6. แต่งหน้า-ทำผม
- มองหาช่างแต่งหน้า-ทำผมที่สนใจ
- หากเจ้าสาวมีงบเหลือพอสำหรับส่วนนี้ อาจจะทดลองแต่งหน้า-ทำผมกับช่างที่เล็งไว้เพื่อเสริมความมั่นใจว่า นีแหละคือสิ่งที่ฉันอยากจะเป็นในวันสำาคัญ
- หากจะใช้ช่างแต่งหน้า-ทำผมที่เล็งเอาไว้แน่ๆ ให้รีบจองคิวแต่โดยด่วน ยิ่งถ้าหากเป็นช่างแต่งหน้า-ทำผมชื่อดังอาจจะต้องจองตัวกันข้ามปีเลยทีเดียว
- หาเรเฟอเรนซ์ลุคเจ้าสาวที่ชอบแล้วนำไปปรึกษากับช่างแต่งหน้า-ทำผม เพื่อที่ช่างจะได้ให้คำแนะนำได้ว่าควรต้องเพิ่มหรือลดจุดไหน เพื่อคงความสวยในแบบที่เป็นตัวเองไว้ได้มากที่สุด
7. ช่างภาพงานแต่ง
- ศึกษาสไตล์งานที่ชอบ แล้วมองหาช่างภาพมืออาชีพที่น่าจะไปด้วยกันกับแนวทางของคุณ
- นัดแนะวันเวลาสถานที่ให้ชัดเจนพร้อมบอกถึงรายละเอียดและกำหนดการพิธีการว่ามีอะไรบ้าง และอย่าลืมแจ้งหากบ่าวสาวอยากได้ช็อตไหนหรืออยากให้โฟกัสใครเป็นพิเศษในวันแต่งงาน
- หากจัดงานเช้า-เย็นในวันเดียวกัน และอยากจะฉายวิดีโอพิธีเช้าในงานฉลองตอนเย็นจะต้องแจ้งกับทีมช่างภาพและวิดีโอล่วงหน้า เพื่อที่ทางทีมช่างภาพจะได้วางแผนการทำางานได้ทัน
8. ดนตรี (DJ / Band / Playlist)
- หากต้องการวงดนตรีควรรีบหาและจองตั้งแต่เนิ่นๆ ถ้าจะให้ดีลองหาเวลาไปดูวงที่คุณสนใจ เพื่อที่จะได้เห็นภาพว่าวงที่คุณเล็งไว้นั้นสามารถเข้ากับธีมงานของคุณได้หรือไม่
- ราคาของวงดนตรีขึ้นอยู่กับจำนวนชิ้นของเครื่องดนตรีด้วย เพราะฉะนั้นหากต้องการเซฟค่าใช้จ่าย แต่ก็อยากมีว งดนตรีในงานอาจเลือกเป็นแนวเพลงอะคูสติกที่ใช้เครื่องดนตรีน้อยชิ้น เป็นต้น
- หากมีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ควรรีบตัดสินใจว่าจะจ้างดีเจมาเปิดเพลงหรือจะเป็นวงดนตรีสดสุดมัน ทั้งสองอย่างล้วนต้องหาที่ถูกจริตกับธีมงานและบ่าว-สาว และที่สำคัญต้องจองล่วงหน้าทั้งนั้นค่ะ
- เตรียมเพลย์ลิสต์เพลงที่บ่าวสาวอยากจะเปิดในช่วงต่างๆ ของพิธีการไว้ด้วย โดยเรียงลำดับเพลงตามลำดับพิธีการ และเพื่อความชัวร์ว่าจะเปิดเพลงไม่ผิดแน่ๆ บ่าวสาวอาจจะตั้งชื่อเพลงให้เป็นชื่อช่วงพิธีการนั้นๆ ไปเลย คนเปิดแผ่นจะได้ไม่สับสนว่าชื่อเพลงนี้ต้องเปิดในช่วงไหนของงาน
9. การ์ดและของชำร่วย
- แยกของรับไหว้และของชำร่วยออกจากกันให้ชัดเจน โดยของรับไหว้อาจจะต้องสั่งเผื่อไว้จากจำานวนจริง เพราะหน้างานอาจจะมีผู้ใหญ่ที่อยากจะขึ้นมาให้พรบ่าวสาวนอกเหนือจากลิสต์รายชื่อที่เตรียมไว้ก็ได้
- สั่งของชำร่วยเผื่อไว้ประมาณ 10 – 15 เปอร์เซ็นต์จากจำนวนการ์ดที่แจก เช่น หากแจกการ์ด 300 ใบ ก็ให้บวกของชำร่วยเพิ่มเข้าไปอีก 30 – 45 ชิ้น เผื่อให้กับแขกที่ไม่ได้เชิญอย่างเป็นทางการแต่มาร่วมงานด้วย และอย่าลืมย้ำกับเพื่อนเจ้าสาวที่ทำหน้าที่อยู่ที่โต๊ะลงทะเบียนว่า 1 ซองให้ของชำร่วยแค่ 1 ชิ้น เท่านั้นนะจ๊ะ (ถ้าหากเหลือแล้วค่อยลดแลกแจกแถมในช่วงหลัง)
- อย่าลืมเตรียมสมุดเซ็นอวยพรและปากกาหลากสีเอาไว้ให้พร้อม
10. ความสวยความงาม
- 9 – 12 เดือนก่อนถึงวันแต่งงาน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เจ้าสาวอยากจะตัด ดัด หรือยืดผม พร้อมกับการวางแผนการดูแลผิวพรรณและการปรับรูปหน้า (ถ้าเจ้าสาวอยากได้ความเป๊ะแบบไม่ต้องพึ่งเฉดดิ้ง) แล้วอย่าลืมวางแผนฟิตหุ่นพร้อมควบคุมอาหารด้วยนะคะ
- 5 – 6 เดือนก่อนถึงวันแต่งงาน ยังทันหากคิดจะวางแผนการดูแลผิวอย่างถูกต้อง โดยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังช่วยดูแล เพื่อการบำรุงรักษาอย่างตรงจุดและเหมาะกับสภาพผิวของเจ้าสาวที่สุด และนี่ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีหากอยากลองทรีตเม้นต์หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อที่จะหาสิ่งที่เหมาะกับสภาพผิวที่สุด วางแผนการกินวิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวมที่มีประโยชน์กับร่างกาย เหมาะกับเจ้าสาวที่ต้องเตรียมงานแต่งอย่างหนักหน่วง และอาจเสริมด้วยวิตามินสำหรับผิว ผม และเล็บ ขึ้นอยู่กับว่าอยากดูแลด้านใดเป็นพิเศษ วางแผนการดูแลสุขภาพ ตัดความหวานและกาเฟอีน ออกจากชีวิตในช่วงนี้ไปก่อน แล้วหันมาดื่มนำ้าเปล่าเพื่อ สุขภาพที่ดีต่อทั้งร่างกายและผิวพรรณรวมทั้งหาแผนออกกำลังกายที่คุณชื่นชอบ
- 2 – 4 เดือนก่อนถึงวันแต่งงาน ได้เวลาทำสีผม สำาหรับเจ้าสาวที่ต้องการเปลี่ยนลุคแล้ว รวมไปถึงการสร้างเค้าโครงของคิ้วให้ได้รูป เช่น การแว็กซ์ เป็นต้น
- 1 เดือนก่อนวันแต่งงาน ช่วงนี้หากเป็นไปได้เจ้าสาวไม่ควรที่จะทำอะไรเกี่ยวกับผิวหน้าอีกแล้ว โดยเฉพาะการลองนวัตกรรมหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เอาเป็นว่าช่วงนี้ก็บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่คุ้นเคยไปก่อนนะคะ จะได้ไม่เกิดผลข้างเคียงใดๆ ให้ปวดหัว
- 3 สัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงาน อาจทำทรีตเมนต์ผิวครั้งสุดท้ายเพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่ยังไม่ได้เริ่มทำ ช่วงเวลานี้ละค่ะที่คุณจะต้องเริ่มแล้ว ส่วนเจ้าสาวที่มีผมทำสีก็อย่าลืมเติมโคนผมกันด้วยนะคะ
- 1 สัปดาห์ก่อนถึงวันแต่งงาน สครับริมฝีปาก มาสก์หน้า ตัดอาหารประเภทโซเดียมเพื่อลด อาการบวม และหันมารับประทานอาหารที่เพิ่มการเผาผลาญ สุดท้าย ปล่อยวางความเครียด แล้วหากิจกรรมเพื่อความผ่อนคลายจะได้สวยจากภายในอย่างแท้จริง
- 1 วันก่อนถึงวันแต่งงาน ทำเล็บให้สวยเตรียมรับวันสำาคัญ ไปผ่อนคลายให้เต็มอารมณ์ด้วยการทำสปากับแก๊งเพื่อนสาวหรือเจ้าบ่าวสุดที่รัก และถ้าหากจะสระผมในคืนก่อนวันแต่งงาน ห้ามลงครีมนวดเด็ดขาด เพราะจะทำให้ช่างทำผมของคุณได้ยากขึ้น สุดท้ายนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อจะตื่นมารับวันสำาคัญอย่างสดใส
เมื่อถึง Wedding Day! ก็แค่ปล่อยวางทุกอย่าง แล้วมีความสุขในวันสำาคัญของคุณให้เต็มที่
อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนจัดงานแต่งงาน และดูไอเดียงานแต่งอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย!
cr. tonibrides.com, huffingtonpost.com
Pages: 1 2