5 ดีเทลในงานแต่งที่เราไม่อยากให้คุณมองข้าม!

งานแต่ง จะเป๊ะและปัง หากมีครบทั้ง 5 ดีเทล

เมื่อวางแผน งานแต่ง งานทุกๆ รายละเอียด หรือดีเทลของสิ่งที่ต้องวางแผนและจัดการล้วนสำคัญไปหมด ดังนั้น แพรว wedding จึงแนะนำให้คุณพยายามจดรายละเอียดต่างๆ โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆ เอาไว้เพื่อเตือนความจำ ที่เมื่อถึงเวลาคุณจะสามารถตรวจเช็ดได้ว่าอะไรที่จัดการไปแล้วหรือยังไม่ได้จัดการ เพื่อป้องกันการตกหล่นที่คุณเองคงไม่อยากให้เกิดขึ้น วันนี้ แพรว wedding เลยรวบรวมรายละเอียดที่บ่าวสาวหลายคู่มักจะมองข้ามไปมาให้ บางอย่างลืมแล้วงานพัง ส่วนบางอย่างอาจไม่ถึงกับพัง แต่ถ้าไม่ลืมงานแต่งก็จะยิ่งปัง เพราะฉะนั้นเราคิดว่าไม่ลืมน่าจะดีที่สุดว่าไหมคะ 😉

เส้นทางและที่พัก

งานแต่ง

การจัดเตรียมแผนที่เส้นทางและการต้อนรับคือสิ่งสำคัญสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับแขกที่มาร่วมงาน โดยเฉพาะแขกที่ต้องเดินทางมาร่วมงานจากสถานที่ไกลๆ ควรมีการจัดเตรียมโรงแรมที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้ใกล้ๆ กับสถานที่จัดงานแต่งงาน ทางที่ดีควรใส่แผนที่ของที่พักและเส้นทางการเดินทางลงบนข้างหลังบัตรเชิญงานแต่งงานเพื่อทำให้ง่ายขึ้นสำหรับแขกที่จะมาร่วมงานด้วย ปล่อยให้แขกเปิดจีพีเอสกันเองนี่หลงมานักต่อนัก แล้วเกิดจะหงุดหงิดพาลให้วนรถกลับบ้านกันไปอีกล่ะก็แย่แน่ๆเลยนะคะ

ตารางพิธีการ

งานแต่ง

ตารางพิธีการมีความสำคัญ 2 อย่าง คือ อย่างแรก ช่วยให้แขกสามารถตามขั้นตอนพิธีการในงานแต่งงานได้ว่าขั้นตอนต่อไปจะเป็นอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของศาสนาและวัฒนธรรมรวมถึงประเพณีต่างๆ ที่แขกบางคนที่มาร่วมงานอาจไม่คุ้นเคย ส่วนอย่างที่สอง คือ สามารถทำเป็นของที่ระลึกอย่างของชำร่วยเพื่อแจกเป็นความทรงจำให้กับแขกในวันแต่งงานได้อีก

บัตรโต๊ะที่นั่ง + ของชำร่วย

งานแต่ง

จัดการเรื่องแผนที่นั่งโต๊ะหรือบัตรที่แสดงที่นั่งอย่างชัดเจนสำหรับแขกที่มาร่วมงาน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและช่วยให้แขกหาที่นั่งของตัวเองได้ง่ายขึ้น เจ้าสิ่งนี้จะช่วยให้แขกเกิดความประทับใจตั้งแต่งานเริ่มเลยทีเดียว เพราะคงไม่ดีแน่ถ้าหากงานเริ่มแล้ว แต่แขกยังเดินวนหาที่นั่งกันอยู่ให้หงุดหงิดหัวใจ จริงไหมคะ แล้วถ้าจะให้เด็ด เราแนะนำให้รวบไอเดียนี้เข้ากับของชำร่วยไปเลยก็ดีงามสุดๆ การมีชื่อของแขกแต่ละคนติดไว้ที่ของชำร่วยจะยิ่งสร้างความประทับใจมากขึ้นไปอีก เหมือนกับว่าคุณได้เตรียมไว้ให้แต่ละคนเป็นพิเศษเลยทีเดียว

เมนู

งานแต่ง

การวางแผนมื้ออาหารค่ำในวันแต่งงานเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและเงินจำนวนมาก เราแนะนำให้คุณลองทำให้ดูพิเศษขึ้นอีกนิดกับบัตรเมนูอาหารที่ถูกออกแบบมาด้วยรูปแบบที่สวยงาม มันอาจดูเป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แต่จะกลายเป็นอีกไอเท็มที่สามารถทำให้งานแต่งงานเป็นที่จดจำได้เลยนะคะ

สมุดเยี่ยม

งานแต่ง

สมุดเยี่ยมเป็นของที่ระลึกที่ดีสำหรับการเก็บภาพความทรงจำในงานแต่งงานที่คุณสามารถนำกลับมาเปิดย้อนดูได้อีกในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นทั้งข้อความหรือรูปภาพที่ถูกเขียนและเก็บรักษาเอาไว้ในสมุดเยี่ยม เพราะฉะนั้นห้ามลืมสิ่งนี้เด็ดขาดเลยนะคะ เดี๋ยวมานั่งช้ำใจทีหลังจะหาว่าเราไม่เตือนน้า

อ่านเพิ่มเติม เตรียมจัดงานแต่งอย่างไรให้รอบคอบและออกมาดีไม่มีพลาด

Cr : weddingwindow.com, popsugar.com, nowandforever.ie, designaglow.com

ทั้งสวยและดี..กับ 15 สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งสไตล์อินดอร์

ไม่อยากตากแดด ตากลม หรือโดนฝน แล้วจะเลือก สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง แบบไหนดีนะ??

อยากถ่ายพรีเวดดิ้งสวยๆ แต่อากาศบ้านเราก็งงงวยซะจริง เดี๋ยวฝนตกในหน้าหนาว เดี๋ยวฟ้าครึ้มในหน้าร้อน บ่าวสาวหลายคู่เลยเกิดอาการคิดไม่ตกว่าจะมีโลเคชั่นไหนให้ถ่ายได้เนี่ย เอ้า! จะยากอะไร มี สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง อินดอร์สวยๆ รอให้คุณมาเก็บภาพอยู่นะ 

1 บ้าน

ดีงามสารพัดเหตุผลต้องที่บ้าน ค่าเช่าสถานที่ไม่ต้องเสีย อาหารก็มีให้ทาน ห้องน้ำก็แสนสบาย แถมมุมต่างๆ ที่ถ่ายรูปยังตกแต่งได้ตามใจแบบมาพร้อมเรื่องราวดีๆ ที่แทรกตัวอยู่ทุกอณูแสนอบอุ่น

สถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

2 อาร์ทแกลอรี่

บ่าวสาวรุ่นใหม่ถูกใจแน่ เพราะด้วยบรรยากาศของอาร์ทแกลอรี่ที่ส่วนใหญ่จะเน้นความโล่งแต่มีสไตล์ กับงานอาร์ทรอบตัว ทำไมภาพที่ได้จะไม่สวยงามล่ะ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่าไม่ใช่ทุกที่จะยอมให้เข้าไปถ่าย อย่าลืมสอบถามก่อนเสมอ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของลิขสิทธิ์ในเรื่องผลงานต่างๆ ของศิลปินที่นำมาจัดแสดงที่อย่าลืมเช็คกับเจ้าของสถานที่นะคะ ว่าถ้าติดในภาพพรีเวดดิ้งของคุณจะไม่มีปัญหาอะไรไหม

3 พิพิธภัณฑ์

นี่ก็เป็นอีกสถานที่ที่หลายคนเลิฟมาก โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ต่างแดนที่หากมีต้นทุนมาหน่อยก็บินไปถ่ายเถอะรับรองคุ้ม เพราะส่วนใหญ่จะก่อสร้างด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่า การันตีภาพพรีเวดดิ้งสวยแน่ เชื่อสิ

4 สถานีรถไฟหัวลำโพง

จริงๆ แล้วไม่ต้องไปไกลถึงต่างแดนก็ได้นะคะ สถานีรถไฟหัวลำโพงบ้านเรานี่แหละคลาสิคมากๆ แต่อย่าลืมขออนุญาตเป็นเรื่องเป็นราว และอย่ารบกวนผู้โดยสารที่กำลังจะเดินทางนะคะ

5 ห้องสมุดหรือร้านขายหนังสือ

แม้จะเป็นสถานที่ที่มีหัวใจหลักที่ความเงียบ แต่เชื่อเถอะว่าหากฉากหลังของภาพมีหนังสือเรียงรายช่วยเสริมให้ชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์มีคาแรกเตอร์มาขึ้นค่ะ

6 ห้องเรียนในโรงเรียน

คู่รักที่เลิฟกันมาตั้งแต่สมัยเรียนห้ามพลาดเชียวล่ะค่ะ เพราะนอกจากห้องเรียนจะเป็นหนึ่งในความทรงจำดีๆ ที่ทำให้คุณได้มาพบกัน การเลือกห้องเรียนยังช่วยสื่อให้รู้ว่าคุณได้เติบโตขึ้นจากวัยเด็กสู่ความเป็นผู้ใหญ่ที่เต็มตัวไปพร้อมกันในวันสำคัญเช่นวันแต่งงาน

7 ฟิตเนส

สายสุขภาพจัดไปอย่าได้แคร์ แต่งานนี้ต้องงัดชุดออกกำลังเก๋ๆ มาใส่และให้เจ้าสาวติดเวล รับรองว่าน่ารักมาก และถ้าจะให้น่ารักแบบบวกๆ ละก็ คุณว่าที่เจ้าบ่าวอย่าลืมไปฟิตกล้ามท้องมาอวดด้วยนะ อิอิ

8 โบสถ์

ภายในโบสถ์ส่วนใหญ่จะก่อสร้างและตกแต่งด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมสุดล้ำค่า และบางทีใส่รายละเอียดกระจกสีลงไป ทำให้ความงามยิ่งงามยิ่งเพิ่มขึ้น แถมยังให้อารมณ์ความศักดิ์สิทธิ์แห่งคำมั่นสัญญาอีกด้วย

9 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

คิดดูสิคะว่าจะดีแค่ไหน ถ้าคุณได้ภาพพรีเวดดิ้งที่มีฉากหลังเป็นปลาการ์ตูนกำลังแหวกว่ายหรือปลากระเบนตัวยักษ์กำลังทำท่าเหมือนโอบกอดคุณทั้งคู่อยู่เสมือนเป็นพยานแห่งรักครั้งนี้

10 ร้านแผ่นเสียง

ความคลาสิคของแผ่นเสียงไม่ได้มีแค่แผ่นเสียงกลมๆ สีดำหรอกนะคะ แต่เป็นหน้าซองใส่แผ่นเสียงต่างหากที่ออกแบบให้สวยงามและมีคาแรกเตอร์ต่างๆ กันไปตามแต่ละศิลปิน เช่นเดียวกับคู่ของคุณที่มีคาแรกเตอร์ไม่เหมือนคู่ของใครไงคะ

11 ร้านขายเฟอร์นิเจอร์แอนทีค

จุดเด่นของร้านขายเฟอร์นิเจอร์แอนทีค คือความย้อนยุคที่ไม่ได้เห็นกันได้ง่ายๆ ในบ้านเรือนยุคนี้ และถ้าคุณมีชุดไทยสวยๆ เพื่อนำมาถ่ายภาพพรีเวดดิ้งละก็ บอกเลยว่าร้านเฟอร์นิเจอร์แอนทีคเวิร์คมาก แต่อย่าลืมเช็คชุดที่จะใส่กับของในร้านให้อยู่ในยุคที่ไปด้วยกันได้ด้วยล่ะ

12 โรงแรม

สถานที่สุดฮิตที่บ่าวสาวเกิน 50% ของโลกใช้เป็นสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งแบบอินดอร์ ด้วยเหตุผลว่าไหนๆ ก็เลือกมาอย่างดีเพื่อใช้เป็นสถานที่แต่งงานแล้วก็ขอจัดภาพพรีฯ ที่นี่ด้วยละกัน ก็แบบว่าบางทีก็ถ่ายได้ฟรีด้วยล่ะ

13 โรงละคร

เป็นอีกทางเลือกสำหรับบ่าวสาวที่มีงบประมาณสักหน่อยน่าเก็บไว้เป็นตัวเลือก เพราะการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งในโรงละครที่มีม่านกำมะหยี่สีแดง สีน้ำเงิน คู่กับความยิ่งใหญ่สุดหรูของขนาดโรงละคร ช่วยเพิ่มความอลังการในภาพถ่ายได้อย่างปฏิเสธไม่ได้ค่ะ

14 ห้องเก็บไวน์

ด้วยสีนวลๆ ของไฟสีส้มกับถังไม้สวยๆ ให้อารมณ์คลาสสิคและแฝงไปด้วยความหรูหราอย่างมีระดับ ทำให้ห้องเก็บไวน์มีเสน่ห์ในตัวเองจึงถึงดูดคู่รักนักจิบไลน์ให้เข้าไปถ่ายพรีฯ ที่ห้องนี้ไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งแน่นอนว่า ต้องไม่ลืมโพสต์ท่าจิบไวน์ด้วยนะคะ

15 โรงเก็บเครื่องบิน

ด้วยความยิ่งใหญ่ของตัวเครื่องบิน ประกอบกับสีของโรงรถที่แม้จะดูดิบๆ ไปสักหน่อยแต่เชื่อเถอะว่า ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งออกมา เจ้าบ่าวของคุณจะดูเท่ห์แบบบวกๆ

อ่านเพิ่มเติม อยากถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแบบง่ายๆ ไม่ต้องจ้างช่างภาพ ทำได้อย่างไรต้องอ่าน

 

เรื่อง : ดอกปีบ

ภาพ : weddingritz, pinterest

แรงบันดาลใจ เมกอัพเจ้าสาว จากเมกอัพสุดปังของเหล่าเซเลบริตี้ฮอลลีวูดส์

เทรนด์ เมกอัพเจ้าสาว ตอนนี้เค้าไปถึงไหนกันแล้ว? มาดูจากเมกอัพของเหล่าเซเลบบนพรมแดงระดับฮอลลีวูดส์กันเลยดีกว่า

เมกอัพเจ้าสาว ก็มีเทรนด์ ไม่ต่างจากชุดเจ้าสาวนะจะบอกให้! เทรนด์ชุดเจ้าสาวเราดูได้จากรันเวย์แฟชั่น แต่เทรนด์เมกอัพละ จะดูจากไหนดี? คำตอบก็คือเมกอัพของเหล่าดาราและเซเลบริตี้บนงานระดับพรมแดงต่างๆไงละคะ เพราะแน่นอนว่าเมกอัพของเหล่าดาราในงานระดับพรมแดงนั้นต้องถูกรังสรรค์ขึ้นจากเมกอัพอาร์ทิสต์ชื่อดังที่ต่างก็งัดไม้เด็ดมาโชว์ฝีมือแบบไม่ยอมน้อยหน้าใคร ทำให้เราได้เห็นไอเดียการแต่งหน้าใหม่ๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตจริง และยังเหมาะกับวันสำคัญอย่างวันแต่งงานอีกด้วย ว่าที่เจ้าสาวคนไหนยังไม่มีไอเดียเมกอัพสำหรับวันวิวาห์ มาหาแรงบันดาลใจไปให้ช่างแต่งหน้าเจ้าสาวของเราดูได้จากภาพที่เรารวบรวมมาด้านล่างนี้เลยค่ะ

ลุคละมุนดุจนางฟ้าของสาว Kate Bosworth ในงาน Met Gala 2018 เน้นพวงแก้มชมพูเปล่งปลั่งแมทช์กับเรียวปากสีชมพูแวววาวประดุจสาววัยแรกแย้ม

เมกอัพเจ้าสาว

ต่อกันด้วยลุคหรูหราเลอค่าขั้นสุดของนางแบบสาว Rosie Huntington ในงาน Met Gala 2018 ด้วยดวงตาแต้มอายแชโดว์สีน้ำตาลทองที่เข้ากับผิวขาวอมเหลืองได้ดี๊ดีเสริมด้วยการเขียนอายไลนเนอร์ให้ดวงตาดูโฉบเฉี่ยว และเรียวปากสีชมพูกะปิที่สีผิวไหนทาก็ดูโดดเด่น

เมกอัพเจ้าสาว

 

เจ้าสาวสายมั่นที่ไม่อยากได้เมกอัพแนวหวานแหวว ก็อปลุคนี้ของนางแบบสาว Kendal Jenner ได้เลยค่า ดวงตาสโมกกี้อายส์สีเทาอมม่วงหรูหรา แมทช์กับเรียวปากสีนู้ดแวววาว ปัดพวงแก้มแค่บางเบาเน้นสร้างโครงหน้าให้ดูชัดสวย

เมกอัพเจ้าสาว

 

อีกหนึ่งลุคสำหรับเจ้าสาวสายโฉบเฉี่ยวที่ไม่อยากซ้ำใคร โดดเด่นด้วยเรียวปากสีสดใสอย่างสีแดงอมส้ม (จะยิ่งเหมาะมากถ้าธีมงานแต่งงานของคุณเป็นสีเดียวกับสีลิปสติกของคุณ!) ถ้าลิปสติกโดดเด่นแล้ว ส่วนอื่นของใบหน้าไม่ต้องแต่งเยอะมากก็สวยแล้วค่ะ

อีกหนึ่งลุคสำหรับเจ้าสาวที่อยากได้สีเรียวปากสดใสในวันแต่งงาน นอกเหนือจากสีแดง ลิปสติกที่ผสมผสานเฉดสีม่วง หรือเฉดสีชมพูเข้าด้วยกัน ก็สามารถช่วยดึงให้ลุคของเราดูสดใสและหรูหราขึ้นมาได้ในเวลาเดียวกันค่ะ

หรือว่าที่เจ้าสาวคนไหนจะหันกลับมาเลือกลุคแบบใสๆเบาๆ สไตล์ no makeup makeup  (ตื่นมาก็หน้าบั่บนี้!) ลองก็อปปี้ลุคนี้จากนางแบบสาว Alessandra Ambrosio ที่ดูเรียบหรูแต่สะดุดตาด้วยการแต่งผิวสวยใส เน้นเพียงดวงตาให้ดูคมชัด

ลุคนี้ของดาราสาว Zendaya เหมาะกับเจ้าสาวผิวสีน้ำผึ้งฝุดๆ ^^ ด้วยดวงตาโฉบเฉี่ยวสีน้ำตาลอมทอง และเรียวปากสีนู้ดเป็นประกาย เฉดดิ้งบนใบหน้าให้โครงหน้าดูคมชัดสวย แมทช์กับทรงผมโชว์รูปหน้า ปังเบอร์สิบเลยละ ^^

 

ฝากไว้กับลุคสุดท้ายของ ​Gigi Hadid ด้วยดวงตาสีชมพูอมม่วงเข้ากันกับเรียวปากสีนู้ดอมชมพู ปัดแก้มนิดดดส์เดียวเพื่อให้ดวงตาดูโดดเด่นที่สุด ลุคนี้เราให้สิบคะแนนเลยค่าา

สวยๆทั้งนั้นเลยใช่มั้ยละค้า เซฟเก็บไว้เลือกดูหลายๆรูป หรือถามความเห็นจากช่างแต่งหน้าเจ้าสาวของเราเพื่อช่วยในการตัดสินใจอีกทางจะยิ่งดีนะคะ และถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา แนะนำให้คลิกอ่าน วิธีการเลือกช่างแต่งหน้าเจ้าสาวที่ใช่เพื่อความงามถึงขีดสุดในวันวิวาห์ ที่นี่เล้ยยย

story inspiration & credit photo : Harper’s Bazaar

วิวาห์บาบ๋า เอกลักษณ์งานแต่งงานอันเป็นเอกลักษณ์แห่งปักษ์ใต้

วิวาห์บาบ๋า เอกลักษณ์งานแต่งงานแห่งปักษ์ใต้

เนื่องจากวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลง และผู้คนที่หลากหลายทำให้ปัจจุบันพิธีแต่งงานแบบใต้โบราณถูกลดทอนลงไปมากจนเกือบเลือนหายไป แต่ยังคงมีอีกประเพณีแต่งงานของภาคใต้ที่ยังได้รับการสืบสานมาจนถึงวันนี้ นั่นคือ ประเพณีแต่งงานแบบบาบ๋า หรือ วิวาห์บาบ๋า ของชาวภูเก็ตนั่นเอง

วิวาห์บาบ๋า มรดกทางวัฒนธรรมของชาวภูเก็ต วิวาห์บาบ๋าเป็นประเพณีแต่งงานของชาวภูเก็ตเชื้อสายจีนที่สืบทอดมานานกว่า 100 ปี ซึ่งผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมของคนจีนกับชาวภูเก็ตเข้าด้วยกัน โดยพิธีแต่งงานจะเป็นไปตามลำดับขั้นตอนตั้งแต่การสู่ขอ หมั้นหมาย ไปจนถึง “พิธีผ่างเต๋” ซึ่งเป็นพิธียกน้ำชาแบบจีน และพิธีส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอโดยมีแม่สื่อหรืออึ่มหลางเป็นผู้ทำพิธีให้

ในสมัยก่อนยังไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร หรือโรงแรมไว้รองรับ การจะจัดงานแต่งได้จึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมแรงของคนในชุมชนมาช่วยกันจัดสถานที่ ทำขนม เตรียมกับข้าว จัดชุดเจ้าสาว ฯลฯ โดยงานจะจัดขึ้นทั้งหมด 7 วัน 7 คืนด้วยกัน

พิธีแต่งงานแบบบาบ๋า ขบวนขันหมากสุดสง่างาม

ขบวนเจ้าบ่าวจะมีการจุดประทัดเพื่อเป็นการเริ่มเคลื่อนขบวนไปยังบ้านเจ้าสาว นำโดยรถ “โพถ้อง” ของชาวภูเก็ตซึ่งภายในมีนักดนตรีบรรเลงเพลงไปตลอดทางจนถึงบ้านเจ้าสาว ส่วนเจ้าบ่าวจะนั่งรถ “ปาเก้” หรือรถหรูให้สมกับฐานะ

เมื่อถึงบ้านเจ้าสาวจะจุดประทัดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งบ้านฝ่ายหญิงจะจัดเด็กชาย-หญิงไว้ต้อนรับฝ่ายเจ้าบ่าวพร้อมกับมอบบุหรี่ใส่พานให้ ส่วนเจ้าบ่าวจะให้อั่งเปาเป็นการตอบแทน จากนั้นเจ้าบ่าวจะเข้ามาพร้อมกับขบวนขันหมาก ซึ่งประกอบด้วยฮวดหนา (ตะกร้าจีนเล็ก) ใส่เงินทองของหมั้น และเสี่ยหนา (ตะกร้าจีนขนาดใหญ่) ภายในมีอาหาร ขนม เครื่องดื่ม ชุดน้ำชา ธูปเทียน เครื่องหอมเซ่นไหว้ โดยมีแม่สื่อเป็นผู้มอบให้

จากนั้นแม่สื่อจะพาบ่าวสาวออกมาไหว้เทวดาฟ้าดินที่หน้าบ้านแล้วทำ “พิธีผ่างเต๋” หรือการคารวะผู้ใหญ่ด้วยน้ำชามงคล ต่อด้วยพิธีไหว้พระที่ศาลเจ้าซึ่งเป็นธรรมเนียมของชาวบาบ๋าเพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งส่วนมากนิยมไปไหว้ศาลเจ้าใกล้บ้าน หรือศาลเจ้าที่มีชื่อเสียง เช่น ศาลเจ้าแม่กวนอิมที่เหมาะกับการขอบุตร หรือหลวพ่อแช่มที่วัดฉลอง ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของชาวภูเก็ต

วิวาห์บาบ๋า

วัฒนธรรมการแต่งกายบาบ๋า

ชุดบ่าวสาวสุดตระการตาตามแบบโบราณ เป็นชุดที่ผสทผสานระหว่างความเป็นจีนกับมาเลย์ไว้ด้วยกัน เจ้าสาวจะสวมเสื้อตัวในเป็นเสื้อลูกไม้สีอ่อนแขนยาวคอตั้งแบบจีนนุ่ง คู่กับผ้าถุงปาเต๊ะสีเดียวกัน สวมทับด้วยเสื้อครุยผ้าป่านรูเปีย หรือผ้ามัสลินปักลวดลาย แล้วติดเครื่องประดับทองชุดใหญ่ หรือ “โกสัง” เป็นเข็มกลัด 3 ชิ้นที่เสื้อด้านนอก เพิ่มความหรูหราด้วยเครื่องประดับอย่างสร้อย กำไลข้อมือข้อเท้า แหวน และรองเท้าปักดิ้นเพื่อแสดงถึงความมั่งคั่ง ส่วนชุดเจ้าบ่าวเรียบหรูดูดีด้วยชุดสูทสากลติดดอกไม้ที่หน้าอก หรือเข็มกลัดประดับพู่สีชมพูเพื่อความสวยงาม

“เกล้ามวยชักอีโบย”

ทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าสาวบาบ๋า โดยการหวีผมด้านหน้าให้เรียบตึงแล้วเกล้าขึ้นสูง จากนั้นรวบผมเป็นมวยไว้ที่ด้านบน ส่วนผมด้านข้างตีโป่งออกมาเรียกว่า “อีโบย” หรือ “แก้มปลาช่อน” แล้วจึงสวมมงกุฎทองครอบมวยผมเอาไว้

“มงกุฎดอกไม้ไหว”

มงกุฎทองที่เจ้าสาวใช้ครอบมวยผมจะมีหงส์ประดับอยู่ด้านบน เพราะคนจีนเชื่อว่าหงส์เป็นสัตว์ปีกที่มีความยิ่งใหญ่และมักปรากฏตัวในที่ร่มเย็นพร้อมเสียงร้องอันกังวาน เหมือนเป็นการสอนให้เจ้าสาวมีวาจาที่อ่อนหวาน ดูแลครอบครัวด้วยความร่มเย็น และหากสามีเป็นอะไรไปต้องลุกขึ้นมาเป็นใหญ่แทนสามีได้ ส่วนที่ติดอยู่บนมงกุฎอีกอย่างคือ ผีเสื้อกับดอกไม้ที่แทนความยั่งยืนของชีวิตแต่งงาน ซึ่งดอกไม้ที่ประดับบนมงกุฎนั้นสามารถเคลื่อนไหวได้ เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นของเจ้าสาวที่จะได้พบกับเจ้าบ่าวในวันแต่งงาน

ปัจจุบันชาวเมืองภูเก็ตยังคงสืบสานวัฒนธรรมนี้เอาไว้ด้วยการจัดงาน “วิวาห์บาบ๋าภูเก็ต” แต่ย่นระยะเวลาจาก 7 วันให้เหลือเพียง 1 วันเท่านั้น โดยยังคงไว้ซึ่งความสวยงามและอลังการเช่นเดิม

อ่านพิธีแต่งงานเพิ่มเติม
พิธีแต่งงานชาวเหนือ อีกหนึ่งพิธีแต่งงานที่เต็มไปด้วยความเป็นสิริมงคล
พิธีแต่งงานอีสาน อีกหนึ่งประเพณีงานแต่งงานที่น่าสืบสานไว้

ภาพ www.openphuketmag.com, www.matichon.co.th, pinterest

20 ชุดแต่งงานริมทะเล ทั้งพลิ้วไหวและสวยงาม ชวนฝันสุดๆ

ชุดแต่งงานริมทะเล ที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนฝันถึง เราคัดมาให้แล้วสวยพลิ้วสุดๆ

งานแต่งงานริมทะเล เป็นงานแต่งงานที่คู่รักหลายคนฝันถึงและอยากที่จะเนรมิตให้ออกมาได้ดั่งใจ แต่สำหรับผู้หญิงอย่างเรา นอกจากธีมงานแต่งริมทะเลสุดคิ้วท์แล้ว ก็มี ชุดแต่งงานริมทะเล นี่แหละที่อยากจะทำออกมาให้ได้ดีพอๆ กับธีมงานแต่ง แต่ครั้นจะแต่งฟูฟ่องกระโปรงบอลกาวน์เสริมสุ่ม 3 ชั้นเห็นทีก็ดูจะไม่เหมาะกับสถานที่จริงไหมคะ

แพรว wedding เลยไปคัด 20 แบบชุดแต่งงานสีขาวที่รับรองว่าใส่แล้วเข้าธีมกับริมชายหาดสุดๆ ไม่ว่าจะเป็น เนื้อผ้าที่โปร่งบางเพื่อให้สบายตัวในบรรยากาศสุดชิลของลมทะเล เน้นความพลิ้วไหวของเนื้อผ้าหรือชายกระโปรงให้สยายไปตามแรงลม แต่งานนี้ชายกระโปรงไม่ต้องลากยาวเป็นเมตรนะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณว่าที่เจ้าสาวอาจจะเดินกวาดทรายไปกองไว้ที่ชายกระโปรงแทน นอกจากนี้ดีเทลอย่างลูกไม้ก็เหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลเป็นที่สุดด้วย

เอาเป็นว่าถ้ายังนึกภาพไม่ออก ก็ตามไปส่อง 20 ชุดแต่งงานริมทะเลที่เราว่าดีกันเลยดีกว่า

ชุดแต่งงานริมทะเล

ชุดแต่งงานริมทะเล

ถ้าเลือกแบบชุดได้แล้วก็ต้องไปเช็ก 5 เรื่องเจ้าสาวต้องรู้เมื่อถึงเวลาเลือกชุดแต่งงานริมทะเล!

ภาพ brides.com

5 ไอเดียที่คู่รักควรลองทำก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างเป็นทางการ

ในที่สุดคุณก็ตัดสินใจแล้วว่าคนนี้แหละคู่ชีวิตของคุณ คบกันมาก็ซักพักแล้วด้วย เรารู้ว่าคุณน่ะมั่นใจแล้ว ไม่งั้นคงไม่ผุดแผนดารแต่งงานเพื่อจะเริ่มต้น ชีวิตคู่ อย่างเป็นทางการหรอกใช่ไหมคะ ทีนี้ระหว่างที่ยังแพลนนู่นแพลนนี่ แล้วคุณเองก็เผื่อเวลาไว้เป็นอย่างดีโดยไม่ประมาท เราเลยอยากแนะนำให้คุณใช้เวลาในช่วงนี้ทดลองอะไรกันเพลินๆดู ทำให้ได้สัก 1 ใน 5 ข้อก็ยังดี เพราะเราเชื่อว่าทุกการทดลองนั้นจะทำให้คุณพบกับอะไรใหม่ๆเสมอ ลองดูกันนะคะ

 

  1. ลองใช้ชีวิตอย่างประหยัด

ลองใช้ชีวิตอย่างประหยัด 1 สัปดาห์ อย่างการลองทำอาหารทานเองที่บ้าน เดินแทนการขับรถหรือนั่งรถถ้าระยะทางไม่ไกลมาก ลองหาของฟรีรอบๆ เมือง และอย่าปล่อยให้ตัวเองใช้เงินมากกับสิ่งที่แพงอย่างกาแฟแพงๆ คลาสออกกำลังกายแพงๆ หรือสิ่งอื่นๆ ที่ต้องใช้เงินเยอะแต่ไม่จำเป็นหรือมีทางเลือกที่ถูกกว่า ประสบการณ์นี้จะช่วยให้ว่าที่คู่แต่งงานรู้ถึงการใช้ชีวิตเมื่อเกิดปัญหาเรื่องเงินในระหว่างแต่งงาน และทำให้ว่าที่คู่แต่งงานสามารถนำประสบการณ์ไปจัดลำดับความสำคัญและความคาดหวังได้

 

  1. เปลี่ยนรูปลักษณ์

ถ้าหากต้องการจะลองเปลี่ยนรูปลักษณ์ดู อาจจะลองในขณะที่กำลังเดทช่วงสั้นๆ แล้วดูการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าผมจะยาวขึ้นเหมือนเดิม สีผมเริ่มเลือน รูที่เจาะเริ่มตัน น้ำหนักอาจเพิ่มขึ้นและลดลง และดูว่าคู่ของตัวเองจะรับได้แค่ไหนกับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมกับสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงหลังจากการมีลูกหรือน้ำหนักขึ้นหลังแต่งงาน

 

  1. หาเพื่อนใหม่

พยายามหาเพื่อนใหม่ที่ทั้งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะมีความสุขด้วย อย่างพวกสปอร์ตคลับ คลาสทำอาหาร หรือถ้าหากมีสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขก็อาจลองพาสุนัขของตัวเองไปที่สวนสาธารณะที่คนชอบพาสัตว์เลี้ยงตัวเองมาเดินเล่นเพื่อหากลุ่มคนที่มีความชอบเหมือนกันๆ ในการดูแลสุนัขหรือสัตว์เลี้ยง สิ่งนี้จะเป็นสิ่งที่ดีที่จะฝึกตัวเองในการเข้าสังคมใหม่ๆ เมื่อต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นหลังจากแต่งงาน แต่การพบเพื่อนใหม่ๆ ต้องทำแบบที่ทั้งว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวชอบและรู้สึกดีที่จะได้ทำกิจกรรมร่วมกัน การสร้างเครือข่ายเพื่อนฝูงคนรู้จักจะช่วยคู่แต่งงานระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำยากหลังแต่งงาน

 

  1. ท่องเที่ยว

การท่องเที่ยวชายทะเลนั้นง่ายและโรแมนติก แต่การเดินทางแบกเป้เป็นเดือนๆ ในการท่องเที่ยวต่างประเทศหรือการปีนเขาเป็นสัปดาห์อาจจะเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับความยืดหยุ่นในการอยู่ร่วมกันในสภาวะยากลำบากกับคนที่รัก

 

  1. มองหาบ้าน

คู่แต่งงานอาจไม่ต้องการอยู่แต่ในห้องในอพาร์ทเม้นท์ที่แคบไปจนวันตาย ดังนั้นควรลองมองหาบ้านที่อาจจะได้อยู่ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้าโดยการไปเยี่ยมชมบ้านตัวอย่างหรือมองหาตัวอย่างบ้านทางออนไลน์ ลองมองหาลักษณะบ้านที่ตัวเองชอบ การมองหาบ้านร่วมกันระหว่างว่าที่คู่แต่งงานจะทำให้รู้ถึงความชอบและรูปแบบว่าต้องการเหมือนกันหรือไม่ ลองคุยปรึกษากันและตัดสินใจในสิ่งสำคัญนี้ร่วมกันว่าอะไรคือสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างต้องการมากที่สุด

 

cr : brides.com

เจ้าสาวต้องทำยังไง ถ้าเกิดอาการ เมนส์มาวันแต่งงาน พอดี!

การที่ เมนส์มาวันแต่งงาน ไม่ใช่เรื่องเล็ก! ทั้งอาการปวดหัว ปวดท้อง ตัวบวม ไปจนถึงความหงุดหงิดและดราม่า เราจะแก้ปัญเหล่านี้ยังไง แพรวเวดดิ้ง รวบรวมข้อมูลวิธีการรับมือกับเหล่าอาการทั้งก่อนและระหว่างช่วงมีประจำเดือน มาให้ว่าที่เจ้าสาวได้อ่านเตรียมตัวไว้ก่อน

เมนส์มาวันแต่งงาน เรื่องที่ผู้หญิงทุกคนไม่อยากเจอ!

Photo by Polina Zimmerman from Pexels

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายที่ว่าที่เจ้าสาวหลายๆ คนไม่อยากประสบพบเจอ กับวันแดงเดือดแบบฉุกเฉินที่มาพอดีเป๊ะกับวันแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สาวๆ ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ เลื่อนบ้าง ช้าบ้าง ไม่สามารถนับรอบเดือนเหมือนคนอื่นๆ ได้

อีกหนึ่งเหตุผลที่สาวๆ ต่างก็แสลงการมีประจำเดือนในวันแต่งงาน คือ อาการทั้งหลายที่ประดังประเดเข้ามาพร้อมกัน ทั้งปวดท้อง ปวดหัว ปวดหลัง และอารมณ์หงุดหงิด ขี้ดราม่า จะทำให้คุณไม่เอ็นจอยกับวันสำคัญ รวมถึงความไม่สบายเนื้อสบายตัว เพราะวันนั้นคุณจะต้องยืน เดิน นั่ง ก้มกราบผู้หลักผู้ใหญ่ในพิธี แถมยังต้องใส่ชุดสีขาวอีก! (เลอะขึ้นมาคืองานเข้าแรงมาก!)

สาวๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าประจำเดือนจะต้องมาแน่ๆ ในวันแต่งงาน หรือแม้กระทั่งคนที่นับรอบเดือนไม่ได้แน่ชัด เพราะประจำเดือนมาไม่ปกติ ต้องรีบเตรียมตัวให้เร็วไว มีวิธีไหนที่จะช่วยป้องกันการมีประจำเดือนในวันวิวาห์ได้บ้าง ตามแพรวเวดดิ้งไปดูกัน

เมนส์มาวันแต่งงาน
Photo by JESHOOTS.com from Pexels

1. “ยาเลื่อนประจำเดือนทานได้แต่ศึกษาผลข้างเคียงด้วยนะ

ส่วนใหญ่แล้วเมื่อต้องการเลื่อนประจำเดือน สาวๆ มักจะนึกถึงยาเลื่อนประจำเดือนที่มีขายอยู่ทั่วไป ซึ่งข้อดีของยาเลื่อนประจำเดือนเหล่านี้คือสะดวก และได้ผลทันที ทว่าสิ่งที่เราต้องรู้ก่อนการทานยาเลื่อนประจำเดือน คือยาเหล่านี้จะ ต้องทานก่อนวันที่ประจำเดือนจะมา 3 วัน หากทานยานี้ช้าเกินไป เช่น ทานตอนประจำเดือนเริ่มมาแล้ว ยาจะมีผลแค่ช่วยทำให้เลือดประจำเดือนออกมาน้อยลงเท่านั้น แต่ไม่ทำให้เลือดประจำเดือนหยุด นอกจากนั้น ยานี้อาจจะส่งผลข้างเคียงเช่น มีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตัวบวม และน้ำหนักเพิ่มได้ ทางที่ดีปรึกษาเภสัชกรก่อนซื้อมาทานนะคะ

2.  งดเค็ม งดผงชูรส เพื่อลดอาการบวมน้ำ

อาการตัวบวมช่วงมีประจำเดือน เกิดจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นของร่างกายตามธรรมชาติเพื่อเตรียมตัวตั้งครรภ์ ร่างกายจึงกักเก็บสารอาหารไว้มากเป็นพิเศษ การทานอาหารเค็ม ใส่ผงชูรส หรืออาหารปรุงแต่งรสชาติเยอะๆ จึงยิ่งไปกระตุ้นให้เกิดการกักเก็บน้ำในร่างกายจนพุงป่อง หรือหน้าบวม พานจะทำให้ความสวยลดลงในวันแต่งงานได้ ทางที่ดีก่อนวันแต่งงานประมาณ 1 อาทิตย์ ให้งดอาหารเค็ม ผงชูรส อย่างเคร่งครัด พยายามทานอาหารคลีนที่ปรุงแต่งน้อย ส่วนอาหารที่ช่วยลดอาการบวมได้คืออาหารที่มีแร่ธาตุแมกนีเซียมสูง อย่างเช่น กล้วย ใบตำลึง เมล็ดฟักทอง หรือน้ำมะพร้าว ที่จะช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายได้

เมนส์มาวันแต่งงาน
Photo by Daria Shevtsova from Pexels

3. ทานอาหารที่ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องช่วงมีประจำเดือนได้

อาการปวดท้องประจำเดือนอาจจะเป็นมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละคน เราไม่แนะนำให้ทานยาแก้ปวดประจำเดือนบ่อยๆ ยกเว้นแต่ว่าปวดมากจริงๆ จนทนไม่ไหว (ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ควรไปหาคุณหมอเพื่อเช็คสาเหตุนะ) ลองหาน้ำเต้าหู้มาดื่ม เพราะน้ำเต้าหู้มีสารประเภท anti-estrogen ที่สามารถลดอาการปวดได้ แต่แนะนำให้ทานติดต่อกันประมาณ 1 สัปดาห์ ก่อนวันที่ประจำเดือนจะมา ส่วนอาหารที่ควรงดช่วงก่อนมีประจำเดือนเพราะจะทำให้ปวดมากขึ้นคือ กาแฟ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารน้ำตาลสูง และเนื้อสัตว์ติดมัน

4. อาหารที่ช่วยลดความดราม่าช่วงใกล้ประจำเดือนได้

อาการดราม่าช่วงมีประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นความขี้วีนเหวี่ยง โมโหง่าย หรือร้องไห้ง่าย อ่อนไหวง่าย ต่างก็เกิดจากฮอร์โมนในช่วงเวลานั้นที่มีความเปลี่ยนแปลงไม่คงที่เหมือนปกติ นอกเหนือจากการพยายามทำใจให้สบาย (ซึ่งยากมาก) ลองทานอาหารที่ช่วยลดฮอร์โมนคอร์ติซอลซึ่งเป็นฮอร์โมนความเครียดในร่างกาย อย่างเช่น ดาร์คช็อคโกแล็ต กล้วย ปลาที่เปี่ยมด้วยโอเมก้า 3 อย่างทูน่าหรือแซลมอน ถ้าช่วงนั้นรู้สึกอยากขนม หรือของหวาน ก็สามารถทานได้แบบพอดีๆ เพราะคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลก็สามารถช่วยลดความเครียดได้เช่นกัน แต่ทานเยอะระวังจะอ้วนนะ

เมนส์มาวันแต่งงาน

5. ใช้ยาคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีเพื่อเลื่อนประจำเดือน

อันที่จริงแล้วยาคุมกำเนิดทั่วไปก็สามารถใช้เลื่อนประจำเดือนได้ แต่อาจจะเกิดผลข้างเคียงสูงกว่าการทานยาเลื่อนประจำเดือน และเหมาะสำหรับผู้หญิงที่ทานยาคุมกำเนิดอยู่แล้วมากกว่าคนที่ไม่เคยทานเลย วิธีการคือ หากเราจะมีประจำเดือนในช่วงระยะเวลา 7 วัน ที่ทานยาชนิดมีฮอร์โมนหมดไปแล้ว แทนที่จะเว้นระยะ 7 วัน ก่อนทานยาชนิดมีฮอร์โมนใหม่ (สำหรับใครที่ทานยาแบบแผง 21 เม็ด) หรือทานยาชนิดไม่มีฮอร์โมนติดต่อไปตามปกติ (สำหรับใครที่ทานยาแบบแผง 28 เม็ด) ให้เริ่มทานยาชนิดมีฮอร์โมนของแผงใหม่ได้เลยไม่ต้องรอ หลังจากหยุดทานยา 2-3 วัน ประจำเดือนจะกลับมาเป็นปกติ แต่ข้อควรระวังก็คือวิธีนี้ก็ยังคงมีผลข้างเคียงอย่างปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ตัวบวม น้ำหนักเพิ่ม ได้เช่นกัน

หวังว่าคำแนะนำจากเราจะช่วยให้สาวๆเตรียมรับมือถ้าหากประจำเดือนมาตรงกับวันแต่งงานของเราได้นะคะ แต่ทั้งนี้หากต้องการทานยาเพื่อเลื่อนประจำเดือน หรือทานยาคุมกำเนิด เราแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง หรือเภสัชกร เพื่อความชัวร์และปลอดภัยจะดีที่สุดค่ะ

เคล็ดลับเตรียมตัวสำหรับเจ้าสาวยังมีอีกมากมาย ตามไปอ่านกันได้เลย

ภาพ : freepik.com, unsplash.com, pexels.com

9 เทรนด์ ชุดเจ้าบ่าว 2018 ดูดีทุกสไตล์น่าใส่ตามทุกแบบ

เพราะเจ้าบ่าวเป็นพระเอกของงาน ชุดเจ้าบ่าว ก็ต้องดูดีให้สมกับฐานะคนเด่นของงานด้วย

ไม่ใช่แค่เจ้าสาวหรอกนะที่อยากดูดีในวันแต่งงาน แต่พระเอกของงานอย่างเจ้าบ่าวก็อยากที่จะดูหล่อเท่ในวันนั้นด้วย ซึ่งในขณะที่สายตาของแขกทุกคู่ภายในงานล้วนจับจ้องไปที่เจ้าสาวนั้น เจ้าบ่าวของเราก็อยากที่จะโดดเด่นและเรียกสายตาแขกให้มองบ้างเช่นกัน เพราะฉะนั้นสไตล์อันที่มีเอกลักษณ์จึงจำเป็นสำหรับว่าที่เจ้าบ่าว แต่จะเลือกอย่างไรให้ชุดสูทหรือทักซิโดธรรมดานั้นดูโดดเด่น แพรว wedding เลยจะมาอัพเดทเทรนด์ ชุดเจ้าบ่าว ที่ถึงแม้จะเป็นสูทแบบเดิมๆ แต่ก็ทำให้ลุคของว่าที่เจ้าบ่าวดูดีมีสไตล์ขึ้นมาได้เช่นกัน

และจากในครึ่งปีแรกของปี 2018 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าว่าที่เจ้าบ่าวต่างก็เริ่มเพิ่มนู่นเติมนี่เพื่อให้ลุคของเขาดูโดดเด่นเคียงข้างว่าที่เจ้าสาวคนสวยของเขา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแอคเซสซอรี่อย่าง หมวก, รองเท้าดีไซน์เก๋, สูทสั่งตัดแบบพิเศษ, ลุคคูลๆ อย่างการสวมสูทสีน้ำเงินแบบสปอร์ต แมตช์กับเชิ้ตและกางเกงสีขาว แม้กระทั่งการเลือกสวมเดนิมกับเสื้อยืด และรองเท้าสนีกเกอร์ก็ตาม หรือเจ้าบ่าวบางคนที่ไม่อยากแหกคอกมากก็อาจจะเลือกเซฟลุคอย่าง สูทสไตล์แพตเทิร์น แต่เลือกสีให้ดูแตกต่างจากเดิมก็ได้ เท่านี้ก็ดูดีมีสไตล์แล้ว

และต่อจากนี้คือเทรนด์ชุดเจ้าบ่าวที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับลุคของคุณในวันงานค่ะ

ชุดเจ้าบ่าวสีขาว

แขกผู้ชายโดยส่วนมากที่มาร่วมงานแต่ง น้อยคนมากที่จะเลือกสวทสูทสีขาวมาร่วมงาน เพราะฉะนั้นคุณว่าที่เจ้าบ่าวจงใช้ข้อดีนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการลองพิจารณาสูทหรือทักซิโดสีขาวสำหรับสวมใส่ในวันสำคัญ รับรองว่าคุณจะโดดเด่นท่ามกลางแขกผู้ชายที่มาร่วมงานแน่นอน

ชุดเจ้าบ่าว

สูทแบบกางเกงขาสั้น

หากธีมงานและสถานที่จัดานแต่งงานของคุณไม่ได้เป็นทางการมากนัก การเลือกสวมสูทแบบกางเกงขาสั้นก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แล้วแมตช์กับรองเท้าสีสันสดใสสไตล์แคชชวล เท่านี้ว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้ลุคที่แตกต่างและมีสไตล์ในชุดเดียวกันแล้ว

สูทแบบมีลวดลาย

ว่าที่เจ้าบ่าวที่สายแฟชั่นที่รักลุคสไตล์สนุกสนาน ลองนำลวดลายต่างๆ มาแมตช์กับสูทเจ้าบ่าวดูสิคะ ไม่ว่าจะเป็น แอคเซสซอรี่อย่างเนคไท โบไท แม้กระทั่งกับกางเกง เสื้อเชิ้ต หรือสูทด้านในก็ยังได้ แต่หากตั้งมั่นว่าจะแต่งตัวในสไตล์นี้ ว่าที่เจ้าบ่าวก็ต้องมั่นใจหน่อยว่า งานแต่งงานของคุณนั้นเป็นงานแต่งงานสไตล์แคชชวลที่ไม่ได้เน้นความเป็นทางการ หรือมีแขกผู้ใหญ่มากมายนัก และที่สำคัญหากคุณว่าที่เจ้าบ่าวแต่งตัวสนุกสนานด้วยลวดลายต่างๆ แล้วล่ะก็ อย่าลืมกระซิบบอกแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวให้สนุกไปกับลุคของพวกเขาด้วยนะคะ

สูทสีน้ำเงินสุดคลาสสิค

ว่าที่เจ้าบ่าวที่ต้องการลุคแบบเรียบหรู ดูดี แต่ดูมีสไตล์สายแฟชั่นหน่อยๆ เฉดสีน้ำเงินแบบ navy blue นี่แหละตอบโจทย์ที่สูท เพราะใส่ปุ๊ปดูดีปั๊ปแบบไม่ต้องพยายามเสริมนู่นเติมนี่ให้เหนื่อยเลย

30 ช่อดอกไม้เจ้าสาว กับสีสุดฮิตไม่ว่าจะเป็นงานแต่งสไตล์ไหนก็คุมโทน

4 ธีมสี ช่อดอกไม้เจ้าสาว ที่หวานหนักมากกก

ในวันแต่งงานสิ่งสำคัญที่จะต้องอยู่คู่กับเจ้าสาวนอกจากเจ้าบ่าวแล้วก็คือ ช่อดอกไม้เจ้าสาว ที่เจ้าสาวจะต้องถือไว้เนี่ยละค่ะ แล้วเจ้าสาวรู้หรือไม่ว่า ดอกไม้ในแต่ละสีที่เจ้าสาวถือนั้น มันมีความหมายว่ายังไง เรามาไขข้อสงสัยกันเถอะ

สีขาว เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิดเลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า

สีฟ้า เชื่อว่าเป็นสีแห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้ที่ทำให้ชีวิตคู่สวยงามเหมือนความฝัน และจะทำให้ความรักมั่นคงตลอดกาล

สีม่วง บางคนคงคิดว่ามันเป็นสีที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายหนึ่ง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข ดอกไม้สีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิตคู่และการงานได้อีกด้วย

สีชมพู เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ

และไม่ว่าจะเลือกดอกไม้สีอะไรความหมายของแต่และสีก็ไม่สำคัญเท่าการแสดงความจริงใจที่จะมอบให้

อ่านเพิ่มเติม ช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบฉบับเจ้าหญิงที่แท้จริง เป็นอย่างไรมาดูกัน

ขอบคุณภาพ Pinterest

เส้นทางเที่ยวสวีทถูกและดีฮันนีมูนที่โครงการหลวง : ภาคกลางและภาคตะวันออก

ฮันนีมูนตามรอย โครงการหลวง สวีทแบบมีสาระ

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะจูงมือกันไปเที่ยว หรือฮันนีมูนที่ไหนดี แพรว wedding ขอแนะนำให้ทริปสุดเจ๋งในเมืองไทยที่เดินทางง่ายแถมได้สาระ นั่นคือ การท่องเที่ยวเดินตามรอย โครงการหลวง รับรองว่าฟินไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน

เส้นทางที่ 1 อยุธยา นครนายก เที่ยวสั้นๆ ประหยัดเวลา

1

สำหรับคู่รักที่มีเวลาน้อยไม่สามารถออกไปไกลๆ ได้ ก็ขอจัดทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน อยุธยา นครนายก ถือเป็นพรีฮันนีมูนไปก่อน จุดแรกที่จะพามุ่งหน้าไปคือ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร แหล่งรวมงานหัตถศิลป์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี ลานนก และวังปลาให้พักเที่ยวเล่นก่อนเดินทางต่อ ไปที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย  นอกจากจะมีพระราชานุสาวรีย์ให้กราบสักการะแล้ว ยังเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ รวมถึงเป็นพื้นที่โครงการแก้มลิงสำหรับรองรับน้ำในช่วงน้ำท่วมอีกด้วย

download

เที่ยวชมอยุธยาพอสนุกแล้ว ก็ได้เวลาขับรถสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล ในจังหวัดนครนายก เขื่อนสวยๆ ที่มีถนนทอดยาว ถ่ายรูปเมื่อไหร่ก็สวยเสมอจนถูกใช้เป็นฉากในละครอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรอบเขื่อนอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำในลำธารสายเล็กๆ ล่องแก่งแบเสียวเบา หรือจะกินผลไม้นอนโฮมสเตย์ใกล้ชิดวิถีธรรมชาติก็ได้ แบบว่าตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์

เส้นทางที่ 2 เลาะทะเลชมโครงการหลวงที่ สมุทรสงคราม เพชรบุรี

tourismthailand

ไปหัวหิน ชะอำเที่ยวนี้ จะมีความหมายมากกว่าทุกครั้ง เพราะเราจะไปโครงการหลวงด้วยกัน โดยมุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ไปยังจุดหมายแรกคือโครงการหลวงที่กำลังมาแรงมั่กๆ อย่าง โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ  โครงการที่พลิกฟื้นดินเสื่อมโทรมให้กลายเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี อุดมด้วยวัวนมสีขาวดำหน้าตาน่ารัก ดูทุ่งกังหันไฟฟ้า และเลือกซื้อผักสดปลอดสารพิษ และนมสดๆ ที่หอมหวานมันแบบไม่ต้องปรุงรส เจือสี เจือกลิ่นเลย

%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5

ขากลับเที่ยวเล่นชมทะเล กินซีฟู้ดจนจุใจแล้ว เราจะแวะอัมพวากันก่อน ที่นี่เป็นพื้นที่โครงการหลวง อัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์”  พบกับวิถีชีวิตริมน้ำ และงานหัตถกรรมพื้นบ้านของคนในพื้นที่ และถ้าไม่รีบอยากจะอยู่ยาวเพื่อล่องเรือดูหิ่งห้อยซิกเนเจอร์ของตลาดน้ำแห่งนี้ก็ดีนะ แถมจะต่ออีกสักคืนสองคืน ก็มีโฮมสเตย์บรรยากาศดี ตื่นเช้ามาตักบาตรทางน้ำในยามเช้าก็ยังได้

เส้นทางที่ 3 ชลบุรี ระยอง จันทบุรี เที่ยวทะเล ชมโครงการหลวง

youtube

ทะเลภาคตะวันออกก็สวยไม่แพ้ทะเลภาคใต้ ที่สำคัญคือไปง่าย เดินทางไปไม่ไกลก็ได้เจอทะเลแล้ว แถมทริปนี้ยังเต็มไปด้วยทะเลและสัตว์แสนรู้ ขอเริ่มต้นทริปด้วยการไหว้พระทำบุญที่วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชมพระแกะสลักบนหน้าผาเขาชีจรรย์ ไม่ไกลกันยังมีสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง ที่มีทั้งนก กวาง รวมไปถึงหมี น่ารักๆ ให้ดู ถ้าใครติดใจก็ขอเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์หมีน้อยเหล่านี้ได้ หรือถ้าคู่ไหนอยากจะแอดแวดเจอร์ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางเดินสบายอย่างป่าสิริเจริญวรรษ สวนป่าในพระราชดำริ  เดินกันเพลินๆ พอเรียกเลือดฝาดให้แก้มแดงปลั่งแบบไม่พึ่งเมคอัพ

โครงการหลวง

ออกจากชลบุรีก็ใช้เส้นทางเขาชีจรรย์เนี่ยละคะ สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นไม้จนมาโผล่ที่จังหวัดระยองเราจะไปยังปากน้ำประแสเดินทอดน่องชิวๆ บนสะพานไม้ที่ทุ่งโปร่งทองเพื่อไปชมภาพความสวยงามขอต้นโปร่งเขียวขจีสุดสายตา จากนั้นจะไปไปยังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลบ้านเกาะ ไปดูเต่าเล็ก เต่าน้อย สนุกสนาน

โครงการหลวง

และจังหวัดสุดท้ายของทริปนี้จะพาข้ามไปถึงจังหวัดจันทบุรี ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่นี่นอกจากความสมบูรณ์ของธรรมชาติริมชายฝั่งทะเล กิจกรรมพายเรือคายัคแล้วก็ยังมีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติที่บางช่วงสวยและโรแมนติคขนาดที่ว่ามีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเลยทีเดียว และต้องไม่ลืมไปแลนด์มาร์คสำคัญ สถานที่ห้ามพลาด โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล จันทบุรี โบสถ์คริตส์เก่าแก่อายุกว่า 270 ปี และยังได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์คริต์ที่สวยที่สุดในประเทศงานนี้ถูกใจเหล่านักถ่ายภาพแน่นอน  

ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่โครงการหลวงทางภาคใต้กันบ้าง รับรองว่าเที่ยวสนุก วิวชวนไม่แพ้ภาคอื่นๆ เลย

ขอบคุณภาพจาก Manager Online, chilpainai , thailovetrip, tourismthailand, reviewburi, การท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก

5 กิจกรรมที่ควรงดใส่แหวนเพชรเม็ดงาม ถ้าไม่อยากให้แหวนวงสวยหมดราคา!

คิดสักนิดหากจะทำ 5 กิจกรรมต่อไปนี้โดยที่ยังมี แหวนเพชร อยู่บนนิ้ว

ไม่ใช่แค่เพียงเพราะราคาสูงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ แหวนเพชร วงสวยยังเต็มไปด้วยความหมายและคุณค่าต่อจิตใจสำหรับผู้หญิงอย่างเราๆอยู่มากมาย ทำให้เราควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และนี่คือช่วงเวลาที่ แพรว wedding แนะนำว่าควรจะถอดแหวนเก็บไว้ดีกว่าเพื่อความปลอดภัย

เวลาอาบน้ำ

เหมือนกับการทาครีมกันแดด โลชั่น หรือเซรั่มบำรุงผมนั่นแหละค่ะ การอาบน้ำขณะที่สวมแหวนจะทำให้สบู่ที่เราใช้ไปสะสมอยู่ที่เพชรและบนแหวน หรือแย่กว่านั้นก็คือใต้แหวน ซึ่งทำความสะอาดยากมาก ๆ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้มันหมองและสกปรกก็ถอดออกก่อนอาบน้ำจะดีที่สุดน้า

เวลาทำงานบ้าน

โดยเฉพาะงานบ้านจำพวกเช็ดล้างทำความสะอาด ไม่ว่าจะล้างรถ ขัดห้องน้ำ ทำความสะอาดเตาอบ ก็ไม่สมควรจะใส่แหวนค่ะ ยิ่งถ้าแหวนของเรามีพลอยสี ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ สารเคมีในน้ำยาทำความสะอาดจะทำปฏิกิริยากับแหวนของเราเอาได้ และเวลาที่ถอดแหวนเก็บ ควรจะมีกล่องแยกต่างหากเพื่อไม่ให้ขูดขีดกับข้าวของในกระเป๋าด้วยนะคะ

ไปโรงยิมหรือฟิตเนส

สำหรับการออกกำลังกายบางอย่าง อย่างการวิ่ง คงจะไม่ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อแหวนของเราหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นพวกการยกดัมเบล หรือการออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์เยอะ ๆ มาเกี่ยวข้อง มันจะทำให้แหวนเกิดความเสี่ยงที่จะพัง งอเสียรูป หรือเสียหายได้ง่าย ๆ เลยล่ะ แถมบางทียังเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุขณะออกกำลังกายด้วยนะคะ

ไปเที่ยวทะเล

มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือมาก ๆ อยู่ 2 อย่างนะคะสำหรับข้อนี้ อย่างแรกเลยก็คือ หากคุณเผลอทำแหวนหล่นหายไปกับทรายหรือในทะเล แน่นอนว่ามันหายชัวร์ ๆ ค่ะ การจะหามันให้เจอนั้นเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรของจริงเลยล่ะ ส่วนเหตุผลอีกข้อที่ไม่ค่อยจะมีคนรู้ก็คือ ทรายสามารถเข้าไปอยู่ในแหวนหรือใต้เพชรของเราได้ง่าย ๆ แถมเอาออกยากอีก และเราก็คงจะไม่อยากทาครีมกันแดดเวลาที่ใส่แหวนอยู่หรอกจริงมั้ย เพราะเพชรคงจะหมองแย่เลย

ไปว่ายน้ำ

การทำแหวนหล่นหายในสระว่ายน้ำหรืออ่างน้ำร้อนที่สปาอาจจะไม่แย่เท่าในทะเล เพราะยังไงก็หาเจอง่ายกว่า แต่สิ่งที่เลวร้ายก็คือสารเคมีต่าง ๆ ในสระน้ำอย่างคลอรีนเนี่ยล่ะค่ะ ที่เป็นตัวทำความเสียหายกับแหวนของเรา และยิ่งนาน ๆ ไปมันอาจจะทำให้โลหะเปลี่ยนสีได้เลยนะคะ

อ่านเพิ่มเติม 6 เฉดสีเล็บเจ้าสาวทาแล้วรอดเข้ากับแหวนเพชรเม็ดงาม

cr : theknot.com

Alwaysfluke กับแบรนด์โปรด Sulwhasoo และทิปส์การใช้สกินแคร์สำหรับเจ้าสาว

สกินแคร์สำหรับเจ้าสาว และทิปส์ดูแลผิวดีๆ ที่ ฟลุค Alwaysfluke อยากบอกต่อ

เมื่อกล่าวถึงเมคอัพอาร์ติสต์เจ้าสาวมือวางอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของฟลุค – รพี ชูสุวรรณ หรือที่เรารู้จักในนามของ Alwaysfluke ติดอันดับอยู่ด้วย เพราะความโดดเด่นของสไตล์การแต่งหน้าที่เน้นงานผิวสวยธรรมชาติ แต่นอกจากฝีมือในการสาดสีสันแล้ว ฟลุคยังเป็นอีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกใช้สกินแคร์ด้วย จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการความงามมาอย่างยาวนาน แพรว wedding ฉบับนี้ล็อกตัวเขามาพูดคุยเกี่ยวกับสกินแคร์สัญชาติเกาหลี Sulwhasoo (โซลวาซู) แบรนด์โปรด รวมทั้งมาบอกเล่าทิปส์การใช้ สกินแคร์สำหรับเจ้าสาว อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผิวเจ้าสาวที่อาจจะเกิดขึ้นในวันแต่งงาน

Q: ปัญหาผิวหน้าเจ้าสาวที่คุณฟลุคมักจะพบเจอ

A: ปัญหาที่พบเจอบ่อยคือสิวและผิวไม่แข็งแรง เหล่านี้เกิดจากความเครียดและพักผ่อนน้อยซึ่งเป็นปกติของเจ้าสาว ในช่วงใกล้วันแต่งงาน การจะไปแนะนำาเขาว่าอย่าเครียดนะ ดื่มน้ำเยอะๆ นะ นอนเยอะๆ นะ บางทีก็ทำได้ยากในชีวิตจริง ฟลุคจึงมักจะแนะนำให้เจ้าสาวหาสกินแคร์ที่ดีเป็นตัวช่วย เหมือนว่าอย่างน้อยถ้าไลฟ์สไตล์เราไม่เอื้ออำนวยที่จะให้เรามีสภาพผิวที่ดี สกินแคร์ก็ช่วยเติมสารอาหารที่ขาดหายไปให้กลับคืนสู่ผิวได้

Q: รู้จักกับแบรนด์ Sulwhasoo ครั้งแรกได้ยังไง

A: ฟลุคมีโอกาสไปลองสปาแบบดั้งเดิมของแบรนด์ที่ประเทศเกาหลีใต้ สปาของเขาเป็นการบ่งบอกว่าเขาให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์การดูแลผิวให้ลูกค้าแบบ 360 องศาจริงๆ อันนี้แนะนำเป็นการส่วนตัวว่า ถ้าว่าที่เจ้าสาวคนไหนมีโอกาสได้บินไปเกาหลีในช่วงเวลาเตรียมตัวอยากให้ไปลองสักครั้ง

Q: ทำไมถึงอยากแนะนำ Sulwhasoo ให้ว่าที่เจ้าสาวสำหรับการเตรียมผิวก่อนแต่งงาน

A: พอเราใช้แล้วประทับใจ เราก็เริ่มแนะนำให้คนรอบตัวใช้ รวมถึงว่าที่เจ้าสาวที่บางทีมาขอคำแนะนำ พอเขาใช้แล้ว ประทับใจ เขาก็เอาไปบอกคนอื่นๆ ต่อเช่นกัน จากประสบการณ์ของฟลุค แบรนด์สกินแคร์ที่เน้นการรักษาสมดุลผิวอย่างโซลวาซูเป็นอะไรที่เวิร์คมากสำหรับการเตรียมผิวเจ้าสาวช่วงใกล้งานแต่งงาน เพราะช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวแพ้ ระคายเคือง และลดการเกิดสิวได้ดี ฟลุครู้สึกว่ากุญแจสำคัญของผิวที่ดีคือผิวที่แข็งแรง ถามว่าผิวที่แข็งแรงมาจากอะไร ก็มาจากความสมดุลของสภาพผิวภายในนี่เอง

Q: อยากให้ฝากคำแนะนำในสัปดาห์สุดท้ายของการเตรียมผิวเจ้าสาวก่อนแต่งงาน

A: ฟลุคแนะนำให้มาสก์หน้าก่อนนอนทุกวัน แล้วนวดวนให้เนื้อมาสก์ที่เหลือจากการมาสก์ซึมเข้าสู่ผิวให้หมดแล้วค่อยนอน เป็นการบำรุงผิวแบบล้ำลึกเข้มข้นจริงๆ ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนวันสำคัญ ถ้าทำได้ทุกวันจะสังเกตเห็นเลยว่า ผิวดูอิ่มฟูและกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้เวลาแต่งหน้าเจ้าสาวแล้วแทบจะไม่ต้องลงรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์เพื่อปิดบังจุดบกพร่องใดๆ ฟลุคเชื่อว่ายิ่งเจ้าสาวสามารถเผยผิวที่แท้จริงของเธอได้มากเท่าไร ก็ยิ่งจะทำให้เธอดูสวยอย่างเป็น ธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น

5 Alwaysfluke’s Selection ผลิตภัณฑ์โปรดของฟลุคที่อยากแนะนำให้ลอง >>> อ่านต่อหน้าต่อไป

งานแต่งในสวนสไตล์โรงนาของคุณไอส์ & คุณบอส @ โรงแรมสุโขทัย

In a Blissful Backyard งานแต่งในสวน สไตล์โรงนาสุดอบอุ่น

สำหรับ งานแต่งในสวน ของคุณไอส์-ภัทรนันฑ์ และคุณบอส-วสวัตติ์ คู่รักนักบริหารคนเก่งนั้น ผ่านการเตรียมงานมาเป็นอย่างดี ทั้งคู่ใส่ใจในทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ เห็นได้จากภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจตั้งแต่พิธีแลกแหวนจนถึงงานเลี้ยงฉลอง

เรื่องราวความรักฉบับสองใจตรงกันจนน่าอิจฉาของคุณไอส์และคุณบอสนั้นเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถึงแม้ระยะทางจะไกลกันเพราะเจ้าบ่าวกำลังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ ในขณะที่เจ้าสาวอยู่เมืองไทย แต่พลังจากภาพถ่ายเพียงไม่กี่ภาพก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งคู่รอคอยและกลับมาพบ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางรักไปด้วยกันจนมีวันนี้ในที่สุด โดยทุกขั้นตอนการเตรียมงานนั้นเริ่มขึ้นทันทีหลังจากที่คุณไอส์เซย์เยสในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา และเพราะได้คุณเอก – สันติพงษ์ นักสร้างสรรค์คนเก่งมารังสรรค์งานนี้ให้ ทำให้คุณไอส์ เจ้าสาวที่มีตารางงานค่อนข้างยุ่ง ประกอบกับต้องทำงานในต่างประเทศนั้นรู้สึกสบายใจ และที่สำคัญคือการมีเจ้าบ่าวที่น่ารักคอยช่วยดูแลเตรียมงานให้

 

หลังจากได้ฤกษ์ที่แน่นอน ไทม์ไลน์ทุกอย่างจึงถูกวางตามลำดับ เริ่มต้นที่การเลือกสถานที่ที่เน้นว่าต้องมีสวน จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการมองหาชุดเจ้าสาวแสนสวยที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปจนได้ชุดที่ถูกใจจากนิวยอร์กมาในที่สุด ในส่วนของชุดเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็ผ่านการคัดสรรและออกแบบอย่างดีด้วยฝีมือของคุณไอส์เอง ตามด้วยการตกผลึกไอเดียข้าวของและการตกแต่งในส่วนต่างๆ ทั้ง การ์ดสวยที่ถูกใจเจ้าสาวเป็นอย่างมาก และของชำร่วยที่เป็น กระเป๋าจากโครงการกำลังใจในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อแบ่งปันความสุขในวันสำคัญของทั้งคู่สู่กลุ่มนักโทษหญิงในทัณฑสถาน เจ้าของผลงานกระเป๋าสวยคุณภาพดี จนกระทั่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมารูปแบบการจัดงานและชนิดดอกไม้จึงถูกไฟนอลออกมา ถือว่าจบขั้นตอนสุดท้ายของการเตรียมงาน

 

ในงานได้รับการตกแต่งในธีมโรงนาแบบฝรั่งที่ดูน่ารักอบอุ่น เลือกใช้สีขาวและสีเขียวของดอกไม้และใบไม้เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดูสบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนหลังบ้าน โมเมนต์ที่เจ้าสาวปรากฏตัวในชุดสีขาวที่ดูอ่อนหวาน แต่แฝงความโก้ในสวนสีเขียวชอุ่มพร้อมกับเจ้าบ่าวในชุดสูทสุดเนี้ยบนั้นก็ให้ความรู้สึกที่สดชื่นมากๆ ทำให้รู้สึกเหมือน การรวมตัวของครอบครัวและเพื่อนสนิทกันที่สวนหลังบ้านได้มีความสุขและรับประทานอาหารร่วมกัน เรียกว่าเป็นงานที่ สวยงามแก่สายตาและยังอบอุ่นแก่หัวใจจริงๆ

 

The Details : The Barn

Venue : โรงแรมสุโขทัย The Sukhothai Bangkok
Wedding Dress : ชุดสวมแหวน Amata ชุดงานเลี้ยง Christian Siriano, Kleinfeld New YorkGroom Suit : POEM
Makeup : คุณเจ J makeup (ช่วงสวมแหวน) คุณชาติ Chart makeup (ช่วงงานเลี้ยง)
Hair : คุณริว Showryu (ช่วงสวมแหวน) คุณอ้อย (ช่วงงานเลี้ยง)
Decoration : คุณเอก – สันติพงษ์ (ไอจี : @suntipong101)
Wedding Planner : Wedding is “Me” (เฟซบุ๊ก @@weddingisme)
Photo : TMPHOTOANEWS (ไอจี : @tmphotoanews)LightCulture (ไอจี : @lightculture)

7 แหวนแต่งงาน แบบชู ดีไซน์สุดคลาสสิคยอดฮิตของว่าที่เจ้าสาว

แหวนแต่งงาน สไตล์ Solitaire หรือแหวนแต่งงานแบบชู กับ 7 ดีไซน์ยอดฮิตของสาวๆ

แหวนแต่งงาน เป็นอีกหนึ่งอย่างในอิลิเม้นต์งานแต่งงานที่ว่าที่เจ้าสาวให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าชุดแต่งงานเลยทีเดียว แถมบางคนอาจจะให้ความสำคัญมากที่สุดไปอีก เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องสวมใส่ติดนิ้วไว้ตลอดเวลา นั่นจึงทำให้สาวๆ มีเรื่องที่ต้องปวดหัวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง เพราะดีไซน์แหวนแต่งงานมีให้เลือกมากมายไม่แพ้กับดีไซน์ชุดเลยนะจ๊ะ

แต่ดีไซน์แหวนแต่งงานเรียบง่ายแต่คลาสสิค ไม่มีวันเชย ดูทันสมัยอยู่เสมอ และใส่ได้กับทุกโอกาสก็คือ แหวนแต่งงานแบบ Solitaire หรือแหวนแต่งงานแบบชู แถมยังสามารถเพิ่มกิมมิกต่างๆ เข้าไปได้หากคุณไม่ชอบดีไซน์ที่เรียบง่ายจนเกินไป เช่น การฝังเพชรด้านข้างแบบฝังไข่ปลา (pave) ที่ช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้กับแหวนวงสวย หรือจะโดดเด่นด้วยลูกเล่นของก้านแหวนที่ทวิสต์ไปมาคล้ายสัญลักษณ์ infinity (∞) แต่ถ้าคุณอยากได้ความแปลกใหม่อีกนิดอาจจะเลือกตัวแหวนเป็นเฉดสีโรสโกลด์ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าการฝังเพชร หรือสีของตัวเรือนยังไม่ตอบโจทย์ความโดดเด่นและแตกต่างของว่าที่เจ้าสาว การเลือกทรงเพชรแบบต่างๆ ก็ช่วยให้แหวนแต่งงานของคุณดูดีได้ไม่น้อย ซึ่งแน่นอนว่า เพชรทรงกลม นั้นมาแรงแซงโค้งและอยู่ในใจของว่าที่เจ้าสาวมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีเพชรทรงอื่นที่มีรูปทรงที่น่าสนใจอย่าง ทรงคุชชั่น หรือทรงปริ๊นเซส, ทรงลูกแพร์, ทรงมาคีส์ หรือทรงเอมเมอรัลด์ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแหวนแต่งงานของคุณ สุดท้ายสำหรับว่าที่เจ้าสาวสายฮิปสเตอร์เด็กแนวที่ไม่ชอบความวิบวับของเพชร ก็อาจจะเลือกเป็นหินหรืออัญมณีนำโชคก็ได้เช่นกันน้า

และนี่คือ 7 แหวนแต่งงานสไตล์ Solitaire ที่สวยจนอยากจะแต่งงานซะวันพรุ่งนี้เลย ^^

แหวนแต่งงาน
Blue Nile

เรียบหรูดูดี ใส่ได้กับทุกโอกาส แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน กับแหวนแต่งงานประดับเพชรทรงกลม ตัวเรือนแพลตตินั่มที่ก้านแหวนมีความเลื่อมกันเล็กน้อยเพื่อความน่าสนใจ และด้วยความเชื่อเรื่องความกลมที่สื่อถึงรักที่มีแต่ความกลมเกลียวสามัคคี รักที่ไม่สิ้นสุด แม้จะเดินกันคนละทาง สุดท้ายก็ต้องมาบรรจบกันนั้น ทำให้ว่าที่เจ้าสาวหลายคนจึงนิยมเลือกเพชรทรงนี้เพราะมีความดีๆ สำหรับชีวิตคู่นั่นเอง

Catbird

แหวนแต่งงานดีไซน์ก้านแหวนบางงดงามสุดละเอียดอ่อน ประดับเพชรทรงกลมตรงกลางพร้อมประดับเพชรด้านข้าง เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวสายหวานที่มีความเฟมินีนในตัวนิดๆ และข้อดีอีกหนึ่งอย่างของเพชรทรงกลมก็คือ สามารถออกแบบก้านแหวนให้เข้ากับรูปนิ้วได้หลายแบบ

Gabriel New York

เรียบโก้สุดๆ กับแหวนแต่งงานประดับเพชรทรงกลมพร้อมล้อมกรอบเพชรด้วยทรงกลมเช่นเดียวกัน ตัวเรือนเป็นทองคำขาวที่ดูสะอาดและเปล่งประกาย เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่ใส่ได้แบบไม่มีเบื่อ แถมยังให้ลุคที่ดูร่วมสมัยสุดๆ อีกด้วย

แหวนแต่งงานประดับเพชรทรงลูกแพร์ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ลุคแตกต่างไม่ซ้ำใคร มาพร้อมดีไซน์สุดเพอร์เฟกต์ของการฝังเพชรแบบจิกไข่ปลาที่ด้านข้าง ที่ช่วยให้แหวนวงนี้ดูเปล่งประกายบนนิ้วนางข้างซ้ายสุดๆ

De Beers

สวยงามแบบไร้กาลเวลาทำร้าย กับแหวนแต่งงานประดับเพชรทรงไข่ ด้านข้างประดับเพชรที่เรียงตัวกันไว้อย่างสวยงามตลอดก้านแหวนช่วยเพิ่มความวิบวับและขับความโดดเด่นของเพชรเม็ดกลางให้ดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งเพชรทรงไข่นี้จะเหมาะกับมือที่ค่อนข้างอวบ ขนาดวงนิ้วใหญ่เป็นพิเศษ

Anna Sheffield

ไม่ว่าจะเป็นว่าที่เจ้าสาวเด็กแนว หรือว่าที่เจ้าสาวสายแฟชั่นที่ไม่นิยมเครื่องเพชร แหวนแต่งงานประดับอัญมณีนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด โดยอาจจะเลือกอัญมณีที่ชอบ หรือเฉดสีที่เข้ากับราศีของว่าที่เจ้าสาวก็ได้

Tiffany & Co.

คลาสสิคสุดๆ กับแหวนสไตล์ Solitaire ประดับเพชรทรงกลมพร้อมตัวเรือนสีโรสโกลด์ แต่เฉดสีนี้เห็นที่ว่าที่เจ้าสาวที่ผิวขาวมากๆ เท่านั้นที่ใส่แล้วจะรอดนะจ๊ะ

Tacori

แหวนแต่งงานประดับเพชรทรงลูกแพร์ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ลุคแตกต่างไม่ซ้ำใคร มาพร้อมดีไซน์สุดเพอร์เฟกต์ของการฝังเพชรแบบจิกไข่ปลาที่ด้านข้าง ที่ช่วยให้แหวนวงนี้ดูเปล่งประกายบนนิ้วนางข้างซ้ายสุดๆ

อ่านบทความเพิ่มเติม แหวนแต่งงานอัญมณีสีฟ้า.. แรงบันดาลใจจากปราสาทวินด์เซอร์

ภาพ Pinterest, Brides.com

จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ ที่พักความฟินระดับร้อย วิวสวยระดับล้าน

จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ สถานที่ฮันนีมูนสุดฟิน พร้อมความหรูหราสไตล์ล้านนา และวิวพานอราม่าของขุนเขา

คู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ฮันนีมูนสุดฟิน ประมาณว่าอยากไปทิ้งตัว ปล่อยกาย ปล่อยใจ แต่ไม่ต้องเดินทางไกลให้เหนื่อยล้า แพรว wedding มีสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฮันนีมูนมาฝากค่ะ นั่นก็คือ “ จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ ” รีสอร์ตสไตล์ไทยล้านนาประยุกต์ที่ผสมผสานความหรูหราและความคลาสสิคเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แถมที่นี่ยังมีห้องอาหารบริการภายในรีสอร์ทอีกด้วย ที่สำคัญอร่อยเลิศทุกเมนู แถมยังได้ทานอาหารพร้อมวิวของขุนเขาเบื้องหน้าที่ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจไปอีก…เป็นไงคะ ฟินไหมล่ะ ^^

จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ รีสอร์ทที่โอบล้อมไปด้วยทิวเขาและโอโซนอันบริสุทธิ์บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ซึ่งจุดไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ วิวภูเขาอันเขียวขจีตรงหน้าซึ่งเป็นด้านหลังของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ตยังรายล้อมไปด้วยต้นไม่ใหญ่น้อยนานาพรรณ ไม่ว่าจะเป็น ต้นลิ้นจี่ผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองเหนือ ซึ่งหากคู่รักไปได้ถูกฤดูก็สามารถเก็บทานสดๆ จากต้นได้เลย และถ้าหากไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ดอกไม้เริ่มบานสะพรั่งแล้วล่ะก็ ความสวยงามของรีสอร์ตจะทวีคูณขึ้นด้วยสีสันของดอกไม้หลากสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น อโศกแดงและเหลือง ดอกข่า กล้วยไม้ ดอกพุด จำปี มะลิ และอัญชัญ และที่สำคัญยังจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่โอบล้อมขุนเขาไว้อีกด้วย ลองคิดดูว่าจะฟินขนาดไหน  ^^

โดยที่นี่มีบ้านพักและห้องพักหลากสไตล์โดยหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ

บ้านพักสไตล์หลองข้าวล้านนาสุดหรู ทั้งหมด 5 หลัง ซึ่งจำลองมาจากหลองข้าวหรือยุ้งข้าวของชาวเหนือ ซึ่งนำมาประยุกต์ให้มีความทันสมัยและแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างขึ้นด้วยไม้สักและไม่เนื้อแข็ง ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์อารยธรรมล้านนา อีกทั้งยังประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ โถเซรามิกที่นำมาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย พร้อมด้วยภาพวาดจิตรกรรมสไตล์ไทยล้านนา หรูหราด้วยโคมไฟระย้าในทุกหลัง พร้อมช้างไม้แกะสลักที่บอกเลขห้องพักสไตล์หลองข้าว อีกหนึ่งกิมมิกน่ารักๆ ที่มาพร้อมกับความเชื่อที่ว่าช้างนั้นเป็นสัตว์มงคลอีกด้วย

– จันศรี (Chan Sri Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 100 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และบาร์ที่ชั้นล่าง ชั้นบนโดดเด่นด้วยห้องนอนแบบเตียงเดี่ยวสไตล์มุ้ง 4 เสาเพดานสูง พร้อมระเบียงส่วนตัวเพื่อชมแมกไม้อันเขียวขจี

– จันแก้ว (Chan Kaew Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 98 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และบาร์ที่ชั้นล่าง ชั้นบนเป็นห้องนอนแบบเตียงคู่สไตล์มุ้ง 4 เสาเพดานสูง พร้อมระเบียงชมวิวในตัว

– ยวงจัน ( Yuang Chan Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 180 ตารางเมตร เป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 2 ห้องนอน เหมาะสำหรับการเข้าพักแบบครอบครัว หรือจะมาเป็นแก๊งเพื่อนก็ได้

– ร้อยจัน (Roi Chan Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 180 ตารางเมตร ชั้นแบ่งเป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 1 ห้อง และห้องนอนแบบเตียงคู่ 1 ห้อง พร้อมลานส่วนตัวแบบใกล้ชิดธรรมชาติที่ด้านนอก เหมาะสำหรับทริปสังสรรค์ของครอบครัว หรือจะชวนแก๊งเพื่อนสนิทมาปาร์ตี้สละโสดแบบชิลๆ ก็ยังได้

– จันเป็ง (Chan Peng Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 274 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและบาร์ ชั้นบนเป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 1 ห้อง และแบบเตียงคู่อีก 1 ห้อง พร้อมลานส่วนตัวแบบใกล้ชิดธรรมชาติที่ด้านนอก เหมาะสำหรับทริปสังสรรค์ของครอบครัว หรือจะชวนแก๊งเพื่อนสนิทมาปาร์ตี้สละโสดแบบชิลๆ ก็ยังได้

ยังมีห้องพักแบบตะวันตกให้ดูอีกน้า >> คลิกดูหน้าต่อไปเลย >>

เทคนิคการเลือกชุดชั้นในสำหรับชุดเจ้าสาว

ชุดแต่งงานในฝันจะออกมาสวยหรือไม่ อยู่ที่การเลือก ชุดชั้นในเจ้าสาว ด้วยนะ

ชุดชั้นในเจ้าสาว ที่ดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าสาว เพราะชุดแต่งงานที่เลือกสรรมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเข้ารูป หรือโชว์สัดส่วน ดังนั้นชุดชั้นในจึงควรเก็บทรวดทรงได้ดี ทำให้เจ้าสาวมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงาม สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกชุดชั้นในอยู่ที่ความพอดี ไม่แน่นหรือคับจนเกินไป ไม่มีเส้นสายร่องรอยใดๆให้เห็น เพราะฉะนั้นการเลือกชุดชั้นในให้ดีจะยิ่งช่วยให้เจ้าสาวดูโดดเด่นสวยสง่ามากยิ่งขึ้น และอย่างที่ทราบกันคือประเภทของชั้นในนั้นมีมากมายเหลือเกิน ทีนี้เราควรเริ่มจากตรงไหน? และประเภทใดบ้างที่เหมาะสำหรับใส่กับชุดเจ้าสาว? วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวมทริคการเลือกชุดชั้นในสำหรับเจ้าสาวมาให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายแล้วค่ะ หวังว่าจะช่วยคุณๆได้ไม่มากก็น้อยนะคะ 😉

บอดี้สูท (bodysuit)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาวทรงตรงที่ใช้ผ้าทิ้ง ตัวอย่าง ไหมซาติน หรือผ้าเนื้อเบาจำพวกออร์แกนดี้ ชีฟอง ชุดชั้นในต้องเรียบแนบเนื้อที่สุด ไร้เส้นโครง ลูกไม้ ริบบิ้น และระบาย จะดีต้องใส่เป็นบอดี้สูท ซึ่งมีขอบขาคว้านค่อนข้างสูง และถ้ามีถุงน่องในตัวจะเนียนตามาก ถ้าต้องการใช้ชุดชั้นในสีขาว ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับ ซับในของชุดแต่งงาน

บัสติเย่ร์ (bustier)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

ถ้าเป็นชุดเกาะอก เจ้าสาวควรใส่บัสติเย่ร์ หรือจะเป็นบราเซียร์เต็มตัว แบบไร้สาย เพราะเส้นโครง จะช่วยประคองอก กระชับทรงเลยถึงลำตัวส่วนบนได้ดี บัสติเย่ร์นั้นเหมาะกับเจ้าสาวที่มีหน้าอก และใช้ได้ดีกับชุดเปิดหลังเพราะคว้านหลังลึกกว่าบราธรรมดา

สลิมเมอร์ (slimmer)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

สลิมเมอร์ คือ ชุดชั้นในที่ทำจากผ้ายืดไลครา หรือสแปนเด็กซ์ ซึ่งรัดรูปร่างให้เข้ารูปตั้งแต่ทรวงอก ลงมาถึงสะโพกและต้นขา ช่วยเก็บรูปร่างได้ดีและสวมใส่สะดวกสบายกว่าสเตย์รัดหน้าท้องแบบโบราณ ทั้งยังใช้ได้กับชุดเจ้าสาวทุกสไตล์ ข้อแนะนำสำหรับการใช้ ชุดชั้นในประเภทนี้คือ ต้องสวมใส่ให้เคยชินตั้งแต่การลองชุดเจ้าสาว เมื่อเลือกซื้อจะต้องได้เลือกชุดให้พอดีกับรูปร่างที่ต้องการ และสลิมเมอร์ก็จะฟิตพอดีตัว

แพนตี้โฮสท์ (panty host)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

ถ้ากังวลเรื่องพุง ไม่ควรใส่สเตย์ เพราะจะดูเป็นมัด แข็ง และอึดอัด ให้เลี่ยงไปใช้แพนตี้โฮสท์ หรือถุงน่องแบบเก็บพุง ซึ่งมีกางเกงชั้นในในตัว ใช้ได้ดีกับชุดผ้าซาตินที่มีกระโปรงแคบเข้ารูป

คอร์เส็ต (corset)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

คอร์เส็ตและชุดชั้นในแบบเต็มตัว เหมาะกับชุดแต่งงานบางพลิ้ว ทิ้งน้ำหนักแบบแนบตัวลงมา แต่หากเจ้าสาวเป็นสาวเจ้าเนื้อควรเลี่ยงการใส่คอร์เส็ต เพราะอาจจะทำให้รูปร่าง ดูหนากว่าที่ควรเป็น และอาจอึดอัดเวลาเคลื่อนไหว

อ่านบทความเพิ่มเติม ใส่ชุดเจ้าสาวให้ก้นงอนงามด้วย “ชุดชั้นในเสริมสะโพก”

cr : brownthomas.com

แพรว wedding กับแฟชั่นเซตปกสวยๆ ที่ Villa de Bua คฤหาสน์สไตล์ไทยประยุกต์

Villa de Bua และเบื้องหลังแฟชั่นชุดไทยสวยๆ ของ แพรว wedding

ถ้าพูดถึงนางเอกที่มีอากัปกิริยางดงาม เชื่อเลยว่า แอฟ-ทักษอร จะต้องติดอยู่ในลิสต์บนสุด สาวหน้าหวานท่ี่เราเห็นผลงานกันมาตั้งแต่วัยนักศึกษา จนตอนนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว ทำให้ไม่ค่อยได้เห็นเธอตามงานในวงการบันเทิงสักเท่าไรนัก ทำเอาใครๆ ต่างก็บ่นคิดถึงเธอ แพรว wedding เองก็คิดถึงเธอไม่น้อยไปกว่าใคร เลยขอคิวนางเอกคนดังมาถ่ายแฟชั่นชุดไทยสวยๆ ในคฤหาสน์หลังงามที่ Villa de Bua

ที่ผ่านมาแอฟได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนางเอกที่นุ่งไทยเคียนสไบได้งดงามที่สุด แต่ครั้งนี้เธอยังแอบมากระซิบกับเราว่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะไม่ได้ถ่ายแบบในชุดไทยมานานมากแล้ว

ชุดไทยเต็มยศที่ แพรว wedding นำมาแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับนางแบบของเราครั้งนี้ มาจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย ภายใต้บรรยากาศอาคารแบบไทยประยุกต์ ณ วิลลา เดอ บัว ซึ่งตกแต่งในธีมโทนสีครีม-เขียว ได้รับอิทธิพลศิลปะต้นแบบมาจากสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผสมผสานเข้ากับสถาปตัยกรรมสไตลต์ะวันตก สามารถจัดงานแตง่งานได้ทั้งด้านในตัวอาคารและบริเวณสวนด้านนอก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตั้งแต่ลิฟท์สำหรับผู้สูงอายุตลอดจนห้องน้ำคนพิการ

เช้าที่ท้องฟ้าสดใสแสงแดดแรงจ้า สภาพอากาศบ่งบอกว่าวันนี้เราต้องได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน ทีมงานเริ่มสำรวจสถานที่กันแต่เช้าตรู่  ไม่นานนางเอกของงานนี้ก็ปรากฏตัวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สองมือยกขึ้นไหว้ทักทายทีมงาน อันแสดงถึงความเป็นกุลสตรีไทยสมคำาร่ำลือ ระหว่างรอนางแบบของเราแปลงโฉม ทีมงานก็ทำการบล็อกช็อตในจุดแรกบริเวณห้องจัดเลี้ยงที่โดดเด่นด้วยประตูขนาดใหญ่ตลอดแนวกำแพง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยและยุโรปผสานกันอย่างลงตัวสวยงามจนเราไม่พลาดที่จะเก็บช็อตสำคัญนี้ไว้

และเมื่อนางแบบของเราทรงเครื่องชุดไทยเต็มยศเป็นที่เรียบร้อย ภาพแรกของแอฟก็ทำเอาทีมงานถึงกับตกอยู่ในภวังค์ เพราะงดงามราวกับหลุดออกมาจากนางในวรรณคดีเลยทีเดียว ความงามของคุณแอฟไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริงๆ ทั้งชุดไทยสุดวิจิตรที่ตัดเย็บออกมาอย่างประณีต เมื่ออยู่บนตัวของนางแบบคนนี้แล้วคือความลงตัวเป็นที่สุด ส่วนการทำงานในกองก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้จะมีการย้ายโลเกชั่นไปตามจุดต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานที่ออกมาดูไปคนละทิศละทางกันเลย เพราะการตกแต่งของแต่ละบริเวณ และแต่ละห้องนั้นถูกออกแบบมาอย่างดีให้อยู่ในยุคสมัยเดียว แล้วใช้เทคนิคของสีสันเข้ามาปรุงเพิ่มให้ที่นี่ออกมาโดดเด่น โดยเฉพาะห้องแต่งตัวสำหรับบ่าว-สาวที่มาในโทนสีน้ำเงินเข้มตัดกับสีทองส่งให้ห้องนี้สวยงามแปลกตา ทั้งดูหรูหราและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ก่อนจะมาจบที่บริเวณด้านนอกอาคารเป็นโลเกชั่นสุดท้าย ซึ่งอยู่ในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์สาดแสงอ่อนๆ ส่องกระทบชุดไทยส่งให้ยิ่งดูงามระยิบระยับจับตา ตัวอาคารทรงคฤหาสน์ที่เป็นฉากหลังยิ่งเสริมให้นางแบบสวยสง่ามากขึ้น

เป็นอีกวันที่ทีมงาน ทีมดีไซเนอร์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และนางแบบคนสวยของเราตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานที่ได้ออกมาสวยงาม มีคุณภาพ ถูกใจผู้อ่านทุกท่าน รวมไปถึงคุณแก้ว ที่ใจดีเอื้อเฟื้อสถานที่สวยๆ อย่าง วิลลา เดอ บัว แถมคอยอำนวยความสะดวกให้กับทีม แพรว wedding ในครั้งนี้เป็นอย่างดี

ขอบคุณสถานที่ Villa de Bua
414 ถนนเทพรักษ์ (พหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช) เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
โทร. 08-1400-2226, 09-7091-5903
เว็บไซต์ : www.villadebua.com
เฟซบุ๊ก : villadebua
ไอจี : @Villadebua

ชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับชิ้นสำคัญ … ความลงตัวที่ต้องเข้ากัน

เลือก ชุดเจ้าสาว มาอย่างดี แต่ดันมาตกม้าตายเพราะเครื่องประดับ ก็ไม่เวิร์กจริงไหมคะ

การเลือกเครื่องประดับสำหรับใช้ในวันงานเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่ทำเอาเจ้าสาวผู้โชคดีทั้งหลายต้องกุมขมับ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีพื้นฐานทางด้านศิลปะหรือเซ้นส์เจ๋งๆ ที่จะแมทช์เพชรเม็ดงามให้เข้ากับ ชุดเจ้าสาว ที่เลือกไว้ แต่วันนี้ เราได้สรรหาเทคนิคง่ายๆ มาให้คุณลองใช้

งานแต่งงานของคุณเป็นแบบทางการหรือไม่ทางการ

เทคนิคแรกไม่ยากเกินเข้าใจ คุณควรพิจารณาก่อนว่างานแต่งงานของคุณเป็นแบบทางการหรือไม่ทางกา ทั้งนี้รวมถึงสถานที่และช่วงเวลาในการจัดงานด้วย เช่น หากเป็นงานเลี้ยงตอนกลางวันหรืองานในสวนที่ไม่เป็นทางการมากนัก สามารถเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบเรียบง่าย แต่หากเป็นงานเลี้ยงตอนกลางคืนที่เป็นทางการ เครื่องประดับก็ควรที่จะดูหรูหราและโดดเด่นมากกว่าปกติ

ชุดที่ใช้มีรายละเอียดในระดับไหน

ถ้ามีรายละเอียดมากอยู่แล้ว เครื่องประดับก็ ควรจะยิ่งเรียบและน้อยชิ้น แต่ถ้าชุดนั้นแสนเรียบ ไม่มีลวดลายใดๆ เครื่องประดับที่เลือก จะกลายเป็นนางเอกในทันที เพราะจะช่วยเสริมให้คุณดูโดดเด่นขึ้นมาได้

เลือกเครื่องประดับที่ไม่ล้าสมัยและใช้ได้หลายโอกาส

เพื่อที่ว่าคุณสามารถใช้ได้หลายโอกาส ยิ่งใช้ได้นานยิ่งดี หากมีฟังก์ชันปรับเปลี่ยนได้มากกว่าการใช้งานหนึ่งอย่างยิ่งดีมาก

Make it You

ไม่ว่าชุดเจ้าสาวนั้นจะเป็นอย่างไร หรือเครื่องประดับตรงหน้าจะเริดแค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใดคือความเป็น “ คุณ ” สำคัญที่สุด ฉะนั้นควรเลือกสวมใส่เครื่องประดับที่คุณรู้สึกมั่นใจ และแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของคุณจะดีที่สุด

นอกจากทฤษฎีง่ายๆ ที่ว่าไปแล้ว เพื่อความเข้าใจและเห็นภาพจริง เราขอเสนอ ตัวอย่างชุดแต่งงาน 4 แบบที่เจ้าสาวทั้งหลายนิยมสวมใส่กันมากที่สุด พร้อมเครื่องประดับเหมาะๆ ที่ขอบอกเลยว่า ก๊อปปี้ไปหามาใส่เลยดีกว่า

ชุดเจ้าสาวทรงหางปลา (Mermaid)

ภาพ : http://eatyourguitar.org

จับเดรปที่ช่วงบนคอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ จึงสามารถเลือกใช้เครื่องประดับได้ 2 แบบ คือ สร้อยคอสไตล์ตัว Y หรือสร้อยโช้กเกอร์แบบเรียบๆ แต่เนื่องจากชุดนี้มีรายละเอียดมากที่ชายกระโปรง จึงควรเลือกโช้กเกอร์เรียบๆ ให้ลุควินเทจ และเสริมช่วงคอขึ้นไป ให้ดูโดดเด่นด้วยต่างหูยาวระย้า

ชุดเจ้าสาวทรงตรง (Sheath)

คอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ เหมาะกับสร้อยคอสไตล์ตัว Y ดีไซน์เรียบๆ มีเพชรเรียงกันเป็นแถว เนื่องจากชุดมีระบายลูกไม้เป็นชั้นๆ ทั้งตัวอยู่แล้ว สร้อยที่รายละเอียดมากเกินไปจะแข่งกับชุด แต่ถ้างบประมาณจำกัด อาจใช้จี้อันใหญ่ร้อยกับริบบิ้นกำมะหยี่เส้นกว้างหรือผ้าลูกไม้ลายเข้าชุดก็ดูเก๋ไก๋ แถมยังนำมาใส่ในโอกาสอื่นๆ ได้ด้วย

ชุดเจ้าสาวสั้น

รูปแบบค่อนข้างเรียบ แต่ดีไซน์สมัยใหม่ เพิ่มความหวานด้วยลูกไม้ ชุดแบบนี้ดูไม่เป็นทางการมากนัก จึงเหมาะจะเป็นชุดหมั้นหรือสวมใส่ในงานเลี้ยงตอนกลางวัน ควรเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบเรียบง่าย เช่น ต่างหูแบบกลมติดหู หรือแบบห้อยห่วงกลมๆ ที่ถอดเปลี่ยนไปเป็นจี้ได้

ชุดเจ้าสาวเกาะอกยาว (Drop Waist)

หรือชุดเกาะอกฟูฟ่องสไตล์เจ้าหญิง (Princess) ควรเน้นโชว์เครื่องประดับช่วงหัวไหล่และคอมากกว่าส่วนอื่น เพราะว่าชุดมีความอลังการในตัว จึงควรเลือกเครื่อง-ประดับที่มีรายละเอียดและดูเยอะกว่าปกติสักหน่อย เช่น สร้อยคอระย้า ดีไซน์ผสมผสานเพชรหลายขนาดตลอดรอบคอ สร้อยข้อมือเพชร พร้อมต่างหูเข้าชุด

ปิดท้ายด้วยเทคนิคง่ายๆ อีกอย่างที่นอกจากจะใช้ได้กับชุดเจ้าสาวแล้ว ยังนำไปประยุกต์กับชุดทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ คือ การให้ คอเสื้อเป็นตัวกำหนด เพราะคอเสื้อจะเป็นตัวหลักสำคัญที่จะบอกว่าคุณควรสวมเครื่องประดับชิ้นไหน สไตล์ใด เช่น

คอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ

ควรเลือกสร้อยคอสไตล์ตัว Y เหมือนเสื้อคอวี เพราะมีลักษณะทรงเสื้อที่เว้าลง หรือจะเป็นการสวมโช้กเกอร์ติดคอ ให้ความรู้สึก เรียบ โก้ คลาสสิก แต่เวลาใส่จะต้องแนบสนิทพอดีกับช่วงกลางลำคอ ถ้าอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นสาวหวาน อาจเลือกเป็นโช้กเกอร์มุกสีขาวประดับเพชร นอกจากนี้คุณยังเลือกใส่เป็นจี้กับสร้อยคอเส้นบางก็ได้ นอกจากจะดูทันสมัยแล้วยังนำไปใช้ในโอกาสสำคัญอื่นๆ ได้

ชุดแบบเกาะอกหรือไร้สาย

ควรเลือกเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหู ยิ่งถ้าเป็นโช้กเกอร์หรือแผงคอแผ่นกว้างยิ่งเหมาะ เพราะสร้อยแบบนี้มีลักษณะสมมาตรและขนานไปกับชุด ให้ความรู้สึกหรูหรา เย้ายวนใจ แต่ควรเลือกให้แผงโช้กเกอร์อยู่กึ่งกลางคอพอดี และควรสั้นเหนือไหปลาร้า

ภาพเปิด : marlenadupellejewelry.com