำหรับเพื่อนเจ้าบ่าว – สาวอย่าพลาดที่จะเลือกธีมชุดให้วินเทจนะคะ รับรองว่างานนี้ได้หลุดเข้าไปอีกยุคแน่นอน

  • ความจุแบบนั่งสูงสุด 200 คน
  • ความจุแบบยืนสูงสุด 300 คน

ที่อยู่ : ถนนพระสุเมรุ
โทร : 0-2282-0311, 08-1412-1745
เว็บไซต์ : http://siamhousegroup.bangkoksync.com/index.html

4. สยามสมาคม

สถานที่จัดงานแต่งแบบไทย

สยามสมาคมตั้งอยู่ถนนอโศกมนตรีใจกลางเมืองและการเดินทางสะดวก  จุดเด่นของที่นี่คือมีบ้านทรงไทยแบบล้านนาและสวนสวยที่เป็นลานกว้างสำหรับจัดงานกลางแจ้งนอกจากนี้ยังมีห้องสำหรับจัดเลี้ยงอีกด้วยนะคะเรียกได้ว่าเป็น 2 อารมณ์ใน 1 เดียวเลยเพราะเจ้าสาวสามารถเดินโชว์ตัวสวยๆ ในลานกว้างแล้วก็เดินสวยกลับไปยังศาลาทรงไทยก็เก๋ไม่น้อย แต่อย่าลืมเลือกชุดไทยสไบเฉียงนะคะ งานนี้สวยเริ่ดแน่นอนค่ะ

  • indoor 150 – 250 คน
  • outdoor 100 – 150 คน
  • จอดรถได้ 70 คัน

ที่อยู่ : ถนนสุขุมวิท
โทร : 0-2661-6470
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/TheSiamSocietyBanquetHall/

5. เรือนไทยรามอินทรา

สถานที่จัดงานแต่งแบบไทย

เรือนไทยสไตล์ล้านนาที่ยิ่งใหญ่อลังการมีห้องบริการทั้งหมด 8 ห้อง ใช้สำหรับจัดพิธีต่างๆ และยังมีลานกว้าง 1 ไร่ สำหรับจัดเลี้ยงต้อนรับแขกเหมาะอย่างยิ่งกับคู่รักที่ต้องการจัดงานแต่งพิธีไทยแท้แบบงานช้างและเชิญญาติพี่น้องเยอะๆ ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วยนะคะ อ่ะๆ ที่นี่มีบริการแพ็กเก็จงานแต่งงานพิธีไทยแบบครบวงจรด้วยนะคะ หากสนใจลองโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ค่ะ

ที่อยู่ : ซอยรามอินทรา 40 แยก 21
โทร : 08-0388-8434
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/rueanthairaminthra/

6. Bussaracum Royal Thai Cuisine

สถานที่จัดงานแต่งแบบไทย

ร้านอาหารไทยบุษราคัมตกแต่งร้านให้มีกลิ่นอายของบรรยากาศไทยๆ และตะวันตกไว้ด้วยกัน ทั้งยังร่มรื่นด้วยต้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ที่เก๋ไก๋ นอกจากเป็นร้านอาหารแล้วยังเปิดให้จัดพิธีแต่งงานอีกด้วยนะคะ แต่เดี๋ยวก่อน! คู่บ่าวสาวควรเลือกชุดแต่งงานแบบสมัย ร.5 จะยิ่งทำให้งานแต่งดูชิคขึ้นมาทันทีค่ะ

ที่อยู่ : ถนนศรีเวียง แยกจากซอยประมวญ
โทร :  0-2630-2216
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/Bussaracum007/

7. สตูดิโอฮาวายไทย

ภาพจาก : www.patipatphotography.com/portfolio/wedding/yok-bom-wedding

ใครจะไปรู้ว่าโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่นี้จะสามารถใช้เป็นสถานที่จัดพิธีแต่งงานได้ แต่ด้วยสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่นี้จึงทำให้ดูไม่อึดอัดและมีลานกว้างสำหรับจัดพิธีกลางแจ้ง จุดเด่นของสตูดิโอฮาวายไทยคือมีโดมสีขาวอยู่ตรงกลางที่เชื่อมตัวอาคาร สถานที่อาจจะออกแนวยุโรปแต่รับรองค่ะว่าจัดงานพิธีแบบไทยๆ ได้เช่นกันนะเธอ

ที่อยู่ : ถนนเพชรพระราม
โทร : 08-1933-7046
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/hawaiithai/

8. Mellow Garden Wine & Dine Restaurant

ภาพจาก FB : Mellow Garden Wine&Dine Restaurant

ร้านอาหารสไตล์สวนสวยแห่งนี้มีพื้นที่เหมาะสำหรับจัดงานแต่งเป็นอย่างมาก เพราะมีโซนสวนหย่อมที่ให้ความร่มรื่นด้วยต้นจามจุรีใหญ่  อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากันกับพื้นหญ้าเขียวขจีคู่บ่าวสาวที่ชอบการแต่งงานในสวนห้ามพลาดเด็ดขาด อ่ะๆ บ่าวเจ้าสาวอย่าลืมเลือกชุดแต่งงานให้ดูวินเทจนิดๆ หรือจะเป็นชุดไทยก็จะเก๋ไม่น้อย

  • รองรับแขกได้ 500 คน

ที่อยู่ : ตั้งอยู่บนถนนเกษตร-นวมินทร์
โทร : 08-8227-3966
เฟซบุ๊ก : https://www.facebook.com/MellowGardenWineDineRestaurant/

9. สวนหลวง ร.9

ภาพจาก : www.sukhumvitlife.com

อ่านไม่ผิดแน่นอนค่ะ หลายคนคงสงสัยว่าสวนหลวง ร.9 จัดงานแต่งงานได้ด้วยหรอคำตอบก็คือจัดได้ค่ะ เพราะขนาด ม.ร.ว. ศรีคำรุ้ง ยุคล ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของ หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ก็เคยจัดงานแต่งที่นี่มาแล้วนะคุณ! ไม่ธรรมดาใช่ไหมล่ะเค้า เปิดให้เช่าสถานที่เพื่อจัดงานแต่งงานรวมถึงจัดเลี้ยงด้วยนะคะ แต่อาจจะมีค่าประกันเพื่อป้องกันของเสียหายเล็กน้อย คู่รักคู่ใดที่อยากได้สถานที่จัดเลี้ยงแบบกลางแจ้งเน้นความสวยงามจากสวนใหญ่ใจกลางกรุงพลาดไม่ได้ค่ะ แต่อย่าลืมดูเรื่องฝนฟ้าอากาศด้วยนะคะ

  • ราคาเริ่มต้น 27,000 บาท

ที่อยู่ : สวนหลวง ร.9 ถนนศรีนครินทร์
โทร : 0-2328-1385, 0-2328-1386

10. เรือนเจ้าสาว (เตาปูน)

ภาพจาก : www.ruenjoawsao.com

เรือนไทยอีกหนึ่งหลังที่ไม่ไกลจากตัวเมืองนั่นก็คือเรือนเจ้าสาว (เตาปูน) เปิดให้บริการด้วยการจัดแพ็จเก็จงานแต่งงานพิธีไทยไว้ให้บริการอย่างครบวงจรจึงทำ ถูกพูดถึงและมีคู่บ่าวสาวใช้บริการเป็นอย่างมากด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ทั้งนี้เรือนเจ้าสาว มีหลายแพ็จเก็จไว้บริการคู่รักใดที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลก่อนได้ค่ะ

ที่อยู่ : ซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 19 ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี
โทร : 0-2585-2886, 08-3999-7550, 08-6324-0715
เว็บไซต์ : http://Www.ruenjoawsao.com

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับข้อมูลที่ได้หามาให้ แพรว wedding ก็หวังว่าข้อมูลที่ได้หามาให้คู่บ่าวสาวจะเป็นประโยชน์และนำไปใช้ในการตัดสินใจได้นะคะ ทั้งนี้ยังมีอีกหลายสถานที่เปิดให้เช่าสถานที่เพื่อจัดงานแต่งงาน ยังไงก็ขอแสดงความยินดีกับคู่รักที่กำลังมีแพลนว่าจะแต่งงานกันในเร็วๆ นี้ด้วยนะคะ >> ดูสถานที่จัดงานแต่งงาน และสถานที่ฮันนีมูนเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ขอบคุณภาพจาก Facebook : BankampuWeddings, Mellow Garden Wine&Dine Restaurant, www.siamhousegroup.com, www.ruenjoawsao.com, www.sukhumvitlife.com, www.patipatphotography.comwww.lemonade.tvwww.rueanthai-raminthra.co.th

4 อาการพร้อมวิธีเตรียมพร้อมรับมือกับอาการเจ้าสาว Bridezilla

ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายคุณมีอาการแบบนี้หรือเปล่า ??? อาการวิตกกังวล สติแตก กดดันกังวลสารพัด  ถ้าเกิดคุณเริ่มมีอาการแบบที่กล่าวมาล่ะก็ แสดงว่าคุณเสี่ยงต่อการเป็น เจ้าสาว Bridezilla  แล้วล่ะค่ะ  อาการนี้ถึงแม้จะไม่น่ารักสักเท่าใหร่ แต่ถ้าเรารู้จักรับมือกับมันอย่างดี ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายก็จะไม่เป็น Godzilla บ้าพลังสำหรับคนรอบข้าง หรือแม้แต่ว่าที่เจ้าบ่าวของตนเองหรอกนะคะ

1. เตรียมทุกอย่างไว้ให้พร้อม

แน่นอนว่าหากไม่เคยผ่านงานวิวาห์มาก่อน อาการนี้จะต้องเกิดกับคุณแน่ๆ แต่ถ้ามีการวางแผนเรียงลำดับสิ่งที่ต้องทำให้ดี วิธีนี้สามารถคลายกังวลให้คุณได้ไม่น้อย หากจำเป็นต้องมอบหมายให้ใครดูแลคุณควรที่จะบอกสิ่งที่คุณต้องการอย่างตรงไปตรงมาครบถ้วนทุกประเด็น  และสิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องเชื่อมั่นในตัวของคุณเองและผู้ที่คุณมอบหมายด้วยนะคะ

2. หลีกหนีจากความเครียด

แน่นอนว่าคุณว่าที่เจ้าสาวที่มีเวลาว่างมากๆ สิ่งที่ตามคือความเครียด ดังนั้นคุณควรเอาเวลาไปผ่อนคลายด้วยเข้าสปา เติมความสวยให้ตัวเอง  และสำหรับคุณว่าที่เจ้าบ่าวทั้งหลายที่เป็นผู้รองรับความเครียดของเธอนั้น ควรทำใจให้กว้าง ไม่เถียงเธอ  มิฉะนั้นอาจทำให้ความเครียดของเธอยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นก็ได้

3. คิดบวกอยู่เสมอ

เพื่อไม่ให้เกิดความกังวลมากเกินไปขอให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายระลึกไว้เสมอว่าแขกที่มางานเขามาเพื่อร่วมยินดีและอวยพร ไม่มีใครมางานเพื่อคอยจับผิดหรือตำหนิ  วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีนึงที่จะทำให้คุณคลายกังวลได้

4. ปล่อยวางให้จิตนิ่ง

เมื่อวันงานมาถึงหน้าที่ของคุณคือเป็นเจ้าสาวที่มีความสุขที่สุด  ดังนั้นคุณควรปล่อยวางทุกอย่าง อะไรจะเกิดปล่อยมันไป  ปล่อยให้ความทุกข์และปัญหาทุกอย่างไว้กับผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นแม่งานได้จัดการ คิดบวกไว้เสมอจะทำให้ทุกอย่างออกมาดีสมกับเป็นวันพิเศษที่คุณตั้งตารอ

สำหรับเพื่อนๆ หรือคนรอบตัวเจ้าสาว อย่าลืมทำตัวเป็นนักจิตวิทยาด้วยนะคะ เพราะหากคุณเป็นผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับไบรด์ซิลล่าแบบเต็มๆ คุณควรเข้าใจในสภาวะอารมณ์ที่แปรปรวนนั้น คอยเป็นผู้รับฟังเพื่อให้เธอรู้สึกคลายกังวล  เรียกได้ว่าต้องสวมบทเป็นนักจิตวิทยาเลยก็ว่าได้

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : stereotypeoftheday.blogspot.com

อัพเกรดงานแต่งงานด้วยไอเดียดอกไม้ในงานแต่ง ที่ไม่ต้องเยอะก็สวยได้

ไอเดียดอกไม้ในงานแต่ง So Cute

แต่งงานครั้งเดียวในชีวิตว่าที่บ่าวสาวก็ล้วนอยากให้งานแต่งงานของตัวเองออกมาดูดี ไม่เชย และที่สำคัญไม่อยากซ้ำใคร ซึ่งนอกจากธีมงาน สีสันในการแต่ง และการตกแต่งแล้ว ไอเดียดอกไม้ในงานแต่ง ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะช่วยให้งานแต่งงานของบ่าวสาวโดดเด่นได้ แพรว wedding เลยนำไอเดียดอกไม้เจ๋งๆ ที่ไม่ต้องถมให้เต็มทั้งงาน แต่ก็ช่วยให้งานแต่งงานออกมาดูดีได้

ดอกไม้ห้อยระย้าลงมาจากด้านบน

ไอเดียดอกไม้ในงานแต่ง

ก่อนอื่นต้องสำรวจดูก่อนว่าสถานที่แต่งงานที่บ่าวสาวเลือกมานั้นสามารถห้อยดอกไม้ลงมาจากด้านบนได้หรือไม่ ถ้าได้ก็จัดไปโลด รับรองว่าเก๋กว่าการให้ดอกไม้อยู่แค่บนโต๊ะอาหารหรือบนพื้นเท่านั้น โดยอาจจะห้อยไว้เหนือทางเดินเข้างาน บนเวที หรือเหนือโต๊ะอาหารของแขกก็ได้ ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่สามารถดึงดูดความสนใจของแขกที่มาร่วมงานให้เข้าสู่บรรยากาศงานแต่งงานของบ่าวสาวได้เป็นอย่างดี และยังสามารถใช้เป็นลูกเล่นในการเพิ่มความสวยงามให้กับโครงสร้างสถานที่ และแสงไฟภายในงานได้อีกด้วย นอกจากนี้การประดับดอกไม้ไว้ด้านบนยังช่วยทำให้งานแต่งของบ่าวสาวดูนุ่มนวลขึ้น และยังช่วยทำให้สถานที่แต่งงานขนาดเล็กดูใหญ่ขึ้นได้อีกด้วย

ดอกไม้ในค็อกเทล

ไอเดียดอกไม้ในงานแต่ง

เพิ่มความสดชื่นสดใสให้กับเมนูเครื่องดื่มด้วยดอกไม้ดอกเล็กๆ น่ารักๆ ซึ่งดอกไม้ชนิดนั้นไม่จำเป็นต้องรับประทานได้ก็ได้ (แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มียางหรือสารพิษใดๆ นะคะ) เพราะเราเพียงแค่ต้องการให้เมนูนั้นดูมีสีสันน่าดื่มมากขึ้น แถมเมื่อวางเรียงรายกันอยู่บนโต๊ะหรือบนถาด ก็ยังเป็นเหมือน decoration ชั้นดีให้กับบรรยากาศในงานแต่งงานของบ่าวสาวได้ด้วย โดยบ่าวสาวอาจจะเลือกสีดอกไม้ให้ให้เป็นเฉดสีเดียวกับเครื่องดื่ม หรือจะเลือกดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมเพื่อช่วยเพิ่มอรรถรสขณะดื่มก็ได้เช่นกัน

ช่อดอกไม้สไตล์มินิมอล

ไอเดียดอกไม้ในงานแต่ง

ช่อดอกไม้ช่อตู้มๆ ที่บังชุดเจ้าสาวเกือบมิดอาจจะเอ้าท์ไปแล้ว เพราะช่อดอกไม้เล็กๆ เรียบๆ สไตล์มินิมอลกำลังได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาว โดยเน้นไปที่ดอกไม้ดอกเล็กๆ เพียงไม่กี่ดอกแล้วนำมาเข้าช่อกับใบไม้ดีไซน์สวยได้อารมณ์ประมาณว่า “น้อยแต่มาก” แต่กลับส่งลุคของเจ้าสาวให้ดูสวยงามและโดดเด่นในช่อไม้เรียบๆ นี้ได้ แถมยังไม่บังดีเทลของชุดแต่งงานเจ้าสาวด้วย

ติดตามไอเดียดีๆ เกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ unsplash.com, pinterest

15 เทคนิคพิชิต รักทางไกล ถึงตัวจะไกลแต่ใจยังใกล้กันเสมอ

หลายๆ คู่ไม่ว่าจะเป็นคู่รักหรือคู่สามีภรรยาที่มี รักทางไกล ต้องอยู่ไกลกันทั้งคนละจังหวัดหรือคนละประเทศ มักมีปัญหาให้หวั่นไหวในความรัก จนต้องยอมแพ้เลิกลากันไป เราในฐานะแพรวเวดดิ้งจึงยอมไม่ได้ ขอมอบ 15 เทคนิค ที่แม้ตัวจะห่างแต่ใจเราจะใกล้กันเสมอ

1. เชื่อใจ ความเชื่อใจคือสิ่งสำคัญเสมอ โดยเฉพาะกับรักทางไกล ทางที่ดีคือ เลิกเป็นคนขี้มโน ถ้าเห็นอะไรที่ตะขิดตะขวงใจ สิ่งที่ควรทำคือถามและพูดคุย

2. ทำตัวให้น่าไว้วางใจ เมื่อได้รับความเชื่อใจจากคนรักแล้ว ก็จงทำตัวให้สมกับความเชื่อใจที่ได้รับด้วย อย่าขยันทำให้อีกฝ่ายคิดระแวงไปไกล อาจต้องลดความขี้เล่นลงหน่อยสำหรับคนที่มีความเฟนรด์ลี่สูง

3. วางแผนสำหรับอนาคต ถึงแม้จะอยู่ไกลกันในตอนนี้ แต่หากวางแผนสำหรับอนาคตที่จะกลับมาอยู่ด้วยกัน ก็ทำให้หัวใจของทั้งคู่ไม่แห้งเหี่ยว

4. ไม่ขาดการติดต่อ เดี๋ยวนี้การติดต่อทำได้ง่ายๆ แถมทำให้เห็นหน้ากันก็ยังได้ เพราะฉะนั้นหมั่นคุยกัน เฟสไทม์หากันตลอดๆ นะ

5. ใส่ใจ ก็แค่ระยะทางที่ห่างกัน ไม่ได้ทำให้ความใส่ใจลดน้อยลง เรายังสามารถดูแลและเป็นห่วง รวมไปถึงเซอร์ไพรส์กันได้เหมือนคู่รักปกติรักทางไกล

6. อย่าท้อ ถึงรักทางไกลจะทำให้ใจท้อแค่ไหนก็อย่าหวั่นไหว อย่าเพิ่งหดหู่และสิ้นหวัง เพราะความรู้สึกเหล่านี้อาจทำให้ความรักจางหายได้ ให้คิดถึงวันข้างหน้าที่เราจะได้อยู่ด้วยกันเข้าไว้ แล้วจะช่วยเยียวยาจิตใจได้

7. หากิจกรรมทำ ลองออกไปทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เคยทำ หรือขุดงานอดิเรกที่เคยชอบมาทำใหม่ ก็จะช่วยลดความเหงา ความฟุ้งซ่านลงไปได้

8. ยอมรับในความเหงา อาจจะมีบางคืนที่ต้องนอนร้องไห้ หรือบางวันที่รู้สึกว่าฟ้าหม่น ให้เข้าใจว่านั่นคือความเหงา แต่อย่าจมจ่อมไปกับมัน แล้วเราจะผ่านไปได้

9. บอกรักกันบ่อยๆ อย่างที่บอก ถึงตัวจะห่างแต่ใจยังใกล้กัน หมั่นบอกรักให้หัวใจชุ่มฉ่ำอยู่เสมอ อย่ามัวแต่เขินอาย หรือคิดว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด เพราะยังไงคนที่รอคำนี้ ถึงจะรู้ว่ารักแต่ก็ยังอยากได้ยินอยู่ดี

10. อยู่เคียงข้างกัน การเป็นกำลังใจของกันและกัน รับรู้แบ่งปันทุกข์และสุข จะทำให้ใจเขยิบเข้ามาใกล้กัน ไม่ห่างเหมือนตัวที่อยู่กันคนละที่รักทางไกล

11. ออกไปสนุก แม้จะอยู่ไกลกัน แต่ก็ไม่ได้แปลว่าต้องนั่งเหงาหงอยอยู่คนเดียว ออกไปเที่ยว ไปสนุก ไปแฮงค์เอาท์กับเพื่อนๆ ก็ได้ แต่แน่นอนว่าต้องบอกให้อีกคนรู้ด้วยนะ อย่าปล่อยให้เขาต้องมีคำถามในใจเด็ดขาด

12. อย่าสงสัยในปริมาณความรัก อย่าแม้แต่จะเริ่มเอะใจว่าความรักที่ได้รับกำลังลดน้อยลงหรือเปล่า เพราะความรักแบบนี้ต่อให้อยู่ใกล้กัน ก็ทำให้ความรักเดินไปสู่จุดสิ้นสุดได้นะ

13. คิดถึงวันแรก หากกำลังเจ็บ หรือท้อใจกับรักทางไกล ก็จงนึกถึงวันแรกที่เริ่มต้นรักทางไกลว่าทำไมวันนั้นถึงยอม เพราะรักมากหรือเปล่า นั่นล่ะ คือคีย์เวิร์ดที่จะทำให้มีกำลังใจสู้ต่อไปกับรักทางไกลนี้

14. หาเวลาให้กัน เมื่อเป็นรักทางไกล ก็ต้องหมั่นหาเวลาให้แก่กัน เดินทางไปหากันบ้าง ก็จะช่วยบรรเทาความคิดถึงลงได้นิดนึง ระหว่างนั้นก็คิดถึงวันที่จะได้เจอกันก็ทำให้ใจกระชุ่มกระชวยแล้ว

15. ชดเชยให้แก่กัน รักทางไกลเมื่อได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ก็จงชดเชยให้แก่กันอย่างเต็มที่ อย่าเสียเวลาไปกับอะไรที่จะทำให้ใจหม่นหมองอีกเลย แล้วจงใช้เวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อเก็บเป็นกำลังใจยามต้องห่างกันอีกครั้ง

15 เทคนิคนี้ ถ้าใครทำตามรับรองว่า ถึงตัวจะห่างแต่ใจไม่ห่างตามแน่นอน และทำให้ความคิดถึงไม่ต้องทำงานหนักจนเกินกำลังจะรับไหว ส่วนใครที่ยังมีปัญหารักแบบอื่นๆ เรามีคำตอบอีกสารพัดปัญหาความรัก >> มาตามอ่านได้เลย คลิกเลย! <<

ภาพ unsplash.com

เพื่อนเจ้าสาว ตำแหน่งนี้ควรทำอะไรให้เจ้าสาวบ้าง เรียนรู้กันแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่พลาด

เพื่อนเจ้าสาว ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นกันได้ ใครได้ครอบครองตำแหน่งนี้แสดงว่า ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าสาวพอสมควร เพราะฉะนั้น เราก็ควรทำหน้าที่ของเราให้ดีให้สมกับที่เจ้าสาวเขาเลือกเรานะ ซึ่งสิ่งที่ เพื่อนเจ้าสาว ควรทำเพื่อเจ้าสาวของเรา มีดังนี้

1. จัดระบบกลุ่มเพื่อนเจ้าสาว

เมื่อคุณรู้แล้วว่าใครเป็นเพื่อนเจ้าสาวทั้งหมด ให้สร้างไลน์กลุ่มขึ้นมา เอาไว้คุยกันเรื่องงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ค้นหาสิ่งที่ต้องทำและเริ่มแบ่งปันความคิดซึ่งกันและกัน นอกจากนี้คุณยังสามารถตั้งค่า โน้ตต่างๆ เอาไว้ใช้ร่วมกันกับเพื่อนเจ้าสาวคนอื่นๆ ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงได้

2. เข้าไปมีส่วนร่วม

เจ้าสาวมักจะยุ่งอย่างเหลือเชื่อ คุณควรช่วยเหลือเธอในสิ่งที่คุณสามารถทำได้ อย่ารอให้เธอขอให้คุณทำอะไร

เพื่อนเจ้าสาว

3. ยอมรับในค่าใช้จ่าย

คุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างๆ ของการเตรียมตัวที่จะเป็นเพื่อนเจ้าสาว ยอมรับ และเริ่มเก็บออมซะเถอะ

4. บอกความจริง (กรณีที่เจ้าสาวถาม)

เวลาเจ้าสาวมาขอคำปรึกษาต่างๆ กับคุณ อย่างเช่น เรื่องชุด เรื่องการแต่งหน้าทำผม คุณควรตอบและแนะนำด้วยความจริงใจ เพื่อให้เธอดูดีที่สุด แต่ว่าโปรดระวังคำพูดสักหน่อย ควรเลือกใช้คำพูดที่ละมุน และถนอมน้ำใจเจ้าสาวที่สุด

5. อย่าทำตัวเป็นปัญหา

เมื่อเวลาเจ้าสาวร้องขอให้คุณทำอะไรให้ ควรทำอย่างเต็มที่ อย่าทำตัวให้เป็นปัญหารบกวนใจเจ้าสาว

6. ไม่ขี้บ่น

อย่าบ่นเรื่องเงินที่คุณต้องจ่าย หรือความพยายามที่คุณต้องใช้ หรือเรื่องอื่นๆ ให้เจ้าสาวฟัง

7. มีความสนุก แต่ไม่สนุกมากจนเกินไป

ในวันงาน ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เต็มที่ ตามที่ได้ตกลงกันไว้ว่าเพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนต้องทำอะไรบ้าง และสนุกสนานไปกับงานแต่งงาน แต่อย่าสนุกมากจนไม่มีสติ เพราะคุณต้องช่วยเพื่อนสาวของคุณดูแลความเรียบร้อยในงานด้วย

เพื่อนเจ้าสาว

7 ข้อง่ายๆ แค่นี้ คำว่าเพื่อนเจ้าสาวที่ดี อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ

ต้นกำเนิดของเพื่อนเจ้าบ่าว และเพื่อนเจ้าสาวนั้น

เมื่อสมัยอารยธรรมโรมโบราณ เพื่อนเจ้าสาวในสมัยนั้น จะแต่งตัวด้วยชุดแบบเดียวกัน กล่าวคือ คนในยุคนั้นค่อนข้างมีความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติอยู่พอสมควร โดยในพิธีแต่งงานแต่ละครั้ง จะต้องมีเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาว มาทำหน้าที่ป้องกันเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจากวิญญาณร้ายที่อาจจะมาทำร้ายหรือลักพาตัวพวกเขาไป 

เรียบเรียงจาก weddingchicks / เครดิตภาพ : pinterest

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติม คลิกเลย <<