6 MONTHS : CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
การสลายไขมันสะสมและฆ่าเซลล์ไขมันด้วยการใช้ความเย็น โดยส่งผ่านความเย็นอุณหภูมิ -11 ถึง 13 องศาเซลเซียส ให้ไขมันแข็งตัวและสลายตัวเองโดยการขับถ่ายออกตามธรรมชาติ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเจ้าสาวเพราะเจ็บน้อย ไม่ทิ้งแผลเป็น และเลือกทำได้แทบทุกส่วน ทั้งต้นขา ต้นแขน หน้าท้อง ไปจนถึงเหนียง หลังทำต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือนกว่าจะเห็นผลโดยสมบูรณ์แบบ และควรทำทรีตเมนต์ซ้ำอีกอย่างน้อย 2 ครั้งโดยห่างกัน 1 เดือน ระยะเวลาประมาณ 6 เดือนจึงเหมาะสมพอดีสำหรับวัน countdown
Do’s : ทำการบ้านเช็คลิสต์ว่า CoolSculpting เหมาะกับลักษณะปัญหาจริงหรือไม่ เพราะคนที่จะทำได้ต้องอยู่ในกลุ่มน้ำหนักที่เหมาะสม สุขภาพแข็งแรง รวมถึงว่าที่เจ้าสาวต้องเช็คว่าตัวเองไม่มีการตั้งครรภ์และไม่ได้กำลังพยายามจะตั้งครรภ์อีกด้วย
Don’t : อย่ามั่นใจเชื่อคำโฆษณาว่า CoolSculpting จะไม่เจ็บเลยแม้แต่น้อย ด้วยเป็นทรีตเม้นท์ที่ไม่ได้ดูน่ากลัว ไม่มีการเสียเลือด หรือแม้แต่ใช้เข็ม แต่ต้องเตรียมใจไว้บ้างว่ามีคนไข่้ประมาณ 10% ที่มีอาการเจ็บ ระหว่างทำอาจรู้สึกไม่สบายตัวด้วยความเย็นแรงดูดของเครื่องและหลังทำมีโอกาสที่จะรู้สึกชา มีรอยแดง ระบม เจ็บแปลบหรือรู้สึกคันรอบๆ โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวมีความเซ้นสิทีฟ
4 MONTHS : เมโสแฟต และ ร้อยไหม
หากต้องการแก้ปัญหาแก้มป่องจากไขมันให้ตรงจุดโดยไม่อยากผ่าตัดก็เมโสแฟตนี่แหละคือเพื่อนแท้ของสาวแก้มป่อง วิธีการคือการฉีดยาซึ่งมีสรรพคุณสลายไขมันที่สะสมในชั้นไขมัน โดยฉีดลึกเข้าไปในชั้นไขมัน ตั้งแต่ 0.1 มม-12 มม. เป็นเทคนิคที่เรียกว่า ‘เมโสเธอราพี’
ในยุคก่อนนั้นเมโสแฟตเป็นทรีตเม้นท์ที่รับประกันความบวมหลังทำคือบวมแน่ย้วยแน่ไป 2-3 วันแต่ปัจจุบันพัฒนาขึ้นทั้งความเจ็บและอาการบวมที่ลดลงไปมากแต่ต้องย้ำว่าบวมมากน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะร่างกายของแต่ละบุคคล
เน้นกับว่าที่เจ้าสาวให้เข้าใจว่าเมโสแฟตไม่ได้เห็นผลชัดในการทำครั้งเดียว แต่ต้องเว้นระยะไม่เกิน 2 สัปดาห์ เพื่อมาซ้ำอีก 3-5 ครั้งจนกว่าหน้าจะเรียวเป็นที่พอใจ ฉะนั้นเพื่อความชัวร์เผื่อเวลาไว้เลย 4 เดือนขึ้นไป เพราะระยะการทำเมโสแฟต หน้าจะบวมๆ ยุบๆ แถมอาจยังมีรอยช้ำจากเข็ม ทำใกล้วันงานเกินไปไม่ดีแน่
Do’s : วางแผนการทำเมโสแฟตให้แก้มยุบจบเรื่องเสียก่อน แล้วตามด้วยทรีตเม้นท์กลุ่มอัลเทอร่า เพื่อความกระชับเป๊ะ
Don’t : อย่าชะล่าใจว่าหน้าเรียวลงแล้วจะกินอะไรก็ได้ ไขมันที่สลายออกไปสามารถกลับมาได้ไม่ยากจากการกินอาหารกลุ่มไขมัน แป้ง น้ำตาลที่มีแคลลอรีสูงๆ
ส่วนว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่คิดจะ ร้อยไหม เพื่อยกกระชับปรับรูปหน้า แนะนำว่าควรเผื่อเวลาไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือน เพราะนอกจากให้แน่ใจว่าอาการบวมและรอยช้ำจากการร้อยไหมจะหายไปหมดสิ้นแล้วยังเป็นช่วงที่การร้อยไหมให้ผลที่ชัดเจนพอดี
Do’s : อย่าหักโหมมากนัก ว่าที่เจ้าสาวต้องคำนึงว่าแม้จะไม่ต้องพักฟื้นใดๆ เป็นพิเศษ แต่หลังการร้อยไหมนั้นไม่ควรแต่งหน้าใน 48 ชั่วโมง ถ้าไม่พร้อมบวมและหน้าสดออกสื่อ หลังทำวันแรกๆ ก็พักก่อนเถอะจ้ะ
Don’t : นัดนวดหน้า ยิงเลเซอร์ใดๆ ในช่วงนี้อย่าได้คิด ขอให้ข้ามไปเลย เพราะผิวยังเซ้นท์สิทีฟอยู่มาก ในระยะ1-3 สัปดาห์แรกต้องสัมผัสใบหน้าอย่างเบามือและยังมีความรู้สึกเจ็บเสียวอยู่ ทิ้งระยะเวลาสัก 1 เดือนค่อยคิดเรื่องนวดหน้าจะปลอดภัยกว่า
3 MONTHS : อัลเทอร่า และ โบท็อกซ์
เป็นทรีตเม้นท์ที่แนะนำสำหรับเจ้าสาว ในกลุ่มทรีตเม้นท์ยกกระชับปรับรูปหน้าอัลเทอร่าแม้จะราคาค่อนข้างสูง แต่ถือว่าดีงามเห็นผลที่สุดแล้ว ข้อดีที่เหมาะกับเจ้าสาวคือนางไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ ยาวนาน หากมีผิวแดง หรือบวมบ้างก็ไม่เกิน 1-2 สัปดาห์ ที่สำคัญคือเห็นผลในการทำครั้งเดียว ไม่ต้องไปซ้ำ จึงเหมาะกับเจ้าสาวที่กำลังบีซี่กับนัดหมายต่างๆ
อัลเทอร่านั้นเห็นผลทันทีประมาณ 20% หลังทำ แต่จะเห็นผลพีคที่สุดในช่วง 3-6 เดือน ฉะนั้นว่าที่เจ้าสาวควรกะเวลาให้อัลเทอร่าได้ผลพีคที่สุดในช่วงวันสำคัญรับประกันว่าถ่ายรูปสวยทุกมุม
Do’s : ทำการบ้านเรื่องการหาคุณหมอที่ใส่ใจรายละเอียดในการยิงจริงๆ คุยปรึกษาให้เคลียร์ถึงผลลัพธ์ที่ต้องการเพื่อช่วยกันออกแบบไปพร้อมๆ กับคุณหมอ เพราะหากยิงสุ่มสี่สุ่มห้าเจ้าสาวอาจจะหน้าตอบเกินไปจนดูโทรมก็เป็นได้
Don’t : อย่าเพิ่งเชื่อรีวิวว่า ไม่เจ็บเลย แน่นอนว่าด้วยนวัตกรรมที่ก้าวหน้าทำให้เจ็บน้อยลง แต่ขอให้เตรียมใจเรื่องความเจ็บไว้บ้างเพราะลักษณะผิวและกระดูกของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การยิงอัลเทอร่าจะรู้สึกเจ็บชัดที่สุดในช่วงที่ติดกระดูกไขมันน้อยๆ อย่างโหนกแก้ม กราม อยากสวยต้องทำใจนิด
ต้องยกให้ โบท็อกซ์ เป็นยอดนิยมทั้งสำหรับสาวๆ ทั่วไปและว่าที่เจ้าสาว แทบไม่ต้องเล่าว่านางคืออะไร เห็นผลดีงามรวดเร็วไม่ต้องพักฟื้น อย่างไรก็ตามระยะเวลาก่อนวันสำคัญประมาณ 3 เดือนถือว่าเพียงพอที่จะแก้ไขปัญหาหากฉีดมาแล้วมีผลข้างเคียงใดๆ รอยช้ำที่อาจเกิดขึ้นน่าจะหายไปหมดแล้ว รวมถึงเป็นช่วงเวลาที่โบท็อกซ์ทำงานเต็มที่แล้วอีกด้วย
Do’s : นอกจากเรื่องลดริ้วรอย ลิฟท์กรอบหน้าให้สวยเป๊ะแล้ว แนะนำอย่างยิ่งสำหรับเจ้าสาวที่ใส่ชุดโชว์ช่วงคอและไหล่ ให้ลองฉีดโบท็อกซ์บริเวณตลอดกล้ามเนื้อแผงคอเพื่อให้คอดูเรียวเล็กระหงใส่ชุดเจ้าสาวได้สวยสง่าขึ้น
Don’t : ย้ำว่าเรื่องโบท็อกซ์กับเจ้าสาวนี้อย่าจัดหนักเพราะมัวคิดว่าอยากสวยดูเด็กที่สุด เพราะหากฉีดอัดแน่นเกินไปความไม่เป็นธรรมชาติจะบดบังรอยยิ้มสวยๆ ของเจ้าสาว หากอยากดูเด็กจัดเต็มจริงๆ แนะนำให้ใช้หลายทรีทเม้นท์ร่วมกันตามปัญหาที่มีอย่างการทำอัลเทอร่า ฟิลเลอร์ควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกฃ์จะดูเป็นธรรมชาติกว่า