4 พายุอารมณ์ของนิสัยผู้หญิง ที่อาจทำให้คุณเสียแฟนไปได้ง่ายๆ

แน่นอนว่าอารมณ์ของผู้หญิงและผู้ชายมีความต่างกัน เพราะผู้หญิงอยู่ภายใต้อิทธิพลของฮอร์โมนที่มีระดับขึ้นลงตามรอบเดือน แพรวเวดดิ้งเลยจะพามาดู  4 อารมณ์ยอดแย่ นิสัยผู้หญิง ที่อาจทำให้หนุ่มๆ ทั้งหลายถึงกับปวดหัวถ้าหากว่าคุณสาวๆ มีอาการแบบนี้

1. ขี้งอน

อาการงอนเกิดจากอาการน้อยใจของสาวๆที่ได้รับความสนใจ การเอาใจใส่จากฝ่ายชายน้อยกว่าที่ตัวเองตั้งความหวังเช่น การโทรไปไม่รับแถมยังไม่โทรกลับ หรือเวลานัดแล้วไม่ตรงเวลา สาเหตุเหล่านี้ล้วนทำให้สาวๆ แทบทุกคนเกิดอาการงอนได้ การงอนหากเกิดขึ้นนิดๆ หน่อยๆ เขาก็พอที่จะรับได้ แต่หากเป็นมากถึงขั้นเริ่มงอนแบบไร้สาเหตุ หรือ งอนนานข้ามวันข้ามคืน งานนี้อาจทำให้หนุ่มๆเบื่อจนหายไปเลยก็ได้

2. ขี้บ่น  

เมื่อสาวๆ เริ่ม ”บ่น” หนุ่มๆหลายคนคงต้องรีบหาอะไรมาอุดหูกันแทบไม่ทัน การบ่นของผู้หญิงเป็นผลมาจากความจู้จี้  จุกจิก หรือเข้มงวด ทั้งเรื่องการแต่งตัว  การรับประทาน หรือพฤติกรรมต่างๆ เรียกได้ว่าถ้าไม่ถูกใจก็จะบ่นไปเรื่อยๆ แต่อย่าลืมว่าผู้ชายเค้าไม่ชอบการถูกบังคับ  ดังนั้นคุณควรปล่อยให้เค้าได้ทำตามใจตนเองบ้าง เพราะคุณอย่าลืมว่าก่อนมาเป็นแฟนเราเค้ายังทำด้วยตนเองได้ แม้บางอย่างจะไม่ถูกใจเราก็ตาม

3. ขี้หึง

แน่นอนว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เป็นประเภทของๆข้าใครอย่าแตะ เพราะโดยธรรมชาติแล้วผู้หญิงจะเป็นเพศที่ยึดมั่นในความรัก จึงยากนักที่จะให้ผู้หญิงหน้าใหนมาเข้าใกล้คนที่ตัวเองรัก อาการหึงหากเกิดนิดๆ หน่อยๆ ฝ่ายชายก็อาจจะยอมได้แต่หากเป็นมากถึงขั้นไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น นี่ก็อาจจะเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์ของคุณและเขาได้

เชื่อมั่นในตัวเอง  วางใจในตัวคนรัก” เป็นสูตรสำเร็จที่ต้องแนะนำให้สาวขี้หึงทั้งหลายนำไปลองใช้เพราะนอกจากจะทำให้ลดอาการขี้หึงในตัวคุณให้น้อยลงแล้วสูตรนี้ยังได้รับการยอมรับจากหนุ่มๆ ส่วนใหญ่อีกด้วย

4. ขี้เหงา

สาวๆ ขี้เหงาที่ต้องอยู่ติดแฟนตลอดเวลาขอให้คุณรู้ไว้เลยว่า ไม่ว่าจะรักกันมากแค่ใหนแต่คนเราย่อมอยากมีเวลาส่วนตัวทั้งสิ้น ไม่อยากมีแฟนตามติดเป็นลูกแหง่ตลอดเวลา คุณควรฝึกตัวเองให้รับผิดชอบตัวเองได้  มีสังคมของตัวเอง เวลาที่ห่างกันจะได้รู้สึกคิดถึงได้

ทั้งหมดนี้คืออารมณ์ที่อาจจะทำให้คุณเสียแฟนไปก็ได้  คุณแค่รู้จักการจัดการกับอารมณ์และวิธีการแสดงออก เท่านี้ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของคุณและแฟนยืดยาวแล้ว

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : board.postjung.com

คอนเฟตตี้ ไอเดียสุดสร้างสรรค์ที่ไม่ว่าจะทำเป็นอะไรก็น่ารักสดใสไปหมด

มาสร้างความสดใสให้งานแต่งด้วย คอนเฟตตี้ สุดน่ารักกันดีกว่า

Confetti หรือ คอนเฟตตี้ ที่เรามักจะคุ้นตาในงานปาร์ตี้ หรืองานเฉลิมฉลอง ก็นับเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจสำหรับว่าที่บ่าวสาวที่ต้องการสร้างลุคที่มีสีสันหรือสร้างบรรยากาศความสนุกสนานให้กับงานแต่งแล้วคอนเฟตตี้ที่ว่านี้จะสามารถนำไปครีเอทเป็นอะไรในงานแต่งได้บ้าง แพรว wedding มีไอเดียดีๆ มาฝากแล้วจ้า

คอนเฟตตี้

สำหรับว่าที่เจ้าสาวคาแรคเตอร์สนุกสนาน พร้อมกับไม่ต้องการความเป็นทางการให้กับลุคของตัวเองมากนัก อาจจะเลือกเพิ่มสีสันให้กับชุดแต่งงานด้วยการโปรยคอนเฟตตี้ไว้บนชุดแต่งงานซะเลย ไม่ว่าจะเป็นคอนเฟตตี้แนวระยิบระยับเพื่อเพิ่มความโดดเด่น หรือจะเลือกเป็นคอนเฟตตี้ดอกไม้ดอกเล็กๆ น่ารักเพื่อความสดใสก็ได้หมด เอาเป็นว่าแค่เลือกให้เข้ากับคาแรคเตอร์งานและคาแรคเตอร์เจ้าสาวก็พอเนอะ อย่างเช่น ชุดแต่งงานของเจ้าสาวในภาพจากแบรนด์ Valentino ที่โปรยปรายเอาไว้ด้วยดอกไม้ดอกเล็กดอกน้อยคละไซส์กันไป ก็ให้อารมณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใครดีเหมือนกันนะ

คอนเฟตตี้

คอนเฟตตี้

เบื่อไหมกับเค้กแต่งงานสีขาวประดับดอกไม้แบบเดิมๆ มาเปลี่ยนความจำเจนั้นให้สนุกขึ้นด้วยไอเดียคอนเฟตตี้กันดีกว่า แถมงานนี้ไม่ว่าจะเป็นเค้กแต่งงานกี่ชั้น หรือมินิเค้ก ก็สามารถทำได้แบบไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็น คอนเฟตตี้สีสันแบบพาสเทลที่ช่วยเพิ่มให้บรรยากาศงานแต่งงานของบ่าวสาวดูน่ารักอบอุ่นขึ้น หรือจะเลือกเป็นคอนเฟตตี้เฉดสีทองเมทัลลิค เฉดสีที่กำลังฮิตในปีนี้ โปรยไว้บนเค้กแต่งงานสีขาวก็ช่วยอัพความหรูให้กับงานได้เป็นอย่างดี ส่วนมินิเค้กถึงจะเล็กก็ดีไซน์น้า ลองเล่นกับชั้นเค้กด้วยการเพิ่มเลเยอร์ของเยลลี่หลากสีสันที่ตัดไว้เป็นชิ้นเล็กสลับกับตัวเค้กสัก 2-3 ชั้น เท่านี้ก็ช่วยเพิ่มความน่ารักในไซส์มินิได้แล้ว

คอนเฟตตี้

คอนเฟตตี้

หากงานแต่งของคุณเป็นแบบซิตดาวน์ดินเนอร์ ก็อาจจะเพิ่มบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองบนโต๊ะอาหารด้วยการตกแต่งในสไตล์มินิมอลสุดน่ารักบนจานอาหารใบสวย ที่โรยไว้ด้วยคอนเฟตตี้หลากสีสันแบบคละไซส์กันไป ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยบิ้วด์อารมรณ์แห่งการเฉลิงฉลองให้กับแขกได้เป็นอย่างดีก่อนงานเริ่ม

คอนเฟตตี้

แต่ถ้าหากบ่าวสาวคู่ไหนต้องการเล่นใหญ่กว่าการโปรยคอนเฟตตี้ไว้บนจานอาหาร ก็อาจจะเพิ่มความอลังการด้วยการดีไซน์ tablescape หรือ table runner (การจัดตกแต่งโต๊ะอาหารตรงกลางในแนวยาว) ให้เต็มไปด้วยคอนเฟตตี้ก็ได้ โดยอาจจะเลือกสีสันให้เข้ากับบรรยากาศของสถานที่หรือธีมงานแต่งก็ได้ แต่งานนี้อาจจะแค่โปรยไว้เฉยๆ ไม่ได้เนอะ เพื่อความสวยงามอาจจะต้องหาวิธีล็อคคอนเฟตตี้ให้ติดกับตัว tablescape ให้ดีสักหน่อย เพื่อที่จะได้ช่วยล็อคความสวยงามให้อยู่จนจบงาน ไม่ใช่ว่างานยังไม่เริ่มแต่คอนเฟตตี้ดันโดนปัดร่วงลงไปอยู่ใต้โต๊ะซะหมด

เพิ่มความสดใสให้บอลลูนที่ล่องลอยอยู่ภายในงานหรือที่ประดับไว้ตรงเซ็นเตอร์พีช ด้วยการประดับประดาคอนเฟตตี้ไว้ให้ทั่วบอลลูนลูกโต รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความน่ารักสดใสให้บรรยากาศของงานได้ไม่ยาก แต่งานนี้บ่าวสาวจะต้องเมกชัวร์ว่า ธีมงานแต่งหรือบรรยากาศงานของคุณนั้นเข้ากับบอลลูนสีสันสดใสที่เตรียมไว้ด้วยน้า หรือถ้าอยากเพิ่มความโรแมนติกให้กับงานอีกนิดแนะนำให้เลือกเป็นบอลลูนรูปหัวใจที่เต็มไปด้วยคอนเฟตตี้กลิตเตอร์ระยิบระยับให้ลอยฟ่องสดใสไปทั่วทั้งงานไปเลยค่า

อันนี้สำคัญมากแบบพลาดไม่ได้ กับการเตรียมคอนเฟตตี้ใส่กรวยไว้แล้วแจกให้แขกที่มาร่วมงานได้ช่วยกันโปรยในช่วงเปิดตัวบ่าวสาว แล้วอย่าลืมเตรียมคอนเฟตตี้เอาไว้ในหลากหลายสีสันนะคะ โดยอาจจะเลือกผสมกับคอนเฟตตี้แบบกลิตเตอร์ หรือแบบเมทัลลิค เพื่อที่เมื่อถ่ายภาพออกมาจะได้เต็มไปด้วยสีสันที่สวยงามปนความระยิบระยับ รับรองว่าจะเป็นช็อตภาพถ่ายที่สวยงามน่าประทับใจแน่นอน

ใครว่าคอนเฟตตี้ต้องทำมาจากระดาษอย่างเดียว ไม่จริงสักนิด เพราะกลีบดอกไม้ก็สามารถนำมาดีไซน์ให้กลายเป็นคอนเฟตตี้สวยๆ ไว้แจกเป็นของชำร่วยในงานแต่งได้เหมือนกันน้า โดยอาจจะเลือกกลีบดอกไม้ที่มีขนาดเล็ก หลากสีสันที่มีกลิ่นหอม แล้วนำไปอบให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาแพ็คไว้ในแพ็คเกจจิ้งสวยหรู เท่านี้บ่าวสาวก็ได้ของชำร่วยแสนเก๋แถมยังเป็นมิตรกับธรรมชาติอีกด้วย

อีกหนึ่งไอเดียคอนเฟตตี้ฉบับ DIY กับการประดับคอนเฟตตี้ไว้บนการ์ดแต่งงาน โดยอาจจะเลือกคอนเฟตตี้ทรงกลมที่มีขนาดต่างกันไป พร้อมเฉดสีสันสดใสหรือสวยหรู (ก็แล้วแต่ธีมงานของแต่ละคู่นะคะ) จากนั้นก็นำมาประดับตกแต่งไว้บนการ์ดแต่งงาน เท่านี้ก็ได้การ์ดแต่งงานทำมือที่ผู้รับจะสามารถเห็นได้ถึงความตั้งใจของผู้ให้แล้ว แต่..อาจจะเหมาะกับงานแต่งที่มีแขกน้อยสักหน่อยนะคะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะนั่งแปะกันจนมือหงิกได้ หรือจะเลือกเพิ่มความเซอร์ไพรส์แบบเปล่งประกายด้วยการโรยผงกลิตเตอร์ระยิบระยับไว้ที่ด้านในของซองการ์ดแต่งงานก็ได้นะ

สุดท้ายกับไอเดียสุดครีเอท ด้วยการนำสไตล์คอนเฟตตี้กับทรงกลมมาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นการ์ดเชิญในแบบฉบับที่ไม่เหมือนใคร โดยอาจจะดีไซน์ให้การ์ดทรงกลมแต่ละใบมีขนาดและ สีสันที่ต่างกันไป (แต่ถึงสีสันจะต่างแค่ไหน ก็ต้องเลือกให้เข้ากันแบบคุมธีมนะ) รับรองว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งมิติใหม่ของการ์ดแต่งงานที่เพื่อนๆ อยากทำตามแน่นอน

เอาเป็นว่าลองเลือกสิ่งที่ดูจะเข้ากับสไตล์ของบ่าวสาวและบรรยากาศงานแต่งงานของคุณทั้งคู่ดูนะคะ หรือจะลองแบบงานคราฟสไตล์มินิมอลกับไอเดีย ดอกไม้กระดาษ ไอเดียงานแต่งแบบ DIY สำหรับบ่าวสาวสายอาร์ต ก็ได้น้า

ภาพ www.marthastewartweddings.com

คาถามัดใจญาติแฟน ไม่ว่าจะมากันแนวไหนก็สามารถชนะใจทุกกรณี

คาถามัดใจ ญาติแฟน ไม่ว่าจะมากันแนวไหนก็สามารถชนะใจทุกกรณี

ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องของคนสองคนเสมอไป เพราะสำหรับบางคู่ยังหมายถึงพ่อแม่พี่น้อง ลุงป้าน้าอา และสมาชิกในครอบครัวของเขาด้วย ว่าแต่จะทำอย่างไรให้ฝ่าด่านอรหันต์ของบรรดาญาติแฟนได้ฉลุย เราจะร่ายคาถามัดใจ ญาติแฟน ให้ฟังกันค่ะ

มือไม้อ่อนไว้ก่อน

คาถาข้อนี้ต้องท่องจำให้ขึ้นใจเลยนะคะ เพราะสำคัญมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการเจอญาติแฟนครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม หรือครั้งไหนๆ ก็ตามที จะรู้จักหรือไม่รู้จัก จะใช่ญาติหรือไม่ใช่ญาติ ยังไงก็ต้องยกมือไหว้เพื่อทำความเคารพหรือสวัสดีทักทายกันไว้ก่อน เพราะการไปลามาไหว้ถือเป็นธรรมเนียมของคนไทย และเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องปฏิบัติ อย่าเผลอมือแข็งเชียวนะคะ รับรองว่าโดนญาติแฟนตาเขียวใส่แน่นอน

รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

ทำการบ้านมาดี รับรองว่ามีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ ก่อนจะร่ายคาถาข้ออื่นๆ ต่อไป คุณต้องรู้ก่อนว่าญาติแฟนของคุณนั้น เขาชอบอะไรหรือไม่ชอบอะไร เพื่อจะได้ปฏิบัติตัวให้เขาพอใจ หรือไม่เผลอทำอะไรที่เขาไม่ชอบออกไป เช่น คุณป้าชอบกินมะม่วงน้ำปลาหวานก็หมั่นซื้อติดไม้ติดมือมาฝาก คุณลุงชอบคนเรียบร้อยก็ไม่ใส่กระโปรงสั้นจนเกินงาม หรือน้องสาวกำลังเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็ชวนเธอคุยในเรื่องการศึกษา เป็นต้น

หยิบยื่นน้ำใจไมตรี

คนมีน้ำใจอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรักใคร่ ดังนั้นควรหมั่นหยิบยื่นน้ำใจไมตรีให้ญาติแฟนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการอาสาเป็นลูกมือในครัว ช่วยล้างจานชามหลังจากกินข้าวที่บ้านของเขา ช่วยถือของในวันที่ไปช้อปปิ้งด้วยกัน หรือรับหน้าที่เป็นผู้จัดแจงทริปท่องเที่ยว น้ำใจเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ พอสะสมเข้ามากๆ ก็สามารถเพิ่มพูนคะแนนนิยมให้คุณได้มหาศาลเลยล่ะค่ะ

ของฝากติดไม้ติดมือต้องมี

คาถาข้อนี้เป็นวิธีเอาอกเอาใจญาติแฟนได้แบบเนียนๆ เลยล่ะค่ะ แถมยังแสดงถึงความมีน้ำใจของคุณอีกด้วย แต่ก่อนอื่นอย่าลืมร่ายคาถารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งก่อนนะคะ จะได้เอาใจได้ตรงจุด หรือใครชอบอะไรจะได้ซื้อมาฝากถูก ถ้าร่ายคาถาข้อนี้บ่อยๆ แล้วญาติแฟนไม่รักไม่หลงก็ให้มันรู้ไปค่ะ

คารมเป็นต่อ

คำพูดคำจาเป็นเรื่องสำคัญนะคะ เพราะหากพูดไม่เข้าหู ทีนี้ล่ะขุ่นเคืองใจกันยาวเลย ดังนั้นจะพูดอะไรก็ต้องระมัดระวัง ช่วงแรกๆ ควรจะพูดให้น้อยแล้วฟังให้มาก และคิดก่อนพูดเสมอ นอกจากนี้วาจาที่สุภาพอ่อนหวานก็เป็นเรื่องสำคัญ คะ ขา ครับ หางเสียงควรมีสม่ำเสมอ เพราะนอกจากจะรื่นหูคนฟังแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการรู้จักกาลเทศะ ความมีมารยาท และความนอบน้อมถ่อมตนของคุณได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

รู้จักกาลเทศะ

การรู้จักกาลเทศะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิบัติตัว คำพูดคำจา หรือการแต่งกาย คุณควรรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ คนนี้หยอกล้อได้หรือคนไหนไม่ควรปีนเกลียว หากอยากมัดใจญาติแฟนให้อยู่หมัดก็ต้องท่องคาถาข้อนี้ไว้ให้มั่นนะคะ

เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม

คาถาข้อนี้แปลง่ายๆ ก็คือ ทำตัวให้กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับครอบครัวของเขานั่นเอง เขาทำกิจกรรมอะไรกันเราก็ทำด้วย เขาไปไหนกันเราก็ไปด้วย เขาคุยเรื่องอะไรกันเราก็คุยด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่ามากจนเกินงาม ดูลาดเลาความพึงพอใจและเรียนรู้วัฒนธรรมของเขาให้ดีเสียก่อน ถ้าสังเกตได้ว่าเขาเริ่มเปิดใจให้เราเมื่อไหร่ ก็เดินหน้าเต็มกำลังได้เลยค่ะ

อวยให้เป็น

สำหรับคาถาข้อนี้คนที่ถือศีล 5 อาจจะไม่ค่อยถนัดนัก แต่เอาเป็นว่าการพูดบิดเบือนความจริงเล็กๆ น้อยๆ ไม่ถือเป็นการโกหก หากแต่เป็นการทำให้อีกฝ่ายสบายใจมากกว่า ไม่ได้สนับสนุนให้พูดโกหกแต่อย่างใดนะคะ แต่เรากำลังจะบอกว่าการพูดอวยหรือเยินยอก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่พิชิตใจญาติแฟนได้ ใครจะเอาไปใช้ก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใดค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ภาพ : www.spokeo.com

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน สามารถทำเองง่ายๆ ประหยัดงบ แถมสวยสุดๆ

บ่าวสาวที่กำลังจะจัดงานแต่งงาน อย่าลืมนึกถึง ฉาก ถ่ายรูปแต่งงาน นะจ๊ะ เพราะเป็นสิ่งที่เวลาแขกมาร่วมงาน เขาจะต้องถ่ายภาพตรงจุดนี้เป็นที่แรก

ถึงแม้จะมีความสำคัญไม่แพ้กับเรื่องอื่นๆ แต่เราก็สามารถเนรมิต ฉากถ่ายรูปแต่งงาน ขึ้นมาเองได้ง่ายๆ แบบ DIY ไม่ต้องเสียเงินเยอะ เพราะงานแต่งเราก็ต้องเสียเงินไปกับอย่างอื่นเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นเรามาเซฟงบ และทำฉากถ่ายรูปแต่งงานให้ออกมาสวยที่สุดกันดีกว่า แพรวเวดดิ้งจึงขอนำไอเดีย DIY ฉากถ่ายรูปแต่งงาน ที่ทำเองง่ายๆ มาให้ว่าที่บ่าวสาวลองดูเอาไว้ เผื่อเป็นตัวอย่างกันนะจ๊ะ

กระดาษสี

ลองหากระดาษสีที่ขายกันเป็นม้วนๆ ดู โดยติดปลายกระดาษไว้บนเพดานห้อง และปล่อยให้ม้วนกระดาษ ยาวลงมาจนถึงพื้น ไอเดียนี้เซฟงบลงไปได้เยอะ แต่ถ้าจะให้สวย บ่าวสาวควรเลือกสีกระดาษที่มีสีไปในโทนเดียวกัน เช่น โทนร้อนก็คือ แดง ชมพู ส้ม โทนเย็น ฟ้า เขียว เป็นต้น หรือจะไล่โทนสี แล้วให้กระดาษแต่ละม้วนสับหว่างกันก็จะยิ่งดูเก๋นะจ๊ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

ริบบิ้นสีสันสดใส

สิ่งที่บ่าวสาวต้องเตรียมมีผ้าสีขาวผืนใหญ่ สำหรับเป็นฉากถ่ายรูปแต่งงาน จากนั้นก็เลือกริบบิ้นสีที่ชื่นชอบมาค่ะ หลายๆ สี จะเน้นไปในทางโทนเดียวกัน หรือจะเลือกสีให้ตัดกันฉึบฉับก็ได้นะจ๊ะ วิธีการติดริบบิ้นลงบนผ้าได้แบบสวยงามก็คือ หากาวมาติด หรือถ้าขยันหน่อย จะเย็บติดลงไปเลยก็ได้ค่ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

รูปภาพ

ไอเดียนี้ทำง่ายสุดๆ แทบจะไม่ต้องมานั่งลงมือประดิษฐ์ประดอยเลยล่ะค่ะ เริ่มแรกบ่าวสาวลองหาสถานที่ที่ทั้งคู่ชอบ หรือ สถานที่สวยๆ อาจจะมีความหมายกับทั้งคู่ ถ้าคิดไม่ออกจะเลือกจากความสวยงามก็ได้ แล้วก็ไปตามร้านปริ้นต์ภาพลงบนผ้า เท่านี้ก็จะได้ฉากสวยๆ ออกมาแล้วค่ะ

ถ่ายรูปแต่งงาน

พระจันทร์และดวงดาว

กำลังฮิตกันเลยทีเดียวกับเรื่องของพระจันทร์และดวงดาว แถมสามารถทำตามได้ไม่ยากนะคะ เพียงแค่หากระดาษที่มีความมันวาว มาตัดให้เป็นรูปพระจันทร์และดวงดาว ถ้าอยากจะให้โดดเด่นขึ้นมาก็เพียงแค่หาโฟมมาเป็นฐานรอง หรือไม่คุณสามารถหาเชือกมาร้อยดวงดาวให้ห้อยลงมาจากเพดานก็จะสวยงามไปอีกแบบค่ะ

ถ่ายรูปแต่งงาน

ดอกไม้กระดาษ

เป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะราคาถูกแต่ติดตรงคุณต้องพับกระดาษให้เป็น และนำมาตัดให้เป็นกลีบกุหลาบ (สามารถดูวิธีการทำตามเว็ปไซต์ต่างๆ ได้ค่ะ) เมื่อทำดอกไม้ออกมาแล้ว ก็นำมาแปะลงบนฉากถ่ายรูปแต่งงาน โดยแปะให้เต็มทั่วทั้งฉาก มองดูแล้วจะเป็นเหมือนกับฉากดอกไม้ขนาดใหญ่ แต่ราคาเบามากกว่าใช้ดอกไม้จริงค่ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

ม่านดอกไม้

ถ้าอยากใช้ดอกไม้จริงในการจัดฉากถ่ายรูปแต่งงาน แต่ไม่อยากใช้เยอะลองทำตามไอเดียนี้ดูค่ะ เพียงแค่คุณหาดอกไม้สดสีสันสดใส หรือจะเลือกใช้สีตามธีมงานแต่งก็ได้ จากนั้นนำมาร้อยลงบนสายเอ็นใส และเว้นระยะห่างของดอกไม้แต่ละดอกไว้ แล้วร้อยให้ได้เยอะๆ และนำมาห้อยไว้ให้เป็นฉากถ่ายรูปแต่งงาน คุณก็จะได้ม่านดอกไม้สวยสดใส และไม่แพงแล้วค่ะ

ถ่ายรูปแต่งงาน

ฉากใบไม้

เอาใจบ่าวสาวสายรักษ์ธรรมชาติ ที่ชอบสไตล์แบบมินิมอล ลองเลือกกระดาษขาวหรือผ้าแคนวาสสีขาวมาเพื่อเป็นฉากหลัง และเลือกใบไม้มาประดับตรงแต่งโดยทิ้งพื้นที่ตรงกลางเอาไว้ให้แขกมายืนถ่ายภาพ โดยอาจจะเลือกใบไม้จากความสวยงาม หรือความหมายดีๆ ก็ได้นะจ๊ะ และแน่นอนราคาใบไม้ถูกกว่าราคาดอกไม้แน่นอน

ถ่ายรูปแต่งงาน

ดอกไม้พร้อมกับก้าน

เน้นความสะดวกเรียบง่าย สวยงาม และไม่เหมือนใคร เพียงแค่เลือกดอกไม้สีสันงดงามมาพร้อมกับก้านของดอกไม้ที่เป็นธรรมชาติ จากนั้นวางประดับลงไปบนฉากถ่ายรูปแต่งงาน โดยเรียงเอาไว้ให้สวยงาม สับหว่างให้ดูดี เพราะถ้าวางแบบตามใจฉัน ฉากจะออกมารก และดูไร้รสนิยมไปเลยค่ะ

ฉากถ่ายรูปแต่งงาน

เป็นอย่างไรบ้างคะกับการ DIY ฉากถ่ายรูปแต่งงานแบบง่ายๆ ใครก็ทำได้ ที่สวยงามและปังสุดๆ และที่สำคัญเซฟงบในกระเป๋าลงไปได้เยอะเลย สำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการจัดงานแต่งงานเล็กๆ แต่หาฉากถ่ายรูปแต่งงานแบบสวยๆ ไม่ได้ลองดู งบน้อยแต่ไม่ตกเทรนด์ด้วย 20 ฉากถ่ายรูปงานแต่งสไตล์ Greenery เพื่องานแต่งงานขนาดเล็ก

ภาพจาก : Pinterest.com

‘โกหกให้รู้สึกดี’ เหตุผลฟังดูดีแต่คนรักกันไม่ควรใช้

หนึ่งในเหตุผลของการโกหกที่หลายคนใช้เพื่อให้สถานการณ์หมางใจตรงหน้าดีขึ้นคือ โกหกให้รู้สึกดี ซึ่งบางคนคิดเข้าข้างตัวเองว่า ขอเลวเองที่เป็นคนโกหกดีกว่าพูดออกไปแล้วเธอไม่มีความสุข แต่แบบนั้นน่ะ คุณว่าเป็นการกระทำที่คนรักกันควรทำให้กันจริงเหรอคะ แล้วคุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าอีกฝ่ายรู้ในเหตุผลนี้จะซึ้งหรือเศร้า

เอาล่ะค่ะ ก่อนจะมารู้ว่าคนที่ได้รับการ “โกหก” จะ “รู้สึกดี” จริงอย่างที่หวังหรือเปล่า มาฟังเหตุผลมราเราสรุปมาให้จากใจคนโกหกถึงความคิดที่ทำให้ตัดสินใจ “โกหกให้รู้สึกดี” ด้วยเหตุผลนี้กันดีกว่า

  • เพราะคิดว่ารู้จักนิสัยของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี

เพราะมั่นใจว่ารู้จักนิสัยของคนรักเป็นอย่างดีในเรื่องที่ว่า ปัญหาไหนหรือเหตุการณ์อะไรที่คนรักรับไม่ได้แน่นอนหรือรู้เรื่องแล้วต้องคิดมากเสียความรู้สึกจนชีวิตคู่หม่นหมอง แต่สิ่งที่คุณต้องทำก็เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน ฉะนั้นการโกหกด้วยเหตุผลว่าอยากให้รู้สึกดีจึงเกิดขึ้น ด้วยประการฉะนี้ แต่เราขอบอกในฐานะคนโดนกระทำว่า “อย่าคิดแทนได้ไหม”

  • เพราะทำผิดจริงแต่บังเอิญว่ารู้จุดอ่อน

คนที่ทำผิดจริงแต่พยายามหาทางออกให้กับตัวเอง มักเลือกการโกหกเพื่อเอาตัวรอด โดยงัดเอาคำว่าอยากให้รู้สึกดีเป็นไม้ตาย เพราะรู้ดีว่าถ้าคุณได้ยินคำนี้คุณเป็นต้องใจอ่อนยอมยกโทษให้แน่นอน อ้าวแหม…ก็พอฟังแล้วจะรู้สึกถึงความรักที่อีกฝ่ายมีให้เต็มหัวใจ ประมาณว่า เขาคิดถึงเราเนอะเลยต้องโกหก คนรักของคุณก็เลยใช้คำพูดนี้เสมอเมื่อทำผิด ส่วนคุณน่ะเหรอ ซึ้งใจไปค่ะ อุ้ยตาย! เขารักฉันไม่อยากให้คิดมาก ก็เพ้อกันไปแบบหลอกตัวเองเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัวอ่ะค่ะ

  • เพราะคุณไม่เชื่อความจริง

เขาอาจเพียรพยายามพูดความจริงแบบสุดพลังแต่คุณก็ยังไม่เชื่อ อาจเพราะฝังใจกับความผิดเก่าหรือยึดติดกับความคิดของตัวเองบวกกับมีเพื่อนเป่าข้างหูจนลืมมองความจริง สุดท้ายแล้วสิ่งที่เขาเลือกทำเพื่อให้จบสถานการณ์น่าอึดอัดตรงหน้าคือ ไหนๆ บอกความจริงก็ไม่เชื่อ ถ้างั้นก็ฟังเวอร์ชั่นโกหกไปเลยละกันนะที่รัก ซึ่งแน่นอนว่าที่ต้องพูดเวอร์ชั่นโกหกก็จะเพื่ออะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะอยากให้คุณรู้สึกดี แหม…ถ้าด้วยเหตุผลนี้ก็น่าสงสารอยู่เหมือนกันนะเนี่ย

  • เพราะทำซะเคยจนเป็น…นิสัย

แรกๆ ก็ไม่ได้ตั้งใจจะโกหกให้รู้สึกดีหรอกค่ะ แต่เพราะใช้เหตุผลนี้บ่อยครั้งเข้าแล้วได้ผลเสมอเลยเหมือนเป็นเหตุผลอัตโนมัติไปซะแล้ว เวลาเกิดเรื่องขึ้นมาปากก็เลยพูดออกไปก่อนเลยว่าที่โกหกไปเพราะอยากให้รู้สึกดี พูดแบบนี้จนเป็นนิสัยทุกทีทุกรอบจนแก้ไม่ได้เหมือนเป็นมุกแก้ตัวแรกประจำตัวไปเลยก็ว่าได้ ทีนี้พอเรื่องอะไรก็ตามเกิดขึ้นก็จะพูดทันทีว่า ไม่ได้อยากโกหกแต่อยากให้รู้สึกดี…ดี๊ดีเนอะ!!

หลังจากที่รู้ถึงความคิดที่คนโกหกใช้เหตุผลว่าอยากให้ “รู้สึกดี” กันไปแล้ว มาดูความคิดคนที่เป็นผู้ได้รับการโกหกกันบ้างไหมว่ารู้สึกยังไง…คำตอบสั้นๆ ที่เรียกได้ว่าเกือบ 100% ของทั้งชายและหญิงคือ สำหรับคนที่โดนโกหกไม่ว่าจะด้วยเหตุผลไหนก็ตาม แม้จะเข้าใจในเหตุผล แต่ลึกๆ แล้วก้ไม่สามารถยอมรับได้เต็มที่ เพราะไม่มีใครชอบหรอกที่จะฟังเรื่องเท็จ และที่สำคัญถ้าทุ่มใจให้เต็มที่ จริงใจให้เต็มร้อย ไม่เคยพูดโกหกใส่เลยแม้แต่ครั้งเดียว ความคาดหวังที่จะได้รับความจริงใจจะมีตามมา

และสุดท้ายของความรู้สึกของคนที่โดนโกหกให้รู้สึกดีที่อยากบอกก็คือ “คนรักกันไม่ควรโกหก แต่ควรเลือกที่จะพูดความจริงกันมาเสียตั้งแต่แรก และอย่าได้คิดแทนว่าอีกฝ่ายจะคิดยังไง คนที่จะตัดสินว่ารับได้ไหมกับสิ่งที่เกิดคือเจ้าตัวเอง ไม่ใช่คุณ”

จำไว้นะคะ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ถ้าคุณพูดความจริงตั้งแต่วันแรกกับคนที่รัก ความจริงนั้นยังคงเป็นความจริงอยู่เสมอ และคนๆ นั้นจะรู้สึกดีกับความจริงใจที่คุณได้แสดงออกมาแม้คุณจะทำความผิดไม่ว่าจะตั้งใจหรือจำเป็นที่ต้องทำ ถ้าคนรักของคุณรักคุณจริงๆ ก็พร้อมจะเข้าใจในเหตุผลทั้งหมดได้ แต่ถ้าคุณเลือกที่จะโกหกแล้วไปไม่รอดหรือแม้แต่ลืมว่าเคยโกหกว่ายังไงไว้ กลับมาพูดอีกครั้งคนละเรื่องคนละราว คนที่จำได้จะรู้สึกแย่มาก และความสัมพันธ์ดีๆ ที่คุณคิดไว้จะลดลงไปจนอาจหายไปสิ้น

ฉะนั้นเพื่อให้การอยู่ร่วมกันของคุณและคนรักเป็นไปได้อย่างที่ใจปรารถนา จงพูดแต่ความจริงให้กัน เพราะต่อให้ความจริงนั้นเลวร้าย หรือทำร้ายความรู้สึก ก็คือความจริงที่ยังดีกว่าเจอความจริงที่โหดร้ายแบบบวกเพิ่มความโกหกเพราะปรารถนาดีค่ะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความสัมพันธ์และชีวิตคู่เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : www.inovasee.com

ช็อตเด็ด!! ภาพถ่ายงานแต่งของเจ้าสาวที่ห้ามลืมบอกช่างภาพให้สแนปไว้

เมื่อวันสำคัญในชีวิตอย่างวันแต่งงานเดินทางมาถึง และสิ่งที่คุณได้เตรียมการไว้ก็กำลังจะปรากฏเป็นรูปร่างในวันนี้ เพราะฉะนั้นสิ่งที่บ่าวสาวต้องทำในวันนี้ก็เพียงแค่ปล่อยใจปล่อยกายให้มีความสุขในวันสำคัญ และเตรียมตัวฉีกยิ้มให้กว้างอย่างมีความสุขเพื่อให้ช่างภาพได้เก็บโมเม้นต์สุดพิเศษนี้ไว้ แต่…ในเมื่อจะเก็บภาพความประทับใจทั้งทีงานนี้ก็ต้องเตรียมตัวเหมือนกันนะคะ โดยเฉพาะคุณเจ้าสาวที่ทั้งแต่งหน้า ทำผม และแต่งตัวแบบจัดเต็มก็อาจจะต้องเพิ่มความพิเศษใน ภาพถ่ายงานแต่ง มากสักหน่อย แพรว wedding เลยจัด 12 ช็อตเด็ดที่เจ้าสาวอย่าลืมบอกช่างภาพให้สแนปไว้มาฝาก

ภาพถ่ายงานแต่ง

นอกจากเจ้าบ่าว คุณพ่อคุณแม่ และครอบครัวแล้ว อีกหนึ่งคนที่อยู่ใกล้ชิดและคอยให้ความช่วยเหลือกับเจ้าสาวมากที่สุดก็คือเพื่อนสาวสุดซี้ที่ยกแก๊งกันมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว ซึ่งแน่นอนว่านอกจากพวกเธอจะให้การช่วยเหลือตั้งแต่เริ่มต้นจนจบงานแล้ว แม้กระทั่งในช่วงเวลาของการเตรียมตัวของเจ้าสาว เพื่อนๆ แก๊งนี้ก็จะคอยอยู่ช่วยเหลือคุณในทุกโมเม้นต์ ซึ่งช่วงเวลาแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ เหมือนยกแก๊งไปเที่ยวกันจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นอย่าลืมบอกช่างภาพให้คอยเก็บภาพความประทับใจขณะที่แก๊งเพื่อนเจ้าสาวกำลังช่วยทำนู่นทำนี่ให้กับเจ้าสาวด้วยนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งภาพที่จะช่วยย้ำเตือนถึงความสัมพันธ์ได้อย่างน่าประทับใจ

ภาพถ่ายงานแต่ง

นอกจากที่จะเก็บภาพความประทับใจขณะที่แก๊งเพื่อนเจ้าสาวกำลังช่วยเจ้าสาวแต่งตัวแล้ว การสแนปภาพอารมณ์และความรู้สึกของแก๊งเพื่อนเจ้าสาวและเจ้าสาวเอาไว้ก็เป็นสิ่งที่คุณต้องกระซิบบอกช่างภาพไว้นะคะ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายสวยๆ โพสต์ท่าสุดเป๊ะจิกกล้องกันยกแก๊ง หรือจะเป็นภาพแคนดิดที่เก็บทุกโมเม้นต์ของคุณและเพื่อนๆ เอาไว้ ไม่ว่าจะยิ้ม หัวเราะ หรือกอดกัน ก็ถือเป็นอีกหนึ่งโมเม้นต์ดีๆ ที่เมื่อหยิบมาดูอีกทีเมื่อไหร่ก็ประทับใจเมื่อนั้น

กว่าจะได้ทรงผมเจ้าสาวทรงนี้มา เราว่าคุณก็คงเลือกแล้วเลือกอีก เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกอยู่หลายรอบจริงไหมคะ เพราะฉะนั้นหากเจ้าสาวพิถีพิถันขนาดนี้ก็อย่าลืมให้ช่างภาพเก็บภาพโคลสอัพทรงผมของเจ้าสาวทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังเอาไว้ด้วย รวมไปถึงระหว่างที่ช่างกำลังทำผม หรือทำเสร็จแล้ว เราเชื่อว่าภาพถ่ายชุดนี้หากเจ้าสาวได้ย้อนกลับมาดูอีกทีก็คงเผลอยิ้มตามไปกับความงามแน่นอน

ภาพถ่ายงานแต่ง

เก็บภาพทรงผมไปแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเก็บภาพเมคอัพด้วยสิค่ะ เพราะใบหน้าถือว่าเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนที่เจ้าสาวให้ความสำคัญเป็นพิเศษ แถมยังใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะสวยเริดพร้อมอวดโฉมอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นการเก็บภาพช่วงเวลานี้ไว้ก็ถือเป็นอีกโมเม้นต์ที่ไม่ควรพลาด คล้ายๆ กับการเก็บภาพแบบ behind the scenes เอาไว้ แถมถ้าในห้องแต่งหน้าแต่งตัวมีแก๊งเพื่อนสาวที่นั่งเสริมสวยอยู่ด้วยกันแล้วล่ะก็ รับรองว่าภาพถ่ายเซตนี้จะเป็น topic ให้คุณและเพื่อนได้โพสต์ ได้แชร์ และได้พูดถึงไปอีกนาน

นอกจากช่วงถ่ายภาพที่แบ็กดร็อป ช่วงเดินเข้างาน หรือช่วงเฉลิมฉลองบนเวทีแล้ว อีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญในงานแต่งของคุณก็คือช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ยิ่งถ้าหากเจ้าสาวหรือแก๊งเพื่อนเจ้าสาวมีชุดแซ่บๆ ที่เตรียมไว้สำหรับช่วงนี้แล้วด้วย ยิ่งต้องไม่พลาดเด็ดขาดที่จะให้ช่างภาพสแนปไว้

เก็บผม เก็บหน้าแล้ว จะลืมเก็บเล็บเจ้าสาวสวยๆ ในแหวนเพชรวงงามได้ยังไง แถมช็อตนี้อาจจะเป็นช็อตแรกๆ ที่เจ้าสาวต้องให้ช่าภาพรีบสแนปไว้ โดยเฉพาะในช่วงพิธีสวมแหวน ซูมได้เท่าไหร่ยิ่งดี เพราะยิ่งนานเท่าไหร่เวลาเจ้าสาวหยิบนู่นทำนี่บางทีเล็บสวยๆ ก็อาจจะไม่สวยแล้วก็ได้ ถึงตอนนั้นมาเก็บภาพเอาตอนหลังอาจจะได้เล็บสีถลอกหรือหักไปล่ะก็เสียใจแย่

ภาพถ่ายงานแต่ง

ถึงแม้จะเป็นมุมที่เรียบง่ายดูไม่มีอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไปเชื่อเถอะว่ารูปนี้จะดูคลาสสิคเสมอ กับภาพถ่ายเจ้าสาวเต็มตัวที่สีหน้าและแววตาเปี่ยมไปด้วยความสุข เพราะฉะนั้นอย่าลืมให้ช่างภาพสแนปภาพเต็มตัวเจ้าสาวอีกครั้งก่อนที่ประตูเข้างานจะเปิด รับรองว่าช่วงเวลานั้นทั้งสีหน้าและแววตาของเจ้าสาวจะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกแบบไม่ต้องพยายามบิ้วด์แน่นอน

ภาพถ่ายงานแต่ง

ชุดแต่งงานมักจะเป็นชุดที่เน้นการโชว์ผิวของเจ้าสาวเสมอ เพราะฉะนั้นภาพอีกหนึ่งช็อตที่จะช่วยพรีเซ้นต์ผิวของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดีก็คือ ภาพถ่ายผ่านหัวไหล่ของเจ้าสาวไป รับรองว่าได้ทั้งลุคสวยหวาน ปนเซ็กซี่น่าค้นหาแน่นอน

ภาพถ่ายงานแต่ง

หากเจ้าสาวสวมเวลแล้วล่ะก็ อย่าลืมบอกช่างภาพให้เก็บภาพของเจ้าสาวในเวลเอาไว้ด้วย โดยอาจจะให้ช่างภาพถ่ายภาพใบหน้าของเจ้าสาวที่มีเวลบดบังอยู่ก็ช่วยให้ลุคของภาพดูโรแมนติก หรือจะเป็นช่วงที่เจ้าสาวกำลังจะติดเวลเตรียมพร้อมเข้าสู่งานก็ได้เช่นกัน

ภาพถ่ายงานแต่ง

แน่นอนว่าในภาพถ่ายจุดรวมสายตาก็คือใบหน้าของเจ้าสาว แต่ถ้าหากลุคของเจ้าสาวนั้นมีแอคเซสซอนี่ชิ้นสำคัญที่คุณพิถีพิถันเลือกมาเป็นอย่างดีเพื่อใช้ในวันสำคัญแล้วล่ะก็ อาจจะให้ช่างภาพเก็บภาพแอคเซสซอรี่นี้ไว้ต่างหาก เช่น เฮดพีช เซตเครื่องประดับ หรือรองเท้าคู่งาม เป็นต้น เพราะหากวันหนึ่งของชิ้นนี้เกิดชำรุดเสียหาย คุณก็ยังมีภาพถ่ายสวยๆ เอาไว้ดูแทน

ภาพถ่ายมุมสูง เป็นอีกหนึ่งมุมภาพที่สวยงามและสามารถเก็บรายละเอียดรอบด้านไว้อย่างครบถ้วน เพราะฉะนั้นในช่วงที่ทุกคนกำลังรุมล้อมช่วยกันแต่งตัวให้เจ้าสาว หรือกำลังตรวจเช็กความเรียบร้อยก่อนเข้างาน ภาพมุมนี้ก็จะช่วยเก็บอีกหนึ่งโมเม้นต์ดีๆ ภายใต้มุมภาพสุดเก๋นี้ได้อีกด้วย

กระจกวิเศษบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี…จงจินตนาการว่าตัวคุณคือสโนไวท์ที่กำลังจะเข้าพิธีแต่งงานกับเจ้าชายรูปหล่อ ด้วยการให้ช่างภาพถ่ายเจ้าสาวผ่านกระจก ก็เป็นอีกหนึ่งภาพที่สวยงามที่เจ้าสาวไม่ควรพลาด

Read More : 10 ไอเดียถ่ายรูปแต่งงาน กับโมเม้นต์เปิดตัวเจ้าสาวสุดประทับใจ

CR. popsugar.com, eveevent.com, washingtonian.com, pinterest.com

ชุดเจ้าบ่าว ต้องมี 4 สิ่งนี้รับรองว่าเจ้าบ่าวจะหล่อเนี้ยบเกินต้าน

ชุดเจ้าบ่าว เป็นชุดที่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถันไม่แพ้ชุดเจ้าสาว เพราะไหนจะเรื่องสี เรื่องไซส์ เรื่องพร็อพส์ประกอบต่างๆ ต้องดูเข้ากันทั้งชุด แพรวเวดดิ้งเลยมีเคล็ดลับการเลือกชุดเจ้าบ่าวมาให้ เพราะเพียงแค่คุณมี 4 สิ่งนี้ก็ช่วยคอมพลีตลุคให้ดูดีในวันแต่งงานได้แล้ว

สี

ชุดเจ้าบ่าว

โทนสีเข้มๆ อย่าง ดำ เทา กรมท่า น้ำเงิน เลือกไปเลยจ่ะ เพราะเป็นเฉดสีสุดคลาสสิคที่ใส่แล้วรอดทุกคน แต่ถ้าอยากได้ลุคดูดีแบบท่านชายก็ต้อง สีขาว รับรองว่าเท่สุดๆ ไปเลย

ชุดเจ้าบ่าว

ชุดเจ้าบ่าว

ชุดเจ้าบ่าว

เนคไท

ชุดเจ้าบ่าว

เป็นส่วนที่จะเล่นไปกับสีของธีมงานได้ ซึ่งเจ้าบ่าวจะใส่ได้ทั้ง โบไทและเนคไท ซึ่งเนคไทจะเลือกเป็นแบบปมเล็ก ปมใหญ่ก็ได้แล้วแต่ความมั่นใจกันไปเลย แล้วเพิ่มความเนี้ยบ ความคุณชายด้วยพ็อคเก็ตสแควร์ที่จะโผล่ออกมาจากกระเป๋าสูทด้วย แต่ทั้งเนคไทและพ็อคเก็ตสแควร์ต้องเป็นสีเดียวกันนะ

ชุดเจ้าบ่าว

งานแต่งธีมเทพนิยาย

สูท

งานแต่งธีมเทพนิยาย

สูททางการ คือคำตอบสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น ทักซิโด สูทหางยาว สูทสามชิ้น สูทอลังการ ก็สามารถใส่ได้หมดสำหรับงานนี้ และหากอยากเพิ่มลุคคลาสสิคเราขอแนะนำให้มีพร้อพเป็นไม้เท้าสีดำเท่ๆ และนาฬิกาพกเรือนสวย รับรองว่าคลาสสิคมากกก a a a a  a a  a a a a  a a a a  

งานแต่งธีมเทพนิยาย

งานแต่งธีมเทพนิยาย

งานแต่งธีมเทพนิยาย

รองเท้า

ในเมื่อชุดมาทางการขนาดนี้แล้ว รองเท้าจะพร่องไปก็ใช่ที่ ความทางการต้องมา รองเท้าเชือกผูกทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Brogue Shoes รองเท้าหนังที่โดดเด่นด้วยลายฉลุ Oxford Shoes รองเท้าของเหล่านักเรียนอ๊อกซ์ฟอร์ด และ Derby Shoes ก็ยังได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลต้องเป็นสีดำเท่านั้น! สีอื่นถือว่าผิดระเบียบ a a a  a  a a a a a

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าบ่าวเพิ่มเติม คลิกเลย <<

ภาพ pinterest

เช็กกันดูกับคู่รัก 4 แบบ คู่ของคุณเป็นแบบไหน ไปสำรวจพร้อมๆ กัน

คนๆ เดียวยังมีหลากแบบหลายนิสัย แล้วคนสองคนที่วนมารักกันจะมีแบบเดียวได้อย่างไร ถ้าอยากรู้ว่าคุณเป็น คู่รัก แบบไหน ไปสำรวจพร้อมๆ กับเราได้เลยค่ะ

ยิ่งรู้จักยิ่งรักกัน

หากคุณทั้งคู่ชอบอะไรหลายๆ อย่างเหมือนกัน ชอบทำกิจกรรมคล้ายๆ กัน และมักทำกิจกรรมร่วมกันเสมอ ก็บอกได้เลยว่าคุณคือคู่รักที่ยิ่งรู้จักยิ่งรักกัน ซึ่งคู่รักแบบนี้จะรู้ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับคู่ของตัวเอง เพราะมักจะใช้เวลาร่วมกันและแบ่งปันเรื่องราวต่อกันเสมอ ด้วยเหตุนี้จึงกลายเป็นคู่รักที่ครองรักกันยั่งยืนบนพื้นฐานของความใส่ใจและความเข้าใจที่มีให้แก่กัน

ยิ่งไฟต์ยิ่งรัก

คนอยู่ด้วยกันเป็นธรรมดาที่ต้องกระทบกระทั่งกันบ้างอย่างลิ้นกับฟัน ดังนั้นการถกเถียงหรือทะเลาะเบาะแว้งของคู่รักจึงถือเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักคู่ไฟต์ เพราะคู่รักแบบนี้ไม่ว่าจะไฟต์กันหนักหน่วงแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ปรองดองรักใคร่จุ๊บปากกันอยู่ดี เรียกว่าทะเลาะเพื่อเปิดใจ เถียงเพื่อปรับความเข้าใจ ยิ่งไฟต์กันมากแค่ไหนก็ยิ่งรักกันมากเท่านั้น

rsz_couple_by_lake

ดราม่าเป็นงานหลัก

ทะเลาะกันทุกวี่วันตั้งแต่เรื่องสากกะเบือไปยันเรือรบ พฤติกรรมของคู่คุณกำลังเป็นแบบนี้หรือเปล่า ถ้าใช่ก็คงต้องปวดหัวปวดใจกันหน่อย เพราะความรักของคู่คุณกำลังเข้าข่ายสร้างดราม่าเป็นงานหลัก ซึ่งไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ก็สรรหามาสร้างความร้าวฉานได้เสมอ อีกประเด็นสำคัญคือไม่มีฝ่ายไหนยอมลดราวาศอกให้กัน เป็นน้ำร้อนด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ก็ฟันธงได้เลยว่าอยู่ไม่ยืดแน่

คู่รัก สังคมจัด

คู่รักสังคมจัด คือคู่รักประเภทที่มีเพื่อนเยอะด้วยกันทั้งคู่ และที่สำคัญคือเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน รู้จักกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะเพื่อนกลายเป็นปัจจัยที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะต้องไปสังสรรค์กับฝ่ายไหนคุณทั้งคู่ก็สามารถไปด้วยกันได้อย่างไม่ขัดเขิน และไม่ต้องงอนง้อกันให้วุ่นวายใจอย่างคู่อื่นๆ ด้วยนะเออ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ข้อมูลและภาพจาก : www.brides.com, seinstitute.com,Relate Institute

วิธีรับมือกับรักต่างวัย พร้อม How To คบกันอย่างไรให้ความรักลงตัว

ไม่ว่าจะเป็นหนุ่มใหญ่ที่ไปตกหลุมรักผู้หญิงอายุน้อยกว่าหรือหนุ่มน้อยที่ไปรักสาวใหญ่  หากเป็นคู่รักหรือคู่แต่งงานที่มีอายุห่างกันมากมักเกิดช่องว่างของความต่างของวัย ยิ่งดีกรีอ่อนแก่พุ่งสูงถึงระดับ 10 ปีขึ้นไป มาตรวัดปัญหาในชีวิตคู่อาจเริ่มกระดิก ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า รักต่างวัย คบกันอย่างไรจึงลงตัว

รักต่างวัย คบกันอย่างไรจึงลงตัว

Photo by sept commercial on Unsplash

ประเด็นความขัดแย้งของฝ่ายอายุมากกว่าที่มักพบบ่อยคือ

  • ขาดความอดทน เวลาที่อีกฝ่ายแสดงความด้อยประสบการณ์หรือแสดงอารมณ์แบบเด็กๆ ตามวัย
  • ทำตัวเป็นพ่อหรือเป็นผู้ปกครอง ด้วยอายุที่มากกว่า ก็อดไม่ได้ที่จะอยากแนะนำ หรือสั่งให้ทำอย่างที่ตัวเองคิดว่าดี จนฝ่ายที่เด็กกว่ารู้สึกเหมือนถูกสอน และอาจแสดงการต่อต้าน
  • ถือว่าเหนือกว่า ฝ่ายที่อายุมากกว่ามักมีความพร้อมในทุกด้านโดยเฉพาะด้านการงานและเศรษฐกิจ จนทำให้รู้สึกเหนือกว่าอีกฝ่าย มีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่างในครอบครัว มองข้ามความเห็นและความต้องการของอีกฝ่าย
  • หึงหวง เพราะตนเองอายุมากกว่า จึงรู้สึกหวาดระแวงว่าจะไม่สามารถดึงดูดใจคู่ของตนได้ จึงใช้วิธีควบคุมให้อีกฝ่ายตกอยู่ภายใต้อำนาจของตน ไม่ยอมปล่อยให้มีชีวิตตามลำพัง
Photo by Toa Heftiba on Unsplash

ส่วนฝ่ายที่อายุน้อยกว่าก็อาจมีปัญหาไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

  • ยอมตกอยู่ภายใต้อำนาจอีกฝ่าย ความที่ฝ่ายแก่กว่ามักเป็นหลักของครอบครัว เป็นคนตัดสินใจทุกอย่างเอง ทำให้ฝ่ายที่เด็กกว่ารู้สึกขาดความมั่นใจ ยอมศิโรราบกับการตัดสินใจของอีกฝ่าย
  • มองอีกฝ่ายเป็นผู้ปกครองแทนที่จะเป็นคู่ ยอมให้อีกฝ่ายดูแลเอาใจใส่เหมือนตัวเองเป็นเด็กๆ รอถาม รอคำแนะนำ โดยไม่กล้าตัดสินใจเอง
  • มีปัญหาเรื่องกิจกรรมทางสังคม จากวัยที่ต่างกัน ความสนใจ กิจกรรมทางสังคม กลุ่มเพื่อน จึงแตกต่างกันไปด้วยบางคู่อาจเกิดความขัดแย้ง เพราะต้องมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นฝ่ายที่เด็ก เมื่อบ่อยเข้าก็อาจเกิดความเบื่อหน่าย

ไม่ว่าปัญหาจะเกิดจากฝ่ายไหน ทางออกของชีวิตคู่อยู่ที่การยอมรับในความแตกต่างอย่างเข้าใจและพร้อมให้เกียรติซึ่งกันและกัน เรื่องอายุอาจเป็นปัจจัยให้ความรักสะดุดได้บ้าง แต่ถ้าสองคนเชื่อมั่นในกันและกัน และพยายามปรับตัวเข้าหากันอย่างจริงใจ ไม่ปล่อยให้ตัวเลขของวัยหรืออีโก้ในตัวเองมาครอบงำความประพฤติ อายุที่ต่างก็จะไม่ใช่อุปสรรคของรักอีกต่อไป ยังไงแพรวเวดดิ้งขอเป็นกำลังใจให้คู่รักต่างวัยทุกคู่นะคะ

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

ไม่อยากให้เพื่อนแฟนเบือนหน้าหนีมาเช็ก 10 นิสัยได้ใจเพื่อนแฟนมาเป็นพวก

“ฉันไม่ถูกกับเพื่อนแฟน” ปัญหาหยุมหยิมที่อาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ หากใครที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ แพรวเวดดิ้งอยากให้ลองสังเกตตัวเองดูว่าคุณมีนิสัยตรงข้ามกับ 10 ข้อนี้หรือเปล่า เหล่า เพื่อนแฟน ถึงพากันเบือนหน้าหนี 

1. อัธยาศัยดี
เมื่อต้องพบปะกับเพื่อนแฟน สิ่งแรกที่คุณควรทำคือยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะแสดงถึงความเป็นมิตร อัธยาศัยดี และเป็นกันเอง ซึ่งทำให้พวกเขากล้าที่จะเข้ามาพูดคุยกับคุณมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่พูดไม่เก่ง รอยยิ้มสวยๆ ช่วยได้ เพราะถ้ามัวแต่ทำหน้าบูดบึ้งตึงดึงหน้าตลอดเวลา นอกจากจะทำให้เสียบรรยากาศแล้ว ยังทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาสานสัมพันธ์กับคุณอีกด้วย

2. มีเหตุผล
เพื่อนแฟนชอบแฟนเพื่อนที่เป็นคนมีเหตุผล อย่าทำตัวเป็นมนุษย์แฟนประเภทที่เอาแต่ใจ ไม่ฟังเหตุผลใดๆ ของใครทั้งสิ้น เพราะแน่นอนว่าคุณต้องเจอสถานการณ์ที่แฟนต้องไปสังสรรค์กับเพื่อนบ้าง ไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง อย่างนี้แหละที่คุณต้องเข้าใจและใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ เหงาได้ น้อยใจได้ แต่ต้องไม่พร่ำเพรื่อ รู้จักเวร่ำเวลาและสถานการณ์

3. ให้เกียรติ 

การให้เกียรติเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกๆ คู่รักควรปฏิบัติต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นต่อหน้าหรือลับหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าเพื่อนๆ ของอีกฝ่าย เพราะหากคุณแสดงความไม่ให้เกียรติแฟนของคุณ เช่น แสดงตัวว่ามีอำนาจเหนือกว่า แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของจนเกินงาม หรือทะเลาะกันต่อหน้าเพื่อนๆ คนที่ไม่พอใจนอกจากจะเป็นแฟนของคุณแล้ว บรรดาเพื่อนแฟนก็จะไม่ชอบคุณตามไปด้วย เพราะแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ให้เกียรติพวกเขาเช่นกัน

4. มีน้ำใจ 

ความมีน้ำใจ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับการอยู่ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นในสังคมใดก็ตาม คงไม่ต้องสาธยายความดีงามกันให้มากสำหรับนิสัยข้อนี้ ขอแค่พกติดตัวไว้ ไม่ว่าเพื่อนแฟนคนไหนๆ ก็ต้องเทใจให้คุณแน่นอน

5. สนุกสนานเฮฮา

เพราะคนสนุกสนานเฮฮาดูเป็นคนที่เข้าถึงง่ายและช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการอยู่ร่วมกัน ทำให้ไม่ว่าใครๆ ก็สบายอกสบายใจที่จะพูดคุยหรือคบค้าสมาคมด้วย นี่จึงเป็นอีกนิสัยที่ดึงคะแนนจากเพื่อนแฟนได้มาก แต่หากคุณไม่ใช่คนที่มีความตลกเป็นพื้นฐาน ก็ส่งยิ้มหวานๆ แสดงความเป็นมิตรอย่างนิสัยในข้อแรกแทนก็ได้

6. ไม่เรื่องเยอะ 

แน่นอนว่าคุณกับเพื่อนแฟนต้องไปไหนมาไหนหรือทำอะไรร่วมกันบ้าง อย่างน้อยก็พบปะสังสรรค์หรือไปเที่ยว ดังนั้นการเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ไม่เรื่องมาก ช่วยทำให้เพื่อนแฟนคลายความกังวลและความอึดอัดใจไปได้ แถมยังทำให้พวกเขากล้าเข้ามากระชับความสัมพันธ์กับคุณมากขึ้นอีกด้วย

7. ไม่ตามจิก
อย่างที่บอกไปแล้วว่าเพื่อนแฟนชอบแฟนเพื่อนที่มีเหตุผล ซึ่งนิสัยข้อนี้ก็แตกย่อยมาจากความมีเหตุผลที่ว่านั่นเอง คงไม่มีใครชอบถูกตามจิกตามจี้เวลาอยู่กับเพื่อน และไม่ใช่เพียงแฟนของคุณเท่านั้นที่ไม่ชอบ เพื่อนของแฟนคุณก็ต้องไม่ชอบด้วยเช่นกันลองนึกถึงใจเขาใจเรา หากคุณต้องตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นก็คงอึดอัดใจน่าดู

8. ไม่ขี้งก
ความขี้งกเป็นอีกหนึ่งนิสัยที่ทำให้อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ยาก ในสังคมของเพื่อนแฟนก็เช่นกัน เพราะอย่างน้อยก็ต้องกินข้าวร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ค่าใช้จ่ายก็ต้องแชร์กันหารกันเป็นธรรมดา ดังนั้นถ้าคุณมัวแต่ตระหนี่ถี่เหนียวจนเกินไปก็คงไม่ดีนัก ประเภทที่ฉันกินเท่านี้ขอจ่ายเท่านี้ ขอบอกเลยว่ายากถ้าอยากจะได้ใจเพื่อนแฟนมาครอง

9. ไม่ขี้โม้ขี้อวด
ความขี้โม้ขี้อวดมีแต่จะเป็นภัยกับตัวคุณ ถ้าอยากชนะใจเพื่อนแฟนได้ขอบอกเลยว่าไม่ควรทำ เพราะเพื่อนแฟนเขาไม่ใช่เพื่อนแท้หรือแฟนที่รู้นิสัยใจคอจริงๆ ของคุณ ทั้งนี้คุณอาจเป็นคนขี้โม้ขี้อวดไปเรื่อยตามเรื่องตามราว ซึ่งจริงๆ แล้วไม่มีพิษมีภัยอะไร แต่ใครๆ เขาไม่เข้าใจด้วยหรอก ยิ่งจะทำให้เกิดความหมั่นไส้และไม่ชอบหน้ากันเสียมากกว่า

10. ไม่ขี้บ่น
ความจู้จี้ขี้บ่นของมนุษย์แฟน หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ถ้าสะสมมากๆก็สร้างความรำคาญใจได้ไม่เบาอย่างบางคนบ่นแฟนคนเดียวไม่พอลามไปถึงเพื่อนแฟนด้วย แบบนี้ก็ไม่ไหว ถ้าบ่นมากๆ เข้า ระวังครั้งหน้าเพื่อนแฟนจะยกมือไหว้เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นญาติผู้ใหญ่นะคะ

สำหรับใครที่ยังมีไม่ครบ 10 ข้อนี้ก็ไม่เป็นไร ลองปรับกันทีละเล็กทีละน้อย รับรองว่าได้ใจเพื่อนเขาเพื่อนเธอมาเป็นพวกในไม่ช้าแน่นอน

>> อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย! <<

สอน ว่าที่เจ้าสาว เลือก ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ให้เข้ากับสภาพผิวของคุณ

ผิวสะอาดมีชัยไปเกินครึ่ง! ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลาย มาเลือก ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า ที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณกันค่ะ

ล้างหน้า ดูเหมือนเรื่องง่ายที่ใครก็ทำเป็นใช่ไหมละ! แต่ผิดถนัดค่ะ! เรื่องการเลือก ผลิตภัณฑ์ล้างหน้า นี่แหละที่ทำเอาสาวๆหลายคนตกม้าตายมานักต่อนัก ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดผิวหน้าที่ไม่สะอาดเพียงพอจนเกิดสิวหรือผิวหมองคล้ำตามมา หรือในทางตรงกันข้าม ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่เหมาะกับสภาพผิวตัวเองจนกลายเป็นทำร้ายผิวไปซะยังงั้น! ยิ่งว่าที่เจ้าสาวที่จะต้องเตรียมพร้อมดูแลผิวเพื่อความสวยในวันสำคัญ ต้องเซ็ทศูนย์ เริ่มต้นใหม่จากการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับสภาพผิวเราก่อนเป็นอย่างแรก มาดูกันเลยค่ะ

 

  • ผิวธรรมดา

สภาพผิว: ไม่มัน ไม่แห้ง ไม่ค่อยมีปัญหาผิวอะไรเท่าไร

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคุณ: ผิวธรรมดาคือผิวที่รูขุมขนผลิตน้ำมันออกมาไม่มากเกินหรือน้อยเกินไป ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคุณควรเน้นการรักษาสมดุลผิวโดยไม่เข้าไปรบกวนการทำงานของรูขุมขนหรือขจัดสิ่งตกค้างบนผิวมากเกินไปจนกลายเป็นเอาน้ำมันเคลือบผิวตามธรรมชาติที่ดีออกไปจนหมด

ส่วนผสมที่ควรมองหา: Hyaluronic acid กรดไฮยาลูโรนิค เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวหน้า และ Ceramides เซราไมด์ สร้างเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง

 

  • ผิวมัน

สภาพผิว: รูขุมขนกว้าง ระหว่างมีความมันบนใบหน้าไม่เว้นแม้แต่บริเวณข้างแก้ม

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคุณ: ปัญหาของผิวมันคือรูขุมขนกว้างทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปได้ง่าย จึงควรมองหาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ดึงน้ำมันออกจากผิวจนกลายเป็นว่าผิวแห้งตึงเกินไปหลังล้าง

ส่วนผสมที่ควรมองหา: ลองมองหาผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยดูดซับสิ่งสกปรกได้ดี

 

  • ผิวแห้ง

สภาพผิว: หลังล้างหน้าสักพัก ผิวจะรู้สึกแห้งตึงเร็วมาก และมักจะประสบปัญหาผิวลอก มีริ้วรอยง่ายกว่าคนอื่น

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคุณ: ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ช่วยทำความสะอาดผิวโดยไม่ดึงเอาน้ำมันตามธรรมชาติของผิวออกไป

ส่วนผสมที่ควรมองหา: เอสเซนเชียล ออยล์ หรือกลีเซอรีน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นและกระตุ้นให้ผิวดึงความชุ่มชื้นในอากาศเข้ามาสู่ตัวเอง

 

  • ผิวผสม

สภาพผิว: ผิวมีความมันบริเวณเหนือคิ้ว จมูก คาง และรอบๆจมูก แต่บริเวณแก้มอาจจะแห้งหรือเป็นผิวธรรมดา

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคุณ: ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวผสมโดยเฉพาะที่มีส่วนผสมที่ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนล้ำลึกแต่ในขณะเดียวกันก็รักษาความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของผิวไว้

ส่วนผสมที่ควรมองหา: ส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยคงความชุ่มชื่นของผิวแต่ในขณะเดียวกันก็ทำความสะอาดผิวอย่าง Witch Hazel

 

  • ผิวแพ้ง่าย

สภาพผิว: มักจะมีปัญหาผื่นแพ้ สิวผดที่เกิดจากการแพ้ คัน ระคายเคืองง่าย

ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะกับคุณ: หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฟอง เพราะฟองเหล่านี้ทำให้ค่า pH หรือค่าความเป็นกรดด่างของผิวสูญเสียไป และยิ่งทำให้ผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายขึ้นกว่าเดิม

ส่วนผสมที่ควรมองหา: ส่วนผสมที่ช่วยรักษาค่า pH ของผิว รวมทั้งส่วนผสมตามธรรมชาติที่ช่วยเติมความชุ่มชื่นอย่าง อะโล เวรา

อย่าลืมนะคะว่า กุญแจสำคัญของผิวสวยแบบธรรมชาติสุดๆ ก็คือผิวที่สะอาดและแข็งแรง เพราะฉะนั้นเหล่า ว่าที่เจ้าสาว ที่กำลังเตรียมผิวสวยให้ทันวันวิวาห์ อย่าลืมใส่ใจกับการเลือกสกินแคร์ที่ใช่สำหรับตัวเรา รวมทั้งมีวินัยในการดูแลผิวสวยอย่างต่อเนื่องด้วยนะคะ ว่าแล้วก็คลิกอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับความสวยความงามและสุขภาพเพิ่มเติมที่นี่ได้เลย คลิกเลย!

credit story: harpersbazaar.com , birchbox.com 

เพิ่มเสน่ห์เจ้าสาวด้วยช่อดอกไม้ 5 เฉดสี ที่ไม่มีวันเอ้าท์!

เพิ่มเสน่ห์ของเจ้าสาวด้วย ช่อดอกไม้ ที่อยู่ในมือ

เจ้าเครื่องประดับทั้งหลายเป็นตัวช่วยเสริมให้เจ้าสาวสามารถแสดงถึงตัวตน บุคลิกภาพ และไลฟ์สไตล์อย่างชัดเจน แล้วจะยิ่งมีความโดดเด่นมากขึ้นเมื่อนำมามิกซ์แอนด์แมทช์เข้ากับ ช่อดอกไม้ ที่อยู่ในมือนั่นแหละค่ะ ถ้าช่อดอกไม้จะช่วยบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณขนาดนี้  ทำไมคุณไม่ลองเอาดอกไม้ที่คุณชื่นชอบมาสร้างแรงบันดาลใจประยุกต์ลงในงานแต่งงานของคุณในมีสีสันขึ้นล่ะจริงไหมคะ เราเชื่อว่ามันต้องน่าทึ่งมากแน่ๆ เลยทีเดียว งั้นแพรว wedding ขอทำหน้าที่เป็นสไตล์ลิสต์มาช่วยสร้างสรรค์ผลงานผ่านการแปลงโฉมเจ้าสาวให้ดูเฉิดฉายด้วยการจับคู่เครื่องประดับเข้ากับช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบคุมโทนใน 5 สีที่ไม่มีวันเอ้าท์!

ช่อดอกไม้
Photo by : Lennart Weibull

ช่อดอกไม้

Classic Blush

เป็นโทนที่จะเน้นสีชมพูซะส่วนใหญ่ แต่ก็ยังมีโทนสีคลากสิคอื่นที่นำมาใช้แทนกันได้อยู่นะคะ ได้แก่ สีครีมขาว สีน้ำตาลอมเทา และสีทองชมพู เป็นสีที่บ่งบอกอารมณ์ของความรักที่ไร้กาลเวลาหรือเสมือนความรักที่เกิดขึ้นใหม่เสมอ ไม่มีวันจืดจางหายไป ที่สำคัญเจ้าสาวที่เลือกใช้เครื่องประดับบวกกับช่อดอกไม้โทนสีนี้ก็จะยิ่งช่วยให้ดูวัยรุ่น เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีๆ สีนี้ก็ยังคงดูทันสมัยนะคะว่ามั้ย โดยสามารถเลือกใช้ช่อดอกไม้ตระกูลกล้วยไม้สกุลฟาแลนอปซีสหรือที่บางคนเรียกว่าดอกผีเสื้อนั่นแหละค่า (ลักษณะคล้ายผีเสื้อ) หรือจะใช้ดอกกุหลาบก็ได้นะคะ ขอเป็นสีบลัชพิงค์ก็จะยิ่งสวยหวานมาก จากนั้นลองนำตาข่ายสีขาวมาผูกติดตกแต่งช่อดอกไม้ดูสิคะ ยิ่งน่ารักกิ๊บเก๋เลยล่ะ ตบท้ายด้วยรองเท้า สร้อยคอ และกระเป๋าประดับอัญมณีแวววาวเข้าไปด้วย

ช่อดอกไม้
Photo by : Lennart Weibull

ช่อดอกไม้

Purple Passion

มาในสีม่วงอ่อนที่ต้องไล่ระดับจากสีม่วงเข้มที่สุดลงมาจนถึงสีม่วงเฉดพาสเทล ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เป็นอิสระ ให้ใช้ดอกไลเซนทัส ที่เป็นไม้ดอกขนาดเล็กคล้ายดอกกุหลาบ แต่ออกดอกเป็นช่อ มีกลีบบางอ่อน ดูนุ่มนวล ผสมเข้ากับดอกเดลฟินเนียมที่มีสีเข้มขึ้นมาช่วยให้ช่อดอกไม้โดดเด่นในทันที จากนั้นลองผูกด้วยริบบิ้นขนาดใหญ่สีม่วงเผือก จับคู่กับกระเป๋ากำมะหยี่และสร้อมคอสีม่วงสไตล์โบฮีเมียนก็ดูมีเสน่ห์ไม่น้อยเลยทีเดียว

ช่อดอกไม้
Photo by : Lennart Weibull

ช่อดอกไม้

Spring Greens

ช่อดอกรักเร่ที่มิกซ์เข้ากับดอกอนิโมเนของญี่ปุ่น ซึ่งให้ความกลมกลืนกับใบสีเขียวและสีน้ำตาล กลายเป็นช่อดอกไม้สีเขียว แต่ก็มีการแต่งแต้มด้วยสีขาวบริสุทธิ์ของดอกทิวลิป มองกี่ทีก็ให้ความรู้สึกสดชื่น สบายตา แบบนี้ทุกคนในงานก็ยิ่งอยากมองมาที่เจ้าสาวแน่นอน อิอิ ดอกไม้ทั้งหมดนี้ถูกมัดด้วยริ้บบิ้นสีขาวมีลวดลายสีเขียวเล็กน้อยให้แลดูน่ารักยิ่งขึ้น จับเซทเข้ากับกระเป๋าและรองเท้าสีขาวล้วนแบบเรียบๆ ติดเครื่องประดับผม หรือหวีสับดอกไม้ก็ช่วยให้คุณดูมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

Photo by :Lennart Weibull

Golden Hour

หากคุณชื่นชอบสีที่แสดงถึงความหรูหรา อลังการ ลองใช้กุหลาบโทนสีเหลืองดูสิคะ โดยนำมาจัดช่อดอกไม้ด้วยดอกคาร่าลิลลี่ ดอกรานังคูลัส และดอกหงอนไก่ เพิ่มเติมด้วยใบบีชและดอกกล้วยไม้ที่มีสีน้ำตาล แซมด้วยดอกซูก้าเบบี้เล็กๆ สีขาวเพิ่มให้ช่อดอกไม้โดดเด่นขึ้นมาทันที รวมดอกไม้ทุกชนิดแล้วมัดด้วยเชือกสีทองแบบเงา ทางด้านเครื่องประดับก็อาจจะใช้รองเท้าทำจากผ้าซาตินปักเย็บลายผึ้งเข้ากับสีทองโทนเหลืองอย่างสวมงาม และเครื่องประดับอื่นๆ ที่เป็นสีทองเปล่งประกายระยิบระยับ

Photo by : Lennart Weibull

Lady in Red

ถ้างานแต่งงานของคุณต้องการโทนสีเจ็บๆ แซ่บลื้มม ก็ต้องเป็นสีแดงเข้มเท่านั้นจริงไหมคะ โดยนำดอกรักเร่ ดอกหน้าวัว ดอกแกลดิโอลัส ดอกหญ้า และเฟิร์น ไปฟอกสีแดงจากดอกกุหลาบหรืออาจเพิ่มความหวานด้วยสีชมพูเพียงเล็กน้อย สุดท้ายนำตาข่ายสีแดงมัดรวม ส่วนเครื่องประดับจะเป็นกระเป๋าหนังวัวสีแดงสดใบกลมมาคู่กับรองเท้าลูกฟูกเพิ่มขนเฟอร์มิงค์ฟูฟ่องสีแดง ช่วยเปลี่ยนลุคเป็นสาวเปรี้ยวได้ทันที

และนี่ก็เป็นเทคนิคการมิกซ์แอนด์แมทช์ช่อดอกไม้ให้เข้ากับเครื่องประดับแบบง่ายๆ และขอบอกเลยว่า 5 เฉดสีนี้ไม่มีเอ้าท์แน่นอนจ้า ดูไอเดียเกี่ยวกับเจ้าสาวเพิ่มเติม คลิกเลย >> https://praewwedding.com/dresses-and-suits/bride

Cr : marthastewartweddings.com, pinterest.com

สารพัดปัญหาพ่อตากับลูกเขยพร้อมวิธีจัดการที่ภรรยาต้องเตรียมตัว

เมื่อคุณแฟนสุดที่รักไม่ค่อยจะลงรอยกับคุณพ่อในดวงใจ คนกลางอย่างสาวๆ ก็ต้องอึดอัดสิคะ แต่วิธีสงบศึกก็มีนะ ลองทำกันดู แล้วรับรองว่า ปัญหาพ่อตากับลูกเขย จะหมดไป ทำให้ทั้งสองฝ่ายหันมารักใคร่กลมเกลียวกันได้แน่นอน

1. ทำความรู้จักแบบเนียนๆ

การที่พ่อเราไฝว้กับแฟนหนุ่มเรานั้น อาจเป็นเพราะทั้งสองฝ่ายยังไม่รู้จักกันดี หรือไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน สาวๆ จึงต้องทำตัวเป็นทูตสัมพันธ์ไมตรีให้กับทั้งสองแต่ทริกคือทำแบบเนียนๆ ไม่โจ่งครึ้มจนเกินไป ค่อยๆ ป้อนข้อมูลในด้านดีของแต่ละฝ่ายให้อีกฝ่ายฟังจะได้ ค่อยๆ ซึมซับไปวันละนิดละหน่อย ก็แหม…ขนาดน้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน แล้วใจคนละคะ ไม่นานเกินรอ ชัวร์ !

2. ทำตัวเป็นคนกลางที่ดี

เข้าใจนะคะ ว่าคนกลางอย่างเราไม่รู้จะทำอย่างไร ให้คนที่เรารักทั้งสองคนสมานฉันท์กันได้ แต่อย่าพึ่งอารมณ์เสียไปเลยนะ ห้ามไปหงุดหงิดใส่คุณพ่อว่าทำไมถึงไม่เข้าใจแฟนของคุณ เพราะคุณพ่ออาจมีเหตุผลบางอย่าง หรือเป็นห่วงเรามากไปเลยไม่ไว้ใจว่าแฟนเราจะดูแลเราได้รึป่าว และก็ห้ามไปหงุดหงิดใส่คุณแฟน ว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมๆ พ่อฉันบ้างละ เราต้องใจเย็นเข้าไว้นะคะ พยายามพูดเรื่องดีๆ ของอีกฝ่ายให้รับรู้เข้าไว้จะดีกว่า

3. หาโอกาสให้ได้มาเจอ และทำกิจกรรมร่วมกัน

ถ้าอะไรๆ ยังไม่ดีขึ้น แนะนำว่าลองหากิจกรรมทำร่วมกันดูสิคะเช่น แรกๆ อาจไปรับไปส่งที่บ้านเพื่อจะได้เจอหน้ากันวันละไม่กี่นาทีก็ยังดี จากนั้นจึงค่อยๆ เลื่อนขั้นไปทานอาหารร่วมกัน ออกทริปกระชับความสัมพันธ์โดยการไปเที่ยวต่างจังหวัดกันทั้งครอบครัว เปิดโอกาสให้คุณพ่อกับคุณแฟนได้อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ลองทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อที่จะได้มีเวลาพูดคุยกันมากขึ้น ไม่แน่กลับจากทริปนี้อาจกอดคอกันมาเลยก็ได้นะ

4. ใช้ตัวช่วย

คนเรานะ เวลามีคนใกล้ตัวบอกอะไรมักจะไม่ค่อยเชื่อจริงไหมคะ ? แต่ถ้ามีบุคคลที่ 3 บอกเมื่อไร จะเริ่มเอะใจ หรือลังเลขึ้นมาทันที ยิ่งถ้าคุณแม่ไม่ได้มีปัญหาอะไร ก็ลองให้คุณแม่ หรือเพื่อนของคุณที่สนิทกับคุณพ่อช่วยพูดดูสิค่ะ ส่วนคุณก็ไปพูดโน้มน้าวใจคุณแฟนเข้าไว้ ว่าให้เขาอดทน เพราะยังไงแล้วเป็นเด็กก็ต้องนอบน้อมเคารพผู้ใหญ่เป็นธรรมดา เชื่อว่าไม่นานต้องใจอ่อน รักใคร่กันแน่นอน

5. ดีจริงต้องย้ำสาร บกพร่องกล่อมให้ปรับปรุง

ถ้าแฟนหนุ่มของคุณดีจริง คุณก็ต้องมั่นใจและยืนยันกับคุณพ่ออย่างแน่วแน่ เพราะคุณพ่ออาจกำลังมองดูว่าผู้ชายคนนี้จะจริงใจกับลูกสาวเรารึเปล่า ? เพราะถ้าแฟนของคุณท้อกับปัญหาที่เจอ ก็แปลว่าในอนาคตถ้าเจอปัญหาที่หนักกว่านี้แล้วจะรับมือได้อย่างไร ทั้งนี้คุณก็ควรให้กำลังใจทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าแฟนคุณมีข้อบกพร่องตรงไหนก็ต้องปรับปรุงนะคะ อย่าคิดที่จะให้คุณพ่อปรับปรุงเชียวละ เพราะยังไงแล้วไม้แก่ก็ต้องดัดยากกว่าไม้อ่อนอยู่แล้ว ยิ่งเด็กกว่าด้วยแล้วก็ต้องยอมผู้ใหญ่ถึงจะถูก

6. เปิดใจคุย

สุดท้ายแล้วถ้าคุณพ่อและคุณแฟนยังไม่ลงรอยกันจริงๆ ลองพูดกันตรงๆ หรือเปิดใจคุยกันไปเลย โดยการที่คุณอาจถามคุณพ่อว่าไม่ชอบอะไร ไม่พอใจอะไรในตัวคุณแฟน แล้วคุณแฟนละ เคารพพ่อตามากน้อยเพียงใด มีสัมมาคารวะหรือป่าว ทำตัวให้พ่อตาเชื่อถือได้ไหม ลองพาทั้งสองมาเปิดใจคุยกันต่อหน้าคุณ บ้างทีอาจไม่มีอะไรใหญ่โตเลย แค่อคติมันบังตาก็เท่านั้น

เป็นอย่างไรบ้างคะ กับวิธีสงบศึกเมื่อพ่อตาไฝว้กับลูกเขย คนกลางอย่างเราต้องอดทนเป็นพิเศษ และเข้าใจทั้งสองฝ่ายว่าเข้าต้องการอะไร ในที่สุดแล้วเวลาจะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นเองนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้ทุกคนจ้า

อ่านเพิ่มเติม >> ไม่ง่ายแต่เอาอยู่! 5 วิธีการรับมือปัญหาแม่สามีกับลูกสะใภ้ <<

cr. photo : pinterest

6 ขั้นตอนในการหาช่างแต่งหน้าทำผม แปลงโฉมเจ้าสาวให้สวยสุดในงานแต่ง

เลือก ช่างแต่งหน้าทำผม เจ้าสาวยังไงให้สวยปัง!

ถ้าคุณได้ชุดเจ้าสาวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็ได้แต่จินตนาการภาพส่วนที่เหลือของใบหน้าและทรงผมว่าต้องการลุคที่ออกแบบเป็นแบบไหน คุณอาจมองว่ามันเป็นเรื่องง่ายๆ แค่จ้างช่างแต่งหน้าช่างทำผมคนไหนมาก็จะสามารถเสกสรรค์แปลงโฉมคุณให้สวยดุจดั่งเจ้าหญิงได้ทั้งนั้น แต่หารู้ไม่ จริงๆ แล้ว ช่างแต่งหน้าทำผม นับเป็นส่วนสำคัญที่คุณต้องค่อยๆ เลือก ตัดสินใจอย่างใจเย็น เพราะช่างทุกคนไม่ใช่ว่าจะสามารถเปลี่ยนโฉมคุณออกมาได้อย่างถูกใจเสมอไปนะคะ

สำหรับเจ้าสาวเรื่องทรงผมและการแต่งหน้าเป็นสองสิ่งที่สำคัญที่สุดในการตัดสินใจ เจ้าสาวบางคนอาจพอแต่งหน้าทำผมด้วยตนเองได้ เลยคิดว่าจะทำออกมาได้ดี แต่การแต่งหน้าทำผมวันแต่งงานไม่เหมือนกับการแต่งไปทำงานหรือไปเที่ยวนะคะ เป็นเรื่องยากที่คุณจะทำออกมาได้อย่างช่างมืออาชีพ ไหนจะเรื่องเวลา เรื่องความติดทนของเครื่องสำอาง เรื่องการเก็บผมได้อย่างเรียบร้อยหากจะเกล้าผม ในขณะที่คนอื่นๆ เช่นเพื่อนของคุณ จ้างช่างมืออาชีพสำหรับงานนี้  ถ้าคุณไม่เคยจ้าง ช่างแต่งหน้าทำผม และไม่แน่ใจว่าจะไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านการเสริมสวยอย่างไรดี จงทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นและมั่นใจได้ว่าคนที่คุณเลือกจะทำให้คุณสวยที่สุดในงานนี้ค่ะ

ช่างแต่งหน้าทำผม
ภาพจาก : shutterstock.com

1. หาข้อมูล

จากการสอบถามญาติพี่น้อง หรือเพื่อนๆ ของคุณที่เคยใช้บริการช่างแต่งหน้าทำผม ให้ช่วยแนะนำช่างที่พวกเขาถูกใจ ขอข้อมูลการติดต่อ หากมีหน้าร้านคุณอาจลองไปสืบดูสักนิดว่ามีผู้เข้ามาใช้บริการมากแค่ไหน และขอดูพอร์ตผลงานที่ผ่านมา แต่ปัญหาคือคุณต้องแน่ใจว่ารูปที่คุณได้เห็นจะเป็นรูปที่ถูกแต่งผ่านโปรแกรมหรือแอปพลิเคชั่นน้อยที่สุด นอกจากนี้ ยังสามารถหาช่างแต่งหน้าและทำผมได้จากช่องทางออนไลน์หลากหลายช่องทาง ซึ่งควรเลือกช่างที่สามารถมาบริการคุณถึงที่บ้านหรือสถานที่จัดงาน เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดเวลาได้ยิ่งขึ้น

2. พิจารณาธีมงานแต่งงานของคุณ

เตรียมภาพทุกสิ่งทุกอย่างไว้ในหัว ระลึกถึงธีมงานแต่งงานของคุณว่าจะเป็นรูปแบบไหน เช่น หากคุณเลือกธีมงานแต่งงานแบบวินเทจที่ดูคลาสสิค บรรยากาศภายในงานอบอุ่น แล้วแบบนี้บ่าวสาวจะมาในลุคที่ดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยก็คงไม่เหมาะนะคะว่ามั้ย นอกจากการแต่งตัวที่ต้องเลือกสไตล์ชุดที่เข้ากับงานแล้ว การแต่งหน้าทำผมก็ต้องแต่งออกมาให้แมทช์กับชุดและธีมงานด้วยเช่นกันค่ะ ดังนั้น การเลือกช่างแต่งหน้าทำผมที่เคยมีประสบการณ์แต่งหน้าทำผมให้กับเจ้าสาวที่มีงานแต่งงานธีมคล้ายกับงานของคุณก็จะยิ่งดีมากๆ เลย

3. ดูความคิดเห็นจากทางออนไลน์

เดี๋ยวนี้อยู่ในยุคออนไลน์เห็นทีอะไรๆ ก็จะดูง่ายไปซะหมด อย่างเช่นเรื่องการรีวิวและการให้คะแนนจากลูกค้าที่เคยเข้ามาใช้บริการช่างแต่งหน้าทำผม จะเป็นตัวช่วยในการประกอบการตัดสินใจให้กับคุณได้มากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ชัวร์ทั้งหมดนะคะ เพราะการจ้างรีวิวก็มีให้เห็นกันถมเถไปเนอะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณและการดูในส่วนอื่นๆ ประกอบด้วยค่ะ

ช่างแต่งหน้าทำผม
ภาพจาก : cocobellabride.com

4. เลือกใช้ช่างแต่งหน้าและช่างทำผมเป็นคนละคนกัน

สไตล์ลิสต์บางคนมีความเชี่ยวชาญทั้งการทำผมและแต่งหน้า แต่บางคนก็อาจทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งได้ดีมากกว่า ควรสอบถามให้ดีเสียก่อนว่าช่างที่คุณเลือกมั่นใจแค่ไหนว่าจะสามารถทำผมและแต่งหน้าให้กับคุณได้ออกมาดีทั้งสองอย่าง ที่สำคัญจะต้องทำได้ทันเวลาด้วยน้า หากเป็นไปได้เราจึงอยากให้คุณหาช่างแต่งหน้าและช่างทำผมที่มีความถนัดตรงตามสายงานมากกว่า ถ้าคุณไม่ติดปัญหาเรื่องเงิน มีงบเหลือพอ ก็ควรที่จะจ้างแยกกันเลยก็จะดีที่สุดค่า

5. สอบถามราคา

ค่าใช้จ่ายเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าสาวหลายๆ คน เมื่อพูดถึงบริการทำผมและแต่งหน้า หากคุณมีวงเงินการใช้จ่ายที่จำกัด คุณต้องพูดคุยเกี่ยวกับงบประมาณของคุณกับช่างเสริมสวยแต่ละคนที่คุณกำลังพิจารณาอยู่ เพราะค่าวิชาชีพแต่ละคนจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าผู้ช่วย และค่าจำนวนอุปกรณ์ที่จะมาตกแต่งใบหน้าและทรงผมของคุณเพิ่มเติม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพอใจกับราคาที่พวกเขากำหนดก่อนที่จะจ่ายค่ามัดจำหรือเซ็นสัญญาใดๆ

6. ระบุรายละเอียดของรูปลักษณ์ของคุณ

บอกเลยค่ะว่าจุดเด่นจุดด้อยของใบหน้าคุณอยู่ตรงไหน คุณต้องการให้ช่างแต่งหน้าปกปิดในส่วนใด อยากให้ส่วนไหนในใบหน้าดูโดดเด่นขึ้น และขอคำแนะนำทรงผมที่จะเหมาะกับใบหน้าของคุณ โปรดเชื่อช่างผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่าตัวคุณนะคะ เพราะเรามักจะพบเจอเหตุการณ์พวกนี้บ่อยค่ะ แบบว่าสมมติเจ้าสาวเป็นสาวอวบ มีใบหน้าใหญ่ ช่างทำผมเห็นว่าการปล่อยผมจะทำให้คุณดูดีมากกว่าเมื่อถ่ายรูป แต่ตัวคุณก็ยังจะดื้อรั้นอยากเก็บผมเกล้าขึ้นไปให้หมด แบบนี้ถ้ารูปที่ออกมาจะมาบ่นว่าหน้าบานทีหลังไม่ได้น้า ให้คุณเตือนใจตัวเองว่างานของพวกเขาคือทำให้คุณดูดีและดูสวยขึ้น เพราะฉะนั้นจงเชื่อใจช่างผมช่างหน้า และแชร์ความรู้สึกเรื่องรูปลักษณ์ของคุณไปตรงๆ นะคะ เพื่อที่ช่างจะได้ช่วยให้คุณดูสวยที่สุดในวันงาน

รู้วิธีเลือกช่างแต่งหน้าทำผมกันไปแล้ว ทีนี้คุณว่าที่เจ้าสาวเชิญมาส่องโปรไฟล์ช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าสาวในเมืองไทยกันต่อได้เลยจ้า >> อัพเดทราคา 11 ช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าสาว ที่น่าจับตามองในปีนี้!

Cr : insideweddings.com

หนุ่มๆ ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ เมื่อถึงวันขอแต่งงาน 4 อย่างนี้ ต้องมี!

เรามาเอาใจหนุ่มๆ กันบ้างนะคะ สำหรับหนุ่มที่พร้อมจะสละโสด เตรียมตัวขอสาวแต่งงาน แต่ทำตัวไม่ถูกไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี หรือบางคนอาจคิดแผนไว้ได้เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว แต่พอถึงคราวจะทำจริงก็กลับไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง วันนี้แหละค่ะคุณจะได้รีเช็กไปพร้อมๆ กันกับ 4 สิ่งต่อไปนี้ ที่ต้องขอบอกเลยว่าสำคัญที่สุดในการ ขอแต่งงาน คุณได้จัดเตรียมพร้อมไว้แล้วหรือยัง? มาเช็กไปพร้อมๆ กันเล้ยยย

กำลังจะ ขอแต่งงาน ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง?

ขอแต่งงาน

อันดับแรกที่อยากบอกหนุ่มๆ ก่อนเลยคือ การขอแต่งงานไม่จำเป็นต้องเล่นใหญ่นะจ๊ะ ขอแค่คุณมั่นใจจริงๆ ว่าผู้หญิงคนนี้แหละที่เราจะเลือกมาเป็นคู่ชีวิตด้วย คุณพร้อมเมื่อไหร่ก็รีบหาจังหวะดีๆ ขอเธอแต่งงานได้เลยค่ะ อาจจะเลือกทำเซอร์ไพรส์นิดหน่อยพอหอมปากหอมคอ หรือถ้างบหนาจะจัดเต็มแค่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ของแบบนี้ขึ้นอยู่ที่อีกฝ่ายด้วยว่าเขาพร้อมที่จะเริ่มต้นชีวิตคู่ไปกับคุณด้วยหรือไม่ การจัดเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานเป็นเพียงปัจจัยภายนอกเท่านั้นเองค่ะ

สถานที่ไม่จำเป็นต้องหรู แค่มีบรรยากาศดีก็พอแล้ว

การเลือกสถานที่ไม่จำเป็นต้องดูหรูหราไฮโซ เน้นเก็บเงินจัดงานแต่งงานดีกว่าค่ะ เพราะคุณต้องใช้จ่ายอีกเยอะ ไหนจะค่าสินสอด ค่าจัดงานแต่งงาน ค่าไปฮันนีมูนอีก งั้นในส่วนของสถานที่ขอแต่งงานให้มองเป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศดี ไม่จำเป็นต้องแพงมาก ถึงแม้คุณจะตั้งใจทำเซอร์ไพรซ์สุดพิเศษ ชวนแก๊งเพื่อนของเขามาร่วมเซอร์ไพรซ์ครั้งนี้ด้วย และพร๊อพต่างๆ ที่จัดเต็มมาเลย คุณก็แค่อาจเลือกใช้แค่บ้านเป็นสถานที่ขอแต่งงานหรือร้านอาหารก็ได้ แต่ก็ไม่ต้องถึงกับปิดร้านก็ได้นะคะ ให้แขกคนอื่นได้ร่วมเป็นสักขีพยานรักด้วยก็ดีไปอีกแบบ หากคุณคิดไม่ออกว่าจะเลือกสถานที่แต่งงานที่ไหนดี อยากเน้นความโรแมนติก ไม่ได้ต้องการทำให้ดูเป็นการขอแต่งงานที่ใหญ่โตมีแผนการอะไรมากมาย คุณก็อาจจะเลือกสถานที่ที่คุณทั้งสองมีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน อาจเป็นสถานที่ที่พบกันครั้งแรกหรือสถานที่ที่ขอเป็นแฟนกัน ก็ชวนให้ระลึกความหลังไม่น้อยเลยน้า

Photo by Andrea Piacquadio from Pexels

เสื้อผ้า หน้าผม ต้องเป๊ะกันหน่อย

แม้จะเป็นวันขอแต่งงาน ไม่ได้เป็นวันแต่งงานจริงๆ ก็ไม่ควรละเลยการดูแลตัวเองค่ะ เมื่อคุณล็อควันไว้แล้ว เลือกแล้วว่าวันนี้ที่นี่เดือนนี้จะต้องขอเธอแต่งงาน ช่วงใกล้วันขอแต่งงานก็ดูแลสุขภาพร่างกายกันสักนิดนึงนะคะ พยายามอย่าให้ตัวเองเป็นหวัด ถึงตอนพูดขอแต่งงานแล้วเกิดเสียงหายไปซะดื้อๆ หรือไอค่อกแค่กๆ แผนที่วางไว้ว่าจะทำซึ้งอาจล่มเอาได้ เตรียมร่างกายจิตใจให้พร้อม อย่าไปเครียดกังวลมาก จากนั้นก็ไปเดินช้อปเลือกเสื้อผ้าที่จะทำให้คุณดูดี และในวันนั้นหน้าผมคุณก็ต้องเป๊ะด้วยเช่นกันนะคะ ไม่ต้องถึงขั้นแต่งหน้าโบะแป้ง แค่โกนหนวดโกนเครา จัดทรงผมให้ดูเรียบร้อยก็พอ ก็แหม ในวันนั้นยังไงๆ ก็ต้องเก็บช็อตประทับใจเอาไว้ด้วยจริงไหม ก็ต้องดูดีกันหน่อย ทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในวันพิเศษ เราว่าก็ช่วยสร้างความทรงจำที่แสนประทับใจให้คุณทั้งคู่ไม่มีวันลืมได้เหมือนกันน้า

“แหวน” สัญลักษณ์ของการแต่งงาน

แหมมม จะขอสาวแต่งงานทั้งที ของสิ่งนี้ห้ามลืมเด็ดขาด! เมื่อคุณคุกเข่ากำลังจะขอเธอแต่งงานแล้ว แต่ดั๊นนนลืมหยิบแหวนมาด้วย แป้กแน่นอนนะคะแบบนี้ เพราะแหวนถือเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงาน เป็นของใช้แทนใจสิ่งแรกที่ผู้หญิงจะได้เห็นถึงความพยายามของคุณที่อยากแต่งงานกับเธอจริงๆ ไม่ใช่ว่าเธอจะเห็นแก่สิ่งของนะคะ โปรดอย่าเข้าใจผิด มองในมุมลึกๆ มันแสดงถึงความพยายามที่คุณต้องเก็บเงินหาแหวนเพื่อที่จะขอเธอแต่งงาน และความเอาใจใส่ที่คุณผู้ชายต้องแอบไปเลือกแหวนที่ดูแล้วเหมาะกับเธอ มั่นใจว่าเธอต้องสวมใส่มันพอดีแน่ๆ เป็นไงคะ แค่นี้ก็ดูโรแมนติกแล้วอ่ะ ><

Photo by Austin Pacheco on Unsplash

คำพูดจากใจต้องมี และท่านี้ต้องมา

ท่านี้ท่าไหนน่ะหรอ? ก็ท่าคุกเข่าขอแต่งงานไง รับรองว่าถ้าคุณผู้ชายยอมคุกเข่าล่ะก็ สาวที่ไหนก็ต้องยอมใจอ่อนแหงๆ จะบอกว่าเป็นอะไรที่หาดูได้ยากเลยนะคะ ฮ่าๆ น้อยครั้งนักที่ผู้ชายจะยอมคุกเข่าให้กับใครสักคนหนึ่ง เนื่องจากสัญชาตญาณความเป็นผู้ชายจะค่อนข้างมีความเป็นผู้นำสูง ไม่แสดงความอ่อนแอที่จะยอมอ่อนข้อหรือยอมก้มหัวให้ใครอะไรแบบนี้ การที่ผู้ชายคนนึงยอมคุกเข่าต่อหน้าคนที่เขารักและอาจจะต่อหน้าใครอีกหลายๆ คนด้วย ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจสำหรับคุณผู้หญิงเลยแหละค่ะ หลังจากที่คุณคุกเข่าแล้ว ต่อมาก็จะเป็นคำพูดที่ออกมาจากใจ ย้ำนะคะ ขอเป็นคำพูดที่แสดงออกมาจากความรู้สึกจริงๆ แบบเป็นสคริปต์ไม่เอาน้า แค่บอกความรู้สึกตลอดระเวลาที่ได้คบกันและอยากให้เธอมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตมากแค่ไหน แล้วปิดท้ายด้วยประโยคที่ว่า “แต่งงานกันนะ” เตรียมรอฟังคำตอบจากปากของเธอได้เลย รับรองว่างานนี้แต่งชัวร์!!

ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งสำคัญหลักๆ ในวันที่คุณจะขอแต่งงานนะคะ ไม่ว่าจะขอแบบเรียบง่ายหรือทำเซอร์ไพรซ์ใหญ่โตก็ห้ามลืม 4 เรื่องนี้เด็ดขาด! ส่วนคุณผู้ชายคนไหนที่สนใจทำเซอร์ไพรซ์ขอแฟนสาวแต่งงาน คงจะตื่นเต้นไม่น้อยเลย เราก็ขอเอาใจช่วยผ่านบทความ >> เซอร์ไพรซ์!!…ขอแต่งงานยังไงให้ว่าที่เจ้าสาว Say Yes!! แล้วกันนะคะ สู้ๆ

ภาพจาก : pinterest.com

มาดูวิธี แก้กรรมความรัก ให้ชีวิตคู่ราบรื่นพร้อมวิธีทำบุญเสริมให้รักมั่นคง

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมปรับปรุงตัวให้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว แต่ความรักก็ยังพังพินาศเหมือนเดิม ไม่ต้องเครียดไปเพราะหมดวิธีแก้ไขปัญหา เพราะแพรว wedding มีวิธี แก้กรรมความรัก มาฝาก แต่งานนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะคะ จะทำตามหรือไม่ทำก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ถ้าทำแล้วสบายใจ ก็ทำโลดดดดด

สำหรับคนที่อยากจะเจอรักแท้ แต่พอคบกันไปได้สักพักก็ต้องเลิกลากันไป หรือสำหรับคนที่มีคู่รักอยู่แล้ว แต่ความรักดูไม่มีความมั่นคงเอาเสียเลย เราลองมาดูวิธี แก้กรรมความรัก กันดีกว่า ลองทำดู เผื่ออะไรๆ อาจจะดีขึ้นก็ได้ ใครจะไปรู้

1. เลิกเป็นคนเจ้าชู้

ถ้าแฟนเรานอกใจเราบ่อยๆ ไม่สนใจ ปล่อยปะละเลยเรา ลองย้อนกลับมามองดูตัวเองก่อนว่าเราเลิกเจ้าชู้หรือยัง ถ้าเราอยากให้คนรอบข้างปฎิบัติตัวแบบไหนกับเรา เราก็ควรทำตัวแบบนั้นกับเขาก่อน ถูกต้องไหมจ๊ะ เลิกเจ้าชู้ มาเป็นคนรักเดียวใจเดียว มันเท่กว่ากันเยอะนะ

2. พาคนรักไปทำบุญร่วมกัน

การที่คนสองคนมาเจอกัน มีทั้งทำบุญร่วมกันมาและสร้างกรรมร่วมกันมา ที่ผ่านมาถ้าทุกข์มากกว่าสุข นั่นแปลว่าเราทำกรรมร่วมกันมา แต่ถ้าเรามั่นใจว่าคนนี้คือคนที่ใช่ อยากจะเดินไปด้วยกันต่อ ก็ควรจับมือไปทำบุญเพื่อเป็นการต่อบุญกันนั่นเองค่ะ จะนำของไปถวายวัด หรือเติมน้ำมันตะเกียงก็ได้นะจ๊ะแล้วแต่ความสะดวกเลย

 แก้กรรมความรัก

3. ทำบุญกับงานแต่ง

อยากจะได้สิ่งใดในชีวิต ก็ต้องทำบุญกับสิ่งนั้นถูกต้องไหมจ๊ะ เพราะฉะนั้นถ้าอยากแต่งงานก็ต้องทำบุญกับงานแต่งงาน ไม่ว่าจะเป็น การช่วยใส่ซองให้บ่าวสาว หรือถวายปัจจัยให้พระสงฆ์ในงานแต่งก็ได้ เพราะเป็นการแสดงว่าเรามีความยินดีกับชีวิตคู่ และการเริ่มตนชีวิตคู่ของผู้อื่น สิ่งดีๆ ก็จะกลับคืนมาหาเราเช่นกัน

4. ถวายของให้วัด โดยเลือกสิ่งที่เป็นคู่

ไม่ว่าจะเป็นเทียนคู่ แจกันคู่ อะไรก็ได้ที่เป็นคู่ เพราะฉะนั้นจึงต้องเลือกสิ่งที่ไม่ควรจะแยกออกจากกัน เพราะเป็นการแก้เคล็ดให้เราอยู่กับคนรักเป็นคู่เหมือนกับสิ่งของเหล่านั้นนั่นเองค่ะ

 แก้กรรมความรัก

5. อุทิศส่วนบุญ ส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร 

ถ้าเชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด เราควรทำบุญอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร รวมถึงคู่ครองของเรา ในชาติพบที่ผ่านมา เพราะที่ผ่านมาคนเราเวียนว่ายตายเกิดมาไม่รู้กี่ชาติต่อกี่ชาติก็ย่อมต้องมีคู่ครองที่ผ่านมาหลายคน เพราะฉะนั้นลองทำบุญ กรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้แผ่ไปให้ถึงเขานะคะ

6. ทำบุญใส่บาตรพระให้สม่ำเสมอ

ทำคนเดียวก็ได้ หรือจะชวนคนรักมาทำด้วยก็ได้ เพราะการทำบุญกับพระสงฆ์ ถวายอาหารเป็นการทำบุญทำทาน จะช่วยให้เรื่องร้ายๆ หรือสิ่งต่างๆ ที่ติดขัดในชีวิตดีขึ้นและผ่านพ้นไปได้ค่ะ

 แก้กรรมความรัก

7. คิดดี ทำดี พูดดี

ข้อสุดท้ายทำได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องไปวัด ไม่ต้องไปไหน ให้เริ่มเปลี่ยนจากตัวเราก่อน ลองคิดดี ทำดี พูดดี ดูนะจ๊ะ แล้วอะไรๆ จะดีขึ้นแน่นอน เมื่อเราดีทั้งกายและใจ เราจะพบคนดีๆ หรือถ้าคนรักปฎิบัติตัวไม่ดีกับเรา เมื่อเราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เขาจะสัมผัสได้และเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นแน่นอน (แต่ถ้าไม่ดี ก็คิดเสียว่า ถ้าเราทำตัวให้ดีเดี๋ยวเราก็จะเจอคนดีๆ เองเนอะ)

เป็นอย่างไรจ๊ะทำได้ไม่ยากเลยใช่มั้ย แต่ไม่ว่าจะยังไงเราก็อยากแนะนำให้เริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนนะ ถ้าเราเป็นคนดี โลกก็จะเหวี่ยงคนดีเข้ามาหาเราเองค่ะ หมั่นทำบุญสม่ำเสมอ อะไรๆ จะดีขึ้นแน่นอน … แต่ถ้าคิดว่า แก้กรรมความรัก ไม่ใช่ทาง ลองมาดู สถานที่ขอพรเรื่องความรักกันดู >> ขอได้ไม่นก! แชร์พิกัดขอพรเรื่องความรักวัดดังทั่วเอเชีย

ภาพจาก : gabrielruhl.com , Horoworld.com , molly-bloom.lnwshop.com , linetoday.com

จัดโต๊ะใน งานแต่งไทย ให้งามอย่างไทยแต่แฝงไว้ด้วยความหรู

งานแต่งไทย กับไอเดียการจัดโต๊ะยังไงไม่ให้เชย

หากคุณเป็นเจ้าสาวหัวใจไทยที่อยากจัดงานฉลองอย่างหรูหรา เรามีตัวอย่างการตกแต่งโต๊ะจัดเลี้ยงใน งานแต่งไทย ที่ผสมกลิ่นอายความเป็นไทยเข้าไปได้อย่างลงตัวมาฝากเป็นแรงบันดาลใจค่ะ

— ลองเทเบิลอลังการ

คอนเซ็ปต์ : เจ้าสาวอยากได้งานที่งดงามด้วยศิลปะไทย แต่ดูเรียบหรูสไตล์ตะวันตก และกำหนดธีมสีของงานเป็นสีชมพูพาสเทลหม่น – ทองอ่อน – ขาว

ไอเดียโดนใจ : จัดโต๊ะแบบลองเทเบิล หรูหราสไตล์ตะวันตกเต็มพิกัด เช่น เก้าอี้วินเทจสีทอง เชิงเทียนสีทองขนาดต่างๆ เซ็นเตอร์พีซ และการ์แลนด์ดอกแวนด้าวางยาวไปตามแนวโต๊ะ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นไทยด้วยการเสริมสิ่งละอันพันละน้อยที่เป็นงานฝีมือไทยเข้าไป อาทิ การห้อยมาลัยฝีมือประณีตไว้หน้าโต๊ะ การใช้มาลัยพวงเล็กๆ พร้อมอุบะสีชมพูคล้องเซ็นเตอร์พีซ เชิงเทียน และแจกัน การวางพานพุ่มกลีบบัวสีชมพูและดอกบัวพับกลีบสลับกับเชิงเทียน การวางงานเย็บลายดอกประจำยามไว้บนจานเคียงกับแน็ปกิน

Credit

  • ออกแบบและตกแต่งโดย TWO 4 US The Planner โทร. 0-2196-2271
  • ฟลอรัลดีไซเนอร์ Addy Chongsawat โทร. 08-1960-5040
  • ขอบคุณบ่าว – สาว คุณศิรินันท์ ศิริพานิช และ ผศ. ดร.ปรีชาพร สุวัฒโนดม

— เสน่ห์…สีสัน งานไทย —

คอนเซ็ปต์ : ใส่ความสนุกลงไปในงานไทยที่ดูเรียบร้อยประณีตให้มีสีสันและความน่าสนใจขึ้นด้วยการผสานความเป็นตะวันตกและการใช้สีจัดจ้านอย่างสีชมพู แดง และม่วง

ไอเดียโดนใจ : โต๊ะไม้สักมีสีสวยคลาสสิกอยู่แล้ว จึงเลือกที่จะโชว์เสน่ห์ของเนื้อไม้แทนการปูผ้าทับ จัดโต๊ะด้วยการ์แลนด์สีสดที่ใช้ดอกไม้ไทยและฝรั่งผสมผสานกันวางยาวไปตามแนวโต๊ะ ตรงกลางเป็นเซ็นเตอร์พีซ เชิงเทียนทองเหลือง วางเทียนสีขาวซ้ายขวาเป็นระยะอย่างลงตัว โดยเทียนแต่ละเล่มวางอยู่บนวัสดุที่แตกต่างกัน อาทิ กระทงใบตองหุ้มดอกมิกกี้เมาส์สีแดงสด โหลแก้วที่อยู่ในกระทงใบตองหุ้มจมูกกล้วยไม้สีชมพู ม่วง และขาวสลับสีเป็นลวดลาย และเชิงเทียนเงินที่ร้อยรัดด้วยมาลัยดอกไม้ไทยนานาพรรณในโทนสีม่วงและขาว ก่อนจะเก็บรายละเอียดด้วยการตกแต่งสายดอกพุดห้อยระย้าอย่างสวยงามจากบนเซ็นเตอร์พีซมาทิ้งชายประดับ ดอกข่าสีขาวบริสุทธิ์ที่ปลายโต๊ะทั้งสองด้าน รับกับสายดอกพุดที่ห้อยเป็นท้องช้างทิ้งชายอยู่บนพนักเก้าอี้…นอกจากโชว์ความวิจิตรสุดพลังแล้วยังเป็นการร้อยเรียงความเป็นสากลเข้ามาสู่ความเป็นไทยได้อย่างลงตัวและมีเอกภาพ

Credit

  • ออกแบบและตกแต่งโดย Create Wedding Planner โทร. 09-2456-4563, 09-3369-6399
  • ขอบคุณ สถานที่ ร้าน Siam Wisdoms สขุมุวิท 31 แยก 4 โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร โทร. 09-5964-9751 – 2

 

— บงกชล้อมรัก —

คอนเซ็ปต์ : คู่บ่าว – สาวต้องการใช้ดอกบัวเป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง ธีมสีของงานเป็นสีชมพู – ขาว – เขียว

ไอเดียโดนใจ : จัดโต๊ะวีไอพี ซึ่งเป็นโต๊ะทรงกลม ให้มีกลิ่นอายความเป็นไทยด้วยดอกบัว ทว่าเลี่ยงการใช้ดอกบัวจัดแจกันหรือจัดเป็นเซ็นเตอร์พีซแบบเดิมๆ โดยใช้ดอกพุดถักลายบนสแตนด์เล็กๆ 3 อันหันเข้าหากันแทนเซ็นเตอร์พีซ ตรงกลางวางเทียนสีขาวไล่ระดับเพื่อความโรแมนติก จากนั้นโรยกลีบบัวสีชมพูเป็นวงกลมแล้วล้อมด้วยดอกไม้ที่มีความหมายดีอย่างดอกบานไม่รู้โรย ดอกรักและขั้วดอกรักเป็นชั้นๆ ชั้นสุดท้ายมีการเว้นช่องไฟเล็กน้อยเพื่อเพิ่มมิติ ระหว่างวงล้อมของดอกไม้วางแก้วไวน์คว่ำครอบดอกบัวพับกลีบแล้ววางกลีบบัวพนม (ดอกไม้ประดิษฐ์จากกลีบดอกไม้สด) ไว้ด้านบนเป็นระยะ เป็นอีกไอเดียการใช้ดอกบัวจัดโต๊ะอาหารที่เจ้าสาวสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ไม่ยาก

Credit

  • ออกแบบและตกแต่งโดย Jirayu The Wedding Planner โทร. 08-6998-9339
  • ขอบคุณบ่าว – สาว คุณฤชุอร บุญเรือง และคุณเอกลักษณ์ ชัยปภาฐกิตติ์
  • ภาพโดย mug wedding

แถมให้อีกนิดกับ >> จัดงานแต่งไทยด้วยตัวเองอย่างไรให้ราบรื่น รับมือไม่ยากอย่างที่คิด

แก้ปัญหา 6 ช่วงพิธีการที่มักติดขัดในงานแต่งไทยยังไงให้ลื่นปรืด

หากคุณเป็นคู่บ่าวสาวที่จัด งานแต่งไทย ด้วยตัวเอง โดยไม่ได้พึ่งเวดดิ้งแพลนเนอร์หรือทีมงานของสถานที่เป็นผู้ช่วยในการจัดงาน ต้องจับมือนั่งลงแล้วตั้งใจฟัง เพราะ แพรว wedding ได้จัดสถิติ 6 ช่วงยอดฮิตที่ทำให้ พิธีแต่งงานไทย ต้องสะดุดเกือบเลยฤกษ์มาฝาก เพื่อที่บ่าวสาวจะได้นำไประวังและปรับใช้กับงานของตัวเอง รับรองว่างานนี้ลื่นปรืดเหมือนปูพื้นกระเบื้องแน่นอน

ช่วงสะดุดที่ 1 : ช่วงรับขันหมาก 

ตอนที่ขบวนขันหมากเดินทางไปถึงหน้าประตูบ้านเจ้าสาว เป็นจังหวะสะดุดแรกที่หลายบ้านเจอ ซึ่งโดยส่วนใหญ่เกิดจากเด็กน้อยที่เลือกมาเชิญพานรับขันหมากเกิดอาการลืมบทพูด ตื่นเต้นและงอแง อาจจะเป็นเพราะเลือกเด็กที่ยังเล็กเกินไป จึงเกิดอาการตกใจเมื่อเจอเสียงดังและคนเยอะๆ อันนี้แก้ไม่ยากค่ะ แค่เลือกเด็กสาวที่โตขึ้นมาสักหน่อย กล้าแสดงออกและไม่ตื่นคน แล้วอย่าลืมให้ผู้ใหญ่คอยยืนประกบด้วยนะคะ เด็กจะได้รู้สึกอุ่นใจว่ามีผู้ใหญ่อยู่ข้างๆ เท่านี้ก็ผ่านฉลุยแล้ว

ช่วงสะดุดที่ 2 : ช่วงเจรจาต่อรองผ่านประตูเงินประตูทอง

‘ซองหมด’ คือปัญหาอันดับต้นๆ ของช่วงนี้ อาจเป็นเพราะฝ่ายเจ้าบ่าวคาดไม่ถึงว่าคนกั้นประตูจะมากมายมหาศาล หรือลืมเตี๊ยมกับฝ่ายเจ้าสาวมาก่อนว่าประมาณเท่านี้พอนะ หรือผู้ใหญ่บางท่านอาจจะคิดว่าการกั้นประตูจะมีแค่ประตูเงิน ประตูทอง ประตูนาคตามแบบสมัยโบราณ คราวนี้พอเจอประตูสร้อย ประตูเข็มขัดเข้าไปก็เกิดอาการเหวอตั้งตัวแทบไม่ทัน รีบหาซองกันพัลวันจนเกือบจะไปรับตัวเจ้าสาวไม่ทันฤกษ์ ทางแก้ก็แสนง่าย หนึ่งคือนัดกันให้รู้เรื่องไปเลยว่าจะมีกี่ประตู หรือเตรียมซองใส่เงินมาให้เหลือเข้าไว้ ใช้ไม่หมดก็ไม่เป็นไรจะได้ไม่ต้องมาสะดุดหน้างาน

ช่วงสะดุดที่ 3 : ช่วงนำสินสอดจัดวางและโปรยข้าวตอกดอกไม้

สะดุดกันมานักต่อนักกับจังหวะการวางเรียงสินสอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผ้าปูรองสินสอดอยู่ไหน ผืนเล็กไปหรือเปล่า ไหนจะข้าวตอกดอกไม้ที่บางงานผู้ใหญ่บนเวทีไม่รู้ว่าจัดไว้ในพานขันหมากเอก ทางแก้ไม่ยากสักนิด แค่เช็คของให้ครบก่อนเริ่มพิธี เตรียมคนรู้งานคอยประกบ และต้องไม่ลืมแจ้งบอกให้ท่านรู้ว่าเมื่อถึงลำดับนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง และข้าวของที่สัมพันธ์กับลำดับงานนั้นอยู่ไหน และใครจะเป็นคนนำมาให้ เพราะฉะนั้นช่วงนี้การวางแผนและพูดคุยกันก่อนเริ่มงานจึงสำคัญมาก

ช่วงสะดุดที่ 4 : ช่วงรับตัว

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเหตุผลที่ช่วงนี้มีสะดุด เพราะว่าที่เจ้าบ่าวไม่รู้ว่าเจ้าสาวซ่อนตัวอยู่ที่ไหน บางคนตื่นเต้นจัด ให้เดินซ้ายกลับเลี้ยวขวา แล้วแบบนั้นจะเจอว่าที่เจ้าสาวได้ยังไง บางรายสะดุดเพราะลืมไปว่าต้องถือช่อดอกไม้ไปด้วย รวมไปถึงสะดุดที่ไม่รู้ว่าจะมีทีมเพื่อนเจ้าสาวแอบทำเซอร์ไพร้ส์กั้นประตูเงินประตูทองอีกชั้นแล้วไม่ได้เตรียมซองติดตัวไป นี่แหละค่ะ เหตุทั้งหลายที่ทำให้ช่วงรับตัวต้องสะดุด แต่ยังไงก็ต้อง the show must go on นะคะ เพราะฉะนั้นจงมีสติและเตรียมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีๆ

ช่วงสะดุดที่ 5 : ช่วงนำสินสอดไปเก็บ

ทันทีที่คุณแม่เจ้าสาวแบกสินสอดขึ้นบ่าเสร็จแล้วต้องส่งต่อให้คนในครอบครัวไปเก็บ ก็เกิดอาการสะดุดขึ้นโดยฉับพลัน เพราะลืมเตรียมคนๆ นั้นไว้ยังไงล่ะคะ ซึ่งสินสอดนั้นมีทั้งเงินทั้งเครื่องเพชรมากมาย จะฝากไว้กับใครก็ได้ก็คงไม่ดี เพราะฉะนั้นทางที่ดีห้ามลืมเตรียมคนช่วงนี้เอาไว้นะคะ

ช่วงสะดุดที่ 6 : ช่วงรับไหว้

เมื่อเสียงประกาศจากพิธีกรถามขึ้นว่า ใครจะขึ้นมารับไหว้ท่านต่อไปคะ ใครจะรับไหว้เชิญเลยนะคะ มีใครจะขึ้นมารับไหว้อีกไหมครับ นี่แหละค่ะคือความพังพินาศของช่วงนี้ ทำให้ช่วงรับไหว้กลายเป็นช่วงชุลมุนวุ่นวายกับการตะโกนเรียกหาว่าจะมีใครขึ้นมารับไหว้อีกบ้าง จนบางครั้งอาจจะทำให้ฤกษ์ดีๆ ที่วางไว้หลังจากนี้ต้องสะดุด เพราะฉะนั้นควรตกลงกันให้ดีก่อนเริ่มงาน พร้อมลิสต์รายชื่อผู้ใหญ่ของทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ถูกต้องให้พิธีกร พร้อมกับเรียงลำดับก่อนหลังมาให้เรียบร้อย รับรองไหลลื่นไม่เสียฤกษ์แน่นอน

ภาพจากงานแต่งงานของคุณบุ๋ม & คุณเติ้ง ถ่ายโดย Athibodee Suwannachot, ชญานี ชมแสงจันทร์

>> ติดตามบทความเกี่ยวกับพิธีแต่งงานไทยเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<