6 เรื่องสำคัญที่ต้องเตรียมการไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มวางแผนจัดงานแต่งงาน

หลายครั้งที่ว่าที่บ่าว-สาวเตรียมงานด้วยตัวเองโดยที่ยังไม่ได้เคลียร์กับผู้ใหญ่ในเรื่องต่างๆ ให้ชัดเจน จนทำให้เกิดความไม่เข้าใจ เพราะลืมนึกไปว่างานแต่งของเราก็เป็นวันสำคัญของท่านด้วยเช่นกัน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น แพรวเวดดิ้งจึงได้จัดเช็กลิสต์เรื่องที่ต้องเคลียร์ใจกับครอบครัวให้ชัดเจน ก่อนที่จะเริ่ม วางแผนจัดงานแต่งงาน มาฝาก หากทำตามนี้คุณจะไม่ต้องเสียเงินฟรีหรือทะเลาะกับพ่อแม่ให้เสียใจอีกต่อไป

 

1. เลือกวันแต่งงานอย่างไร
เรื่องสำคัญที่ต้องสรุปให้ได้เป็นอันดับแรกก่อนเตรียมงาน เพราะการกำหนดวันที่แน่ชัดจะช่วยให้บ่าว-สาวนำไปใช้ในการกำหนดเดดไลน์เรื่องต่างๆ ได้อย่างชัดเจน

  • ตกลงให้แน่ชัดว่าจะใช้ฤกษ์ดีหรือฤกษ์สะดวก เพื่อที่บ่าว-สาวจะได้เคลียร์ตารางชีวิตตัวเองได้ถูก
  • มอบหมายให้คนไปดูฤกษ์แค่คนเดียว เพื่อลดความสับสนวุ่นวายว่าฤกษ์ของใครจะชนะเลิศ
  • หากบ่าว-สาวมีงบหนาอาจจะจัดทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวกไปเลยก็ได้ เช่น ฤกษ์ดีสำหรับงานพิธีไทยที่แต่ละพิธีการมักเน้นฤกษ์ยามที่เป็นมงคล

2. ใครจ่ายส่วนไหน
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนให้ดีก่อนเริ่มเตรียมงานแต่ง คือเรื่องงบประมาณที่บ่าว-สาวจะต้องจ่ายในการจัดสรรเรื่องต่างๆ

  • ตั้งงบประมาณที่จะใช้ในการจัดงานขึ้นมาก่อน โดยคิดเผื่อขาดเผื่อเหลือไว้ด้วยว่าจะสามารถเกินจากงบที่ตั้งไว้ได้กี่เปอร์เซ็นต์
  • อย่าเหนียมอายที่จะถามพ่อแม่ว่าท่านจะช่วยซัพพอร์ตเรื่องเงินๆ ทองๆ หรือไม่
  • แยกงบประมาณออกเป็น 2 ก้อน คืองานเช้ากับงานเย็น
  • พูดคุยให้แน่ชัดว่าฝ่ายไหนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายงานใด เช่น ฝ่ายเจ้าสาวรับผิดชอบงานเช้า ส่วนงานเย็นเป็นทาง ฝ่ายเจ้าบ่าว เป็นต้น
  • หากแบ่งกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายงายเช้ากับงานเย็น ต้องตกลงกันด้วยว่าซองในงานนั้นจะเป็นของทางฝั่งที่เตรียมงานหรือจะให้ว่าที่บ่าว-สาวเพื่อเป็นเงินขวัญถุง
  • สอบถามฝ่ายชายให้ชัดเจนว่ามีเงินสดสำหรับใช้ในการจัดงานเท่าไหร่ มีเพียงพอหรือไม่ หรือมีแต่สินทรัพย์ เพื่อจะได้วางแผนการใช้จ่ายได้อย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องเจ็บตัวว่าต้องขายรถจำนองบ้านเพื่อมาจัดงาน

3. เลือกสถานที่จัดงานอย่างไร
สถานที่จัดงานแต่งงานถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเสริมธีมงานของบ่าว-สาวให้ออกมาดูดีและเป็นสิ่งที่บ่าว-สาวจะต้องรีบคิดเพื่อที่จะจองคิวไว้แต่เนิ่นๆ เพราะอย่าลืมว่าวันฤกษ์ดีๆ ไม่ได้มีแค่คุณคู่เดียวที่แต่งงาน

  • ตั้งธีมงานก่อนเลือกสถานที่ เพราะสถานที่จะช่วยส่งเสริมธีมงานของบ่าว-สาวได้เป็นอย่างดี เช่น หากเป็นธีมงานปาร์ตี้ชิลๆ เน้นความเป็นกันเองก็อาจเลือกเป็นร้านอาหารริมน้ำหรือสวนสวย แต่ถ้าเป็นธีมหรูหราอลังการอาจเลือก เป็นห้องบอลรูม เป็นต้น
  • นำจำนวนแขกและลักษณะของแขกโดยส่วนมากมาพิจารณาในการเลือกสถานที่ด้วย จะได้มุ่งไปยังสถานที่ที่ สามารถรองรับแขกได้เพียงพอและเข้ากับไลฟ์สไตล์ของแขกส่วนมาก เช่น หากแขกผู้ใหญ่เยอะ อาจต้องหาสถานที่ที่มีขนาดใหญ่และโต๊ะ-เก้าอี้เพียงพอ
  • สะดวกต่อการเดินทางหรือไม่ เพราะถ้าหากสถานที่สวยตรงใจแต่การเดินทางลำบากซับซ้อน ก็อาจจะทำให้แขกชั่งใจในการเดินทางมางานแต่งของบ่าว-สาวได้เช่นกัน

วางแผนจัดงานแต่งงาน

4. แบ่งหน้าที่ในการรับผิดชอบงานอย่างไร
ไม่ใช่แค่บ่าว-สาวเท่านั้นที่ตื่นเต้นไปกับวันแต่งงาน แต่พ่อแม่  ครอบครัว และบรรดาเพื่อนฝูงคนสนิทก็ตื่นเต้นไม่แพ้คุณ และอยากจะมีส่วนร่วมในการให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ ด้วย

  • ก่อนอื่นตัวบ่าว-สาวต้องแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบกันเองให้ชัดเจนเสียก่อน
  • จงเปิดใจรับความช่วยเหลือและความเอื้อเฟื้อในรูปแบบต่างๆ
  • แบ่งหน้าที่ของผู้ที่อยากให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ อย่างชัดเจน เพื่อลดปัญหาการทำางานซ้ำซ้อน
  • ให้ความไว้ใจกับคนที่จะมารับผิดชอบในแต่ละเรื่อง โดยบ่าว-สาวไม่ควรก้าวก่าย หากได้มอบหมายหน้าที่นั้นให้แล้ว

5. แขกส่วนใหญ่เป็นใคร
อย่าลืมว่างานแต่งไม่ได้มีแค่แขกของคุณอย่างเดียว แต่ยังมีแขกของคุณพ่อคุณแม่ด้วย  เพราะฉะนั้นการพูดคุยกันเพื่อกำหนดทิศทางการเชิญจำนวนแขก และลักษณะของแขกที่มาจึงเป็นเรื่องสำคัญ

  • แยกกันลิสต์รายชื่อหรือจำนวนแขกคร่าวๆ ให้ชัดเจนว่าบ่าว-สาว พ่อ แม่ หรือคนใกล้ชิดในครอบครัวน่าจะเชิญใครมางานแต่งบ้าง
  • หากจำนวนแขกของพ่อแม่เยอะกว่า ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นแขกแนวไหน เช่น ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจหรือเป็นข้าราชการผู้ใหญ่ เพื่อที่จะได้มองหาสถานที่และธีมงานให้ไม่ขัดกับแขกส่วนใหญ่ในงานมากเกินไป

6. ธีมงานในฝันจะเป็นไปได้ไหม
ธีมงานถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยกำหนดภาพลักษณ์ให้งานแต่งของบ่าว-สาวออกมาดูดี และยังบ่งบอกถึงสไตล์และตัวตนของบ่าว-สาวได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

  • หากมีสัดส่วนแขกผู้ใหญ่ค่อนข้างเยอะ อาจต้องคิดธีมงานกลางๆ ที่สนุกแต่พอดี เพื่อซัพพอร์ตแขกผู้ใหญ่ด้วย
  • คุยธีมงานกับพ่อแม่ให้ชัดเจนตั้งแต่แรก (ในกรณีที่แขกของคุณเยอะกว่าอาจเป็นข้อต่อรองในการช่วยให้จัดธีมงานที่ต้องการได้ง่ายขึ้น)
  • หากธีมงานสนุกเกินไปอาจจะต้องเตรียมมองหาผู้ใหญ่ในครอบครัวที่มีความคิดนำสมัยมาช่วยพูด
  • พูดคุยกับพ่อแม่อย่างประนีประนอมด้วยเหตุผล อย่าเถียงเพื่อเอาชนะ บอกท่านว่าวันนี้เป็นวันสำคัญในชีวิตของคุณ และคุณอยากจะมีความทรงจำาในวันนี้อย่างไร เชื่อเถอะว่ายังไง ผู้ใหญ่ก็ต้องใจอ่อน
  • เจอกันครึ่งทาง ด้วยการคงธีมงานที่บ่าว-สาวต้องการ แต่ก็เสริมในสิ่งที่ผู้ใหญ่ท่านต้องการจริง ๆ ด้วย

Read More >> คลิกเลย >> เช็กก่อนเลือก 7 สถานที่แต่งงาน จุดไหนขายได้จุดไหนต้องระวัง

ภาพ :  livvyland.com, ledieze.com

ไอเดียแหวนแต่งงาน เทรนด์แหวนหมั้นปี 2020 หลากสไตล์สุดปิ๊ง

ไอเดียแหวนแต่งงาน จากแพรวเวดดิ้ง การันตีความเก๋

คู่รักที่ยังลังเลเลือกแบบแหวนหมั้นกันไม่ได้สักที แพรวเวดดิ้งมี ไอเดียแหวนแต่งงาน ที่เป็นเทรนด์ในปี 2020 มาฝาก รับรองว่าแบบหนึ่งในนี้จะต้องถูกใจแน่นอน หรือไม่แน่อาจจะมีแบบที่ตรงใจกับที่คุณและคนรักต้องการก็ได้น้า

แหวนตัวเรือนทองคำ

ไอเดียแหวนแต่งงาน

แหวนตัวเรือนทองคำจะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในปีหน้า แหวนสไตล์นี้เหมาะสำหรับว่าที่บ่าวสาวที่อยากได้ลุคเรียบง่ายแต่ดูเก๋ และยังสามารถสวมใส่ได้กับทุกชุดและในทุกๆ โอกาสอีกด้วย

มีรูปแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

ไอเดียแหวนแต่งงาน

ในปี 2020 เราจะได้เห็นการเปลี่ยนโฉมของรูปแบบแหวนแต่งงานที่มีความน่าสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของบ่าวสาวชาวมิลเลนเนียล และบ่าวสาว Gen Z ทั้งหลายที่กำลังจะแต่งงาน ซึ่งเหล่าผู้บริโภคยุคใหม่กลุ่มนี้มองหาแหวนแต่งงานที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น แหวนวงนั้นจะต้องบอกเล่าเรื่องราวของพวกเขาได้ และให้ความสำคัญเกี่ยวกับวิธีการทำและที่มามากกว่าดีไซน์ที่สวยงาม

ดีไซน์แตกต่างมีความเฉพาะตัว

ว่าที่บ่าวสาวในปีหน้าจะมองหาสิ่งที่แตกต่างออกไป ไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ แต่จะมองหาสิ่งที่สะท้อนความเป็นตัวตนของพวกเขาได้มากกว่า สำหรับในปี 2020 เทรนด์แหวนแต่งงานจะมีดีไซน์ที่แตกต่างมากขึ้น เช่น แหวนแต่งงานประดับเพชรแฟนซี, แหวนแต่งงานประดับมรกต, แหวนแต่งงานประดับเพชรสีดำ (black diamonds) หรือแหวนแต่งงานประดับอัญมณีอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพชร เป็นต้น

แหวนแต่งงานแบบ Wedding Bands

หากบ่าวสาวอยากได้แหวนแต่งงานที่มีความคลาสสิคแนะนำให้มองหาตัวเรือนที่มีดีไซน์เรียบง่ายเข้าไว้ ซึ่งปีหน้าตัวเรือนของแหวนแต่งงานจะมีความยูนีคเฉพาะตัวของผู้สวมใส่แต่ละคนมากขึ้น โดยเฉพาะแหวนแต่งงานแบบ wedding  bands จะได้รับความนิยมมากกว่าแหวนแต่งงานแบบเพชรชู หรือแบบ Solitaire ในปี 2020 มีแนวโน้มว่าเหล่าคู่รักจะต้องการแหวนแต่งงานที่สามารถบ่งบอกถึงเรื่องราวของพวกเขาได้ มีความเชื่อมโยงกับผู้ใส่ที่ทำให้รู้สึกได้ถึงความพิเศษของแหวนแต่งงานของพวกเขา

แหวนแต่งงานประดับเพชร 3-5 เม็ด

เทรนด์นี้มาจากแหวนแต่งงานของเมแกน มาร์เคิล ซึ่งในปี 2020 เราจะได้เห็นว่าแหวนแต่งงานที่ประดับเพชรมากกว่า 1 เม็ดขึ้นไปจะได้รับความนิยมมากขึ้น โดยเฉพาะแหวนแต่งงานประดับเพชร 3 – 5 เม็ดขึ้นไปจะเป็นตัวเลือกที่สาวๆ มองหา ซึ่งแหวนแต่งงานแบบนี้มักจะปกปิดข้อนิ้วของผู้สวมใส่ และเหมาะสำหรับการดีไซน์ให้เป็นแหวนแต่งงานแบบเซต (stacked) หรือแหวนแต่งงานแบบ wedding bands

เพชรแอชเชอร์ (Asscher Cut Diamonds)

เทรนด์ของเพชรทรงนี้น่าจะมาจากซีรี่ส์เรื่อง Downton Abbey ซึ่งสำหรับเจ้าสาวที่กำลังมองหาแหวนแต่งงานสไตล์วินเทจการเลือกเชฟของเพชรเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในปีหน้าเพชรแอชเชอร์จะกลับมาได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่เจ้าสาว เพชรแอชเชอร์เป็นเพชรที่มีดีไซน์แบบศิลปะในยุค Art Deco แต่จะดูมีความทันสมัยมากขึ้นหากอยู่บนตัวเรือนที่มีดีไซน์แบบอ่อนหวาน หรือตัวเรือนที่มีความเรียบง่าย

เพชรแอชเชอร์ เป็นอีกตัวเลือกที่ดูดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพชรเอมเมอรัล เพราะรูปทรงเพชรมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่เพชรแอชเชอร์จะมีหน้ากว้างเล็กกว่า และมีลูกเล่นขั้นบันไดที่ลึกกว่า จึงมีความเล่นไฟในตัวเพชรได้ดีกว่า

เพชรรูปทรงแฟนซี

ในปีหน้าเพชรรูปทรงแฟนซีต่างๆ จะได้รับความนิยมมากกว่าเพชรทรงกลม โดยเฉพาะเพชรทรงหยดน้ำ และเพชรทรงมาร์คีส์ที่จะได้รับความนิยมมากกว่าเพชรทรงอื่นๆ รวมไปถึงดีไซน์ของแหวนจะเน้นให้เป็นเพชรประดับอยู่ตรงกลาง เพื่อโชว์รูปทรงของเพชรได้อย่างเต็มตา

>> ดูแบบแหวนแต่งงานและเครื่องประดับเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ ืคลิกเลย! <<

cr: brides.com, pinterest.com

ฤกษ์แต่งงานปี 2563 พร้อมสารพัดสิ่งที่บ่าวสาวต้องเตรียม

พร้อมเสิร์ฟ ฤกษ์แต่งงานปี 2563 รู้แล้วก็รีบจัดคิวตัวเองกันได้เลย

หลายคู่ที่เพิ่งเซย์เยสเรื่องแต่งงานกันไป หรือคู่ไหนที่ยังหาฤกษ์ที่ถูกใจไม่ได้สักที วันนี้ แพรว wedding ได้รวม ฤกษ์แต่งงานปี 2563 มาให้ว่าที่บ่าวสาวได้อัพเดทกันแล้ว แถมยังมาในรูปปฏิทินสวยงามน่ารักไว้เซฟส่งไปให้ผู้ใหญ่ได้ช่วยกันเลือกแบบง่ายๆ อีกด้วย นอกจากนี้เรายังมีสารพัดเรื่องต่างๆ ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรู้เพื่อใช้ในการเตรียมงานแต่งงานมาฝากด้วย อย่ารอช้า ไปดูกันดีกว่า ฤกษ์ดีที่เราเตรียมมานั้นจะตรงกับวันที่คุณและครอบครัวเล็งไว้แล้วหรือไม่ 

>> คลิกที่รูป 1 ที แล้วเซฟเก็บกันไว้ได้เลย 

พิธีแต่งงานไทย ต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้พร้อม

เตรียมแจกได้เลยกับ ผังขบวนขันหมาก รู้ไว้ไม่งงหน้างาน
เช็กลิสต์พิธีเช้างานไทยสิ่งไหนต้องมี ควรมี และไม่จำเป็นต้องมี
พิธีแต่งงานแบบไทย พร้อมไทม์ไลน์ของแต่ละพิธีแบบครบถ้วน
ลำดับพิธีสงฆ์ในงานแต่งแบบไทย จัดมาให้แบบเป๊ะทุกขั้นตอน
ขันหมากตามฐานะ งามตรงจิตงบตรงใจในราคา 3,000 ยันหลายหมื่น

สารพัดความเชื่อในงานแต่งไทย ที่บ่าวสาวรู้ไว้ก็ดี

เรียงลำดับอาวุโสและคนสำคัญในงานแต่งแบบนี้ไม่โดนเม้า
อุปกรณ์ใน พิธีสงฆ์ ที่บ่าวสาวต้องรู้เพื่อการเตรียมงานได้เป๊ะไม่มีตกหล่น
สารพัดวิธีดูแล พานขันหมาก ให้สดสวยมดไม่ขึ้นก่อนใช้งานจริง
ไม่อยากตกเป็นรองต้องอ่าน! 6 ความเชื่อในวันแต่งงานที่บ่าวสาวต้องระวัง
อาหารงานแต่งเมนูไหนดี เมนูไหนร้าย บ่าวสาวควรรู้ไว้เพื่อเสริมมงคล

สถานที่แต่งงาน และถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแบบไหนที่ใช่คู่คุณ ตามไปเช็กเลย

10 สวนสาธารณะ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งฟรี (แต่ต้องหาช่างภาพไปเองนะจ๊ะ)
12 สถานที่ถ่ายสวยงามอย่างไทย เหมาะกับการถ่ายพรีเวดดิ้งชุดไทยสุดๆ
8 อย่างขอให้เช็คและเห็นกับตาเมื่อออนทัวร์สถานที่จัดงานแต่งงานในฝัน
รวม 10 สถานที่จัดงานแต่งงานแบบไทยในบรรยากาศอินเตอร์
อัพเดทราคา 8 โรงแรมจัดงานแต่งงาน ติดรถไฟฟ้า BTS

สารพัดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่าวสาวควรรู้

ทรีตเม้นต์ เสริมความงามเจ้าสาวก่อนแต่งงาน อันไหนควรทำเมื่อไหร่ มาดูกัน
10 วิธีตัดต้นทุนงานแต่งงานแบบได้ผลชะงัดจากปากคำบ่าวสาวตัวจริง
9 เทคนิคจัดงานแต่งงานให้ได้ดั่งใจ บ่าวสาวมีเวลาแค่ไหนก็รอด
รวม 10 ร้าน Catering เจ้าเด็ด พร้อมราคาบ่าวสาวรีบเช็กดูด่วน
แนะนำ 5 ช่างภาพงานแต่ง ใน 5 สไตล์ที่แตกต่างและน่าจับตามอง!

จัดงานแต่งเล็กๆ แบบ Small Wedding ช่วงโควิด-19 ยังไงให้โมเม้นต์ดีๆ ยังมีอยู่

ไอเดีย จัดงานแต่งเล็กๆ แบบ Small Wedding ไซส์กะทัดรัดแต่อบอุ่น

แพรวเวดดิ้งเชื่อว่ามีคู่แต่งงานไม่น้อยที่ต้องเลื่อนงานแต่งออกไปเพราะเจอพิษโควิด – 19 ยิ่งคู่ไหนที่ได้ฤกษ์ดีว่าต้องแต่งภายในปี 2020 ด้วยแล้วยิ่งเครียดหนัก เพราะอาจเตรียมการหลายอย่างไว้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นบางคู่ก็ยึดฤกษ์ดี จัดงานแต่งเล็กๆ ภายในครอบครัวภายใต้คอนเซ็ปต์แบบ Small Wedding โดยไม่ลืมมีระยะห่างแบบ Social Distancing

แต่คู่ไหนที่ไม่ได้ยึดฤกษ์ดี ยอมเลื่อนงานแต่งออกไปปลายปี 2020 หรือปีหน้า 2021 แต่งงานแบบ Small Wedding ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ นั่นคือ ลองเปลี่ยนจากการจัดงานสเกลใหญ่ มาเป็นงานที่สเกลเล็กลง ซึ่งแพรวเวดดิ้งคิดว่า Small Wedding น่าจะกลายมาเป็นเทรนด์งานแต่งที่เราอาจจะได้เห็นในปี 2021 ก็ได้

และนี่คือไอเดียงานแต่งเล็กๆ สุดอบอุ่นที่ไม่ต้อง so big ก็มีความสุขและสร้างความทรงจำที่ดีให้กับทุกคนได้

1. เลือกสถานที่ที่มีความหมาย

จัดงานแต่งเล็กๆ

เพื่อให้เหมาะกับธีม Small Wedding สถานที่แต่งงานก็ต้องไม่ใหญ่อลังการก็ได้ บ่าวสาวอาจจะลองมองหา สถานที่แต่งงานเล็กๆ หรือร้านอาหารที่สามารถจัดงานแต่งงานได้ ยิ่งถ้าสถานที่แห่งนั้นเป็นสถานที่ที่บ่าวสาวมีสตอรี่ร่วมกันก็ยิ่งดี เช่น สถานที่ที่เป็นเดทแรก สถานที่ขอแต่งงาน เป็นต้น จากนั้นก็ลงมือลิสต์จำนวนแขกให้ครบตามที่สถานที่นั้นๆ กำหนด สุดท้ายอย่าลืมนัดช่างภาพ โดยอาจจะแจ้งให้ช่างภาพทราบตั้งแต่ต้นว่า งานแต่งของคุณเป็นงานขนาดเล็กในสถานที่แบบไหน และมีจำนวนแขกเท่าไหร่ เพื่อที่ช่างภาพจะได้เตรียมทีมงานไปได้เหมาะสมกับสเกลงาน

2. สร้างเซอร์ไพร้ส์ด้วย first look

จัดงานแต่งเล็กๆ

บ่าวสาวชาวไทยอาจจะไม่คุ้นกับคำว่า first look กันเท่าไหร่ แต่บ่าวสาวอินเตอร์เขาอินกับสิ่งนี้กับมากกก first look คือการที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวได้เห็นกันและกันในชุดแต่งงานเป็นครั้งแรกในวันแต่งงาน ซึ่งต่างกับบ่าวสาวชาวไทยที่มักจะจูงมือกันไปเลือกชุดแต่งงานด้วยกันเสมอ ซึ่งแพรวเวดดิ้งคิดว่า ช่วงโควิด-19 ที่ต่างฝ่ายต่างต้องกักตัวและรักษาระยะห่างแบบนี้ จะดีไหม หากคุณสองคนแยกกันไปเลือกชุดแต่งงาน แล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งในวันงานเลย รับรองเลยว่า ช่วงเปิดตัวบ่าวสาว ต่างฝ่ายต่างต้องประทับใจกันและกันแน่ๆ เรียกได้ว่าเป็นการสร้างโมเม้นต์ที่น่าประทับใจในวันแต่งงานได้ดีทีเดียว

3. แขกน้อยของชำร่วยต้องพิเศษ

จัดงานแต่งเล็กๆ

สำหรับบ่าวสาวที่ตอนแรกอาจจะต้องทำของชำร่วยแจกแขกเป็นร้อยชิ้น แต่ถ้าหากเลือกจัดงานเล็กลงมา แขกน้อยลง อาจนำงบที่เหลือมาลงทุนสำหรับของชำร่วยให้แขกสุดพิเศษในวันแต่งงาน เช่น อาจจะเป็น gift bag หรือของชำร่วยที่ครีเอทมาให้เหมาะสมกับแขกแต่ละคน เช่น อาจมีชื่อแขกอยู่บนของชำร่วย เป็นต้น และไหนๆ แขกก็น้อยแล้ว บ่าวสาวลองหาเวลาเขียน thank you cards ด้วยก็ดีนะคะ หรือหากบ่าวสาวต้องจำกัดงบ แพรวเวดดิ้งแนะนำให้ใช้ thank you cards เป็นของชำร่วยไปเลย โดยอาจทำแพ็คเกจจิ้งสวยๆ เช่น ใส่ไว้ในขวดแก้วเล็กๆ หรือซองกระดาษสวยๆ (อันนี้ก็แล้วแต่ความครีเอทและงบของแต่ละคู่นะคะ) ที่สำคัญ thank you cards ต้องเขียนด้วยลายมือตัวเองด้วยล่ะ ผู้รับจะได้รู้สึกว่าคุณทำมันมาจากใจด้วยความขอบคุณจริงๆ รับรองว่าวันแต่งงานของคุณ จะเป็นวันพิเศษของแขกที่ไปร่วมงานแบบลืมไม่ลงด้วยแน่นอน

จัดงานแต่งเล็กๆ

4. จัดโต๊ะแบบลองเทเบิ้ล

จัดงานแต่งเล็กๆ

ยิ่งแขกน้อยก็ยิ่งประหยัดในส่วนต่างๆ ไปได้เยอะ ถ้าหากบ่าวสาวเน้นความเป็นกันเอง ไม่เน้นพิธีรีตอง หรือยึดรูปแบบงานแต่งงานแบบเดิมๆ ลองลงทุนจัดโต๊ะอาหารสวยๆ แบบลองเทเบิ้ลให้ทุกคนได้นั่งร่วมกันไปเลย (อย่าลืมเว้นระยะห่าง social distancing ด้วยล่ะ) โดยไม่จำเป็นต้องมีโต๊ะลงทะเบียน แบ็คดร็อปถ่ายภาพ หรือเวทีให้ยุ่งยากเปลืองงบ สุดท้าย อย่าลืมทำ place card ชื่อแขกให้ตรงตามที่นั่งด้วยนะคะ รับรองว่างานนี้ถึงจะ social distancing แต่ความใกล้ชิดไม่ distancing แน่นอน

ข้อดีของงานแต่งแบบนี้คือ จะทำให้งานของบ่าวสาวอบอุ่นและพิเศษขึ้นแน่นอน

เรียบเรียงจาก stylemepretty.com
ภาพจาก pinterest, pexels

อ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่

สารพัดไอเดียจัดงานแต่งงานเล็กๆ กับเทคนิคที่จัดตามได้แบบไม่ยาก

5 วิธีช่วยว่าที่บ่าวสาวงบน้อยลดค่าใช้จ่ายสถานที่จัดงานแต่งงาน

เช็คก่อนเลือก 7 สถานที่แต่งงาน จุดไหนขายได้จุดไหนต้องระวัง

4 เรื่องสำคัญที่เจ้าสาวต้องพูดคุยกับช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าสาวให้เคลียร์

รายละเอียดยิบย่อยที่ควรพูดคุยกับช่าง แต่งหน้าทำผมเจ้าสาว ให้ชัวร์ก่อนถึงวันงาน

ถึงคิวเจ้าสาวที่ล็อควันแต่งงานไว้เรียบร้อย แถมจองสถานที่ และตัดชุดแต่งงานพร้อมแต่ง ณ ตอนนี้เลย… แต่เดี๋ยวก่อน! จะสวยต้องสวยให้สุดค่ะ อย่าลืมคนสำคัญที่จะมาแปลงโฉมคุณให้สวยที่สุดในวันนี้ นั่นคือ ช่างแต่งหน้าทำผมของคุณเจ้าสาวนั่นเองค่า เตรียมเล็งกันไว้ดีๆ นะคะว่าอยากแต่งหน้าโทนไหน ทำผมทรงอะไร แล้วเลือกช่างที่มีฝีมือการแต่งหน้าทำผมที่ตรงตามสไตล์ของคุณก็จะดีมาก หลังจากนั้นคุณต้องคุยรายละเอียดต่างๆ ที่ค่อนข้างยิบย่อยพอสมควร ดังนั้น มาดูกันหน่อยว่าจะมีเรื่องอะไรบ้างที่ควรพูดคุยกับช่าง แต่งหน้าทำผมเจ้าสาว ให้ดีเสียก่อน ทั้งตัวช่างและตัวคุณเองจะได้เตรียมตัวกันถูกยังไงล่ะคะ มาดูกันเลยยย

แต่งหน้าทำผมเจ้าสาว
ภาพจาก IG : poo_makeup

1. คุยเรื่องวัน / เวลา / สถานที่

อันดับแรกเริ่มจากการล็อคคิวช่างแต่งหน้าทำผมก่อนเลยนะคะ สำหรับคู่ที่ได้ฤกษ์แต่งงานเป็นตอนปลายปี ควรที่จะหาช่างแต่งหน้าทำผมให้ไวที่สุด ต้องทำการจองล่วงหน้าครึ่งปีเป็นอย่างต่ำเลยแหนะ เพราะช่วงปลายปีช่างหลายๆ คนจะมีคิวงานที่ยาวเหยียด ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะทำไมฤกษ์แต่งงานชอบออกกันช่วงนี้ ฮ่าๆ ส่วนคู่ไหที่ได้ฤกษ์งามยามดีเป็นช่วงต้นปีก็จะดีหน่อยค่ะ สามารถจองล่วงหน้าได้ 3-4 เดือน

ในวันจริงการนัดช่างแต่งหน้าทำผม ขึ้นอยู่ตัวช่างว่าสามารถทำงานได้เร็วมากน้อยแค่ไหน หน้าที่ของคุณคือก่อนหน้านั้นให้พูดคุยรายละเอียดเรื่องกำหนดการในพิธี ช่วงเวลาเริ่มงาน สถานที่ที่จัดก็สำคัญเช่นกันนะคะ ซึ่งควรใช้เป็นสถานที่ไพรเวทให้ช่างได้ทำงานอย่างมีสมาธิและสะดวกมากที่สุด เมื่อช่างทราบรายละเอียดของวันงานครบหมดแล้ว ช่างก็จะคำนวณเวลาก่อนทำการนัดแนะกับคุณอย่างชัดเจนอีกครั้ง

2. การมัดจำ

ช่างแต่งหน้าทำผมส่วนใหญ่ใช้วิธีการเก็บเงินมัดจำล่วงหน้าก่อนครึ่งนึงของค่าจ้างทั้งหมด โดยเรทราคาของช่างทำผมแต่งหน้าเจ้าสาวในปัจจุบันจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 5,500 บาท นี่จะเป็นราคาของช่างทั่วไปที่ยังมีประสบการณ์น้อยนะคะ ส่วนช่างมืออาชีพที่มีชื่อเสียงราคาก็จะสูงขึ้นไปตามลำดับ  ส่วนในเรื่องของราคาคุณจำเป็นต้องคุยรายละเอียดกับช่างให้ดี เพราะสิ่งที่คุณจะได้รับจากช่างแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป คำถามหลักๆ เกี่ยวกับเรื่องรายละเอียดที่คุณควรจะได้รับการบริการจากช่างคือ

  • ราคานี้รวมค่าแต่งหน้าทำผมแล้วหรือยัง และรวมอยู่ในค่าแต่งหน้าทำผมของเจ้าบ่าวด้วยหรือไม่?
  • มีการคอยดูแลความเรียบร้อยหน้าผมของเจ้าบ่าวเจ้าสาวตลอดงานหรือไม่?
  • พร๊อพต่างๆ เช่น คอนแทคเลนส์ เครื่องประดับผม ขนตาปลอม ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมไหม?
  • มีการลงผิวที่ตัวให้ด้วยไหม? ถ้าไม่ได้ลงให้ก็ถามเลยค่ะว่า ลงให้ด้วยจะราคาเท่าไหร่? เพราะคุณเจ้าสาวจำเป็นอย่างยิ่งเลยน้าที่ต้องลงแป้งบริเวณที่เผยผิว ไม่เช่นนั้นหน้าลอยไม่รู้ด้วยน้า

3. ก่อนวันงาน 2 อาทิตย์…

ก่อนวันงาน 2 อาทิตย์คุณควรแจกแจงรายเอียดทุกอย่างให้ครบ นอกจากการคอนเฟิร์มเรื่องวัน เวลา และสถานที่แล้ว ต่อไปถึงคราวต้องเขินอายกันหน่อยสำหรับสาวๆ บางคน การถ่ายรูปหน้าสดส่งไปให้ช่าง พร้อมการแจ้งความยาวของผม สีผมในวันงาน เพื่อที่ช่างจะช่วยแนะนำสไตล์ในการทำผมแต่งหน้าให้กับคุณ หรืออาจจะแนบตัวอย่างโทนสีที่การแต่งหน้าที่คุณต้องการ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะว่ามันจะเข้ากับลุคของคุณหรือเปล่า เชื่อใจช่างที่คุณหามาเถอะค่ะ เพราะช่างที่ดีจะต้องเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมให้กับเจ้าสาวเสมอ นอกจากนี้คุณต้องถ่ายรูปชุดที่คุณจะใส่ในวันงานให้กับช่างด้วยนะคะ ช่างจะได้เลือกทรงผม พร๊อพที่จะมาช่วยเสริมราศี และการแต่งหน้าในโทนสีที่เข้ากับชุด รับรองว่าคุณจะกลายเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในงานแน่ๆ ส่วนเจ้าสาวที่จะใส่คอนแทคเลนส์ก็อย่าลืมแจ้งค่าสายตาให้กับช่างของคุณก่อน เพื่อที่ช่างจะได้ไปจัดหาคอนแทคเลนส์ได้ถูกต้อง เพราะในวันนั้นคุณคงอยากเห็นภาพบรรยากาศวันสำคัญในชีวิตได้อย่างชัดเจนที่สุด จริงไหมคะ?

4. การเตรียมตัวก่อนวันแต่งหน้าทำผม

อันนี้เป็นทริคเสริมเล็กๆ น้อยๆ ที่ช่างแต่งหน้ามืออาชีพอย่าง คุณปูเป้ แห่ง MakeUp by Crabby PO อยากจะบอกคุณว่าที่เจ้าสาวทุกคน ถึงสิ่งที่ควรทำก่อนวันจะแต่งหน้าทำผม ได้แก่

  • บอกลักษณะผิวหน้า และเครื่องสำอางที่แพ้หรือส่วนผสมอะไรในเครื่องสำอางที่คุณแพ้ โปรดบอกมาให้หมด
  • สระผม แต่ไม่ต้องลงครีมนวดนะคะ และเป่าผมให้แห้งก่อนคืนวันแต่งหน้า เพื่อที่ผมของคุณจะได้เข้าทรงและเพื่อที่ช่างจะได้ทำงานได้ง่ายขึ้น และการเก็บผมต่างๆ ก็จะไม่ยากมากค่ะ
  • มาร์คหน้าก่อนวันที่จะต้องแต่งหน้า 3 วัน เพื่อให้เครื่องสำอางติดทนอยู่นาน และอย่าลืมบำรุงผิวหน้าระหว่างวันด้วยนะคะ

แต่ถ้าหากคุณยังหาช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าสาวไม่ได้ เลือกไม่ถูก ไม่รู้ด้วยว่าต้องดูจากอะไรบ้าง ลองไปดูขั้นตอนง่ายๆ ที่เราอยากช่วยคุณหาช่างแต่งหน้าให้ทันก่อนวันงาน >> 6 ขั้นตอนในการหาช่างแต่งหน้าทำผม แปลงโฉมเจ้าสาวให้สวยสุดในงานแต่ง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : คุณปูเป้ ช่างแต่งหน้าทำผม – Makeup by Poo

3 ข้อแนะนำ จาก 3 ช่างภาพเวดดิ้งมือโปร รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพงานแต่ง

เมื่อพูดถึงงานแต่งงานแล้ว แน่นอนว่าเป็นงานที่บ่าวสาวหมายมั่นปั้นมือให้ทุกอย่างภายในงานออกมาเพอร์เฟกต์ สมกับที่เป็นงานใหญ่งานมงคลที่จัดขึ้นครั้งเดียวในชีวิต และสิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าการแพลนงานแต่งงานก็คือช่างภาพ ที่จะทำหน้าที่บันทึกช่วงเวลาสำคัญของคู่บ่าวสาวไว้นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบันมี ช่างภาพงานแต่ง มากมายทั้งมือสมัครเล่น และมือโปร ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกช่างภาพมาบันทึกภาพในงานแต่งงาน แพรว wedding ขอนำบทสัมภาษณ์ของ 3 ช่างภาพมือโปร ที่มีผลงานและชื่อเสียงในวงการเวดดิ้งที่จะมากล่าวถึง 3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพ ถ่ายรูปงานแต่งงาน … ว่าที่บ่าวสาวที่อยากได้ภาพสวยปัง ควรอ่านก่อนสักนิดนะคะ

สิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพ

คำแนะนำจากคุณ ราจิตร Loveroomwedding

“ผมมองว่าการทำงานถ่ายภาพงานแต่งงาน มีอยู่สองส่วนใหญ่ๆ ครับ ส่วนแรกคือ ‘การเข้าถึงสถานการณ์ถ่ายภาพได้ถูกต้อง’ ซึ่งมันคือความสามารถและประสบการณ์ของช่างภาพที่มีไม่เท่ากันครับ การเอาตัวเข้าไปให้อยู่ในที่ที่ควรอยู่ ใช้อุปกรณ์กล้องที่ควรใช้ เลือกองค์ประกอบภาพที่ควรเลือก และกดชัตเตอร์ได้ตรงจังหวะที่ควรกดความสามารถนี้จะอยู่ในช่างภาพที่เราเรียกว่าแคนดิทเก่งๆ ครับ อีกส่วนคือ ‘ความสามารถในการแก้ปัญหา’ ช่างภาพหรือทีมช่างภาพที่เราเลือกและจ้างมาแพงๆ นั้น นอกจากจ้างมาถ่ายภาพแล้ว เราเลือกเขามาแก้ปัญหาหน้างานให้เราด้วยนะครับ”

“ภาพที่ครบ และภาพที่สวย คือสิ่งที่ลูกค้าทุกคนต้องการครับ งานครั้งหนึ่งในชีวิตของคนคู่หนึ่ง สิ่งที่ผมเฝ้าย้ำและติดอาวุธให้กับลูกค้า คือต้องรีดรายละเอียดจากช่างภาพออกมาให้หมดครับ อย่าเชื่อเพียงภาพสวยๆ ไม่กี่ภาพที่เขาเอามาขายในแฟนเพจ ทีมช่างภาพนั้นเราต้องขอดูภาพทั้งหมดต่อหนึ่งงานจากเขาได้ครับไม่ว่าจะนัดคุย หรือขอลิ้งค์ google drive มาดูก็ตาม ยิ่งได้พอร์ทงานจากสถานที่ที่เรากำลังจะจัดได้ยิ่งดีครับ”

“สำหรับยุคโซเชียลแล้วสิ่งที่สำคัญคือระยะเวลาของการส่งงานครับ เดี๋ยวนี้พอเสร็จงาน บ่าวสาวตื่นเช้ามาในวันรุ่งขึ้นต้องมานั่งดูรูปเพื่อนๆ ที่แทคมาในแต่งงานของเราโดยที่เรายังไม่ได้โพสต์ภาพเพื่ออวดหรือเพื่อขอบคุณแขกในงานเองสักใบ และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ภาพงานแต่งงานเราก็จะยิ่งสวยน้อยลงไปเรื่อยๆ ในความรู้สึกใช่ไหมครับ ดังนั้นลองศึกษาและรีวิวดูด้วยตัวเองให้ละเอียดครับ ว่าทีมงานที่เรากำลังจะใช้นั้น มีระยะเวลาในการส่งงานที่เรารับได้หรือไม่ ยิ่งถ้าเป็นช่วงที่มีงานแต่งงานเยอะๆ ติดๆ กัน เขาจะสามารถส่งภาพตัวอย่างให้เราได้ภายในเวลาเท่าไหร่ อันนี้สำคัญมากครับ ซึ่งปัจจุบันนี้ช่างภาพรายใหม่ๆ ที่ได้งานถ่ายภาพงานแต่งจากการบอกต่อกันเยอะๆ ก็ถือว่าเป็นช่างภาพที่เก่งในวงการเหมือนกันนะครับ”

 

คำแนะนำจากคุณ อดิศร Adisornphotography

“สำหรับผม สิ่งแรกที่ควรเลือกเลยคือ ผลงานของช่างภาพ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเลยนะครับ เพราะสุดท้ายแล้วภาพความทรงจำเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ถูกเก็บไว้กับเราไปนานแสนนาน เราจึงควรเลือกจากผลงาน สไตล์ภาพที่เราชอบก่อนเป็นลำดับแรก ดูรูปที่เราชอบก่อน ดูหลายๆ งาน เน้นดูที่เป็นอัลบั้มจะช่วยได้ครับ เพราะช่างภาพแต่ละท่านก็มีสไตล์ มีลายเซ็นต์เป็นของตัวเอง  แล้วอย่าลืมขอดูผลงานทั้งหมดที่ช่างภาพส่งให้กับบ่าวสาวด้วย เพราะจะเป็นตัวช่วยชั้นดีในการเลือกช่างภาพครับ ส่วนตัวผมเองนั้น จะชอบมาก เวลาบ่าวสาวบอกจุดประสงค์ของตัวเองอย่างชัดเจน ว่าต้องการอะไร อยากทราบข้อมูลตรงไหนเพิ่มเติม ผมยินดีให้คำปรึกษาเต็มที่ เพราะสุดท้ายแล้วถ้าทุกอย่างเคลียร์เวลาคุยกัน หน้างานก็จะทำงานกันง่ายทั้งสองฝ่าย”

“และเมื่อเราเลือกช่างภาพที่ถูกใจได้แล้ว ก็อย่าช้าที่จะตัดสินใจจองและทำสัญญาเพราะในวันฤกษ์ดีๆ นั้น ช่างภาพฝีมือดีส่วนมากก็จะถูกจับจองกันไว้ข้ามปีเลยทีเดียว เมื่อจับจองทำสัญญากันเรียบร้อยแล้ว สิ่งสำคัญในวันสำคัญของคุณก็คือ มีความสุขไปกับวันแห่งความสุขของตัวเอง ไว้ใจและเชื่อใจในสิ่งที่ตัวเองตัดสินใจเลือกมา เพื่อให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยรอยยิ้มและความประทับใจ เราจะได้ไม่ต้องมารู้สึกเสียดายทีหลัง เพราะภาพถ่ายจะเป็นเครื่องมือบันทึกความทรงจำ และเป็นสิ่งที่คงอยู่กับเราไปอีกนานแสนนานครับ”

 

 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพ

คำแนะนำจากคุณ วิศิลย์ Slip Photographer

“สิ่งที่สำคัญที่ควรตัดสินใจก่อนจ้างช่างภาพงานแต่งงานนั้นก็คือ ควรเลือกจากผลงานมากกว่าราคา เพราะการที่เราเลือกช่างภาพและเปรียบเทียบกันด้วยราคาเป็นอันดับแรกนั้นเป็นความคิดที่ผิดมากครับ ผมเห็นคู่บ่าวสาวหลายคู่เลือกจากราคามาก่อนผลงาน จริงๆ เราควรจะมองที่ผลงานการเป็นมืออาชีพของช่างภาพมากกว่า เพราะช่างภาพที่คุณภาพดีและเป็นมืออาชีพจริงๆ จะมีราคาเหมาสมกับผลงานเสมอครับ อีกสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือในส่วนทีมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวควรจะเป็นทีมเดียวกันนะครับ การที่ทีมภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวคือทีมเดียวกันการทำงานจะลื่นไหลมากกว่า เพราะทางทีมงานจะรู้ว่าควรจะเข้าหรือออกมุมไหนเพื่อจะได้ภาพที่สวยที่สุด พิธีการของคุณก็จะลื่นไหลผ่านไปได้ด้วยดี และปัญหาต่างๆ จะไม่เกิดขึ้นครับ”
“สุดท้ายที่ผมมองว่าไม่ควรจะมองข้ามก็คือ การทำงานของทีมช่างภาพ การทำงานของทีมเราสามารถเช็คได้จากรีวิวต่างๆ ในเพจ ว่าลูกค้าที่ผ่านมามีความพึงพอใจหรือไม่ ลองหาอ่านก่อนเยอะๆ นะครับ หรือถ้าเพื่อนหรือญาติสนิทแนะนำ การที่มีเพื่อนหรือญาติสนิทที่เคยแต่งงานมาแนะนำบ่าวสาวว่าเอาทีมนี้สิ เราควรชั่งใจก่อนไม่ควรรีบตัดสินใจทันที อย่างที่ผมบอกว่าหารีวิวก่อน เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าเราชอบภาพของเขาจริงๆ หรือไม่ หากเรามั่นใจว่าทีมที่เราดูผลงานอยู่เราชอบและอยากให้มาเก็บภาพวันสำคัญก็ติดต่อสอบถามไปเลยครับ”
ได้ทราบถึงข้อแนะนำจากทั้ง 3 ช่างภาพมือโปรที่มีประสบการณ์ในวงการเวดดิ้งแล้ว ก็ลองศึกษาถึงลักษณะช่างภาพที่เราจะจ้างมาถ่ายในงานแต่งงานนะคะ เพื่อที่เราจะได้ภาพงานแต่งงานที่สวยงามเพอร์เฟกต์ ไม่มีปัญหาเรื่องการถ่ายภาพตามมา และภาพสวยๆ เหล่านี้ เราจะได้เก็บไว้ดูเพื่อนึกถึงช่วงเวลาอันแสนหวานนี้ได้อีกนานค่ะ

รู้แล้วก็ไว้แพ็คเลยกับ 14 ของฉุกเฉินงานแต่ง เตรียมไว้อุ่นใจชัวร์

SOS ตัวช่วยเสกความเพอร์เฟกต์ได้ในพริบตา กับ 14 ของฉุกเฉินงานแต่ง ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องเตรียมแพ็คไว้ได้เลย

จะเป็นอย่างไรหากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันดันเกิดในวันสำคัญอย่างวันแต่งงาน แพรว wedding ขอให้บ่าวสาวตั้งสติให้ดี สูดหายใจลึกๆ แล้วเตรียมสิ่ง ของฉุกเฉินงานแต่ง เหล่านี้ไว้ให้พร้อม ยามฉุกเฉินจะได้สวยหล่อทันใจไม่ต้องพึ่งยาทัมใจเป็นตัวช่วย

1. มาสคาร่า

ผมขาวบางทีก็มาเยือนได้ก่อนวัยอันควร หากบ่าวสาวไม่ดูแลให้เรียบร้อยก่อนแล้วมันเกิดมาโผล่ในวันสำคัญพอดี เครื่องเสริมสวยอย่างมาสคาร่าของคุณผู้หญิงสามารถช่วยเสกความอ่อนวัยได้ในพริบตา เพียงค่อยๆ ใช้แปรงป้ายลงไปที่โคนผมขาวแล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้ทั่วก็ช่วยปกปิดชั่วคราวในเวลาเร่งด่วนได้ทันท่วงที

2. แป้นต่างหูสำรอง

ในวันงานเจ้าสาวอาจจะได้รับอ้อมกอดจากแขกเพื่อเป็นการแสดงความยิรดีจนทำให้แป้นต่างหูหลุดหายแบบไม่ทันรู้ตัว วิธีแก้ปัญหาแบบฉับพลันอาจต้องอาศัยการเสียสละจากคนใกล้ตัวด้วยการยกแป้นต่างหูของตัวเองให้กับเจ้าสาวซึ่งเป็นคนสำคัญในวันงาน แต่ทางที่ดีเจ้าสาวควรเตรียมแป้นต่างหูสำรองฝากเพื่อนหรือคนใกล้ชิดไว้จะดีที่สุด (ฝากไว้ในกระเป๋ากางเกง หรือกระเป๋าสูทเจ้าบ่าวไปเลยก็ได้ เพราะใกล้ตัวที่สุด)

3. น้ำแข็ง

คือก่อนวันแต่งงานบ่าวสาวอาจตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ตอนเช้าขอบตาจึงกลายเป็นหมีแพนด้าไปซะงั้น วิธีแก้ปัญหาแบบด่วนจี๋เพื่อเพิ่มความใสบริ๊งให้ดวงตาคือ นำน้ำแข็งห่อผ้าวางไว้บนเปลือกตาประมาณ 10 นาที (เมื่อเริ่มรู้สึกเย็นให้ยกออก เมื่ออาการเย็นคลายลงจึงวางลงอีกครั้ง) จะช่วยให้ขอบตาที่คล้ำดูดีขึ้น พร้อมได้ความชุ่มชื้นเป็นของแถมอีกด้วย

ของฉุกเฉินงานแต่ง

4. ลิปบาร์ม

เป๊ะตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่เกิดลืมทำสีเล็บ ครั้นจะทาใหม่ก็ต้องรอให้แห้งอีกเป็นชั่วโมง เห็นทีคงไม่ทันกาล ลองนำลิปบาร์มมาลูบไล้ให้ทั่วทุกเล็บ เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้เล็บดูใสกิ๊งสวยสุขภาพดีเหมือนเข้าร้านได้ภายใน 1 นาทีพร้อมรับแสงแฟลชและแหวนเพชรเม็ดโตแล้ว

5. ยาสีฟัน

ออกสเต็ปขั้นเทพช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้มากไปหน่อย เรียวปากสุดเซ็กซี่ฉ่ำวาวไปด้วยลิปสติกจึงตรึงตราเข้ากับเสื้อเชิ้ตตัวเก่งของเจ้าบ่าวอย่างจัง อย่าเพิ่งกัดฟันทิ้งเสื้อไปเสียก่อน เพราะรอยนั้นจะหมดไปด้วยยาสีฟัน โดยบีบในปริมาณพอเหมาะลงบนคราบแล้วขยี้แรงๆ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด อาจจะไม่เห็นผลในครั้งแรก แต่รับรองว่าถ้าทำซ้ำๆ เสื้อของคุณจะหมดจากรอยจุมพิตอย่างแน่นอน

6. แปรงสีฟัน

ก่อนเริ่มงานเจ้าสาวมักจะเพิ่มแก้มนิด ปากหน่อย เติมมาสคาร่าให้ขนตาสวยเด้ง แต่ถ้าปัดพลาดมาสคาร่าเกิดจับตัวเป็นก้อน ยิ่งซ้ำยิ่งแย่ ใช้นิ้วช่วยก็ไปกันใหญ่ แนะนำให้หาแปรงสีฟันใหม่ (อาจขอจากโรงแรม) แล้วบรรจงหวีขนตาจนก้อนมาสคาร่าหลุดออก ขนตาก็จะกลับมาเรียงเส้นสวยดังเดิม

7. ยาต่างๆ

สารพัดยาแก้อาการต่างๆ ควรเตรียมไว้ให้พร้อม และอยู่ใกล้ตัวที่สุด ไม่ว่าจะเป็น พาราเซตามอล แอสไพริน หรือยาลดกรด เพราะความเครียดหรือตื่นเต้นอาจนำมาซึ่งอาการปวดหัวปวดท้องได้ หากไม่ระงับให้ทันอาจกลายเป็นแบดเดย์ นอกจากนี้ยาดม ยาลม ยาหม่องก็ต้องสแตนบายไว้ด้วย เพราะบ่าวสาวอาจเกิดอาการหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ หรือไม่ได้รับประทานอาหารเป็นเวลานานจนพานจะเป็นลมเอาได้

8. ชอล์กเขียนผ้าสีขาว

ไม่ได้นำมาขีดเส้นทางรักแต่อย่างใด ฮิ้วววว… แต่นำมาขีดทันเพื่อปกปิดรอยเปื้อนเล็กๆ น้อยๆ บนชุดเจ้าสาว เพราะติดทนไม่ลบเลือนง่ายเหมือนแป้งฝุ่น ซึ่งปัจจุบันชอล์กเขียนผ้ามีรูปแบบต่างๆ ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบปากกา หรือลูกกลิ้งเพื่อให้เกิดความสะดวกต่อการใช้งาน

9. พลาสเตอร์สีเนื้อ

อุบัติเหตุเล็กน้อยเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ครั้นจะให้พกกล่องปฐมพยาบาล ทายาแดง แปะผ้าก๊อซก็ดูจะเกินเหตุไปหน่อย เราว่าเตรียมพลาสเตอร์ไว้จะดีกว่า แต่ถ้าจะมาเป็นลายการ์ตูนคิกขุอาโนเนะหรือสีสะท้อนแสงก็คงไม่ไหว แนะนำให้เลือกพลาสเตอร์ยาสีเนื้อให้กลืนไปกับสีผิวจะดีกว่า เมื่อถ่ายรูปแล้วเห็นจะได้ไม่รู้สึกขัดหูขัดตาจนเกินไป

ของฉุกเฉินงานแต่ง

10. ผ้าอนามัย

ความเครียดอาจทำให้วันนั้นของเดือนคลาดเคลื่อน หรือบางรายอาจลืมกินยาเลื่อนประจำเดือนจนทำให้เกิดเซอร์ไพร้ส์ได้ง่ายๆ แนะนำให้พกผ้าอนามัยติดตัวไว้ อย่างน้อยถ้าไม่ได้ใช้เองแก๊งเพื่อนเจ้าสาว (สักคน) อาจเป็นผู้โชคดีของวันก็ได้

11. ช้อน

สำหรับบ่าวสาวคู่ไหนที่รู้ชะตากรรมตัวเองว่า คืนก่อนวันแต่งงานต้องวุ่นวายกับการเตรียมสิ่งต่างๆ จนพักผ่อนไม่เต็มอิ่ม แถมยังต้องตื่นมาแต่งหน้าทำผมตั้งแต่ไก่โห่ แนะนำให้แช่ช้อนกินข้าวสัก 2 คัน (สำหรับตา 2 ข้าง) ไว้ในช่องฟรีซตั้งแต่กลางคืน เมื่อตื่นเพียงแค่นำช้อนที่แช่ไว้มาประคบรอบดวงตาอย่างเบามือจนช้อนอุ่น เท่านี้ก็ช่วยให้ผ่อนคลาย ลดอาการตาบวมและขอบตาช้ำจากการนอนน้อยได้แล้ว

12. ยาทาเล็บแบบใส

สำหรับเจ้าสาวที่ใส่เดรสสั้นอาจไม่ทันระวังตัวจนเล็บมือไปเกี่ยว หรือเดินไปโดนอะไรบางอย่างจนถุงน่องขาดเป็นรู ให้รีบหายามาเล็บแบบใส้แต้มตรงจุดที่เสียหาย เพื่อหยุดอาการถุงน่องรันเป็นทางยาว แค่นี้ก็ลดความกังวลให้กับเจ้าสาวได้แล้ว

13. แป้งเด็ก

กำลังจะเดินเข้างาน แต่จู่ๆ ชุดแต่งงานสีขาวแสนสวยเกิดเลอะคราบมันจากอาหารเข้าแบบไม่ทันตั้งตัวและไม่มีเวลาพอจะไปล้างออก อย่าตกใจ เพียงแค่นำแป้งเด็กมาโรยบนคราบเปื้อนให้ทั่วเพื่อป้องกันไม่ให้คราบกระจายตัว ก็ช่วยให้รอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินได้แล้ว

14. ปิโตรเลียมเจล

ลงทุนซื้อรองเท้าคู่สวยมาใส่ในวันสำคัญแต่ดันออกฤทธิ์จิกกัดทำเอาเกือบเดินไม่ไหว แนะนำให้ทาปิโตรเลียมเจลลงบนบริเวณที่รองเท้ากัดก่อนสวมทุกครั้ง เพราะเนื้อเจลจะช่วยลดอาการเสียดสีระหว่างเท้ากับรองเท้าได้เป็นอย่างดี เท่านี้เจ้าสาวก็สามารถเดินทักแขกได้ฉลุยตลอดงานแล้ว

ไปเช็กสิ่งของฉุกเฉินที่ต้องเตรียมไว้ในวันแต่งงานเพิ่มเติมอีกได้ตามลิงค์นี้เลย >> สิ่งของต้องมีกันเหตุฉุกเฉินในวันแต่งงาน

ภาพ www.ikea.com, www.zincmoon.com, personalisedfavours.com.au, www.pinterest.com

สาวๆ จดให้ไว! กับ 8 เคล็ดลับเด็ดที่ใส่รองเท้าส้นสูงไม่เมื่อยเดินสวยตลอดงาน

จากประสบการณ์การไปงานแต่งงานอันโชกโชนของ แพรวเวดดิ้ง ทำให้ได้รู้ปัญหาอย่างหนึ่งของทั้งเจ้าสาวและเหล่าเพื่อนเจ้าสาว รวมถึงแขกผู้หญิงว่าการที่ต้องยืนต้องเดินตลอดงานบนรองเท้าส้นสูงนั้นเป็นเรื่องที่ทรมานมว๊ากกกกก!!! บางคนถึงกับนิ้วเท้าชาไป 2-3 วันเลยทีเดียว

8 เคล็ดลับเลือกร้องเท้าส้นสูง ใส่ส้นสูงไม่เมื่อย ไม่ปวด เดินชิลตลอดงาน

Photo by Gabriel Crismariu on Unsplash

ใครที่กำลังเลือกซื้อรองเท้าส้นสูงเชิญทางนี้เลยค่ะ ไหนๆ ก็รู้แล้วว่าต้องใส่ส้นสูงตลอดทั้งงาน จะให้เปลี่ยนบ่อยๆ ก็ขี้เกียจ (นี่พูดตรงๆ) มาดูกันค่ะว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้เรา ใส่รองเท้าส้นสูงไม่เมื่อย ได้อย่างสบายๆ

1. เลือกรองเท้าที่ใส่สบาย

รู้กันไหมคะว่าจะเลือกรองเท้าให้ใส่สบายทั้งที คุณจะต้องเลือกในช่วงเวลา “บ่ายถึงเย็น” (กาดอกจันตัวโตๆ ) เพราะว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เท้าของคุณขยายเต็มที่ เลือกสีเลือกแบบแล้วก็ลองใส่ดูโลด เอาคู่ที่คุณใส่แล้วรู้สึกสบายไม่หลวมไม่คับจนเกินไป จากนั้นก็ลองเดินทั้งบนพื้นเรียบ พื้นขรุขระ ในร้าน นอกร้าน เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่ารองเท้าจะสามารถรองรับพื้นแต่ละแบบได้ดีแค่ไหน (แต่อย่าเนียนเดินออกไปไม่จ่ายเงินล่ะ)

2. เลือกส้นที่มีความ “สูง” กำลังดีสำหรับคุณ

ความรู้ใหม่ที่สาวๆ หลายคนยังไม่ทราบเกี่ยวกับความสูงของส้นรองเท้านั่นก็คือ มันสัมพันธ์กับความสูงของร่างกายคุณด้วยนะ ใครที่คิดแค่ว่าจะอัพความสูงให้ตัวเองดูสวยน่ะ บอกเลยว่าคิดผิดคิดใหม่นะจ๊ะ เพราะว่าผู้หญิงที่ตัวสูงจะสามารถสวมรองเท้าที่สูงได้ 5-6 นิ้ว เพราะขนาดเท้าที่ค่อนข้างยาวจะรับน้ำหนักได้ดี ส่วนผู้หญิงร่างเล็ก (เรียกว่าสูงน้อยก็ได้นะ) ควรใส่รองเท้าที่สูง 3-4 นิ้ว ก็พอแล้ว จะได้ไม่เป็นภาระของเท้านะ

Photo by Mr.Autthaporn Pradidpong on Unsplash

3. เลือกรองเท้าส้นกว้างและมีแพลตฟอร์ม

รองเท้าส้นสูงเดี๋ยวนี้มีลูกเล่นมากมาย โดยเฉพาะส้นเข็มที่สาวๆ หลายคนมักจะมองว่าสวย ใส่แล้วดูเซ็กซี่ แต่คุณรู้หรือไม่ยิ่งส้นเข็มแหลมเท่าไหร่ก็จะทำให้พื้นที่บริเวณส้นเท้าที่ใช้รองรับน้ำหนักลดน้อยลงเท่านั้น เพราะฉะนั้นถ้าอยากใส่ร้องเท้าส้นสูงแบบไม่รู้สึกเจ็บหรือปวดเท้า แนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีส้นกว้างและมีแพลตฟอร์มเพื่อที่จะกระจายน้ำหนักไปยังปลายเท้า

4. ใส่ให้สบายเหมือนรองเท้าคู่โปรด

เมื่อได้รองเท้าคู่ที่ถูกใจมาแล้ว ขอให้คุณหมั่นใส่บ่อยๆ จะเดินในบ้าน นอกบ้าน หรือเดินไปไหนมาไหนก็ใส่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นการฝึกเดินบนส้นสูงให้ชินเท้าแล้ว วัสดุที่ใช้ทำรองเท้าก็จะอ่อนนุ่มขึ้น ใส่เดินสบายเท้ามากขึ้น นอกจากนี้ แนะนำให้ลองใส่เดินหน้ากระจกแล้วดูว่าคุณเดินท่าทางอย่างไร และให้หาจุดทรงตัวเพื่อบาลานซ์น้ำหนักขณะเดิน จะได้ไม่ดูเหมือนเดินตามปกติ ไม่เก้งก้าง ส่วนใครที่กลัวว่ารองเท้าจะเก่าขอบอกว่าอย่ากลัวค่ะ กลัวเจ็บเท้าวันในวันงานจะดีกว่า

Photo by wu yi on Unsplash

5. ยืนหลังตรง

ใครที่ต้องอยู่บนรองเท้าส้นสูงนานๆ การบาลานซ์น้ำหนักของร่างกายถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมันจะช่วยให้น้ำหนักไม่ไปกองรวมกันที่ปลายเท้าเพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นคุณควรยืนหลังตรง อกผาย ไหลผึ่ง และไม่เดินก้มหน้า ถ้าไม่ทำตามนี้รับรองว่าคุณจะรู้สึกเมื่อยปลายเท้า ดีไม่ดีนิ้วเท้าจะชาเป็นเวลาหลายวัน ต้องเสียสตางค์ไปหาหมออีกนะ

6. ซ้อมไว้ก่อน รับรองเป๊ะ

เจ้าสาวคนไหนที่รู้ตัวว่าคุณจะต้องออกสเต็ปแดนซ์ในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แนะนำให้ลองสวมรองเท้าส้นเตี้ยหัดเดินหัดเต้นบนพื้นแข็งๆ หรือพื้นขรุขระซะก่อน จากนั้นคอยลองออกท่าออกทางกับรองเท้าส้นสูง ถ้าจะให้ดีเข้าคอร์สเต้นรำอย่างน้อย 1 เดือนก่อนวันงานก็ไม่เลวนะ จะได้คล่องแคล่ว พริ้วไหว ไม่โก๊ะๆ กังๆ ในวันจริง

Photo by Kris Atomic on Unsplash

7. รีแลกซ์ไว้ จากนั้นก็เดิน!

สุดท้ายวันแต่งจริงก็มาถึง อย่าไปกังวลค่ะ เพราะว่ากว่าจะถึงวันนี้เราซ้อมเดินมาเยอะแล้ว ถึงเวลาที่ต้องผ่อนคลาย เยื้องย่างให้สง่างามสมกับเป็นนางเอกของงาน ถ้าเกิดฉุกเฉินเหยียบชายกระโปรง เหยียบชายเวล หรือสะดุดกึกกักอะไรขึ้นมาก็ขอให้คีพลุคสวยไว้ก่อน ตั้งสติทรงตัวให้ดีแล้วเดินต่อตามปกติ แอบกระซิบให้ว่าการแขม่วพุงจะทำให้เดินสวยสง่ามากขึ้น ลองดูสิ!

8. ถึงวันงานก็ลัลล้าให้สุดๆ

ไม่ว่าคุณจะกังวลเรื่องอะไรอยู่ แต่อย่าลืมว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของคุณและคนรักนะ เพราะฉะนั้นทิ้งเรื่องกวนใจไว้ข้างหลัง แล้วจับมือชายหนุ่มคนข้างๆ คุณเดินเริ่ดๆ เข้าประตูวิวาห์อย่างมีความสุขที่สุดเถอะนะ เจ้าสาวคนสวย

>> ติดตามไอเดียเกี่ยวกับความสวยความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

cr : myweddingguides.com

9 วิธีคิดง่ายๆ เพื่อให้บ่าวสาวสร้างงานแต่งเล็กๆ ในฝันให้ตรงใจ

‘งานเล็กงานใหญ่ไม่สำคัญ อยู่ที่ใจฉันกับเธอ’ … แต่เดี๋ยวก่อนใช้ใจอย่างเดียวไม่พอ การตั้งสติแล้ววางแผนให้เป็นลำดับขั้นตอนก็สำคัญไม่แพ้ใจ แพรว wedding จึงได้จัดคัมภีร์ให้ว่าที่บ่าวสาวไว้เช็กลิสต์ลำดับการคิดงานแต่งงาน เพื่อความสมบูรณ์แบบของ งานแต่งเล็กๆ ไม่มีตกหล่น เล็กแค่ไหนแต่ความอิ่มเอมใจคับอกแน่นอน 

นับ 1. อย่าเพิ่งรีบ ใจเย็นๆ ก่อน

หลายคนพอรู้ตัวว่าจะแต่งงานก็รีบเอามากๆ วิ่งหานักจัดงานแต่งงานเป็นว่าเล่นยิ่งหาก็ยิ่งไม่ใช่ ยิ่งไปเจอ ยิ่งคุยก็ยิ่งงง เวลายุ่งๆ หลายคนคิดว่านักจัดงานแต่งงานคือทางออก แต่บางครั้งกลับไม่ใช่ เพราะทางออกใหม่ที่ว่าอาจเป็นการสร้างปัญหาให้หนักใจมากขึ้น จากงบน้อยๆ อาจกลายเป็นงบมาก ฉะนั้น อย่าลืมนึกไว้ในใจเสมอว่า “ไม่มีใครรู้สิ่งที่เราต้องการได้ดีเท่าตัวเราเอง” เริ่มต้นจากตัวเองก่อน หาสิ่งที่เราต้องการให้เจอ แล้วคนอื่นๆ ที่มาร่วมช่วยงานก็จะทำงานได้ง่ายและตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย

นับ 2. จับมือกันร่วมทำงานเล็กๆ นี้ให้ดีที่สุด

งานแต่งงานไม่ใช่ภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และยิ่งไม่ใช่งานที่จัดขึ้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นงานของ “เรา” ต่างหาก หลายคนมองว่าการจัดงานเองเป็น “งานงอก” (งานที่เพิ่มขึ้นมาให้รับผิดชอบโดยไม่ทันตั้งตัว) เลยชวนให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้น แต่เรามักลืมไปว่างานแต่งงานก็เป็นงานอย่างหนึ่งเหมือนกัน และเป็นงานกลุ่มที่ทำให้เราได้ศึกษาเพื่อนร่วมทีม ได้พบเจอปัญหาและแก้ไขไปด้วยกัน เสมือนเป็นบททดสอบหนึ่งของชีวิตคู่ ถ้าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องเล่นเกมนี้คนเดียว คิดคนเดียว ทำคนเดียว คงเหงาน่าดู ว่าไหม

นับ 3. ธีมไม่ใช่ข้อจำกัด

งานแต่งเล็กๆ

เดี๋ยวนี้ใครจะแต่งงานก็ต้องมีธีม ใครไม่มีคำตอบว่าตัวเองแต่งงานธีมอะไรเรียกว่า “เชยมาก” หลายคนเลยมีคำพูดในใจติดไปว่า อยากได้ธีมสีฟ้า ธีมสีชมพู ธีมทะเล ธีมญี่ปุ่น ธีมวินเทจ ธีมเจ้าหญิง ฯลฯ คำว่า “ธีม” ทำให้คนทั่วไปเห็นภาพงานแต่งงานของเราง่ายขึ้นก็จริง แต่บางครั้งคำว่าธีมกลับเป็นข้อจำกัดที่ทำให้งานของเราคล้ายๆ กับของคนอื่น และขาดสิ่งที่เป็นตัวตนของเราไป ดังนั้นก่อนเริ่มจัดงานอย่าเพิ่งรีบสรุปว่าเราจะจัดธีมอะไร แต่ให้หาภาพที่เราชอบเยอะๆ อาจเป็นภาพวิว ภาพบ้าน ภาพสถานที่ท่องเที่ยว หรือจะจดเป็นการระดมไอเดียก่อนก็ได้ และคิดไว้เสมอว่าธีมไม่ใช่ข้อห้ามหรือข้อจำกัดแต่เป็นการตีกรอบความคิดกว้างๆ ไม่ให้เราออกนอกเส้นทางเกินไป

ยังมีสิ่งที่บ่าวสาวต้องรู้อีกนะ คลิกหน้าต่อไปเลย >>>

 

นับ 4. ถามใจดี ๆ มีไปทำไม

พอข่าวการแต่งงานของเราเริ่มขยายวงกว้างทั้งในหมู่เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง ก็จะเป็นช่วงที่ผู้หวังดีและผู้มีประสบการณ์เริ่มแสดงตัว นอกจากนี้ยังมีสื่ออื่นๆ อย่างนิตยสาร เว็บไซต์ งานเวดดิ้งแฟร์ หรือกูรูด้านงานแต่ง ที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวเก่าๆ และให้คำแนะนำเราต่างๆ นานา จนทำเอาหลายคนตั้งตัวไม่อยู่ เราเรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะถูกสื่อครอบงำ” ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ “ตั้งสติไว้” การหาข้อมูลและเห็นตัวอย่างงานของคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่เคยมีมาจะเหมาะกับตัวเรา เวลารับข้อมูล เห็นภาพงานที่เราชอบ เห็นตัวอย่างงานที่คนอื่นบอกว่าดี หรือได้คำแนะนำต่างๆ มา อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ถามตัวเองก่อนว่า “มันใช่ตัวเราไหม” หรือ “เราจะมีสิ่งนี้ไปทำไมกัน” หาที่มาที่ไปของสิ่งที่เราอยากจะมีในงาน แล้วทุกอย่างที่เราเลือกจะเป็นสไตล์ของเราเองอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยล่ะ

นับ 5. แขกตัวจริง

ทุกอย่างได้เตรียมไว้อย่างพรั่งพร้อมทั้งดอกไม้ จานชาม อาหารอร่อย และแสงไฟสวยงาม ขาดก็แต่แขกคนสำคัญ ไม่อย่างนั้นงานไหนๆ ก็พลันดูเงียบเหงาไปถนัดตา ขณะเดียวกันงานที่เต็มไปด้วยแขกไม่คุ้นตา หน้าตาแปลกๆ ก็ทำให้เกิดปัญหาหงุดหงิดใจได้ไม่น้อย แขกจึงเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ที่เราต้องเลือกให้ดี เพราะถ้าเลือกเชิญแขกที่ใช่งานง่ายๆ ก็กลายเป็นงานแสนสนุกและสร้างความทรงจำได้ไม่แพ้ใคร ให้คิดง่ายๆ ว่า วันนั้นเราเห็นภาพใครบ้างที่ยิ้มและมีความสุขกับงานของเรา ใครที่เราอยากเจอ หรือใครที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในความทรงจำดีๆ ของเรา คนที่คุ้นเคยทำให้บรรยากาศงานอบอุ่นได้เสมอและที่สำคัญ คนๆ นั้นทำให้เราเป็นตัวของตัวเองได้อย่างสบายใจด้วย

นับ 6. คนใกล้ตัว

มีบางคนที่แอบมองเราอยู่ห่างๆ อยากเห็นเรามีความสุข และภูมิใจทุกครั้งที่เราประสบความสำเร็จ แต่ในช่วงการเตรียมงานเราอาจหลงลืมพวกเขาไป สุดท้ายแล้วอย่าลืมคนที่อยู่ใกล้ตัว ใกล้หัวใจ งานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สามารถทำอะไรพิเศษๆ ให้ท่านได้แบบไม่ต้องเซอร์ไพร้ส์ให้ใหญ่โต ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองจนปวดหัว แค่แอบทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ท่านคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น เราอาจให้ช่างภาพตามแอบถ่ายพ่อแม่และเพื่อนๆ กลุ่มของท่าน และที่สำคัญ วันงานจะไม่ใช่แค่วันพิเศษของเราเอง แต่ยังเป็นช่วงเวลาพิเศษของพ่อแม่ที่ได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าและหลายๆ คนที่เขานับถือ แล้วหลังงานอย่าลืมทำอัลบั้มภาพของท่านและเพื่อนๆ ให้สักเล่มด้วย

ยังมีสิ่งที่บ่าวสาวต้องรู้อีกนะ คลิกหน้าต่อไปเลย >>>

 

นับ 7. นักเก็บความทรงจำ

การเลือกช่างภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งและยังเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย เพราะเหมือนกับเรากำลังเลือกสายตาคู่หนึ่งที่จะมามองงานของเราและบันทึกความทรงจำแทนตัวเราเอง ช่างภาพจึงไม่ใช่แค่คนจดบันทึกเหตุการณ์บนกระดาษขาวจืดๆ แต่คือคนที่เก็บทั้งความรู้สึก ความทรงจำ ความเคลื่อนไหว ผู้คน ในทุกจังหวะที่เหมาะ เวลาที่ใช่ และมุมมองที่เราคาดไม่ถึง เพราะเชื่อหรือไม่ว่ามีภาพเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นที่เราจดจำได้และอยากจะแขวนไว้บนฝาผนัง และแค่ภาพนั้นภาพเดียวก็สามารถบอกเรื่องราวและทำให้เราเรียกความรู้สึกเก่าๆ กลับมาได้ ถ้าจะต้องเลือกใครสักคนที่มองงานแทนเรา อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสคุยกับพวกเขา ได้รู้จักเขาก่อน ได้เห็นแนวคิด เข้าใจกัน และเราเองก็มั่นใจในมุมมองและความทุ่มเทของเขา ดูภาพฝีมือเขาให้เยอะๆ จากหลายๆ งาน ดูวิธีที่เขาคิด จิตใจที่เขาใส่ลงไปในงาน แล้วเราจะไม่ได้แค่ช่างภาพคนหนึ่ง แต่จะได้เพื่อนนักเก็บความทรงจำพิเศษสำหรับงานของเราเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

นับ 8. อยากมีส่วนร่วม

งานแต่งเล็กๆ

งานแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคนที่มีคนอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากมายทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ แต่เราก็มักจะลืมไปว่าบุคคลเหล่านี้ทำได้หลายอย่างมากกว่าจะมาเป็นแค่แขกในงาน หลายคนอยากมีส่วนร่วม อยากช่วยงาน เพราะพวกเขาเองก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำดีๆ ของเรา เวดดิ้งแพลนเนอร์ อาจจำเป็นในวันงาน แต่อย่าลืมว่ามีงานอีกหลายส่วนที่เราทำได้เองและสามารถดึงคนรอบตัวมามีส่วนร่วมด้วยได้ เช่น งานทำการ์ดแต่งงาน ป้ายเขียนคำอวยพร ป้ายติดของชำร่วย ฯลฯ เราอาจนัดเพื่อนสนิทมากินข้าวและนั่งทำงานประดิษฐ์เล็กๆ ไปด้วยกัน อย่าลืมว่าประสบการณ์ในการเตรียมงานแต่งงานไปพร้อมๆ กับคนที่เรารักไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าวันแต่งงานเลยแม้แต่นิดเดียว อย่ากลัวที่จะเอ่ยปากชวนคนรอบข้างที่เรารักมาทำงานนี้ร่วมกัน เพื่อเป็นหนึ่งในความทรงจำที่น่าประทับใจ

นับ 9. ไม่เป๊ะบ้างก็ได้

งานแต่งเล็กๆ

เคยได้ยินประโยคที่ว่า “The little imperfections that make them perfect for you.” จากหนังโฆษณาชื่อดังเรื่องหนึ่งไหมคะ ประโยคนี้น่าจะใช้ได้ดีมากๆ เมื่อเราต้องจัดการกับความกังวลในวันงานที่วางแผนมาเนิ่นนาน เราถูกปลูกฝังมาในโลกของความสมบูรณ์แบบว่าทุกอย่างต้องดีที่สุด แต่เชื่อไหมว่า ไม่มีงานไหนในโลกหรอกที่ไม่มีข้อผิดพลาด แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น ความสมบูรณ์แบบที่สุดไม่ได้ทำให้งานมีความสุขที่สุด แต่เป็นตัวเราและคนรอบข้างต่างหากที่จะสร้างบรรยากาศที่น่าจดจำและความรู้สึกดีๆ ให้เกิดขึ้น เมื่อถึงวันแต่งงานอย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ หายใจเข้าลึกๆ ปล่อยวางความคาดหวังทั้งหมดลง เปิดใจและมีความสุข สนุกกับทุกช่วงเวลาที่เกิดขึ้น งานไม่เป๊ะของเรานี่แหละมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว

สุดท้ายแล้วแพรว wedding เชื่อว่าการช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และจับมือกันวางแผนด้วยความเข้าใจ จะช่วยให้ งานแต่งเล็กๆ ของว่าที่บ่าวสาวออกมาน่าประทับใจที่สุดแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติม

สารพัดไอเดียจัดงานแต่งงานเล็กๆ กับเทคนิคที่จัดตามได้แบบไม่ยาก

5 วิธีช่วยว่าที่บ่าวสาวงบน้อยลดค่าใช้จ่ายสถานที่จัดงานแต่งงาน

เช็คก่อนเลือก 7 สถานที่แต่งงาน จุดไหนขายได้จุดไหนต้องระวัง

ภาพเปิด : https://apracticalwedding.com

15 สิ่งต่อไปนี้เจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวต้องเตรียมไว้ในเช้าวันแต่งงาน

เช้าวันแต่งงานเราขอเตือนทั้งคุณเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวทุกคนว่า “มันวุ่นวายมาก!” เพราะไหนจะต้องแต่งหน้าทำผม สวมชุด ใส่เครื่องประดับ และอีกสารพัดสิ่งที่ต้องทำ อีกทั้งความตื่นเต้น ดีใจ ที่จะส่งผลให้คุณมีสติไม่ครบถ้วน ลืมนั่นลืมนี่อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเราขอให้คุณจด 15 สิ่งที่ควรเตรียมไว้ใน เช้าวันแต่งงาน เหล่านี้เอาไว้ แล้วนำไปเช็คและเตือนตัวเองกับเหล่าเพื่อนสาวเพื่อกันลืมกันพลาดสิ่งของต้องประสงค์ที่จะช่วยให้คุณเพอร์เฟ็กต์ตั้งแต่เช้าจรดเย็น

1. อย่าลืมชาร์ตแบตโทรศัพท์!

สำหรับเจ้าสาวและเหล่าเพื่อนเจ้าสาวทั้งหลาย เราขอเตือนให้ชาร์ตแบตโทรศัพท์ให้เต็มในช่วงเช้าก่อนพิธีการทุกอย่างจะเริ่ม เพราะคุณอาจจะต้องติดต่อกับแขกคนอื่นๆ ภายในงาน รวมถึงหยิบออกมาถ่ายรูปบรรยากาศ ถ่ายเซลฟี่ อัพโหลดภาพลงโซเชียล แบบนี้จะได้มีแบตไว้ใช้ตลอดงานนะ

2. บำรุงผิวด้วยครีม

พอถึงวันงานแต่งเหล่าสาวๆ คงตื่นเต้นดีใจจนมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างผิวกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดเจ้าสาวและชุดเพื่อนเจ้าสาวที่เผยให้เห็นผิวเยอะๆ ประเภทเกาะอก คว้านหน้า คว้านหลัง จะปล่อยให้คนมาเห็นผิวแห้งๆ เป็นขุยไม่ได้เชียวนะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยล่ะ

>> เคล็ดลับเลือก facial oil บำรุงผิวยังไงให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าเจ้าสาว <<

3. ชุดชั้นในที่ใส่แล้วสบาย

เรื่องนี้อาจไม่ต้องรอให้ถึงเช้าวันแต่งงานนะคะ เพราะเราขอให้สาวๆ ทั้งหลายคิดและเตรียมตัวให้พร้อม ดูว่าชุดเจ้าสาวและชุดเพื่อนเจ้าสาวที่คุณจะใส่เป็นสไตล์ไหน คอปีน คอเต่า เกาะอก ชุดสั้น หรือชุดยาว แล้วมองหาชุดชั้นในที่ใส่แล้วจะสวย ขอบและสายไม่โผล่มาให้ขัดสายตา ใส่แล้วสบายกาย ไม่รัดแน่น ไม่อึดอัด เพราะคุณจะต้องอยู่กับมันไปทั้งวัน ถ้าเลือกชุดที่แน่นเกินไปแล้วหายใจหายคอไม่ออก รับรองว่าหน้าซีดเป็นลมชัวร์!

4. เตรียมผ้าอนามัยไว้ด้วย

ผู้หญิงอย่างเราๆ เนี่ยนะคะ ต่อให้นับวันรอบเดือนเป๊ะแค่ไหนก็ใช่ว่ามันจะมาตรงเวลา โดยเฉพาะช่วงก่อนวันสำคัญที่สาวๆ จะต้องเตรียมงานและเตรียมตัว ความเครียดที่มาเยือนอาจจะนำพาประจำเดือนให้มาเร็วขึ้นหรือมาช้ากว่าเดิม ถ้าเกิดว่ามันไหลออกมาในวันสำคัญพอดี แบบนี้ก็เรียกว่าแจ็กพอตแตก! เพราะฉะนั้นเตรียมผ้าอนามัยให้พร้อม อุ่นใจกว่าไปหาเอาในสถานการณ์ฉุกเฉินนะ

5. กลิ่นน้ำหอมเย้ายวนใจ

อีกสิ่งสำคัญที่ทั้งเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวควรยึดปฏิบัติหลังแต่งกายเสร็จก็คือ “พรมน้ำหอม” บนเรือนร่าง ชอบกลิ่นไหนก็เลือกเอาเลยจ้ะ แต่ขอให้จำไว้อย่างว่าพรมเบาๆ ให้หอมแต่พอดี ไม่ใช้กระหน่ำฉีดจนกลิ่นฉุนเหมือนอาบมานะจ๊ะสาวๆ

6. เบอร์โทรคนสำคัญ

หลังจากเช็คแบตโทรศัพท์ให้เต็มอยู่เสมอแล้วก็อย่าลืมจดเบอร์โทรเหล่าคนสำคัญของงานไว้ด้วย ไล่ตั้งแต่เบอร์คุณพ่อคุณแม่บ่าวสาว เบอร์เพื่อนเจ้าสาวเพื่อนเจ้าบ่าวคนอื่นๆ เวลาใครมาช้ามาสายหรือแว้บหายไปจะได้โทรตามได้ทันก่อนงานเริ่ม รวมถึงเบอร์ของเวดดิ้งแพลนเนอร์ ช่างภาพ และคนดูแลจัดการเรื่องสำคัญต่างๆ ภายในงาน มีไว้ให้อุ่นใจ เผื่อฉุกเฉินหรือสงสัยอะไรจะได้โทรไปสอบถามได้ทันเวลา

7. ลิปสติกเติมสีปาก

เพื่อนเจ้าสาวทั้งหลายอย่าลืมทำการบ้านหาลิปสติกสีสวยถูกใจ (เข้ากับธีมสีของงานด้วย) ไว้ไปเติมปากทั้งยามเช้า สาย บ่าย เย็นด้วยนะจ๊ะ อย่าปล่อยให้สีปากลบเลือนเป็นเพื่อนเจ้าสาวหน้าซีดเด็ดขาด เดี๋ยวจะมิสวยนะ

8. มีร่มไว้ด้วยก็ดี

เพราะว่าคุณไม่รู้ว่าพระพิรุณจะเปิดฟ้าโปรยฝนลงมาเมื่อไหร่ อาจจะเป็นช่วงเช้าก่อนงานเริ่มหรือหลังงานจบไปแล้วและทุกคนกำลังจะกลับบ้านก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นเตรียมร่มไว้บ้างก็ดีนะคะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับงานแต่งเอาท์ดอร์ มีร่มไว้ก็สบายใจ สามารถกันได้ทั้งแดดและฝนนะ

9. กระดาษทิชชู่ซับทุกอย่าง

เราขอแนะนำให้คุณพกกระดาษทิชชู่ซองเล็กติดตัวไว้บ้างนะคะ เพราะเมื่อไหร่ที่ความปลื้มความตื้นตันมันเอ่อล้นที่ขอบตาหรือเหงื่อไหลไคลย้อยจะได้หยิบมาซับได้ทันเวลา รวมถึงเวลามีอะไรเลอะเทอะนิดๆ หน่อยๆ จะได้ไม่ต้องวิ่งหามาเช็ดให้วุ่นวาย

10. ยาทาเล็บช่วยเล็บสวย

ความงดงามของเล็บสาวๆ ก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้นขอบอกว่าอย่าลืมพกยาทาเล็บสีที่คุณใช้มาจากบ้านด้วยนะ เผื่อว่าเล็บไปขูดกับขอบโต๊ะเก้าอี้แล้วลอกหลุดขึ้นมา คุณจะได้มีไว้เติมเต็มให้สวยดังเดิม รวมถึงตัว topcoat เพิ่มความเงางามของเล็บด้วย หยิบมาคู่กันทั้งสองขวดเลยนะ

11. เครื่องสำอางเล็กๆ น้อยๆ

เพื่อความสวยที่คงทนตั้งแต่เช้าจรดเย็น ควรพกเครื่องสำอางจำพวก มาสคาร่ากันน้ำ อายไลเนอร์ และแป้งที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ เอาไว้ทัชอัพเก็บรายละเอียดด้วยตัวคุณเอง ก่อนจะเดินสวยๆ เริดๆ เข้างาน

12. กิ๊บติดผมสีดำป้องกันหัวยุ่ง

หลังจากแต่งหน้าทำผมและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวควรจะเช็คทรงผมตัวเองหน้ากระจกสักเล็กน้อย ถ้าผมตรงไหนหลุดลุ่ยหรือว่ายังไม่เป๊ะตามที่ต้องการ ก็หยิบกิ๊บติดผมมาเก็บรายละเอียดเรือนผมให้สวยงาม รวมถึงพกติดตัวไว้สักอันสองอัน เผื่อว่าระหว่างวันหัวยุ่งจะได้เก็บขึ้นไปให้สวยเนี้ยบตลอดงาน

13. ลูกอม หมากฝรั่งกันหิว

แน่นอนว่าวันงานแต่งทั้งคุณเจ้าสาวและแก๊งเพื่อนเจ้าสาวจะต้องตื่นมาเนรมิตความสวยกันแต่เช้า จนบางครั้งไม่มีเวลากินข้าวเพราะมัวแต่เตรียมนั่นทำนี่กันวุ่นวาย เราแนะนำว่าให้คุณเสียเงินสัก 10 บาท 20 บาท ซื้อลูกอมหรือหมากฝรั่งไว้เคี้ยวเพลินๆ ตอนทำผม อย่างน้อยๆ ก็ยังช่วยป้องกันความหิวและเพิ่มพลังให้คุณได้บ้าง

14. กระจกใบเล็กไว้ส่องเช็คตัวเอง

เวลาที่คุณอยู่ในงานแต่งบางทีก็ต้องแอบเช็คความเป๊ะของใบหน้ากันสักนิดนะคะ เพราะฉะนั้นพกกระจกเล็กๆ สักอัน เอาไว้หยิบมาส่องหน้าส่องตาเติมสีปาก ดีกว่าวิ่งเข้าวิ่งออกพึ่งพากระจกห้องน้ำเป็นไหนๆ แบบนั้นเหนื่อยตายกันพอดี

15. กระเป๋าคลัทช์สวยๆ สักใบ

ของสิ่งนี้ถ้าจะให้ดีเราขอให้คุณเลือกตั้งแต่รู้ว่าชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นแบบไหน สีอะไร และรองเท้าที่คุณจะใส่เป็นแบบไหน เพราะว่าทั้งสามอย่างจะต้องดูเข้ากันห้ามแปลกแยก แต่ที่สำคัญก็คือ ตอนเช้าวันงานแต่งอย่าลืมเช็คด้วยว่า 14 อย่างข้างบนตามที่บอกมานั้น คุณใส่มันลงไปในกระเป๋าครบหมดรึยัง อย่าลืมเช็คดูให้แน่ใจก่อนเดินออกไปเฉิดฉายในงานนะจ๊ะ

ของสำคัญ 15 อย่างนี้เราขอบอกว่าบางอย่างก็ไม่ต้องรอให้ถึงเช้าวันแต่งแล้วค่อยเตรียมหรอกนะ ลองมองหาและเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วก็มาเช็คความเรียบร้อยอีกครั้งในตอนเช้าของวันสำคัญจะดีกว่าเนอะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

8 สิ่งห้ามขาดถ้าหากบ่าวสาวอยากจะจัด งานแต่งเอ๊าท์ดอร์ รับประกันความเวิร์ก

ช่อบูเกต์เจ้าสาว 7 สไตล์ เลือกให้เข้ากับรูปร่าง พร้อมเทคนิคเลือกยังไงให้งบไม่บาน

ทีมเจ้าบ่าวสลัดลุคหนุ่มเนี๊ยบมาสบายๆ ให้เข้ากับ งานแต่งโบฮีเมี่ยน

เรียบเรียงจาก : weddingandweddingflowers.co.uk
ภาพ : huffingtonpost.com, beautyrocksblog.com, pexels.com

เซฟไว้และทำตาม…กำหนดการพิธีแต่งงานเช้าชั่วโมงต่อชั่วโมง

กำหนดการ พิธีแต่งงานเช้า แบบไทยสำหรับเป็นแนวทางให้ว่าที่บ่าว – สาวดำเนินงานแต่งได้อย่างราบรื่น

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจว่า กรอบเวลาในการประกอบพิธีไทยนั้นขึ้นอยู่กับฤกษ์ของบ่าวสาวแต่ละคู่และจำนวนแขกเป็นสำคัญกำหนดการที่จะแนะนำต่อไปนี้เป็นเพียงแนวทางให้นำไปประยุกต์ใช้เท่านั้น ซึ่งในที่นี้สมมุติว่าบ่าวสาวรวบพิธีหมั้นและแต่งไว้ในวันเดียว โดยมีฤกษ์สวมแหวนหมั้นเวลา 9.09 น. ฤกษ์ส่งตัวเวลา 13.09 น. และมีแขกราว 100 – 120 คน

P-0040

7.45 น. ตั้งขบวนขันหมาก / เตรียมตัวกั้นประตูเงินประตูทอง

ก่อนถึงวันงานควรแจ้งให้คนตั้งขบวนทราบว่ามีหน้าที่ถือพานอะไรและต้องมาถึงงานกี่โมง รวมทั้งควรมีคนที่รู้งานถือผังรายชื่อและลำดับขบวนคอยกำกับ ทั้งนี้ควรให้พิธีกรประกาศเรียกรวมพลก่อนถึงเวลาสักเล็กน้อย

สำหรับจุดรวมพลส่วนมากจะเป็นบริเวณใกล้สถานที่จัดงานแต่ง เช่น ถนนในซอยบ้านเจ้าสาว บริเวณสวนของโรงแรม เป็นต้น ส่วนจะโห่หรือไม่ อันนี้แล้วแต่ความสมัครใจและความเหมาะสม ถ้าตั้งขบวนในซอยก็โห่ดัง ๆให้รู้กันไปเลยว่าลูกสาวบ้านนี้ขายออก เอ๊ย แต่งงานแล้วจ้า แต่ถ้าเป็นงานภายในโรงแรมก็ต้องงดเสียงอึกทึกไปตามระเบียบ

เดี๋ยวนี้หลายคู่นิยมจัดงานแต่งตามโรงแรมริมน้ำ ก็จะมีการแห่ขันหมากทางเรือมีทั้งข้ามมาจากอีกฟากจริง ๆ และลอยลำอยู่ใกล้ๆ ท่าแล้วแห่ขบวนมาเลย ซึ่งสองกรณีหลังจะต้องเผื่อเวลาเพิ่มขึ้นอีกตามระยะทาง และแน่นอนว่าสามารถโห่กันได้ลั่นคุ้งน้ำ

ในขณะที่ฝ่ายชายเริ่มตั้งขบวนขันหมากญาติ ๆ ของฝ่ายหญิงก็ควรจะเริ่มตั้งขบวนกั้นประตูเงินประตูทองรอ สมัยก่อนนิยมใช้สายสร้อยหรือเข็มขัดทอง นาก เงิน ตามฐานะ แต่ในปัจจุบันนิยมใช้ดอกไม้ร้อยเป็นสายแทน (ยกเว้นประตูเสริมที่มักจะหยิบของใกล้ตัวมากั้นกันตามสะดวก) แนะนำให้เจ้าสาวนัดแนะกับเพื่อนๆ ญาติๆ และนับประตูคร่าวๆ ไว้เพื่อกระซิบให้ฝ่ายชายเตรียมซองมาเกินจำนวน ไม่อย่างนั้นซองอาจจะหมดกลางทางจนต้องหยิบยืมกันให้วุ่น

ข้อแนะนำ
    – จัดผังขบวนขันหมากพร้อมระบุชื่อคนในขบวนและแจ้งให้เจ้าตัวทราบล่วงหน้าว่าต้องมากี่โมง
    – ฝ่ายหญิงเตรียมดอกไม้ร้อยเป็นสายไว้ให้เพื่อนๆ กั้นประตู 

 

IMG_05358.00 น. แห่ขบวนขันหมาก

เนื่องจากต้องฝ่าด่านประตูเงินประตูทองจึงควรเผื่อเวลาไว้ราว 20 – 30 นาที มาถึงก่อนแล้วนั่งพูดคุยกันรอฤกษ์ ดีกว่าเสียฤกษ์ ถ้าบ้านไหนญาติน้อย มั่นใจว่ามีแค่ 3 – 4 ประตูอาจร่นเวลาลง เช่นเดียวกัน หากบ้านไหนญาติเยอะ เพื่อนๆ รักสนุก ดูแล้วว่างานนี้จัดหนักเจ้าบ่าว แน่นอนก็ยืดเวลาช่วงนี้ออกไปได้อีก แต่ถึงอย่างไรก็ควรดูความเหมาะสมเพื่อไม่ให้แขกผู้ใหญ่และคนในขบวนที่กำลังถือพาน (หนักๆ) ต้องรอนาน

ข้อแนะนำ
    – เจ้าบ่าวควรเตรียมซองเผื่อไว้
    – เจ้าสาวกระซิบเพื่อๆ ญาติๆ ให้ล้อเจ้าบ่าวเล่นแต่พองาม ระวังเสียฤกษ์

 

IMG_2344

8.30 น. เชิญขันหมาก

หลังจากต้อนรับขบวนขันหมากแล้ว เด็กเชิญขันหมากจะนำขบวนเข้าสู่จุดประกอบพิธีคนถือพานขันหมากเอก – โทคู่พานสินสอดกับพานแหวนหมั้น นำพานไปวางไว้ในจุดประกอบพิธี เจ้าบ่าวถือพานธูปเทียนแพไว้ ส่วนพานอื่น ๆ วางเรียงอย่างเป็นระเบียบในจุดที่จัดไว้ เชิญญาติผู้ใหญ่นั่งประจำที่ โดยมีคนคอยแจ้งให้แต่ละท่านทราบตำแหน่งที่นั่ง

ทั้งนี้แนะนำให้เลือกเด็กเชิญขันหมากที่โตพอจะรู้ความ บางบ้านให้เด็กเล็กมากมาเชิญขันหมากดูน่ารักน่าเอ็นดูก็จริง แต่บ่อยครั้งเด็กยืนรอร้อน ๆ หรือเจอคนแปลกหน้าเยอะ ๆก็ออกอาการงอแง หรือเด็กบางคนถือพานไม่ไหวคุณแม่ต้องมาช่วยประคองพานอีก กลายเป็นว่าพิธีส่วนที่ง่ายกลับขลุกขลักโดยใช่เหตุ

ข้อแนะนำ
   – ฝ่ายเจ้าสาวเตรียมเด็กหญิงน่ารักถือพานเชิญขันหมาก
    – เจ้าสาวจัดโต๊ะสำหรับวางขันหมากไว้ใกล้จุดประกอบพิธี

 

IMG_3705

8.40 น. พิธีนับสินสอด

หลังจากเจรจาสู่ขอเรียบร้อยแล้วจะเป็นการเปิดพานนับสินสอดซึ่งมักทำพอเป็นพิธีจึงกินเวลาไม่นาน จากนั้นโปรยถั่ว งา ข้าวตอก ดอกไม้ แล้วรวบห่อสินสอดทำท่าเหมือนแบกของหนักขึ้นไปเก็บ จากนั้นส่งคนไปรับตัวเจ้าสาว

ข้อแนะนำ
    – เตรียมถั่ว งา ข้าวตอก ดอกไม้ ไว้ในพานหรือโถเล็กๆ สำหรับโรยบนสินสอเพื่อความเป็นสิริมงคล
    – คุณแม่เจ้าสาวเตรียมแอ็คติ้งการรรวบห่อสินสอดแล้วทำท่าแบกหนักๆ (ส่วนจะเขิน ทำท่าไม่ค่อยถูก)
    – คุณแม่เจ้าสาวเตรียมกระเป๋าใบใหญ่ไว้เก็บสินสอด

 

IMG_2399

9.00 น. พิธีหมั้น

ถ้าฤกษ์สวมแหวนคือ 9.09 น. ในเวลา 9.00 น. ญาติต้องไปรับตัวเจ้าสาวมาเข้าพิธีแล้วเพื่อจะได้มีเวลาถือพานธูปเทียนแพคลานเข่าไปกราบผู้ใหญ่งามๆ แล้วนั่งให้เรียบร้อย พร้อมสวมแหวน อย่าลืมสวมช้าๆ ตะแคงนิ้วหากล้องพร้อมยิ้มหวานให้ช่างภาพกดชัตเตอร์เป็นที่ระลึก

ข้อแนะนำ
    – ไปรับตัวเจ้าสาวก่อนฤกษ์สวมแหวนสัก 5 นาที
    – สวมช้า ๆ ตะแคงนิ้วหากล้องพร้อมยิ้มหวานให้ช่างภาพกดชัตเตอร์เป็นที่ระลึก   

 

งานแต่ง-ดอน-ธีระธาดา-(89-of-220)

9.30 น. พิธีสงฆ์

เป็นการนิมนต์พระมาสวดมนต์ให้พรเพื่อความเป็นสิริมงคล ถวายเพล รับศีล พร้อมเก็บน้ำมนต์ก้นบาตรไว้ใช้ในพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ต่อไป ส่วนมากหลังจากถวายเพลกับเครื่องไทยธรรมและกรวดน้ำเสร็จแล้วบ่าวสาวจะแยกตัวไปทำพิธีถัดไปโดยมอบหมายให้ผู้ใหญ่เป็นผู้รับรองพระสงฆ์ต่อ (เมื่อก่อนจะต้องรอให้พระฉันเพลเรียบร้อย บ่าวสาวจึงถวายเครื่องไทยธรรมและกรวดน้ำ แต่เดี๋ยวนี้หลายคู่นิยมรวบตึงให้จบในขั้นตอนเดียวเพื่อจะได้เริ่มพิธีการถัดไป) ทั้งนี้ บางคู่อาจนิมนต์พระสงฆ์มาตักบาตรเช้าหรือถวายอาหารเช้าให้เรียบร้อยก่อนเริ่มแห่ขันหมาก เพื่อความสะดวก

ข้อแนะนำ
   – ควรมีญาติผู้ชายคอยช่วยรับรองพระสงฆ์
    – เก็บน้ำมนต์ไว้ผสมน้ำสำหรับพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

 

W123_BLOSSOM-14

10.30 น. พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์

ระยะเวลาของขั้นตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนแขกอีกเช่นกัน โดยแขกที่จะหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ให้บ่าวสาวจะต้องเป็นผู้มีอาวุโสกว่า และหลังจากรดน้ำแล้วอย่าเทน้ำในพานรองทิ้ง ให้นำไปรดต้นไม้ใหญ่เพื่อความเจริญเติบโตของทั้งคู่ต่อไป

ข้อแนะนำ
    – เจ้าสาวนั่งทางซ้ายของเจ้าบ่าว
    – แขกที่จะหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ให้บ่าว - สาวควรจะต้องเป็นผู้มีอาวุโสกว่า
    – หลังจากรดน้ำแล้วให้นำน้ำในพานรองไปรดต้นไม้ใหญ่เพื่อความเจริญเติบโตของทั้งคู่ 

 

พิธีแต่งงานเช้า

11.15 น. พิธีไหว้ผู้ใหญ่

พิธีนี้มักเชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดจริงๆ โดยทั่วไปบ่าวสาวจะเตรียมของไหว้เป็นผ้าขนหนูหรือผ้าพับ แต่บางคู่ก็ครีเอตเป็นอย่างอื่นเช่น กระเป๋าผ้าไหมสีสวย ผลิตภัณฑ์จากศูนย์ศิลปาชีพ เซตของขวัญจากมูลนิธิต่างๆ คือเน้นเป็นของดูดีมีราคาและผู้ใหญ่น่าจะใช้ประโยชน์ได้ เพื่อให้สมน้ำสมเนื้อกับของรับไหว้ที่มักจะเป็นเงินหรือของมีค่า

ข้อแนะนำ
 – ควรเตรียมของไหว้เผื่อไว้สำหรับผู้ใหญ่ที่อาจจะมีมาเพิ่มหน้างาน

 

พิธีแต่งงานเช้า

11.45 น. งานเลี้ยง

หลังจากเสร็จสิ้นพิธี เจ้าภาพมักจะจัดงานเลี้ยงให้แขกได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน

 

พิธีแต่งงานเช้า

13.00 น. พิธีปูเตียงเรียงหมอน (ส่งตัวเข้าหอ)

เมื่อใกล้ฤกษ์ส่งตัว ให้เชิญพ่อแม่และผู้ทำพิธีปูเตียงเรียงหมอน (คู่รักอาวุโสที่อยู่กันอย่างมีความสุขจนแก่เฒ่าและมีลูกหลานดี)มาที่ห้องหอโดยพร้อมเพรียง เพื่อเตรียมตัวประกอบพิธีตามฤกษ์ที่กำหนดไว้คือ 13.09 น. โดยผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนควรเป็นของใหม่ ถ้าทำพิธีที่โรงแรมควรเอาของใหม่ปูทับเครื่องนอนของโรงแรมอีกที เมื่อเสร็จพิธีค่อยถอดกลับไปใช้ต่อที่บ้าน

เชื่อกันว่า หากบ่าวสาวคู่ใดเนรคุณผู้ทำพิธีปูเตียงเรียงหมอนจะไม่มีความสุขในชีวิตคู่ ดังนั้นจึงนิยมเลือกผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นที่นับหน้าถือตามากกว่าญาติสนิทซึ่งจะมีโอกาสกระทบกระทั่งกันสูง

ข้อแนะนำ
– ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนควรเป็นของใหม่เอี่ยม
– ถ้าทำพิธีที่โรงแรมควรเอาของใหม่ปูทับเครื่องนอนของโรงแรม เมื่อเสร็จพิธีค่อยถอดกลับไปใช้ที่บ้าน

อ่านบทความเพิ่มเติม

แจกให้ฟรีไม่มีเงื่อนไข!! ผังขบวน ขันหมากไทย มีเอาไว้อุ่นใจทุกคน

ลำดับขั้นตอนพิธีไหว้ผู้ใหญ่พร้อมสคริปต์แบบ 2 ภาษาอย่างเป๊ะ

https://praewwedding.com/thai-wedding/35424

3 เทคนิคเลือกชุดแต่งงานเซ็กซี่ ให้เซ็กส์แอพพีลพุ่งแบบไม่โป๊

เบื่อ ชุดแต่งงาน แบบเดิมๆ ที่มีแค่ความอลังแต่ขาดการปล่อยเสน่ห์แบบผู้หญิงแล้วหรือยัง ลองจัด ชุดแต่งงานเซ็กซี่ ที่จะช่วยให้คุณสาวๆ ได้เพิ่มเสน่ห์แบบผู้หญิ้งผู้หญิงดูบ้างเป็นไร กับ 3 เทคนิคเพิ่มดีกรีให้คุณเป็นเจ้าสาวเซ็กซี่แอพพีลสูงทะลุเนื้อผ้า

เปิดบ้าง ปิดบ้าง กระตุ้นใจให้เต้นแรง

เลือกเปิดเผยผิวเนื้อแบบน้อยๆ เน้นๆ และเซ็กซี่เล็กๆ แต่ก็ต้องไม่ให้น่าเกลียดประเจิดประเจ้อเกินไปนะคะ อย่างถ้าเลือกชุดแต่งงานคอกว้างผ่าลึกมาก คุณก็ควรเลือกชุดแต่งงานยาวจรดพื้นปกปิดขาอ่อนเอาไว้หน่อย หรือถ้าอยากโชว์แผ่นหลังเนียนๆ ด้านหน้าของชุดก็ควรจะเรียบร้อยมิดชิดไว้ให้คนมองเซอร์ไพรส์เล่นๆ เพราะคาดไม่ถึงว่าด้านหลังนั่นเล่า ช่างวาบเรียกให้ใจเต้นรัว

เรียบร้อยสุดๆ แต่ก็แซ่บมากจริงๆ นะ

“A secret makes a womanwoman.” อะไรที่ดูเผินๆ แลว่าจะไม่เห็นมีอะไร แต่ถ้าใช้เวลาอีกนิด โอ้วววววแม่คุณเอ๊ยยยยยย นี่คือเคล็ดลับการเลือกชุดเจ้าสาวที่ขอบอกว่าจะทำให้สาวเรียบร้อยดูแรงทะยานมาก เพราะการเซ็กซี่แบบปกปิด อำพรางไว้บ้าง ไม่ได้แบไต๋จนหมด ทำให้คุณเป็นเจ้าสาวที่ดูเซ็กซี่แบบแอพพีลสูงปรี๊ดได้เลย อย่างการเลือกใช้ผ้าโปร่งบางซีทรูหน่อยๆ ที่มองผ่านๆ แล้วก็รู้สึกว่ามิดชิดดีนะ แต่ถ้าได้ลองจ้องเกินสามวิ ก็จะเห็นว่าแหมม ช่างแฝงความร้อนแรงไว้อย่างแนบเนียนจริงๆ นะแม่คุณคนสวย

ส่วนสาวที่มาสายอยากอวดแผ่นหลังแต่ยังเกร็งๆ ก็มีทางเลือกเป็นชุดแต่งงานที่ใช้ลายของลูกไม้เป็นเครื่องมืออวดแผ่นหลังแบบวับๆ แวมๆ อ้อ….อีกอย่างที่กำลังนิยมมากๆ ไม่โป๊ให้ต้องกลัวโป๊ะ แต่เซ็กซี่จนต้องมองเหลียวหลังคือ เหล่าชุดพริ้วบางๆ ลูกไม้โปร่งๆ แต่ใช้ซับในสีเนื้อจ้า บอกเลยว่าเห็นทีไร หัวใจมันแอบจินตนาการไปลึกทุกทีจริงๆ

ชุดแต่งงาน
ขอบคุณภาพจาก brides.com

เป็นตัวของตัวเอง ดีที่สุด

“เวลาผู้หญิงใส่ชุดที่มั่นใจ จะทำให้ผู้หญิงดูเซ็กซี่มากขึ้น” นี่คือเรื่องจริงนะคะ เพราะความมั่นใจจะส่งพลังความเจิดจ้าออกมายังไงละค่ะ  ฉะนั้นเวลาเลือกชุดขอให้คุณเจ้าสาวเลือกชุดที่มั่นใจ ใส่พอดีตัว และมีความเป็นตัวของตัวเอง เท่านั้นแหละค่ะ เซ็กซี่แถมมีเสน่ห์ทางเพศแบบไม่ต้องพึ่งเทคนิคอะไรเลย

นี่ละคะ 3 ข้อง่ายๆ เทคนิคแบบไม่ลับเพิ่มเสน่ห์ทางเพศให้คุณเจ้าสาวได้เจิดจรัสแบบดาวเปล่งแสงท่ามกลางงานแต่งงานของคุณ ให้สมกับที่เป็นคืนของสาวๆ แบบแท้จริง

อ่านบทความเพิ่มเติม

เทคนิคเลือกชุดแต่งงานให้เข้ากับรูปร่าง สวยด้วยแถมเป๊ะปั๊วะไปอีก

ทุกสิ่งที่ว่าที่เจ้าสาวควรรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง ชุดแต่งงาน

ภาพ : allurebridals.com

5 ทริคชวนแขกในงานแต่งมาติด #แฮชแท็กงานแต่ง แบบได้ผล

เดี๋ยวนี้เทรนด์การติด # แฮชแท็กงานแต่ง กำลังเป็นที่นิยมนะคะ ไม่ว่างานใด อีเว้นท์ไหน ทุกคนล้วนสร้าง #แฮชแท็ก เฉพาะขึ้น ซึ่งการใส่เจ้า #แฮชแท็ก นี้มีประโยชน์ชัดๆ ในเรื่องของภาพแห่งความทรงจำในวันแต่งงานที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะนี่คือช่องทางที่คุณจะได้รวมไฟล์ภาพงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตแบบเป็นกลุ่มเป็นก้อน (และฟรีๆ) ทั้งจากช่างภาพมืออาชีพที่จ้างมาหรือแม้แต่เพื่อนๆ มือสมัครเล่นที่อาจบังเอิญกดชัตเตอร์ในมุมที่คุณปลื้มก็เป็นได้นะคะ

แต่สิ่งที่เป็นปัญหาของบ่าวสาวยุค #แฮชแท็ก ระบาดก็คือทำยังไงให้ชื่อที่ตั้งไว้ทำสำหรับใส่ # เป็นที่แพร่หลาย และเพื่อนๆ ได้ติดแท็กกันอย่างสมใจบ่าวสาว เรามีทริกง่ายๆ ในการชวนแขกและแจ้งบอก #แฮชแท็ก ประจำงานมาฝากกันค่ะ

ทริกที่ 1 : บอกผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่คุณมีก่อนถึงวันแต่งงานจริงเสมอ

ในเฟชบุ้ก ไอจี ทวิตเตอร์ ทุกสิ่งอย่างภายใต้บัญชีในชื่อของคุณล้วนเป็นช่องทางที่จะป่าวประกาศบอกแขกทุกคนได้ว่า ถ้าไปงานแต่งของคุณ หรืออยากเม้ามอยเรื่องงานแต่งของคุณ รวมถึงการโพสต์ภาพที่เกี่ยวข้องกับคุณในช่วงการเตรียมตัวเป็นบ่าวสาว ชักภาพกันแล้วอย่าลืมติด #แฮชแท็ก ตามนี้ให้ด้วยนะจ้ะ

hashtag

ทริกที่ 2 : ในการ์ดเชิญก็ต้องใส่นะจ้ะ

อย่าได้คิดเชียวค่ะว่าในการ์ดเชิญต้องมีแค่ฟอร์แมทแบบเดิมๆ ที่มีชื่อประธาน ชื่อพ่อแม่ ชื่อบ่าวสาว เวลาสถานที่ ถ้าคุณมั่นใจว่า #แฮชแท็ก ที่ว่านี้ใช้ในงานชัวร์ก็ใส่ลงไปในการ์ดเชิญเลยค่ะ

ทริกที่ 3 : ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง

แน่นอนว่าคุณเองเป็นเจ้าของบัญชีในโลกโซเชียล ก็ต้องเป็นผู้นำในการใส่ #แฮชแท็ก งานของตัวเองสิคะ ใส่มันเข้าไปค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเชิญเพื่อนมางาน หรือแจ้งข่าวความคืบหน้าการจัดงาน รวมถึงทุกสิ่งที่คุณอยากอัพภายใต้บัญชีชื่อคุณ คุณต้องไม่ลืมติด #แฮชแท็ก เสมอ

ทริกที่ 4 : ย้ำ #แฮชแท็ก ในงานแต่งด้วยถ้าเป็นไปได้

แม้จะประกาศก้องในโลกโซเชียลมากมายแล้วก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าอาจมีคนที่ไม่ได้ท่องโลกออนไลน์บ่อยๆ ซึ่งนั่นแปลว่าคนเหล่านั้นอาจไม่รู้ว่าคุณมี # ส่วนตัวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ สิ่งที่ควรทำคือ ป่าวประกาศในงานเพื่อเป็นการย้ำ จะด้วยการทำป้ายมาตั้งหน้างานเขียนบอกตัวโตๆ วางไว้หน้างานหรือบนโต๊ะอาหาร รวมถึงไหว้วานสาวๆ ที่โต๊ะลงทะเบียนใส่ซองให้บอกแขก

ทริกที่ 5 : บอกดังๆ ที่บนเวทีและบนจอ

ใช้เวทีและจอโปรเจคเตอร์ของงานแต่งงานให้เกิดประโยชน์ ทั้งการบอกให้พิธีกรในงานพูดประกาศชวนแขกในงาน #แฮชแท็ก ให้กับคุณ โดยอาจมีรางวัลมาล่อบ้างนิดๆ หน่อยๆ หรือถือโอกาสสร้างเป็นเกมสนุกๆ ในงาน รวมถึงตอนที่ฉายวิดีโอพรีเซนเทชั่นที่ใส่ # ทิ้งท้ายตอนจบหรือแม้แต่ตอนที่คุณขึ้นกล่าวคำขอบคุณแขก ก็อย่าลืมหยอดคำหวานว่า ถ่ายรูปในงานของคุณแล้ว อย่าลืมติด #แฮชแท็ก ให้ด้วยนะคะ

อ่านบทความเพิ่มเติม

รู้แล้วก็ไว้แพ็คเลยกับ 14 ของฉุกเฉินงานแต่ง เตรียมไว้อุ่นใจชัวร์

3 ข้อแนะนำ จาก 3 ช่างภาพเวดดิ้งมือโปร รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนจ้างช่างภาพงานแต่ง

https://praewwedding.com/planning/119342

ภาพเปิด : greenweddingshoes.com

AUBE สถานที่จัดงานแต่งงานบรรยากาศเรียบหรูเจือกลิ่นมินิมอลแบบธรรมชาติ

ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานแต่งงานรูปแบบเรียบง่าย กว้างขวาง มีพื้นที่ทั้งอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ แพรวเวดดิ้งมีตัวเลือกอย่าง AUBE (โอบ) มานำเสนอ สถานที่จัดงานขนาด 1,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่บนถนนราชพฤกษ์มีดีไซน์สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่ายแต่ให้ความสวยงามเก๋ไก๋ ช่วยสร้างบรรยากาศงานแต่งได้เป็นอย่างดี พร้อมพื้นที่ใช้สอยที่ออกแบบให้เป็นสเปซโล่งๆ เพื่อรองรับงานแต่งทั้งสเกลเล็ก-ใหญ่ได้อย่างสะดวกสบาย อีกทั้งในทุกๆ มุมยังดีไซน์มาให้สามารถถ่ายภาพได้อย่างสวยงามโดยไม่จำเป็นต้องตกแต่งสถานที่ให้มากมายด้วย

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

คุณพลวิทย์ รัตนธเนศวิไล สถาปนิกผู้ออกแบบ AUBE ได้เล่าถึงคอนเซปต์ในการสร้างสถานที่สุดเก๋ว่า อยากให้สถานที่แห่งนี้สามารถเป็นได้ทั้งสถานที่จัดงานแต่งงานและเป็นฉากสวยๆ สำหรับภาพถ่ายให้กับบ่าวสาวได้ด้วย โดยการออกแบบจะคำนึงถึงรูปแบบพิธีการแต่งงานที่มีความหลากหลายในปัจจุบันเป็นหลัก ที่มีทั้งพิธีแบบไทย แบบจีน และแบบฝรั่ง เพราะฉะนั้นไม่ว่าบ่าวสาวจะจัดงานแบบไหนก็สามารถใช้พื้นที่ของสถานที่ได้ทั้งหมด

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

นอกจากนี้ AUBE ยังโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ซุ้มโค้งที่ดูแปลกตาแต่สวยงามและเล่นกับแสงเงาช่วยให้ภาพออกมาดูเก๋กว่าใคร หรือในส่วนของห้องจัดเลี้ยงยังมีช่องแสงขนาดใหญที่ช่วยให้การจัดงานพิธีในช่วงเช้าดูสว่างขึ้น รวมไปถึงการดีไซน์แสงไฟภายในฮอลล์สำหรับพิธีฉลองในยามค่ำคืนก็ได้รับการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อให้มีความสวยงามเวลาถ่ายภาพอีกด้วย

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

จุดเด่นของที่นี่คือ การออกแบบทางเดินให้สอดรับกับพิธีแห่ขันหมาก ด้วยการวางผังอาคารที่มีเส้นทางเดินที่สวยงาม เป็นโครงสร้างแบบสับหว่างไปมาเพื่อความสวยงามของขบวน เมื่อสุดทางเดินจึงเป็นคอร์ทที่มีอาคารล้อมรอบ ถัดมาเป็นอาคารหลังเล็กสำหรับใช้เป็นพิธีสงฆ์และพิธีหมั้น ซึ่งภายในห้องมีเวทีทั้งสองฝั่งเพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการจัดทั้งสองพิธีโดยไม่ต้องเสียเวลาจัดพื้นที่ใหม่ ส่วนห้องพิธีฉลองอยู่คนละอาคารเชื่อมโดยคอร์ดยาร์ดสวยๆ ที่ด้านนอก

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

ส่วนตัวอาคารด้านในออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับโบสถ์สมัยก่อนที่มีทั้งตัวอาคาร คอร์ด และระเบียงที่เชื่อมกับอาคาร ซึ่งภายในตัวอาคารสามารถรองรับได้ทั้งพิธีหมั้นและพิธีจัดเลี้ยง

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

ห้องจัดงานหลักสามารถจุคนได้ 400 คน ตัว เพดานสูง 7 เมตร เป็นหลังคาโปร่งเพื่อช่วยกระจายแสงให้ผ่านเข้ามาได้เสมือน soft box ขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพงานแต่งงานสเกลใหญ่ออกมาได้อย่างสวยงาม

สถานที่จัดงานแต่งงาน

สถานที่จัดงานแต่งงาน

พื้นที่ไฮไลต์คือบริเวณคอร์ดกลางแจ้งที่สามารถปรับให้เป็นพื้นที่สำหรับโยนช่อดอกไม้ของเจ้าสาว โดยพื้นที่นี้ตรงกลางมีบันไดวนเพื่อเดินขึ้นไปยังระเบียง เมื่อขึ้นไปแล้วแขกจะสามารถมองเห็นเจ้าสาวได้จากหลายมุมมอง

เรียกได้ว่าทุกพื้นที่ของ AUBE ได้ออกแบบมาเป็นอย่างดีโดยคำนึงถึงการใช้งานและความสวยงามควบคู่กันไป จึงทำให้ทั้งบรรยากาศและในภาพถ่ายงานแต่งงานของบ่าวสาวออกมาเป็นที่น่าประทับใจในทุกมุมมอง และในทุกพื้นที่ยังสามารถสร้างความสุขให้กับแขกที่มาร่วมงานได้อีกด้วย

AUBE
10 ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
โทร. 098-665-5822
ไลน์ : @aubevenue
เว็บไซต์ : www.aubevenue.com

อ่านก่อน! เลือกทรงเล็บเจ้าสาวแบบไหนดี ช่วยส่งให้นิ้วมือดูเรียวยาว

งานแต่งงานคืองานสำคัญในชีวิตของผู้หญิงทุกคน แน่นอนว่าเจ้าสาวทุกคนต้องการเป็นเจ้าหญิงที่สวยที่สุดและเป๊ะที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้า และสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เสื้อผ้า หน้า ผม นั่นก็คือเล็บมือนั่นเองค่ะ ซึ่งเล็บมือนั้น จะมีทรงการตัดแต่งที่แตกต่างกันออกไป แพรว wedding จึงขอนำ ทรงเล็บเจ้าสาว มานำเสนอให้เจ้าสาวได้ลองเลือกไปตัดแต่งทรงกัน แต่ก่อนเลือกทรงเล็บเจ้าสาวควรเช็คลักษณะนิ้วมือของตนเองก่อนว่ามีลักษณะแบบไหน เช่น เรียวยาวหรือสั้นป้อม เพื่อที่จะได้จัดทรงเล็บสวยงามและส่งให้นิ้วมือดูเรียวยาวในวันสำคัญ

และต่อไปนี้คือ 5 ทรงเล็บสวยที่จะช่วยให้เล็บของเจ้าสาวดูเรียวยาว ไปดูกันเลย

1. ทรง Rounded

มีลักษณ์สั้นและโค้งกลม เล็บทรงนี้จะดูแลรักษาง่าย เหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องใช้นิ้วมือหยิบจับของตลอดโดยไม่ได้ระมัดระวัง แถมยังเป็นทรงเล็กที่ไม่ต้องกลัวว่าเล็บจะหัก แต่อาจจะมีพื้นที่ในการตกแต่งเล็บน้อยกว่าทรงเล็บชนิดอื่น และเหมาะกับเจ้าสาวที่มีนิ้วมือเรียวยาว ไม่เหมาะกับเจ้าสาวที่นิ้วมือสั้น เพราะจะทำให้มือยิ่งดูสั้นป้อมค่ะ

ทรงเล็บเจ้าสาว

2. ทรง Oval

ทรงนี้จะมีลักษณะคล้ายกับทรง Rounded แต่ไม่ได้สั้นเสมอปลายนิ้ว จึงทำให้มีพื้นที่ในการตกแต่งหน้าเล็บเพิ่มขึ้น และดูเรียบร้อยกำลังดี เหมาะกับเจ้าสาวที่มีนิ้วมือผอมและหน้าเล็บสั้นค่ะ

ทรงเล็บเจ้าสาว

3. ทรง Almond

เป็นทรงยอดฮิต ที่ช่วยทำให้นิ้วมือดูเรียวยาว เรียบหรูดูดี และมีพื้นที่ในการตกแต่งหน้าเล็บเยอะขึ้นกว่าทรง Oval แถมยังเป็นทรงที่สามารถใช้ได้ทั้งเจ้าสาวที่นิ้วมือเรียวยาวและนิ้วมือสั้น

ทรงเล็บเจ้าสาว

4. ทรง Square

เป็นทรงสี่เหลี่ยม ที่สามารถไว้เล็บยาวหรือสั้นก็ได้ตามใจเจ้าสาว เพียงแค่ตะไบเล็บให้ได้ทรงตามที่ต้องการ แถมยังเป็นทรงที่ฉีกหักได้ยาก และเป็นทรงเล็บที่สามารถตกแต่งหน้าเล็บได้หลายแบบอีกด้วย แต่ทรงนี้ไม่เหมาะกับเจ้าสาวที่มีนิ้วมือสั้นนะคะ 

5. ทรง Coffin

เล็บทรงนี้เป็นอีกทรงที่สาวๆ นิยมใช้ ลักษณะคล้ายๆ กับทรง Almond บวกกับทรง Square หรือเรียกได้ว่าเป็นการตัดปลายเล็บ ทำให้เล็บดูยาว สมัยใหม่ เหมาะกับเจ้าสาวที่มีนิ้วมือเรียวยาวและสั้น แถมทำเล็บทรงนี้แล้วจะยิ่งส่งให้นิ้วมือของเจ้าสาวนั้นดูเรียวยาวมากขึ้นไปอีก

* ส่วนทรงเล็บที่เจ้าสาวไม่ควรใช้เลยก็คือ ทรง Mountain Peak เล็บทรงนี้คือเล็บทรงแหลม เป็นทรงเดียวกับนักร้องสาว Taylor Swift ที่ใช้ในมิวสิควิดีโอเพลง Look What You Made Me Do นั่นเองค่ะ เนื่องจากเล็บทรงนี้มีลักษณะที่ยาวแหลม ที่อาจจะดูน่ากลัวมากกว่าน่ารัก ถ้าเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง นอกจากจะเป็นความชอบส่วนบุคคลของเจ้าสาว อันนี้เราก็ไม่ห้ามนะคะ

ทรงเล็บเจ้าสาว

เป็นยังไงบ้างคะ มีแบบทรงเล็บในดวงใจแล้วหรือยัง ต่อจากนี้ว่าที่เจ้าสาว หรือเพื่อนเจ้าสาวเพียงแค่บอกช่างทำเล็บว่าอยากได้ทรงไหน เท่านี้คุณก็จะได้เล็บมือสวยๆ ดูสะอาดสะอ้าน แถมยังเข้ากับลักษณะนิ้วมือของเจ้าสาวแต่ละคน และช่วยเพิ่มเสน่ห์ยามสวมแหวนหมั้นอีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม

สาวๆ จดให้ไว! กับ 8 เคล็ดลับเด็ดที่ใส่รองเท้าส้นสูงไม่เมื่อยเดินสวยตลอดงาน

4 เรื่องสำคัญที่เจ้าสาวต้องพูดคุยกับช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าสาวให้เคลียร์

https://praewwedding.com/planning/89691

ภาพจาก : Pinterest

ฟินหนัก! ส่อง 4 คนดังสวยมากกับพาเหรดชุดแต่งงานสุดเพอร์เฟ็กต์ในนิตยสารแพรว Wedding มิ.ย. 63

“พลอย – แพนเค้ก” & “แมท – ไอซ์” นิตยสารแพรว Wedding ฉบับเดือนมิถุนายน 2563 จัดเต็ม 4 ปกจุใจสุดๆ กับแฟชั่นชุดแต่งงานสากลและชุดไทยกว่าร้อยชุดที่เจ้าสาวไม่ควรพลาด!

สาวๆ ที่กำลังมีแพลนจะแต่งงานต้องมีนิตยสารแพรว wedding ฉบับเดือน มิ.ย. 63 เล่มนี้ไว้ในมือด่วนๆ! เพราะเรารวมแบบชุดแต่งงานทั้งสากลและไทยให้ดูแบบเต็มอิ่มชนิดที่ว่าไม่ต้องไปหาที่ไหนอีกแล้ว

พลอย – เฌอมาลย์ & แพนเค้ก – เขมนิจ

นิตยสารแพรว Wedding

นิตยสารแพรว Wedding

“พลอย – เฌอมาลย์” มาในคอนเซ็ปต์เจ้าสาวหวานซ่อนเปรี้ยวดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยในชุดแต่งงานสไตล์ต่างๆ บอกได้คำเดียวว่าเริด!

นิตยสารแพรว Wedding

นิตยสารแพรว Wedding

“แพนเค้ก – เขมนิจ” งดงามอย่างหญิงไทยด้วยชุดไทยแบบต่างๆ ในคอนเซ็ปต์สีสันสวยหวานของดอกไม้ช่วยให้เจ้าสาวสวยเก๋ไม่ซ้ำใคร

ไอซ์ – อภิษฎา & แมท – ภีรนีย์

นิตยสารแพรว Wedding

“ไอซ์ – อภิษฎา” แฟชั่นชุดแต่งงานหลากสไตล์ ที่เปรียบดั่งอัญมณีชิ้นงามให้เจ้าสาวได้เปล่งประกายในวันสำคัญ

“แมท – ภีรนีย์” ถึงหน้าฝรั่งแต่หวานไม่เบา ในแฟชั่นชุดไทยประยุกต์หลากเฉดที่ช่วยสร้างเสน่ห์ให้เจ้าสาวดูแตกต่างและทันสมัย

นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของชุดแต่งงานกว่าร้อยชุดที่อยู่ในนิตยสารแพรว Wedding ฉบับเดือน มิ.ย. 2563 ถ้าอยากชมภาพแฟชั่นสวยๆ แบบเต็มๆ กว่านี้ พร้อมเรื่องราวสาระดีๆ ในการจัดงานแต่งงาน สามารถเข้าไปพรีออเดอร์กันได้ หรือหากใครที่พรีออเดอร์กันไว้แล้วก็รอรับนิตยสารแพรว Wedding ฉบับเดือน มิ.ย. 2563 กันได้เลย และยังมีอีกหนึ่งช่องทางคือสามารถสอบถามสั่งซื้อเพิ่มเติมได้ที่ ร้านนายอินทร์ หรือติดต่อแผนกสมาชิกนิตยสาร โทร. 02-423-9999 กด 1 ได้เลยค่ะ

16 ไอเดียเพิ่มความน่ารักอบอุ่นให้งานแต่งในสวนเล็กๆ จนแขกต้องจดจำ

งานแต่งในสวนเล็กๆ คืออีกหนึ่งสไตล์งานแต่งงานในฝันของบ่าวสาวหลายคู่ แต่จะสร้างสรรค์งานแต่งนี้ให้ออกมาถูกใจทั้งบ่าวสาวและแขกได้ยังไง มาดู

งานแต่งในสวนเล็กๆ ก็ต้องการกิมมิกบางอย่างที่จะช่วยสร้างสีสันให้งานดูมีชีวิตชีวา ซึ่งบางครั้งกิมมิกที่ว่าก็อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ  ที่ไม่ต้องทุ่มเงินเยอะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมานั้นเกินคุ้ม อย่างเช่น 16 ไอเดียงานแต่งนี้ที่แพรว wedding นำมาฝาก รับรองว่าแค่เพิ่มเข้าไปในงานแต่งของบ่าวสาวปั๊บ ทันทีที่แขกได้เห็นจะต้องหลงรักงานแต่งงานของคุณแน่นอน

งานแต่งในสวนเล็กๆ

ว่าที่เจ้าสาวหลายคนเมื่อจัดงานแต่งในสวนสวยก็มักจะเลือกช่อดอกไม้เจ้าสาวเป็นดอกไม้สีสันสดใส แต่ถ้าหากคุณอยากเป็นว่าที่เจ้าสาวที่คิดต่างและโดดเด่น เราขอแนะนำให้ว่าเจ้าสาวลองเปลี่ยนจากช่อดอกไม้ มาเป็นช่อใบไม้สวยๆ ดูก็เก๋ไม่เลวนะ

งานแต่งในสวนเล็กๆ

หมดยุคที่ว่าที่เจ้าสาวจะแต่งตัวให้เข้ากับเป็นเซตแล้วจ้า เพราะเพื่อนเจ้าสาว 2018-2019 ต้องแตกต่างด้วยการเลือกแบบชุดที่ต่างกันออกไป แต่อาจจะคุมโทนด้วยกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ที่มีร่วมกัน เช่น ลายผ้า ข้อมือเพื่อนเจ้าสาว หรือมงกุฎดอกไม้

งานแต่งในสวนเล็กๆ

จัดงานแต่งในสวนก็ต้องให้แขกได้สัมผัสกับบรรยากาศของใบไม้ใบหญ้า เช่น การจัดที่นั่งสไตล์ปิคนิค โดยอาจเลือกลายผ้าสวยๆ หรือถ้าหากกลัวว่าแขกจะนั่งลำบาก ก็อาจจะเปลี่ยนมาเป็นเบาะแบบสตูลก็ได้นะ

งานแต่งในสวนเล็กๆ

งานแต่งสไตล์เอ้าท์ดอร์แบบนี้ก็ต้องเพิ่มกิมมิกอะไรให้ดูสดใสเข้ากับบรรยากาศ และด้วยบรรยากาศงานที่ดูง่ายๆ สบายๆ เป็นกันเอง ก็อาจจะจัดกิจกรรมให้แขกได้สนุกกันสักหน่อย รับรองว่างานแต่งของคุณจะดูอบอุ่นหัวใจขึ้นมาเป็นกอง

งานแต่งในสวนเล็กๆ

แน่นอนว่าแขกเมื่อต้องมางานแต่งก็ต้องแต่งตัวจัดเต็มทุกราย โดยเฉพาะสาวๆ ที่ต้องงัดรองเท้าส้นสูงออกมาสวมใส่ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่สะดวกหากต้องเดินบนพื้นหญ้า เพราะฉะนั้นจัดไปค่ะกับ รองเท้าแตะ สีสดใสสักคู่ให้แขกได้ใช้เปลี่ยนเมื่อเดินเข้างาน แถมยังใช้เป็นของชำร่วยในงานแต่งได้อีกด้วย

งานแต่งในสวนเล็กๆ

เพื่อเสริมให้งานแต่งเล็กๆ ของบ่าวสาวดูอบอุ่นมากขึ้น การมีเวลคัมดริ้งค์ หรือเครื่องดื่มสีสันสดใสที่ดูเป็นซิกเนเจอร์งานแต่งของบ่าวสาวก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย อาจจะเลือกสีสันให้เป็นแบบพาสเทลแล้วลอยด้วยดอกไม้สวยหวาน เท่านี้ก็ช่วยให้แขกสดชื่นทางสายไปถึงหัวใจแล้ว

งานแต่งในสวนเล็กๆ

หากคุณแม่ หรือเพื่อนๆ ของคุณเป็นคนชอบทำขนมและพอมีฝีมืออยู่บ้าง เพื่อให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมคุณอาจจะให้พวกเขานำลองทำขนมมาวางเสิร์ฟไว้ในงานแต่งก็ได้ ซึ่งนอกจากพวกเขาจะภูมิใจเพราะได้มีส่วนร่วมในวันสำคัญของคุณแล้ว แขกในงานยังได้อิ่มท้องไปกับขนมอร่อยๆ อีกด้วย

งานแต่งในสวนเล็กๆ

เพื่อให้แขกทุกคนได้ช่วยสร้างบรรยากาศงานแต่งของคุณให้ดูร่าเริงสดใสในช่วงเปิดตัวบ่าว คุณอาจจะจัดเตรียมแท่งริบบิ้นหลากสีหลายหลายเอาไว้ให้แขกได้ร่วมกับโบกให้ไสวขณะที่บ่าวสาวเดินเข้างาน นอกจากที่แขกทุกคนจะได้รู้สึกมีส่วนร่วมกับงานแล้ว เราเชื่อว่าคุณจะได้ภาพถ่ายสวยๆ จากช็อตนี้ไปอย่างแน่นอน

งานแต่งในสวนเล็กๆ

อุตส่าห์จัดงานแต่งแบบอบอุ่นเป็นกันเอง แต่ถ้าเค้กงานแต่งมาเป็นเค้ก 6 ชั้น 7 ชั้นก็ดูจะหลุดจากธีมงานไปหน่อย เราขอแนะนำให้ว่าที่บ่าวสาวลองเปลี่ยนมาเป็นเค้กสไตล์โฮมเมดแบบที่ทานได้ทั้งก้อน โดยอาจจะเลือกเป็นเค้กแค่ 1 ชั้นหรือ 2 ชั้นที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย เท่านี้เค้กแต่งงานก็ดูเข้ากับธีมงานของคุณแล้ว

งานแต่งในสวนเล็กๆ

เปลี่ยนไอเดียการแจกของชำร่วยแบบเดิมๆ มาเป็นการแจกของชำร่วยแบบเป็นเซตพร้อมถุงผ้าดีกว่า ซึ่งนอกจากจะดูเก๋ไก๋แล้ว เมื่อแขกได้รับของชำร่วยไปก็ไม่ต้องถือให้เกะกะ อีกทั้งถุงผ้ายังสามารถนำไปใช้งานได้หลังจากนี้อีกด้วย เพราะฉะนั้นคิดโลโก้สวยๆ รอไว้เตรียมสแกนลงกระเป๋าผ้าได้เลย

เปลี่ยนทางเดินที่เป็นดิน หรือเป็นหญ้าให้เป็นทางเดินสุดเก๋ที่แขกต้องตะลึง ด้วยการหาผืนพรมสวยๆ มาปูเป็นทางเดิน ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเลือกเป็นผืนพรมที่สีเดียวหรือลายเดียวกันตลอดผืนนะ เพราะไหนๆ เลือกที่จะแตกต่างแล้ว บ่าวสาวสามารถที่จะเลือกพรมให้ต่างสีและคละลายกันได้ แถมยังช่วยให้ลุคงานแต่งของบ่าวสาวดูสบายๆ เหมือนจัดงานในห้องนั่งเล่นเลยล่ะ

เพิ่มสีสันให้โต๊ะทานอาหารดูน่านั่งมากขึ้นการจัดเทเบิ้ลรันเนอร์สวยๆ ให้เข้ากับธีมงาน เช่น ผ้าผืนลายสวยสุดเก๋ ชุดแก้ว จานชาม ช้อนส้อมที่ดูเข้าชุดกัน เพิ่มเติมดอกแจกันประดับดอกไม้อีกเล็กๆ น้อยๆ เท่านี้ก็ช่วยให้บรรยากาศของโต๊ะอาหารดูน่านั่ง แถมช่วยใหแขกเจริญอาหารได้อีกทางหนึ่งด้วย

หรือถ้าหากบ่าวสาวเบื่อแล้วกับการตัดเค้กแต่งงานแบบเดิมๆ ลองเปลี่ยนมาเป็นการตัด เครปเค้ก ดูบ้างมั้ยคะ ถึงแม้จะดูตัดยากสักนิด แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณเลือกใช้เครปเค้กจริงๆ งานนี้คำว่า เก๋ เริด ไม่เหมือนใคร งานของคุณได้คะแนนไปเต็มร้อยแน่นอน

เปลี่ยนบรรยากาศงานแต่งงานให้ดูเป็นสไตล์คลับด้วยการใช้หลอดไฟนีออนสีสุดจี๊ดมาทำเป็นชื่อ ตัวย่อ หรือโลโกบ่าวสาว ที่นอกจากจะใช้เป็นมุมถ่ายรูปสุดชิคได้แล้ว เมื่อจบงานยังสามารถนำไปใช้เป็นของแต่งบ้านเก๋ๆ ได้อีกด้วย

ก็ในเมื่องานแต่งของบ่าวสาวเป็นแบบง่ายๆ สบายๆ กันเอง เพราะฉะนั้นมุมเครื่องดื่มก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วย โดยอาจจะเลือกถังเหล็ก สแตนเลส หรือถังไม้มาแช่เครื่องดื่มแล้วให้แขกเลือกหยิบเองได้ตามสะดวก แถมยังประหยัดค่าบริกรที่จะต้องคอยเสิร์ฟได้อีก

แต่ถ้าคุณจัดงานแต่งแบบเอ้าท์ดอร์ในวันที่อากาศสดใสเป็นใจไม่ร้อนมาก คุณอาจจะจัดซุ้มเครื่องดื่มน่ารักไว้ให้แขกได้คอยบริการตัวเองดู เราว่าก็เป็นไอเดียที่เก๋ไม่หยอก เผลอๆ ใช้เป็นมุมถ่ายรูปน่ารักๆ ได้ด้วยน้า

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 ทริคชวนแขกในงานแต่งมาติด #แฮชแท็กงานแต่ง แบบได้ผล

15 สิ่งต่อไปนี้เจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาวต้องเตรียมไว้ในเช้าวันแต่งงาน

https://praewwedding.com/planning/advice-and-ideas/5480

ภาพ stylemepretty.com

ไอเดียแบ็คดร็อปดอกไม้ในงานแต่งงาน สวยงามสไตล์มินิมอล

ปัจจุบันว่าที่บ่าวสาวหลายคู่เลือกที่จะจัดงานแต่งงานเอง เน้นงานแต่งงานแบบเล็กๆ ที่ดูอบอุ่นเป็นกันเอง เลยทำให้พร็อพส์หรือการตกแต่งงานแต่งงานนั้นดูน้อยลงไปด้วย แพรว wedding เลยจัดไอเดีย แบ็คดร็อปดอกไม้ สไตล์มินิมอลมาฝาก ที่ถึงจะดูน้อยดอกไม้ไม่ตู้ม แต่ความสวยนั้นกินขาดนะจะบอกให้

หากเป็นงานแต่งงานในสวน แนะนำให้คุมโทนสีแบ็คดร็อปในสีขาว-เขียว แล้วเลือกปูทางเดินเข้างานและเก้าอี้ในงานแต่งให้เป็นสีขาว จะช่วยให้บรรยากาศงานแต่งงานของบ่าวสาวดูเรียบหรูและทันสมัย

สำหรับบ่าวสาวที่เลือกจัดงานแต่งงานในสตูดิโอหรือร้านอาหารที่อาจมีพื้นที่จำกัด แนะนำให้เลือกจัดแบ็คดร็อปแบบเรียบง่าย อย่างการร้อยดอกไม้และใบไม้ให้ดูคล้ายเถาวัลย์แล้วห้อยเป็นเส้นสาย เท่านี้บ่าวสาวก็ได้แบ็คดร็อปถ่ายภาพสวยๆ ที่ดูทันสมัยสุดๆ แถมยังประหยัดด้วย

ลองหามุมสักมุมจัดให้แขกได้มีพื้นที่ถ่ายภาพอัพลงโซเชียล โดยหาเก้าอี้โซฟาดีไซน์โมเดิร์นสักตัววางไว้ที่มุมห้อง แล้วตกแต่งด้วยบรรดาดอกไม้ให้ดูคล้ายว่านั่งอยู่กลางสวย ซึ่งนอกจากจะเป็นมุมสวยๆ ให้แขกได้ถ่ายภาพแล้ว ยังสามารถปกปิดส่วนที่ไม่น่าดูของสถานที่ได้ดีอีกด้วย

ถึงแม้จะจัดงานแต่งงานแบบอินดอร์ บ่าวสาวก็สามารถสร้างสรรค์ให้ดูเหมือนว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษาได้ กับทางเดินเข้างานที่เรียงรายด้วยดอกไม้สีสวยทั้งสองด้าน แล้วไปจบที่ซุ้มดอกไม้สวยหวาน หากบ่าวสาวได้ไปยืนอยู่ตรงกลางซุ้มนั้น รับรองว่าจะได้ภาพสวยๆ ที่น่าประทับใจแน่นอน

แบ็คดร็อปสีเขียวทั้งพื้น ที่ด้านบนตกแต่งด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ไล่เฉดกันไป และมีสีสันที่ตัดกันอย่างสวยงาม ช่วยส่งให้เจ้าสาวที่ในชุดแต่งงานสีขาวนั้นดูโดดเด่นสุดๆ และเราขอแนะนำให้แก๊งเพื่อนเจ้าสาวสวมชุดในเฉดสีสันอัญมณี รับรองว่าคุณจะดูดีแบบไม่แย่งซีนเจ้าสาวแน่นอน

เสริมให้ป้ายทางเข้างานของบ่าวสาวดูโดดเด่น ด้วยการจัดดอกไม้ให้สวยงามตามโครงสร้างของป้าย แล้วอย่าลืมดีไซน์ป้ายให้สวยเก๋ด้วยนะ รับรองว่านี่แขกจะประทับใจตั้งแต่ทางเข้างาน และจะเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายภาพดีๆ ในงานแต่งงานแน่นอน

ซุ้มสำหรับทำพิธีและใช้เป็นแบ็คดร็อปบนเวทีได้ด้วย กับการเลือกไม้ที่มีความแข็งแรงเพื่อใช้ทำเป็นเสาสี่เสา ด้านบนตกแต่งด้วยดอกไม้และใบไม้ให้สวยงาม อย่าลืมเลือกดอกไม้ที่มีลักษณะแบบห้อยย้อยลงมาตกแต่งอีกนิด เท่านี้บ่าวสาวก็ได้ซุ้มแต่งงานสวยๆ แล้ว

ในเมื่อความรักหอมหวานและสวยงามเหมือนดอกกุหลาบ ถ้าอย่างนั้นก็ใช้ดอกกุหลาบมาทำเป็นแบ็คดร็อปงานแต่งซะเลย กับแบ็คดร็อปที่ประดับดอกกุหลาบไว้ทั่วทั้งผืน โดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีชมพูจากด้านบนลงมาเป็นสีขาว ซึ่งถ้าจะให้สวยสตั๊นจริงๆ งานนี้บ่าวสาวอาจจะต้องทุ่มงบแล้วใช้ดอกไม้จริงทั้งหมดนะจ๊ะ

บ่าวสาวที่จัดงานแต่งงานในโบสถ์ก็สามารถทำให้ทางเข้างานดูสวยงามเหมือนปราสาทในนิยายได้นะ ด้วยการสร้างสรรค์ให้ทางเข้าดูเหมือนอุโมงค์ดอกไม้ แถมยังช่วยเปลี่ยนประตูทางเข้าโบสถ์ธรรมดาให้กลายเป็นแบ็คดร็อปสำหรับถ่ายภาพได้ด้วย แต่ก่อนอื่นอย่าลืมสอบถามกับทางสถานที่ด้วยนะว่าอนุญาตหรือไม่

เปลี่ยนกำแพงอิฐธรรมดาที่ไม่น่าดูให้กลายเป็นแบ็คดร็อปถ่ายภาพเท่ๆ ด้วยการจัดซุ้มใบไม้ให้เลื้อยไปตามกำแพงอิฐ เท่านี้ก็ช่วยเปลี่ยนภาพที่ไม่น่าดู ให้กลายเป็นภาพถ่ายแสนสวยในความทรงจำได้แล้ว

แบ็ดดร็อปแบบวงกลม เป็นเทรนด์แบ็คดร็อปที่กำลังได้รับควานิยมมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังช่วยประหยัดพื้นในการตกแต่ง ช่วยให้งานแต่งของบ่าวสาวดูโล่งโปร่งสบายตา และยังไดภาพถ่ายที่ดูแปลกตาไม่ซ้ำใคร แต่สวยงามสุดๆ ด้วย

อยากจัดงานแต่งงานในสวนแต่สถานที่มันไม่ใช่! ก็ทำให้ใช่สิคะ กับการเลือกต้นไม้ต้นเล็กๆ มาประดับไว้ เสริมด้วยสวนดอกไม้สองข้างทาง เท่านี้ก็ได้ฟีลว่ากำลังแต่งงานท่ามกลางสวนสวยแล้ว

ว่าที่บ่าวสาวที่กำลังกังวลใจว่าจะปกปิดส่วนที่ไม่น่าดูของสถานที่ได้ยังไงดี เราขอแนะนำให้เปลี่ยนเป็นแบ็คดร็อปถ่ายภาพไปเลยค่ะ โดยอาจจะดีไซน์ให้เป็นผนังใบไม้ดีไซน์แปลกตา เสริมด้วยดอกไม้นิดๆ ให้ดูสดชื่น

สร้างความแตกต่างให้แบ็คดร็อปดอกไม้ ด้วยการเลือกใช้ดอกไม้กระดาษ แต่งานนี้ดอกไม้กระดาษต้องตู้มๆ หน่อยนะ รับรองว่าถ่ายรูปออกมาแล้วสวยแน่นอน อ่อ อย่าลืมจัดมาอักสัก 2-3 ดอกสำหรับตกแต่งไว้ด้านข้างด้วยนะ

บ่าวสาวที่ชอบความแปลกใหม่ อยากได้ความเก๋ไก๋ ต้องไม่พลาดการจัดแบ็คดร็อปถ่ายภาพสไตล์นี้ ด้วยการสร้างผลงานสไตล์ installation ด้วยโซฟาตัวใหญ่ ที่ด้านหลังเป็นแผงดอกไม้ที่จัดไว้อย่างสวยงาม บอกเลยว่าลุคนี้เหมาะมากสำหรับงานแต่งงานในสวน

อ่านบทความเพิ่มเติม

16 ไอเดียเพิ่มความน่ารักอบอุ่นให้งานแต่งในสวนเล็กๆ จนแขกต้องจดจำ

5 ทริคชวนแขกในงานแต่งมาติด #แฮชแท็กงานแต่ง แบบได้ผล

https://praewwedding.com/planning/advice-and-ideas/33461

ภาพจาก brides.com