เชื่อว่าคู่รักหลายคู่คงวาดฝันถึง ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก อันหอมหวาน เอาน่า! ช่วง 4-5 เดือนแรกก็ยังยิ้มได้อยู่ แต่มีหลายคู่ที่พอเลยครึ่งปีไปแล้วเริ่มซึมเซาและส่อแววมีปัญหา ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่า ไม่ใช่ความผิดใครคนใดคนหนึ่ง แต่อาจเป็นเพราะ 5 ข้อนี้ที่ทำให้เรายังปรับตัวกันไม่ได้

5 เรื่องหลักๆ ที่ทำให้ ชีวิตหลังแต่งงานปีแรก ของคู่รักใหม่ไม่ราบรื่น

1. ความหวานและความน่าตื่นเต้นลดลง

พอสถานะเปลี่ยนไปอะไรๆ ก็เปลี่ยนแปลง เมื่อก่อนตอนเป็นแฟนชอบชวนกันออกไปเดท ทานข้าว ดูหนัง ฟังเพลง แต่พอแต่งงานกันไปสักพักกิจกรรมพวกนี้มันหายไปไหนซะหมด? หลายคู่มักคิดว่าย้ายมาอยู่บ้านเดียวกัน เจอกันทุกวัน จะออกไปข้างนอกทำไม! ใครคิดแบบนี้ถ้าไม่รีบปรับทัศนคติเดี๋ยวความรักจะจืดชืดกลายเป็นความหมางเมินได้นะ ทางที่ดีควรมีเวลาออกไปทำกิจกรรมเพิ่มความหวานอย่างที่เคยทำตอนเป็นแฟนกันบ้าง ไอเดียที่แนะนำคือ ชวนกันไปสถานที่ที่คุณพบกันเป็นครั้งแรก รำลึกความหลังสักหน่อยก็ไม่เลว

2. คาดหวังในตัวคนรักมากเกินไป

ปัญหานี้เจอกันแทบทุกคู่ โดยเฉพาะผู้ชายบางคนที่คาดหวังว่า หลังแต่งงานไปแล้วผู้หญิงจะต้องดูแลความสะอาดบ้าน ซักผ้า รีดผ้า ฯลฯ แต่ลืมไปว่าเธอก็มีหน้าที่การงานต้องทำเช่นกัน ในทางกลับกันผู้หญิงก็ไม่น้อยหน้า คุณสามีต้องกลับบ้านตรงเวลา โทรหาต้องรับสาย ไลน์ไปต้องอ่าน เงินเดือนมาต้องให้ภรรยาเก็บ อันนี้เกินไป! ถ้าใครรู้สึกว่าครอบครัวเล็กๆ ของเราเริ่มจะกลายเป็นแบบนี้คงต้องนั่งจับเข่าคุยกันแล้วล่ะ ว่าจะหาทางแก้ปัญหายังไง แบ่งหน้าที่รับผิดชอบงานบ้านกันดีไหม หรือใครรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรในบ้านได้บ้าง ลองตกลงกันให้เข้าใจ แล้วชีวิตคู่จะกลับมาสดใสเหมือนตอนเริ่มรักกันแรกๆ

3. ลืมไปว่าต้องดูแลตัวเอง

หลายคนมักชอบคิดว่า พอแต่งงานแล้วเราก็มีอีกหนึ่งชีวิตให้ต้องคอยดูแล สาละวนกับความเป็นอยู่ของคนรัก โดยลืมใส่ใจชีวิตของตัวเอง ลืมดูแลสุขภาพ ไม่ออกกำลังกาย ไม่ไปเที่ยวกับเพื่อน ไม่แต่งหน้าแต่งตัว ปล่อยให้ตัวเองเริ่มพุงออก แบบนี้ไม่ไหวนะ! ถึงแม้จะต้องดูแลคนรักแต่ต้องใส่ใจร่างกายและจิตใจของตัวเองด้วย ออกไปเที่ยว ช้อปปิ้ง สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ไม่ต้องทำตัวเป็นพ่อบ้านแม่บ้านตลอดเวลาก็ได้ อะไรที่เคยทำแล้วรู้สึกดี รู้สึกสนุก ก็ทำเถอะค่ะ ไม่งั้นชีวิตแต่งงานก็เปรียบเสมือนกรงขังดีๆ นี่เอง

4. เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทะเลาะกัน

ข้อนี้หลายคนบอกว่าหนักสุด! ตอนที่ยังเป็นแฟนหากมีเรื่องบาดหมางจนทะเลาะกัน ต่างคนก็ต่างแยกย้าย ไม่อยากคุยก็วางสายโทรศัพท์ แต่พอต้องมาอยู่ด้วยกันจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้วสิ มีปัญหาแต่ละทีไม่รู้จะหนีไปไหนได้ งานนี้บ้านใครมีหลายห้องอาจพอหลบไปนั่งให้ใจเย็น แต่บ้านหลังน้อยหรือคอนโดที่ไม่ได้มีพื้นที่มากคงต้องจัดการอารมณ์และความรู้สึกกันดีๆ พูดคุยกันอย่างถนอมน้ำใจและเข้าใจ หาทางออกและข้อตกลงร่วมกันให้ได้ (แบบไม่ต้องตีกันนะ!)

5. แบ่งเวลาไปหาครอบครัวไม่ลงตัว

ความจริงแล้วชีวิตแต่งงานไม่ใช่แค่เรื่องของคนสองคน แต่ยังมีครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หลายคู่รักมีปัญหาจัดสรรเวลาไปเยี่ยมครอบครัวแต่ละฝ่ายไม่ลงตัว เทศกาลนี้ต้องไปบ้านฉัน หยุดยาวคราวหน้าก็ต้องไปบ้านฉันอีก แบบนี้ครอบครัวอีกฝ่ายคงเกิดคำถามว่า ทำไมไม่มาหากันบ้างเลย พานทำให้น้อยใจกันไปยกใหญ่ เรื่องนี้คงต้องนั่งจัดสรรเวลาให้ครอบครัวทั้งสองฝ่ายเท่าๆ กัน

เชื่อว่าความรักของคนสองคนนั้นเข้มแข็งมากอยู่แล้วถึงได้ตัดสินใจแต่งงาน แต่บางทีการย้ายมาอยู่ด้วยกันอาจต้องอาศัยการปรับตัวและปรับความเข้าใจให้มากกว่าตอนเป็นแฟน ถ้าทำปีแรกได้ดี ปีต่อๆ ไปก็จะยิ่งแฮปปี้แน่นอน

สารพันปัญหาความสัมพันธ์คู่รักตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงจุดสุดท้าย แพรวเวดดิ้ง มีคำแนะนำให้รักอยู่ยืนยาวอีกเพียบ

• Do & Don’t ฮาวทูเดทให้แฮปปี้ ถ้าเริ่มต้นดีรับรองรักนี้ยาวนาน
• 10 เรื่องสำคัญที่คู่รักต้องคุยกันให้เคลียร์ก่อนจะตัดสินใจแต่งงาน
• ไม่ไหวอย่าฝืน! กับ 8 สัญญาณเตือนภัยปัญหาชีวิตคู่ เกิดขึ้นเมื่อไหร่อย่าไปต่อ

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

เรื่องคนรักนอนกรนถือเป็นปัญหาหลักของสถาบันครอบครัวเลยทีเดียว เพราะหลายครั้งคนข้างๆ ที่นอนด้วยกันถึงขั้นไม่ได้หลับไม่ได้นอนเพราะเสียงกรนดังสนั่นราวกับแผ่นดินไหว แบบนี้ทนต่อไปไม่ได้แล้ว ต้องหาวิธีแก้ด่วนๆ สามีนอนกรนทำไงดี

ไม่อยากทน สามีนอนกรนทำไงดี แก้ด้วย 5 วิธีนี้อย่างเร่งด่วน

เวลาเจอคนนอนกรนไม่อยากให้แค่ทนๆ แล้วจบไป เพราะบางครั้งการนอนกรนก็เสี่ยงกับภาวะหยุดหายใจระหว่างนอนหลับและอันตรายถึงชีวิต อย่าคิดเพียงแค่ว่าเขาสร้างความรำคาญให้เราเด็ดขาด เรื่องนี้ซีเรียสมาก!

ปรับเปลี่ยนท่านอน

แพทย์มักจะแนะนำคนที่มีปัญหานอนกรนแบบไม่ได้รุนแรงมากให้เปลี่ยนมานอนตะแคง พับแขนงอศอกขึ้นมาข้างหน้า แล้วเอามือดันคางไว้เพื่อปิดปากระหว่างนอน เพราะหากคุณยังคงนอนหงายตามปกติ โคนลิ้นและเพดานอ่อนจะเลื่อนมาปิดช่องลมหายใจ ทำให้เกิดเสียงกรน แต่ถ้าใครกลัวว่าพอหลับไม่รู้เรื่องแล้วร่างกายขยับหงายอัตโนมัติ ลองใช้ผ้าขนหนูม้วนเป็นก้อน หรือลูกเทนนิสสอดไว้ด้านหลัง เพื่อป้องกันการนอนหงายแบบไม่รู้ตัว

เตรียมที่นอนให้พร้อม

วิธีนี้ควรทำควบคู่ไปกับวิธีแรก การเตรียมที่นอนให้พร้อมก็สามารถช่วยให้ร่างกายเรานอนได้สบายมากขึ้น เช่น เตรียมหมอนหนุนที่มีความสูงเล็กน้อย มารองคอตอนนอน วิธีนี้จะช่วยลดอาการบวมของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น รวมถึงทำความสะอาดที่นอนให้ปราศจากฝุ่นที่เป็นตัวการทำให้เราหายใจลำบาก โดยเฉพาะคนที่เป็นภูมิแพ้ที่มีอาการนอนกรนได้ง่ายกว่าปกติ

ดูแลสุขภาพและลดน้ำหนัก

สังเกตว่าคนที่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า น้ำหนักเยอะ มักจะมีปัญหานอนกรนอยู่เสมอ นั่นเพราะว่าไขมันที่พอกบริเวณคอ อก และหน้าทอง จะไปเบียดช่องทางหายใจ ยิ่งต้องนอนราบยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายตัว และที่สำคัญคือ ควรงดทานอาหารก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง งดการดื่มแอลกอฮอล์ และงดการสูบบุหรี่ด้วย

หาเครื่องมือเทคโนโลยีมาช่วย

บางครั้งสภาพอากาศในห้องนอนก็เป็นสาเหตุให้นอนกรน ถ้าห้องนอนบ้านใครมีปัญหาอากาศแห้ง ตัวการทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบ แนะนำให้ลองหาเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศมาตั้งไว้ในห้อง จะช่วยให้อาการนอนกรนดีขึ้น

ปรึกษาแพทย์

ถ้าลองแก้ปัญหามาแล้วหลายวิธีแต่ยังไม่ได้ผล แนะนำว่ารีบปรึกษาหมอด่วน ไม่ควรยอมแพ้และปล่อยไปตามกรรม เพราะจะส่งผลเสียกับร่างกาย แย่ที่สุดคือภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ คนรักที่นอนด้วยกันควรหมั่นสังเกตอาการไว้ด้วย แล้วรีบไปหาหมอเพื่อทำ Sleep Test เพื่อวินิจฉัยอาการและรับการรักษาให้ทันท่วงที ซึ่งการรักษาอาจเป็นการใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP, การฝังพิลลาร์บนเพดานอ่อน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์

คนรักข้างกายนอนกรนอย่ามัวแต่รำคาญ รีบหาวิธีแก้ไขหรือไปหาหมอจะได้นอนหลับสบายกันทั้งคู่ ที่สำคัญมีชีวิตอยู่ด้วยกันนานๆ

ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่รักอีกมากมายหลายมุมมอง สามารถตามอ่านกันได้ใน >> Praew Wedding 

ข้อมูลจาก : www.cigna.co.th

ภาพจาก : Unsplash.com

ช่วงนี้การเมืองบ้านเราค่อนข้างร้อนระอุ! มีม็อบไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดคนใกล้ตัวก็เริ่มบ่นออกมาบ้างแล้วว่า เธอกับแฟนมีความ คิดต่างทางการเมือง มีความเห็นไปคนละทาง เปิดข่าวหรือเปิดประเด็นคุยกันเรื่องนี้ไม่ได้เลย จนตอนนี้เริ่มจะรู้สึกอึดอัดซะแล้ว!

ทำอย่างไรเมื่อเรากับแฟน คิดต่างทางการเมือง

จริงๆ แล้วเรื่องที่คู่รักมีความเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมืองไม่เหมือนกันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ขนาดพ่อ แม่ ลูก ญาติ พี่ น้อง ยังคิดต่างกันก็มีถมเถไป แต่สิ่งสำคัญคือ เราจะไม่เลิกกันเพราะเรื่องการเมือง! งั้นไปดูว่าจะทำอย่างไรให้รักเรายังอยู่ได้โดยที่เชียร์ขั้วการเมืองคนละฝ่าย

1. ต้องเปิดใจฟัง แลกเปลี่ยนข้อมูลกันด้วยเหตุผล

คิดไม่เหมือนกันก็ไม่เป็นไร เพราะต่างคนถูกเลี้ยงกันมาคนละแบบ โตมาในสังคมคนละอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ควรทำคือ เปิดใจฟังสิ่งที่อีกฝ่ายคิด ตรองดูเหตุผลที่เขาเล่ามา ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งที่ไม่เห็นด้วย ก็ควรใจเย็นๆ แย้งกันด้วยเหตุผลของแต่ละฝ่าย ที่สำคัญคือ อย่ายัดเยียดความคิดในแบบเราให้เขาเด็ดขาด การบังคับว่าเธอต้องเชื่อฉันสิ แบบนี้รังแต่จะทำให้ยิ่งทะเลาะกันเปล่าๆ

2. เมื่อเริ่มมีอารมณ์โกรธ ให้รีบเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการคุยเรื่องการเมืองกับคนเห็นต่างมักสร้างความหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อไหร่ที่รู้สึกตัวว่าเริ่มพูดเสียงดังมากขึ้น กระแทกคำเน้นย้ำมากขึ้น หัวเริ่มร้อนเหมือนน้ำกำลังจะเดือด คงถึงเวลาหยุดคุยกันแล้ว ถ้าดูข่าวอยู่ให้เปลี่ยนช่องไปเลย ไปดูหนัง Netflix ดูละคร ฟังเพลง หรือจะไปทำกิจกรรมอย่างอื่นก็ได้ ซักผ้า กวาดบ้าน ออกไปกินข้าวด้วยกันเลยยิ่งดี แล้วก็รูดซิปปากเรื่องการเมืองด้วย แมตช์นี้พักไว้ก่อน ไว้ค่อยต่อคราวหน้านะ

3. หาจุดร่วมตรงกลางให้ได้

อันนี้สำคัญเหมือนกัน เพราะเรื่องการเมืองโดยเฉพาะทุกวันนี้มีประเด็นละเอียดอ่อน คุยโต้แย้งความคิดเห็นกันได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะพูดได้ทุกเรื่อง ถ้าจะเปิดใจคุยเรื่องการเมืองกันแล้ว บอกคู่สนทนาไว้ก่อนเลยว่า ประเด็นนี้อ่อนไหว ไม่พูดได้ไหม ขอคุยประเด็นอื่นแทน วิธีนี้น่าจะช่วยให้ทั้งคนพูดคนฟังสะดวกใจมากขึ้น

4. คิดไว้เสมอว่าความสัมพันธ์เราแน่นแฟ้นกว่าเรื่องการเมือง

แน่นอนว่าคู่รักหลายคู่เริ่มคบหากันก่อนจะมีเรื่องร้อนแรงทางการเมืองซะอีก อยากให้ทุกคนที่คิดต่างจากคนรักพึงระลึกไว้เสมอว่า ต่อให้ประเทศเปลี่ยนนักการเมืองไปอีกกี่ชุด แต่คู่ชีวิตของคุณจะยังเป็นคนนี้คนเดิมแน่นอน อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมามากมาย จะให้พังเพราะการเมืองไม่ได้!

5. เลี่ยงหัวข้อสนทนาทางการเมือง

ถ้าสุดท้ายต่างคนต่างหนักแน่นในความคิดของตัวเอง เริ่มคุยทีไรก็คล้ายว่าบรรยากาศจะมาคุ ทางออกสุดท้ายคงต้องเลี่ยงคุยเรื่องนี้ดีกว่า โฟกัสแค่เรื่องราวใกล้ตัวของเรา วันนี้งานหนักไหม? เหนื่อยไหม? พรุ่งนี้ไปไหนกันดี? มื้อนี้อยากกินอะไร? สารพัดเรื่องราวที่พูดคุยกันได้ก็สรรหามาคุยเถอะ ทิ้งเรื่องการเมืองไว้นอกประตูบ้าน แต่ถ้าออกจากบ้านเมื่อไหร่อยากจัดเต็มแชร์ความคิดกับคนคอเดียวกันก็ได้เลย!

ใครที่มีแฟนที่คิดเห็นทางการเมืองเหมือนกัน แพรวเวดดิ้ง ก็ขอกด 99 สาธุบุญด้วย ส่วนใครที่มีคู่คิดต่างก็ต้องหาทางลงให้ดี คุยได้ก็คุย คุยไม่ได้ก็เลี่ยง เอาความรักของเราไว้ก่อน เพราะต่อให้เปลี่ยนนายกฯ อีกสักกี่คน แต่คนรักของเราก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ดี!

สามารถติดตามเรื่องราวความสัมพันธ์ของคู่รักในทุกแง่มุมได้ที่นี่ >>  กดเลย

ภาพจาก : Unsplash.com, Pexels.com

เวลาที่คู่รักต้องอยู่ห่างไกลกันนานๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมี รักระยะไกล บั่นทอนจิตใจกันพอสมควร โดยเฉพาะความรู้สึกไม่แน่นอนและไม่มั่นใจอาจทำให้เกิดความหวั่นไหวว่า รักจะยังไปต่อได้หรือไม่?

ดูแล รักระยะไกล ไม่ว่าห่างแค่ไหนแต่หัวใจยังผูกกัน

1. ตั้งเป้าหมายด้วยกันและรอคอยอย่างใจเย็น

หากต้องอยู่ไกลกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แพรวเวดดิ้งแนะนำให้คุณตั้งเป้าหมายร่วมกัน อย่างเช่น การวางแผนไปเที่ยว หรือจะเป็นการกำหนดวันที่จะได้เจอกัน แบบนี้จะทำให้คุณทั้งคู่รู้ว่ากำลังรออะไรอยู่ และเป็นการรอคอยอย่างมีความหวัง ขณะเดียวกันก็มีเรื่องให้ทำฆ่าเวลาระหว่างรอ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนกิจกรรมที่จะทำ หรือการมองหาร้านอาหารอร่อยๆ ที่อยากไปทานด้วยกัน แบบนี้จะช่วยลดความฟุ้งซ่านและความคิดแง่ลบลงได้บ้าง

ส่วนช่วงนี้คนที่ลำบากเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้นคู่รักที่อยู่กันคนละประเทศ ไปมาหาสู่กันว่ายากแล้ว ยังมีเรื่องของ Time Zone ช่วงเวลาที่ต่างกันด้วย ใครที่พอมีช่องทางสามารถบินไปหากันได้อาจจะลองพยายามดู แต่คงต้องใช้ความอดทนและแรงใจมากๆ เพราะทั้งเรื่องเอกสาร การตรวจร่างกายที่เข้มงวด และกฎต่างๆ ด้านการแพทย์ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง และมีกำลังพอก็ซื้อตั๋วเครื่องบินโลด ส่วนใครที่ทำได้แต่รอให้สถานการณ์ดีขึ้นก็ต้องหนักแน่นไว้ ถึงเวลาที่ได้เจอกันเมื่อไหร่คงดีต่อใจและรู้สึกคุ้มค่ากับการรอคอย แต่ต้องหมั่นตรวจเช็กสุขภาพหัวใจกันหน่อย ส่งข้อความ การ์ด หรือจดหมายน้อยผ่านไปรษณีย์ ทำเซอร์ไพรส์แบบน่ารักๆ ก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะ

2. คุยกันสม่ำเสมอ แต่อย่าให้เธอต้องกลายเป็นหุ่นยนต์

เชื่อว่าคู่รักหลายคู่ที่ไม่ได้อยู่ใกล้กันจะต้องมีการกำหนดเวลาโทรหา เช้า สาย บ่าย เย็น ก่อนนอน จริงๆ แล้ววิธีนี้อาจใช้ได้ผลกับบางคู่รักเท่านั้น และไม่แน่ว่าจะใช้ได้ตลอดรอดฝั่ง!

หลายครั้งที่การพยายามทำตามสิ่งที่กำหนดไว้ กลับทำให้ชีวิตรักยิ่งห่างเหิน แย่ไปกว่านั้นคือความรู้สึกถูกบังคับให้ทำมากกว่าที่จะอยากทำจริงๆ เพราะฉะนั้นปล่อยให้การพูดคุยติดต่อเป็นไปตามธรรมชาติอย่างที่เขามักจะพูดกันว่า “ความคิดถึงเรียกร้องให้โทรหา” แบบนี้คงดีกับความสัมพันธ์ระยะไกลมากกว่าที่จะใช้ชีวิตเป็นหุ่นยนต์ พอโทรหากันก็ได้แค่รายงานว่าทำอะไรอยู่ที่ไหน แต่ไม่มีเรื่องเล่าอะไรเลย เพราะเล่าไปหมดแล้วตอนที่โทรหากันสองชั่วโมงก่อน!

3. ใจเย็นๆ อย่าคิดมาก

หลายครั้งที่เวลาอยู่ห่างจากคนรักมักทำให้เราคิดอะไรตื้นๆ และตัดสินใจเร็วเกินไป โดยเฉพาะเวลาที่โทรไปแล้วเขาไม่รับ ส่งข้อความไปแล้วเขาไม่อ่าน หรือเห็นรูปเขากับใครสักคนที่ไม่รู้จัก แบบนี้ใจก็พาลจะคิดไปไกล เอ๊ะ คนนั้นเป็นใคร? แอบนอกใจเราหรือเปล่า? และสารพัดความคิดจิตตก บางคนถึงขั้นโกรธจัดหัวฟัดหัวเหวี่ยงพานให้ความสัมพันธ์อาจพังไม่เป็นท่า

ใจเย็นก่อนค่ะ เขาไม่รับสายไม่ได้แปลว่าเขาไม่รัก จริงๆ งานอาจจะยุ่ง ติดประชุม หรือนอนหลับจนไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็ได้ และอีกหลายเหตุผลที่เกิดขึ้นได้ ลองถามกันดีๆ ก่อนว่าทำอะไรอยู่จ๊ะ? งานยุ่ง? หรือแม้กระทั่งว่าคนในรูปเป็นใคร? เปิดโอกาสให้เขาได้อธิบายเหตุผลก่อน เพราะจริงๆ แล้วอาจไม่ได้มีอะไรเลยก็ได้ อย่างน้อยก็ดีกว่าสาดอารมณ์ร้ายใส่กันโดยไม่ฟังอะไรเลย

ความรักระยะไกลเป็นอะไรที่รักษาค่อนข้างยาก โดยเฉพาะช่วงนี้ที่เชื้อโรคร้ายกระจายไปทั่วโลก แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางดูแลความรักให้ยังอยู่ดี แค่ต้องอาศัยความเข้าใจและหัวใจที่แข็งแรงของคนทั้งคู่ เหมือนเพลงที่ว่า “หมั่นคอยดูแลและรักษาดวงใจ เก็บเอาไว้ในยามที่ฉันเคียงคู่เธอ…”

ติดตามอ่านเรื่องราวความสัมพันธ์ของคนที่มีรักระยะไกลในหัวข้ออื่นๆ ตามข้างล่างนี้ได้เลย

• เคล็ดลับรักทางไกล รักยังไงให้แฮปปี้ ถึงไกลแค่ไหนรักยังอยู่ดี
• 15 เทคนิคพิชิต รักทางไกล ถึงตัวจะไกลแต่ใจยังใกล้กันเสมอ
• 7 เทคนิคกระชับพื้นที่ใจ ให้รักทางไกลได้ใกล้กว่าที่เคย

ข้อมูลจาก : markmanson.net

ภาพจาก : freepik.com, unsplsh.com

ใครที่ชอบไป ดูดวงความรัก พอโดนทักว่าต้องเลิกก็ออกอาการจิตตก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง งานนี้ แพรวเวดดิ้ง มีเคล็ดลับสู้คำทำนายจากหมอดูมาบอก

ดูดวงความรัก กันบ่อยๆ ก็ใช่ว่าจะดี เพราะบางทีหมอดูอาจจะพูดในสิ่งที่เราไม่อยากได้ยิน เช่น ทักว่าต้องเลิกกันบ้างล่ะ ไม่ใช่เนื้อคู่กันบ้างล่ะ อยู่กันไม่รอดบ้างล่ะ ใครได้ยินแบบนี้ทำใจร่มๆ ก่อน แล้วตามไปอ่านวิธีการรับมือกับคำทำนายแบบนี้กัน

1.ทำตัวเหมือนเดิม ไม่ต้องคิดมาก

แบบนี้คงต้องขอปลอบใจกันหน่อยว่า “อย่าไปคิดมาก” ถือซะว่าไปดูดวงเอาสนุก ขำๆ ท่องให้ขึ้นใจว่าหมอดูคู่หมอเดา บางครั้งก็ไม่ได้ถูกต้องเสียทุกอย่าง (หรืออาจดูผิดไปหมดเลยก็ได้)

การดูดวงจากลายมือ วันเดือนปีเกิด ฯลฯ อาจทำให้เขารู้เรื่องราวของเราได้เพียงน้อยนิด แต่คนที่รู้ดีอยู่แก่ใจมากที่สุดว่าความรักและความสัมพันธ์ของเราเป็นเช่นไร คือ “ตัวเราเอง” ถ้ามั่นใจว่ารักเราแข็งแรงพอก็อย่าย่อท้อหรือหมกหมุ่นจนเก็บเอาคำทำนายของคนนอกอย่างหมอดูมาเป็นสิ่งบันทอนจิตใจของเราเลยดีกว่า

2.ชวนคนรักไปทำบุญแบบว่ากันไว้ดีกว่าแก้

ถ้าการเลิกคิดมากแบบข้อแรกยังไม่ตอบโจทย์ ของอย่างนี้จะป้องกันก็ไม่เสียหาย ชวนกันไปทำบุญสักหน่อยเพื่อเสริมดวงชะตาความรัก อย่างที่โบราณเขาว่า “ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน” แล้วแผ่บุญกุศลเสริมฐานบุญให้กันและกัน หรือถ้าเอาแบบขั้นแอดวานซ์ก็ต้องแผ่ไปเผื่อเทวดาประจำตัวที่คอยดูแลเราและแฟน แล้วอธิษฐานให้เขาดูแลคนทั้งคู่ รวมถึงดูแลความรักให้ไปในทางที่ดีไม่มีอุปสรรค แบบนี้น่าจะช่วยให้สบายใจขึ้นเยอะ

3.ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ปล่อยให้คำทำนายเป็นเรื่องของอนาคต

หมอดูอยากจะทักอะไรก็ปล่อยเขาไป อะไรดีให้เก็บใส่ใจ อะไรไม่ดีต้องคอยระวัง หากว่าคุณรู้ตัวอยู่แล้วว่าชีวิตรักกระท่อนกระแท่นแต่ก็ไม่ได้อยากให้เป็นไปตามคำทำนาย สิ่งที่ควรทำคือ “ทำทุกวันให้ดีที่สุด” ดูแลกันและกันให้มากขึ้น ใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าปล่อยปละละเลย ตรงไหนของเราที่ยังบกพร่องก็ต้องปรับปรุง อะไรที่ดีแล้วก็ทำให้ดีกว่าเดิม เป็นแบบนี้แล้วจะเลิกกันได้ยังไง! (แต่สุดท้ายถ้าไม่เป็นอย่างใจก็ยังถือว่าทำดีที่สุดแล้ว อย่าเสียใจเลย)

4.ถามหมอดูไปตรงๆ เลยว่าจะแก้เคล็ดอย่างไร

มาถึงจุดนี้ถ้าคนจะเชื่อก็เอาให้สุด ในเมื่อเลือกจะเดินสายนี้ก็แก้เคล็ดพลิกร้ายให้กลายเป็นดีกันไปเลย ถ้าเป็นหมอดูที่คุณเคารพ ควรลองถามเขาดูว่ามีวิธีอย่างไรบ้างที่จะทำให้ความรักยืนยาวและไม่เป็นไปตามคำทำนาย ซึ่งจากการที่ แพรวเวดดิ้ง ไปค้นข้อมูลมาก็มีหลายวิธี เช่น

ถวายมาลัยดอกรักหรือดอกมะลิ : ชวนกันไปถวายมาลัยดอกรักหรือดอกมะลิบูชาพระทุกสัปดาห์ หรือปลูกต้นรักก็เป็นอีกหนึ่งวิธีแก้เคล็ดที่สามารถช่วยเสริมดวงคู่รักได้ แต่ต้องจำไว้ว่าให้นำต้นรักไปปลูกในบริเวณวัด ไม่ควรปลูกภายในรั้วบ้าน

ถวายของให้วัดแบบเป็นคู่ : ไม่ว่าว่าจะเป็นเทียนคู่ แจกันคู่ ฯลฯ เพื่อแก้เคล็ดให้ความรักเราอยู่เป็นคู่ไม่จากไปไหนเหมือนสิ่งของที่ถวายไป

ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ช่วยเรา : ทำบุญไปแล้ว ทีนี้ต้องตามไปขอพรกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความรัก ในไทยมีอยู่หลายสถานที่ เช่น ไปขอพรกับพระกฤษณะ วัดเทพมณเฑียร เสาชิงช้า, พระแม่อุมาเทวี วัดพระศรีมหาอุมาเทวี, เจ้าแม่เขาสามมุก แหลมสามมุก จ.ชลบุรี, หลวงพ่อนาค วัดมัชฌิมาวาส จ. อุดรธานี และ พระธาตุศรีสองรัก จ.เลย จัดทริปตามไหว้ขอพรกระชับรักกันได้เลย

ทำบุญกับงานแต่ง : ถ้ามีโอกาสได้ร่วมงานแต่งงาน คุณควรจะชวนคู่รักร่วมกันใส่ซองให้บ่าวสาว อย่าลืมอธิษฐานให้ความรักของคู่คุณเองมั่นคง หวานชื่น หรือถ้าคู่ไหนยังไม่ได้แต่งก็สามารถอธิษฐานให้ตัวเองได้แต่งสักที การใส่ซองกับงานมงคลแบบนี้ถือเป็นการยินดีในการเริ่มต้นชีวิตคู่ของผู้อื่น สิ่งดีๆ ต้องคืนกลับมาหาเราแน่นอน

ปรับฮวงจุ้ยบ้านและห้องนอน : หมอดูหลายท่านแนะนำว่าชีวิตคู่จะดีและราบรื่นขึ้นได้นั้น “ฮวงจุ้ย” ในบ้านและห้องนอนก็มีผลเสริมพลังบวกให้ความรัก ของมีคม ของไม่เป็นมงคล ถ้าเอาออกได้ให้ย้ายออกไปเก็บไว้นอกเรือนชาน รวมถึงใครที่มีรูปปั้นประจำนักษัตรของตัวเองที่วางไว้ตามมุมต่างๆ ของบ้าน รีบเช็กโดยด่วนว่ามันเป็นปีชงระหว่างคุณกับคนรักหรือเปล่า ถ้าใช่ก็เก็บหรือย้ายไปไว้ที่อื่นก่อน

เครื่องรางความรักน่าจะช่วยได้ : ใครสายมูลองมองหาเครื่องรางเสริมโชคเรื่องความรักมาใส่ดูก็ดีนะ อยากใส่คู่กันหรือใส่คนเดียว อันนี้คงต้องตกลงกันให้ดีๆ ถ้าคนรักของเราไม่อยากใส่ก็อย่าไปบังคับ เดี๋ยวจะทะเลาะกันเปล่าๆ

สำหรับการหาวิธีแก้เคล็ดมีมากมาย แต่สิ่งที่อยากให้ระมัดระวัง คือ “โดนหมอดูหลอก” ให้ทำพิธีนั้นพิธีนี้แล้วจะต้องมีค่าครูเป็นจำนวนเงินมากโข ตรงนี้ขอให้ไตร่ตรองดูดีๆ ว่าคุ้มหรือไม่ ควรหรือเปล่า และโดยเฉพาะหากรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หลงไปทำคุณไสยมนต์ดำ ทำเสน่ห์ แบบนี้ต้องระวังจะได้ไม่คุ้มเสีย!

5.เลิกเชื่อหมอดูแล้วเชื่อหัวใจตัวเองให้มาก

ถ้าหมอคนแรกก็ทัก คนที่สองยังทักอยู่ คนที่สามก็ทักอีก แบบนี้คงจะจิตตกคบกันไปปวดหัวกันไป เพราะฉะนั้นตัดไฟแต่ต้นลม เลิกเชื่อหมอดูแล้วหันมาเชื่อหัวใจตัวเอง ถ้าเรามั่นใจว่ารักเราจะต้องรอดแล้วจะไปงมงายทำไม หรือถ้าจะให้ดีเลิกดูดวงเรื่องความรักไปเลยก็ได้นะ

สาวๆ คนไหนที่ชื่นชอบการทำนายทายทัก ต้องเวียนไปเช็กดวงกับหมอดูอยู่เสมอๆ ถ้าโดนทักเรื่องความรักมาในทางไม่ดีก็อยู่ที่ตัวคุณแล้วว่าจะเชื่อหมอดูหรือปล่อยผ่านให้เป็นเพียงแค่คำทำนายขำๆ ส่วนใครที่กลัวว่าความรักจะมีอุปสรรคอยากหาวิธีแก้ไข กดไปอ่าน วิธีแก้กรรมความรักให้ชีวิตคู่ราบรื่น ได้เลย

ยังมีวิธีเสริมดวงความรักอีกมากมายที่ แพรวเวดดิ้ง จัดมาให้คุณได้อ่านกัน

• เสริมดวงความรัก กระชับความสัมพันธ์ ตั้งแต่คบหายันใช้ชีวิตคู่
• ฮวงจุ้ยเสริมรัก เคล็ดลับเสริมดวงทั้งคนไร้คู่และคู่แต่งงานให้รักนี้ราบรื่น
• เสริมด้วงความรักให้มั่นคงด้วย 7 ไม้มงคลไว้ปลูกในเรือนหอ
• รักนี้ไม่มีนก! เสริมดวงความรักไปกับ 5 สถานที่ขอพรยอดนิยม

เรียบเรียงจาก : https://bit.ly/3eqAG1W ,

ภาพจาก : freepik, Photo by Taylor Hernandez on Unsplash, Photo by Jenny Ryanto on Unsplash, Image by Sippakorn Yamkasikorn from Pixabay, Photo by Josh Willink from Pexels, Photo by Alina Vichenko from Pexels