“One For Two” เข้าพัก 1 คืน พักฟรีอีก 1 คืน! @ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ หรือ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่

แพ็กเกจห้องพักหรูสุดพิเศษ “One For Twoเข้าพัก 1 คืน พักฟรีอีก 1 คืน! @ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ หรือ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่

ตั้งแต่วันที่ 17 – 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 นี้ เพียงสำรองห้องพักกับเรา คุณและคนที่คุณรักจะได้เพลิดเพลินไปกับการใช้เวลาพักผ่อนแสนสบายภายในห้องพักหรูพร้อมสัมผัสเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของวิวทิวทัศน์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ หรือดื่มด่ำไปกับช่วงเวลาพักผ่อนของครอบครัวในเมืองที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งล้านนา ณ โรงแรม แชงกรี-ลา เชียงใหม่ ไปกับแพ็กเกจห้องพักหรูสุดพิเศษ “One For Two” เข้าพัก 1 คืน พักฟรีอีก 1 คืน!

ชำระค่าเข้าพัก 1 คืนสำหรับห้องพักแบบดีลักซ์ในราคาพียง 3,500 บาทถ้วน *ต่อห้องต่อคืน พักฟรีอีก 1 คืน ณ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ หรือ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่

โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ

โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ

สิทธิ์ประโชน์เพิ่มเติม

  • อิ่มอร่อยไปกับอาหารเช้าเลิศรสในราคาพิเศษท่านละ 590 ถ้วน
  • แขกห้องพักท่านที่ 3 (อายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป) สามารถร่วมเข้าพักในห้องเดียวกันได้ โดยต้องชำระค่าห้องพักเพิ่มเติม 500 บาทถ้วนต่อห้องต่อคืน
  • เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี เข้าพักฟรีได้สูงสุด 2 ท่านต่อห้องต่อคืน

*เงื่อนไขและข้อกำหนด

  • สำหรับการเข้าพักตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 นี้
  • เป็นไปตามเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ระบุไว้ในบัตรกำนัลห้องพักของโรงแรมฯ
  • บัตรกำนัลห้องพักฟรี 1 คืนนี้ไม่สามารถโอนสิทธิ์ให้กับผู้อื่นได้
  • ข้อเสนอนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับโปรโมชั่นอื่นๆ หรือไม่สามารถใช้ร่วมกับการสำรองห้องพักแบบกลุ่มได้
  • กรุณาสำรองห้องพักล่วงหน้า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนห้องพักที่ว่าง และเป็นไปตามข้อเงื่อนไขและข้อกำหนดตามที่โรงแรมฯ กำหนด
  • ราคานี้ไม่สามารถสะสมคะแนนโกลเด้นเซอร์เคิลได้
  • ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และค่าบริการ17.7 เปอร์เซ็นต์แล้ว

สำรองห้องพักที่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ กรุณาติดต่อที่โทร. 0 2236 7777 หรือ อีเมล์ [email protected]

สำรองห้องพักที่ โรงแรมแชงกรี-ลา เชียงใหม่ กรุณาติดต่อที่โทร. (053) 253 888 หรือ อีเมล์ [email protected]

ฤกษ์แต่งงานปี 2564 พร้อมสารพัดสิ่งที่บ่าวสาวต้องเตรียม

พร้อมเสิร์ฟ ฤกษ์แต่งงานปี 2564 รู้แล้วก็รีบจัดคิวตัวเองกันได้เลย

หลายคู่ที่เพิ่งเซย์เยสเรื่องแต่งงานกันไป หรือคู่ไหนที่ยังหาฤกษ์ที่ถูกใจไม่ได้สักที วันนี้ แพรว wedding ได้รวม ฤกษ์แต่งงานปี 2564 มาให้ว่าที่บ่าวสาวได้อัพเดทกันแล้ว แถมยังมาในรูปปฏิทินสวยงามน่ารักไว้เซฟส่งไปให้ผู้ใหญ่ได้ช่วยกันเลือกแบบง่ายๆ อีกด้วย นอกจากนี้เรายังมีสารพัดเรื่องต่างๆ ที่ว่าที่บ่าวสาวต้องรู้เพื่อใช้ในการเตรียมงานแต่งงานมาฝากด้วย อย่ารอช้า ไปดูกันดีกว่า ฤกษ์ดีที่เราเตรียมมานั้นจะตรงกับวันที่คุณและครอบครัวเล็งไว้แล้วหรือไม่ 

คลิกที่รูป 1 ที แล้วเซฟเก็บกันไว้ได้เลย 

มกราคม 2564

ฤกษ์แต่งงานปี 2564

กุมภาพันธ์ 2564

ฤกษ์แต่งงานปี 2564

มีนาคม 2564

ฤกษ์แต่งงานปี 2564

เมษายน 2564

ฤกษ์แต่งงานปี 2564

พฤษภาคม 2564

มิถุนายน 2564

กรกฏาคม 2564

สิงหาคม 2564

กันยายน 2564

ตุลาคม 2564

พฤศจิกายน 2564

ธันวาคม 2564

พิธีแต่งงานไทย ต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ไว้ให้พร้อม

เตรียมแจกได้เลยกับ ผังขบวนขันหมาก รู้ไว้ไม่งงหน้างาน
เช็กลิสต์พิธีเช้างานไทยสิ่งไหนต้องมี ควรมี และไม่จำเป็นต้องมี
พิธีแต่งงานแบบไทย พร้อมไทม์ไลน์ของแต่ละพิธีแบบครบถ้วน
ลำดับพิธีสงฆ์ในงานแต่งแบบไทย จัดมาให้แบบเป๊ะทุกขั้นตอน
ขันหมากตามฐานะ งามตรงจิตงบตรงใจในราคา 3,000 ยันหลายหมื่น

สารพัดความเชื่อในงานแต่งไทย ที่บ่าวสาวรู้ไว้ก็ดี

เรียงลำดับอาวุโสและคนสำคัญในงานแต่งแบบนี้ไม่โดนเม้า
อุปกรณ์ใน พิธีสงฆ์ ที่บ่าวสาวต้องรู้เพื่อการเตรียมงานได้เป๊ะไม่มีตกหล่น
สารพัดวิธีดูแล พานขันหมาก ให้สดสวยมดไม่ขึ้นก่อนใช้งานจริง
ไม่อยากตกเป็นรองต้องอ่าน! 6 ความเชื่อในวันแต่งงานที่บ่าวสาวต้องระวัง
อาหารงานแต่งเมนูไหนดี เมนูไหนร้าย บ่าวสาวควรรู้ไว้เพื่อเสริมมงคล

สถานที่แต่งงาน และถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแบบไหนที่ใช่คู่คุณ ตามไปเช็กเลย

10 สวนสาธารณะ ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งฟรี (แต่ต้องหาช่างภาพไปเองนะจ๊ะ)
12 สถานที่ถ่ายสวยงามอย่างไทย เหมาะกับการถ่ายพรีเวดดิ้งชุดไทยสุดๆ
8 อย่างขอให้เช็คและเห็นกับตาเมื่อออนทัวร์สถานที่จัดงานแต่งงานในฝัน
รวม 10 สถานที่จัดงานแต่งงานแบบไทยในบรรยากาศอินเตอร์
อัพเดทราคา 8 โรงแรมจัดงานแต่งงาน ติดรถไฟฟ้า BTS

สารพัดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่าวสาวควรรู้

ทรีตเม้นต์ เสริมความงามเจ้าสาวก่อนแต่งงาน อันไหนควรทำเมื่อไหร่ มาดูกัน
10 วิธีตัดต้นทุนงานแต่งงานแบบได้ผลชะงัดจากปากคำบ่าวสาวตัวจริง
9 เทคนิคจัดงานแต่งงานให้ได้ดั่งใจ บ่าวสาวมีเวลาแค่ไหนก็รอด
รวม 10 ร้าน Catering เจ้าเด็ด พร้อมราคาบ่าวสาวรีบเช็กดูด่วน
แนะนำ 5 ช่างภาพงานแต่ง ใน 5 สไตล์ที่แตกต่างและน่าจับตามอง!

เจ้าสาวปล่อยผมได้ไม่ผิดกฎ ทรงผมเจ้าสาวยาวตรงสวยเรียบดูดีเกินคาด

Loveli Long Hair ทรงผมเจ้าสาว เรียบง่ายแต่สวยเวอร์

น่าเสียดายที่เจ้าสาวหลายรายอดทำผมทรงปล่อยด้วยมักโดนป้ายยามาว่า ทรงผมเจ้าสาว ที่เหมาะกับเจ้าสาวควรจะเป็น “ผมเกล้า” เท่านั้น การันตีเลยว่าไม่จริง หากเจ้าสาวมั่นใจว่าผมปล่อยนี่แหละเป็นไม้ตายทำให้ฉันดูสวยหวานเป็นตัวของตัวเองที่สุด ก็จงเลือกเลยไม่ต้องมัวเอ๊ะ เพราะทรงผมสไตล์มินิมัลแบบปล่อยนี้มีข้อดีคือ ทำให้เจ้าสาวดูอ่อนเยาว์ ถ่ายรูปสวยง่าย แถมยังเหมาะกับเจ้าสาวที่ไม่ได้อยากดูเปลี่ยนไปมากนักในวันสำคัญ อีกข้อดีคือเข้าได้กับทั้งชุดเจ้าสาวแนวคอปิดไปจนถึงเปิดไหล่ไม่มีเกี่ยง – เรื่อง  Padcha_Praewnista

TIPS & TRICKS
สำหรับเจ้าสาวชุดสากล ผมปล่อยยาวจะเรียบหรือจะยุ่งสวยได้หมดไม่ถือว่าผิดกฎ แต่หากเป็นเจ้าสาวชุดไทยต้องระวังว่าผมปล่อยต้องไม่ยุ่งเกินไป เน้นเรียบตรงหรือเป็นลอนคลื่นแบบเรียบจะดูเข้ากันได้อย่างเหมาะสมกว่าผมปล่อยเหมาะกับเจ้าสาวได้หลากหลายรูปหน้า แต่ที่เหมาะที่สุดคือ เจ้าสาวที่มีรูปหน้าเหลี่ยม ผมยาวเป็นลอนคลื่นนี้เองจะช่วยตัดทอนรูปหน้าที่ดูแข็งให้หวานซอฟต์ลงได้

Perfect Pairing

Long Hair + Drop Earrings

ทรงผมเจ้าสาว

ปล่อยผมโดยไม่เหน็บหู สไตล์ที่ดูเป๊ะที่สุดคือต่างหูที่เป็นทรงยาวหรือหยดน้ำ มีความห้อยตุ้งติ้งลงมาให้เห็นชัดพ้นช่วงผมปล่อยคอโล่ง หรือใช้แค่สร้อยเพชรเส้นเล็กบางจะดูสวยพอดีไม่เยอะเกิน

Long Hair + Veil

ทรงผมเจ้าสาว

ทรงผมยาวที่หลายคนอาจคิดว่าเรียบไป แต่พอใส่กับผ้าคลุมผมไม่ว่าจะสั้นหรือยาวก็ช่วยเสริมให้ออร่าความเป็นเจ้าสาวส่องประกายชัดเจน

Long Hair + Bobby Pin

ทรงผมเจ้าสาว

ผมยาวเหน็บหูปล่อยชายผมไปด้านหลัง หวีด้านข้างให้เรียบแล้วติดกิ๊บหรือหวีสับ ช่วยให้เจ้าสาวดูเก๋โมเดิร์นขึ้น

Long Hair + Crown/ Headband

ทรงผมเจ้าสาว

จะแสกกลาง แสกข้าง หรือเสยเปิดหน้า ผมยาวปล่อยก็สวยเหมาะกับมงกุฎหรือที่คาดผมช่วยให้ผมที่ดูน้อยเหมือนไม่ได้ทำอะไรกลายเป็นงาน
อลังการได้ในพริบตา

Bride in Focus

Duchess of Cambridge

เจ้าสาวปล่อยผมในตำนานต้องยกให้ดัชเชสเคทที่งามสง่าด้วยลุคผมปล่อยเกล้าครึ่งบน จับคู่กับมงกุฎและผ้าคลุมผมที่ดูเรียบง่ายแต่สวยสะกดได้ทั้งโลก

Poppy Delevingne

กลายเป็นลุคโปรดของสายแฟชั่นเมื่อเจ้าสาวสุดเก๋ ป็อปปี้ เดเลวีญ พี่สาวของซูเปอร์โมเดลคาร่า เดเลวีญ ปรากฏตัวในลุคเจ้าสาวที่แสนจะเป็นธรรมชาติ ผมปล่อยเป็นลอนคลายกำลังสวย ติดผ้าคลุมด้านหลังแค่เบาๆ แค่นี้ก็สวยจับใจ แถมดูเป็นตัวของตัวเองสุดๆ

STAR in FOCUS

สาวที่เป็นภาพจำของการสยายผมได้งดงามจนกลายเป็นซิกเนเจอร์ต้องขอยกให้ดีว่าสายเซอร์ ลานา เดล เรย์ เธอเป็นเจ้าแม่ลุคผมยาวที่เจ้าสาวน่าทำตามทั้งสไตล์เรโทรลอนเนี้ยบเป๊ะ ลอนยุ่งๆ ที่ดูสบายเข้าถึงง่าย ไปจนถึงงานฮิปปี้ที่ใช้ทั้งมงกุฎและดอกไม้ประดับประดา แค่เปลี่ยนแสกกลาง แสกเบี่ยง หสีเสย อารมณ์ก็เปลี่ยนไปได้หลากหลายให้อินสไปร์กับเจ้าสาวได้เยอะเชียว

อ่านบทความเพิ่มเติม

8 อาหารเผาผลาญไขมัน เพื่อการเริ่มต้นการเบิร์นที่สมบูรณ์แบบให้ทันวันแต่งงาน

บ่าวสาวแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินวิธีลดน้ำหนักง่ายๆ ให้ทันวันวิวาห์

มาดูการเตรียมตัวเพื่อ ความงามเจ้าสาว ช่วง 5-2 เดือนก่อนแต่งงาน!

หนุ่มๆ จงฟังถ้าไม่อยากแป้ก! วิธีขอแต่งงานอย่างไรให้ได้ใจสาว

สำหรับหนุ่มๆ ที่กำลังวางแผนขอหวานใจแต่งงานในปีนี้ จะทำอย่างไรให้ปฏิบัติการ ขอแต่งงาน พิชิตใจครั้งนี้ไม่แป้ก และได้เธอมาเป็นว่าที่เจ้าสาวของคุณ บอกเลยว่างานนี้กายพร้อม ใจพร้อมอย่างเดียวคงไม่พอ มันต้องมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มาช่วยด้วย

1. อย่าขอปากเปล่า!

จะขอสาวแต่งงานทั้งทีแล้วดันเอ่ยแบบปากเปล่าหรือพูดทีเล่นทีจริงแบบนี้นี้ขอบอกเลยว่าคุณมีสิทธิที่จะโดยบอกปัดสูงมาก และถึงแม้คุณจะไม่ใช่ผู้ชายที่ชอบทำเซอร์ไพร้ส์อลังการ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีของติดไม้ติดมือไปมัดจำเจ้าสาวไว้บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าของที่นิยมใช้ขอสาวแต่งงานก็คือ “แหวน” แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าแหวนที่คุณซื้อมาให้เธอนั้นจะถูกใจหรือไม่ แนะนำให้ลองเลือกแหวนตามร้านกิ๊ฟท์ช้อป หรืออาจจะใช้สิ่งของอย่างอื่น เช่น สร้อย ต่างหู รองเท้า ฯลฯ แล้วค่อยไปพากันไปซื้อของจริงอีกครั้งก็ได้

2. หาเวลาที่เหมาะเจาะ

หลังจากที่คุณผู้ชายแอบย่องไปซื้อแหวนแล้ว ที่นี่ก็ถึงเวลาตั้งสติและควบคุมความตื่นเต้นที่จะตามมาให้ดีๆ อย่าผลีผลามพุ่งตัวไปขอสาวแต่งงานเด็ดขาด มันจะทำให้เธออึ้งและตกใจมากกว่าดีใจ ชายหนุ่มคนไหนที่เป็นนักครีเอทีฟ ไอเดียดี ตอนนี้ขอให้คุณเริ่มวางแผนล่อสาว (มาขอแต่งงาน) ให้รัดกุม จะเซอร์ไพร้ส์เล็กหรือใหญ่ก็ว่ากันไป ส่วนใครที่ชอบทำแบบเรียบง่าย ไม่ต้องหวือหวามาก ก็รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วค่อยโชว์แหวนแล้วพูดขอแต่งงานจะดีกว่า

3. จะพูดอะไรก็เขียนไว้ก่อน

แน่นอนล่ะคะว่าร้อยทั้งร้อยของผู้ชายที่กำลังจะขอแฟนแต่งงานมักจะมีคำพูดมากมายจากก้นบึ้งหัวใจเพื่อที่จะใช้โน้มน้าวใจฝ่ายหญิง หรือพร่ำพรรณนาความรักที่เขามีต่อเธอ แต่! คำพูดเหล่านั้นมักจะปลิวหายไปพร้อมกับที่ความตื่นเต้นและความประหม่าเข้ามาแทนที่ เพราะฉะนั้นก่อนจะออกไปขอสาวแต่งงาน คุณควรจะคิดซะก่อนว่าจะพูดว่าอะไร พูดอย่างไร แล้วก็จดใส่ในกระดาษแผนเล็กๆ ไว้ ถึงเวลาพูดจะได้ไม่ตกหล่นถ้อยคำสำคัญเหล่านั้น

4. อย่าลืมแต่งตัวหล่อๆ ด้วย

ขอแต่งงานทั้งทีจะมาใส่เสื้อผ้าชุดอยู่บ้านธรรมดาๆ ได้ยังไงคะ คุณควรจะเสริมหล่อให้กับตัวเองอย่างดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้คุณใส่ชุดสูทตลอดเวลาหรอกนะ งานนี้คุณต้องมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้าให้เข้ากันกับตัวคุณ สไตล์คุณ และสถานที่ที่คุณใช้ในการขอแต่งงานด้วย แถมถ้ามีการบึกทึกภาพหรือถ่ายรูปเพื่อเก็บเป็นความทรงจำคุณจะได้ดูหล่อไปตลอดกาล

5. ถ่ายรูปเก็บไว้ด้วยนะ

เป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงสุดๆ สำหรับการขอแต่งงานแล้วต้องมีการเก็บบันทึกภาพทั้งวิดีโอและรูปในวันขอสาวแต่งงาน ถ้าคุณกระเป๋าสตางค์หนักพอจะจ้างช่างภาพมืออาชีพก็จัดไปเต็มที่ แต่ถ้าใครอยากประหยัดเงินไว้ทำอย่างอื่น ก็ลองทาบทามเพื่อนพ้องน้องพี่ให้คอยมาเก็บภาพแห่งความหวานชื่นนี้ได้เหมือนกัน

5 เคล็ดลับที่เราแนะนำกันไปนั้นขอบอกเลยว่าทำไม่ยากแต่อย่างใด ลองดูตัวอย่างวิดีโอขอแต่งงานจากในโลกออนไลน์ดูก็ได้ ใครๆ เขาก็ทำตามนี้กันทั้งนั้น และที่สำคัญแฟนสาวของคุณจะกลายมาเป็นว่าที่เจ้าสาวของคุณอย่างแน่นอน

เรียงเรียงจาก www.brides.com
ภาพ : www.theknot.com, chillfy.org, www.thoughtpursuits.com , www.chobirdokan.com, www.photographertuscany.com, howheasked.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

“รักเราไม่เก่าเลย” 5 วิธีดูแลความรักให้สดใสอยู่เสมอ

คุณสมบัติแม่สามี & แม่ยาย แบบนี้แหละที่ลูกสะใภ้และลูกเขยอยากเจอ

เช็กด่วน 6 สัญญาณนี้จะบอกให้คุณรู้ว่า “เราพร้อมแต่งงานกันแล้ว”

9 วาจาสุดหวานหูที่ชายสุดที่รักมักทำให้สาวใจอ่อนแบบไม่รู้ตัว

โบราณเขาว่ากันว่าผู้หญิงทุกคนมีมารยามากมายเป็นร้อยพันเล่มเกวียน แต่แหม! อย่าให้แพรวเวดดิ้งต้องพูดแย้งคนโบราณเลยนะคะว่าผู้ชายนี่แหละตัวดี จริตจก้านมารยาไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้หญิงสักเท่าไหร่ เผลอๆ บางทีจะมีประโยคแสนหวานมาหลอกให้เราตายใจอีก ผู้หญิงบางคนถึงขั้นสงสัยว่า ทะเลาะง้องอนกันอยู่ดีๆ พอเขาพูดไม่กี่คำดันกลายเป็นต้องยอมซะงั้น!!!  แพรวเวดดิ้งเลยรวม 9 ประโยคเด็ดของชายหนุ่มที่ ทำให้สาวใจอ่อน มาให้สาวๆ ทวนความจำสักนิดว่า เคยยอมแพ้ให้กับประโยคแบบไหนกันบ้าง

1. ผม… ผม… ผม… คุณจะโอเคไหม?

เปิดข้อแรกด้วยสกิลคำพูดขั้นเทพของคาสโนว่าที่ถือเป็นความเจ้าชู้ขั้นแอดวานซ์ โดยเขาจะบอกความจริงกับคุณทั้งหมดไม่มีปิดบังว่า ผมมีแฟนแล้ว กำลังคุยกับคนนั้นคนนี้อยู่ และอีกสารพัดความจริง (ที่เขาคิดว่าบอกได้) จากนั้นก็จะให้คุณทำหน้าที่ตัดสินใจว่าจะจิ๊จ๊ะกันหรือไม่ด้วยประโยคที่ว่า “แล้วคุณโอเคไหม?” เอ้า! เจอแบบนี้ดูเหมือนเป็นผู้ชายแฟร์ๆ จริงใจ แต่ถ้าคุณฉันโอเคเมื่อไหร่เท่ากับว่าคุณยอมก้าวเข้าสู่วังวนเกมรักที่ไม่ใช่แค่เราสอง เกิดเรื่องมาให้ใจชีช้ำก็ไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้ เพราะเขาก็บอกกติกาเกมนี้ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ซึ่งก็น่าแปลกที่ผู้หญิงหลายคนยอมหลงคารมเล่นเกมนี้ทั้งๆ ที่รู้ว่าคนแพ้ก็คือตัวเอง เพราะสุดท้ายเขาก็เลือกตัวจริงอยู่ดี!

2. ผมทำเพื่อเราสองคนเลยนะ!

ผมทำเพื่อคุณนะหรือไม่ก็ผมทำเพื่อเราสองคนนะ โหหห! เป็นประโยคที่ฟังดูดีและอบอุ่นสำหรับคนรักกันมากกกก! ซึ่งในความจริงแล้วเขาก็อาจจะทำเพื่อเราจริงๆ ก็ได้นะ แต่! ในบางครั้งมันก็ถูกยกมาเป็นข้ออ้างสำหรับการกระทำบางอย่าง เช่น  ผมอุตส่าห์ซื้อโฮมเธียร์เตอร์มาเราจะได้ดูหนังด้วยกันสนุกๆ หรือ ผมซื้อกล้องแพงๆ มาเพื่อที่จะถ่ายรูปคุณได้สวยๆ ไง แบบนี้เป็นต้น ผู้หญิงหลายคนที่ได้ยินประโยคแบบนี้ก็มักจะยอมเพราะคิดว่าเขาทำเพื่อฉัน ทำเพื่ออนาคตของเรา แต่ก็ยังไม่วายแอบมีเสียงกระซิบเบาๆ ว่า “นี่มันทำเพื่อตัวเองชัดๆ !”

3. ถ้าคุณทำ ผมก็จะทำ

เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงส่วนใหญ่ที่จะไม่ชอบให้แฟนตัวเองออกไปเที่ยวกลางค่ำกลางคืน กลับดึกเมื่อไหร่เป็นอันต้องมีอาการงอนและมีน้ำโห แต่! แน่นอนว่ากฎข้อนี้ไม่บังคับใช้กับตัวเธอเอง จนกระทั่งผู้ชายหลายคนต้องเรียกร้องสิทธิในการเที่ยวของตนบ้าง ซึ่งประโยคที่มักจะได้ยินกันบ่อยๆ ก็คือ ถ้าเธอไปเที่ยว ฉันก็จะไปบ้าง หรือบางทีก็มาเป็นคำถามว่า ทำไมคุณทำได้ แล้วผมถึงทำไม่ได้ล่ะ? เจอประโยคแบบนี้เข้าไปผู้หญิงร้อยทั้งร้อยต้องอ่ำๆ อึ้งๆ ไปต่อไม่ถูก สุดท้ายก็ตกอยู่ในภาวะจำยอมเหมือนเคย แต่จะยอมอยู่บ้านไม่ออกไปไหน หรือจะยอมให้ออกไปทั้งคู่ อันนี้ก็แล้วแต่กรณีเนอะ อิอิ!

4. พูดขอโทษออกไปก่อน

ขึ้นชื่อว่าคนรักกันจะขัดข้องหมองใจหรือทำผิดไปบ้างมันก็เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฝ่ายชายทำผิดแล้วฝ่ายหญิงเกิดงอนตุ๊บป่องขึ้นมาก็ยากที่จะหายโกรธ บางคนปั้นหน้าบึ้งตึง เงียบขรึม บางคนวีนเหวี่ยงโวยวาย แต่เมื่อได้สดับฟังคำขอโทษพร้อมเห็นถึงความสำนึกผิดในตัวเขาแล้ว หัวใจก็อ่อนยวบไปตามระเบียบ ยอมให้อภัยแล้วก็กลับไปคืนดีกันเหมือนเดิม จบเรื่องราวแบบแฮปปี้เอนดิ้ง

5. ครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก

หลังจากคำขอโทษและการสำนึกผิดที่ไม่ได้ช่วยทำให้คุณเธออารมณ์เย็นลง หรือผู้ชายบางคนที่พูดขอโทษไปงั้นๆ แล้วกลับไปทำผิดแบบเดิมจนถูกจับได้เป็นครั้งที่สอง ประโยคแอดวานซ์ขั้นต่อมาก็คือ “ครั้งนี้สุดท้ายแล้วจริงๆ สัญญาว่าจะไม่ทำอีก” (มักจะใช้ควบคู่กับประโยคขอโทษ) ก็จะถูกนำมาใช้ปราบอารมณ์เหวี่ยง สาวๆ หลายคนพอได้ยินประโยคนี้เข้าไปก็เสร็จเรียบ ใจอ่อนยอมคืนดี แล้วก็มีความคิดแบบโลกสวยว่าความผิดครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย หึ! ถามจริงๆ เหอะ ได้ยินคำว่าครั้งสุดท้ายมากี่รอบแล้วล่ะแม่คุณ!

6. ทำการแสดงเรียกน้ำตา

เทคนิคขั้นสุดยอดที่ผู้ชายจะลงทุนทำให้เรายอมเขาในทุกเรื่องนั่นก็คือ “น้ำตา” ค่ะสาวๆ อย่างที่เราเข้าใจกันว่าผู้ชายเป็นเพศเข้มแข็งและมักจะไม่ร้องไห้พร่ำเพื่อ แต่เมื่อไหร่ที่สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติ ไม่มีทีท่าว่าคนรักข้างกายจะยอมง่ายๆ ผู้ชายก็จะยอมแหกกฎความแมนของตัวเองด้วยการปั้นหน้าหง่อยๆ ตีหน้าเศร้า แล้วเรียกน้ำตามาให้เราสงสาร แล้วยังไงคะ? ก็สงสารยอมเขาซะทุกอย่างเหมือนเคย แต่ใครจะไปรู้ว่าขณะที่ใบหน้าอาบน้ำตา ในใจอาจจะกระหยิ่มยิ้มย่องแล้วคิดว่า “เสร็จตรูแน่” ก็ได้นะ ฮ่าๆๆ!

7. ขู่ว่าจะเลิก!!!

ประโยคยอดฮิตที่สาวๆ หลายคนกลัวนักกลัวหนากับคำพูดที่ว่า “งั้นเลิกกันเลยไหมล่ะ” สาวๆ หลายคนพอได้ฟังประโยคนี้ก็มักจะสตั๊นท์ อึ้ง ไปไม่ถูก สุดท้ายก็เข้าสู่ภาวะจำยอมเพราะความรักมาก  ซึ่งผู้ชายส่วนใหญ่ที่หลุดประโยคนี้ออกมาก็ทำให้เราคิดได้แค่ 2 อย่างคือ 1. ไม่รักเราแล้วแน่ๆ และ 2. ขู่ไปงั้นแหละ จริงๆ แล้วเลิกไม่ได้หรอก แพรวเวดดิ้งอยากจะบอกคุณผู้หญิงทั้งหลายว่า ไม่ว่าเหตุผลของการขู่แบบนี้จะเป็นอย่างที่หนึ่งหรืออย่างที่สอง ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่ผิด (และเตรียมใจไว้แล้ว) ฮีบินก็อยากจะให้คุณตอบเขาไปเลยดังๆ ว่า “ก็เอาซิ!” เพราะว่าถ้าเขาไม่รักกันแล้วฝืนคบกันไปก็ไม่มีประโยชน์ แต่ถ้าเป็นแค่การขู่ สุดท้ายเขาก็ต้องกลับมาง้อคุณอยู่ดีนั่นแหละ

8. ตัวเองไม่รักเค้าแล้วเหรอ?

อีกหนึ่งประโยคที่มักจะมาพร้อมใบหน้าและแววตาแอ๊บแบ๊วไร้เดียงสา ได้ยินเมื่อไหร่หัวใจต้องอ่อนยวบ พร้อมกับตอบออกไปว่า “รักสิ” แล้วก็ยอมแพ้ความอ้อนของเขาอีกเหมือนเดิม ส่วนใครที่เจอมุกนี้เข้าไปแล้วยังไม่อยากยอมง่ายๆ (เดี๋ยวเขาจะได้ใจ) แพรวเวดดิ้งแนะนำให้เพิ่มคำตอบเข้าไปอีกสักนิดว่า “รักสิ แต่มันไม่เกี่ยวกับที่เธอทำผิดนะ” รับรองเลยว่า ถ้าเขาได้ยินประโยคนี้เข้าไป เขานั่นแหละที่ต้องยอมเรา ไม่อย่างนั้นเขาก็ต้องพยายามแถไปเรื่อยๆ แน่นอน ฮ่าๆๆ

9. ไปถาม…ได้เลย!

เทคนิคนี้มักจะมาให้ผู้หญิงได้พบเจอเมื่อเราจับได้แต่ไม่คาหนังคาเขา! ซึ่งนอกจากหลากหลายเหตุผลที่ฝ่ายชายจะชักแม่น้ำทั้งโลกมาเป็นข้ออ้างแล้ว ถ้าจะให้น่าเชื่อถือและเพิ่มเปอร์เซ็นต์การรอดตัวของตัวเขาเองมันก็ต้องมี “หลักฐาน” และหลักฐานที่สร้างง่ายที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น “พยานบุคคล” ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่ น้อง บางครั้งก็แอดวานซ์เป็นญาติผู้ใหญ่ ซึ่งเขาสามารถเตี๊ยมกันได้สบายๆ เมื่อผู้หญิงหลายคนได้ยินประโยคที่ว่า “โทรไปถาม….ได้เลย!” ก็มักจะยอมเชื่อ (ก็เขามีหลักฐานนี่) บางคนก็เกิดความเกรงใจไม่กล้าโทรไปรบกวนบุคคลเหล่านั้น สุดท้ายก็ตกอยู่ในภาวะจำยอมเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ

แพรวเวดดิ้งไม่ได้จะบอกว่าประโยคเหล่านี้เป็นประโยคอันตรายที่คุณสาวๆ ไม่ควรรับฟังนะคะ บางครั้งการที่เขาสำนึกผิด สัญญา ขอโอกาส หรืออะไรก็ตามแต่ เราก็ควรจะยกโทษและให้โอกาสกับเขาบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแพรวเวดดิ้งแนะนำให้ฟังประโยคเหล่านี้เพียงแค่รอบเดียวเท่านั้น (เต็มที่ให้ 2 รอบก็ได้) ถ้าคุณได้ยินประโยคที่ ทำให้สาวใจอ่อน เหล่านี้บ่อยๆ ก็เตรียมตัวเซย์กู๊ดบายเถอะค่ะ ทนฟังไปเรื่อยๆ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพจิต!

อ่านบทความเพิ่มเติม

5 ข้อตกลง “ไม่ควรมี” ก่อนแต่งงาน ถ้าไม่อยากให้ชีวิตคู่ต้องอึดอัด

รักได้แต่ต้องรักให้เป็นหากริจะรักผู้ชายเจ้าชู้ สาวๆ ต้องฝึกวิทยายุทธรับมือให้เป็น

รักทางไกลทำยังไงให้เวิร์ก รับรองว่ารักระยะไกลก็เป็นรักที่ดีได้ไม่แพ้รักไหนๆ เลย

Monique Wedding ชุดแต่งงานอินเทรนด์ที่สวยงามหรูหราตอบรับทุกธีมงานแต่ง

Monique Wedding ชุดแต่งงานอินเทรนด์ ที่มีคุณค่าสวยงามหรูหราตอบรับทุกธีมงานแต่ง

ว่าที่เจ้าสาวที่มองหาชุดแต่งงานสไตล์ลักชัวรี่ไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศก็สามารถสัมผัสชุดแต่งงานดูดีมีระดับได้ที่ Monique Wedding แบรนด์น้องใหม่ที่พร้อมตอบโจทย์ให้เจ้าสาวผ่านรูปแบบชุดที่หลากหลายในราคาจับต้องได้ พร้อมทีมงานที่คอยให้บริการอย่างมืออาชีพ คุณวิมลพร วุฒิทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ Monique Wedding เล่าถึงจุดเริ่มต้นของแบรนด์และความพิเศษที่เจ้าสาวจะได้รับหากเลือกใช้บริการชุดแต่งงานที่นี่

คุณวิมลพร วุฒิทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ Monique Wedding

จุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ Monique Wedding

เริ่มต้นจากความฝันที่อยากนำภาพชุดแต่งงานที่จินตนาการไว้มาตัดเย็บเป็นชุดที่สามารถสวมใส่ได้จริง จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง
โชว์รูมเวดดิ้งระดับ 6 ดาวที่รวมชุดแต่งงานสวยและทันสมัยที่สุดไว้บนทำเลใจกลางเมืองพื้นที่กว้างขวางกว่า 1,000 ตารางเมตร พร้อมการให้บริการลูกค้าทุกคนแบบวีไอพี

ภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนต่างๆ เพื่อความสะดวกในการเลือกชมชุด โดยมีทั้งชุดเจ้าสาวสไตล์ Princess ชุดเจ้าสาวสไตล์ Vintage ชุดเจ้าสาวสไตล์ Romantic/Glamorous และชุดเจ้าสาวสไตล์ Beachy เรียกได้ว่ามาที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าธีมงานแต่งจะเป็นแบบไหน ก็มีชุดที่ตอบโจทย์
คุณได้แน่นอน

อีกสิ่งที่คุณสัมผัสได้เมื่อมาเยือน Monique Wedding คือ ความสะดวกสบายด้วยห้องลองชุดขนาดมาตรฐานจำนวน 8 ห้องพร้อมระบบไฟแบบแอลอีดี ที่สามารถเลือกปรับระดับแสงให้สว่างได้เหมือนอยู่ในงานแต่งงานจริงๆ พร้อมโซน Monique Lounge สุดเอกซ์คลูซีฟที่บ่าว – สาวสามารถใช้พูดคุยปรึกษาเพื่อออกแบบชุดแต่งงานกับทีมดีไซเนอร์ได้อย่างเป็นส่วนตัว พร้อมเครื่องดื่มและขนมไว้คอยบริการ

ชุดแต่งงานอินเทรนด์

จุดเด่นของชุดแต่งงาน Monique Wedding

ชุดแต่งงานทุกชุดรังสรรค์จากเนื้อผ้าชนิดพิเศษต่างๆ อย่างดีจากทั่วโลก พร้อมวัสดุตกแต่งระดับพรีเมียม ไม่ว่าจะเป็นคริสตัล ลูกปัด หรือเพชร
สวารอฟสกี้ โดยมีทีมดีไซเนอร์ที่มีความรู้พร้อมที่จะเนรมิตชุดแต่งงานดีไซน์ทันสมัย และช่างตัดเย็บมากฝีมือที่มีความพิถีพิถันเป็นเลิศจนได้เป็นชุดที่หรูหราสง่างามแบบ 360 องศา โดยยึดการออกแบบแต่ละชุดให้เข้ากับรูปร่างของเจ้าสาวที่แตกต่างกันไปโดยเฉพาะจุดเด่นอย่างทรงกระโปรงเพื่อช่วยให้เจ้าสาวมีทรวดทรงที่สวยงาม

Monique Wedding ยึดหลักการทำงานที่ว่าทีมงานทุกคนจะต้องดูแลให้คำแนะนำเพื่อให้เจ้าสาวได้ชุดที่สวมใส่แล้วมีความมั่นใจ เหมาะกับ
สรีระและบุคลิก เพื่อให้เจ้าสาวดูดีมีเสน่ห์ที่สุดในวันสำคัญ

ชุดแต่งงานอินเทรนด์

ชุดแต่งงานอินเทรนด์

ชุดแต่งงานอินเทรนด์

เทรนด์ชุดแต่งงานปี 2020

สำหรับรูปแบบชุดแต่งงานที่ได้รับความนิยมจากเจ้าสาวในปีนี้ ได้แก่
1. ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ ดีไซน์สุดคลาสสิกท่ยี ังฮ็อตฮิตตลอดกาล ช่วยให้เจ้าสาวดูเป็นเจ้าหญิงในวันวิวาห์
2. ชุดแต่งงานแบบ Ruffle หรือชุดแต่งระบายเป็นชั้นๆ มีดีเทลของผ้าที่บางเบาเย็บซ้อนกันเพื่อให้เกิดเป็นเลเยอร์มีมิติ ช่วยให้เจ้าสาวดูเก๋ไม่ซ้ำใคร
3. ชุดแต่งงานสไตล์มินิมัล เน้นความสวยงามที่ตัวคอเสื้อของชุดเป็นหลัก มีตั้งแต่คอสูง เกาะอก คอปาด และคอวี ให้ลุคเจ้าสาวดูเรียบหรูโดดเด่น
4. ชุดแต่งงานโทนสีพาสเทล เหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องการความแตกต่างและอยากได้ชุดแต่งงานตามธีมสีของงานแต่งอย่างแท้จริง โดยสีที่ได้รับความนิยมคือ สีพีช สีชมพู Baby Pinkและสี Pretty Blue โดยเน้นรูปแบบชุดที่ตัดเย็บจากผ้าชีฟองเพื่อให้เจ้าสาวดูอ่อนหวานละมุน

ว่าที่เจ้าสาวสามารถเข้าไปชมชุดแต่งงานสวยๆ ของ Monique Wedding ได้ทางเฟซบุ๊กหรืออินสตาแกรมก่อนที่จะเข้ามาชมชุดจริงที่ร้าน ซึ่ง Monique Wedding มีดีไซน์ชุดแต่งงานสวยๆ อัพเดตในทุกเดือน นอกจากชุดแต่งงาน ที่นี่ยังมีโซนห้องสตูดิโอถ่ายภาพขนาดใหญ่เพื่อรองรับการถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง พร้อมทีมช่างภาพมืออาชีพและทีมงานที่คอยให้คำปรึกษาทุกด้านอย่างครบวงจร

ดูแบบชุดแต่งงานร้าน Monique Wedding เพิ่มเติม คลิกเลย

MONIQUE WEDDING
418/8 – 9 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพฯ
โทร. 0-2108-7800, 08-0279-7800
เฟซบุ๊ก : Monique Wedding
ไอจี : @moniqueweddingbkk

7 ลุค ชุดแต่งงาน โฟร์ – ศกลรัตน์ แฟชั่นเอาใจเจ้าสาวสายหวานจากแพรว wedding

“โฟร์ – ศกลรัตน์” sweet น้ำตาลเรียกแม่ แฟชั่น ชุดแต่งงาน เอาใจเจ้าสาวสายหวานโดยเฉพาะ

“โฟร์ – ศกลรัตน์” จากเน็ตไอดอลยุคเด็กดี มาเป็นนักร้องดูโอขวัญใจหนุ่มๆ และปัจจุบันกับทบาทฐานะนักแสดงและยูทูปเบอร์ ที่ไม่ว่าจะในคลิป หรือในไอจีเรามักจะได้เห็นสาวโฟร์แต่งตัวจี๊ดๆ สไตล์สาวแฟชั่นอยู่เสมอ และนี่คือ ครั้งแรก! กับการถ่ายแฟชั่นชุดแต่งงานกับนิตยสารแพรว wedding บอกได้คำเดียวว่าสวยมากแม่

ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงาน

ดูแบบชุดแต่งงานร้าน Monique Wedding เพิ่มเติม คลิกเลย

เสื้อผ้า : Monique Wedding
ถนนสาธุประดิษฐ์
โทร. 0-2108-7800, 08-0279-7800
เฟซบุ๊ก : Monique Wedding
ไอจี : @moniqueweddingbkk

แต่งหน้า : ชัยดิษฐ์ สมทรง (ไอจี : @toonchaidit)
ทำผม : นวพล จันทร์ปรุงตน (ไอจี : @ice_oreo)
สไตลิสต์ : Up_Kamphoo
ผู้ช่วยสไตลิสต์ : นิตินัย เพ็ชรทอง
ช่างภาพ : ดวงพร ใบพลูทอง
ผู้ช่วยช่างภาพ : ชโนดม แต้ไพสิฐพงษ์
สถานที่ : Agaligo Photo Studio โทร. 08-9678-1616
ออกแบบฉาก : Moodtone Production โทร. 08-9128-3944

4 ข้อห้ามในงานแต่ง … ความเชื่ออินเตอร์ที่ฝรั่งเขาทำกัน

รู้ไว้ใช่ว่า … ข้อห้ามในงานแต่ง ของฝรั่ง ที่บ่าวสาวชาวไทยรู้ไว้ก็ได้เหมือนกันนะ

การแต่งงานเป็นเรื่องที่ทำกันทุกชนชาติทุกวัฒนธรรม ซึ่งก็มีข้อห้ามแตกต่างกันไปตามความเชื่อของแต่ละพื้นที่ วันนี้เราขอนำเกร็ดความรู้เกี่ยวกับ ข้อห้ามในงานแต่ง สำหรับงานแต่งของชาวยุโรปมาฝากกันค่ะ ว่าที่บ่าวสาวชาวไทยคู่ไหนอยากทำตามบ้างเพื่อความสบายใจไม่ว่ากันค่ะ

1. ห้ามใส่ชุดแต่งงานสีเขียว

สำหรับเจ้าสาวคนไหนที่ชื่นชอบสีเขียว รักษ์โลกรักษ์ธรรมชาติ อย่าได้คิดแปลกแหวกแนวเลือกชุดแต่งงานสีเขียวเป็นอันขาด เพราะชาวยุโรปส่วนใหญ่เชื่อว่าสีเขียวเป็นสีของเทพธิดา หากเจ้าสาวหยิบชุดสีเขียวมาใส่ในงานแต่งงาน องค์เทพธิดาจะมาลงโทษเจ้าสาวคนนั้นที่บังอาจสวมใส่ชุดสีเดียวกับนาง (แต่ถึงเวลาจริงๆ ก็คงไม่มีใครเลือกใส่สีเขียวหรอกเนอะ เอ๊ะ! แต่ก็ไม่นะ)

2. ห้ามทำของตกแตก

เจ้าสาวคนไหนที่ตื่นเต้นในวันแต่งงานจนมือไม้อ่อนแรง จะหยิบจะจับอะไรต้องระมัดระวังให้จงหนัก โดยเฉพาะแก้วน้ำ กระจก จาน ชาม หรือสิ่งของอื่นๆ ที่จะตกแตกได้ง่าย รวมถึงให้ระวังส้นรองเท้าหักด้วย เพราะมีความเชื่อว่าหากสิ่งของแตกหักในวันวิวาห์ จะทำให้ชีวิตคู่ไม่ราบรื่น มีแต่ความร้าวฉานแตกแยกเช่นเดียวกับสิ่งของที่ตกแตก

3. ห้ามให้ใครมาชิมขนมเค้กของเรา

อย่างที่รู้กันดีว่าในงานแต่งงานคู่บ่าว-สาวจะต้องมีการตัดเค้กและแจกให้กับแขกที่มาในงาน ดังนั้นแขกคนไหนที่ได้รับมาแล้วต้องดูแลเค้กของตัวเองให้ดีและกินคนเดียว ห้ามให้ใครมากินของเราเด็ดขาด ในขณะเดียวกันก็ห้ามไปกินเค้กของคนอื่นด้วยนะคะ

ความเชื่อในข้อนี้ถึงแม้จะไม่ชี้ชัดเหตุผลว่าเป็นเพราะอะไร แต่เราเชื่อว่าเค้กแต่งงานนั้นถือเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตคู่รัก เพราะฉะนั้นก็จงกินแต่เพียงเค้กของตน อย่างไปแหยมกับเค้กของคนอื่น (เหมือนไปแย่งของๆ เขา) เด็ดขาด!

4. ห้ามพี่น้องแต่งงานวันเดียวกันหรือปีเดียวกัน

อีกหนึ่งความเชื่อของชาวยุโรปที่เชื่อว่า คนที่เป็นพี่น้องกันห้ามแต่งงานในวันเดียวกันหรือปีเดียวกันเด็ดขาด เพราะจะทำให้ทั้งสองครอบครัวพบเจอแต่เรื่องเลวร้าย ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข ดังนั้นหากว่าอยากจะแต่งงานก็ตกลงกันให้ดีว่าคนพี่จะแต่งเมื่อไหร่ คนน้องจะแต่งตอนไหนจะได้ไม่เป็นปัญหาทีหลังเนอะ

สุดท้ายอยากจะบอกเหล่าว่าที่บ่าว-สาวว่า เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ ที่นำมาฝากกันวันนี้ ใครเชื่อแล้วจะทำตามก็ไม่เสียหาย ส่วนใครที่คิดว่าทั้งหมดนี้มันเป็นความเชื่อของชาวยุโรป แต่ว่าฉันเป็นคนไทยหรือฉันเป็นคนจีนจะเชื่อดีไหม เอาเป็นว่าเดี๋ยวคราวหน้าจะเอาข้อห้ามทั้งของไทยและจีนมาฝากกันแน่นอน รออ่านได้เลย

แต่ที่แน่ๆ บ่าวสาวชาวไปต้องไม่พลาด >>> ไม่อยากตกเป็นรองต้องอ่าน! 6 ความเชื่อในวันแต่งงานที่บ่าวสาวต้องระวัง

ภาพ www.pexels.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a 

5 เคล็ดลับบอกผู้ใหญ่ให้ยอมตามถ้าอยากจัดงานแต่งขนาดเล็ก

งานแต่งขนาดเล็ก บอกผู้ใหญ่ยังไงให้ท่านเซย์เยส

อย่างที่แพรวเวดดิ้งเคยบอกไปแล้วว่ายุคนี้งานแต่งงานจะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ ไม่ตูมตามอลังการอย่างที่ผ่านๆ มา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้นะคะว่า ผู้ใหญ่ยังยึดติดกับงานแบบเดิมๆ อยู่ ทีนี้ทำไงละที่จะทำให้ท่านคล้อยตามและยอมใจเมื่อรู้ว่าคุณอยากจัด งานแต่งขนาดเล็ก เคล็ดลับง่ายๆ ที่ไม่ลองทำไม่รู้ ลองมาดูก่อนจะส่ายหัวแล้วบ่นว่ายากกกกกก

ค่อยๆ บอกความต้องการประกอบเหตุผล

สิ่งแรกที่ต้องบอกตัวเองก็คือ เวลาจะแจ้งความต้องการของคุณ อย่าได้พูดแบบหักดิบหรือพูดเสียงดังจนทำให้ท่านรู้สึกว่า คุณเอาแต่ใจหรือสนแค่เรื่องสไตล์งานที่วัยรุ่นแต่งงานชอบทำกัน เพราะผู้ใหญ่ส่วนมากพอได้ยินว่าจะจัดงานเล็กๆ ก็ไม่วายคิดเรื่องนี้ก่อนเรื่องอื่นเสมอ แต่ยังไงซะก็จงบอกความต้องการอย่างตรงไปตรงมาแต่ค่อยเป้นค่อยไป ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะเป็นเรื่องงบประมาณที่มีจำกัด เพื่อนไม่ได้มีเยอะ หรือแม้แต่มุมมองความคิดที่คุณทั้งคู่อาจรู้สึกตรงกันว่า การจัดงานเล็กๆ ก็เพียงพอต่อใจของคุณทั้งคู่แล้วล่ะ ซึ่งการค่อยๆ พูด ค่อยๆ บอกด้วยเหตุผลที่จริงใจแบบนี้ ท่านจะรับรู้ได้ถึงความต้องการของคุณได้ง่ายกว่า ส่วนเรื่องจะยอมรับหรือไม่ อันนั้นว่ากันอีกที

เปิดใจรับคำแนะนำ แต่มั่นคงในสิ่งที่ต้องการ

แน่นอนว่าเมื่อท่านได้ฟังไปแล้ว อาจเกิดอาการบางอย่าง หรือมีการแสดงความคิดเห็นอย่างใดอย่างหนึ่งกลับมาแน่นอน ขอให้คุณฟังท่านอย่างตั้งใจ เพราะความเห็นบางอย่างของท่าน คุณอาจมองข้ามไป หรือบางทีท่านอาจมีข้อเสนออื่นๆ ที่คุณนำมาปรับเปลี่ยนหรือประยุกต์ให้กับงานแต่งในฝันของคุณได้ ฉะนั้นอย่าได้ทำทีว่าหน่ายจะฟังเพราะยังไงก็ไม่เปลี่ยนใจ จงเงียบฟังอย่างสงบแต่ยังคงยืนหยัดมั่นคงต่อสิ่งที่คิด และคุณเท่านั้นที่จะตอบได้ว่า สิ่งที่ได้ฟังมา มีผลต่อความตั้งใจหรือไม่

แจ้งบอกเรื่องจำนวนแขกที่ท่านจะเชิญได้อย่างสุภาพ

เรื่องจำนวนแขกที่จะเชิญ เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องมีคำถามอย่างแน่นอน เหตุเพราะส่วนใหญ่จะมีความคิดว่า เมื่อลูกแต่งงานต้องแจ้งให้คนรู้จักหรือคู่ค้ารู้ เพราะถือเป็นอีเว้นของครอบครัว ซึ่งบางบ้านการแจ้งเชิญแขกมากมายให้มางานเพราะอยากให้คุณได้ซองเยอะๆ เพื่อเอาไปสร้างอนาคต ซึ่งก็อย่าไปว่าท่านนะคะ เพราะคือความคิดที่เปี่ยมไปด้วยความหวังดีทั้งนั้น เพียงแต่ถ้าคุณไม่ได้ต้องการในเรื่องจำนวนซอง ก็ถือโอกาสนี้เคลียร์ให้ชัดกับพ่อแม่ โดยกำหนดจำนวนแขกที่ท่านสามารถเชิญได้และขอความร่วมมือให้ท่านคัดแขกให้อยู่ในจำนวนนั้นๆ ซึ่งบางบ้านอาจยอมตามแต่มีการต่อรอง ดังนั้น จำนวนที่เสนอบอกท่าน ควรมีตัวเลขสำรองเผื่อๆ ไว้บ้างก็ดีนะคะ

งานแต่งขนาดเล็ก

โน้มน้าวด้วยข้อดีของการจัดงานขนาดเล็ก

พยายามบอกถึงข้อดีของการที่คุณจัดงานแต่งงานขนาดเล็กให้ท่านได้รู้ และได้อินไปกับคุณ โดยจับจุดอ่อนของท่านให้ได้ก่อนแล้วจึงหาวิธีการพูดให้เหมาะ เช่นถ้าพ่อแม่ของคุณเป็นผู้ใหญ่แนวอบอุ่น แฟมิลี่มากๆ เน้นไปเลยเรื่องอารมณ์ความอบอุ่นและบรรยากาศที่เป็นกันเองที่จะเกิดขึ้นในงานแต่งเล็กๆ ที่คุณฝันถึง ถ้าเป็นพ่อแม่ขี้งกก็บอกในเรื่องต้นทุนที่ลงไปน้อยอะไรแบบนั้น แต่อย่าคาดหวังว่าท่านต้องอินหรือคล้อยตามเสมอ แต่อย่างน้อยก็จะได้ให้ท่านได้มีข้อมูลของการจัดงานแบบนี้อยู่บ้าง เผื่อท่านจะมีความเข้าใจมากขึ้น

จำไว้! นี่งานแต่งของคุณไม่ใช่ของท่าน

แค่จำค่ะ แต่ไม่ต้องพูดออกไปรุนแรงจนท่านเกิดอาการน้อยใจ สิ่งที่แพรว wedding อยากให้คุณคิดตลอดในช่วงการแจ้งบอกหรือกล่อมท่านให้คล้อยตามและเปิดไฟเขียวให้คุณจัดงานแต่งงานขนาดเล็กคือ คิดเสมอว่าคุณตั้งเป้าไปแล้วว่างานแต่งในฝันคืองานแบบนี้ ถ้าคุณมั่นใจว่านี่แหละใช่แล้ว และเมื่อมองบริบทโดยรวมแล้วทุกอย่างลงตัวก็จงมุ่งมั่นสานฝันให้เป็นจริง

สิ่งที่ต้องไม่ลืมและเตรียมใจไว้คือ ผู้ใหญ่ส่วนมากจะขัดคุณก่อนแน่นอน แต่จงทำใจให้ร่มเสมอที่คุยกับท่าน บางทีคุณอาจค้นพบว่า ความพยายามทั้งหมดไม่สูญเปล่า เพราะท่านอาจคล้อยตามและยอมใจคุณได้ด้วยทุกสิ่งที่คุณตั้งใจทำมาก็ได้นะคะ

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : langhouse.com, marthastewartwedding.com

อ่านบทความเพิ่มเติม

Sweet Memory มาเติมความหวานให้กับ พิธีการแต่งงานเย็น กันเถอะ

ช่อบูเกต์เจ้าสาว 7 สไตล์ เลือกให้เข้ากับรูปร่าง พร้อมเทคนิคเลือกยังไงให้งบไม่บาน

เฉลิมฉลอง “วันจูบสากล” ด้วย ข้อดีของการจูบ ที่คู่รักอาจยังไม่รู้!!

“รักเราไม่เก่าเลย” 5 วิธีดูแลความรักให้สดใสอยู่เสมอ

สมัยนี้เดี๋ยวรัก เดี๋ยวเลิก รักง่ายหน่ายเร็วกันจนเป็นของธรรมดา มีปัญหาบ้าง ไม่เข้าใจกันบ้าง ไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกันบ้าง แต่คำตอบของปัญหาที่เกิดขึ้นก็ไม่จำเป็นต้องจบลงด้วยการหยุดความสัมพันธ์เสมอไปใช่ไหมล่ะคะ มันคงจะดีกว่าถ้าจะสามารถประคับประคองกันไปได้แบบราบรื่น โดยที่ถึงแม้ว่าจะมีปัญหา แต่ก็ข้ามผ่านไปได้ ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ ใช้วิธีปรับความเข้าใจกันยังไง มันต้องมีเทคนิคกันบ้าง มาดูวิธีง่ายๆ ในการยืดอายุ ความรัก กันดีกว่า ทำง่ายได้ผลจริงแน่นอนค่ะ

1. รักเราไม่เก่าเลย

ทำให้เหมือนเพิ่งเริ่มคบกันใหม่ๆ อย่าให้ความรู้สึกว่าเป็นเรื่องความเคยชิน หาอะไรแปลกใหม่ทำให้คู่ของเราบ้าง แต่อาจจะมีเซอร์ไพร์บ้างเล็กน้อย เพื่อให้ความรักของเราดูไม่จืดชืด

2. มีเวลาให้กัน

บางทีต่างคนก็ต่างทำงาน อาจจะไม่มีเวลาให้กัน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เราไม่จำเป็นต้องมีเวลาให้กันตลอดเวลา แค่หาเวลาว่างนิดๆหน่อยๆ มาทำให้รักเราสดชื่นขึ้น เอมี่ว่าก็ดีนะคะ คือบางครั้ง แค่กินข้าวด้วยกันบ้างแป๊บนึงก็ยังดี ยิ่งถ้ามีเวลาเยอะหน่อยก็ไปเที่ยวต่างจังหวัด ต่างประเทศ ไปให้เห็นอะไรที่มันใหม่ๆ ด้วยกันบ้าง เพราะเวลาที่เราเดินทางไปด้วยกัน จะทำให้เราผูกพันธ์กันมากขึ้น และยิ่งได้เรียนรู้นิสัยใจคอกันมากขึ้นด้วยค่ะ

3. ให้เกียรติกัน

อย่างบางคนเนี่ย เวลาทะเลาะกันปุ๊บก็จะกลายเป็นปีศาจทันทีเลย จะพูดจาแบบว่าน่ากลัวมาก พวกคำหยาบคายอะไรอย่างนี้ ฉะนั้นเวลาทะเลาะกัน ต้องกล้าที่จะเปิดใจคุยกันในทุกเรื่อง มีอะไรชอบหรือไม่ชอบ ก็ให้พูดกันตรงๆ  ไม่โกหกกัน ถ้าโกหกแล้วก็จะโกหกไปเรื่อยๆ ที่สำคัญจะต้องไม่พยายามพูดจาทำร้ายใจกัน เพื่อเอาชนะอีกฝ่าย ต้องมีสติ และให้เกียรติกันเสมอ

4. ให้อภัยและให้โอกาส

คนสองคนเวลาจะมาคบกัน เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ที่นิสัยจะต่างกัน เพราะเรามาจากคนละที่ ฉะนั้น พอถึงเวลาที่เราต้องเปลี่ยนหรือปรับตัวเอง แล้วบางทีมันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง แต่ต้องรู้จักให้อภัยกัน ให้โอกาสกัน ยอมกันบ้าง และที่สำคัญต้องให้เวลาในการปรับตัวเข้าหากัน

5. พยายามเข้าใจกัน

ถ้ามาถึงวันนี้ วันที่เรารู้ว่าเขาเป็นยังไง เขาเองก็รู้ว่าเราเป็นยังไง เราก็ต้องเข้าใจกันและกัน มีอะไรที่เรายอมให้กันได้ ก็อยากจะให้ทำให้กัน ไม่จำเป็นต้องไปโกรธเขาทุกเรื่อง เพราะว่าทุกคนไม่สามารถที่จะเป็นไปอย่างที่เราต้องการได้ทุกอย่าง ตัวเราเองก็ต้องยอมที่จะพูดคุยกัน เพื่อให้เข้าใจกันมากขึ้นด้วย รักของเราจะได้หวานอยู่เสมอไงคะ

>> อ่านเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

8 อาหารเผาผลาญไขมัน เพื่อการเริ่มต้นการเบิร์นที่สมบูรณ์แบบให้ทันวันแต่งงาน

การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและร่างกายเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าคุณจะออกกำลังกายหรือไม่ก็ตาม แต่สำหรับว่าที่บ่าวสาวบางคู่ การทานอาหารที่ดีและการออกกำลังกายก็เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อการพิชิตหุ่นในฝันให้ทันวันวิวาห์ ซึ่งการเริ่มต้นการทานอาหารบางอย่างก็อาจนำมาซึ่งการบรรลุเป้าหมายนั้นได้เร็วขึ้น และนี่คือ อาหารเผาผลาญไขมัน ที่ช่วยเร่งกระบวนการเมตาบอลิซึ่ม ให้ร่างกายเผาผลาญได้เร็ว และที่สำคัญยังช่วยให้อยู่ท้องทำให้คุณเลิกกินจุบกินจิบไปได้เลย

1 แซลมอน

แซลมอน โดยเฉพาะปลาแซลมอนที่จับมาจากธรรมชาติ อุดมไปด้วยกรดโอเมก้า 3 และยังเป็นอาหารที่ทานแล้วอิ่มเร็ว อยู่ท้อง และยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้นจึงเป็นอาหารที่ไม่ส่งผลต่อการสะสมไขมันในร่างกายอีกด้วย

2 วอลนัท

อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่ดีต่อสุขภาพ และวอลนัทยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยป้องกันร่างกายของคุณจากการเก็บไขมันอีกด้วย เป็นอาหารที่ทานเพลินแถมดีต่อสุขภาพไปอีก

3 ผักคะน้า

คะน้าเต็มไปด้วยเส้นใยอาหารที่ช่วยควบคุมการปล่อยกลูโคสในกระแสเลือด นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายลดฮอร์โมนคอร์ติโซลที่ก่อให้เกิดความเครียดที่อาจทำให้น้ำหนักของคุณเพิ่มขึ้นได้โดยไม่รู้ตัว และถ้าหากคุณสามารถดื่มน้ำคะน้าได้ล่ะก็ บอกเลยว่าน้ำแก้วนี้มีพลังงานแค่ 92 แคลอรี่เท่านั้นเอง แต่ถ้าใครไม่ถนัดก้สั่งผัดคะน้าหมูกรอบแทนไปก่อนเนอะ

4 น้ำมันมะกอก

น้ำมันมะกอกมีไขมันที่ดีที่สามารถช่วยป้องกันความหิวโหย จึงช่วยลดการกินที่มากเกินไปได้เป็นอย่างดี เอาล่ะ คราวนี้ก็เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมู มาใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหารแทนล่ะกัน

5 ชาเขียว

นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำแล้ว ชาเขียวยังมีสารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันอีกด้วย ถ้าอย่างนั้นก็ลองเลือกดื่มชาเขียวที่ไม่มีน้ำตาลหลังมื้ออาหารก็น่าจะเวิร์กต่อสุขภาพและหุ่นดีเหมือนกันนะ

6 กล้วย

บางคนอาจจะหลีกเลี่ยงการกินกล้วยเพราะมีคาร์โบไฮเดรตสูง แต่หากไม่ทานเลยก็อาจทำให้ร่างกายขาดโพแทสเซียมจากกล้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งโพแทสเซียมช่วยควบคุมแร่ธาตุและของเหลวในร่างกายของคุณ และยังช่วยเพิ่มการเผาผลาญพื้นฐานของร่างกายอีกด้วย

7 พริกไทย

แทนที่จะเลือกเติมน้ำตาล พริก หรือน้ำปลาในการปรุงก๋วยเตี๋ยว ถึงตอนนี้คุณอาจจะต้องเปลี่ยนมาเติมพริกไทยด้วยแล้ว เพราะมันอาจช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้ เพราะพริกไทยมีสารประกอบที่เรียกว่า แคปไซซิน ที่สร้างความร้อนและสามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรี่และสลายไขมันได้ดี

8 น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวสามารถใช้ได้กับทุกอย่างตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ความงามไปจนถึงการปรุงอาหาร ซึ่งการใช้น้ำมันมะพร้าวเพื่อการบริโภคนั้นจะช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายในการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี เป็นอีกหนึ่งไอเท็มสารพัดประโยชน์ที่ต้องมีติดบ้านไว้เลย

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

คุณสมบัติแม่สามี & แม่ยาย แบบนี้แหละที่ลูกสะใภ้และลูกเขยอยากเจอ

แม่สามี & แม่ยาย แบบนี้แหละที่ลูกสะใภ้และลูกเขยอยากได้

หนุ่มสาวหลายคนที่กำลังจะออกเรือน มักจะคิดถึงเสมอในเรื่องอุปนิสัยใจคอของ แม่สามี & แม่ยาย ที่จะต้องพบเจอว่าจะตรงกับชีวิตจริงที่กำลังได้เจออยู่หรือเปล่า งั้นมาดูกันว่าลิสต์ที่คุณสมบัติเหล่านี้ที่แพรวเวดดิ้งลิสต์มาให้ นี่ใช่ไหม เหล่าคุณแม่ของเขาหรือเธอที่คุณอยากได้

มนุษย์แม่สามีในฝัน

1. รักลูกสะใภ้ไม่ต่างจากลูกตนเอง
แม่ผัวแบบนี้ใครได้ถือว่าบุญเก่าคงมีเยอะน่าดูเลยค่ะ ถ้าแม่ผัวแสดงความรักออกมาให้ลูกสะใภ้ตาดำๆ ได้เห็นบ้างแค่นี้ก็ชื่นใจแย่แล้วค่ะ

2. เอาหูไปนาเอาตาไปไร่
เวลาที่สามีภรรยาทะเลาะกัน แล้วแม่ยังมาไม่เอี่ยวเนี้ย ชีวิตจะดีมากเลยนะคะ แม่จะห่วงลูกชายแค่ไหนแต่ยังปล่อยให้เคลียร์กันเอง ไม่จุ้นจ้านให้วุ่นวาย แบบนี้สุดยอดค่ะmiddle aged mother feeling helpless when caught in between young couple's fight

3. ไม่เมาส์ลูกสะใภ้
ไม่ว่าคุณจะทำอะไรไม่ถูกใจ หรือไม่ว่าคุณจะไม่ได้เก่งเพอร์เฟค แม่ผัวของคุณก็ไม่เคยนินทาว่าร้านคุณให้ใครฟัง หรือแม้กระทั่งเปรียบเทียบคุณกับลูกสะใภ้บ้านอื่น

4. รักหลานช่วยเลี้ยงช่วยดู
ต่อให้ท่านไม่ค่อยชอบหน้าเราเท่าไหร่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แต่ถ้าเราวุ่นๆแล้วท่านช่วยเลี้ยงหลานบ้าง รักหลาน เท่านี้สะใภ้ก็กราบแทบเท้าแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้ารักเกินไปจนให้ลูกเราไปติดอยู่ด้วยตลอดเวลาก็คงแย่เหมือนกันนะค่ะFemale family problems. Mature woman tries reconcile with adult daughter with baby after conflict

5. ไม่ขี้งก จุกจิกเรื่องเงิน
ธรรมดาค่ะ แม่บ้านยุคเก่าจะต้องเข้ามาสอดส่องดูเงินๆ ทองๆ ภายในครอบครัวของลูกชาย แต่ถ้าเข้ามาถามทุกวันว่าวันนี้ใช้เงินเท่าไหร่ ซื้ออะไรบ้างก็ไม่โอเคนะค่ะ แม่ผัวในฝันเอาแค่เป็นห่วงอยู่ห่างๆ ไม่เข้ามาวุ่นวายก็พอใจแล้วค่ะ

มนุษย์แม่เมียในฝัน

1. ให้เกียรติลูกเขย
แม่ยายของคุณเห็นคุณอยู่ในสายตา ไม่หักหน้ากลางวงสังคม มีอะไรมาปรึกษาตลอด ขอความคิดเห็นบ้าง และยังไม่พูดประชดประชัน เหยียดหยาม แม่ยายแบบนี้ดีมากๆ แล้วจริงไหมค่ะหนุ่มๆ

2. ไม่ดูถูกหน้าที่การงาน
ถึงแม้ว่าคุณจะทำงานตำแหน่งไม่ได้สูงอะไรมากมาย ไม่ได้มีโปรเจ็คพันล้านอยู่ในมือ แต่แม่ยายของคุณก็ไม่เคยที่จะดูถูกดูแคลนกันเลยmother_in_law_1agk1oq-1agk1qd

3. ไม่ก้าวก่ายเรื่องเงินทองภายในบ้าน
แม่ยายปล่อยให้คุณและภรรยาดูแลกันเอง ไม่เข้ามาจัดการ แม้ว่าเงินเดือนคุณจะไม่สูงเท่าลูกเขยบ้านอื่นๆ แต่แม่ยายของคุณก็ไม่ก้าวก่าย

4. ไม่ต้องบ่นทุกเรื่อง
ธรรมดาค่ะคุณ แม่ยายที่กำลังเข้าสู่วัยทอง มีอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็บ่นซะทุกเรื่อง พอได้บ่นทีก็ยาวเลย แต่ถ้าแม่ยายของคุณบ่นบ้างอะไรบ้าง ก็ยังพอทนไหวเนอะ

5. ไม่สอนหลานให้มองพ่อในแง่ลบ
ในกรณีนี้ถ้าแม่ยายของคุณ เกลียดขี้หน้าคุณมาก พยายามเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมาละก็ ขอแค่แม่ยายของคุณ ไม่เสี่ยมสอนลูกให้มองเราในแง่ร้ายก็พอแล้วละ

young woman with boyfriend meeting future mother in law

เป็นอย่างไรบ้างค่ะหนุ่มๆ สาวๆ แม่สามีแม่เมียของคุณเป็นแบบในฝันนี้รึเปล่า ถ้าได้ครบ 5 ข้อนี้แสดงว่าบุญเก่ามีเยอะน่าดู แบบนี้คุณต้องทำดีกับท่านให้มากๆ นะคะ แต่ถ้าหนุ่มๆ สาวๆ คนไหนมีแม่ผัวแม่เมียคุ้มดีคุ้มร้าย ก็ปรับตัวหน่อยละกันพร้อมทำดีกับท่านให้มากๆ นะคะ วันไหนที่ท่านเห็นความดีของเราก็จะเอ็นดูเราเหมือนลูกคนหนึ่งแน่นอนค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

เครื่องประดับอัญมณี ของว่าที่บ่าวสาวที่ช่วยเสริมบารมีให้กับผู้สวมใส่

เครื่องประดับอัญมณี นอกจากเลอค่าตระการตาแล้ว คนส่วนใหญ่ยังเชื่อในพลังที่ช่วยเสริมบารมีชีวิตด้วย

ว่าที่บ่าวสาวที่หลงใหลในความงามของ เครื่องประดับอัญมณี หรือหินสีต่างๆ อาจจะลองเลือกหยิบมาใส่ประดับลุคในวันแต่งงานดูก็ได้นะจ๊ะ ไม่ว่าจะเป็น แหวนแต่งงาน สร้อยคอ หรือต่างหู ยิ่งถ้าเลือกให้เข้าเซตกันด้วยแล้วก็ยิ่งเพิ่มความงามไปกันใหญ่ แต่เหล่าอัญมณีสีสันสวยงามเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ความสวยนะ แต่ยังมีความหมายดีๆ อีกด้วย ว่าแล้วก็ไปส่องกันหน่อยสิว่า อัญมณีเสริมบารมี นั้นมีอะไรกันบ้าง

ซิทริน (Citrine) หรือบุษราคัม

อัญมณีสีเหลือง ประจำตัวของคนที่เกิดในเดือนพฤศจิกายน หรือผู้ที่เกิดในราศีพิจิก และเชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งสติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า เพิ่มความมั่นใจและความมุมานะให้กับผู้สวมใส่

เครื่องประดับอัญมณี


เพริดอต
(Peridot)

หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า มรกตยามเย็น (Evening emerald) ซึ่งชาวอียิปต์ในสมัยก่อนเชื่อกันว่าเพริดอต นั้นเป็นอัญมณีแห่งราตรกาล ซึ่งจะส่องประกายและมีพลังเต็มที่ยามค่ำคืน และจะหลับไหลเพื่อสะสมพลังงานในตอนกลางวัน และมีพลังที่ทำให้จิตใจของผู้สวมเข้มแข็ง นำมาซึ่งอารมณ์และจิตใจที่มั่นคง ช่วยฟื้นฟูความสัมพันธ์ เสริมพลัง และปกป้องคุ้มครอง


บลูโทแพซ
(Cobalt Blue Topaz) 

อัญมณีสีฟ้าที่มีอานุภาพในการประนีประนอมระหว่างผู้เป็นเจ้าของกับผู้แวดล้อม ช่วยให้การสื่อสารกับผู้อื่นดีขึ้น มีความเข้าใจกันอย่างถ่องแท้ ขจัดความขุ่นข้องหมองใจ และช่วยให้มีสมาธิดีขึ้น และยังเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ และความแข็งแกร่ง ในสมัยโบราณเชื่อว่าผู้ใดที่ได้ครอบครองบลูโทแพซจะมีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด และมีสภาวะจิตใจที่มั่นคง และเป็นอัญมณีเสริมดวงสำหรับคนเกิดวันศุกร์


การ์เนต (
Garnet) หรือโกเมน

การ์เนต ของไทยนั้นมีสีแดง พบมากที่บ้านบางกะจะ และเขาพลอยแหวน จังหวัดจันทบุรี และเป็นอัญมณีที่ในที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสัมฤทธิ์ และมีความเชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตของผู้เป็นเจ้าของเต็มไปด้วยความสุขสมหวัง สุขภาพแข็งแรง ความรักมั่นคง ช่วยเสริมพลังและแรงบันดาลใจ และยังเป็นอัญมณีประจำเดือนมกราคมอีกด้วย


สโมกกี้ควอตซ์ (Smoky Quartz
)

เป็นควอตซ์ใสมีไอเหมือนควันสีน้ำตาลอมเหลืองปนอยู่ในเนื้อหิน มองเผินๆ อาจดูไม่ค่อยสวยนัก แต่เชื่อกันเป็นอัญมณีที่มีพลังปกป้องสูง ช่วยสลายพลังงานด้านลบ เสริมสัญชาตญาณแห่งการมีชีวิต ช่วยให้ประสบความสำเร็จทั้งในด้านธุรกิจและชีวิตส่วนตัว อีกทั้งยังเป็นหินที่เปี่ยมไปด้วยพลังแห่งความโชดดี เชื่อกันว่าจะช่วยดึงดูดความโชคดีเข้ามาสู่ตัวผู้สวมใส่  และยังเป็นอัญมณีประจำชาวราศีตุลย์อีกด้วย

แต่ถ้าอยากเลือกอัญมณีแบบไม่ตกเทรนด์ต้องนี่เลย >>> Pantone 2018 สู่อเมทิสต์ อัญมณีสีม่วงทรงพลังเพื่อเจ้าสาว

ภาพ pinterest, unsplash.com

a a a a a a a a

เช็กด่วน 6 สัญญาณนี้จะบอกให้คุณรู้ว่า “เราพร้อมแต่งงานกันแล้ว”

แต่ง ไม่แต่ง แต่ง ไม่แต่ง… คิดวกวนไปมาอาจไม่ได้คำตอบที่ตรงใจ ลองเช็คกันดีกว่าว่าคู่ของคุณมีสัญญาณ 6 ข้อนี้ครบหรือไม่ ถ้ามีครบเมื่อไหร่ก็ตัดสินใจลั่นระฆังวิวาห์ แต่งงาน กันได้เลย

  • รู้สึกเป็นคนๆ เดียวกัน

ลองสังเกตตัวเองว่า ทุกครั้งที่เขามีปัญหา มีเรื่องไม่สบายใจ เศร้า หรือเสียใจ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง หากคุณรู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย และอยากช่วยเขาแก้ปัญหา นั่นแปลว่าคุณรู้สึกเป็นคนๆ เดียวกับเขาไปเรียบร้อยแล้ว หรือในทางกลับกันหากเห็นเขามีความสุขคุณก็จะพลอยสุขตามไปด้วย แบบนี้ที่เขาเรียกว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขยังไงล่ะค่ะ

  • เป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่เมื่ออยู่กับเขา

คนบางคนอาจมีหลายบุคลิก อยู่กับพ่อแม่เป็นแบบหนึ่ง อยู่กับเพื่อนเป็นแบบหนึ่ง หรืออยู่กับคนรักก็เป็นอีกแบบหนึ่ง ลองถามใจตัวเองดูนะคะว่า เวลาอยู่กับใครแล้วคุณรู้สึกเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่มากที่สุด หากคำตอบมาตกอยู่ที่คนรัก นั่นแปลว่าคุณพร้อมจะใช้ชีวิตคู่กับเขาแล้วล่ะ แต่ถ้าไม่ใช่ต้องลองหาคำตอบนะคะว่า ทำไมคุณถึงเป็นตัวของตัวเองได้ไม่สุดเมื่ออยู่กับเขา

  • ยอมรับข้อเสียของกันและกันได้

แน่นอนว่าไม่มีใครที่ดีพร้อมสมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างมีข้อบกพร่องที่แตกต่างกันออกไป อีกทั้งคนสองคนก็ไม่สามารถเหมือนกันได้ไปเสียทุกอย่าง ดังนั้นการดำเนินชีวิตคู่ให้อยู่รอดปลอดภัย คุณจึงต้องยอมรับข้อเสียของอีกฝ่ายได้ ถ้าข้อเสียนั้นไม่ได้เลวร้ายจนเกินไป เชื่อเถอะค่ะว่า การมองข้ามไปบ้างช่วยให้อะไรๆ ง่ายขึ้นได้อีกเยอะ

  • เชื่อใจกัน

ความเชื่อใจเป็นสิ่งที่ทุกคู่รักหรือคู่ชีวิตควรมีให้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังจะแต่งงาน เพราะความเชื่อใจเป็นคำตอบของคำถามที่ว่า เราพร้อมจะแต่งงานกันหรือไม่ ความเชื่อใจที่ว่านี้ นอกจากจะหมายถึงเชื่อใจในความซื่อสัตย์ที่มีต่อกันแล้ว ยังหมายถึงเชื่อใจที่จะฝากชีวิตไว้กับคนๆ หนึ่ง และเชื่อใจว่าเขาจะทำให้คุณมีความสุขในชีวิตคู่อีกด้วย

  • สื่อสารกันเข้าใจ

การแต่งงานคือการตัดสินใจอยู่ร่วมกัน ดังนั้นการสื่อสารที่ดีจะช่วยให้ชีวิตคู่ราบรื่นได้ ลองเช็คดูนะคะว่า ทุกวันนี้คุณพูดคุยกับเขาได้ทุกเรื่องไหม เวลามีปัญหาคุณอยากปรึกษาหรือระบายให้เขาฟังหรือเปล่า ในทางกลับกันคุณเองสามารถเป็นที่ปรึกษาหรือผู้รับฟังที่ดีให้กับเขาได้หรือไม่ และที่สำคัญที่สุดคือคุณทั้งคู่ต้องเปิดใจคุยกันในทุกเรื่อง เพราะการเก็บไว้คนเดียวไม่สามารถทำให้อีกฝ่ายรับรู้ได้ จริงไหมล่ะค่ะ

  • มีเป้าหมายและวางแผนอนาคตร่วมกัน

หากคุณมองเห็นอนาคตคล้ายๆ กัน มีเป้าหมายในชีวิตที่ตรงกัน เริ่มที่จะพูดถึงสิ่งต่างๆ เหล่านั้นกับเขาเสมอๆ และทุกอย่างที่วางแผนไว้หมายถึงการทำร่วมกัน นั่นแปลว่าคุณได้หลอมรวมภาพของเขาเข้าไปในอนาคตของคุณเรียบร้อยแล้ว ถ้ามองเห็นภาพอนาคตเป็นคำว่า “เรา” สัญญาณนี้แปลว่าพร้อมแต่งแล้วล่ะ

เป็นยังไงบ้างค่ะ ตอนนี้คู่ของคุณส่งสัญญาณความพร้อมไปกี่ข้อแล้ว นี่แค่เริ่มต้นเท่านั้นนะคะ เพราะเป็นเพียง 6 สัญญาณสำคัญ ความจริงแล้วชีวิตคู่ยังมีรายละเอียดอีกเยอะแยะมากมาย ของอย่างนี้ต้องค่อยๆ เรียนรู้กันไป ไม่ต้องรีบร้อนดีที่สุดค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ :unsplash.com

บ่าวสาวแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินวิธีลดน้ำหนักง่ายๆ ให้ทันวันวิวาห์

แค่เตรียมงานก็ไม่มีเวลามาฟิตหุ่นแล้ว หากคุณคือว่าที่บ่าวสาวที่กำลังเผชิญปัญหาหรือกังวลใจเรื่องนี้อยู่ แพรว wedding มาพร้อมทางลัดกับ วิธีลดน้ำหนัก อย่างง่าย เพราะแค่เปลี่ยนพฤติกรรมการกินหุ่นก็ฟิตเฟิร์มพร้อมสำหรับวันวิวาห์แล้ว

ขยับเท้าบ้าง

แค่ขยับเท้าบ้าง ขยับร่างกาย หรือการเดินให้มากก็สามารถเบิร์นไปได้ถึง 350 แคลอรี่ เพราะฉะนั้นถึงเวลาเปลี่ยนพฤติกรรมจากขึ้นบันไดเลื่อนก็อาจเปลี่ยนมาเดินขึ้นบันได หรือหากวันไหนอากาศดีๆ ก็อาจจะชวนคนรักออกไปเดินรับลมชมสวนก็ได้ทั้งเบิร์นแคลฯ ได้ทั้งโรแมนติกไปอีก หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนจากการนั่งคุยโทรศัพท์เฉยๆ เป็นการเดินไปคุยไปก็ยังได้ จำไว้ แค่ขยับก็เท่ากับออกกำลังกาย

ลดถั่วคั่วลงหน่อย

ถึงแม้ว่าถั่วจะมีไขมันที่ดีต่อสุขภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแคลอรี่มากเช่นเดียวกัน จากการรีเสิร์ชของมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์พบว่า ถั่วคั่ว 1 กำมือ (หรือประมาณ 1 ออนซ์) จะมีน้ำมันออกมาและให้พลังงานประมาณ 175 แคลอรี่ และถั่วคั่ว 3 กำมือให้พลังงานถึง 525 แคลอรี่ เพราะฉะนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงแคลอรี่อันมหาศาล และยังรับประทานถั่วได้อย่างสบายใจ ให้เปลี่ยนมาเป็นถั่วพิสตาชิโอ 2 กำมือที่ให้พลังงานเพียงแค่ 129 แคลอรี่

อย่านั่งกินอาหารหน้าทีวี

จากการรีเสิร์ชของมหาวิทยาลัยเมสสาชูเซตต์สพบว่า การนั่งทานอาหารหน้าทีวีจะให้พลังงานถึง 288 แคลอรี่ เพราะฉะนั้นก็จงเปลี่ยนพฤติกรรมมาเพลิดเพลินมื้ออร่อยบนโต๊ะอาหาร และเดินขยับร่างกายหลังจากทานอาหารเสร็จสักเล็กน้อย ซึ่งการขยับร่างกาย 1 ชั่วโมงจะช่วยเบิร์นได้มากถึง 527 แคลอรี่เชียวนะ

ลดท็อปปิ้งสลัดให้น้อยลง

แน่นอนว่าสลัดชามโตมาพร้อมสุขภาพดี แต่สารพัดท็อปปิ้งที่ไม่ใช่ผักและอัดแน่นอยู่นั้น เผลอๆ อาจให้แคลอรี่มากกว่าพิซซ่าหรือลาซานญ่าไปอีก!! ไหนจะชีส, เบคอน, อะโวคาโด, ผลไม้อบแห้ง ฯลฯ ที่แน่นอนว่าอุดมไปด้วยแคลอรี่ เพราะฉะนั้นจะดีกว่าถ้าคุณจะลดพลังงานแคลอรี่ไปได้สัก 500 แคลฯ หรือมากกว่านั้น กับการเลือกใส่ท็อปปิ้งเพียงแค่ 1 อย่าง และเพิ่มผักที่มีรสชาติดีแทน เช่น พริกหยวกคั่ว, หอมหัวใหญ่ย่าง หรือเห็ด เป็นต้น ที่สำคัญอย่าลืมลดน้ำสลัดจากที่เคยเติมให้เหลือแค่ครึ่งเดียวด้วยนะ อย่าได้มาตกมาตายเพราะสลัดชามนี้ชุ่มไปด้วยน้ำสลัดนะ

ใช้จานอาหารขนาดเล็กลง

เช่น จากจานอาหารขนาด 12 นิ้ว คุณอาจจะลดลงให้เลือกสัก 10 นิ้ว ก็จะช่วยให้คุณทานอาหารได้น้อยลง 20-25 เปอร์เซ็นต์ และเซฟแคลอรี่ไปได้มากถึง 500 แคลฯ แถมนักวิจัยยังบอกอีกว่า การลดขนาดจานลงไม่ได้มีผลต่อการอิ่มท้อง เพราะฉะนั้นจานเล็กลงแต่อิ่มเท่าเดิม เวิร์กสุดๆ ไปเลย

ลดสารพัดเมนูพาสต้า

พาสต้า 1 จาน/ถ้วยให้พลังงานประมาณ 220 แคลอรี่ แต่จากการรีเสิร์ชของมหาวิทยาลัยนิวยอร์กพบว่า ถ้าหากคุณไปรับประทานเมนูพาสต้าที่ร้านอาหารอาจจะมีแคลอรี่มากกว่านี้ถึง 480 เปอร์เซ็นต์ต่อด้วย หรือประมาณ 1,056 แคลอรี่ไปเลยจ้า แม้ว่าคุณจะกินบะหมี่หรือก๋วยเตี๋ยวไปถึง 2 ชามก็ยังให้พลังงานเพียง 616  แคลอรี่เท่านั้นเอง

จิบค็อกเทลสูตรบาง

ไซรัป, sour mix, น้ำผลไม้รสหวาน หรือสารพัดความครีมมี่ทั้งหลายที่ผสมลงไปในค็อกเทลอาจให้พลังงานมากถึง 800 แคลอรี่ เพราะฉะนั้นมาปรับสูตรค็อกเทลให้บางเบาด้วยการสั่งค็อกเทลผสมด้วยคลับโซดา, โทนิค วอเตอร์, น้ำแครนเบอร์รี่ หรือน้ำส้มคั้น ก็จะสามารถเซฟหุ่นจาก 800 แคลฯ อันน่ากลัวในเครื่องดื่มแก้วจิ๋วได้แล้ว

ทานอาหารกับคนกลุ่มน้อย

ผู้เชี่ยวชาญทางอาหารอาหารผู้เขียนหนังสือ Mindless Eating บอกว่า การรับประทานอาหารโดยเฉพาะมื้อเย็นกับคนกลุ่มใหญ่ 7 คนหรือมากกว่านั้นจะทำให้คุณทานอาหารได้มากถึง 96 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมันเหมือนกับว่าคุณทานอาหารเย็นมากถึง 2 เท่า!! เพราะฉะนั้นการลดจำนวนคนในมื้อเย็นอาจช่วยให้คุณลดพลังงานได้มากถึง 500 แคลอรี่เชียวนะ

ไม่ต้องกินให้เกลี้ยงจาน

เจมส์ โอ.ฮิลล์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการลดน้ำหนักบอกว่าการเหลืออาหารในจานไว้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์เป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยลดน้ำหนักได้ เช่น หากในอาหารมื้อนั้นมีพลังงาน 2,000  แคลอรี่การเหลืออาหารไว้ 25 เปอร์เซ็นต์ของจานหรือของมื้อจะช่วยลดพลังงานได้มากถึง 500 แคลอรี่

แต่ถ้าใครไหนกลัวว่าทานเหลือแบบนี้ดูเสียของหรือเสียเงินโดยใช้เหตุก็อาจจะห่อกลับบ้านไว้กินมื้อต่อไปก็ได้นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอดี และมีวินัยในการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หุ่นฟิตแอนด์เฟิร์มก็อยู่แค่เอื้อมแล้ว

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ pexels.com

บอกลาคานกับ 8 วิธี จีบเขาก่อนยังไงไม่ให้น่าเกลียดเนียนๆ แบบไม่นก

หนุ่มเหงาสาวซึมที่อาศัยบนคานทองนิเวศน์คนไหนอยากสัมผัสบรรยากาศหวานๆ บนภาคพื้นดินกับเขาบ้าง แพรวเวดดิ้งขอแนะนำให้คุณเริ่มปฏิบัติการ จีบ พิชิตใจเธอกับ How To จีบ เขาก่อนตาม 8 ข้อนี้ได้เลยลุย!

1. ยิ้มหวาน ส่งสายตาให้เป้าหมายรู้ตัว!

ถ้าคุณๆ มองหาเป้าหมายได้ปุ๊บ อย่างแรกที่เราแนะนำก็คือ ส่งสัญญาณเลิฟๆ ให้เขาก่อนค่ะ ทำง่ายๆ ไม่ยาก แค่ “มองแล้วยิ้ม” ให้เขาบ่อยๆ ร้อยทั้งร้อยเขาต้องรู้สึกบ้างแหละว่ามีคนกำลังจ้องอยู่ (ถ้าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนน่ะนะ) จากนั้นจริตจก้านต้องมานิดนึงนะ พอเขารู้ตัวแล้วหันมาสบตา คุณควรจะหลบตาเขาช้าๆ ก้มหน้านิดหน่อยพร้อมยกยิ้มน้อยๆ แบบเขินๆ ประมาณว่า อุ๊ย…ถูกจับได้ซะละว่าแอบมอง! แบบนี้ถือว่าเริด  ค่อยๆ ทำไป เป้าหมายจะโสดไม่โสดค่อยว่ากันอีกที!

2. สร้างสถานการณ์ ทำการแสดง!

เคยดูละครหรือซีรี่ส์ที่พระนางบังเอิญเจอกันบ่อยๆ มั้ยคะคุณ? เราขอฟันธงว่า 90% ไม่ใช่พรหมลิขิตหรอกค่ะ แต่เป็น “ฉันนี่แหละลิขิต” เพราะฉะนั้นไม่ต้องรอโชคชะตาบันดาลให้มาเจอกันหรอกนะ (เดี๋ยวจะชวด!) เรื่องแบบนี้มันสร้างกันได้ เขาลุกไปเข้าห้องน้ำ เราก็ลุกไปบ้าง เขาเดินไปซื้อของ เราก็ลองทำตาม ยิ่งเป็นเป้าหมายที่อยู่ใกล้กัน เช่น ทำงานตึกเดียวกัน ชั้นเดียวกัน เรียนที่เดียวกัน แบบนี้ยิ่งง่าย (แต่ไม่ใช่ทำตัวเป็นสตอล์คเกอร์นะ อันนั้นออกแนวโรคจิต!) และอย่าลืมประโยคยอดฮิต “อุ๊ย…เจอกันอีกแล้วนะคะ/ครับ” (พร้อมส่งสายตาให้ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ) ด้วยล่ะ

3. เนียนเข้าไปอยู่ใกล้ๆ ให้ใจเขาหวั่นไหว!

ขั้นนี้เราขอบอกว่ามีประโยชน์ คนอยู่ใกล้ย่อมได้อะไรมากกว่าคนอยู่ไกล ประโยชน์ที่ว่าก็คือ คุณจะได้สังเกตว่าเขามากับใคร เพื่อนหรือว่าแฟน? ถ้าหูดีก็ลองฟังดูว่าเขาคุยอะไรกันบ้าง เก็บข้อมูลด้านกายภาพแบบเต็มตา เช่น หุ่น ใบหน้า ลักษณะ และรูปร่าง เช็คให้ชัวร์อีกที่ว่าคนๆ นี้ใช่แบบที่คุณต้องการ ไม่ใช่พวกหล่อสวยร้อยเมตร ค่อยๆ มองแต่อย่าจ้องแบบรุกหนัก อย่าลืมรอยยิ้มหวานๆ ส่งให้เขาเป็นระยะๆ ด้วย

4. ชวนคุย สร้างความรู้จักกันก่อน!

มาอยู่ใกล้ๆ แล้ว เราขอร้องว่าอย่าจู่โจมรุกหนัก ไม่อย่างนั้นไก่จะตื่น! ลองทักทายเขาแบบพอประมาณหรือทำทีเป็นว่าหาที่นั่งไม่ได้ เก้าอี้ไม่พอ เช่น “เก้าอี้ตัวนี้มีคนนั่งไหมคะ/ครับ?” แบบนี้แล้วก็เอาเก้าอี้ไปนั่งโต๊ะใกล้ๆ กัน หรือจะเป็น “ตรงนี้ว่างไหมคะ/ครับ ขอนั่งด้วยคนได้ไหม” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบทเริ่มต้นเจรจาต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์แวดล้อม ไม่ใช่ว่าโต๊ะเก้าอี้เยอะแยะแต่ดันไปขอเขานั่ง อย่างนี้จะดูไม่เนียน เพราะฉะนั้นต้องคิด! คิด! คิด! จากนั้นก็เรียกความมั่นใจของตัวเองออกมา หันไปชวนคุยเล็กๆ น้อยๆ ลม ฟ้า อากาศ และเรื่องทั่วไป ที่สำคัญคือ ควรเลี่ยงคำถามโง่ๆ อย่างเช่น เห็นอยู่แล้วว่าเขามากับเพื่อน ก็ทะลึ่งไปถามว่า “มาคนเดียวเหรอคะ?” เรื่องนี้ต้องมีไหวพริบกันนิดนึงเนอะ

5. เช็คสถานะโสดให้ชัวร์!

อู๊ยยย…คุณคะเรื่องนี้สำคัญนะ! ทะเล่อทะล่าขอเบอร์ขอไลน์ไปทั้งที่ไม่รู้ว่าเขาโสดหรือเปล่าแบบนี้เสี่ยงจะโดนมองแรง โดนทึ้ง โดนตบ! เพราะฉะนั้นได้โอกาสพูดคุยทำความรู้จักกันแล้วก็เลียบๆ เคียงๆ เนียนถามเขาสักนิดว่า ยังโสดซิงไร้คู่หรือเปล่า เช่น “วันนี้แฟนไม่มาด้วยเหรอคะ/ครับ” หรือ “มารอแฟนเหรอคะ/ครับ” เป็นต้น อย่าลืมปรับบทพูดให้เข้ากับสถานการณ์ ถ้าคำตอบของเขาแสดงให้เรารู้ว่ามีโซ่คล้องคอแล้วก็ค่อยๆ ถอยฉากออกมา แต่ถ้าเขาส่ายหน้าเป็นสัญญาณทางโล่งสะดวกก็เหยียบคันเร่งให้มิด เดินหน้าต่อไปแบบสวยๆ ได้เลย

6. เอาเบอร์ เอาไลน์ มาให้ได้!

เข้าใกล้ได้แล้ว ชวนคุยได้แล้ว บอกเลยว่ายุทธการขอเบอร์เรื่องนี้ไม่น่ายาก แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จบกัน! เพราะถ้าคุณไม่ได้ข้อมูลสำหรับติดต่อแล้วคุณจะหยดน้ำลงหินต่อไปได้ยังไง! เพราะฉะนั้นมารยาหญิงมีเท่าไหร่งัดออกมาใช้ให้หมด เบอร์โทร ไลน์ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ต้องล้วงมาให้ได้ วิธีง่ายๆ ใสๆ ที่หลายคนลองทำดูแล้วบอกว่าเวิร์กคือ ปิดเสียง ปิดสั่นมือถือของตัวเอง แล้วหันไปบอกเขาว่า “โทษนะคะ/ครับ พอดีหาโทรศัพท์ไม่เจอ ไม่รู้ทำหล่นไว้ที่ไหน ขอยืมโทรเข้าเครื่องหน่อยได้ไหมคะ/ครับ” (แม้วิธีนี้จะดูว่าใช้กันบ่อยจนเกลื่อนแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวว่าเค้าจะรู้ทัน บอกเลยว่ารู้ทันยิ่งดี จะได้รู้ว่าฉันอยากรู้จักเธอ) หรือจะทำเป็นว่าขอยืมโทรหาเพื่อนก็ได้ แล้วค่อยไปเอาเบอร์ที่เพื่อนอีกที แบบนี้ก็เริด อย่างน้อยก็ต้องได้เบอร์ได้ไลน์บ้างแหละนะ ลองดู!

อีกหนึ่งวิธีสำหรับคนทำงานใกล้กัน อยู่ตึกเดียวกัน ขอบอกว่าใช้วิธีนี้เลยค่ะ “ขอเบอร์หรือไลน์ไว้หน่อยนะ เผื่อว่าต้องดีลงานกัน” แบบนี้เนียนกริบ! ได้เบอร์ได้ไลน์มาแบบมีชั้นเชิง

7. ติดต่อ เทคแคร์ อย่างสม่ำเสมอ

ได้เบอร์มาแล้วก็แอดไลน์ แอดเฟซกันตามระเบียบ ทำเป็นทักไปขอบคุณเขาที่ให้ยืมโทรศัพท์ก็ได้ จากนั้นก็เนียนคุยต่อไป เริ่มหาข้อมูลว่าเขาชอบอะไร ไลฟ์สไตล์แบบไหนแล้วชวนเขาคุย หยอดความเป็นห่วงเป็นใยนิดๆ ลงไปด้วย ให้เขาเห็นว่าไอแคร์ยูนะจ๊ะ ที่สำคัญตอนนี้จะเป็นตัวชี้ชะตาให้คุณรู้ว่าจะได้เข้ารอบหรือตกรอบ เพราะถ้าเขาแสดงอาการรำคาญ อ่านไม่ตอบ แบบนี้คงต้องยอมรับว่าคุณไม่ใช่คนที่เขาต้องการ ในทางกลับกันถ้าเขาดูยินดีที่คุณชวนคุยและตอบกลับสม่ำเสมอ แบบนี้เตรียมตัวนัดเดทได้เลย

8. ไปเดทกันเถอะ!

ถ้าสัญญาณความรักดีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ข้อ 1 ถึง 7 แบบนี้เรียกว่าดวงความรักเริ่มเปิด มีสิทธิ์ได้ลงจากคานแบบสวยๆ ฟันธง! เพราะฉะนั้นอย่ารีรอ ถ้าคุณมั่นใจว่าคนนี้ใช่จริง อยากพัฒนาความสัมพันธ์ ประเมินท่าทีเขาแล้วก็สอดคล้องไปในทางเดียวกัน จงนัดเจอกันซะ! เรียกง่ายๆ ตามภาษาวัยรุ่นว่า “ไปเดท” เราขอบอกว่า ถ้าคุณทั้งคู่ผ่านเดทแรกไปได้ คำว่าแฟนก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมหรอกจ้า

เขาว่ากันว่า “ความรัก” มักจะมาไวไปไวเสมอ ถ้าเจอคนที่ชอบ คนที่ใช่ จนอยากได้ (มาเป็นแฟน) แล้วไม่รีบคว้าไว้ เขาคนนั้นอาจจะลอยลมไป แต่ถ้ารีบร้อนปุ๊บปั๊บจับมาเป็นแฟนเขาก็คงจะตื่นตกใจวิ่งหนีหายไปอีก เอาเป็นว่าค่อยเป็นค่อยไป สักวันคงจะเจอคนสอยลงมาจากคานบ้างแหละเนอะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.catholicmatch.com

ข้อดีของสาวๆ ที่ แต่งงานอายุ 30+ ช่วงชีวิตดีๆ ที่สาววัยเอ๊าะมีแต่จะอิจฉา

ไหนใครอายุเกินเลข 3 แล้วยังไม่แต่งงานบ้างเอ่ย อย่าได้กลัวหรือนอยด์ไปเด็ดขาด เพราะแพรวเวดดิ้งกำลังจะบอกว่า คุณคือผู้โชคดีที่ได้แต่งงานในช่วงนี้ เพราะการ แต่งงานอายุ 30 up ก็มีข้อดีกับการเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างที่คุณคาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็น…

30 ยังแจ๋ว แต่งงานตอนนี้กับข้อดีที่หลายคนอิจฉา

Photo by Fuu J on Unsplash

รู้จักตัวเองดีขึ้น

อายุเลข 3 เป็นช่วงเวลาของการเติบโตที่หลายคนทราบดีว่าคือช่วงเวลาการเป็นผู้ใหญ่ สามารถช่วยเหลือและดูแลตัวเองได้อย่างอิสระเป็นครั้งแรก ดังนั้นจึงอาจเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ควรใช้เวลาคิดและนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเป็น สิ่งต้องการในชีวิต และสิ่งที่ต้องการจากคนอื่นๆ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นและโอกาสที่ดีสำหรับตัวเองและทำความเข้าใจตัวเองเท่าๆ กับการเปิดตัวเองเพื่อเข้าใจคนอื่นมากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์ความสุขและมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน

ร่วมกันสร้างรากฐานที่แข็งแรง

การใช้เวลาจะทำให้คู่รักรู้จักกันและกันมากยิ่งขึ้น มีเวลาในการสร้างรากฐานความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับกันและกันมากขึ้น ก่อนที่ความกดดันทั้งเรื่องเงิน ภาษี และความรับผิดชอบในครอบครัวจะเข้ามา นอกจากนี้ ยังมีโอกาสในการมองเห็นว่าทั้งคู่จะสามารถช่วยเหลือค้ำจุนกันและกันได้อย่างไร ซึ่งหมายถึงคู่รักจะมีช่วงเวลาทำความเข้าใจที่ดีเมื่อมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดหรือทั้งสองฝ่ายเกิดภาวะยากลำบาก ไม่เข้าใจกัน จะมีวิธีประนีประนอมกันอย่างไร จะโต้แย้งกันอย่างไรและการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ร่วมกันอย่างไร ซึ่งทั้งหมดของความสัมพันธ์ที่ผ่านมาร่วมกันจะเป็นแกนหลักของการใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานต่อไป

Photo by Marius Muresan on Unsplash

ไม่มีกำหนดเวลาสำหรับความสัมพันธ์

เมื่ออายุเกิน 30 ผู้ปกครองของคู่รักหลายคู่อาจจะเริ่มให้สัญญาณอะไรบางอย่างที่บ่งบอกถึงนาฬิกาที่เริ่มนับถอยหลัง หรือการที่คู่รักบางคู่เองเองอาจจะเริ่มกดดันเพราะเพื่อนส่วนใหญ่แต่งงานจนอาจเกิดเป็นปมด้อย แต่ไม่ว่าเหตุผลใดสำหรับการมาที่นั่งกังวลเกี่ยวกับการยังไม่ได้แต่งงานในช่วงวัยเลข 3 ให้จำไว้ว่าเรื่องอายุไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะในความไม่จริงไม่มีเวลาที่กำหนดตายตัวสำหรับความสัมพันธ์ ดังนั้นจึงไม่ควรกังวลและคิดซะว่ามีเวลาหายใจสำหรับความสัมพันธ์และใช้เวลาสำหรับการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ต้องการ

การพัฒนาในช่วงเวลาที่แตกต่าง

อะไรที่เราเมื่อครั้งเป็นวัยรุ่นย่อมแตกต่างจากเมื่อเราเติบโตจนถึงวัยเลข 3 เพราะเราเรียนรู้มากขึ้นสำหรับชีวิตและผลักดันตัวเองสำหรับประสบการณ์และการพบเจอคน สถานที่หรือไอเดียใหม่ๆ คนเราจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รสนิยมเกี่ยวกับเพลง หนัง อาหารและเพื่อน และเมื่อเราไม่รู้จริงๆ ว่าเราคือใครและต้องการอะไร มันจะยากมากขึ้นเมื่อเราจะมีความเข้าใจกับการใช้ชีวิตกับใครสักคนตลอดไป มันสำคัญที่จะแน่ใจว่าใครสักคนที่เราจะแต่งงานด้วยจะพัฒนาเติบโตไปพร้อมๆ กันหรือไม่ขัดขวางการเติบโตของอีกฝ่ายและเวลาจะทำให้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ชัดเจนขึ้น

มีความมั่นใจในทักษะการตัดสินใจมากขึ้น

การเชื่อมั่นในตัวเองคือส่วนสำคัญของการเป็นมนุษย์ที่มีความสุข ดังนั้นคือข้อเท็จจริงที่ควรฟังตัวเองและรู้ว่าไม่ลงหลักปักฐานกับคนที่อาจมีปัญหาสำหรับกัน เราอาจจะต้องลองใช้เวลาพิสูจน์ใจกับหลายๆ คนก่อนจะเจอคนที่ใช่ที่แท้จริง แต่ในท้ายที่สุด เมื่อตัดสินใจจะตอบตกลงที่จะใช้ชีวิตกับใครสักคน มันจะจบลงด้วยความหวานเพราะจะมั่นใจได้ 100% ว่าเป็นคนที่ใช่แน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และการใช้ชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย <<

ภาพ : www.confettidaydreams.com

Sweet Memory มาเติมความหวานให้กับ พิธีการแต่งงานเย็น กันเถอะ

ถึงแม้งานแต่งงานในช่วงเย็น หรืองานฉลองมงคลสมรสของบ่าวสาวจะเป็นทางการขนาดไหนนั้น แต่บ่าวสาวก็ไม่ควรมองข้ามการสร้างโมเม้นต์ดีๆ ให้เป็นที่น่าจดจำ อย่างเช่น การหยอดกิมมิกเติมความหวานในช่วง พิธีการแต่งงานเย็น เอาไว้อย่างละนิดอย่างหน่อย ให้แขกได้พออมยิ้มหรือบ่าวสาวได้ฟินกันบ้าง แถมคุณทั้งสองยังจะได้มีโมเม้นต์ดีๆ ไว้ให้จดจำอีกด้วย ว่าแต่จะมีลูกเล่นน่ารักๆ อะไรมาเติมความหวานในช่วงพิธีการบ้างนั้น ไปดูกันเลย

เซอร์ไพรส์

พิธีการแต่งงานเย็น

การเซอร์ไพรส์ยังคงเป็นมุกเพิ่มความหวานสุดคลาสสิคในงานแต่ง ซึ่งจากสถิติที่เราเคยได้ไปร่วมงานแต่งมานั้นพบว่ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของการเซอร์ไพรส์คือการร้องเพลง เล่นดนตรี หรือการแสดงอื่นๆ แม้กระทั่งวิดีโอพรีเซ้นต์เทชั่นที่อีกฝ่ายจัดทำขึ้นมาแบบพิเศษไม่ให้อีกคนรู้ตัว แต่ถ้าหากเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวคนไหนคิดอยากจะเซอร์ไพรส์ด้วยการโชว์ลูกคอหรือออกสเต็ปแล้วล่ะก็ อาจจะต้องใช้การสกิลส่วนตัวบวกกับการฝึกซ้อมเยอะๆ หน่อยนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นจากความหวานอาจจะกลายเป็นความฮา แล้วจะหาว่าเราไม่เตือนไม่ได้น้า

เฟิร์สแดนซ์

เป็นอีกโมเม้นต์สุดหวานราวกับหนังรักโรแมนติก ถ้าคุณเป็นขาแดนซ์แล้วล่ะก็เราขอแนะนำให้จัดซีเควนซ์นี้ปิดงานแล้วเข้าสู่ช่วงปาร์ตี้ไปเลย แต่ถ้าคุณไม่ใช่สายแดนซ์ก็อาจจะเลือกเปิดเพลงช้าแล้วสโลว์ซบกันเบาๆ พอให้แขกได้ตาร้อนผ่าวๆ ก็ได้นะจ๊ะ

พิธีการปกติ

สำหรับบ่าวสาวที่ไม่ใช่สายหวานหรือขาทำเซอร์ไพรส์ก็ไม่ต้องกังวลใจไปว่าเราจะไม่มีโมเม้นต์หวานๆ เหมือนคู่อื่นเขา เพราะในซีเควนซ์ปกติก็สามารถเติมดีเทลความหวานเข้าไปได้เหมือนกันนะจ๊ะ ตามนี้เลย

– ช่วงเปิดตัว ลองเปลี่ยนจากการเดินควงแขนกันเข้างานแบบธรรมดา ด้วยการเปิดตัวฝ่ายหญิงก่อน จะเดินมาเดี่ยวหรือควงแขนคุณพ่อมาก็ได้ตามสะดวก จากนั้นค่อยให้ฝ่ายชายถือดอกไม้ไว้รอรับเจ้าสาว ซึ่งอาจจะยืนรอด้านล่างหรือบนเวทีก็ได้ หรือจะเดินมารับเจ้าสาวคนสวยที่กลางงานแล้วควงแขนเดินขึ้นสู่เวทีพร้อมกันก็ดูแกรนด์ไปอีกแบบ แต่ถ้าจะให้หวานแบบขั้นสุด ฝ่ายชายอาจจะมีช็อตคุกเข่าแล้วมอบช่อดอกไม้ให้เจ้าสาวก็ได้นะคะ

– กล่าวขอบคุณ หลังจากที่คุณกล่าวขอบคุณประธาน พ่อแม่ และแขกจบแล้ว ลองหันมาขอบคุณกันและกันพร้อมบอกความรู้สึกในใจสั้นๆ ให้อีกฝ่ายได้รับรู้ รับรองว่าช็อตนี้จะสร้างความประทับใจเผลอๆ อาจจะเรียกน้ำตาจากอีกฝ่ายได้อีกด้วย

– เข้าห้องหอ อันนี้เป็นความหวานแบบส่วนตั๊วส่วนตัวสุดๆ ลองเตรียมของขวัญให้กันและกันเอาไว้ก็เป็นความคิดที่ไม่เลวนะคะ พร้อมกับกล่าวขอบคุณอีกฝ่ายอีกครั้งที่มาเดินเคียงข้างกันไปตลอดชีวิต อูยยยย แค่ขึ้นก็มดขึ้นเตียงแล้วจ้า

จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ! ไม่ว่าจะเป็นหอมแก้ม หอมไหล่ จุ๊บหน้าผาก จุ๊บมือ หรือจุ๊บกันเบาๆ พอน่ารัก ก็ล้วนเพิ่มดีกรีความหวานได้หมด แต่ต้องทำมาจากหัวใจนะจ๊ะจะได้เป็นธรรมชาติแบบไม่ใช่ทำเพราะกองเชียร์บังคับเด้อ

หากทั้งหมดนี้ยังหวานไม่พอก็ สร้างกิมมิกลุคบ่าวสาวและแขกในงานแต่งงานให้หวานน่ารักแบบไม่เลี่ยน ไปด้วยเลย

cr. snippetandink.com, pinterest

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a