ถึงตัวจากไปแต่ใจยังอยู่กับกิมมิกน่ารักเพื่อระลึกถึงคนที่คุณรักในงานแต่งงาน

ไม่ได้อยากดราม่าแต่อย่างใด แต่สำหรับคู่รักคู่ไหนที่บุคคลสำคัญในชีวิตไม่อาจมาร่วมอยู่แสดงความยินดีใน งานแต่งงาน ได้ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ แพรว wedding มีไอเดียดีๆ ที่จะช่วยให้บ่าวสาวได้ใกล้ชิดกับพวกเขาถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ด้วยในงานมาฝาก

1. เติมดอกไม้ที่เขาชื่นชอบหรือมีความหมายต่อเขาเอาไว้ในงานแต่ง โดยอาจจะเลือกนำมาทำเป็นช่อดอกไม้เจ้าสาว หรือจะเป็นดอกไม้ติดหน้าอกหรือบูโทเนียร์สำหรับเจ้าบ่าวก็ได้ เท่านี้ก็เหมือนกับว่าคนที่คุณรักจะได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณในวันสำคัญแล้ว

2. เติมภาพถ่ายหรือสิ่งที่มีความหมายไว้เป็นกิมมิกเล็กๆ เช่น ล็อคเก็ตที่มีภาพถ่ายของเขาหรือภาพคู่ระหว่างคุณกับเขาก็ได้ หรือการเลือกสวมเครื่องประดับที่เขาชื่นชอบหรือเครื่องประดับที่ก่อนหน้านี้เขาเคยมอบไว้ให้คุณ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ช่วยเสริมความอบอุ่นใจให้กับคุณได้เป็นอย่างดี

3. จัดหาที่ดีๆ ให้กับเขาแล้วนำรูปภาพ รูปวาด หรือสิ่งของแทนใจมาไว้บนเก้าอี้ เสมือนว่าเขาได้อยู่เห็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของคุณ

4. ในช่วงพิธีคุณอาจจะกล่าวถึงเขาสักหน่อย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ตรงนั้น และไม่ได้รับรู้ในสิ่งที่คุณพูดก็ตาม แต่นั่นก็เป็นการแสดงออกถึงความรักและความเคารพอย่างหนึ่ง แต่ช็อตนี้อาจจะต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้ากันไว้ให้ดี เพราะอาจมีการซับน้ำตาเกิดขึ้นแน่นอน

5. เลือกเปิดเพลงที่มีความหมายดีๆ อาจจะเป็นเพลงที่คุณกับเขาชอบฟังด้วยกัน หรือเป็นเพลงที่เขาชื่นชอบมากๆ ก็ได้ ก็ถือเป็นความประทับใจไปอีกแบบนะคะ (แต่ระวังจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่น้า)

Read More : 5 ไอเท็มที่บ่าวสาวควรเก็บเป็นที่ระลึกหลังงานแต่งงาน

CR. theweddingplaybook.com, angelalallyphotography.com

ไม่อยากป่วย แต่ช่วยไม่ได้…หากไม่สบายรับวันแต่งงานจะทำอย่างไรกันดี?

ช่วงเตรียมงานแต่งงานเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวยุ่งแสนยุ่ง ทั้งภาระหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ ไหนจะต้องแบ่งเวลาสำหรับจัดเตรียมงานแต่งงานอีก การมีสิ่งที่ต้องทำหลายอย่างในเวลาเดียวกันส่งผลไปถึงร่างกาย เมื่อถูกใช้งานหนักไม่ค่อยมีเวลาพักยิ่งทำให้คุณ ป่วย ได้ง่าย ยิ่งใครที่เครียดกับการเตรียมงานมากๆ ต้องระวังอาการไม่พึงประสงค์จะมาเยือนช่วงใกล้ วันแต่งงาน

ออกอาการ ป่วย ช่วงใกล้ วันแต่งงาน อย่าตระหนก แต่ต้องมีสติ! 

แพรวเวดดิ้งเชื่อว่า คงไม่มีบ่าวสาวคนไหนอยากมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวก่อนวันสำคัญ แต่ว่า… บางคนก็โชคร้าย ร่างกายเริ่มประท้วง ไม่ว่าจะมาจากความเครียด การเตรียมงานแต่ง หรือสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ ถ้าสิ่งเหล่านี้ทำให้คุณเกิดป่วยขึ้นมากระทันหันแถมใกล้วันงานแต่งงานเข้ามาทุกที แพรว wedding ขอแนะนำวิธีแก้ปัญหาทั้งแบบเบสิคๆ และวิธีที่อาจถูกมองข้ามไปกลับมาเรียกสติกันสักหน่อยว่าควรทำอย่างไรบ้าง…มาค่ะ เริ่ม!

ป่วย วันแต่งงาน
Photo by EVG Culture from Pexels

1. พบหมอดูแลผิวได้ก็ต้องพบหมอรักษาโรคทั่วไปได้เช่นกัน

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรรีบไปพบหมอให้ไวกว่าคนอื่นๆ หากเริ่มมีอาการว่าตัวเองรู้สึกไม่ดี อ่อนเพลียหมดแรง เหมือนกำลังจะป่วยหรือเปล่าก็ยังไม่แน่ใจ อย่าปล่อยให้ความลังเลใจของคุณกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาทีหลังเลยค่ะ ถ้ารู้สึกร่างกายมีอะไรผิดปกติไม่ว่าจะเล็กน้อยก็ตามให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเลย หรือหาเวลาไปตรวจเช็กร่างกายในช่วงใกล้วันแต่งงานก็จะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

2. พักผ่อนให้เพียงพอ อยากนอนก็นอนค่ะ อย่าฝืน! 

การโหมงานหนักอาจทำให้คุณได้พักผ่อนน้อยลงไปด้วยและคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอก็จะทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายต่ำ ป่วยได้ง่าย เมื่อคุณเริ่มมีอาการป่วยให้หยุดพักทุกอย่างแล้วหาเวลานอนพักผ่อนให้มาก เพราะการนอนจะช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาเป็นปกติได้เร็วขึ้น ควรใส่ใจทั้งเรื่องการนอนและการรับประทานอาหาร ต้องดูแลตัวเองให้ดีเป็นพิเศษจะได้หายทันก่อนวันงานแต่งงานนะคะ สู้ๆ

ป่วย วันแต่งงาน
Photo by Polina Tankilevitch from Pexels

3. มองโลกในแง่บวก ถึงไม่ใช่ริต้าก็เดินเล่นในทุ่งลาเวนเดอร์ได้

เมื่อพยายามรักษาสุขภาพให้หายกลับมาเป็นปกติแล้ว ทีนี้เราต้องมาดูแลทางด้านความคิดจิตใจบ้างค่ะ อย่าเพิ่งเป็นกังวลกับอาการป่วยมากเกินไป ยิ่งคุณคิดมากก็จะเกิดความเครียด ส่งผลให้นอนไม่หลับ ทีนี้แหละคุณขา อาการได้ทรุดลงแน่ๆ ลองเปลี่ยนมุมมองว่าการป่วยของคุณก็เป็นสิ่งที่ดี คือคุณจะได้มีเวลาพักผ่อนจากการเตรียมงานมาเป็นเวลานาน ทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับว่าที่สามี-ว่าที่ภรรยามากยิ่งขึ้น เหมือนกับได้ลองใจก่อนใช้ชีวิตคู่ว่ายามที่เราต้องการคนดูแลเขาจะสามารถดูแลเราได้อย่างดีหรือไม่ เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสดูสิคะคุณก็จะกลายเป็นคนป่วยที่มีความสุขได้ค่ะ

4. ลองอ้อนๆ คนใกล้ตัวหน่อย

ถ้าคุณรู้สึกไม่ดี อาการป่วยมันเริ่มมาละ ให้บอกคนรอบๆ ข้างไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น คู่แต่งงานของคุณ พ่อ-แม่ พี่-น้อง หรือแม้แต่เพื่อนสนิท เพราะคนพวกนี้จะไม่มีทางทิ้งคุณไปไหน พวกเขาจะเป็นคนช่วยรับหน้าที่ในการจัดเตรียมงานที่เหลือแทนคุณเอง เพียงแค่ขอให้คุณกล้าบอกค่ะว่าคุณรู้สึกไม่ค่อยสบาย ต้องการพักผ่อน อยากให้ช่วยตรงนั้นตรงนี้หน่อย เชื่อเถอะพวกเขาต้องเต็มใจที่จะช่วยเหลือคุณอย่างแน่นอน

ป่วย วันแต่งงาน
Photo by cottonbro from Pexels

5. อย่าลืมที่จะมีแผนสำรอง

ความจริงแล้วแผนสำรองควรมีไว้ตั้งแต่ช่วงเตรียมงานแรกๆ โดยการฝึกตั้งคำถามกับตัวเองไว้ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้เราจะทำอย่างไร ควรทำยังไงต่อไปดี เช่น เรื่องคุณไม่สบายตอนใกล้วันงานแต่งงาน จะให้เลื่อนงานไปเลยเห็นทีจะเป็นเรื่องที่ยากจนเกินไป คุณจะต้องเริ่มวิธีการรักษาตัวเองแบบพื้นฐานตามที่ได้กล่าวมาในข้างต้น แต่ถ้าหากหายไม่ทันวันแต่งงานจริงๆ คุณอาจใช้วิธีการปรับเปลี่ยนเวลากำหนดการของพิธีการต่างๆ ไม่ให้ใช้เวลายืดเยื้อหรือแบ่งเวลาโดยมีช่วงพักผ่อนให้กับเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ป่วยอยู่ให้ไม่เหนื่อยจนเกินไป และรู้ไหมคะ การที่คุณได้เข้ามาอ่านวิธีการที่เรานำเสนอก็ถือป็นการเตรียมแผนสำรองพร้อมรับมือกับปัญหานี้เช่นกันค่ะ

6. คิดอะไรไม่ออกก็ปรึกษาเวดดิ้งแพลนเนอร์เลยจ้า

หากคุณได้จ้างเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่มีประสบกาณ์ คุณไม่ต้องกลัวเลยค่ะหากต้องเจอกับปัญหาไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ด้วยประสบกาณ์การทำงานของเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่มีหน้าที่จัดเตรียมงาน ให้คำปรึกษา และช่วยแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี เพราะหน้าที่ของพวกเขาคือการทำให้งานแต่งงานของคุณทั้งคู่เกิดขึ้นและผ่านไปได้อย่างราบรื่น ถ้าเกิดเหตุการณ์คุณป่วยในวันงานแต่งงานเวดดิ้งแพลนเนอร์บางท่านถึงขั้นออกไปหาเภสัชเพื่อซื้อยามาให้คุณรักษาอาการชั่วคราวก็ยังเคยมีเลยนะจะบอกให้

สำหรับว่าที่บ่าวสาวคนไหนที่เกิดอาการป่วย โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่มีการระบาดของ Covid – 19 ทางที่ดีรีบปรึกษาคุณหมอให้ด่วนที่สุด แล้วเตรียมแผนสำรองไว้แต่เนิ่นๆ เพราะอาจต้องเลื่อนวันสำคัญออกไปก่อน >>> ทำยังไง เมื่อต้องเลื่อนงานแต่งงานกะทันหัน!

Cr : marthastewartweddings.com, brides.com, thaihealth.or.th, lifehacks.io

ภาพจาก : pexels.com

ไอเดีย ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สีดำ สำหรับเจ้าสาวสายแซ่บ ใส่แล้วปังไม่ซ้ำใคร

ไอเดีย ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สีดำ สำหรับเจ้าสาวสายแซ่บ ใส่แล้วปังไม่ซ้ำใคร

สำหรับเจ้าสาวที่ชื่นชอบสีดำมาก แพรว wedding ขอนำ ไอเดีย ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สีดำ สำหรับเจ้าสาวสายแซ่บ ใส่แล้วปังไม่ซ้ำใคร มาแนะนำให้เจ้าสาวลองเลือกใส่กันดูค่ะ เพราะถึงแม้อยากจะใส่ชุดแต่งงานสีดำขนาดไหน แต่น่าจะเป็นไปได้ยากในสังคมไทยจริงไหมคะ

เพราะด้วยความเชื่อของสังคมไทยที่มองว่าสีดำ เป็นสีที่ใช้ในงานอวมงคลหรือสีที่เป็นตัวแทนของความโศกเศร้า ทำให้ยากมากหากเจ้าสาวสมัยใหม่อยากจะนำมาใส่ในงานแต่งของตัวเอง ดีไม่ดีอาจจะทำให้มีปัญหากับทางบ้านไปอีก แต่ถ้าถูกใจดีไซน์แล้วอยากใส่จริงๆ ล่ะก็ เราสามารถพลิกแพลงนำมาใส่ในงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้นะจ๊ะ เพราะไม่มีกฏและเป็นงานที่สนุกได้สุดเหวี่ยง รับรองว่าคุณจะเด่นสุดๆ ในอาฟเตอร์ปาร์ตี้แน่นอนจ่ะ แต่ถ้าจะแซ่บในลุคนี้ก็อย่าลืมทาปากแดงให้ตัดกับสีชุดด้วยนะ จะยิ่งเพิ่มความแซ่บแบบพริกร้อยสวนเข้าไปอีก

1. ชุดเปิดไหล่ กระโปรงซีทรู

ให้ลุคดูเป็นนางพญาสุดๆ ชุดนี้สามารถปักเลื่อมให้ดูมีความระยิบระยับได้เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับตัวชุด แถมเจ้าสาวยังสามารถออกแบบได้ว่าอยากให้กระโปรงยาวคลุมเท้า หรือแค่คลุมเข่า ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าสาวจะแดนซ์ได้ถนัดหรือเคลื่อนไหวได้สะดวกในความยาวระดับไหน และชุดนี้ยังตอบโจทย์เจ้าสาวไซส์อวบอีกด้วยนะจ๊ะ เพราะด้วยดีไซน์ของชุดแบบเปิดไหล่ที่ช่วยพรางต้นแขนสำหรับเจ้าสาวที่ไม่มั่นใจได้เป็นอย่างดี และถ้าไม่อยากโชว์พุงล่ะก็ เพียงแค่บอกช่างให้ดีไซน์เป็นชุดเดรสไปเลยก็ได้จ้า

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้

2. ชุดสายเดี่ยว เว้าเนินอก และเข้ารูป
อันนี้บอกเลยว่าเผ็ชชช พริก 10 สวนไปเลยค่ะ เหมาะกับเจ้าสาวที่หุ่นดีมากๆ เป็นงานโชว์ผิวที่แท้จริงเลยล่ะ แต่ก่อนใส่ปรึกษากับเจ้าบ่าวดีๆ ก่อนนะ ไม่งั้นอาจจะมีคนตาเขียวใส่เราได้นะจ๊ะ ก็แหมภรรยาหุ่นดีขนาดนี้จะไม่ให้หวงได้ไง จริงไหม

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้

3.  ชุดเกาะอกดำ ผ้ากำมะหยี่
ชุดแบบเกาะอกแมตช์กับกระโปรงความยาวแบบที-เลนจ์ทรงบอลกาวน์นิดที่ให้ลุคน้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ที่แท้จริงเลย ใส่แล้วดูแพงสุดๆ มาพร้อมกับโช้กเกอร์ผ้ากำมะหยี่ที่แมตช์กันสุดๆ ดูเป็นเจ้าสาวแฟชั่นนิสต้าที่แท้ทรู แต่ระวังเวลาแดนซ์หน่อยนะจ๊ะ ตรวจสอบชุดดีๆ ก่อน จะได้ไม่มีปัญหาชุดหลุดเวลาเต้น ไม่อย่างนั้นจากลุคปังจะพังไม่รู้ตัวน้า

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้

4. ชุดเปิดไหล่ พร้อมชายผ้าลูกไม้ ใส่คู่กับกางเกงสีดำ
‘หลีกทางหน่อยแม่มาแล้ว’ อาจจะเป็นนิยามสำหรับการเปิดตัวช่วงอาฟเตอร์ของเจ้าสาว เพราะชุดนี้เป็นอีกหนึ่งชุดที่ใส่แล้วดูเท่มากๆ ดูเข้มแข็ง และเฟี๊ยสสุดๆ เหมาะสำหนับเจ้าสาวที่สะโพกใหญ่ที่สามารถใส่ชุดนี้พรางสะโพกได้เป็นอย่างดีเลยนะจ๊ะ แถมยังเป็นสีดำที่ช่วยหลอกจากให้เจ้าสาวดูผอมเพรียวอีกด้วย แล้วอย่าลืมแมตช์กับรองเท้าส้นสูงสีดำด้วยล่ะ การันตีความเริด!!

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สีดำ

5. ชุดปาดไหล่ หรือชุดแบบไหล่เดี่ยว
ชุดนีึ้คล้ายๆ กับชุดเจ้าหญิงเลยล่ะ ด้วยกระโปรงสไตล์ทูทู่ฟูฟ่อง เหมาะกับเจ้าสาวหุ่นสมส่วนไซส์มินิ แถมใส่ชุดนี้ก็สามารถแดนซ์ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย แต่อาจจะไม่ตอบโจทย์สำหรับเจ้าสาวสายอวบเท่าไหร่นะจ๊ะ เพราะใส่แล้วจะดูตันกลายเป็นหลักกิโลเอาได้ง่ายๆ

ชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้

เป็นยังไงบ้างคะกับชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้สีดำที่เรานำมาฝาก บอกเลยว่าแซ่บบลืม เอาเป็นว่าก็ลองดูไว้เป็นไอเดียแล้วกันเนอะ เปลี่ยนจากความคิดที่อยากจะใส่ชุดเจ้าสาวสีดำมาเป็นอาฟเตอร์ปาร์ตี้สีดำก็ไม่แย่นะ จะได้ไม่ต้องเถียงกับคุณพ่อคุณแม่ให้คลางแคลงใจกันไปอีก

หรือจะตามไปดูชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้เผ็ชๆ เพิ่มเติมได้ที่ เปรี้ยวเข็ดฟันกับไอเดียชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้จากคนดังน่าใส่ตาม

ภาพจาก : Pinterest.com

งานแต่งในสวน สุดอบอุ่นของคุณแอ๊ะ & คุณอาร์ต @ 99 Rest Backyard Cafe

ธีม งานแต่งในสวน ถือเป็นอีกหนึ่งเทรนด์งานแต่งงานเด่นที่เจ้าบ่าว-เจ้าสาวยุคนี้เลือก ซึ่งเวดดิ้งแพลนเนอร์จะต้องมีความสามารถในการเนรมิตสวนกลางแจ้งให้สวยงาม ซึ่งยากกว่าการจัดงานในบอลรูมหรือร้านอาหาร ทว่างานแต่งงานของคุณแอ๊ะ-รติกรฬ์ และคุณอาร์ต-ภาคภูมิเป็นบทพิสูจน์อีกหนึ่งความสำเร็จของ As Your Mind Wedding Planner ว่าสามารถครีเอตงานแต่งงานในสวนออกมาได้อย่างหรูหรา น่ารัก และดึงตัวตนของเจ้าบ่าว-เจ้าสาวออกมาได้เป็นอย่างดี

งานแต่งในสวน

 

คุณแอ๊ะและคุณอาร์ตพบกันจากการทำางาน ซึ่งคุณอาร์ตสารภาพกับเราว่าประทับใจคุณแอ๊ะตั้งแต่แรกพบเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ทั้งเก่งและสวย เรื่องราวความรักของทั้งสองเต็มไปด้วยความอบอุ่นหวานชื่น จนคุณแอ๊ะแน่ใจว่าคุณอาร์ตคือผู้ชายที่เธออยากใช้ชีวิตที่เหลือด้วยทั้งคู่จึงตกลงใจที่จะแต่งงานกัน

 

คุณแอ๊ะและคุณอาร์ตเริ่มต้นเตรียมงานประมาณ 1 ปีล่วงหน้า โดยเลือกใช้บริการ As Your Mind Wedding Planner และให้โจทย์กับทางทีมงานว่าต้องการให้เป็นงานแต่งงานในสวนที่น่ารัก อบอุ่น เวดดิ้งแพลนเนอร์จึงเริ่มดีไซน์งานแต่งงานโดยใช้สีพาสเทลเป็นหลักเพื่อให้ผสมกลมกลืนกับบรรยากาศสวนสีเขียวขจี รวมทั้งจัดสรรงานดอกไม้และพร็อปส์ประกอบในงานที่เข้าชุดกันอย่างประณีตส่งให้งานยิ่งดูน่ารักและเปี่ยมด้วยดีเทล

 

นอกจากนั้นยังช่วยจัดการเรื่องการประสานงานกับทีมงานต่างๆ การรันคิว สคริปต์ที่ต้องใช้ภายในงานเพื่ออำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ให้ทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว จนในที่สุดก็ได้ผลลัพธ์เป็นงานแต่งงานในสวนสุดน่ารักที่แขกเหรื่อเห็นต่างชื่นชม และเป็นภาพความประทับใจที่ไม่รู้ลืมของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว

 

The Details : Warm & Cozy

Venue : 99 Rest Backyard Cafe
Wedding Planner : As Your Mind Wedding Planner (www.asyourmind.com)
Wedding Dress & Suit : Smile in Love Wedding Studio (โทร. 06-3224-6647)
Hair & Makeup : คุณแมงปอ (โทร. 08-9122-6853)
Photo : Manualfoto (โทร. 08-9994-8648)

รวม เครื่องดื่มในงานแต่ง เย็นชื่นใจ คลายร้อนรับซัมเมอร์

ดับกระหายคลายร้อนด้วย เครื่องดื่มในงานแต่ง เย็นชื่นใจกันเถอะ

เข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทยแล้ว แพรว wedding ขอรวม เครื่องดื่มในงานแต่ง เย็นชื่นใจ คลายร้อนรับซัมเมอร์ มาแนะนำกับบ่าวสาวที่กำลังจะจัดงานแต่งงานในช่วงนี้กัน ไม่ว่าจะจัดงานเอ้าท์ดอร์หรืออินดอร์ งานเช้าหรืองานเย็น แต่ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนปรอทแตกแบบนี้ ก็ควรหาเครื่องดื่มสมุนไพรไทยเย็นๆ มาเสิร์ฟกันสักหน่อยก็น่าจะดีเนอะ เพราะนอกจากจะสดชื่นแล้ว ยังมีสรรพคุณต่างๆ อีกด้วยน้า

1. น้ำเก๊กฮวย

สรรพคุณอันโดดเด่นของน้ำเก๊กฮวยคือช่วยดับกระหาย คลายร้อน นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงเลือด กำจัดสารพิษในร่างกาย ป้องกันการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และยังช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะอีกด้วยค่ะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

2. น้ำตะไคร้

ตะไคร้เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีสรรพคุณสูงมาก สามารถรับประทานแบบสดก็ดี หรือจะนำมาต้มกับน้ำก็ได้ ตะไคร้ช่วยบรรเทาอาการหวัด ปวดแน่นท้อง ช่วยในการย่อยอาหาร และช่วยในการเจริญอาหารด้วยนะคะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

3. น้ำมะตูม

มะตูมช่วยในเรื่องแก้ร้อนใน กระหายน้ำ เมื่อดื่มแล้วจึงรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และอีกหนึ่งสรรพคุณคือ ช่วยในการหลั่งอินซูลิน ที่มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคเบาหวานอีกด้วยค่ะ ซึ่งมะตูมนั้นถึงแม้จะมีความหวานหน่อยๆ แต่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและผู้ที่เป็นโรคเบาหวานนะจ๊ะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

4. น้ำใบเตย

ใบเตยขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นหอม เมื่อดื่มแล้วจึงสดชื่น รู้สึกสบายขึ้นทันที ซึ่งใบเตยจะช่วยดับพิษร้อนในร่างกายได้เป็นอย่างดี มีสรรพคุณช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือด และช่วยคุมความดันโลหิตอีกด้วยค่ะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

5. น้ำอัญชัน

อัญชันเมื่อทำออกมาแล้วจะมีสีม่วงสวยงาม มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ต่อต้านการเกิดมะเร็ง ลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือด บำรุงสมอง และสามารถนำผสมน้ำผึ้งและมะนาวลงไปได้นะคะ ก็จะช่วยเพิ่มรสชาตที่ดื่มง่ายและอร่อยขึ้นค่ะ

เครื่องดื่มในงานแต่ง

เป็นยังไงกันบ้างค่ะกับ 5 น้ำสมุนไพรที่เรานำมาฝาก ยิ่งถ้าเสิร์ฟพร้อมน้ำแข็งเย็นเจี๊ยบด้วยแล้วล่ะก็ รับรองว่าแขกที่เหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมา จะต้องรู้สึกสดชื่นขึ้นทันตาและพร้อมจะสนุกไปกับช่วงเวลาต่างๆ ในงานแต่งงานของบ่าวสาวได้อย่างแน่นอน แถมงานนี้ไม่ได้แค่ความสดชื่นอย่างเดียวนะคะ เพราะน้ำแต่ละแก้วยังมีสรรพคุณที่ดีงามอีกด้วย

แต่ถ้าเป็นช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้แล้วล่ะก็ อย่าลืมเสิร์ฟ 5 เครื่องดื่มค็อกเทล ยอดนิยมที่ช่วยเพิ่มความปังให้กับงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ ด้วยนะจ๊ะ

ภาพจาก : Pinterest.com , tescolotus.com

พาความรักหนีความร้อนไปฮันนีมูนสุดหนาว 5 ที่ในต่างแดน

ทุกคนรู้สึกเหมือนกันบ้างไหมคะนับวันอากาศยิ่งร๊อนนนร้อน แต่ก็แหงสิเนอะตอนนี้ประเทศไทยเข้าเดือนที่เรียกได้ว่าร้อนที่สุดของปีอย่างเดือนเมษายน สภาพอากาศก็จะไม่มีลมพัด แถมมีแดดแรงแบบแผดเผาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะไปจังหวัดไหนๆ ในประเทศไทยก็ไม่สามารถหาความเย็นได้เลย สำหรับคู่รักที่อยากไป ฮันนีมูน ท่ามกลางบรรยากาศหนาวเย็นสุดโรแมนติกได้กอดกันฟินๆ ก็อย่าเพิ่งผิดหวังกันไปค่ะ ถึงประเทศไทยจะเข้าฤดูร้อนแต่ต่างประเทศในบางประเทศก็ยังมีอากาศเย็นสบายให้คุณได้หนีร้อนไปพึ่งหนาวกัน จะมีประเทศไหนมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ บ้างมาดูกันเลยค่า

ฮันนีมูน

นิวซีแลนด์

ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม แบ่งเป็น 2 เกาะหลัก คือ เกาะทางเหนือและเกาะทางใต้ จึงอยากแนะนำให้คุณชวนคู่รักไปฮันนีมูนแบบโร้ดทริป พวกคุณจะได้เพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์สวยๆ ระหว่างทาง แวะเปิดประสบการณ์ที่หาได้ยากในแต่ละสถานที่ของนิวซีแลนด์ ถ้าคุณอยากท่องเที่ยวในอากาศที่หนาวเย็นควรเลือกทางใต้เป็นหลัก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาป่าไม้ หากโชคดีไปทันก่อนน้ำแข็งยังไม่ละลายคุณจะได้พบกับภูเขาที่ขาวโพลนปกคลุมด้วยหิมะให้ได้สัมผัสไอเย็นกันสุดขั้วหัวใจไปเลย

ฮันนีมูน

ญี่ปุ่น

เดือนเมษายนในประเทศญี่ปุ่นถือเป็นเดือนแห่งดอกซากุระเลยก็ว่าได้นะคะ นักท่องเที่ยวนิยมมาชมดอกซากุระกันในเดือนนี้พร้อมกับสภาพอากาศที่เย็นสบาย ส่วนอุณหภูมิจะอยู่ที่สิบกว่าๆ ถึงยี่สิบต้นๆ เองค่ะ อีกทั้งคนญี่ปุ่นยังมีความเชื่อว่าในฤดูดอกไม้ผลิเป็นฤดูแห่งการเริ่มต้น เหมาะแก่การออกเดินทางและเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ให้กับชีวิต สำหรับสถานที่เยี่ยมชมดอกซากุระมีหลายแห่งในประเทศญี่ปุ่น แต่ที่มีชื่อเสียงคงต้องเป็นสวนผลไม้โทโงขุชังที่มีต้นชิดาเระ ซากุระ พันธุ์ซากุระที่มีลักษณะกิ่งโน้มลงมาและเต็มไปด้วยดอกซากุระสีชมพูบานอยู่เต็มกิ่ง โดยที่นี่มีถึง 1,000 ต้น เยอะที่สุดในย่านนาโงย่าเลยแหละค่ะ

ฮันนีมูน

รัสเซีย

ปลายฤดูหนาวของประเทศรัสเซียจะอยู่ในเดือนเมษายน บางสถานที่ยังมีหิมะให้เห็นอยู่ประปราย ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวเลือกไปยังกรุงมอสโควที่ตั้งของจตุรัสแดง คุณจะได้พบกับสถาปัตยกรรมรัสเซียสีแดงเด่นมาแต่ไกล มีลานกิจกรรมรวมไปถึงสถานที่ใช้เฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษต่างๆ ใกล้กันนั้นยังมีสถาปัตยกรรมมากมายให้คุณทั้งคู่ได้เที่ยวชมอย่าง พระราชวังเครมลิน อนุสรณ์สถานเลนิน วิหารเซนต์บาซิล และอื่นๆ อีกมากมายให้คุณทั้งคู่ได้เที่ยวชมท่ามกลางอากาศหนาวๆ ที่มีฉากหลักเป็นสถาปัตยกรรมที่หาดูได้ยากจนต้องแชะภาพคู่สุดโรแมนติกซะหน่อยแล้ว

ฮันนีมูน

นอร์เวย์

ประเทศที่อยู่ทางตอนเหนือของยุโรป พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาน้ำแข็งปกคลุมไปกว่าครึ่งประเทศ แต่ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่สภาพอากาศบ้านเราจะร้อน แต่ทางด้านประเทศนอร์เวย์น้ำแข็งก็เริ่มละลาย พร้อมแสงแดดอ่อนๆ ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่มีอุณหภูมิส่วนใหญ่เป็นเลขตัวเดียวนะคะ(อบอุ่นของเขาก็ยังหนาวกว่าของเรามากเลยเนอะ) และกิจกรรมที่ต้องทำให้ได้สำหรับการไปนอร์เวย์คืออยากให้ลองเดินทางแบบ Norway in a nutshell หรือรูปแบบการเดินทางที่ผสมผสานระหว่างการท่องเที่ยวโดยรถไฟสายชมวิว ต่อด้วยทริปล่องเรือชมฟยอร์ดหรือไปชมอ่าวที่มีวิวสวยมากกกกให้ก.ไก่ล้านตัวไปเลยจ้า ปิดท้ายด้วยการนั่งรถบัสเที่ยวชมทัศนียภาพอันน่าอัศจรรย์ ฟินเวอร์!!

ฮันนีมูน

แคนาดา

ถึงจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่บางวันสภาพอากาศที่นี่ก็ยังคงมีหิมะตกอยู่บ้างในช่วงต้นฤดู คู่รักคู่ไหนที่ต้องการไปฮันนีมูนเพื่อสัมผัสอากาศหนาวรับรองพวกคุณจะไม่ผิดหวัง แม้ประเทศนี้จะมีอากาศที่อบอุ่นขึ้น แต่เชื่อเถอะว่าอุ่นยังไงก็คงหนาวสำหรับพวกเราอยู่ดี โดยการท่องเที่ยวในประเทศแคนาดาเหมาะกับคู่รักนักกิจกรรมและยิ่งชอบการผจญภัยสุดตื่นเต้นด้วยนะ คุณทั้งคู่ต้องสนุกแน่นอนกับกิจกรรมพายเรือล่องแก่งที่แวนคูเวอร์ท้าทายสายน้ำที่แรงเชี่ยว ปะทะกับสายลมที่พัดแรงให้คุณหนาวจับใจ นี่แหละที่เหมาะกับการฮันนีมูนของคู่รักสายลุยที่ไม่ควรพลาดนะคะ

อ่านเสร็จก็อย่าลืมสะกิดคู่รักของคุณจองตั๋วให้เลยน้า
ปล.ให้เขาจ่ายเงินให้ด้วย อิอิ

Read More : รวมพิกัด 24 สถานที่ฮันนีมูนเหนือความคาดหมาย

Cr : pinterest.com

10 ชุดแต่งงานเก๋ๆ ที่ว่าที่เจ้าสาวจะแต่งในปีนี้ไม่ควรพลาด!!

จากที่แพรว wedding ได้เฝ้าเกาะติดแฟชั่นรันเวย์อยู่พักใหญ่ ก็พบว่าเทรนด์ชุดแต่งงานปีนี้นั้นมีความหลากหลายและสวยงามแบบมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงเหมาะมากกับว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหา ชุดแต่งงานเก๋ๆ สักชุดไว้ใส่ในวันแต่งงาน ซึ่งเราได้คัด 10 ลุคชุดแต่งงานที่ใส่แล้วเริด เดินเข้างานแล้วเก๋ มาฝากคุณว่าที่เจ้าสาวทั้งหลาย โดยเฉพาะว่าที่ที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ในปีนี้ไม่ควรพลาดอย่างแรง เพราะใส่ก่อนมีสิทธิ์เก๋ก่อนใครนะจ๊ะ

1. เสื้อคลุมเจ้าสาว

อีกหนึ่งเทรนด์ชุดแต่งงานที่สวยหวานได้แบบไม่ต้องง้อเวลเจ้าสาว คือการเสริมชุดแต่งงานด้วยเสื้อคลุมแบบยาวหรือเสื้อคลุมแบบสั้น ที่ช่วยเพิ่มกิมมิกให้กับชุดแต่งงานแถมยังช่วยให้ลุคเจ้าสาวดูโมเดิร์นขึ้นอีกด้วย และเหมาะมากกับเจ้าสาวที่งบน้อยแต่อยากเปลี่ยนลุคในวันงาน เพราะเพียงแค่สวมหรือถอดเสื้อคลุมออกคุณก็ได้ลุคใหม่ที่เร็วทันใจไม่ต้องวิ่งไปเปลี่ยนชุดให้เสียเวลา

ชุดแต่งงานเก๋ๆ


2. ชุดแต่งงานแบบคล้องคอ

หากเจ้าสาวอยากจะเลือกโชว์ความเด่นบนใบหน้า พร้อมหัวไหล่กลมกลึงสุดเซ็กซี่ การเลือกชุดแต่งงานแบบคล้องคอเป็นอะไรที่เหมาะสุดๆ แถมยังให้ลุคที่ทันสมัยแตกต่างไม่ซ้ำใครและยังเป็นรูปแบบของเนคไลน์ที่เหมาะกับทุกรูปร่างอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถช่วยพรางหน้าอกที่มีขนาดใหญ่ของว่าที่เจ้าสาวที่ไม่อยากโชว์หน้าอกหน้าใจมากเกินไปได้อีกด้วย


3. ชุดแต่งงานสีทอง

เทรนด์การเติมความระยิบระยับใหกับชุดแต่งงานกำลังมา โดยเฉพาะชุดแต่งงานเฉดสีทองอร่าอร่าม ที่เหมาะกับช่วงพิธีฉลองงานแต่งงานในยามค่ำคืนสุดๆ และตอบโจทย์เจ้าสาวที่เบื่อกับรูปแบบชุดแต่งงานสีขาวแบบเดิมๆ อยากจะเพิ่มสีสันให้กับช่วงเวลาสุดพิเศษ แต่เจ้าสาวที่เลือกชุดแต่งงานสีทองอาจจะต้องระวังเรื่องการเติมแอคเซสซอรี่ให้กับลุคสักนิด เพราะด้วยรูปแบบชุดที่เป็นสีทองหรูหราอยู่แล้ว หากเติมนู่นนี่นั่นไปมากมายเดี๋ยวจะกลายเป็นลิเกหลงโรงไม่รู้ตัว ทางที่ดีเลือกแอคเซสซอรี่ชิ้นเล็กๆ และประดับเพียงน้อยชิ้นก็พอนะคะ


4. ชุดแต่งงานประดับโบ

โบ เป็นอีกหนึ่งกิมมิกที่ช่วยเสริมให้ชุดแต่งงานของเจ้าสาวดูคลาสสิคมากขึ้น ซึ่งถ้าหากเจ้าสาวกลัวว่าเติมโบไปแล้วจะดูหวานไป หรือขัดกับบุคลิกของตัวเองไปนิด เราขอแนะนำให้เลือกเป็นโบขนาดใหญ่หรือโอเวอร์ไซส์ขึ้นมาหน่อย เพราะจะช่วยลดความหวานแล้วเพิ่มความเป็นแฟชั่นให้กับลุคของเจ้าสาวได้ ไม่ว่าจะประดับไว้ที่ช่วงไหล่ ที่ด้านหน้า หรือด้านหลัง ก็ล้วนให้ความสวยงามแบบวาไรตี้ให้กับลุคของเจ้าสาวได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ

5. ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์

หากว่าที่เจ้าสาวต้องการลุคที่สง่างามราวกับเจ้าหญิง และดูน่าทึ่งในช่วงเปิดตัว ชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์เป็นอะไรที่คลาสสิคสำหรับความเป็นเจ้าสาวสุดๆ แถมยังเป็นทรงของชุดแต่งงานที่ได้รับความนิยมจากบรรดาเจ้าสาวมาโดยตลอด ซึ่งส่วนมากชุดทรงบอลกาวน์ที่น่าหลงใหลนี้มักจะใช้ผ้าทูลหรือผ้าแจ็คการ์ด แล้วแมตช์ช่วงบนด้วยชุดแบบเกาะอก เท่านี้ก็ได้ลุคหรูดูแพงพร้อมเดินเข้างานสวยๆ ไปเลยจ้า

หวานให้สุดด้วย ทรงผมเจ้าสาวประดับริบบิ้น ที่งานนี้น้ำตาลยังอาย

ทรงผมเจ้าสาวมีให้เลือกมากมายหลายแบบ แต่ถ้าคุณอยากได้ลุคเจ้าสาวแสนหวาน อ่อนโยน และดูเป็นคนใสๆ แพรว wedding ขอแนะนำ ทรงผมเจ้าสาวประดับริบบิ้น โดยเฉพาะสีหวานๆ แนวพาสเทลสักเส้นสองเส้นมาเรียงร้อยให้เข้าไปในเส้นผมก็ดูสวยแปลกตาดีเหมือนกันนะคะ หรืออาจจะจับมาผูกเป็นโบว์เล็ก-ใหญ่ตามความชอบก็ยังได้ แล้วค่อยๆ ติดเข้าไปกับทรงผมแบบนี้ก็เริด ส่วนใครที่อยากให้ดูมีดีเทลเพิ่มขึ้น ก็สามารถหาดอกไม้ดอกเล็กๆ มาแซมให้เข้ากันก็ได้นะจ๊ะ ส่วนสาวๆ คนไหนที่ยังนึกภาพไม่ออกว่าทรงผมจะมีรูปร่างหน้าตาเป็นเช่นไร ก็ตามไปดูไอเดียที่เรานำมาฝากกันเลยจ้า

ทรงผมเจ้าสาวประดับริบบิ้น

ภาพจาก : www.pinterest.com, www.brides.com, celedresses.blogspot.com, www.chicvintagebrides.com, www.dailymakeover.com, www,dhgate.com, www.fanrto.com, www.fashionmio.com, www.gamos.gr, www.greenweddingshoes.com, www.latest-hairstyles.com, www.listal.com, www.longhairstyleshowto.com, m.the-wedding.jp, www.notonthehighstreet.com, www.olgagill.com, www.onewed.com, www.stylesweekly.com, th.aliexpress.com, www.theknot.com, www.weddinghandmade.com, www.weddingomania.com, www.stylemepretty.com

เบื้องหลังแฟชั่นสวยมงลงของแพรว wedding ฉบับเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 61 @ Lancaster Bangkok

เบื้องหลังแฟชั่นสวยมงลงของแพรว wedding ฉบับเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 61 @ Lancaster Bangkok

ด้วยความที่ แพรว wedding ฉบับนี้เราวางธีมให้เป็นฉบับแห่งการแพลนนิ่งทุกสิ่งอย่างเพื่อวันสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต ดังนั้นไอเดียการถ่ายภาพแฟชั่นเซตปกชุดสากลของเราในครั้งนี้จึงต้องพิเศษสมกัน เรียกว่าโปรเจ็กต์นี้มงต้องลงแน่ๆ เพราะการันตีได้จากนางแบบที่สวยระดับโลกอย่าง มารีญา และสถานที่สุดหรูอย่างโรงแรม Lancaster Bangkok

Lancaster Bangkok

แล้วมงก็ลงจริงๆ เมื่อเราได้มีโอกาสร่วมงานกับคุณมารีญา พูลเลิศลาภ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2560 และที่สำคัญเธอคือ สาวงามจากทวีปเอเชียเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถผ่านเข้ารอบ 5 คนสุดท้ายบนเวทีนางงามจักรวาลปีล่าสุด แต่ความปังยังคงไม่จบ เมื่อแฟชั่นเซตปกชุดสากลของเราได้สถานที่ถ่ายทำอย่างแลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ โรงแรมหรูแห่งใหม่ใจกลางกรุง ใหม่แกะกล่องชนิดที่เราต้องร้องว้าวกันไม่จบไม่สิ้นขณะเดินชมสถานที่กันตั้งแต่หน้าโรงแรมจนถึง High Bar ชั้น 12

จากเวลาเป็นเดือนในการเตรียมงาน วันถ่ายทำที่เรารอคอยก็มาถึง เราเริ่มงานกันแต่เช้าที่ห้องประชุมชั้น 2 ของโรงแรม เมื่อทีมงานเริ่มสแตนด์บายตระเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ และหาโลเกชั่นก่อนทำาการบล็อกช็อต การเตรียมงานไหลลื่นเป็นอย่างดีด้วยทีมซัพพอร์ตจากโรงแรมที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เราอย่างเต็มที่

ถึงช่วงเวลาที่เหล่าดีไซเนอร์และบูติกต่าง ๆ ที่เราคุ้นเคยเริ่มทยอยเดินทางมาถึง เสียงพูดคุยกันอย่างออกรสยิ่งบิลด์อัพให้การทำางานนั้นสนุกสนานและเพลิดเพลินขึ้นไปอีก จนถึงเวลาถ่ายทำจริงเมื่อคุณมารีญาปรากฏตัว ช่วงเวลาที่ทำให้พวกเราลืมหายใจกันไปนิดหนึ่ง ความสวยและพลังงานด้านบวกของเธอนั้นทำาให้บรรยากาศสดชื่นขึ้นมาทันตาจริงๆ

บรรยากาศการทำงานในห้องบอลรูมสีหมอกเหลือบเงินนั้นเป็นไปอย่างสนุกสนาน นางแบบของเราโพสท่าลื่นไหล อย่างมืออาชีพให้ทีมช่างภาพกดชัตเตอร์รัวเป็นระวิง จากนั้นเราจึงย้ายโลเกชั่นไปถ่ายกันที่เทอร์เรซชั้น 2 เหนือล็อบบี้ ที่เปิดโล่ง ซึ่งเปิดรับแสงธรรมชาติจากหลังคากระจกทรงสูงที่ทำให้เราได้เก็บภาพสวยๆ จากแสงธรรมชาติในช่วงเวลาบ่ายกัน และปิดท้ายด้วยโพสสุดแกรนด์ที่บันไดหินอ่อนบริเวณโถงล็อบบี้ ที่หากจะบรรยายความสวยงามทั้งหมดด้วยตัวหนังสือนั้นคงจะยากไปสักหน่อย เพราะแค่มองดูไม้สลักลายไทยรูปปลาตะเพียนกว่าสองพันชิ้นกับนางแบบเจ้าเสน่ห์ของเรานี่ก็ทำาเอาเราฟุ้งอยู่หน่อยๆ

พอถึงเวลาฟ้ามืดก็ได้เวลาเลิกกองพอดี การถ่ายปกในวันนี้อาจมีบางช่วงบางตอนที่ต้องวิ่งกันหัวหมุน แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดีจนต้องขอบคุณทุกฝ่ายทั้งทีมของคุณมารีญา นางเอกของเราในวันนี้ ทีมดีไซเนอร์ ผู้เสกชุดแต่งงานสุดสวย และสุดท้ายทีมโรงแรมแลงคาสเตอร์ กรุงเทพฯ ทั้งคุณตั้ง ซีอีโอใจดี คุณอัจและคุณแนน สองสาวสุดสตรองของเราที่ให้ความเอื้อเฟื้อกับการทำงานของเราในครั้งนี้เป็นอย่างมากจนทำให้ทุกอย่างลุล่วงไปได้อย่างดีเยี่ยม

เป็นอีกวันที่เหนื่อยกันมาก แต่เรากลับมีกำลังใจที่ดีในการทำางานอยู่เสมอ ขอบคุณทุกๆ คนที่ติดตาม และให้การสนับสนุน แพรว wedding มาตลอด อยู่ด้วยกันไปนานๆ เลยนะคะ

บรรยากาศของห้องอาหารแบบโปร่งโล่งสบายตา เหมาะกับการพาคนรักมาทานมื้ออาหารแบบชิลๆ

สะดวกสบายด้วยรถรับ-ส่งฟรีของทางโรงแรม บริการทุกระดับประทับใจจริงๆ

Thanks to
Lancaster Bangkok
เว็บไซต์ : www.lancasterbangkok.com
เฟซบุ๊ก : Lancaster Bangkok

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ริมทะเล มาเริงร่าท้าแดดรับซัมเมอร์กันเถอะ

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ริมทะเลมาเริงร่าท้าแดดรับซัมเมอร์กันเถอะ

เข้าสู่ช่วงซัมเมอร์แล้ว แดดก็กำลังระอุขึ้นเรื่อยๆ แต่เป็นช่วงที่ทะเลเมืองไทยกำลังสวยงาม ด้วยแสงแดดที่เจิดจ้า ส่องกระทบน้ำทะเลสีคราม ท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม เป็นช่วงเวลาที่บ่าวสาวเหมาะจะจูงมือกันไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งริมทะเลมากๆ เลยล่ะค่ะ แพรว wedding ขอ รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง ริมทะเลมาแนะนำให้บ่าวสาวได้ลองชมภาพกันนะจ๊ะ เผื่อจะได้วางแผนแล้วไปชิลเซอร์เวย์ดูที่ทางกันไว้ก่อน

1. ชายหาดหัวหิน

เป็นสถานที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนักด้วยระยะทาง 230 กิโลเมตรจากกรุงเทพฯ ซึ่งหาดหัวหินสามารถเดินถ่ายภาพริมหาดได้เลยนะจ๊ะ แต่ก่อนไปก็เช็คสภาพอากาศให้ดีก่อนว่าท้องฟ้าแจ่มใสหรือเปล่า นอกจากนี้ชายหาดหัวหิน ยังมีน้องม้าแคระมาคอยเดินให้นักท่องเที่ยวได้ขี่เดินเล่นรอบชายหาดอีกด้วย ซึ่งบ่าวสาวก็อาจจะใช้ลูกอ้อนขอถ่ายภาพกับเจ้าม้าน้อยกันได้ แถมทริปนี้นอกจากจะได้ไปเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ริมทะเลแล้ว หัวหินก็ยังมีสถานที่อีกมากมายที่รอให้บ่าวสาวไปเช็คอินกันอีกเยอะเลยนะ

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

2. ภูเก็ต

อาจจะดูไกลจากกรุงเทพฯ พอสมควร ซึ่งก่อนจะไปเราขอแนะนำให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวลองวางแผนการเดินทางกันให้ดีๆ นะจ๊ะ หากอยากสบายและประหยัดเวลาการเดินทางด้วยเครื่องบินก็เวิร์กที่สุด โดยอาจจะต้องจองตั๋วกันล่วงหน้าเพื่อให้ได้ราคาโปรโมชั่นที่ไม่แรงมาก ซึ่งรับรองเลยว่าเมื่อไปถึงที่แล้ว บ่าวสาวจะรู้สึกเกินคุ้มแน่นอน เพราะภูเก็ตมีชายหาดที่สวยงามหลายที่ให้ได้เลือกไปถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น หาดป่าตอง หรือหาดกระรน แถมเมื่อถ่ายภาพเสร็จแล้ว บ่าวสาวยังสามารถเข้าไปชิลในตัวเมืองกันได้ต่ออีกด้วย ไม่แน่น่าอาจจะได้ภาพบรรยากาศในเมืองมาเพิ่มในอัลบั้มอีกก็ได้

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

3. เกาะพยาม จังหวัดระนอง

เกาะพยาม ตั้งอยู่ในจังหวัดระนอง ที่มีระยะทางห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 600 กิโลเมตร ซึ่งหากคุณเป็นบ่าวสาวสายชิลก็สามารถขับรถไปเองแบบชิลๆ ได้ แต่ถ้าไม่ถนัดจับพวงมาลัยก็มีรถสาธารณะไว้บริการเยอะแยะเช่นกัน และเมื่อมาถึงจังหวัดระนองแล้ว บ่าวสาวก็สามารถนั่งเรือข้ามเพื่อไปยังเกาะพยายามได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งบอกเลยว่า บนเกาะนั้นสวยจนบ่าวสาวจะต้องหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งแน่นอน เพราะด้วยน้ำทะเลและท้องสีฟ้าคราม ที่มาพร้อมความเป็นส่วนตัวสุดๆ เพราะฉะนั้นสบายใจได้เลยว่า บ่าวสาวจะได้ภาพกว้างๆ แบบไร้แขกไม่ได้รับเชิญแน่นอน

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งรวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

4. เกาะช้าง จังหวัดตราด

เกาะช้างเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอับดับที่ 1 ในทะเลอ่าวไทยที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก สามารถขับรถไปได้แบบไม่เหนื่อยจนเกินไป และเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความงดงามมาก ซึ่งบนเกาะช้างมีหลายชายหาดให้บ่าวสาวได้เลือกถ่ายภาพกัน และยังมีที่พักสวยๆ ไว้พร้อมบริการอีกด้วย เรียกได้ว่าได้ถ่ายภาพสวยๆ แล้วยังได้ไปเที่ยวเพื่อชาร์ตแบตเติมพลัง จะได้พร้อมกลับมาลุยการเตรียมจัดงานแต่งงานกันต่อได้อย่างเต็มที่

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

5. เขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

อยู่ที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากชายหาดหัวหินแค่ 13 กิโลเมตร เหมาะสำหรับคู่บ่าวสาวที่ต้องการหลบหลีกจากผู้คนจำนวนมากบนชายหาดหัวหิน เขาเต่าจึงเป็นอีกตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากจะอยู่ติดทะเลแล้ว ยังมีวัดสวยๆ และวิถีชีวิตชาวประมงริมน้ำให้ได้ไปเดินถ่ายรูปเล่นได้อีกนะจ๊ะ

รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งรวมสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้ง

และที่สำคัญทั้ง 5 สถานที่นี้บ่าวสาวสามารถวอร์คอินเข้าไปถ่ายภาพได้เลย โดยไม่ต้องทำจดหมายขออนุญาตแต่อย่างใด แต่ถึงอย่างนั้นเราก็อยากให้บ่าวสาวช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมกันด้วยนะจ๊ะ เพื่อที่บ่าวสาวคู่อื่นจะได้สามารถเข้าไปถ่ายพรีเวดดิ้งได้ง่ายๆ ไม่ติดปัญหาอะไรนั่นเอง เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมครีมกันแดด แล้วนัดช่างภาพออกไปถ่ายรูปได้เลย

ขอบคุณภาพสวยๆ จาก : facebook – Cityart_Pat

หรือถ้าอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งใต้น้ำ ก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ สวนน้ำและสวนสนุกสุดฟัน ถ่ายพรีเวดดิ้ง ให้ปังในราคาไม่ถึงหมื่น หรือจะไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแนวแอดเวนเจอร์ก็ได้นะคะ เอาใจบ่าวสาวขาลุย รวมสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งแนวแอดเวนเจอร์

พิธีซัดน้ำ สู่พิธีรดน้ำสังข์ อีกหนึ่งประเพณีแต่งงานไทยที่เลือนหายไปกับกาลเวลา

ความเชื่อหนึ่งในการแต่งงานสมัยโบราณคือ บ่าวสาวต้องมีการผ่าน พิธีซัดน้ำ ที่จะทำให้ชีวิตคู่พบความสงบร่มเย็น แต่ในปัจจุบันพิธีนี้ได้หายไปแล้ว ซึ่ง แพรว wedding จะขอนำกลับมาเล่าให้ฟังว่า พิธีซัดน้ำ ที่ว่านี้เขาทำกันยังไงและทำไปเพื่ออะไรกันนะ

พิธีซัดน้ำ คืออะไร

พิธีซัดน้ำ คือพิธีต้นแบบของการรดน้ำสังข์ในปัจจุบันมีเป้าหมายก็เพื่อความเป็นสิริมงคลของครอบครัวใหม่และให้บ่าวสาวครองเรือนคู่กันไปอย่างร่มเย็นเป็นสุขจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร แถมยังเป็นโอกาสอันดีงามให้หนุ่มสาวยุคต้นรัตนโกสินทร์ได้มาสีไหล่กันแบบที่นานๆ ทีจะมีโอกาส ซึ่งในพิธีซัดน้ำนั้นผู้ที่จะทำการซัดน้ำใส่บ่าวสาวคือพระสงฆ์ไม่ใช่ญาติผู้ใหญ่เหมือนในพิธีรดน้ำสังข์นะคะ

ซึ่งพิธีซัดน้ำในอดีตนั้น คนโบราณว่ากันอีกอย่างหนึ่งว่า ทำก็เพื่อให้บ่าวสาวได้ชำระล้างตนเองให้สะอาดก่อนเข้าพิธีแต่งงานในวันรุ่งขึ้น ซึ่งน้ำที่ว่าก็คือน้ำมนต์ที่ช่วยกำจัดสิ่งไม่ดีให้ออกไปจากตัวบ่าวสาว เพราะฉะนั้นการซัดน้ำจึงเป็นแค่การเริ่มต้นการเข้าพิธีแต่งงานของบ่าวสาวเท่านั้น ไม่ใช่ทำขึ้นในวันเดียวกันเหมือนอย่างการรดน้ำสังข์ในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งต่อมาพิธีซัดน้ำได้เปลี่ยนมาเป็นพิธีรดน้ำพระพุทธมนต์แทนเนื่องจากการซัดน้ำนั้นค่อนข้างยุ่งยากและเปรอะเปื้อน ซึ่งในช่วงแรกนั้นเป็นการรดน้ำที่ศีรษะแต่เพียงอย่างเดียว แต่ก็อีกนั่นแหละ พอเจ้าสาวแต่งหน้าแต่งตาจัดเต็มเมื่อเครื่องสำอางโดนน้ำก็ย่อมไหลย้อยเป็นคราบลงมา แถมผมที่อุตสาห์บรรจงจัดแต่งก็พาลจะเสียทรงเอาง่ายๆ จึงได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นการรดน้ำสังข์ที่มือแทน และใช้วิธีนี้มาจนกระทั่งปัจจุบัน

พิธีซัดน้ำ

เริ่มพิธีกันเลย

พิธีซัดน้ำจะจัดในช่วงบ่ายถึงเย็นที่เรือนหอของบ่าวสาว เมื่อเริ่มพิธีในวันสุกดิบก่อนพิธีแต่งงานเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะนั่งคู่กันเว้นระยะห่างเล็กน้อย ด้านข้างของคนทั้งคู่จะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่อาจนั่งห้อมล้อมหรือนั่งเรียงกันด้านข้าง เมื่อนั่งพร้อมแล้วพระสงฆ์จะสวมมงคลที่โยงมาจากอ่างน้ำมนต์ให้แก่บ่าวสาวโดยเริ่มสวดมนต์ทำพิธี และเมื่อถึงบทชยันโตอันเป็นบทสวดมนต์มงคลจึงเริ่มตีฆ้องชัยเป็นสัญญาณ ให้ประธานสงฆ์ทำการซัดน้ำ แต่อย่าคิดว่าซัดน้ำนี้จะเป็นน้ำหยดเล็กๆ เป็นเม็ดฝนหยดน้อยอย่างที่เราคุ้นเคย เพราะพระท่านจะใช้สิ่งที่เรียกว่า “โอ” เครื่องเขินชนิดหนึ่งขนาดพอๆ กับขัน ตักแล้วซัด แล้วสาด ให้เปียกชุ่มกันทั่วหน้าเหมือนเล่นสงกรานต์กลางงานแต่ง

จังหวะนี้ล่ะที่เพื่อนทั้งสองฝ่ายจะเบียดกระแซะจนเจ้าบ่าวเจ้าสาวได้นั่งชิดเบียดกัน ถ้าน้ำมนต์หมดพอดีก็เอาบาตรที่บรรจุน้ำมนต์นั้นครอบศีรษะเจ้าบ่าวเจ้าสาวคนละครั้ง แต่ถ้าไม่หมดก็ให้ญาติผู้ใหญ่เป็นผู้ตักน้ำมนต์ราดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเวียนกันไปจนน้ำมนต์หมดแล้วจึงค่อยใช้บาตรครอบศีรษะ

เมื่อเสร็จพิธีซัดน้ำ บ่าวสาวต่างแยกกันคนละห้องไปผลัดผ้า เปลี่ยนชุด ส่วนผ้าที่เปียกก็จะให้เด็กน้อยแถวนั้นนำไปซัก ไปตากให้เรียบร้อย และมักจะแอบซ่อนเครื่องประดับมีค่าชิ้นเล็กๆ ไว้ในผ้าเปียก เพื่อเป็นรางวัลให้แก่เด็กน้อยที่ซักผ้าให้

ดูเป็นพิธีการที่สนุกสนานใช่ไหมคะ แถมถ้าเอามาใช้ในยุคนี้ก็น่าจะดี เผื่อเพื่อนเจ้าสาวจะฉวยโอกาสนี้สอยเพื่อนเจ้าบ่าวสักคนลงจากคานมาคู่กัน

นอกจากพิธีซัดน้ำแล้ว ประเพณีแต่งงานยังมีอีกหนึ่งพิธีที่น่ารักอย่าง พิธีซ่อนรองเท้าเจ้าบ่าวไว้เรียกค่าไถ่ ที่เป็นอีกหนึ่งกิมมิกสุดน่ารักในพิธีแต่งงานไทยให้บ่าวสาวสมัยใหม่ได้นำไปทำตามอีกด้วยนะคะ

ภาพจากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส

เป็นเพื่อนเจ้าสาว ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายกับสิ่งใดบ้าง มาเช็คกัน

เป็นเพื่อนเจ้าสาว ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายกับสิ่งใดบ้างนะ?

การได้ เป็นเพื่อนเจ้าสาว ถือว่าเป็นการได้รับเกียรติจากเจ้าสาวสุดๆ เลยนะคะ เรียกได้ว่าเป็นแขกระดับวีไอพีเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่ได้รับเกียรตินี้ก็ต้องเตรียมตัวให้ดีกันหน่อย แต่สำหรับสาวๆ ที่กำลังสับสนในการเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าสาวอยู่ว่าต้องเตรียมสิ่งใดบ้าง ควรแบ่งงบค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ เพื่อจะได้เตรียมตัวสวยกันได้ถูก เอาเป็นว่าไม่ต้องกังวลค่ะ มาเช็คกันดีกว่าว่าสาวๆ จะกำจัดและจัดการข้อกังวลต่างๆ นี้ได้ยังไง

1. ชุดเพื่อนเจ้าสาว

ก่อนอื่นคุยกับเจ้าสาวก่อนว่าภายในงานจัดเป็นธีมสีอะไร เพื่อที่สาวๆ จะได้ไม่ดูโดดเด่นเกินไป และเมื่อได้เฉดสีที่เหมาะกับธีมงานแล้ว ต่อมาก็ถึงขั้นตอนการเลือกแบบชุด ซึ่งสาวๆ สามารถเลือกแบบชุดที่แตกต่างกันได้นะคะ หรือจะเลือกให้เหมือนกันไปเลยเพื่อแสดงความเป็นทีมเวิร์กก็ไม่ว่ากัน ซึ่งราคาชุดเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็มีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ขึ้นอยู่กับความสวยงามของแต่ละชุดนั่นเอง ทางที่ดีเราว่าลองรวมกลุ่มแก๊งเพื่อนเจ้าสาวแล้วไปเช่ากันหลายๆ คน อาจจะได้ส่วนลดก็ได้นะคะ

เป็นเพื่อนเจ้าสาวเป็นเพื่อนเจ้าสาว

2. เครื่องประดับ

บางร้านเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาวจะมีเครื่องประดับให้เช่าติดมาด้วย หรือบางร้านอาจแถมมาให้พร้อมชุดไปเลยก้มี ส่วนราคาเช่าเครื่องประดับก็มีราคาไม่หนีจากราคาเช่าชุดสักเท่าไหร่ เพราะมีราคาตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักพันเหมือนกัน แต่ข้อควรระวังในการเลือกเครื่องประดับของเพื่อนเจ้าสาวก็คือ อย่าให้ดูเวอร์วังจนเกินหน้าเกินตาเจ้าสาวจนเกินไปนะจ๊ะ ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวเจ้าสาวงอนไม่คุยด้วย เราไม่รู้ด้วยน้า

เป็นเพื่อนเจ้าสาว เป็นเพื่อนเจ้าสาว

3. แต่งหน้า ทำผม

เพื่อนเจ้าสาวควรแต่งหน้าทำผมให้คล้ายๆ กันจะได้ไม่ต้องมีใครเด่นแย่งซีนเจ้าสาวนั่นเอง ส่วนเทคนิคการจองช่างแต่ง ทำผม เราแนะนำให้จองช่างเพื่อมาทำสวยให้กับสาวๆ 1 คนขึ้นไปก็จะถูกกว่าจองช่างเพื่อมาแต่งเราแค่คนเดียวนะจ๊ะ หรือถ้ามีใครในกลุ่มมีสกิลด้านนี้ก็จัดการได้เลย จะได้ประหยัดงบส่วนนี้แล้วนำไปโถมกับเรื่องอื่นแทน แต่อาจจะต้องเผื่อเวลากันด้วยน้า เพราะอาจจะแต่งได้ช้ากว่าช่างมืออาชีพ

เป็นเพื่อนเจ้าสาว เป็นเพื่อนเจ้าสาว

4. รองเท้า

ลองคุยกันในกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวว่าจะใส่รองเท้าสีอะไรกัน เพื่อจะได้มีความคล้ายคลึงกันเป็นกลุ่ม และที่สำคัญเลือกให้เข้ากับสีชุดกันด้วยนะจ๊ะ ซึ่งในบางร้านเช่าชุดจะมีบริการเช่ารองเท้าให้ด้วยเหมือนกัน ก็อาจจะง่ายหน่อยที่ไม่ต้องไปตามหารองเท้าที่อื่นให้เสียเวลา เพราะฉะนั้นก็ลองเลือกดูว่าสะดวกแบบไหน และอย่าเลือกรองเท้าให้สูงมากเกินไป เพราะในวันงานเพื่อนเจ้าสาวอย่างเราอาจจะเดินๆๆ เพื่อช่วยเจ้าสาวจัดการในเรื่องต่างๆ จะได้เดินได้สะดวกคอยช่วยเหลือซัพพอร์ทเจ้าสาวได้อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ

เป็นเพื่อนเจ้าสาว

เป็นเพื่อนเจ้าสาว

5. ช่อดอกไม้

ช่อดอกไม้ที่ใช้ถือในงานสำหรับเพื่อนเจ้าสาว ส่วนมากจะเห็นบ่อยในงานแต่งศาสนาคริสต์ ซึ่งส่วนมากค่าใช้จ่ายในส่วนของช่อดอกไม้สำหรับเพื่อนเจ้าสาวนั้น ทางฝ่ายเจ้าสาวจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนนี้ให้กับเพื่อนๆ เองค่ะ

เป็นเพื่อนเจ้าสาว เป็นเพื่อนเจ้าสาว

และทั้งหมดนี้นี่คือค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เพื่อนเจ้าสาวควรเตรียมตัวและเตรียมเงินเอาไว้ล่วงหน้าก่อนนะจ๊ะ แต่ถ้าใครอยากจะลองทำผมเพื่อนเจ้าสาวเอง ก็สามารถทำได้  ทรงผมเพื่อนเจ้าสาว แบบทำเองได้ไม่ง้อช่าง แต่สวยปังเหมือนเดินออกจากซาลอน! ตามนี้เลยจ้า หรือถ้ายังไม่รู้ต้องช่วยเหลือเจ้าสาวยังไงบ้าง ก็ลองอ่าน คู่มือสำหรับ เพื่อนเจ้าสาว มือใหม่มีหน้าที่อะไรในงานแต่งงาน ดูนะจ๊ะ

ภาพจาก : Pinterest.com

เกาะติดเทรนด์ ช่อดอกไม้เจ้าสาวเตรียมรับซัมเมอร์ 2018

ซัมเมอร์นี้คุณพร้อมรับ ช่อดอกไม้เจ้าสาว แล้วหรือยัง?

สำหรับช่อดอกไม้ถือเป็นสัญลักษณ์แทนตัวเจ้าสาวเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะในงานแต่งงานแบบสากลคุณจะเห็นช่อดอกไม้อยู่ในมือของเจ้าสาวที่ช่วยเสริมราศีให้เจ้าสาวสวยเด่นมาแต่ไกล และตอนนี้ก็ยิ่งเข้าช่วงฤดูร้อนแล้วด้วย ช่อดอกไม้เจ้าสาว ก็ไม่ควรธรรมดาจริงไหมคะ? ต้องมีการครีเอทให้ออกมาดูเก๋ไก๋ มีลูกเล่นต้อนรับฤดูแห่งความสนุกกันซะหน่อยแล้ว

เอาล่ะค่ะ แพรว wedding ก็ขออาสาอีกเช่นเคยจะช่วยคุณสรรหาแบบช่อดอกไม้สุดแปลกที่เข้ากับฤดูร้อนนี้ให้คุณกลายเป็นเจ้าสาวนำเทรนด์ได้ในพริบตา โดยช่อดอกไม้เจ้าสาว 6 แบบที่เรากำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ คุณทั้งสามารถจัดหาทำได้ด้วยตนเองหรือสั่งทางร้านทำเป็นพิเศษ เพียงแค่นำแบบไปให้ที่ร้านดอกไม้ดูก็ได้แล้วค่ะ อ่ะ ว่าแล้วจะช้าอยู่ไยตามมาดูกันดีกว่าว่าจะมีแบบไหนสวยถูกใจคุณเจ้าสาวกันบ้าง ตามมาเลยๆ

กระบองเพชร VS ดอกกุหลาบ

เลือกต้นกระบองเพชรที่มีสีเขียวเข้ม ต้นเล็กๆ เอาพันธุ์ที่ไร้หนามด้วยก็จะดีมากนะคะจะได้ไม่เป็นอันตรายตอนถือและตอนโยน แล้วนำมาจัดเป็นช่อแล้วแซมด้วยดอกกุหลาบสีอ่อน เช่น สีโอลด์โรสอ่อนๆ สีเหลืองอ่อน สีขาว และใช้ผ้าหรือกระดาษสีเดียวกับดอกกุหลาบห่อช่อดอกไม้เพื่อให้กระบองเพชรดูโดดเด่นขึ้นมา ส่วนใครคิดว่ายังดูเรียบไปก็อาจจะหาดอกไม้ที่มีขนาดเล็กสีเข้มเข้ามาช่วยแซมอีกนิดหน่อย นอกจากนี้การใช้กระบอกเพชรยังสื่อความหมายถึงความรักที่มั่นคงแข็งแรงเหมือนต้นกระบองเพชรที่สามารถอยู่ได้ถึงแม้จะขาดน้ำยังไงล่ะคะ

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

Succulents

เมื่อมีกระบองเพชรแล้วก็ต้องมีต้นซัคคิวเล้นท์หรือต้นไม้ชนิดอวบน้ำ ที่มีลักษณะคล้ายกับต้นแคคตัส ผิวใบมันเคลือบด้วยแว๊กซ์ บางชนิดจะปกคลุมด้วยหนามแหลมหรือขน จุดเด่นของเจ้าต้นนี้คือมีรูปร่างเป็นดอกไม้ และมีหลายสายพันธุ์ที่มีสีแตกต่างกัน ไม่ได้มีเพียงสีเขียวเท่านั้นนะคะ จึงสามารถนำมาใช้จัดแทนดอกไม้ก็จะเก๋ไปอีกแบบเลยแหละ

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ทานตะวัน

ดอกไม้สีเหลืองเปรียบเหมือนดวงอาทิตย์อันสดใส เหมาะกับบรรยากาศของฤดูร้อนที่มีแสงแดดเจิดจ้า หากคุณเจ้าสาวถือช่อดอกทานตะวันในงานแต่งงานคุณต้องดูสว่างเฉิดฉายสุดๆ แน่นอน ช่อดอกทานตะวันสำหรับเจ้าสาวนิยมนำมาจัดคู่กับดอกไม้ที่มีสีขาวให้ดูทันสมัยมากกว่าการใช้ดอกทานตะวันล้วนๆ แต่ถ้าใครอยากได้ดอกทานตะวันเพียงอย่างเดียวก็สามารถทำให้ดูมีรสนิยมได้นะคะ คือเน้นความเรียบเก๋โดยการใช้ดอกทานตะวัน 6-8 ดอก ตัดมาให้ก้านยังคงมีขนาดยาวแค่นี้ก็จะมินิมอลแบบทันสมัยได้เลยค่า

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

เลมอนหรือสีเหลืองมะนาว

ช่อดอกไม้ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ดอกไม้เท่านั้น เพราะเดี๋ยวนี้ก็มีการนำผักผลไม้มาครีเอทใช้แทนดอกไม้กันแล้วนะคะ แต่ผักหรือผลไม้ที่เข้ากับซัมเมอร์นั้นคงต้องเป็นสีเหลืองของเลมอนที่ให้ความสดชื่น เช่น การนำเลมอนมาแจมในช่อดอกไม้แล้วใช้การจับคู่สีกับดอกไม้ให้มีสีที่แตกต่างกัน แต่เจ้าสาวคนไหนที่ใช้ผลเลมอนของจริงก็ควรมีช่อดอกไม้สำรองไว้สำหรับโยนให้สาวๆ ในงานด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นช่อเลมอนของคุณอาจทำให้สาวๆ ได้รับบาดเจ็บก็เป็นได้ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ผลเลมอนเสมอไปนะคะ เพราะเจ้าสาวสามารถเลือกดอกไม้ที่มีสีเหลืองแบบเลมอนและใช้ใบไม้ดอกไม้ที่มีสีเขียวเข้ามาตัดก็ทำให้เข้ากับช่วงเวลาของซัมเมอร์แล้วค่ะ

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

เปลือกหอย

นี่ก็เป็นอีกช่อที่เจ้าสาวควรเตรียมช่อดอกไม้สำรองไว้ด้วยนะคะ เพราะอาจทำให้เกิดเหตุการณ์แบบช่อเลมอนได้ สำหรับการใช้เปลือกหอยมาทำเป็นช่อดอกไม้จะเหมาะกับงานแต่งงานริมทะเลที่จะเข้ากับธีมบรรยากาศของสถานที่ บางคนอาจนึกไม่ออกว่าแล้วจะออกมาเป็นยังไง ซึ่งต้องบอกตามตรงว่ามันจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าดอกไม้ แต่ก็สามารถนำเปลือกหอยหลากหลายชนิดมาตกแต่งรวมกับไข่มุก ลูกปัด ดอกไม้ ผ้า ก็ทำให้ดูแฟนตาซีสวยงามไม้แพ้ช่อดอกไม้ธรรมดาเลยค่ะ

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ดอกไม้โทนสีแซ่บ

เลือกใช้ดอกไม้ที่มีสีสันสดใสเข้ากับฤดูร้อนโดยเฉพาะสีส้ม สีแดง สีเหลือง โทนสีร้อนจะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะให้ความรู้สึกเข้ากับบรรยากาศแล้วยังสามารถหาได้ง่าย จัดตกแต่งก็ยังง่ายอีกด้วย ซึ่งสามารถเลือกจัดได้ทั้งแบบการคุมโทน คือ ไล่ระดับสีของดอกไม้แต่ต้องเป็นสีเดียวกัน หรือหากคุณเลือกไม่ถูก ดอกไม้สีสดสีนั้นก็ดีสีนี้ก็แซ่บเบอร์แรง จะนำมาจัดรวมกันก็ยังได้นะคะลองดูค่ะ

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ช่อดอกไม้เจ้าสาว

ส่วนเจ้าสาวคนไหนที่หลงรักงาน DIY ก็สามารถทำช่อดอกไม้ขึ้นมาเองได้ง่ายๆ แถมไม่เหมือนใครด้วยน้า ลองทำตามนี้เลย ช่อดอกไม้ DIY สุดเก๋สำหรับวาเลนไทน์ที่มีช่อเดียวในโลก

ภาพจาก : pinterest.com

 

 

 

5 พฤติกรรมสุดยี้ของแขก ที่บ่าวสาวต้องเมินหน้าหนี!

งานแต่งงาน นั้นถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งในชีวิตบ่าวสาวที่ทุกคนปรารถนาจะให้กลายเป็นวันแห่งความทรงจำดี ๆ ตลอดไป ดังนั้นหากเราได้รับเกียรติให้เป็นแขกไปงานแต่งงาน ก็ควรที่จะต้องเตรียมตัวให้ดีก่อนซึ่งถือว่าเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ดีที่ควรทำ และระวังสิ่งที่ไม่ควรทำเพื่อเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ดี ว่าแต่พฤติกรรมแบบไหนที่ทำแล้วชวนยี้กันบ้างนั้นล่ะก็ ไปดูกันเลยค่ะ

 

การแต่งกายเหมือนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าสาว

การแต่งกาย ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดและเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ดี เพราะเป็นสิ่งที่บ่งบอกตัวตนของคนผู้นั้นได้เป็นอย่างดี การแต่งกายเมื่อไปงานแต่งงานจะต้องสุภาพเรียบร้อย และควรดูข้อมูลให้ดีว่าเจ้าภาพจัดงานสถานที่ใด โทนหรือธีมของงานเป็นอย่างไร บางครั้งจะมีการระบุไว้ในการ์ดแต่งงานและควรหลีกเลี่ยงการสวมใส่ชุดขาวและชุดสีเดียวกับเพื่อนเจ้าสาวเมื่อไปงานแต่งงาน เนื่องจากคนที่สวยที่สุดในงานแต่งงานคือเจ้าสาว เพราะฉะนั้นแขกที่ไปงานงานแต่งงานห้ามแย่งซีนเจ้าสาว พวกชุดขาว ครีม ออฟไวท์ แชมเปญเหล่านี้ห้ามเลือกมาใส่เด็ดขาดยกเว้นจะเป็นแบบเรียบปลอดภัยจริงๆ  รวมทั้งชุดที่มีสีเดียวกับชุดเพื่อนเจ้าสาวก็ไม่ควรค่ะ

ไม่สนใจพิธีบนเวที

เมื่อคุณถูกเชิญไปงานแต่งงาน เข้าใจว่าในงานแต่งงานคุณอาจจะได้พบเจอเพื่อนพ้อง ญาติพี่น้อง รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่มหาวิทยาลัย ที่ไม่ได้พบปะกันมานานแสนนาน ก็อาจจะมีเรื่องต้องคุยกันเยอะ แต่หากพิธีการบนเวทีเริ่มขึ้น ก็ควรจะหยุดสนทนาและหันไปสนใจกับพิธีกรบนเวทีแทน เพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าบ่าวเจ้าสาว ซึ่งเป็นมารยาทในงานแต่งงานที่ควรทำ

เตรียมตัวไปกิน-ดื่มอย่างเดียว

งานพิธีการยังไม่ทันเริ่มก็จัดหนักดื่มอย่างเดียว ไม่สนใจใคร หรือถามหาแต่เรื่องอาหาร นั้นถือว่าเป็นมารยาทยอดแย่ในงานแต่งงานเลยจริงๆ บอกเลยว่าเสียมารยาทมากที่จะล้างท้องเพื่อเตรียมไปจัดหนักหรือเมาปลิ้นในงานแต่งงาน ซึ่งการรับประทานอาหาร บางงานอาจจะจัดรับประทานอาหารแบบโต๊ะจีน ก็ไม่ควรรับประทานแบบมูมมาม ควรเว้นช่วงของการกินบ้าง และพูดคุยกับเพื่อนร่วมโต๊ะบ้าง ให้ความสำคัญกับพิธีและคู่บ่าวสาวให้มาก และที่สำคัญคือห้ามเมาค่ะ ดื่มสวยๆ จิบหน่อยๆ ก็พอ แล้วถ้าอยากจะจัดหนักในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ก็ว่าไป

 

พาคนอื่นไปงานแต่งงานด้วย

มักเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวอยู่ไม่น้อยเมื่อจัดงานแต่งงาน ก็คือเรื่องของจำนวนแขกที่มาร่วมงาน หากเราถูกเชิญไปงานแต่งงาน แล้วในการ์ดเชิญไม่ได้เขียนว่าพาเพื่อนไปได้ก็อย่าพาคนอื่นไปเลยนะคะ เพราะบางทีเขาเตรียมโต๊ะเตรียมอาหารมาพอดีตามจำนวนแขกแล้ว ก็เข้าใจหรอกนะว่าไปคนเดียวแล้วเหงาต้องมีเพื่อนไปด้วย และหากคุณต้องพ่วงลูกหลานไปงานแต่งงานด้วยจริงๆ ก็ควรที่จะดูแลเด็กๆ ที่มาร่วมงาน เพราะบางทีเด็กๆ อาจไปเล่นซนตามประสา ผู้ปกครองที่พาไปก็ควรดูแลเด็กๆ ให้อยู่ในความเรียบร้อย

ขนของชำร่วยกลับบ้าน

งานแต่งงานบางงานก็มีแจกของชำร่วยเป็นของใช้ ของกิน หรือเป็นของชำร่วยที่มีหลากหลายสี หลากหลายกลิ่น บางคนก็อยากได้ของชำร่วยหลายอัน ซึ่งเรื่องแบบนี้เอาจริงๆ แล้วไม่ควรทำเลยค่ะ แต่หากอยากจะได้จริงๆ คุณอาจจะต้องรอให้แขกคนอื่นๆ ทยอยกลับให้หมดก่อน แล้วค่อยเดินไปขอจากเจ้าภาพ เพราะบางงานก็ไม่ได้เตรียมมาเยอะขนาดที่จะแจกได้คนละหลายๆ ชิ้น

 

cr : mywedstyle.com, gavincato.com.au

รวมสีลิปสติกสุดแซ่บจาก 5 แบรนด์ดัง เพิ่มความเผ็ดให้เจ้าสาวในวันวิวาห์

รวมสีลิปสติกสุดแซ่บ จาก 5 แบรนด์ดัง เพิ่มความเผ็ดให้เจ้าสาวในวันวิวาห์

มาดูกันดีกว่าว่าเราได้ รวมสีลิปสติกสุดแซ่บ สีอะไรไว้บ้าง ที่เหมาะกับเจ้าสาวที่เบื่อลิปสติกสีนู้ด หรือโทนอ่อนๆ แต่อยากลองสีเด็ดๆ เพื่อเพิ่มความปังให้กับเรียวปาก แพรว wedding เลยขอนำเฉดสีลิปสุดแซ่บจาก 5 แบรนด์ดังมาแนะนำให้เจ้าสาวได้ลองเลือกกันดูค่ะ

 

  1. NARS – Audacious สี Rita

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ฮิตครองใจสาวๆ ไม่ว่าจะบลัชออน ลิปสติก หรือรองพื้น โดยลิปสติกรุ่น Audacious สี Rita รับรองความแซ่บเลยล่ะค่ะ มีตั้งแต่โทนสีแดงก่ำ ที่ไม่แดงแป๊ดจนเกินไป เนื้อของลิปสติกเป็นกึ่งแมตต์กึ่งครีมมี่ ทำให้ทาง่าย เกลี่ยง่าย บอกเลยว่าติดแน่นนน ที่ถึงแม้เจ้าสาวจะแอบกินขนมในงานแต่ง ลิปสติกก็ติดทนไม่หลุดแน่นอนจ้า

รวมสีลิปสติกสุดแซ่บ

รวมสีลิปสติกสุดแซ่บ

2. Yves saint Laurent rouge pur couture the mats สี 205 prune virgin

สีนี้จะเป็นสีพรุน คือสีแดงเลือดนกแบบเข้มๆ นั่นเอง สีนี้เจ้าสาวทุกคนสามารถทาได้ ไม่ว่าเจ้าสาวจะมีผิวขาวหรือผิวเข้ม ทาสีนี้ยังไงก็รอด ทาแล้วจะให้ลุคดูเผ็ดดุแต่น่าค้นหา ตัวลิปสติกมีเนื้อกำมะหยี ทาแล้วเรียบเนียนไม่หนักริมฝีปากค่ะ

รวมสีลิปสติกสุดแซ่บ

รวมสีลิปสติกสุดแซ่บ

ชุดเด็กถือดอกไม้ มีวิธีเลือกแบบไหนให้ปัง และน่ารักเหมาะสมกับวัย

ชุดเด็กถือดอกไม้ มีวิธีเลือกแบบไหนให้ปัง และน่ารักสมกับวัย

เพราะเด็กถือดอกไม้เป็นอีกหนึ่งความน่ารัก และสดใสภายในงานแต่ง ไม่ว่าพวกเธอจะเดินไปทางไหน ก็จะมีตะกร้าใบเล็กๆ พร้อมนิ้วมือป้อมๆ น่ารักๆ คอยโปรยกลีบดอกไม้ให้เจ้าสาว สร้างความน่ารักและความน่าเอ็นดูให้กับทุกคนภายในงานเป็นอย่างดี ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่าจะเลือก ชุดเด็กถือดอกไม้ แบบไหนให้น่ารักสมวัยดี

1. เลือกสีชุดก่อน

เป็นสิ่งที่ควรเลือกเป็นอย่างแรก จะได้มีสีที่ไม่แปลกไปจากสีในงานนั่นเอง โดยสามารถเลือก ชุดเด็กถือดอกไม้ ตามสีของชุดเจ้าสาวก็ได้ เช่น สีขาวหรือสีงาช้าง หรือไม่ก็เลือกให้เป็นสีเดียวกับชุดเพื่อนเจ้าสาว หรือธีมงานไปเลยค่ะ

ชุดเด็กถือดอกไม้

2. เลือกชุดที่ไม่คับ หรือพอดีตัวจนเกินไป

แน่นอนว่าเด็กๆ วัยกำลังโต จะมีขนาดร่างกายที่เปลี่ยนแปลงได้ไว ดังนั้นไม่ควรเลือกชุดที่พอดีกับตัวมากนัก เพราะกว่าจะถึงวันงานจริง เหล่าเด็กถือดอกไม้ตัวน้อยๆ เหล่านี้ อาจจะเจ้าเนื้อเพิ่มมากขึ้นก็ได้นะคะ

ชุดเด็กถือดอกไม้

3. เลือกความยาวให้เหมาะสมกับวัย

ยิ่งอายุน้อย การระวังตัวหรือดูแลตัวเองก็จะน้อยตามลงไป แต่ถ้าเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อย ก็จะมีความระมัดระวังตัวมากขึ้น เพราะฉะนั้นควรเลือกความยาวของชุดตามช่วงวัยให้เหมาะสม ถ้ายิ่งอายุน้อยแล้วใส่กระโปรงยาวมาก จะทำให้เด็กๆ สะดุดล้มได้ง่ายๆ นะคะ

ชุดเด็กถือดอกไม้

4. เลือกจากเนื้อผ้า

ถึงแม้ผ้าที่ดูไว้จะสวยงาม ราคาแพงขนาดไหน แต่ถ้าใส่แล้วระคายเคืองต่อผิวเด็ก อันนี้ก็ไม่ไหวนะคะ อย่าลืมว่าเด็กๆ ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกผ้าที่มีความเบาสบาย โปร่ง ไม่อับ ไม่คัน ไม่เช่นนั้นเราคงได้เห็นเหล่าเด็กๆ เดินเกาผิวยุบยิบๆ แทนการโปรยดอกไม้ได้

ชุดเด็กถือดอกไม้

5. เลือกจากสภาพอากาศตอนจัดงาน

ข้อนี้สามารถพิจารณาได้ตามความเหมาะสมของสถานที่จัดเลยนะคะ ถ้าจัดในช่วงฤดูร้อน ก็ควรเลือดชุดที่ถ่ายเทอากาศได้ดี หรือถ้าจัดในฤดูหนาวอากาศเย็นๆ ควรเลือกผ้าให้หนาขึ้นมานิดหน่อย เมื่อส่วมใส่แล้วจะได้สบายตัวค่ะ

ชุดเด็กถือดอกไม้

นอกจากเด็กถือดอกไม้แล้ว ก็ยังมีเด็กถือแหวนอีกด้วยนะจ๊ะ ซึ่งเด็กถือแหวนนั้นมีหน้าที่ทำอะไรบ้างมาดูกัน รู้ไว้ซะ เด็กถือแหวนในพิธีแต่งงาน…ไม่ใช่ใครก็เป็นได้

ภาพจาก : Pinterest.com

รวมสูตร ความงามเจ้าสาว จากละคร บุพเพสันนิวาส ที่ว่าที่เจ้าสาวเอามาใช้ได้จริง!

ทำเอาอินกันไปทั้งบ้านทั้งเมือง สำหรับสูตรความงามจากละครดัง บุพเพสันนิวาส จนเราพลาดไม่ได้ต้องรวบรวมเอามาบอกเหล่าว่าที่เจ้าสาวยุคใหม่เผื่อใครจะย้อนยุคทำมาใช้กันบ้าง เราก็ไม่ว่านะ! แถมเรายังบวกสูตรความงามอื่นๆจากรุ่นคุณแม่คุณยายที่ใช้มากี่รุ่นก็ยังเวิร์คอยู่ มาให้อีกด้วย 

ความงามเจ้าสาวอบร่ำเนื้อตัวให้หอมกรุ่นด้วยแป้งร่ำกระแจะจันทร์

แป้งร่ำกระแจะจันทร์ หรือแป้งร่ำดินสอพอง คือ “น้ำหอมสมัยโบราณ” ที่เหล่าหญิงสาวผู้ดีในยุคสมัยก่อนใช้รมความหอมให้เนื้อกายแทนน้ำหอม ทำจากไม้หอมต่างๆ นำมาโขลกหรือบดเข้าด้วยกัน ซึ่งไม้เนื้อหอมและสมุนไพรกลิ่นหอมที่นิยมใช้กัน เช่น กำยาน อบเชย กานพลู เปลือกชะลูด ลูกจันทร์ ไม้จันทน์หอม ไม้กฤษณา นอกจากนี้ยังประกอบด้วยชะมดเช็ด ที่จะต้องทำการฆ่าพิษก่อนด้วยการรองบนใบพลู และผิวมะกรูด ลนไฟ ชะมดเช็ดนี่แลที่เป็นตัวกลางช่วยทำให้กลิ่นเครื่องหอมทั้งหมดผสมผสานกันกลมกลืนเข้าด้วยกัน ส่วนนี้เรียกว่าเครื่องร่ำ 

ภาพจาก kratai2007.wordpress.com

ขั้นตอนต่อมาคือนำดินสอพองที่หยอดตั้งยอดไว้และตากแดดไล่กลิ่นสาบแล้ว มาอบร่ำควันเทียนที่ได้จากเครื่องร่ำนี้วางบนอุปกรณ์พิเศษที่เรียกว่าตะคันและคันทวน (ภาพประกอบด้านล่าง)

ภาพจาก manager online

อบไว้นานถึง 3-5 วัน เพื่อให้ตัวแป้งดินสอพองดูดกลิ่นหอมจากเครื่องร่ำจนหมด ผสมกับใส่ดอกไม้สดเข้าไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมมากขึ้น เวลาจะนำมาใช้ก็คือละลายน้ำและทาตามเนื้อตัวเพื่อความหอมค่ะ

ความงามเจ้าสาว

ขมิ้น ไพล มะขามเปียก ขัดผิวให้นวลผ่องเป็นยองใย

ก่อนยุคที่เราจะมีสครับผิวจากเมืองนอก คุณย่าคุณยายของเราใช้สูตรขัดผิวจากสมุนไพรพื้นบ้าน อย่าง ขมิ้น ไพล และ มะขามเปียกนี่แหละค่ะ ในยุคปัจจุบันนี้เราอาจจะหาซื้อขมิ้น และ ไพล ที่บดเป็นผงได้ยากสักหน่อย แต่ตามร้านขายยาแผนโบราณยังพอมีอยู่นะคะ หากไม่มี ซื้อแบบสดมาใช้เครื่องปั่นอาหารปั่นให้ละเอียดก็ได้ค่ะ (เราแนะนำขมิ้นอ้อยมากกว่าขมิ้นชัน เพราะขมิ้นชันที่มีสีเหลืองเยอะจะทิ้งสีติดผิวไปหลายวัน) วิธีใช้นั้นแสนง่าย ใช้ขัดวนให้ทั่วผิวกายก่อนอาบน้ำ แล้วอาบน้ำชำระล้างให้สะอาด ทาโลชั่นตาม แค่นี้ก็รู้สึกได้เลยว่าผิวของเราเนียนขึ้นแบบสัมผัสได้ชัดเลยค่ะ

ความงามเจ้าสาว

เส้นผม ผิวพรรณ งามพร้อม ด้วยน้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวเป็นน้ำมันพื้นบ้านที่ไทยเราใช้กันมานมนานในสมัยคุณทวด คุณยาย ไม่ว่าจะเป็นการนำมาหมักผมให้เงางามมีน้ำหนัก วิธีการคือก่อนสระผม ใช้น้ำมันมะพร้าวนวดให้ทั่วหนังศรีษะและเส้นผม คลุมผมทิ้งไว้ประมาณ 1 .. แล้วค่อยสระผมตามปกติ และยังสามารถใช้บำรุงผิวพรรณโดยหลังอาบน้ำเช็ดผิวให้แห้ง ใช้น้ำมันมะพร้าวเพียง 1-2 หยด ผสมกับโลชั่นที่ใช้เปนประจำ ทาให้ทั่วผิวกาย ประโยชน์ของน้ำมันมะพร้าวคือเปี่ยมด้วยสารให้ความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ ช่วยให้เส้นผมนุ่มสลวยและผิวพรรณของเรานุ่มเนียนละเอียดค่ะ

ความงามเจ้าสาว
Photo: organicfacts.net

ถุงชาประคบดวงตาให้ดูสดใส

ก่อนจะมาถึงยุคของอายครีม เหล่าคุณยายคุณแม่คงคุ้นเคยกับการใช้ถุงชาที่ผ่านการชงแล้ว มาประคบดวงตาให้ดูสดใสและลดความหมองคล้ำได้ ซึ่งวิธีนี้ได้ผลจริงๆตามหลักวิทยาศาสตร์ เพราะในชามีสารคาเฟอีนที่ช่วยลดขนาดของเส้นเลือดฝอยใต้ผิวรอบดวงตาได้ ดวงตาจึงดูกระจ่างใสขึ้น เราแนะนำให้เอาถุงชาที่ชงแล้วแช่ตู้เย็นให้เย็นเจี๊ยบก่อนนำมาประคบดวงตา จะยิ่งทำให้เรารู้สึกสบ๊ายย สบายค่ะ

ความงามเจ้าสาว
Photo: marthastewart.com

ชะลอริ้วรอย ให้หน้าดูอ่อนเยาว์ด้วยใบบัวบก

ใบบัวบก นอกจากจะคั้นน้ำ ดื่มให้หายช้ำใจได้แล้ว ยังสามารถนำใบมาปั่นให้ละเอียด พอกผิวหน้าไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อช่วยลดริ้วรอยได้ด้วยนะคะ เพราะในใบบัวบกมีสารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวของเราดูเต่งตึงขึ้นได้ แนะนำให้ทำประมาณ 2-3 ครั้งใน  1 สัปดาห์ค่ะ

ความงามเจ้าสาว

เหล่าออเจ้าทั้งหลาย ได้สูตรความงามจากรุ่นคุณย่าคุณยาย ไปแล้ว ก็อย่าลืมทำตามกันด้วยละคะ เหล่าออเจ้าคนไหนอ่านจบแล้วยังไม่หนำใจ เราแนะนำอีกคอนเท้นต์ คือ สูตรมาส์กหน้าจากของกินที่หาได้ง่ายในครัว คลิกอ่านเลยเจ้าค่ะ

credit story: beautyandtips.com

6 ทริคง่ายๆ ช่วยให้ได้ภาพถ่ายโดนใจ ยามไปลั้นลาฮันนีมูนกับคนรัก

ได้ไปเที่ยวทั้งที โดยเฉพาะทริป ฮันนีมูน กับสุดที่รักใครๆ ก็อยากได้รูปถ่ายสวยๆ เก็บไว้ เอ้ย! ไม่สิ ยุคนี้ต้องอัพลงโซเชียลอวดคนอยู่บ้านกันหน่อย อิอิ รูปถ่ายสุดอลังการที่เราเห็นกันตามไอจีของบล็อกเกอร์ต้องบอกเลยว่ากว่าจะได้มาก็ไม่ง่ายเลย ทั้งเทคนิค ฝีมือการถ่ายภาพ และโอกาสที่จะได้ภาพเหล่านั้นมาบางทีถ่ายเป็นร้อยรูปใช้ได้รูปเดียวก็ยังมีนะคะ ดังนั้นนอกจากต้องทำการบ้านเรื่องจัดทริปฮันนีมูนแล้วคู่ใหม่ปลามันอย่างพวกคุณอย่างลืมทำการบ้านเกี่ยวกับการถ่ายภาพสำหรับทริปนี้ด้วยน้า อย่าให้กลับมาแล้วรู้สึกว่าเสียดายเอาทีหลังเลยค่ะ ขอเตือน!

ฮันนีมูน
ภาพจาก IG : ohhcouture

ดูเรฟเฟอร์เรนซ์

อย่างที่บอกเลยค่ะว่านอกจากทำการบ้านเรื่องจัดทริปแล้วให้ทำการบ้านเรื่องรูปถ่ายเตรียมไว้ด้วย หาได้จากเรฟเฟอร์เรนซ์ของบล็อกเกอร์สายท่องเที่ยวตามไอจี อยากได้รูปประมาณไหน แนวไหน ก็ดูสถานที่ที่เขาไปว่ามีที่ไหนจะคล้ายกับของเราบ้าง เซฟเรฟเฟอร์เรนซ์เก็บไว้ดูเป็นตัวอย่างตอนถ่ายรูปแล้วจะก็อปมุมหรือครีเอทออกมาให้เจ๋งยิ่งกว่าก็แล้วแต่สะดวกเลยค่ะ การที่เราใช้วิธีดูเรฟเฟอร์เรนซ์ส่งผลให้เกิดไอเดียในการเลือกชุด เลือกพร๊อพ โพสต์ท่า ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับคู่รักที่มีความขี้อาย โพสต์ท่าไม่เก่ง และช่วยให้คุณไม่เสียเวลาหากเลือกมุมในการถ่ายภาพไว้แล้ว

อุปกรณ์และการแต่งภาพ

ตัวช่วยสำคัญสำหรับคนที่ไม่ได้มีสกิลการถ่ายภาพ อุปกรณ์จะช่วยให้การถ่ายภาพของคุณมีความแม่นยำมากขึ้นหรือเรียกง่ายๆ ก็สะดวกสบายไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรมากมายค่ะ โดยเฉพาะการที่ไปฮันนีมูนสองต่อสองจะถ่ายรูปทีก็คงลำบาก จะรบกวนให้คนอื่นถ่ายให้ก็รู้สึกเขินๆ กลัวไม่ถูกใจด้วย เดี๋ยวนี้จึงมีอุปกรณ์ที่คุณจะสามารถถ่ายภาพเซลฟี่ได้ด้วยตัวเอง หรือไม่จำเป็นต้องเซลฟี่ก็ได้ค่ะ กล้องรุ่นใหม่ๆ จะมีระบบสั่งการให้ถ่ายรูปอัตโนมัติง่ายต่อการใช้งาน หลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้วคุณสามารถนำรูปอัพโหลดลงมือถือแล้วไปแต่งภาพต่อได้ที่แอปพลิเคชั่นแต่งภาพ ซึ่งที่นิยมใช้มากที่สุดก็คงจะเป็น VSCOcam เลยค่ะ

 การเลือกใช้พร็อพ

ถ้าอยากได้รูปสวยๆ ก็ต้องลงทุนกันนิดนึงเนอะ ลงทุนกับการใช้พร็อพเข้ามาช่วยทำให้รูปภาพดูมีอะไรมากกว่าการเป็นรูปที่ดูว่างเปล่าไม่มีจุดนำสายตา โดยวิธีการเลือกใช้พร็อพง่ายๆ คือ เลือกสิ่งของที่เข้ากับบรรยากาศในสถานที่ที่คุณไป เมื่อเลือกได้แล้วว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง จากนั้นเพิ่มความยากขึ้นมาอีกระดับคือการเลือกคู่สีตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายตลอดจนพร็อพที่จะนำมาใช้ เช่น คุณคิดว่าจะถ่ายรูปโชว์หุ่นสุดเซ็กซี่ที่สระว่ายน้ำของโรงแรม ซึ่งสระว่ายน้ำก็จะมีน้ำสีฟ้า ดังนั้นคุณอาจเลือกชุดว่ายน้ำที่มีสีเหลืองให้ดูตัดกับสีของน้ำหรือคุณจะเลือกสีชุดว่ายน้ำพื้นๆ อย่างสีดำแล้วใช้พร็อพเป็นห่วงยางสีเหลืองเข้ามาช่วยแบบนี้ก็จะชิคเลยแหละค่า

ฮันนีมูน
ภาจาก IG : knottfdg

ช่วงเวลานาทีทอง

ช่วงเวลาและโอกาสเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะสำหรับการถ่ายรูป เพราะจะเกี่ยวข้องกับเรื่องของแสงและเงาที่ทำให้ตัวคุณในรูปถ่ายจะรอดไม่รอดก็ขึ้นอยู่กับสองสิ่งนี้ ช่วงเวลาในการถ่ายรูปที่เหมาะสมกับการถ่ายภาพบุคคลจะเป็นในช่วงเช้าเวลาประมาณ 7.00 – 8.00 น. ดูเช้ามากเลยใช่ไหมล่ะคะ แต่คุณก็ต้องยอมทนตื่นพร้อมปลุกคู่ของคุณตื่นขึ้นมาถ่ายรูปกันหน่อย ช่วงเช้าจะได้แสงแดดอ่อนๆ โทนภาพมีสีนวล ทำให้ผิวของคุณในรูปก็จะดูขาวขึ้นแบบไม่ต้องพึ่งแอปเลยแหละ แต่ถ้าขี้เกียจตื่นมาเช้าๆ เพื่อมาแต่งตัวแต่งหน้าถ่ายรูปแค่เนี๊ยะ แนะนำเป็นตอนช่วงเย็นเวลาประมาณ 16.00 -18.00 น. ก็จะได้แสงที่กำลังพอดีสามารถถ่ายได้สวยเช่นกัน ส่วนช่วงเวลาที่ไม่เหมาะกับการถ่ายรูปอย่างยิ่งจะเป็นช่วงเที่ยงค่ะ เพราะแสงจะดูแข็งไม่เป็นธรรมชาติและเงาตกบริเวณใบหน้า ดวงตา รูปที่ได้ก็ไม่น่ารอดนะคะแบบนี้

สื่ออารมณ์ออกมาให้เป็นธรรมชาติ

การสื่ออารมณ์ออกมาให้เป็นธรรมชาติเป็นเรื่องที่ยากสำหรับคนทั่วไป หากไม่ใช่นางแบบ-นายแบบมืออาชีพหรือเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว เวลาถ่ายรูปคู่กับคนรักที่ต้องการโพสต์ท่าสวีทฟินๆ มักเขินอายเป็นธรรมดา จงใช้จิตวิญญาณตอนถ่ายพรีเวดดิ้งเข้ามาช่วยเลยจ้า ช่างภาพบิ้วด์พวกคุณยังไง นำสิ่งเหล่านั้นกลับมาใช้ เพื่อภาพถ่ายสื่ออารมณ์ของคู่รักฮันนีมูนชวนอิจฉา ถึงแม้ตอนไปฮันนีมูนจะไม่มีช่างภาพมืออาชีพไปด้วย คุณสามารถขอความช่วยเหลือจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ หรือใครก็ตามที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นพอดี ให้คุณคิดท่าที่ดูเป็นธรรมชาติไว้ในหัว สำคัญคืออย่าเขินค่ะเสียเวลา จากนั้นเลือกมุม บล็อคมุมไว้แล้วจึงหาเหยื่อที่จะมาช่วยกดชัตเตอร์ให้แค่นี้เอง

จ้างช่างภาพท้องถิ่น

นี่เป็นวิธีลัดของคนกระเป๋าตังค์หนักเลยค่า ในต่างประเทศส่วนใหญ่จะมีช่างภาพท้องถิ่นบริการรับถ่ายรูปให้กับนักท่องเที่ยวแบบส่วนตัว แต่คุณต้องจองไว้ก่อนล่วงหน้านะคะหาได้จากเว็บไซต์ก็คล้ายๆ กับช่างภาพในประเทศไทยตามถ่ายรูปนอกสถานที่ มีการคิดเรทราคาเป็นรายวัน แถมคุณยังเหมือนได้ไกด์นำเที่ยวไปในตัวด้วยนะคะ ช่างภาพท้องถิ่นจะช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ และพาคุณไปถ่ายภาพในแต่ละสถานที่ พร้อมช่วยแนะนำท่าโพสต์ บิ้วด์อารมณ์ ให้พวกคุณได้รูปถ่ายที่สวยงามดูกี่ทีก็ไม่เบื่อ เที่ยวได้อย่างสบายใจแล้วเนอะทีนี้

ฮันนีมูน

อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกันเพลินจนลืมสวีทนะคะ เพราะความหมายของการฮันนีมูนคือคุณทั้งคู่ต้องใช้เวลาพักผ่อนร่วมกันอย่างคุ้มค่า ส่วนเรื่องถ่ายรูปก็ถ่ายกันพอประมาณเนอะให้มีภาพความทรงจำดีๆ เก็บไว้ก็พอแล้ว🙂 แต่ใครที่อยากมีทริปฮันนีมูนสุดคูลแถมได้ภาพถ่ายสวยๆ ทั้งคนทั้งวิวก็ลอง พาความรักหนีความร้อนไปฮันนีมูนสุดหนาว 5 ที่ในต่างแดน กันดูค่ะ

Cr : pexels.com, pinterest.es