New Bridal Collection 2021 from COCO CHIC สวย เรียบง่าย สไตล์มินิมัล

ในช่วงเวลาที่โลกเข้าสู่ยุค New Normal ทำให้บรรดาคู่บ่าว – สาวเริ่มมีการปรับตัวนิยมจัดงานแต่งงานเรียบง่ายในสเกล ไม่ใหญ่โตนัก ว่าที่เจ้าสาวจึงควรเลือกชุดให้เหมาะกับ บรรยากาศและสไตล์การจัดงาน แพรวเวดดิ้ง มีคำแนะนำจากกูรูเรื่องชุดเจ้าสาวมาฝาก พร้อมกับ Bridal Collection 2021 จากแบรนด์ Coco Chic

New Bridal Collection 2021 from COCO CHIC 

Bridal Collection 2021 COCO CHIC
คุณตาล – พรหมวินี รุ่งโรจน์ ผู้จัดการ COCO CHIC

Minimal & Small Wedding

Bridal Collection 2021 COCO CHIC

 

คุณตาล-พรหมวินี รุ่งโรจน์ ผู้จัดการสาวสวยมากประสบการณ์ การันตีด้วยชื่อเสียง ของ “โคโค่ ชิค” แบรนด์ชุดแต่งงานที่ตอบโจทย์ ได้ตรงใจเจ้าสาว และมีคู่รักไว้วางใจใช้บริการ มากกว่า 2,000 คู่ ได้ให้คำแนะนําเกี่ยวกับไอเดียชุดเจ้าสาวสไตล์ Minimal & Elegant ว่า

“ชุดเจ้าสาวสไตล์นี้เป็นการผสมผสาน ทั้งความเรียบหรูดูดีในสไตล์มินิมัลและความเรียบง่ายแฝงไว้ด้วยความอ่อนหวาน โดยชุดไม่เน้นดีเทลหรือเลเยอร์เยอะๆ เป็นชุดแต่งงานท่ีเน้นคัตต้ิงและการตัดเย็บ เก็บรายละเอียด เก็บทรงให้เหมาะกับรูปร่างเจ้าสาว เพื่อให้ดูสวยเป๊ะท่ีสุด ซึ่งคอลเล็คชั่นสุดพิเศษนี้ได้ น้อง “เฌอเอม – ชญาธนุส ศรทัตต์” สาวหมวยลุคอินเตอร์สุดมั่นมาถ่ายทอดคอลเล็คชั่นชุดเจ้าสาวสไตล์มินิมัล เน้นดีไซน์เรียบโก้ทันสมัย และมีดีเทลท่ีช่วยเพิ่มความอ่อนหวาน อย่างผ้าลูกไม้หรือโบขนาดใหญ่สร้างเสน่ห์ในแบบเฟมินีนให้ดูเป็นเจ้าสาวท่ีสวยมั่นใจในสไตล์ ไม่ซ้ำใคร

Bridal Collection 2021 COCO CHIC

 

“ส่วนสถานที่แต่งงานที่เหมาะกับธีม Small Wedding ควรเป็น สถานที่จัดงานเล็กๆ เก๋ๆ มีเอ๊าต์ดอร์ หรือร้านอาหารยอดฮิตหลากสไตล์ หรืออาจเป็นสถานท่ีที่บ่าว – สาวมีสตอรี่ร่วมกัน อาทิ เดตแรก ฯลฯ เพื่อสร้างความอินและฟินให้กับบ่าว – สาวและงานแต่งงานนั่นเอง”

ชุดเจ้าสาวสไตล์ Princess ยังครองใจสาวไทย

Bridal Collection 2021 COCO CHIC

“แต่หากสถานท่ีจัดงานเป็นคอนเซ็ปต์โรงแรม ตาลบอกได้เลยว่า ชุดเจ้าสาวสไตล์เจ้าหญิงยังคงเป็นดีไซน์ครองใจเจ้าสาวไทยมากท่ีสุด ด้วย แพตเทิร์นที่เน้นดีเทลสวย หวาน หรู ครบจบในชุดเดียว เพื่อให้ได้ชุดเจ้าสาวสวยงามราวภาพในฝันที่เป็นเจ้าหญิงของเจ้าชายในเทพนิยาย

“ทีมงานโคโค่ ชิค จึงออกแบบชุดเจ้าสาวในคอลเล็คชั่น New Bridal Collection 2021 โดยชุดแต่งงานในคอลเล็คชั่นน้ีได้ “แต้ว – ณฐพร เตมีรักษ์” ร่วมถ่ายทอดชุดเจ้าสาวเจ้าหญิงอย่างหรูหรา ด้วยผ้าลูกไม้ช้ันดีนําเข้าจากต่างประเทศ ตัวชุดประดับตกแต่งด้วยลูกปัดและคริสตัลสวารอฟสกี้ ระยิบระยับโดดเด่นด้วย 3 ชุด 3 สไตล์

Bridal Collection 2021 COCO CHIC

“โดยชุดแรกเป็นชุดแต่งงานแขนยาวซีทรู กระโปรงทรงบอลกาวน์ ชุดที่สองเป็นชุดเกาะอกเผยให้เห็นช่วงไหล่เนียนสวย และชุดสุดท้าย เป็นชุดทรงแขนตุ๊กตาตกแต่งดีเทลเต็มๆ ท้ังชุด เน้นการออกแบบอลังการแฝงไว้ด้วยความหรูหราสไตล์เจ้าหญิงที่ดูแพงไม่ธรรมดา เปล่ง ประกายด้วยงานปักคริสตัลและลูกไม้ทํามือสุดประณีต

“ไม่ว่าจะเลือกสไตล์ไหน ว่าที่เจ้าสาวก็จะดูโดดเด่นเลอค่าน่าจดจํา สําหรับวันสําคัญที่สุดของชีวิต”

ดูแบบชุดแต่งงานร้าน Coco Chic เพิ่มเติม คลิกเลย

COCO CHIC WEDDING
ถนนสาธุประดิษฐ์
โทร : 0-2115-8500, 09-9635-8585
เฟซบุ๊ก : Coco Chic Wedding
ไอจี : @cocochicwedding

สามีเตรียมรับมือ “อาการวัยทอง” ของภรรยา เคียงคู่และเข้าใจการเปลี่ยนแปลง

เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่ร่างกายต้องเปลี่ยนตามกาลเวลา แต่ดูท่าว่าผู้หญิงจะเริ่มเปลี่ยนก่อนผู้ชายเล็กน้อย โดยเฉพาะ ภรรยา หลายๆ ท่าน ที่กำลังมี อาการวัยทอง เรื่องนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ยังมีผลถึงความรู้สึกและสภาพจิตใจของผู้หญิงด้วย แพรวเวดดิ้ง จึงอยากให้คุณผู้ชายเข้าใจและคอยให้กำลังใจคนรักเยอะๆ

อาการวัยทอง ของ ภรรยา ที่สามีควรรู้ เข้าใจ และให้กำลังใจ

อาการวัยทอง ภรรยา
Photo by Gustavo Fring from Pexels

วัยทอง หรือ วัยหมดประจำเดือนในผู้หญิง (Menopause) อยู่ในช่วงอายุ 45 – 55 ปี เป็นช่วงที่รังไข่เริ่มหยุดทำงาน ไม่มีการตกไข่ ไม่สร้างฮอร์โมนเพศสหญิง (เอสโตรเจน และโปรเจนเตอโรน) ทำให้ผู้หญิงไม่มีประจำเดือน ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจ คนไทยมักเรียกอาการนี้ว่า “เลือดจะไปลมจะมา”

เมื่อคุณสามีรู้แล้วว่า ภรรยาสุดที่รักเริ่มเข้าสู่ช่วงอายุดังกล่าว แนะนำให้สังเกตและเอาใจใส่ความเปลี่ยนแปลงของภรรยาอยู่เสมอๆ ว่าเริ่มมีสัญญาณเข้าสู่วัยทองหรือยัง ลักษณะอาการอาจไม่เห็นเด่นชัด แต่ถ้าภรรยาข้างกายเริ่มบ่นถึงเรื่องเหล่านี้ ก็เตรียมตัวรับมือกับวัยทองที่กำลังจะมาถึงได้เลย

  • ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ
  • ร้อนวูบวาบ เหนื่อยง่าย ใจสั่น
  • มีผื่นแพ้ตามผิวหนังและอาการคัน
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อและกระดูก
  • เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ
  • ช่องคลอดมีน้ำหล่อลื่นน้อยกว่าปกติ
  • กลั้นปัสสาวะไม่ค่อยได้

นอกจากอาการทางร่างกายแล้ว ยังมีอาการทางจิตใจที่อาจส่งผลกับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย เช่น

  • หงุดหงิดง่าย
  • เครียดบ่อย
  • ซึมเศร้า ขี้น้อยใจ
  • อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ
อาการวัยทอง ภรรยา
Photo by krakenimages on Unsplash

อาการเหล่านี้นี่แหละ ที่ทำให้ผู้ชายหลายคนเกิดความสงสัย ไม่เข้าใจ จนบางครั้งทะเลาะกับภรรยาใหญ่โต เอาเป็นว่า ไปดูวิธีรับมือกับอาการวัยทองกันดีกว่า จะได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น และไม่กลายเป็นปัญหาในภายหลัง

  1. เผชิญความเปลี่ยนแปลงด้วยความเข้าใจ

อย่างแรกที่ต้องทำคือ ยอมรับความเปลี่ยนแปลงให้ได้ก่อน ต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมชาติที่ร่างกายคนเราจะต้องเสื่อมถอย แต่พอเข้าใจแล้วใช่ว่าจะปล่อยเลยตามเลย ต้องช่วยกันดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ชวนกันออกกำลังกาย และพยายามมองโลกในแง่ดีเพื่อบรรเทาอาการหงุดหงิด

  1. หากิจกรรมทำเพื่อรักษาจิตใจ

จากแต่ก่อนที่เคยยุ่งกับการทำงาน เจอหน้ากันเฉพาะเวลากลับถึงบ้าน อาจต้องเปลี่ยนมาหาอะไรทำด้วยกันมากขึ้น เช่น ออกไปทานข้าว เดินเล่น หรือชวนกันไปเที่ยวต่างจังหวัดเมื่อมีเวลา ช่วยกันปลูกต้นไม้ หรือจะชวนกันไปวัดทำบุญก็เป็นไอเดียที่ดี

อาการวัยทอง ภรรยา
Photo by Esther Ann on Unsplash
  1. หากทะเลาะกันต้องเคลียร์ให้เข้าใจ

ข้อนี้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องพื้นฐานสำหรับชีวิตคู่ แต่จะยิ่งสำคัญเมื่อเข้าสู่วัยทอง ด้วยอายุที่มากขึ้นบวกกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย การปล่อยปัญหาคาใจทิ้งไว้นานๆ จะเหนื่อยง่ายกว่าตอนสาวๆ หนุ่มๆ อีกทั้งอารมณ์ที่เหวี่ยงสวิงไม่คงที่ อาจเป็นต้นเหตุให้เรื่องทะเลาะบานปลายมากขึ้น แนะนำว่าถ้าดูแล้วยังสามารถพูดคุยกันได้ในขณะนั้น ควรใจเย็นแล้วนั่งคุยกัน แต่ถ้าภรรยาหงุดหงิดหนักมาก ต้องอาศัยคำโบราณว่า “น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือขวาง” รอให้เธอใจเย็นสักนิด แล้วค่อยเริ่มจับเข่าคุย

  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ

วัยทองเกิดขึ้นกับทุกคน แต่อาการมากน้อยไม่เท่ากัน บางคนไม่ออกอาการเลยก็มี แต่บางคนร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ทั้งปวดเมื่อย เป็นลม ครั่นเนื้อครั่นตัว เครียด ไปจนถึงอาการซึมเศร้า ถ้าเรื่องเหล่านี้เป็นปัญหาหนัก แนะนำว่าให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อรับการรักษาอย่างตรงจุด อาจต้องทานยาเพื่อรักษาสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย หรือในรายที่ซึมเศร้าหนักๆ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากจิตแพทย์

อ่านมาถึงตรงนี้อย่าเพิ่งนึกว่าอาการวัยทองเกิดขึ้นได้เฉพาะในผู้หญิงอย่างเดียวนะคะ ขอเตือนเลยว่าผู้ชายที่เริ่มมีอายุก็เข้าสู่วัยทองจะมีอาการทางร่างกายและจิตใจได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นหมั่นดูแลร่างกายและใส่ใจคู่รักอยู่สม่ำเสมอ จะได้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอย่างเข้าใจ

ปัญหาด้านสุขภาพของคู่รักยังมีอีกหลายเรื่องให้ต้องช่วยกันดูแลและทำความเข้าใจตามไปอ่านกันได้เลย

ภาพจาก : Unsplash.com

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่ ใครอยากมีความรักต้องจดไว้สวดก่อนเข้านอน

ใครโสด ใครเหงา แล้วกำลังตามหาความรักเพื่อมาทำให้ใจกระชุ่มกระชวยลองมาดู บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่ และสมหวังในความรัก ของแบบนี้เชื่อไว้ไม่เสียหายนะคะ *โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่ สำหรับคนโสดที่อยากมีรัก

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่
Photo by Alex Azabache on Unsplash

ก่อนจะเริ่มกล่าวบทอธิษฐานขอความรักหรือขอเนื้อคู่จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ควรต้องตั้งจิตให้มั่น ทำจิตใจให้สงบ ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เทพเทวดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพ แล้วจึงเริ่มท่องช้าๆ อย่างมีสติ ไม่ต้องรีบ

บทอธิษฐานขอเนื้อคู่

“นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

 ปุพเพวะ สันนิวา เสนะ ปัจจะ บันนะ หิเตนะ วา เอวันตัง ชะยะเต เปมัง อุปะลัง วะ ยะโส ธะเกฯ”

สำหรับหญิงชายคนไหนมีคนที่หมายปองไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ลงเอยกันเสียที หากได้โอกาสนัดเจอกัน ให้คุณลองสวดบทคาถามหาเสน่ห์เพื่อเจอรักแท้ โดยอธิษฐานในใจถึงคนที่เรากำลังจะได้พบว่า หากมีบุญวาสนาที่ดีต่อกันแล้ว ขอให้ได้เคียงคู่เป็นรักแท้ต่อกัน จากนั้นให้ท่องคาถานี้ใส่ลูกอม เมื่อเห็นหน้ากันแล้วก็หยิบขึ้นมาอมในปาก แล้วพูดคุยกันตามปกติ หากมีดวงสมพงศ์กันจริงๆ ก็จะได้คบกันแน่นอน

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่
Photo by Giuliano Di Paolo on Unsplash

บทคาถามหาเสน่ห์เพื่อเจอรักแท้

“โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง สะระติจิตตังสะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ”

แถมให้อีกหนึ่งบทอธิษฐานสำหรับใครที่รอมานานแต่ไม่เจอคู่ใจเสียที อาจเป็นเพราะว่าคุณมีพันธะผูกพัน หรือสร้างกรรมความรักไว้ในชาติก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเอ่ยคำอธิษฐาน คำสาบาน คำสาปแช่ง หรือแม้แต่กระทำการใดเกี่ยวกับความรักจนทำให้ส่งผลมาถึงชาติปัจจุบัน คุณสามารถลองท่องบทอธิษฐานตัดกรรมเรื่องความรัก ขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรแต่ปางก่อน เพื่อให้คุณได้มีโอกาสพบรักที่ดีในปัจจุบันและอนาคต

บทอธิษฐาน เพื่อให้เจอเนื้อคู่
Photo by cottonbro from Pexels

บทอธิษฐานตัดกรรมเรื่องความรัก

“สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง สัพพัง

อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

ข้าพเจ้าขออาราธนาอานุภาพของพระพุทธเจ้า พระรัตนตรัย พระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ และพระปัจเจกพุทธะเจ้าทุกพระองค์

ขอให้เทพเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเป็นสักขีพยานการยกเลิก เพิกถอน คำสัญญา คำสาบาน คำอธิษฐานจิตที่มีต่อคู่รัก คู่ใคร่ คู่เสน่หา ทุกภพทุกชาติ

หากข้าพเจ้าได้เคยประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินต่อ คู่รัก คู่ใคร่ คู่เสน่หา ในอดีตชาติก็ดี ในปัจจุบันชาติก็ดี ตั้งใจก็ดี ไม่ได้ตั้งใจก็ดี ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดี ข้าพเจ้าขอโทษ ขอขมากรรม ขออโหสิกรรมต่อท่าน

และขอให้คำสัญญา คำสาบาน คำอธิษฐานจิตที่เคยได้อธิษฐานไว้ในทุกภพ ทุกชาติ เป็นโมฆะ ขาดสิ้นกันนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าขอชดเชยความผิดด้วยบุญกุศลที่ได้สั่งสมมา พร้อมด้วยการทำบุญทำทาน โปรดยกโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย

ขอให้ชีวิตของข้าพเจ้าหลุดพ้นจากวิบากกรรมทั้งหมดทั้งสิ้น หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา ขออนุญาตมีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่ตามติดมาแต่คู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมต่อข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ขอถอนคำพยาบาท ความอาฆาต คำสาปแช่ง ในทุกภพทุกชาติ และขอให้ตัวข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นจากนรกภูมิ ขอให้พบแสงสว่างทั้งทางโลกและทางธรรม ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ”

การกล่าวบทอธิษฐาน เหล่านี้ หากพอมีเวลาคุณสามารถเตรียมธูป เทียน และดอกไม้บูชาพระก่อนเริ่มกล่าว หรือสามารถตั้งจิตอธิษฐานและทำตอนก่อนนอนได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนตัวของแต่ละคนด้วย สำหรับใครที่ลองทำแล้ว ได้ผลอย่างไรกันบ้าง อย่าลืมมาอัพเดทให้ แพรวเวดดิ้ง ทราบกันบ้างนะคะ

สาวๆ คนไหนมาสายมู ตามไปดู >>> 7 คาถามหาเสน่ห์ เสริมความเนื้อหอมแบบไม่ต้องพึ่งน้ำหอม!!

อัพเดตประเทศที่อนุญาตให้ คู่รักเพศเดียวกัน แต่งงานและ จดทะเบียน ปี 2020

อิสระในความรักเป็นของหนุ่มสาวทุกผู้ทุกคนนะคะ วันนี้ แพรวเวดดิ้ง เลยขอรวบรวม 31 ประเทศที่ออกกฎหมายอนุญาตให้ คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียน แต่งงานได้แล้วอย่างถูกกฎหมายและรองรับสิทธิ จะมีประเทศไหนบ้าง ไปไล่ดูตามไทม์ไลน์กันเลยจ้า

31 ประเทศทั่วโลกที่อนุญาตให้สามารถ จดทะเบียน แต่งงาน คู่รักเพศเดียวกัน ได้อย่างถูกกฎหมาย

คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียน
Photo by Ian Taylor on Unsplash

ปี 2000 – เนเธอร์แลนด์

ปี 2003 – เบลเยี่ยม

ปี 2005 – สเปน, และ แคนาดา 

ปี 2006 – แอฟริกาใต้

ปี 2008 – นอร์เวย์

ปี 2009 – สวีเดน

ปี 2010 – ไอซ์แลนด์, โปรตุเกส, และ อาร์เจนตินา 

คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียน
Photo by Mercedes Mehling on Unsplash

ปี 2012 – เดนมาร์ก

ปี 2013 – อุรุกวัย, นิวซีแลนด์, ฝรั่งเศส, อังกฤษ และ เวลส์

ปี 2014 – สก็อตแลนด์, และ ลักเซมเบิร์ก

ปี 2015 – ฟินแลนด์, ไอร์แลนด์, กรีนแลนด์, และ สหรัฐอเมริกา,  

ปี 2016 – โคลัมเบีย

ปี 2017 – เยอรมนี, มอลตา, และ ออสเตรเลีย

ปี 2019 – ออสเตรีย, ไต้หวัน, เอกวาดอร์, และ ไอร์แลนด์เหนือ

ปี 2020 – คอสตาริกา และ ไทย

ใน 31 ประเทศนี้ มี 30 ประเทศที่ขึ้นชื่อว่าคู่รักสามารถ “จดทะเบียนสมรส” ตามกฎหมาย ส่วนในประเทศไทย ถึงแม้จะอนุญาตให้ “จดทะเบียนคู่ชีวิต” พร้อมสิทธิทางกฎหมายที่รองรับประโยชน์ของคู่รักเพศเดียวกันหลายอย่าง แต่ยังไม่ใช่การจะทะเบียนสมรสที่ได้สิทธิเท่าเทียมกับคู่รักชายหญิงทั่วไป อย่างไรก็ตาม การผ่านร่างพ.ร.บ. คู่ชีวิตในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ถือเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของความรักและการสมรถเท่าเทียมในอนาคต

ตามไปดูสรุปสาระสำคัญของพ.ร.บ. คู่ชีวิต ได้ที่ >>> พ.ร.บ. คู่ชีวิต หนุ่มสาว Same Sex เขาได้สิทธิอะไรบ้าง ไปดูกัน

ข้อมูลจาก : pewforum.org

“จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” งามละมุนกับลุคเจ้าสาวชุดแต่งงานไทย นิตยสารแพรว Wedding ฉบับ พ.ย 63

เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวอีกคนแล้วจ้า นางเอกคนสวย “จั๊กจั่น – อคัมย์สิริ สุวรรณศุข” ที่กำลังจะมีแพลนแต่งงานในเดือนพฤษภาคม ปี 2564 แต่วันนี้ขอมาเป็นนางแบบขึ้นปกให้กับนิตยสาร แพรว Wedding ฉบับ พฤศจิกายน 2563 งามละมุนในแฟชั่น ชุดแต่งงานไทย หลายสไตล์

“จั๊กจั่น อคัมย์สิริ” งามสมสง่าแบบหญิงไทย ละเอียดลออ อ่อนหวานใน ชุดแต่งงานไทย

เบื้องหลังการถ่ายทำ ว่าที่เจ้าสาวคนสวยเผยกับแพรวเวดดิ้งว่า “การได้มาถ่ายแฟชั่นชุดไทยในวันนี้เหมือนกับเป็นการซ้อมค่ะ จะได้รู้ว่าเราชอบชุดไหน เพราะบางทีเราเปิดดูในนิตยสารมันก็มีหลายแบบ พอได้มาลองรู้สึกว่า ถ้าเราใส่แขนยาวแล้วจะเป็นอย่างนี้ จากที่จินตนาการไว้เลยได้รู้ว่า เราชอบใส่ชุดไทยห่มสไบมากที่สุดจากหลายๆ ชุดที่ลองมา ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าวันงานแต่งงานของเราเองจะใส่ชุดแบบไหนดี…”

เห็นว่าที่เจ้าสาวชื่นชอบการใส่ชุดไทยแบบนี้ แพรวเวดดิ้งเลยจะขอพาไปดูความสวยงามยามที่คุณจั๊กจั่นอยู่ในชุดไทยหลากสไตล์กันค่ะ

เจ้าสาวสวยหวานในชุดไทยจักรพรรดิ สีชมพูอ่อน ใช้เทคนิคการนุ่งแบบโบราณ ผ้าไหมพาราณสี ห่มสไบที่ปักด้วยคริสตัลสีพิ้งค์โกลด์  ประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับสีทองพิ้งค์โกลด์แบบโบราณ จากร้าน Vanus Couture

เรียบหรูในชุดไทยจักรพรรดิสีขาวเงิน  ใช้ผ้าไหมยกใหญ่ดอกลำพูนในการตัดเย็บและปักคริสตัลเงินและขาวมุก  ทั้งผ้านุ่งและสไบประดับด้วย เครื่องประดับเงินแบบโบราณ จากร้าน Vanus Couture

โดดเด่นในชุดไทยจักรพรรดิ สีส้มแกมน้ำตาลหรือสีสนิม ใช้เทคนิคการนุ่งผ้าแบบโบราณห่มสไบที่ปักด้วยดิ้นแล่งทองงานโขนทั้งผืนงามตระการตาด้วยเครื่องประดับทองแบบโบราณ จากร้าน Vanus Couture 

 “ไทยศิวาลัย” ถือเป็นอีกหนึ่งชุดไทยอันทรงคุณค่า เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจของ “เจ้านางเวดดิ้ง” ในการออกแบบตัดเย็บโดยใช้ผ้าไหมที่ย้อมด้วยขั้นตอนพิเศษ ให้ออกมาเป็นสีชมพูกลีบบัว เพื่อนำมาสร้างสรรค์ตัวเสื้อ สำหรับผ้านุ่งนั้นเป็นผ้ายกปักดิ้นเงิน แต่งแต้มด้วยคริสตัลและปล้องปักเพิ่มความโดดเด่นระยิบระยับจับตา สำหรับสีชมพูกลีบบัวมีความหมายถึงความรักที่อ่อนโยน อ่อนหวาน งดงาม ด้วยความหมายอันสุดมงคลนี้ จะส่งเสริมให้คู่บ่าวสาวเจริญรุ่งเรือง ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคูที่มีแต่ความรักและควาเจริญในชีวิตต่อไป จากร้าน เจ้านางเวดดิ้ง

ชุดแต่งงานไทย

ลุคสวยสง่าในชุดไทยจักรพรรดิสีน้ำเงิน ใช้ผ้าไหมยกใหญ่ดอกลำพูนในการตัดเย็บ  ห่มสไบที่ปักด้วยดิ้นแล่งเงินทั้งผืนรับกับเครื่องประดับเงินแบบโบราณ จากร้าน Vanus Couture

ชุดแต่งงานไทย

สง่างามด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ผ้าไหมสีงานวลมีดิ้นทอง ปักตกเเต่งขึ้นลวดลายดอกพิกุล ด้วยการปักลูกปัดสีทองผสมคริสตัลเงินอย่างโดดเด่น ห่มทับสไบผ้าไหมพลีตสีชมพูกลีบบัว เสริมด้วยเครื่องประดับ ไทยโบราณแท้เลอค่า จากร้าน Coco Chic Wedding

ชุดแต่งงานไทย

ชุดไทยจักรีทำจากผ้า ไหมสีขาวแท้ ทอสอดดิ้นเงินพร้อมปักตกเเต่งวัสดุสีพิ้งค์โกลด์และคริสตัลใส ลวดลายไทยและดอกไม้ผสมผสานเข้าด้วยกัน  ชุดนี้เหมาะกับเจ้าสาวที่ชอบชุดไทย ทรงสไบเรียวเข้าทรวดทรง เน้นสรีระช่วงเอวได้ดี สวยสง่าแบบไทยร่วมสมัย จากร้าน Coco Chic Wedding

ชุดแต่งงานไทย

ผสมผสานความโมเดิร์นกับความเป็นไทยได้อย่างลงตัวในชุดไทยจักรีประยุกต์ ใช้ผ้าไหมยกเล็กดอกลำพูนสีชมพูในการตัดเย็บ ตัวเสื้อด้านบนเผยให้เห็นถึงโครงสร้างคอร์เสตแบบแพตเทิร์นฝรั่งเศสแท้ ส่วนสไบออกแบบให้เข้ารูปแนบไปกับลำตัวและปักคริสตัลเงินทั้งสไบและผ้านุ่ง ประดับด้วยเครื่องประดับเงินแบบโบราณ จากร้าน Vanus Couture

เสื้อผ้า
Coco Chic Wedding
79/336 ถนนสาธุประดิษฐ์  แขวงช่องนนทรีเขตยานนาวากรุงเทพฯ 10120
โทร. 0 – 2115-8500, 09-9635-8585
เฟซบุ๊ก : Coco Chic Wedding
ไอจี : @cocochicwedding

Vanus Couture
1550, 1552 ปากซอยลาดพร้าว 50
ถนนลาดพร้าว เขตวังทองหลาง
กรุงเทพฯ
โทร. 0-2002-4895, 0-2002-4896
เฟซบุ๊ก : Vanus Couture
ไอจี : @vanuscouture_official

เจ้านางเวดดิ้ง
318 โครงการธนบุรีคอมเพล็กซ์ ซอย 8
ถนนพระราม 2 ซอย 60
(ใกล้เซ็นทรัลพลาซา พระราม 2)
โทร. 08-6363-6555, 08-8089-5999
เว็บไซต์ : www.chaonangwedding.com
เฟซบุ๊ก : Chaonang Wedding –
เจ้านางเวดดิ้ง
ไอจี : @chaonangwedding
ไลน์ : @chaonangwedding

How to จัดงานแต่ง 2 ภาษา แขกเขาแขกเราเข้าใจตรงกัน

Hello… วันนี้ แพรวเวดดิ้ง เอาใจหนุ่มสาวสายฝอ สายจีน สายเกา ที่ความรักลงตัวและกำลังวางแผนแต่งงาน ด้วยเทคนิค จัดงานแต่ง 2 ภาษา Bilingual Wedding เก๋ๆ ที่รับรองว่าทั้งแขกไทย แขกต่างชาติ จะเข้าใจตรงกัน ไม่มีงง!

จัดงานแต่ง 2 ภาษา รับรองว่าแขกเข้าใจ หมดปัญหาฟังไม่รู้เรื่อง

Photo by East Meets Dress on Unsplash

1. มองหาเวดดิ้งแพลนเนอร์และช่างภาพที่พูดภาษาอังกฤษได้

ข้อแรกอาจฟังดูลำบาก แต่จริงๆ ไม่ยากอย่างที่คิด เพียงแค่คุณหาเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่อย่างน้อยพูดภาษาอังกฤษได้เพราะเป็นภาษาสากล แค่นี้ก็โล่งไปอีกหนึ่งเปลาะ หรือใครที่แต่งงานกับคู่รักที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ลองมองหาแพลนเนอร์ที่พูดภาษานั้นๆ ได้ก็จะดี

ส่วนเรื่องช่างภาพ จะดีมากถ้าได้คนที่พูดอย่างน้อย 2 ภาษา หลักๆ คือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และถ้าพูดภาษาประจำชาติของคู่แต่งงานได้ด้วยจะเพอร์เฟ็กต์มาก หรือถ้ามองรอบตัวแล้วเจอเพื่อนสนิทของคุณทั้งคู่ที่มีฝีมือการถ่ายภาพขั้นเทพ อาจทาบทามให้มาช่วยเป็นช่างภาพให้ในวันแต่งงานก็ได้

2. แจ้งรายละเอียดต่างๆ ผ่านโซเชียลมีเดียเป็น 2 ภาษา

ตอนนี้ต้องใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์ค่ะ ง่ายๆ ที่ทำได้กันทุกคนคือ Facebook ว่าที่บ่าวสาวอาจสร้างกรุ๊ปรวมสำหรับแขกทั้งสองฝ่าย เอาไว้ใช้สำหรับแจ้งรายละเอียดต่างๆ เช่น วิธีการเดินทางมาสถานที่แต่งงาน, การแต่งตัว และพิธีการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในงาน รวมถึงสามารถใช้เป็นพื้นที่อธิบายความแตกต่างของวัฒนธรรมเพื่อให้แขกเข้าใจล่วงหน้า ว่าพิธีนี้มีเพื่ออะไร ที่สำคัญคือ อย่าลืมแจ้งข่าวเป็น 2 ภาษาด้วยนะคะ

Photo by Olya Kobruseva from Pexels

3. ทำการ์ด 2 ภาษา

ว่าที่บ่าวสาวต้องเตรียมรายละเอียดที่จะพิมพ์ลงบนการ์ดให้ชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเป็นการ์ด 2 ภาษา ต้องเช็กความถูกต้องให้ตรงกัน หลายคู่อาจเลือกพิมพ์การ์ด 1 ใบมี 2 ภาษา หรือจะทำเซ็ตการ์ด 2 เซ็ต 2 สไตล์เลยก็ได้ เพื่อแยกกลุ่มแขกเหรื่อชัดเจน ถึงจะต้องเพิ่มงานเพิ่มเงินสำหรับผลิตการ์ดมากขึ้นอีกนิด ถ้าคุณมีงบประมาณพอก็ทำเลยค่ะ ถือว่าเป็นกิมมิคของงานแต่งได้เหมือนกัน

นอกจากการ์ดจะต้องเป็น 2 ภาษาแล้ว เอกสารอื่นๆ ที่ต้องใช้ในงานแต่ง เช่น สมุดสำหรับพิธีมิสซา (สำหรับชาวคริสต์), รายการเมนูอาหารและเครื่องดื่ม และป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ ก็ควรทำให้เป็น 2 ภาษาด้วยเช่นกัน

4. เชิญแขกที่พูดได้ 2 ภาษามาให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้

เรื่องนี้บ่าวสาวต้องมองรอบตัวเองกันเลยค่ะว่า มีเพื่อน พี่ น้อง คนไหนที่สามารถพูดได้ทั้งสองภาษา แล้วเชิญเขามาร่วมงานด้วย หนึ่งคือให้เกียรติ สองคือคนกลุ่มนี้จะช่วยคู่รักได้มาก เพราะเมื่อถึงเวลาหน้างาน ทั้งบ่าวสาวและทีมงานคงไม่สามารถลงมาจัดการรายละเอียดต่างๆ นอกรอบได้ เพื่อนกลุ่มนี้จะเป็นคนที่คอยช่วยสื่อสารระหว่างแขกทั้งสองฝ่ายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถชวนคุยเพื่อไม่ให้แขกเกิดอาการเบื่อหรือไม่อินกับงาน เนื่องจากไม่เข้าใจภาษาที่ต่างกัน

Photo by Alex Litvin on Unsplash

5. โปรเจ็กเตอร์ฉายภาพและซับไตเติ้ลก็ช่วยได้เยอะ

งานแต่งเดี๋ยวนี้นิยมทำวิดีโอพรีเซนเตชั่นเรื่องราวความรักของบ่าวสาว คงจะดีไม่น้อยถ้าในวิดีโอจะมีซับไตเติ้ลให้แขกอ่านตามแล้วเข้าใจ โดยไม่มีเสียงพากย์จากพิธีกรมาทำลายบรรยากาศ หรือแม้กระทั่งเพลงสำคัญที่คู่รักอยากเปิดในงานแต่งงาน ก็สามารถฉายเนื้อเพลงพร้อมซับไตเติ้ลขึ้นจอโปรเจ็กเตอร์ แบบนี้แขกจะได้เข้าใจความหมายของเพลง และอินไปกับความรักของทั้งคู่

6. ผสมผสาน 2 วัฒนธรรมผ่านเสียงเพลงและอาหาร

ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงานแต่งได้เลยนะคะ อย่างที่บอกไปข้อที่แล้วว่าคุณควรมีโปรเจ็กเตอร์และทำซับไตเติ้ลสำหรับสื่อต่างๆ ภายในงาน ทีนี้ก็เพิ่มไอเดียใช้เพลงรักทั้ง 2 ภาษา เปิดคลอสลับกันไป แบบนี้จะยิ่งทำให้แขกในงานอินกับบรรยากาศและได้ฟังแนวดนตรีใหม่ๆ รวมถึงการสั่งอาหารของทั้ง 2 ชาติ ข้อแรกคือเผื่อไว้สำหรับแขกที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารต่างประเทศ ส่วนข้อสองเผื่อไว้สำหรับแขกที่อยากลองทานเมนูใหม่ๆ ที่ไม่เคยทาน

Photo by Juan Manuel Núñez Méndez on Unsplash

7. หาพิธีกรที่พูดได้ 2 ภาษาหรือจ้างล่ามแปล

ถ้าเพื่อนสนิทของบ่าวสาวมีสกิลการพูดในที่สาธารณะและการเป็นพิธีกร ลองขอให้เขามาช่วยเป็นพิธีกรภายในงานก็ได้นะคะ แบบนี้เป็นทั้งพิธีกรและล่ามไปในตัว หรือถ้าหาไม่ได้จริงๆ คงต้องลงทุนจ้างล่ามแปลภาษา แต่อาจเลือกจ้างเฉพาะช่วงสำคัญ เช่น พิธีทางศาสนา หรืองานฉลองตอนเย็น ลองปรึกษากันดูว่าอยากให้ล่ามมาแปลพิธีช่วงไหนที่สำคัญเป็นพิเศษ

8.พูดให้สั้นแต่ซึ้งกินใจ

เรื่องนี้ต้องโฟกัสที่ตัวบ่าวสาวแล้วล่ะ แพรวเวดดิ้งแนะนำว่า เจ้าบ่าวเจ้าสาวควรร่างบทพูดของตัวเองมาก่อน สามารถเลือกได้ตามสะดวกว่าจะพูดภาษาไหน สิ่งสำคัญคือ ควรพูดให้สั้น กระชับ แต่ยังต้องซึ้งกินใจ หากพูดยาวๆ แล้วล่ามต้องคอยแปล แขกอาจไม่ตั้งใจฟัง หลุดโฟกัส และอาจเสียโมเมนต์ดีๆ ในช่วงนั้นไปเลยก็ได้นะ

ว่าที่บ่าวสาวสายฝอคู่ไหนกำลังเตรียมงานวิวาห์ ตามไปดูสคริปต์พิธีแต่งงานแบบ 2 ภาษา ไทย –  อังกฤษ แล้วจดไปใช้กันได้เลยจ้า

7 เรื่องหนุ่มสาวควรรู้ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนใช้นิ้วมือเพื่อความสุข

นิ้วมือ หรือ แม่นางทั้งห้า ไม่ได้มีไว้ใช้แค่สำเร็จความใคร่สำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ยังมีสาวๆ อีกหลายนาง ทั้งที่มีคนรักเป็นผู้ชาย หรือคู่รักเลสเบี้ยนที่นิยมใช้นิ้วมือสอดใส่ให้ถึงจุดสุขสม แต่ก่อนจะเริ่ม ใช้นิ้วมือทำรัก ต้องเตรียมพร้อมกับ 7 เรื่องนี้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและความฟินต่อเนื่อง

เตรียมือให้พร้อม ก่อน ใช้นิ้วมือทำรัก พาอารมณ์ให้พุ่งทะยาน

ใช้นิ้วมือทำรัก
Photo by Nathan Dumlao on Unsplash

1. ล้างมือ ตัดเล็บ ให้เรียบร้อย

เรื่องนี้ต้องย้ำแล้วย้ำอีก! เพราะมือเราไปสัมผัสสิ่งของมาสารพัด มีเชื้อโรคติดที่ฝ่ามือและนิ้วจนนับสปีชีส์ไม่ถ้วน เพราะฉะนั้นต้องล้างมือให้สะอาด ต่อให้รีบร้อนแค่ไหนก็ไม่ควรมองข้าม ส่วนเรื่องเล็บยิ่งสำคัญมาก คู่รักที่ใช้นิ้วมือเป็นประจำจะรู้ดีว่า มือใครที่เล็บยาวสาวๆ จะไม่ปลื้ม ลองคิดดูสิว่า แค่เราใช้เล็บเกาแขนยังรู้สึกเจ็บนิดๆ แล้วถ้าเล็บยาวๆ ผลุบเข้าผลุบออกในส่วนอ่อนไหวของผู้หญิง คงเคืองกันไปหลายวันเลยเผลอๆ จะได้เลือดที่ไม่ใช่ประจำเดือนติดเล็บออกมาอีก สยองนะ!

2. แหวน และ นาฬิกา ควรถอดออกให้หมด

อย่าลืมนะคะ ว่าเครื่องประดับพวกนี้เป็นของแข็งที่สามารถสร้างความเจ็บปวดให้กับจุดซ่อนเร้นของหญิงสาวได้ รวมถึงอุณหภูมิเย็นๆ ของเนื้อโลหะที่อาจทำให้ผู้หญิงรู้สึกแปลกแถมยังไม่ปลื้ม เอาเป็นว่าถอดวางไว้ข้างหัวเตียงก่อนก็ได้ หรือถ้าคุณไม่ไว้ใจใครก็ถอดเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงซะ

ใช้นิ้วมือทำรัก
Photo by Malvestida Magazine on Unsplash

3. วอร์มมือให้อุ่น พร้อมใช้งาน

นิ้วเย็นๆ อาจจะสู้เอ็นอุ่นๆ อย่างที่เขาว่ากันไม่ได้ แต่ถ้าคุณวอร์มนิ้วมือให้พร้อมและอุ่นกำลังดี ยังไงสาวๆ ก็ฟินชัวร์ แค่คุณถูฝ่ามือหรือแช่น้ำอุ่นให้อุณหภูมิได้ที่ก่อนบรรเลงเพลงนิ้ว จะทำให้ผู้หญิงรู้สึกดีเหมือนได้เข้าสปา แต่ถ้าคุณฝืนใช้นิ้วเย็นๆ อาจทำให้เธอสะดุ้งจนหมดอารมณ์ รวมถึงใครที่มือหยาบกร้านควรต้องหาครีม (ที่จะไม่ทำให้แสบ) มาบำรุงผิวบ้างนะ ปล่อยไว้แบบนี้ผู้หญิงเขาไม่ปลื้ม!

4. เตรียมเจลหล่อลื่นให้พร้อม

ก่อนจะเริ่มใช้นิ้วมือกับจุดสงวนของหญิงสาว คุณต้องเล้าโลมให้เธอมีน้ำหล่อลื่นมากพอเพื่อป้องกันการเสียดสีและความเจ็บปวด หรือถ้าพยายามเล้าโลมแล้วแต่น้องสาวยังแห้งผากเหมือนทะเลทราย คราวนี้คงต้องใช้ตัวช่วยอย่างเจลหล่อลื่น ลูบไล้กระตุ้นอารมณ์เพื่อให้สาวๆ สร้างน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติได้เร็วขึ้น

ใช้นิ้วมือทำรัก
Photo by Sharon McCutcheon on Unsplash

5. เริ่มช้าๆ จากข้างนอก

ข้อนี้ต้องใช้ศิลปะแห่งฝ่ามือและนิ้วมือกันหน่อย อย่าเพิ่งจู่โจม ถอดปุ๊บ ใส่ปั๊บ แบบนี้ไม่มีทางฟิน! ต้องค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากการลูบไล้ภายนอก จุดสำคัญที่ไม่ควรพลาด คือ “คลิตอริส” ที่มีปลายประสาทรวมอยู่กว่า 8,000 ปม ลากมือผ่านเบาๆ วนไปวนมา แต่อย่าบดบี้ตั้งแต่เริ่ม ผู้หญิงจะเจ็บจนไปต่อไม่ไหว แถมยังทำให้ผิวหนังระคายเคืองด้วย

6. จังหวะคงที่สำคัญกว่าเร่งมือแรงๆ

หลายคนมักคิดว่า การสาวมือเร็วๆ จะทำให้ผู้หญิงถึงจุดสุดยอดแบบถึงใจ แต่ความจริงแล้วมันทำให้เจ็บและจุกมากกว่าสุขสม แนะนำเลยว่าควรใช้จังหวะมือคงที่ มาถึงตอนนี้อวัยวะหลายอย่างต้องทำงานให้สอดคล้องกัน คือ ขยับฝ่ามือเข้าออกเป็นจังหวะ ในขณะที่ปลายนิ้วกดย้ำกับ G spot ด้านใน ตาต้องคอยมองคู่รักว่าเธอมีอารมณ์แบบไหน พร้อมกับหูต้องคอยฟังเสียงของเธอด้วย ถ้าเธอไม่ได้ขอร้องให้เร่งมือจงอย่าเปลี่ยนจังหวะเด็ดขาด แต่ถ้าเธอเอ่ยปากเมื่อไหร่ให้ค่อยๆ เปลี่ยนความเร็ว ไม่ควรเร่งมือทันที

7. ไม่ต้องสอดนิ้วเข้าไปก็เสร็จได้นะ

จริงๆ แล้วผู้หญิงสามารถถึงจุดสุดยอดได้เพียงแค่ใช้นิ้วลูบไล้ภายนอก โดยเฉพาะคลิตอริสที่เป็นจุดกระตุ้นอารมณ์ ถ้าสาวๆ เขาไม่อยากให้สอดนิ้วเข้าไป คุณก็สามารถหยอกล้อกับภายนอกจนเธอสำเร็จความใคร่ได้เหมือนกัน

เคล็ดลับความสุขบนเตียงยังมีให้คู่รักตามอ่านอีกมากมาย กดไปอ่านกันได้เลย

ภาพจาก : Pexels.com

ซูมดูชุดเจ้าสาวสายหวาน “รถเมล์ คะนึงนิจ” ควงแฟนหนุ่มเข้าพิธีหมั้นสไตล์โมเดิร์นไชนีส

สละโสดไปอีกคู่แล้วจ้ากับพิธีกร – นักแสดงสาวมากฝีมือ “รถเมล์ – คะนึงนิจ จักรสมิทธานนท์” กับแฟนหนุ่มนอกวงการ “คุณบอล สุเมธ” โดยพิธีหมั้นและพิธียกน้ำชาจัดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 พฤศจิกายน 2563) ณ บ้านปาร์คนายเลิศ ชุดเจ้าสาว รถเมล์ คะนึงนิจ

ตามไปดูชุดเจ้าสาวของ “รถเมล์ คะนึงนิจ” สวย 2 ลุค 2 สไตล์

พิธีเช้าได้ฤกษ์ดีเริ่มเคลื่อนขบวนขันหมากเวลา 7:00 น. ก่อนเจ้าบ่าวในชุดสูทสีเทาจะมาพบกับด่านกั้นประตูเงินประตูทอง และผ่านไปรับเจ้าสาวที่ปรากฎตัวในชุดเดรสสีขาวคอจีน พิเศษที่การปักลวดลายตรงปกสวยงาม ตัวเสื้อสไตล์คอร์เซ็ตเข้ารูปเน้นส่วนเว้าช่วงเอว ส่วนกระโปรงสั้นทรงเอไลน์ สวย เรียบ แต่แฝงความหรูหราให้เจ้าสาวดูงามสง่า ฝีมือการออกแบบจากดีไซเนอร์แบรนด์ดัง Poem

ต่อด้วยงานเลี้ยงฉลองกับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน โดยเจ้าสาวมาในชุดเดรสไหล่เดี่ยวซ่อนความเซ็กซี่เบาๆ แถมด้วยรายละเอียดผ้าลูกไม้ซีทรูข้างลำตัวด้านขวา ต่อชายกระโปรงด้านหลังเพิ่มลุค Elegant ให้เจ้าสาวสวยเพอร์เฟ็กต์สมกับเป็นนางเอกของงาน โดยชุดนี้จากแบรนด์ Asava

เจ้าสาวและเจ้าบ่าวป้ายแดงยังเผยอีกว่า ธีมงานวันนี้เป็นสไตล์โมเดิร์นไชนีส ตกแต่งสถานที่ด้วยผ้าโทนสีฟ้า น้ำเงิน จัดพิธีแห่ขั้นหมาก พิธีหมั้น และยกน้ำชา อย่างเรียบง่ายอบอุ่นภายในครอบครัว และจะมีการจัดงานฉลองมงคลสมรสอีกครั้งวันที่ 19 ธันวาคมนี้ ณ เขาใหญ่ ในธีมปาร์ตี้โบฮีเมียน เน้นเป็นการฉลองและความสนุกสนานมากกว่า อย่างไรก็ตาม โมเมนต์วันนี้ขอยกให้ช็อตเจ้าบ่าวคุกเข่าให้สัญญา 3 ข้อว่า จะรักและดูแลตลอดไป จะไม่มีผู้หญิงคนอื่น และจะทำให้รถเมล์เป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุด หวานซึ้งสุดๆ ไปเลยจ้า

แพรวเวดดิ้งขอแสดงความยินดีกับความรักของทั้งคุณรถเมล์และคุณบอลด้วยนะคะ

ขอบคุณภาพจาก : IG @rodmayaloha, FB Rodmayaloha – รถเมล์ คะนึงนิจ, IG @lindsay_megic, IG @polpatasava

เสิร์ฟความหวาน พร้อมตามดูชุดแต่งงานช่วงเย็นของบ่าวสาว “ตูน – ก้อย” สวย หล่อ ปังมาก!

ได้ฤกษ์ลั่นระฆังรักอีกคู่แล้วจ้า วันนี้เจ้าบ่าวหนุ่มร็อค “ตูน – อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ “ตูน บอดี้สแลม” กับแฟนสาวนักแสดงมากความสามารถ “ก้อย – รัชวิน วงศ์วิริยะ” จูงมือกันเดินเข้าพิธีวิวาห์ ณ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็กชั่น โฮเทล โดยในตอนเช้าเป็นพิธีสงฆ์และพิธีแต่งงานแบบไทย ตามมาด้วยงานแถลงข่าวซึ้งๆ และพิธีฉลองมงคลสมรสในช่วงเย็น ชุดแต่งงาน ตูน – ก้อย

ตูน – ก้อย สละโสด เจ้าบ่าวหล่อมาดร็อค เจ้าสาวสวยหวานใน ชุดแต่งงาน จาก 2 แบรนด์ดัง

ต้องบอกเลยว่า งานวันนี้เจ้าสาวคนสวย “ก้อย รัชวิน” ปังสุดหยุดไม่อยู่ เพอร์เฟ็กต์ทุกลุค ทั้งพิธีในช่วงเช้ากับ ชุดเจ้าสาว 2 ลุค 2 สไตล์ แล้วต่อด้วยความสวยสง่าในช่วงแถลงข่าวและพิธีฉลองมงคลสมรสตอนเย็นที่จัดขึ้นในธีมสวนสนุก

ในช่วงแถลงข่าว เจ้าสาวปรากฏตัวในชุดของแบรนด์ดัง “Asava” ด้วยฝีมือดีไซเนอร์แนวหน้าของไทย “หมู – พลพัฒน์ อัศวประภา” หรือ “หมู อาซาว่า” ผู้รังสรรค์ชุดแต่งงานอันงดงามของสาวก้อย ช่วงบนเป็นเนคไลน์แบบคล้องคอ เว้าหลังเผยความเซ็กซี่ของเจ้าสาวเบาๆ ปักลวดลายสีเงินสวยงามไล่ลงมาจนถึงระดับสะโพก แล้วจึงเป็นช่วงกระโปรงพองออก ยิ่งดูยิ่งสวย ส่วนเจ้าบ่าวมาแนวเข้มๆ กับสูททักซิโด้สีกรมท่า

ต่อกันด้วยงานฉลองในธีมสวนสนุกสีสันสดใส เพื่อนพ้องในวงการบันเทิงแต่งตัวจัดเต็ม แต่ยังต้องยอมให้ความงดงามของเจ้าสาวที่เปิดตัวในชุดแต่งงานแบบเกาะไหล่แขนยาว ปักคริสตัลระยิบระยับ และกระโปรงยาวกรุยกรายจากแบรนด์ Meshmuseum พร้อมควงคู่เจ้าบ่าวตูนที่เปลี่ยนมาเป็นสูททักซิโด้สีขาว หล่อ เนี้ยบสุดๆ

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งคู่รักดาราที่หลายคนเฝ้ารอชมและแสดงความยินดี วันดีๆ แบบนี้ขอให้ทั้งคู่มีความสุขมากๆ นะคะ

ตามไปดูชุดสวยๆ ของเจ้าสาวก้อยต่อได้เลยจ้า

ขอบคุณภาพจาก : Praew.com, IG @polpatasava, IG @alexandul, IG @mukiies, IG @kawinwong #koytoonwedding

ชวนดูดีเทล ชุดเจ้าสาว “ก้อย รัชวิน” 2 ลุค 2 สไตล์ สวยหวาน เรียบหรู ดูดี ในพิธีเช้า

ถึงวันสละโสดแล้วจ้า “ตูน – อาทิวราห์ คงมาลัย” หรือ พี่ตูน บอดี้สแลม และ “ก้อย – รัชวิน วงศ์วิริยะ” ที่ได้ฤกษ์ดีเช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน 2563 จัดงานวิวาห์ ณ The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok งานนี้มีเพื่อน พี่ น้อง ในวงการบันเทิงมาร่วมแสดงความยินดีและอวยพรบ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ชุดเจ้าสาวของ “ก้อย รัชวิน”

ซูมดู ชุดเจ้าสาวของ “ก้อย รัชวิน” สวยหรู เรียบง่าย ปังสุดทุกดีเทล

โดยเช้าวันนี้เป็นพิธีแต่งงานแบบไทย เริ่มต้นด้วยการทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาว ตามด้วยขบวนแห่ขันหมากที่ตูน บอดี้สแลมโชว์สเต็ปมูนวอล์กและร้องเพลงรักเมีย ต่อด้วยพิธีสวมแหวนหมั้น และพิธีรดน้ำสังข์

ขอบอกเลยว่าวันนี้เจ้าสาวสวยมาก ด้วยสไตล์การแต่งหน้าจากฝีมือเมคอัพอาร์ทติสตัวแม่ของวงการ “ป้อม วินิจ” ที่เสกความงามสไตล์เรียบโก้ และทรงผมเกล้ามวยต่ำ เก็บเรียบทางด้านหน้า สวยแบบหรูๆ จากปลายหวีของช่างผมแถวหน้า “ดุล – ณศิษฏ์ วันขวัญ”

ตามไปส่องดีเทลชุดเจ้าสาวทั้ง 2 ลุคในเช้าวันนี้กันดีกว่า ชุดแรกในพิธีสงฆ์จากแบรนด์ Meshmuseum เป็นชุดไทยประยุกต์ ตัดเย็บจากผ้าไหมไทยสีขาว พิเศษสุดๆ กับการปักด้ายทองเป็นรูปดอกทานตะวันช่วงปลายผ้านุ่ง พร้อมสายสะพายสีฟ้าแนวโมเดิร์น พ่องออกเล็กน้อยตรงไหล่ซ้าย

ลุคที่สองสำหรับพิธีหมั้นและรดน้ำสังข์ เห็นแล้วร้องว้าวเลยจ้า เพราะสาวก้อยสวยปังด้วยชุดแต่งงานสีขาวจากแบรนด์ POEM ช่วงบนเป็นเสื้อคอกลมแขนยาว เน้นช่วงเอวด้วยการเย็บเข้ารูป ส่วนกระโปรงแบบหน้าสั้นหลังยาวทรงบอลกาวน์ เพิ่มดีเทลให้ดูยิ่งสวยด้วยกระดุมแถวกลางหลัง และประดับกลีบดอกไม้สีขาวไม่มากไม่น้อยแต่ดูรวมๆ แล้ว สวย หรู ดูแพง!

สำหรับเจ้าบ่าวมาดร็อก วันนี้มาในชุดสูทโทนสีอบอุ่น โดยในพิธีสงฆ์คุณตูนเลือกชุดสูทสีเบจติดเน็กไทสีเทา ส่วนชุดในพิธีแห่ขันหมากเป็นสูททักซิโด้สีครีมและเน็กไทสีแดง บอกเลยว่าสองลุคนี้ของพี่ตูนยิ่งดูยิ่งหล่อ ให้ลุคหนุ่มร็อกที่ดูอบอุ่นใจ แพรวเวดดิ้งขอแสดงความยินดีกับทั้งคู่ด้วยนะคะ

ชุดเจ้าสาวของ "ก้อย รัชวิน"

ชุดเจ้าสาวของ "ก้อย รัชวิน" ชุดเจ้าสาวของ "ก้อย รัชวิน"

ชุดเจ้าสาวของ "ก้อย รัชวิน"

แพรวเวดดิ้งชวนย้อนดูชุดสวยๆ ในวันรับน้ำพระพุทธมนต์จากสมเด็จพระสังฆราช >>>

 “ก้อย รัชวิน” งามอย่างไทยในชุดไทยบรมพิมาน มูลค่ากว่า 300,000 บาท

ขอขอบคุณภาพบรรยากาศน่ารักๆ จาก : Rachwin’s Family, IG @rachwinwong, IG @alexandul, IG @sean_poem, #koytoonwedding

Bridal Treatment & Cosmetic Surgery ไทม์ไลน์เจ้าสาว สายจัดเต็ม

ครั้งเดียวในชีวิตนะที่รัก ใครๆ ก็อยากสวยที่สุดในชุดเจ้าสาวกันทั้งนั้น เพราะอย่างนี้สิ่งที่มักผุดขึ้นในความคิดเดียวของเจ้าสาวยุคใหม่ คือ เราจะเข้าคลีนิคทำทรีตเม้นท์อะไรให้ดูสวยพิเศษที่สุด ไทม์ไลน์เจ้าสาว

แจก ไทม์ไลน์เจ้าสาว เตรียมตัวสวย เสริมตรงไหน ฉีดอะไรให้ทันก่อนวันแต่ง

ไทม์ไลน์เจ้าสาว ที่ดี จะทำให้คุณมีเวลาแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด จะทำให้เจ้าสาวมีความมั่นใจ ไม่กดดัน ไม่มัวนอยด์กับเรื่องความสวยใดๆ พร้อมฉายออร่าสวยกระแทกตาในวันสำคัญของชีวิต

1 YEAR : Rhinoplasty เสริมจมูก

บอกเลยว่างานเสริมจมูกเป็นอย่างแรกๆ ที่จะทำให้ว่าที่เจ้าสาวดูสวยขึ้นผิดหูผิดตาได้มากที่สุด เพราะมีความเปลี่ยนแปลงเยอะเป็นศูนย์กลางของใบหน้า จึงแนะนำให้บอกกล่าวปรึกษาหารือกับว่าที่เจ้าบ่าวเสียก่อน เพราะเรื่องศัลยกรรมเป็นความชอบเฉพาะตัว ที่หลายคนอาจมีทัศนคติความเห็นที่แตกต่าง เคลียร์เรื่องนี้ให้จบเพื่อความสบายใจในช่วงพักฟื้น

จมูกจะเห็นรูปทรงอย่างที่ควรจะเป็นต้องใช้เวลาราว 6 เดือน ไหนจะเผื่อถ้าไม่ชอบใจจริงๆ ต้องการแก้ไขอีก เพราะฉะนั้นสำหรับการเสริมสวยที่ต้องผ่าตัดแนะนำว่า ระยะเวลา 1 ปีน่าจะเป็นเวลาที่พอดีสำหรับเจ้าสาว

Do’s : ถามเรื่องการปฏิบัติตัวหลังผ่าตัดอย่างละเอียดและทำตามอย่างเคร่งครัดที่สุด นอนหมอนสูงในระยะแรก งดออกกำลังกาย ประคบเย็น/ร้อน ใช้สำลีเช็ดทำความสะอาดอย่างไรทำให้เคร่งครัด แนะนำว่าอย่าซ่ามากในช่วงพักฟื้นแม้จะบอกว่าไม่เห็นเจ็บ แต่ควรอยู่นิ่งๆ ทำกิจกรรมน้อยๆ อยู่ในอากาศที่เย็นสบายถ่ายเทโดยเฉพาะในสัปดาห์แรก แนะนำการกินสมุนไพรจีนลดบวมช้ำอย่าง ‘หยุนหนานไป๋เหยา’ ที่สายศัลยกรรมเขานิยมกันเพื่อการเข้าที่อันรวดเร็ว

Don’t : เมื่อถึงเวลาแกะเฝือกจมูกออกเห็นผลลัพธ์ในครั้งแรก ขอให้ทำใจร่มๆ อย่าเพิ่งโทรไปวีนคุณหมอเพราะจมูกยังบวมจัดและยังต้องเปลี่ยนไปอีกมาก อยากสวยต้องใจเย็น อย่าเพิ่งเสียสุขภาพจิต หรือนึกไปถึงเรื่องการแก้ไข ท่องไว้ว่านี่ไม่ใช่ผลลัพธ์สุดท้ายที่จะได้

1 YEAR : หน้าอก Breast Surgery

การเสริมหน้าอกใช้เวลาหยุดงานนานกว่าใครเพื่อนคือ 1-2 สัปดาห์ แถมว่าที่เจ้าสาวยังต้องหยุดกิจกรรมหนักๆ ไปอีก 3-6 เดือน จึงแนะนำให้เผื่อเวลาเข้าที่ไม่ต่ำกว่า1 ปี เพื่อทิ้งเวลาให้รอยแผลเป็นที่เกิดจากการผ่าตัดจางลงไปจะได้สวยเนียนสมใจ

Do’s : ว่าที่เจ้าสาวที่ตั้งใจว่าแต่งงานแล้วจะมีเบบี๋ ขอให้ปรึกษาคุณหมอเรื่องการให้นมบุตรให้ดี เพราะการเสริมหน้าอกนั้นขนาดและประเภทของการเสริมมีผลต่อการให้นมของคุณแม่ด้วย

Don’t : อย่าได้เผลอเฮี้ยนไปเสริมหน้าอกหลังจากที่ชุดแต่งงานในฝันนั้นเสร็จสมบูรณ์แล้วเชียว รับรองว่าแก้กันเหนื่อยหอบ แถมขนาดหน้าอกยังมีผลต่อการเลือกดีไซน์ของชุดที่สวยเหมาะสมอีกด้วย

8 MONTHS : ดูดไขมัน และ กำจัดขน

สำหรับเจ้าสาวมีแพลนจะดูแลตัวเองให้เป็นภรรยาที่สวยเซียะยาวๆ อยู่แล้ว ก็จัดไป โดยทั่วไปใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 2 สัปดาห์ และจะเห็นผลดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะเนื้อเยื่อต่างๆ จะทำการรีเซ็ตตัวเองใหม่ตลอดระยะเวลา 6-8 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่ควรทำอะไรหักโหม ออกกำลังกายเบาๆ หรือเล่นโยคะเพื่อเป็นการช่วยกระชับนั้นพอได้ เพราะฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวจึงควรเผื่อเวลาไม่ต่ำกว่า 8 เดือนสำหรับการดูดไขมัน เพราะอย่าลืมว่าร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน 

Do’s : เคร่งครัดกับการต้องใส่ชุดกระชับสัดส่วนหลังการดูดไขมันตลอดระยะเวลา 1-2 เดือน เพราะจะช่วยให้ช่องว่างระหว่างชั้นผิวที่เกิดจากการดูดไขมันนั้นเนียนกระชับเข้ารูปตามต้องการ 

Don’t : อย่าได้นัดตารางการแจกการ์ด พบปะผู้ใหญ่เพื่อนฝูงในช่วงหลังการดูดไขมันใหม่ๆ เพราะการเดินทางแม้แต่การนั่งรถนานๆ โดยไม่หยุดพักเป็นเรื่องต้องหลีกเลี่ยง

ส่วนการ กำจัดขน ถึงแม้จะไม่ใช่ทรีทเม้นท์ที่ฮาร์ดคอร์อะไร แต่ที่แนะนำให้เริ่มทำก่อนถึง 8 เดือน นั่นเพราะการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ไม่ใช่ทำครั้งเดียวจบ แต่ต้องมาทำซ้ำทุก 4-6 สัปดาห์ ในระยะแรกจนกว่าขนจะบางและหายไปเองในที่สุด 

Do’s : ทำการบ้านในการเลือกคลีนิคที่ได้มาตรฐานและเชี่ยวชาญการกำจัดขนอย่างจริงจัง และการเลือกชนิดของเทคโนโลยีการกำจัดขนให้เหมาะกับลักษณะเส้นขนและสีผิว 

Don’t : อย่าได้ตั้งเป้าหมายว่าทำครั้งเดียวจบ ควรตั้งบัดเจ็ตเผื่อไว้เลยเพราะการกำจัดชนด้วยเลเซอร์ต้องทำซ้ำและใช้เวลา

เตรียมตัว เตรียมเอกสาร ก่อนเดินเข้าธนาคาร กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน

คู่รักหลายคู่ พอถึงเวลาก็อยากช่วยกันสร้างเนื้อสร้างตัว มีอสังหาริมทรัพย์ไว้เป็นของตัวเองสักหลัง หลายคนจึงนึกถึงวิธี “กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน” จะได้ช่วยกันผ่อน ไม่หนักเป็นภาระคนใดคนหนึ่ง วันนี้ แพรวเวดดิ้ง เลยมีความรู้เบื้องต้นสำหรับการเตรียมตัวเพื่อยื่นกู้มาฝาก

เตรียมตัวคู่รัก ยื่นเอกสาร กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน

กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน
Photo by Tierra Mallorca on Unsplash

ขอบอกเป็นความรู้เบื้องต้นก่อนว่า ตอนนี้คู่รักที่สามารถกู้ซื้อบ้านร่วมกันได้มีอยู่ 3 กลุ่ม คือ

  1. สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย
  2. คู่รักที่แต่งงานอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
  3. คู่รักเพศเดียวกัน (LGBTQ)

โดยผู้ที่ต้องการกู้ร่วมจะต้องมีอาชีพและรายได้มั่นคง บรรลุนิติภาวะ และไม่ติดเครดิตบูโร คราวนี้ไปดูกันว่า คนแต่ละกลุ่ม ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างสำหรับการยื่นกู้กับธนาคาร

กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน
Photo by Cleyder Duque from Pexels

กลุ่มที่ 1 สามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย

เอกสารที่ต้องเตรียมหลักๆ คือ เอกสารส่วนตัวของคนทั้งคู่ ดังนี้

  • บัตรประชาชน
  • ทะเบียนบ้าน
  • ใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล
  • ทะเบียนสมรส
  • เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน เช่น ใบรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน, Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
  • กรณีรับค่าจ้างเป็นเงินสด ต้องยื่นหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย (50 ทวิ) และ หลักฐานการเสียภาษี
  • กรณีมีธุรกิจส่วนตัว ต้องยื่นทะเบียนการค้า, ทะเบียนพาณิชย์, Statement ย้อนหลัง 12เดือน, บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี, หลักฐานการเสียภาษี
  • เอกสารจำเป็นอื่นๆ ตามแต่ละธนาคารกำหนด
กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน
Photo by Gustavo Fring from Pexels

กลุ่มที่ 2 คู่รักที่แต่งงานอยู่ด้วยกัน แต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส

สำหรับคู่รักที่แต่งงานอยู่ด้วยกัน แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็สามารถทำธุรกรรมกู้ร่วมกันได้ โดยต้องเตรียมเอกสารส่วนตัวตามข้อแรก และเตรียมหลักฐานอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อแสดงว่าเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ดังนี้

  • ภาพถ่ายงานแต่งงาน
  • กรณีมีบุตร สามารถใช้ “ใบสูติบัตร” และ “ทะเบียนบ้านของบุตร” ที่มีชื่อของผู้กู้ร่วมระบุไว้ว่าเป็นบิดามารดา
กู้ซื้อบ้านร่วมกับแฟน
Photo by Chrysostomos Galathris from Pexels

กลุ่มที่ 3 คู่รักเพศเดียวกัน (LGBTQ)

ข้อนี้ต้องขอแสดงความยินดีกับคู่รักเพศเดียวกันในไทย เพราะคณะรัฐมนตรีผ่านร่างพ.ร.บ คู่ชีวิตแล้ว คราวนี้เหลือแค่รอประกาศเป็นกฎหมายบังคับใช้ในขั้นตอนต่อไป ถึงแม้ว่าจะยังไม่ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ แต่หลายธนาคารก็อนุญาตให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถยื่นกู้ร่วมกันได้แล้ว โดยให้เตรียมเอกสารส่วนตัวเหมือนกับข้อแรก และมีเอกสารเพิ่มเติมดังนี้

  • รูปภาพเพื่อยืนยันว่าเป็นคู่รักกันจริงๆ
  • ทะเบียนบ้านที่มีชื่อทั้งสองคน เพื่อยืนยันว่าอาศัยอยู่ด้วยกันจริงๆ
  • ต้องเซ็นเอกสารรับรองการอยู่ร่วมกันของทางธนาคาร
  • เอกสารในการกู้ซื้อทรัพย์สินอื่นร่วมกัน เช่น รถยนต์ (ถ้ามี)
  • เอกสารยืนยันการทำธุรกิจร่วมกัน (ถ้ามี)
  • ต้องเซ็นในใบสมัครสินเชื่อบ้านว่ามีความสัมพันธ์เป็นคู่รักกับผู้กู้หลัก

ทั้งนี้ ธนาคารอาจให้แสดงเอกสารอื่นๆ และพิจารณาคุณสมบัติเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคารกำหนด

Photo by Gustavo Fring from Pexels

นอกจากเอกสารส่วนตัวที่คู่รักต้องเตรียมแล้ว ยังมีเอกสารแสดงรายละเอียดหลักทรัพย์ที่จะขอวงเงินกู้ เช่น เอกสารโฉนดที่ดิน, หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด, แผนที่ตั้งและรูปถ่ายอสังหาริมทรัพย์, สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย และใบอนุญาตปลูกสร้าง

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เรื่องกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินก็เป็นเรื่องสำคัญที่คู่รักต้องตกลงกันให้ดี เพราะปกติแล้ว ธนาคารจะให้คุณเลือกว่าจะใส่ชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์แค่คนเดียว หรือใส่ชื่อคู่รักเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลในอนาคตหากมีการเลิกรา ซื้อขายอสังหาฯ รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง

หากคู่รักคู่ไหนกำลังตัดสินใจอยากกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านสักหลัง คงต้องเตรียมตัวและเตรียมเอกสารให้ดี เวลาไปคุยกับธนาคารจะได้ราบรื่น ไม่ติดขัด และสามารถตามไปอ่านวิธีเลือกซื้อเรือนหอและการวางแผนต่อได้ที่ >>> วางแผนให้เป๊ะตามนี้ พร้อมข้อควรรู้ก่อนคิดวางเงินเตรียมซื้อเรือนหอ

ภาพจาก : Pexels.com

ความเชื่อเรื่องฤกษ์ยาม โบราณว่าไว้ 5 วันนี้ ห้ามจัดงานแต่ง!

คนไทยเรามีความเชื่อเรื่องฤกษ์งามยามดีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ จะจัดงานมงคลแต่ละครั้งต้องดูวันและเวลาที่เหมาะสม และที่สำคัญ เลี่ยงวันอัปมงคล โดยเฉพาะใครที่กำลังจะแต่งงานเริ่มต้นชีวิตใหม่ ต้องดูให้ดีว่าฤกษ์ที่ได้มาตรงกับ 5 วันนี้ ห้ามจัดงานแต่ง หรือไม่ ถ้าอยากรู้ว่ามีวันไหนบ้าง ตามอ่านเลย! *โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

ว่าที่บ่าวสาวต้องเช็ก 5 วันนี้ ห้ามจัดงานแต่ง

5 วันนี้ ห้ามจัดงานแต่ง
Photo by Estée Janssens on Unsplash

1. วันพุธ ช่างโลเล ไม่มั่นคง 

สาเหตุที่โบราณห้ามคนจัดงานแต่งวันพุธเนื่องจากว่า ในทางโหราศาสตร์ “ดาวพุธ” เป็นดาวที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ วงโคจรไม่คงที่ บางครั้งช้า บางครั้งเร็ว ปรับเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา และเชื่อกันว่า คุณสมบัติด้านเสียของดาวพุธคือ ความโลเล กลับไปกลับมา คนโบราณจึงไม่นิยมให้บ่าวสาวแต่งงานในวันนี้ เพราะกลัวว่าจะมีใครคนใดคนหนึ่งเปลี่ยนใจจากคนที่รัก และเลิกรากันในที่สุด

2. วันเสาร์ วันทุกข์โทษ 

นักโหราศาสตร์อุปมาให้ดาวเสาร์ คือ ความอึดอัด จากลักษณะของวงแหวนที่ล้อมกรอบดวงดาวไว้ และยังนิยามให้เป็นตัวแทนของความทุกข์และการพลัดพราก หากจัดงานวิวาห์ในวันนี้ จะทำให้ชีวิตคู่มีแต่ความทุกข์ ในขณะเดียวกัน คนโบราณก็ถือว่าวันเสาร์เป็นวันแข็ง เหมาะกับการทำพิธีปลุกเสกเครื่องรางของขลังมากกว่า

3. วันพฤหัสบดี วันแห่งครู และการเรียนรู้ 

โบราณว่าไว้ วันพฤหัส คือ “วันฤๅษี” หรือ “วันครู” เป็นวันสำหรับการถ่ายทอดวิชาความรู้ ถือเป็นวันเริ่มต้นการศึกษา มากกว่าจะเป็นวันเริ่มต้นชีวิตคู่ หรือนัยหนึ่งตามพุทธศาสนาถือว่า ฤๅษี คือพระหรือนักบวช ควรเป็นวันแห่งการบำเพ็ญเพียรตบะ ถือศีล ละทางโลกและกามารมณ์ จึงควรงดเรื่องของผัวเมียในวันนี้

5 วันนี้ ห้ามจัดงานแต่ง
Photo by Charles Deluvio on Unsplash

4. วันพระ เข้าวัด ถือศีล ห้ามแต่ง!

วันพระ ผู้หลักผู้ใหญ่สมัยก่อนถือว่าเป็น “วันศีล” ให้เข้าวัดฟังธรรม ละกิเลส และถือศีล 8 ซึ่งมีข้อห้ามมิให้ชายหญิงหลับนอนร่วมกัน อีกทั้งในสมัยก่อน เวลาจัดงานแต่งจะนิยมจัดกันตอนเช้า หากเป็นวันพระ คนส่วนใหญ่จะไปทำบุญที่วัดแต่เช้า บ้านไหนจัดงานวิวาห์ ทำให้ชาวบ้านต้องมาร่วมงานจนไม่ได้ไปทำบุญ ก็ถือว่าเป็นการขัดบุญของผู้อื่น

5. วันอุบาทว์ ไม่เป็นมงคล ห้ามแต่ง!

ในปฏิทินทางโหราศาสตร์ไทย จะมีกำหนดวันอุบาทว์และวันโลกาวินาศไว้ทุกปี แต่ละปีจะไม่ตรงกัน ซึ่งคนไทยโบราณเห็นว่าไม่ควรทำการมงคลใดๆ ซึ่งสามารถเช็กวันอุบาทว์และวันโลกาวินาศได้จากปฏิทินแบบไทย (ปฏิทินฉีก) หรือติดตามข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ได้เช่นกัน

หากเป็นสมัยก่อน เรื่องฤกษ์วันแต่งงานคงถือกันเป็นเรื่องหนักหนาสำคัญ ได้ฤกษ์ดีแล้วยังต้องดูเพิ่มอีกว่า ตรงกับวันห้ามแต่งหรือไม่ แต่ในปัจจุบันนี้ บ่าวสาวส่วนใหญ่ถือเอาฤกษ์สะดวกเข้าว่า เพราะถ้ามัวแต่กังวลว่าวันนี้ไม่ได้ วันนั้นก็ห้าม คงจะไม่ได้แต่งกันพอดี เอาเป็นว่าใครอยากเชื่อฤกษ์ดวงวันดีก็ได้ แต่ถ้าใครไม่ถือก็เลือกวันสะดวกและเหมาะสมไปเลยจ้า

ยังมีเรื่องข้างขึ้นข้างแรมที่ต้องดูประกอบกับวันแต่งงานด้วยว่าจัดงานวิวาห์ได้หรือไม่ ตามไปอ่านกันได้เลย >>> โปรดใช้วิจารณญาณในการชม!! กับ 8 ความเชื่อฤกษ์ยามห้ามแต่ง!

ภาพจาก : Unsplash.com

10 เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด

เรื่องของเพศสัมพันธ์ก็เหมือนจักรวาลมาเวลส์ที่มีอะไรให้รอค้นหาอยู่มากมาย อย่างเช่น 10 เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด มากว่าครึ่งชีวิต วันนี้ แพรวเวดดิ้ง จะเฉลยข้อเท็จจริงให้ทุกคนถึงบางอ้อ

10 เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด มาทำความเข้าใจให้ถูกต้องกันดีกว่า

Photo by Dainis Graveris on Unsplash

 1. ขนาดของผู้ชาย เล็ก ใหญ่ คือเรื่องสำคัญ… NO!

เรื่องนี้ติดอันดับท็อปที่ต้องทำความเข้าใจกันใหม่ “ไซส์ของเจ้าหนู” อาจมีผลต่อจิตใจของชายหญิงบางคน แต่ไม่ใช่กับทุกคนแน่นอน มีงานวิจัยออกมาแล้วว่า ขนาดของอวัยวะเพศชายโดยทั่วไป (และส่วนใหญ่ทั่วโลก!) อยูที่ 5 – 6 นิ้ว ในขณะที่อวัยวะของเพศหญิงอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 นิ้วเท่านั้น รู้แบบนี้แล้วลองคิดดูสิว่า ชายหนุ่มที่พยายามอัพไซส์ให้ใหญ่โต เวลาสอดใส่ในที่แคบของผู้หญิงจะทำให้หญิงสาวเจ็บจุกมากกว่าฟิน (ถึงแม้ว่าน้องสาวของผู้หญิงจะขยายได้อีกก็เถอะ แต่ไม่ได้แฮปปี้ขนาดนั้น!)

การศึกษาพบว่า ผู้ชายที่มีความปรารถนาให้ “คอล่าง” มีขนาดใหญ่ มักจะเป็นการตอบสนองทางจิตใจและตัวตนในสังคมหมู่เพื่อนเสียมากกว่า ซึ่งพอลงสนามจริง ความบิ๊กเบิ้มอาจไม่มีผลถ้าลีลารักคุณไม่เด็ด หญิงสาวไม่มีทางขึ้นสวรรค์ แต่ถ้าขนาดธรรมชาติพอตัวแล้วสามารถทำให้สาวๆ อ่อนระทวยได้ แบบนั้นถึงจะได้แต้มเต็มสิบ

2. มีอะไรกันในอ่างน้ำ หรือ ในท่ายืน แล้วจะไม่ท้อง!

ข้อนี้ว้าวมาก เพราะมีคนหลงเชื่อแบบนั้นจริงๆ! คุณผู้หญิงผู้ชายทั้งหลาย จำไว้นะคะว่า “ไม่มีการคุมกำเนิดแบบไหนที่ได้ผล 100% ” ขนาดทำหมันแล้วยังมีสิทธิ์ตั้งครรภ์ได้เลย รวมไปถึงการหลั่งนอกแบบปุ๊บปั๊บดึงออกด้วยเช่นกัน ไม่สามารถป้องกันอสุจิวิ่งไปหาไข่ได้นะคะ!

เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด
Photo by Joshua Rawson-Harris on Unsplash

3. เซ็กส์ที่ดีต้องเร้าร้อนเหมือนในหนังติดเรท

อันนี้สงสัยจะดูหนังมากไป! หญิงชายหลายคนมักคิดว่า เซ็กส์ที่ดีและทำให้คู่รักมีความสุข คุณจะต้องเชี่ยวชาญ ช่ำชอง หวือหวาได้ทุกท่าเหมือนในหนังโป๊ ซึ่งไม่จริงเลยค่ะ การมีเซ็กส์ที่ดีขึ้นอยู่กับรสนิยมและความชื่นชอบของแต่ละคน เพราะฉะนั้นคุณควรทำความรู้จักคู่รักให้มาก ว่าเขาและเธอชื่นชอบการกระทำแบบไหน สไตล์นุ่มนวลเอาอกเอาใจ หรือสไตล์เร่งเร้าร้อนแรง แล้วดำเนินกิจกรรมไปตามนั้น รับรองว่ามีความสุขมากกว่าทำตามหนังแน่นอน

4. ผู้หญิงต้องมีน้องสาวขาวอมชมพูเหมือนนางเอกเอวี

ผู้หญิงหลายคนวิ่งไปร้องไห้ในห้องน้ำแล้วนะคะข้อนี้! จริงๆ แล้วอวัยวะส่วนนั้นคือมรดกทางพันธุกรรมที่แม่ให้มา อยากให้ขาวอมชมพูน่ะ ในปัจจุบันก็พอเปลี่ยนแปลงได้ อาจจะไปเลเซอร์และเสริมความงามจุดซ่อนเร้นตามคลินิกที่เปิดให้บริการ แต่ถ้าจะให้กลีบเล็ก นิ่ม สั้น ดูเหมือนเด็กน้อย คุณคงต้องยอมลงทุนเสียเงินขึ้นขาหยั่งให้หมอลงมีดศัลยกรรมตัดแต่ง อย่างไรก็ตาม ถ้าการลงทุนทำศัลยกรรมเฉพาะจุดตอบโจทย์ชีวิตรักก็จัดไปโลด แต่ถ้าจะมาหวังให้หญิงสาวทุกคนเหมือนนางเอกในหนังหมดคงยากแล้วล่ะค่ะ

เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด
Photo by Malvestida Magazine on Unsplash

5. มีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ น้องสาวจะหย่อนคล้อย

เรื่องนี้เข้าใจผิดกันไปไกลมาก เพราะจริงๆ แล้ว อวัยวะเพศของหญิงสาวเป็นมัดกล้ามเนื้อที่ยืดหยุ่นได้ และมัดกล้ามเนื้อจะไม่ย้วยง่ายๆ ปัจจัยที่ทำให้เป็นเช่นนั้นได้มีอยู่ 2 อย่าง คือ 1. ผู้หญิงที่ผ่านการคลอดบุตรมาแล้วหลายครั้ง และ 2. ผู้หญิงที่อายุมากและอยู่ในวัยหมดประจำเดือนที่ร่างกายสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอิลาสตินน้อยลง ส่งผลให้กล้ามเนื้อหย่อนคล้อยตามธรรมชาติ

6. ต้องแกล้งทำเป็นถึงจุดสุดยอดเพื่อเซ็กส์ที่ดี

เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ผู้หญิง แต่ผู้ชายส่วนใหญ่ก็ทำกันนะคะ! การแกล้งทำเป็นถึงจุดสุดยอดเพื่อบิ้วท์อารมณ์คู่รักให้มีความสุขเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำให้ทำ (โดยเฉพาะถ้าคุณไม่เต็มใจจะทำ) เพราะจะยิ่งทำให้ชีวิตรักแย่ลง หลายๆ คู่ทนทำสิ่งนี้มาตลอดโดยที่ไม่เคยเสร็จสมสักครั้ง ยิ่งนานวันไปยิ่งรู้สึกแย่ กลายเป็นว่าเวลามีอะไรกันแต่ละครั้งไม่เคยมีความสุขเลย แค่ทำให้ผ่านๆ ไป ส่งผลกับจิตใจในระยะยาว แนะนำว่าให้เปิดใจคุยกับคู่รักดีกว่าว่ามีตรงไหนพลาดไป และจะช่วยกันแก้ไขอย่างไรให้เราทั้งคู่มีความสุขพร้อมกัน

เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด
Photo by Dainis Graveris on Unsplash

7. การออรัลเซ็กส์ปลอดภัยกว่าและไม่ต้องใช้ถุงยางก็ได้

จริงๆ แล้วการใช้ปากเพื่อสำเร็จความใคร่ให้คู่นอนไม่ได้ปลอดภัยอย่างที่หลายคนคิดกัน เพราะคุณยังมีโอกาสเสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกโรค ทั้ง HIV ซิฟิลิส หนองใน โดยเฉพาะถ้าคุณมีแผลในช่องปากก็ยิ่งเสี่ยงหนักเข้าไปอีก และนี่คือเหตุผลที่แบรนด์ถุงยางอนามัยทำออกมาหลายกลิ่นหลายรสชาติ อย่าลืมใช้แม้จะทำแค่ออรัลเซ็กส์

8. ผู้หญิงเกลียดหนังโป๊

ผู้หญิงที่ไม่ชอบดูหนังโป๊มีจริง แต่ผู้หญิงที่ชอบดูหนังแบบนี้ก็มีอยู่ไม่น้อยเช่นกัน เราไม่สามารถเหมารวมได้ว่า ผู้หญิงเกลียดการดูหนังติดเรท และรับไม่ได้เวลาที่คู่รักจะเปิดหนังเป็นแบ็กกราวด์เวลาร่วมรัก แต่บางครั้งรสนิยมส่วนตัวแบบนี้ต้องเก็บไว้ในใจ บอกใครมากไปไม่ได้เพราะสภาพสังคมที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นปล่อยให้เป็นเรื่องในที่ลับระหว่างคนสองคนที่จะเปิดใจคุยกันถึงความชอบส่วนตัวเถอะ อย่าไปตัดสินจาก Stereotype ทั่วไปเลย

เรื่องเซ็กส์ที่หลายคนเข้าใจผิด
Photo by Charles Deluvio on Unsplash

9. BDSM เป็นพวกชอบความรุนแรง!

ความจริงคือ ชายหญิงที่ชื่นชอบเซ็กส์แบบ BDSM* ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นโรคจิต เป็นเพียงรสนิยมส่วนตัว และหลายคนเปิดใจกับคู่รักที่แม้จะไม่ได้ชอบเหมือนกันแต่ก็ให้เกียรติ มีการทำข้อตกลงระหว่างกันว่าขอบเขตอยู่ตรงไหน และที่สำคัญคือมี Safe Words ที่ใช้เมื่อต้องการให้คู่รักหยุดการกระทำ อย่าไปยึดติดภาพในหนังว่าผู้ถูกกระทำจะต้องถูกพันธนาการอย่างทรมาน จริงๆ แล้วคือการแสดงบทบาทที่สุขสมกันทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม มีคนส่วนน้อยที่เข้าข่ายเสพติดความรุนแรงและมีลักษณะอาการทางจิตเภท ซึ่งต้องเข้ารับการรักษาจากจิตแพทย์

10. เซ็กส์คือการสอดใส่เท่านั้น

รู้ไหมคะว่า เซ็กส์ไม่จำเป็นต้องมีการสอดใส่ก็เป็นเซ็กส์ได้ การลูบไล้จุดกระตุ้นตามร่างกายภายนอก เช่น คลิตอริสของผู้หญิง หรือ อัณฑะของผู้ชาย ก็สามารถทำให้สำเร็จความใคร่และกลายเป็นเซ็กส์ที่ดีได้เช่นกัน

*BDSM ย่อมาจาก Bondage (พันธนาการ), Dominance (การปกครอง) และ Discipline (การลงโทษ), Submission (การยอมจำนน) และ Sadism (การทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด), Mosochism (การมีความสุขหลังถูกทำให้เจ็บปวด) ซึ่งรสนิยมแบบ BDSM มักจะมีการใช้อุปกรณ์และแสดงบทบาทเพื่อเพิ่มความสนุกสำหรับคู่รัก ทั้งนี้เป็นเรื่องความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลที่จะต้องทำข้อตกลงกันเรื่องขอบเขตการกระทำ และความปลอดภัยของคู่รักที่ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

ยังมีอีกหลายเรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กส์ที่เราคิดว่าใช่ แต่ความจริงแตกต่างออกไป คราวหน้า แพรวเวดดิ้ง จะพาคุณไปเปิดจักรวาลความจริงเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงกันต่อ รอติดตามได้เลย >>> Love & Relationship

ภาพจาก : Unsplash.com

พ.ร.บ. คู่ชีวิต หนุ่มสาว Same Sex เขาได้สิทธิอะไรบ้าง ไปดูกัน

ความรักเป็นสิ่งที่เกิดได้กับคนทุกเพศทุกวัย เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีมีความเห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต ให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียนได้ และได้รับสิทธิในการใช้ชีวิตคู่ตามกฎหมายรับรองวันนี้ แพรวเวดดิ้ง เลยมาสรุปสาระสำคัญและสิทธิที่คู่ชีวิตเพศเดียวกันได้รับตาม พ.ร.บ. คู่ชีวิต ฉบับนี้

พ.ร.บ. คู่ชีวิต คู่รักเพศเดียวกัน จดทะเบียนได้แล้วพร้อมสิทธิต่างๆ ตามกฎหมาย

พ.ร.บ. คู่ชีวิต
Photo by Quino Al on Unsplash

ก่อนจะไปดูว่าพ.ร.บ. คู่ชีวิต ปี 2563 ให้สิทธิอะไรกับคู่รักเพศเดียวกันบ้าง ขอย้อนความไปจุดเริ่มต้นของร่งพ.ร.บ. นี้กันสักนิด จริงๆ แล้วการเรียกร้องพระราชบัญญัติฉบับนี้ทำกันมาหลายปี โดยร่างแรกเกิดขึ้นในปี 2556 ในสมัยรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ในช่วงนั้นมีเสียงทัดทานและไม่เห็นด้วยจำนวนมาก ทั้งฝั่งคนทั่วไปและแม้กระทั่งคู่รักเพศเดียวกันด้วย เหตุผลหลักมาจากสิทธิ์ที่กำหนดในตอนนั้นน้อยมาก อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพียงแค่การอนุญาตให้จดทะเบียนแต่แทบไม่ได้รับสิทธิ์ใดๆ เลย เช่น

  • ไม่สามารถรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงได้
  • ไม่สามารถเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเดียวกันได้
  • ไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเรื่องการรักษาพยาบาลของคู่รักได้
  • ไม่สามารถรับสวัสดิการจากรัฐของคู่รักได้
พ.ร.บ. คู่ชีวิต
Photo by Anna Shvets from Pexels

พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงถูกแก้ไขครั้งแล้วครั้งเล่า จนผ่านมากว่า 7 ปี ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต ปี 2563 (ร่างที่ 6) ก็ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และได้ให้คำนิยามคำว่า “คู่ชีวิต” ไว้ว่า

“คู่ชีวิต” หมายความว่า บุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกันโดยกำเนิด และได้จดทะเบียนคู่ชีวิตตาม พระราชบัญญัติ นี้

ซึ่งสาระสำคัญหลักในร่างพ.ร.บ ฉบับนี้จะทำให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถจดทะเบียน ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันและได้รับสิทธิ์ต่างๆ ตามกฎหมาย ดังนี้

  • กำหนดให้ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีตาม พระราชบัญญัติคู่ชีวิต
  • กำหนดให้การจดทะเบียนคู่ชีวิตจะทำได้ต่อเมื่อบุคคลทั้ง 2 ฝ่ายยินยอม มีอายุ 17 ปีบริบูรณ์ และทั้ง 2 ฝ่ายมีสัญชาติไทย หรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีสัญชาติไทย
  • กรณีผู้เยาว์จะจดทะเบียนคู่ชีวิต จะต้องได้รับความยินยอมจากบิดาและมารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม ผู้ปกครอง หรือ ศาล รวมทั้งกำหนดให้ผู้เยาว์ และบรรลุนิติภาวะเมื่อจดทะเบียนคู่ชีวิต
  • กำหนดให้คู่ชีวิตมีอำนาจจัดการแทนผู้เสียหาย เช่นเดียวกับสามีหรือภรรยา และมีอำนาจดำเนินคดีต่างผู้ตายต่อไป เช่นเดียวกับสามีภรรยา ตามประมวลกฎหมายพิจารณาความอาญา
พ.ร.บ. คู่ชีวิต
Photo by Anna Shvets from Pexels
  • กำหนดบทบัญญัติเกี่ยวกับทรัพย์สินระหว่างคู่ชีวิต โดยแบ่งเป็น สินส่วนตัว และสินทรัพย์ร่วมกัน
  • คู่ชีวิตสามารถรับบุตรบุญธรรมได้ รวมถึงการจดทะเบียนรับผู้เยาว์ ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของคู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่ง มาเป็นบุตรบุญธรรมของตนเองได้
  • เมื่อคู่ชีวิตฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต ให้คู่ชีวิตอีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิ์และหน้าที่เช่นเดียวกับคู่สมรส ตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยมรดก
  • กำหนดให้นำบทบัญญัติในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยคู่สมรส ครอบครัว และบุตรบุญธรรม มาใช้บังคับแก่คู่ชีวิตได้โดยอนุโลม
พ.ร.บ. คู่ชีวิต
Photo by Chrysostomos Galathris from Pexels

นอกจากสาระสำคัญข้างบนแล้ว ยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของคู่รักเพศเดียวกัน ดังนี้

  • กำหนดให้ชายหรือหญิงจะทำการสมรสในขณะที่ตนมีคู่สมรส หรือ คู่ชีวิตอยู่ไม่ได้
  • กำหนดให้เหตุผลฟ้องหย่า รวมถึงกรณีสามีหรือภรรยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันคู่ชีวิต
  • กำหนดให้สิทธิรับค่าเลี้ยงชีพในกรณีหย่าหมดไป ถ้าฝ่ายที่รับค่าเลี้ยงชีพสมรสใหม่หรือจดทะเบียนคู่ชีวิต

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าคู่รักที่มีความหลากหลายทางเพศจะสามารถจดทะเบียนคู่ชีวิตและได้รับสิทธิตามกฎหมายแล้ว แต่ยังคงได้รับสิทธิไม่เท่ากับคู่สมรส เนื่องจากว่ามีบางข้อในร่างพ.ร.บ. ที่เสนอไปตั้งแต่ต้นไม่ถูกอนุมัติ เช่น สิทธิการรับบุตรโดยการอุ้มบุญ สิทธิการเปลี่ยนไปใช้นามสกุลเดียวกัน สิทธิการรับสวัสดิการรัฐของคู่ชีวิต และสิทธิในการลดหย่อนภาษีจากการมีคู่ชีวิต ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่เทียบเท่ากับการจดทะเบียนสมรสระหว่างชายหญิงทั่วไป

การผ่านร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย และยังเป็นประเทศลำดับที่ 27 ของโลกที่ออกกฎหมายประเภทนี้อีกด้วย

ติดตามเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์ของคู่รักได้ที่ >>> Love & Relationship

ข้อมูลจาก : accesstrade.in.th, web.krisdika.go.th

Sex Toy เติมรสให้คู่รัก แต่อาจต้องพักก่อนเพราะเป็นของผิดกฎหมาย?

นิยามสั้นๆ ของ Sex Toy คือ อุปกรณ์ที่ใช้ผ่อนคลายอารมณ์ทางเพศ จะใช้คนเดียวเพื่อตอบสนองความต้องการของคนโสด หรือจะใช้เพิ่มความสนุกกับคู่รักก็ได้ อ่านมาถึงตรงนี้ก็ยังไม่เห็นโทษของเซ็กส์ทอยตรงไหน แต่ทำไมถึงเป็นสิ่งของผิดกฎหมายไปได้?

Sex Toy อุปกรณ์เพื่อคู่รักและคนโสด แต่ทำไมยังผิดกฎหมายบ้านเรา?

Sex Toy
Photo by We-Vibe WOW Tech on Unsplash

หลายคนเวลาเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ (โดยเฉพาะญี่ปุ่น) มักจะออกอาการว้าวกับร้านขายเซ็กส์ทอยที่แฝงตัวอยู่ตามอาคาร เห็นเขาเปิดกิจการขายจริงจังแล้วก็พากันกระซิบกระซาบว่า มีอะไรแบบนี้ด้วยหรือ? ซื้อได้จริงไหม? ตำรวจจะจับหรือเปล่า?

เรื่องเป็นอย่างนี้นะคะสาวๆ ในบางประเทศ เซ็กส์ทอยไม่ใช่ของผิดกฎหมาย หาซื้อได้อย่างเสรี แต่การที่คุณผู้หญิงตั้งคำถามเพราะเราคุ้นเคยกับบริบทสังคมไทยที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ว่า เซ็กส์ทอย เป็นสินค้าผิดกฎหมาย กรมศุลกากรมีคำสั่งห้ามนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภทเซ็กส์ทอย โดยกำหนดไว้ว่าให้มีโทษระวางจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และถ้าขายผ่านทางออนไลน์ก็จะผิดพรบ. คอมพิวเตอร์เรื่องการนำสื่อลามกเข้าสู่ระบบอีก

Sex Toy
Photo by Womanizer WOW Tech on Unsplash

เหตุผลที่ทำให้เซ็กส์ทอยผิดกฎหมายในบ้านเราเพราะว่า เป็นสิ่งของที่ขัดต่อศีลธรรมอันดีงามของประเทศไทย อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสังคมและวัฒนธรรม อีกทั้งยังเป็นสินค้าเข้าข่ายลามกอนาจาร เพราะมีลักษณะเป็นรูปร่างอวัยวะเพศชัดเจน รวมถึงสภาพสังคมไทยยังมีคนส่วนมากที่มองว่าอารมณ์และความต้องการทางเพศเป็นเรื่องที่ต้องแอบซ่อน จึงส่งผลให้หลายคนยังมองอุปกรณ์เสริมเหล่านี้ว่าเป็นสิ่งไม่ดีและถูกห้ามปรามไม่ให้มีการเผยแพร่อย่างเสรี

ในต่างประเทศมีการเก็บข้อมูล ศึกษา และสรุปเป็นงานวิจัยถึงการใช้เซ็กส์ทอยของหญิงและชายในชีวิตรัก และกล่าวถึงประโยชน์ของเซ็กส์ทอยด้านการแพทย์ที่มากกว่าการเพิ่มความสนุกและตอบสนองอารมณ์ใคร่ของมนุษย์ เช่น ลดความเสี่ยงโรคทางเพศสัมพันธ์ ใช้นวดกระตุ้นเฉพาะจุดเพื่อการไหลเวียนเลือดที่ดีขึ้น และลดอันตรายสำหรับคนที่พยายามใช้สิ่งของอย่างอื่นช่วยตัวเองแทนเซ็กส์ทอย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หนังติดเรทหลายเรื่องนำมาใช้เป็นอุปกรณ์ประกอบฉาก จนทำให้ภาพจำและมุมมองของเซ็กส์ทอยเปลี่ยนไป กลายเป็นสิ่งของที่นำความอับอายมาสู่คนที่ใช้และมีเซ็กส์ทอยในครอบครอง

Sex Toy
Photo by Dainis Graveris on Unsplash

แล้วเซ็กส์ทอยควรทำให้ถูกกฎหมายประเทศไทยหรือไม่?

อันที่จริง การจะทำให้เซ็กส์ทอยถูกกฎหมายคงต้องผ่านการพิจารณาหลายด้าน มีกลุ่มคนที่พยายามผลักดันให้เซ็กส์ทอยเป็นสินค้าควบคุมพิเศษ สามารถซื้อขายได้แต่ต้องมีการจำกัดสิทธิและอายุของผู้ซื้อ เหมือนที่ต่างประเทศทำกัน

ถึงแม้ว่าเซ็กส์ทอยยังเป็นของผิดกฎหมายในไทย แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยังมีคนแอบขายสินค้าประเภทนี้กันมากมาย ทั้งตามถนนในย่านดังๆ ของกรุงเทพ หรือแม้แต่ในโลกออนไลน์ก็มีคนพยายามหามาใช้กันเพื่อเพิ่มรสรักให้ชีวิตคู่เร้าใจมากยิ่งขึ้น

เรื่องราวและเคล็ดลับของความสุขบนเตียงยังมีให้ค้นพบอีกหลายอย่าง ตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ

ภาพจาก : Unsplash.com

สูตรคำนวณสินสอด ตอบคำถามชัดๆ ว่าต้องเตรียมไว้เท่าไหร่ดี

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องคาใจสำหรับฝ่ายชายฝ่ายหญิงที่กำลังจะแต่งงาน ด่านแรกที่ต้องเจอคือ “ค่าสินสอด” หลายคนถามว่าต้องเตรียมไว้เท่าไหร่ถึงจะดูดีและเหมาะสม แพรวเวดดิ้งเข้าใจปัญหานี้ดี จึงไปหา สูตรคำนวณสินสอด มาฝาก บวกลบคูณหารตามนี้ได้เลย

ถ้าพ่อตาแม่ยายบอกว่าขอให้เหมาะสม ลองมาใช้ สูตรคำนวณสินสอด ตามนี้ได้เลย ง่ายดี!

สูตรคำนวณสินสอด

ก่อนจะไปดูสูตรคำนวณสินสอด อย่างแรกที่ฝ่ายชายควรทำคือ เข้าไปเรียนถามผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเสียก่อนว่า คุณพ่อคุณแม่จะเรียกสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่? เพราะบางครอบครัวก็ตั้งธงเรื่องจำนวนของมีค่าไว้ก่อนแล้ว ฝ่ายชายควรพิจารณาว่า ตัวเองมีพร้อมทุกอย่าง หรือมีส่วนไหนที่ขาดอยู่บ้าง แล้วจะหาทันไหม สู้ไหวหรือเปล่า หรืออาจต้องขอต่อรองกับทางผู้ใหญ่พร้อมอธิบายเหตุผลให้ท่านเข้าใจ

ปัญหาที่กวนใจหนุ่มๆ อยู่ตรงนี้ค่ะ บางครั้งผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงไม่ได้กำหนดจำนวนสินสอดที่ต้องการไว้ (หรืออาจตั้งไว้แต่ไม่บอก!) แล้วพูดว่า “ขอให้จัดมาตามความเหมาะสม” เอาล่ะสิ! ไอ้คำว่าเหมาะสมนี่แหละที่ไม่รู้ว่าจะถูกใจว่าที่พ่อตาแม่ยายหรือเปล่า อย่าเพิ่งวิตกกังวลอะไรไปล่วงหน้า ถ้าไม่รู้ว่าต้องเตรียมเท่าไร ลองมาใช้สูตรคำนวณค่าสินสอดดูก่อน จะได้รู้ว่าเตรียมมากแค่ไหนถึงเหมาะสม

สูตรคำนวณสินสอด

สูตรนี้ใช้ข้อมูลหลักคือ อายุ ระดับรายได้ต่อเดือน บวกกับปัจจัยอื่นๆ (ถ้ามี) และค่าคงที่ที่ถูกกำหนดมา 2 ค่า คือ 3.26 เป็นเลขมูลค่าของสินสอดที่เพิ่มขึ้นต่อรายได้ทุก 1 บาท และ 13,200 เป็นเลขมูลค่าของสินสอดที่เพิ่มขึ้นตามอายุของคู่แต่งงานทุก 1 ปี เมื่อนำตัวเลขมาใส่ในสูตรคำนวณจะได้ตามนี้

(3.26 x รายได้ต่อเดือน) + (13,200 x อายุ)

= ค่าสินสอด

ใครยังไม่เห็นภาพลองมาดูตัวอย่างการคำนวณได้เลย

ตัวอย่าง  นาวสาวชมพู่ อายุ 28 ปี เรียนจบปริญญาตรี ทำอาชีพเป็นพนักงานออฟฟิศเงินเดือน 15,000 บาท

(3.26 x 15,000) + (13,200 x 28) = 418,500 บาท

จากตัวอย่างข้างบน ค่าสินสอดที่ได้คือ 418,500 บาท ซึ่งจำนวนนี้อาจปรับลดหรือเพิ่มได้ตามปัจจัยอื่นๆ ที่ทั้งผู้ใหญ่และคู่รักเห็นสมควร บางคู่ก็คิดรวมปัจจัยรวมตัวไปด้วย เช่น หน้าที่การงาน, ระดับการศึกษ, ภาระทางครอบครัว, ภูมิลำเนา และลำดับการแต่งงานในจำนวนพี่น้อง ถ้าอยากใส่เงินเพิ่มเติมตรงไหนคงต้องเจรจากันให้ดีอีกที

สูตรคำนวณสินสอด

หลังจากนี้เมื่อฝ่ายชายเห็นตัวเลขแล้ว ก็ใช่ว่าจะตัดสินใจเอาจำนวนนี้แหละเป็นสินสอด อยากให้คิดก่อนว่า เงินก้อนนี้เรามีพร้อมแล้วหรือเปล่า หรือยังขาดแล้วต้องหาเพิ่ม และที่สำคัญอย่าลืมนะคะว่า เงินจำนวนนี้ยังไม่รวมของหมั้นที่แยกต่างหากเป็นเพชรนิลจินดา ทองคำ ของมีค่าอื่นๆ และค่าใช้จ่ายในวันแต่งงานอีกมากมาย ใครที่คิดว่าตัวเลขที่ได้มามันสูงไปหน่อย ขอปรับลดลงมาเพื่อไปเสริมส่วนอื่น แบบนี้คงต้องลองเจรจากับผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงดูก่อน

สิ่งสำคัญที่อยากให้ทุกคู่รักคิดเอาไว้เสมอคือ ตัวเลขเงินทองเป็นของนอกกาย ค่าของคนและความรักไม่สามารถตีเป็นราคาแน่นอนได้ อย่ายึดติดว่าต้องให้ตามที่ฝ่ายหญิงร้องขอหรือตามเลขที่คำนวณออกมาเป๊ะๆ อย่างนี้เห็นทีจะไม่ได้แต่ง เพราะสูตรนี้เป็นเพียงแค่การประมาณตามความเหมาะสม ใช่ว่าจะถูกต้องเสมอไป ขอให้ยึดความรัก ความเข้าใจ และความพร้อมของคู่รักเป็นหลัก จะได้เริ่มต้นชีวิตคู่อย่างราบรื่นไม่ติดขัด

ยังมีเคล็ดลับเตรียมงานแต่งแบบไทยๆ อีกมากมาย ตามไปอ่านกันได้เลย

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน ช่วงยอดฮิตสละโสดของคู่รัก

พอเข้าสู่ช่วงปลายปีมักจะมีข่าวดีจากคนรอบตัวว่าจะสละโสดกันหลายคู่ พอมาสังเกตดูแล้วจะเห็นได้ชัดเลยว่า คนไทยนิยม แต่งงานเดือนพฤศจิกายน มากกว่าเดือนอื่นๆ หลายคนสงสัยว่าทำไมคู่รักจึงมากระจุกตัวแต่งกันในเดือนนี้จนตัวเองได้ซองสีชมพูมาหลายซอง เอาเป็นว่า แพรวเวดดิ้งมีคำตอบมาฝากกันค่ะ

คนไทยเลือก แต่งงานเดือนพฤศจิกายน เพราะว่าฤกษ์ดีหรือบรรยากาศเป็นใจกันแน่!

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน

จากการค้นหาข้อมูลในหลายๆ แหล่ง พูดตรงกันว่า เพราะเดือนพฤศจิกายนเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว บรรยากาศดีไม่ร้อนจนเกินไป แถมยังเตรียมตัวไว้ให้มีคู่นอนกอดกันหนาวได้ด้วย

แต่ถ้ามองในแง่มุมวัฒนธรรมประเพณีไทย เรื่องฤกษ์ยามเป็นสิ่งสำคัญ คนนิยมแต่งงานกันเดือนคู่ ซึ่งในปฏิทินไทยเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนสิบสอง ลงเลขคู่พอดีเป๊ะ หรือถ้าอิงเหตุผลตามสภาพสังคมในสมัยก่อน ปลายปีอย่างนี้ชาวบ้านนิยมจัดงานบุญ เนื่องจากออกพรรษาแล้ว สามารถจัดงานมงคลได้เต็มที่ อีกทั้งยังเป็นช่วงหลังฤดูหว่านไถ ข้าวออกรวงสวยงามเรียบร้อย บางครอบครัวได้กำหนดเกี่ยวข้าวไว้กินและขาย มีเงินไปสู่ขอและจัดงานแต่งให้ลูกหลาน

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน

อีกหนึ่งเหตุผล คือ ในอดีตมีความเชื่อว่าต้อง “บวชก่อนเบียด” ชายไทยส่วนใหญ่จึงนิยมบวชให้ทันก่อนเข้าพรรษา เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นเวลา 3 เดือน เรียนรู้และกล่อมเกลาจิตใจเตรียมพร้อมเป็นสามีและผู้นำครอบครัวที่ดี พอครบกำหนดออกพรรษาก็ลาสิกขา จากนั้นจึงได้ฤกษ์แต่งงานเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ เป็นไปตามขนบโบราณของผู้ชายบ้านเรา

ตัดมาที่ชีวิตในโลกปัจจุบันกันบ้าง ความนิยมแต่งงานช่วงพฤศจิกายนยังไม่หายไปไหน หลายคนเชื่อกันว่า ช่วงปลายปีเป็นเวลาเหมาะสมในหลายๆ ด้าน เช่น หากใครขอแต่งงานกันตอนต้นปี จะได้มีเวลาให้เตรียมงานกันแบบไม่รีบร้อน บ้างก็ว่าเป็นช่วงหลังจากฤดูโยกย้ายตำแหน่งราชการ เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ และหลายคนพร้อมใช้จ่ายเพราะกำลังจะได้โบนัส (เผื่อว่าบ่าวสาวจะได้ซองหนาขึ้นอีกนิด!)

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน

ช่วงวันหยุดก็มีส่วนในการตัดสินใจเลือกวันจัดงานแต่ง โดย 3 เดือนสุดท้ายของปีมีวันหยุดเยอะ ไล่มาตั้งแต่ ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม แต่หลายคู่รักเลือกวันมงคลในเดือนพฤศจิกายนมากที่สุด เป็นเพราะว่าเดือนตุลาคมฝนยังไม่ทิ้งช่วงดีนัก การจัดงานแต่งงานคงไม่สะดวกเท่าไหร่ ครั้นจะรอไปถึงเดือนธันวาคม หลายคนคงเตรียมตัวเที่ยวหรือไปฮันนีมูนส่งท้ายปีกันแล้ว ดังนั้นช่วงกลางระหว่างสองเดือนนี้คือ พฤศจิกายน จึงเหมาะสมมากที่สุด เพราะตอบโจทย์ทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวก

เอาล่ะค่ะ คู่รักคู่ไหนกำลังแพลนจะแต่งงานในปีหน้าแล้วได้ฤกษ์ดีมาเป็นตอนปลายปี เห็นทีต้องเริ่มจองสถานที่ก่อนเป็นอย่างแรก รีบโทรเช็กวันว่างจากโรงแรมหรือสถานที่ในฝัน ไม่เช่นนั้นคิวเต็ม เดี๋ยวจะไม่ได้แต่งนะจ๊ะ

ว่าที่บ่าวสาวคนไหนกำลังมองหาฤกษ์งามยามดีไว้จัดงานแต่งงานในปีหน้า แล้วยังหาวันไม่ได้ รีบไปดูปฏิทินแต่งงานกันได้เลย