20 ชุดแต่งงานเรียบง่าย สไตล์เจ้าหญิง เน้นงานแพตเทิร์นแต่โดดเด่นสุดๆ

หาก ชุดแต่งงานเรียบง่าย คือโจทย์ของคุณ … ต่อไปนี้คือ 20 ชุดที่คุณกำลังมองหา

แน่นอนว่าการแต่งงานเป็นวันสำคัญที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในชีวิต เพราะฉะนั้นการเลือกชุดแต่งงานที่ต้องใส่เพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิตนั้น แถมบางคนก็ใส่แค่ชุดเดียวไปอีก จึงเป็นสิ่งที่ว่าที่เจ้าสาวมักจะให้ความสำคัญกับมันมากเป็นพิเศษ ก็แหม คงไม่มีใครที่เมื่อย้อนกลับมาดูภาพถ่ายในงานแต่งงานของตัวเองแล้วมานั่งเสียใจว่า ฉันไม่น่าเลือกชุดนี้เลย จริงไหมคะ เพราะฉะนั้นดีไซน์ ชุดแต่งงานเรียบง่าย จึงอาจจะเป็นอะไรที่ตอบโจทย์ความอมตะแบบฆ่าไม่ตายสำหรับลุคเจ้าสาวได้ดีที่สุด

และนี่คือ 20 ชุดแต่งงานสไตล์เรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยแพตเทิร์นชุดสุดเนี้ยบ บอกเลยว่าถึงดีไซน์จะเรียบ แต่ความงามไม่เรียบนะจ๊ะ

เริ่มต้นกันที่ชุดเจ้าสาวแห่งปีของ เมแกน มาร์เคิล “ดัชเชแห่งซัสเซ็ก” ในชุดแต่งงานสีขาวดีไซน์เรียบง่ายจากแบรนด์ Givenchy ผลงานการออกแบบของ แคลร์ เวท เคลเลอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ของแบรนด์ Givenchy กับชุดที่แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่าย แต่ยังคงความสง่างามเอาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้ชุดแต่งงานเรียบง่ายชุดนี้มีความพิเศษและโดดเด่นคือการตัดเย็บสุดปราณีตและความเอาใจใส่ในการคัดสรรวัตถุดิบ ซึ่งเป็นการรักษามาตรฐายและความเข้มงวดในการรังสรรค์ชิ้นงานชั้นสูงของแบรนด์ Givenchy แบรนด์ โอต์ กูตูร์ สัญาชิตฝรั่งเศสแบรนด์นี้ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1952 ไว้ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

แถมชุดนี้ยังมีเอกลักษณ์ และเต็มไปด้วยเทคนิคต่างๆ ของแบรนด์ที่นำกลับมาใช้ ไม่ว่าจะเป็น การเย็บแบบตะเข็บ 6 ฝีเข็ม หรือท่อนบนที่ออกแบบในสไตล์ Bateau Neckline หรือ บาโต้ เนคไลน์ ที่สาวๆ รู้จักกันในเนคไลน์สไตล์คอปาด พร้อมโครงชุดที่เข้ารูปเผยให้เห็นความเพรียวบางของช่วงเอวเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี และไปกันได้ดีกับกระโปรงทรงกลมเสริมด้วยผ้าไหมออร์แกนซ่า 3 ชั้น พร้อมความโดดเด่นด้วยช่วงแขนที่เข้ารูปแบบ 3 ส่วน เรียกได้ว่าเป็นการนำความทันสมัยให้มาแมตช์รวมกันกับสไตล์ดั้งเดิมได้อย่างลงตัว

ชุดแต่งงานเรียบง่าย

และเราเชื่อว่าชุดแต่งงานสไตล์นี้ อาจจะเป็นเทรนด์ เซตเตอร์ ให้กับชุดแต่งงานคอลเลคชั่นใหม่ของวงการชุดเจ้าสาว และแน่นอนว่า เป็นอีกหนึ่งชุดแต่งงานไอคอนิคที่ว่าที่เจ้าสาวกว่าค่อนโลกอยากใส่ตาม

 

ชุดแต่งงานเรียบง่าย

แต่หากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวสไตล์มินิมอล หรือชื่นชอบการมิกซ์แอนด์แมตช์ เราอยากแนะนำ ชุดแต่งงานสองชิ้น ทั้งเท่เก๋และดูดีในสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร

ภาพ brides.com, pinterest

แหวนแต่งงานแบบเซต หรือ Stacked Ring ของแฟชั่นจิวเวลรี่ตัวท็อปของวงการ

แหวนแต่งงานแบบเซต มิติใหม่ของแหวนแต่งงานปี 2018-2019 การันตีโดยเหล่าแฟชั่นจิวเวลรี่ตัวท็อปของวงการ

แหวนหมั้น เปรียบเสมือนสัญลักษณ์แรกในการเริ่มต้นชีวิตคู่ ซึ่งบางคู่ก็อาจจะใช้แหวนหมั้นเป็นแหวนแต่งงานสำหรับสวมใส่ในชีวิตประจำวันหลังแต่งงานไปเลย แต่สำหรับเหล่าว่าที่เจ้าสาวสายแฟชั่นนิสต้าที่หลงใหลแฟชั่น ก็อาจจะอยากเพิ่มความโดดเด่นให้กับสไตล์แหวนแต่งงานขึ้นมาอีกนิด และปัจจุบันจะเห็นได้ว่าสาวๆ บางคนเริ่มนิยมใส่แหวนที่นิ้วเดียวกันมากกว่า 1 วง บางคนอาจจะมีถึง 3, 4 หรือแม้กระทั่ง 5 วงอยู่ในนิ้วเดียวกันด้วยซ้ำ นั่นจึงทำให้บรรดาแฟชั่นจิวเวลรี่ทั้งหลายเริ่มจับเทรนด์นี้มาไว้ในวงการเจ้าสาว ด้วยการดีไซน์ แหวนแต่งงานแบบเซต หรือแหวนสไตล์ Stacked Ring ออกมาในคอลเลคชั่น Bridal Ring ของตัวเองกันมากขึ้น

โดยความพิเศษของแหวนสไตล์นี้นั้นไม่ได้จำกัดอยู่ที่การใช้เพชรเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถนำอัญมณีต่างๆ ที่เจ้าสาวชื่นชอบหรือถูกโฉลกมาแมตช์ให้อยู่ในแหวนวงเดียวกันได้ด้วย ไม่เพียงแค่เพชรหรืออัญมณีเท่านั้นที่สามารถสนุกได้ แต่แม้กระทั่งเท็กซ์เจอร์ต่างๆ รูปทรง วัสดุตัวเรือน หรือเฉดสี ก็สามารถนำมามิกซ์แอนด์แมตช์ได้เช่นกัน เพียงแค่เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ รสนิยม หรือนิ้วมือของคุณเท่านั้นเอง

และข้อดีอีกอย่างของแหวนสไตล์ Stacked Ring ก็คือสามารถแยกชิ้นได้ เพราะฉะนั้นหากวันไหนอยากใส่แค่ 1-2 วงเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์หรือการแต่งกายก็สามารถทำได้สบายๆ เพียงแค่เลือกวงที่มีดีไซน์เหมาะสมเท่านั้น

ซึ่งถึงแม้ว่าแหวนสไตล์ Stacked Ring จะดูไม่เป็นแหวนแต่งงานแบบดั้งเดิมเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเป็นทางการของแหวนแต่งงานแบบนี้จะน้อยลงไปด้วย เพราะว่าที่เจ้าสามารถเติมความเป็นแหวนแต่งงานที่มีความสวยงามและมีเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพิ่มเติมเข้าไปได้ ไม่ว่าจะเป็น การฝังเพชรแบบจิกไข่ปลารอบตัวเรือน ไปจนถึงแหวนดีไซน์ล้ำประดับแซฟไฟร์ทรงบาร์เกตต์

และนี่คือแหวนแต่งงานสไตล์ Stacked Ring หรือแหวนแต่งงานแบบเซต ของเหล่าแฟชั่นจิวเวลรี่ตัวท็อปของวงการที่พาเหรดกันมาอวดโฉม ที่รับรองว่าเจ้าสาวทั้งหลายจะต้องใจละลายแน่นอน

Forevermark.com
Net-a-Porter.com
Net-a-Porter.com
Everband.com
Barneys.com
Tiffany & Co
แหวนแต่งงานแบบเซต
JacquieAiche.com

ภาพ marthastewartweddings.com

ฮันนีมูน ยังไงให้สวยเป๊ะตลอดทริป ต้องพกบิวตี้ไอเท็มอะไรบ้างมาดูกัน!

ไป ฮันนีมูน เดี๋ยวนี้งานถ่ายรูปสวยต้องมา! แล้วจะพกไอเท็มความงามชิ้นไหนไปบ้างดีที่ไม่หนักกระเป๋าแถมมีประโยชน์จำเป็นจริงๆ? เรามาบอกคุณแล้ว!

ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่แต่งงานเสร็จปุ๊บ ก็บินไปทริป ฮันนีมูน ปั๊บ ยกมือค่ะ! คุณเคยกังวลใจกับการจัดกระเป๋าไปทริปเหล่านี้ไหมคะ? เพราะยุคนี้ไปเที่ยวทั้งทีก็ต้องมีงานถ่ายรูป งานเซลฟี่ งานแชร์ลงโซเชียลกระหน่ำๆ แต่ครั้นจะพกเมกอัพอะไรไปมากมายก็หนักกระเป๋า แถมบางอย่างยังไม่ได้ใช้พกไปเปลืองที่เปล่าๆ (แต่บางอย่างที่ไม่ได้คิดจะพกมา ดั๊นนน เกิดเหตุต้องใช้ขึ้นมาซะอย่างนั้น!) เรามาบอกบิวตี้ไอเท็มที่เราการันตีว่าพกเถอะ! รอดทุกทริป ได้ใช้ชัวร์ แถมยังไม่กินเนื้อที่ในกระเป๋ามากมายอีกด้วย มีอะไรบ้างมาดูกัน

 

  1. กันแดดแบบสเปรย์ เดี๋ยวนี้นวัตกรรมเค้าไปถึงแบบนี้แล้วคุณขา พกพาครีมกันแดดแบบหลอดนี่เอาท์แล้วเพราะเสี่ยต่อการเลอะเทอะหากแพ็คไม่ดี เราแนะนำให้ลองแบบสเปรย์ที่ทั้งใช้งานง่าย ซึมซาบเร็ว และหนึ่งขวดใช้ได้นานกว่าแบบครีมปกติ ใครที่ทริปฮันนีมูนนี้ไปทะเล เราแนะนำให้ลองซื้อติดกระเป๋ากันค่ะ

La Roche Posay – Anthelios Invisible Face Mist

ฮันนีมูน La Roche Posay Anthelios XL

2.  ครีมบลัช หรือบลัชแบบสติ๊ก อย่างที่บอกว่างานเซลฟี่ต้องมา ถ้าปล่อยให้หน้าซีดปากซีดแล้วหวังพึ่งแอป Camera 360 อย่างเดียวคงไม่เวิร์ค! ครีมบลัชหรือบลัชสติ๊กเนื้อครีมแท่งเดียวนอกจาจะพกพาง่ายแล้วยังใช้ได้ทั้งเติมสีสันให้แก้มและปากดูสดใสขึ้นด้วย

Bobbi Brown – Pot Rouge for Lips & Cheek

ฮันนีมูน Bobbi Brown Pot Rouge

3. ลิปมันเนื้อเลิศๆ ใครที่ไปประเทศหนาวอย่างญี่ปุ่นหรือยุโรป พกไว้เลยค่ะ เพราะปากแห้งแตกระหว่างทริปเป็นอะไรที่ไม่สวย เซลฟี่ไม่รอด และยังไม่สนุกแน่นอน แนะนำแบบที่ช่วยเติมสีสันให้เรียวปากพร้อมๆให้ความชุ่มชื่นเลยด้วยจะยิ่งเลิศค่ะ

Dior – Lip Glow Color Reviver Balm

ฮันนีมูน Dior Lip Glow

4. มาส์กหน้าแบบแคปซูลหรือกระปุกเล็ก เดี๋ยวนี้มีมาส์กหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่ทำเอาใจสาวนักเดินทางด้วยการแบ่งเป็นชิ้นๆ ปริมาณใช้พอดีต่อหนึ่งครั้ง พกพาง่าย มีหลากหลายสูตรทั้งสำหรับให้ความชุ่มชื่น(สำหรับทริปเมืองหนาว) หรือปลอบประโลมผิวจากแดด (สำหรับทริปทะเล) พกง่ายไม่รกกระเป๋าชัวร์

Estee Lauder – Advanced Ninth Repair Intensive Recovery Ampoules, Laneige – White Plus Renew Purifying Mask

ฮันนีมูน บิวตี้ พกอะไร ดี

5. บาล์มอเนกประสงค์ สิ่งนี้ชัวร์ว่าหลายคนไม่ค่อยคิดจะพกพากันไปซักเท่าไร แต่เจ้าบาล์มอเนกประสงค์เหล่านี้แหละค่ะ ตัวช่วยชีวิตระหว่างทริปเลยทีเดียว เพราะชิ้นเดียวสามารถใช้ทาปากแห้งแตก ทาข้อศอก หัวเข่า ทาจมูกเล็บ ไปจนถึงทาแผลแมลงกัดต่อยได้ด้วย (เลือกสูตรที่ผสมน้ำผึ้งจะมีสารที่ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้)

Burt’s Bees – REST-Q Ointment

ฮันนีมูน Burts Bees Rest-Q ointment

6. คลีนเซอร์ทำความสะอาดแบบอเนกประสงค์ คือเจ้าคลีนเซอร์ที่เป็นได้ทั้ง แชมพู ครีมอาบน้ำ และใช้ล้างหน้าได้ในหนึ่งเดียว เหมาะสำหรับคู่รักสายแอดเวนเจอร์ที่อาจจะไม่ได้ไปพักโรงแรมหรูหราในเมืองใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เจ้าคลีนเซอร์แบบออลอินวันนี้เป็นตัวช่วยชีวิตคุณได้มากๆเลยแหละแถมยังกินเนื้อที่ในกระเป๋าน้อยเพราะพกชิ้นเดียวใช้ได้หัวจรดเท้าเลย

One & All – One Stop Cleanser

ฮันนีมูน One and All Cleanser

7. มอยซ์เจอไรเซอร์เนื้อเข้มข้น สำหรับใครที่ไปทริปเมืองหนาว เราแนะนำให้หามอยซ์เจอไรเซอร์ที่เนื้อเข้มข้นกว่าปกติที่เราใช้อยู่ที่เมืองไทย อย่าคิดว่าพกพาสิ่งที่เราใช้ตามปกติจะเพียงพอ เพราะสภาพอากาศที่แห้งและเย็นมากขึ้นอาจจะทำให้ผิวของเราสูญเสียความชุ่มชื่นกว่าเดิมจนสกินแคร์ปกติเอาไม่อยู่ ลองหามอยซ์เจอไรเซอร์สูตรสำหรับอากาศแห้ง หนาว โดยเฉพาะ ติดไปซักชิ้นดีกว่าค่ะ

Cetaphil – Intensive Moisturizing Cream

ฮันนีมูน Cetaphil

8. ดรายแชมพูหรือแชมพูแบบแห้ง เจ้าดรายแชมพูนี้คือสเปรย์ที่ทำหน้าที่ดูดซับความมันและกลิ่นไม่พึงประสงค์จากหนังศีรษะและเส้นผมของเราออกไป เสมือนการได้สระผมโดยไม่ต้องเปียกน้ำนั่นเองค่ะ ใครที่อยากเซลฟี่แบบดูผมพองฟูมีวอลูมสวยงามประหนึ่งเดินออกจากซาลอน หรือใครที่ขี้เกียจสระผมระหว่างทริป (เพราะบางทีดรายเป่าผมที่โรงแรมมีก็คาดเดาไม่ได้เนอะ…) พกชิ้นนี้เลยค่ะ

Percy and Reeds – Invisible Dry Shampoo

9.  แผ่นเช็ดทำความสะอาดเมกอัพ เพราะบางทีการพกพาเคลนซิ่งครีม อิมัลชั่น ออยล์ หรือต่างๆ ก็ลำบากและอาจจะหกเลอะเทอะด้วยความเป็นของเหลว เราก็เลยแนะนำว่าหากไปท่องเที่ยวควรเปลี่ยนมาใช้แบบแผ่นดีกว่า เดี๋ยวนี้ยี่ห้อใหม่ๆ ปรับสูตรให้อ่อนโยนขึ้น ไม่ผสมแอลกอฮอล์ แถมยังลบเมกอัพได้หมดจดไม่แพ้เคลนซิ่งแบบอื่นๆ แต่เราก็แนะนำให้ล้างหน้าตามอีกรอบอยู่ดีนะ

Bifesta – Bright Up Cleansing Sheet

10. อาฟเตอร์ซัน หรือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปลอมประโลมผิวหลังโดนแดด มีให้เลือกทั้งแบบโลชั่น แบบเจล หรือแบบสเปรย์ ใครที่ไปทริปทะเลแดดแรงๆ หรือทริปแนวแอดเวนเจอร์ท้าแดด ท้าลม ตัวนี้ถือว่าขาดไม่ได้ เพราะถ้าหากเราโดนแดดจัดๆ ไม่เพียงแค่ผิวจะคล้ำเป็นฝ้า แต่อาจจะถึงขั้นซันเบิร์น หรือผิวไหม้แดดจนต้องไปหาหมอได้ถ้าไม่รีบป้องกันก่อนนะ

Nature Republic – Aloe Vera Soothing Gel Mist

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 10 ชิ้นเด็ดที่เราแนะนำให้พกพาไปฮันนีมูนทริปสุดสวีท? หวังว่าบิวตี้ไอเท็มเหล่านี้จะช่วยให้ว่าที่เจ้าสาวสวยปิ๊งพร้อมเซลฟี่ตลอดทริป แถมยังประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋าอีกด้วยค่ะ

ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา คลิกอ่านเลย! —> เส้นทางเที่ยวสวีทถูกและดีฮันนีมูนที่โครงการหลวง : ภาคกลางและภาคตะวันออก

Credit Photo: Heroimage.com

ฮันนีมูน กรุ่นกลิ่นอายญี่ปุ่น ในดินแดนล้านนา เที่ยวง่ายๆ ราคาเป็นมิตร

เตรียมต้อนรับหน้าหนาว แล้วแพลนทริป ฮันนีมูน กันยาวๆ ตามนี้เลย

“ซากุระสีชมพูแสนหวาน สตอว์เบอร์รี่เนื้อแน่นผลโต ชาเขียวคุณภาพเลิศ บ่อน้ำพุร้อน อุณหภูมิเหมาะ” ไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมเสมอไป เพราะมีเงินแค่หลักพันคุณก็วางแผน ฮันนีมูน ภาคเหนือสไตล์เจแปนได้เหมือนกัน เพราะบ้านเราเมืองเรามีธรรมชาติและอากาศดี๊ดีไม่ต่างกับเที่ยวญี่ปุ่นเมืองซามูไร ว่าแล้วก็ควงแขนกันตาม แพรว wedding มาแอ่วเมืองเหนือกันดีกว่าเจ้าาา

ชมซากุระสีหวาน “Cherry Blossom in Thailand”

ถ้าตอนนี้คุณกำลังฝันถึงการชมซากุระกลางสวนสาธารณะในเมืองโตเกียว นะโงะยะหรือโอซะกะ บอกเลยว่าบ้านเราก็มีแหล่งชมซากุระเมืองไทยหรือ “ดอกพญาเสือโคร่ง” ให้เลือกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นที่สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน สถานีเกษตรหลวงขุนวาง ดอยแม่ตะมาน ดอยอ่างขางจังหวัดเชียงใหม่ ดอยแม่สลอง และดอยช้าง - ดอยวาวี จังหวัดเชียงราย ขุนแม่ยะ จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงสถานีวิจัยต้นน้ำขุนสถาน จังหวัดน่าน เข้าหน้าหนาวเมื่อไรดอกสีชมพูก็พร้อมใจกันบานสะพรั่งให้คุณได้ควงแขนไปสวีทกัน ทีนี้ถ้าอยากจะปูเสื่อพกตะกร้าปิกนิกไปนั่งชิลก็เอาเลย

จิบมัตชะเด็ดยอดชา “Green Tea Farm Tour”

ฮันนีมูน

ภาพไร่ชาสีเขียวเรียงตัวแบบขั้นบันไดสลับสีอ่อนแก่ท่ามกลางอากาศหนาวๆ ในจังหวัดเชียงรายพร้อมเสมอให้คนรักชาได้ตื่นแต่เช้าตรู่สะพายตะกร้าขึ้นหลังและลงมือเด็ดยอดอ่อนด้วยตัวเอง ก่อนจะเข้าโรงงานช่วงสายๆ เพื่อดูกรรมวิธีผลิตชาให้เห็นกับตา ยังไม่นับรวมเมนูอร่อยๆ จากผลิตภัณฑ์ชาที่พี่ไทยคิดขึ้นเองอีกสารพัดเมนู พูดได้เต็มปากเลยว่า แค่น้ำชายังน้อยไป จะกินทั้งทีต้องมีครบทั้งคาวหวาน

อาบน้ำแร่แช่อนเซ็น “Hot Spring”

_IGP8984

แหล่งท่องเที่ยวที่เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาวๆ ได้เสมอเมื่อไปเยือนญี่ปุ่นคือการแช่อนเซ็นให้เลือดลมสูบฉีด แต่รู้ไหมว่าอยู่บ้านเราก็เลือดลมพุ่งได้เหมือนกัน เพราะบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติมีให้เลือกหลายแห่งในหลายจังหวัด แถมแต่ละที่เพียบพร้อมบริการ ทั้งบ่อกลางแจ้งและในห้องมิดชิด ทั้งบ่อกลุ่มบ่อเดี่ยว อยู่ที่ว่าอยากได้บรรยากาศแบบไหน

หนาวเหน็บเด็ดสด “Strawberry Lover”

_IGP4307

เดี๋ยวนี้ไร่สตรอว์เบอร์รี่ทั้งหลายพร้อมใจกันเปิดไร่จัดโปรโมชั่นให้เก็บสตรอว์เบอร์รี่กินกันสดๆ ถ้าอยากได้ฟีลกุ๊กกิ๊กกลางสายลมหนาวก็ตีตั๋วพาคนข้าง ๆ สวมเสื้อกันหนาวแล้วตะลุยเก็บสตรอว์เบอร์รี่กันได้เลย ส่วนจะจิ้มนมข้นหรือพริกกับเกลือก็แล้วแต่รสนิยม

แต่ถ้ายังไม่จุใจจะตามไปเช็กอินกันต่อก็ได้นะกับ ของมันแทนกันได้! ฮันนีมูนเมืองไทยไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอก

ภาพ : พิบูลย์ สัณฐิติเจริญวงศ์

งานแต่งไทยสเกลเล็ก แต่ยิ่งใหญ่ด้วยความสุขของคุณป่าน & คุณตั๋ง @เรือนทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา

Full of Warmth งานแต่งไทยสเกลเล็ก สุดอบอุ่น

บ่อยครั้งที่ในช่วงนี้เราได้เห็นงานแต่งงานสเกลเล็กๆ ที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวจัดงานกันเองอย่างเรียบง่าย เน้นมีเพียงญาติๆ และเพื่อนสนิท เพื่อให้บรรยากาศของงานเปี่ยมด้วยความอบอุ่นและไม่เป็นทางการจนเกินไป คู่ของคุณตั๋ง-พันตำรวจตรี พัชรพงษ์ สารวัตรสืบสวนหนุ่มสุดเท่ และคุณป่าน-ชาลิสา แอร์โฮสเตสสาวแสนสวยก็เช่นกัน ทั้งคู่อยากให้ภาพความประทับใจจากวันสำคัญที่สุดของชีวิตเป็นภาพที่ทั้งคู่ห้อมล้อมด้วยเหล่าผู้คนอันเป็นที่รัก จึงเป็นที่มาของบรรยากาศงานแต่งแสนอบอุ่นงานนี้

จุดเริ่มต้นความรักของคุณตั๋งและคุณป่านคือเพื่อนที่ชอบในเรื่องเดียวกัน คอยให้คำปรึกษา ให้กำลังใจกันและกัน จนกลายเป็นคนรู้ใจที่ขาดกันไม่ได้ เมื่อตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันทั้งสองจึงหาฤกษ์วันมงคลและเริ่มเตรียมงานแต่งงานทันที คุณป่านเล่าว่า สิ่งแรกที่หาคือ สถานที่ ซึ่งใช้เวลาหาอยู่นานเพราะอยากได้สถานที่ซึ่งดูดีในงบประมาณที่ไม่แพงเกินไป จนได้จุดลงตัวสำหรับพิธีแต่งงานตามธรรมเนียมไทยที่เรือนทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา ซึ่งโดดเด่นด้วยเรือนไทยสไตล์โบราณและสระบัวสีชมพูงามสะพรั่งบริเวณด้านหน้า ช่วยส่งให้ภาพถ่ายงานแต่งงานดูหรูหราแบบไทยแท้ๆ

รายละเอียดในงานแต่งงานอื่นๆ เช่น การ์ด ของชำร่วย คุณตั๋งและคุณป่านเป็นผู้จัดหาและตระเตรียมด้วยตนเอง ทั้งหมด เพราะอยากให้ผู้รับสัมผัสได้ถึงความตั้งใจจริงๆ คุณป่านยังมีข้อความอยากส่งไปถึงเหล่าเจ้าสาวรุ่นน้องด้วยว่า ช่างแต่งหน้าทำผมเจ้าบ่าว-เจ้าสาว และช่างภาพงานแต่งงานเป็นสองสิ่งที่ต้องรีบหาและรีบจองคิว เพราะปัจจุบันนี้ช่างฝีมือดีที่ถูกใจอาจจะต้องจองกันข้ามปี

สุดท้ายแล้ว งานแต่งงานแสนอบอุ่นนี้จบลงอย่างสวยงาม พร้อมๆ กับชีวิตคู่ที่เปี่ยมด้วยความรักของคุณตั๋งและคุณป่านได้เริ่มต้นขึ้น

 

 

 

The Detail : The Traditionalist

Venue : เรือนทับขวัญ รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดนนทบุรี (เฟซบุ๊ก : DhabkwanResort)
Wedding Dress : Fullrichbride (ไอจี : @fullrichbride)
Makeup & Hair : คุณก๊อบแก๊บ (ไอจี : @gopgap_makeup)
Photo : Bigontheway photographer (ไอจี : @bigontheway_photography)

3 เมนู อาหารแบบคลีน ๆ ทำง่ายด้วยตัวคุณเอง ภายใน 10 นาที !

          อาหารว่างแบบคลีน ที่เจ้าสาวสายเฮลตี้ต้องลอง

ในช่วงการเตรียมงานแต่งงาน ว่าที่เจ้าสาวอาจจะไม่ค่อยมีเวลาได้เตรียมอาหารทานเอง โดยเฉพาะในมื้อเช้าที่เป็นมื้อสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้เลย เพราะมื้อเช้าจะช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการเติมพลังงานให้กับร่างกายหลังจากพักผ่อนในตอนกลางคืนนั่นเอง และที่สำคัญเลย หากคุณพลาดมื้อเช้าไปล่ะก็ จะทำให้คุณทานหนักในมื้อเที่ยง ส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนัก เพื่อที่จะสวมชุดแต่งงานด้วยนะ! วันนี้ แพรว wedding เลยจะมาแนะนำ 3 เมนู อาหารว่างแบบคลีน ๆ ที่อิ่มท้องในมื้อเช้า หรือจะทานเล่นเป็นของหวานระหว่างมื้ออาหาร ก็อิ่มใจเช่นกัน ที่สำคัญทำง่ายจริง ๆ ภายใน 10 นาทีเท่านั้น ไม่เชื่อ จับเวลากันได้เลย

พุดดิ้งเมล็ดเจีย

อาหารว่างแบบคลีน

  • วัตถุดิบ
  1. เม็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ
  2. ข้าวโอ๊ตบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  3. นมถั่วเหลือง
  4. บลูเบอร์รี่/ เชอรี่/ ส้ม/ กีวี่/ กล้วย
  • ขั้นตอน
  1. เตรียมถ้วย หรือแก้ว แล้วใส่เม็ดเจีย 2 ช้อนโต๊ะ และข้าวโอ๊ตบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  2. เทนมถั่วเหลือง กะปริมาณให้เกินเม็ดเจียและข้าวโอ๊ตที่ผสมกันเล็กน้อย
  3. ใส่ช้อนคนส่วนผสมทั้งสามให้เข้ากัน และแช่ตู้เย็นประมาณ 10 นาที หรือสามารถทำค้างคืนแล้วรับประทานตอนเช้าก็ได้
  4. เมื่อพร้อมรับประทานแล้ว ให้ใส่ผลไม้ได้ตามใจชอบ แต่ต้องเป็นผลไม้ที่ไม่หวาน เน้นพวกกลุ่มเบอร์รี่และผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว

 

ไข่ต้มอโวคาโด

อาหารว่างแบบคลีน

  • วัตถุดิบ
  1. ไข่ต้ม 3 ฟอง
  2. อโวคาโด 1 ผล
  3. กรีกโยเกิร์ต 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
  5. เกลือ 1 ช้อนชา
  • ขั้นตอน
  1. นำไข่ต้มทั้งหมดมาผ่าครึ่ง แล้วใช้ช้อนตักไข่แดงออกมาใส่ถ้วยแยก
  2. นำอโวคาโดมาผ่าครึ่งแล้วตักเนื้ออโวคาโดมาใส่ถ้วยที่ใส่ไข่แดงไว้ พร้อมทั้งกรีกโยเกิร์ต น้ำมะนาว และเกลือเล็กน้อย เพื่อให้รสชาติกลมกล่อม
  3. คนส่วนผสมในถ้วยให้เข้ากัน แล้วตักใส่ไข่ขาวที่ผ่าครึ่งไว้ก่อนหน้านี้ เท่านี้ก็เสร็จแล้วพร้อมรับประทาน

 

แพนเค้กกล้วยหอม

อาหารว่างแบบคลีน

  • วัตถุดิบ
  1. กล้วยหอมสุก 2 ใบ
  2. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  3. น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนชา
  4. บลูเบอร์รี่
  5. น้ำผึ้ง
  • ขั้นตอน
  1. นำกล้วยมาแกะใส่ถ้วย แล้วบดด้วยส้อม
  2. ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วยที่มีกล้วย แล้วคนให้เข้ากัน
  3. จากนั้นตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน และใส่น้ำมันมะพร้าว
  4. เทกล้วยหอมและไข่ไก่ที่ผสมกันแล้ว พลิกไปมาจนสุก
  5. นำแพนเค้กนั้นวางใส่จาน โดยจะทานเปล่าๆ เลยก็ได้ หรือจะทานพร้อมผลไม้ และน้ำผึ้งก็อร่อย

และในวันแต่งงานการทานอาหารเช้าก็สำคัญเช่นกันนะ นี่เลย Breakfast for Big Day! เมนูอาหารเช้าเพิ่มพลังเจ้าสาวในวันสำคัญ จะได้สวยแบบมีพลังในวันสำคัญ เนอะ ^^

เรียบเรียงข้อมูลและภาพจาก : lunchboxbunch.com/ rebecca-louise.com/ blogilates.com

7 แบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดังที่ขายดีแบบไม่มีที่สิ้นสุด

แบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดัง กับคอลเลคชั่นที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ชุดแต่งงานนับว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากของเจ้าสาวทุกคน เพราะถ้าเลือกผิดต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่นอน แพรว wedding เลยจัดเช็กลิสต์ แบรนด์ชุดแต่งงานชื่อดัง ระดับตัวท็อปที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่ามาให้คุณเจ้าสาวได้นำไปเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตัดสินใจก่อนเลือกชุดแต่งงานที่ใช่เป็นของตัวเอง ไม่แน่นะคะว่า หนึ่งในแบรนด์หรือชุดแต่งงานที่เรานำมาฝาก อาจเป็นชุดแต่งงานที่อยู่ในใจของเจ้าสาวอยู่แล้วก็ได้

1. Anne Barge style #617

ชุดแต่งงานชุดนี้วางขายเป็นครั้งแรกในปี 2011 ที่ร้าน Mark Ingram Atelier ที่นิว ยอร์ก และขายได้ถึง 46 ชุดเลยทีเดียว! กับชุดแต่งงานเกาะอกทรงเมอร์เมดที่เป็นผ้าลูกไม้ทั้งชุด ซึ่ง Anne Barge ยังคงรักษามาตรฐานความสมบูรณ์แบบของชุดแต่งงานได้แบบมือไม่เคยตก และเป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยสไตล์และรูปแบบชุดแต่งงานที่หลากหลาย อีกทั้งผ้าลูกไม้ก็ได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายสำหรับชุดแต่งงาน และชุดนี้ก็เป็นหนึ่งในชุดแต่งงานชุดแรกที่เป็นผ้าลูกไม้สีงาช้างตัดกับผ้าพื้นด้านในที่เป็นสีนู้ด เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่ชุดแต่งงานแบบนี้จะยังคงครองเทรนด์บนรันเวย์และเป็นหนึ่งในชุดแต่งงานสุดเพอร์เฟกต์เสมอมา

2. Mira Zwillinger x Mark Ingram Beatrice Dress

Mira Zwillinger อีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่ในวงการชุดแต่งงาน ซึ่งร้าน Mark Ingram Atelier เป็นร้านแรกที่ได้พบกันแบรนด์ดังกล่าวที่สหรัฐอเมริกาเมื่อหลายปีก่อน จึงได้จับมือกัน มิร่า ซวิลลิงเงอร์ ดีไซเนอร์เจ้าของแบรนด์ ทำชุดแต่งงานด้วยกันแล้วใช้ชื่อว่า Beatrice Dress ซึ่งวางขายครั้งแรกในปี 2013 และขายได้มากถึง 48 ชุดจนถึงปัจจุบัน (และคาดว่าน่าจะยังขายได้เรื่อยๆ) สิ่งที่ทำให้ชุดนี้ได้รับความนิยมคือ ตัวชุดมีน้ำหนักเบา และ Mira Zwillinger ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร กับการดีไซน์ชุดออกเป็นสองส่วนเพื่อช่วยให้รูปร่างของเจ้าสาวดูโดดเด่น และทำให้รอบเอวดูเล็กลงด้วยกระโปรงทรงเอ-ไลน์สุดเพอร์เฟกต์

3. Lazaro style #3108

ชุดแต่งงานสีเชอร์เบตผ้าทูลล์ทรงบอลกาวน์ ที่มาพร้อมเข็มขัดแบบเข้าชุด ชุดนี้เปิดตัวไปเมื่อปี 2010 ซึ่งแบรนด์ Lazaro ถือว่าเป็นแบรนด์ที่เปิดโลกแห่งสีสันให้กับชุดแต่งงานอีกหนึ่งแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นชุดแต่งงานในเฉดสีเชอร์เบตหรือสีพาสเทล ซึ่งร้าน Kleinfeld ที่นิว ยอร์ก ได้เลือกชุดแต่งงานชุดนี้ไปวางขาย โดยมีทั้งไซส์ใหญ่และไซส์ปกติ เพื่อรองรับทุกรูปร่างของเจ้าสาว และสาเหตุที่ทำให้เจ้าสาวหลงรักชุดสไตล์นี้ก็คือ เป็นชุดแต่งงานที่ดูเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยการเดรปผ้าที่ช่วงบนของชุดซึ่งเข้ากันได้ดีกับกระโปรงผ้าทูลล์ที่ดูสวยงามราวกับเจ้าหญิง

4. Sottero and Midgley

ร้าน Kleinfeld ขายชุดแต่งงานแบรนด์ Sottero and Midgley ได้กว่าร้อยชุด!! เพราะด้วยรูปทรงและฟอร์มของชุดที่สามารถเข้ากันได้ดีกับทุกรูปร่างของเจ้าสาว และช่วยให้เจ้าสาวทุกคนดูสวยโดดเด่นในชุดนี้ แถมราคาที่ไม่สูงมากก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชุดจากแบรนด์นี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

5. Vera Wang คอลเลคชั่น Gemma

หากย้อนไปเมื่อ 10 ปีที่แล้วแบรนด์ Vera Wang เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวเกือบทุกคนก็ว่าได้ และชุดแต่งงานคอลเลคชั่น Gemma ของแบรนด์นี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังอีกเช่นเคย กับชุดแต่งงานทรงเมอร์เมดที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด โดดเด่นด้วยดีเทลช่วงปลายกระโปรงที่ดีไซน์ผ้าทูลล์เป็นชั้นๆ แบบไล่ระดับ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความคลาสสิคและความทันสมัยได้อย่างลงตัว

6. Monique Lhuillier คอลเลคชั่น Severine

เป็นอีกหนึ่งชุดที่ได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาว และเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักเป็นอย่างดีในเรื่องของดีเทลและสไตล์แบบเฟมินีนสุดโรแมนติก ซึ่งคอลเลคชั่น Severine นี้ก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและได้แรงบันดาลใจมาจากชุดนักเต้นบัลเลต์ โดยใช้ผ้าลูกไม้ Alençon ในเฉดสีซอฟ์ตอ่อนละมุน พร้อมกระโปรงผ้าทูลล์ทรงเอ-ไลน์ ซึ่งชุดนี้ถือเป็นตัวเลือกที่เพอร์เฟกต์ที่สุดหากเจ้าสาวกำลังมองหาลุคที่ดูคลาสสิคและโรแมนติกในเวลาเดียวกัน แถมยังดูเรียบง่ายไม่ฉูดฉาดจนเกินไปจึงช่วยให้เข้ากับทุกยุคทุกสมัยได้เป็นอย่างดี

7. Romona Keveza 5ply : style #RK7402 และ #RK6463

ชุดแต่งงานสไตล์ใหม่ที่ทำจากผ้าเครปหนา 5 ชั้นจากแบรนด์ Romona Keveza จึงเป็นชุดแต่งงานที่มีโครงสร้างและสไตล์ที่สร้างความน่าดึงดูดใจให้กับลุคของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ซิกเนเจอร์แบบ 5-ply ก็ช่วยสร้างเท็กซ์เจอร์ของชุดให้ดูสง่างาม เรียบง่ายแต่ก็น่าตื่นตาตื่นใจไปพร้อมๆ กัน และเป็นชุดแต่งงานสีขาวสะอาดพร้อมที่จะขับจุดเด่นของการตัดเย็บที่ประณีต แถมยังเป็นชุดที่เข้ากับทุกรูปร่างของเจ้าสาว ไม่ว่าจะสูงหรือเตี้ย หุ่นเป็นเคิร์ฟหรือตรงเป็นไม้กระดานก็รอดทุกนางจริงๆ รับรองว่าคุณจะสวยมั่นไร้กังวลในวันสำคัญแน่นอน

บทความเพิ่มเติม 5 ดีไซเนอร์ชุดแต่งงานจากฝรั่งเศส สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่รักความแตกต่าง

ข้อมูลจาก brides.com
ภาพ : maggiesottero.com, lwdbridal.com, hitcpm.com, mirazwillinger.com, jlmcouture.com, thebridalbox.net, yapjules.blogspot.com, preownedweddingdresses.com, plumedserpentbridal.com, pinterest.com, twitter.com, weddinginspirasi.com, theweddingbellbride.com

ชุดเจ้าสาวและเครื่องประดับชิ้นสำคัญ … ความลงตัวที่ต้องเข้ากัน

เลือก ชุดเจ้าสาว มาอย่างดี แต่ดันมาตกม้าตายเพราะเครื่องประดับ ก็ไม่เวิร์กจริงไหมคะ

การเลือกเครื่องประดับสำหรับใช้ในวันงานเป็นปัญหาใหญ่อีกเรื่องที่ทำเอาเจ้าสาวผู้โชคดีทั้งหลายต้องกุมขมับ เพราะไม่ใช่ทุกคนจะมีพื้นฐานทางด้านศิลปะหรือเซ้นส์เจ๋งๆ ที่จะแมทช์เพชรเม็ดงามให้เข้ากับ ชุดเจ้าสาว ที่เลือกไว้ แต่วันนี้ เราได้สรรหาเทคนิคง่ายๆ มาให้คุณลองใช้

งานแต่งงานของคุณเป็นแบบทางการหรือไม่ทางการ

เทคนิคแรกไม่ยากเกินเข้าใจ คุณควรพิจารณาก่อนว่างานแต่งงานของคุณเป็นแบบทางการหรือไม่ทางกา ทั้งนี้รวมถึงสถานที่และช่วงเวลาในการจัดงานด้วย เช่น หากเป็นงานเลี้ยงตอนกลางวันหรืองานในสวนที่ไม่เป็นทางการมากนัก สามารถเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบเรียบง่าย แต่หากเป็นงานเลี้ยงตอนกลางคืนที่เป็นทางการ เครื่องประดับก็ควรที่จะดูหรูหราและโดดเด่นมากกว่าปกติ

ชุดที่ใช้มีรายละเอียดในระดับไหน

ถ้ามีรายละเอียดมากอยู่แล้ว เครื่องประดับก็ ควรจะยิ่งเรียบและน้อยชิ้น แต่ถ้าชุดนั้นแสนเรียบ ไม่มีลวดลายใดๆ เครื่องประดับที่เลือก จะกลายเป็นนางเอกในทันที เพราะจะช่วยเสริมให้คุณดูโดดเด่นขึ้นมาได้

เลือกเครื่องประดับที่ไม่ล้าสมัยและใช้ได้หลายโอกาส

เพื่อที่ว่าคุณสามารถใช้ได้หลายโอกาส ยิ่งใช้ได้นานยิ่งดี หากมีฟังก์ชันปรับเปลี่ยนได้มากกว่าการใช้งานหนึ่งอย่างยิ่งดีมาก

Make it You

ไม่ว่าชุดเจ้าสาวนั้นจะเป็นอย่างไร หรือเครื่องประดับตรงหน้าจะเริดแค่ไหน เหนือสิ่งอื่นใดคือความเป็น “ คุณ ” สำคัญที่สุด ฉะนั้นควรเลือกสวมใส่เครื่องประดับที่คุณรู้สึกมั่นใจ และแสดงออกถึงความเป็นตัวตนของคุณจะดีที่สุด

นอกจากทฤษฎีง่ายๆ ที่ว่าไปแล้ว เพื่อความเข้าใจและเห็นภาพจริง เราขอเสนอ ตัวอย่างชุดแต่งงาน 4 แบบที่เจ้าสาวทั้งหลายนิยมสวมใส่กันมากที่สุด พร้อมเครื่องประดับเหมาะๆ ที่ขอบอกเลยว่า ก๊อปปี้ไปหามาใส่เลยดีกว่า

ชุดเจ้าสาวทรงหางปลา (Mermaid)

ภาพ : http://eatyourguitar.org

จับเดรปที่ช่วงบนคอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ จึงสามารถเลือกใช้เครื่องประดับได้ 2 แบบ คือ สร้อยคอสไตล์ตัว Y หรือสร้อยโช้กเกอร์แบบเรียบๆ แต่เนื่องจากชุดนี้มีรายละเอียดมากที่ชายกระโปรง จึงควรเลือกโช้กเกอร์เรียบๆ ให้ลุควินเทจ และเสริมช่วงคอขึ้นไป ให้ดูโดดเด่นด้วยต่างหูยาวระย้า

ชุดเจ้าสาวทรงตรง (Sheath)

คอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ เหมาะกับสร้อยคอสไตล์ตัว Y ดีไซน์เรียบๆ มีเพชรเรียงกันเป็นแถว เนื่องจากชุดมีระบายลูกไม้เป็นชั้นๆ ทั้งตัวอยู่แล้ว สร้อยที่รายละเอียดมากเกินไปจะแข่งกับชุด แต่ถ้างบประมาณจำกัด อาจใช้จี้อันใหญ่ร้อยกับริบบิ้นกำมะหยี่เส้นกว้างหรือผ้าลูกไม้ลายเข้าชุดก็ดูเก๋ไก๋ แถมยังนำมาใส่ในโอกาสอื่นๆ ได้ด้วย

ชุดเจ้าสาวสั้น

รูปแบบค่อนข้างเรียบ แต่ดีไซน์สมัยใหม่ เพิ่มความหวานด้วยลูกไม้ ชุดแบบนี้ดูไม่เป็นทางการมากนัก จึงเหมาะจะเป็นชุดหมั้นหรือสวมใส่ในงานเลี้ยงตอนกลางวัน ควรเลือกเครื่องประดับชิ้นเล็กแบบเรียบง่าย เช่น ต่างหูแบบกลมติดหู หรือแบบห้อยห่วงกลมๆ ที่ถอดเปลี่ยนไปเป็นจี้ได้

ชุดเจ้าสาวเกาะอกยาว (Drop Waist)

หรือชุดเกาะอกฟูฟ่องสไตล์เจ้าหญิง (Princess) ควรเน้นโชว์เครื่องประดับช่วงหัวไหล่และคอมากกว่าส่วนอื่น เพราะว่าชุดมีความอลังการในตัว จึงควรเลือกเครื่อง-ประดับที่มีรายละเอียดและดูเยอะกว่าปกติสักหน่อย เช่น สร้อยคอระย้า ดีไซน์ผสมผสานเพชรหลายขนาดตลอดรอบคอ สร้อยข้อมือเพชร พร้อมต่างหูเข้าชุด

ปิดท้ายด้วยเทคนิคง่ายๆ อีกอย่างที่นอกจากจะใช้ได้กับชุดเจ้าสาวแล้ว ยังนำไปประยุกต์กับชุดทั่วไปในชีวิตประจำวันได้ คือ การให้ คอเสื้อเป็นตัวกำหนด เพราะคอเสื้อจะเป็นตัวหลักสำคัญที่จะบอกว่าคุณควรสวมเครื่องประดับชิ้นไหน สไตล์ใด เช่น

คอเสื้อเว้าเป็นรูปหัวใจ

ควรเลือกสร้อยคอสไตล์ตัว Y เหมือนเสื้อคอวี เพราะมีลักษณะทรงเสื้อที่เว้าลง หรือจะเป็นการสวมโช้กเกอร์ติดคอ ให้ความรู้สึก เรียบ โก้ คลาสสิก แต่เวลาใส่จะต้องแนบสนิทพอดีกับช่วงกลางลำคอ ถ้าอยากเปลี่ยนตัวเองเป็นสาวหวาน อาจเลือกเป็นโช้กเกอร์มุกสีขาวประดับเพชร นอกจากนี้คุณยังเลือกใส่เป็นจี้กับสร้อยคอเส้นบางก็ได้ นอกจากจะดูทันสมัยแล้วยังนำไปใช้ในโอกาสสำคัญอื่นๆ ได้

ชุดแบบเกาะอกหรือไร้สาย

ควรเลือกเครื่องประดับขนาดใหญ่ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ต่างหู ยิ่งถ้าเป็นโช้กเกอร์หรือแผงคอแผ่นกว้างยิ่งเหมาะ เพราะสร้อยแบบนี้มีลักษณะสมมาตรและขนานไปกับชุด ให้ความรู้สึกหรูหรา เย้ายวนใจ แต่ควรเลือกให้แผงโช้กเกอร์อยู่กึ่งกลางคอพอดี และควรสั้นเหนือไหปลาร้า

ภาพเปิด : marlenadupellejewelry.com

แพรว wedding กับแฟชั่นเซตปกสวยๆ ที่ Villa de Bua คฤหาสน์สไตล์ไทยประยุกต์

Villa de Bua และเบื้องหลังแฟชั่นชุดไทยสวยๆ ของ แพรว wedding

ถ้าพูดถึงนางเอกที่มีอากัปกิริยางดงาม เชื่อเลยว่า แอฟ-ทักษอร จะต้องติดอยู่ในลิสต์บนสุด สาวหน้าหวานท่ี่เราเห็นผลงานกันมาตั้งแต่วัยนักศึกษา จนตอนนี้เปลี่ยนบทบาทเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งไปแล้ว ทำให้ไม่ค่อยได้เห็นเธอตามงานในวงการบันเทิงสักเท่าไรนัก ทำเอาใครๆ ต่างก็บ่นคิดถึงเธอ แพรว wedding เองก็คิดถึงเธอไม่น้อยไปกว่าใคร เลยขอคิวนางเอกคนดังมาถ่ายแฟชั่นชุดไทยสวยๆ ในคฤหาสน์หลังงามที่ Villa de Bua

ที่ผ่านมาแอฟได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนางเอกที่นุ่งไทยเคียนสไบได้งดงามที่สุด แต่ครั้งนี้เธอยังแอบมากระซิบกับเราว่าตื่นเต้นไม่น้อย เพราะไม่ได้ถ่ายแบบในชุดไทยมานานมากแล้ว

ชุดไทยเต็มยศที่ แพรว wedding นำมาแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับนางแบบของเราครั้งนี้ มาจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทย ภายใต้บรรยากาศอาคารแบบไทยประยุกต์ ณ วิลลา เดอ บัว ซึ่งตกแต่งในธีมโทนสีครีม-เขียว ได้รับอิทธิพลศิลปะต้นแบบมาจากสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ผสมผสานเข้ากับสถาปตัยกรรมสไตลต์ะวันตก สามารถจัดงานแตง่งานได้ทั้งด้านในตัวอาคารและบริเวณสวนด้านนอก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันตั้งแต่ลิฟท์สำหรับผู้สูงอายุตลอดจนห้องน้ำคนพิการ

เช้าที่ท้องฟ้าสดใสแสงแดดแรงจ้า สภาพอากาศบ่งบอกว่าวันนี้เราต้องได้รูปสวยๆ อย่างแน่นอน ทีมงานเริ่มสำรวจสถานที่กันแต่เช้าตรู่  ไม่นานนางเอกของงานนี้ก็ปรากฏตัวด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส สองมือยกขึ้นไหว้ทักทายทีมงาน อันแสดงถึงความเป็นกุลสตรีไทยสมคำาร่ำลือ ระหว่างรอนางแบบของเราแปลงโฉม ทีมงานก็ทำการบล็อกช็อตในจุดแรกบริเวณห้องจัดเลี้ยงที่โดดเด่นด้วยประตูขนาดใหญ่ตลอดแนวกำแพง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่งสบาย แฝงกลิ่นอายของความเป็นไทยและยุโรปผสานกันอย่างลงตัวสวยงามจนเราไม่พลาดที่จะเก็บช็อตสำคัญนี้ไว้

และเมื่อนางแบบของเราทรงเครื่องชุดไทยเต็มยศเป็นที่เรียบร้อย ภาพแรกของแอฟก็ทำเอาทีมงานถึงกับตกอยู่ในภวังค์ เพราะงดงามราวกับหลุดออกมาจากนางในวรรณคดีเลยทีเดียว ความงามของคุณแอฟไม่ใช่เรื่องล้อเล่นจริงๆ ทั้งชุดไทยสุดวิจิตรที่ตัดเย็บออกมาอย่างประณีต เมื่ออยู่บนตัวของนางแบบคนนี้แล้วคือความลงตัวเป็นที่สุด ส่วนการทำงานในกองก็ดำเนินไปอย่างราบรื่น แม้จะมีการย้ายโลเกชั่นไปตามจุดต่างๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานที่ออกมาดูไปคนละทิศละทางกันเลย เพราะการตกแต่งของแต่ละบริเวณ และแต่ละห้องนั้นถูกออกแบบมาอย่างดีให้อยู่ในยุคสมัยเดียว แล้วใช้เทคนิคของสีสันเข้ามาปรุงเพิ่มให้ที่นี่ออกมาโดดเด่น โดยเฉพาะห้องแต่งตัวสำหรับบ่าว-สาวที่มาในโทนสีน้ำเงินเข้มตัดกับสีทองส่งให้ห้องนี้สวยงามแปลกตา ทั้งดูหรูหราและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

ก่อนจะมาจบที่บริเวณด้านนอกอาคารเป็นโลเกชั่นสุดท้าย ซึ่งอยู่ในช่วงเย็นที่พระอาทิตย์สาดแสงอ่อนๆ ส่องกระทบชุดไทยส่งให้ยิ่งดูงามระยิบระยับจับตา ตัวอาคารทรงคฤหาสน์ที่เป็นฉากหลังยิ่งเสริมให้นางแบบสวยสง่ามากขึ้น

เป็นอีกวันที่ทีมงาน ทีมดีไซเนอร์ ช่างแต่งหน้า ช่างทำผม และนางแบบคนสวยของเราตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ เพื่อให้งานที่ได้ออกมาสวยงาม มีคุณภาพ ถูกใจผู้อ่านทุกท่าน รวมไปถึงคุณแก้ว ที่ใจดีเอื้อเฟื้อสถานที่สวยๆ อย่าง วิลลา เดอ บัว แถมคอยอำนวยความสะดวกให้กับทีม แพรว wedding ในครั้งนี้เป็นอย่างดี

ขอบคุณสถานที่ Villa de Bua
414 ถนนเทพรักษ์ (พหลโยธิน-รัตนโกสินทร์สมโภช) เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
โทร. 08-1400-2226, 09-7091-5903
เว็บไซต์ : www.villadebua.com
เฟซบุ๊ก : villadebua
ไอจี : @Villadebua

เทคนิคการเลือกชุดชั้นในสำหรับชุดเจ้าสาว

ชุดแต่งงานในฝันจะออกมาสวยหรือไม่ อยู่ที่การเลือก ชุดชั้นในเจ้าสาว ด้วยนะ

ชุดชั้นในเจ้าสาว ที่ดีจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าสาว เพราะชุดแต่งงานที่เลือกสรรมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะเข้ารูป หรือโชว์สัดส่วน ดังนั้นชุดชั้นในจึงควรเก็บทรวดทรงได้ดี ทำให้เจ้าสาวมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงาม สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกชุดชั้นในอยู่ที่ความพอดี ไม่แน่นหรือคับจนเกินไป ไม่มีเส้นสายร่องรอยใดๆให้เห็น เพราะฉะนั้นการเลือกชุดชั้นในให้ดีจะยิ่งช่วยให้เจ้าสาวดูโดดเด่นสวยสง่ามากยิ่งขึ้น และอย่างที่ทราบกันคือประเภทของชั้นในนั้นมีมากมายเหลือเกิน ทีนี้เราควรเริ่มจากตรงไหน? และประเภทใดบ้างที่เหมาะสำหรับใส่กับชุดเจ้าสาว? วันนี้ แพรว wedding จึงรวบรวมทริคการเลือกชุดชั้นในสำหรับเจ้าสาวมาให้ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายแล้วค่ะ หวังว่าจะช่วยคุณๆได้ไม่มากก็น้อยนะคะ 😉

บอดี้สูท (bodysuit)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

ชุดเจ้าสาวทรงตรงที่ใช้ผ้าทิ้ง ตัวอย่าง ไหมซาติน หรือผ้าเนื้อเบาจำพวกออร์แกนดี้ ชีฟอง ชุดชั้นในต้องเรียบแนบเนื้อที่สุด ไร้เส้นโครง ลูกไม้ ริบบิ้น และระบาย จะดีต้องใส่เป็นบอดี้สูท ซึ่งมีขอบขาคว้านค่อนข้างสูง และถ้ามีถุงน่องในตัวจะเนียนตามาก ถ้าต้องการใช้ชุดชั้นในสีขาว ควรเลือกให้ใกล้เคียงกับ ซับในของชุดแต่งงาน

บัสติเย่ร์ (bustier)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

ถ้าเป็นชุดเกาะอก เจ้าสาวควรใส่บัสติเย่ร์ หรือจะเป็นบราเซียร์เต็มตัว แบบไร้สาย เพราะเส้นโครง จะช่วยประคองอก กระชับทรงเลยถึงลำตัวส่วนบนได้ดี บัสติเย่ร์นั้นเหมาะกับเจ้าสาวที่มีหน้าอก และใช้ได้ดีกับชุดเปิดหลังเพราะคว้านหลังลึกกว่าบราธรรมดา

สลิมเมอร์ (slimmer)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

สลิมเมอร์ คือ ชุดชั้นในที่ทำจากผ้ายืดไลครา หรือสแปนเด็กซ์ ซึ่งรัดรูปร่างให้เข้ารูปตั้งแต่ทรวงอก ลงมาถึงสะโพกและต้นขา ช่วยเก็บรูปร่างได้ดีและสวมใส่สะดวกสบายกว่าสเตย์รัดหน้าท้องแบบโบราณ ทั้งยังใช้ได้กับชุดเจ้าสาวทุกสไตล์ ข้อแนะนำสำหรับการใช้ ชุดชั้นในประเภทนี้คือ ต้องสวมใส่ให้เคยชินตั้งแต่การลองชุดเจ้าสาว เมื่อเลือกซื้อจะต้องได้เลือกชุดให้พอดีกับรูปร่างที่ต้องการ และสลิมเมอร์ก็จะฟิตพอดีตัว

แพนตี้โฮสท์ (panty host)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

ถ้ากังวลเรื่องพุง ไม่ควรใส่สเตย์ เพราะจะดูเป็นมัด แข็ง และอึดอัด ให้เลี่ยงไปใช้แพนตี้โฮสท์ หรือถุงน่องแบบเก็บพุง ซึ่งมีกางเกงชั้นในในตัว ใช้ได้ดีกับชุดผ้าซาตินที่มีกระโปรงแคบเข้ารูป

คอร์เส็ต (corset)

ชุดชั้นในเจ้าสาว

คอร์เส็ตและชุดชั้นในแบบเต็มตัว เหมาะกับชุดแต่งงานบางพลิ้ว ทิ้งน้ำหนักแบบแนบตัวลงมา แต่หากเจ้าสาวเป็นสาวเจ้าเนื้อควรเลี่ยงการใส่คอร์เส็ต เพราะอาจจะทำให้รูปร่าง ดูหนากว่าที่ควรเป็น และอาจอึดอัดเวลาเคลื่อนไหว

อ่านบทความเพิ่มเติม ใส่ชุดเจ้าสาวให้ก้นงอนงามด้วย “ชุดชั้นในเสริมสะโพก”

cr : brownthomas.com

จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ ที่พักความฟินระดับร้อย วิวสวยระดับล้าน

จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ สถานที่ฮันนีมูนสุดฟิน พร้อมความหรูหราสไตล์ล้านนา และวิวพานอราม่าของขุนเขา

คู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ฮันนีมูนสุดฟิน ประมาณว่าอยากไปทิ้งตัว ปล่อยกาย ปล่อยใจ แต่ไม่ต้องเดินทางไกลให้เหนื่อยล้า แพรว wedding มีสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฮันนีมูนมาฝากค่ะ นั่นก็คือ “ จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ ” รีสอร์ตสไตล์ไทยล้านนาประยุกต์ที่ผสมผสานความหรูหราและความคลาสสิคเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว แถมที่นี่ยังมีห้องอาหารบริการภายในรีสอร์ทอีกด้วย ที่สำคัญอร่อยเลิศทุกเมนู แถมยังได้ทานอาหารพร้อมวิวของขุนเขาเบื้องหน้าที่ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจไปอีก…เป็นไงคะ ฟินไหมล่ะ ^^

จันตราคีรี ชาเลต์ เชียงใหม่ รีสอร์ทที่โอบล้อมไปด้วยทิวเขาและโอโซนอันบริสุทธิ์บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ซึ่งจุดไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ วิวภูเขาอันเขียวขจีตรงหน้าซึ่งเป็นด้านหลังของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบของรีสอร์ตยังรายล้อมไปด้วยต้นไม่ใหญ่น้อยนานาพรรณ ไม่ว่าจะเป็น ต้นลิ้นจี่ผลไม้ขึ้นชื่อของเมืองเหนือ ซึ่งหากคู่รักไปได้ถูกฤดูก็สามารถเก็บทานสดๆ จากต้นได้เลย และถ้าหากไปในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่ดอกไม้เริ่มบานสะพรั่งแล้วล่ะก็ ความสวยงามของรีสอร์ตจะทวีคูณขึ้นด้วยสีสันของดอกไม้หลากสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น อโศกแดงและเหลือง ดอกข่า กล้วยไม้ ดอกพุด จำปี มะลิ และอัญชัญ และที่สำคัญยังจะได้สัมผัสกับทะเลหมอกที่โอบล้อมขุนเขาไว้อีกด้วย ลองคิดดูว่าจะฟินขนาดไหน  ^^

โดยที่นี่มีบ้านพักและห้องพักหลากสไตล์โดยหลักๆ จะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ

บ้านพักสไตล์หลองข้าวล้านนาสุดหรู ทั้งหมด 5 หลัง ซึ่งจำลองมาจากหลองข้าวหรือยุ้งข้าวของชาวเหนือ ซึ่งนำมาประยุกต์ให้มีความทันสมัยและแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น การสร้างขึ้นด้วยไม้สักและไม่เนื้อแข็ง ข้าวของเครื่องใช้ เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์อารยธรรมล้านนา อีกทั้งยังประดับตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบ โถเซรามิกที่นำมาจากแหล่งที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย พร้อมด้วยภาพวาดจิตรกรรมสไตล์ไทยล้านนา หรูหราด้วยโคมไฟระย้าในทุกหลัง พร้อมช้างไม้แกะสลักที่บอกเลขห้องพักสไตล์หลองข้าว อีกหนึ่งกิมมิกน่ารักๆ ที่มาพร้อมกับความเชื่อที่ว่าช้างนั้นเป็นสัตว์มงคลอีกด้วย

– จันศรี (Chan Sri Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 100 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และบาร์ที่ชั้นล่าง ชั้นบนโดดเด่นด้วยห้องนอนแบบเตียงเดี่ยวสไตล์มุ้ง 4 เสาเพดานสูง พร้อมระเบียงส่วนตัวเพื่อชมแมกไม้อันเขียวขจี

– จันแก้ว (Chan Kaew Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 98 ตารางเมตร พร้อมห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ และบาร์ที่ชั้นล่าง ชั้นบนเป็นห้องนอนแบบเตียงคู่สไตล์มุ้ง 4 เสาเพดานสูง พร้อมระเบียงชมวิวในตัว

– ยวงจัน ( Yuang Chan Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 180 ตารางเมตร เป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 2 ห้องนอน เหมาะสำหรับการเข้าพักแบบครอบครัว หรือจะมาเป็นแก๊งเพื่อนก็ได้

– ร้อยจัน (Roi Chan Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 180 ตารางเมตร ชั้นแบ่งเป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 1 ห้อง และห้องนอนแบบเตียงคู่ 1 ห้อง พร้อมลานส่วนตัวแบบใกล้ชิดธรรมชาติที่ด้านนอก เหมาะสำหรับทริปสังสรรค์ของครอบครัว หรือจะชวนแก๊งเพื่อนสนิทมาปาร์ตี้สละโสดแบบชิลๆ ก็ยังได้

– จันเป็ง (Chan Peng Villa)

บ้านพักสไตล์หลองข้าว 2 ชั้น ขนาด 274 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องนั่งเล่นและบาร์ ชั้นบนเป็นห้องนอนแบบเตียงเดี่ยว 1 ห้อง และแบบเตียงคู่อีก 1 ห้อง พร้อมลานส่วนตัวแบบใกล้ชิดธรรมชาติที่ด้านนอก เหมาะสำหรับทริปสังสรรค์ของครอบครัว หรือจะชวนแก๊งเพื่อนสนิทมาปาร์ตี้สละโสดแบบชิลๆ ก็ยังได้

ยังมีห้องพักแบบตะวันตกให้ดูอีกน้า >> คลิกดูหน้าต่อไปเลย >>

7 แหวนแต่งงาน แบบชู ดีไซน์สุดคลาสสิคยอดฮิตของว่าที่เจ้าสาว

แหวนแต่งงาน สไตล์ Solitaire หรือแหวนแต่งงานแบบชู กับ 7 ดีไซน์ยอดฮิตของสาวๆ

แหวนแต่งงาน เป็นอีกหนึ่งอย่างในอิลิเม้นต์งานแต่งงานที่ว่าที่เจ้าสาวให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าชุดแต่งงานเลยทีเดียว แถมบางคนอาจจะให้ความสำคัญมากที่สุดไปอีก เพราะเป็นสิ่งที่จะต้องสวมใส่ติดนิ้วไว้ตลอดเวลา นั่นจึงทำให้สาวๆ มีเรื่องที่ต้องปวดหัวเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งเรื่อง เพราะดีไซน์แหวนแต่งงานมีให้เลือกมากมายไม่แพ้กับดีไซน์ชุดเลยนะจ๊ะ

แต่ดีไซน์แหวนแต่งงานเรียบง่ายแต่คลาสสิค ไม่มีวันเชย ดูทันสมัยอยู่เสมอ และใส่ได้กับทุกโอกาสก็คือ แหวนแต่งงานแบบ Solitaire หรือแหวนแต่งงานแบบชู แถมยังสามารถเพิ่มกิมมิกต่างๆ เข้าไปได้หากคุณไม่ชอบดีไซน์ที่เรียบง่ายจนเกินไป เช่น การฝังเพชรด้านข้างแบบฝังไข่ปลา (pave) ที่ช่วยเพิ่มความเปล่งประกายให้กับแหวนวงสวย หรือจะโดดเด่นด้วยลูกเล่นของก้านแหวนที่ทวิสต์ไปมาคล้ายสัญลักษณ์ infinity (∞) แต่ถ้าคุณอยากได้ความแปลกใหม่อีกนิดอาจจะเลือกตัวแหวนเป็นเฉดสีโรสโกลด์ก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับนิ้วมือได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าการฝังเพชร หรือสีของตัวเรือนยังไม่ตอบโจทย์ความโดดเด่นและแตกต่างของว่าที่เจ้าสาว การเลือกทรงเพชรแบบต่างๆ ก็ช่วยให้แหวนแต่งงานของคุณดูดีได้ไม่น้อย ซึ่งแน่นอนว่า เพชรทรงกลม นั้นมาแรงแซงโค้งและอยู่ในใจของว่าที่เจ้าสาวมาโดยตลอดอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีเพชรทรงอื่นที่มีรูปทรงที่น่าสนใจอย่าง ทรงคุชชั่น หรือทรงปริ๊นเซส, ทรงลูกแพร์, ทรงมาคีส์ หรือทรงเอมเมอรัลด์ ที่ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับแหวนแต่งงานของคุณ สุดท้ายสำหรับว่าที่เจ้าสาวสายฮิปสเตอร์เด็กแนวที่ไม่ชอบความวิบวับของเพชร ก็อาจจะเลือกเป็นหินหรืออัญมณีนำโชคก็ได้เช่นกันน้า

และนี่คือ 7 แหวนแต่งงานสไตล์ Solitaire ที่สวยจนอยากจะแต่งงานซะวันพรุ่งนี้เลย ^^

แหวนแต่งงาน
Blue Nile

เรียบหรูดูดี ใส่ได้กับทุกโอกาส แม้กระทั่งในชีวิตประจำวัน กับแหวนแต่งงานประดับเพชรทรงกลม ตัวเรือนแพลตตินั่มที่ก้านแหวนมีความเลื่อมกันเล็กน้อยเพื่อความน่าสนใจ และด้วยความเชื่อเรื่องความกลมที่สื่อถึงรักที่มีแต่ความกลมเกลียวสามัคคี รักที่ไม่สิ้นสุด แม้จะเดินกันคนละทาง สุดท้ายก็ต้องมาบรรจบกันนั้น ทำให้ว่าที่เจ้าสาวหลายคนจึงนิยมเลือกเพชรทรงนี้เพราะมีความดีๆ สำหรับชีวิตคู่นั่นเอง

Catbird

แหวนแต่งงานดีไซน์ก้านแหวนบางงดงามสุดละเอียดอ่อน ประดับเพชรทรงกลมตรงกลางพร้อมประดับเพชรด้านข้าง เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวสายหวานที่มีความเฟมินีนในตัวนิดๆ และข้อดีอีกหนึ่งอย่างของเพชรทรงกลมก็คือ สามารถออกแบบก้านแหวนให้เข้ากับรูปนิ้วได้หลายแบบ

Gabriel New York

เรียบโก้สุดๆ กับแหวนแต่งงานประดับเพชรทรงกลมพร้อมล้อมกรอบเพชรด้วยทรงกลมเช่นเดียวกัน ตัวเรือนเป็นทองคำขาวที่ดูสะอาดและเปล่งประกาย เป็นอีกหนึ่งดีไซน์ที่ใส่ได้แบบไม่มีเบื่อ แถมยังให้ลุคที่ดูร่วมสมัยสุดๆ อีกด้วย

แหวนแต่งงานประดับเพชรทรงลูกแพร์ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ลุคแตกต่างไม่ซ้ำใคร มาพร้อมดีไซน์สุดเพอร์เฟกต์ของการฝังเพชรแบบจิกไข่ปลาที่ด้านข้าง ที่ช่วยให้แหวนวงนี้ดูเปล่งประกายบนนิ้วนางข้างซ้ายสุดๆ

De Beers

สวยงามแบบไร้กาลเวลาทำร้าย กับแหวนแต่งงานประดับเพชรทรงไข่ ด้านข้างประดับเพชรที่เรียงตัวกันไว้อย่างสวยงามตลอดก้านแหวนช่วยเพิ่มความวิบวับและขับความโดดเด่นของเพชรเม็ดกลางให้ดูโดดเด่นขึ้น ซึ่งเพชรทรงไข่นี้จะเหมาะกับมือที่ค่อนข้างอวบ ขนาดวงนิ้วใหญ่เป็นพิเศษ

Anna Sheffield

ไม่ว่าจะเป็นว่าที่เจ้าสาวเด็กแนว หรือว่าที่เจ้าสาวสายแฟชั่นที่ไม่นิยมเครื่องเพชร แหวนแต่งงานประดับอัญมณีนี่แหละตอบโจทย์ที่สุด โดยอาจจะเลือกอัญมณีที่ชอบ หรือเฉดสีที่เข้ากับราศีของว่าที่เจ้าสาวก็ได้

Tiffany & Co.

คลาสสิคสุดๆ กับแหวนสไตล์ Solitaire ประดับเพชรทรงกลมพร้อมตัวเรือนสีโรสโกลด์ แต่เฉดสีนี้เห็นที่ว่าที่เจ้าสาวที่ผิวขาวมากๆ เท่านั้นที่ใส่แล้วจะรอดนะจ๊ะ

Tacori

แหวนแต่งงานประดับเพชรทรงลูกแพร์ เหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้ลุคแตกต่างไม่ซ้ำใคร มาพร้อมดีไซน์สุดเพอร์เฟกต์ของการฝังเพชรแบบจิกไข่ปลาที่ด้านข้าง ที่ช่วยให้แหวนวงนี้ดูเปล่งประกายบนนิ้วนางข้างซ้ายสุดๆ

อ่านบทความเพิ่มเติม แหวนแต่งงานอัญมณีสีฟ้า.. แรงบันดาลใจจากปราสาทวินด์เซอร์

ภาพ Pinterest, Brides.com

งานแต่งในสวนสไตล์โรงนาของคุณไอส์ & คุณบอส @ โรงแรมสุโขทัย

In a Blissful Backyard งานแต่งในสวน สไตล์โรงนาสุดอบอุ่น

สำหรับ งานแต่งในสวน ของคุณไอส์-ภัทรนันฑ์ และคุณบอส-วสวัตติ์ คู่รักนักบริหารคนเก่งนั้น ผ่านการเตรียมงานมาเป็นอย่างดี ทั้งคู่ใส่ใจในทุกรายละเอียดไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ เห็นได้จากภาพบรรยากาศอันน่าประทับใจตั้งแต่พิธีแลกแหวนจนถึงงานเลี้ยงฉลอง

เรื่องราวความรักฉบับสองใจตรงกันจนน่าอิจฉาของคุณไอส์และคุณบอสนั้นเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ถึงแม้ระยะทางจะไกลกันเพราะเจ้าบ่าวกำลังศึกษาอยู่ที่อังกฤษ ในขณะที่เจ้าสาวอยู่เมืองไทย แต่พลังจากภาพถ่ายเพียงไม่กี่ภาพก็เพียงพอที่จะทำให้ทั้งคู่รอคอยและกลับมาพบ เพื่อเริ่มต้นเส้นทางรักไปด้วยกันจนมีวันนี้ในที่สุด โดยทุกขั้นตอนการเตรียมงานนั้นเริ่มขึ้นทันทีหลังจากที่คุณไอส์เซย์เยสในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา และเพราะได้คุณเอก – สันติพงษ์ นักสร้างสรรค์คนเก่งมารังสรรค์งานนี้ให้ ทำให้คุณไอส์ เจ้าสาวที่มีตารางงานค่อนข้างยุ่ง ประกอบกับต้องทำงานในต่างประเทศนั้นรู้สึกสบายใจ และที่สำคัญคือการมีเจ้าบ่าวที่น่ารักคอยช่วยดูแลเตรียมงานให้

 

หลังจากได้ฤกษ์ที่แน่นอน ไทม์ไลน์ทุกอย่างจึงถูกวางตามลำดับ เริ่มต้นที่การเลือกสถานที่ที่เน้นว่าต้องมีสวน จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการมองหาชุดเจ้าสาวแสนสวยที่ต้องเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปจนได้ชุดที่ถูกใจจากนิวยอร์กมาในที่สุด ในส่วนของชุดเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็ผ่านการคัดสรรและออกแบบอย่างดีด้วยฝีมือของคุณไอส์เอง ตามด้วยการตกผลึกไอเดียข้าวของและการตกแต่งในส่วนต่างๆ ทั้ง การ์ดสวยที่ถูกใจเจ้าสาวเป็นอย่างมาก และของชำร่วยที่เป็น กระเป๋าจากโครงการกำลังใจในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เพื่อแบ่งปันความสุขในวันสำคัญของทั้งคู่สู่กลุ่มนักโทษหญิงในทัณฑสถาน เจ้าของผลงานกระเป๋าสวยคุณภาพดี จนกระทั่งเดือนมีนาคมที่ผ่านมารูปแบบการจัดงานและชนิดดอกไม้จึงถูกไฟนอลออกมา ถือว่าจบขั้นตอนสุดท้ายของการเตรียมงาน

 

ในงานได้รับการตกแต่งในธีมโรงนาแบบฝรั่งที่ดูน่ารักอบอุ่น เลือกใช้สีขาวและสีเขียวของดอกไม้และใบไม้เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ดูสบายๆ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในสวนหลังบ้าน โมเมนต์ที่เจ้าสาวปรากฏตัวในชุดสีขาวที่ดูอ่อนหวาน แต่แฝงความโก้ในสวนสีเขียวชอุ่มพร้อมกับเจ้าบ่าวในชุดสูทสุดเนี้ยบนั้นก็ให้ความรู้สึกที่สดชื่นมากๆ ทำให้รู้สึกเหมือน การรวมตัวของครอบครัวและเพื่อนสนิทกันที่สวนหลังบ้านได้มีความสุขและรับประทานอาหารร่วมกัน เรียกว่าเป็นงานที่ สวยงามแก่สายตาและยังอบอุ่นแก่หัวใจจริงๆ

 

The Details : The Barn

Venue : โรงแรมสุโขทัย The Sukhothai Bangkok
Wedding Dress : ชุดสวมแหวน Amata ชุดงานเลี้ยง Christian Siriano, Kleinfeld New YorkGroom Suit : POEM
Makeup : คุณเจ J makeup (ช่วงสวมแหวน) คุณชาติ Chart makeup (ช่วงงานเลี้ยง)
Hair : คุณริว Showryu (ช่วงสวมแหวน) คุณอ้อย (ช่วงงานเลี้ยง)
Decoration : คุณเอก – สันติพงษ์ (ไอจี : @suntipong101)
Wedding Planner : Wedding is “Me” (เฟซบุ๊ก @@weddingisme)
Photo : TMPHOTOANEWS (ไอจี : @tmphotoanews)LightCulture (ไอจี : @lightculture)

Alwaysfluke กับแบรนด์โปรด Sulwhasoo และทิปส์การใช้สกินแคร์สำหรับเจ้าสาว

สกินแคร์สำหรับเจ้าสาว และทิปส์ดูแลผิวดีๆ ที่ ฟลุค Alwaysfluke อยากบอกต่อ

เมื่อกล่าวถึงเมคอัพอาร์ติสต์เจ้าสาวมือวางอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของฟลุค – รพี ชูสุวรรณ หรือที่เรารู้จักในนามของ Alwaysfluke ติดอันดับอยู่ด้วย เพราะความโดดเด่นของสไตล์การแต่งหน้าที่เน้นงานผิวสวยธรรมชาติ แต่นอกจากฝีมือในการสาดสีสันแล้ว ฟลุคยังเป็นอีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเลือกใช้สกินแคร์ด้วย จากประสบการณ์ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการความงามมาอย่างยาวนาน แพรว wedding ฉบับนี้ล็อกตัวเขามาพูดคุยเกี่ยวกับสกินแคร์สัญชาติเกาหลี Sulwhasoo (โซลวาซู) แบรนด์โปรด รวมทั้งมาบอกเล่าทิปส์การใช้ สกินแคร์สำหรับเจ้าสาว อย่างถูกต้อง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาผิวเจ้าสาวที่อาจจะเกิดขึ้นในวันแต่งงาน

Q: ปัญหาผิวหน้าเจ้าสาวที่คุณฟลุคมักจะพบเจอ

A: ปัญหาที่พบเจอบ่อยคือสิวและผิวไม่แข็งแรง เหล่านี้เกิดจากความเครียดและพักผ่อนน้อยซึ่งเป็นปกติของเจ้าสาว ในช่วงใกล้วันแต่งงาน การจะไปแนะนำาเขาว่าอย่าเครียดนะ ดื่มน้ำเยอะๆ นะ นอนเยอะๆ นะ บางทีก็ทำได้ยากในชีวิตจริง ฟลุคจึงมักจะแนะนำให้เจ้าสาวหาสกินแคร์ที่ดีเป็นตัวช่วย เหมือนว่าอย่างน้อยถ้าไลฟ์สไตล์เราไม่เอื้ออำนวยที่จะให้เรามีสภาพผิวที่ดี สกินแคร์ก็ช่วยเติมสารอาหารที่ขาดหายไปให้กลับคืนสู่ผิวได้

Q: รู้จักกับแบรนด์ Sulwhasoo ครั้งแรกได้ยังไง

A: ฟลุคมีโอกาสไปลองสปาแบบดั้งเดิมของแบรนด์ที่ประเทศเกาหลีใต้ สปาของเขาเป็นการบ่งบอกว่าเขาให้ความสำคัญกับการมอบประสบการณ์การดูแลผิวให้ลูกค้าแบบ 360 องศาจริงๆ อันนี้แนะนำเป็นการส่วนตัวว่า ถ้าว่าที่เจ้าสาวคนไหนมีโอกาสได้บินไปเกาหลีในช่วงเวลาเตรียมตัวอยากให้ไปลองสักครั้ง

Q: ทำไมถึงอยากแนะนำ Sulwhasoo ให้ว่าที่เจ้าสาวสำหรับการเตรียมผิวก่อนแต่งงาน

A: พอเราใช้แล้วประทับใจ เราก็เริ่มแนะนำให้คนรอบตัวใช้ รวมถึงว่าที่เจ้าสาวที่บางทีมาขอคำแนะนำ พอเขาใช้แล้ว ประทับใจ เขาก็เอาไปบอกคนอื่นๆ ต่อเช่นกัน จากประสบการณ์ของฟลุค แบรนด์สกินแคร์ที่เน้นการรักษาสมดุลผิวอย่างโซลวาซูเป็นอะไรที่เวิร์คมากสำหรับการเตรียมผิวเจ้าสาวช่วงใกล้งานแต่งงาน เพราะช่วยแก้ปัญหาเรื่องผิวแพ้ ระคายเคือง และลดการเกิดสิวได้ดี ฟลุครู้สึกว่ากุญแจสำคัญของผิวที่ดีคือผิวที่แข็งแรง ถามว่าผิวที่แข็งแรงมาจากอะไร ก็มาจากความสมดุลของสภาพผิวภายในนี่เอง

Q: อยากให้ฝากคำแนะนำในสัปดาห์สุดท้ายของการเตรียมผิวเจ้าสาวก่อนแต่งงาน

A: ฟลุคแนะนำให้มาสก์หน้าก่อนนอนทุกวัน แล้วนวดวนให้เนื้อมาสก์ที่เหลือจากการมาสก์ซึมเข้าสู่ผิวให้หมดแล้วค่อยนอน เป็นการบำรุงผิวแบบล้ำลึกเข้มข้นจริงๆ ในช่วงเวลาสุดท้ายก่อนวันสำคัญ ถ้าทำได้ทุกวันจะสังเกตเห็นเลยว่า ผิวดูอิ่มฟูและกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้เวลาแต่งหน้าเจ้าสาวแล้วแทบจะไม่ต้องลงรองพื้นหรือคอนซีลเลอร์เพื่อปิดบังจุดบกพร่องใดๆ ฟลุคเชื่อว่ายิ่งเจ้าสาวสามารถเผยผิวที่แท้จริงของเธอได้มากเท่าไร ก็ยิ่งจะทำให้เธอดูสวยอย่างเป็น ธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น

5 Alwaysfluke’s Selection ผลิตภัณฑ์โปรดของฟลุคที่อยากแนะนำให้ลอง >>> อ่านต่อหน้าต่อไป

5 กิจกรรมที่ควรงดใส่แหวนเพชรเม็ดงาม ถ้าไม่อยากให้แหวนวงสวยหมดราคา!

คิดสักนิดหากจะทำ 5 กิจกรรมต่อไปนี้โดยที่ยังมี แหวนเพชร อยู่บนนิ้ว

ไม่ใช่แค่เพียงเพราะราคาสูงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ แหวนเพชร วงสวยยังเต็มไปด้วยความหมายและคุณค่าต่อจิตใจสำหรับผู้หญิงอย่างเราๆอยู่มากมาย ทำให้เราควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และนี่คือช่วงเวลาที่ แพรว wedding แนะนำว่าควรจะถอดแหวนเก็บไว้ดีกว่าเพื่อความปลอดภัย

เวลาอาบน้ำ

เหมือนกับการทาครีมกันแดด โลชั่น หรือเซรั่มบำรุงผมนั่นแหละค่ะ การอาบน้ำขณะที่สวมแหวนจะทำให้สบู่ที่เราใช้ไปสะสมอยู่ที่เพชรและบนแหวน หรือแย่กว่านั้นก็คือใต้แหวน ซึ่งทำความสะอาดยากมาก ๆ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้มันหมองและสกปรกก็ถอดออกก่อนอาบน้ำจะดีที่สุดน้า

เวลาทำงานบ้าน

โดยเฉพาะงานบ้านจำพวกเช็ดล้างทำความสะอาด ไม่ว่าจะล้างรถ ขัดห้องน้ำ ทำความสะอาดเตาอบ ก็ไม่สมควรจะใส่แหวนค่ะ ยิ่งถ้าแหวนของเรามีพลอยสี ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ สารเคมีในน้ำยาทำความสะอาดจะทำปฏิกิริยากับแหวนของเราเอาได้ และเวลาที่ถอดแหวนเก็บ ควรจะมีกล่องแยกต่างหากเพื่อไม่ให้ขูดขีดกับข้าวของในกระเป๋าด้วยนะคะ

ไปโรงยิมหรือฟิตเนส

สำหรับการออกกำลังกายบางอย่าง อย่างการวิ่ง คงจะไม่ทำให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อแหวนของเราหรอกค่ะ แต่ถ้าเป็นพวกการยกดัมเบล หรือการออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์เยอะ ๆ มาเกี่ยวข้อง มันจะทำให้แหวนเกิดความเสี่ยงที่จะพัง งอเสียรูป หรือเสียหายได้ง่าย ๆ เลยล่ะ แถมบางทียังเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุขณะออกกำลังกายด้วยนะคะ

ไปเที่ยวทะเล

มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือมาก ๆ อยู่ 2 อย่างนะคะสำหรับข้อนี้ อย่างแรกเลยก็คือ หากคุณเผลอทำแหวนหล่นหายไปกับทรายหรือในทะเล แน่นอนว่ามันหายชัวร์ ๆ ค่ะ การจะหามันให้เจอนั้นเหมือนกับการงมเข็มในมหาสมุทรของจริงเลยล่ะ ส่วนเหตุผลอีกข้อที่ไม่ค่อยจะมีคนรู้ก็คือ ทรายสามารถเข้าไปอยู่ในแหวนหรือใต้เพชรของเราได้ง่าย ๆ แถมเอาออกยากอีก และเราก็คงจะไม่อยากทาครีมกันแดดเวลาที่ใส่แหวนอยู่หรอกจริงมั้ย เพราะเพชรคงจะหมองแย่เลย

ไปว่ายน้ำ

การทำแหวนหล่นหายในสระว่ายน้ำหรืออ่างน้ำร้อนที่สปาอาจจะไม่แย่เท่าในทะเล เพราะยังไงก็หาเจอง่ายกว่า แต่สิ่งที่เลวร้ายก็คือสารเคมีต่าง ๆ ในสระน้ำอย่างคลอรีนเนี่ยล่ะค่ะ ที่เป็นตัวทำความเสียหายกับแหวนของเรา และยิ่งนาน ๆ ไปมันอาจจะทำให้โลหะเปลี่ยนสีได้เลยนะคะ

อ่านเพิ่มเติม 6 เฉดสีเล็บเจ้าสาวทาแล้วรอดเข้ากับแหวนเพชรเม็ดงาม

cr : theknot.com

เส้นทางเที่ยวสวีทถูกและดีฮันนีมูนที่โครงการหลวง : ภาคกลางและภาคตะวันออก

ฮันนีมูนตามรอย โครงการหลวง สวีทแบบมีสาระ

ว่าที่บ่าวสาวคู่ไหนที่ยังคิดไม่ออกว่าจะจูงมือกันไปเที่ยว หรือฮันนีมูนที่ไหนดี แพรว wedding ขอแนะนำให้ทริปสุดเจ๋งในเมืองไทยที่เดินทางง่ายแถมได้สาระ นั่นคือ การท่องเที่ยวเดินตามรอย โครงการหลวง รับรองว่าฟินไม่แพ้ที่อื่นแน่นอน

เส้นทางที่ 1 อยุธยา นครนายก เที่ยวสั้นๆ ประหยัดเวลา

1

สำหรับคู่รักที่มีเวลาน้อยไม่สามารถออกไปไกลๆ ได้ ก็ขอจัดทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน อยุธยา นครนายก ถือเป็นพรีฮันนีมูนไปก่อน จุดแรกที่จะพามุ่งหน้าไปคือ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร แหล่งรวมงานหัตถศิลป์ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี ลานนก และวังปลาให้พักเที่ยวเล่นก่อนเดินทางต่อ ไปที่พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย  นอกจากจะมีพระราชานุสาวรีย์ให้กราบสักการะแล้ว ยังเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ รวมถึงเป็นพื้นที่โครงการแก้มลิงสำหรับรองรับน้ำในช่วงน้ำท่วมอีกด้วย

download

เที่ยวชมอยุธยาพอสนุกแล้ว ก็ได้เวลาขับรถสู่เขื่อนขุนด่านปราการชล ในจังหวัดนครนายก เขื่อนสวยๆ ที่มีถนนทอดยาว ถ่ายรูปเมื่อไหร่ก็สวยเสมอจนถูกใช้เป็นฉากในละครอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมรอบเขื่อนอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นน้ำในลำธารสายเล็กๆ ล่องแก่งแบเสียวเบา หรือจะกินผลไม้นอนโฮมสเตย์ใกล้ชิดวิถีธรรมชาติก็ได้ แบบว่าตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์

เส้นทางที่ 2 เลาะทะเลชมโครงการหลวงที่ สมุทรสงคราม เพชรบุรี

tourismthailand

ไปหัวหิน ชะอำเที่ยวนี้ จะมีความหมายมากกว่าทุกครั้ง เพราะเราจะไปโครงการหลวงด้วยกัน โดยมุ่งหน้าสู่จังหวัดเพชรบุรี ไปยังจุดหมายแรกคือโครงการหลวงที่กำลังมาแรงมั่กๆ อย่าง โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ  โครงการที่พลิกฟื้นดินเสื่อมโทรมให้กลายเป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี อุดมด้วยวัวนมสีขาวดำหน้าตาน่ารัก ดูทุ่งกังหันไฟฟ้า และเลือกซื้อผักสดปลอดสารพิษ และนมสดๆ ที่หอมหวานมันแบบไม่ต้องปรุงรส เจือสี เจือกลิ่นเลย

%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%9a%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b5

ขากลับเที่ยวเล่นชมทะเล กินซีฟู้ดจนจุใจแล้ว เราจะแวะอัมพวากันก่อน ที่นี่เป็นพื้นที่โครงการหลวง อัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์”  พบกับวิถีชีวิตริมน้ำ และงานหัตถกรรมพื้นบ้านของคนในพื้นที่ และถ้าไม่รีบอยากจะอยู่ยาวเพื่อล่องเรือดูหิ่งห้อยซิกเนเจอร์ของตลาดน้ำแห่งนี้ก็ดีนะ แถมจะต่ออีกสักคืนสองคืน ก็มีโฮมสเตย์บรรยากาศดี ตื่นเช้ามาตักบาตรทางน้ำในยามเช้าก็ยังได้

เส้นทางที่ 3 ชลบุรี ระยอง จันทบุรี เที่ยวทะเล ชมโครงการหลวง

youtube

ทะเลภาคตะวันออกก็สวยไม่แพ้ทะเลภาคใต้ ที่สำคัญคือไปง่าย เดินทางไปไม่ไกลก็ได้เจอทะเลแล้ว แถมทริปนี้ยังเต็มไปด้วยทะเลและสัตว์แสนรู้ ขอเริ่มต้นทริปด้วยการไหว้พระทำบุญที่วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ชมพระแกะสลักบนหน้าผาเขาชีจรรย์ ไม่ไกลกันยังมีสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง ที่มีทั้งนก กวาง รวมไปถึงหมี น่ารักๆ ให้ดู ถ้าใครติดใจก็ขอเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์หมีน้อยเหล่านี้ได้ หรือถ้าคู่ไหนอยากจะแอดแวดเจอร์ก็มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเส้นทางเดินสบายอย่างป่าสิริเจริญวรรษ สวนป่าในพระราชดำริ  เดินกันเพลินๆ พอเรียกเลือดฝาดให้แก้มแดงปลั่งแบบไม่พึ่งเมคอัพ

โครงการหลวง

ออกจากชลบุรีก็ใช้เส้นทางเขาชีจรรย์เนี่ยละคะ สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นไม้จนมาโผล่ที่จังหวัดระยองเราจะไปยังปากน้ำประแสเดินทอดน่องชิวๆ บนสะพานไม้ที่ทุ่งโปร่งทองเพื่อไปชมภาพความสวยงามขอต้นโปร่งเขียวขจีสุดสายตา จากนั้นจะไปไปยังศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลบ้านเกาะ ไปดูเต่าเล็ก เต่าน้อย สนุกสนาน

โครงการหลวง

และจังหวัดสุดท้ายของทริปนี้จะพาข้ามไปถึงจังหวัดจันทบุรี ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่นี่นอกจากความสมบูรณ์ของธรรมชาติริมชายฝั่งทะเล กิจกรรมพายเรือคายัคแล้วก็ยังมีสะพานเดินศึกษาธรรมชาติที่บางช่วงสวยและโรแมนติคขนาดที่ว่ามีคนมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันเลยทีเดียว และต้องไม่ลืมไปแลนด์มาร์คสำคัญ สถานที่ห้ามพลาด โบสถ์วัดแม่พระปฏิสนธินิรมล จันทบุรี โบสถ์คริตส์เก่าแก่อายุกว่า 270 ปี และยังได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์คริต์ที่สวยที่สุดในประเทศงานนี้ถูกใจเหล่านักถ่ายภาพแน่นอน  

ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่โครงการหลวงทางภาคใต้กันบ้าง รับรองว่าเที่ยวสนุก วิวชวนไม่แพ้ภาคอื่นๆ เลย

ขอบคุณภาพจาก Manager Online, chilpainai , thailovetrip, tourismthailand, reviewburi, การท่องเที่ยว จังหวัดนครนายก

30 ช่อดอกไม้เจ้าสาว กับสีสุดฮิตไม่ว่าจะเป็นงานแต่งสไตล์ไหนก็คุมโทน

4 ธีมสี ช่อดอกไม้เจ้าสาว ที่หวานหนักมากกก

ในวันแต่งงานสิ่งสำคัญที่จะต้องอยู่คู่กับเจ้าสาวนอกจากเจ้าบ่าวแล้วก็คือ ช่อดอกไม้เจ้าสาว ที่เจ้าสาวจะต้องถือไว้เนี่ยละค่ะ แล้วเจ้าสาวรู้หรือไม่ว่า ดอกไม้ในแต่ละสีที่เจ้าสาวถือนั้น มันมีความหมายว่ายังไง เรามาไขข้อสงสัยกันเถอะ

สีขาว เป็นสีแห่งความรักที่ใสสะอาด บริสุทธิ์น่าทนุถนอมโดยไม่คิดเลยว่าความรักที่มอบให้ไปนั้น จะได้ความรักตอบกลับมาหรือเปล่า

สีฟ้า เชื่อว่าเป็นสีแห่งความอดทน แข็งแกร่ง ดอกไม้ที่ทำให้ชีวิตคู่สวยงามเหมือนความฝัน และจะทำให้ความรักมั่นคงตลอดกาล

สีม่วง บางคนคงคิดว่ามันเป็นสีที่สื่อถึงความเศร้า นั่นก็เป็นอีกความหมายหนึ่ง แต่ถ้ามองในแง่ของความสุข ดอกไม้สีม่วงยังสื่อให้เห็นถึงความสำเร็จในชีวิตคู่และการงานได้อีกด้วย

สีชมพู เป็นความโรแมนติกที่แสดงถึงความรักที่หวานซึ้งที่ผู้ให้มีต่อผู้รับ

และไม่ว่าจะเลือกดอกไม้สีอะไรความหมายของแต่และสีก็ไม่สำคัญเท่าการแสดงความจริงใจที่จะมอบให้

อ่านเพิ่มเติม ช่อดอกไม้เจ้าสาวแบบฉบับเจ้าหญิงที่แท้จริง เป็นอย่างไรมาดูกัน

ขอบคุณภาพ Pinterest

9 เทรนด์ ชุดเจ้าบ่าว 2018 ดูดีทุกสไตล์น่าใส่ตามทุกแบบ

เพราะเจ้าบ่าวเป็นพระเอกของงาน ชุดเจ้าบ่าว ก็ต้องดูดีให้สมกับฐานะคนเด่นของงานด้วย

ไม่ใช่แค่เจ้าสาวหรอกนะที่อยากดูดีในวันแต่งงาน แต่พระเอกของงานอย่างเจ้าบ่าวก็อยากที่จะดูหล่อเท่ในวันนั้นด้วย ซึ่งในขณะที่สายตาของแขกทุกคู่ภายในงานล้วนจับจ้องไปที่เจ้าสาวนั้น เจ้าบ่าวของเราก็อยากที่จะโดดเด่นและเรียกสายตาแขกให้มองบ้างเช่นกัน เพราะฉะนั้นสไตล์อันที่มีเอกลักษณ์จึงจำเป็นสำหรับว่าที่เจ้าบ่าว แต่จะเลือกอย่างไรให้ชุดสูทหรือทักซิโดธรรมดานั้นดูโดดเด่น แพรว wedding เลยจะมาอัพเดทเทรนด์ ชุดเจ้าบ่าว ที่ถึงแม้จะเป็นสูทแบบเดิมๆ แต่ก็ทำให้ลุคของว่าที่เจ้าบ่าวดูดีมีสไตล์ขึ้นมาได้เช่นกัน

และจากในครึ่งปีแรกของปี 2018 ที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าว่าที่เจ้าบ่าวต่างก็เริ่มเพิ่มนู่นเติมนี่เพื่อให้ลุคของเขาดูโดดเด่นเคียงข้างว่าที่เจ้าสาวคนสวยของเขา ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มแอคเซสซอรี่อย่าง หมวก, รองเท้าดีไซน์เก๋, สูทสั่งตัดแบบพิเศษ, ลุคคูลๆ อย่างการสวมสูทสีน้ำเงินแบบสปอร์ต แมตช์กับเชิ้ตและกางเกงสีขาว แม้กระทั่งการเลือกสวมเดนิมกับเสื้อยืด และรองเท้าสนีกเกอร์ก็ตาม หรือเจ้าบ่าวบางคนที่ไม่อยากแหกคอกมากก็อาจจะเลือกเซฟลุคอย่าง สูทสไตล์แพตเทิร์น แต่เลือกสีให้ดูแตกต่างจากเดิมก็ได้ เท่านี้ก็ดูดีมีสไตล์แล้ว

และต่อจากนี้คือเทรนด์ชุดเจ้าบ่าวที่จะเป็นแรงบันดาลใจให้กับลุคของคุณในวันงานค่ะ

ชุดเจ้าบ่าวสีขาว

แขกผู้ชายโดยส่วนมากที่มาร่วมงานแต่ง น้อยคนมากที่จะเลือกสวทสูทสีขาวมาร่วมงาน เพราะฉะนั้นคุณว่าที่เจ้าบ่าวจงใช้ข้อดีนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการลองพิจารณาสูทหรือทักซิโดสีขาวสำหรับสวมใส่ในวันสำคัญ รับรองว่าคุณจะโดดเด่นท่ามกลางแขกผู้ชายที่มาร่วมงานแน่นอน

ชุดเจ้าบ่าว

สูทแบบกางเกงขาสั้น

หากธีมงานและสถานที่จัดานแต่งงานของคุณไม่ได้เป็นทางการมากนัก การเลือกสวมสูทแบบกางเกงขาสั้นก็ดูเป็นอะไรที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย แล้วแมตช์กับรองเท้าสีสันสดใสสไตล์แคชชวล เท่านี้ว่าที่เจ้าบ่าวก็ได้ลุคที่แตกต่างและมีสไตล์ในชุดเดียวกันแล้ว

สูทแบบมีลวดลาย

ว่าที่เจ้าบ่าวที่สายแฟชั่นที่รักลุคสไตล์สนุกสนาน ลองนำลวดลายต่างๆ มาแมตช์กับสูทเจ้าบ่าวดูสิคะ ไม่ว่าจะเป็น แอคเซสซอรี่อย่างเนคไท โบไท แม้กระทั่งกับกางเกง เสื้อเชิ้ต หรือสูทด้านในก็ยังได้ แต่หากตั้งมั่นว่าจะแต่งตัวในสไตล์นี้ ว่าที่เจ้าบ่าวก็ต้องมั่นใจหน่อยว่า งานแต่งงานของคุณนั้นเป็นงานแต่งงานสไตล์แคชชวลที่ไม่ได้เน้นความเป็นทางการ หรือมีแขกผู้ใหญ่มากมายนัก และที่สำคัญหากคุณว่าที่เจ้าบ่าวแต่งตัวสนุกสนานด้วยลวดลายต่างๆ แล้วล่ะก็ อย่าลืมกระซิบบอกแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวให้สนุกไปกับลุคของพวกเขาด้วยนะคะ

สูทสีน้ำเงินสุดคลาสสิค

ว่าที่เจ้าบ่าวที่ต้องการลุคแบบเรียบหรู ดูดี แต่ดูมีสไตล์สายแฟชั่นหน่อยๆ เฉดสีน้ำเงินแบบ navy blue นี่แหละตอบโจทย์ที่สูท เพราะใส่ปุ๊ปดูดีปั๊ปแบบไม่ต้องพยายามเสริมนู่นเติมนี่ให้เหนื่อยเลย