วางแผนจัดงานแต่ง นับถอยหลัง 1 ปี บ่าวสาวต้องทำอะไรบ้าง

HOW TO วางแผนจัดงานแต่ง ล่วงหน้า 1 ปีง่ายๆ

จะจัดงานแต่งงานสักงาน บ่าวสาวต้อง วางแผนจัดงานแต่ง ล่วงหน้าเป็นปี บางคู่อาจจะปีกว่าด้วยซ้ำไป ฟังดูแบบนี้แล้วรู้สึกว่าเตรียมการนานจัง ในแต่ละเดือนทำอะไรกัน เราจะมาเคาท์ดาวน์ให้ดูกันแบบ 1 ปี จนถึงคืนก่อนแต่งงานเลยทีเดียว

1 ปีก่อนถึงวันแต่งงาน

วางงบประมาณ เรื่องเงินเป็นเรื่องสำคัญ “จะเปย์เท่าไหร่ไปกับงานแต่ง ?” คือสิ่งแรกที่คุณบ่าวสาวต้องปรึกษากัน ก่อนจะเริ่มลงมือวางแผนจัดงานในขั้นตอนต่อไป หรือจะจูงมือกันไปปรึกษาเวดดิ้งแพลนเนอร์เพื่อช่วยให้ วางแผนจัดงานแต่ง เป็นเรื่องง่ายขึ้นก็ได้

ลิสต์รายชื่อแขก เมื่อจำนวนเงินมาแล้ว อันดับต่อมาคือเรื่องแขก ว่างบเท่านี้ของเรา ควรจะเชิญแขกมาเท่าไหร่ดีนะ อ้อ! อย่าลืมเผื่อสำหรับแขกของคุณพ่อ คุณแม่ด้วย

เลือกธีมงานแต่ง ก่อนจะเริ่มคิดตกแต่งและหาสถานที่ เรื่องธีมและคอนเซปต์ของงานเป็นเรื่องสำคัญมว๊าก ที่จะช่วยให้การจัดงานเป็นเรื่องง่าย การเข้ามาดูไอเดียใน แพรว wedding ก็ช่วยให้ได้ไอเดียดีๆ นะ

10 เดือน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– หาเวดดิ้งแพลนเนอร์ เมื่อมีครบทั้งเงิน ทั้งธีมแล้ว จึงเริ่มมองหาเวดดิ้งแพลนเนอร์ โดยบ่าวสาวสามารถเลือกแพลนเนอร์ได้จากการพูดคุย ดูจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละเจ้าก็มีแนวงานที่ถนัดแตกต่างกัน ลองเอามาเปรียบเทียบกับธีมงานของเรา แล้วค่อยตัดสินใจเลือกก็ได้

– จองสถานที่ เมื่อได้ธีมหรือคอนเซปต์ของงานแล้ว บ่าวสาวจะรู้ว่าต้องการสถานที่แบบไหน งานกลางแจ้ง หรืองานในโรงแรม เมื่อตกลงปลงใจเรื่องสถานที่แล้ว ก็อย่ารอช้ารีบไปจองสถานที่เลย เพราะถ้าช้าอาจทำให้ผิดหวังได้ โดยเฉพาะช่วงพีคของงานแต่งอย่างช่วงต้นปี-ปลายปี เป็นต้น

– มองหาชุดแต่งงาน เป็นช่วงที่บ่าวสาวเริ่มต้องมองหาชุดแต่งงานที่ถูกใจแล้ว บางคนอาจจะคิดว่าอีกตั้ง 10 เดือน จะรีบไปทำไม แต่อย่าชะล่าใจไป เพราะเชื่อสิว่ากว่าจะได้ชุดที่ถูกใจต้องตระเวนหาอีกหลายร้านจนเหนื่อยเลยล่ะ

8 เดือน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– จองช่างภาพ หากอยากได้ช่างภาพชื่อดัง ยิ่งต้องจองแต่เนิ่นๆ เพราะบางทีคิวของช่างภาพก็ยาวข้ามปี ส่วนวิธีเลือกช่างภาพก็เหมือนหาแพลนเนอร์ คือดูผลงานที่ผ่านมา อ่านรีวิวต่างๆ และอย่าลืมตกลงกับคุณช่างภาพเรื่องไฟล์ภาพ รูปภาพ และการรีทัชภาพให้เรียบร้อย

– เลือกเค้กแต่งงาน อย่าสงสัยว่าทำไมเลือกล่วงหน้านานจัง เพราะการทำเค้กสักก้อนต้องใช้เวลานาน ทำให้ร้านเค้กชื่อดังที่คิวแน่นๆ ก็คิวเต็มเร็ว หรือถ้ายิ่งอยากได้เค้กวิจิตรพิศดารก็ต้องใช้เวลาทำนานไปอีก การสั่งล่วงหน้าจึงเหมือนเป็นการเพิ่มโอกาสให้ได้เค้กจากร้านที่ชอบ

6 เดือน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– ซื้อแหวนแต่งงาน แหวนแต่งงานนะ ไม่ใช่แหวนหมั้น ถึงจะเป็นแหวนเรียบๆ แต่ถ้ามีดีเทลพิเศษก็ยิ่งต้องเฟ้นหา และก็เหมือนชุดแต่งงานนั่นแหละ เพราะมีโอกาสน้อยมากที่บ่าวสาวจะได้แหวนแต่งงานที่ถูกใจตั้งแต่ร้านแรกที่เข้าไปดู

วางแผนฮันนีมูน เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการคุยกันว่าคู่เราจะไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ที่ไหนดี แล้วยิ่งไปต่างประเทศ การจองตั๋ว ทำวีซ่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนกันดีๆ นะ อ้อ! อย่าลืมมองหาโรงแรมที่เป็นส่วนตัวด้วย อิอิ

สั่งตัดชุดเพื่อนเจ้าสาว ชุดเพื่อนเจ้าสาวนั้นยุ่งมาก ยิ่งถ้าเพื่อนเยอะ ความวุ่นวายก็ยิ่งมาก ไหนจะเรื่องผ้าที่เอามาตัดชุด ไหนจะแบบของคุณเพื่อนแต่ละคนที่แตกต่างกัน ไม่นับรวมระยะเวลาที่ใช้ในการตัดอีก บางคู่อาจแก้ปัญหาด้วยการ ให้ผ้าสาวๆ ไปตัดกันเองก็จะช่วยลดระยะเวลาลงได้มากเหมือนกัน แต่ปัจจุบันร้านเช่าชุดแบบสำเร็จรูปก็มีแบบและสีให้เลือกเยอะมาก ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ช่วยลดความปวดหัวและย่นระยะเวลาลงไปได้อีกอึดใจหนึ่ง

4 เดือน ก่อนถึงวันแต่งงาน

เลือกชุดเพื่อนเจ้าบ่าว ชุดเพื่อนเจ้าบ่าวมีความยุ่งยากน้อยกว่าชุดของสาวๆ แต่!…ถ้าตัดชุดสูทแบบทางการระยะเวลา 4 เดือนเนี่ย ถือว่าปกติเลยนะ เพราะความละเอียดของชุดเอย งานคัดติ้งเอย แล้วไหนจะคิวช่างอีก แต่ถ้าจะเปลี่ยนจากชุดทางการเป็นชุดลำลองสบายๆ ก็ช่วยลดความยุ่งยากและระยะเวลาได้ แต่อาจจะต้องตกลงเรื่องสไตล์และธีมสีกันให้ดีๆ นะ

– มองหาช่างหน้า ช่างผม เราอยากจะบอกว่าหากต้องการช่างหน้า ช่างผมตัวท็อปนี่อาจเป็นเวลาที่ช้าเกินไปด้วยซ้ำ เพราะว่าเหล่าตัวท็อปคิวแน่นกันข้ามปี แต่ถ้าไม่แคร์เรื่องนี้ก็ไม่เป็นไร ซึ่งขั้นตอนการเลือกก็ไม่ยากเท่าไหร่ ดูจากผลงานที่ผ่านมา หรือดูจากรีวิวเจ้าสาวรุ่นพี่ แต่ถ้าคุณมีงบเยอะหน่อยและต้องการสร้างความมั่นใจ ก็อาจไปให้ช่างลองแต่ง ลองทำผมดู ถ้าถูกใจก็ตกลงราคากันให้เรียบร้อย ว่าราคานี้ รวมแต่งเพิ่มช่วงระหว่างงานด้วยไหม ถ้าแต่งญาติเจ้าสาวด้วยจะคิดเพิ่มเท่าไหร่

– เลือกเมนูอาหาร หากเป็นอาหารของโรงแรมหรือสถานที่จัดงานเรื่องก็ง่ายหน่อย เพราะส่วนใหญ่มาเป็นแพคเกจอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากหาจากข้างนอกมาเอง ก็ต้องติดต่อกันล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ เตรียมรายละเอียดเรื่องจำนวนแขกเอาไว้คุยกับทางร้านให้เรียบร้อย และที่สำคัญอย่าลืมแจ้งโรงแรมหรือสถานที่จัดงานด้วยนะ เพราะอาจมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมตามมาได้

– เลือกของตกแต่งงาน สำหรับบ่าวสาวที่มอบหมายให้เวดดิ้งแพลนเนอร์ดูแล ขั้นตอนนี้คุณก็แค่ตัดสินใจว่าชอบหรือไม่ชอบ มีดีเทลอะไรที่อยากได้เป็นพิเศษไหม แต่ถ้าเป็นคู่ที่จัดงานเองก็อาจถึงเวลาลงพื้นที่ถิ่นผู้ผลิตงานต่างๆ หรือจะไปช้อปปิ้งที่จตุจักรก็สนุกนะ

 

2 เดือน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– ส่งการ์ดเชิญ สองเดือนก่อนแต่งงานเป็นช่วงเวลาที่บ่าวสาวต้องตระเวนรอบเมือง เพื่อส่งการ์ดเชิญให้กับแขกผู้ใหญ่ ผู้มีเกียรติต่างๆ รวมไปถึงแก๊งเพื่อน หรือถ้าเป็นบุคคลที่สนิทๆ มากอาจใช้วิธีเชิญทาง Facebook หรืออีเมล์ก็ได้ แต่อย่าใช้วิธีนี้กับผู้ใหญ่เด็ดขาด!

– จัดลำดับพิธีในงาน เป็นช่วงที่แต่ละอย่างเริ่มชัดเจนมองเห็นเป็นรูปร่างแล้ว ก็มาถึงการจัดลำดับว่าในงานจะเกิดอะไรขึ้น มีขั้นตอนอย่างไร ลองรันพิธีดูจะทำให้เห็นว่าติดขัดตรงไหนจะได้แก้ไขได้ทัน

– ลองชุดเป็นครั้ง(รอง)สุดท้าย นี่เป็นการลองชุด(เกือบ)ครั้งสุดท้าย หากไม่มีอะไรปรับแก้ทุกอย่างผ่านฉลุยก็จะเป็นเรื่องราวดีๆ แต่หากยังแก้ไม่จบ เรายังเหลือเวลาสำหรับความเป๊ะนี้อีกครั้ง

1 เดือน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– จดทะเบียนสมรส เป็นช่วงเวลาที่บ่าวสาวไม่ยุ่งมาก สามารถปลีกตัวไปจดทะเบียนสมรสกันได้ (ในกรณีที่ไม่ได้วางแผนจดทะเบียนกันในงานแต่งงานนะ) สำหรับบ่าวสาวรุ่นใหม่ที่อยากทำสัญญาก่อนแต่งงานก็สามารถร่างขึ้นได้ในช่วงนี้เลย โดยอาจจะต้องปรึกษาคุณทนายให้เข้ามาช่วยในการร่างสัญญาครั้งนี้

– งานเลี้ยงสละโสด ถึงเวลาแล้วที่จะสนุกสุดเหวี่ยงไปกับงานเลี้ยงสละโสดแล้ว

2 อาทิตย์ ก่อนถึงวันแต่งงาน

– ลองชุดครั้งสุดท้าย นี่คือโอกาสสุดท้ายแล้วสำหรับการลองชุดแต่งงาน หลังจากนี้ชุดควรจะต้องพร้อมใส่ 100 % ไม่ควรปรับแก้อะไรอีกแล้ว

– คุยกับช่างภาพ บอกลำดับพิธีการของงานแต่งงานว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง รวมไปถึงว่าคุณอยากได้รูปภาพช็อตไหนเป็นพิเศษ ซีนไหนที่ต้องมีรูป ลิสต์มาให้ช่างภาพเขารู้เลยทีเดียว

– เลือกเพลงในงานแต่ง บอกตรงๆ นี้เป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ กับเรื่องเพลงมาเปิดในงานแต่ง ให้ลิสต์ออกมาว่าช่วงไหนของงานบ้างที่ต้องมีเพลงเปิด แล้วแต่ละช่วงต้องการเพลงแบบไหน จะทำให้การเลือกเพลงเป็นเรื่องง่ายขึ้น

2 วัน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– ผ่อนคลายทุกอย่าง เป็นช่วงเวลาที่บ่าวสาวต้องผ่อนคลาย อย่าเครียดอย่ากังวล อะไรอีกแล้ว

– ทำเล็บ คุณเจ้าสาวที่วางแผนจะไปทำเล็บไม่ว่าจะแค่ตัดเล็บ ไปจนถึงต่อเล็บ ก็ควรทำวันนี้ เพราะไม่เร็วเกินไปจนเล็บยาวโคนเล็บโผล่ และช้าเกินไปจนไม่มีเวลาสร้างความคุ้นเคยกับเล็บใหม่

– คอนเฟิร์มทุกสิ่ง คอนเฟิร์มทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วปล่อยใจให้สบาย

1 วัน ก่อนถึงวันแต่งงาน

– พักผ่อนให้มากๆ เป็นวันที่บ่าวสาวไม่ควรทำอะไรแล้ว นอกจากพักผ่อนให้มากๆ ปล่อยตัว ปล่อยใจให้สบาย เข้านอนแต่หัวค่ำ แล้วรอรับความสุขในวันพรุ่งนี้

เห็นไหมว่าช่วงเวลา 1 ปี ไม่นานเกินไปเลยสำหรับการ วางแผนจัดงานแต่ง และถึงแม้จะมีขั้นตอนอะไรมากมาย แต่ถ้าบ่าวสาวช่วยกันคิด ช่วยกันทำ ทุกอย่างก็เป็นเรื่องง่ายแน่นอน

ภาพ pixabay

Recommended