แต่งงานเดือนพฤศจิกายน ช่วงยอดฮิตสละโสดของคู่รัก

พอเข้าสู่ช่วงปลายปีมักจะมีข่าวดีจากคนรอบตัวว่าจะสละโสดกันหลายคู่ พอมาสังเกตดูแล้วจะเห็นได้ชัดเลยว่า คนไทยนิยม แต่งงานเดือนพฤศจิกายน มากกว่าเดือนอื่นๆ หลายคนสงสัยว่าทำไมคู่รักจึงมากระจุกตัวแต่งกันในเดือนนี้จนตัวเองได้ซองสีชมพูมาหลายซอง เอาเป็นว่า แพรวเวดดิ้งมีคำตอบมาฝากกันค่ะ

คนไทยเลือก แต่งงานเดือนพฤศจิกายน เพราะว่าฤกษ์ดีหรือบรรยากาศเป็นใจกันแน่!

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน

จากการค้นหาข้อมูลในหลายๆ แหล่ง พูดตรงกันว่า เพราะเดือนพฤศจิกายนเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว บรรยากาศดีไม่ร้อนจนเกินไป แถมยังเตรียมตัวไว้ให้มีคู่นอนกอดกันหนาวได้ด้วย

แต่ถ้ามองในแง่มุมวัฒนธรรมประเพณีไทย เรื่องฤกษ์ยามเป็นสิ่งสำคัญ คนนิยมแต่งงานกันเดือนคู่ ซึ่งในปฏิทินไทยเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนสิบสอง ลงเลขคู่พอดีเป๊ะ หรือถ้าอิงเหตุผลตามสภาพสังคมในสมัยก่อน ปลายปีอย่างนี้ชาวบ้านนิยมจัดงานบุญ เนื่องจากออกพรรษาแล้ว สามารถจัดงานมงคลได้เต็มที่ อีกทั้งยังเป็นช่วงหลังฤดูหว่านไถ ข้าวออกรวงสวยงามเรียบร้อย บางครอบครัวได้กำหนดเกี่ยวข้าวไว้กินและขาย มีเงินไปสู่ขอและจัดงานแต่งให้ลูกหลาน

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน

อีกหนึ่งเหตุผล คือ ในอดีตมีความเชื่อว่าต้อง “บวชก่อนเบียด” ชายไทยส่วนใหญ่จึงนิยมบวชให้ทันก่อนเข้าพรรษา เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เป็นเวลา 3 เดือน เรียนรู้และกล่อมเกลาจิตใจเตรียมพร้อมเป็นสามีและผู้นำครอบครัวที่ดี พอครบกำหนดออกพรรษาก็ลาสิกขา จากนั้นจึงได้ฤกษ์แต่งงานเริ่มต้นชีวิตครอบครัวใหม่ เป็นไปตามขนบโบราณของผู้ชายบ้านเรา

ตัดมาที่ชีวิตในโลกปัจจุบันกันบ้าง ความนิยมแต่งงานช่วงพฤศจิกายนยังไม่หายไปไหน หลายคนเชื่อกันว่า ช่วงปลายปีเป็นเวลาเหมาะสมในหลายๆ ด้าน เช่น หากใครขอแต่งงานกันตอนต้นปี จะได้มีเวลาให้เตรียมงานกันแบบไม่รีบร้อน บ้างก็ว่าเป็นช่วงหลังจากฤดูโยกย้ายตำแหน่งราชการ เป็นช่วงปลายปีงบประมาณ และหลายคนพร้อมใช้จ่ายเพราะกำลังจะได้โบนัส (เผื่อว่าบ่าวสาวจะได้ซองหนาขึ้นอีกนิด!)

แต่งงานเดือนพฤศจิกายน

ช่วงวันหยุดก็มีส่วนในการตัดสินใจเลือกวันจัดงานแต่ง โดย 3 เดือนสุดท้ายของปีมีวันหยุดเยอะ ไล่มาตั้งแต่ ตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม แต่หลายคู่รักเลือกวันมงคลในเดือนพฤศจิกายนมากที่สุด เป็นเพราะว่าเดือนตุลาคมฝนยังไม่ทิ้งช่วงดีนัก การจัดงานแต่งงานคงไม่สะดวกเท่าไหร่ ครั้นจะรอไปถึงเดือนธันวาคม หลายคนคงเตรียมตัวเที่ยวหรือไปฮันนีมูนส่งท้ายปีกันแล้ว ดังนั้นช่วงกลางระหว่างสองเดือนนี้คือ พฤศจิกายน จึงเหมาะสมมากที่สุด เพราะตอบโจทย์ทั้งฤกษ์ดีและฤกษ์สะดวก

เอาล่ะค่ะ คู่รักคู่ไหนกำลังแพลนจะแต่งงานในปีหน้าแล้วได้ฤกษ์ดีมาเป็นตอนปลายปี เห็นทีต้องเริ่มจองสถานที่ก่อนเป็นอย่างแรก รีบโทรเช็กวันว่างจากโรงแรมหรือสถานที่ในฝัน ไม่เช่นนั้นคิวเต็ม เดี๋ยวจะไม่ได้แต่งนะจ๊ะ

ว่าที่บ่าวสาวคนไหนกำลังมองหาฤกษ์งามยามดีไว้จัดงานแต่งงานในปีหน้า แล้วยังหาวันไม่ได้ รีบไปดูปฏิทินแต่งงานกันได้เลย

 

Recommended