10 คำถามที่บ่าวสาวต้องถามวงดนตรีงานแต่งก่อนตกลงจ้าง

เช็กให้ดี 10 คำถามนี้ต้องถาม วงดนตรีงานแต่ง ให้รู้เรื่อง!

เสียงเพลง คืออีกหนึ่งสีสันที่ช่วยทำให้งานแต่งงานมีบรรยากาศ บางคู่อาจจะเลือกเปิดด้วยซีดีเพราะสะดวกต่อการควบคุม แต่สำหรับคู่บ่าวสาวบางคู่ที่ต้องการให้เสียงเพลงนั้นแลดูจับต้องได้ การจ้าง วงดนตรีงานแต่ง จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากที่สุด อ๊ะๆ…แต่ไม่ใช่ว่าพอเจอวงปุ๊ปก็จ้างปั๊ปนะ เพราะก่อนจะตัดสินใจวางมัดจำหรือจ้างงานนั้น แพรว wedding อยากให้ว่าที่บ่าวสาวสอบถามกับวงดนตรีให้ชัดเจนกับทั้ง 10 ข้อนี้ที่เรานำมามาฝาก

1. สไตล์โดดเด่นของวงดนตรีและแนวเพลงที่ถนัด

เพื่อให้เพลงและงานออกมาในทิศทางเดียวกัน

2. วงดนตรีสามารถเล่นเพลงที่บ่าวสาวขอ หรือเพลงป๊อปทั่วไปได้หรือไม่

หากบ่าวสาวมีเพลงประทับใจที่อยากให้วงดนตรีเล่นในวันสำคัญ ให้แจ้งกับวงล่วงหน้าเพื่อนักดนตรีจะได้ไปฝึกซ้อม ที่สำคัญถามด้วยว่า ขอพิเศษแบบนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่ นอกจากนี้หากทางวงสามารถเล่นเพลงป๊อปทั่วไปได้ด้วยถือว่าน่าสนใจ เผื่อมีแขกในงานรีเควสต์ก็จะช่วยสร้างอารมณ์ร่วมได้ดี

3. ตกลงเรื่องพื้นที่การแสดงของวงดนตรี และเช็กว่ามีเครื่องขยายเสียงมาด้วยหรือไม่

ที่ตั้งของวงดนตรีภายในงาน ส่งผลต่อเรื่องของเสียงเพลงที่จะดังก้องไปทั่วงาน เพราะฉะนั้นต้องปรึกษากับวงดนตรีว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสมที่สุด และอย่าลืม!! สอบถามเรื่องเครื่องขยายเสียงว่าทางวงจะเป็นคนเตรียมมาหรือจะยกหน้าที่นี้ให้บ่าวสาวจัดการ

4. มีนักดนตรีทั้งหมดกี่คน และมีนักร้องหรือไม่? กี่คน?

เพื่อจะได้จัดสรรพื้นที่ในงานให้วงดนตรีได้ถูก หากมีนักร้องด้วยควรสอบถามเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพิ่มให้ชัดเจน เช่น ไมโครโฟนต้องใช้กี่ตัว ใครเป็นฝ่ายเตรียม

5. วงดนตรีต้องการแสงหรือสเปเชียลเอฟเฟกต์อื่นๆ ขณะเล่นหรือไม่

นอกจากเสียงเพลงที่จะสร้างสีสันในงานแต่งงานแล้ว แสงสีและสเปเชียลเอฟเฟกต์ เช่น ฟ็อกกี้ ก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกได้ไม่น้อย ถ้าจะมีต้องนัดแนะคิวให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดในนาทีสำคัญ

วงดนตรีงานแต่ง

6. บุคคลที่จะมาเซตอัพอุปกรณ์ก่อนงานเริ่ม

ในวันงานควรมีคนในวงดนตรีมาเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนแขกจะมาถึง บ่าวสาวจึงควรสอบถามชื่อและเบอร์ติดต่อไว้ เผื่อผู้ดูแลสถานที่จะได้ประสานงานได้สะดวก

7. ในแพ็คเกจสามารถเล่นได้กี่ชั่วโมง

วงดนตรีบางวงอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาการเล่น หรือใน 1 วันอาจรับงาน 2-3 คิว จึงควรตกลงเวลากันให้ดี นอกจากนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าจะพักช่วงไหนและกี่นาที หรือหากงานล่าช้าเกินจากเวลาที่ตกลงกันไว้ จะสามารถอยู่ต่อให้ได้หรือไม่ และจะคิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และขอแนะนำให้จัดอาหารให้นักดนตรีด้วยจะได้มีแรงเล่นจนจบงาน

8. นักดนตรีจะใส่ชุดอะไรมาร่วมงาน

ถ้าหากคุณเชิญวงดนตรีระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่หากต้องการให้นักดนตรีแต่งการเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับธีมงานของคุณก็ต้องแจ้งล่วงหน้า เช่น ชุดทักซิโด หรือชุดตามธีมสี

9. ถ้าเกิดต้องเลื่อนหรือยกเลิกงาน จะมีการดำเนินการอย่างไร

หากเกิดเหตุขัดข้องต้องเปลี่ยนวันหรือขอยกเลิกการจ้าง ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือไม่อย่างไร

10. ประสบการณ์การเล่นดนตรีในงานแต่งงาน

เพราะวงดนตรีที่มีประสบการณ์เล่นในงานแต่งจะมีความเชี่ยวชาญ และมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว จึงแนะนำให้บ่าวสาวลองสืบดูจากการเขียนรีวิวในอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากบ่าวสาวที่เคยใช้บริการดูก่อนเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ

แถมให้อีกนิดกับ คำแนะนำการเลือกวงดนตรีในงานแต่งจากกูรู…เลือกอย่างไรให้ปัง

ภาพ julesbridaljewellery.wordpress.com, www.sararogers-photography.com

ไอเดียสำหรับเจ้าสาว โดดเด่นและมีสไตล์เหมาะกับฐานะนางเอกของงาน

เป็นนางเอกของงานทั้งที ไอเดียสำหรับเจ้าสาว ก็ต้องเริดให้สมฐานะสิคะ

ในวันสำคัญของชีวิตอย่างวันแต่งงาน ไม่ว่าจะทำอะไร ว่าที่เจ้าสาวมักจะเต็มที่และจัดเต็มกันมากๆ โดยเฉพาะลุคเสื้อผ้าหน้าผมที่อาจจะให้ความสำคัญเยอะหน่อย แพรว wedding เลยมาแนะนำ ไอเดียสำหรับเจ้าสาว เด็ดๆ ที่จะช่วยทำให้ลุคของว่าที่เจ้าสาวดูโดดเด่นขึ้นอย่างไม่ยาก

ไอเดียเจ้าสาว

ผมทรง topknot นั้นอินเทรนด์ตลอดกาลและช่วยให้ลุคเจ้าสาวดูเพอร์เฟกต์ แถมยังทำให้ช่วงคอดูระหงพร้อมกับได้อวดความหรูหราของชุดแต่งงานไปในตัว

ใส่รองเท้าแบบส้นเตารีด (Wedge Shoe) ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ จะได้เดินอย่างคล่องตัวไม่ต้องกลัวส้นรองเท้าปักดิน หรือสะดุดหกล้ม

หากจัดงานแต่งงานริมทะเลแล้วเจ้าสาวคิดจะปล่อยผมเพื่อให้สยายไปตามแรงลม…ขอบอกว่าคิดผิด!! เพราะเส้นผมที่พลิ้วไหวนั้นจะปลิวไปคนละทิศละทาง จากนางเอกของงานอาจกลายเป็นปศาจแห่งท้องทะเล แนะนำให้เกล้าผมหลวมๆ แล้วปล่อยปอยผมให้ล้อกับแรงลมสักเล็กน้อยก็พอแล้ว

แอคเซสซอรี่สำหรับเจ้าสาวผมสั้น ลองหาที่คาดผมสวยๆ เฮดพีชเก๋ๆ กิ๊บดีไซน์เริด เทียร่าหรูหรา หรือจะเลือกใส่เวลไปเลยก็ได้ เท่านี้ก็สวยไม่แพ้เจ้าสาวผมยาวแล้ว

“สนุกให้สุดเหวี่ยงในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเจ้าบ่าวจะหาตัวไม่เจอ ด้วยที่คาดผม DIY ที่มีตัวอักษรกลิตเตอร์คำว่า Bride ใหญ่เบ้อเริ่มอยู่บนศีรษะ”

สวยแบบไม่ทิ้งแก๊งเพื่อนสุดเลิฟ ด้วยการหาเครื่องประดับสักชิ้นที่มีสีแมตช์กับทีมเพื่อนเจ้าสาวและธีมสีของงาน เมื่อถ่ายภาพออกมาจะได้สวยแบบเข้ากั๊นเข้ากันยกแก๊ง

ถุงมือสำหรับเจ้าสาวก็เป็นไอเท็มที่ช่วยเสริมลุคให้ดูหรูหราขึ้นได้เหมือนกันนะ โดยจะเลือกแบบสั้น แบบยาว หรือแบบลูกไม้ ก็ให้ดูจากสไตล์ของชุดแต่งงาน และให้เหมาะสมกับสถานที่ก็พอ

เลือกเวลที่ใช่ในสไตล์คุณ

ไอเดียเจ้าสาว

Pouf Veil ทำจากผ้าโปร่งซ้อนกันเป็นชั้นติดไว้ด้านหลังศีรษะ ให้ลุคโมเดิร์นและขี้เล่น

Cage Veil ผ้าคลุมหน้าตาข่ายแบบสั้นสุดเก๋ เข้ากันได้ดีกับชุดแต่งงานเกือบทุกสไตล์ และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเจ้าสาวผมสั้น

Dropped Veil ผ้าคลุมหน้าแบบทิ้งชาย สามารถใส่คลุมทับเครื่องประดับผมได้

Mantilla Veil ผ้าคลุมหน้าแบบยาวลงมาจนถึงบริเวณหัวเข่า ตัวผ้ามักไม่มีลูกไม้ เหมาะกับชุดแต่งงานที่ค่อนข้างเรียบร้อยและเจ้าสาวสไตล์หวาน

แต่สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้เวลมาถ่ายรูปเก๋ๆ แต่ไม่อยากซื้อในราคาสูง ลองหาผ้าโปร่งบางพลิ้วไหวสักผืนมาตกแต่งด้วยลูกไม้ กิ๊บเพชร เทียร่า หรือมงกุฎดอกไม้ เท่านี้ก็ได้ลุคสวยหรูดูแพงแล้ว หรือจะเพิ่มความเก๋ให้กับเวลด้วยการปักตัวอักษรย่อของบ่าวสาวเอาไว้ที่ส่วนปลายก็ได้ หรือจะเลือกเป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่แทนใจคุณสองคนก็ได้เหมือนกันนะ

หากเจ้าสาวสวมเวลในงานแต่งริมทะเลหรืองานแบบเอ้าท์ดอร์ที่ลมค่อนข้างแรง แนะนำให้หาแม่เหล็กสำหรับติดเวลเพื่อล็อกเวลกับผมไว้ให้อยู่ด้วยกันจนจบงาน

เลือกชุดแต่งงานแบบ 2 ชิ้นที่สามารถใส่ได้ทั้งในงานพิธีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เช่น ออกแบบให้กระโปรงมีลูกเล่นที่สามารถถอดแยกชิ้นได้ นอกจากจะเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแล้วยังประหยัดงบได้อีกด้วย

หากเจ้าสาวเลือกชุดแต่งงานทรงที-เล้นจ์ (Tea-Lenght) ซึ่งเป็นชุดที่เหมาะกับเจ้าสาวร่างบางระหง แนะนำให้เลือกความยาวแบบคลุมเข่า แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวร่างเล็กที่อยากใส่จริงๆ ล่ะก็ ควรให้ความยาวของกระโปรงอยู่สูงขึ้นมาจากข้อเท้าประมาณ 1 คืบ แล้วเลือกรองเท้าแบบเปิดหัวจะได้ดูไม่ตัน

โบ ริบบิ้น หรือแอคเซสซอนี่ที่ออกแบบให้ถอดแยกชิ้นกับชุดได้ ถือเป็นของเล่นชิ้นเด็ดสำหรับว่าที่เจ้าสาว

– หากเดรสสั้นยังขาดสีสัน อาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดโบไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังของชุด
– นำริบบิ้นมาผูกไว้กับรองเท้าดีไซน์เรียบ ก็ช่วยให้ดูมีดีเทลมากขึ้นแล้ว
– ใช้โบหรือริบบิ้นสร้างกิมมิกให้ชุดเพื่อนเจ้าสาว
– ใช้ริบบิ้นคาดประดับศีรษะ เพื่อเพิ่มความน่ารักสดใส

นอกจากทีมเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่แต่งตัวเหมือนกันแล้ว ลองให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายแต่งตัวเป็นเซตเดียวกันบ้างก็ดูสวยเป๊ะดีนะ

เตรียมโละชุดชั้นในเซตเก่า แล้วหาแบบสวยๆ เตรียมไว้สำหรับคือเข้าหอที่สุดแสนจะโรแมนติก เพื่อเป็นการเริ่มต้นคืนต่อๆ ไปที่จะได้อยู่ด้วยกัน

เตรียมรองเท้าผ้าใบไว้ปล่อยพลังในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้แบบไม่ต้องกลัวสะดุด

สุดท้ายว่าที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวไม่ควรมโนความสวยไปไกลสุดโต่งหรืออิงกระแสแฟชั่นมากเกินไป เพราะคุณควรจะดูเป็นตัวเองให้มากที่สุดในวันแต่งงาน แพรว wedding เชื่อว่าเจ้าบ่าวคงอยากเห็นผู้หญิงคนเดิมที่เขาเคยประทับใจในวันแรกที่เจอกัน ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่เหมือนหลุดมาจากในแมกกาซีน

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย >> https://praewwedding.com/dress-suites-library

ภาพ www.lunss.com, www.pinterest.com, unsplash.com

4 เรื่องต้องเคลียร์กันให้จบก่อนแล้วค่อยวางงบประมาณจัดงานแต่ง

งบประมาณจัดงานแต่ง เรื่องสำคัญที่ต้องเคลียร์ใจก่อนเริ่มต้นวางแผน

แพรว wedding ไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งการเตรียมจัดงานแต่งงานกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเรื่องเงินๆ ทองๆ ระหว่างคุณทั้งคู่เพียงเพราะความเข้าใจไม่ตรงกันหรือหาข้อสรุปไม่ลงตัวแล้วรีบร้อนจัดแจงเตรียมทุกสิ่ง ก็เลยสรุปมาให้ 4 เรื่องด้านล่างนี้ ว่าที่บ่าวสาวค่อยๆ อ่าน ทำความเข้าใจ แล้วหันหน้าหาข้อสรุปแล้วค่อยวาง งบประมาณจัดงานแต่ง งานก็ยังทันนะคะ

 

อะไรสำคัญมากที่สุดในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้

เสื้อผ้า? หน้าผม? สถานที่? อาหารและเครื่องดื่ม? หรือวงดนตรีสร้างความบันเทิง? ลองเรียงลำดับความสำคัญดูก่อนนะคะ คุณจะได้เกลี่ยงบประมาณที่มีไปยังหัวข้อต่างๆ อย่างลงตัวและตรงใจ โดยในการเรียงลำดับความสำคัญที่ว่านี้ อาจใช้วิธีแฟร์ๆ แบบว่าต่างคนต่างไปเรียงลำดับแล้วมาคุยกันเพื่อฟังเหตุผลและความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างเทใจให้ความสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเห็นความสำคัญเรื่องไหนเด่นๆ พอๆ กัน การใช้จ่ายเงินกองกลางสำหรับจัดงานแต่งงานก็ไร้ปัญหา แต่ถ้าคุณมองลำดับความสำคัญต่างกันไป จะได้เป็นช่องทางให้หาข้อสรุปที่ลงตัว ไม่มีตีกันเมื่อต้องควักเงินจ่ายให้เสียความรู้สึก

 งบประมาณจัดงานแต่ง

จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ในแต่ละหัวข้อการเตรียมงาน

นำงบประมาณก้อนโตนั้นมาย่อยสู่หัวข้อต่างๆ ในการเตรียมงานแต่ง โดยตั้งลิมิตงบประมาณเลยว่า ในแต่ละเรื่องจะใช้เงินสูงสุดไม่เกินเท่าไหร่ จะได้ไม่ต้องคอยโยกเงินจากก้อนนั้นมาโปะก้อนนี้เมื่อเวลาที่เผลอตามใจตัวเองจนราคาที่ต้องจ่ายเกินงบ ซึ่งองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องที่มองข้ามไม่ได้ในการตั้งลิมิตงบประมาณก็คือ คุณควรรู้ว่านอกจากคุณทั้งคู่จะช่วยกันจ่ายแล้ว มีใครที่ยินดีจะเป็นสปอนเซอร์ให้บ้าง และเป็นสปอนเซอร์ให้ในหัวข้อไหน เช่น พ่อแม่ของคุณบอกว่าจะช่วยจ่ายค่าโรงแรม ก็ควรเช็คให้แน่ว่าสถานที่ของงานเช้าหรือเย็น รวมถึงถ้าบ้านไหนหรือใครมีความสัมพันธ์พิเศษจะได้ส่วนลดใดๆ ก็ควรรู้ และเฟิร์มให้ชัวร์ว่าจะได้รับส่วนลดหรือไม่ เพื่อที่เวลาตั้งลิมิตการใช้งบจะได้ตั้งแบบเผื่อเหลือเผื่อขาด และเกลี่ยงบไปทุ่มที่หัวข้ออื่นๆ ได้อย่างสบายๆ

ถ้าเกินงบมาจะจ่ายได้ประมาณไหน

อย่าลืมคิดเผื่อๆ ไว้เลยค่ะว่า ถ้าเลี่ยงไม่ได้ว่าจะต้องจ่ายเกินงบที่ตั้งไว้แน่ๆ คุณจะจ่ายเกินไปได้สักแค่ไหน ซึ่งเหตุการณ์ที่เจอบ่อยๆ และบ่าวสาวบ่นมาทุกยุคก็คือ จำนวนแขกที่อยู่ๆ ก็งอกขึ้นมาจากบุพการีที่เพิ่งจะสรุปได้ว่าจำเป็นต้องเชิญมาให้ได้ ทำให้เกิดผลกระทบไปทั่ว ทั้งเรื่องขนาดสถานที่ที่ต้องขยับขยายปรับห้องจนต้องจ่ายเพิ่มแน่ๆ ต่อเนื่องยาวๆ ไปถึงปริมาณอาหารที่สั่งไว้ก็ต้องออเดอร์ใหม่ใส่ความเยอะลงไปอีก ซึ่งทั้งหมดที่เกินมา ถ้าบุพการีไม่ช่วยจ่าย และคุณเองต้องรับผิดชอบจะสามารถจ่ายเกินกันได้แค่ไหน เพราะอย่าลืมนะคะว่า อาการเกินงบ บางทีก็มาจากบ้านใดบ้านหนึ่ง ซึ่งแปลว่า อีกบ้านต้องโอเคด้วยนะจ้ะ

เข้าใจตรงกันว่าอะไรควรทุ่มทุนจ่าย

เคยได้ยินไหมคะว่างานแต่งงานในหลายๆ คู่ที่จัดซะใหญ่โตอลังการ อาจไม่ได้จัดขึ้นจากความต้องการของบ่าวสาว แต่ที่ต้องจัดเพราะทำเพื่อรักษาหน้าตาทางสังคมของครอบครัวเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงนะคะ และแพรว wedding ไม่อยากให้คุณเลี่ยงความจริงในข้อนี้ด้วย ดังนั้นก็ควรทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนเลยว่า เมื่อจำเป็นก็ต้องยอม แต่อะไรบ้างล่ะที่ต้องจ่ายแพงเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่เป็นหน้าเป็นตาและสร้างความพอใจให้กับทั้งสองครอบครัว

งบประมาณจัดงานแต่ง

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่แพรว wedding ไม่อยากให้คุณมองข้ามคือ บางครั้งของตกแต่งในธีมงานที่ชอบหรือผู้ให้บริการงานแต่งบางกลุ่มราคาค่าจ้างสูงมากแต่งานดีสุดๆ จนคุณไม่อาจปฏิเสธความดีงามได้ ก็ลองคุยกันค่ะ ถ้าเห็นตรงกันว่าคุ้มค่าจะจ่ายก็จะได้สบายใจและมีบ่นตามหลังว่า แพงจังเลย

ทั้ง 4 เรื่องที่ว่าไปทั้งหมดนี้ คือเรื่องสำคัญที่อาจจะเกิดกับคู่ของคุณได้ทุกหัวข้อหรือบางทีเกิดขึ้นเพียงข้อเดียวก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกี่ข้อ ถ้าคุณมีการเตรียมใจและทำความเข้าใจให้ตรงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วละก็ ในช่วงของการเตรียมงานจะเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ลงตัวกันทางความคิดอย่างแน่นอนค่ะ

แถมให้อีกนิด ทริคเด็ดเก็บเงินเตรียมแต่งงานให้บรรลุเป้าใน 10 เดือน

ภาพ : www.today.com

จริงหรือปลอม!! ใบเซอร์เพชร กับเทคนิคการเช็กก่อนรับเพชรกลับบ้าน

ใบเซอร์เพชร คืออะไร? สำคัญแค่ไหน? มาดูกัน

เดี๋ยวนี้ใครจะซื้อเพชรเป็นต้องเรียกหา ใบเซอร์เพชร เพื่อความอุ่นใจ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าใบเซอร์ที่ได้มาเป็นของจริง และจับคู่กับเพชรเม็ดที่ครอบครองแบบถูกคู่ แพรว wedding เลยไปเสาะหาเทคนิคการตรวจเช็กใบเซอร์มาฝาก

  • มาทำความเข้าใจคำว่า “ใบเซอร์” กันก่อน

ก่อนอื่นต้องบอกว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายก่อนว่า ถ้าเจอใบรับรองคุณภาพเพชร หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าใบเซอร์ ไม่ว่าจะเจอใบเล็กหรือใบใหญ่ก็อย่าเพิ่งเอามือทาบอกเพราะตกใจ เพราะเดี๋ยวนี้สถาบันดังๆ เช่น GIA จะออกใบเซอร์ให้กับคนรักเพชร 2 ขนาด คือขนาดใหญ่เท่ากับกระดาษ A4 พับ 3 ทบ เรียกว่า Diamond Grading Report (หรือบางทีก็เรียกว่าใบเซอร์แบบ Full Report) และขนาดเล็กเท่ากระดาษ A5 (ครึ่งหนึ่งของกระดาษ A4) แล้วพับครึ่ง ที่เรียกว่า Diamond Dossier

ความต่างของใบเซอร์ 2 ขนาดนี้ก็คือ ใบใหญ่ออกให้กับเพชรทุกขนาด  แต่ที่นิยมคือเพชรขนาด 1 กะรัตขึ้นไป เพราะคุ้มค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยใบเซอร์นั้นจะระบุคุณสมบัติไว้อย่างครบถ้วนพร้อมรูปประกอบแบบละเอียด ในขณะที่ใบเล็กนิยมออกให้กับเพชรที่มีขนาดต่ำกว่า 1 กะรัต ไม่มีภาพแสดงตำหนิในเม็ดเพชร และจะกำหนดให้ยิงเลเซอร์หมายเลขเพชรทุกเม็ด (อาจเป็นเพราะเม็ดเล็กนั้นหาง่าย มีมากกว่าเพชรเม็ดใหญ่ จึงต้องเลเซอร์ไว้กันความสับสนนั่นเอง)

ใบเซอร์เพชร

  • “ใบเซอร์” ปลอมมีอยู่ 2 แบบ

ในวงการเพชรนั้นให้ความหมายของคำว่า ใบเซอร์ปลอม เป็น 2 กรณีคือ

  1. ใบเซอร์ปลอมทั้งแผ่น คือไม่ใช่ใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบันใดทั้งสิ้น เป็นเพียงการลอกเลียนแบบรายละเอียดทุกอย่างให้เหมือนของจริง ซึ่งหากใบเซอร์โดยเลียนแบบใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบันรับรองคุณภาพเพชร GIA ก็จะมีจุดตรวจสอบทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน คือ

ที่ QR Code เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์ของสถาบันเพื่อให้กรอกรหัสหมายเลขเพชร และตรวจสอบต่อไปว่าตรงกันกับเพชรในมือหรือไม่

ที่สัญลักษณ์รูปกุญแจ วิธีการคือ ใช้ยางลบลบที่รูปกุญแจสีเทา เมื่อถูกลบตรงสีเทานั้นจะกลายเป็นสีขาวแล้วกลับมาเป็นสีเทาเสมอ เนื่องจากบริเวณนี้ใช้หมึกชนิดพิเศษที่เรียกว่า Thermochromic Ink ในการพิมพ์ จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาดังกล่าว

ที่ Hologram Logo GIA โลโก้ของสถาบันที่มีรูปร่างคล้ายพระอาทิตย์ พิมพ์แบบปั๊มนูนด้วยสีทอง มีจุดสังเกตคือมีลายน้ำบางๆ เหมือนลายนิ้วมืออยู่ภายใน

  1. ใบเซอร์กับเพชรไม่ตรงกัน

ถ้าเป็นภาษาปากก็จะเรียกว่า การสวมใบเซอร์ พบได้บ่อยกว่ากรณีแรก ถ้าเริ่มไม่มั่นใจว่าจะอยู่ในกรณีนี้หรือไม่ ลองตรวจสอบตามนี้

– ส่องเช็กตำหนิที่ระบุในใบเซอร์กับเพชรในมือ

– ให้ทางร้านวัดสัดส่วนต่างๆ ของเพชรเม็ดนั้นว่าตรงกันกับที่ระบุในใบเซอร์หรือไม่

– ในกรณีที่ใบเซอร์นั้นออกโดยสถาบัน GIA ให้นำเพชรไปส่องกล้องตรวจสอบโลโก้ของสถาบัน GIA เพราะโลโก้ที่ว่าจะเป็นเส้นคู่แต่ตัวเลขเป็นเส้นปกติ

– หากในใบเซอร์แผ่นใหญ่มีหัวข้อ Inscription แปลว่าเพชรเม็ดดังกล่าวต้องมีการเลเซอร์หมายเลขไว้แน่นอน ซึ่งหมายเลขที่ว่าก็จะต้องตรงกันกับใบเซอร์ด้วย

เรื่องควรรู้

ว่าที่บ่าวสาวสามารถส่งเพชรไปให้ร้านเพชรทั่วไปยิงเลเซอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเล่น ประโยคหวานๆ แต่ไม่สามารถยิงหมายเลขเพชรได้ เพราะหมายเลขดังกล่าวจะต้องออกและรับรองโดยสถาบันเท่านั้น นอกจากนี้ เพชร 1 เม็ดสามารถมีใบเซอร์ได้มากกว่า 1 สถาบัน โดยในแต่ละครั้งที่นำเข้าตรวจสอบจะมีการระบุรายละเอียดของเพชรเม็ดนั้นๆ เพิ่มเข้าไปเสมอ เช่น ครั้งแรกนำไปทำใบเซอร์กับสถาบัน GIA และมีการเลเซอร์โดยทาง GIA เมื่อนำไปให้สถาบัน HRD ตรวจสอบ ในใบเซอร์จาก HRD ก็จะระบุว่าบนตัวเพชรมีเลเซอร์ของ GIA นั่นเอง

ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่ที่ยังสงสัยว่า แล้วจะทำอย่างไรให้รอดพ้นจากใบเซอร์ปลอม แพรว wedding แนะนำว่าให้ว่าที่บ่าวสาวหาข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับร้านเพชรที่จะซื้อควบคู่ไปกับการหาข้อมูล คุณสมบัติเพชร และใบเซอร์ เพื่อที่ก่อนจะตัดสินใจซื้อและรับของจากร้าน จะได้รู้วิธีตรวจสอบความถูกต้องของใบเซอร์และเพชรเม็ดที่ต้องการช็อป

มาเพิ่มเลเวลความรู้เรื่องเพชรอีกนิดกับ >>> ถอดรหัส 4Cs อ่านป้ายบนแหวนแต่งงานให้เป็นไม่ถูกหลอก

ภาพ Youtube/Howcast, unsplash.com

ข้อเท็จจริงของการตรวจ มะเร็งปากมดลูก ที่ว่าที่เจ้าสาวทุกคนควรต้องรู้

สูตินรีแพทย์ตัวจริง มาให้คำตอบเกี่ยวกับการเตรียมสุขภาพผู้หญิงก่อนแต่งงาน พร้อมทั้งข้อเท็จจริงของการตรวจ มะเร็งปากมดลูก ที่หลายคนยังเข้าใจผิด

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เป็นสิ่งจำเป็นที่คู่รักควรจะต้องทำก่อนจูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์และเข้าเรือนหอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่กำลังจะเตรียมตัวตั้งครรภ์หลังแต่งงาน เพราะนอกจากสุขภาพโดยทั่วไปของเราแล้ว สุขภาพระบบสืบพันธุ์ของเรายังเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับการเตรียมพร้อมเป็นคุณแม่หลังแต่งงานด้วยจริงไหมคะ? ซึ่งการตรวจระบบสืบพันธุ์เพื่อการเตรียตัวมีครอบครัวนั้น หนีไม่พ้นการตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก ซึ่งถือเป็นการตรวจที่สำคัญสำหรับสาวๆ แต่เรากลับพบว่ายังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจมะเร็งปากมดลูกในหมู่ผู้หญิงอยู่มาก เราก็เลยยกหูขอสัมภาษณ์คุณหมอผู้เชี่ยวชาญ .. กษิติ แสงจันทร์ แพทย์สูตินรีเวช เกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการตรวจมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงเพื่อเตรียมตัวมีครอบครัว รวมทั้งวิธีการดูแลสุขภาพก่อนแต่งงานเพื่อจะเตรียมตัวเป็นคุณแม่ในอนาคตค่ะ

มะเร็งปากมดลูก
hauteofftherack.com

ทำไมเราจึงต้องให้ความสำคัญกับการตรวจมะเร็งปากมดลูก?

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งทั้งหมดในผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม แต่ในปัจจุบันนี้พบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ และอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อปี 2555 คือ 14 คน ต่อวันเลยทีเดียว

ใครบ้างที่ควรไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก?

ผู้หญิงอายุ 21 ปีขึ้นไป ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว สามารถไปตรวจคัดกรองหมด ไม่ว่าจะอายุเท่าไร และไม่ต้องรอให้มีแผนจะแต่งงานหรือมีบุตรก่อนก็สามารถมาตรวจได้เลยครับ

วิธีการตรวจคัดกรองในปัจจุบันนี้ใช้วิธีอะไร เจ็บไหมคะ?

มีสองวิธีหลักๆ วิธีแรก เรียกว่า Pap Smear แพทย์จะใช้เครื่องมือสอดผ่านคลอด จากนั้นจะทำการป้ายเซลล์จากมดลูกส่งตรวจทางเซลล์วิทยาเพื่อตรวจหาเซลล์ผิดปกติ ซึ่งถือเป็นวิธีที่นิยมใช้เนื่องจากทำได้ง่ายและราคาถูก และเนื่องจากปัจจุบันทราบแล้วว่าสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ HPV จึงเป็นที่มาของการตรวจอีกวิธีหนึ่งเรียกว่า การตรวจ HPV DNA test(การตรวจเพื่อหาเชื้อไวรัสเอชพีวีซึ่งวิธีนี้มีความแม่นยำมากกว่า แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่า ทั้งสองวิธีไม่เจ็บครับ

มะเร็งปากมดลูก
Kallimaphotography.com

สิ่งที่ผู้หญิงมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คืออะไรคะ?

ข้อแรกคือ ไม่รู้ว่าควรจะมาตรวจหากผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว และเมื่ออายุมากกว่า 21 ปี ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าต้องรอให้อายุมากๆก่อนค่อยมาตรวจ

ข้อที่สองคือ เข้าใจว่ามะเร็งปากมดลูกสืบต่อกันทางพันธุกรรมเหมือนมะเร็งชนิดอื่นๆ คือถ้าในครอบครัวไม่มีประวัติก็คิดว่าตัวเองไม่เสี่ยง แต่ที่จริงแล้วคือ หากเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ถือว่ามีความเสี่ยงครับ

ข้อที่สามคือ คิดว่า หากไม่มีอะไรผิดปกติอะไรก็ไม่ต้องมาตรวจ แต่ที่จริงแล้วมะเร็งปากมดลูกใช้เวลานานกว่า 10 ปีกว่าจะแสดงอาการ นั่นหมายความว่าหากคนไข้มีอาการ แสดงว่าอยู่ในระยะท้ายๆของโรคแล้วครับ

แล้วอาการที่จะสงสัยได้ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก มีอะไรบ้างคะ?

มีตกขาวผิดปกติ ไม่ว่าจะเยอะเกินไป หรือมีสี/ กลิ่น ที่ไม่ปกติ

เลือดออกกระปิดกระปรอยเมื่อมีเพศสัมพันธ์

เลือดออกกระปิดกระปรอย แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน

หากมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดครับ

ข้อสุดท้าย แล้วถ้าเรายังเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ เราสามารถทำอะไรเพื่อป้องกันได้บ้างคะ?

แนะนำให้เข้ามารับวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพราะวัคซีนชนิดนี้จะทำงานได้ดีที่สุดในผู้หญิงที่ไม่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นจนถึง 26 ปีไปก็สามารถเข้ามารับวัคซีนได้ แต่ผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว, อายุมากกว่า26ปีหรือเคยมีประวัติการติดเชื้อHPV มาแล้ว ก็สามารถรับวัคซีนได้เช่นกันครับ แต่ประโยชน์ของวัคซีนอาจจะลดลง 

มะเร็งปากมดลูก
BRITTA MARIE PHOTOGRAPHY

ได้ความรู้กันแบบเต็มๆ สำหรับการป้องกันตัวเองจากมะเร็งปากมดลูกจากคุณหมอสูตินรีเวชตัวจริง บอกเลยว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้ผู้หญิงเราไม่ควรมองข้ามนะคะ ยิ่งถ้าเป็นว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะมีครอบครัว ยิ่งต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ ว่าแล้วใครที่ยังไม่ได้บุ๊คคิวเข้าตรวจสุขภาพกับคุณหมอ ก็รีบจูงมือคู่รักไปบุ๊คคิวซะละคะ จะได้เข้าเรือนหอกันแบบสบายใจ ไร้โรค และเตรียมตัวเป็นคุณแม่อย่างเต็มที่ได้ค่ะ

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก .. กษิติ แสงจันทร์ แพทย์สูติ-นรีเวช
อ่านข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์สำหรับความรู้เพิ่มเติมเรื่องมะเร็งปากมดลูก ได้ที่นี่

รวมมาแล้ว 8 ร้านแคเทอริ่งงานแต่งเจ้าเด็ด พร้อมราคาบ่าวสาวรีบเช็กดูด่วน

รวมมาแล้วไม่ต้องหากับ 8 แคเทอริ่งงานแต่ง เจ้าเด็ด

จัดงานแต่งงาน เรื่องอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเลือกให้ดูดี สมกับหน้าตาฐานะของบ่าวสาว เพราะถ้าอาหารแย่ ต้องถูกแขกในงานเอากลับไปเมาท์แน่ๆ เลย แพรว wedding รวบรวม 8 แคเทอริ่งงานแต่ง ที่หลายคนเขาบอกว่าเด็ดมาฝากกัน ลองเช็กกันดูได้ว่าเจ้าไหนที่เหมาะกับเรา

Dee Catering

ดีเคเทอริ่งร้านเคเทอริ่งและรับจัดงานเลี้ยง ที่สำคัญคือรับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจรอีกด้วย มีทั้งบุฟเฟต์ ค็อกเทล และออกร้านโต๊ะไทย มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งไทยและสากล การันตีความอร่อยด้วยเมนูอาหารต้นตำรับจากร้านอาหารดีพร้อม ที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 50 ปี

– เซทเมนูบุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท/ท่าน

– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 230 บาท/ท่าน

– ออกร้าน ราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท/เมนู

ติดต่อ Dee catering เฟซบุ๊ก : DeeCatering / โทร. 08-2782-8958, 0-2718-8033

 เชฟโจวแคทเทอริ่ง

เปิดบริการมายาวนานสำหรับบริการรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และรับจัดงานหมั้นงานแต่งงาน พร้อมบริการรับจัดซุ้มอาหารและเครื่องดื่มสไตล์โรงแรม มีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งของหวานและของคาว


– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท/ท่าน

– บุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท/ท่าน

– ออกซุ้ม ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท

ติดต่อ เชฟโจวแคทเทอริ่ง เว็บไซต์ : www.chefjowcatering.com / ไลน์ : chefjow /โทร. 08-2220-8444 , 08-9990-3444

Mongkol Catering

รับจัดงานแต่งงานและอาหารครบวงจรด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มีบริการอาหารให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งบุฟเฟต์, ค็อกเทล คานาเป้, โต๊ะไทย จีน ตลอดจนซุ้มอาหาร

– บุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท/ท่าน

– โต๊ะจีน ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท/โต๊ะ

– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท/ท่าน

ติดต่อ Mongkol catering  เฟซบุ๊ก : Mongkol Catering / โทร. 09-3995-4246

NCC Catering

ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี และเป็นที่รู้จักกันในนาม ผู้บริหารงานด้านอาหาร และ เครื่องดื่มของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดงาน และมีทีมงานมืออาชีพ สามารถจัดงานเลี้ยงได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงขนาดเล็ก ไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่จำนวนหมื่นคน พร้อมการันตีคุณภาพการบริการที่ได้รับมาตรฐาน ระบบ จี เอ็ม พี ระดับสากล ในราคาที่คุ้มค่า

catering

– บุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท/ท่าน

– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท/ท่าน

– โต๊ะจีน ราคาเริ่มต้นที่ 8,300 บาท

ติดต่อ NCC cateing เว็บไซต์ : www.ncccatering.com / เฟซบุ๊ก : NCC Catering / โทร. 06-1389-5651

วิธีกำจัด สิวที่หลัง ให้หายขาด เพื่อชุดเจ้าสาวเปลือยหลังสวยมั่นใจในวันแต่งงาน!

สิวที่หลัง ปัญหากวนใจของเจ้าสาวที่อยากใส่ชุดแต่งงานเกาะอก สายเดี่ยว อยากกำจัดให้หายขาดมั้ย? ถ้าอยากมาอ่านวิธีกันเลย

เทรนด์ชุดเจ้าสาวยุคนี้ หนีไม่พ้น ชุดเกาะอก สายเดี่ยว เปลือยหลัง เปลือยไหล่ โชว์ผิวสวยและหุ่นงามระหงของเจ้าสาวในวันแต่งงาน แต่ปัญหากวนใจของสาวๆหลายคนที่กำลังจะเป็นว่าที่เจ้าสาว ก็คือ สิวที่หลัง หรือหน้าอก ที่บางทีทำให้ว่าที่เจ้าสาวต้องตัดใจากเหล่าบรรดาชุดสวยๆโชว์หลังโชว์ไหล่ที่อยากใส่ไปอย่างน่าเสียดายเพราะไม่รู้จะต่อกรกับปัญหาสิวที่หลังได้อย่างไร บอกเลยว่า แพรว เวดดิ้ง เห็นใจเหล่าว่าที่เจ้าสาวที่กำลังต้องเผชิญกับปัญหานี้มากๆ เราก็เลยรวบรวมข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยการสู้กับปัญหาสิวที่หลังและสิวตามตัวยังไงให้อยู่หมัด ทีนี้ละ ชุดเจ้าสาวแบบไหนๆเจ้าสาวก็จะเลือกใส่ได้ไม่หวั่นอีกต่อไป!

สิวที่หลัง

เข้าใจสาเหตุของสิวที่หลังก่อนเลย สิวที่หลังเกิดจากสาเหตุได้หลากหลาย เช่น

เกิดขึ้นจากเชื้อรา พี.โอวาเล (P.ovale) ซึ่งมีที่มาจากสุขอนามัยที่ไม่ดี เช่น การหมักหมมไม่อาบน้ำ ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือความสกปรกที่เกิดขึ้นจากเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นไม่สะอาด อับชื้น แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัว หรือ ผ้าปูที่นอนที่นานๆเปลี่ยนที (นานๆ ในที่นี้ คือ สองสามเดือนเปลี่ยนทีหรือนานกว่านั้น)

การแพ้สารเคมี เช่น ยาสระผม สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำหอม รวมทั้งครีมบำรุงผิว

ฮอร์โมน ซึ่งวิธีการสังเกตก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ในช่วงที่ก่อนเป็นรอบเดือนหรือระหว่างที่เป็นรอบเดือน หากพบว่ามีสิวผุดระเบิดขึ้นมาที่หลังเป็นจำนวนมาก นั้นแปลว่าคุณเป็นสิวที่หลังเพราะฮอร์โมนนะคะ

การทาครีมกันแดดที่หลังมากเกินไป ข้อนี้สาวๆที่ชอบใส่บิกินี่ไปทะเลกันน่าจะเจอบ่อย เพราะบางที สารเคมีในครีมกันแดด หรือครีมกันแดดที่เนื้อหนาหนัก ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอุดตันจนเกิดเป็นสิวที่หลังได้

การสครับผิว หลายคนเข้าใจว่า ยิ่งเป็นสิวที่หลังยิ่งต้องสครับผิวเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป แต่แท้จริงแล้ว การสครับผิวที่หลังจะยิ่งเป็นการทำลายเกราะป้องกันผิว และยังกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง จนทำให้สิวที่เป็นอยู่ ลุกลามกว่าเดิมได้ค่ะ

สิวที่หลัง

รู้สาเหตุแล้ว จะป้องกันยังไงดี?

เอาล่ะคะ หลังจากที่เรารู้สาเหตุของการเกิดสิวไปแล้ว ทีนี้เรามาดูวิธีการรักษากันบ้างดีกว่า

ถ้าสาเหตุเกิดจากอนามัยของเราไม่ดีพอ วิธีนั้นง่ายมากค่ะ เพียงแค่ทำความสะอาดชำระล้างร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ หากชอบเข้าฟิตเนส หลังออกกำลังกายก็อาบน้ำทันทีอย่าหมักหมมตัวเองไว้ในชุดออกกำลังกายนานเกินไป ตากเสื้อผ้าให้โดนแดดเพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอนอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างต่ำหรือบ่อยกว่านั้นได้ยิ่งดี

ใช้ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อย่าง salicylic acid หรือ benzoyl peroxide แต่สำหรับ benzoyl peroxide ต้องเตือนไว้นิดนึงว่าสามารถกัดสีเสื้อผ้าของเราได้นะ จึงอาจจะเลือกทาเฉพาะตอนก่อนนอน และใส่เสื้อสีอ่อนค่ะ

ส่วนใครที่สงสัยว่าจะแพ้สารเคมีในยาสระผม แนะนำให้คุณสาวๆ ก้มศีรษะลงเวลาสระผมนะคะ (วิธีแสนจะง่ายเลยใช่ไหมล่ะ) เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีจะสัมผัสกับผิวหลังของคุณ เปลี่ยนมาใช้สบู่ก้อนที่มีคุณสมบัติลดแบคทีเรียแทนสบู่เหลว หรือจะเลือกใช้สบู่เหลวแบบอ่อน ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดอ่อน หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสมุนไพรอันนี้ก็ช่วยได้นะคะ

ถ้าสิวหลังที่เกิดจากฮอร์โมน สามารถดูแลได้ด้วยการทายาฆ่าเชื้อรา หรือการกินยาฆ่าเชื้อรา หรือสาวๆ สามารถเลือกซื้อยาคุมที่มีส่วนผสมของเอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) มากินเพื่อรักษาสิวที่แผ่นหลังก็ได้เช่นกัน แต่ข้อนี้เราอยากให้สาวๆปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วยนะคะ

หากต้องใช้ครีมกันแดดที่หลัง เลือกชนิดสำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ หรือกันแดดเนื้อสเปรย์บางเบาที่ไม่อุดตันรูขุมขน รวมทั้งงดสครับผิวที่หลังด้วยนะคะ

สิวที่หลัง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ วิธีการรักษาไม่ได้ยากเลยใช่ไหม ถ้าหากมีวินัยและทำตามเราครบทุกข้อ รับรองว่าอาการสิวที่หลังจะค่อยๆดีขึ้นและไม่กลับมากวนใจอีกแน่นอน ทีนี้ละ เราก็จะได้ใส่ชุดเจ้าสาวเปลือยแผ่นหลังที่เฝ้าฝันอย่างมั่นใจในวันวิวาห์ได้แล้ว เย้!

ขอบคุณข้อมูลผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย 

Credit Story: allure.com

ทำฟัน ก่อนแต่งงาน เพื่อรอยยิ้มสวยปิ๊งในวันวิวาห์ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างมาดูกัน

ฟันเหลือง ฟันไม่สวย ยิ้มไม่มั่นใจ แต่จะแต่งงานแล้ว! ต้องทำยังไงถึงจะยิ้มสวยมั่นใจในวันแต่งงาน เราหาคำตอบเกี่ยวกับการ ทำฟัน มาให้แล้วจากทันตแพทย์ตัวจริง!

การ ทำฟัน ก่อนแต่งงาน เป็นอีกหนึ่งเช็คลิสต์ที่คู่บ่าวสาวหลายคนไม่ยอมพลาด เพราะจะแต่งงานทั้งทีจะยอมให้รูปสวยๆ ออกมาพังเพราะรอยยิ้มที่ดูไม่มั่นใจได้ยังไงกันละจริงไหมคะ แต่การไปหาหมอฟันสำหรับหลายๆคนกลายเป็นเรื่องยาก เพราะไม่รู้ว่าเราจะต้องเตรียมตัวก่อนวันแต่งงานนานแค่ไหนนะ? แล้วเราจะต้องทำอะไรกับสุขภาพฟันของเราบ้างเพื่อที่ในวันแต่งงานเราจะได้มีรอยยิ้มที่สวยงามเพิ่มความมั่นใจให้เราได้ตลอดทั้งวัน แพรว เวดดิ้ง ก็เลยขออาสาแทนคู่บ่าวสาวไปหาคำตอบมาให้จากหมอฟันคนสวย ทันตแพทย์หญิง แพรพรรณ ลิมปิพิพัฒนกร หรือคุณหมอแพร จาก คลินิกทันตกรรม เดนทัล โฮม เเคร์  มาดูกันเลยค่ะว่า สำหรับคู่รักที่กำลังจะมีวันวิวาห์ในเร็วๆนี้ อะไรคือส่ิงที่คุณต้องทำกับสุขภาพฟันเพื่อเตรียมตัวยิ้มสวยอย่างเต็มที่ในวันแต่งงาน

ทันตแพทย์หญิง แพรพรรณ ลิมปิพิพัฒนกร

การตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อประเมิน

อย่างแรกเลยที่คุณหมอแพรแนะนำให้คู่รักทำ ก็คือการเดินจูงมือกันเข้าคลินิกทันตกรรมเพื่อตรวจเช็คสุขภาพโดยรวมของช่องปากและฟัน เพื่อเช็คว่าสีฟันของเราดูสม่ำเสมอกันดีหรือไม่ เรามีฟันแตก หัก บิ่น ที่ต้องซ่อมแซมเพื่อความสวยงามหรือไม่ เป็นต้น โดยขั้นตอนนี้คุณหมอแพรแนะนำว่า ควรทำก่อนวันแต่งงานประมาณ 3 เดือนล่วงหน้า เพื่อให้หมอฟันมีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ในกรณีที่ต้องมีการซ่อมแซมหรือตกแต่งฟันให้สวยงาม

ในกรณีที่ไม่มีปัญหาสุขภาพฟัน

คุณหมอแพรมักแนะนำให้ขูดหินปูนและขัดฟัน นอกจากนี้ในคู่บ่าวสาวที่ไม่พอใจกับสีฟันที่เข้มไม่สวย คุณหมอก็แนะนำให้ฟอกสีฟันเพื่อให้ฟันดูขาวสวย โดยการฟอกสีฟันนั้นทำได้สองแบบ คือแบบทำเองที่บ้าน และแบบทำที่คลินิกโดยทันตแพทย์ โดยการฟอกสีฟันเองที่บ้านนั้น ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟัน เพื่อให้พอดีกับรูปร่างฟันของคนไข้แต่ละคน และจ่ายเจลฟอกสีฟันพร้อมคำแนะนำที่ถูกต้องให้ การฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้านนี้จะมีราคาถูกกว่า แต่ข้อเสียคือต้องอาศัยความสม่ำเสมอของคนไข้ที่ต้องใส่ถาดฟอกสีไว้วันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ติดต่อกันไม่ต่ำกว่าสองอาทิตย์ กว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ขาวขึ้นสัก 1-2 ระดับและต้องทำต่อไปจนกว่าจะได้ความขาวที่พึงพอใจ ในขณะที่การฟอกสีฟันที่คลินิกซึ่งมีการใช้รังสีเลเซอร์ช่วยเพื่อกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพดีขึ้นนั้น อาจจะราคาสูงกว่า แต่ใช้เวลาเพียงไม่นาน (ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) ก็สามารถทำให้ฟันดูขาวอย่างน้อย 3-5 ระดับขึ้นไป นอกจากนี้คนไข้มักแสดงอาการเสียวฟันระหว่างหรือหลังฟอกสีฟันน้อยกว่าการฟอกสีเองที่บ้าน ซึ่งถ้าหากเป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกด้วยเลเซอร์แล้ว คุณหมอแพรจะแนะนำให้ทำก่อนวันแต่งงานประมาณ 1 เดือน

ทำฟัน
Source: Hannah Martin Photography

การแก้ไขในกรณีที่ฟันสีไม่เรียบสม่ำเสมอ

ในกรณีที่ฟันมีวัสดุอุดเดิมบริเวณฟันหน้าหลายตำแหน่ง ทำให้ฟันมีสีไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเกิดจากการอุดฟันเป็นระยะเวลานานทำวัสดุอุดฟันเดิมดูดซับสีและคราบจากอาหารต่างๆที่เรารับประทาน วิธีการแก้ไขที่คุณหมอแพรแนะนำคือ ในกรณีที่วัสดุมีตำแหน่งเดียวขนาดเล็ก การเปลี่ยนวัสดุอุดใหม่สามารถทำได้ โดยเลือดสีวัสดุอุดภายหลังการฟอกสีฟันในกรณีที่คนไข้ฟอกสีฟัน  แต่ถ้าวัสดุอุดมีขนาดใหญ่เกินกว่าการเปลี่ยนวัสดุอุดจะสร้างความสวยงามได้ การทำเคลือบฟันวีเนียร์ (Veneer) หรือการทำครอบฟันจะถูกแนะนำเป็นลำดับต่อมา  ซึ่งการทำวีเนียร์ และการทำครอบฟันนอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องสีฟันได้แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องรูปทรงของฟันที่ไม่สวยงามได้ด้วย

การทำเคลือบฟันวีเนียร์ คือการนำเอาวัสดุแผ่นเคลือบฟันวางไว้ด้านหน้าของซี่ฟัน เหมาะกับคนที่เนื้อฟันธรรมชาติเหลือเยอะ ช่วยปรับรูปร่างและสีสันของฟันให้ดูสวยสมบูรณ์ขึ้น คนไข้สามารถออกแบบรูปร่างฟันที่ตนชอบได้ตามความต้องการ วัสดุที่นิยมใช้ทำวีเนียร์ฟันในปัจจุบันคือพอร์ซเลน ซึ่งมีความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ จะเห็นได้จากดาราหลายท่านิยมทำวีเนียร์กันเพื่อสร้างความสวยงามตามแบบฉบับของตนเอง

การทำครอบฟัน มีขั้นตอนคล้ายกับการทำวีเนียร์แต่วัสดุจะครอบคลุมตัวฟันทั้งหมด เสมือนกับการสร้างรูปฟันขึ้นมาใหม่จากทุกด้าน เหมาะสำหรับผู้ที่เนื้อฟันธรรมชาติน้อย มีวัสดุอุดฟันเยอะ หรือต้องการสร้างความแข็งแรงให้กับฟัน วิธีนี้ช่วยสร้างฟันใหม่ที่ดูสวยงามและแข็งแรง อยู่ได้เป็นระยะเวลานานถึง 10-15 ปี แต่แลกกับราคาค่อนข้างสูง

 

การจัดฟัน

คุณหมอแพรกล่าวว่ามีคู่บ่าวสาวหลายคนที่อยากจัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวกันสวยงามก่อนวันแต่งงาน แต่การจัดฟันจะต้องใช้ระยะเวลาในการประเมินและการรักษาพอสมควรซึ่งการจัดฟันมักใช้เวลาอย่างน้อย1-2ปี โดยคุณหมอแพรแนะนำว่าควรมาหาหมอฟันเพื่อประเมินอย่างต่ำ 2 ปีก่อนวันแต่งงานเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันนี้มีทางเลือกหลายทางสำหรับผู้ที่ไม่อยากติดเครื่องมือจัดฟันแบบเหล็กที่เห็นได้ชัดและไม่สวยงาม เช่นการจัดฟันแบบใสที่สามารถถอดได้ แต่อาจจะมีราคาสูงและต้องดูแลรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม คุณหมอแพรแนะนำให้ว่าที่บ่าวสาวที่อยากจัดฟันเพื่อให้ฟันสวยพร้อมสำหรับวันวิวาห์ รีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆจะชัวร์สุดค่ะ

Junebugweddings.com

สุดท้ายแล้ว คุณหมอแพรฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การเข้ามาหาหมอฟันครั้งแรกเพื่อประเมินสุขภาพฟันนั้นสำคัญที่สุด ควรมาก่อนวันแต่งงานอย่างน้อย 3 เดือน เพราะหมอฟันจะทราบได้ว่าคุณมีสุขภาพฟันที่เป็นปกติดีหรือไม่ ถ้าหากมีอะไรที่ต้องซ่อมแซม จะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้มีเวลาเตรียมตัว และหมอฟันเองจะได้มีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้มีรอยยิ้มสวย เพอร์เฟ็ค มั่นใจเต็มที่ และยังจะมีภาพสวยๆในวันแต่งงานเก็บไว้ดูตลอดไปด้วยค่ะ

ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา คลิกอ่าน เช็กลิสต์บิวตี้ มาเตรียมเป็นเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์ภายในเวลา 1 ปีกันเถอะ

 

ขอขอบพระคุณ ข้อมูลจาก คุณหมอแพร ทันตแพทย์หญิง แพรพรรณ ลิมปิพิพัฒนกร
คลินิกทันตกรรมเดนทัลโฮมเเคร์

นักโภชนาการบอกมา! 7 เคล็ดลับสำหรับสาวๆ ที่อยากมีผิวสวย หุ่นดี ทันวันแต่งงาน

ไม่ว่าตอนนี้ตัวคุณจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวหรือเป็นเจ้าสาวเสียเองก็คงตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทันทีที่ส่องกระจกความตื่นเต้นก็กลับกลายเป็นความวิตกกังวลเสียมากกว่า ทำไมหน่ะหรอ? ก็ดูหุ่นฉันสิ ยังไม่ผอมเพียว หุ่นดี เท่าที่ควรสักที ผิวก็ยังไม่ใส กลัวจะสวยไม่เป๊ะทันวันงาน…

สำหรับผู้หญิงบางคนการจัดเตรียมงานแต่งงานรวมถึงการวางแผนการออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนัก หรือ การทำสมาธิ เพื่อบรรเทาจิตใจและขจัดความเครียด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเติมแคลอรี่ที่สูญเสียไปด้วยอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการควบคุมน้ำหนักเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากมีผิวสวย หุ่นดี ก็ควรเลือกหม่ำอาหารกันสักนิดนะจ๊ะสาวๆ

แพรว wedding ก็ได้ไปเสาะแสวงหาเคล็ดลับสุขภาพที่จะทำให้คุณผอมด้วยและสวยด้วยทันวันแต่งงานที่กำลังจะมาถึงนี้!!! โดยเป็นคำแนะนะดีๆ จาก คิมเบอร์ลี ไนเดอร์ นักโภชนาการและผู้เขียนหนังสือความงามที่ขายดิบขายดีให้กับ New York Times เธอจะมีวิธีการเลือกกินและต้องทำอย่างไรบ้างรีบตามมาดูกันเร็วววว

หุ่นดี

1. เครื่องดื่มสมูทตี้สีเขียว

งงกันล่ะสิ ว่าเจ้าเครื่องดื่มสมูทตี้สีเขียวมันคืออะไร มันก็คือน้ำผักทั่วไปเลยค่ะ แต่ต้องเป็นผักใบเขียวนะคะเพราะคุณประโยชน์ช่างมีมากล้น เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่า หากคุณสามารถดื่มได้ในทุกๆ เช้าเลยยิ่งดีค่ะ พื่อให้ผิวกระจ่างใสเปล่งประกายมากที่สุดเท่าที่คุณเคยจินตนาการมา และยังช่วยกรองของเสียจำพวกสารพิษที่คุณได้รับไปในแต่ละวันได้อีกด้วยน้า ให้ประโยชน์ทั้งผิวสวยและได้หุ่นที่เป๊ะเลยแหละ แต่ใครที่ไม่เคยดื่ม ก็อาจจะรู้สึกดื่มยากสักนิดนึงนะคะ ด้วยกลิ่นที่ออกจะเหม็นเขียวนิดๆ คุณอาจต้องหาสูตรที่ทำให้คุณทานง่ายขึ้น เช่น ใส่ผลไม้และโยเกิร์ตเข้าไปปั่นด้วยก็จะช่วยให้ดื่มได้ง่ายขึ้นในทันที

2. งดดื่มนม

อ้าว นมก็มีประโยชน์ทำไมห้ามดื่มล่ะ? ก็เพราะนมอาจนำไปสู่อาการท้องอืดและความทุกข์ทรมานของทางเดินอาหาร ดีไม่ดีช่วงนั้นธาตุในร่างกายของคุณทำงานผิดปกติก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ง่าย สำหรับอาการท้องอืดส่งผลไปถึงเรื่องการสวมใส่ชุดด้วยนะคะ คนที่ท้องอืดบ่อยๆ มักจะรู้ดีว่าพุงของคุณมันจะป่องเป็นพิเศษ รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ไม่สบายตัว จะสวมใส่อะไรก็ขาดความมั่นใจไปเลย

3. เลิกปรุงอาหารด้วยน้ำตาลทรายไปได้เลย

ลองตัดน้ำตาลทราย และโดยเฉพาะน้ำตาลทรายขาวออกจากการปรุงอาหารหรืออาจใช้วิธีลดให้น้อยลงกว่าปกติ เพราะน้ำตาลไม่ได้จะทำให้เกิดความอ้วนเพียงอย่างเดียวนะคะ น้ำตาลยังเป็นตัวเร่งริ้วรอย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ทำให้คอลลาเจนแข็งตัวขึ้นซึ่งสามารถสร้างริ้วรอยได้ ผิวของคุณก็จะดูแก่กว่าวัยอันควร นึกดูนะคะ หากคุณไม่ปรุงอาหารด้วยน้ำตาลเลย อาศัยความหวานจากผักเอา ผิวของคุณจะดูสดใสและสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยน้า ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ

4. ควรลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม

หากคุณต้องการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเฉลิมฉลอง ขอแนะนำให้ดื่มเป็นไวน์แดงแทนค่ะ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและไม่ส่งผลเสียต่อตับของคุณเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ไวน์แดงยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และมีสารที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ส่วนทางด้านน้ำอัดลมเป็นไปได้ช่วงใกล้วันแต่งงานก็ควรงดไปก่อนนะคะ เพราะมีน้ำตาลสูงมากกก จากที่คุณอยากลดน้ำหนักรักษาหุ่นจะกลับกลายเป็นน้ำหนักพุ่งขึ้นปรี๊ดแทนนะคะ

หุ่นดี

5. ดื่มน้ำมะนาว

ใส่น้ำมะนาวสดลงไปในน้ำที่คุณจะดื่มตลอดทั้งวันและอย่าลืมที่จะเริ่มต้นทุกเช้าด้วยแก้วน้ำร้อนที่บีบน้ำมะนาวลงไปด้วย มะนาวจะช่วยย่อยอาหารโดยการเพิ่มการหลั่งของน้ำดีจากตับ ในขณะที่ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นสารเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เอนไซม์ในตับ ช่วยย่อยอาหารในลำไส้ใหญ่ กำจัดของเสียได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องฟอกเลือดและเป็นตัวแทนทำความสะอาดเพื่อล้างเชื้อแบคทีเรียและสารพิษในร่างกาย และยังมีคุณสมบัติในการช่วยย่อยอาหารและทำความสะอาดภายในร่างกายของคุณได้ระยะยาวอีกด้วย เมื่อระบบขับถ่ายดี ท้องไส้ดี ผิวพรรณก็จะดีตามมา

6. รับประทานอาหารจำพวกที่มีจุลินทรีย์ชนิดดีเยี่ยม

นั่นก็คือ อาหารที่มีสารอาหารโพรไบโอติกส์ ชนิดที่เหมาะสมของโพรไบโอติกเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยเสริมความงาม ปรับปรุงระบบการย่อยอาหารและนำไปสู่สุขภาพความงามโดยรวมในร่างกายของคุณ อาหารที่มีสารโพรไบโอติกส์ ก็เช่น โยเกิร์ต ที่สาวๆ ชอบกินกันนั่นแหละค่ะ เป็นของกินอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ควรเลือกสูตรธรรมชาติ ไร้ไขมัน ไร้น้ำตาล สำหรับสาวๆ ที่อยากลดความอ้วนเจ้าตัวนี้ก็จะสามารถหม่ำแทนอาหารว่างเวลาหิวๆ งี้ หม่ำเลยไม่อ้วนค่ะ

7. ผ่อนคลายกันหน่อย

ความกระวนกระวายใจก่อนแต่งงาน คุณสามารถหยุดมันได้โดยการฝึกสมาธิหรือเล่นโยคะ เพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบ ฟังเสียงรอบๆ ตัวหรือฟังเสียงธรรมชาติแทน เมื่อจิตใจคุณสงบแล้วการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะดียิ่งขึ้น การเล่นโยคะจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี เมื่อเลือดลมในร่างการดีผิวพรรณก็จะดีตามมา และยังช่วยเรื่องการหยืดหยุ่น ยกกระชับกล้ามเนื้อ ให้คุณมีหุ่นเพียว ไร้ไขมันส่วนเกิน จะใส่อะไรก็สวยแน่ในวันงานที่จะถึงนี้

หุ่นดี

ว่าด้วยเรื่องโยคะ บางคนอาจจะไม่เคยเล่น ไม่รู้ว่าเขาเล่นกันไปแบบไหน จริงๆ แล้วก็สามารถฝึกได้ด้วยตัวเองนะคะ เพียงแค่ทำตาม Let’s stay in shape! กับ 5 ท่าโยคะง่ายๆเพื่อเจ้าสาวหุ่นสวย นี้ทุกวันดู คุณอาจจะผอมทันวันงานก็ได้ใครจะไปรู้

เรียบเรียงข้อมูลจาก : insideweddings.com
ภาพจาก : alicialaceyphotography.com, unsplash.com

แนะนำ 3 โฟโต้บูธถ่ายภาพงานแต่ง ไอเท็มเด็ดที่บ่าวสาวต้องสอยมาไว้ในงานแต่งงาน

คงไม่มีแขกคนไหนที่ไปงานแต่งงานแล้วจะไม่เจอกับ โฟโต้บูธถ่ายภาพงานแต่ง เรียกได้ว่างานไหนงานนั้นแถวต้องยาวเป็นหางว่าวทุกที จนบูธถ่ายภาพงานแต่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่บ่าวสาวมักจะหามาเติมไว้ในงานแต่งงานของตัวเสมอ (ถ้ามีงบพอ ^^) แพรว wedding เลยจัด 3 บูธถ่ายภาพงานแต่งมาให้ว่าที่บ่าวสาวได้เลือกช้อปกันตามใจชอบ ถ้างบเหลือก็จัดไปโลด

1. MIRMIR PHOTO

โฟโต้บูธเจ้าดังจากอเมริกาที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าเซเลบฯ และดารานักแสดงระดับโลก อย่าง ครอบครัว Kardashians, Madonna, Jay-Z, Gigi Hadid เพราะเป็นโฟโต้บูธที่ให้คุณภาพของภาพถ่ายเทียบเท่ากับภาพที่ถ่ายแบบ Studio Photo Shoot แต่ได้รับภาพไว้กว่าในเวลาเพียง 4 วินาที เรียกได้ว่าเป็นพอร์เทรท โฟโต้ สตูดิโอ เคลื่อนที่ก็ว่าได้ ซึ่ง 2 องค์ประกอบหลักที่ทำให้ภาพของ MIRMIR PHOTO ออกมาสวยงามมีคุณภาพเหมือนจัดไฟชุดใหญ่มาไว้ตรงหน้าคือ

– Studio Lighting Solutions ระบบไฟสตูดิโอชนิดพิเศษที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ขนาดเล็กกะทัดรัดแต่คุณภาพระดับบิ๊ก เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่เกะกะทางเดิน

– MIRMIR Filter ที่ปรับภาพให้มีความสวยงามเหมือนผ่านการรีทัชมาแล้วภายในเวลาเพียงแค่ 4 วินาที พร้อมให้แขกปริ้นต์หรือแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องพึ่งแอปฯ เพิ่ม

MIRMIR PHOTO มีทั้งภาพสี, ภาพขาวดำ, ฉากหลังแบบ Green Screen และภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF ทั้งแบบธรรมดาและแบบ Green Screen ไว้ให้บริการแบบครบครันจุใจกันไปเลย

ติดต่อ MIRMIR PHOTO โทร. 08-6354-5463 / เฟซบุ๊ก mirmirphotothailand / ไอจี mirmirphotothailand / เว็บไซต์ www.mirmirphotothailand.com

2. RABBIT PHOTOBOOTH

RABBIT PHOTOBOOTH โฟโต้บูธถ่ายภาพงานแต่ง ที่พร้อมสร้างสรรค์งานสำคัญของบ่าวสาวให้สนุกขึ้นด้วยบูธถ่ายภาพที่แขกสามารถรับภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกกลับบ้านได้ทันที พร้อมทีมงานมืออาชีพที่คอยให้บริการ ที่สำคัญแขกที่มาถ่ายภาพยังได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ที่ทางแรบบิท โฟโต้บูธ จัดไว้ให้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สารพัดพร็อพส์ประกอบการถ่ายภาพ อย่างแว่นตาเก๋ๆ หมวกสวยๆ หรือวิกผมไว้เปลี่ยนลุค เมื่อเลือกพร็อพส์ได้แล้ว ช่างภาพจะถ่ายภาพทั้งหมด 3 แอ็คชั่น เสร็จแล้วสามารถรับภาพได้ทันที

RABBIT PHOTOBOOTH มีฟังก์ชั่นสุดเจ๋งที่รับประกันว่ารูปถ่ายจะออกมามีคุณภาพแน่นอน เพราะถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ และใช้กล้อง DSLR ที่ให้ภาพคมชัดกว่าการถ่ายด้วยไอแพด ทำให้ได้ภาพขนาดใหญ่แบบคมชัด และครบครันด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูงด้วยการเลือกใช้ไฟ LED แบบเดียวกับไฟในสตูดิโอ พร้อม Ring Light ที่ให้แสงสวยๆ แบบที่สาวๆ ส่วนใหญ่ชื่นชอบ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวแชะแล้วหน้าเหวอเพราะเขามีจอพรีวิวขนาดใหญ่ให้ดูก่อนที่จะปริ้นต์ภาพออกมา ปิดท้ายด้วยลูกเล่นเทมแพลตสนุกๆ ที่ออกแบบได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะอิงตามธีมสีของงาน หรือจะเลือกเป็นภาพกราฟิกต่างๆ ก็ได้ จากนั้นก็รอรับภาพที่ปริ้นต์ด้วยเครื่องปริ้นต์ภาพแบบพิเศษที่ให้ภาพเงางามกันน้ำคงทนนานถึง 10 ปีไม่มีซีด พร้อมอัตราการปริ้นต์ด้วยความเร็วเพียงแค่ 15 วินาทีต่อ1 ภาพเท่านั้น

และหากจองแพ็คเกจกับ RABBIT PHOTOBOOTH ไม่ว่าจะแพ็คเกจไหน เขายินดีปริ้นภาพให้แบบไม่อั้น! (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) และฟรี! ค่าออกแบบเทมเพลตให้ด้วย กับแพ็คเกจราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาท (ระยะเวลา 2 ชั่วโมง)

ติดต่อ RABBIT PHOTOBOOTH โทร. 08-3088-9747 / ไลน์ @rum9789i / เฟซบุ๊ก Rabbit Photobooth / ไอจี Rabbit Photobooth / เว็บไซต์ www.rabbitphotobooth.com

3. SELFIPRINT

SELFIPRINT โฟโต้บูธสุดไฮเทคที่มีคิวการจองยาวนานที่สุดในบรรดาโฟดต้บูธถ่ายรูปแต่งงาน การันตีความนิยมได้จากการที่ถูกดารา เซเลบฯ เรียกไปสร้างสีสันอยู่บ่อยๆ เพราะนอกจากที่จะปริ้นต์รูปถ่ายได้ทันทีแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และใช้งานง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย

SELFIPRINT นอกจากเป็นโฟโต้บูธถ่ายภาพแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นสุดล้ำอย่าง SelfiGreeting นวัตกรรมถ่ายคลิปอวยพรบ่าวสาวความยาว 15 วินาที พร้อมเซ็นอวยพรบน iPad Pro ที่ไม่ต้องกลัวเขียนผิดหรือเลอะเทอะ เพราะสามารถแก้ไขใหมได้จนกว่าจะพอใจ แถมยังเขียนสะดวก ใช้งานง่ายแขกผู้ใหญ่หลายท่านเอ่ยปากชมมาแล้ว ซึ่งคำอวยพรทั้งหมดจะถูกแรนดอมขึ้นบนจอ LCD ที่ทางทีมงานนำมาติดตั้งไว้ เพื่อให้แขกได้เห็นคลิปที่ตัวเองเพิ่งอวยพรไปโดยไม่ต้องรอหลังจบงาน

SelfiGreeting  เห็นไฮเทคขนาดนี้แต่มาในราคาแค่ 40,000 บาท สามารถปริ้นตภาพได้ไม่จำกัดจำนวน พร้อมทีมงามที่คอยดูแลในวันงานตลอด 4 ชม. แต่แพ็คเกจนี้สงวนไว้สำหรับงานที่มีจำนวนแขก 500 ท่านเท่านั้นนะจ๊ะ แต่หากงานไหนแขกเกินจากจำนวนนี้และอยากเพิ่ม SelfiGreeting อีกจุด SELFIPRINT ลดให้ทันที 50% เลยทีเดียว และว่าที่บ่าวสาวที่กลัวว่าจะตกหลายคำอวยพรของแขกท่านไหนไปก็ไม่ต้องห่วง เพราะหลังจบงาน 1 สัปดาห์ทาง SELFIPRINT จะมีแฟลชไดร์ฟรวมทั้งคลิปและภาพส่งให้บ่าวสาวได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ติดต่อ SELFIPRINT โทร. 02-663-7878, 081-6549356 / เฟซบุ๊ก SelfiPrintx / ไอจี Selfiprintx / เว็บไซต์ www.selfiprintx.com

ภาพจาก : MIRMIR PHOTO, RABBIT PHOTOBOOTH, SELFIPRINT

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและไอเดียงานแต่งงานอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

รู้ก่อนแต่ง พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์ สำหรับบ่าวสาวตี๋หมวยยุคใหม่

พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์ ถึงจะเป็นงานแต่งลูกผสมแต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นสิริงคลอย่างเต็มเปี่ยม

ในยุคจีนรุ่นเหลนอย่างเราที่เหลือคนรุ่นเก่าเคร่งธรรมเนียมในตระกูลน้อยเต็มที อาม้าอาป๊าก็เป็นลูกครึ่งจีนที่ไม่เป๊ะเท่าไรนัก หลายบ้านจึงนิยมลดทอนพิธีแต่งงานลงเพื่อความสะดวก ยิ่งเมื่อแต่งกับคนไทยด้วยแล้วบางบ้านอาจจัดงานควบรวมกับพิธีไทยไปเลย เราจึงนำเสนอ พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์ ที่เคยเห็นมาเพื่อเป็นแนวทางให้ลูกหลานจีนที่พบรักกับคนไทย ส่วนจะคงความเป็นจีนเข้มข้นหรือเจือจางกว่านี้ก็แล้วแต่ความเคร่งของแต่ละบ้าน

สู่ขอ

02_123_scoop_chinese

ก่อนกระทำการทุกอย่างคนจีนจะให้ซินแสดูฤกษ์รอไว้ เมื่อถึงฤกษ์สู่ขอ ฝ่ายชายพร้อมคณะคือพ่อแม่และเถ้าแก่ (เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแม่สื่ออย่างเป็นทางการแล้ว) จะนำกระเช้าผลไม้หรือขนมติดไม้ติดมือไปยังบ้านฝ่ายหญิงเพื่อพูดคุยสู่ขอ คุยเรื่องสินสอด และกำหนดการจัดพิธีต่าง ๆ รวมทั้งตกลงว่าใครจะดูแลค่าใช้จ่ายส่วนไหน ปกติแล้วฝ่ายหญิงจะรับผิดชอบงานหมั่น ฝ่ายชายจะรับผิดชอบงานแต่ง แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามฐานะ

เทียบเชิญ

การเชิญแขกผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมไทยและจีนจะคล้ายกัน คือ บ่าว – สาวควรไปเชิญด้วยตัวเอง แต่ตามธรรมเนียมจีนจะต้องเตรียมขนมติดไม้ติดมือไปมอบให้ผู้ใหญ่ด้วย เช่น ขนมจันอับ คุกกี้ ฯลฯ

หมั้น – รดน้ำ – ยกน้ำชา

งานแต่งจีนประยุกต์

ในวันงานส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยพิธีแบบไทยตามปกติ คือ มีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมาก พิธีหมั้น หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และเลี้ยงอาหารกลางวัน แต่อาจมีการผสมผสานความเป็นจีนเข้าไปในบางช่วง

  • ขันหมากไทยผสมจีน ในขบวนขันหมากจะมีการแทรกขันหมากจีนเข้าไปด้วย เช่น มีถาดส้มเช้งและผลไม้ติดอักษรจีน “ซังฮี่” ถาดขนมแต่งงาน ถาดชุดหมู ฯลฯ สังเกตได้ไม่ยาก เพราะจะมีสีแดงหรือชมพูโดดเด่นตัดกับชุดขันหมากใบตองแบบไทย
  • ขันหมากฝ่ายเจ้าสาว บางบ้านอาจเตรียมขันหมากฝ่ายเจ้าสาวไว้ตามธรรมเนียมจีน เช่น ต้นชุงเช่า (ต้นเมียหลวง) ส้ม กล้วย อ้อย ขนมมงคล ฯลฯ โดยจัดวางเตรียมไว้ใกล้จุดประกอบพิธีแยกจากขันหมากของเจ้าบ่าว โดยหลังเสร็จพิธีจะต้องแบ่งผลไม้และขนมขันหมากจากทั้งสองฝ่ายมาผสมกันและมอบให้ทางฝั่งเจ้าบ่าวนำกลับไปด้วย
  • พิธีหมั้น เมื่อขันหมากฝ่ายชายมาถึงก็เป็นการสู่ขอ ไปรับตัวเจ้าสาวลงมาเข้าพิธีหมั้น และสวมแหวนหมั้น
  • ป้อนขนมอี๊ หลังจากสวมแหวนแล้วอาจแทรกการป้อนขนมอี๊เข้ามา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและกลมเกลียว
  • พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ หลังพิธีหมั้นจะต่อด้วยพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ตามปกติ
  • พิธียกน้ำชา ตามธรรมเนียมดั้งเดิมเมื่อเจ้าสาวไปถึงบ้านเจ้าบ่าวจะยกน้ำชาให้ญาติเจ้าบ่าวดื่ม โดยจะต้องเตรียมน้ำชาใส่น้ำตาลกรวดเล็กน้อยเพื่อเป็นเคล็ดว่าผู้ใหญ่ดื่มแล้วจะรักและเอ็นดู แต่ในคู่ที่ไม่เคร่งครัดนักอย่างคู่ผสมไทย – จีนก็อาจนำพิธีนี้มาไว้ก่อนหรือหลังพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และเชิญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมารับน้ำชาแทนพิธีรับไหว้ไปเลยเพราะมีจุดประสงค์เดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากพานธูปเทียนแพมาเป็นยกน้ำชา จากนั้นผู้ใหญ่จะให้ของรับไหว้เป็นเงินทองของมีค่าและบ่าว – สาวมอบของขวัญขอบคุณ เช่น ผ้า ขนม ฯลฯ ตามธรรมเนียมไทยและจีน

ส่งตัว

พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์
มีทั้งส่งตัวในคืนแต่งงานและหลังจากนั้นอีกหลายวันตามแต่ฤกษ์ส่งตัวที่ได้มา ถ้าได้ฤกษ์ส่งตัวในวันแต่งงานส่วนใหญ่จะสมมติว่าห้องใดห้องหนึ่งในโรงแรมเป็นเสมือนบ้านของฝ่ายหญิง จากนั้น

  • คุณแม่เจ้าสาวจะติดปิ่นทองและทับทิมให้เจ้าสาว ก่อนที่เจ้าสาวจะกินอาหารมงคล 10 อย่างที่คุณพ่อคุณแม่คีบให้ พร้อมรับฟังคำอวยพรที่ช่วยกัน เอ่ยตามความหมายของอาหารมงคลแต่ละชนิด (1. วุ้นเส้น 2. เห็ดหอม 3. กุยช่าย 4. ผักเกาฮะฉ่าย 5. หัวใจหมู 6. ปลา 7. ปู 8. ไก่ และ 9. – 10. ให้เลือก 2 อย่างระหว่าง “ตับ – ไส้ – กระเพาะหมู”)
  • เจ้าบ่าวมารับตัว เจ้าสาวที่ถือพัดแดงนั่งคอยอยู่ จากนั้นกินขนมอี๊ด้วยกัน (บางบ้านที่ไม่ได้ส่งตัวแบบจีนอาจไปป้อนกันหลังสวมแหวนหมั้น) ลาพ่อแม่แล้วขึ้นรถแต่งงานไปบ้านเจ้าบ่าว โดยมีญาติผู้ชายฝ่ายเจ้าสาวที่อายุน้อยกว่าถือตะเกียงนำไปจนถึงที่หมายเพื่อเป็นเคล็ดว่าบ่าว – สาวจะมีลูกชายสืบสกุล ทั้งนี้ในรถแต่งงานหรือรถในขบวนจะต้องขนกระเป๋าเสื้อผ้า ทรัพย์สิน และของติดตัวที่พ่อแม่ให้มาไปพร้อมกันด้วย
  • พิธีไหว้ฟ้าดิน เม่อื ถึงบ้านเจ้าบ่าว บ่าว – สาวต้องทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ไหว้บรรพบุรุษเพื่อแจ้งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้ว่าครอบครัวนี้กำลังจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่ม และเพื่อขอพรให้อยู่กันอย่างราบรื่น จากนั้นจะผลัดกันป้อนขนมอี๊อีกครั้ง

สำหรับคู่ที่ได้ฤกษ์ส่งตัวเป็นอีกวันหนึ่ง เจ้าบ่าวก็จะไปรับเจ้าสาวที่บ้าน โดยเจ้าสาวจะต้องทำพิธีไหว้เทพยดาฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษก่อนที่จะกินอาหารมงคล 10 อย่างกับพ่อแม่ จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนตามปกติ

อ่านเพิ่มเติม >>> รวบตึงมาให้กับพิธีรับตัวเจ้าสาว จีน-ไทย อ่านง่ายเข้าใจทุกขั้นตอน <<< คลิกเลย!

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Dovids Photogropher
ภาพเปิด www.promessastudios.com

คัดมาให้แล้ว วิธี ต่อเล็บเจ้าสาว แบบต่างๆ เพิ่มความเรียวยาวให้นิ้วมือเจ้าสาวสวยปัง

เจ้าสาวหลายคนที่กำลังหาวิธี ต่อเล็บเจ้าสาว เพื่อเพิ่มความเรียวยาวให้นิ้วมืออยู่นั้น ไม่ต้องเครียดไปค่ะ เพราะเราคัดการต่อเล็บแบบต่างๆ มาให้แล้ว รับรองว่าสวยนิ้วดูเรียวยาวขึ้นแน่นอน

แล้วสงสัยไหมคะว่า วิธี ต่อเล็บเจ้าสาว มีกี่แบบ แล้วทำไปทำไม?? การต่อเล็บ คือการเพิ่มความยาวให้เล็บ โดยใช้สารเคมีที่มีรูปทรงคล้ายกับเล็บ หรือนำมาปั้น ขึ้นรูปให้เป็นเล็บนั่นเอง การต่อเล็บที่เป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันคือการต่อเล็บแบบ พลาสติค (PVC) , อะครีลิค และเจล ส่วนความทนทาน ความสวยงาม และราคาก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ

การต่อเล็บมีประโยชน์อย่างไร?? สำหรับสาวๆ ที่หน้าเล็บสั้นนั้นจำเป็นอย่างมาก เพราะการต่อเล็บจะช่วยเพิ่มความยาวให้กับนิ้วมือได้ด้วย ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า วิธีต่อเล็บแต่ล่ะแบบเป็นเขาทำกันยังไงบ้าง

1. พลาสติค (PVC)

เป็นการต่อเล็บที่ง่ายและสะดวกที่สุดแล้ว สาวๆ สามารถเลือกได้ว่าอยากจะทำที่ร้านหรือซื้อกลับมาต่อเองที่บ้านก็แล้วแต่สะดวก เพราะว่าเป็นเล็บปลอมแบบสำเร็จรูป ที่มีรูปทรงเป็นแบบเล็บอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเลือกให้มีขนาดที่ตรงกับเล็บเราแค่นั้นเอง แต่ถ้าต่อที่ร้านก็อาจจะมีแบบสำเร็จรูปที่มีลายหรือรูปทรงมากมายมาให้เลือก หรือจะเป็นการต่อเล็บเปล่าๆ แล้วให้ช่างทำเล็บเพ้นท์ลายให้ใหม่ก็ได้ แต่ในกรณีที่สาวๆ สะดวกซื้อกลับมาทำเองที่บ้าน ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านเสริมสวยทั่วไปได้เลยค่ะ แต่อาจจะเลือกความยาวของเล็กไม่ได้เนอะ ที่สำคัญวิธีต่อเล็บแบบ PVC อาจจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกาวที่ใช้ติดนั่นเองค่ะ แต่ข้อดีก็มีตรงไม่ต้องเสียเวลามานั่งทำเล็บนานๆ เนี่ยแหล่ะจ้า

วิธีต่อเล็บ วิธีต่อเล็บ

2. อะครีลิค

วิธีต่อเล็บแบบนี้จะคงอยู่นานกว่าแบบ PVC แต่ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน สาวๆ สามารถเลือกความสั้นยาว และรูปทรงของเล็บได้ เพียงแค่บอกกับช่างทำเล็บเท่านั้นเอง ช่างก็จะนำอะครีลิคมาปั้นขึ้นรูปทรงบนเล็บเรา และต้องตะไบเพื่อเปิดให้หน้าเล็บบางเพื่อรองรับเนื้ออะครีลิคนั่นเอง ซึ่งข้อดีของการต่อเล็บแบบนี้ก็คือ เจ้าสาวจะได้เล็บที่สวยและหลากหลายมากกว่า แถมยังสามารถอยู่ได้นานเป็นเดือนๆ ถ้าหากเล็บยาวขึ้นมาก็เพียงแค่ไปเติมโคนเล็บ (ลงอะครีลิคบริเวณโคนเล็บ) เท่านั้นเอง แต่ข้อเสียคือ ต้องหมั่นเติมโคนเล็บตลอดๆ นี่สิ ที่สำคัญต้องระวังถ้าเล็บหักหรือฉีกจะเจ็บมาก เพราะตัวอะครีลิคติดกับเนื้อเล็บของเรานั่นเอง และถ้าหากเบื่ออยากถอดเล็บแล้ว ก็ไ่ม่ใช่ว่าหักได้ด้วยตัวเองนะจ๊ะ เพราะต้องไปให้ช่างถอดเล็บออกให้เท่านั้น ห้ามทำเองนะจ๊ะ

วิธีต่อเล็บ วิธีต่อเล็บ

3. เจล

เป็นการต่อเล็บที่กำลังมาแรง และอีกหน่อยอาจจะนิยมมากกว่าการต่อแบบอะครีลิคแน่นอนค่ะ แต่ราคาก็จะสูงกว่าอะครีลิคขึ้นมาอีกกกก ซึ่งการต่อแบบเจลจะบางกว่าอะครีลิค และไม่สามารถต่อให้ยาวมากได้ เพราะมีความแข็งแรงน้อยกว่าอะครีลิคนั่นเอง แต่ตัวเล็บจะมีความมันๆ วาวๆ ฟรุ้งฟริ้งมากกว่า (เรียกว่างานดีกว่าเย๊อะ) แถมเวลานั่งต่อเล็บยังไม่มีกลิ่นฉุนๆ มาคอยกวนจมูกเหมือนอะครีลิคอีกด้วยน้า แต่ข้อเสียคือ หากว่าที่เจ้าสาวไปต่อก่อนวันงานล่วงหน้านานๆ อาจจะต้องระมัดระวังการใช้มือหยิบจับข้าวของหรือทำนู่นที่นี่ เพราะอย่างที่บอกว่าเล็บแบบเจลนั้นบอบบางกว่าแบบอะคริลิค หักเปาะไปนิดเดียว นั่นเท่ากับว่าต้องไปทำใหม่เลยนะจ๊ะ

วิธีต่อเล็บ วิธีต่อเล็บ

อ่านมาถึงตรงนี้ เราเชื่อว่าว่าที่เจ้าสาวหลายคนจะต้องมีรูปแบบการต่อเล็บอยู่ในใจกันแล้วแน่ๆ แต่ไม่ต้องไปทำล่วงหน้านานนักนะคะ ทางที่ดีไปทำล่วงหน้าสัก 1-2 วันก็พอ เพราะเล็บจะได้ไม่เสียหายหรือหักก่อนวันงานจะมาถึง แต่ถ้าว่าที่เจ้าสาวยังไม่มีทรงเล็บในดวงใจ ขอแนะนำ … อ่านก่อน! เลือกทรงเล็บเจ้าสาวแบบไหนดี ช่วยส่งให้นิ้วมือดูเรียวยาว

ภาพจาก : Pinterest

ว่าที่เจ้าสาวมาดูวิธี ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน ด้วยอาหารดูแลธาตุเจ้าเรือน จากกูรู

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย ถูกต้องไหมจ๊ะสาวๆ หลายคนต้องที่กำลังดูแลตัวเองให้มีผิวพรรณ และสุขภาพที่ดีเพื่อเตรียมพร้อมเป็นเจ้าสาว แต่ก็อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า ทำไมดูแลตัวเองเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้สึกสดชื่น หรือมีผิวพรรณที่ดีขึ้นมาเลย นั่นหมายความว่าเราดูแลตัวเองโดยไม่ถูกหลักนั่นเอง

แพรว wedding ขอพาสาวๆ ที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวมาฟังเคล็ดลับ ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน ด้วยอาหารดูแลธาตุเจ้าเรือนจากอาจารย์อินทร์ชิรา (วชิราภรณ์ ห้าวหาญ) นักพยากรณ์และนักโภชนาการที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในธุรกิจอาหารมาฝาก

สงสัยกันใช่ไหมคะ ว่าธาตุเจ้าเรือนคืออะไร เรามีคำตอบจากอาจารย์ อินทร์ชิรา มาให้ค่ะ

ผู้หญิงทุกคนเกิดมาในร่างกายจะประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ  แต่ธาตุที่แสดงออกมาเป็นลักษณะเด่นประจำตัวนั้นเรียกว่า “ธาตุเจ้าเรือน” ซึ่งเรียกตามหลักโหราศาสตร์ไทย ถูกกำหนดไว้ตามราศีเกิดของแต่ละบุคคล อาจรวมถึงพิจารณาจากบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย ทางกายภาพ รวมไปถึงสภาวะจิตใจของแต่ละบุคคลด้วย สาวๆ สามารถเสริมเสน่ห์จากภายในสู่ภายนอกให้ดูเปล่งปลั่ง ด้วยการปรับพลังธาตุตามธาตุเจ้าเรือนด้วยการรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามธาตุ ซึ่งทำได้โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือวิตามิน ดังนั้นเราจึงต้องพิถีพิถันกับเรื่องการบริโภคให้มากขึ้น และในเฉพาะสาวๆ ที่กำลังเตรียมพร้อมจะเป็นเจ้าสาว สามารถบริโภคอาหารแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับตนเอง โดยยึดหลักบริโภคให้ตรงกับธาตุเจ้าเรือนของคุณเอง เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมถึงผิวพรรณที่ดีจากภายในสู่ภายนอก และเพิ่มออร่าให้ตนเองสง่างามยิ่งขึ้นค่ะ

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุเจ้าเรือนตามราศีเกิดสามารถ และวิธีรับประทานอาหารอย่างไรให้บำรุงธาตุเจ้าเรือน สามารถอัพเดตได้ตามนี้เลย

 ธาตุไฟ

เจ้าสาวราศีเมษ  (13 เม.ย.- 13 พ.ค.)
• เป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่อยู่นิ่ง ชอบการผจญภัย ชอบความโดดเด่น ไม่ยอมใคร
• หิวเก่ง กินจุ ขี้ร้อน เหงื่อมาก มีโรคประจำตัวคือ ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด
• น้ำผักผลไม้ แตงโม พุทธา แอปเปิ้ล ใบเตย เก็กฮวย น้ำมันมะกอกแท้ 100%  นมแพะ
• ผักสด ผักบุ้ง ตำลึง สายบัว มะระ สะเดา หม่อน กระเฉด
• อาหาร เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า แกงจืด แกงส้ม สลัดผักสด เนื้อปลาน้ำจืด

เจ้าสาวราศีสิงห์  (17ส.ค. – 16 ก.ย.)
• ใจร้อน และชอบย้ำคิดย้ำทำ หวังความก้าวหน้าแต่จะไม่กล้าเสี่ยง
• หิวเก่ง กินจุ ขี้ร้อน เหงื่อมาก มีโรคประจำตัวคือผื่นแพ้ และฮอร์เพศหญิงน้อย มดลูกไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด
• น้ำผักผลไม้ แตงโม มันแกว พุทธา แอปเปิ้ล ใบเตย เก็กฮวย น้ำผึ้งแท้100%
• ผักสด ผักบุ้ง ตำลึง สายบัว มะระ สะเดา หม่อน
• อาหาร เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า แกงจืด แกงส้ม สลัดผักสด เนื้อปลาน้ำจืด

เจ้าสาวราศีธนู  (16 ธ.ค. – 15 ม.ค.)
• ทะเยอทะยาน รักตัวเอง พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงในทันที
• หิวเก่ง กินจุ ขี้ร้อน เหงื่อมาก มีโรคประจำตัวคือ ผิวมันเป็นสิวและผื่นแพ้ง่าย
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด
• น้ำผักผลไม้ แตงโม มันแกว พุทธา แอปเปิ้ล ใบเตย เก็กฮวย ซารารี่
• ผักสด ผักบุ้ง ตำลึง สายบัว มะระ สะเดา หม่อน
• อาหาร เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า แกงจืด แกงส้ม สลัดผักสด เนื้อปลาน้ำจืด

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุดิน

เจ้าสาวราศีพฤษภ  (14 พ.ค. – 13 มิ.ย.)
• เป็นคนเข้มแข็ง หนักแน่น อ่อนนอกแข็งใน มีเสน่ห์
• อ้วนง่าย หิวบ่อย มีโรคประจำตัวคือความดันสูง ภูมิแพ้ ฮอร์โมนเพศหญิงไม่ปกติ ส่งผลถึงมดลูกไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสฝาด มัน และถั่วต่างๆ
• น้ำผักผลไม้ มังคุด ฝรั่ง กระเจี๊ยบ กล้วย สมอ มะยม ลูกเดือย ข้าวโพด นมสด น้ำมันมะพร้าว
• ผักสด ฟักทอง เผือก ถั่ว บวบ ผักโขม
• อาหาร เนื้อแดง ปลาทะเล ผัดสะตอ แกงมะระ แกงเลียง เต้าส่วน วุ้นกระทิ

เจ้าสาวราศีกันย์  (17 ก.ย. – 16 ต.ค.)
• รักอิสระ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อความมั่นคงแต่ต้องชัดเจน
• อ้วนง่าย หิวบ่อย มีโรคประจำตัวคือความดันสูง ภูมิแพ้ทางระบบการหายใจ  มีกลิ่นตัวหรือกลิ่นปาก
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสฝาด มัน และถั่วต่างๆ
• น้ำผักผลไม้ มังคุด ฝรั่ง กระเจี๊ยบ กล้วย สมอ มะยม ลูกเดือย ข้าวโพด นมสด
• ผักสด ฟักทอง เผือก ถั่ว บวบ ผักโขม ผักหวาน
• อาหาร เนื้อแดง ปลาทะเล ผัดสะตอ แกงมะระ แกงเลียง เต้าส่วน วุ้นกระทิ

เจ้าสาวราศีมังกร  (16 ม.ค. – 12 ก.พ.)
• ขี้น้อยใจ ชอบสอนแนะนำผู้อื่น นิสัยดื้อรั้นแบบเด็ก
• หิวบ่อย มีโรคประจำตัวคือความดันสูง ภูมิแพ้ทางระบบการหายใจ เหนื่อยง่าย
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสฝาด มัน และถั่วต่างๆ
• น้ำผักผลไม้ มังคุด ฝรั่ง กระเจี๊ยบ กล้วย สมอ มะยม ลูกเดือย ข้าวโพด นมสด
• ผักสด ฟักทอง เผือก ถั่ว บวบ ผักโขม
• อาหาร เนื้อแดง ปลาทะเล ผัดสะตอ แกงมะระ แกงเลียง เต้าส่วน วุ้นกระทิ

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุลม

เจ้าสาวราศีมิถุน  (14 มิ.ย. – 14 ก.ค.)
• ไม่ชอบอยู่เฉย ชอบคิดเพ้อฝัน รักสวยรักงาม ตัดสินใจเร็ว
• ผอม ผิวแห้ง หลับง่าย มีโรคประจำตัวคือ ท้องผูก โรคผิวหนัง ปวดตามข้อ เมื่ออ่อนเพลียนัยตาจะเหลืองไม่สดใส
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
• น้ำผักผลไม้ แตงโม แตงไทย เงาะ แก้วมังกร มะละกอ ส้ม น้ำผึ้ง เบอรี่สีม่วง ซารารี่  ขิง
• ผักสด สมุนไพร ขิง ข่า ตะใคร้ กระชาย ขมิ้นชัน สาระแหน่ พริก สาระแหน่
• อาหาร  ปลาแมคเคอเรล ต้มข่า ต้มยำ บัวลอยน้ำขิง เมี่ยงคำ มันเทศต้มขิง

เจ้าสาวราศีตุลย์  (17 ต.ค. – 15 พ.ย.)
• ชอบความสงบสุข รักสวยรักงาม พิถีพิถัน เก็บตัว ไม่ชอบความหวือหวา
• ผอม ผิวแห้ง หลับง่าย มีโรคประจำตัวคือ ท้องผูก โรคผิวหนัง ปวดตามข้อ และระบบประสาท
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
• น้ำผักผลไม้ แตงโม แตงไทย เงาะ แก้วมังกร มะละกอ ส้ม
• ผักสด สมุนไพร ขิง ข่า ตะใคร้ กระชาย ขมิ้นชัน สาระแหน่ พริก
• อาหาร ปลาแมคเคอเรล ต้มข่า ต้มยำ บัวลอยน้ำขิง เมี่ยงคำ มันเทศต้มขิง

เจ้าสาวราศีกุมภ์  (13 ก.พ. – 12 มี.ค.)
• ชอบหาความรู้และมีเหตุผลมาก  แต่เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปบางทีกลายเป็นมุทะลุ
• ผอม ผิวแห้ง หลับง่าย มีโรคประจำตัวคือ โรคผิวหนัง และเส้นผมไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
• น้ำผักผลไม้ แตงโม แตงไทย เงาะ แก้วมังกร มะละกอ ส้ม
• ผักสด สมุนไพร ขิง ข่า ตะใคร้ กระชาย ขมิ้นชัน สาระแหน่ พริก
• อาหาร ปลาแมคเคอเรล ต้มข่า ต้มยำ บัวลอยน้ำขิง เมี่ยงคำ มันเทศต้มขิง

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุน้ำ

เจ้าสาวราศีกรกฎ  (15 ก.ค. – 16 ส.ค.)
• เป็นคนชอบสันโดษ เข้าถึงยาก ความคิดระเอียดและอ่อนโยน
• น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงเร็ว โรคประจำตัวคือ โรคความดัน เล็บมือเล็บท้าวไม่แข็งแรง ผมแห้ง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขมและเปรี้ยว
• น้ำผลไม้ มะนาว ส้ม สัปปะรด มะยม กระท้อน มะขาม กระเจี๊ยบ อะโวคาโด้
• ผักสด ขี้เหล็ก แคแดง ผัดติ้ว  แครอท มะแว้ง ใบยอ  ผักหวาน ผัดบุ้ง
• อาหาร ปลาเนื้อขาว เต้าหู้ ยำผักสดแบบบ้านๆ แกงอ่อม ต้มส้ม ผัดเปรี้ยวหวาน

เจ้าสาวราศีพิจิก  (16 พ.ย. – 15 ธ.ค.)
• เป็นลึกลับ ชอบเก็บตัว เข้าถึงยาก จิตใจอ่อนไหวง่าย
• อ้วนง่าย ชอบกิน โรคประจำตัวคือ โรคความดัน ไขมันสะสมง่าย กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขมและเปรี้ยว
• น้ำผลไม้ มะนาว ส้ม สัปปะรด มะยม กระท้อน มะขาม กระเจี๊ยบ น้ำผึ้งแท้100% โยเกิร์ต
• ผักสด ขี้เหล็ก แคแดง ผัดติ้ว  แครอท มะแว้ง ใบยอ
• อาหาร ปลาเนื้อขาว เต้าหู้ ยำผักสดแบบบ้านๆ แกงอ่อม ต้มส้ม ผัดเปรี้ยวหวาน

เจ้าสาวราศีมีน  (13 มี.ค. – 12 เม.ย.)
• มีโลกส่วนตัวสูง เชื่อในสิ่งเร้นลับ ชอบการแสวงหา
• น้ำหนักเปลี่ยนแปลงง่าย โรคประจำตัวคือ โรคความดัน ไซนัสอักเสบ ลมหายใจมีกลิ่นไม่สดชื่น
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขมและเปรี้ยว
• น้ำผลไม้ มะนาว ส้ม สัปปะรด มะยม กระท้อน มะขาม กระเจี๊ยบ เบอรี่สีแดง
• ผักสด ขี้เหล็ก แคแดง ผัดติ้ว  แครอท มะแว้ง ใบยอ
• อาหาร ปลาเนื้อขาว เต้าหู้ ยำผักสดแบบบ้านๆ แกงอ่อม ต้มส้ม ผัดเปรี้ยวหวาน

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

และสิ่งที่เจ้าสาวที่มีธาตุเจ้าเรือนแตกต่างกัน มีเคล็ดลับเพิ่มเติมให้ คือสามารถรับประทาน น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ 100% ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมาก และยังบำรุงสมองและผิวพรรณ ที่สำคัญสามารถใส่ลงไปในเครื่องดื่มและอาหารทุกอย่างได้ด้วย

ว่าที่เจ้าสาวที่อยาก ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน รวมถึงสาวๆ สามารถนำไปใช้ได้เพื่อเตรียมพร้อม ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน รับรองว่าสุขภาพดียิ่งขึ้น รวมไปถึงมีผิวพรรณที่สวยงามตามไปด้วยนะจ๊ะ และถ้าหากอยากให้สุขภาพดีจากสมุนไพรไทยลองไปอ่าน มาฟังคำแนะนำจากเภสัชกรว่า เลือกสมุนไพรบำรุงความงามยังไงให้เจ้าสาวสวยปัง กันดูนะ

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก อ.อินทร์ชิรา (วชิราภรณ์ ห้าวหาญ)
นักพยากรณ์และนักโภชนากร ประสบการณ์มากกว่า 20ปี ในธุรกิจอาหาร

ภาพจาก : Pinterest.com , cheechongruay.smartsme.co.th , CatDumb.com

รู้ไว้ก่อนเลือก…กับรายละเอียดที่บ่าวสาวต้องใส่ใจใน วิดีโองานแต่ง

วิดีโองานแต่ง อีกหนึ่งการบันทึกความทรงจำที่บ่าวสาวต้องใส่ใจ

ปัจจุบันการบันทึกแค่ภาพนิ่งในวันสำคัญอาจไม่เพียงพอสำหรับว่าที่บ่าวสาวบางคู่ เพราะฉะนั้น วิดีโองานแต่ง หรือพรีเซ้นต์เทชั่นจึงเป็นอีกหนึ่งอิลิเม้นต์สำคัญที่บ่าวสาวหลายคู่หันมาให้ความสำคัญและมักเลือกใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง แต่ก่อนที่จะจ้างทีมช่างวิดีโอ หรือทำพรีเซ้นต์เทชั่นงานแต่ง ว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายจงมาศึกษาหน่วยนี้ในงานแต่งกันให้ดีก่อนดีกว่าว่า ทีมช่างวิดีโอนั้นเขาทำงานกันอย่างไร และว่าที่บ่าวสาวต้องเตรียมอะไรบ้างหากจะทำพรีเซ้นต์เทชั่นงานแต่ง

ทีมงานบันทึกวิดีโอในงานแต่งงาน แบ่งออกเป็น

  • ช่างหลัก : ทำหน้าที่เก็บเนื้องานหรือบรรยากาศหลักๆ ทั้งหมด คอยเก็บภาพแขกที่เข้ามาร่วมงานให้ได้มากที่สุด ไม่เน้นภาพสวยเท่าใดนัก เพราะต้องการปริมาณภาพเป็นหลัก
  • ช่างเก็บภาพสวย : หรือเรียกว่า Cinematographer จะเก็บแต่ภาพมุมมองสวยๆ องค์ประกอบภาพหรือจังหวะดีๆ บวกกับการสร้างเรื่องราวให้ได้ ซึ่งช่างภาพในลักษณะนี้บางครั้งจำเป็นต้องมีหลายคนเพื่อให้ได้ภาพหลายมุมมอง ต้องใช้สมาธิในการถ่ายภาพสูงและต้องใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ อีกเพียบ เช่น ดอลลี่ เครน กล้องสเตดี้ เป็นต้น เพื่อให้ภาพออกมาดูสวยและมีคุณภาพที่สุด
  • ช่างภาพขึ้นจอ : หน้าที่หลักคือนำภาพจากหน้าแบ็กดร็อปขึ้นขอโปรเจกเตอร์ให้แขกในงานได้รับชมกันแบบสดๆ ตั้งแต่หน้างานไปจนถึงช่วงพิธีการด้านใน เป็นการใช้ภาพจากหลายมุมกล้อง ตัดสลับกันในเวลาเดียวกัน โดยมีการควบคุมจากผู้ที่คุมสวิตช์อีกที จะทำให้ได้ภาพกิจกรรมในมุมต่างๆ แบบสดๆ ตัดสลับได้

วิดีโองานแต่ง

เทคนิคการจะบันทึกภาพให้ได้ดีต้องดูสถานที่จัดงานเป็นหลัก ดังนี้

  • ห้องที่มีขนาดกว้างหรือใหญ่ ฉากหลังจะรับภาพได้ไกล ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น สามารถทำงานได้ด้วยเลนส์ระยะไกล ทำให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติของคู่บ่าวสาว
  • ห้องขนาดเล็ก ทำให้ระหว่างทำงานอาจต้องกระทบกระแทกกับแขกบ้าง เพราะบางครั้งภาพที่เกิดขึ้นนั้นต้องอาศัยจังหวะที่เร็วเพื่อเก็บภาพ และแขกในงานอาจมีจำนวนมาก จึงทำให้พื้นที่ในการทำงานของช่างภาพลดลงไป

รายละเอียดที่บ่าวสาวควรบอกกับทีมบันทึกวิดีโอ

  • รูปแบบของงานแต่งงาน เช่น ค็อกเทล บุฟเฟ่ต์ โต๊ะจีน คอนเซปต์ สไตล์ของภาพที่อยากได้และธีมงาน แบบแปลนของห้องที่บอกว่าสิ่งใดอยู่ตรงไหน เพื่อให้รับทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนไหน ที่ไหน
  • ซีเควนซ์พิเศษ บางงานอาจมีลำดับพิธีที่แตกต่างกันออกไป เช่น เซอร์ไพรส์จากเพื่อนที่ออกมาร้องเพลงให้เกิดขึ้นตอนไหน นักร้อง/นักแสดงมาช่วงเวลาใด หรือแม้กระทั่งการเปิดตัวบ่าวสาวเดินเข้างานจะเริ่มจากที่ไหน มาเจอกันตรงไหน หรือการโยนดอกไม้บางงานไม่โยนบูเกต์ แต่เจ้าสาวจะเดินนำไปให้เพื่อนเลย ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ควรบอกให้ทีมบันทึกภาพอัดวิดีโอทราบ เพื่อจะได้วางแผนการทำงานได้ว่าใครจะต้องรอดักมุมไหน ใช้เลนส์หรืออุปกรณ์ชนิดใดในกรณีที่มีความพิเศษหรือเฉพาะของช่วงนั้นๆ

การทำพรีเซ้นต์เทชั่นให้ปัง

–  การทำพรีเซ้นต์เทชั่นงานแต่งงานไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคู่บ่าวสาวว่ามีความสร้างสรรค์มากน้อยเพียงใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานเกิดความประทับใจและได้รู้จักบ่าวสาวมากขึ้น

– วิดีโอพรีเซ้นต์เทชั่นมีมากมายหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเรียงร้อยเรื่องราวด้วยภาพถ่าย การ์ตูนเอนิเมชั่น หรือภาพยนตร์สั้นที่บอกเล่าเรื่องราว แต่ความยาวต้องไม่เกิน 8 นาทีนะจ๊ะ เพราะหากนานเกินไปแขกจะเบื่อแล้วหันไปสนใจอาหารแทนพรีเซ้นต์งานแต่งงานของบ่าวสาวเอาได้

– ควรบอกถึงความต้องการของตนเองว่าอยากให้ทีมงานสร้างสรรค์พรีเซ้นท์เทชั่นให้ออกมาสไตล์ไหน ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการถ่ายภาพนิ่งหรือพรีเวดดิ้งนั่นแหละคะ

– การถ่ายทำพรีเซ้นต์เทชั่นนอกสถานที่ คู่บ่าวสาวต้องศึกษาทำความเข้าใจกับสถานที่นั้นๆ เพื่อที่ช่างทำพรีเซ้นต์เทชั่นจะได้เตรียมอุปกรณ์และแผนสำรองต่างๆ ให้พร้อม เพราะการทำงานนอกสถานที่นั้น เรื่องไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้เสมอ

– ถ้าบ่าวสาวชอบสถานที่ใดเป็นพิเศษ ควรเป็นสถานที่ที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่อยากนำเสนอให้แขกได้ชม

คุยกับช่างวิดีโอในงานแต่งอย่างไรให้งานออกมาเป๊ะ ไม่มีพลาด คลิกเลย!!

ภาพ : unsplash.com

เคล็บลับจัดงานแต่งให้หรูไม่แคร์งบ มีงบหลักแสนแต่ได้งานแต่งระดับล้าน!

เคล็บลับจัดงานแต่งให้หรูไม่แคร์งบ มีงบหลักแสนแต่ได้งานแต่งระดับล้าน!

ทันทีที่คู่รักตัดสินใจจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคงหนีไม้พ้น จะต้องใช้เงินเท่าไหร่เนี่ย?’ และแน่นอนว่าเหล่าว่าที่ทั้งหลายก็ย่อมมีงานแต่งในฝัน และอยากที่จะให้งานออกมาดูหรูหราเพอร์เฟกต์เป็นที่ประทับใจ จนแขกต้องเอ่ยปากชม แพรว wedding เลยมีเคล็ดลับแบบไม่แคร์งบแต่จบที่งานแต่งสุดหรูมาฝาก จะทำตามยากง่ายแค่ไหน ไปดู เคล็บลับจัดงานแต่ง ที่เรานำมาฝากกันเลย

ใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่ง

บ่าวสาวควรมีส่วนตัดสินใจตั้งแต่เรื่องเลือกดอกไม้ไปจนถึงอาหารที่เสิร์ฟ เพราะหากเดินเข้าไปคุยกับเซลล์โรงแรม แน่นอนว่าสิ่งที่บ่าวสาวจะได้ก็อาจจะเป็นแพตเทิร์นเดียวกันกับงานแต่งงานอื่นๆ ที่เคยจัดมาแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้งานแต่งงานของบ่าวสาวดูแตกต่างคือการคัดสรรสิ่งที่ดีสุดมาใส่ไว้ในงาน ซึ่งงานนี้บ่าวสาวอาจจะต้องใช้ความพยายามในการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเองให้เจอ แต่ถ้าหากบ่าวสาวเลือกใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ เราขอแนะนำให้คุณคุยกับแพลนเนอร์อย่างเปิดใจเพื่อให้แพลนเนอร์เข้าถึงและเข้าใจในตัวตน และความต้องการของบ่าวสาวให้มากที่สุด

สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับแขก

การทำให้แขกรู้สึกว่าเขาได้รับการต้อนรับดูแลเป็นอย่างดีและรู้สึกสนุกร่วมไปกับงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดงานให้ดูหรูแบบไม่ต้องใช้งบใดๆ เพราะใช้ใจล้วนๆ และเป็นข้อที่ทำง่ายที่สุดไม่ว่าคุณจะมีงบเท่าไหร่ โดยการเน้นการลงรายละเอียดและการบริหารจัดการที่ลื่นไหล ซึ่งบ่าวสาวอาจจะลองสมมติให้ตัวเองเป็นแขกที่จะมาร่วมงาน แล้วคิดว่าสิ่งไหนที่คุณจะได้เห็นหรืออยากเห็น หรืออะไรและตรงไหนที่คุณอยากจะมีส่วนร่วมด้วยมากที่สุด จะช่วยให้บ่าวสาวคิดได้ว่าคุณอยากให้งานแต่งงานของตัวเองนั้นออกมาเป็นแบบไหนในรูปแบบใด จากนั้นก็ลองคิดต่อไปอีกนิดว่าจุดไหนที่คุณจะสามารถสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้แขกได้อีกบ้าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งนั้นต้องไม่ใช้สิ่งที่ทำแล้วจะทำให้บ่าวสาวต้องเสียเวลาหรือเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแปะโน้ตทักทายเล็กๆ หรืออะไรก็ตามที่คุณสามารถเตรียมการล่วงหน้าไว้ได้อย่างไม่หนักหนาหรือเกินกำลังจนเกินไป

เคล็ดลับจัดงานแต่ง

หรือหากบ่าวสาวเลือกจัดงานแบบซิตดาวน์ดินเนอร์ หรือจัดโต๊ะอาหารแบบที่ระบุเลขที่นั่ง ก็อาจจะจัดให้มี seating chart และมีป้ายชื่อให้ชัดเจน แทนที่จะให้แขกเดินงงๆ หาโต๊ะเองกันให้วุ่นวาย หรืออาจจะจัดให้เพื่อนบ่าวสาวเป็นคนเชิญแขกไปนั่งให้ถึงโต๊ะ นี่ก็ถือเป็นเพียงดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นสิ่งที่งานแต่งสไตล์ลักชัวรี่ต้องการที่สุด

เน้นความรู้สึกร่วมแบบ 4D

เราอยากให้บ่าวสาวมองงานแต่งงานเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ดูแลแขกให้ได้แฮปปี้กันถ้วนหน้า และแน่นอนว่าต้องครบถ้วนทุกสัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เพราะการจัดงานก็เหมือนโปรดักชั่นอย่างหนึ่ง ที่บ่าวสาวต้องให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ เพราะทุกอย่างล้วนมีส่วนสำคัญต่องาน ไม่ว่าจะเป็น อาหารหรือความเอนเตอร์เทน ซึ่งแต่ละอย่างก็จะต้องทำหน้าที่สนองทุกความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปด้วย เช่น อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ อาฟเตอร์ปาร์ตี้สนุก อย่างนี้เป็นต้น

จัดงานแต่งงาน

ทำเช็กลิสต์งานแต่งป้องกันการตกหล่น

การสร้างไทม์ไลน์และเช็กลิสต์จะช่วยบ่าวสาวได้มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะก๊อปจากอินเทอร์เน็ตมาใช้แบบเป๊ะๆ เลยนะจ๊ะ แต่บ่าวสาวควรจะนำมาปรับให้เข้ากับงานตัวเองด้วย เพราะถ้าไปหาเช็กลิสต์แบบ 12 เดือนมาดู แต่กลับมีเวลาเตรียมงานจริงๆ แค่ 4 เดือน โอโห คราวนี้งานเข้าแน่ๆ เพราะจากที่มีเวลาเตรียมตัวน้อยอยู่แล้ว ยังต้องมางงกับตารางอีกว่าจะเริ่มทำอะไรตรงไหนก่อนดี เพราะฉะนั้นการทำเช็กลิสต์ขึ้นมาเพื่องานแต่งของคุณเองโดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงเวลาที่คุณมี จำนวนแขก และสิ่งที่บ่าวสาวต้องการ หรือสิ่งที่บ่าวสาวอยากให้มีหรือเกิดขึ้นภายในงาน ก็จะทำให้คุณทราบได้ทันทีว่าควรจะต้องทำอะไรในเดือนไหนล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน

ตามเทรนด์ได้ แต่ต้องเป็นตัวเองด้วย

ก่อนอื่นบ่าวสาวต้องเข้าใจก่อนว่างานแต่งงานไม่เหมือนงานแฟชั่นบนรันเวย์นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นอย่าเอาเทรนด์มาใส่ในงานแต่งของงคุณจนลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าบ่าวสาวจะเลือกจัดงานแต่งตามเทรนด์ไม่ได้น้า เพียงแค่จะต้องคำนึงว่าเทรนด์ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนั้น เป็นสิ่งที่หากคุณทั้งคู่อยากจะย้อนกลับมาดูอีกครั้งหรือไม่เมื่อเวลาผ่านไปสักสิบหรือยี่สิบปี และเมื่อได้ย้อนกลับมาดูอีกครั้งคุณจะเกิดความรู้สึกแบบไหนระหว่างมีความสุข หรือรู้สึกพลาดว่าไม่น่าจัดแบบนั้นเลย หรือคุณกล้าที่จะนำมาอวดให้ลูกให้หลานดูหรือเปล่า และถ้าพวกเขาถามว่าคุณได้แรงบันดาลใจในการจัดงานมาจากไหน คุณก็คงไม่อยากบอกว่าก๊อปมาจากหนังเรื่องโปรดหรอกจริงไหม แต่ถ้าเทรนด์ใหม่มันใช่สำหรับคุณทั้งคู่แล้วล่ะก็ ถ้าจะจัดตามนั้นเราก็ไม่ขัดนะคะ

ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วยิ้มให้สุดในวันแต่งงาน

สิ่งที่บ่าวสาวควรจะทำมากที่สุดในวันแต่งงานก็คือ การควบคุมสติและสีหน้าให้ดี เพราะไม่ว่างานจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหากเกิดปัญหาแล้วบ่าวสาวคุมสีหน้าไม่ได้ บางทีก็อาจจะทำงานกร่อยเอาได้ง่ายๆ เหมือนกันนะคะ เพราะถ้าหากบ่าวสาวกังวลจนเริ่มนั่งไม่ติด พาลอาการหงุดหงิดขึ้นหน้าด้วยแล้วล่ะก็ แขกที่มาร่วมงานอาจจะเริ่มสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนอาจทำให้แขกพาลมองหาสิ่งผิดปกติแทนที่จะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศภายในงานแต่งงาน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ่าวสาวก็ควรที่จะยิ้มเข้าไว้ แล้วปล่อยใจให้มีความสุขกับวันสำคัญในชีวิตก็พอ

จำไว้ว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง!

เชื่อหรือไม่ว่า งานแต่งที่ใช้เงินเป็นล้านๆ ก็ออกมาดีไม่ได้ถ้าบรรยากาศในงานไม่ไปด้วยกัน และแน่นอนว่าสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ก็คือบรรยากาศแห่งความสุขที่แขกในงานจะช่วยส่งต่อให้ตัวงานสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพราะงานแต่งงานที่ดีที่สุดไม่ใช่งานที่ใช้เงินเยอะที่สุด แต่เป็นงานที่บ่าวสาวมีความสุขและมีรอยยิ้มอิ่มใจตลอดเวลาต่างหาก

และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับจัดงานแต่งง่ายๆ ที่บ่าวสาวสามารถทำตามได้แบบไม่เหนือบ่ากว่าแรง จัดงานแต่งให้ดูหรูแบบไม่แคร์งบแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะแคร์ธรรมชาติด้วยนะจ๊ะกับ 5 เคล็ดลับจัดงานแต่งงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ภาพ : pexels.com, pinterest.com

เตรียมตัวก่อนจองห้องจัดเลี้ยงตามนี้ รับรองไม่มีความนกแน่นอน

ตามมาส่องเทคนิคการ จองห้องจัดเลี้ยง อย่างไรไม่ให้พลาดได้ที่นี่

ในการเตรียมงานแต่ง อันดับแรกที่บ่าวสาวต้องทำคือการหาสถานที่จัดเลี้ยงที่เหมาะกับงานแต่งงานของบ่าวสาว ซึ่งแน่นอนว่าบางคู่อาจจะมีสถานที่ในใจกันแล้ว แต่สถานที่ในใจกับความเป็นจริงที่จะจัดได้นั้น เหมือนกันหรือเปล่า? แพรว wedding เลยจะมาขอสะกิดสติว่าที่บ่าวสาวกันสักนิดก่อนคิดจะ จองห้องจัดเลี้ยง ว่าควรจะเลือกที่ไหน และต้อคำนึงถึงสิ่งใดและปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้สถานที่นั้นเป็นสถานที่แต่งงานสุดเพอร์เฟกต์สำหรับคุณทั้งคู่

– ก่อนอื่นต้องหาวันหรือดูฤกษ์แต่งงานให้พร้อม ถ้าเป็นไปได้ควรจะมีวันสำรองไว้ เพราะถ้าเป็นวันที่ฤกษ์ดีมากๆ อาจมีหลายคู่ที่แต่งในวันนั้น ซึ่งสถานที่จัดเลี้ยงบางแห่งจึงอาจเต็มได้

– เมื่อได้ฤกษ์มาแล้วบ่าวสาวควรจะมีสถานที่แต่งงานในใจก่อนสัก 3-4 แห่ง ซึ่งควรเป็นสถานที่ที่บ่าวสาวชอบ อยากแต่งงานที่นี่ หลังจากนั้นให้โทร. สอบถามกับทางโรงแรมว่า ในวันนั้นห้องเต็มหรือไม่หรือเหลือห้องแบบใดบ้าง และทำการนัดหมายเพื่อเข้าไปดูสถานที่ก่อน ไม่ควรวอร์คอินเข้าไปเพราะเซลล์อาจจะไม่ว่างหรือไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการพาไปดูห้องได้ เนื่องจากอาจมีการจัดเลี้ยงอยู่ ซึ่งนอกจากจะเสียความรู้สึกแล้วยังเสียเวลาด้วย

– ควรเริ่มวางโครงร่างคร่าวๆ ก่อนว่าอยากจัดงานเป็นรูปแบบไหน เช่น งานเลี้ยงค็อกเทล บุฟเฟต์ โต๊ะจีน ซิตดาวน์ดินเนอร์ อินดอร์หรือเอ้าท์ดอร์

– นับจำนวนแขกทั้งสองฝ่ายคร่าวๆ แล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 10-20 เปอร์เซ็นต์ล่วงหน้ากันตกหล่น และต้องสอบถามว่าห้องนั้นๆ สามารถรองรับแขกได้สูงสุดเท่าไหร่ เพียงพอกับจำนวนการ์ดเชิญหรือไม่

– คำนวณงบประมาณ ที่ต้องใช้ในการจัดงานคร่าวๆ เท่าที่พอจะเป็นไปได้

– เริ่มลิสต์รายชื่อโรงแรม โดยดูที่ทำเลก่อนว่าอยากได้เป็นโซนในเมืองที่มีทางเลือกในการเดินทางในการเดินทางมาได้หลายวิธี เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือชอบทำเลริมน้ำเพื่อให้ได้บรรยากาศสุดฟิน จากนั้นจึงค่อยๆ เริ่มตัดตัวเลือกว่า ขนาดห้องจัดเลี้ยงแต่ละแห่งนั้นที่ใดพอจะเป็นไปได้ แล้วจึงคอยโทร. ไปเช็กวันว่างและนัดดูสถานที่พร้อมคุยรายละเอียดกับเซลล์ และอย่าลืมเช็กเรื่องจำนวนที่จอดรถกันด้วยนะจ๊ะ

– หลังจากที่นัดดูห้องพร้อมคุยรายละเอียดกับเซลล์โรงแรมเรียบร้อยแล้ว จึงตกลงทำสัญญาและวางเงินมัดจำก้อนแรก โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายทั้งงาน จากนั้นจะมีระยะเวลาในการชำระค่ามัดจำก้อนต่อไปตามนโยบายของสถานที่นั้นๆ

จองห้องจัดเลี้ยง

ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึง

– เรื่องทางเข้าออกของสถานที่ นับตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงห้องจัดเลี้ยงว่ามีความสะดวกมากน้อยเพียงใด ที่จอดรถเพียงพอหรือไม่ หรือมีทางเลือกอื่น เช่น โรงแรมอาจมีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าเข้าถึงโรงแรมเลย ก็ยิ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่แขกที่มาร่วมงาน

– ลักษณะการตกแต่งของห้องจัดเลี้ยงเป็นแบบที่เราชอบหรือไม่ เช่น ดูโปร่งโล่งหรือมีเสาบังหรือเปล่า สามารถมองเห็นบ่าวสาวได้จากทุกมุมของห้องหรือไม่ หรือถ้าเป็นห้องที่ชัดเจนในเรื่องคอนเซปต์ของตัวห้อง ให้พิจารณาว่าขนาดของห้องสามารถรองรับแขกได้เต็มที่เท่าไหร่

– สถานที่นั้นๆ มีอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่จะต้องใช้ในช่วงพิธีการให้หรือไม่ เช่น ไฟฟอลโลว์ จอแอลซีดี โปรเจ็กเตอร์ เครื่องเล่นดีวีดี ไมโครโฟน ฯลฯ เผื่อในกรณที่ไม่มีให้บริการ บ่าวสาวจะได้หาอุปกรณ์มาเสริมให้ครบครัน

– อุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งและจัดสถานที่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ผ้าคลุมโต๊ะ มีสีหรือรูปแบบอะไรบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องการจัดและตกแต่งสถานที่เพิ่มเติม เพื่อที่บ่าวสาวจะได้วางแผนล่วงหน้าถ้าต้องหาบริการจากข้างนอกมาเสริมในกรณีที่ไม่มีเตรียมไว้ให้

ถ้าเลือกสถานที่กันได้แล้ว ก็ขอเชิญไปที่สเดชั่นต่อไปตามนี้เลย 5 สไตล์การจัดเลี้ยงงานแต่ง เลือกแบบไหนให้งานแต่งรอด?!

ภาพ : longwoodvenues.com, pexels.com

อัพเดท แบบชุดแต่งงาน คอลเล็กชั่นใหม่ Fall Bridal จากแบรนด์ H&M

H&M แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นเอาใจว่าที่เจ้าสาวกับ แบบชุดแต่งงาน ในคอลเล็กชั่น Fall Bridal ที่งานนี้มาพร้อมราคาที่เจ้าสาวทุกคนจับต้องได้ แถมยังมีแบบชุดแต่งงานให้เลือกหลายหลายตั้งแต่ ชุดแต่งงานลูกไม้ไปจนถึงชุดแต่งงานเรียบเนี้ยบด้วยคัตติ้งสุดทันสมัย ที่สำคัญยังออกแบบมาให้เหมาะกับเจ้าสาวทุกบุคลิกอีกด้วย

คอลเล็กชั่นนี้ดีไซน์ออกมาในกลิ่นอายสไตล์วินเทจ โดดเด่นด้วยผ้าลูกไม้ ผ้าทูลล์ และการประดับเลื่อมลงบนตัวชุด พร้อมรูปทรงชุดที่เรียบง่ายแต่ดูทันสมัยอย่าง ชุดแต่งงานสายเดี่ยว หรือชุดแต่งงานแบบสองชิ้น ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก เหมาะมากที่จะสอยมาใส่ในวันสำคัญสุดๆ ยิ่งถ้าหากเจ้าสาวกำลังอยากประหยัดงบด้วยล่ะก็บอกเลยว่าเหมาะมากๆ

ราคา $299 หรือราวๆ 9,000 บาท

ราคา $349 หรือราว 10,000 บาท

ราคา $249 หรือราว 7,500 บาท

ราคา $149 หรือราว 4,500 บาท

ราคา $149 หรือราว 4,500 บาท

เสื้อครอปผ้าลูกไม้ราคา $69.99 หรือราว 2,000 บาท

นอกจากนี้ H&M ยังมีชุดเดรสสวยๆ ออกมาเอาใจแก๊งเพื่อนเจ้าสาว หรือสาวๆ ที่กำลังหาชุดใส่ไปงานในฐานะแขก ก็เรียกได้ว่าสวยรอดหมด เพราะ H&M จัดมาให้ในธีมสี Jewel สุดหรู พร้อมรูปแบบชุดที่มีความหลากหลายเหมาะสำหรับสาวๆ ทุกแบบ

ราคา $99 หรือราว 3,000 บาท

ราคา $79.99 หรือราว 2,400 บาท

ราคา $69.99 หรือราว 2,000 บาท

ราคา $34.99 หรือราว 1,000 บาท

เรียกได้ว่างานนี้เจ้าสาวและแก๊งเพื่อนเจ้าสาวสามารถควงแขนยกแก๊งกันไปช้อปชุดด้วยกันได้เลย

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

cr. Brides.com

อาหารไทยสำหรับเจ้าสาวที่กำลัง ไดเอ็ท กินยังไงก็ไม่อ้วนแถมเปี่ยมด้วยประโยชน์

ว่าที่เจ้าสาวที่กำลัง ไดเอ็ท เตรียมหุ่นสวยในวันแต่งงาน คุณมาถูกที่แล้วค่ะ เพราะท่ามกลางกระแสนิยมอาหารออร์แกนิคส์จากเมืองนอกที่มีวัตถุดิบราคาแพงทั้งหลาย เราอยากจะกระซิบบอกเหล่าคุณว่าที่เจ้าสาว ว่าแท้ที่จริงแล้วไม่ต้องไปหาที่ไหนอื่นไกล อาหารไทยบ้านเรามีหลากหลายเมนูที่นอกจากจะเปี่ยมด้วยคุณค่าจากสมุนไพรไทยหลากชนิด ยังไม่ทำให้อ้วนเพราะให้พลังงานไม่สูง และที่สำคัญราคาไม่แพงแถมหากินง่าย ทำกินเองที่บ้านก็ยังได้ ของไทยของเรานี่ดีจริงๆค่ะ ^^  ว่าแล้วมาดูกันเลยค่ะว่าอาหารไทยอะไรบ้างที่จะช่วยให้หุ่นคุณว่าที่เจ้าสาวลีนสวยในวันวิวาห์

อาหารไทย ไดเอ็ท
photo from: eatingthaifood.com

น้ำพริก

สมุนไพรกลุ่มเผ็ดร้อนในน้ำพริก ไม่ว่าจะเป็น ข่า ตะไคร้ หอมแดง และพริก ต่างก็เปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดเชื้อโรคในทางเดินอาหาร กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต แนะนำให้ทานคู่กับผักสดเป็นหลัก ทานข้าวไม่เยอะ เป็นอาหารไดเอ็ทให้พลังงานน้อยแถมอร่อยอีกด้วย

แกงเลียง

มีงานวิจัยจาก สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่ามุนไพรและส่วนประกอบในแกงเลียง ไม่ว่าจะเป็นกระชาย หอมแดง กะปิ พริกไทย ฟักทอง บวบ ตำลึง หรือ ใบแมงลัก เมื่อผสมผสานกันแล้วสามารถลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนั้นส่วนผสมเหล่านี้ยังให้พลังงานต่ำ ซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอดีงาม ทั้งอร่อยและไม่อ้วนด้วยค่ะ

แกงป่า

อีกหนึ่งแกงไทยที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งเช่นเดียวกับแกงเลียง ตะไคร้และข่าในแกงป่ายังมีฤทธิ์ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ทานคู่กับขนมจีนอร่อยเว่อร์ (พูดแล้วเราก็หิวเลยค่ะ อิอิ) นอกจากนั้นขนมจีนยังเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานไม่สูง คือประมาณ 80 แคลอรีต่อ 1จับเท่านั้นเอง แต่เราแอบเตือนว่าพยายามเลือกขนมจีนเส้นสดที่ไม่ใส่สารกันบูดนะคะ

อาหารไทย ไดเอ็ท
photo from: eatingthaifood.com

แกงส้ม

ผักและสมุนไพรต่างๆ ในแกงส้ม ก็มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งอีกเช่นกันค่ะ นอกจากนั้นแล้ว ผักต่างๆที่นิยมใส่ในแกงส้ม อย่างผักบุ้งไทย มีสารแคโรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวพรรณเราดูอ่อนเยาว์ด้วยนะ

ต้มยำ

พริก ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในต้มยำ ช่วยบรรเทาความดันโลหิตและต้านอนุมูลอิสระ ส่วนประกอบอื่นๆ อย่างใบมะกรูดก็ยังช่วยแก้อาการจุดเสียดแน่นท้องและแก้ไอได้ด้วยค่ะ เราแนะนำว่าเจ้าสาวที่กำลังไดเอ็ทควรเลือกทานต้มยำชนิดน้ำใสที่ไม่ใส่กะทิหรือนมข้นจืดนะคะ

น้ำตก / ลาบ

ผักชีและใบสะระแหน่ในน้ำตกหรือลาบ อาหารอีสานสุดโปรดของหลายๆคน ช่วยดูดซับแก๊สในช่องท้อง แก้อาการท้องอืดได้ดี ผักชียังมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ส่วนหอมแดงช่วยป้องกันหวัดได้ค่ะ แต่เราแนะนำให้เลือกลาบที่ให้พลังงานไม่สูงมาก อย่างลาบไก่ หรือลาบหมูไม่ติดมัน จะดีกว่าลาบหมูติดมันเยอะๆหรือลาบวุ้นเส้นที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตพลังงานสูงค่ะ

อาหารไทย ไดเอ็ท
photo from: eatingthaifood.com

และสุดท้าย เราอยากฝากว่าทานอาหารไทยที่มีประโยชน์เหล่านี้แล้ว ให้ระวังเรื่องการใส่โซเดียม หรือผงชูรสมากไปด้วยนะคะ ทางที่ดีถ้าทำทานเองที่บ้านได้จะช่วยให้เราอุ่นใจเรื่องส่วนประกอบที่สะอาดและปลอดภัยได้ค่ะ และอีกอย่างหนึ่งคืออย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์หุ่นสวยควบคู่กันไปด้วยนะคะ

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th, pharmacy.mahidol.ac.th, medthai.com

ขอขอบพระคุณภาพจาก eatingthaifood.com