รับได้ไหมเมื่อสามีเป็นเกย์ แล้วภรรยาอย่างเราควรอยู่ต่อหรือโบกมือลา

ถ้าคุณต้องเลือกระหว่างการประกาศตัวอย่างชัดเจนจากสามีสุดที่รักของคุณว่า “ผมเป็นเกย์” กับการค้นพบด้วยตัวคุณเองว่า “ สามีเป็นเกย์ ” คุณจะเลือกแบบไหน

แน่นอนว่าก่อนที่คุณจะตั้งสติได้คงต้องผ่านกระบวนการคิดและความรู้สึกสุดสับสนมากมาย จากนั้นอาจตามมาด้วยความโกรธแถมพ่วงความแค้นลงไปอีก ซึ่งความจริงในใจของเกย์หลายคนนั้นก็กลัวคนรอบข้างจะรู้ความจริง ทั้งที่ใจนั้นอยากจะเปิดปากบอกทุกคนออกไป จึงเป็นหน้าที่ของคุณที่จะสืบให้แน่ใจตั้งแต่ก่อนตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์กับเขาว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นเกย์หรือไม่

สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งก่อนที่จะโกรธแค้นคือ พูดคุยกับเขาให้ชัดเจนว่า เขารู้ตัวมาก่อนหรือไม่ว่าเป็นเกย์ก่อนที่จะตัดสินใจแค้นเขาแบบฝังลึก แต่กับบางคนแม้จะสืบจนแน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริงก็ยังคงไม่ยอมรับ กลับโทษตัวเองว่าที่ผ่านมาทำตัวไม่ดี ไม่ดูแลจนเขาต้องเปลี่ยนไปจึงพยายามต่อรองเพื่อให้เขากลับไปเป็นเหมือนเดิมให้ได้ โดยลืมไปว่าการเป็นเกย์ไม่ใช่โรคติดต่อที่จะพาไปพบแพทย์เพื่อเยียวยารักษาได้

ดังนั้น เมื่อไม่สำเร็จ คุณก็จะตกอยู่ในห้วงความเศร้าเป็นปีๆ แม้เขาจะพยายามอธิบายด้วยความรู้สึกผิดมากเพียงใดก็ไม่สามารถทำให้คุณเปลี่ยนความรู้สึกเศร้าในใจได้

ลองมาดูมีคำแนะนำจาก แพทย์หญิงสุกฤตา พิบูลภาณุวัธน  แพทย์จิตเวชศาสตร์ คลีนิคกู้ใจ โรงพยาบาลตากสิน กันสักนิด ก่อนจะตัดสินใจอยู่หรือไปกับคนข้างกาย

เรียนรู้ตัวเอง : ทั้งคุณและเขาควรที่จะค่อยๆ เรียนรู้อารมณ์ ความคิด และความรู้สึก  จงตั้งสติโดยใช้เหตุผลคิดไตร่ตรองปัญหาที่เกิดขึ้น  เพื่อรวบรวมเหตุผลที่จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าจะเลิกหรืออยู่ต่อ

คุยหาข้อสรุป : คุณและเขาควรหันหน้าเข้าหากันเพื่อเปิดใจรับรู้ถึงความรู้สึกและความต้องการที่แท้จริงของกันและกัน เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นไปได้และรับได้ของทั้งสองฝ่ายในการดำเนินชีวิตบนความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่คุณมีลูกด้วยกันแล้ว การพูดคุยนั้นควรหาข้อสรุปเผื่อลูกของคุณด้วย

อยู่กับปัจจุบัน : พยายามเตือนตัวเองให้อยู่กับปัจจุบันให้ได้มากที่สุด จงยอมรับว่า สิ่งนั้นได้เกิดขึ้นและมีข้อสรุปที่ตกลงกันแล้ว คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ อย่ามองกลับหลังคิดแต่สิ่งที่เป็นอดีต เพราะไม่ว่าจะทำให้คุณรู้สึกแย่ลง ขอให้พยายามยอมรับและมุ่งหน้าที่จะก้าวเดินต่อไป

เยียวยาด้วยตนเอง : นึกถึงความภูมิใจที่ตัวเองมีอยู่ และเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเองอีกครั้งเพราะแม้คุณจะสูญเสียครอบครัวในฝันไป แต่คุณยังมีหน้าที่การงานและเพื่อนที่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณมีลูกที่น่ารักและครอบครัวของคุณเองที่มีทั้งพ่อแม่และญาติพี่น้องผู้พร้อมจะมอบความรักให้คุณเสมอ

หาตัวช่วย : อย่าจมอยู่กับตัวเองควรออกไปพบเจอและร่วมกิจกรรมกับเพื่อนพูดคุยกับคนไว้ใจหรือปรึกษาหมอเพื่อระบายความทุกข์ของตนเองออกไป บางคนใช้หลักศาสนาเข้าช่วยโดยฝึกนั่งสมาธิเพื่อหาความสงบให้จิตใจ

สุดท้ายนี้ เราขอบอกว่า แม้จะรู้สึกโกรธสามีมากเพียงใด ก็อย่านำความโกรธนั้นถ่ายทอดมาสู่ลูก ขอให้คิดเสมอว่าความเป็นสามีนั้นเลิกได้แต่ความเป็นพ่อของลูกนั้นเลิกไม่ได้ จงปล่อยให้ลูกได้สังเกตและเรียนรู้ด้วยตนเองไปก่อน เมื่อถึงวันที่ต้องอธิบายในสิ่งที่เกิดขึ้นขอให้คุณเช็คความคิดความเข้าใจของเขาแล้วจึงอธิบายตามสถานการณ์ที่ควรดำเนินไป

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย <<

5 ชุดเจ้าบ่าว แตกต่างแบบมาดแมนแฮนด์ซั่มหล่อไม่ซ้ำใคร

ภาพเจ้าบ่าวที่เราคุ้นตาคือชายหนุ่มใน ชุดเจ้าบ่าว สีดำสไตล์คลาสสิค ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่ดูดีไม่มีตกยุค แต่ตอนนี้เทรนด์ยูนีคที่ต้องการความแตกต่างไม่ซ้ำใคร และการแสดงออกถึงตัวตนและบุคลิกกำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ และก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีของคุณเจ้าบ่าว ไม่ว่าจะเป็น เฉดสีสดใสแต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นทางการ แต่ก็เป็นตัวตนของเจ้าบ่าวได้ในเวลาเดียวกัน เช่น เฉดสีเบอร์กันดีหรือเฉดสีน้ำเงิน เป็นต้น แพรว wedding เลยนำ 5 สีชุดเจ้าบ่าวสุดชิคที่เป็นเฉดสีมาแรง แบบว่า..ไม่ใส่ไม่ได้นะ!!

ชุดเจ้าบ่าว

สีเบอร์กันดี

เป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่ได้รับความนิยมจากหนุ่มๆ ไม่แพ้กับชุดสูทสีดำ เพราะเป็นเฉดสีที่ใส่แล้วดูดีไม่มีตกยุค แถมยังช่วยเพิ่มลุคผู้ชายอบอุ่นและแสนจะโรแมนติกให้กับสไตล์ของเจ้าบ่าวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นงานที่ทางการหรือไม่ทางการก็สามารถใส่ได้แบบผู้ใหญ่ไม่ติ

สีเขียวกลิ่นพาสเทล

สำหรับคุณเจ้าบ่าวที่อยากได้ลุคแบบวินเทจนิดๆ เฉดสีเขียวอมพาสเทล นี่แหละที่ตอบโจทย์ที่สุด และอย่าลืมแมตช์ด้วยรองเท้าหนังสีน้ำตาล เท่านี้ก็ได้ลุคแคชชวลแบบไม่เชยแล้ว

สีน้ำเงิน (Chambray Blue)

Chambray เป็นชื่อเรียกของผ้าชนิดหนึ่งที่มีสีและรูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับผ้าเดนิม และเป็นอีกหนึ่งสไตล์และเฉดสีที่เราไม่อยากให้ว่าที่เจ้าบ่าวต้องพลาด และเหมาะมากหากเจ้าบ่าวจัดงานแต่งงานริมทะเลหรืองานแต่งแบบเอ้าท์ดอร์ เพราะเฉดสีน้ำเงินยีนส์อ่อนๆ นี้จะช่วยให้ลุคของเจ้าบ่าวดูขี้เล่น สนุกสนาน และความเพอร์เฟกต์แบบเจ้าบ่าวสุดเนี้ยบในเวลาเดียวกัน

เล่นสีแบบทู-โทน

ชุดสูทสีขาว ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในหมู่เจ้าบ่าวเท่าไหร่นัก แถมยังมีความคล้ายคลึงกับเจ้าสาวเข้าไปอีก แต่ถ้าเจ้าบ่าวอยากได้ลุคเรียบหรูแบบคุณชายในสูทสีขาว เราขอแนะนำให้เบรกความไม่นิยมและเพื่อไม่ให้ดูกลืนไปกับเจ้าสาวด้วย การเพิ่มแจ็กเก็ตสูทผ้าสักหลาดเข้าไป เท่านี้ว่าที่เจ้าบ่าวก็ยังได้ลุคคุณชายแต่ไม่กลืนไปกับชุดเจ้าสาวแล้ว

ลายตารางสีน้ำเงิน

หากคุณมีความฮิปสเตอร์อยู่ในตัว ก็ไม่ต้องเขินอายหากจะใส่ชุดเจ้าบ่าวสไตล์นี้ และยังดูเข้ากันได้ดีหากคุณจัดงานแต่งในธีมฮิปสเตอร์เหมือนกัน และอาจจะเพิ่มบูโทเนียร์ด้วยดอกไม้สีสันสดใสเพื่อช่วยให้ลุคนี้ของเจ้าบ่าวโดดเด่นมากขึ้น

Read More หล่อปังทรงพลังทั้งแก๊ง กับเทคนิคการเลือกชุดเจ้าบ่าวและผองเพื่อน

CR. polkadotbride.com, stylemepretty.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

8 อาหารเผาผลาญไขมัน อย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะทำให้คุณสวยสุขภาพดี

อาหารเผาผลาญไขมัน สารอาหารจากธรรมชาติที่จะช่วยให้คุณสวยจากภายในโดดเด่นสะกดทุกสายตา

หากคุณต้องการรีบูทระบบเผาผลาญร่างกาย การควบคุมอาหารอย่างถูกหลักอนามัยเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยไปกว่าการออกกำลังกายเลยทีเดียว ซึ่งการควบคุมอาหารเป็นการดูแลร่างกายจากภายใน ด้วยการเลือกรับประทาน อาหารเผาผลาญไขมัน ที่จะทำให้ไทรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการดีท็อกซ์ร่างกายอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

การเลือกรับประทานอาหารจำพวกโปรตีนดีและไขมันดี มีส่วนในการทำให้มวลกล้ามเนื้อและร่างกายเรียวกระชับ อาการอยากอาหารลดลง และช่วยให้น้ำหนักตัวลดลงตาม จึงเป็นกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ได้ดีที่สุด อีกทั้งร่างกายยังนำสารอาหารที่ได้รับไปใช้ซ่อมแซมและบำรุงส่วนต่างๆ ในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน

สิ่งที่สำคัญคือ ควรมีวัตถุดิบสำหรับการปรุงอาหารที่ถูกหลักอนามัยและดีต่อสุขภาพติดตู้เย็นในบ้านของคุณไว้อยู่เสมอ พร้อมทั้งกำหนดมื้ออาหารในแต่ละวันเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรักสุขภาพอย่างยั่งยืน และยังจะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการควบคุมอาหารอีกด้วย แพรว wedding เลยจะมาแนะนำอาหารเผาผลาญไขมัน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญที่จะช่วยให้ร่างกายของคุณว่าที่เจ้าสาวกลับมาสดชื่นและสวยเปล่งปลั่งสำหรับงานวิวาห์เลยล่ะ … งานนี้จะชวนว่าที่เจ้าบ่าว หรือแก๊งเพื่อนสาวมาเข้าโปรแกรมด้วยกันก็ได้นะ

1. อโวคาโด

อาหารเผาผลาญไขมัน

อโวคาโดมีไขมันประเภทไม่อิ่มตัว เป็นตัวกระตุ้นฮอร์โมนในการเผาผลาญ นอกจากนี้อโวคาโดยังมีกุญแจสำคัญในการลดน้ำหนักคือ Mannoheptulose ซึ่งเป็นน้ำตาลที่ช่วยลดการหลั่งอินซูลีน และเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แคลอรี่ต่ำ และอุดมไปด้วยวิตามิน จากการศึกษาที่เผยแพร่ใน Nutrition Journal รายงานว่า หลังจากที่กลุ่มตัวอย่างรับประทานอโวคาโดครึ่งลูกในมื้อเที่ยง จำนวน 40% มีอาการอยากอาหารลดลงเป็นเวลาหลายชั่วโมง แต่ก็ควรเพิ่มอาหารบางอย่างในมื้ออาหารประจำวันเพื่อรักษาระดับกลูโคส และการตอบสนองของอินซูลินเพื่อให้อาหารอยู่ท้องอิ่มนานขึ้น

2. ชาเขียว

อาหารเผาผลาญไขมัน

เพิ่มการเผาผลาญในร่างกายด้วยชาเขียวที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และมีคาเฟอีนต่ำกว่ากาแฟ ชาเขียวช่วยเพิ่มการทำงานของกลไกสมอง ควบคุมความอยากอาหาร และนอกเหนือจากการเผาผลาญไขมันตามธรรมชาติแล้ว ยังช่วยให้อารมณ์ดีอีกด้วย อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง แต่เราแนะนำให้จิบชาเขียววันละไม่เกิน 4 แก้วนะจ๊ะ หรือลองทำเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของชาเขียวก็ได้ งานนี้นอกจากจะช่วยเผาผลาญแล้ว ยังเป็นการดีท็อกซ์ร่างกายตามธรรมชาติอีกด้วย

3. ไข่

อาหารเผาผลาญไขมัน

ประกอบไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ช่วยกระตุ้นอินซูลีน และทำให้ไขมันหน้าท้องลดลงตามธรรมชาติ ไข่จึงเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม แถมยังอุดมด้วยกรดอะมิโน 9 ชนิดและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน มีส่วนช่วยลดการอักเสบ โดยยับยั้งการผลิตเอนไซม์ที่กัดกร่อนกระดูกอ่อนในร่างกาย สำหรับการเลือกไข่ที่ดีในการบริโภค ควรเลือกจากตลาดเกษตรกรในท้องถิ่นที่สดใหม่และมีคุณภาพนะจ๊ะ

4. พริก

อาหารเผาผลาญไขมัน

อุดมไปด้วยวิตามินเอ ซี บี6 และเค รวมทั้งโพแทสเซียม ซึ่งสารประกอบไขมันที่เผาไหม้ในพริกคือ แคปไซซิน หลังการบริโภคไป 20 นาที จะทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ส่งผลให้เผาผลาญแคลอรี่ได้มากขึ้น และยังช่วยต้านอนุมูลอิสระให้กับร่างกายอีกด้วย เห็นทีงานนี้คนกินเผ็ดจะมีชัยไปกว่าครึ่ง

5. เนยกี

อาหารเผาผลาญไขมัน

เนยกี เป็นเนยใสจากประเทศอินเดียที่ทำมาจากนมล้วนๆ แตกต่างจากเนยทั่วไปที่ไม่เหมาะต่อการควบคุมน้ำหนัก แต่เนยกีเป็นเนยดี ที่ย่อยง่ายและประกอบไปด้วยวิตามินเอ ดี อี และเค หากรับประทานเนยกีเป็นประจำก็จะได้รับกรด Conjugated Linolenic และกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยเพิ่มมวลร่างกายให้เรียวกระชับ และเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักด้วย

6. เกรปฟรุต

อาหารเผาผลาญไขมัน

Timothy Ferris นักเขียนหนังสือทำอาหารชื่อดังแนะนำว่า ควรรับประทานเกรปฟรุต 1 โดส ก่อนอาหารจานหลัก เพราะน้ำเกรปฟรุตช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ชดเชยการเพิ่มขึ้นของอินซูลินที่เกิดจากการบริโภคคาร์โบไฮเดรต นอกจากนี้เกรปฟรุตยังมีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยให้ร่างกายย่อยอาหารได้นานขึ้น นั่นจึงทำผลไม้มักถูกเสิร์ฟก่อนอาหารจานหลัก หรือจะรับประทานน้ำเกรปฟรุต 1 แก้วก่อนก็ได้เหมือนกัน ซึ่งไม่ว่าจะกินแบบไหนก็ล้วนช่วยให้คุณรับประทานอาหารได้ลดลง

7. ถั่วงอก

การรับประทานอาหารด่าง (Diet Alkaline) จะช่วยให้ร่างกายดีท็อกซ์และเผาผลาญไขมันได้ตามธรรมชาติ อาหารด่างคือ อาหารที่มีค่าความเป็นด่าง ซึ่งจะช่วยปรับระดับกรดด่างของของเหลวในร่างกายให้สมดุล ซึ่งถั่วงอกมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เต็มไปด้วยวิตามินเอ บี ซี และอี อีกทั้งแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม โพแทสเซียม และเหล็ก ที่สำคัญไม่มีไขมันนะจ๊ะ และยังเป็นแหล่งพลังงานที่ดีของวิตามินบี2 ช่วยในการเผาผลาญไขมันและย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

8. มันเทศ

มันเทศ เป็นหนึ่งในอาหารจากธรรมชาติที่ต้านการอักเสบดีที่สุด มีเส้นใยสูง วิตามินเข้มข้น และอุดมด้วยแร่ธาตุ เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่ประกอบไปด้วยวิตามินบี6 และซี รวมถึงเบตาแคโรทีน และแมงกานีส ช่วยในต้านอาการการอักเสบ แถมยังมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ และสามารถนำมาประกอบอาหารได้ง่าย และยังอร่อยด้วยล่ะ

การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพก็จะช่วยให้ผิวพรรณดี มีน้ำมีนวล และยังควบคุมน้ำหนักไปในตัวอีกด้วยนะ นอกจากนี้แล้วเราอยากแนะนำ 8 อาหารวิเศษสำหรับว่าที่เจ้าสาว กินได้ไม่อ้วน! 

แปลและเรียบเรียงข้อมูลจาก byrdie / ภาพจาก Pinterest/ Time/ dietdoctor/ yogadigest/ jamieolive

18 เคล็ดลับที่คู่รักต้องมีเพื่อชีวิตแต่งงานอยู่ยืดอยู่ยาวไม่มีเบื่อ

การตกหลุมรัก คบหาดูใจ และตัดสินใจแต่งงานนั้นอาจดูเป็นเรื่องง่าย แต่หลังจากแต่งงานไปแล้วจะประคับประคองชีวิตคู่ให้ประสบความสำเร็จมันคงไม่ง่ายเหมือนในตอนแรก แพรว wedding เลยมี 18 เคล็ดลับสำหรับคู่สามีภรรยาที่อยากประสบความสำเร็จใน ชีวิตแต่งงาน มาฝากกัน

1. แชร์ทุกอย่างระหว่างกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึก ความคิด และเรื่องราวที่คุณมีต่อกันและกัน เพราะการเปิดใจพูดคุยในเรื่องต่างๆ จะช่วยทำให้คุณและคนรักเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกันมากขึ้น

2. ไม่ว่าเรื่องร้ายจะผ่านเข้ามาให้คุณทั้งคู่ได้พบเจอมากเท่าไหร่ จงร่วมใจเผชิญหน้า และบอกกันเสมอว่า “เดี๋ยวมันจะผ่านไป”

3. เพื่อป้องกันความห่างเหินระหว่างกัน ถ้าเป็นไปได้ จงอย่าอายที่จะกอดกันทุกวัน บอกรักกันก่อนเข้านอน และมอร์นิ่งคิสเบาๆ ในยามเช้า แล้วความรักของคุณจะแนบสนิทและหวานชื่นอยู่เสมอ

4. อย่าเก็บเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาทะเลาะ ให้เป็นเรื่องใหญ่ ยอมกันได้ก็ต้องยอมบ้าง อย่าเอามาใส่ใจให้เกิดปัญหาระหว่างกัน เพราะความรักของคุณสองคนมีค่าเกินกว่าที่จะปล่อยให้เรื่องขี้ปะติ๋วมาทำพัง

5. เอาใจกัน ง่ายๆ ด้วยของอร่อยๆ ที่คนรักชอบทาน ไม่ว่าจะเป็น ผัก ผลไม้ ขนมหวาน หรือน้ำอัดลม มีติดตู้เย็นไว้บ้างคงไม่ยากเกินกำลังหรอกเนอะ

6. เว้นที่ว่างให้คิดถึงกันบ้าง เราไม่ได้หมายความให้คุณแยกกันอยู่นะคะ แต่หมายถึงว่าให้คุณและเขาได้มีเวลาที่เป็นส่วนตัว ได้ทำสิ่งที่แต่ละคนชอบเพื่อเติมเต็มความสุขของตนเอง เอ็นเตอร์เทนตัวเองบ้างจะได้ไม่เครียด

7. มีปัญหาให้รีบเคลียร์ อย่าสาดความเงียบใส่กันและอย่าเอาแต่งอนตุ๊บป่องจนไม่เปิดปากพูด แต่ในขณะเดียวกันคุณและเขาก็ต้องค่อยๆ คุยกันด้วยน้ำเสียงนุ่ม มีเหตุผล และและพยายามเข้าใจกันและกันให้มากที่สุด

8. เรื่องไหนที่รบกวนใจ ถ้ามันไม่ได้สลักสำคัญอะไรมากก็ ลืมๆ ไปบ้าง และอย่าไปนึกถึงมันให้รกสมอง

9. ปัญหาหลายๆ อย่างก็ต้องใช้การ ประนีประนอมระหว่างกัน ถ้าแต่ละคนดึงดันจะทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างเดียว ความรักก็คงแตกหักได้ง่าย เพราะฉะนั้นหาจุดกึ่งกลางระหว่างกันให้ได้จะดีที่สุด

10. อ่อนโยนและใจดี กับคนข้างกายให้มาก ถึงแม้ว่าบางครั้งคุณจะโมโหจนอยากจะหยิก จะตี และตะโกนโวยวายดังๆ ใส่เขาก็ตาม ยิ้มและใจเย็นเข้าไว้นะคะ

11. หากิจกรรมทำด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเที่ยว ไปดูหนัง ปลูกต้นไม้ หรือช่วยกันทำอาหารเพิ่มโมเม้นต์หวานๆ เพื่อกระชับสัมพันธ์รักให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

12. อยากได้อะไรให้บอกกัน อย่าเก็บอมพะนำ แล้วเอามาน้อยใจว่าเขาไม่สน เขาไม่ทำให้ จำไว้นะคะว่าเขาก็เป็นคนธรรมดา ไม่สามารถอ่านใจคุณได้ เพราะฉะนั้นเปิดปากบอกกันซะนะคะ

13. เปิดใจคุยเรื่องเงินด้วยกัน เพราะเรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญที่ทำให้คู่รักเลิกกันมานักต่อนัก ดังนั้นวางแผนการเงินและชีวิตให้ดีว่า ในอนาคตครอบครัวของคุณจะเดินหน้าไปทางไหน รวมถึงปรึกษากันเรื่องค่าใช้จ่ายของลูกๆ ด้วยนะ

14. สร้างเซอร์ไพร้ส์เล็กๆ น้อยๆ ให้รู้สึกเหมือนตอนเป็นแฟนกันใหม่ๆ อาจจะเป็นของขวัญชิ้นเล็กๆ หรือจดหมายบอกรักแผ่นน้อยๆ ก็ได้

15. เป็นกำลังใจให้กันและกัน คอยซัพพอร์ตในสิ่งที่เขาฝันและอยากทำ ให้เขาเชื่อมั่นว่าเขาทำได้

16. สร้างเสียงหัวเราะกันบ้าง อย่าเอาแต่ทำหน้าเครียดใส่กันอยู่ตลอดเวลา ชีวิตไม่จำเป็นต้องจริงจังในทุกนาที เริงร่าไร้สาระกันบ้างก็ได้

17. ออกไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง เพราะการตามติดคนรักตลอดเวลาก็อาจจะทำให้เขารำคาญ รวมถึงเวลาที่อาจต้องไกลกัน การออกไปลั้นลากับเพื่อนๆ ก็ช่วยลดความคิดถึงได้ดีเหมือนกัน

18. ระลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่ตกหลุมรักกัน ในครั้งแรกก็สามารถช่วยให้ความรักหวานชื่นได้ ไม่ว่าคุณจะพบเจอกันโดยบังเอิญ หรือรู้จักกันมาก่อน เรื่องแบบนี้ก็มีคุณค่ากับความสัมพันธ์ไม่น้อย

สุดท้ายนี้ขอแนะนำว่า อย่าลืมเติมเต็ม ชีวิตแต่งงาน ด้วยความรักและความอบอุ่นของกันและกัน ใส่ใจในทุกรายละเอียดของคนข้างกายให้มากที่สุด ดูแลกันและกันอย่างดีเพื่อทำให้ทุกวินาทีของชีวิตมีความสุข เพียงเท่านี้ชีวิตแต่งงานของคุณก็จะอยู่ทนอยู่นานจนคนอื่นอิจฉาเลยทีเดียว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรียบเรียง : www.popsugar.com
ภาพ : www.newhdwallpapers.in

เซอร์ไพรซ์นี้ต้องรอด!! ขอแต่งงาน ยังไงให้ว่าที่เจ้าสาว Say Yes

หนุ่มๆ คนไหนที่ไปงานแต่งที่ใดก็เป็นได้แค่แขกรับเชิญ ทั้งๆ ที่มีตัวจริงควงไปออกงานแต่งด้วยกันทุกครั้ง แถมในใจลึกๆ ก็คิดอยากจะออกเรือนด้วยการขอหญิงข้างกายที่หมายปองให้มาดองเป็นครอบครัวเดียวกัน แพรว  wedding ขอแนะนำให้คุณอ่านคำแนะนำทั้ง 5 ข้อนี้ให้ดีเสียก่อนที่จะจัดเซอร์ไพรซ์ชุดใหญ่เพื่อ ขอแต่งงาน รับรองว่าที่เจ้าสาวของคุณจะพยักหน้าเซย์เยสแน่นอน

1. อย่าผลีผลาม สังเกตอาการก่อน

อย่าเพิ่งใจร้อนบุ่มบ่ามนะคะหนุ่มๆ ทั้งหลาย รอดูทีท่าของสาวเจ้าก่อนว่าหากขอแล้วเธอมีสิทธิ์เซย์เยสกับคุณแน่นอน ไม่อย่างนั้นแผนที่เตรียมไว้ว่าจะปัง อาจจะพังทั้งแผนหน้าทั้งหน้านะคะ เพราะถ้าคุณอุตส่าห์เตรียมโปรดักชั่นกะว่าจะถ่ายคลิปแผนเซอร์ไพรซ์ แต่สาวเจ้าดันตอบว่า ‘ขอโทษนะ เรายังไม่พร้อม’ ก็เป็นอันจบเห่ เพราะฉะนั้นลองเปรยๆ เลียบๆ เคียงๆ ถามสาวเจ้าถึงแผนในอนาคต หรือจะเปรยเรื่องอนาคตของคุณกับเขาดูก็ได้เพื่อดูปฏิกิริยาว่าเขามีทีท่า (แอบ) ตื่นเต้นดีใจแสดงผ่านทางแววตาหรือไม่ และถ้าหากคุณสัมผัสได้ว่าเธอดีใจ คราวนี้ก็จัดโปรดักชั่นชุดใหญ่จัดเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานไปเลยจ้า!!

2. จัดเซอร์ไพรซ์อลังการดีจริงหรือ?

สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวที่อยากเก็บสตางค์ไว้ทุ่มจัดงานแต่ง ก็อาจจะไม่ต้องจัดเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบก็ได้นะจ๊ะ เพราะจริงๆ แล้วความมุ่งมั่นตั้งใจและจริงใจของคุณนั่นแหละที่สำคัญกว่าการจัดฉากใหญ่ๆ เสียอีก จงใช้ความเป็นธรรมชาติและขอแต่งงานเจ้าหล่อนไปแบบเรียบง่ายแต่จริงใจเราว่านี่แหละดีที่สุด เพราะถ้าว่าที่เจ้าสาวเห็นความจริงใจของคุณที่แสดงผ่านแววตาออกมาแล้วล่ะก็ รับรองงานนี้เซย์เยสชัวร์

3. อย่าลืมเก็บภาพโมเม้นต์สุดประทับใจ

นาทีที่สาวเจ้าพยักหน้าเซย์เยส เราเชื่อว่าโมเม้นต์นั้นจะต้องตราตรึงอยู่ในใจเจ้าบ่าวไปตลอดแน่นอน  แต่จะดีกว่าไหมหากคุณได้เก็บภาพความประทับใจเหล่านั้นเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวก็จัดไปเถอะค่ะ โดยอาจจะนัดแนะให้เพื่อนสนิททำหน้าที่ถ่ายคลิปกับถ่ายภาพไว้ให้ก็ได้ คราวนี้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนหากได้ย้อนกลับมาดูช่วงเวลานี้ด้วยกันอีกทีรับรองว่ามีฟินกันอีกรอบแน่นอน

4. เลือกสถานที่ให้ดูดีสักนิด

อันนี้อาจจะต้องไปเซอร์เวย์กันไว้ก่อนนะจ๊ะหนุ่มๆ ว่าโลเคชั่นที่หมายหมั้นปักหมุดไว้นั้นเหมาะกับการขอแต่งงานหรือไม่ และหากเป็นสถานที่แบบเอ้าท์ดอร์ก็อาจจะเช็กสภาพอากาศในวันนั้นสักนิดว่าจะมีฝนหลงฤดูเข้ามาหรือไม่ หรืออีกหนึ่งไอเดียที่จะช่วยเพิ่มความโรแมนติกให้กับโมเม้นต์ได้อีก ก็อาจจะเลือกไปยังสถานที่ที่มีความหมายกับคุณทั้งคู่ เช่น ที่ที่เจอกันครั้งแรก, ที่ที่ออกเดทกันครั้งแรก, ที่ที่ไปเที่ยวด้วยกันทริปแรก หรือจะเลือกสถานที่ที่เธอชอบก็ได้ รับรองงานนี้หวานกว่าคู่จิ้นชัวร์

5. อย่าลืมแก๊งเพื่อนซี้

ถ้าคิดไม่ออกว่าจะขอคนรักแต่งงานยังไงให้น่าประทับใจดี งานนี้เราว่าแก๊งเพื่อนสุดซี้อาจจะช่วยคุณได้นะคะ แต่งานนี้อาจจะต้องร่วมด้วยช่วยเหยียบเป็นความลับให้มิดที่สุด ไม่อย่างนั้นถ้าความแตกก่อนถึงวันงานล่ะก็ คราวนี้คนที่เซอร์ไพรซ์อาจจะเป็นคุณว่าที่เจ้าบ่าวเองก็ได้นะจ๊ะ

Read More >> 10 ดาดฟ้าขอแต่งงานให้เธอมาเซย์เยส

ภาพ : theknot.com

แพท ณปภา สวยเวอร์ใน ชุดแต่งงานชุดไทย กับแฟชั่นในนิตยสารแพรว wedding

แพท ณปภา คุณแม่น้องเรซซิ่งสวยเวอร์!! ใน ชุดแต่งงานชุดไทย สวยๆ จากแบรนด์ Monique Wedding กับแฟชั่นในนิตยสารแพรว wedding ฉบับเดือน มิ.ย. 63

แต่จะใส่ ชุดแต่งงานชุดไทย ให้สวย ว่าที่เจ้าสาวก็ต้องเลือกเครื่องประดับให้เหมาะสมกับชุดที่ใส่ด้วย แพรวเวดดิ้งเลยมีเคล็ดลับการเลือกเครื่องประดับสำหรับใส่คู่กับชุดแต่งงานไทยมาให้ ตามนี้

ก่อนอื่นเจ้าสาวต้องแจ้งกับทางร้านก่อนว่า วันแต่งงานจริงมีของหมั้นชิ้นไหนที่ต้องนำมาสวมใส่กับชุดแต่งงานไทยหรือไม่ เช่น ได้ของหมั้นเป็นสร้อยทองมา เป็นต้น เพื่อที่ร้านชุดจะได้จัดเครื่องประดับให้ถูก โดยอาจจะเลือกให้สร้อยเส้นเล็กลงมาจะได้ไม่ไปแย่งซีนของหมั้น และตัวชุดก็มีส่วนในการเลือกเครื่องประดับด้วย เช่น ถ้าใส่ชุดที่มีการปักดิ้นทั้งตัว งดงามอลังการมาเลย ควรเลือกสร้อยให้เล็กลง แล้วใส่เป็นสังวาลย์ และเลือกหัวเข็มขัดใหญ่ๆ หรือแม้กระทั่งใส่กำไลให้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ต้องคำนึงไว้เสมอว่าชุดแต่งงานไทยสามารถถมเครื่องประดับได้ แต่ต้องถมให้เป็น ดูแล้วไม่รก และที่สำคัญต้องเลือกสีเครื่องประดับให้เข้ากับสีชุดด้วย

รู้เคล็ดลับการเลือกเครื่องประดับให้เข้ากับชุดไทยที่เลือกแล้ว ก็ไปดูชุดแต่งงานสวยๆ ของ แพท ณปภา กันได้เลย

ชุดแต่งงานชุดไทย

ชุดแต่งงานชุดไทย

>> ดูแบบชุดแต่งงาน Monique Wedding เพิ่มเติม คลิกเลย <<

เสื้อผ้า Monique Wedding
418/8 – 9 ถนนสาธุประดิษฐ์
แขวงบางโพงพาง
เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
โทร. 0-2108-7800, 08-0279-7800
เฟซบุ๊ก : Monique Wedding
ไอจี : @moniqueweddingbkk

แต่งหน้า : ชัยดิษฐ์ สมทรง (ไอจี : @toonchaidit)
ทำผม : นวพล จันทร์ปรุงตน (ไอจี : @ice_oreo)
สไตลิสต์ : Up_Kamphoo
ผู้ช่วยสไตลิสต์ : นิตินัย เพ็ชรทอง
ช่างภาพ : ดวงพร ใบพลูทอง
ผู้ช่วยช่างภาพ : ชโนดม แต้ไพสิฐพงษ์
สถานที่ : Agaligo Photo Studio โทร. 08-9678-1616
ออกแบบฉาก : Moodtone Production โทร. 08-9128-3944

พักผ่อนอย่างมีสไตล์ในพูลวิลล่าแบบส่วนตัวที่ โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน กับโปรโมชั่นพิเศษ ‘SO Pool Villa Getaway’ และโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’

พักผ่อนอย่างมีสไตล์ในพูลวิลล่าแบบส่วนตัวที่ โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน กับโปรโมชั่นพิเศษ ‘SO Pool Villa Getaway’ และโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’

โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน

เริ่มแล้ววันนี้กับบัตรกำนัลออนไลน์ “SO Pool Villa Getaway” ที่พักพูลวิลล่าราคาพิเศษ พร้อมรับบาร์บีคิวดินเนอร์ฟรีทันที! เสิร์ฟให้คุณได้ปิ้งย่างในบรรยากาศสุดชิลแบบเอ็กซ์คลูซีฟถึงวิลล่าของคุณ

โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน

หนีร้อนมาพักผ่อนอย่างมีสไตล์ในพูลวิลล่าแบบส่วนตัวที่ โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน กับที่พัก โซ พูลวิลล่า แบบ 1 หรือ 2 ห้องนอน ที่ให้คุณเลือกสรร พร้อมพื้นที่ และสระว่ายน้ำแบบส่วนตัว

  • โซ พูลวิลล่า แบบ 1 ห้องนอน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน
    ราคา 13,900 บาทสุทธิต่อคืน (เข้าพักวันอาทิตย์ – วันศุกร์)
    ราคา 18,900 บาทสุทธิ ต่อคืน (เข้าพักวันเสาร์) 
  •  โซ พูลวิลล่า แบบ 2 ห้องนอน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 4 ท่าน
    ราคา 19,000 บาทสุทธิต่อคืน (เข้าพักวันอาทิตย์ – วันศุกร์)
    ราคา 28,900 บาทสุทธิ ต่อคืน (เข้าพักวันเสาร์)

โรงแรมโซ โซฟิเทล หัวหิน

 

พิเศษกว่า สำหรับผู้ที่ต้องการใช้สิทธิ์สำรองที่พักจากโครงการ ‘เราเที่ยวด้วยกัน’ ง่ายๆ เพียงระบุวันเข้าพัก และสำรองที่พักพูลวิลล่าโดยตรงกับทางโรงแรมฯ ที่โทร. 032-709-555 หรืออีเมล์ [email protected]

ลดห้องพักสูงสุดถึง 40% จากโครงการฯ และไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคืน

✓ รับส่วนลดค่าอาหาร 40% จากโครงการฯ ผ่านทางแอพพลิเคชั่น ‘เป๋าตัง’ สำหรับใช้บริการที่ห้องอาหารไวท์ โอเว่น หรือบีช โซไซตี้
คูปอง 900 บาท ต่อวัน สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา (วันจันทร์ – วันศุกร์)
คูปอง 600 บาทต่อวัน สำหรับผู้ที่เข้าพักช่วงวันสุดสัปดาห์ (วันเสาร์ – วันอาทิตย์)

✓ รับเงินคืน 40% สูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท สำหรับผู้ที่เดินทางโดยสายการบินที่ร่วมโครงการฯ มายังสนามบินหัวหิน และเข้าพักกับทางโรงแรมฯ

ระยะเวลาการจอง ตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม พ.ศ.2563
เข้าพักได้ระหว่าง 1 สิงหาคม – 30 กันยายน พ.ศ.2563

เลือกซื้อบัตรกำนัลออนไลน์ได้ที่: https://bit.ly/2YBsZ2w สอบถามเพิ่มเติมโทร. 032-709-555

ชุดเจ้าสาว มิลา The Face สวยเก๋ดูดีมีระดับจากแบรนด์ Mirror Mirror

ชุดเจ้าสาว มิลา The face กับชุดพิธีในโบสถ์ สวยงามหรูหราด้วยผ้าพิมพ์ลายลูกไม้ที่สั่งทำขึ้นพิเศษจากแบรนด์กูตูร์

ชุดเจ้าสาว

หลังจากที่ได้คบหาดูใจกันมานานหลายปีในที่สุด มิลา The Face Thailand ซีซั่น 1 และ ปันปัน หนุ่มนักบินสุดหล่อ ก็ได้ตัดสินใจเข้าพิธีวิวาห์ ตามหลักศาสนาคริสต์เป็นที่เรียบร้อยเเล้ว โดยเจ้าสาวป้ายแดงสวยสง่ามาในแบรนด์ ชุดเจ้าสาว สายแฟชั่นระดับกูตูร์ mirror mirror bangkok ที่สาวมิลา ตั้งใจเลือกชุดที่สวย เก๋ ทันสมัย และเข้ากับบุคลิคของมิลา โดยใช้ผ้าพิมพ์ลายลูกไม้ที่สั่งพิมพ์ขึ้นมาพิเศษโดยเฉพาะเป็นโครงชุดแต่งงาน แล้ววางตกแต่งชุดแต่งงานด้วยผ้าลูกไม้ทอมือแสนหวาน ขึ้นหุ่นในซิลูเอทชุดแต่งงานแบบเข้ารูปทรงแขนยาว คอปิด ดูเรียบร้อยเป็นทางการตามธรรมเนียมแบบคริสต์ แต่ยังซ่อนความเก๋ และทันสมัย พร้อมซ่อนดีเทลด้วยงานปักเลื่อมลาย คริสตัล พร้อมเพชร SWAROVSKI และงานปักพิเศษด้วยการปักดอกไม้ 3 มิติลงไปในตัวชุด เพื่อเพิ่มความสวยงามและความมีมิติของชุดแต่งงาน ไล่ระดับเห็นเป็นแสงประกายระยิบตา พร้อมคลุมด้วยเวลเจ้าสาวปล่อยชายยาวลากพื้นที่ตกแต่งด้วยการปักเลื่อม คริสตัล เพชรจาก swarovski แบบไล่ระดับ ที่ทั้งสวยงามและอ่อนหวาน สะท้อนถึงตัวตนและความฝันของเจ้าสาวคนสวยได้เป็นอย่างดี

ชุดเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาว

>> ดูแบบชุดแต่งงาน Mirror Mirror Bangkok เพิ่มเติม คลิกเลย <<

Mirror Mirror Bangkok
โทร. 09-7086-5512
เฟซบุ๊ก ชุดแต่งงาน By MIRRORMIRROR

5 ประเด็น ที่บ่าวสาวต้องตกลงกันก่อนแต่งงาน เพื่อให้รักนี้ยาวนาน

มีหลายคู่ที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่ในใจเกิดความลังเลสับสน เพราะมีปัญหาคาใจ จะชวนคุยก็กลัวทะเลาะ แต่ถ้าจะปล่อยไปก็กลัวชีวิตคู่จะไม่ราบiื่น เราเลยขอกระซิบ 5 ประเด็นที่บ่าวสาว ต้องทำ ข้อตกลงก่อนแต่งงาน เพื่อรักนี้ยืนยาว

1. มีลูกไหม

เป็นปัญหาใหญ่ของหลายๆ บ้าน เมื่อความต้องการในเรื่องนี้ไม่ตรงกัน สำหรับประเด็นนี้เราว่าต้องเป็นการคุยกันด้วยเหตุผลแบบหนักแน่น ใครคิดว่าอย่างไร เพราะอะไร และไม่ใช่ว่าแค่จะมีไหม แต่ยังรวมไปถึงว่า ถ้าจะมีลูก จะมีสักกี่คนดี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องมองเผื่อไปในอนาคตอีกยาวๆ ด้วยนะ เพราะอย่างที่รู้ “มีลูกมากจะยากจน” ไม่ใช่แค่คำขู่นะจ๊ะ

2. เลี้ยงลูกยังไง

เมื่อคิดจะมีลูกแล้ว อีกประเด็นที่ต้องตกลงกันตามมาก็คือ แนวทางการเลี้ยงลูก เพราะแต่ละคนโตมาในการเลี้ยงดูที่แตกต่างกัน ย่อมได้เห็นทั้งข้อดีและข้อเสียที่หลากหลาย หากเอามาแลกเปลี่ยนกัน ก็จะเจอวิธีการเลี้ยงที่เหมาะสมกับแต่ละครอบครัว

3. อยู่ที่ไหนดี

เป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่ต้องคุยกันให้ชัดเจนว่าหลังแต่งงานเราจะอยู่ที่ไหน ไม่ใช่แค่จังหวัดหรืออำเภอ แต่ยังรวมไปถึงว่าบ้านของใคร และจะมีใครอยู่ในบ้านบ้าง เพราะหากไม่ตกลงกันให้ดีปัญหานี้ก็อาจนำไปสู่การหย่าร้างได้เลยทีเดียวนะ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการอยู่กันคนละที่ หรือการที่มีบุคคลที่ 3 4 5 มาอยู่ในบ้าน

4. การเงินในบ้าน

อ่า… นี้คือปัญหาใหญ่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของชีวิตคู่ที่เพิ่งเริ่มต้นเลยก็ได้ สำหรับการจัดระเบียบทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง แยกกระเป๋ากันไหมหรือจะใช้ร่วมกัน ค่าใช้จ่ายในบ้านจะทำอย่างไร ใครจะเป็นคนออกค่าอะไรบ้าง หรือเราควรมีเงินกองกลาง และที่สำคัญคือ เงินออมจะเก็บอย่างไร

5. ห้ามพูดคำว่า “เลิก”

เป็นข้อตกลงที่จำเป็นต้องมี เพราะคำเดียวสั้นๆ คำนี้ ที่เผลอ “ลั่น” ออกมาแบบไม่ตั้งใจ อาจเป็นประตูสู่การหย่าร้างก็เป็นได้ หากว่าอีกฝ่ายอยู่ในอารมณ์ร้อนๆ ทางที่ดีควรทำเป็นข้อตกลงไปเลยว่า ทะเลาะกันห้ามท้าเลิกนะ หรือบางคู่ก็มีอาจจะมีเทคนิคที่แตกต่างกันไปเช่น ห้ามทะเลากันเกิน 1 วัน  ทะเลาะกันเมื่อไหร่ต้องทิ้งเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อให้ใจเย็นก่อนกลับมาคุยกันนะ แต่ประเด็นสำคัญคือ ห้ามชวนกันเลิกเด็ดขาด!!!

ทั้งหมดนี้คือ 5 ประเด็นสำคัญที่บ่าวสาวต้องทำ ข้อตกลงก่อนแต่งงาน ให้ชัดเจน แล้วความรักจะได้ยืนยาว ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจกับการครองชีวิตคู่ เราก็มีเทคนิคดีๆ มาให้อีกเพียบ รับรองว่าทำแล้วดีแน่นอน คลิกอ่านเลย

ภาพ unsplash.com

10 แบบปกคอเสื้อคุณผู้ชายกับการแมตช์แอคเซสซอรี่ยังไงให้ลงตัว

จะแมตช์ ปกคอเสื้อ ยังไงให้เข้ากับแอคเซสซอรี่

ใครว่าเจ้าบ่าวจะแค่แต่งสูทผูกไทแล้วก็จบ โนค่ะ เพราะหากแต่งให้ดีคุณจะทั้งหล่อ ทั้งเป๊ะ แถมยังดูเป็นเจ้าบ่าวที่มีภูมิความรู้ด้านแฟชั่นสุดๆ เพราะฉะนั้นเรามาทำความรู้จักกับ ปกคอเสื้อ แบบต่างๆ กันดีกว่าว่ามีแบบไหนบ้าง แล้วจะต้องแมตช์กับแอคเซสซอรี่แบบไหนถึงจะเข้ากัน อ่อ งานนี้ไม่ได้สงวนไว้ให้แค่เฉพาะคุณเจ้าบ่าวนะคะ แต่เหล่าเพื่อนชายก็สามารถนำไปใช้ได้ ไม่หวงค่า

1. ปกเสื้อแบบ Classic

ปกเสื้อสุดอัศจรรย์ที่รับกับโครงหน้าทุกแบบได้เป็นอย่างดี และเป็นปกเสื้อสุดคลาสสิคที่หนุ่มๆ นิยมใส่กันมากที่สุด ปกเสื้อแบบนี้จะมีความยาวประมาณ 4-5 เซนติเมตร ส่วนแอคเซสซอรี่ที่ช่วยเสริมลุคนี้ให้ดูภูมิฐานก็ไม่พ้นเนคไทที่สามารถเลือกแมตช์ได้หลากหลายแบบ แต่ถ้าอยากลดความเป็นทางการลงมาหน่อย ขอเสนอ bolo tie หรือเนคไทแบบคาวบอย รับรองว่าโดดเด่นแน่นอน

ปกคอเสื้อ

ปกคอเสื้อ

2. ปกเสื้อแบบ Semi Spread

หากคุณเป็นชายใบหน้าผอมเรียวหรือมีช่วงคอที่ยาวก็สามารถใส่ได้แบบผ่านฉลุย จะจับคู่กับเนคไทสุดเท่ หรือจะเลือกเป็น ascot tie การนำผ้าพันคอมาพันในสไตล์แบบผู้ดีอังกฤษก็ช่วยเสริมลุคนี้ให้ดูเนี้ยบใช่เล่น และลักษณะพิเศษของปกเสื้อแบบนี้คือ ยิ่งปกเสื้อมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ความกว้างส่วนปลายก็จะขยายใหญ่ขึ้นตามไปด้วย เพราะฉะนั้นชายชาตรีใบหน้าอวบอิ่มจงหลีกให้ห่างนะจ๊ะ

3. ปกเสื้อแบบ Spread

จุดเด่นของปกเสื้อแบบนี้คือ ปกเสื้อจะค่อนข้างกว้างกว่าแบบอื่นๆ เพราะฉะนั้นชายหนุ่มที่จะสวมเสื้อสไตล์นี้ต้องมั่นหน้ามากๆ นะคะว่าเรามีใบหน้ารูปไข่สุดเพอร์เฟกต์ ซึ่งถ้าจะให้ดีจับคู่ปกเสื้อแบบนี้เข้ากับเนคไท หรือโบไทเก๋ๆ สักอัน รับรองหล่อวัวตายควายยังล้มเลยจ้า

4. ปกเสื้อแบบ Button Down

เป็นปกเสื้ออีกหนึ่งแบบที่ไม่ว่าชายหนุ่มคนไหนใส่ก็รอด จุดสังเกตคือที่บริเวณปลายปกเสื้อจะมีกระดุมอยู่ข้างละหนึ่งเม็ด ซึ่งติดปุ๊บเท่ปั๊บได้ลุคเป็นสุภาพบุรุษสุดเนี้ยบขึ้นมาทันที แล้วอย่าลืมหาเนคไทมาเสริมหล่อสักนิด เท่านี้ก็พร้อมออกงานได้แล้ว

5. ปกเสื้อแบบ Eyelet

หากคุณผู้ชายคนไหนคอยาวราวกับยีราฟ เราขอแนะนำให้คุณหาปกเสื้อสไตล์นี้มาใส่ด่วนๆ เพราะจะช่วยพรางคอที่ยาวของคุณได้เป็นอย่างดี เสริมด้วยเนคไท หรือผ้าพันคอสไตล์ ascot tie ก็ดูมีสไตล์ไม่หยอก แถมปกเสื้อสไตล์นี้ยังรองรับความเป็นแฟชั่นของชายหนุ่มสุดๆ เพราะมาพร้อมรูสำหรับใส่หมุดเท่ๆ บริเวณปกคอเสื้อให้ด้วย

อยู่ก่อนแต่งให้สบายใจกับ 6 เรื่องสำคัญที่คู่รักต้องเคลียร์ให้ชัด

คงต้องยอมรับว่า ในยุคนี้รูปแบบการลองใช้ชีวิตคู่แบบ อยู่ก่อนแต่ง ในบ้านเรามีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นะคะ ซึ่งบางคู่ที่ลองแล้วดีก็นำไปสู่การแต่งงานและสร้างครอบครัวร่วมกันอย่างจริงจัง แต่บางคู่ที่ลองแล้วไม่เวิร์คก็แยกย้ายกลายเป็นเพื่อน ซึ่งแปลว่าไม่ดันทุรังแต่งงานกันให้กลายเป็นครอบครัวมีปัญหา ดังนั้นเพื่อความสบายใจของคุณทั้งคู่ แพรวเวดดิ้งขอให้คุณคุยกันให้เคลียร์ใน 6 เรื่องต่อไปนี้ก่อนจะแพ็กกระเป๋ามาอยู่ร่วมชายคา

เคลียร์ใจเรื่องพ่อแม่

แจ้งบอกกับพ่อแม่ผู้ปกครองที่คุณเคารพถึงการตัดสินใจของคุณในการที่จะลองอยู่ก่อนแต่งกับคนที่คุณเลือกเป็นอย่างแรก อย่างน้อยแม้ท่านจะไม่เห็นด้วยแต่การแจ้งบอกคือแสดงความเคารพ ไม่ใช่อยู่ๆ นึกจะไปอยู่ก็ไป ซึ่งการบอกนี้ควรมีเหตุผลในการตัดสินใจและรายละเอียดที่อยู่สักนิด ไม่ใช่แค่แจ้งให้ทราบว่าจะย้ายไปอยู่นะแล้วจบ นอกจากนี้ถ้าเป็นไปได้ควรพาท่านไปดูที่อยู่ใหม่ของคุณสักหน่อย เพื่อความสบายใจว่าอย่างน้อยสภาพที่อยู่อาศัยก็โอเคและรู้ว่าอยู่หนใดไม่ใช่เมืองลับแล

เคลียร์ใจเรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย

จะเป็นการย้ายเข้าไปอยู่บ้านใหม่เพิ่งซื้อหรือบ้านเก่าของใครก็ตาม อย่าลืมเคลียร์ความสบายใจเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านให้ชัดเจน ไม่เกี่ยงว่าคุณคือฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิง เปิดประเด็นนี้ก่อนได้เลย ไม่มีใครว่าผิดหรืองกแน่นอน เพราะเมื่อมาอยู่ร่วมกันแล้วก็ต้องช่วยกันดูแลรับผิดชอบ อย่าเข้าใจไปเองว่าบ้านเธอ งั้นเธอต้องจ่ายสิ หรือเธอคือคนอาศัยต้องจ่ายมา ถ้ารักกันจริงและอยากสบายใจอย่าคิดเอาเอง ถามให้ชัด ตกลงให้ชัวร์ มีปัญหาติดขัดต้องบอก รวมถึงจ่ายได้มากน้อยแค่ไหนอย่ากั๊ก ทำตามนี้รับรองสบายใจทั้งสองฝ่าย

เคลียร์ใจเรื่องอาหารการกิน

ก่อนจะย้ายมาอยู่ด้วยกันคุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า อีกฝ่ายคิดยังไงกับบรรยากาศการทำกับข้าวที่มีควันมีกลิ่นอาหารลอยในบ้านหรือไม่ชอบทำอาหารเพราะไม่ชอบล้างจานหรือเปล่า อะไรแบบนั้น ซึ่งถ้าไลฟ์สไตล์ในเรื่องนี้ต่างกันก็ต้องคุยกันแล้วล่ะ เพราะถ้าคนนึงชอบกินแต่อาหารฟู้ดคอร์ทง่ายๆ จ่ายตังค์นั่งกินให้พ้นเป็นมื้อๆ แต่อีกคนฝันถึงความเป็นคู่รักกระหนุงกระหนิงในห้องครัว ก็ต้องหาจุดตรงกลางที่ลงตัว หรือถ้าวันไหนเราอยู่บ้านด้วยกันทั้งวัน จะเอายังไงกับอาหารทั้งสามมื้อดี ถ้าทำอาหารเธอจะทำหรือเราจะช่วยกันดี

เคลียร์ใจเรื่องการสื่อสารระหว่างกัน

ก่อนจะอยู่ด้วยกันคุณอาจสื่อสารกันทางมือถือเช่นโทรฯ หาหรือไลน์หาตลอดๆ เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ที่ไปเจอมาในแต่ละวันให้กันฟัง แต่พออยู่ด้วยกันตลอดเวลา เรื่องเหล่านี้อาจต้องลดลงหรือเปล่า และเมื่อลดลงไปแล้ว จะแทนที่ด้วยอะไรเพื่อให้ความสัมพันธ์ยังกระชับแน่นไม่เปลี่ยน ลองตกลงกันให้เคลียร์ว่ารูปแบบเดิมๆ ที่เคยทำ ยังคงมีไหม และอะไรบ้างที่อาจมาแทนที่ คุณจะได้ไม่รู้สึกว่า ความสัมพันธ์เปลี่ยนไปไม่เหมือนเมื่อตอนต่างคนต่างอยู่คนละบ้าน

เคลียร์ใจเรื่องการใช้พื้นที่ร่วมกัน

ในการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว คอนโดหรืออะไรก็ตาม เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการใช้พื้นที่บางจุดร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องนั่งเล่นและห้องนอน ดังนั้นคุณจึงควรคุยกันให้ชัดเจนถึงรูปแบบการใช้พื้นที่ส่วนกลางตรงนั้นให้ชัดเจน และตกลงแบ่งสรรปันพื้นที่อย่างแฟร์ๆ และสมเหตุสมผล เช่นว่าในห้องน้ำจะมีพื้นที่ตรงไหนวางของใช้ส่วนตัวของคุณบ้าง และพื้นที่ตรงไหนคือของอีกฝ่าย ซึ่งฝ่ายหญิงอาจต้องการพื้นที่มากหน่อยเพราะเครื่องประทินผิวเยอะแยะ  ก็เจรจากันไปตรงๆ ส่วนคุณฝ่ายชายก็อาจจะขอมุมออกกำลังกายของตัวเองมาหน่อยอะไรแบบนั้น

เคลียร์ใจในเรื่องเวลาส่วนตัวบนพื้นที่ส่วนรวม

ข้อสุดท้ายที่ควรเคลียร์กันให้ใจสบายคือ เวลาส่วนตัวในพื้นที่ส่วนรวม ซึ่งเรื่องนี้อาจจะดูโหดไปสักหน่อยถ้าจะบอกออกไปว่า อยากได้เวลาตอนนี้ถึงตอนนี้ในการอยู่กับตัวเอง ดังนั้นประเด็นนี้จึงเป็นประเด็นที่คุณควรค่อยๆ สังเกตและทำความเข้าใจนิสัยของอีกฝ่ายให้ดี แล้วให้ความคุ้นชินนั้นช่วยเคลียร์ใจคุณเองว่า อาการแบบนี้หรือช่วงเวลาแบบนี้แหละที่อีกฝ่ายต้องการความสงบโดยไม่ต้องเอ่ยปากถามเลยก็เป็นได้­­­­­

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสันพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : relateinstitute.com, blogs.webmd.com/

6 ขั้นตอนส่งสัญญาณว่า อยากแต่งงาน แล้วนะ มาขอได้แล้วว่าที่เจ้าบ่าว

เชื่อว่าสาวๆ หลายคน ติดอยู่ในปัญหาความสัมพันธ์แบบเดียวกันคือ อยากแต่งงาน  แต่คุณหนุ่มๆ ทั้งหลายก็ยังไม่เก็ท ไม่ยอมขอแต่งงานสักที จะให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายออกปากเองก็จะเขินไป เราจึงส่ง 6 ขั้นตอนส่งสัญญาณให้หนุ่มๆ รู้ว่า เราพร้อมแล้วนะเธอ

ขั้นตอนที่ 1. ถามตัวเองให้แน่ใจ

ก่อนจะส่งสัญญาณบอกคนรักให้รู้ คุณต้องถามตัวเองให้แน่ใจเสียก่อนว่าอยากแต่งงานเพราะตัวคุณเองจริงๆ ไม่ใช่การกดดันจากครอบครัว หรือสังคม แต่คุณต้องมั่นใจ และพร้อมจะมีกันและกันในทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะสุขหรือเศร้า พร้อมที่จะเติบโตสร้างครอบครัวไปด้วยกัน เพราะการแต่งงานเป็นสามีภรรยามันแตกต่างจากการเป็นคนรักกันอย่างแน่นอน

ขั้นตอนที่ 2. อย่าเพิ่งคิดไปเอง

อย่าเพิ่งเป็นสตรีขี้มโน ไม่ว่าจะเป็นทางบวก หรือลบ แต่ให้ดูบริบทรอบๆ ของคุณแฟนว่า เขาเองก็พร้อมที่จะแต่งงานแล้วหรือยัง หรือว่ายังมีอะไรบางอย่างเป็นอุปสรรคที่ทำให้เขายังไม่พร้อม  ซึ่งคุณสาวๆ ก็ต้องมองอย่างปราศจากอคติจริงๆ นะ

ขั้นตอนที่ 3. พูดเป็นนัยๆ

ถึงแม้ว่าผู้หญิงเราจะรู้สึกเขินๆ ถ้าจะเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงาน แต่เราก็ต้องพูดเป็นนัยๆ ให้ผู้ชายเขารู้บ้างนะ ว่า เออ! เราพร้อมจะแต่งงานกับเขาแล้ว อาจจะเริ่มต้นด้วยการพูดแบบอ้อมโลกไปเลย เอาแบบนุ่มนวลสักหน่อยว่า “ฉันอยากอยู่กับคุณแบบนี้ไปตลอด” หรือไม่ก็ “ถ้าเราได้ตื่นมาเจอกันทุกเช้าก็ดีสิเนอะ” อะไรแบบนี้ แต่ห้ามเปิดประโยคด้วยความน้อยใจ เปรียบเทียบกับคู่อื่นๆ หรือพูดด้วยความเกรี้ยวกราดเด็ดขาด

ขั้นตอนที่ 4. พูดถึงช่วงเวลากว้างๆ

หลังจากที่พูดเป็นนัยๆ เกริ่นๆ ไว้แล้ว ก็ตามด้วยหมัดฮุคเข้าตรงๆ เกี่ยวกับเรื่องเวลาในใจเราให้เขารู้อย่าง “ถ้าแต่งงานก่อน 35 ก็ดีสิ” หรือจะเป็น “ถ้ามีลูกก่อน 35 ก็ดีสิเนอะ ลูกจะได้โตทันใช้” เป็นการบอกระยะเวลาของเราให้เขารู้ว่า เราเองก็แพลนชีวิตเอาไว้แบบนี้เหมือนกันนะ

ขั้นตอนที่ 5. เปิดใจและรับฟัง

หลังจากที่เริ่มเกริ่นๆ ไปแล้ว ก็ถึงคราวที่ผู้หญิงต้องเปิดใจรับฟัง และรอดูท่าทีของคุณผู้ชายบ้างแล้ว ว่าจะเป็นยังไง แต่ไม่ว่าบทสนทนาจะออกมาเป็นยังไง ห้ามชักสีหน้าใส่กันเด็ดขาดเลยนะ

ขั้นตอนที่ 6. ไม่กล่าวถึงอีก

การส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะแต่งงานแล้ว ไม่ได้พูดกันได้บ่อยๆ เพราะหลังจากที่พูดออกไป ก็ควรทิ้งระยะห่าง เพื่อให้อีกฝ่ายคิดให้รอบคอบ เพื่อเตรียมการต่างๆ เพราะฉะนั้นก่อนจะส่งสัญญาณ คุณสาวๆ ก็ต้องคิดให้ดีว่า คุณพร้อมและเขาก็พร้อม ถ้าใช่ ก็ลุยเลย

หลังจากที่ตกลงขอแต่งงานกันแล้ว แต่เรื่องราวยังไม่จบ เพราะนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะนับจากนี้ยังมีอะไรให้ทำอีกเพียบเลยล่ะ ถ้านึกไม่ออกว่ามีอะไรบ้าง ก็คลิกเลย

ภาพ unsplash.com

3 ความเชื่อเรื่องเนื้อคู่ ทำตามนี้รับรองสละโสดบอกเลิกคานชัวร์

สาวโสดที่กำลังจะหมดหวัง หรือใครที่กำลังนั่งรอเนื้อคู่ อย่าเพียงแค่นั่งเฉยๆ นะคะ เพราะ แพรว wedding มีเคล็ดลับ ความเชื่อเรื่องเนื้อคู่ มาฝาก เขาว่ากันว่าหากทำตามนี้เนื้อคู่จะมาแน่นอน

สำหรับสาวๆ ที่ได้รับเค้กแต่งงาน ให้กินตามลำพัง ห้ามแบ่งให้คนอื่นเด็ดขาด เพราะเนื้อคู่ที่รอคอยจะได้พุ่งตรงมาที่คุณคนเดียว เคล็ดลับที่ 2 คือ

หลังจากที่บ่าวสาวตัดเค้กไปแจกเสร็จแล้ว ให้สาวโสดเดินไปที่โต๊ะวางเค้กแล้วหยิบเศษเค้กมาเล็กน้อย จากนั้นถอดแหวนที่สวมประจำออกมา โดยนำเศษเค้กนั้นมาลอดแหวน 9 ครั้ง แล้วอธิฐานขอให้พบเนื้อคู่ ขั้นตอนนี้ ขอแนะนำว่าต้องตั้งใจอย่างจริงจัง เชื่อกันว่าจะทำให้ได้พบเนื้อคู่และจะได้แต่งงานภายใน 1 ปี!

แต่หากงานนั้นไม่มีแจกเค้ก แนะนำให้สาวๆ เด็ดดอกไม้ภายในงานซักช่อไปใส่โถปากกว้างๆ จากนั้นให้เติมน้ำลงไปครึ่งโหล ตามด้วยน้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะและลูกปัดสีแดง 9 เม็ด แล้วนำไปวางใกล้ๆ ที่นอนเป็นเวลา 3-5 วัน เชื่อว่าจะทำให้สาวโสดเช่นคุณได้พบกับรักแท้อย่างแน่นอน

สาวโสดคนไหนที่นำวิธีที่เราบอกไปใช้แล้วได้ผลอย่างไรหรือเจอเนื้อคู่ที่ตามหาหรือเปล่าก็มาบอกกันบ้างนะจ๊ะ ขอให้โชคดีได้เป็นเจ้าสาวคนต่อไปกันทั่วหน้าจ้าาาา

หรือถ้ากลัวว่าทำตามนี้แล้วยังลงจากคานไม่ได้ ก็ตามไปเช็คอินกันได้ที่ ขอได้ไม่นก! แชร์พิกัด ขอพรเรื่องความรัก วัดดังทั่วเอเชีย

8 อาหารมหัศจรรย์ช่วยให้เจ้าสาวหน้าท้องแบนราบในชุดแต่งงาน

การกินอาหารแบบตามใจปากจนเป็นเหตุให้เกิดไขมันสะสมอยู่ตามหน้าท้องสำหรับสาวๆ นั้นเป็นเรื่องน่าปวดใจสุดๆ ยิ่งบรรดาว่าที่เจ้าสาวที่วันสำคัญใกล้เข้ามาทุกทีก็ยิ่งเครียดหนัก… แต่อย่ากังวลจนเกินไปเลยค่ะ เครียดมากๆ ระบบย่อยอาหารยิ่งทำงานแย่เข้าไปอีก ทุกอย่างมีทางแก้ เพราะอันที่จริงแล้วไขมันส่วนเกินเหล่านี้สามารถขจัดออกไปได้ ด้วยการทานอาหารค่ะ ใช่ค่ะ! คุณอ่านไม่ผิด แพรว wedding มาแนะนำให้คุณแก้ปัญหาห่วงยางน้อยๆ นั้นด้วยการทานอาหารจริงๆ ค่ะ แต่เป็นอาหารที่สามารถช่วยสลายไขมันหน้าท้อง ทำให้ หน้าท้องแบนราบ ขึ้นได้ ว้าววว!!! ใครอยากรู้ว่ามีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่า

 

  • ไข่ขาว

ไข่ขาวเต็มไปด้วยโปรตีนที่ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดี มีไขมันน้อย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการลดพุง และยังหารับประทานง่าย ราคาไม่แพง หากทานไขขาวทุกวันวันละ 1 ฟอง จะช่วยลดไขมันสะสมที่หน้าท้องได้ดี และยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานในร่างกายอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่ควรทานไข่ขาวมากเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน

  • หน่อไม้ฝรั่ง

หน่อไม้ฝรั่งเป็นผักที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นยาบำรุงกำลัง และยังช่วยให้ผอมลงได้ เพราะมีไฟเบอร์ทั้งแบบที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ ทำให้การย่อยอาหารช้าลง อิ่มนาน นอกจากนี้หน่อไม้ฝรั่งยังช่วยขจัดน้ำส่วนเกินที่ทำให้ท้องบวม รวมทั้งยังมีพรีไบโอติก ที่มีประโยชน์ต่อแบคทีเรียในลำไส้อีกด้วย

  • วอลนัท

ในวอลนัทมีสารต้านอนุมอิสระที่ช่วยต้านทานการอักเสบ และลดโอกาสในการอ้วนลงพุง นอกจากนี้วอลนัทยังมีโปรตีนสูง     จึงช่วยให้อิ่มท้องได้นาน และทำให้ทานอาหารลดลง ง่ายต่อการควบคุมอาหาร หากทานบ่อยๆจะช่วยลดหน้าท้องได้ง่ายขึ้น ซึ่งต้องบอกเลยว่าวอลนัท เป็นตัวช่วยในการลดหน้าท้องที่ดีที่สุดเลยทีเดียว

  • ยี่หร่า

ยี่หร่าเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ในการช่วยลดหน้าท้อง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบการย่อยอาหาร ทำให้หน้าท้องเพรียวสวย ไม่บวม

  • พริกหวานสีแดง

พริกหวานสีแดงเป็นอาหารอีกหนึ่งชนิดที่สามารถช่วยให้หน้าท้องลดลงได้ เนื่องจากในพริกหวานเต็มไปด้วยสารไลโคปีน เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกาย มีคุณสมบัติในการช่วยกำจัดไขมันชนิดเลวที่สะสมอยู่บริเวณช่องท้อง นอกจากนี้แล้วในพริกหวานยังมีวิตามินซี ที่ช่วยไล่ไขมันออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี

  • อโวคาโด

อโวคาโดนับว่าเป็นสุดยอดผลไม้ เพราะมีไฟเบอร์ถึง 2 กรัม และไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวอีก 4 กรัม ซึ่งดีต่อทั้งหัวใจและหน้าท้อง มีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานอโวคาโดเป็นประจำมีเอวเล็กกว่าผู้ที่ไม่รับประทาน นอกจากนี้อโวคาโดยังดีต่อลำไส้ และช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่าย ทำให้ร่างกายดูดซับอาหารที่มีประโยชน์ได้ดี

  • ชาเขียว

ชาเขียวเป็นเครื่องดื่มที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านการอักเสบ ช่วยเพิ่มพลังงาน และเผาผลาญไขมัน นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ชาเขียว มีความเกี่ยวพันธ์กับการลดน้ำหนัก ผู้ที่ดื่มชาเขียว มีโอกาสที่จะลดน้ำหนักลงได้มากกว่าผู้ที่ไม่ดื่ม

  • ขิง

ขิงเป็นสมุนไพรที่ทำให้ท้องสบาย และทำให้ หน้าท้องแบนราบ โดยในปี 2012 มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคลอมเบีย แห่งสหรัฐอเมริกาว่า ผู้ที่ดื่มน้ำขิงร้อน หรือชาขิงหลังอาหาร ช่วยในเรื่องของการลดหน้าท้องได้ดี

ลองทานอาหารลดไขมันหน้าท้องเหล่านี้ดูกันนะคะ รับรองว่าจะช่วยให้ไขมันสะสมที่บริเวณพุงลดลงได้อย่างแน่นอน แถมสัดส่วนก็ดูกระชับและสวยเป๊ะมากขึ้นอีกด้วย ใครที่อยากมีหุ่นสวยไร้ไขมันหน้าท้องมากวนใจ ต้องจัดเลยนะคะ แต่ถ้าอยากจัดเต็มเครื่องดื่มดูแลรูปร่างสวยไปให้ครบ ต้องไม่พลาดหลากเมนูผักผลไม้ปั่นเลยนะคะ 😉

cr : archanaskitchen.com, medicaldaily.com, cookstr.com, scoopoflives.com, allrecipes.com

3 ทริคไม่ลับหากเจ้าสาวอยากสวยเฉิดฉายและได้ความสะดวกสบายในชุดแต่งงาน

อยากได้ ชุดแต่งงาน ที่ทั้งสวย และสะดวกสบาย ไม่ใช่เรื่องยาก!

ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงานแบบคอลึก คว้านหลัง หรือชุดแต่งงานแบบสายเดี่ยว ก็ล้วนให้ลุคที่ดูสง่างามเมื่อเจ้าสาวปรากฏตัว และแน่นอนนอกจากดีไซน์ชุดที่จะต้องดูดีแล้ว สิ่งที่เจ้าสาวหลายคนต้องการอีกอย่างในชุดแต่งงานก็คือ ความสะดวกสบายในการสวมใส่ เพราะเจ้าสาวจะต้องอยู่ในชุดนั้นเป็นเวลานาน แต่ความสะดวกสบายนั้นก็ต้องมาพร้อมกับดีไซน์ที่สวยงามหรูหราดูเป็นตัวเองด้วย โอโห ยากอะไรเบอร์นี้ ที่จะควบรวมทั้งสองสิ่งเอาไว้ในชุดเดียวกัน แต่…แพรว wedding ทำได้ค่ะ เพราะเรามีเทคนิคการผสานสองสิ่งนี้ไว้ใน ชุดแต่งงาน ชุดเดียวได้มาฝาก

ชุดแต่งงาน

เลือกผ้ามุ้งโปรงบางที่ประดับลูกไม้แบบ appliques

ผ้ามุ้งโปรงบางที่ประดับลูกไม้แบบ appliques ที่ให้ได้ทั้งความสวยงามและความสะดวกสบายเนื่องจากตัวเนื้อผ้าที่บางเบา แถมยังมีให้เลือกหลากหลายเฉดสี แถมผ้ามุ้งแบบโปร่งบางยังให้เท็กซ์เจอร์ที่เป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่ว่าจะอยู่ในแสงแบบเอ้าท์ดอร์แบบธรรมชาติก็ให้อารมณ์สวยหวาน หรืออยู่ในงานแต่งงานแบบอินดอร์ก็ให้ความสวยหรู

เลือกรายละเอียดที่สะดวกสบายในสไตล์ของคุณ

หากคุณกำลังตามหาชุดแต่งงานที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากพินเทอเรสต์ ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงานคอปีน, รูปแบบแขนเสื้อที่ดูแตกต่าง หรือเท็กซ์เจอร์ของเนื้อผ้าแบบต่างๆ ก็อย่าลืมมองหาชุดแต่งงานที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับตัวคุณด้วย เช่น หากเจ้าสาวอยากใส่ชุดแต่งงานแบบคอปีน แต่สถานที่จัดงานแต่งงานเป็นแบบเอ้าท์ดอร์กลางสวน ก็อาจจะต้องปรับให้ช่วงเนคไลน์มีความสะดวกสบายแต่ยังไม่ทิ้งดีไซน์ที่สวยงาม โดยอาจจะเสิรมด้วยผ้าโปร่งบางที่ช่วงหน้าอกเพื่อช่วยให้ระบายอากาศได้ดีขึ้น เป็นต้น

หรืออีกหนึ่งรูปแบบชุดแต่งงานที่สวยงามและสะดวกสบายก็อาจจะเป็นการเลือกชุดแต่งงานแบบโชว์ผิวสักหน่อย อย่างเช่น ชุดแต่งงานจากแบรนด์ Hayley Paige หรือ Monique Lhuillier ที่ผสมผสานทั้งดีไซน์ที่ทันสมัย และความสะดวกสบายในการสวมใส่ได้อย่างลงตัว และแน่นอนมีดีเทลของการเผยผิวนิดๆ ที่ช่วยให้เจ้าสาวเซ็กซี่แต่ไม่โป๊จนน่าเกลียด

เปลี่ยนชุดในช่วงพิธีการ

เปลี่ยนสไตล์ชุดแต่งงานที่ทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับช่วงพิธีการ อย่างเช่น หากงานแต่งของคุณเป็นแบบค็อกเทลปาร์ตี้ ก็ไม่ผิดที่เจ้าสาวจะสวมใส่ชุดแต่งงานแบบสั้นที่ดูเข้ากับงานและยังแดนซ์ได้สะดวกมากขึ้นในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แต่สำหรับเจ้าสาวที่ต้องการความเป็นแฟชั่น ก็อาจจะเลือกเป็นชุดแต่งงานแบบจัมพ์สูทสีขาวไปเลย เพื่อหลุดจากกรอบของเจ้าสาวแบบเดิมๆ ซึ่งปัจจุบันนี้หลากหลายแบรนด์ก็ทำชุดแต่งงานแบบสูท แบบกางเกง หรือแบบจัมพ์สูทออกมาเสิร์ฟว่าที่เจ้าสาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละแบรนด์ก็ดีไซน์แต่ละแบบมาพร้อมเสิร์ฟกับว่าที่เจ้าสาวหลากสไตล์ หรือถ้ากลัวว่าในช่วงพิธีการจะดูไม่เป็นเจ้าสาว ก็เลือกสวมในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้โลด

นอกจากชุดแต่งงานที่ทั้งสวยและใส่สบายแล้ว หากว่าที่เจ้าสาวอยากประหยัดงบต้องไม่พลาด ชุดแต่งงานดีไซน์เก๋ แบบ 1 ชุด 2 สไตล์ ให้เจ้าสาวสวยได้ไม่ซ้ำ

ภาพ Pinterest

คำถามชวนปวดหัวจะจัดงานแต่งงานรอบสองเลี่ยงไม่ได้ ควรเตรียมตัวอย่างไรดี

เมื่อพูดถึงงานแต่งงาน บ่าวสาวก็หมายมั่นอยากจะให้เป็นงานสำคัญครั้งเดียวในชีวิต แต่ชีวิตมันก็ไม่แน่ไม่นอนจริงไหมคะ เพราะบางครั้งโชคชะตาก็เล่นตลกให้เราต้องแต่งงานอีกครั้งก็ได้ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา เชื่อว่าหลายคนก็จะมีคำถามที่ว่า แต่งงานรอบสอง จะต้องเตรียมตัวยังไงดี แน่ๆ แถมยังเลี่ยงไม่แต่งไม่ได้ซะด้วย แถมยังมีคำถามตามมาอีกเป็นกระบุงโกยว่า จะสร้างความแตกต่างยังไง? หรือแม้กระทั้งควรวางตัวอย่างไรดี? อ่ะ เอาเป็นว่า แพรว wedding มีคำตอบมาฝากค่ะ รับรองว่าตอบคำถามทั้งหมดทั้งมวลที่หลายคนสงสัยและติดค้างในใจได้แน่นอน

 

1. ระยะเวลาในการจัดงาน ห่างกันมากแค่ไหน

แน่นอนการจัดการแต่งอย่างใหญ่โต มีการเชิญแขกหลายคน ก็เป็นเหมือนการรบกวนแขกให้มางานเรา (อีกรอบ) ยิ่งถือซองเงินมาหนักๆ นี่ยิ่งควรเกรงใจค่ะ เพราะโดยปกติแล้วการแต่งงานควรจัดครั้งเดียว แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ต้องดูระยะเวลาว่าจัดรอบสองห่างกับรอบแรกมากแค่ไหน ถ้าต่ำกว่า 5 ปี แนะนำให้จัดเป็นงานเล็กๆ จะดีกว่า เพื่อไม่รบกวนแขกให้มางานของเราเร็วเกินไป หรือจะเลือกไม่รับซองไปเลยก็ได้นะคะ

 

2. รายชื่อแขกที่จะเชิญ

อันนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบ่าวสาวเลยค่ะ ว่าอยากจะเชิญใคร ถ้าอยากจะจัดจริงๆ แล้วลังเลว่าเชิญใครมาดี แขกเก่าๆ ญาติ หรือใครก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าสาเหตุที่ต้องจัดงานแต่งงานครั้งที่สองก็อาจจะมีด้วยหลายเหตุผล ไม่ว่าจะแยกทางกับรักเก่าเพราะไปต่อไม่ได้ หรือคู่รักเสียชีวิต ซึ่งถ้าเป็นอย่างหลังก็อาจจะสามารถเชิญญาติของคู่รักมาได้ แต่ถ้าเป็นข้อแรกที่ดูแล้วอาจจะลำบากใจทั้งคนเชิญและคนมาแล้วล่ะก็ เราว่าก็อาจจะแค่บอกกล่าวกันเพื่อเป็นการให้เกียรติอีกฝ่ายว่าเรายังเคารพและนึกถึงเขาอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นผลดีมากกว่าผลเสียนะคะ

3. วางตัวอย่างไรให้เหมาะสมภายในงาน

ต้องบอกเลยว่า ถ้าตัดสินใจจัดงานแต่งรอบสองแล้ว ก็ทำตัวให้เป็นปกติค่ะ เชิญแขกมา จัดงานให้ดี อย่าสนใจว่าจะมีฟีดแบคออกมายังไง หรือคนจะมองเราในแง่ลบไหมที่แต่งงานบ่อยๆ ปล่อยไปค่ะ เพราะเราไม่สามารถจะทำให้ทุกๆ คนเข้าใจตรงกับเราได้ ขอแค่มีความสุขอยู่กับสิ่งที่อยู่ข้างหน้าก็พอแล้วเนอะ

4. ศึกษาเกี่ยวกับพิธีกรรมทางศาสนา

ควรศึกษาก่อนนะคะ ว่าแต่ละศาสนามีข้อห้ามเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานรอบสองหรือไม่ เช่น ศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก สามารถจัดงานแต่งในโบสถ์ได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น เพราะบ่าวสาวจะได้รับศีลสมรส ซึ่งเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ห้ามหย่าร้าง แต่ถ้าหย่าร้างก็ห้ามจัดงานแต่งในโบสถ์อีก เพราะคนที่แต่งไปนั้นเป็นเสมือนบุคคลที่พระเจ้าคัดสรรมาให้แล้วนั่นเองค่ะ

 

5. ควรวางตัวกับครอบครัวแฟนใหม่อย่างไรดี

น่าจะเป็นปัญหาใหญ่อยู่พอสมควรสำหรับบ่าวสาวที่จะแต่งงานรอบสอง ที่อาจจะทำไม่รู้ว่าควรจะวางตัวกับพ่อแม่ หรือญาติๆ แฟนใหม่อย่างไรดี คำตอบคือ ทำคะแนนดีๆ ไปเลยค่ะ เพราะเราเดาความคิดใครไม่ได้เลย ว่าเขาจะมองเราอย่างไร จะต้อนรับเราไหม ดังนั้นควรใช้ความดีและการวางตัวดีเข้าสู้ค่ะ ซึ่งจริงๆ แล้วการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าเราเป็นคนไม่ดี เพียงแต่ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการที่ทำให้ต้องแยกทางกัน เพราะฉะนั้นเราต้องแสดงให้เขาเห็นค่ะ ว่าเราพร้อมจะเริ่มต้นใหม่ แล้วนับหนึ่งใหม่แบบเพอร์เฟ็กต์ ถ้าผ่านจุดนี้ไปได้ รับรองว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวจะรักกันแบบไร้อุปสรรคใดๆ มาขวางกั้นการแต่งงานครั้งนี้แน่นอนค่ะ

อ่านจบครบ 5 ข้อแล้ว ก็ลองวางแผนกันดีๆ นะจ๊ะบ่าวสาว ว่าจะเตรียมตัวจัดงานแต่งกันอย่างไร ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงการจัดงานแต่งธีมเดิม หรือมีดีเทลแบบเดิมๆ เพราะถึงแม้การตัดสินใจของบ่าวสาวจะลงเอยด้วยดีแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องเซนซิทีฟต่อจิตใจอยู่ดีนะจ๊ะ กันไว้ดีก่อนจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดคำถามตามมาว่า “ยังลืมคนเก่าไม่ได้เหรอ” และที่สำคัญปล่อยอดีตให้ผ่านไปแล้วทำปัจจุบันให้ดีก็พอค่ะ

Read More : คิดสักนิดก่อนแต่งงานกับพ่อแม่เรือพ่วง

ภาพจาก : Pinterest.com

5 ทริคเลือกเรือนหอให้ล้อไปกับเงินในกระเป๋าแบบภาระนี้ไม่เจ็บตัว

ปัญหาใหญ่สำหรับคู่รักที่กำลังจะซื้อบ้านคือ กลัวว่าซื้อมาแล้วเกิดปัญหาผ่อนต่อไม่ไหวบ้างล่ะ หรือกลัวหมุนเงินไม่ทันบ้างล่ะ เพระถ้าปัญหาเหล่านี้เกิดนอกจากจะโดนยึดบ้านไปอย่างน่าเสียดายแล้ว ยังโดนขึ้นบัญชีดำอีกต่างหาก ถ้าใครที่ไม่อยากประสบปัญหาเหล่านี้ แพรวเวดดิ้งมีทริคง่ายๆ สำหรับวางแผนซื้อ เรือนหอ มาฝาก รับรองว่าได้บ้านสวยแบบที่ยังคุมเงินในกระเป๋าได้

1. ตรวจเช็ครายรับรวมของสองคน

1

สิ่งแรกที่คุณทั้งคู่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกคือรายรับทั้งหมดของคุณสองคน มีอยู่เท่าไหร่และตกลงกันให้ลงตัวว่าค่าผ่อนบ้านจะจ่ายยังไง ใครเป็นคนดูแลอาจจะเอาเงินของทั้งคู่มารวมกันแล้วช่วยกันผ่อนบ้าน หรือถ้าคุณตกลงกันว่าจะให้รับผิดชอบค่าบ้านเพียงคนเดียว อีกคนก็ควรช่วยดูแลค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยนะ จะได้ช่วยกันแบ่งเบา

2. ตั้งงบประมาณในการผ่อนชำระ

2

เมื่อคุณรู้รายรับทั้งหมดของครอบครัวแล้วลำดับต่อไปคือ ดูว่าในแต่ละเดือนมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เมื่อชำระทุกสิ่งแล้วมีเงินเหลือเท่าไหร่ โดยคุณอาจจะตั้งเงินที่เหลือมาเป็นงบสำหรับผ่อนบ้านทั้งหมดเลยหรือจะแบ่งส่วนออกมาก็แล้วแต่คุณจะตกลงกับคู่ของคุณเลยจ้า

3. จับคู่บ้านกับงบประมาณให้เหมาะ

3

อย่างที่รู้ๆ กันว่าบ้านเป็นสิ่งที่มีราคาสูง สำหรับคู่ไหนที่มีงบประมาณจำกัด การเลือกที่อยู่อาศัยประเภททั้งแบบ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม หรือแม้แต่คอนโดมิเนียม ในโครงการที่ราคาไม่สูง ก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ทั้งนี้บ้านในแต่ละแบบก็มีราคาที่ไม่เท่ากัน โดยปกติแล้วบ้านเดี่ยวจะมีราคาสูงกว่าบ้านแบบอื่นๆ อยู่แล้ว เนื่องจากมีพื้นที่มากกว่า อีกทั้งขนาดของบ้านและชื่อเสียงของโครงการก็เป็นสิ่งที่ทำให้บ้านมีราคาแพงได้เหมือนกัน คุณควรจะดูว่างบฯ ที่คุณมีนั้น สามารถจ่ายค่าบ้านในระดับไหนได้

4. ทำเลที่ตั้ง…มีผลต่อการคุมงบ

เรือนหอ

นอกจากชนิดของบ้านแล้ว ทำเลก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่มีผลกับราคาบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าที่ดินใจกลางเมืองยังไงก็ต้องแพงกว่าที่ดินนอกเมือง คุณอาจจะเลือกหมู่บ้านแถวชานเมืองที่มีราคาถูกกว่าแทนก็สามารถช่วยประหยัดงบได้ไม่น้อยนะจ๊ะ แต่ทั้งนี้คุณจะต้องเลือกทำเลที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการและวิถีชีวิตของคนในครอบครัวคุณด้วย โดยอาจจะยึดจากการเดินทางไปทำงานและระบบคมนาคมเป็นหลัก ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่จะตามมาได้

5. ประหยัดงบอีกทางด้วยการเลือกบ้านที่พร้อมให้เข้าอยู่

5

สำหรับทริคสุดท้าย แพรวเวดดิ้งขอแนะนำว่าการเลือกซื้อบ้านแบบพร้อมเข้าอยู่ ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้คุณประหยัดเงินได้ไม่น้อย เนื่องจากบ้านแบบนี้มักจะมาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์แต่งบ้านบางส่วน เช่น มีแอร์ให้ 2 ตัว มีเฟอร์นิเจอร์แถมบ้าง ทำให้คุณสามารถลดค่าใช้จ่ายสำหรับส่วนตรงนี้ลงไปได้

สำหรับใครที่ต้องกู้ธนาคาร แพรวเวดดิ้งขอแนะนำว่าควรจะมีเงินสำรองสำหรับใช้ดาวน์บ้านอย่างน้อย 10% ของราคาบ้าน รวบไปถึงการเลือกระยะเวลาผ่อนชำระก็มีผลต่อค่างวดที่ต้องจ่าย แน่นอนว่าใครอยากหมดเร็วก็ต้องยอมที่จะจ่ายทีละมากๆ กลับกันใครที่เลือกจ่ายทีละน้อยๆ ก็จะต้องแลกกับระยะเวลาที่นานขึ้น อีกทั้งคุณจะต้องไม่ลืมที่จะเก็บเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับอนาคตไว้ด้วยล่ะ ไม่ใช่มีเงินเท่าไหร่ทุ่มจ่ายค่าบ้านหมด แบบนั้นเราว่ามันไม่โอเคนะจ๊ะ

นี่คือ 5 ทริคง่ายๆ ที่แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้ลองทำตามกันดูนะจ๊ะ เผื่อว่าจะสามารถช่วยให้คุณได้เรือนหอในราคาที่พอใจ ไม่ทำให้กระเป๋าฉีกและไม่เจอปัญหาโดนยึดบ้านเนื่องจากหมุนเงินไม่ทันอย่างแน่นอน

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ภาพ : www.chicagotribune.com, chinnlaw.com, ghanahouseplans.com, www.slate.com, fegelia.com, c1styourvoiceblog.com

ผิดไหม? ถ้าเจ้าสาวจะเซย์เยสกับ ชุดแต่งงาน ชุดแรกที่เจอ!!

เมื่อได้เวลาออกตามหาชุดเจ้าสาว แบบชุดแต่งงานก็มีประมาณร้อยรูป!! บวกกับลิสต์ร้าน ชุดแต่งงาน และดีไซเนอร์ที่ยาวเป็นหางว่าว!! และแน่นอนว่าช่วงเวลาวันหยุดว่าที่เจ้าสาวจะไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะพวกเธอจะตระเวน ลอง ลอง ลอง ลองชุดแต่งงานเป็นว่าเล่น แพรว wedding กลัวว่าเจ้าสาวจะเหนื่อยจนหมดแรงไปซะก่อน เลยมีทริคเด็ดมาแชร์ว่า ไม่ผิดหรอกนะหากเจ้าสาวจะตัดสินใจเลือกชุดแต่งงานชุดแรกที่เจอเพียงแค่เพิ่งเซอร์เวย์ไปได้แค่ร้านเดียวเท่านั้น เพราะเรามีเหตุผลมาหักล้างความรู้สึกนั้นของเจ้าสาว ทำไมน่ะเหรอ ไปหาคำตอบกัน

ก่อนอื่นควรตั้งเป้าหมายก่อนออกไปหาชุดแต่งงาน

ค้นหาสไตล์ ตั้งงบประมาณ และหาข้อมูลชุดแต่งงานของตัวเอง จะทำให้การเลือกชุดแต่งงานง่ายที่สุด หากเจ้าสาวสามารถระบุสไตล์ของตัวเองได้อย่างชัดเจน ว่าคุณเป็นคนแบบไหน เช่น เป็นเจ้าสาวสายหวาน เปรี้ยวสุดพลัง เป็นสาวโบโฮสุดชิล หรือเป็นเจ้าสาวที่ต้องอินเทรนด์สุดๆ การโฟกัสสิ่งนี้ดีกว่าที่เจ้าสาวจะมายืนมองตัวเองหน้ากระจกว่าคุณจะดูสวยที่สุดในชุดแบบไหน

จากนั้นก็แค่มองหาชุดแต่งงานที่ไม่เกินงบประมาณที่เจ้าสาวตั้งไว้ (เข้มแข็งเข้าไว้อย่าหวั่นไหวนะคะเจ้าสาว!!) ซึ่งก่อนที่เจ้าสาวจะเดินเข้าร้านชุดต้องแน่ใจก่อนนะคะว่า คุณได้ตั้งงบประมาณเอาไว้เรียบร้อยแล้ว

เพราะฉะนั้นการทำการบ้านก่อนเข้าร้านชุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ว่าที่เจ้าสาวอาจจะคิดภาพในใจว่าได้ชุดแต่งงานแบบไหน โดยอาจหาภาพชุดแต่งงานที่อยากได้จากอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่การมีรูปภาพรายละเอียดต่างๆ ที่เจ้าสาวชื่นชอบก็ยังได้ และที่สำคัญอาจรีเช็กสักนิดว่าร้านชุดแต่งงานที่เจ้าสาวจะเข้าไปนั้นมีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์หรือมีจุดเด่นที่เจ้าสาวชื่นชอบหรือตรงกับสไตล์ที่เจ้าสาวอยากได้หรือไม่ รวมไปถึงเช็กราคาด้วยว่ามีชุดแต่งงานที่ไม่เกินงบที่คุณได้ตั้งไว้หรือเปล่า แต่ละร้านมีเรทราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ เหมาะสมกับงบประมาณที่เจ้าสาวตั้งไว้หรือไม่ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเข้าไปให้เสียเวลาและเสียใจว่าชุดแพงจัง

และไม่แนะนำให้เจ้าสาวรีบหาชุดแต่งงานก่อนที่จะได้วันและสถานที่นะคะ เพราะทั้งสองสิ่งล้วนมีความสัมพันธ์กับชุดเจ้าสาว อย่างเช่น วันแต่งงานจะเป็นตัวกำหนดการทำงานของร้านชุดหรือดีไซเนอร์ ส่วนสถานที่จัดงานแต่งงานจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบหรือสไตล์ของชุดเจ้าสาวได้เช่นกัน

เพราะฉะนั้นหัวใจหลักสำคัญๆ ก่อนที่จะเลือกชุดแต่งงานก็คือ วันแต่งงาน สถานที่จัดงานแต่งงาน และงบประมาณที่มี

เข้าไปลองชุดแต่งงานตามร้านต่างๆ แบบพอดีๆ

1-2 ร้านเป็นจำนวนที่พอดีที่จะทำให้ว่าที่เจ้าสาวสามารถตัดสินใจเลือกชุดแต่งงานที่ถูกใจได้มากที่สุด  ซึ่งถ้าหากว่าที่เจ้าสาวหาข้อมูลและได้ลองเข้าไปเยี่ยมชมชุดแต่งงานของทางร้านแล้ว (ไม่ว่าจะเดินทางไปด้วยตัวเองหรือชมผ่านทางออนไลน์) และพบว่าร้านดังกล่าวมีชุดแต่งงานที่เจ้าสาวกำลังมองหาอยู่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่เจ้าสาวจะนำข้อมูลเหล่านั้นมาตัดสินใจว่าชุดไหนของร้านใดที่ใช่ตัวคุณมากที่สุด เพราะยิ่งเจ้าสาวเข้าร้านชุดมากเท่าไหร่ การตัดสินใจก็ยากขึ้นเท่านั้น

ชุดแต่งงาน

ถึงเวลาหยุดเดินสายลองชุดแต่งงานสักที

เมื่อเจ้าสาวได้เจอชุดแต่งงานที่คุณคิดว่า ไม่สามารถจะตัดทิ้งจากตัวเลือกได้ ซึ่งนี่แหละค่ะคือสัญญาณที่ดีว่าชุดนี้อาจจะเป็นชุดแต่งงานที่ใช่สำหรับคุณก็ได้ ซึ่งเจ้าสาวหลายคนมักจะคิดว่าไม่ควรจะรีบร้อนตัดสินใจเลือกชุดแต่งงานชุดแรกที่เจอ แต่ถ้าหากคุณได้ลองชุดแต่งงานชุดนั้นแล้วพบว่าทั้งรูปแบบของชุด, เนื้อผ้า และช่วงเนคไลน์ นั้นไม่ว่าจะหมุนซ้ายหมุนขวาคุณก็รู้สึกมั่นใจว่าฉันสวยเหลือเกินในชุดนี้ เท่านี้คุณก็สามารถจำกัดตัวเลือกลงได้แล้ว และนี่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าคุณสามารถที่จะเซย์เยสกับชุดแต่งงานชุดนี้ได้แม้จะเป็นชุดแรกที่คุณเพิ่งได้ลองก็ตาม

ซึ่งการทำการบ้านเกี่ยวกับดีไซเนอร์และร้านชุดแต่งงานสำหรับเจ้าสาวนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการพุ่งตัวไปหาชุดแต่งงานที่ใช่ได้อย่างรวดเร็วและไม่ไขว้เขว้ และสิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับเจ้าสาวคือการเปิดใจยอมรับฟังคำแนะนำจากมืออาชีพที่เขาพร้อมที่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณเสมอ

หรือนี่คือช่วงเวลาสุดพิเศษที่ได้พบกับชุดแต่งงานในฝันแล้ว!

ถ้าเจ้าสาวสวมชุดแต่งงานชุดดังกล่าวแล้วรู้สึกมั่นใจ และเห็นภาพตัวเองในชุดนั้นยืนอยู่ในงานแต่งงานและอยู่ในภาพถ่าย และมีความรู้สึกเสียดายหากจะไม่ได้ใส่ชุดนี้ นั่นแหละคือความรู้สึกว่าคุณอาจจะต้องการชุดนี้จริงๆ ซึ่งแน่นอนว่าการตัดสินใจเลือกชุดแต่งงานชุดแรกที่เจอเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ แต่ยิ่งหามากเท่าไหร่ความสับสนและตัดสินใจยากก็มากขึ้นเท่านั้น เพราะการสวมชุดแต่งงานที่มากเกินไปจะเริ่มทำให้ว่าที่เจ้าสาวแยกแยะหรือจดจำดีเทลที่สำคัญของแต่ละชุดไม่ได้

และอย่าตัดสินใจเลือกจากรูปถ่ายหากคุณไม่ได้ไปลองชุดนั้นด้วยตัวเอง เพราะชุดแต่งงานที่สวยสมบูรณ์แบบนั้นจะต้องพอดีกับรูปร่างเจ้าสาว และแน่นอนจะต้องเข้ากับเมคอัพและทรงผมที่เจ้าสาวจะทำในวันแต่งงานด้วย แต่ๆ..เราไม่ได้ให้คุณแต่งหน้าทำผมจัดเต็มไปลองชุดแต่งงานนะคะ เพียงแค่ลองแต่งหน้าอ่อนๆ เติมลิปสติกเฉดสีที่ใกล้เคียงกับเฉดสีที่คุณจะเลือกใช้ในวันแต่งงาน และเกล้าผมหลวมๆ ไปลองชุดแต่งงานก็พอ

สุดท้ายการตามหาชุดแต่งงานก็เหมือนการที่คุณตัดสินใจเลือกผู้ชายสักคนมาเป็นคู่ชีวิตนั่นแหละค่ะ เพราะอาจจะมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่ถ้าหากคุณถูกใจสิ่งหนึ่งสิ่งใดเข้าแล้วก็ไม่จำเป็นที่จะมองหาสิ่งอื่นอีก จริงไหมคะ ทำตามหัวใจเรียกร้องนั่นแหละดีที่สุด

Read More : 4 ข้อเจ้าสาวห้ามหลุดเมื่อถึงเวลาลองชุดแต่งงาน!

Cr. foreverbride.com, brides.com