‘งานเล็กงานใหญ่ไม่สำคัญ อยู่ที่ใจฉันกับเธอ’ … แต่เดี๋ยวก่อนใช้ใจอย่างเดียวไม่พอ การตั้งสติแล้ววางแผนให้เป็นลำดับขั้นตอนก็สำคัญไม่แพ้ใจ แพรว wedding จึงได้จัดคัมภีร์ให้ว่าที่บ่าวสาวไว้เช็กลิสต์ลำดับการคิดงานแต่งงาน เพื่อความสมบูรณ์แบบของ งานแต่งเล็กๆ ไม่มีตกหล่น เล็กแค่ไหนแต่ความอิ่มเอมใจคับอกแน่นอน
นับ 1. อย่าเพิ่งรีบ ใจเย็นๆ ก่อน
หลายคนพอรู้ตัวว่าจะแต่งงานก็รีบเอามากๆ วิ่งหานักจัดงานแต่งงานเป็นว่าเล่นยิ่งหาก็ยิ่งไม่ใช่ ยิ่งไปเจอ ยิ่งคุยก็ยิ่งงง เวลายุ่งๆ หลายคนคิดว่านักจัดงานแต่งงานคือทางออก แต่บางครั้งกลับไม่ใช่ เพราะทางออกใหม่ที่ว่าอาจเป็นการสร้างปัญหาให้หนักใจมากขึ้น จากงบน้อยๆ อาจกลายเป็นงบมาก ฉะนั้น อย่าลืมนึกไว้ในใจเสมอว่า “ไม่มีใครรู้สิ่งที่เราต้องการได้ดีเท่าตัวเราเอง” เริ่มต้นจากตัวเองก่อน หาสิ่งที่เราต้องการให้เจอ แล้วคนอื่นๆ ที่มาร่วมช่วยงานก็จะทำงานได้ง่ายและตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย
นับ 2. จับมือกันร่วมทำงานเล็กๆ นี้ให้ดีที่สุด
งานแต่งงานไม่ใช่ภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และยิ่งไม่ใช่งานที่จัดขึ้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นงานของ “เรา” ต่างหาก หลายคนมองว่าการจัดงานเองเป็น “งานงอก” (งานที่เพิ่มขึ้นมาให้รับผิดชอบโดยไม่ทันตั้งตัว) เลยชวนให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้น แต่เรามักลืมไปว่างานแต่งงานก็เป็นงานอย่างหนึ่งเหมือนกัน และเป็นงานกลุ่มที่ทำให้เราได้ศึกษาเพื่อนร่วมทีม ได้พบเจอปัญหาและแก้ไขไปด้วยกัน เสมือนเป็นบททดสอบหนึ่งของชีวิตคู่ ถ้าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องเล่นเกมนี้คนเดียว คิดคนเดียว ทำคนเดียว คงเหงาน่าดู ว่าไหม
นับ 3. ธีมไม่ใช่ข้อจำกัด
เดี๋ยวนี้ใครจะแต่งงานก็ต้องมีธีม ใครไม่มีคำตอบว่าตัวเองแต่งงานธีมอะไรเรียกว่า “เชยมาก” หลายคนเลยมีคำพูดในใจติดไปว่า อยากได้ธีมสีฟ้า ธีมสีชมพู ธีมทะเล ธีมญี่ปุ่น ธีมวินเทจ ธีมเจ้าหญิง ฯลฯ คำว่า “ธีม” ทำให้คนทั่วไปเห็นภาพงานแต่งงานของเราง่ายขึ้นก็จริง แต่บางครั้งคำว่าธีมกลับเป็นข้อจำกัดที่ทำให้งานของเราคล้ายๆ กับของคนอื่น และขาดสิ่งที่เป็นตัวตนของเราไป ดังนั้นก่อนเริ่มจัดงานอย่าเพิ่งรีบสรุปว่าเราจะจัดธีมอะไร แต่ให้หาภาพที่เราชอบเยอะๆ อาจเป็นภาพวิว ภาพบ้าน ภาพสถานที่ท่องเที่ยว หรือจะจดเป็นการระดมไอเดียก่อนก็ได้ และคิดไว้เสมอว่าธีมไม่ใช่ข้อห้ามหรือข้อจำกัดแต่เป็นการตีกรอบความคิดกว้างๆ ไม่ให้เราออกนอกเส้นทางเกินไป
ยังมีสิ่งที่บ่าวสาวต้องรู้อีกนะ คลิกหน้าต่อไปเลย >>>
นับ 4. ถามใจดี ๆ มีไปทำไม
พอข่าวการแต่งงานของเราเริ่มขยายวงกว้างทั้งในหมู่เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง ก็จะเป็นช่วงที่ผู้หวังดีและผู้มีประสบการณ์เริ่มแสดงตัว นอกจากนี้ยังมีสื่ออื่นๆ อย่างนิตยสาร เว็บไซต์ งานเวดดิ้งแฟร์ หรือกูรูด้านงานแต่ง ที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวเก่าๆ และให้คำแนะนำเราต่างๆ นานา จนทำเอาหลายคนตั้งตัวไม่อยู่ เราเรียกภาวะนี้ว่า “ภาวะถูกสื่อครอบงำ” ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ “ตั้งสติไว้” การหาข้อมูลและเห็นตัวอย่างงานของคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่เคยมีมาจะเหมาะกับตัวเรา เวลารับข้อมูล เห็นภาพงานที่เราชอบ เห็นตัวอย่างงานที่คนอื่นบอกว่าดี หรือได้คำแนะนำต่างๆ มา อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ถามตัวเองก่อนว่า “มันใช่ตัวเราไหม” หรือ “เราจะมีสิ่งนี้ไปทำไมกัน” หาที่มาที่ไปของสิ่งที่เราอยากจะมีในงาน แล้วทุกอย่างที่เราเลือกจะเป็นสไตล์ของเราเองอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยล่ะ
นับ 5. แขกตัวจริง
ทุกอย่างได้เตรียมไว้อย่างพรั่งพร้อมทั้งดอกไม้ จานชาม อาหารอร่อย และแสงไฟสวยงาม ขาดก็แต่แขกคนสำคัญ ไม่อย่างนั้นงานไหนๆ ก็พลันดูเงียบเหงาไปถนัดตา ขณะเดียวกันงานที่เต็มไปด้วยแขกไม่คุ้นตา หน้าตาแปลกๆ ก็ทำให้เกิดปัญหาหงุดหงิดใจได้ไม่น้อย แขกจึงเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้นๆ ที่เราต้องเลือกให้ดี เพราะถ้าเลือกเชิญแขกที่ใช่งานง่ายๆ ก็กลายเป็นงานแสนสนุกและสร้างความทรงจำได้ไม่แพ้ใคร ให้คิดง่ายๆ ว่า วันนั้นเราเห็นภาพใครบ้างที่ยิ้มและมีความสุขกับงานของเรา ใครที่เราอยากเจอ หรือใครที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ในความทรงจำดีๆ ของเรา คนที่คุ้นเคยทำให้บรรยากาศงานอบอุ่นได้เสมอและที่สำคัญ คนๆ นั้นทำให้เราเป็นตัวของตัวเองได้อย่างสบายใจด้วย
นับ 6. คนใกล้ตัว
มีบางคนที่แอบมองเราอยู่ห่างๆ อยากเห็นเรามีความสุข และภูมิใจทุกครั้งที่เราประสบความสำเร็จ แต่ในช่วงการเตรียมงานเราอาจหลงลืมพวกเขาไป สุดท้ายแล้วอย่าลืมคนที่อยู่ใกล้ตัว ใกล้หัวใจ งานแต่งงานเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สามารถทำอะไรพิเศษๆ ให้ท่านได้แบบไม่ต้องเซอร์ไพร้ส์ให้ใหญ่โต ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองจนปวดหัว แค่แอบทำอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ท่านคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น เราอาจให้ช่างภาพตามแอบถ่ายพ่อแม่และเพื่อนๆ กลุ่มของท่าน และที่สำคัญ วันงานจะไม่ใช่แค่วันพิเศษของเราเอง แต่ยังเป็นช่วงเวลาพิเศษของพ่อแม่ที่ได้กลับมาเจอเพื่อนเก่าและหลายๆ คนที่เขานับถือ แล้วหลังงานอย่าลืมทำอัลบั้มภาพของท่านและเพื่อนๆ ให้สักเล่มด้วย
ยังมีสิ่งที่บ่าวสาวต้องรู้อีกนะ คลิกหน้าต่อไปเลย >>>
นับ 7. นักเก็บความทรงจำ
การเลือกช่างภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งและยังเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย เพราะเหมือนกับเรากำลังเลือกสายตาคู่หนึ่งที่จะมามองงานของเราและบันทึกความทรงจำแทนตัวเราเอง ช่างภาพจึงไม่ใช่แค่คนจดบันทึกเหตุการณ์บนกระดาษขาวจืดๆ แต่คือคนที่เก็บทั้งความรู้สึก ความทรงจำ ความเคลื่อนไหว ผู้คน ในทุกจังหวะที่เหมาะ เวลาที่ใช่ และมุมมองที่เราคาดไม่ถึง เพราะเชื่อหรือไม่ว่ามีภาพเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้นที่เราจดจำได้และอยากจะแขวนไว้บนฝาผนัง และแค่ภาพนั้นภาพเดียวก็สามารถบอกเรื่องราวและทำให้เราเรียกความรู้สึกเก่าๆ กลับมาได้ ถ้าจะต้องเลือกใครสักคนที่มองงานแทนเรา อยากให้ทุกคนได้มีโอกาสคุยกับพวกเขา ได้รู้จักเขาก่อน ได้เห็นแนวคิด เข้าใจกัน และเราเองก็มั่นใจในมุมมองและความทุ่มเทของเขา ดูภาพฝีมือเขาให้เยอะๆ จากหลายๆ งาน ดูวิธีที่เขาคิด จิตใจที่เขาใส่ลงไปในงาน แล้วเราจะไม่ได้แค่ช่างภาพคนหนึ่ง แต่จะได้เพื่อนนักเก็บความทรงจำพิเศษสำหรับงานของเราเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
นับ 8. อยากมีส่วนร่วม
งานแต่งงานเป็นเรื่องของคนสองคนที่มีคนอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยมากมายทั้งญาติพี่น้อง เพื่อนสนิท เพื่อนเก่า เพื่อนใหม่ แต่เราก็มักจะลืมไปว่าบุคคลเหล่านี้ทำได้หลายอย่างมากกว่าจะมาเป็นแค่แขกในงาน หลายคนอยากมีส่วนร่วม อยากช่วยงาน เพราะพวกเขาเองก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำดีๆ ของเรา เวดดิ้งแพลนเนอร์ อาจจำเป็นในวันงาน แต่อย่าลืมว่ามีงานอีกหลายส่วนที่เราทำได้เองและสามารถดึงคนรอบตัวมามีส่วนร่วมด้วยได้ เช่น งานทำการ์ดแต่งงาน ป้ายเขียนคำอวยพร ป้ายติดของชำร่วย ฯลฯ เราอาจนัดเพื่อนสนิทมากินข้าวและนั่งทำงานประดิษฐ์เล็กๆ ไปด้วยกัน อย่าลืมว่าประสบการณ์ในการเตรียมงานแต่งงานไปพร้อมๆ กับคนที่เรารักไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าวันแต่งงานเลยแม้แต่นิดเดียว อย่ากลัวที่จะเอ่ยปากชวนคนรอบข้างที่เรารักมาทำงานนี้ร่วมกัน เพื่อเป็นหนึ่งในความทรงจำที่น่าประทับใจ
นับ 9. ไม่เป๊ะบ้างก็ได้
เคยได้ยินประโยคที่ว่า “The little imperfections that make them perfect for you.” จากหนังโฆษณาชื่อดังเรื่องหนึ่งไหมคะ ประโยคนี้น่าจะใช้ได้ดีมากๆ เมื่อเราต้องจัดการกับความกังวลในวันงานที่วางแผนมาเนิ่นนาน เราถูกปลูกฝังมาในโลกของความสมบูรณ์แบบว่าทุกอย่างต้องดีที่สุด แต่เชื่อไหมว่า ไม่มีงานไหนในโลกหรอกที่ไม่มีข้อผิดพลาด แต่ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ตรงนั้น ความสมบูรณ์แบบที่สุดไม่ได้ทำให้งานมีความสุขที่สุด แต่เป็นตัวเราและคนรอบข้างต่างหากที่จะสร้างบรรยากาศที่น่าจดจำและความรู้สึกดีๆ ให้เกิดขึ้น เมื่อถึงวันแต่งงานอย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นคือ หายใจเข้าลึกๆ ปล่อยวางความคาดหวังทั้งหมดลง เปิดใจและมีความสุข สนุกกับทุกช่วงเวลาที่เกิดขึ้น งานไม่เป๊ะของเรานี่แหละมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว
สุดท้ายแล้วแพรว wedding เชื่อว่าการช่วยกันคิด ช่วยกันทำ และจับมือกันวางแผนด้วยความเข้าใจ จะช่วยให้ งานแต่งเล็กๆ ของว่าที่บ่าวสาวออกมาน่าประทับใจที่สุดแน่นอน
อ่านบทความเพิ่มเติม
สารพัดไอเดียจัดงานแต่งงานเล็กๆ กับเทคนิคที่จัดตามได้แบบไม่ยาก
5 วิธีช่วยว่าที่บ่าวสาวงบน้อยลดค่าใช้จ่ายสถานที่จัดงานแต่งงาน
ภาพเปิด : https://apracticalwedding.com