2 MONTHS : สักคิ้ว
ทำการบ้านเยอะๆ เรื่องร้านที่จะไปทำว่าสไตล์ เทคนิคของร้านไหนที่ดูสวยตอบโจทย์ตามความต้องการมากที่สุด เล็งร้านที่มีรีวิว Before/After และคอมเม้นท์จากลูกค้าที่เคยมีประสบการณ์ให้ดูเยอะๆ อย่าลืมว่าการสักคิ้วหากพลาดไปแล้วเรื่องใหญ่นะ
สำหรับว่าที่เจ้าสาวพึงระวังว่าอย่าเลือกสีคิ้วที่เข้มจนเกินไปหากอยากดูหวานละมุนในชุดเจ้าสาวการสักคิ้วใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์กว่าจะลอกหมดไม่ต้องตกใจหากในช่วงหลังวีคแรกที่สักสีจะดูเข้มขึ้นเกินกว่าที่คาดหวังไว้เพราะกว่าสีจะเฟดเข้าที่ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงแนะนำเจ้าสาวให้จัดการกับการสักคิ้วให้จบก่อนงานประมาณ 2 เดือนเพื่อให้สีคิ้วเฟดเป็นธรรมชาติพอดี
Do’s : คุยความต้องการกับช่างให้ชัดที่สุดเท่าที่จะทำได้ อาจเซฟรูปทรงคิ้วที่ชอบเป็น Reference ให้ช่างพิจารณาปรับให้เข้ากับรูปหน้าของเราเพื่อให้เข้าใจตรงกัน
Don’t : Don’t Be Cheap นะจ๊ะว่าที่เจ้าสาว เรื่องคิ้วยอมรับเลยว่าต้องลงทุนเพราะเป็นจุดสำคัญบนใบหน้าที่หากพลาดแล้วจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ การมองหาราคาที่เบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ใช่สำหรับการสักคิ้วแน่นอน
1 MONTHS : ฟิลเลอร์
อีกทรีตเม้นท์ยอดฮิตของเจ้าสาวที่สวยเร็วสวยไวเห็นผลแบบทันที แต่ก็ไม่แนะนำให้ฉีดในช่วงเวลาใกล้งานสำคัญจนเกินไปอยู่ โดยจะดูอิ่มฟูเต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด ระยะเวลาประมาณ1 เดือนก่อนวันสำคัญจึงเป็นช่วงเวลาพอเหมาะพอดีที่รอยเข็มรอยช้ำน่าจะหายไปหมดแล้ว และฟิลเลอร์กำลังทำงานเต็มอิ่มไม่มีพร่อง
ฟิลเลอร์เป็นอีกทรีตเม้นท์ที่ให้พึงระวังเรื่องราคาที่ถูกเกินไปเพราะ Hyaluronic Acid แท้สามารถสลายได้ทั้งหมดแบบไร้ปัญหานั้นรับประกันว่าไม่มีถูก
Do’s : ปรึกษาคุณหมอให้ช่วยดูความงามโดยภาพรวมไม่ใช่การมโนไปเอง เพราะบางครั้งทรีตเม้นท์ที่จะช่วยแก้ปัญหาอาจไม่ใช่การฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นได้ คุณหมอที่เก่งจะมองถึงความสมดุลรับกันทั้งใบหน้าและแนะนำจุดที่จะฉีดแล้วสวยงามดูละมุนละไมได้อย่างตรงประเด็นกว่า
Don’ts : อย่าลืมถามชนิดและยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่คุณหมอฉีด แนะนำให้ถ่ายกล่องเอาไว้เลยจะดีมาก เพราะหากฉีดแล้วมีปัญหาขึ้้นมาการฉีดสลายฟิลเลอร์นั้นต้องรู้ให้ชัดเจนว่าเป็นฟิลเลอร์ชนิดไหนจึงจะแก้ไขได้ตรงจุด และอย่าฉีดฟิลเลอร์ในวันเดียวกันกับทรีตเม้นท์หน้าอื่นๆ ที่ใบหน้าจะมีอาการบวม อย่างการทำอัลเทอร่า หรือเลเซอร์ใดๆ เพราะหน้าที่บวมไม่เห็นรูปหน้าที่แท้จริงอาจทำให้เติมฟิลเลอร์ล้น หรือพร่อง ไม่ได้รูปหน้าเป๊ะอย่างที่คิด
2 WEEKS : แต่งทรง/ทำสีผม
2 สัปดาห์คือช่วงที่กำลังพอดีกับการทำสีผมเพราะสีจะสวยสดใหม่พอดี และโคนผมใหม่ยังไม่ทันขึ้นมาให้เห็น เจ้าสาวจึงจะมีผมสวยเนี้ยบสีผมเท่ากันทั้งศีรษะ ในช่วงเวลาประมาณนี้เจ้าสาวน่าจะพอมีไอเดียเรื่องทรงผมที่อยากทำแล้ว หากเลือกได้เป๊ะๆ ก็เตรียมเล็มผมแต่งทรงให้เหมาะสมกัับการจัดแต่งในทรงเจ้าสาวที่ต้องการได้เลย
สำหรับเจ้าสาวที่จะทำผมเกล้าแนะนำให้ทำสีผมอ่อนลงสักเล็กน้อยหรือทำลูกเล่นไฮไลท์สีที่กลมกลืนไม่โดดจนเกินไปเพื่อให้การเกล้าผมดูสวยมีมิติแถมผมสีดำเกินไปเมื่อเกล้าแล้วจะดูสูงวัยได้ง่ายส่วนหากจะทำผมปล่อยไดร์ตรงเรียบผมสีดำนั้นสวยสง่าไม่มีปัญหา
Do’s : อัพเดทเรื่องสีผมกับช่างผมให้ชัดเจน โดยอาจส่งรูปชัดๆ ของสีผมใหม่ให้ช่างผมพิจารณาก่อน เพราะหากต้องใช้แฮร์พีซ อุปกรณ์เสริมใดๆ ที่ต้องใช้กับผม ช่างผมจะได้เตรียมอุปกรณ์ได้ถูกต้อง
Don’ts : อย่าเพิ่งเฮี้ยนคิดเปลี่ยนสไตล์ และสีผมแบบ Dramatic ในนาทีนี้ เพราะหากทำออกมาพลาดขาดความมั่นใจนาทีนี้แก้ไขไม่ทันแล้วนะเธอ
2-3 DAYS : ทำเล็บ
เป็นทรีตเม้นท์เดียวที่แนะนำให้ทำใกล้วันจะยิ่งสวย ด้วยเล็บที่ทำสดใหม่ไม่มีลอก ไม่มีจิเวลรี่ใดๆ หลุดร่วงและมีความมันวาวนั้นสวยที่สุด ยิ่งใกล้วันแบบนี้อย่าลืมว่าต้องนัดร้านที่หมายตาไว้ล่วงหน้า อย่าลืมบำรุงเรียวมือด้วยตัวเองเอาไว้ก่อนให้มือและเล็บดูชุ่มชื้นเรียบเนียนวันที่ทำเล็บจัดสปามืออีกสักรอบก็สวยเป๊ะ
Do’s : แนะนำว่าที่เจ้าสาวว่าให้ทำการบ้านด้วยการลองเทสต์ทำสีที่หมายตาสำหรับวันสำคัญไว้ล่วงหน้า เพื่อให้แน่ใจว่าได้เฉดสีที่สวยเข้ากับสีผิวจริงๆ แม้ว่าสีที่ใช้มักไม่พ้นนู้ด ชมพูอ่อนและขาว แต่เฉดที่เลือกนั้นมีผลกับเอฟเฟ็คท์ที่จะได้อยู่มากทีเดียว
Don’ts : อย่าลืมว่างานแต่งงานนั้นมีพิธีมากมายที่เจ้าสาวจะต้องใช้มือ เล็บที่ยาวมากเกินไป หรือตกแต่งด้วยจิเวลรี่รูปทรงที่มีความแหลมคมอาจทำให้ทำกิจกรรมไม่ถนัดและไปเกี่ยวกับชุดลูกไม้ได้ จึงแนะนำความยาวและการตกแต่งที่พอประมาณไม่ต่างจากชีวิตประจำวันมากจะคล่องตัวกว่า
1 DAY : ผ่อนคลาย
มาถึงตรงนี้ไม่มีอะไรต้องทำแล้วนอกจากผ่อนคลาย นึกถึงแต่เรื่องราวดีๆ ปล่อยให้เรื่องพิธีเป็นภาระของออร์แกไนเซอร์และญาติๆ ช่วง 1-2 วีคก่อนวันงานเจ้าสาวอาจเน้นทำสปา ทรีตเม้นท์นวดหน้าเบาๆ หยุดการทำทรีตเม้นท์รุนแรง หรือเปลี่ยนสกินแคร์ใหม่ๆ เข้ามาในบิวตี้รูทีนเพราะอาจเสี่ยงแพ้ได้
คืนก่อนวันงานแค่ดื่มน้ำมากๆพักผ่อนให้เพียงพอแนะนำให้นอนหมอนสูงเพื่อกันไม่ให้ใบหน้าดูบวมเตรียมตัวมาดีขนาดนี้ที่เหลือก็แค่ออกไปเก็บความทรงจำที่งดงาม เรื่องสวยหายห่วงได้แล้วนะเจ้าสาว
ตามไปดูเคล็ดลับเตรียมสวยสำหรับเจ้าสาวได้อีกมากมาย คลิกเลย >>> Beauty & Wellness