เหตุไฉน? ทำไมต้องมีการหมั้นหมายกันไว้ก่อนแต่ง ไปหาคำตอบกันดีกว่า

คำว่า “หมั้น” หมายถึง การมอบสิ่งของให้ฝ่ายหญิงเพื่อแสดงความมั่นใจว่าจะแต่งงานด้วย ส่วนคำว่า “หมาย” หมายถึง มุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ สองคำนี้รวมกันเป็น หมั้นหมาย ซึ่งหมายถึง มุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ว่าจะแต่งงานกับฝ่ายหญิงด้วยความจริงใจ

การหมั้นเปรียบเสมือนการตีตราจอง หรือการจับจองกันและกันเอาไว้ก่อน เป็นการแสดงความจริงใจของฝ่ายชายต่อฝ่ายหญิง วัตถุประสงค์อีกอย่างเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้หนุ่มสาวได้ศึกษาอุปนิสัยใจคอกัน รู้จักเรียนรู้กันและกัน ทำให้การปรับตัวเข้าหากันเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยไม่ให้เป็นที่ติฉินนินทาของคนทั่วไป ถือเป็นผลดีต่อชีวิตคู่ในอนาคต ฝ่ายหญิงที่ถูกหมั้นหมายแล้วจะชอบพอใครไม่ได้อีก หรือผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงจะยกให้ใครอีกไม่ได้เช่นกัน และคนทั่วไปก็จะได้รู้ว่าคนนี้มีเจ้าของหัวใจแล้ว

รู้หรือไม่ว่าการหมั้นของไทยกับฝรั่งนั้นแตกต่างกัน คนไทยมักหมั้นก่อนหรือภายในวันแต่งงานโดยนิยมทำพิธีสวมแหวนต่อหน้าญาติพี่น้องเพื่อนสนิทเพื่อเป็นสักขีพยาน แตกต่างกับของฝรั่งตรงที่ฝ่ายชายจะแอบซื้อแหวนโดยไม่บอกให้อีกฝ่ายรู้เรื่อง การหมั้นของฝรั่งจะให้แหวนกับฝ่ายหญิงไว้เป็นการสัญญาว่าฉันจะแต่งงานกับเธอเพียงคนเดียวไม่จำเป็นต้องมีสักขีพยาน ไม่มีพิธีรีตองเหมือนประเพณีการหมั้นของไทย

หนุ่มคนไหนตีตราจองสาวไว้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลหัวใจของอีกฝ่ายให้สมกับที่คุณปรารถนาในตัวเขา ชิลเกินจนโดนถอนหมั้น อย่าหาว่าไม่เตือนนะคะ

ครบสูตรทุกขั้นตอนกับ พิธีแต่งงานไทย แบบสเต็ปบายสเต็ป

เรียบเรียงข้อมูลจาก : kapook, baanmaha.com, teerak-studio.com, benmanhirefashion.com
ภาพจาก : thairath.co.th

7 น้ำมหัศจรรย์ สูตรหน้าใส สวยหล่อทันใจวันวิวาห์

แน่นอนว่าเป็นเจ้าสาวทั้งทีงานผิวต้องมา นอกจากสารพัดครีมบำรุงผิว และคอร์สเสริมความงามที่อัดแน่นแล้ว การบำรุงจากภายในก็สำคัญไม่แพ้กันนะจ๊ะคุณเจ้าสาว แพรว wedding เลยนำ สูตรหน้าใส ผิวสวยมาฝาก กับเมนูน้ำผักผลไม้แบบ 7 สูตร 7 วันไม่ซ้ำซากจำเจ ที่ทำง่าย ดื่มสะดวก รสชาติดี แถมผิวพรรณยังดีสวยใสสายธรรมชาติแน่นอน

 

วันที่ 1 : ล้างสารพิษ
เริ่มวันแรกเพื่อสุขภาพที่ดีงามด้วยการดีท็อกซ์ภายในร่างกายจากผักผลไม้สีเขียวที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมกรดโฟลิก แมกนีเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัสและกรดอะมิโนจำเป็น ซึ่งมีส่วนช่วยในการล้างสารพิษในลำไส้และร่างกาย ส่วนผสมมีดังนี้ คื่นช่าย 1 กำมือ, ใบคะน้า 4-5 ใบ, แอปเปิ้ลเขียว 1 ลูก, ผักชีฝรั่ง 1 กำมือ, น้ำมะนาว 1 ลูก, ขิงสด 1 ท่อน ส่วนวิธีการก็คือนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่องแยกกาก เมื่อสกัดได้นำแล้วก็ดื่มทันที เพื่อวิตามินในผักผลไม้จะได้ไม่สลายตัวเร็วนะจ้ะ

1

วันที่ 2 : หุ่นดีได้พร้อมผ่อนคลาย
สดชื่นด้วยผลไม้นานาชนิดที่อุดมไปด้วยเอ็นไซม์ที่มีส่วนในการช่วยย่อยและการขับถ่าย การันตีว่าดื่มแล้วระบบทางเดินอาหารดีขึ้นแน่นอน นอกจากนี้ยังได้ความสดชื่นยามเช้า ช่วยผ่อนคลายเบาๆ ก่อนไปทำงาน สูตรเด็ดที่ว่ามีส่วนผสมดังนี้ มะละกอสุกครึ่งลูก, สับปะรด 1 ชิ้น, ขิงสด 1 ท่อน, กีวี่สด 1 ลูก, น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วย วิธีทำแสนง่ายเพียงนำส่วนผสมทั้งหมดลงเครื่องแยกกากก่อน เมื่อสกัดน้ำได้แล้วให้เทลงในแก้วที่ใส่น้ำแข็งสัก ¾ เสร็จแล้วดื่มได้เลยจ้า แบบนี้สดชื่นสุดๆ หรือถ้าอยากกินเพียวแบบเย็นๆ ก็นำผลไม้ไปแช่ตู็เย็นก่อนจึงนำมาสกัดค่ะ

2

วันที่ 3 : สูตรหน้าใส ผิวขาว กระจ่างใส
เอาใจบ่าวสาวที่อยากมีผิวขาว กระจ่างใส ดูอ่อนเยาว์ ด้วยผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินดั่งยาอายุวัฒนะกับผลไม้บ้านๆ อย่างมะม่วงที่เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดปัญหาผิวคล้ำและริ้วรอย นอกจากนี้ในมะม่วงยังมีวิตามินเอที่ทำหน้าที่เป็นสารฟอกผิวขาวแบบธรรมชาติช่วยผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง เครื่องดื่มเพื่อผิวสวยสูตรนี้มีส่วนผสมไม่มากมาย ได้แก่ มะม่วง 1 ถ้วย, แตงกวา 1 ลูก, ผักโขม 1 กำมือ โดยให้คุณนำส่วนผสมทั้งหมดใส่เครื่องปั่น เติมน้ำแข็งเล็กน้อย จากนั้นปั่นให้ความเร็วปานกลางให้พอมีเกล็ดน้ำแข็งกรุบๆ ดื่มไปเคี้ยวน้ำแข็งไปอร่อยเว่อร์ ขอบอก!!

3

วันที่ 4 : ผิวนุ่มชุ่มชื่น
สำหรับบ่าวสาวที่อยากมีผิวเนียนนุ่มน่าสัมผัส ต้องทานสูตรนี้เลยคะ เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเบต้าแคโรทีให้ความชุ่มชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการรักษาความยืดหยุ่นของผิวให้อ่อนเยาว์ นอกจากนี้ยังมีกรดโฟลิกในแคนตาลูปที่ช่วยฟื้นฟูผิว จับคู่กับวิตามินซีที่ช่วยผลิตคอลลาเจนซึ่งมีประโยชน์ต่อต้านริ้วรอยบนผิวหนัง และแก้ไขสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยสูตรนี้มีส่วนผสมไม่มากแค่แคนตาลูป 3-4 ชิ้น, แครอท 3 ชิ้น, ก้านคื่นช่าย 2 ก้าน เมื่อเตรียมครบแล้วให้นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงเครื่องแยกกาก เมื่อสกัดเสร็จแล้วจะดื่มเพียวๆ เลยก็ไม่ว่ากัน หรือถ้าอยากสดชื่นบวกๆ ก็เติมน้ำแข็งเล็กน้อย รับรองว่าสดชื่นแบบสุดๆ ไปเลย

4

วันที่ 5 : หมดปัญหาสารพัดสิว
จบปัญหาหน้าสิวๆ ไปได้เลย ด้วยสูตรแตงกวา 3 ลูก, ผักกาดหอมหัวเล็ก 1 หัว, ใบมินท์ 1 กำมือ, น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ โดยน้ำผักสีเขียวที่ว่านี้อุดมไปด้วยอาหารผิว ตั้งแต่ผักกาดหอมที่มีวิตามินช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว เพิ่มการไหลเวียนของออกซิเจนในผิว ใบมิ้นท์ทำหน้าที่เป็นน้ำยาทำความสะอาดผิวที่ช่วยลดการเกิดสิวได้ดี วิธีการคือนำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงเครื่องแยกกาก นำออกมาเติมน้ำแข็งหรือนำไปปั่น แค่นี้ก็สวยใสแถมอร่อยอีกต่างหาก

5

วันที่ 6 : ลดริ้วรอย ก่อนวัยอันควร
สูตรนี้เอาใจหนุ่มสาว ที่อยากแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าด้วยคะน้า เนื่องจากเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามิน A และ K ที่ป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและเป็นขุย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร ส่วนผสมมีดังนี้แอปเปิ้ล 1 ลูก, สตอเบอรรี่ 2 ถ้วย, คะน้า 6 ใบ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงเครื่องแยกกาก นำออกมาเติมน้ำแข็งเล็กน้อย แล้วดื่มทันที สดชื่นแถมยังได้รับวิตามินแบบเต็มๆ

6

วันที่ 7 : บำรุงสายตา ให้สดใส
ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยการเอาใจหนุ่มสาวที่อยากมีดวงตา สดใส ด้วยบลูเบอร์รี่สมูทตี้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากเต็มเปี่ยมไปด้วยสารที่เรียกว่า Anti-Oxidant วิตามิน C และ วิตามิน E ถ้าทานเป็นประจำจะช่วยบำรุงสายตาและบำรุงจอรับภาพได้เป็นอย่างดี ส่วนผสมมีดังนี้ กล้วยหอมสุก 1 ลูก, บลูเบอร์รี่ 1 ถ้วย, น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ, ข้าวโอ๊ต 1 ช้อนโต๊ะ ให้คุณนำส่วนผสมทั้งหมดนี้ใส่ลงในเครื่องปั่น เติมน้ำแข็งเล็กน้อย เพียงเท่านี้ก็สวยปิ๊งๆ แถมยังสดชื่นยามบ่ายได้ด้วย

7

เป็นไงบ้างคะ น่าทานใช่ไหมละ อ่านจบแล้วก็อย่ารอช้า รีบไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำกันได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงเท่านี้ก็จะทำให้คุณสวยดูดีแบบธรรมชาติ จากภายนอกสู่ภายใน ที่สำคัญควรพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่นะจ๊ะ

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย — https://praewwedding.com/planning/beauty-and-wellness

เรียบเรียงข้อมูลจาก : miescaparate.com.mx , www.huffingtonpost.com , www.wowhdwallpapers.com , women.kapook.com , mag.beautistas.com , social.tnews.co.th , makeup.saloni.pk , www.laprensa.com.ni
ภาพ : http://blog.goaktive.com

บ่าวสาวห้ามลืม 10 เรื่องต้องทำในโค้งสุดท้ายก่อนวันแต่งจริงมาถึง

แม้จะมีการเตรียมงานมาเป็นเดือนๆ แล้วก็ตาม แต่ยังมีอีก 10 เรื่องที่ แพรว wedding ขอย้ำกับบ่าวสาวทุกคู่ว่าห้ามลืมทำเด็ดขาด ก่อนวันแต่ง จริงจะมาถึง ส่วนจะมีเรื่องไหนบ้าง ปากกากระดาษพร้อมแล้วก็เช็คตามกันไปข้อต่อข้อได้เลยค่ะ

 

ก่อนวันแต่ง

1. ลิสต์รายชื่อเพลงในงานแต่ง : เชื่อว่าไม่มีบ่าวสาวคู่ไหนให้วงดนตรีเล่นเพลงไปตามอำเภอใจตลอดทั้งงาน รวมถึงไม่มีคู่ไหนไม่เตรียมเพลงไว้เปิดในงาน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน เพื่อความบันเทิงและบรรยากาศที่จะเป็นไปได้ดั่งใจฝัน บ่าวสาวทั้งหลายจงสละเวลาสักนิด นั่งลิสต์รายชื่อเพลงที่อยากให้ดังในงานแต่งสักหน่อย ส่วนจะลิสต์แล้วส่งต่อให้ใครรวบรวมเพลงมาไว้ในซีดีหรือส่งต่อห้วงดนตรีก็ตามแต่ถนัดเลยจ้ะ

2. แบ่งหน้าที่คนช่วยงาน : ก่อนหน้านี้คุณอาจแค่ทำการทาบทามเพื่อนฝูงหรือญาติสนิทมาช่วยงานแต่ง แต่ยังไม่ได้ระบุหน้าที่ชัดเจนลงไป แต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วว่าคุณต้องฟันธงแล้วล่ะว่าจะให้ใคร ทำอะไรในงานของคุณ

3. เตรียมซองค่าใช้จ่าย : แบ่งซองค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เป็นสัดส่วนไว้เลยค่ะ หลังงานเลิกจะได้เคลียร์ค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วน โดยบ่าวสาวอาจทำแค่เตรียมไว้แล้วมอบหมายต่อให้ญาติหรือเพื่อนช่วยจัดการดูแลแทน แต่อย่าลืมว่าคนๆ นั้นต้องไว้ใจได้นะคะ ไม่ใช่ถือซองแล้วลอยตัวออกจากงานไปเลยแบบนั้นมีกรี๊ดแน่นอน

4. เตรียมซองเปล่า : เรื่องนี้ติดท๊อปฮิตที่บ่าวสาวลืมในอันดับต้นๆ เชียวล่ะ นั่นคือซองเปล่าที่แขกมักถามหา โดยเฉพาะในพิธีการช่วงเช้าที่อยู่ๆ แขกผู้ใหญ่ก็อยากรับไหว้หลานขึ้นมา ก็จะเรียกหาซองเปล่าเสมอหรือแม้แต่งานฉลองสมรสที่เพื่อนฝูงลืมเอาซองมาก็ร้องหา เห็นไหมละว่าซองเปล่าสำคัญขนาดไหน

5. เช็คของชำร่วย ของรับไหว้ และของขวัญให้ประธาน : แพรว wedding มั่นใจค่ะว่าคุณซื้อของเหล่านี้เตรียมไว้แล้วแน่นอน แต่เรื่องจำนวนนี่สิ ช่วงใกล้วันงานอาจมีความคลาดเคลื่อนในลักษณะที่จำนวนเพิ่มขึ้นมาก็เป็นได้ ดังนั้นเช็คให้ชัวร์แล้วลองดูว่าจ้องซื้อมาเพิ่มไหม จะได้ไม่ต้องใช้ของขวัญเวียนมาถ่ายรูป

ก่อนวันแต่ง

6. ลองชุดครั้งสุดท้าย : ต่อให้คุณทั้งคู่เคยลองชุดแต่งงานมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ช่วงเวลาสุดท้ายก่อนถึงวัน จริงสัก 3-4 วันก็ควรลองอีกครั้งว่าตรงไหนหลวมตรงไหนฟิต และเช็คความเรียบร้อยให้ดีทุกจุด เพราะใครจรู้ว่าคุณอาจตื่นเต้นมากจนน้ำหนักลงหรือแฮปปี้มากจนน้ำหนักขึ้น ชุดที่เตรียมไว้ยังพอมีเวลาแก้ไขไงคะ

7. เตรียมคำพูดบนเวที : ขอร้องเถอะถ้าคุณไม่ได้เป็นนักพูดมืออาชีพหรือเจนเวทีมาเป็นสิบๆ งาน ช่วยร่างสิ่งที่อยากพูดในงานใส่กระดาษแล้วซ้อมพูดสักหน่อย ดีกว่าไปตื่นเต้นจนลืมว่าคิดจะพูดอะไร แบบนั้นเดตแอร์มากๆ

8. รีเช็คลำดับพิธีการทั้งหมด : เอาลำดับพิธีการทั้งหมดมาดูกันอีกสักครั้งเพื่อความแน่ใจว่าจะไม่มีการขยับลำดับพิธีแล้วแน่ๆ และคอนเฟิร์มกับทีมงานที่เกี่ยวข้องว่านี่คือดราฟสุดท้ายไฟนอลแล้วนะ เพื่อความเข้าใจของทุกฝ่ายและคุณจะได้รู้ด้วยว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหลังในงานแบบไม่ต้องวิ่งถามใคร

9. คอนเฟิร์มนัดทุกหน่วย : ไม่ว่าจะเป็นช่างแต่งหน้า ช่างทำผม ประธานในพิธีหรือแม้แต่คนส่งเค้ก มีหน่วยไหนที่ต้องมาเจอกันในวันแต่งงานยกหูคอนเฟิร์มให้ครบอย่าได้ขาด โดยในการคอนเฟิร์มต้องไม่ลืมแจ้งรายละเอียดงานเสมอ ถึงจะเรียกว่าเข้าใจตรงกันจริงๆ นะ

10. เช็คเครื่องประดับและรองเท้า : เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างเครื่องประดับเจ้าสาว หรือเครื่องประดับเจ้าบ่าวรวมถึงรองเท้าต้องเช็คให้ดีว่ามีพร้อมและเก็บไว้ตรงไหน ใส่ยังไง เพื่อวันจริงจะได้ไม่ต้องวิ่งวุ่นตามหารวมถึงกรีดร้องว่าใส่ไม่เป็นใส่ไม่ได้

ติดตามไอเดียและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : PxHere

วิวาห์ฟ้าแล่บ เตรียมงานแต่งยังไงให้ทันใน 1 เดือน

บางทีความรักก็เล่นตลก พุ่งเข้าชนแบบไม่ทันให้ตั้งตัว และเมื่อแน่ใจว่าคนนี้คือคนที่ใช่ ก็ไม่รู้จะรอเวลาให้ยืดยาวไปทำไม สู้จัด วิวาห์ฟ้าแล่บ เพื่อให้อยู่ด้วยกันไวๆ ดีกว่า แต่ปัญหามันจะเกิดก็ตรงเตรียมการยังไงให้ทันภายใน 1 เดือน แต่แพรวเวดดิ้งเสียอย่าง เรามีวิธีมาบอกกัน

1. จองสถานที่ทันที

ทันทีที่ตกลงปลงใจกันเรื่องวันได้แล้ว สิ่งแรกที่บ่าวสาวต้องวิ่งไปจองก่อนก็คือ สถานที่จัดงานแต่งงาน ซึ่งในระยะเวลากระชั้นชิดแบบนี้ ห้องตามโรงแรมอาจไม่ค่อยวาง แต่ก็ยังมีทางเลือกเป็นหอประชุมขนาดใหญ่ที่ให้เช่าจัดงานแต่งงาน หรือสตูดิโอถ่ายภาพ ซึ่งทางเลือกที่สองนี้ มีข้อดีคือมักตกแต่งมาแล้วอย่างสวยงาม ทำให้บ่าวสาวลดทอนเรื่องการตกแต่งสถานที่ไปได้ หรือบางทีอาจไม่ต้องยุ่งเรื่องการตกแต่งอีกเลย นอกจากประดับดอกไม้เพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ

2. เลือกอะไรที่เป็นไปได้จริง

ในเรื่องของธีมงานแต่งเอย ธีมสี รวมไปถึงดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่างเรื่องเสื้อผ้า หน้าผม จะมีข้อจำกัดด้านเวลา ทางที่ดีจึงไม่ควรให้ความคิดฟุ้งกระจายไปไกล เอะอะทำใหม่แบบนั้นอาจไม่ทันกาล ควรเลือกใช้ของที่มีอยู่แล้ว สามารถเช่าได้ไม่ว่าเรื่องของการตกแต่ง ของใช้ในงาน รวมไปถึงเรื่องชุดแต่งงานด้วย

3. ลิสต์สิ่งที่ต้องมีในงานแต่ง

ถ้ารีบเบอร์นี้ ความต้องการส่วนตัวอาจเป็นเรื่องรองชนิดที่ว่ามีเวลาค่อยทำเพิ่มเติม เพราะฉะนั้นตัวช่วยที่จะทำให้ได้ทุกสิ่งอย่างครบถ้วนตามประสงค์ก็คือ เช็คลิสต์ ที่จะช่วยไกด์ว่าคุณเจ้าบ่าว เจ้าสาวต้องจัดเตรียมอะไรบ้าง แล้วรีบทำตามอย่างด่วนๆ พร้อมกับตั้งสติกับจำนวนคนที่ต้องติดต่อ ซึ่งอาจจะต้องหาผู้ช่วยเป็นแพลนเนอร์หรือเพื่อนบ่าวสาวเองนั่นละ

วิวาห์ฟ้าแล่บ

4. จัดประเภทรายชื่อแขก

ในเรื่องของรายชื่อแขก บางคู่อาจใช้เวลานานเป็นเดือนกว่าจะสรุปได้ว่าจะมีใครมางานบ้าง แต่ในเมื่อเราไม่มีเวลามากมายขนาดนั้น การจัดประเภทแขกจะทำให้เรื่องทั้งหมดง่ายขึ้น โดยต่างแยกย้านกันคิดในส่วนของตัวเองว่าจะเชิญแขกคนไหนมาบ้าง โดยแบ่งเป็น 5 กลุ่มหลักๆ  คือ

– แขกเจ้าสาว

– แขกเจ้าบ่าว

– แขกที่รู้จักคนทั้งคู่

– แขกพ่อแม่เจ้าสาว

– แขกพ่อแม่เจ้าบ่าว

5. การ์ดเชิญออนไลน์

สำหรับญาติผู้ใหญ่และบุคคลสำคัญในชีวิตการไปส่งการ์ดเชิญด้วยตัวเองยังคงเป็นเรื่องจำเป็นที่บ่าวสาวต้องทำ แต่สำหรับคนอื่นๆ การส่งการ์ดเชิญออนไลน คือตัวช่วยที่จะทำให้คุณสามารถส่งการ์ไปถึงทุกคนได้ทันเวลา ซึ่งก่อนส่งอาจมีการยกหูโทรไปบอก พร้อมขอโทษที่ไม่สามารถไปเชิญได้ด้วยตัวเอง และในขณะเดียวกัน บ่าวสาวก็ควรมีการ์ดแต่งงานพกติดตัว เผื่อไปเจอใครที่อยู่ในลิสต์แขกจะได้ส่งให้ตัวเองได้เลย

เนี่ย เห็นไหมว่าการจัด วิวาห์ฟ้าแล่บ ก็ไม่ได้ยากสักเท่าไหร่ ถึงจะมีเวลาจัดอันน้อยนิด ก็สามารถเสกงานแต่งให้ออกมาอย่างที่ตั้งใจได้ แม้ว่าจะฉุกละหุกไปนิดก็ตาม ส่วนใครที่ยังมีเวลาเหลือๆ สำหรับจัดงานแต่งเราก็มีขั้นตอนมาให้อ่านเหมือนกันนะ ตามมาอ่านเลย

ภาพ unsplash.com a a a a  a a a  a a a  a a a  a a

9 ไอเดีย เค้กแต่งงานเก๋ๆ สุดว้าว น่ารักปุ๊กปิ๊กจนบ่าวสาวไม่กล้าตัด

เค้กแต่งงานสวยๆ มักมีราคาแพง แพรว wedding จึงขอเสนอไอเดีย เค้กแต่งงานเก๋ๆ ที่ยังคงสวย อร่อย แถมหน้าตาดูดีมีสกุล แต่ที่จริงแล้ว คุ้มค่า คุ้มราคาที่สุด จะมีแบบไหน ถูกจริต ตรงกับธีมงานในฝันของคุณหรือเปล่า ลองดูกันนะคะ

cake-flowers-0731-d111712_vert_resize

เค้กหน้าตาสะสวยประดุจดอกไม้เริงร่า แต่ละชั้นเค้กทำจากเนื้อที่แตกต่างกัน มีทั้งเนื้อเค้กปกติ ชั้นที่มีเนื้อเป็นเมอร์แลงค์ และแน่นอนว่าดอกไม้ที่ประดับบนเค้กก็กินได้ด้วยนะ  เรียกได้ว่าเค้กก้อนเดียวให้รสชาติที่หลากหลาย แถมยังสวยอีกด้วย

MSL

ในงานแต่งไม่ใช่มีแค่เค้กหลายชั้นเท่านั้นที่สวยงาม เค้กชั้นเดียวแต่เลือกที่วางสวยๆ ก็เกิดได้เหมือนกัน อย่างเค้กก้อนนี้ ที่แค่เห็นหน้าตาก็ชวนให้คิดว่าราคาคงแพงลิบลิ่วด้วยทั้งโทนสีและการจัดวาง  แต่เปล่าเลยความจริงนางคือเค้กช็อคโกแล็ตที่ใช้ช็อคโกแล็ตและคาราเมลผสมให้ข้ากันจนเกิดเป็นสีแบบนี้เท่านั้น

cakes05h-sum11mwd107083_vert_resize

เค้กสีขาวที่มีเท็กเจอร์สวยๆ กับผลเชอ์รี่แดงสด มันช่างดูสวยงามอ่อนหวานเหมือนเจ้าหญิงน้อยๆ งานนี้ก็ทำเองได้ไม่ยาก แค่ใช้น้ำตาลทรายกับไข่ขาวตีจนขึ้นยอดก่อนนำมาโปะที่เนื้อเค้กแล้วปล่อยให้แห้ง แล้วค่อยโปรยเชอร์รี่ลงไปอย่างใจนึก เห็นไหม ง่ายนิดเดียวเอง

cakes02k-sum11mwd107083_vert_resize

เค้กก้อนยักษ์กับดอกไม้ช่อมหึมา ใครจะคิดว่าจริงๆ แล้วราคาจิดเดียว ความลับก็คือว่าส่วนที่กินได้มีแค่ตัวเค้ก ส่วนดอกไม้ดอกยักษ์ทำมาจากกระดาษทิชชู่

เค้กแต่งงานเก๋

เค้กสีขาวธรรมดาดูมีราคาขึ้นมาได้ ก็เพราะการดีไซน์ ที่จับเอากระดาษสีเงินและขนนกมาประดับประดา งานนี้บอกเลยว่าไม่ยาก บ่าวสาวเองก็ลงมือแต่งแต้มเองได้

Sprinkled glitter dust cakes

บัตเตอร์เค้กธรรมดาๆ ก็ดูพิเศษขึ้นมาได้ แค่ใช้น้ำตาลผสมสีละเลงลวดลายง่ายๆ อย่างลายทาง หรือลายเรขาคณิต แค่นี้ก็สวยเกิดถูกใจคนที่ได้ชิมแล้ว

cakes01a-sum11mwd107083_vert_resize

เค้กสี่เหลี่ยมโล้นๆ ก็ดูธรรมดาราคาไม่น่าจะแพง งานนี้แก้ไม่ยากแค่จับริบบิ้นหลายขนาดมาเรียงร้อยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วทำโบว์สวยๆ เป็นท็อปเปอร์ที่ยอดบน งานนี้สวยวิ้งๆ

cakes04r-v2-sum11mwd107083_vert_resize

หากว่าเป็นเค้กทรงกลมเกลี้ยงๆ แล้วดูไม่น่าทานลองจับมาแต่งตัวด้วยแฟชั่นแบบชาวเกาะ กระโปรงพู่รอบตัวดูสิ งานนี้เปลี่ยนเค้กก้อนน่าเบื่อให้กลายเป็นเค้กแห่งสีสันเลย

เค้กแต่งงาน

งานนี้ถ้านึกไม่ออกว่าจะตกแต่งยังไง เม็ดช็อคโกแล็ตเคลือบน้ำตาลหลายสีสันช่วยท่านได้ ไม่เชื่อก็ดูเค้กก้อนนี้สิ มันช่างแจ่มว้าวจริงๆ

เค้กทั้ง 9 ก้อนที่นำมาเสนอ บอกเลยว่าเป็นเค้กธรรมดาราคาไม่ได้สูงมาก แต่อยู่ที่การครีเอทของคุณบ่าวสาวแล้วว่าจะออกแบบให้มาเป็นยังไง แต่ถ้าอยากได้เค้กแต่งงานแบบมินิมอลลองดูที่บทความ 10 แบบเค้กแต่งงานสไตล์มินิมอลสวยหรูดูแพง สิคะ

คอเสื้อชุดแต่งงาน กับเคล็ดลับการเลือกให้เหมาะกับรูปร่างและช่วงอก

นอกจากทรงของชุดเจ้าสาวที่จะช่วยพรางตาให้เจ้าสาวดูดีได้แล้ว คอเสื้อชุดแต่งงาน แบบต่างๆ ก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน แพรว wedding จึงขอแนะนำวิธีการเลือกท่อนบนชุดแต่งงานของเจ้าสาว 15 แบบ เพื่อให้เหมาะกับขนาดของหน้าอกและรูปร่างส่วนบนของเจ้าสาว จะได้สวยเป๊ะทุกมุม ตามนี้เลย

เกาะอกรูปหัวใจ (Sweetheart)

คอเสื้อชุดแต่งงาน

ที่เรียกว่าเกาะอกรูปหัวใจก็เพราะตรงกลางช่วงอกจะเว้าลงคล้ายกับด้านบนของรูปหัวใจ ช่วยทำให้คอและลำตัวดูยาวขึ้น เน้นกระดูกไหปลาร้าอก และทรวดทรงองค์เองให้เด่นชัดขึ้น เหมาะกับเจ้าสาวที่มีรูปร่างเล็ก ช่วงไหล่แคบ มีคอและคางสั้น

เกาะอก (Straight Across)      

        

เกาะอกแบบธรรมดาที่ผู้หญิงทุกคนสามารถใส่ได้ แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวที่มีไหล่กว้างมากๆ ขอให้เลี่ยงเกาะอกประเภทนี้ เพราะจะยิ่งเผยให้เห็นช่วงไหล่มากขึ้น ควรเลือกใส่แบบคอวีหรือ คอยูจะช่วยพรางไหล่ได้ดีกว่า

เกาะอกรูปครึ่งหัวใจ (Semi-Sweetheart)  

เกาะอกรูปครึ่งหัวใจคล้ายกับเกาะอกรูปหัวใจ ต่างกันเพียงแค่ตรงกลางช่วงอกจะเว้าลงไปน้อยกว่าเกาะอกรูปหัวใจ แต่ยังคงช่วยให้คอและลำตัวดูยาวขึ้น และเน้นที่กระดูกไหปลาร้า หน้าอก และรูปร่างเหมือนกัน เหมาะกับเจ้าสาวที่ไม่อยากให้เว้าจนเห็นร่องอกเยอะเกินไป รวมถึงเจ้าสาวร่างเล็ก ช่วงไหล่ไม่กว้างมาก คอและคางค่อนข้างสั้น ก็ขอแนะนำาให้เลือกชุดแบบนี้เช่นกัน

คอวี (V-Neck)    

ชื่อก็บอกอยู่แล้วชัดเจนว่าช่วงคอจะเป็นลักษณะตัววี ใส่ได้ทั้งเจ้าสาวที่อกเล็กไปจนกระทั่งเจ้าสาวที่มีอกใหญ่แล้วมีร่องหน้าอก- หน้าใจอยากจะอวด ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่โครงหน้ายาวอาจต้องเลี่ยง เพราะมันจะทำให้คุณดูหน้ายาวขึ้นไปอีก แต่สำหรับ เจ้าสาวที่มีคอสั้นนั้นคือเหมาะที่สุด

ไหล่เดี่ยว (Asymmetric/One-Shoulder)  

ชุดแบบไหล่เดี่ยวจะซ้ายหรือขวาก็ได้ช่วยเน้นให้หัวไหล่ดูโดดเด่น เหมาะกับเจ้าสาวที่มีช่วงไหล่แคบ แนะนำว่าถ้าเลือกให้ชุดช่วงบนเป็นแบบไหล่เดี่ยวแล้ว ช่วงล่างตั้งแต่เอวลงไปไม่ควรจะมีดีเทลเยอะมากนัก ขอบอกว่าชุดแบบนี้เหมาะกับเจ้าสาวที่หน้าอกเล็ก  ไม่มั่นใจว่าหน้าอกที่มีอยู่จะพอให้เกาะ รวมถึงคนที่พอจะมีหน้าอกแต่ก็กลัวจะเกาะไม่อยู่ด้วย

เทคนิคง่ายๆ ให้บ่าว-สาวรับมือกับงานแต่งฤดูฝนได้อย่างสบายหายห่วง

ใครว่า งานแต่งฤดูฝน จะเกิดขึ้นไม่ได้คะ

….ลบความคิดนี้ไปได้เลย ฤกษ์งามยามดีของคู่แต่งงานไม่ได้มีกันง่ายๆ แล้วบางคู่ดันได้ฤกษ์ตรงกับช่วงฤดูฝนพอดีเป๊ะ แถมมีฤกษ์อยู่วันเดียวในปีนี้ด้วย แบบนี้ยังไงก็ต้องแต่งแล้วล่ะค่ะ แต่ก็ต้องเตรียมวิธีรับมือกันซะหน่อย สำหรับคู่บ่าว-สาวที่จ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์คงไม่ต้องเป็นกังวลอะไรมาก ส่วนคู่ที่ไม่ได้จ้างทีมเวดดิ้งแพลนเนอร์ไว้ก็อย่าเพิ่งนอยด์ไปค่ะ เพราะแพรว wedding ได้ไปล้วงเทคนิคจากเวดดิ้งแพลนเนอร์ผู้มากประสบการณ์ในการจัด งานแต่งฤดูฝน บอกเลยว่า Jirayu The Wedding Planner ผ่านมาหมดแล้ว ซึ่งจะมีคำแนะนำอะไรดีๆ มาฝากชาวแพรว wedding บ้างนั้นตามมาอ่านกันได้เลยยยย

งานแต่งฤดูฝน

หากคุณยังไม่ได้เลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน….

ถ้าคุณยังไม่ได้ตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานแต่งงาน แต่ได้ฤกษ์วันงานมาแล้วอยู่ในช่วงหน้าฝนพอดิบพอดี สถานที่แรกที่คุณควรนึกถึงที่สุดคือเป็นสถานที่ในร่มเลยค่ะ รับรองปลอดภัยหายห่วงแน่นอน สถานที่อินดอร์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องบอลรูมของทางโรงแรม งานแต่งงานก็จะได้บรรยากาศที่ดูหรูหราโอ่อ่าและดูมีความเป็นทางการนิดนึง สำหรับบ่าว-สาวที่ยุคใหม่เดี๋ยวนี้ก็มักจะเลือกสถานที่จัดงานแบบเอ้าท์ดอร์เสียมากกว่า เพราะบรรยากาศงานจะดูอบอุ่น พื้นที่ก็จะดูปลอดโปร่ง และได้บรรยากาศของความเป็นธรรมชาติ ซึ่งในช่วงหน้าฝนนี้หากคุณต้องการจัดงานแต่งงานเอ้าท์ดอร์ก็สามารถทำได้เหมือนกันนะคะ

งานแต่งฤดูฝน

หากคุณต้องการจัดงานแต่งงานแบบเอ้าดอร์….

1. เช็คพยากรณ์อากาศ ยิ่งช่วงใกล้ถึงวันจัดงานต้องคอยดูพยากรณ์อากาศกันดีๆ เลยค่ะ ถือเป็นช่วงเฝ้าระวังก็ว่าได้ เพื่อเตรียมรับมือกับฝนที่กำลังจะมา และจัดสรรสถานที่รองรับในกรณีที่ฝนตกเอาไว้และต้องเคลื่อนย้ายได้อย่างทันถ่วงทีด้วยนะคะ

2. ควรหาสถานที่สำรองในร่ม เช่น กรณีที่คุณเลือกจัดงานแต่งในสวน ก็ควรเลือกสถานที่ที่มีโซนในร่มรองรับและไม่ควรอยู่ไกลกับสวนบริเวณสถานที่จัดงานหลักมากจนเกินไป เพราะการขนย้ายของเข้าข้างในอาจทำได้แค่บางส่วนเท่านั้นนะคะ ทางที่ดีควรจัดทีมงานสำรองเอาไว้ในการขนย้ายของเข้าไปตกแต่งทางด้านใน โดยเฉพาะโต๊ะอาหารที่เรียกได้ว่าสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ ควรจัดเตรียมโต๊ะอาหารสำหรับแขกผู้ใหญ่ไว้ในโซนที่สำรองไว้ด้านในด้วย เพราะผู้ใหญ่อาจจะไม่สะดวกในการยืนนานๆ หรือวิ่งหนีฝนแบบวัยที่พลังเหลือล้นอย่างพวกเรา อิอิ

3. จัดเต้นท์ที่ดูทันสมัย อีกวิธีการรับมือกับฝนคือการจัดเต้นท์ที่เข้ากับธีมของงานแต่งงาน ซึ่งเดี๋ยวนี้ที่ฮิตกันก็จะเป็นเต้นท์กระโจมสีขาวที่ดูทันสมัยและสามารถเข้ากับธีมงานได้ง่าย สำหรับการใช้เต้นท์จะเหมาะอย่างยิ่งกับงานแต่งงานที่เลือกจัดแบบโต๊ะจีน เมื่อฝนตกคุณแทบไม่ต้องคิดที่จะขนย้ายโต๊ะเข้าไปยังโซนในร่มเลยเพราะทำได้ยากมากค่า ทางที่ดีควรกางเต้นท์บริเวณเอ้าดอร์เลยแหละไม่ต้องขนย้ายไปไหน ฝนตกก็ยังคงนั่งรับประทานอาหารกันได้ต่ออย่างสบายๆ

งานแต่งฤดูฝน

ทริคเสริมเล็กๆ น้อยๆ

1. จัดแบ็คดรอปถ่ายรูปไว้สองจุด ในงานจะมีแบ็คดรอป 2 ฉากด้วยกันคือ จัดไว้ตรงส่วนที่เป็นเอ้าท์ดอร์หรือสถานที่จัดงานหลัก อีกจุดคือสำรองยามฝนตกก็จะสามารถขนย้ายแขกของคุณเข้ามาถ่ายรูปบริเวณด้านในได้ด้วยเช่นกันค่ะ รับรองงานนี้ต่อให้พายุเข้า พวกคุณก็จะมีรูปถ่ายสวยๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำแน่นอนค่ะ

2. เลือกร่มเป็นของชำร่วย สร้างกิมมิคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับงานแต่งงานของคุณด้วยการเลือกร่มคันเล็กน่ารักเป็นของชำร่วย นอกจากเป็นสัญลักษณ์ที่เข้ากับบรรยากาศของงานแล้ว แขกที่มาร่วมงานยังสามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อได้อีกด้วยนะคะ

หลังจากคุณทั้งคู่ได้จัดงานแต่งงานในช่วงฤดูฝนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีนี้คิวต่อไปถึงเวลาไปฮันนีมูนกันแล้วแหละค่ะ แม้จะเป็นหน้าฝน แต่ในประเทศไทยก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับฤดูนี้อยู่หลายแห่งเหมือนกันน้า สถานที่ฮันนีมูน รับฤดูฝน สุดฟิน บรรยากาศแสนโรแมนติก  และแต่ละที่บอกเลยว่าสวยมาก ถึงจะเข้าหน้าฝนก็ฮันนีมูนได้อย่าไปกลัว

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Jirayu The Wedding Planner
ภาพจาก : pinterest.com

How To รับมืออาการไมเกรนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ปวดหัวให้ทรมานกลางงานแต่ง

ไมเกรน อาการปวดหัวที่ทรมานหลายๆ คนให้อยากจะเอาหัวไถกับอะไรสักอย่างเพื่อให้หายปวด แต่ปวดวันไหนก็ไม่ทรมานเท่าปวดในวันแต่งงาน เพราะทั้งเหนื่อย ทั้งล้า แล้วต้องมาปวดหัวอีก แถมในวันแต่งงานก็มีแต่เรื่องชวนให้อาการกำเริบทั้งนั้น แพรว Wedding จึงขอยกหูถามคุณหมอว่า “เราจะช่วยบ่าว – สาว ที่เป็นไมเกรนในงานแต่งงานยังไงดีนะ” ผู้ที่จะมาช่วยบ่าว – สาว จากอาการไมเกรนในงานแต่งของตัวเองก็คือ นพ. กีรติกร ว่องไววาณิชย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าโรคไมเกรน คืออาการที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสมอง ที่ไวต่อบางสิ่งบางอย่าง เช่น แสง เสียง สี หรือแม้กระทั่งกลิ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นสมองให้ทำงานผิดปกติจนเกิดเป็นอาการปวดหัวขึ้นนั่นเอง และเพราะเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง จึงทำให้ไมเกรนไม่ได้มีแค่การปวดหัวเท่านั้น แต่ยังมี คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว อีกด้วย

จะแต่งงานแล้ว ทำยังไงดีไม่ให้ปวดหัว

ณ จุดนี้คุณหมอพูด 2 คำสั้นๆ ได้ใจความว่า “ยากนะ!” เพราะใช่ว่าโดนกระตุ้นแล้วจะปวดทุกครั้ง หรือไม่ปวด ทางที่ดีคือหลีกเลี่ยงสิ่งเร้านั้นๆ อย่าง รู้ว่านอนไม่พอจะปวดหัว วันแต่งงานก็อาจจะต้องนอนให้เร็วขึ้นมากๆ เพราะยังไงก็ต้องตื่นเช้าอยู่ดี เป็นต้น หรือถ้าเครียดแล้วจะปวดหัว ก็ขอให้พยายามปล่อยวาง ไว้วางใจเพื่อนเจ้าบ่าว – เจ้าสาวและทีมงานที่เลือกมาจัดงาน

แต่ถ้ามีสิ่งกระตุ้นให้ปวดหัวเป็นแสง หรือเสียงวันแต่งงานก็จะลำบากหน่อย เพราะสิ่งเหล่านี้ในงานแต่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย นอกจากว่าจะเปิดเพลงในงานแต่งให้เบาหน่อย ลดสปอตไลท์ที่ส่องไปยังคู่บ่าวสาว ก็จะช่วยให้สิ่งกระตุ้นน้อยลง โอกาสเกิดน้อยลงได้

ทางที่ดีสำหรับบ่าวสาวที่ไม่อยากเสี่ยงปวดหัวให้เป็นความทรงจำที่ไม่ดีในงานแต่ง ก็อาจจะไปพบแพทย์ก่อนงานแต่งสัก 4 – 5 เดือน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการปวดหัว เพราะบางครั้งก็อาจมาจากสาเหตุอื่นๆ ได้ และแพทย์อาจให้ยาเพื่อป้องกันการปวดหัว ซึ่งเป็นยาที่หมอเป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น และต้องกินติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงจะป้องกันได้ผล

ไมเกรน

ปวดหัวในงานแต่ง ทำไงดี

บ่าวสาวที่มีอาการไมเกรนควรต้องมียาแก้ปวดพกไว้ใกล้ตัว หรือเรียกหาได้ง่าย ทางที่ดีควรมีกระเป๋าพกที่ใส่ของจำเป็นๆ ฝากเพื่อนๆ เอาไว้ ปวดปุ๊บก็เรียกหามากินได้ทันที แต่หากว่ากินยาไปแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ยังมีวิธีที่จะบรรเทาได้ แต่ก็ต้องแอบแว่บออกมาจากงานแต่งชั่วเวลาหนึ่ง

  1. ประคบเย็นบริเวณที่ปวด
  2. หายใจเข้า ออก ช้าๆ
  3. หลับตา
  4. อยู่ในที่มืด และเย็น
  5. นวดเบาๆ บริเวณที่ปวด

ซึ่งทั้ง 5 วิธีนี้ เป็นวิธีที่จะช่วยบรรเทาให้อาการปวดดีขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถเลี่ยงสิ่งกระตุ้นได้ เพราะในงานแต่งก็เต็มไปด้วยสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ละ

สำหรับบ่าวสาวที่มีอาการปวดหัว ไมเกรน เราก็ขอให้ผ่านงานแต่งงานไปได้อย่างราบรื่นไร้การปวดหัว นอกจากไมเกรนแล้ว เราก็ยังมีอีกสารพัดเรื่องสุขภาพที่บ่าวสาวต้องเตรียมตัวให้พร้อมมาให้อ่านอีก คลิกเลย

ขอบคุณ นพ. กีรติกร ว่องไววาณิชย์ ศูนย์สมองและระบบประสาทกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ภาพ unsplash.com, pixabay.com, Pinterest

เทคนิคการเลือกชุดแต่งงานสีขาว ให้แมตช์กับสีผิวเจ้าสาวแต่ละแบบ

รู้หรือไม่! ว่าสีขาวไม่ได้มีแค่เฉดเดียว แล้วอย่างนี้ ชุดแต่งงานสีขาว เฉดไหนที่จะเหมาะกับสีผิวอย่างเรากันนะ??

สีขาว มันก็คือสีขาวไม่ใช่เหรอ? ขอตอบเลยว่าไม่ใช่!! เพราะสีขาวนี้ กลับมีอีกหลายเฉดให้ว่าที่เจ้าสาวได้เลือก แพรว wedding เลยขอมาแตกแยกเฉดของ ชุดแต่งงานสีขาว ให้ว่าที่เจ้าสาวได้รู้ เพื่อที่จะได้เลือกแมตช์ให้เข้ากับสีผิวตัวเองได้ดีที่สุด

เฉดสีขาวของชุดแต่งงานมีกี่เฉด มาดูกัน

ชื่อเฉดสีขาวแต่ละชื่ออาจทำให้ว่าที่เจ้าสาวสับสน แพรว wedding เลยรวบรวมชื่อเฉดสีขาวที่เป็นสากลและเป็นนิยมมาให้สาวๆ ได้รู้กัน

  • Stark White หรือ Bright White

สีขาวบริสุทธิ์ สีขาวเปล่งประกาย และสร้างความโดดเด่นได้เป็นพิเศษ แต่เป็นเฉดสีที่สวมใส่ได้ยาก แต่กลับเหมาะสำหรับว่าที่เจ้าสาวผิวคล้ำ  เนื่องจากเฉดสีนี้จะดูกลืนไปกับสาวๆ ที่ผิวขาวมากหรือผิวปานกลางนั่นเอง

  • Champagne White หรือ Rum White

เป็นเฉดสีที่สวยงามเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวอมชมพู แถมยังเป็นเฉดสีที่ดูดีในภาพถ่าย หรือในที่ที่มีแสงสว่างไม่มากเฉดนี้ก็ยังดูสวยอยู่ เป็นเฉดสีที่ไม่ขาวมาก แต่สามารถเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับสาวๆ ผิวสีแทนหรือสีน้ำผึ้งได้เป็นอย่างดี

จากซ้าย : Bright White, Champagne White, Ivory, Candlelight (ภาพจาก : Azazie, DHgate, UCenter Dress, Wedding Picture Idea)
  • Ivory

เฉดสีไอวอรี่ หรือเฉดสีงาช้างเป็นอีกเฉดสีที่เหมาะจะเป็นทางเลือกสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่ไม่อยากได้ชุดแต่งงานสีขาวจั๊วะ และเป็นเฉดสียอดนิยมในหมู่เจ้าสาว แต่ก็ต้องดูว่าเมื่อใส่แล้วเฉดสีนี้เข้ากับสีผิวของเจ้าสาวได้ดีจริงหรือไม่ เพราะเจ้าสาวที่มีสีผิวอมชมพูอาจจะเหมาะกับเฉดสีออกครีมนิดๆ มากกว่า เป็นต้น

  • Candlelight

อีกหนึ่งเฉดสีขาวที่มีเฉดใกล้เคียงกับเฉดงาช้างหรือไอวอรี่ แต่จะมีสีน้ำตาลมาผสมทำให้เข้มกว่าสีไอวอรี่เล็กน้อย แต่ความพิเศษของเฉดสีนี้คือ เมื่ออยู่ภายใต้แสงเทียนเฉดสีนี้จะเปลี่ยนเป็นสีขาว จึงเหมาะสำหรับใส่ในงานแต่งงานตอนเย็นมากๆ

  • Ecru

เป็นเฉดสีที่ลึกที่สุดของเฉดสีงาช้างหรือไอวอรี่ สีจะออกเป็นเฉดสีดิบๆ ของผ้าลินินที่ไม่ได้ผ่านการฟอกสี เหมาะสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหาความไม่เป็นทางการในชุดแต่งงาน และต้องการเฉดสีที่มีความต่างออกไปจากชุดแต่งงานแบบเดิมๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเฉดที่น่าลองจริงๆ

จะเลือกชุดแต่งงานเฉดสีขาว, สีไอวอรี่ หรือเฉดสีครีม ให้เข้ากับสีผิวของเราได้ยังไง?

  • เจ้าสาวผิวขาว

หากคุณเป็นคนที่ผิวขาวถึงขาวมาก สีขาวโทนอบอุ่นหรือสีขาวโทนเหลือง ไม่ควรเลือกชุดแต่งงานที่ขาวมากๆ เพราะจะทำให้สีผิวกับสีชุดดูกลืนกันไปหมด

  • เจ้าสาวผิวสีแทน

สำหรับว่าที่เจ้าสาวผิวสีแทน หรือสาวผิวคล้ำดำแดง เฉดสีขาวที่เหมาะสมและจะทำให้สีผิวของว่าที่เจ้าสาวดูสดใสไม่หมองคล้ำและดูเปล่งปลั่งขึ้น คือเฉดสีแชมเปญ

  • เจ้าสาวสีผิวกลางๆ

หากคุณมีผิวเฉดสีกลางๆ คือ ไม่ขาวมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแทน ชุดแต่งงานเฉดสีขาวที่เหมาะกับสาวๆ ที่มีผิวแบบนี้คือ ชุดแต่งงานเฉดสีครีม เฉดสีไอวอรี่ และชุดแต่งงานสีขาว เพราะสาวๆ ผิวสีนี้จะมีสีเหลืองเป็นเฉดสีหลักของสีผิว

  • สาวผิวคล้ำ

หากคุณมีผิวที่คล้ำมากๆ เฉดสีขาวทุกเฉดดูเหมือนจะเหมาะกับสีผิวของคุณ ยกเว้นว่าถ้าหากคุณมีสีผิวที่ติดโทนเหลือง อาจต้องหลีกเลี่ยงชุดแต่งงานในเฉดสีไอวอรี่

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ว่าที่เจ้าสาวอาจจะลองสอบถามกับดีไซเนอร์หรือร้านชุดอีกทีเพื่อความชัวร์ และควรได้ลองสวมใส่ชุดแต่งงานจริงๆ ดูก่อนว่าสีนี้เหมาะกับเราจริงหรือไม่ ที่สำคัญการเชื่อใจในร้านชุดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะพวกเขาไม่เพียงที่จะแนะนำเฉดสีของชุดแต่งงานให้เหมาะกับคุณได้เท่านั้น แต่ยังมีทางเลือกอื่นๆ และแนะนำสิ่งที่เหมาะกับคุณได้ดีอีกด้วย โดยดูจากสีผิวของคุณเป็นหลัก

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบ คลิกที่นี่!

ภาพเปิด stocksnap.io

ส่องขันหมากจีน เจ้าบ่าวเตรียมตามนี้ถูกตามประเพณีแน่นอน

เมื่อได้ฤกษ์แต่งงานมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เจ้าบ่าวสายตี๋ต้องเตรียม ขันหมากจีน ไปสู่ขอเจ้าสาวอาหมวย ซึ่งเครื่องขันหมากจีนทั้งหมดของฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นจะต้องติดตัวอักษรจีน ‘ซังฮี้’ ที่หมายความว่าคู่ความสุข คู่ความยินดี ไว้ด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็เตรียมตัวอักษรไว้ให้พร้อม แล้วนำมาติดไว้กับของในขันหมากที่ต้องเตรียมตามนี้ได้เลย

1. เครื่องขันหมาก หรือ เพ้งกิม 

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เจ้าบ่าวต้องเตรียมมาก็คือ สินสอดทองหมั้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งในส่วนของทองนั้นส่วนใหญ่คนจีนจะเรียกว่า ‘สี่เอี่ยกิม’ หรือทอง 4 อย่าง คือกำไลทอง, สร้อยทอง, ต่างหูทอง และเข็มขัดทอง ส่วน ‘เพ้ง’ หรือเงิน เจ้าบ่าวจะต้องแยกไว้ทั้งหมด 4 ซองเพื่อให้กับพ่อแม่ของเจ้าสาว ซองแรกคือค่าน้ำนม, ซองที่สองคือ ค่าเสื้อผ้า, ซองที่สามคือ ค่าทำผม และซองที่สี่ไว้สำหรับเป็นทุนตั้งตัว ซึ่งงานนี้ไม่ได้เตรียมให้แค่พ่อแม่อย่างเดียวนะคะ เพราะถ้าหากอากงอาม่าของเจ้าสาวยังมีชีวิตอยู่ เจ้าบ่าวจะต้องเตรียมอั่งเปาไว้ให้ทุกคนเป็นพิเศษอีกด้วย (ในบางครอบครัวที่เคร่งจัดๆ อาจเพิ่มชุดหัวหมู 1 ชุด)

2. กล้วยสีเขียวทั้งเครือ

ให้ความหมายว่าดึงสิ่งดีสู่บ่าวสาวและอวยพรให้มีลูกหลานสืบสกุลมากๆ ฉะนั้นเวลาจะสรรหากล้วยมาเข้าพิธีต้องคัดที่เครือใหญ่ๆ สีเขียวๆ ยิ่งถ้านับจำนวนหวีในเครือได้เป็นเลขคู่ด้วยละก็ เชื่อว่าจะได้ลูกแฝดมาเชยชม พร้อมกับใช้กระดาษแดงพันไว้ที่ก้านเครือด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ทุกลูกต้องติดตัวอักษรซังฮี้สีแดง ย้ำนะคะ ต้องติดทุกลูกทั้งเครือ เมื่อเข้าพิธีสู่ขอแล้ว ฝ่ายชายเป็นผู้นำกล้วยเครือนี้กลับบ้านไป

3. ต้นอ้อย

ไม่ต่างจากคนไทยที่เชื่อว่า อ้อยคือตัวแทนความหอมหวานของชีวิตคู่ ดังนั้นเจ้าบ่าวจึงต้องสรรหา อ้อยปล่องโตมา 1 คู่ แต่เรื่องอ้อยนี้แล้วแต่บ้านเหมือนกันนะคะ เพราะบางบ้านรู้สึกว่า อ้อยนั้นแม้จะหวานแต่เวลากินยากลำบากต้องปอกเปลือก ต้องแทะ ก็อาจตัดอ้อยออกจากสิ่งที่เจ้าวบ่าวต้องเตรียมาได้

ขันหมากจีน

4. ส้มเช้งผลเขียว

ส้มนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้มงคลที่เชื่อว่าจะให้โชคดี โดยต้องเตรียมไว้เป็นเลขคู่ เช่น 44, 84 หรือร้อยกว่าลูกไปเลยก็ได้ถ้าใจถึง พร้อมกับติดตัวหนังสือซังฮี่สีแดงทุกผล ซึ่งนอกจากจะต้องเตรียมเป็นเลขคู่แล้ว ต้องเตรียมให้เท่ากับที่ตกลงกับฝ่ายหญิงไว้ด้วย แต่สมัยนี้ก็อาจยืดหยุ่นกันไปตามฐานะได้

5. ขนมหมั้น,ขนมแต่งงาน หรือขนมจันอับ

ในสมัยก่อนที่เคร่งครัดในธรรมเนียมปฎิบัติมากๆ จะให้ฝ่ายเจ้าสาวเป้นผู้กำหนดชนิดและจำนวนขนมที่จะยกไปสู่ขอแต่งงาน แต่หลังๆ มีร้านค้ามากมายทำกิจกรรมจัดขนมแต่งงานสำหรับลูกหลานชาวจีน ก็ขอเพียงสั่งมาให้มีในพิธีเป็นพอ

ขนมที่ว่าได้แก่ ขนม 4 สีที่เรียกว่า “ซี้เส็กหม่วยเจี๊ยะ” หรืออาจเป็นขนม 5 สี ที่เรียกว่า “โหงวเส็กทึ้ง” ประกอบด้วย ขนมเหนียวเคลือบงา, ขนมเปี๊ยะโรยงา, ขนมถั่วตัด,ขนมข้าวพองทุบ และขนมโก๋อ่อน บางบ้านอาจให้มงคลเกิดเต็มที่ก็อาจขอให้จัดน้ำตาลทราย ซาลาเปาไส้หวานและคุกกี้กระป๋องด้วย โดยต้องจัดเตรียมไว้เป็นชุดตามจำนวนแขกที่ฝ่ายหญิงเชิญมา ซึ่งขนมที่เพิ่มพิเศษนี้เรียกว่า “สั่งเปี้ย” แปลว่า ให้ขนมค่ะ

ขันหมากจีน

6. ถาดหมูสด

ถ้าเป็นงานแต่งงานแบบจีนแท้ๆ จีนจัดๆ ต้องมีชุดหมูค่ะ โดยจะมีด้วยกันถึง 3 ถาด แต่ละถาดวางหมูในสัดส่วนต่างๆ ไป คือถาดที่ 1 วางหัวหมูพร้อม 4 เท้าและ 1 หาง (อย่าลืมตัดเล็บหมูให้เรียบร้อย และติดตัวหนังสือซังฮี่) ถาดที่ 2 วางขาหมูสดติดตัวซังฮี่ ถาดที่ 3 วางเนื้อหมูตรงส่วนท้องของแม่หมูเท่านั้น เพื่ออวยพรให้เจ้าสาวได้เป็นแม่คน และเอาเคล็ดให้ได้ลูกชาย แต่ถ้าบ้านไหนไม่สะดวกจัดถาดของสด ก็อาจนำเงินใส่ซองแล้วเขียนหน้าซองว่าสำหรับซื้อหมูแต่ละถาดแทนก็ได้

ซึ่งตามธรรมเนียมบอกว่า ฝ่ายหญิงต้องให้ชุดหมูกับเจ่าบ่าวกลับไปด้วย แต่เป็นถาดวางหัวใจหมูที่ต้องเป็นหัวใจทั้งยวงที่ยังมีปอดและตับติดอยู่ด้วยกัน โดยเมื่อเสร็จพิธีจะนำหัวใจนี้มาแบ่งให้ฝ่ายชายนำกลับไปครึ่งใจ อีกครึ่งใจไว้บ้านฝ่ายหญิง แล้วนำไปประกอบอาหารทานร่วมกัน ซึ่งคงเดาไม่ยากใช่ไหมละว่าหัวใจคือ เคล็ดอวยพรให้หญิงชายมีจิตใจร่วมกันเป็นใจหนึ่งใจเดียวกัน

7. ของเซ่นไหว้ที่บ้านเจ้าสาว

ที่บ้านแต่ละบ้านมักมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเวลาที่หนุ่มๆ จะเข้าไปสู่ขอลูกสาวบ้านจีนมาเป็นภรรยา ต้องไม่ลืมเตรียมของไหว้อีก 2 ชุด สำหรับไหว้เจ้าที่และไหว้บรรพบุรุษ โดยของไหว้ก็ไม่มีอะไรมากมาย จัดเตรียมของคาว ขนมหวาน ผลไม้ เหล้า พร้อมอาหาร 10 อย่าง และที่ขาดไม่ได้คือ เส้นหมี่ เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่ยืนยาวและนิยมหา เถ้าแก่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือและมีชีวิตครอบครัวที่ดีมาเป็นผู้นำขบวนหรือช่วยถือของขันหมากเพื่อเป็นสิริมงคล

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีแต่งงานจีน

Step by Step พิธีแต่งงานจีน แบบเป๊ะๆ จัดอย่างนี้สิผู้ใหญ่ปลื้ม
เช็คลิสต์! ของแต่งงานจีนที่เจ้าสาวต้องเตรียม
ทานขนมอี๋แบบนี้ในงานแต่ง รับรองมีแต่เฮงเฮงเฮงแน่นอน!!

จะเริ่มต้นซื้อแหวนแต่งงานยังไงดี?? ทำตามนี้สิ รับรองได้ของดีคุ้มค่าชัวร์

เมื่อถึงเวลาต้อง ซื้อแหวนแต่งงาน มันก็จะงงๆ อยู่หน่อยๆ ใช่ไหมล่ะ?? เลิกงงแล้วล้อมวงมาอ่านคำแนะนำแล้วทำตามนี้กันค่ะ

การเลือก ซื้อแหวนแต่งงาน ก็เหมือนการเลือกซื้อชุดแต่งงานนั่นแหละคะ เพราะต้องเลือกให้สวยถูกใจ เหมาะกับผู้สวมใส่ และต้องมีงบไม่แรงด้วย แต่ขึ้นชื่อว่าแหวนแต่งงานแถมยังประดับเพชรด้วย ก็อาจจะทำให้หลายคู่เริ่มต้นไม่ถูกเพราะดูเป็นของที่มีราคา เข้าถึงยาก และไกลตัว แพรว wedding เลยจัดทิปส์ง่ายๆ มาให้ รับรองว่าทำตามนี้เริ่มต้นถูก ได้แหวนถูกใจ แถมยังเซฟงบได้อีก

 

1. กำหนดงบประมาณ
อาจตั้งงบสูงสุดไว้ว่าจะไม่ซื้อเกินราคานี้ จากนั้นปรึกษาผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ในการซื้อเพชร เพื่อให้ช่วยคำนวณระหว่างความต้องการของคุณกับงบที่มี แล้วเริ่มทำการบ้านได้เลยว่า งบประมาณกับเพชรสเป็คที่รับได้ตรงกันมากน้อยแค่ไหนก่อนจะหาร้านที่มีเพชรตามต้องการ ซึ่งเหมาะกับงบประมาณที่ตั้งไว้ตามต้องการซึ่งเหมาะกับงบประมาณที่ตั้งไว้

2. ชัดเจนกับสิ่งที่จะซื้อ
ถามตัวเองก่อนว่าอยากซื้อเครื่องประดับประเภทใด เพื่อใช้ในงานไหน และสไตล์ที่ต้องการเป็นอย่างไร จากนั้นก็อย่าได้เขว เพราะหลายครั้งที่สาวๆ เกิดอาการเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อเจอแสงวิบวับที่มาพร้อมดีไซน์น่ารักของเครื่องประดับนอกความตั้งใจเป้าหมายที่วางไว้จึงเปลี่ยนไปทันที ทำให้แทนที่จะได้ของที่ต้องการกลับกลายเป็นซื้อของสไตล์เดิมๆ ที่มีอยู่เต็มบ้านมาแทน เทคนิคคือบอกความตั้งใจกับทางร้านทันทีที่เดินเข้าไปว่ากำลังมองหาอะไร เพื่อทางร้านจะได้ช่วยมองหาสิ่งที่คุณต้องการเสียก่อน

3. ร้านเพชรชื่อดัง (ในทางลบ)
สำรวจก่อนเข้าร้านเพชรว่าร้านไหนมีชื่อเสียบ้าง เพื่อจะได้เลี่ยงไม่เข้าไปเจอสินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือบริการที่ไม่ประทับใจ ปัจจุบันเช็กจากอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ ทุกที่ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะขยันทำการบ้านก่อนเดินเข้าร้านหรือไม่ ในกรณีที่ไม่รู้จักร้านเพชรสักร้าน แค่เสิร์ชด้วยคีย์เวิร์ด “ร้านเพชร” บรรดารายชื่อร้านก็เรียงรายให้เห็นเป็นตับ จากนั้นค่อยๆ หาร้านที่มีสไตล์เครื่องประดับตรงกับที่อยากได้ แล้วจึงเช็กความน่าเชื่อถือของร้านผ่านคอมเมนต์ต่างๆ ของผู้มีประสบการณ์ที่เคยซื้อเพชรจากร้านนั้นๆ โดยตรง

4. จุดเด่นของแต่ละร้าน
เพราะบางร้านเน้นดีไซน์สวยเก๋ ไม่มีแบบหวานแหวว ในขณะที่บางร้านอาจเน้นแค่แหวนคู่เกลี้ยงๆ ไม่เน้นเพชร เป็นต้น จึงเป็นการดีมากหากคุณได้รู้ก่อนว่าร้านเพชรที่เล็งไว้โดดเด่นด้านใดกันแน่ แค่เข้าไปดูเว็บไซต์ของร้านก็จะพอเห็นภาพคร่าวๆ แล้วว่าสินค้าส่วนใหญ่เป็นอย่างไร หากคัดสรรร้านที่มีสไตล์โดยรวมตรงกับจริตของคุณได้สักสองสามร้าน แล้วค่อยตระเวนดูชิ้นงานจริงๆ อีกที เท่านี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินดุ่มๆ ไปกวาดตาค้นหาสิ่งที่ต้องการแบบไร้จุดหมาย

แจกจ้า!! สคริปต์งานแต่งสำหรับพิธีปูเตียงเรียงหมอนเวอร์ชั่น 2 ภาษา

สคริปต์งานแต่ง พิธีปูเตียงเรียงหมอนเวอร์ชั่นเต็มแบบ 2 ภาษา

บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังมองหา สคริปต์งานแต่ง สำหรับพิธีปูเตียงเรียงหมอนฟังทางนี้ เตรียมตัวเซฟให้ดี เพราะเรามีสคริปต์แบบจัดเต็ม พร้อมขั้นตอนแบบครบชุดมาฝาก แถมยังเป็นเวอร์ชั่น 2 ภาษาเอาใจบ่าวสาวสายฝ. อีกด้วย 

ในพิธีปูที่นอนจะต้องเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นคู่สามีภรรยาอาวุโสที่อยู่กินกันอย่างมีความสุข และมีลูกหลานดีมาช่วยกันปูที่นอนพอเป็นพิธี เพื่อเป็นเคล็ดว่าบ่าวสาวจะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เช่นเดียวกับพวกท่านที่ครองคู่กันอย่างยาวนาน เมื่อได้ฤกษ์ คู่สามีภรรยาและญาติคนอื่นๆ จะเข้าไปนั่งในห้องหอ และผู้ใหญ่ชายจะลุกขึ้นยืนแล้วร้องถาม แล้วให้ญาติโยมคนอื่นๆ ทั้งในห้องและนอกห้องคอยตอบ ตามนี้

ผู้ใหญ่ชาย : ถึงฤกษ์ดีหรือยัง
ญาติคนอื่นๆ : ถึงแล้ว
ผู้ใหญ่ชาย : นาย บุญมั่น มาแล้วหรือยัง
ญาติคนอื่นๆ : มาแล้ว
ผู้ใหญ่ชาย : นาย บุญคง มาแล้วหรือยัง
ญาติคนอื่นๆ : มาแล้ว

สามารถถามถึงคนที่ชื่อเป็นมงคลอื่นๆ ได้อีก 3-4 คน เมื่อขานว่ามาครบทุกครั้ง ผู้ใหญ่ชายจะนั่งลงบนเตียงและคุยกับผู้ใหญ่หญิงผู้เป็นภรรยาว่า “ถึงฤกษ์ดีแล้ว ผู้จะมาช่วยอำนวยพรก็มาพร้อมกันแล้ว เรามาช่วยกันปูที่นอนเถิด” 

หลังจากปูที่นอนเรียบร้อย ผู้ใหญ่ทั้งคู่จะขึ้นไปนั่งข้างกันบนที่นอนโดยหันหน้าไปทางหัวนอน แล้วไหว้พระสวดมนต์ด้วยกัน พอจบแล้วก็ลองนอนเคียงกันบนที่นอน โดยให้ผู้ใหญ่ชายอยู่ทางขวา

ผู้ใหญ่ชาย : ที่นอนน่านอน ใครนอนเห็นจะอยู่เย็นเป็นสุขสบาย อายุยืนนะแม่
ผู้ใหญ่หญิง : สบายมากค่ะ ถ้าใครนอนที่นอนนี้ คงจะเกิดทรัพย์สินมากมูลพูนเขา มีลูกเต้าน่ารักน่าชม

จากนั้นให้ทั้งสองหลับตาลง เมื่อตื่นขึ้นมาให้ผู้ใหญ่หญิงกล่าวว่า “นอนหลับฝันดี ฝันเห็นสิ่งมงคล ทรัพย์สินเงินทองมากมาย” จากนั้น ผู้ใหญ่พรมน้ำมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ ให้ศีลให้พรและให้โอวาทในการครองเรือนแก่บ่าวสาว และพ่อแม่ให้ศีลให้พรและให้โอวาทในการครองเรือนแก่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

เพียงส่งสคริปต์ให้เจ้าบ่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องอ่าน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็อินกับงานแต่งไทยได้ง่ายๆ เชื่อเถอะ!

The Bedding Ceremony
              • A senior couple whose marriage has been successful and whose offspring have grown up to be respectable are invited to make the bed ceremonially as a gimmick for the groom and the bride.
              • The senior couple pretends to sleep on the bed and to wake up to speak about auspicious thing, such as:
  Husband: This bed is very comfortable. Whoever sleeps on it must be blessed with happiness and blessings.
Wife: That’s right. Whoever sleeps on this bed must be full of assets and wealth, as well as adorable and admirable children.
              • The parents give blessings and teachings on marriage. The ceremony concludes.
              With the help of this guide, the groom and his helpers will understand the Thai-style wedding ceremony and the thoughtful ideas behind it. 

แจก!! สคริปต์งานไทย 2 ภาษาจัดเต็มทั้ง เจรจา สู่ขอ นับสินสอด และสวมแหวน

อุปกรณ์ใน พิธีสงฆ์ ที่บ่าวสาวต้องรู้เพื่อการเตรียมงานได้เป๊ะไม่มีตกหล่น

ไม่ต้องงงอีกแล้วว่าใน พิธีสงฆ์ ต้องเตรียมอะไรบ้าง เพราะเราจัดเต็มมาให้ที่นี่แล้ว

พิธีที่ขาดไม่ได้ในประเพณีแต่งงานแบบไทยก็คือ พิธีสงฆ์ ซึ่งบ่าวสาวหลายคู่ให้ความสำคัญและถือว่าเป็นพิธีแรกเริ่มต้นใหม่ของชีวิตคู่แต่พิธีนี้ไม่ได้จบแค่การนิมนต์พระมาประกอบพิธีนะคะ เพราะในพิธีที่ว่านี้มีข้าวของเครื่องใช้ในพิธีสงฆ์เยอะซะเหลือเกิน บ่าวสาวก็เลยต้องคิดว่าจะไปหายืมหรือหาเช่าที่ไหนได้บ้างไม่รู้ บ่าวสาวหลายคู่ก็เลยเกิดอาการหัวหมุนกันไปตามๆ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เรารวบรวมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในพิธีสงฆ์ มาให้แล้วตามไปเช็คลิสกันเลยค่ะ

อุปกรณ์มีอะไรบ้างเช็คกันหน่อย

  • พระประธานในพิธี ในที่นี้คือพระพุทธรูปซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา โดยปางที่นิยมใช้ในการประกอบพิธีสงฆ์มากที่สุดคือ ปางมารวิชัย ที่มีความหมายว่า ชนะมาร ชนะอุปสรรค และขวากหนามต่างๆ บ่าวสาวที่กำลังเริ่มต้นชีวิตคู่อาจเพราะจะต้องเจออุปสรรคในอนาคต ซึ่งการเลือกพระพุทธรูปปางมารวิชัยเปรียบเสมือนการอวยพรให้ชีวิตคู่ราบรื่นนั่นเอง
  • ชุดโต๊ะหมู่บูชา โต๊ะหมู่บูชาที่นิยมใช้มี 3 ประเภทคือ โต๊ะหมู่ 5 หมู่ 7 และหมู่ 9 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่และขนาดของพิธีเลยค่ะ
  • เชิงเทียน 1 คู่
  • กระถางธูป 1 ใบ
  • เทียนสีเหลือง 2 เล่ม
  • เทียนต่อ 1 เล่ม
  • แจกัน 1 คู่
  • ธูป 3 ดอก
  • สายสิญจน์
  • อาสนะ 9 ที่ มี 2 แบบ พรมปูกับพื้น หรือ แบบสำเร็จรูปมีพนักพิง
  • ชุดทำน้ำมนต์ได้แก่ ขันน้ำมนต์ ที่พรมน้ำมนต์ เทียนสีขาวสำหรับทำน้ำมนต์
  • ที่กรวดน้ำ
  • แก้วน้ำ
  • กระโถน
  • พรมสำหรับบ่าวสาว
  • เสื่อปูให้แขกในงาน

3

อุปกรณ์เหล่านี้หาได้จากที่ไหน

เริ่มจากพระประธานก่อนนะคะ ในการอัญเชิญพระประธานมาใช้ในพิธี องค์พระมาจาก 2 กรณี คือพระพุทธรูปที่มีอยู่แล้วที่บ้าน ซึ่งจะเป็นบ้านของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวก็ได้ และอีกกรณีคือ ขอยืมจากวัดที่ไปขอยืมอุปกรณ์ในการประกอบพิธี หรือวัดที่สนิทสนมกัน (แต่ห้ามอุ้บอิ๊บนะคะ ใช้เสร็จแล้วต้องคืนล่ะ) ซึ่งการยืมจากวัดควรแจ้งล่างหน้าอย่างน้อย 1 เดือน (กันว่าอาจมีคนอื่นมายืมไปก่อนไงคะ)

สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ว่าที่บ่าวสาว สามารถหาได้จาก 3 ช่องทางดังนี้ค่ะ

ช่องที่ 1 วัด

แน่นอนว่าอุปกรณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับพระสงฆ์ ช่องทางแรกที่คุณควรนึกถึงก็คือ วัดไงคะ เพราะที่วัดมีอุปกรณ์ที่พระสงฆ์ต้องใช้ค่อนข้างครบ แต่อย่าลืมเข้าไปติดต่อขอยืมจากทางวัดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน จะได้รู้ว่ามีอะไรขาดไปบ้างเพื่อที่จะได้มีเวลาหาจากที่อื่นทัน ส่วนการขนส่งนั้น ถ้าเป็นกรณีนี้มักจะต้องขนเอง ก็อย่าลืมลิสต์รายการเช็คของด้วยนะคะ จะได้ยืมครบคืนครบ

ช่องทางที่ 2 ซัพพลายเออร์ หรือร้านเช่า

บ่าวสาวที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว แบบว่ามีบริการรับส่ง ก็ใช้บริการซัพพลายเออร์ที่เปิดกิจการให้เช่าอุปกรณ์ต่างๆในพิธีแต่งงานได้เลยคะ เพราะร้านเหล่านี้ทำเป็นอาชีพก็จะมีอุปกรณ์ให้ครบในราคาหลากหลาย โดยราคาเช่าส่วนใหญ่แบบอุปกรณ์ครบชุดอยู่ที่ประมาณ 5 พันบาทขึ้นไป หรือจะเช่าแยกชิ้นก็ได้เช่นกัน ส่วนราคาจะบวกค่าขนส่งด้วยไหมต้องสอบถามให้ดีๆ นะคะ

สำหรับบ่าวสาวที่ต้องการจะเช่าอุปกรณ์ แต่ไม่รู้ว่าจะเช่าร้านไหนดี เราหามาให้จำนวนหนึ่งลองเลือกตามความชอบกันเลยค่ะ

2

ช่องทางที่ 3 เวดดิ้งแพลนเนอร์

บ่าวสาวที่ใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์อยู่แล้วไม่ต้องห่วงเลยจ๊ะ เพราะทางทีมงานจะบริการจัดหามาให้คุณเรียบร้อยทุกอย่าง ชนิดที่ว่าคุณไม่ต้องเหนื่อยออกแรงอะไรเลยแต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์จัดงานก็ยังเช่าอุปกรณ์เวดดิ้งแพลนเนอร์ได้ค่ะ ลองโทรถามดูสิคะ เพราะนี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จบ ครบทุกอุปกรณ์ ในที่เดียว

ขอปิดท้ายด้วยเรื่องของค่าบริการค่ะ ราคาค่าเช่าและค่าขนส่งขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้บริการจากทางใด ถ้าเช่ายืมจากร้านการขนส่งก็ต้องเจรจากับร้าน ซึ่งอาจคิดตามระยะทางและแรงงานคนที่ขนของมาส่งและจัดให้ แต่ถ้าเรายืมอุปกรณ์จากทางวัด ก็ต้องจัดหารถไปขนอุปกรณ์ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องมีค่าขนส่งให้กับคนขับรถ และต้องไม่ลืมเตรียมซองถวายให้กับทางวัด เพื่อเป็นปัจจัยหรือเป็นการทำบุญไปในตัว

เป็นไงกันบ้างคะ กับอุปกรณ์ที่เรารวบรวมมาให้ ครบครันแบบที่ว่าไม่ขาดตกบกพร่องกันเลยใช่ไหมล่ะ แถมยังมีร้านเช่าให้เลือกกันตามความชอบอีกด้วย ยังไงแล้วบ่าวสาวที่กำลังจะจัดงาน ก็อย่าลืมนำแนวทางดีๆ ที่เรานำมาฝากวันนี้ไปใช้ดูนะคะรับรองว่าเป๊ะแน่นอนคะ

เมื่อรู้แล้วว่าต้องเตรียมอะไร ก็ไปศึกษาลำดับขั้นตอนในพิธีสงฆ์กันต่อเลย >>>  ลำดับพิธีสงฆ์ในงานแต่งแบบไทย จัดมาให้แบบเป๊ะทุกขั้นตอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : Jr.Glam โทร. 08-1680-6745

วิธีง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะช่วยสร้างงานแต่งงานเล็กๆ ในฝันให้ได้ดั่งใจบ่าวสาว

อยากจัด งานแต่งงานเล็กๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี มาดูทริคดีๆ ที่เรานำมาฝากกัน

แน่นอนว่าบ่าวสาวแต่ละคู่ก็มีงานแต่งงานในฝันเป็นของคู่ตัวเองกันทั้งนั้น บางคู่ก็อยากจะจัดงานให้ใหญ่โต บางคู่ก็อาจจะมีธีมงานสุดแนว หรือบางคู่ก็แค่อยากจัด งานแต่งงานเล็กๆ เป็นกันเองภายในครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการงานแต่งงานเล็กๆ ที่ว่านี้ยังไงดี จะต้องเริ่มต้นจากอะไร และต้องคุยกับผู้ใหญ่ให้เข้าใจได้อย่างไรบ้าง มาค่ะ แพรว wedding มีทริคดีๆ มาบอกต่อ

อย่าเพิ่งรีบ ใจเย็นๆ ก่อน

หลายคนพอรู้ตัวว่าจะแต่งงานก็รีบเอามากๆ วิ่งหานักจัดงานแต่งงานเป็นว่าเล่น ยิ่งหาก็ยิ่งไม่ใช่ ยิ่งไปเจอ ยิ่งคุยก็ยิ่งงง เวลายุ่งๆ หลายคนคิดว่านักจัดงานแต่งงานคือทางออก แต่บางครั้งกลับไม่ใช่ เพราะทางออกใหม่ที่ว่าอาจเป็นการสร้างปัญหาให้หนักใจมากขึ้น จากงบน้อยๆ อาจกลายเป็นงบมาก ฉะนั้น อย่าลืมนึกในใจไว้เสมอว่า ไม่มีใครรู้สิ่งที่เราต้องการได้ดีเท่าตัวเราเอง เริ่มต้นจากตัวเองก่อน หาสิ่งที่เราต้องการให้เจอ แล้วคนอื่นๆ ที่มาร่วมช่วยงานก็จะทำงานได้ง่ายและตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย

จับมือกัน ร่วมทำงานเล็กๆ นี้ให้ดีที่สุด

งานแต่งงานไม่ใช่ภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และยิ่งไม่ใช่งานที่จัดขึ้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นงานของ “เรา” ต่างหาก หลายคนมองว่าการจัดงานเป็น “งานงอก” หรืองานที่เพิ่มขึ้นมาให้รับผิดชอบโดยไม่ทันตั้งตัว เลยชวนให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้น แต่เรามักลืมไปว่างานแต่งก็เป็นงานอย่างหนึ่งเหมือนกัน และเป็นงานกลุ่มที่ทำให้เราได้ศึกษาเพื่อนร่วมทีม ได้พบเจอปัญหาและแก้ไขไปด้วยกัน เป็นบททดสอบหนึ่งของชีวิตคู่ ถ้าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องเล่นเกมนี้คนเดียว คิดคนเดียว ทำคนเดียว คงเหงาน่าดู ว่าไหม

งานแต่งงานเล็กๆ

ธีมไม่ใช่ข้อจำกัด

อยากได้ธีมสีฟ้า สีมชมพู ธีมทะเล ธีมญี่ปุ่น ธีมวินเทจ ธีมเจ้าหญิง ฯลฯ คำว่า “ธีม” ทำให้คนทั่วไปเห็นภาพงานแต่งงานของเราง่ายขึ้นก็จริง แต่บางครั้งคำว่าธีมกลับเป็นข้อจำกัดที่ทำให้งานของเราคล้ายๆ กันกับของคนอื่น และขาดสิ่งที่เป็นตัวตนของเราไป ดังนั้นก่อนเริ่มจัดงาน อย่าเพิ่งรีบสรุปว่าเราจะจัดธีมอะไร แต่ให้หาภาพที่เราชอบเยอะๆ อาจจะเป็นภาพวิว ภาพบ้าน ภาพสถานที่ท่องเที่ยว หรือจะจดเป็นการระดมไอเดียก่อนก็ได้ และคิดไว้เสมอว่า ธีมไม่ใช่ข้อห้ามหรือข้อจำกัด แต่เป็นการตีกรอบความคิดกว้างๆ ไม่ให้เราออกนอกเส้นทางเกินไปต่างหาก

ถามใจดีๆ สิ่งนี้มีไปทำไม

พอข่าวการแต่งงานของเราเริ่มขยายวงกว้างทั้งในหมู่เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง ก็จะเป็นช่วงที่ผู้หวังดีและผู้มีประสบการณ์เริ่มแสดงตัว นอกจากนี้ยังมีสื่ออื่นๆ อย่าง นิตยสาร เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก งานเวดดิ้งแฟร์ หรือกูรูด้านงานแต่งงาน ที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวเก่าๆ และให้คำแนะนำเราต่างๆ นานา จนทำเอาหลายคนตั้งตัวไม่อยู่ ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ตั้งสติไว้ การหาข้อมูลและเห็นตัวอย่างงานของคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่เคยมีมาจะเหมาะกับตัวเรา เวลารับข้อมูล เห็นภาพงานที่เราชอบ เห็นตัวอย่างงานที่คนอื่นบอกว่าดี หรือได้คำแนะนำต่างๆ มา อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ถามตัวเองก่อนว่า มันใช่ตัวเราไหม หรือ เราจะมีสิ่งนี้ไปทำไมกัน หาที่มาที่ไปของสิ่งที่เราอยากจะมีในงาน แล้วทุกอย่างที่เราเลือกจะเป็นสไตล์ของเราเองอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยล่ะ

เช็กลิสต์พิธีเช้างานไทยสิ่งไหนต้องมี ควรมี และไม่จำเป็นต้องมี

พิธีเช้า จะหมดความยุ่งยาก หากว่าที่บ่าวสาวมีเช็กลิสต์นี้ไว้

กว่าจะมาเป็นงานแต่งสักงานต้องพร้อมด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง โดยเฉพาะ พิธีเช้า อย่างงานไทยที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะจนหลายคนอาการกลัวๆ เกร็ง แพรว wedding จึงขอรวบรวมสิ่งสำคัญที่ต้องมี ควรมี หรือไม่จำเป็นต้องมี มาให้ว่าที่บ่าวสาวได้อุ่นใจ รับรองว่ามีเช็กลิสต์นี้ไว้ไม่พลาดแน่นอน

บุคคลสำคัญ

  • คู่บ่าวสาว
    ระดับความสำคัญ
    สำคัญสุดในงาน คงไม่ต้องบอกนะคะว่าต้องมี ควรมี หรือจำเป็นต้องมี!
    แทนด้วย
    ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้เด้อ ^^
  • คุณพ่อคุณแม่บ่าวสาว
    ระดับความสำคัญ ต้องมี ไม่อย่างนั้นใครจะสู่ขอ – ยกลูกสาวให้ รวมทั้งรดน้ำอวยพร ไปจนถึงส่งตัวเข้าหอด้วยนะ
    แทนด้วย ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่อยู่แล้ว อีกท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่คนเดียวได้ หรือขอให้ญาติผู้ใหญ่ที่สนิทมาทำหน้าที่แทน
  • เถ้าแก่หรือประธานในพิธี
    ระดับความสำคัญ
    ต้องมี เพราะท่านคือผู้นำในการทำพิธีต่างๆ
    แทนด้วย ข้อนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะมีหลายออปชั่น ไม่ว่าจะเชิญผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือญาติผู้ใหญ่มาทำหน้าที่นี้ก็ได้

พิธีเช้า

  • พระสงฆ์
    ระดับความสำคัญ
    ควรมี เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่
    แทนด้วย ถ้าไม่สะดวกนิมนต์พระมาทำพิธีอาจพากันไปตักบาตรเช้าที่วัดใกล้สถานที่จัดงานแทน
  • คู่สมรสตัวอย่าง (ครองคู่อย่างมีความสุข มีลูกหลานดี)
    ระดับความสำคัญ 
    ควรมี เพื่อทำพิธีปูเตียงเรียงหมอน (ส่งตัวเข้าหอ)
    แทนด้วย นิยมเชิญผู้ใหญ่ที่เคารพมากกว่าญาติสนิท หากคู่ที่หมายตาไม่ว่าง อาจเชิญเจ้านายหรือเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีคุณสมบัติดังกล่าวแทน
  • ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
    ระดับความสำคัญ
    ควรมี เพื่อร่วมทำพิธีรดน้ำ พิธีไหว้ผู้ใหญ่
    แทนด้วย ถ้าไม่มีญาติที่ไหนเลย อาจเชิญเจ้านายหรือผู้ใหญ่ที่ทำงานแทน
  • เพื่อนเข้าบ่าว – เจ้าสาว
    ระดับความสำคัญ
    ควรมี เพื่อคอยช่วยงานบางอย่าง เช่น เติมน้ำสังข์ ถือพาน เฝ้าโต๊ะลงทะเบียน เป็นต้น
    แทนด้วย ถ้าไม่มีเพื่อนจริงๆ (เศร้าไปนะ…) น้องๆ ที่ทำงานช่วยคุณได้ เสร็จงานก็อย่าลืมพาน้องๆ ไปเลี้ยงตอบแทนด้วยนะจ๊ะ
  • แขกเหรื่อ
    ระดับความสำคัญ
    มีหรือไม่มีก็ได้
    แทนด้วย บางคู่อาจจัดงานไทยภายในครอบครัวจึงไม่ได้เชิญแขกทั่วไป หรือบางคู่อาจเชิญเฉพาะที่สนิทจริงๆ หรือบางคู่จัดพิธีไทยแล้วเลี้ยงกลางวันต่อเลย ก็อาจเชิญแขกมาในคราวเดียวกันไปเลย

9 ทรงผมเจ้าสาวพร้อมไอเดียเครื่องประดับอัพลุคเจ้าสาวให้สวยหรูดูแพง

อีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าสาวหลายคนตัดสินเลือกยากพอๆ กับชุดแต่งงานคือ ทรงผมเจ้าสาว เพราะนอกจากจะต้องเลือกให้สวยแล้ว ทรงผมทรงนั้นจะต้องเข้ากับเจ้าสาวและเข้ากับชุดแต่งงานด้วย แต่เดี๋ยว! ยังไม่พอ…เมื่อเลือกทรงผมได้แล้ว บางคนยังต้องเลือกเครื่องประดับที่จะมาประดับผมอีก แพรว wedding เลยมี 9 ทรงผมเจ้าสาวสวยๆ และ 9 เครื่องประดับที่รับรองว่าเข้ากับชุดแต่งงานที่เจ้าสาวเลือกแน่นอนจ้า

BOW

สำหรับเจ้าสาววัยรุ่นออกแนวน่ารักสวยหวาน ไม่มีอะไรที่จะเหมาะไปกว่าทรงผมประดับโบอีกแล้ว เพราะนอกจากจะดูเป็นหญิงสาวผู้อ่อนโยนแล้ว ยังดูทันสมัยไปด้วยในตัว

TIARA 

สาวๆ ที่มีความใฝ่ฝันในวัยเด็กว่าอยากเป็นเจ้าหญิงจัดไปโลดค่ะ กับทรงผมประดับเทียร่าสุดหรู แต่ขอแนะนำให้เลือกเทียร่าดีไซน์เก๋ๆ ไม่ต้องใหญ่มากนะคะ เอาแค่พอสวยกรุบๆ ก็พอ เพราะถ้าใหญ่เกินไปจากเจ้าสาวอาจจะดูเป็นนางเอกลิเกเอาได้

HEADBAND

สำหรับเจ้าสาวที่อยากหาเครื่องประดับศีรษะสักอัน แต่เทียร่าก็ดูใหญ่ไปไม่ตอบโจทย์ ลองหาเป็นที่คาดศีรษะดีไซน์เก๋วิบวับๆ สักชิ้น ก็ช่วยให้ลุคของเจ้าสาดูหรูขึ้น และดูไม่เยอะเกินไปอีกด้วย แถมยังเหมาะกับเจ้าสาวผมสั้นสุดๆ

HALO

เจ้าสาวที่อยากเติมความโบฮีเมียนจัดไป กับ Halo หรือมงกุฎทรงกลม ที่สามารถสวมลงไปบนศีรษะได้เลยคล้ายการสวมมงกุฎดอกไม้ แค่ปล่อยผมดัดลอนหลวมๆ แล้วสวม Halo ก็สวยพร้อมเดินเข้างานแล้วจ้า

BARRETTE

กิ๊บติดผม ไอเท็มสุดฮิตในช่วงนี้ก็ติดโผเครื่องประดับศีระษะของเจ้าสาวเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่ว่าจะกิ๊บเล็ก กิ๊บใหญ่ ติดแล้วก็ให้ลุคย้อนวัยสไตล์ 90s ถ้าติดแค่กิ๊บอย่างเดียวแล้วกลัวโล่งก็จัดเวลสักผืนมาเสริมเท่านี้ก็สวยแบบน้อยแต่มากของจริง

PEARLS

เจ้าสาวที่อยากได้ความคลาสสิค สวยหรู ดูดีแบบนิ่งๆ แนะนำให้เลือกเครื่องประดับสไตล์ไข่มุก เพราะเป็นเครื่องประดับที่ร่วมสมัยฆ่าไม่ตาย แถมยังเข้ากับชุดแต่งงานสีขาวของเจ้าสาวสุดๆ

HAIR PIN 

สำหรับเจ้าสาวที่เลือกทรงผมสไตล์ bun ไม่ว่าจะมวยผมต่ำหรือมวยผมสูง แนะนำให้ประดับผมด้วยปิ่นปักผมชิ้นงามสัก 2-3 ชิ้น ก็ช่วยให้ทรงผมมวยธรรมดาๆ ของเจ้าสาวดูดีได้แล้ว

HAIR VINE

ถ้าผมเปีย คือทรงผมในวันแต่งงานของเจ้าสาว แนะนำให้ประดับด้วย hair vine เครื่องประดับที่ให้ลุคอ่อนหวานเข้าเกลียวผมเปียที่สุดแล้ว

COMB

หวีสับประดับดอกไม้ ไอเท็มคลาสสิคฆ่าไม่ตายที่อยู่คู่กับเจ้าสาวมาทุกยุคทุกสมัย เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกล้าผมแบบมวยต่ำ ถ้าคิดอะไรไม่ออกบอกเลยว่าเครื่องประดับชิ้นนี้พร้อมที่จะอัพลุคให้เจ้าสาวได้ดีทีเดียว

ดูไอเดียเกี่ยวกับเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย >> https://praewwedding.com/dresses-and-suits/bride

Cr. stylemepretty.com

4 ทริคเติมความสนุกให้แขกด้วยเทคโนโลยีในงานแต่งงาน

อย่าปล่อยให้งานแต่งงานแห้งแล้งด้วยอะไรแบบเดิมๆ มาเติมความก้าวล้ำนำสมัยด้วยเทคโนโลยีสุดเจ๋งในงานแต่งงาน ของคุณกันดีกว่า รับรองว่า ไอเดียงานแต่งงาน นี้แขกไม่ต้องยืนเหงาๆ รองานเริ่มอีกแล้ว

โฟโต้ สเตชั่น 

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าในงานแต่งงานหลายๆ งานมักจะมีซุ้มถ่ายรูปที่เมื่อถ่ายปุ๊บก็ปริ้นภาพออกมาได้ปั๊ป หรือบางงานก็สามารถแต่งภาพเพิ่มเติมได้อีก และถ้าจะให้ล้ำกว่านี้บางงานถึงขั้นสามารถลิงค์ผ่านโซเชียลมีเดียได้เลยก็มี แล้วอย่าลืมแจก #แฮชแท็ก ด้วยนะจ๊ะ รับรองว่าบ่าวสาวจะได้รูปเจ๋งๆ จากแขกที่มาร่วมงานมากมายแบบที่คาดไม่ถึงแน่นอน

ภาพถ่ายแบบ 360 องศา

การถ่ายภาพลักษณะนี้เป็นที่นิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นลักษณะภาพถ่ายที่สามารถเก็บภาพบรรยากาศภายในงานได้แบบครบทุกมุมไม่ตกหล่น ก้าวล้ำนำสมัยขนาดนี้แล้วจะพลาดไม่มีในงานแต่งงานได้ยังไง จริงไหม เพราะฉะนั้นลองปรึกษากับช่างภาพของคุณดูว่า ขอเพิ่มภาพแบบ 360 องศาในงานแต่งงานของคุณได้หรือไม่ หากช่างภาพเซย์เยสว่าทำให้ได้ชัวร์ รับรองว่าบ่าวสาวจะได้ภาพงานแต่งสุดประทับใจแบบครบทุกองศาแน่นอน

งานแต่งงาน

จุดชาร์ตแบตเตอรี

แน่นอนว่าเมื่อแขกได้รับเชิญไปงาน สิ่งแรกที่หลายคนจะทำคือถ่ายรูปแล้วอัพลงโซเชียลมีเดียทันที แถมบางคนไม่ได้อัพแค่ภาพสองภาพแล้วจากไป แต่อัพตลอดช่วงเวลาของพิธีการเลยด้วย เรียกได้ว่าทั้งภาพถ่ายทั้งคลิปมาครบจบในคนเดียว ทำเอาแขกบางคนแบตเตอรีอ่อนระโหยโรยแรงจะหมดมิหมดแหล่ก่อนงานจะเริ่ม หรือแขกบางคนอาจจะมีธุระที่อื่นก่อนที่จะมาถึงงานของบ่าวสาว เมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าแบตเตอรีโทรศัพท์อ่อนแรงเต็มทนเนื่องจากผ่านการใช้งานยาวนานมาตลอดวัน แถมยังลืมพกที่ชาร์ตสำรองมาอีก ยังไม่จบแค่นั้นนะจ๊ะสาวๆ บางคนที่ถือกระเป๋ามางานใบเล็กนิดเดียวก็ดันใส่ที่ชาร์ตแบตสำรองมาไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นเพื่อให้แขกของบ่าวสาวอยู่ในงานได้อย่างสบายใจไร้กังวล อาจจะจัดสักหนึ่งจุดไว้เป็นสเตชั่นสำหรับชาร์ตแบตเตอรีรับรองงานนี้แขกต้องปลื้ม

ภาพสตรีมมิ่งจาก #แฮชแท็ก งานแต่ง

#แฮชแท็ก ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของว่าที่บ่าวสาวที่ต้องคิดไว้สำหรับวันแต่งงาน แถม #แฮชแท็ก นี้ นอกจากจะเป็นที่รวบรวมภาพถ่ายของบ่าวสาวหรือภาพของแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันงานแล้ว ยังสามารถทำอะไรสนุกๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น การฉายภาพจาก #แฮชแท็ก งานแต่งของคุณแบบเรียลไทม์ผ่านจอในงาน หรือจะฉายลงบนกำแพงสีขาวก็ได้ เพื่อให้แขกได้รู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมกับงานแต่งของบ่าวสาว รับรองว่างานนี้แขกจะต้องสนุกสนานและอมยิ้มที่ได้เห็นภาพตัวเองอยู่บนจอแน่นอน แถมงานนี้บ่าวสาวอาจจะได้ภาพถ่ายสุดฮาเก็บไว้ดูเล่นจาก #แฮชแท็ก งานแต่งที่ตั้งไว้อีกด้วย

มีเทคโนโลยีในงานแต่งงานแล้ว ก็อย่าลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่งกันด้วยนะจ๊ะกับ >> 10 ไอเดียใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่งงาน

ภาพ www.usatoday.com, prettyweddingplans.com, www.pinterest.com

เสริมดวงความรัก ด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ย พร้อมธีมงานสุดปังและดวงรักพุ่ง

เสริมดวงความรัก ให้ปังตั้งแต่ธีมงานแต่ง ไปจนถึงเรือนหอกันเลย

ใครๆ ก็อยากเฮงกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคู่รักที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แพรว wedding เลยนำเคล็ด (ไม่) ลับในการ เสริมดวงความรัก สำหรับว่าที่บ่าวสาวมาฝาก แถมงานนี้เสริมกันตั้งแต่วันแต่งงานไปจนถึงเรือนหอหลังงามเลยทีเดียว 

ธีมสีงานแต่งสุดเฮง
ธีมสีในงานแต่งควรเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับการก่อกำเนิดและชีวิตคู่

  • สีเขียวทั้งอ่อนและแก่ เป็นสีของธาตุไม้ซึ่งเป็นธาตุแห่งการก่อกำเนิด
  • สีฟ้าและน้ำเงินทุกเฉด เป็นสีของธาตุน้ำซึ่งหมายถึงความสุขความเจริญและร่มเย็น
  • สีขาวครีม เช่น สีไข่มุกหรือสีงาช้างที่ไม่ใช่ขาวล้วน เป็นสีของธาตุทอง สื่อถึงความรักที่เต็มไปด้วยความมั่นคงแข็งแรง
  • สีแดง เป็นสีของธาตุไฟ สื่อถึงความรักที่ร้อนแรง การหลอมรวมของ 2 สายเลือด และการมีบุตร

สัญลักษณ์มงคลที่ควรมีในงานแต่ง

เสริมดวงความรัก

สัญลักษณ์มงคลของงานแต่งมักทำเป็นคู่อย่าง เป็ดแมนดารินคู่ ภาษาจีนเรียกอวงเอีย สื่อถึงความรักเดียวใจเดียวตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องเป็นสไตล์จีน จะเป็นสไตล์ฝรั่งอย่างของสวารอฟสกี้ก็ได้เหมือนกันแ

และอีกอย่างที่อยากแนะนำให้มีคือ ดอกไม้ ในงานแต่งงาน โดยเฉพาะ ดอกกุหลาบ สีใดก็ได้ เพราะเป็นตัวแทนของความรัก ดอกคาร์เนชั่น สื่อถึงความรักที่มีการขยายออก มีครอบครัว บุตร และบริวารที่มีความสุข และ ดอกลิลลี่ หมายถึงเจ้าสาวที่น่าทะนุถนอม

นอกจากนี้ควรมี การจุดเทียน เพราะไฟเป็นตัวแทนในการสลายความชั่วร้ายในทุกอารยธรรม การจุดเทียนจึงส่งผลให้ชีวิตคู่สุขใส สว่าง ปราศจากความไม่ดี และควรมี การชนแก้ว เพราะการชนแก้วให้ดังกริ๊งคือความสุขกายสบายใจ

ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คืออยากให้มี การอวยพร ในความเชื่อของชาวจีนหากมีคนทั้ง 12 นักษัตรมาอวยพรจะช่วยสลายสิ่งชั่วร้ายให้บ่าวสาวได้ ซึ่งในงานก็ต้องมีแขกครบทุกนักษัตรอยู่แล้ว ซึ่งงานแต่งงานเป็นพลังชี่ที่ดี เพราะความสุขของหนุ่มสาวมีพลังที่ช่วยสลายสิ่งไม่ดีทั้งปวง

เรือนหอรอรัก…นิรันดร์

ทิศที่ดีจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี แต่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือถือเป็นทิศแม่ซึ่งสื่อถึงเจ้าสาว ควรตกแต่งทิศนี้ด้วยของแต่งบ้านสีส้ม อิฐ เหลือง แดง ชมพู และอย่าให้มีของมีคม ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นทิศพ่อสื่อถึงเจ้าบ่าว ควรตกแต่งด้วยสีโทนฟ้า น้ำเงิน ขาว ครีม ทอง ซึ่งการติดภาพแต่งงานไว้ทิศใดทิศหนึ่งใน 2 ทิศนี้ จะช่วยส่งให้ชีวิตคู่ยืนยาวและมีความสุข

และสุดท้ายขอแถมให้แก๊งสาวโสดหนุ่มโสดที่ยังไม่มีคู่ ให้หาปลาทอง 8 ตัว มาวางไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของห้องนอน จะเป็นภาพ เซรามิค หรือคริสตัลก็ได้ (แต่อย่าใช้ปลาจริงนะจ๊ะ เพราะเกิดตัวไหนไปไม่รอด เหลือไม่ครบแปดล่ะแย่เลย) จะส่งผลให้คุณมีความรักเข้ามา

สุดท้ายท้ายสุดโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ^^

อ่านเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ unsplash.com, www.pinterest.com