รวม 8 ร้านเช่าเต็นท์ ที่บ่าวสาวจัดงานกลางแจ้งควรดูไว้

บ่าวสาวที่คิดจะจัดงานกลางแจ้ง คงต้องหา ร้านเช่าเต็นท์ เผื่อเอาไว้บ้าง อย่ามั่นใจกับอากาศของบ้านเรามากเกินไป เพราะว่าอากาศบ้านเรานั้นคงต้องยอมรับอย่างนึงว่า ช่างแปรปรวนซะเหลือเกิน คงจะไม่ดีแน่ๆ ถ้าแขกที่มาร่วมงาน ต้องตากแดดตัวไหม้เกรียมหรือต้องมาคอยวิ่งหลบฝน ถ้าไม่เตรียมพร้อมเอาไว้งานอาจจะกร่อยได้ง่ายๆ

ร้านเช่าเต็นท์ ที่แพรว wedding คัดมาให้ มีร้านอะไรบ้างมาดูกันเลย

1. วิคเตอร์ เต็นท์ เซอร์วิส

บริการให้เช่าอุปกรณ์จัดงานกว่า 100 รายการ มานานกว่า 7 ปี อุปกรณ์เน้นขาวสะอาด มีให้เลือกหลากหลายนอกจากเต็นท์แล้วยังมี ชุดโซฟา ชุดโต๊ะกลม เก้าอี้ พัดลม เวที พรม จอภาพ และอื่นๆอีกมากมาย

ร้านเช่าเต๊นท์

www.victor-services.com

Facebook : victorservice

Line ID : @victortent

Instragram : @victor_services

2. Bloomlives

บริการอุปกรณ์จัดงาน และประดับตกแต่งสถานที่ ประดับผ้า ดอกไม้ โต๊ะเก้าอี้ เวที บูธ รับตกแต่งสถานที่งานแต่งงาน งานพิธี  มีให้เลือกทั้งเต็นท์ติดแอร์และเต็นท์กลางแจ้ง  สามารถโทรปรึกษาได้ตลอด24ชั่วโมง

ร้านเช่าเต็นท์

ร้านเช่าเต็นท์

www.air-tent-rent.com

Facebook : bloomlives

Mobile : 09-0240-0216, 09-9451-6344

Tel. :  0-2378-0918, 0-2731-1726

3. Goodlooking

ให้เช่า เต็นท์และอุปกรณ์จัดงาน โครงสร้างเต็นท์แข็งแรง ทนทาน สวยงาม มีให้เลือกหลายขนาด หลายรูปแบบ จัดส่งตรงถึงหน้างาน แบบ DELIVERY

ร้านเช่าเต็นท์

goodlooking.co.th

Facebook : GoodlookingTent

Line : @good_looking

Mobile : 09-2716-6699

4. ส.สุวรรณ ผ้าใบ

ส.สุวรรณ ผ้าใบ ให้บริการ เต็นท์เช่า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เต็นท์ครบวงจร วัสดุที่ใช้ประกอบและติดตั้งทุกชิ้นมีคุณภาพสูง ทนทานสวยงาม และประณีต โดยช่างผู้มีประสบการณ์  มีให้เลือกมากมายทั้งแบบสำเร็จรูปและตามสั่ง เช่น เต็นท์ทรงโค้ง เต็นท์ทรงปิระมิด เต็นท์ทรงพลับพลา เต็นท์ติดแอร์ ฯลฯ มีการจัดส่งทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง และภาคตะวันออก

ร้านเช่าเต็นท์

เต็นท์ให้เช่า.com

Facebook : tentsorsuwan

Mobile : 08-6827-9367, 08-3905-5308

เพื่อนเจ้าสาวต้องมีกี่คน? กับความจริงที่แฝงอยู่ในจำนวนเพื่อนเจ้าสาว!

จำนวน เพื่อนเจ้าสาว บอกบุคลิกและไลฟ์สไตล์เจ้าสาวได้นะ!!

หลากหลายงานแต่งที่เราถูกเทียบเชิญให้ไปร่วมงาน ขอบอกเลยว่าบางงาน เพื่อนเจ้าสาว ก็เดินขบวนกันมาเป็นสิบ (30 คนก็เคยมี!!) หรือบางงานก็มีน้อยจนนึกว่าเพื่อนเจ้าสาวหายไปไหนหมด! แต่เชื่อหรือไม่ว่า จำนวนเพื่อนเจ้าสาว ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น เพราะยังมีนัยยะเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคุณแฝงอยู่ด้วยนะ มาเดี๋ยวแพรว wedding จะบอกให้!

1. มากกว่า 10 คน

เจ้าสาวคนไหนที่มีเพื่อนเจ้าสาวมากกว่า 10 คนขึ้นไป ขอสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า คุณจะต้องเป็นปาร์ตี้เกิร์ลตัวแม่ เป็นคนชอบเริงร่า ชอบงานสังสรรค์ และมักจะมีคติประจำใจว่า Work Hard Play Hard ซึ่งการที่คุณเลือกเพื่อนเจ้าสาวเยอะๆ ก็จะทำให้คุณดูโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนสาวมากมาย (แน่นอนว่าต้องเด่นอยู่แล้ว เพราะชุดคุณไม่เหมือนใคร) และสามารถสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับงานวิวาห์ได้เป็นอย่างดี แถมยังบ่งบอกได้อีกว่า คุณเป็นคนมีเสน่ห์แบบสุดๆ จนมิตรรักเพื่อนเลิฟคุณกันทุกคน ถึงได้ยอมสละเวลามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวเริดๆ เยอะแยะขนาดนี้

2. 7-9 คน

จำนวนประมาณนี้เราคิดว่ากำลังดีนะคะ อาจจะไม่เยอะเหมือนข้อแรก แต่ขอบอกว่าสำหรับคุณแล้วเพื่อนเจ้าสาวทุกคนคือ The Best เลยใช่ไหมล่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่สาวนักสังสรรค์ ออกปาร์ตี้บ้างเป็นครั้งเป็นคราวตามแต่โอกาส แต่ถ้าหากมีวันหยุดยาวๆ เมื่อไหร่ คุณจะต้องหาเวลานัดเกิร์ลแก๊งกลุ่มนี้ออกมาเจอกัน แล้วจับกลุ่มเม้าท์สนทนาตามประสาหญิงสาวแน่ๆ

3. 4-6 คน

จำนวนนี้ก็ยังไม่ถือว่าน้อยนะคะ ยังสามารถกั้นประตูเงินประตูทองได้อยู่นะ อิอิ! ซึ่งจำนวนนี้เนี่ยไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ชอบงานปาร์ตี้นะ จริงๆ แล้วคุณอาจจะชอบ แต่ว่าอยู่กับคนเยอะๆ นานๆ ไม่ค่อยได้ ติดจะชอบใช้เวลาอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนที่สนิทจริงๆ มากกว่า รวมถึงเพื่อนเจ้าสาวที่คุณเลือกก็มักจะเป็นคนใกล้ชิดเช่น พี่สาว น้องสาว หรือเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง

4. 1-3 คน

เห็นจำนวนเพื่อนเจ้าสาวน้อยอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีเพื่อนสนิทนะ แต่จริงๆ แล้วคุณอาจจะคิดว่า “ยิ่งคนมาก ปัญหาก็ยิ่งเยอะ” (รึเปล่า?) หรือมีเพื่อนสาวเยอะจนเกรงว่าถ้าไม่ได้เลือกใครอาจมีน้อยใจกันได้ สุดท้ายเลยตัดสินใจเลือกคนในครอบครัวอย่างพี่สาว น้องสาว แค่นี้พอ! รวมถึงคุณคงเป็นคนที่ไม่ชอบเที่ยวสถานที่หวือหวา แต่ชอบที่จะไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ อาร์ตแกลลอรี่ หรือขอไปดูหนังสวีทวี้ดวิ้วกับคนรักแบบสองต่อสอง แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว

5. ไม่มีเลย

เพื่อนเจ้าสาว 0 คน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีเพื่อนคบ หรือไม่คบใครเป็นเพื่อนนะจ๊ะ แต่จริงๆ แล้วงานวิวาห์ของคุณอาจจะเป็นงานเล็กๆ เรียบง่าย ไม่ใหญ่โตหวือหวา เลือกที่จะให้ความสำคัญกับว่าที่สามีข้างกาย และครอบครัว เพื่อนสนิทซะมากกว่า เรียกว่าคนไม่เยอะแต่อบอุ่นและมีคุณค่าทางจิตใจมากกก! ก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้ไม่มีปัญหาเพื่อนเจ้าสาวแย่งซีน

เจ้าสาวทั้งหลายอ่านแล้วรู้สึกว่ามันใช่เลย โป๊ะเชะกับตัวเองกันบ้างไหมคะ ตรงหรือไม่ตรงก็คอมเมนท์บอกกันได้ข้างล่างนี้เลยจ้า ส่วนแก๊งไหนที่สรุปจำนวนคนลงตัวแล้วก็มาต่อกันเรื่อง >>> 5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่สวยได้ทั้งงานกลางวันและงานยามค่ำคืน <<< คลิกเลย!

ข้อมูลจาก : www.brides.com
ภาพ : nouba.com.au

มัดรวมมาให้แล้ว…เช็กลิสต์จัดงานแต่ง ที่ว่าที่ทั้งหลายนำไปทำตามได้ไม่ยาก

เมื่อถึงเวลาต้องวางแผนจัดเตรียมงานแต่งงานก็ทำเอาว่าที่บ่าวสาวหลายคนหัวหมุน เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร แพรว wedding จึงขออาสาทำหน้าที่ผู้ช่วยจัดงานแต่งงานให้คุณแบบเอกซ์คลูซีฟด้วย เช็กลิสต์จัดงานแต่ง ที่จำเป็นต่อการเตรียมงาน เมื่อบ่าวสาวได้วันวันแต่งงาน  จำนวนแขกคร่าวๆ สถานที่ และแบ่งหน้าท่ีในการรับผิดชอบเรื่องต่างๆ  พร้อมกับเคลียร์ใจกับทางครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาต้องมาลงรายละเอียดในการเนรมิตงานแต่งกันแล้ว

1. แขกในงาน

  • ลิสต์รายชื่อแขกที่จะเชิญมาร่วมงานอย่างจริงจัง จะเชิญแขกงานเช้ากับงานเย็นแยกกันหรือไม่ รวมไปถึงนำลิสต์ รายชื่อแขกของพ่อแม่มารวมด้วย จะได้รู้ว่าจำนวนแขกทั้งหมดที่จะมางานของคุณมีจำนวนกี่คน
  • เผื่อจำนวนแขกจากจำนวนการด์เชิญไวด้วย เช่น ให้การ์ดไป 1 ใบ แต่แขกอาจจะพาคนรู้ใจหรือครอบครัวมาด้วย
  • ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตั้งอีเวนต์ผ่านทางเฟซบุ๊กแล้วให้เพื่อนๆ กดว่าจะไป ไม่ไป หรืออาจจะไป เพื่อจะนำมาคำานวณได้ถูก แต่วิธีนี้เหมาะสำาหรับเพื่อนๆ เท่านั้น เพราะแขกผู้ใหญ่นั้นการไปเชิญด้วยตัวเองดีที่สุด

2. งบประมาณที่ตั้งไว้

  • วางแผนว่าจะใช้จ่ายเงินเท่าไรในเรื่องใดบ้าง เช่น ค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าชุด ค่าตกแต่งงาน ฯลฯ
  • จัดลำดับความสำคัญในเรื่องการใช้จ่าย ว่าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องใดในงานแต่งที่สุด เช่น ดอกไม้ต้องอลัง หรืออาหารต้องอร่อย เพื่อจะได้เทงบให้กับเรื่องที่อยากให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ๆ
  • อย่าลืมแยกค่ามัดจำต่างๆ เอาไว้ด้วย และตั้งเดดไลน์ในการจองหรือมัดจำในเรื่องต่างๆ ให้รอบคอบ

3. สถานที่จัดงานแต่งงาน

  • เช็กเรื่องต่างๆ กับสถานที่ให้ดีก่อนที่จะจอง เช่น มีที่จอดรถพิเศษสำหรับแขกวีไอพีหรือไม่ ห้องพักหรือห้องเก็บตัวสำหรับบ่าวสาวและครอบครัว ห้องน้ำสะดวก และเพียงพอต่อจำนวนแขกหรือไม่ เป็นต้น
  • หากจัดงานแต่งงานต่างจังหวัด จะต้องจัดหาห้องพักสำหรับแขกผู้ใหญ่หรือแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวหรือไม่ หรือหากจัดงานที่กรุงเทพฯ แต่มีแขกจากต่างจังหวัดมา ต้องเตรียมห้องพักเพื่อรองรับด้วยหรือเปล่า
  • อย่าเพ่ิ่งจองสถานท่ี่หากคุณคิดจะใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพราะเหล่าเวดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพอาจจะสามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องสถานที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยเสนอไอเดียและช่วยแจ้งให้ทราบเรื่องสิทธิพิเศษต่างๆ หรือแม้กระทั่งส่วนลดที่ดีกว่า
  • หากบ่าว-สาวมีอาหารหรือเครื่องดื่มที่จะนำเข้าไปเพิ่มเติมเองในงานควรแจ้งทางสถานที่ให้รู้ล่วงหน้า และอย่าลืมสอบถามว่าต้องมีค่าใช้จ่ายสำาหรับการนำอาหารและเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้ามาหรือไม่ และควรแจ้งกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วยเพื่อช่วยในเรื่องของการจัดพื้นที่ในงาน

4. เวดดิ้งแพลนเนอร์

  • มองหาเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่ไว้ใจให้มาเนรมิตงานแต่ง
  • แจ้งธีมงานที่อยากได้ให้ชัดเจน พร้อมบอกงบประมาณที่มีแบบตรงไปตรงมา เพื่อที่ทางเวดดิ้งแพลนเนอร์จะได้ออกแบบงานแต่งให้อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้
  • แจ้งรูปแบบการจัดงานกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ให้ชัดเจนว่าจะเป็นงานเลี้ยงแบบค็อกเทล โต๊ะจีน หรือซิตดาวน์ ดินเนอร์ เพื่อจะได้จัดรูปแบบภายในงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตรงกับธีมที่บ่าว-สาวอยากได้
  • ให้ความเชื่อใจในความเป็นมืออาชีพว่าเขาจะทำทุกอย่างให้กับคุณได้ดีที่สุด และอดทนรอคำตอบในเรื่องต่างๆ เพราะอย่าลืมว่าเขาไม่ได้จัดงานแต่งให้คุณแค่คู่เดียว ที่สำคัญบ่าวสาวต้องให้ความเคารพในเวลาส่วนตัวของเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วย

5. ชุดแต่งงาน

  • วางแผนเรื่องชุดแต่งงานล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนถึงวันงาน เพราะอย่าลืมว่าต้องเผื่อเวลาไว้สำหรับ การแก้ไขชุดให้พอดีกับรูปร่างด้วย โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวที่มีรายละเอียดเยอะกว่าชุดเจ้าบ่าวมากเป็นพิเศษ
  • สำหรับชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว คุยกันให้ชัดเจนว่าจะปล่อยให้เพื่อนๆ จัดการตัวเองด้วยงบของพวกเขา หรือจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนไหนให้กับเพื่อนๆ ได้บ้าง
  • แนะนำให้รีบมองหารองเท้าแต่เนิ่นๆ อย่าลืมว่าลุคโดยรวมทั้งหมดของคุณจะต้องออกมาดูดี โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ใส่รองเท้าส้นสูง เพราะทางร้านจะได้นำความสูงของรองเท้ามาออกแบบความยาวของชุดแต่งงานให้พอดีกัน
  • มองหาเครื่องประดับอื่นๆ เช่น เฮดพีซ ต่างหู เวล โบไท หรือบูโทเนียร์ เป็นต้น
  • อย่าลืมแอ๊กเซสซอรี่ส์ของเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวด้วย เช่น ข้อมือหรือช่อดอกไม้เพื่อนเจ้าสาว และแอ๊กเซสซอรี่ส์สุดพิเศษที่แก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวอยากใส่ให้เข้ากัน

รวมร้านเช่า แบ็กดร็อปงานแต่ง งานดี ดีไซน์เก๋ และราคาประหยัด

แบ็กดร็อปงานแต่ง ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานแต่งงานพอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงธีมงาน และเป็นหน้าเป็นตาให้แก่บ่าวสาว ถ้าบ่าวสาวคู่ไหน อยากประหยัดค่าใช้จ่าย แนะนำว่าให้ใช้ร้านเช่าแบ็กดร็อปสวยๆ แทนการผลิตใหม่ แพรว wedding  ทำการรวบรวมร้านเช่า แบ็กดร็อปงานแต่ง ดีไซน์เก๋ มาให้แล้วค่ะ

Seethrough Wedding

บริการให้เช่าฉาก,  อุปกรณ์ตกแต่งงานแต่งงาน พร้อมออกแบบและสร้างงานแต่งงานให้ในรูปแบบเฉพาะ มีรูปแบบฉากให้เลือกหลากหลายแนว ทั้ง vintage,  retro, garden,  modern,  chic,  sweet วัสดุเป็น inkjet sticker เคลือบด้าน ไม่สะท้อนแสง งานเนี้ยบ สีสวยสด คมชัดเหมาะกับการถ่ายรูป และที่ร้านมีการเปลี่ยน inkjet sticker ใหม่เรื่อยๆ เพราะมีเครื่อง inkjet sticker เป็นของตัวเอง

โทร :  06-3326-3514, 08-1817-9881
เฟชบุ๊ค : Seethroughwedding

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

Idea Wedding

รับจัดงานแต่งงาน บริการให้เช่าพร๊อพงานแต่ง และอุปกรณ์ตกแต่งงานแต่งราคาประหยัด

โทร : ปลา 08-9045-5446 , แดน 09-0424-2441

ไลน์ :plazuzaipad, ladyzuzashop
เฟชบุ๊ค : Ideaweddingshop

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

Madarose Wedding Backdrop

รับจัดฉากและให้เช่าฉากแต่งงาน

ไลน์ : @ipr3268r

เฟชบุ๊ค :  MadaroseWeddingBackdrop

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

Proppiness

รับตกแต่งงานแต่งงาน ให้เช่าอุปกรณ์, ฉาก และพร็อพ โดยที่คุณสามารถเลือกแบบได้ตามต้องการ และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับธีมงานของคุณได้

โทร. : 08-5091-0741, 08-1696-9173

เว็บไซต์ : www.proppiness.com

แบ็กดร็อป

 

Tang Tung

สำหรับลูกค้าที่สนใจงานตกแต่งสถานที่สวยๆ ทั้งซุ้มทางเข้างาน, Photo Backdrop และประตูดอกไม้ประดับต่างๆ ที่นี่มีทีมให้บริการครบครันในราคาประหยัด

โทร : 08-3883-0180

Facebook  : TangTungDecorator

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

 Istein

งานแปลกแหวกแนวกับแบ็กดร็อปไม้ฉลุลาย ให้อารมณ์วินเทจเบาๆ

โทร. :  08-9897-3663

เว็บไซต์ : www.isteindecor.com

เฟชบุ๊ค : signdd

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

2B Wedding

ให้เช่าแบคดรอปราคาไม่แพง

โทร. : 08-1834-4245

ไลน์ : tee23085, 2bwedding, 2bweddingshop

เว็บไซต์ : www.2bwedding.com

แบ็กด็อปงานแต่งงาน

 

Bokeh Wedding Backdrop

บริการฉากเช่างานแต่งงาน ในรูปแบบโครงสร้างเก๋ๆ มีมิติดูแปลกตา พร้อมพร๊อพแบบจัดเต็ม

โทร : 08-6507-7070

ไลน์ : bokeh.non, nonny.manu

เฟชบุ๊ค : bokehbackdrop

แบ็กดร็อปงานแต่งงาน

 

Elite Professional

บริการให้เช่าแบร็กดร็อป งานละเอียดสวยหรูดูแพง แต่ราคาไม่แรงอย่างที่คิด

โทร : 06-2515-6416, 09-6298-9829
ไลน์ : eliteproplanner , muwhan

เฟชบุ๊ค : eliteproplanner

แบ็กดร็อป

4 ร้าน รองเท้าเจ้าสาวสั่งตัด ในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นเพียงหลัก 1,000 เท่านั้น

รองเท้าเจ้าสาวสั่งตัด เพื่อเสริมความมั่นใจให้เจ้าสาวงดงามทุกย่างก้าว

เพราะรองเท้าที่ดีไม่เพียงแต่ต้องสวยและเหมาะกับชุดแต่งงานเท่านั้น แต่ต้องเข้ากับรูปเท้าและเดินได้อย่างสบายด้วย รองเท้าเจ้าสาวสั่งตัด จึงเป็นอีกหนึ่งดีเทลที่เจ้าสาวควรให้ความสำคัญ แม้ว่าหลายๆ คนอาจคิดว่าการสั่งตัดรองเท้าเฉพาะของตนจะมีรายจ่ายมากขึ้น แต่ แพรว wedding ได้รวบรวมร้านรองเท้าสั่งตัด ที่ราคาเริ่มต้นเพียงหลักพันมาฝาก เพื่อเป็นทางเลือกให้เจ้าสาวได้มีโอกาสนำแบบรองเท้าในฝัน มาดีไซน์ให้เป็นรองเท้าคู่สวยในวันสำคัญเพื่อเสริมบุคลิกให้โดดเด่นในวันวิวาห์

Areethan

รองเท้าสั่งตัดในแบบของคุณเอง เพิ่มความอ่อนหวานและเซ็กซี่จากดีไซน์ของทางร้าน มีทั้งบริการรองเท้าสั่งตัดและพร้อมจำหน่ายที่หน้าร้านด้วย โดยเจ้าสาวสามารถเลือกแบบสั่งตัด เพื่อให้ได้แบบที่ชื่นชอบ เลือกความสูงและสีที่ต้องการ เพราะรองเท้านั้นต้องสวมใส่เหมาะสมพอดีกับเท้า และเดินได้คล่องตัวอย่างมั่นใจ

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 3,200 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 20 วัน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 081-2619114 หรือเฟซบุ๊ก: Areethan Shoes

CNK SHOP

ด้วยการใช้วัตถุดิบชั้นดีที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน เพื่อผลิตรองเท้าและงานสั่งตัดที่เต็มไปด้วยความเรียบหรู กับรองเท้าประดับผ้าลูกไม้ ให้เจ้าสาวสง่างามทุกย่างก้าว พร้อมทั้งสามารถนำผ้าที่ใช้ตัดเย็บชุดเจ้าสาวมาใช้เพื่อตัดรองเท้าให้เข้ากับชุดได้ แถมที่ร้านก็มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เจ้าสาวได้เลือกแบบรองเท้าในฝันตามแบบของตน

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 1,690 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 15 วัน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 081-2747887 หรือเฟซบุ๊ก: CNK SHOP

THAT JRP

เสริมความมั่นใจด้วยสไตล์หรูหราและความระยิบระยับจากดีไซน์ของทางร้านกับ รองเท้าคลาสสิกแบบ Stella, Gala และ Dorothy ผสมผสานกับตัวตนของเจ้าสาวเพื่อรองเท้าเจ้าสาวสั่งตัดที่คู่ควรกับคุณ โดยเจ้าสาวสามารถสั่งได้ทั้งแบบส้น สี หรือวัสดุที่ใช้ได้ ซึ่งทางร้านมีผ้าและหนังให้เลือกมากกว่า 30 สี รวมไปถึงการนำผ้าลูกไม้มาให้ตัดเพื่อให้เข้ากับชุดเจ้าสาวด้วย

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 3,480 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 10-15 วัน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 098-6353651 หรือเฟซบุ๊ก: THAT JRP

Descendantshoes

โดดเด่นด้วยความคลาสสิก เงางามของรองเท้า และความประณีตที่มาพร้อมดีไซน์รองเท้าให้เจ้าสาวสวยและดูแตกต่าง เช่น รองเท้าทรงหัวแหลม และทางร้านยังมีแบบรองเท้า เฉดสี หนัง ผ้าลูกไม้ และคริสตัลที่หลากหลายเพื่อให้เข้ากับชุดเจ้าสาว นอกจากนี้ความพิเศษของทางร้านคือการดีไซน์รองเท้าสำหรับเจ้าสาวที่มีปัญหาเรื่องรูปเท้าได้อย่างตรงจุด และสามารถรีเควสความสูงของรองเท้าให้กับเจ้าสาวตัวเล็กที่ต้องการเพิ่มความสูงได้เช่นกัน

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 3,590 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 1 เดือน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 081-8542528 หรือเฟซบุ๊ก: Descendantshoes

รู้ไว้ก่อนกับ เคล็ดลับตัดรองเท้าแต่งงานยังไงให้ได้ดั่งใจ แถมใส่สบายในวันวิวาห์

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Areethan/ CNK SHOP/ THAT JRP/ Descendantshoes

ภาพเปิดจาก Unsplash

5 เหตุผลที่เจ้าสาวควรเลือก ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว เป็นชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว ที่ถ่ายทอดความงดงามของเจ้าสาวมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

เพราะ ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว เต็มไปด้วยความงดงาม มีเพิ่มเสน่ห์ และเสริมบุคลิกให้เจ้าสาว แพรว wedding เลยขน ชุดแต่งงานแขนยาวคอกลมหรือคอปาด มาฝาก แบบหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเซ็กซี่ หรือน่ารัก ที่สามารถถ่ายทอดออร่าความสง่าและดูแพงให้กับเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณกังวลที่จะเลือกชุดแต่งงานลายลูกไม้ในวันแต่งงานอยู่ เราขอให้ช้าก่อน เพราะเรามีข้อดีของชุดแต่งงานสไตล์นี้มาฝาก

1. เพราะดีเทลของชุดแต่งงาน

ดีไซน์เนอร์ต้องอาศัยความละเอียดและประณีตในการตัดเย็บ และปักลวดลายลูกไม้ต่างๆ อย่างประณีต เพราะลายลูกไม้คือจุดเด่นของชุดที่มองไกลๆ แต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงชุดที่เต็มไปด้วยความมีสง่าราศี โดยไม่ว่าจะทักทอด้วยลายลูกไม่อย่างเดียว หรือประดับคริสตัลเพื่อเพิ่มความระยิบระยับให้ชุดด้วยก็ตาม ซึ่งงานลักษณะนี้ดีไซน์เนอร์ที่ออกแบบชุดแต่งงานจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะและประสบการณ์มากๆ จึงเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

 

2. เพราะสไตล์ของชุดแต่งงาน

เหล่าดีไซน์เนอร์มักจะออกแบบชุดแต่งงานประดับลูกในหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะใช้ผ้าลูกไม้ทึบตลอดช่วงตัว หรือจะเพิ่มความเซ็กซี่ให้เจ้าสาวด้วยผ้าโปร่งประดับลูกไม้ในช่วงเนินอกและแขน ที่ดูอ่อนโยนและมีความเซ็กซี่ในขณะเดียวกัน พร้อมช่วงเนคไลน์ทั้งแบบคอกลม หรือคอปาด ที่ช่วยเน้นให้ช่วงไหล่ของเจ้าดูดีและโดดเด่น

นอกจากนี้ลวดลายลูกไม้ยังสามารถออกแบบได้อย่างไม่ตายตัว ซึ่งส่วนมากก็ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติรอบตัว เช่น ใบไม้ ดอกไม้ พฤกษาต่างๆ เป็นต้น เรียกได้ว่าเหมาะกับเจ้าสาวสายหวานสุดๆ 

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

3. เพราะความคลาสสิกของชุดแต่งงาน

เป็นที่รู้กันว่าชุดแต่งงานจะถ่ายทอดความงดงามของผู้หญิง และสะท้อนบุคลิกของแต่ละคน โดยเฉพาะชุดแต่งงานลายลูกไม้ ที่ไม่ได้เน้นความหวือหวา แต่กลับเป็นชุดแต่งงานที่มีความคลาสสิกที่สะกดสายตาอยู่เสมอ เช่น การตัดเย็บผ้าลูกไม้ในช่วงบนให้ดูเข้ารูป แมตช์กับกระโปรงทรงเอไลน์ที่มีความพลิ้วไหว เพื่อเสริมบุคลิกให้เจ้าสาวดูสูงสง่า

ซึ่งลุคนี้เป็นชุดแต่งงานที่มักได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เพราะหากย้อนกลับไปดูชุดแต่งงานในยุคแรกๆ แฟชั่นชุดแต่งงานที่ได้รับความนิยมก็มักจะเป็นชุดแต่งงานแขนยาวแบบนี้แหละ เพราะฉะนั้นเจ้าสาวที่อยากได้ลุคคลาสสิคที่ดูดีอยู่เสมอต้องไม่พลาด

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

4. เพราะความระยิบระยับและประณีตตลอดทั้งชุดแต่งงาน

ผ้าลูกไม้นิยมนำมาใช้กับชุดแต่งงาน เพราะมีความอ่อนช้อยและความประณีตของลวดลาย สะท้อนถึงความอ่อนโยนของผู้หญิง ดังนั้น การตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้ตลอดทั้งชุด จึงไม่ได้ทำให้ชุดดูเยอะแต่กลับทำให้ชุดดูแพง เดิมลวดลายลูกไม้มักจะมีความบางเบา เพื่อเสริมความสมดุลให้ลุคเจ้าสาวดูอ่อนหวาน และมีเสน่ห์เย้ายวน ซึ่งเมคอัพที่เหมาะกับชุดแต่งงานแบบนี้คือ เมคอัพแบบธรรมชาติ และทรงผมเรียบๆ ไม่ว่าจะปล่อยผมหรือเกล้าผมเปิดหน้า แต่ความมีออร่ายังอยู่ครบ

5. เพราะการครีเอทในแบบใหม่ๆ

เปลี่ยนชุดแต่งงานทรงเอไลน์แบบเดิม ด้วยการครีเอทในแบบสมัยใหม่ ด้วยการเล่นเลเยอร์ซ้อนทับด้วยผ้าทูลโปร่งบางในสไตล์แบบเมอร์เมด เพื่อให้ชุดผสมผสานทั้งความคลาสสิกและโมเดิร์น จากเช่น ชุดที่เน้นการประดับคริสตัลบนลวดลายผ้าลูกไม้สีนู้ด ที่ถึงแม้จะดูเรียบๆ แต่กลับหรูหรา สง่างามสุดๆ

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

 

มาชมกันต่อกับดีไซน์ในปัจจุบันที่เราอยากแนะนำจาก 5 แบรนด์ใน ชุดแต่งงานลายลูกไม้ พร้อมความบางเบาและเรียบหรูในเทรนด์ปี 2019

ภาพจาก Pinterest

5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่สวยได้ทั้งงานกลางวันและงานยามค่ำคืน

แก๊งสุดล้ำนำสมัย ก็เลือก 1 ใน 5 สไตล์นี้ไปใส่ได้แน่นอน

ปัจจุบัน สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาว มีให้เลือกมากมายจนทำเอาบรรดาเพื่อนเจ้าสาวปวดหัวไม่แพ้กับเจ้าสาวเลย แพรว wedding เลยรวบ 5 สไตล์สุดฮิตที่เหมาะกับว่าที่เพื่อนเจ้าสาวในสไตล์ต่างๆ มาฝาก จะแก๊งหวาน แก๊งเปรี้ยว หรือแก๊งสุดล้ำนำสมัย ก็เลือก 1 ใน 5 สไตล์นี้ไปใส่ได้แน่นอน

เฉดสีชมพู Nostalgic Pink

เฉดสีสุดฮิตสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวสายหวานคงหนีไม่พ้นเฉดสีโรแมนติกสุดเฟมินีนอย่างสีชมพู โดยเฉพาะเฉดสี “Nostalgia Pink” ที่อยู่ในเฉดสีชมพูบลัชที่เป็นที่นิยมในปีนี้ ซึ่งจะมีความหม่นกว่าสีชมพูนิดๆ และค่อนไปทางเฉดสีอมม่วงหน่อยๆ ซึ่งถือเป็นเฉดสีชมพูที่เหมาะกับสาวๆ ทุกสีผิว และชุดเฉดสีนี้ยังสามารถแมตช์กับเครื่องประดับสีไหนก็รอดอีกด้วย โดยเฉพาะเครื่องประดับในเฉดสี jewel tone บอกเลยว่าถ้านำมาป๊ะกันแล้ว เริดมาก

ชุดแบบไหล่เดี่ยว

เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ที่ฮิตติดลมบนมาตั้งแต่ปี 2000 จนถึงกระทั่งตอนนี้ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ แถมชุดสไตล์นี้ยังสามารถครีเอทช่วงไหล่ได้อย่างหลากหลาย ไมว่าจะเป็น สายแบบเนื้อผ้าธรรมดาที่เป็นส่วนหนึ่งของชุด หรือจะดีไซน์ให้เป็นแบบผูกเป็นโบก็ได้ลุคที่ดูเป็นสาวหวานน่ารักขึ้นมาทันที แถมชุดสไตล์นี้ยังช่วยพรางรูปร่างของสาวที่มีช่วงไหล่กว้างได้ดีอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างรูปร่างของสาวๆ ให้ดูมีช่วงเอว และเน้นช่วงสะโพกให้ดูเป็นหุ่นนาฬิกาทราย หุ่นในฝันของสาวๆ หลายคนได้ด้วยนะ

ชุดเดรสแบบพลิ้วไหว

ชุดเดรสสไตล์นี้เน้นความบางเบาของเนื้อผ้าเป็นหลัก แต่ในเรื่องดีไซน์บอกเลยว่าสามารถครีเอทได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบไหล่เดี่ยว แบบเกาะอก หรือแบบแขนยาว แต่ที่สำคัญที่จะทำให้ชุดสไตล์นี้โดดเด่นคือ การเล่นเลเยอร์กับชุด เพราะจะยิ่งเน้นให้ชุดดูหวานและมีความพลิ้วไหวมากขึ้น ซึ่งชุดสไตล์นี้บอกเลยว่าเหมาะมากกับงานแต่งงานในสวน หรืองานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์

ชุดแบบสองชิ้น

สำหรับสาวๆ ที่มองหาความคุ้มค่าต้องไม่พลาดกับชุดสไตล์นี้ แถมเป็นชุดที่ไม่ได้รับความนิยมแค่เฉพาะในหมู่เพื่อนเจ้าสาวเท่านั้นนะ แต่บรรดาว่าที่เจ้าสาวก็หันมาสวมชุดสไตล์นี้กันเยอะขึ้น เพราะสามารถครีเอทลุคได้หลากหลาย แถมเสร็จจากงานนี้ยังสามารถนำทั้งชิ้นบนและชิ้นล่างไปแมตช์กับเสื้อผ้าตัวอื่นๆ จนได้เป็นชุดใหม่อีก 1 ชุด ซึ่งชุดแบบสองชิ้นนี้บรรดาสาวๆ อาจจะใส่เหมือนกันแบบยกแก๊ง หรือจะครีเอทสไตล์ใครสไตล์มันเพื่อให้เหมาะกับรูปร่างของตัวเองก็ยังสวยได้ แถมยังสามารถสร้างลูกเล่นกับการเปลี่ยนท่อนบน หรือสลับท่อนล่างในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้อีกด้วย

ชุดเดรสผ่าหน้าโชว์ความเซ็กซี่

สาวๆ ที่อยากใส่เดรสยาว แต่อีกใจก็อยากอวดความเซ็กซี่นิดๆ ต้องไม่พลาดกับชุดเดรสสไตล์นี้ ที่สามารถเผยช่วงขาเรียวยาว พร้อมรองเท้าคู่สวยได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้สาวๆ เคลื่อนไหว ยืน เดิน หรือนั่งได้สะดวกอีกด้วย

ติดตามไอเดียชุดเพื่อนเจ้าสาวดีๆ อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ stylemepretty.com, pinterest, shoprevelry.com

4 กฎเป๊ะเวอร์ให้สาวๆ เลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวให้สวยว้าวแบบเข้ากัน

พูดถึงชุดเจ้าสาวมาก็เยอะ วันนี้ขอเอาใจแก๊งเพื่อนเจ้าสาวกันบ้าง เพราะปัญหาส่วนใหญ่ที่เราได้ประสบพบเจอมาก็คือ ชุดเพื่อนเจ้าสาว ที่บางคนสั้น บางคนยาว สีเดียวกันแต่ดันเป็นคนละเฉด สรุปคือดูไม่เข้ากันสักอย่าง ก็เข้าใจนะคะว่าไม่อยากใส่ชุดแบบเดียวกันให้มันดูเชย ถ้าอย่างนั้นลองมาดูเคล็ดลับการเลือกชุดสำหรับเพื่อนเจ้าสาวที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเป๊ะ แต่รับรองว่ามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวงานเดียวกันแน่นอน

1. “ยาว” หรือ “สั้น” เลือกให้เหมือนกันหน่อย

ก่อนที่จะไปกำหนดดีเทลอื่นๆ ขอให้ตัดสินใจให้ได้ก่อนว่าจะใส่ชุดยาวหรือชุดสั้น แล้วความยาวต้องอยู่ระดับไหน จะเหนือเข่า คลุมเข่า หรือยาวลากพื้นก็แล้วแต่สาวๆ จะเลือก เพราะเวลายืนเรียงหน้ากระดานถ่ายรูปจะได้ไม่ดูเป็น “ผ้า” สลับ “ขา” แบบนี้มันตลกนะจะบอกให้!

2. เลือก “สี” ให้เข้ากัน

ต่อมาเป็นเรื่องโทนสีของชุดสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาว ถ้าจะให้ง่ายก็ควรเลือกให้เข้ากับธีมของงาน เจ้าสาวอาจเป็นคนกำหนดก็ได้ว่าอยากจะให้เหล่าเพื่อนรักใส่ชุดสีอะไร เวลาเลือกผ้าควรจะเป็นช่วงกลางวันเพื่อที่สีจะได้ไม่เพี้ยน และที่สำคัญ “ต้องไปเลือกด้วยกัน” (กาดอกจันไว้แรงๆ ) อย่าปล่อยให้ต่างคนต่างเลือกเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะได้ชุดสีน้ำเงิน แต่เป็นคนหนึ่งสีน้ำเงินเข้ม อีกคนสีน้ำเงินกรมท่า ส่วนอีกคนสีน้ำเงินอ่อน เรียกได้ว่ามาทุกเฉด แถมอีกนิดว่าถ้าใช้ผ้าม้วนเดียวกันได้ยิ่งดี ปัญหาชุดเพื่อนเจ้าสาวไล่สีจะได้ไม่มีในงานแต่งของคุณ

3. แตกต่างได้แต่อย่าเยอะ!

เข้าใจค่ะว่ามากคนก็มากความ คนนั้นไม่ใส่เกาะอก คนนี้ไม่เอาแขนกุด ส่วนอีกคนใส่สีนี้ไม่เข้ากับผิว โอ๊ย! เรื่องเยอะไม่มีวันจบ เอาเป็นว่าใครอยากใส่ชุดแบบไหนก็จัดไปค่ะ จะคอวี คอปาด เกาะอก หรือเกาะไหล่ก็ย่อมได้ ขอให้สีเหมือนกันเป็นพอ ส่วนใครที่ตัดสินใจใส่ชุดคนละสี ก็ขอให้แบบชุดใกล้เคียงกันเข้าไว้ และอย่าลืมเลือกความยาวให้เท่ากันด้วย (อันนี้สำคัญ) จะได้ไม่สับสนว่าคุณเป็นเพื่อนเจ้าสาวหรือว่าเป็นแค่แขกที่มารวมงานกันแน่!

4. เจ้าสาวต้องมาคุม

เข้าใจนะคะว่าเจ้าสาวหลายๆ คนอยากให้แก๊งเพื่อนรักมีความสุขกับการเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาว แต่อย่าลืมว่านี่คืองานแต่งของคุณ เพราะฉะนั้นแนะนำให้คุณเป็นผู้ควบคุมสถานการณ์ อย่าปล่อยให้พวกหล่อนต้องตัดสินใจกันเอง บอกไปเลยว่างานแต่งคุณมีธีมอย่างไร อยากให้ชุดเพื่อนเจ้าสาวเป็นสีอะไร ส่วนเรื่องชุดจะเป็นแบบไหนก็ให้อิสระพวกเขาตัดสินใจกันเอง โดยที่คุณต้องคอยดูแลไม่ให้มันหลุดคอนเซ็ปต์หรือต่างกันจนเกินไปด้วยนะ

สุดท้ายนี้ก็ขอฝากไปถึงเจ้าสาวและเหล่าเพื่อนเจ้าสาวทุกคนให้จำไว้ว่า เลือกสี เลือกไซส์ เลือกสไตล์ที่คุณชอบ (ต้องเข้ากับธีมงานด้วยนะ) และที่สำคัญเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันไม่มีใครแปลกแยกแตกต่าง ควรท่องไว้ในใจเสมอว่า “WE ARE TEAM” ขอให้มีความสุขกับการเลือกชุดเพื่อนเจ้าสาวนะจ๊ะทุกคน

ดูไอเดียและคำแนะนำเกี่ยวกับชุดเพื่อนเจ้าสาวเพิ่มเติม คลิกเลย!

ข้อมูล : www.brides.com
ภาพ : Box’s Wedding

7 ไอเท็มเด็ดช่วยเนรมิต งานแต่งสีพาสเทล ให้กิ๊บเก๋ยิ่งขึ้น

งานแต่งสีพาสเทล ไม่ว่าจะปีไหนธีมนี้ก็ไม่เคยตกเทรนด์ แถมยังดูทันสมัยให้อารมณ์อ่อนหวานเข้ากับงานแต่งงานเป็นที่สุด แถมยังทำให้การจัดตกแต่งสถานที่เป็นเรื่องไม่ยากอย่างที่คิดด้วยโทนสีที่อ่อนหวานหาได้ง่าย และช่วยให้บ่าวสาวได้จุดประกายไอเดียด้วยการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ได้อย่างมากมาย แต่จะมีชิ้นไหนเด็ดๆ ให้บ่าวสาวได้เลือกหยิบมาใช้ได้บ้างนั้นต้องตามมาดูกันค่ะ

งานแต่งสีพาสเทล

ลูกโป่ง 

ไม่ว่างานฉลองไหนๆ ลูกโป่งถือเป็นไอเทมสำคัญที่จะช่วยให้งานฉลองดูน่ารักกุ๊กกิ๊กและดูไม่เป็นทางการจนเกินไป อย่างเช่น การนำลูกโป่งอัดก๊าซมามัดรวมกันหลายๆ ลูกแล้วนำไปวางตามจุดต่างๆ หรือถ้าสถานที่เป็นห้องที่มีเพดานไม่สูงมากการปล่อยลูกโป่งให้ลอยติดเพดานก็เก๋ไปอีกแบบ

ผ้า

ไม่ว่าจะเป็นผ้าปูโต๊ะ ผ้าคลุมเก้าอีก ผ้าม่าน ผ้ารองจาน หากนำมาใช้ตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีขาวภายในงานก็ทำให้ดูมีลูกเล่นขึ้นมาในทันที

งานแต่งสีพาสเทล

เค้ก

ฉีกกฎเค้กแต่งงานแบบเดิมๆ แล้วมาเพิ่มสีสันของงานแต่งงานของบ่าวสาวให้ดูโดดเด่นด้วยเค้กสีพาสเทลที่ยิ่งดูยิ่งหวานแถมน่ารักซะจนไม่กล้ากิน จะเค้กก้อนโต เค้กกอนเล็ก หรือจะเป็นคัพเค้กน่ารักๆ ก็ช่วยสร้างสีสันให้กับงานแต่งได้เหมือนกัน

งานแต่งสีพาสเทล

โคมไฟ  

หรือที่ครอบหลอดไฟรูปทรงกลมหลายขนาดทั้งเล็กใหญ่รวมกัน แล้วนำมาประดับแทนหลอดไฟธรรมดาเท่านี้ก็ทำให้งานดูมีสีสันมากขึ้นแล้ว

งานแต่งสีพาสเทล

ริบบิ้น

เป็นได้มากกว่าเครื่องประดับที่ผูกข้อมือแก๊งเพื่อนเจ้าสาว เพราะสามารถนำมาทำซุ้มทางเข้างานให้ออกมาในสไตล์วินเทจ หรือจะจับคู่ใช้เป็นพร็อพผูกตกแต่งเก้าอี้ในงานก็ยังได้

งานแต่งสีพาสเทล

เทียนหอม

กลิ่นของเทียนหอมเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อ ควรเลือกกลิ่นอ่อนๆ ที่เข้ากับบรรยากาศและควรมีเพียงกลิ่นเดียว โดยสามารถเลือกนำมาวางตกแต่งไว้ในแก้วรูปทรงต่างๆ ตะเกียง หรือขวดโหลประดับกับดอกไม้ก็ช่วยให้งานสดชื่นไม่น้อย

งานแต่งสีพาสเทล

ดอกไม้

สิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานแต่งงานเห็นทีคงจะเป็นดอกไม้นี่แหละค่ะ และสีเบสิคที่นิยมใช้กันคือสีขาวและสีชมพู แต่ปัจจุบันนั้นดอกไม้สีพาสเทลก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะมีสีสันเข้ากับบรรยากาศของงานแต่งงานถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงก็ตาม เพราะฉะนั้นหากบ่าวสาวอยากให้งานแต่งงานสวยหวานก็อย่าลืมเผื่องบประมาณส่วนนี้เอาไว้ด้วยนะคะ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ภาพ : winecountryfloral.com, thepartyballooncompany.com, bridalmusings.com,
prettywittycakes.co.uk, southboundbride.com, brit.co, pinterest.com, arabiaweddings.com

เมื่อวันฤกษ์ดีบ่าวสาวดันไม่ว่าง ก็หาฤกษ์แต่งงานด้วยตัวเองก็ได้

คู่รักหลายคู่พอตัดสินใจตกล่องปล่องชิ้นกันแล้ว สิ่งแรกที่จะทำก็คือ ไปบอกคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายว่าจะแต่งกันแล้วนะ แน่นอนว่าปฏิกิริยาแรกของผู้ใหญ่สไตล์ไทยบ้านเราก็ต้องพูดขึ้นว่า “ไปดูฤกษ์หรือยัง” เอ้า! ผู้ใหญ่ว่าไงเด็กก็ว่าตามกันถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปจัดการ หาฤกษ์แต่งงาน สินะ

แต่เรื่องมันมาโป๊ะก็ตรงที่ว่า ฤกษ์ที่ได้มามันช่างไม่สะดวกและติดขัดไปเสียทั้งหมด ทั้งตรงกับวันธรรมดา แขกมาไม่ได้ ติดงาน ติดประชุม และอื่นๆ อีกมากมาย เอาน่า! อย่าเพิ่งท้อใจไป ปีหนึ่งมี 365 วัน มันต้องมีวันที่แต่งได้บ้างแหละ และถ้าครอบครัวของคุณเปิดไฟเขียว เรามีทางเลือกในการ หาฤกษ์แต่งงาน ให้ตัวเองมาฝากกัน

1. เอาเลข 9 เป็นหลัก

เราก็ไม่อยากจะขัดความเชื่อแบบไทยๆ นะคะ เพราะฉะนั้นก็ลองเอาใจผู้ใหญ่ด้วยการเลือกเลข 9 แล้วก็ปลอบใจตัวเองว่า “ครอบครัวของเราจะได้ก้าวหน้า” แบบนี้เขาก็ฮิตทำกันนะ ทีนี้มาลองคิดูสิว่า 1 ปี มี 12 เดือน และในแต่ละเดือนก็มีวันที่ลงท้ายด้วยเลข 9 จำนวน 3 วัน เพราะฉะนั้นใน 1 ปีมีวันเลข 9 ที่คุณจะเลือกจัดงานได้ถึง 36 วันเชียวนะ

สำหรับใครที่ดูแล้วดูอีกว่าวันเลข 9 ที่บอกไปยังไม่ตรงกับใจที่อยากได้ เพราะส่วนใหญ่เป็นวันธรรมดา ไม่มีแขกมาแน่ๆ ก็ลองใช้ทักษะทางคณิตศาสตร์ดูว่าวันไหนที่บวกกันแล้วได้เลข 9 บ้าง อย่างนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้แก้ปัญหาได้เหมือนกัน รวมถึงฤกษ์เวลาในวันงานด้วยนะ เช่น 9 โมง 9 นาที  , 9 โมง 36 นาที , 9 โมง 45 นาที แบบนี้คนเขาก็ฮิตแต่งกัน

2. ฤกษ์สะดวก

ฤกษ์นี้แหละค่ะที่บ่าวสาวยุคใหม่เขาชอบกัน ด้วยถือความสะดวกของตัวเอง คนในครอบครัว และเพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งหลายที่จะสามารถมารวมแสดงความยินดีกันได้อย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วฤกษ์สะดวกก็จะเป็นช่วงวันหยุดทั้งหลาย เช่น เสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ บางคนก็อาจจะเลือกวันที่ตัวเองสะดวก บวกกับการกำหนดเวลาแบบลงท้ายด้วยเลข 9 ซึ่งก็มีคู่ชีวิตหลายคู่ออกมาการันตีกันแล้วว่า แต่งงานกันโดยเลือกฤกษ์สะดวก ชีวิตรักก็แข็งแรงดี ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

พระพุทธองค์ท่านเคยตรัสไว้ว่า “ประโยชน์ล่วงเลยคนเขลาผู้มัวถือฤกษ์อยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดาวทั้งหลายจะทำอะไรได้” เพราะฉะนั้นหากคุณคิดจะทำงานมงคล ทำความดี ทำสิ่งดีให้กับชีวิต ไม่ว่าจะทำเวลาใดก็ให้เห็นแก่ประโยชน์นั้นไว้ หากว่าฤกษ์ดีตามที่หมอดูหมอเดาบอกทำให้คุณต้องลำบาก เสียงานเสียการ ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงไม่สามารถมายินดีกับงานมงคลได้ ก็จงเลือกวันที่คุณสะดวกและเกิดประโยชน์แก่ชีวิตจะดีกว่า

ดูเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องงานแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : prweb.com

8 เรื่องนี้บ่าวสาวต้องเช็คก่อนตัดสินใจเลือกแคทเทอริ่งงานแต่ง

หลายคนมักคิดว่าถ้าเป็นเรื่องอาหารก็ต้องเน้นกันที่รสชาติอร่อยถูกปากคนกิน เราก็ไม่เถียงนะคะว่านั่นก็ถูกต้อง แต่คุณก็ควรจะรู้ไว้ด้วยว่า นอกจากอาหารจะต้องอร่อยแล้ว เรื่องอื่นๆ อย่างเช่น ความหลากหลายของเมนูอาหาร การตกแต่ง และการบริการก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นก่อนจะตัดสินใจเลือก แคทเทอริ่งงานแต่ง และเมนูอาหารต่างๆ ควรจะพิจารณาตามนี้กันซะก่อน

1. ความหลากหลายของเมนูอาหาร

bridebox

จัดงานแต่งหนึ่งครั้งจะให้แขกกินแต่ข้าวผัด ต้มยำ แตงโม สัปปะรด แบบนี้ก็คงผิด! เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะเลือกจัดโต๊ะจีน บุฟเฟต์ ค็อกเทล หรือซิทดาวน์ดินเนอร์ ควรจะสอบถามและดูให้ดีๆ ว่าแคทเธอริ่งนั้นๆ มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลายหรือไม่ ถ้าเป็นแพ็กเกจก็ลองคิดคำนวณดูซิว่าแพ็กเกจที่คุณต้องการนั้นพอดีกับงบที่คุณวางไว้หรือเปล่า  ขณะเดียวกันในหนึ่งแพ็กเกจมีอาหารกี่ประเภท มีของหวานอะไรบ้าง มีซุ้มอาหารให้ด้วยหรือไม่ ซุ้มอาหารประเภทไหน และมีกี่ซุ้ม ซึ่งแน่นอนว่าถ้ามีอาหารให้เลือกหลากหลายประเภทก็จะทำให้แขกรู้สึกประทับใจและไม่จำเจกับอาหารแบบเดิมๆ

2. หน้าตาอาหารและการตกแต่ง

topinspired

นอกจากความหลากหลายของเมนูอาหารแล้ว เรื่องรูปลักษณ์หน้าตาอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญนะคะ ลองดูว่าหน้าตาอาหารเป็นอย่างไร จัดเรียง ตกแต่ง และสีสันของอาหารน่าทานหรือไม่ เพราะเรื่องเหล่านี้จะเป็นเฟิร์สอิมเพรสชั่นที่แขกจะได้เห็น ถ้าอาหารดูดีก็จะทำให้แขกอยากทาน

3. เช็คเรื่องเครื่องดื่มให้เคลียร์

brit

โดยปกติแล้วเครื่องดื่มสำหรับงานแต่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ซอฟท์ดริ้งค์จำพวก น้ำเปล่า น้ำอัดลม ส่วนอีกประเภทคือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จำพวก เบียร์ เหล้า ไวน์ ซึ่งคุณจะต้องถามให้ละเอียดว่า ในแพ็กเกจอาหารที่คุณเลือกมานั้น รวมการบริการเครื่องดื่มแบบใดบ้าง บางครั้งแพ็กเกจอาหารอาจจะรวมเครื่องดื่มแบบซอมฟท์ดริ้งค์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว บางครั้งก็มีให้บริการเพียงแค่ซอฟท์ดริ้งค์ ทางเจ้าภาพจะต้องจัดหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเอง หรือเพิ่มเงินขึ้นมาอีกเพื่อให้ทางแคทเธอริ่งจัดการให้แบบเสร็จสรรพ ดังนั้นคุณควรจะเช็คเรื่องเครื่องดื่มให้เคลียร์ก่อนตกลงปลงใจจ้างแคทเธอริ่ง

4. ปริมาณของพนักงานบริการ

rhodeshouseoxford

ไม่ว่าจะเป็นการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ซิทดาวน์ดินเนอร์ ค็อกเทล หรือบุฟเฟต์ ทางเจ้าภาพก็คงไม่ได้ปล่อยให้แขกเดินตักเองทุกอย่างเสมอไป รวมถึงการเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มและการจัดอาหารประจำซุ้มด้วย เพราะฉะนั้นควรจะสอบถามเรื่องพนักงานบริการให้ชัดเจนว่ามีให้กี่คน และจะต้องให้พอดีกับจำนวนแขกด้วย

5. ความสะอาดของอุปกรณ์ ภาชนะ เครื่องใช้

forbes

จะเลี้ยงอาหารงานใหญ่ทั้งที ถ้วย ชาม ราม ไห ช้อน ซ้อม และอีกสารพัดเครื่องใช้ที่ต้องใส่อาหารให้กับแขกรับประทานจะต้องดูสะอาดสะอ้านและเพียงพอต่อการใช้งาน พนักงานที่ยืนให้บริการตักอาหารประจำซุ้มก็ต้องแต่งตัว สวมหมวก ถุงมือให้ดูเรียบร้อยด้วย

6. ความคุ้มค่าของอาหารและราคา

weddingomania

จัดเลี้ยงงานแต่งครั้งหนึ่งก็เสียเงินไม่ใช่น้อย เพราะฉะนั้นเรื่องความคุ้มค่าก็ต้องสำคัญไม่เป็นรองเรื่องอื่นๆ หลังจากที่คุณได้เห็นเมนูอาหารแต่ละอย่างแล้ว เราอยากให้คุณคิดอีกสักนิดว่า อาหารแบบนี้คุ้มค่ากับราคาหรือไม่ วัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารมีคุณภาพอย่างไร เหมาะสมกับราคาหรือเปล่า เพราะแน่นอนว่าถ้าราคาแพง อาหารที่ได้ก็ต้องไม่ดูไก่กาอาราเล่จนเกินไปนัก

7. โปรไฟล์และรีวิวของแต่ละแคทเธอริ่ง

simplydeliciousllc

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกแคทเธอริ่งเจ้าใดเจ้าหนึ่ง คุณควรจะหาข้อมูลและการรีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการแคทเธอริ่งนั้นๆ ด้วย จากนั้นจึงค่อยๆ ดูฟี๊ดแบ็กว่าดีหรือไม่ เหมาะกับรูปแบบงานแต่งของคุณหรือเปล่า รสชาติอาหารเป็นอย่างไร รวมถึงอัธยาสัยของแคทเธอริ่งว่าให้บริการดีไหม การพูดจากับลูกค้าเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณได้อ่านรีวิวก่อน จะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกแคทเธอริ่งได้ง่ายขึ้น

8. ของประดับตกแต่งงาน

mazelmomentsสมัยนี้งานแต่งงานมักจะกำหนดธีมงานธีมสีตามที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการ ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกแคทเธอริ่ง คุณควรจะบอกเขาเรื่องธีมงานและการตกแต่งโดยรวมของสถานที่ แล้วสอบถามกับแคทเธอริ่งว่ามีของตกแต่งที่เข้ากับธีมงานที่คุณวางไว้หรือไม่ เช่น ของตกแต่งโต๊ะอาหารและซุ้มอาหารเป็นต้น ทางที่ดีคุณอาจจะให้ทางแคทเธอริ่งปรึกษากับทางเวดดิ้งแพลนเนอร์ของคุณด้วยก็ได้นะ งานจะได้ออกมาเวิร์กทั้งสถานที่และการจัดเลี้ยง

อย่าลืมนะคะว่าอาหารสำหรับการจัดเลี้ยงแขกในงานแต่งเป็นเรื่องสำคัญมาก! หลังจากที่คุณรู้จำนวนแขกที่ชัดเจนและรู้ว่าจะจัดที่ไหนแล้วก็ควรปรึกษากันและตัดสินใจว่าจะเลือกจัดเลี้ยงแบบใด โต๊ะจีน ค็อกเทล บุฟเฟต์ หรือซิทดาวน์ดินเนอร์ จากนั้นจึงเริ่มมองหาแคทเธอริ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ และอย่าลืมเช็ค 8 ข้อข้างต้นก่อนตัดสินใจด้วยนะจ๊ะ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : www.bridebox.com, www.brit.com, www.forbes.com, www.mazelmoments.com, www.rhodeshouseoxford.com, www.simplydeliciousllc.com, www.toastsamui.com, www.topinspired.com, www.weddingomania.com

หล่อยกแก๊ง!! กับ 4 เทคนิคอัพเกรดชุดสูทเจ้าบ่าวและแก๊งเพื่อน

งานนี้เราจะไม่ปล่อยให้สาวๆ เขาสวยกันอยู่แก๊งเดียวหรอกจริงไหมคะ เพราะวันแต่งงานก็เป็นวันสำคัญที่หนุ่มๆ โดยเฉพาะเจ้าบ่าวเขาก็อยากจะเก็บโมเม้นต์สำคัญเอาไว้ไม่แพ้สาวๆ เหมือนกัน โดยเฉพาะการเก็บช่วงเวลาสำคัญเอาไว้ในภาพถ่าย เพราะฉะนั้น สูทเจ้าบ่าว ตัวเก่งเลยต้องดูดีกันหน่อย แต่วันนี้แพรว wedding ไม่ได้แค่อยากให้เจ้าบ่าวดูดีคนเดียวนะคะ เพราะเรามีทริคเล็กๆ น้อยๆ ให้เพื่อนเจ้าบ่าวดูดีเช่นกัน มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

 

เนื้อผ้ากับสถานที่ต้องเข้ากัน

สูทเจ้าบ่าว

เรื่องเวลาการจัดงาน สถานที่ และบรรยากาศของงานแต่งงานนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่หนุ่มๆ ต้องให้ความสำคัญในการนำไปเลือกสูทเช่นกันนะคะ เพราะฉะนั้นหนุ่มๆ ต้องใส่ใจคัดสรรเครื่องแต่งกายให้เข้ากับลุคทั้งหมดของงานแต่งงานด้วย เช่น หากงานแต่งงานเป็นทางการมากๆ แน่นอนว่าหนุ่มๆ ต้องไม่พลาดการใส่สูท แต่ถ้าหากเป็นงานเอ้าท์ดอร์ขึ้นมาเมื่อไหร่ หนุ่มๆ อาจจะต้องใส่ใจเรื่องเนื้อผ้าและสีสันเพิ่มกันอีกสักนิด ซึ่งเคล็ดลับในการสวมสูทในบรรยากาศงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ก็คือ การเลือกสีสันให้สดใส เน้นเฉดสีอ่อนๆ นุ่มละมุนเข้าไว้ รับรองว่าหล่อเท่แบบโอปป้าทั้งแก๊งแน่นอน

เลือกให้เข้ากับสไตล์ตัวเอง

สิ่งที่จะทำให้แก๊งหนุ่มๆ ของคุณดูดีและมีความสุขก็คือ ความสะดวกสบายในเสื้อผ้าและชุดนั้นจะต้องตอบโจทย์สไตล์ของหนุ่มๆ แต่ละคนด้วย เพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน และความมั่นใจก็ยังแตกต่างกันออกไป ฉะนั้นการเลือกลุคในแบบหลากหลายเนื้อผ้าและต่างเฉดสี อาจจะตอบโจทย์ตรงนี้ได้ดีกับแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวบางกลุ่ม แต่ถ้าหนุ่มๆ เลือกแล้วว่าเราแก๊งเราไม่จำเป็นต้องเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว การตกลงกันให้ดีก่อนเป็นเรื่องสำคัญ โดยต้องพยายามหาตรงกลางของสไตล์ที่สามารถเข้ากับทุกคนในกลุ่มได้เป็นอย่างดี และไหนๆ ก็จะลงทุนตัดชุดใหม่ทั้งทีก็อาจจะออกแบบสูทตัวเก่งของคุณให้สามารถนำกลับมาใส่ได้อีกครั้ง ไม่ว่าจะใส่ในงานแต่งงานของตัวเองสำหรับเพื่อนเจ้าบ่าวที่จะสละโสด หรือสามารถนำไปใส่งานอื่น หรือใส่ไปทำงานได้ด้วย งานนี้ยิงปืนนัดเดียวต้องให้ได้นกหลายๆ ตัวกันหน่อย

แตกต่างได้ แต่ต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

แน่นอนว่าเจ้าบ่าวคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะใส่สูท แต่ก็ไม่ใช่ว่าแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวจะใส่สูทเหมือนกันไม่ได้นะจ๊ะ โดยอาจจะต้องเลือกรูปแบบหรือสีสันให้แตกต่างจากเจ้าบ่าวสักหน่อย เช่น หากเจ้าบ่าวใส่สูทสีดำ เพื่อนๆ ก็อาจจะหลีกไปใส่สีอื่นอย่างสีเทา, สีน้ำเงิน หรือสีฟ้าอ่อน เป็นต้น นอกจากจะแตกต่างในเรื่องสีแล้ว ก็ยังสามารถต่างกันได้ด้วยแอคเซสซอรี่อีกด้วย เช่น เจ้าบ่าวอาจจะสวมเนคไท หรือโบไทให้ดูโดดเด่นจากแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าว เป็นต้น

บอกลารองเท้าหนังสีน้ำตาล!!

รองเท้าสีน้ำตาลอ่อนหรือน้ำตาลสว่าง ถึงแม้จะเป็นรองเท้าหนัง แต่ก็ยังไม่เป็นทางการมากพอที่จะสวมคู่กับสูทสีดำสุดเท่ได้ เพราะฉะนั้นหากเจ้าบ่าวอยากจะดูดีแบบคุมโทนมากที่สุด เราขอแนะนำให้คุณเก็บรองเท้าหนังสีน้ำตาลอ่อนไว้ใส่ในการงานอื่นเถอะค่ะ อย่ามาตกม้าตายเพียงเพราะแค่เลือกเฉดสีรองเท้าผิดเลย แต่!! ไม่ใช่ว่าจะสวมรองเท้าหนังสีน้ำตาลไม่ได้นะคะ สามารถสวมได้ค่ะแต่ต้องเป็นรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้มนะคะถึงจะคูล!!

แถมให้อีกนิดกับ 16 ลุคมิกซ์แอนด์แมตช์สูทเจ้าบ่าวให้โดดเด่นกว่าใครในงาน

CR. pinterest.com, midway-media.com

ผิวจ๋าขนลาก่อน… กำจัดขน ยังไงให้ผิวไม่พัง!!

เคยเป็นไหม กำจัดขน เองทีไรผิวเกิดการระคายเคืองทุกที ไม่เป็นแผลก็รอยแดงบ้างล่ะ เลยต้องใส่แขนยาวขายาวเพื่อปกปิด แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นใกล้กับวันแต่งงานล่ะจะทำยังไง!! เพราะฉะนั้นมาหาทางป้องกันก่อนดีกว่า กับวิธีการกำจัดขนที่ไร้ซึ่งการบาดเจ็บ ระคายเคือง รอยแดง หรืออาการคัน และนี่คือวิธีที่จะจัดการปัญหาที่คุณกำลังกังวล

1. เปิดผิวด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่น

การเตรียมผิวก่อนกำจัดขนด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพและอ่อนโยนต่อผิวกับเส้นขน และยังเป็นการเปิดรูขุมขนให้สิ่งสกปรกที่อุดตันหลุดออกมาได้โดยง่าย โดยใช้ผ้าชุบน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นให้พอหมาดแล้ววางไว้บริเวณที่ต้องการกำจัดขนประมาณ 30 วินาที และอย่าลืมเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนกับผิวเพื่อลดการระคายเคือง

2. ขจัดขนคุดด้วยการขัดผิว

นอกจากจะเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การขัดผิวยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดขนคุดหลังการโกนอีกด้วย โดยสามารถขัดผิวได้ง่ายๆ ขณะอาบน้ำ โดยใช้ตัวช่วยอย่างผลิตภัณฑ์ขัดผิว ร่วมด้วยใยบวมหรือแปรงสำหรับขัดผิว และหากเป็นการขัดผิวใต้วงแขนหรือหน้าขาแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์แบบ Sugar Scrub แต่ถ้าเป็นบริเวณแขนและขาให้ใช้ Sugar Scrub ร่วมกับเครื่องมืออย่างใยบวบหรือแปรงสำหรับขัดผิว

กำจัดขน

3. ลดแรงเสียดทานจากการโกนขน

เมื่อเคลื่อนมีดโกนลงไปบนผิวหนัง สิ่งสำคัญที่ต้องระวังคือการลดแรงเสียดทาน เพราะฉะนั้นจึงต้องใช้ควบคู่ไปกับผลิตภัณฑ์กำจัดขนที่เป็นโฟมหรือครีม แต่ถ้าหากคุณเลือกการกำจัดขนด้วยการแว็กซ์, สครับ หรือใช้เครื่องมือไฟฟ้าแนะนำให้ทาแป้งข้าวโพดลงบนผิวก่อนการทำเพื่อลดการระคายเคือง

4. ทำอย่างถูกวิธีไม่เจ็บตัว และลดการระคายเคือง

หากคุณใช้ใบมีดโกนเพื่อการกำจัดขน ต้องแน่ใจก่อนว่าใบมีดนั้นคมพอและสะอาด เพื่อป้องกันการเกิดบาดแผลและลดการติดเชื้อจากอุปกรณ์ที่สกปรก จากนั้นให้กำจัดขนไปในทิศทางเดียวกับเส้นขน อย่าโกนย้อนขนนะจ๊ะสาวๆ และต้องเติมความชุ่มชื้นเสมอหลังการกำจัดขนเสร็จเพื่อช่วยลดอาการระคายเคือง

5. จะทำอย่างไรหากเกิดตุ่มหลังการกำจัดขน!!

อาจเกิดจากการที่รูขุมขนของคุณติดเชื้อ หรือผิวของคุณมีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ ให้ใช้สำลีจุ่มลงผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากต้นวิทซ์ฮาเซล (มีสารแทนนินทำให้เซลล์ผิวผลัดตัวได้ดีขึ้น) แล้วทาลงบนผิวที่เกิดการระคายเคือง หลังจากแห้งดี ให้ดรอปน้ำมันอาร์แกนบริสุทธิ์ลงไปบนผิวอีกครั้ง เพราะน้ำมันอาร์แกนนั้นอุดมไปด้วยกรดโอเลอิกและเป็นมอยส์เจอไรเซอร์อย่างดีให้กับผิว และยังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้ออีกด้วย

ดูไอเดียเกี่ยวกับความงามและเรื่องสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : bowood.org, huffingtonpost.com, singaporesoap.com

เช็คลิสต์ 5 ข้อก่อนเลือกเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ใช่เพื่อวันสำคัญของคุณ!

เพราะเรื่องที่ว่าจริงๆ แล้วใครเหมาะจะเป็น เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว และเพื่อนเจ้าบ่าวนั้นดูจะเป็นเรื่องตัดสินใจยาก หลายคู่ที่ไม่รู้จึงอาจเริ่มคิดเรื่องนี้ช้าไป ทำให้มีเวลาและหลักในการตัดสินใจเพียงน้อยนิด ก่อนจะมารู้ทีหลังว่าญาติคนสนิทหรือเพื่อนสุดที่รักดันกลายเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวยอดแย่ ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกจึงควรมีคำถามที่ถามตัวเองให้แน่ใจเสียก่อน วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวม 5 คำถามที่ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรถามตัวเองก่อนตัดสินใจเลือกใครก็แล้วแต่มาทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว ลองไปเช็คกันดู เพื่อที่คุณจะได้คนที่ใช่ที่สุดสำหรับวันที่สำคัญที่สุดนะคะ 😉

1. ขนาดของงานแต่งงาน

ถ้าวางแผนที่จะจัดงานแต่งงานแบบเล็กและดูใกล้ชิด ควรจะมีเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวประมาณ 2-3 คน แต่ก่อนที่จะเริ่มถามเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวสำหรับการเป็นส่วนหนึ่งของวันอันแสนพิเศษ ลองนั่งลงคุยกันระหว่างเจ้าสาวกับเจ้าบ่าวถึงสิ่งที่ต้องการให้ปรากฏในวันแต่งงานให้แน่ชัดเสียก่อน

2. พวกเขาสนับสนุนความสัมพันธ์ของคุณไหม

เพื่อนของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวดีกับคู่รักอีกฝ่ายหรือเพื่อนของอีกฝ่ายหรือไม่ พวกเขาสนับสนุนความรักของคู่บ่าวสาวมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากไม่ เพื่อนคนนั้นอาจไม่เหมาะกับการเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวสำหรับงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้น

เพื่อนเจ้าสาว

3. พวกเขาสามารถช่วยคุณเตรียมงานได้หรือไม่

ถ้าหากมีเพื่อนผู้ที่ไม่เคยช่วยเหลือในเรื่องใดที่แสดงถึงน้ำใจเลย มันเป็นไปได้ที่เพื่อนคนนั้นจะไม่ให้ความสนใจในการช่วยเหลือเจ้าบ่าวเจ้าสาวในการจัดการรายละเอียดต่างๆ ของงานแต่งงาน ทั้งเจ้าบ่าวเจ้าสาวต้องการใครสักคนที่จะสามารถช่วยคลายความเครียดของสำหรับการเตรียมงานแต่งงาน ไม่ใช่แค่โผล่มาร่วมงามด้วยชุดที่สวยงามและพร้อมสำหรับงานเลี้ยงเท่านั้นนะคะ

4. คนเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในอนาคตของคุณหรือไม่

คิดถึงชีวิตที่จะมีเพื่อนคนนั้นคนนี้ในชีวิตอีก 5 ปี หรือ 20 ปีข้างหน้า คิดถึงเพื่อนที่คบกันมายาวนานอย่างสนิทสนมก่อนที่จะมาเจอคนที่ใช่ คิดถึงเพื่อนที่เจอเมื่อเรียนอยู่ต่างประเทศและตอนนี้ยังอยู่ห่างไกลกันแต่ยังติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ คิดถึงว่าพวกเพื่อนเหล่านี้ยังอยู่ใกล้ชิดกันอีกไหมหลังจากมีลูก ถ้าไม่แน่ใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นควรเชิญเพื่อนเหล่านี้มาในงานแต่งงานแบบแขกมากกว่าเป็นส่วนหนึ่งของเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว

5. อย่าขอให้เป็นแค่เพราะไม่อยากทำลายความรู้สึก

เพราะเพื่อนย่อมไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อนด้วยกันเอง แต่การเชิญใครสักคนมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวเพราะห่วงความรู้สึกอาจเป็นความคิดที่ผิด เพราะมันอาจกลายเป็นตัวทำร้ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวเองในอนาคต ถ้าหากเพื่อนคนนั้นไม่คิดจะช่วยเหลืออะไรเลยหรือกลายเป็นตัวสร้างภาระให้ในอนาคตนะคะ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ ได้อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

cr : brides.com, shefinds.com, weddingpartyapp.com

เมนูอาหารมงคล สำหรับถวายพระและเลี้ยงแขกในงานแต่ง

ในงานแต่งงานตามประเพณีไทยคงจะข้ามช่วงสำคัญอย่างการใส่บาตรหรือจัดอาหารเพื่อเลี้ยงแขกไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งอาหารที่นำมาใส่บาตรก็ต้องเป็น เมนูอาหารมงคล เท่านั้น แต่เรื่องนี้ก็กลายเป็นปัญหาหนักอกให้กับว่าที่บ่าวสาวหลายคู่ เพราะไม่รู้ว่าอาหารเมนูใดที่จะเหมาะแก่การนำมาอยู่ในงานแต่ง

อาหารมงคล เหมาะนำมาใส่บาตรอย่างยิ่ง

มงคล1

สำหรับคนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะนำอาหารอะไรมาใส่บาตร ลองไปดู 6 เมนูตัวอย่าง ที่เรานำมาฝากเพื่อความเป็นสิริมงคลกันนะคะ

  • ขนมจีนน้ำยา อาหารเก่าแก่ที่นิยมนำมาตักบาตรในงานแต่ง เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ความรักของบ่าว-สาว ยืนยาวเหมือนกับเส้นขนมจีน
  • ถั่วงอก กินขนมจีนทั้งทีต้องมีเครื่องเคียงอย่างถั่วงอกสิจ๊ะถึงจะอร่อย ที่สำคัญถั่วงอกยังมีความหมายว่า จะทำให้บ่าว-สาวทั้งคู่เจริญงอกงาม เหมือนกับถั่วงอกเลยคะ หรือคุณอาจนำถั่วงอกมาผัดเป็นเมนูใหม่ก็ไม่ว่ากันคะ
  • ห่อหมก ถึงจะดูเป็นอาหารบ้านๆ แต่บอกเลยว่าเป็นอาหารเชื่อมรักนะจ๊ะ เพราะห่อหมกจะทำให้บ่าว-สาว เออออห่อหมกกันไปทุกเรื่อง ไม่มีปัญหาขัดแย้งใดๆ เกิดขึ้น
  • ลาบ แซ่บหลายกันกับอาหารอีสาน ที่มีรสชาติแซ่บซี๊ดถึงใจ เมื่อออกเสียงจะคล้ายกับคำว่า ลาภ ที่แปลว่าโชคลาภ หรือเงินทอง เป็นอาหารมงคลอีกชนิดหนึ่งที่คนไทยนิยม
  • ขนมจีบ พูดถึงขนมจีบ ก็อย่าลืมนึกถึงตอนที่จีบกันใหม่ๆ นะจ๊ะ เพราะขนมจีบเป็นอาหารมงคลที่ชอบนำมาใส่บาตร เพื่อให้นึกถึงวันวานในช่วงที่จีบกันใหม่ๆ ยิ่งเฉพาะคู่รักที่แต่งงานมาหลายปีแล้วถ้ารับประทานขนมจีบถือว่าเป็นการแก้เคล็ดได้เลยนะคะ
  • ต้มจืด ได้ยินชื่อดูเหมือนว่าจะจืดชืด แต่ป่าวเลย เพราะคนสมัยก่อนถือว่า การกินต้มจืดร้อนๆ จะทำให้ชีวิตราบรื่น ไม่มีอุปสรรคมาขัดขวางนะจ๊ะ เอ๊ะ ! สงสัยเป็นเพราะซดต้มจืดแล้วคล่องคอหรือเปล่าเลยสื่อถึงความไหลลื่นอย่างว่า

ขนมหวานสุดมงคลต้องมี 9 อย่าง

13664768_753357994807328_1267732197_n

อาหารคาวผ่านไป ต่อกันที่ขนมหวานมงคล ที่บ่าวสาวไม่ควรพลาดนำมาใส่บาตรนะคะ

  • ทองหยิบ จะหยิบจะจับอะไรก็เป็นมงคล เป็นเรื่องที่ดี แม้แต่จะหยิบการหยิบงานก็ร่ำรวย มั่งคั่ง มีเงินมีทองตลอดไม่ขาดสายกันเลยจ้า
  • ทองหยอด มีความหมายลึกซึ้งคือ ร่ำรวย มีเงินมีทอง แบบที่ว่าใช้จ่ายไม่มีวันหมดสิ้นกันเลย
  • ฝอยทอง ขนมหวานเส้นยาว ที่จะทำให้บ่าว-สาวครองรักและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันไปอย่างยืนยาวเหมือนเส้นขนมฝอยทองไงจ๊ะ
  • เม็ดขนุน หมายถึง การมีคนคอยช่วยสนับสนุน ค้ำจุน เวลามีเรื่องลำบาก
  • ขนมเสน่ห์จันทร์ แค่ชื่อก็มีเสน่ห์แล้ว ความก็ตามชื่อเลยค่ะ ช่วยให้มีเสน่ห์ ใครเห็นก็รักก็หลงแน่นอน (โดยเฉพาะสามีอันเป็นที่รัก)
  • ขนมทองเอก เป็นทองเอกแล้ว ก็ต้องเป็นเมียเอกด้วยนะจ๊ะ เพราะขนมนี้หมายถึง การเป็นที่หนึ่ง หรือเป็นที่สุดนั่นเองจ้า (ห้ามลืมเด็ดขาด)
  • ขนมจ่ามงกุฎ จากชื่อที่ดูยิ่งใหญ่มาก ความหมายก็เช่นกัน คือการมีเกียรติยศสูงส่ง มีความเจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป
  • ขนมถ้วยฟู ให้ความหมายถึง ชีวิตในอนาคตที่จะเจริญรุ่ง เฟื่องฟู เหมือนกับขนมที่ชื่อว่าถ้วยฟูยังไงละจ๊ะ
  • ขนมชั้น หมายถึงการ เลื่อนชั้น เลื่อนหน้าที่การงาน บรรดายศศักดิ์ ให้สูงยิ่งๆ ขึ้นไป

อาหารพวกนี้ห้ามมีเด็ดขาด!

เมนูอาหารมงคล

ปิดท้ายกันที่อาหารไม่เป็นเป็นมงคล ไม่ควรนำมาใส่บาตรอย่างยิ่ง ท่องจำและสกัดคัดออกจากลิสต์เมนูด่วนๆ

  • หมี่กรอบ ด้วยความเป็นชิ้นที่แตกๆ หักๆ โบราณเลยถือว่าจะทำให้ความรักไม่ยั่งยืน มีอันแตกหักก็เป็นได้
  • ต้มยำต่างๆ บ่าวสาวที่ชอบอาหารรสแซ่บซี๊ดคงต้องเว้นไว้วันหนึ่งนะจ๊ะ เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตคู่เผ็ดร้อน มีปากมีเสียงจนทำให้ทะเลาะกันได้
  • ตีนไก่ แค่ชื่อก็ดูไม่เป็นมงคลแล้ว ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะมีให้งานแต่ง เพราะจะทำให้บ่าวสาวทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นเลือดตกยางออกได้
  • หอยขม แค่ชื่อยังขม ก็จะพาให้ความรักขมขื่นไม่รื่นรมย์ด้วยนะจ๊ะ
  • ข้าวต้ม เพราะที่เห็นๆ กันคือในงานศพเท่านั้นนะจ๊ะ นอกจากนี้ยังมีอาหารจำพวก ปลาร้า ปลาแจ่ว เพราะเชื่อความเป็นอาหารที่มีกลิ่นเหม็น อาจทำให้บ่าวสาวเบื่อขี้หน้ากันได้นะจ๊ะ

แต่อย่างไรแล้ว ยุคสมัยก็เปลี่ยนไปตามวันเวลา บางคนอาจเลือกอาหารที่ตนเองชอบมาใส่บาตร แต่อย่าลืมว่าอาหารนั่นก็ควรเป็นมงคล ให้สมกับเป็นการทำบุญครั้งใหญ่ในวันแต่งงานนะจ๊ะ

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ขอขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก Jirayu The Wedding Planner

ภาพ : www.healthandcuisine.com

ภาพเปิด : Doglookplane

5 สูตร มาส์คหน้า สำหรับ 5 ปัญหาผิวเจ้าสาว ฉบับทำเองได้ที่บ้าน!

ใครว่าของดีต้องซื้อแพง? เรามาบอก 5 สูตร มาส์คหน้า ที่ทำเองได้ด้วยของกินในครัวนี่แหละ ประหยัดแถมไม่แพ้ชัวร์เพราะวัตถุดิบจากธรรมชาติล้วนๆ แถมเป็น 5 สูตร สำหรับ 5 ปัญหาผิวที่ต่างกันที่เหล่าว่าที่เจ้าสาวต้องพบเจอไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง

 

มาส์คหน้าทำเอง1. กากกาแฟ + โยเกิร์ต = ลดเลือนริ้วรอยและเซลลูไลท์

รู้ไหมคะว่าคาเฟอีนในกาแฟสามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็กๆได้ เพราะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวและยังช่วยให้ผิวหนังกระชับขึ้น เหล่าสกินแคร์มากมายที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยและกระชับผิวจึงมีสารคาเฟอีนใส่ลงไปด้วย

บ้านใครมีเครื่องชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ (หรือถ้าไม่มี ขอกากกาแฟจากร้านกาแฟใกล้บ้านก็ได้) เก็บกากกาแฟใช้ผสมกับโยเกิร์ตรสธรรมชาติพอเหนียวๆ มาส์กทิ้งไว้บนผิวหน้าหรือผิวกายประมาณ 15 นาที แล้วสครับวนๆให้ทั่ว จึงค่อยล้างออก ทำประมาณสัปดาห์ละครั้ง ช่วยให้ผิวคุณรู้สึกกระชับเรียบเนียนขึ้นได้ค่ะ

มาส์คหน้าทำเอง2. กล้วยบด + โยเกิร์ต + น้ำผึ้ง = รักษาสิว

ในน้ำผึ้งมีสารต้านแบคทีเรีย รู้ไหมคะว่าคนสมัยก่อนใช้น้ำผึ้งทาแผลเพื่อป้องกันแผลติดเชื้อ ส่วนกล้วยและโยเกิร์ตเปี่ยมด้วยแร่ธาตุและจุลินทรีย์ที่ช่วยปรับสมดุลผิว ไม่ให้ผิวรู้สึกแห้งกร้าน ใช้หลังส้อมบดกล้วยหอม 1 ผลให้ละเอียด ผสมกับโยเกิร์ต 1/2 ถ้วย และน้ำผึ้งประมาณ 1  ช้อนชา ผสมให้เข้ากัน มาส์กหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก ทำประมาณสัปดาห์ละ 2-3 ครั้งค่ะ

ฟันธง!! ชุดแต่งงานตามราศี ที่ทั้งดีและโดนใจบ่งบอกสไตล์ในชุดเดียวกัน

จะเลือกชุดแต่งงานทั้งทีบางครั้งก็ยากเย็นเข็ญใจเสียเหลือเกิน ก็แหม มีแบบให้เลือกเป็นร้อยๆ ชุดแล้วใครจะไปเลือกไหวจริงไหมล่ะคะ แต่ว่าที่เจ้าสาวรู้หรือไม่ว่า สุดท้ายแล้วตัวตนของคุณเองนั่นแหละที่จะนำพาคุณไปให้เจอกับชุดแต่งงานที่ควรค่าแก่การใส่ในวันแต่งงาน ถ้าไม่เชื่อลองไปเช็กกับ ชุดแต่งงานตามราศี ที่เรานำมาฝาก ว่าจะตรงกับที่ใจของเจ้าสาวคิดไว้หรือไม่ ถ้าตรงและใช่จะรออะไรรีบไปคว้ามาไว้บนตัวได้เลย

ชุดแต่งงานตามราศี

ราศีกุมภ์

ดวงดาวประจำราศีนี้ได้แก่ ดาวยูเรนัส ดวงดาวที่หมุนแปลกและแหวกแนวกว่าดาวดวงอื่นๆ ในระบบสุริยะ (หมุนในแนวตะแคงข้าง) ส่งผลให้ว่าที่เจ้าสาวราศีนี้มีลักษณะที่ต่างจากสาวราศีอื่นๆ อยู่มาก และออกจะเป็นคนที่มีความดื้อรั้นและพร้อมรับความเสี่ยงอยู่ทุกเมื่อ เธอจะไม่กลัวว่าชุดเจ้าสาวที่เธอเลือกใส่จะแปลกประหลาดในสายตาใครหรือไม่ เรียกได้ว่าเป็นสาวมั่นที่พร้อมจะพูดคำว่า I don’t care! เพราะฉะนั้น ชุดแต่งงานตามราศี ที่เธอเลือกจึงมักจะยูนีคไม่เหมือนใคร พร้อมกับต้องมีประกายออร่าแบบวิ้งวับ และคุณสมบัติพิเศษของสาวราศีนี้คือ เธอสามารถนำเอาความแตกต่างทั้งในด้านรูปทรง วัฒนธรรม สไตล์ และความไม่สมดุลต่างๆ ให้มารวมอยู่ในชุดๆ เดียวได้แถมสวยด้วย เรียกว่าแตกต่างอย่างลงตัวอย่างแท้ทรู อย่างเช่น ชุดแต่งงานสไตล์วินเทจหรือชุดมินิเดรส ที่สามารถตอบโจทย์ชุดแต่งงานของสาวราศีนี้ได้ดีที่สุด

ราศีมีน

สาวราศีนี้เราต้องบอกเลยว่าเธอทั้ง สวย ใจดี มหัศจรรย์ และโรแมนติก ทั้งสี่อย่างนี้อยู่ในบุคลิกของสาวราศีมีนหมดเลย แถมเธอยังเป็นสาวเก่งที่มีจินตนการและพลังแห่งการสร้างสรรค์ที่สูงมาก และบ่อยครั้งที่มักจะเป็นสาวช่างฝัน จินตนาการตัวเองอยู่ในโลกแห่งความสวยงามอันมหัศจรรย์อีกด้วย นี่แหละนะ เจ้าสาวสายโรแมนติกตัวจริง เพราะฉะนั้นชุดแต่งงานที่เหมาะกับเจ้าสาวราศีนี้เห็นทีจะหนีไม่พ้นชุดที่มีรายละเอียดของความสวยงาม อย่างเช่น ชุดเจ้าสาวที่ดูเรียบหรูพอประมาณ เนื้อผ้าบางเบา จับเดรปซ้อนชั้นกันแบบหลวมๆ ให้พอพลิ้วไหว ใส่สบายและเดินเหินคล่องตัว อาจเพิ่มความโรแมนติกด้วยการประดับประดาด้วยลายดอกไม้สุดหวาน หรือชุดแต่งงานสไตล์เปิดไหล่ที่ให้ลุคดูหวานชวนฝัน เป็นต้น

ราศีเมษ

สาวๆ ราศีเมษทั้งหลายมักจะเป็นคนที่ชอบอะไรเรียบๆ ง่ายๆ คุณเป็นเจ้าสาวสุดกล้าหาญและมั่นใจในตัวเองสุดๆ และคุณมักจะต้องการเป็นคนแรกในทุกสิ่งเสมอ ไม่เว้นแม้กระทั่งการหาชุดแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ แถมคุณยังเป็นเจ้าสาวที่ต้องการความโก้หรูหน่อยๆ ให้กับลุคของชุดแต่งงาน ดังนั้นชุดที่เหมาะกับเจ้าสาวในราศีนี้ก็คือ ชุดแต่งงานที่เน้นความเรียบง่ายแต่สะดุดตา อย่างเช่น ชุดแต่งงานทรงตรงที่เน้นทรวดทรงและรูปร่างของเจ้าสาว พร้อมดีเทลของการประดับลูกไม้อีกนิดหน่อยเท่านี้ก็สวยเพอร์เฟกต์สำหรับสาวราศีเมษแล้ว

ราศีพฤษภ

คุณเป็นเจ้าสาวที่อยู่กับความจริง เป็นนักอนุรักษ์นิยม และเป็นคนมีความรับผิดชอบ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ต้องการความหรูหราหรือความแฟนตาซี ดังนั้นคุณจึงมักจะมองหาชุดแต่งงานที่หรูหราในสไตล์ที่เป็นอมตะอย่างชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ และจุดเด่นของสาวๆ ราศีพฤษภคือ เป็นคนที่มีช่วงไหล่สวย เพราะฉะนั้นแนะนำให้เลือกชุดที่โชว์ไหล่ได้เต็มที่ เช่น ชุดเกาะอก เกาะไหล่ แต่ถ้ากลัวมันจะเกาะไม่อยู่ก็สามารถเลือกชุดสายเดี่ยวเส้นเล็กๆ แบบสายสปาเก็ตตี้ก็ได้นะ

ราศีเมถุน

ว่าที่เจ้าสาวราศีเมถุนเป็นคนที่มีความชิคความเท่อยู่ในตัวไม่น้อย อีกทั้งยังเป็นสาวรักสนุก ชอบใส่ชุดที่พลิ้วไหว บางเบา ใส่สบาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดเจ้าสาวที่จับผ้าซ้อนชั้นลดหลั่นกันลงมายิ่งถูกใจ อาจแต่งแต้มด้วยลวดลายเก๋ๆ และพู่ระบายเริดๆ ลงบนชุดเจ้าสาว จนบางคนอาจมองว่าเยอะเกินไปรึเปล่าเธอ! แต่เชื่อมือสาวอินดี้ราศีนี้เถอะค่ะว่า เธอได้คัดสรรและแมทช์กันอย่างลงตัวไว้แล้วเรียบร้อย ไม่ต้องแปลกใจถ้าหากว่าชุดเจ้าสาวของเธอจะมีดีเทลโดดเด่นล่อหูล่อตา เพราะว่ามันเป็นสไตล์ของสาวราศีเมถุนที่ไม่ชื่นชอบชุดที่ดูเรียบกลืนกันไปทั้งตัวเพราะมันดูธรรมดาเกินไป! ฉะนั้นชุดแต่งงานที่เหมาะกับเจ้าสาวราศีนี้ก็อาจจะเป็น ชุดแต่งงานที่ต่างไปจากชุดแต่งงานแบบเดิมๆ ที่หลายคนอาจจะคาดไม่ถึง อย่างชุดแต่งงานสไตล์จัมพ์สูท ที่ให้ทั้งลุคสวยหวานและสนุกสนานในชุดเดียวกัน

ราศีกรกฎ

เจ้าสาวราศีนี้เป็นคนที่รักความสะดวกสบายและความปลอดภัยค่อนข้างสูง  แต่ในใจลึกๆ ก็พร้อมที่จะออกไปผจญภัยอันน่าตื่นเต้น และในขณะเดียวกันเธอก็มีความลึกลับน่าค้นหาซ่อนอยู่ในตัวเองอีกด้วย แถมเธอยังชอบที่จะให้คนอื่นชมเชย (พอๆ กับที่ชอบให้คนมากดไลค์ในอินสตาแกรม) เพราะฉะนั้นชุดที่เหมาะกับเจ้าสาวราศีนี้ต้องเป็นชุดที่สะท้อนถึงตัวตนของเจ้าสาวได้ดีที่สุด อย่างเช่น ชุดแต่งงานที่เน้นเค้าโครงของชุดที่น่าค้นหาในสไตล์สุดโรแมนติกอย่างการประดับดอกไม้แบบ 3D ทั่วทั้งชุด ที่ลุคโดยรวมดูแล้วโรแมนติกน่าค้นหาพร้อมมีกลิ่นอายความเซ็กซี่นิดๆ ปนอยู่ รับรองว่าใส่ชุดสไตล์นี้เจ้าสาวราศีนี้จะได้รับคำชื่นชมสมกับที่เธอหวังแน่นอน

รวบตึงมาให้กับพิธีรับตัวเจ้าสาว จีน-ไทย อ่านง่ายเข้าใจทุกขั้นตอน

พิธีรับตัวเจ้าสาว ถึงแม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงสำคัญที่คู่รักจะได้เจอกันในฐานะเจ้าบ่าวเจ้าสาวเป็นครั้งแรก และไม่ว่าจะเป็นงานแต่งแบบไทยหรือแบบจีนก็มีพิธีรับตัวเจ้าสาวทั้งนั้น อาจจะต่างกันเล็กน้อยในเรื่องของการเตรียมตัวและลำดับพิธีการ แพรว wedding เลยขอชวนว่าที่บ่าวสาวมาเจาะลึกพิธีรับตัวเจ้าสาวทั้งแบบทั้งแบบจีนและแบบไทยกันค่ะ

พิธีรับตัวเจ้าสาวแบบจีน

GBE-1026
ภาพจาก : Vin Buddy’s Wedding

พิธีรับตัวเจ้าสาวแบบจีน

การรับตัวเจ้าสาวตามประเพณีจีนค่อนข้างจะมีพิธีรีตองเยอะกว่าของไทย โดยเจ้าสาวจะต้องเตรียมตัวตั้งแต่คืนก่อนวันงานด้วยการอาบน้ำผสมทับทิม ใบเชียงเช่า และดอกไม้มงคลเพื่อชำระสิ่งชั่วร้ายให้หายไป

ในเช้าวันงาน เจ้าสาวจะต้องแต่งกายสวยงาม (อันนี้รู้ๆ กันอยู่เนอะ) ประดับผมด้วยปิ่นยู่อี่ที่ฝั่งเจ้าบ่าวส่งมาให้ และแซมผมด้วยใบทับทิมเพื่อให้เจ้าสาวเป็นที่รักและเอ็นดูของญาติผู้ใหญ่ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ บางครอบครัวอาจให้เจ้าสาวถือพัดสีแดงด้วยก็ได้

เสร็จจากการแต่งกายแล้ว เจ้าสาวจะต้องลงมาทานอาหารที่มีส่วนประกอบของอาหารมงคล 10 อย่างกับคนในครอบครัว โดยให้พ่อแม่ของเจ้าสาวช่วยกันป้อนอาหารมงคลพร้อมกล่าวความหมายมงคลของอาหารแต่ละอย่าง ซึ่งเปรียบเสมือนการอวยพรให้กับเจ้าสาวไปในตัว โดยอาหารมงคลทั้ง 10 อย่างได้แก่ วุ้นเส้น เส้นหมี่ หรือบะหมี่, เห็ดหอม, ผักกุ่ยช่าย, ผักเกาฮะไฉ่, หัวใจหมู, ไส้หมู-กระเพาะหมู, ตับ, ปลา, ปู และไก่

roamingcuriosity
ภาพจาก : roamingcuriosity.com

ข้ามกลับมาทางฝั่งเจ้าบ่าวกันบ้าง รถที่เตรียมไปรับเจ้าสาวนั้นต้องผูกโบว์สีชมพูหน้ารถ ญาติที่จะร่วมขบวนไปด้วยต้องมีแต่ผู้ชาย (พ่อแม่เจ้าบ่าวให้รออยู่ที่บ้าน) พร้อมทั้งช่อดอกไม้ให้เจ้าบ่าวเตรียมไว้สำหรับมอบให้เจ้าสาว และเมื่อถึงบ้านเจ้าสาวแล้ว ฝ่ายเจ้าบ่าวจะต้องให้ “เล่าตั๊ว” (พี่เลี้ยงหรือเถ้าแก่) คอยแจกอั่งเปาให้กับญาติเจ้าสาวที่ยืนกั้นประตู

W-0023-1
ภาพจาก : Artyphoto

เมื่อเจ้าบ่าวผ่านด่านประตูมาเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่จะได้เจอหน้าเจ้าสาวแล้ว โดยให้นำช่อดอกไม้ที่เตรียมมาไปรับตัวเจ้าสาวที่นั่งถือพัดแดงรออยู่ แล้วพากันออกมาไหว้ฟ้าดิน เทพเจ้าเตาไฟ บรรพบุรุษ พร้อมกับยกน้ำชาให้กับญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาว หลังจากนั้นบ่าวสาวจะต้องทานขนมอี๊สีชมพูเพื่อความกลมเกลียวในชีวิตคู่ แล้วจึงจุดเทียนแดงและเตรียมตั้งขบวนเดินทางไปบ้านเจ้าบ่าว

MO2-0054
ภาพจาก : Sitphotography

การพาเจ้าสาวขึ้นรถที่เจ้าบ่าวเตรียมมารับนั้น ตามประเพณีจีนฝ่ายเจ้าบ่าวจะเชิญเจ้าสัวฐานะดี 4 คน โดยให้เจ้าสัวคนที่หนึ่งเป็นผู้จูงมือเจ้าสาวไปขึ้นรถ คนที่สองเป็นผู้เปิดประตูรถ คนที่สามเอ่ยคำอวยพรเพื่อความมงคล คนที่สี่ใช้กิ่งทับทิมพรมน้ำมนต์ที่รถแต่งงาน

ในขบวนรถแต่งงานจะต้องมีของติดตัวเจ้าสาวไปเพื่อไปอยู่ที่บ้านเจ้าบ่าวด้วย เช่น เสื้อผ้าและของใช้ สิ่งสำคัญก็คือ กระเป๋าสีแดง หรือ เซฟแดง บรรจุทรัพย์สิน เงินทอง และของมีค่าที่พ่อแม่เจ้าสาวให้ไว้เพื่อเริ่มต้นชีวิตคู่ พร้อมทั้งกาน้ำชา ชุดยกน้ำชา และเชิงเทียนสีแดง นอกจากนี้จะต้องมีญาติฝ่ายเจ้าสาวที่เป็นผู้ชายถือตะเกียงนำหน้ารถขบวนไปด้วย (ถ้ารถคันเดียวกันให้นั่งหน้าข้างคนขับ) เพื่อเป็นเคล็ดให้ทั้งคู่มีลูกชายสืบสกุล จากนั้นจึงเคลื่อนขบวนไปสู่บ้านเจ้าบ่าว

อ่าน พิธีรับตัวเจ้าสาวแบบไทย ที่หน้าถัดไป >>>