Update ผลิตภัณฑ์ที่ว่าที่บ่าวสาวน่าสอยมาใช้ช่วงเตรียมตัวก่อนแต่งงาน

หลังจากที่คู่รักดื่มด่ำกับโมเม้นต์ขอแต่งงานแสนหวาน รู้ตัวอีกทีก็ต้องเข้าสู่การวางแผนการจัดงานแต่งซะแล้ว ไหนจะงานที่ทำอยู่ แถมงานแต่งก็ต้องเตรียม ทำให้คู่รักหลายๆ คู่ไม่มีเวลาดูแลตัวเองเท่าที่ควร แต่แบบนี้ไม่ดีแน่ค่ะ เพราะเป็นถึงพระเอกนางเอกของงานออร่าต้องมี แพรว wedding เลยมีผลิตภัณฑ์ดีๆ ที่เหมาะสำหรับการดูแลตัวเองช่วง เตรียมตัวก่อนแต่งงาน มาฝาก

 

ด็อกเตอร์ ซี ทูนา เอจ รีเวอ์ซิส

ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอยแห่งวัยชั้นนำจากประเทศตุรกี เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพในการฟื้นฟู กระชับริ้วรอย   แห่งวัย มาพร้อมผลลัพธ์อันน่าทึ่งหลังใช้เป็นประจำ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย ปราศจากสารพาราเบน โลหะหนัก และสารตกค้างต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อผิว

อุดมด้วยคุณสมบัติพิเศษของ 3 สารสกัดจากสาหร่ายทะเลน้ำลึก ได้แก่ แพลงก์ตอน ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อต่อต้านริ้วรอยในทันที และช่วยปรับสมดุลความยืดหยุ่นของผิว ในขณะที่คุณสมบัติของ Laminaria Digitata สาหร่ายทะเลริมชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยซ่อมแซมและคืนค่าเซลล์สร้างเส้นใยของผิวให้กลับมาทำงานอีกครั้ง และยังมีคุณสมบัติของ สาหร่ายสีแดง  เพื่อเพิ่มการสังเคราะห์กรดไฮยาลูโรนิคที่ผิวหนังชั้นนอกให้ผิวหน้าชุ่มชื้นยาวนานถึง 6 ชั่วโมง เพียง 5 เสต็ปง่ายๆ ก็ช่วยดูแลผิวให้เรียบเนียน กระชับ และดูอ่อนเยาว์ขึ้นแล้ว

Recommended : ด็อกเตอร์ ซี ทูนา เอจ รีเวอ์ซิส เอ็กเซ็ปชันนอล ครีม

สำหรับว่าที่บ่าวสาวที่กังวลเรื่องริ้วรอย หรือถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อยซึ่งยากต่อการปกปิดด้วยเมคอัพ เพียงแค่แต้มบางๆ ลงบนริ้วรอยที่กังวล เนื้อครีมสูตรเจลนี้จะซึมเข้าสู่ผิวอย่างรวดเร็ว และตรงเข้าสู่บริเวณที่ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น ช่วยยกผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเรียบเนียน ริ้วรอยแลดูจางลง ผิวหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และสามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของผิวหน้าที่ดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้ภายใน 15 นาที และคงประสิทธิภาพได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นไอเท็มตัวช่วยยกกระชับที่ทันใจแบบไม่ต้องไปเจ็บตัว แถมยังแบ่งให้กับคุณแม่ของว่าที่บ่าวสาวที่กังวลเรื่องนี้ได้ด้วย

สามารถซื้อได้แล้ววันนี้ผ่านช่องทาง https://www.farmasithai.com สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.  099-278-0055 หรือ [email protected]

 

Shiseido Future Solution LX

ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยด้วยคุณค่าของสารสกัด Skingenecell-Enmei จากพืชสมุนไพรโบราณที่ช่วยฟื้นคืนพลังความสดใสแก่ผิว เผยผิวสวยแลดูอ่อนเยาว์ มาพร้อมห่อผ้าของ Nishijin ผ้าทอที่ถ่ายทอดศิลปะชั้นสูงอย่างสวยงาม

Shiseido Future Solution LX TotalProtectiveCream E : ผลิตภัณฑ์บำรุงสูตรกลางวันเนื้อละมุน SPF20 PA+++ ฟื้นบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นเรียบเนียนตลอดวัน มาพร้อมผงแป้ง Hybrid Anti-Pollution ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆ และคงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน ริ้วรอยและรูขุมขนดูจางลง ผิวกลับมาดูกระชับ กระจ่างใส และแต่งหน้าได้สวย ติดทนขึ้น

Shiseido Future Solution LX TotalRegeneratingCream E : ครีมบำรุงก่อนนอนเนื้อเข้มข้น ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยสร้างภาวะที่เหมาะที่สุดสำหรับการฟื้นบำรุงผิวในยามพักผ่อน ผิวจึงกลับมาดูยืดหยุ่น สุขภาพดี และเปล่งประกาย มีชีวิตชีวา

มีวางจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ชิเซโด้ทุกสาขาทั่วประเทศ

 

WASO Reset Cleanser Squad และ WASO Silky Smooth Mochi Mask

กลุ่มสกินแคร์ที่รังสรรค์มาสำหรับหนุ่มสาววัยมิลเลเนียม โดดเด่นด้วยพลังจากสารสกัดพฤกษาธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกับ 2 ผลิตภัณฑ์เคลนเซอร์ใหม่ล่าสุดที่จะช่วยปลุกพลังความสดใสพร้อมเติมความสดชิ่นให้ผิว

WASO Silky Smooth Mochi Mask ผลิตภัณฑ์มาส์กที่ให้สัมผัสอุ่นๆ กับผิว มีสารสกัดจากข้าวญี่ปุ่นช่วยให้ผิวสวยเปล่งประกาย และสารสกัดจากผิวส้ม Citrus Unshiu ช่วยให้ผิวดูสุขภาพดีมีชีวิตชีวา เนื้อมาสก์ที่เนียนนุ่มเสมือนเนื้อโมจิเมื่อส่วนผสมมาส์กที่ผสานโซเดียมฟรอสเฟรตละลายเข้ากับน้ำดีแล้วจะก่อให้เกิดเนื้อมาสก์ที่มีอุณหภูมิ 35-40 องศาเซลเซียสอยู่ราว 5 นาที ซึ่งเป็นความอุ่นพอเหมาะที่จะช่วยปลุกผิวให้รับการซึมซาบของสกินแคร์ลำดับถัดไปได้ดีขึ้น หลังใช้ในครั้งเดียวจะรับรู้ได้ถึงประกายผิวสวยโกลว์ให้ความรู้สึกสดชื่น

แต่ถ้าไม่ชอบความยุ่งยากก็ต้อง WASO Reset Cleanser Squad ที่ให้ความรู้สึกสะอาดสดชื่น เคลนเซอร์สูตรอ่อนโยนปราศจากออยล์และสบู่นี้จะเข้าไปทำความสะอาดผิว ขจัดสิ่งสกปรกอุดตันรูขุมขนและความมันส่วนเกินได้อย่างหมดจด มอบผิวสะอาดนุ่มชุ่มชื่น ไม่แห้งตึงหลังการล้างหน้าด้วย 3 สูตรส่วนผสม3 กลิ่นหอมให้เลือกแมตช์ตามอารมณ์ เพียงแค่ใช้บนใบหน้าที่เปียก โดยหยดเคลนเซอร์ในปริมาณที่พอเหมาะลงบนฝ่ามือ แล้วค่อยๆ นวดเคลนเซอร์บนใบหน้าที่เปียกจนเกิดฟอง หลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตา แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด

มีวางจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์ชิเซโด้ทุกสาขาทั่วประเทศ

 

CLE DE PEAU

Beaute Essentail Refining Essence ผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่มีปัญหารูขุมขนขยายกว้างปรากฏชัด มอบความรู้สึกสดชื่นให้ผิว เพื่อผิวที่งดงามเปล่งประกายความสดใสยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะเมื่อบรรดาสิ่งสกปรกถูกกร่อนตัวออกจากภายในรูขุมขน (รูขุมขนส่วนหนังกำพร้า ผลการทดสอบในหลอดทดลอง) สภาพหยาบกร้านและร่องรอยหมองคล้ำดูลดเลือน จึงเผยให้เห็นถึงประกายกระจ่างสดใสของผิวพรรณที่แท้จริงตามธรรมชาติ พร้อมคงความชุ่มชื่นยาวนานถึง 8 ชั่วโมง และลดน้ำมันส่วนเกินให้อยู่ในภาวะที่สมดุลอันพอเหมาะ

Surface Refining Complex EX + Phytosterol derivatives

  • ช่วยในการขจัดสิ่งสกปรก ซึ่งเกิดขึ้นจากการทับถมตัวของเซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ซึ่งฝังตัวในรูขุมขนให้หลุดลอก
  • ช่วยลดการผลิตซีบัมส่วนเกิน อันเป็นสาเหตุของรูขุมขนอุดตัน และสภาพผิวหยาบกร้าน

Illuminating Complex EX

ส่วนผสมเชิงซ้อนเอกสิทธิ์ที่เป็นหัวใจสำคัญของบรรดาผลิตภัณฑ์ถนอมผิวสูตรต่างๆ ได้รับการพัฒนาขึ้นจากสารสกัดเลอค่าในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นเอสเซ้นส์สกัดจากรังไหมทองแพล็ทตินั่ม อนุพันธ์สกัดจากไข่มุกญี่ปุ่น และสารเธียไนน์ เพื่อถนอมและปกป้องน้ำหล่อเลี้ยงผิวให้ไหลเวียนอย่างต่อเนื่อง บรรเทาสภาพแห้งกร้าน ปูทางให้ผิวให้จรัสประกายความงามจากภายใน

มีวางจำหน่ายแล้วที่เคาน์เตอร์เคลย์ เดอ โป โบเต้ ทุกสาขา

5 ข้อต้องทำและควรระวัง ถ้าไม่อยากให้ชุดแต่งงานเลอะก่อนเข้าพิธี

เป็นธรรมดาที่เจ้าสาวหลายๆ คนพอได้เห็นชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธ์แล้วก็คงตื่นเต้นดีใจอยากสวมใส่ในทันที แต่เดี๋ยวก่อน! ต่อให้รีบเร่งแค่ไหนโปรดจงจำไว้ว่าชุดของคุณ “เลอะง่าย” ยิ่งถ้าไม่ระวังด้วยแล้วล่ะก็ ทั้งรองพื้นเอย ลิปสติกเอย รับรองว่าได้มาประทับรอยบนชุดแน่นอน ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ ชุดแต่งงานเลอะ เราขอบอกว่าจงทำสิ่งเหล่านี้เสียก่อนใส่ชุด เริ่มจาก…

1. รอให้เครื่องสำอางแห้งซะก่อน

วันสำคัญสำหรับชีวิตลูกผู้หญิงทั้งทีก็ขอจัดเต็มกันหน่อย เครื่องสำอางมีเท่าไหร่ประโคมมาให้เต็มที่ เรียกได้ว่าสวยทั้งหน้าทั้งผม บางคนโบ๊ะกันยันท่อนแขน แต่อย่าลืมนะคะว่าชุดเจ้าสาวน่ะเป็น “สีขาว” เพราะฉะนั้นก่อนจะใส่ชุดเจ้าสาวแนะนำให้คุณเช็คจนมั่นใจว่าครีมรองพื้นที่คุณทาลงไปในบริเวณที่ต้องโชว์นั้นแห้งสนิทแล้ว นอกจากนี้ Setting Spray  ที่มีหลากหลายยี่ห้อก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่มีคุณสมบัติทำให้เครื่องสำอางติดทนนานไม่เยิ้ม ชุดสีขาวจะได้สวยยาวไปจนจบงาน ไม่มีคราบรองพื้นมากวนใจ

2. ทานให้อิ่มก่อนใส่ชุด

เจ้าสาวหลายคนหวงหุ่นที่อุตส่าห์รักษาให้เพรียวเพื่อที่จะใส่ชุดเจ้าสาวให้สวย บางคนก็อดทนไม่ทานอาหารเพราะกลัวพุงจะออก บอกได้คำเดียวค่ะว่า “คิดผิด” เพราะว่าถ้าคุณออกอาการหิวแล้วทานอาหารหลังจากสวมชุดไปเรียบร้อยแล้วอาหารเกิดหกเลอะเทอะขึ้นมา คราวนี้แหละค่ะชุดสีขาวบริสุทธิ์ก็จะมีลายพร้อยจากสีสันของอาหารที่คุณทานคราวนี้งานเข้าแน่นอน! เพราะฉะนั้นทานให้อิ่มเสียก่อนใส่นะคะ แต่ถ้าคุณหิวขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ อนุญาตให้ทานได้แต่ต้องหาผ้ากันเปื้อนหรือมีอะไรมารองสักนิดกันหก รวมถึงควรทานอาหารไร้สีสันจะได้ไม่มีปัญหาชุดเลอะตามมาทีหลังอีก

3. เข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย

แน่นอนค่ะว่านี่เป็นเรื่องที่ผู้หญิงทุกคนควรทำก่อนใส่ชุดเจ้าสาว เพราะเมื่อใส่เข้าไปแล้วชุดที่สวยงามฟูฟ่องคงสร้างความลำบากในการเข้าห้องน้ำไม่น้อย แต่สำหรับสาวๆ คนไหนที่ถึงแม้ว่าจะเข้าห้องน้ำมาก่อนแล้ว แต่สุดท้ายก็อั้นไม่ไหวจริงๆ เรามีเทคนิคการเข้าห้องน้ำสำหรับเจ้าสาวมาบอกกันค่ะ ตามไปอ่านกันเลยกับ “เป็นเจ้าสาวก็เข้าห้องน้ำได้ ไม่ต้องอั้น!

4. เอาเครื่องดื่มมีสีออกไปให้ไกล

เครื่องดื่มมีสีทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ โคล่า น้ำส้ม น้ำเขียว น้ำแดง ฯลฯ ควรเอาออกไปให้ห่างไกล เพราะถ้าเกิดหกใส่ชุดเมื่อไหร่คงเป็นเรื่องใหญ่น่าดู หากว่าเจ้าสาวคอแห้งควรดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลมแบบไม่เจือสี ส่วนบางงานที่ต้องใช้ไวน์ดื่มฉลองให้กับคู่บ่าวสาวแนะนำให้เป็นไวน์ขาวจะดีที่สุดค่า

5. หายใจเข้าลึกๆ

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะแนะนำให้เจ้าสาวทุกคนทำก็คือ หายใจเข้าลึกๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณสวมชุดเจ้าสาวได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้คุณผ่อนคลายและลดความตื่นเต้นได้อีกด้วยนะ

เสร็จจาก 5 ขั้นตอนนี้แล้ว เราอนุญาตให้เจ้าสาวทั้งหลายสวมชุดสีขาวบริสุทธิ์ได้ทันทีเลยค่ะ ใส่เรียบร้อยก็เตรียมตัวเตรียมใจ ยิ้มสวยๆ แล้วเดินออกไปหาเจ้าบ่าวสุดหล่อได้เลย Let’s go!

 

ข้อมูล : www.weddingandweddingflowers.co.uk
ภาพ : www.lovewedbliss.com

a a a a a a a a a a a a a a

เปิดใจว่าที่เจ้าสาว “บี มาติกา” พร้อมเคล็ดลับความสวยและอัพเดตธีมงานแต่งกลางปีนี้

แพรว wedding มาพร้อมกับ เคล็ดลับความสวย ของว่าที่เจ้าสาว “บี มาติกา” ที่เพิ่งถูกแฟนหนุ่มคุณกร กรกฤช เซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานแบบไม่ทันตั้งตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้ว และในช่วงกลางปีนี้ทั้งคู่ก็กำลังจะได้ฤกษ์ดีควงคู่กันเข้าสู่ประตูวิวาห์ เราเลยชวนบี มาติกา มาอัพเดตธีมงานแต่ง พร้อม เคล็ดลับความงาม และล้วงลึกถึงความรักครั้งนี้

 

แม่สื่อแม่ชัก ทำให้เกิดรักครั้งนี้

ต้องขอบคุณน้องแนตตี้ที่เป็นแม่สื่อ พอดีวันนั้นบีไปทานอาหารแล้วเจอน้องเขา และพี่กรก็นั่งอยู่ที่โต๊ะพอดี น้องแนตตี้ก็เลยบอกว่าพี่บีลองคุยกับผู้ชายคนนี้ดูนะ ถ้าพี่บีไม่คุยพี่บีจะพลาดโอกาสเจอคนที่ดีที่สุดในชีวิต คือน้องเขาก็เชียร์ว่าเป็นคนดีจริงๆ ก็เลยลองเปิดโอกาสคุยดู ซึ่งตอนนั้นก็คุยกันผ่านบีบี แล้วเวลาเราไปไหนมาไหนพี่กรเขาก็จะโผล่มาในชีวิตประจำวันตลอด มันก็เลยเหมือนเราได้เห็นกันอยู่สม่ำเสมอ จนทำให้ความสัมพันธ์เราพัฒนาขึ้นจนมีวันนี้ค่ะ ซึ่งบีประทับใจที่เขาเป็นคนคอยช่วยเหลือคนอื่นๆ ชอบช่วยเหลือคนรอบตัวเรา เขาไม่ได้ดูแลเราแค่คนเดียว แล้วก็ไม่ใช่คนขี้อวดด้วย

ผ่าน 7 ปีอาถรรพ์ และแต่งงานกันในปีที่ 8

สำหรับเรื่องอาถรรพ์ 7 ปี บีไม่ได้รู้สึกกลัวหรืออะไรเลย เพราะว่าจริงๆ ความรักมันคือการเดินข้างๆ ไปด้วยกันเรื่อยๆ มากกว่า และไม่ได้คาดหวังว่ามันต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เลยทำให้เราอยู่ด้วยกันแบบสบายๆ

ธีมงานแต่งแบบเรียบง่าย แต่ต้องสนุก

ตอนนี้ก็ดูงานด้านต่างๆ เอาไว้ว่าตัวเองชอบแบบไหนบ้าง ชอบลักษณะงานแบบไหน อยากได้งานแบบไหน แล้วก็ดูโรงแรมต่างๆ เอาไว้ ถ้าได้วันแต่งที่แน่นอนก็คงไปดูโรงแรมก่อน แล้วก็กำหนดจำนวนคนก่อนว่ากี่คน ราคาต่อหัวเท่าไหร่ ซึ่งก็มีการดูไว้คร่าวๆ แล้วว่าชอบการตกแต่งแบบไหนบ้าง ซึ่งจริงๆ บีเป็นคนที่ชอบอะไรเรียบๆ แต่เป็นเรียบๆ ที่ดูแล้วมีอะไรนิดนึง แล้วตัวพี่กรเองก็เป็นคนสนุกสนาน ก็เลยคิดว่าคงจะเป็นธีมอะไรที่เรียบง่ายแต่คงไว้ซึ่งความสนุกด้วย ส่วนฤกษ์แต่งงานก็เป็นช่วงกลางปีนี้ค่ะ

เคล็ดลับความงาม

บีเป็นคนออกกำลังกายอยู่แล้ว เล่นโยคะอยู่แล้ว ก็แค่ทำให้มันเป็นกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม คงเส้นคงวาเท่าเดิม แล้วปีหลังๆ ก็เข้านอนเร็ว พยายามนอนพักผ่อนให้เต็มที่ ซึ่งก็จะพยายามนอนให้ได้ตอน 4 ทุ่มหรือก่อนเที่ยงคืน เพราะเป็นช่วงเวลาของการพัฒนาระบบต่างๆ ที่สำคัญ

ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพจาก IG: bb_matika

a a a a a a a a a a a a a

“ไอซ์พาดี้” บิวตี้บล็อกเกอร์กับเคล็ดลับความงามและการเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่อยากบอกต่อ

เจ้าสาวรุ่นพี่ “ไอซ์พาดี้” บิวตี้บล็อกเกอร์สาวสวย ที่เพิ่งจูงมือแฟนหนุ่มคุณโต้ เจ้าบ่าวสายช่างภาพสุดเฟี้ยวเข้าสู่ประตูวิวาห์ในธีมงานแต่งสุดเก๋ที่แพรว wedding โชคดีมีโอกาสได้ไปร่วมงาน (ดูคลิปงานแต่ง >>> https://www.youtube.com/watch?v=DeyyJeQpQB8) และหลังจากที่เจ้าสาวคนสวยเสร็จจากภารกิจการเป็นเจ้าสาว เราก็เลยขอคว้าตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับการ เตรียมตัวเป็นเจ้าสาว และเคล็ดลับความงามฉบับบิวตี้บล็อกเกอร์ ว่าเธอคนนี้ดูแลตัวเองยังไงเพื่อให้สวยใสมีออร่าในวันแต่งงาน

 

นวดหน้า คือเคล็ดลับความงามของเธอ

ช่วงที่เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวก็มีไปนวดหน้าที่ Yamano เป็นการนวดของญี่ปุ่น ก็ไปนวดทุกๆ 2 สัปดาห์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไอซ์ไม่เคยนวดหน้ามาก่อน ส่วนมากจะใช้บริการคลินิกเสริมความงาม แต่มีคนแนะนำมาว่าไปนวดสิ มันดีนะ ก็เลยลองไปดู ซึ่งก็รู้สึกได้เลยว่ามันดี และทำให้ผิวของเราดีขึ้นมากจริงๆ

วางแผนทำสวยล่วงหน้า

ก่อนหน้าที่ยังไม่แต่งงานไอซ์ก็ดูแลตัวเองอยู่แล้ว แต่พอมาเป็นเจ้าสาวก็ดูแลมากขึ้นเป็นพิเศษ อย่างแต่ก่อนถ้าเรายุ่ง เราก็จะทำงานก่อนไม่สนใจความสวยความงามขนาดนั้น แต่พอจะเป็นเจ้าสาวเราก็ลงในตารางเลยว่าเราจะต้องไปนวดหน้าทุก 2 สัปดาห์ ต้องไปคลินิกดูแลผิวหน้า แล้วก็ดูแลเรื่องความหน้าเรียวหน้าเล็ก ซึ่งก็ต้องวางแผนก่อน เพราะถ้าเราฉีดโบท็อกซ์หรือว่าทำเทอร์มาจ หรืออัลเธอร่า อะไรก็ตามแต่มันไม่ได้เห็นผลทันที เพราะฉะนั้นก็มีไปฉีดโบท็อกซ์และทำเทอร์มาจประมาณ 1 เดือนล่วงหน้าก่อนวันแต่งงาน

ฟิตหุ่นเพื่อชุดแต่งงานในฝัน

ในเรื่องของการดูแลรูปร่างก็ออกกำลังกาย ฟิตแอนด์เฟิร์มเป็นพิเศษ มีการแต่งงานเป็นข้ออ้างเพราะเราก็อยากจะผอมสวยหุ่นดีทุกองศา ตอนแรกไอซ์ไม่ได้คิดจะลดเลยแต่ว่าตอนไปตัดชุดแต่งงาน ทางดีไซเนอร์บอกว่าลดได้ไหม ถ้าลดผอมแล้วจะใส่ชุดได้สวยกว่า ซึ่งชุดแต่งงานของไอซ์เป็นชุดแต่งงานที่สั่งตัดขึ้นมาใหม่ ออกแบบใหม่เพื่อเรา เป็นดีไซน์สำหรับเราคนเดียว ซึ่งตอนที่ดีไซเนอร์บอกให้ลด เราก็แอบคิดว่าเราก็ไม่ได้อ้วนนะ แต่เขาก็บอกว่ามันมีส่วนเกินตรงนั้นตรงนี้ ก็เลยลดก็ได้ ก็เลยไปออกำลังกายสัปดาห์ละหลายวัน มีใช้เทคนิคในคลินิกช่วยบ้าง เช่น การ CoolScupling เป็นการเอาความเย็นมาทำให้ไขมันสลาย แล้วก็กินน้อยลง เลือกกินมากขึ้น

ชุดแต่งงานจากร้าน Patarasiri  

ชุดแต่งงานที่ได้มาแบบบังเอิญ

ชุดแต่งงานรูปดาวของไอซ์เป็นความบังเอิญมากๆ คือไอซ์เป็นคนที่รู้ใจตัวเองมาก รู้ชัดเลยว่าตัวเองชอบอะไรไม่ชอบอะไร ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ไอซ์ไม่ชอบคือลูกไม้ ไม่มีทางเห็นไอซ์ในชุดลูกไม้แน่ๆ แล้วก็ไม่ชอบผ้าแข็งๆ ชุดที่ดูเป็นสุ่มๆ บานๆ แล้วตอนไปร้านชุดแต่งงานก็เหลือบไปเห็นผ้าผืนนี้ที่เป็นลายดาว เราก็แบบ เฮ้ย มันใช่มาก ซึ่งร้านนี้เป็นร้านแรกที่ไอซ์เพิ่งได้เข้ามาดูชุด แต่พอเห็นผ้าลายนี้ก็คือเอาเลย จบ เพราะไอซ์ชอบดาวอยู่แล้ว ส่วนดีเทลทุกอย่างของชุดก็มาจากความต้องการของไอซ์หมดเลย เปิดหลังหน่อยๆ อยากให้เป็นกระโปรงบานๆ ออกไป แล้วอยากโชว์ไหล่ด้วย

เจ้าสาวรุ่นพี่อยากบอกอะไรกับว่าที่เจ้าสาว

เรื่องความสวยความงามถ้าเราทำให้เรารู้สึกว่าเราสวยมั่นใจเป๊ะแล้ว แล้วเราก็จะมีเวลาไปทำเรื่องอื่น อย่างเรื่องผิว การแต่งหน้าทำผม หรือชุดแต่งงาน ไอซ์ทำการบ้านมาดีมาก มีซ้อมแต่งหน้าทำผมก่อนว่าจะเป็นประมาณไหน ซึ่งไอซ์แต่งหน้าด้วยตัวเอง ทำให้ไอซ์ไม่กังวลและไม่มีปัญหาในเรื่องเหล่านี้เลย ทุกอย่างเป็นไปตามที่เราคิด เราสวย เราแฮปปี้กับตัวเอง

และในฐานะที่เป็นเจ้าสาวรุ่นพี่ ก็อยากจะบอกว่าคนที่กำลังจะเป็นเจ้าสาวว่า ในวันแต่งงานคุณอย่าไปกังวลกับเรื่องต่างๆ มากนัก เพราะบางทีสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เรารู้สึก คนมาร่วมงานไม่ได้รู้สึกเลย เรานอยด์ไปเอง ไอซ์คิดว่าเราน่าจะเอาเวลาตรงนี้ไปทำอย่างอื่น และสนุกไปกับวันสำคัญของเราจะดีกว่า เพราะฉะนั้นการปล่อยวางทุกอย่างในวันแต่งงานเป็นสิ่งที่ดีที่สุดค่ะ

อ่านเรื่องราวความงามและสุขภาพเพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ IG : icepadie

เป็นเพื่อนเจ้าสาวต้องระวัง 35 เรื่องนี้อย่าได้ทำเด็ดขาด!

สาวๆ ทั้งหลายที่พอได้ยินว่าเพื่อนสนิทจะแต่งงานก็มักจะดี๊ด๊าและแอบลุ้นว่าจะได้เป็น เพื่อนเจ้าสาว หรือเปล่าน๊า แต่ แพรว wedding อยากจะเตือนสักนิดว่า ก่อนจะรับตำแหน่งเพื่อนเจ้าสาวคุณควรคิดให้ดีว่าจะทำหน้าที่นี้ได้ดีจริงไหม และหลังจากตอบรับไปแล้ว ต้องระวังเรื่องไหนบ้าง ไปดูกันค่ะ

 

1. รีบตอบตกลงเป็นเพื่อนเจ้าสาวทันทีโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วน

สิ่งแรกที่ว่าที่เพื่อนเจ้าสาวทุกคนต้องทำเมื่อได้ยินคำเชิญก็คือ “คิด” ค่ะ ไม่ใช่ว่าเขามาขอให้เป็นก็เป็นนะ คิดสักนิดว่า เจ้าสาวคนนั้นสนิทกับคุณมากแค่ไหน? คุณอยากจะปรากฏตัวในฐานะเพื่อนเจ้าสาวสำหรับงานนี้จริงหรือไม่? คุณมีเวลาว่างพอที่จะไปเดินเลือกซื้อเสื้อผ้าให้เข้าธีมไหม? และที่สำคัญ “วันงานแต่งคุณว่างและจะไม่ติดงานอะไรแน่ๆ” เพราะฉะนั้นคิดให้ถี่ถ้วนก่อนเซย์เยสนะ

2. ไม่รับฟังความคิดเห็นของเจ้าสาว

อันนี้ขอให้คิดไว้ว่า “คุณเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะคะ ไม่ได้เป็นเจ้าสาว” ถ้าคุณอยากเสนอความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ก็ย่อมได้ แต่ขอให้ฟังเจ้าสาวว่าเธอเห็นด้วยกับคุณหรือเปล่า บางทีเธออาจจะมีเหตุผลที่คิดไม่เหมือนกับคุณ เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่ได้ร้ายแรงมากมายอะไรก็ยอมนางเอกของงานไปเถอะค่ะ (เอาไว้รอให้ถึงงานของคุณเองค่อยจัดเต็มเนอะ)

3. พร้อมจะดราม่าทุกเมื่อ

แน่นอนว่าระหว่างการเตรียมงานแต่งทุกคนย่อมเกิดความเครียด จะเครียดมากน้อยก็แล้วแต่คนไป ส่วนคุณในฐานะเพื่อนเจ้าสาว ถ้าไม่ชอบกับแบบชุดที่ทุกคนเลือกมา หรือเกิดเรื่องหมางใจกันกับเพื่อนเจ้าสาวคนอื่น ขอให้ลองปรึกษากับหัวหน้าเพื่อนเจ้าสาว หรือเปิดใจคุยกันในหมู่เพื่อนเจ้าสาว อย่ารีบร้อนไปโวยวายฟ้องเจ้าสาวเด็ดขาด เพราะรายนั้นก็คงเครียดกับการเตรียมงานไม่น้อย เอาเป็นว่าลองแก้ปัญหากันเองก่อนเนอะ

4. เสียเงินเยอะแบบไม่รู้ตัว

อย่าคิดว่าการเป็นเพื่อนเจ้าสาวแล้วทุกอย่างจะฟรีหมดนะคะ แพรว wedding อยากให้คุณลองถามกับเจ้าสาวให้แน่ชัดว่า มีค่าใช้จ่ายอะไรที่คุณต้องออกเองบ้าง จากนั้นก็ควรวางงบประมาณส่วนของตัวเองให้รอบคอบ ทั้งเรื่องชุด รองเท้า เครื่องประดับ แต่งหน้า ทำผม และเรื่องอื่นๆ อีกจิปาถะ อันไหนเจ้าสาวจัดการให้ก็ดีไป แต่ถ้าอันไหนต้องจ่ายเองจะได้ไม่มาร้องอ้าวแล้วทำหน้างงทีหลังนะ

5. ลืมพกเครื่องสำอางกันตาย

สิ่งไหนที่สาวๆ คิดว่าจะต้องมีไว้กันความสวยหายไปบ้างคะ คอนซีลเลอร์? ลิปสติก? กาวติดขนตา? ขนตาปลอม? หรืออะไรที่คุณคิดว่าพกไว้แล้วอุ่นใจช่วยให้สวยได้ตลอดงานล่ะก็ หากระเป๋าใบเล็กๆ ใส่สิ่งของพวกนี้ไว้ใกล้ตัว อย่างน้อยๆ ถ้าฉุกเฉินขึ้นมาทั้งเจ้าสาว ทั้งเพื่อนเจ้าสาวจะได้สวยเป๊ะจนงานเลิก

6. ดื่มมากไปในปาร์ตี้สละโสด จนเช้าวันจริงตื่นไม่ทัน

ถึงแม้ปาร์ตี้สละโสดจะไม่ใช่วัฒนธรรมหลักของไทยเรา แต่หลังๆ มานี้หนุ่มสาวบ้านเราก็นิยมจัดกันมากขึ้นนะคะ เรื่องนี้คงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่สำหรับใครที่จัดก่อนวันแต่งงานสัก 1 สัปดาห์ แต่ถ้าคู่ไหนฮาร์ดคอร์อยากให้อารมณ์ความสนุกต่อเนื่อง เลือกจัดก่อนวันแต่งงาน เราขอเตือนเพื่อนเจ้าสาวไว้เลยนะคะว่า ดื่มได้แต่ห้ามมากห้ามเมา ไม่เช่นนั้นตื่นมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวไม่สวยแน่นอน

7. นินทาเจ้าสาวลับหลัง

จุ๊ๆๆๆ หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ต่อให้คุณรู้สึกเบื่อ รำคาญ หรือไม่พอใจเจ้าสาวมากแค่ไหน แต่คุณก็เป็นเพื่อนเธอนะ การนำเพื่อนมาพูดลับหลังแบบนี้นอกจากคุณจะถูกมองในแง่ร้ายแล้ว ยังถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงด้วย เพราะถ้าเจ้าสาวรู้เรื่องอาจมีเคืองกันไปอีกนาน เพราะฉะนั้นรูดซิปปากและอดทนค่ะ

ทรงผมเพื่อนเจ้าสาว แบบทำเองได้ไม่ง้อช่าง แต่สวยปังเหมือนเดินออกจากซาลอน!

มาดูเหล่า ทรงผมเพื่อนเจ้าสาว ที่ทำเองได้ไม่ยากเกินกำลัง แต่ดูดีไม่แพ้เดินเข้าซาลอนทีเดียว

ไปงานแต่งงานเป็นเพื่อนเจ้าสาวทั้งที จะทำผมแค่ดรายตรงธรรมดามันก็จะดูง่ายไปหน่อย แต่ครั้นจะเสียเงินให้ซาลอนเนรมิตผมสวยๆบ่อยๆเข้าก็กระเป๋าสตางค์แห้งได้นะจ๊ะ จะมีทรงผมแบบไหนบ้างหนอที่ทำเองอยู่ที่บ้านก็ได้ แต่ดูสวยเหมือนได้ช่างทำผมมาทำให้ถึงที่บ้าน เลื่อนหน้าจอลงมาเลยค่ะ เพราะงานนี้เรารวบรวม แบบทรงผมออกงานที่ทำได้ด้วยตัวเอง (อันนี้คอนเฟิร์มว่าทำได้ชัวร์เพราะเราลองมาแล้วจ้า!) มีทั้งแบบภาพอธิบายเข้าใจง๊ายง่าย และแบบคลิป VDO สอนกันแบบสเต็ปบายสเต็ป งานนี้เงินไม่ต้อง ขอแค่มีเวลาฝึกฝนก่อนวันออกงานจริงซัก 2-3 รอบ รับรองว่าคุณก็จะได้แบบผมออกงานสุดชิคไว้ทำไปงานอีกไม่รู้จบ (เอาไปสอนเพื่อนสาวก็เก๋ไปอีกนะเออ) ว่าแล้วก็มาเริ่มกันเลยค่ะ

มวยผมเปีย messy ที่ท้ายทอย  แค่แบ่งผมด้านหลังออกเป็นสามส่วน ถักเปียหลวมๆ แล้วขมวดหางเปียแต่ละส่วนเข้าด้วยกันไว้ที่บริเวณท้ายทอย จัดลูกผมให้ดูสวยแบบไม่ตั้งใจ ฉีดสเปรย์ทับ แค่นี้เองได้ผมสวยแล้วง่ายจัง

ทรงผมเจ้าสาว

 

เพิ่มความหรูหราด้วยการขมวดปมผมเข้าด้วยกันหลายๆปม เน้นการติดกิ๊บดำให้ผมแต่ละส่วนถูกตรึงแน่นอยู่กับศีรษะ

ทรงผมเพื่อนเจ้าสาว

 

เนี้ยบขึ้นมาอีกนิดด้วยทรงนี้ที่สอดและพันผมส่วนหางม้าเข้าไปเหนือฐานยางรัดผม จะเพิ่มความแกลมด้วยการประดับแอ็คเซสเซอรี่เข้าไปอีกก็ดีนะ

ทรงผมเพื่อนเจ้าสาว

 

คลิป VDO สอนทำผมออกงานด้วยตัวเองจากบล็อคเกอร์สาวที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะนามว่า Missy Sou ดูอย่างสามทรงผมนี้ที่เธอการันตีว่าใครก็ทำเองได้ชัวร์!

 

อีกหนึ่งบล็อคเกอร์สาวที่เชี่ยวชาญด้านการทำผมออกงานแบบง่ายๆด้วยตัวเองนามว่า Alex Gaboury กับทรงผมมวยต่ำท้ายทอยที่ทั้งง่ายและยังดูเก๋ไก๋เหมือนมีช่างมืออาชีพมาทำให้

 

ศึกษาคลิปและสเต็ปการทำผมออกงานแบบง่ายๆกันแล้ว ก็อย่าลืมหาเวลาว่างๆ ฝึกฝนซัก 2-3 รอบ ก่อนทำออกงานจริงด้วยละ แล้วต่อจากนี้เหล่าคุณเพื่อนเจ้าสาวจะสามารถประหยัดค่าทำผมไปงานได้อีกเยอะ ^^

ชอบคอนเท้นต์นี้ของเราไหมคะ? ถ้าชอบ คลิกอ่าน ไอเดียแอ็คเซสเซอรี่ผมเจ้าสาวสุดล้ำ ที่นี่เลย

credit photo: papernstitchblog.com, blog.lulus.com

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a a

Rustic Wedding ไอเดียงานแต่งสุดเก๋ที่เรียบง่ายแต่มีพลัง

Rustic Wedding อีกหนึ่ง ไอเดียงานแต่ง ที่น่าสนใจและช่วยสร้างสไตล์งานแต่งของบ่าวสาวให้ไม่ซ้ำใคร เพราะด้วยสไตล์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่กลับให้พลังของความสวยงามอย่างได้อย่างน่าเหลือเชื่อ หากคุณเป็นคู่รักที่อยากได้ลุคแบบธรรมชาติของงานแต่ง เราไม่อยากให้คุณพลาดธีมรัสติกนี้ด้วยประการทั้งปวง

หลายคนอาจสงสัยว่างานแต่งธีม Rustic คืออะไร ถ้าพูดกันง่ายๆ ก็คืองานแต่งสไตล์ชนบทฝรั่งนั่นเอง ให้ลองนึกถึงภาพโรงนาหรือหมู่บ้านเล็กๆ ที่เรามักจะเห็นกันในหนังฝรั่งสไตล์คาวบอยหรือหนังฝรั่งย้อนยุค ความโดดเด่นของงานแต่งธีม Rustic คือเน้นความเรียบง่ายแต่มีสไตล์อย่างเป็นธรรมชาติ โดยการเลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติมาเป็นองค์ประกอบหลักในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ไม้ ผ้ากระสอบ เชือกปอ ฟาง หรือกระดาษรีไซเคิล

ไอเดียงานแต่ง

ส่วนโทนสีที่ใช้ก็จะเป็นสีเอิร์ธโทน เช่น สีน้ำตาล สีเบจ สีเขียว เพื่อให้เกิดความกลมกลืนกับธรรมชาติ สำหรับของใช้ต่างๆ ในงานแต่ง ไม่ว่าจะเป็น การ์ด สมุดอวยพร หรือของชำร่วย ถ้าจะให้ดีและมีความเป็น Rustic แนะนำให้เป็นของโชว์ไอเดียสไตล์แฮนด์เมด เช่น นำผ้ากระสอบมาทำเป็นแพคเกจจิ้งของชำร่วย หรือใช้เชือกปอในการตกแต่งการ์ดและสมุดอวยพร เป็นต้น

และอีกหนึ่งอย่างสำคัญที่ต้องจำไว้ให้ดีคือ จุดเด่นของงานแต่งธีม Rustic คือไม่เน้นการตกแต่งด้วยดอกไม้ที่หรูหราฟู่ฟ่าหรือหวานหยาดเยิ้มอย่างสวนดอกไม้ แต่จะใช้แซมเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความน่ารักอ่อนหวานและสดชื่นให้กับบรรยากาศงานแต่งเท่านั้นเอง

พอจะเห็นภาพกันบ้างแล้วใช่ไหมคะสำหรับงานแต่งธีม Rustic เราเชื่อว่าน่าจะถูกอกถูกใจว่าที่บ่าวสาวที่ชอบความคลาสสิกเรียบง่ายอย่างเป็นธรรมชาติกันถ้วนหน้า และที่สำคัญเป็นธีมที่จะช่วยประหยัดงบประมาณไปได้มากเลยทีเดียว

ภาพ : www.willpursell.com, www.pinterest.com, localbprintingandgraphicdesign.com,
andrewmarkphotography.com

ไม่ต้องเป็นเชฟก็แอ็คได้! กับ 10 ไอเดียจัดของว่างเลี้ยงแขกเก๋ๆ

งานหมั้นของคนไทยมักจัดกันในช่วงเวลาเช้าๆ แทบทั้งนั้นนะคะ ซึ่งทำให้สิ่งหนึ่งที่บ่าวสาวจะลืมไปไม่ได้คือ อาหารว่างสำหรับแขกที่ให้เกียรติมาร่วมงาน แต่ครั้นจะให้จัดแบบวางใส่จานหรือใส่ถาดก็ดูจะธรรมดาเกินไป วันนี้ แพรว wedding จึงคัดไอเดียการจัด ของว่างงานหมั้น มาฝากคุณค่ะ รับรองได้ว่า แขกทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับความสวยงามและเก๋ไก๋ที่คุณตั้งใจทำเพื่อต้อนรับทุกคนแน่นอนค่ะ

1. จัดใส่ในโหลแก้ว เลือกโหลแก้วทรงสวยที่ปากค่อนข้างกว้างมาใส่ขนมทานเล่นอย่างถั่วคั่ว หรือคอร์นเฟลกรวมถึงขนมจำพวกลูกอมสีสันน่ารัก

2. จัดใส่ช้อน ความสะดวกรวดเร็วในการทานคือหัวใจอย่างหนึ่งในช่วงเวลาพักเบรคสู่ลำดับพิธีต่อไปที่บ่าวสาวห้ามลืม ฉะนั้นคุณอาจจัดเสิร์ฟอาหารว่างแบบใส่ช้อนเบ็ดเสร็จให้แขกแค่หยิบช้อนเข้าปากทานได้ทันทีเลยก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจค่ะ

3. เสิร์ฟในแก้วช็อต ใครว่าแก้วช็อตจะนำมาประยุกต์เป็นแก้วใส่อาหารไม่ได้ เพราะแก้วพวกนี้มีจุดเด่นที่ความเล็กน่ารัก แต่ใส่อาหารทานแล้วอิ่มท้องไม่มาก ทำให้แขกไปทานอย่างอื่นต่อได้สบายๆ แถมยังน่ารักอีกด้วยนะคะของว่างงานหมั้น

4. เสิร์ฟเป็นถ้วยพร้อมช้อน ขนมหวานอย่างช็อกโกแลกมูสที่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยตัก สามารถจัดไว้คู่กับถ้วยได้เลย แบบนั้นง่ายจะทานไม่ต้องวุ่นวายถามหาว่าช้อนอยู่ไหนอีกด้วยนะคะของว่างงานหมั้น

5. ใส่เป็นถุง ลองนึกย้อนไปถึงสมัยก่อนที่ซื้อขนมทานแล้วแม่ค้านำใส่ถุงกระดาษส่งให้สิคะ นอกจากจะได้ความสะดวกแล้ว ยังได้ย้อนความรู้สึกถึงอดีตวัยใสอีกด้วยนะ

6. เป็นแบบกรวย คล้ายๆ กับการใส่ถุงกระดาษ แต่เป็นอะไรที่ทำได้ไม่ยาก แค่เอากระดาษมาม้วนทำกรวยแล้วใส่อาหารหรือผลไม้ลูกเล็กๆ ลงไป เดินถือทานได้ทั้งงานสบายๆ ค่ะ

7. โหลค็อกเทล การเสิร์ฟเครื่องดื่มในงานครีเอทได้มากกว่าที่คิดนะคะ การเลือกใช้โหลแก้วที่ว่านี้ มีข้อดีตรงที่แขกบริการตัวเอง ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่มากนัก ที่สำคัญเด็กๆ ในงานชอบสุดๆ เพราะได้เป็นผู้ช่วยคุณพ่อคุณแม่หมุนก๊อกรินเครื่องดื่มใส่แก้วไงคะ

8. จัดวางบนชั้นวางเค้ก อย่าคิดว่าชั้นวางเค้ก 3 ชั้น 5 ชั้น ที่วางขายมีหน้าที่วางแค่ขนมเค้กนะคะ เพียงแค่คุณลองประยุกต์นำมาวางอาหารว่างที่จัดเป็นค็อกเทลคำต่อคำ ชั้นต่อชั้น ชนิดต่างกันก็เก่ดีออกว่าไหม

9. จัดบนเขียงไม้ไล่ระดับ เปลี่ยนจากการวางของว่างบนจานแบนๆ มาไว้บนเขียงไม้ แล้วลองวางแบบไล่ระดับดูสิคะ ตื่นตาตื่นใจไม่พอ ยังเก๋ไก๋แบบว่าคิดมาแล้วด้วยนะ

10. วางแบบแขวนห้อย นำของว่างประเภทของแห้งอย่างถั่วอบหรือขนมปังแท่งมาจัดเรียงห้อยแขวนเป็นแผงๆ ตามแนวยาว ก็เท่เก๋ไม่เหมือนใคร

เป็นไงกันบ้างคะ 10 ไอเดียง่ายๆ แบบนี้จพอจะเป็นไอเดียให้ทุกคนนำไปใช้กันได้ไม่มากก็น้อยนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

ภาพ : Pinterest

7 เคล็ดลับเขียนและอ่านคำขอบคุณแขกให้กระชับ ซึ้งใจ แต่ไม่ดราม่า!

อย่าคิดเด็ดขาดว่าการกล่าวคำ ขอบคุณแขก บนเวทีจะเป็นเรื่องจิ๊บๆ ที่แค่ถือไมค์แล้วเซย์ Thanks!! เพราะคุณคงไม่อยากให้แขกที่มาร่วมยินดีนับร้อยนับพันส่ายหน้าแล้วคิดในใจว่าเมื่อไหร่จะพูดจบ (วะเนี่ย!) ดังนั้นเพื่อเลี่ยงความดราม่า ความหน่ายและความพลาด แพรว wedding มี 7 เคล็ดลับมาชี้แนะค่ะ

  1. ร่างหัวข้อออกมาก่อนตามสไตล์นักเขียน

แม้คุณจะไม่ได้เป็นนักเขียนมืออาชีพ แต่ด้วยวิธีของนักเขียนที่ใช้มาแล้วได้ผลกับสารพัดงานเขียนที่ผ่านมา การร่างหัวข้อที่ต้องการให้มีในสคริปต์ช่วยได้มากค่ะ เพราะจะช่วยจับประเด็นในเบื้องต้นให้เห็นภาพรวมว่า เมื่อถึงเวลาต้องพูดบนเวทีจะมีเรื่องไหนบ้างที่แขกจะได้ยินจากคุณ เมื่อร่างออกมาก่อนคุณจะได้ทบทวนว่าอะไรที่มากไปและควรตัดทิ้ง อะไรที่ยังขาดก็ได้เติม แล้วรับรองว่าคำขอบคุณของคุณจะไม่มีอะไรตกหล่นให้เสียดายทีหลังไงคะ

  1. อินเนอร์ไม่ต้องมาเต็ม

อย่าลืมว่าสิ่งที่คุณกำลังจะร่างออกมาและพูดออกไปนั้นคนฟังคือใคร ซึ่งไม่ใช่ทุกคนจะมาอินกับความรักความรู้สึกของคุณที่อยากจะสื่อสารออกไปจากก้นบึ้งของหัวใจทั้งหมด ฉะนั้นความรู้สึกบางอย่างก็เก็บไว้พูดกันแค่สองคนในห้องหอพอ แล้วคัดเอาเฉพาะอินเนอร์บางส่วนมาเท่านั้นจะเรียกว่ากำลังดี

  1. คำสัญญาบางทีไม่ต้องมีก็ได้

บ่าวสาวหลายคู่ชอบที่จะใช้จำนวนแขกมาเป็นสักขีพยานสัญญาจะทำนั่นนี่ให้กัน ซึ่งก็ไม่ผิดถ้าอยากจะพูดเพราะตั้งใจจริง แต่ระวังไว้นิดนึงว่า ถ้าบังเอิญคุณเอ่ยคำสัญญาออกไปแล้ววันหนึ่งทำไม่ได้ ทีนี้ละ พยานปากเอกทั้งหลายก็คงเม้าคุณน่าดู ในจุดนี้ แพรว wedding ก็เลยแค่อยากเตือนไว้ก่อนร่างคำสัญญาแทรกในบทขอบคุณแขกว่า ขอให้มั่นใจจริงๆ ค่อยสัญญาก็ไม่สาย เพราะถ้าพูดออกไปเอไหร่ นอกจากคนข้างๆ จะตั้งความหวังแล้ว แขกนับร้อยยังจับตาดูอยู่ด้วยนะ

  1. ให้เพื่อนสนิทช่วยวิจารณ์

ผู้ช่วยคนสำคัญที่จะกันไม่ได้เกิดความดราม่ามากเกินไป ก็คือเพื่อนซี้ของคุณค่ะ เมื่อร่างเสร็จ ลองเอามาให้เพื่อนอ่านแล้วให้ช่วยวิจารณ์กันก็ดี เพราะเพื่อนจะให้ทั้งมุมมองตรงไปตรงมาได้ในฐานะเพื่อนพร้อมๆ กับมุมมองในฐานะแขก ลองดูสิว่าฟังแล้วเพื่อนรู้สึกยังไงค่อยปรับ

ขอบคุณแขก

  1. ซ้อมอ่านออกเสียงเพียงลำพัง

เมื่อแก้ไขได้อย่างใจคิดแล้ว ต้องไม่ลืมซ้อมอ่านให้คล่องปากค่ะ เพราะความหน่ายที่เกิดขึ้นอย่างหนึ่งคือ วิธีการอ่านหรือพูดคำขอบคุณของบ่าวสาวที่ไม่ได้ซ้อมมาสักนิด เพราะเกิดอาการติดๆ ขัดๆ ในคำพูด ไหนจะเรื่องการสะกดอารมณ์ซึ้งส่วนตัวอีก ซึ่งคุณคงไม่อยากน้ำตาแตกจนพูดต่อไม่ไหวใช่ไหมล่ะ ฉะนั้นซ้อมให้แม่น อ่านให้คล่องจะช่วยทำให้น่าฟังขึ้นค่ะ

  1. ซ้อมอ่านต่อหน้าเพื่อนซี้

เพิ่มความมั่นใจและลดอาการประหม่าอีกนิดด้วยการซ้อมอ่านหรือซ้อมพูดต่อหน้าเพื่อนๆ ค่ะ ยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่มีประวัติว่าเคยเกิดอาการตื่นเต้นเสมอเมื่ออยู่หน้าชั้นแล้วละก็ การซ้อมครั้งนี้ช่วยเรียกความมั่นใจได้มากค่ะ

  1. ท่องให้ขึ้นใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ

ต่อให้เขียนมาดี ซ้อมมาเยอะ ความผิดพลาดหรือหลุดประเด็นหลุดอารมณ์เล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นได้กับทุกคน ฉะนั้นเคล็ดลับสุดท้ายที่แพรว wedding ขอฝากไว้คือ จงคิดเสมอว่าไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ จงอย่าคาดหวังกับการตอบรับของแขกและอย่าคาดหวังว่าตัวเองจะพูดได้ไหลๆ เหมือนที่ซ้อมเสมอ เพราะเมื่ออยู่บนเวที ทั้งแสงไฟ จำนวนคน และความรู้สึกในฐานะบ่าวสาว อาจทำให้สิ่งที่ซ้อมมาไม่ได้อย่างตั้งใจจนไม่สามารถแสดงออกมาได้เต็มทั้ง 100%

ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ว่านี้ ปล่อยไปเลยค่ะไม่มีใครว่า ไม่ต้องขออ่านใหม่ (เพราะอารมณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว) ขอให้รู้เลยว่า แขกทุกคนเข้าใจดีว่าคุณมีความสุขระคนตื่นเต้น ดีไม่ดี อาการหลุดสคริปต์หรือแม้แต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ อาจนำมาซึ้งโมเม้นที่ดีที่สุดในวันนั้นก็ได้นะคะ

 

เรื่อง : ดอกปีบ

ภาพ : http://www.tuxandtalesphoto.co.uk, http://www.bridebox.com

6 นิสัยไม่น่ารักที่แขกในงานแต่งไม่ควรทำ

มันก็จริงนะคะที่การมาร่วมงานของคุณคือการให้เกียรติ ให้ความสำคัญกับบ่าวสาว แต่ก็ใช่ว่าเป็นแขกแล้วจะทำอะไรก็ได้นะคะ เพราะมีนิสัยบางอย่างที่แพรว wedding แอบสังเกตการณ์ แขกในงานแต่ง และสอบถามจากบ่าวสาวหลายคู่ที่เกิดอาการไม่ปลื้มเอาซะเลย ถ้าคนเป็นแขกทำอะไรแบบนี้ ถึงกับต้องส่ายหน้าแบบว่าขอทีเหอะ บางอย่างก็ ไม่ควรทำ นะ!

6 เรื่องที่บ่าวสาวไม่ปลื้มและ แขกในงานแต่ง ไม่ควรทำ ขอร้องเลย!

  • ขอเพลงในงานแต่ง

เข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่าคะเนี่ย นี่งานแต่งงานนะคะ ไม่ใช่ปาร์ตี้ปีใหม่หรือสังสรรค์เลี้ยงรุ่นในร้านอาหาร อย่าได้เขียนชื่อเพลงใส่กระดาษแล้วไปยื่นให้กับดีเจหรือนักดนตรีเชียวล่ะ เพราะแต่ละเพลงที่เปิดในงานทางเจ้าภาพได้ตกลงกับนักดนตรีไว้แล้วค่ะ และที่สำคัญคุณเองไม่รู้เงื่อนไขในการจ้างงานของเจ้าภาพกับวงนั้นว่า เล่นได้กี่เพลง เพลงสากลหรือเพลงไทย ราคาต้องบวกไหมถ้าเกินกว่าที่ตกลง ฉะนั้นปล่อยให้เพลงที่กำหนดได้ถูกปล่อยออกมาตามความตั้งใจของเจ้าภาพเถอะค่ะ ส่วนคุณน่ะนะ ฟังและบันเทิงไปค่ะ

  • ชุดขาวต้องเลี่ยง

เช่นเดียวกับข้อเมื่อกี้ค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นชุดสีขาวสะอาดตาที่ขอบอกว่า สาวๆ อย่าริหยิบขึ้นมาทาบตัวเด็ดขาด เพราะถ้าทาบแล้วใส่มา เจ้าสาวกรี๊ดใส่แน่นอน เพราะคนไทยเนี่ย สีขาวในงานแต่งยังไงก็คือสีของตำแหน่งเจ้าสาว ซึ่งถ้าบ่าวสาวไม่ได้บอกว่าใส่มาได้ละก็ อย่าทะเล้นหยิบมาใส่แข่งกับนางเอกของงานให้เคืองใจเป็นเด็ดขาด

Photo by Marcel Strauß on Unsplash
  • แบ่งพรรคแบ่งพวกและแบ่งพื้นที่

นี่คืองานแต่งงานที่จะหลอมรวมเอาครอบครัว 2 ครอบครัวให้เป็นหนึ่งเดียว ดังนั้นการที่คุณซึ่งเป็นแขกจะมาบอกว่าไม่นั่งติดคนนี้เพราะไม่ใช่ครอบครัวฉัน ไม่ยืนฝั่งนี้เพราะไม่รู้จักกัน รวมถึงคำว่าต้องถ่ายรูปกับใครไม่รู้ไม่เอาอ่ะ เป็นนิสัยที่ไม่ควรทำ เพราะถ้าทำเมื่อไหร่ แล้วบ่าวสาวรู้เข้าจะสร้างความเจ็บปวดและน่าปวดหัวให้มากมาย ลองคิดแทนใจบ่าวสาวนะคะว่าแขกตั้งเยอะแยะ จะต้องรีบต่อคิวต่อแถวถ่ายรูป คุณจะมาเกี่ยงงอนเพื่ออะไร เอาเป็นว่าต่อให้คุณไม่ชอบคนๆ นั้นแต่ขอให้จำไว้ว่า รักกันไว้เถิด (แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็ได้) เพื่อบ่าวสาวที่คุณฝ่ารถติดมาร่วมยินดีไงคะ

  • กินไม่ยั้งไม่เหลือเผื่อใคร

ไม่ได้หวงว่าจะไม่ให้กินหรอกนะคะ แต่ในกรณีนี้เราหมายถึงเมนูพิเศษทั้งหลายที่บ่าวสาวขนมาเสิร์ฟเพื่อเพิ่มความประทับใจให้แขก ไม่ว่าจะเป็น Food Trucks สุดเท่ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเจ้าดังหรือไอศกรีมนำเข้า ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะสั่งตามจำนวนคน โดยลดทอนไปตามปริมาณอาหารอื่นๆ ในงาน  ซึ่งถ้าคุณได้ลองทานแล้วก็อย่าเพิ่งทานซ้ำมากมายหลายจานอยู่คนเดียวหรือกลุ่มเดียว ปล่อยให้คนอื่นได้ทานบ้าง บ่าวสาวบอกว่าจะกราบขอบพระคุณเชียวล่ะค่ะ

  • กลับก่อนงานจะเริ่ม

เข้าใจค่ะว่าบางทีงานแต่งก็ใช้เวลานานมากกว่าจะเริ่ม ทำให้คนเป็นแขกรู้สึกว่าไม่รอแล้วดีกว่า เดี๋ยวต้องเจอรถติดจะยิ่งถึงบ้านดึกอะไรแบบนั้น แพรว wedding อยากให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุของความล่าช้าก่อนตัดสินใจชิ่งนะคะ เพราะส่วนใหญ่ที่งานแต่งในบ้านเราเริ่มต้นช้าก็เพราะประธานยังมาไม่ถึง อาจเพราะรถติดมาก หรือมีภารกิจอื่นๆ ก่อนจนยังมาไม่ถึงตามเวลา ซึ่งทั้งหมดก็ไม่ใช่ความผิดของบ่าวสาวนี่นา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าแขกส่วนใหญ่คิดแบบนี้ กว่างานจะเริ่มบรรยากาศคงเหงาพิกล

แขกในงานแต่ง

  • มาร่วมงานเพื่อเมาหัวทิ่ม

หลายคนชอบเหลือเกินเวลาไปงานแต่งงาน เพราะรู้สึกว่าได้กินฟรีทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ก็เลยซัดไม่ยั้ง โดยเฉพาะเครื่องดื่มมึนเมาที่พอเมาแล้วพูดไม่รู้เรื่อง โวยวายเอะอะจนเจ้าภาพต้องเข้ามาเคลียร์ ขอบอกตรงนี้เลยว่า เป็นนิสัยแย่มากที่บ่าวสาวกลัวเหลือเกินว่าจะเกิด และหากคุณทำนิสัยแบบนั้น ไม่ใช่แค่บ่าวสาวเท่านั้นจะเมินหน้าหนี แต่แขกทั้งงานจะเม้าคุณไปทั่วคุ้งเชียวล่ะ

บอกเลยว่านิสัยทั้งหมดที่ว่ามานี้เจอกันทีมีปวดหัว แถมเจ้าภาพจะทำรุนแรงมากไปก็ไม่ได้ ก็คุณเป็นแขกที่อุตส่าห์มาร่วมยินดีนี่คะ แต่ครั้นจะไม่ทำอะไรเลย แขกคนอื่นก็เดือดร้อน เห็นไหมละเป็นเจ้าภาพนี่ช่างลำบากเหลือเกิน ลองเอาใจบ่าวสาวมาใส่ใจคุณดู ก่อนจะนำนิสัยไม่น่ารักในงานแต่งครั้งต่อไปนะคะ

>> ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : www.thisisinsider.com, Brides, Unsplash.com

3 งานแต่งธีมย้อนยุค กับเดรสโค้ดสุดปังที่ที่แต่งไม่ยากอย่างที่คิด

ไป งานแต่งธีมย้อนยุค ก็ต้องสนุกกับการแต่งให้ให้เต็มที่สิ!!

งานแต่งธีมย้อนยุค เป็นอีกหนึ่งธีมงานแต่งที่บ่าวสาวยุคนี้นิยมเลือกมาใช้กับงานของตัวเอง เพราะฉะนั้นแขกเหรื่อที่ได้รับการ์ดเชิญก็มักจะกระตือรือร้นหาชุดแนวย้อนยุคเก๋ๆ ไว้ใส่ไปงาน แต่เดี๋ยวก่อน! ไอ้คำว่า “ย้อนยุค” เนี่ย มันยุคไหนกันละจ๊ะสาวๆ เอาเป็นว่าเราขอนำเสนอชุดสำหรับใส่ไปงานแต่งของ 3 ยุคยอดฮิต ได้แก่ ยุค 1920 , 1950 และ 1970 ถ้าอยากรู้ว่าเป็นยังไงก็ตามมาดูกันเลยจ้า

1. ยุค 1920 “Flapper Dress” สไตล์เก๋ไก๋หลังสงครามโลกครั้งที่ 1

flapper-dress

สำหรับในยุค 1920 แฟชั่นที่มาแรงสำหรับสุภาพสตรีในช่วงนั้นเห็นที่จะหนีไม่พ้น “Flapper Dress” ใครที่นึกภาพไม่ออกขอให้ไปเสิร์ชอากู๋กูเกิ้ล หาหนังเรื่อง The Great Gatsby หรือซีรี่ส์ยอดฮิตเรื่อง Dowton Abbey (เรื่องนี้สนุกมาก!) จะเห็นว่าสาวๆ ในเรื่องหล่อนใส่ชุดเดรสแบบ

งานแต่งธีมย้อนยุค

Flapper Dress ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่

  1. ทรงผมบ็อบสั้น ดัดลอนเปียก
  2. ผ้าคาดผมเริดๆ ที่ห้ามพลาดห้ามลืมเป็นอันขาด!
  3. แต่งหน้าแน่นๆ ถมเปลือกตาแบบสโมกกี้อายส์
  4. ประโคมมาทั้งไข่มุก ขนนก และเฟอร์หนาๆ พันรอบคอ
  5. เดรสทรงตรง หลวม ไม่รัดรูป ผ้าเบาพลิ้ว และกระหน่ำปักเลื่อมลายวิบวับ

 

2. ยุค 1950 “สาวกระโปรงบาน” ตามแบบฉบับป้ามาริลีน

50s

ถ้าพูดถึงวนิดา นางเอกของพันตรีประจักษ์หลายคนก็คงร้องอ๋อแน่นอน แถมยังเป็นอีกหนึ่งธีมยอดฮิต ไม่ว่าจะงานแต่ง งานวันเกิด หรืองานเลี้ยงรุ่น ก็มักจะนำธีมแฟชั่นของยุค 1950 มาเป็นเดรสโค้ด

งานแต่งธีมย้อนยุค

ซึ่งลักษณะเด่นๆ ของชุดในยุคนี้คือ

  1. ทรงผมดัดลอนแบบมาลิรีน มอนโร
  2. ปากต้องแดง แดง และแดงเข้าไว้!
  3. เดรสจั๊มพ์เอวเข้า ช่วยเผยทรวดทรงชัดเจน
  4. เน้นสีสันสดใส ลายจุด ลายสก็อต ลายทาง
  5. มีไอเท็มหลักประจำกายคือ หมวกและถุงมือที่เข้ากันกับชุด
  6. กระโปรงบาน ความยาวคลุมเข่า

 

 3. ยุค 1970 “สาวฮิปปี้” แต่งกายแบบแสบทรวงสุดๆ

70s

ยุค 1970 หรือยุคบุปผาชน ขอบอกว่าแฟชั่นจัดเต็มสุดๆ เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของชาว “ฮิปปี้” ที่ได้รับอิทธิพลความคิดและการแต่งการมาจากฝั่งอเมริกา มีความเป็นตัวของตัวเอง อยากแต่งอะไรก็แต่ง อยากหยิบอะไรมาใส่ก็จัดไป

งานแต่งธีมย้อนยุค

ซึ่งลักษณะเด่นของแฟชั่นยุคนี้ก็คือ

  1. ผมยาว ม้วนลอนใหญ่ และไดร์ให้ดูพองๆ ฟูๆ
  2. สีปากซอฟท์ๆ แต่เน้นหนักที่สีตา เขียว ฟ้า ชมพู ก็แต่งได้ไม่มีใครว่าเชย
  3. เสื้อผ้าสีสันแสบตา หลากหลายสีในชุดเดียวกัน ที่สำคัญต้องไซส์เล็ก เอวลอย
  4. กระโปรงสั้นอวดขาสวย กางเกงขาบาน ยิ่งบานยิ่งดี
  5. เอวสูงและสารพัดลวดลาย

สำหรับใครที่ได้การ์ดเชิญไปงานแต่งธีมย้อนยุค เราขอแนะนำว่าให้ดูดีๆ หรือถามบ่าวสาวให้แน่ชัดว่า “ย้อนยุคที่เธอว่ามามันยุคไหนกันแน่?” จะได้หาเสื้อผ้าใส่ไปร่วมงานได้แบบเป๊ะๆ ไม่หลงยุคนะจ๊ะทุกคน!

แต่ถ้าใครยังไม่มีไอเดียชุดไทยเริดๆ ลองไปดูที่นี่เลย >>> งามเลิศในปฐพี..เก็บตกชุดไทยประยุกต์จากงาน ‘อุ่นไอรัก คลายความหนาว’

ภาพ : vintagedancer.com, pinterest.com, flickr.com, funwirks.com, praew.com, moderoute.com, blogs.topwedding.com

จัดไป!! ของรับไหว้ โดนใจผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัยในงานแต่ง

ของรับไหว้ เลือกแบบนี้รับรองถูกใจผู้ใหญ่เลิฟชัวร์

สิ่งหนึ่งในงานแต่งที่ว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายตัดสินใจยากเหลือเกินก็คือ ของรับไหว้ เพราะกลัวว่าเลือกมาแล้วผู้ใหญ่จะถูกอกถูกใจหรือนำไปใช้ได้จริงหรือเปล่า แพรว wedding เลยจัดลิสต์ของรับไหว้สุดฮิตที่ให้เมื่อไหร่รับรองถูกใจผู้ใหญ่แน่นอนมาฝาก

ผ้า

ของรับไหว้หนึ่งในของรับไหว้ยอดฮิต แนะนำให้เลือกเป็นผ้าไหมหรือผ้าแพร เพราะดูดีมีราคาและเหมาะกับผู้ใหญ่มากๆ แล้วอย่าลืมมองหาแพคเกจจิ้งสวยๆ ด้วยนะคะ

หมอน

ลองเลือกเป็นหมอนใบชา หรือหมอนเพื่อสุขภาพขนาดพอเหมาะ จะให้ใบเดียวหรือให้เป็นคู่ก็ดูดีไม่แพ้กัน (แต่ถ้าให้เป็นคู่ก็อาจจะช่วยเสริมเรื่องความรักให้อยู่คู่กันตลอดไปก็ได้นะคะ) และก่อนให้อย่าลืมผูกโบหรือริบบิ้นสวยๆ ด้วยนะคะจะได้ช่วยเพิ่มมูลค่า

ชุดเครื่องหอม

ของรับไหว้เครื่องหอมที่จัดเซตในแพคเกจจิ้งสวยงามก็เหมาะจะนำมาใช้เป็นของรับไหว้ แถมยังมีความหมายดีๆ ที่สื่อถึงความรักอันหอมหวนของบ่าวสาว แต่ก่อนเลือกซื้ออย่าลืมเทสต์กลิ่นด้วยตัวเองกันก่อนนะคะ ถ้าจะให้ดีลองชวนคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย เผื่อจะได้กลิ่นดีๆ ที่ถูกใจผู้ใหญ่จริงๆ

ชาหอมสมุนไพร

ของรับไหว้ชาหอมสมุนไพรก็น่าจะเป็นของรับไหว้ที่ถูกใจผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อย เพราะผู้ใหญ่ส่วนมากชื่นชอบการดื่มชากันอยู่แล้ว แต่ถ้าผู้ใหญ่ท่านไหนไม่ชอบดื่มชาก็ยังสามารถนำสิ่งนี้ไปเป็นของขวัญหรือของฝากคนอื่นๆ ต่อได้อีก และถ้าบ่าวสาวกลัวว่า เอ๊ะ ให้แค่ชาอย่างเดียวจะดูน้อยไปหรือเปล่า ก็ลองมองหาชาหลากหลายแบบมารวมไว้ในกล่องสวยๆ หรือจะแถมแก้วชาเก๋ๆ ไปด้วยก็เริดไม่น้อยเหมือนกัน

ผ้าขนหนู

จับเซตชุดผ้าขนหนูมาสัก 1 เซต แนะนำเลือกแบบที่ไม่เป็นลวดลาย และสีสันไม่จัดจ้าน ขอแนะนำให้เลือกสีเรียบๆ น่าจะเหมาะที่สุด แล้วอย่าลืมใส่ใจเลือกผ้าขนหนูที่มีขนผ้านุ่มนิ่มซับน้ำได้ดีด้วยนะคะ จะได้ไม่โดนติงในภายหลัง

เครื่องเบญจรงค์

ของรับไหว้นอกจากจะดูดีมีราคาแล้ว ยังน่าจะถูกอกถูกใจสำหรับผู้ใหญ่ที่ชื่นชอบการสะสมข้าวของโบราณอีกด้วย หากมีงบเยอะหน่อยจะซื้อมาเป็นชุดใหญ่แบบจัดเต็มก็ได้ แต่ถ้างบน้อยอยากประหยัด ก็เลือกแบบปังๆ มาสักหนึ่งอันแล้วใส่ไว้ในกล่องหรูๆ ก็ดูดีไม่แพ้กัน

ชุดถ้วยชากาแฟ

ชุดถ้วยชากาแฟชุดถ้วยชากาแฟก็เหมาะจะนำมาใช้เป็นของรับไหว้ เพราะสวยงาม ดูดีมีราคา และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ส่วนลวดลายและรูปทรงนั้นก็ลองมองหาที่สีสันหรือลวดลายไม่ฉูดฉาดหรือทันสมัยมากนัก น่าจะถูกใจผู้ใหญ่มากกว่านะคะ

ข้าว

ของรับไหว้ยอดฮิตอีกหนึ่งอย่าง บวกกับปัจจุบันเทรนด์รักสุขภาพกำลังมา ลองมองหาข้าวกล้องหรือข้าวไรซ์เบอร์รี่ก็เก๋ไม่หยอก ดูห่วงใยใส่ใจผู้ใหญ่ไปอีก สุดท้ายอย่าลืมเลือกแพคเกจจิ้งสวยๆ ก่อนให้ด้วยนะคะ

ของรับไหว้ผู้ใหญ่สไตล์ DIY ที่เราอยากแนะนำ >>> ‘จำปาดอง’ ภูมิปัญญาชาววัง ที่แจกเป็น ของชำร่วยงานแต่ง ก็ดี ของรับไหว้ก็เริด

ขอบคุณภาพจาก : www.miladywedding.com, www.sodazzling.com, www.velamall.com, www.blossomlove.com, www.duckieshop.com, www.thaidirect.co, teapillows.com/

ปักหมุดทุกวันที่ 14 วันแห่งความรักของเกาหลี ที่เราอยากให้คนไทยได้รู้

รู้หรือไม่ว่าทุกวันที่ 14 ในทุกเดือนของชาวเกาหลีนั้นล้วนเป็น วันแห่งความรัก และมีกิจกรรมน่ารักๆ มากมายให้เหล่าคู่รักได้ออกไปทำกันแบบไม่ซ้ำในแต่ละเดือน แพรว wedding เลยอยากคู่รักคนไทยได้ลองปักหมุดแล้วจูงมือคนรักไปทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกันบ้าง หรือเผื่อจะเป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ สำหรับการขอแต่งงาน วันแต่งงาน หรือทริปฮันนีมูนของคุณก็ได้ ถ้าพร้อมแล้วกางปฏิทินแล้วเตรียมตัวจดได้เลย

14 ม.ค.  –  Diary Day เป็นวันที่คู่รักจะมอบไดอารี่ที่เขียนมาตลอดระยะเวลาที่คบกันเป็นของขวัญให้แก่กัน การมอบไดอารี่นี้ไม่ได้มีเฉพาะคนที่เป็นแฟนกันเท่านั้น สำหรับคนที่แอบชอบใครอยู่ก็สามารถนำไปให้เขาแทนการสารภาพรักได้เช่นกัน

14 ก.พ. – Valentine Day วันวาเลนไทน์สากล เป็นวันที่สาวๆ จะมอบช็อกโกแลตให้กับชายหนุ่มที่ชอบ

14 มี.ค. – White Day วันที่หนุ่มๆ จะมอบลูกกวาดกลับไปให้กับสาวๆ เพื่อเป็นการตอบรับความรักสาวที่ให้ช็อกโกแลตเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา

14 เม.ย. – Black Day เป็นวันที่กลุ่มคนโสดจะแต่งกายชุดดำ เครื่องประดับสีดำ และพากันไปกินบะหมี่ซอสซีอิ๊วดำที่เรียกว่า “จาจังมยอน”

14 พ.ค. – Rose Day ตามชื่อวันเลยค่ะ คู่รักเกาหลีจะมอบดอกกุหลาบเพื่อแสดงความรักให้กัน โดยไม่จำกัดเฉพาะกุหลาบแดงเท่านั้น จะเป็นดอกกุหลาบสีอื่นก็ได้ ซึ่งแต่ละสีก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป

14 มิ.ย. – Kiss Day วันแห่งการจูบ หนุ่มสาวที่จะเพิ่งคบหากันเมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา วันนี้ก็จะเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญ เนื่องจากทั้งคู่จะได้มี First Kiss ซึ่งคนเกาหลีให้ความสำคัญกับจูบแรกมาก ถึงก่อนหน้านี้จะจูบกันมาจนปากเปื่อยแล้ว แต่ก็ไม่มีจูบไหนจะสำคัญเท่ากับจูบในวันนี้

14 ก.ค. – Silver Day เป็นวันที่หนุ่มสาวเกาหลีจะเปิดตัวคู่รักของตัวเองกับเพื่อนๆ และคนรอบข้างอย่างเป็นทางการและจะมอบเครื่องประดับเงินให้กัน

14 ส.ค. – Green Day วันนี้คนที่มีคู่ชูชื่นจะควงกันออกไปเดินเล่นชิลๆ ตามสวนสาธารณะเพื่อชมความสดใสของดอกไม้และต้นไม้ใบหญ้า ส่วนคนโสดที่ไม่มีใครให้ควงก็จะออกมาดื่มโซจูขวดสีเขียวเพื่อเป็นการปลดปล่อยความเหงาตามประสาคนไร้คู่

14 ก.ย. – Music & Photo Day เป็นวันที่คู่รักเกาหลีจะนัดพบกับเพื่อนๆ เพื่อมอบซีดีเพลงรักเป็นของขวัญ พร้อมกับถ่ายรูปร่วมกัน เชื่อกันว่ายิ่งถ่ายรูปได้เยอะเท่าไหร่ก็จะยิ่งรักกันทวีคูณมากขึ้นเท่านั้น

14 ต.ต. – Wine Day เริ่มเข้าฤดูหนาวอากาศก็เริ่มเย็น วันนี้คู่รักเกาหลีจะมาดื่มไวน์ด้วยกัน เพราะการได้จิบไวน์พร้อมกับคนรู้ใจคงจะทำให้อากาศอบอุ่นขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

14 พ.ย. – Movie & Orange Day วันนี้หนุ่มสาวเกาหลีจะชวนกันออกมาดูหนังพร้อมกับดื่มน้ำส้มที่หอมหวาน …คงจะเป็นวันที่โรแมนติกไม่น้อย

14 ธ.ค. – Hug Day “หนาวเนื้อห่มเนื้อจึงหายหนาว” เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปีอากาศหนาวขึ้นเป็นทวีคูณ คู่รักเกาหลีจึงนิยมแบ่งปันไออุ่นให้กันและกันผ่านอ้อมแขนนุ่มๆ ไม่เพียงแต่คู่รักเท่านั้นที่จะกอดกัน ยังรวมไปถึงคนในครอบครัวและเพื่อนฝูงด้วย

เป็นไงบ้างคะ รู้สึกอยากลุกขึ้นมาทำกิจกรรมกันบ้างแล้วยัง หรือใครที่มีฤกษ์ตรงกับวันที่ 14 ของเดือนไหนก็ลองนำสิ่งนั้นไปเป็นกิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ในงานแต่งงานก็น่าจะน่ารักไปอีกแบบนะคะ

อ่านเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ข้อมูลจาก : www.iamsam.diaryis.com
ภาพ : www.noozjyjblog.wordpress.com , www.lolcandy.com , www.bhmpics.com , www.leejin8.wordpress.com , www.th.aliexpress.com , ktownkaja.wordpress.com , www.abc.net.au , www.nypost.com , www.zebrafrozenyogurt.com , www.hancinema.net

บ่าวสาวห้ามลืม! 12 ภาพนี้ต้องมีในอัลบัมภาพถ่ายวันแต่งงาน

ใช่ว่าเมื่อคุณสรุปช่างภาพในวันแต่งงานได้ลงตัวแล้ว เรื่องของภาพถ่ายจะจบลงแค่นั้น เพราะคุณต้องวางแผนในการถ่ายภาพด้วยค่ะ แพรว wedding ขอบอกเลยนะว่า อย่าได้ปล่อยให้ช่างภาพคิดแค่ฝ่ายเดียว เพราะมุมมองและสไตล์ของช่างจะไม่มีทางเหมือนกัน ซึ่งเราว่าเรื่องฝีมือก็แบบว่าต่างคนต่างใจจะชอบแบบไหนก็ว่ากันไป แต่ไม่ว่าฝีมือช่างภาพจะโปรหรือแป้ก 12 ภาพต่อไปนี้ ต้องไม่ลืมย้ำว่าต้องมีบันทึกไว้ใน อัลบัมภาพถ่ายวันแต่งงาน อย่าได้ลืม เพราะทั้ง 12 ภาพ คือ 12 ความทรงจำสำคัญที่คุณย้อนกลับมาดูเมื่อไหร่เป็นได้ซึ้งแน่นอน

เริ่มต้นกันที่ “ภาพการ์ดเชิญ” ที่กว่าจะสรุปธีมสี แบบ หรือโลโก้ คือแบบว่าใช้เวลานานมาก และการ์ดเชิญเหล่านี้ คือจุดเริ่มต้นสำคัญของส่วนอื่นๆ ในวันงานที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น Mood & Tone ธีมสี ธีมงาน รายละเอียดการจัดงาน ฉะนั้นภาพกลุ่มการ์ดเชิญแบบนี้ต้องมีเก็บเป้นอันดับแรก

ต่อกันด้วยของสำคัญสุดๆ อย่าง “ภาพแหวนแต่งงาน” ที่คุณไม่ควรถ่ายแค่บนพื้นโล่งๆ หรือแค่แบบที่สวมในนิ้ว ลองจัดพร้อพสวยๆ แล้วเอากล่องแหวนมาวางใส่เป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้ รับรองว่าสวยฝัง

ถ้าซินเดอเรลล่ามีรองเท้าสื่อรัก คุณเองก็ต้องมี “รองเท้าแต่งงาน” คู่ใจเหมือนกัน ฉะนั้นภาพนี้จึงต้องไม่พลาด แล้วอย่าลืมยแความดีให้รองเท้าหลังเลิกงานด้วยนะคะ ก็แหม…อยู่กับคู่มาตลอดทั้งคืนนี่นา

สัญลักษณ์อีกหนึ่งแห่งความเป็นเจ้าสาวที่ขาดไม่ได้คือ “ภาพช่อดอกไม้เจ้าสาว” ที่อย่าลืมสะกิดบอกกับช่างภาพเด็ดขาดว่าต้องมีเก็บไว้ให้คุณได้นึกถึงโมเม้นที่ถือเจ้าช่อนี้เข้างานด้วยนะ

อีกโมเม้นสวยๆ ที่ว่าที่เจ้าสาวหลายคนไม่ค่อยอยากให้ถ่าย เพราะยังสวยไม่เต็มคือ “ภาพตอนกำลังให้ช่างแต่งงาน” ภาพแบบนี้ไม่ใช่ว่าจะมีโอกาสถ่ายได้บ่อยๆ นะคะ

ซีนสำคัญที่ฝรั่งชอบถ่ายแต่คนไทยยังไม่ค่อยอินคือ “ภาพของชุดแต่งงาน” ที่มีพร้อพอื่นๆ มาเป็นองค์ประกอบ อย่างภาพนี้คือภาพที่เด็กน้อยที่ทำหน้าที่โปรยดอกไม้กำลังยืนมองชุดเจ้าสาวแสนสวยราวเจ้าหญิงอยู่

“ภาพทรงผมเจ้าสาวจากด้านหลัง” ไม่ต้องให้มีการถ่ายหน้าเจ้าสาวเป๊ะๆ เสมอไป แต่ให้ช่างภาพเก็บความทรงจำเรื่องทรงผมของคุณก็เก๋ดี แถมยังเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ผ่านไป 10 ปีมาย้อนดู จะรู้ว่าวันนั้นเลือกแฟชั่นอะไรมาใส่ให้ตัวเองสวย

“ภาพซีนเหม่ออารมณ์เผลอ” จริงๆ ภาพแบบนี้ไม่ต้องเหม่อก็ได้ แค่คุณโพสต์ให้นิ่ง ส่งตาซึ้งออกไปสักหน่อย ก็จะได้ภาพแห่งซีนอารมณ์ทีบ่งบอกถึงการรอคอยเจ้าบ่าวมารับตัวหรือนับถอยหลังนาทีเริ่มงานแล้วค่ะ

ไหนใครจัดเพื่อนเจ้าสาวยกแก๊งบ้างเอ่ย ถ้าใช่คุณละก็ “ภาพเจ้าสาวแอนด์เดอะแก๊ง” ต้องมี จะได้โมเม้นอบอุ่นสุดๆ จริงๆ นะ

ช่วงเวลาแห่งความหวานซึ้งที่มีเพียงคุณสองคน จะได้ “ภาพสบตาหวานๆ ที่เปี่ยมไปด้วยรัก” แบบนี้ บอกเลยว่า แม้จะมีคนเป็นร้อยรายล้อม ซีนนี้ก็ต้องมี

แน่นอนว่าคิดกันหัวแทบแตกว่าจะเลือกธีมงานไหนมาเป็นธีมหลัก ฉะนั้น “ภาพบริเวณทำพิธีทั้งหลาย” ต้องมี ไม่ว่าจะเป็นจุดสวมแหวนแต่งงาน เวทีเค้ก หรือแม้แต่ฉากถ่ายภาพหน้างาน

นาทีแห่งการกล่าวคำสาบานตน กับ “ภาพแห่งความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีการ” ช็อตนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด ซึ่งถ้าเป็นหมู่เราชาวไทย ซีนที่ว่านี้ก็คือ ซีนสวมแหวนแต่งงาน ซีนก้มกราบสามี (ซึ่งคงมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต) รวมถึงซีนหอมแก้มหลังสวมแหวน…อะไรประมาณนั้น

ซีนจูบกันอันแสนดูดดื่มจะได้ “ภาพจุมพิตตรึงใจ” ที่เรียกได้ว่าคอมพลีทมากกกกกก

คิดก่อนโพสต์กับ 5 การประกาศสละโสดบนโลกออนไลน์ที่ต้องระวัง

ได้ สละโสด สักทีก็ดีใจ จนอาจไม่ทันได้ระวังบางเรื่อง!!

จริงอยู่ที่ความดีใจมันล้นอกเมื่อเขาคนนั้นเอ่ยปากขอแต่งงาน และยิ่งปลื้มปริ่มเต็มหัวใจเมื่อเขาจัดเซอร์ไพร้ส์ขนานใหญ่ให้ใจเต้นโครมๆ แต่บางทีการประกาศข่าว สละโสด ของคุณบนโลกออนไลน์ที่มีคนตามติดชีวิตเป็นร้อยเป็นพันก็ต้องคิดสักนิดก่อนโพสต์ เพราะคนเราคิดกันไปนานาจิตตังและใช่ว่าโพสต์แนวนี้จะได้รับคำยินดีและมีแต่ความสุขตามมาเสมอไป ไม่ว่าจะเป็น…

ประกาศข่าวดีโดยยังไม่ได้แจ้งครอบครัว

คิดดูสิคะว่า ถ้าบนโลกโซเชียลของคุณมีการประกาศข่าวดีออกไปทันที โดยที่คนในครอบครัวมารู้ทีหลังคนอื่น พวกเขาจะรู้สึกอย่างไร แน่นอนว่าความน้อยใจบังเกิดเป็นอย่างแรก ซึ่งถ้าแค่นั้นก็ยังพอง้อกันได้ แต่ถ้าครอบครัวของคุณไม่เคยได้สัญญาณว่าคุณและเขาจะร่วมหัวจมท้ายกันมาก่อนล่ะ ทีนี้ศึกในบ้านเกิดได้ทันทีเลยนะคะ และดีไม่ดี ข่าวที่ประกาศออกไปอาจไม่เกิดอีเว้นมงคลจริงๆ ในอนาคตก็เป็นได้

ฉะนั้นถ้าคิดจะประกาศบอก ขอให้ยกหูโทรแจ้งคนในครอบครัวซะก่อน เผื่อเขาไม่ปลื้มแล้วคุณรู้สึกถึงสัญญาณอันตรายจะได้เตรียมรับมือได้ทันดีกว่าดีใจเก้อและต้องมาค่อยตามแก้ข่าวให้ขาเม้าสงบคำ

           สละโสด

ประกาศกร้าวบอกจำนวนกะรัตของเพชรบนแหวนหมั้น

ก็เข้าใจค่ะว่าได้รับแหวนเพชรเนี่ยมันน่าดีใจมากกกกก ยิ่งเป็นแหวนหมั้นด้วยแล้วละก็น้อยคนนักที่จะอดใจไหวในการประกาศให้โลกรู้ว่า ฉันคือสาวผู้โชคดีที่นอกจากจะมีผู้ชายมาขอแต่งงานแล้ว เขายังมอบแหวนเพชร 5 กะรัตแทนใจด้วยนะ แต่คุณขา…แค่อวดแหวนก็พอไหม ไม่ต้องโพสต์แคปชั่นลงไปว่า เขาหมั้นชั้นด้วยแหวนเม็ดโตตั้ง 5 กะรัตแน่ะ แบบนั้นเรียกว่าโพสต์ล่อเป้าให้คนหมั่นคนเม้านะคะ

โชว์คลิปประกายเพชร

แม้บางนางจะไม่โพสต์จำนวนกะรัต แต่ก็อวดแหวนด้วยคลิปการส่องประกายของเพชรเม็ดเป้ง แบบนั้นก็ล่อเป้าเหมือนกันนะคะ  เพราะถือได้ว่าเป็นความจงใจที่จะนำเสนอความอลังการของเม็ดเพชรบนหัวแหวนแบบสุดๆ ประมาณว่า ชั้นไม่พูดไรนะ(แต่ภาพในคลิปมันฟ้องง่ะ) คนที่เห็นคลิปเนี่ยเขารู้ทันคุณหรอกนะ จึงสามารถเข้าใจเจตนาของคุณได้สบายๆ แม้คุณเองจะบอกว่าไม่ได้ตั้งใจอวดแค่อยากระบายออกซึ่งความรู้สึกยินดี แต่แหม…ถ้าอยากทำคลิปก็เป็นคลิปน่ารักๆ ที่บอกข่าวดีกับคนอื่นๆ แทนดีไหมอ่ะ

โพสต์รายละเอียดการจัดงาน

อย่าผลีผลามรีบโพสต์รายละเอียดการจัดงานแต่งงานของคุณในทันทีที่ได้ฤกษ์ยาม และสถานที่เพราะถ้าคุณไม่คิดจะเชิญแขกทุกคนในโลกโซเชียลของคุณละก็ ความเข้าใจผิดคิดว่าคุณเชิญทุกคนจะเกิดขึ้นได้ ซึ่งความปวดหัวที่ตามมาก็คือ คุณต้องมานั่งหาคำปฏิเสธการมาร่วมงานของแขกที่ไม่ได้อยู่ในลิสต์ทีละคนๆ จนสุดท้ายอาจเกิดผิดใจกันจนความสมพันธ์ที่ดีกระทบกระเทือนเกินแก้ไข

รีบเปลี่ยนชื่อในโปรไฟล์ทันที

ก็รู้นะคะว่าคืออารมณ์ดีใจ ไม่คิดอะไรก็แค่เปลี่ยนชื่อตามความรู้สึก ณ ตรงนั้น แต่ความไม่คิดอะไรนี่แหละ ที่ล่อเป้าให้เม้ามอยและหมั่นไส้ เพราะสาวบางนางเห่อการจะได้ออกเรือนมากจนถึงขั้นเปลี่ยนชื่อโปรไฟล์ตัวเองใหม่ทันทีที่ได้รับการสวมแหวนเพื่อสื่อถึงสถานะที่จะเปลี่ยนไปในเร็ววัน (ทั้งๆ ที่ฤกษ์ยามสถานที่ก็ยังไม่มีมาเลย) ไม่ว่าจะเป็น Future Mrs... หรือถ้าว่าที่สามีรวยหน่อยก็เปลี่ยนชื่อให้สัมพันธ์กับธุรกิจเขาอย่าง ว่าที่คุณนาย…(ชื่อบริษัทเขา) แม้กระทั่งคำพื้นๆ อย่าง ว่าที่เจ้าสาวเดือน…(เดือนที่จัดงาน) เป็นใครมาอ่านเจอก็แบบว่า…โอ๊ย…ลำใยง่ะ

สละโสด

อ่านจบถึงตรงนี้  คงพอมีไอเดียเตือนสติตัวเองบ้างแล้วนะคะว่า แม้การสวมแหวนของคุณคือเรื่องน่ายินดี แต่ก็ต้องมีขอบเขตสักหน่อย อย่าปล่อยให้ความดีใจทำให้เกิดมุมมองที่ไม่ดีต่อว่าที่เจ้าสาวอย่างคุณดีกว่า เพราะคนสมัยนี้นานาจิตตัง แค่คิดก่อนทำ รับรองชีวิตไม่ยุ่งยากค่ะ อ่ะๆ ว่าแล้วก็ไปหากิจกรรมฉลองความไม่โสดกันดีกว่ากับ >>> ไอเดียกิจกรรมสละโสดสำหรับคู่รักที่ไม่ควรพลาด!

เรื่อง : ดอกปีบ

ภาพ : www.huffingtonpost.com, www.brides.com

a a a

เครื่องประดับศีรษะเก๋ๆ สำหรับหลากไอเดียทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี

ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี กับเครื่องประดับสไตล์เฮดพีชสุดปัง

งานแต่งงานเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิต เพราะฉะนั้นวันนี้แหละที่สาวๆ จะได้สวยที่สุดในชีวิตเท่าที่เคยสวยมา ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งงาน สไตล์แต่งหน้า และทรงผมก็ต้องจัดเต็ม และถ้าหากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่ต้องการความระยิบระยับให้กับลุคแล้วล่ะก็ เครื่องประดับศีรษะก็ต้องมา แพรว wedding เลยมีไอเดียที่เป็นสัญลักษณ์ของความระยิบระยับอย่างดวงดาวที่พร่างพราวอยู่บนฟ้า แต่วันนี้จะมาพร่างพราวอยู่ในลุคเจ้าสาวของคุณ กับการแมตช์ทรงผมสไตล์ต่างๆ ให้เข้ากับเครื่องประดับศีรษะสไตล์กาแล็คซี่สุดเก๋ ที่เน้นความน้อยแต่มากของ ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี ที่ทำแล้วสามารถอยู่ยาวได้ถึงช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้อีกด้วย

ทรงผมเจ้าสาวชุดราตรี

เน้นความเรียบโก้ของทรงผมสลีกแบบปล่อย แล้วคาดทับด้วยเครื่องประดับศีรษะที่ระยิบระยับไปด้วยดวงดาว แถมยังสามารถเลือกทำได้ทั้งงานแต่งกลางวัน และงานเลี้ยงฉลองตอนกลางคืนได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งลุคสไตล์เฟมินีนที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกสุดๆ

สำหรับว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่ไม่ชอบความเยอะแยะอลังการ อาจจะเลือกประดับด้วยกิ๊บดีไซน์ดีไซน์พระจันทร์กับดวงดาวคู่กันก็ได้ ซึ่งแมตช์เข้ากับทรงผมมวยต่ำสไตล์ฟุ้งๆ ชวนฝันได้เป็นอย่างดี

เพราะอาฟเตอร์ปาร์ตี้คือช่วงเวลาของความสนุกสนาน เพราะฉะนั้นลุคของเจ้าสาวก็ต้องสนุกสนานไปด้วย กับที่คาดศีรษะประดับดวงดาวไว้วิบวับเหมือนมีสปอร์ตไลท์ส่องให้มีออร่าอยู่ตลอดเวลา แถมไม่ต้องประดิษฐ์ประดอยทรงผมอะไรให้ยุ่งยาก เพียงแค่ปล่อยผมให้สยายพร้อมดัดลอนไว้อ่อนๆ เท่านี้ก็สวยปังพร้อมเขย่าแดนซ์ฟลอร์แล้ว

หากว่าที่เจ้าสาวเลือกทรงผมเปียสำหรับวันแต่งงาน หรือทรงผมชิคนอนสไตล์คลาสสิค ก็สามารถประดับกิ๊บติดผมสไตล์กาแล็คซี่เพิ่มความโดดเด่นให้กับทรงผมได้เช่นกัน

8 ไอเดียช่วยว่าที่บ่าวสาวกระจาย #แฮชแท็กงานแต่ง ให้แขกรู้ทั้งงาน

ในยุคนี้การสร้าง # แฮชแท็กงานแต่ง ไม่ใช่ปัญหาสำหรับว่าที่บ่าวสาวอีกต่อไป แต่ปัญหากลับกลายมาเป็นเรืองที่ว่าทำยังไงให้แขกรู้ว่างานแต่งนี้มี # และใช้ # ว่าอะไร เพราะต่อให้คุณแจ้งบอกในการ์ดหรือป่าวประกาศบอกในโลกโซเชียลเรียบร้อยแล้ว แต่กว่าจะถึงวันงานก็ลืมกันเรียบร้อย ถ้างั้นมาหาที่กระจาย แฮชแท็ก ให้แขกในงานได้รู้กันดีกว่าค่ะ

 

แฮชแท็ก

ใส่ # บนกระจก : จะเป็นกระจกใสมองทะลุหรือกระจกเงาส่องสะท้อนก็ไม่ว่ากัน แต่ต้องไม่ลืมใส่กรอบสวยๆ เข้าธีมแล้วหาสีมาเขียน # ของคุณลงไป จะวางไว้บนขาตั้งเฟรมวาดรูปก็เด่นดี แต่จะให้ดีสุดๆ ต้องตั้งไว้ตั้งแต่ทางเข้างานนะคะ

แฮชแท็ก

ใส่ # บนกระดานไม้ : ไอเดียนี้เหมาะกับสาวกคนรักงานแต่งแนวรัสติกหรือไม่ก็งานสุดชิคในสวนสวย เพราะทำได้ง่ายสุดๆ แถมได้อารมณ์กันเองมากๆ แค่หากระดานไม้สีเข้มแล้วเขียน # ของคุณลงไป จากนั้นวางไว้ที่โค่นต้นไม้หรือแทรกตามมุมถ่ายภาพก็เก๋มาก

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงบนกระดาษพื้นดำ : นึกถึงตอนเรียกที่คุณครูสอนหนังสือบนกระดาษดำ แล้วนำมาประยุกต์ใช้ในงานแต่ง แต่รอบนี้ไม่ต้องขนทั้งกระดาน แค่หากระดาษแข็งสีดำสนิทมาตัดเป็นสี่เหลี่ยม จากนั้นเขียนประโยคเชิญชวนให้แขกมาใส่ # ง่ายๆ ด้วยลายมือที่เขียนจากชอล์คสีขาว

แฮชแท็ก

ใส่ # ในกรอบรูป : เพราะกรอบรูปมีหลายขนาด แถมยังสามารถตั้งบนโต๊ะร่วมกับเซนเตอร์พีชได้สบายๆ ซึ่งถึงแม้จะจัดงานแบบเลี้ยงค็อกเทล แต่คุณก็สามารถนำกรอบรูปนี้วางแทรกลงในโต๊ะวางอาหารที่ทางโรงแรมจัดเสิร์ฟได้นี่นา

แฮชแท็ก

ใส่ # ในเวดดิ้งไทม์ไลน์ : ไหนๆ ก็ลงทุนทำ wedding Timeline แจกแขกในงานอยู่แล้ว ก็แค่แทรก # ของคุณลงไปให้แขกรู้ แบบนี้เรียกว่า ยิงนัดเดียวได้นกสองตัวเลยล่ะค่ะ

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงในพร้อพ : สำหรับบ่าวสาวที่อาจมีทุนทรัพย์เยอะสักหน่อย ก็อาจเลือกวิธีการแทรก # ลงในพร้อพเก๋ๆ ในงานแต่ง เช่นแจกแว่นตาก็เติม # ที่ขาแว่น แจกหมวกก็พิมพ์ # ลงไปที่ปีกหมวกอะไรแบบนั้นก็เนียนๆ ได้นะ

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงในไม้คนเครื่องดื่ม : งานปาร์ตี้ที่มีเครื่องดื่มค็อกเทลหรือ Signature Drink สามารถแทรก # ของงานแบบเนียนๆ ไปได้ด้วยการปริ๊น # นั้นลงในกระดาษสีแล้วนำมาพันตกแต่งที่ด้ามจับไม้คนเครื่องดื่ม ถ้าดีไซน์ดีออกแบบเก๋ ไม่แน่นะว่าไอเดียนี้จะมีคุณเป็นแม่แบบในงานอื่นๆ ได้

แฮชแท็ก

ใส่ # ลงบนเมนูอาหาร : แน่นอนว่างานเลี้ยงแบบโต๊ะจีนต้องมีเมนูตั้งวางแจ้งบอกให้แขกได้ดูกันทุกงาน คุณก็แค่ใส่ # ลงไปตอนหัวหรือท้ายเมนูสักนิด แค่นี้แขกก็ยกดูกันแทบทุกคน

ดูไอเดียงานแต่งและคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

เรื่อง : Hoyamemoria
ภาพ : Brides, www.justlovelyweddings.com

เทรนด์ เล็บเจ้าสาว ลายดอกไม้ แบบใหม่! อัพเกรดกว่าเดิม!

แปลงโฉม เล็บเจ้าสาว ให้สดใสด้วยลายดอกไม้ไปทั้งมือ

เล็บเจ้าสาว ลายดอกไม้ ฟังยังไงก็ดูซ้ำและน่าเบื่อเนอะ? แต่เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้แบบใหม่นี้ คุณจะต้องยังไม่เคยเจอที่ไหนแน่นอน ถ้าไม่อยากได้เล็บเจ้าสาวแบบเดิมๆ ต้องดูค่ะ

เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้ ถือเป็นเทรนด์เด่นที่ไม่เคยหนีหายไปไหนเลยนะคะ เพราะเป็นลวดลายที่ทำยังไงก็สวย ดูอ่อนหวานอ่อนช้อย ช่วยให้เรียวเล็บเรียบๆของเจ้าสาวดูมีอะไรมาส่งให้แหวนหมั้นของเราดูโดดเด้ง แต่ในตอนนี้เทรนด์เล็บเจ้าสาวลายดอกไม้ได้อัพเกรดไปอีกขั้น ถึงแม้ล่าสุดนี้เราจะมีเรียวเล็บติดดอกไม้แห้งที่ดูเก๋ไก๋แล้ว คราวนี้ดอกไม้แห้งที่นำมาติดเรียวเล็บนั้นไม่ต้องผ่นการถูกรีดให้แบนเหมือนเก่า แต่ติดเข้าไปทั้งดอกแบบนั้นเลย! ทำให้เราได้เทรนด์ใหมเป็นเรียวเล็บดอกไม้แบบ 3D เก๋ไปอี้กกก ดูอย่างรูปด้านล่างนี้สิ!

IG @dantenewyorkcity

หรือจะเป็นดอกไม้สามมิติประดับเพชรบานิ้วก็หรูหราดีนะ

IG @nail_unistella

หรือถ้ายังไม่หนำใจ ติดทั้งกิ่งลงบนมือเลยสิจ๊ะ อย่าได้แคร์!

IG @nail_unistella