ถูกของร้อนลวก! ถูกของมีคมบาด! หรือเผลอบีบสิว! จะแก้ไขสิ่งไม่คาดฝันที่เกิดกับ ผิวหน้าเจ้าสาว เหล่านี้ ยังไงให้ทันวันวิวาห์ที่กำลังใกล้เข้ามา เรามีคำตอบ!
แผลสด แผลไฟไหม้ แผลฟกช้ำ น้ำร้อนลวก รอยแผลเป็นและผื่นแดง! เหล่านี้คงเป็นสิ่งที่สุดท้ายที่เจ้าสาวอยากให้เกิดกับผิวหน้าของตัวเองในวันแต่งงานใช่ไหมคะ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็น เหตุการณ์ไม่คาดฝัน รู้ไว้ก่อนดีกว่าตื่นตระหนกในภายหลังค่ะ เราก็เลยรวบรวมมาให้แล้วว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ที่ทำร้ายผิวหน้าเจ้าสาวก่อนถึงวันแต่งงานไม่กี่วัน เราจะต้องทำยังไงบ้าง แน่นอนว่าถ้าหากเกิดขึ้นใกล้วันแต่งงานมากๆ อาจจะไม่มีอะไรที่ช่วยให้แผลต่างๆหายสนิท 100% แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำให้แย่ลงไปกว่าเดิมแน่นอน
- ของมีคมบาด!
รีบกดปากแผลด้วยผ้าสะอาดจนกว่าเลือดจะหยุดไหล
ถ้าปากแผลไม่ลึกมาก รีบล้างแผลด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์เพื่อฆ่าเชื้อโรค ตามด้วยยารักษาแผลสดอย่างทิงเจอร์หรือเบตาดีน หลังจากนั้นไม่ต้องปิดแผลด้วยผ้าก็อซ พยายามอย่าให้แผลโดนน้ำ
ถ้าหากสงสัยว่าของมีคมที่บาดผิวเราจะไม่สะอาด ไปฉีดยากันบาดทะยักเพื่อความชัวร์ก็ดีนะ
แต่ถ้าปากแผลลึก กว้าง หรือเลือดไม่ยอมหยุดไหล รีบไปหาหมอด่วนเลยจ้า!
- ถูกน้ำร้อนลวกหรือถูกของร้อน!
แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แบ่งออกได้เป็นสามระดับ ถ้าหากแผลของเราไม่ได้รุนแรงมาก คือ เป็นแค่รอยแดง หรือมีตุ่มน้ำเล็กๆ เราสามารถรักษาแผลได้ด้วยตัวเองที่บ้าน แต่ถ้ารุนแรงกว่านั้น (ผิวหนังชั้นบนหลุดลอก มีเลือดออก) รีบไปหาหมอด่วนเลยจ้า!
ทันทีที่ถูกลวกหรือไหม้ ห้าม! ใช้ยาสีฟันทาบริเวณแผลอย่างที่หลายคนเข้าใจนะคะ
วิธีที่ถูกต้องคือ เปิดน้ำให้ไหลผ่านบริเวณแผล หรือแช่บริเวณแผลในน้ำอุณหภูมิห้อง นานติดต่อกัน 10-15 นาที หลังจากนั้น ให้ทาเจลว่านหางจระเข้ เพื่อช่วยให้ผิวหนังบริเวณนั้นลดการอักเสบ และไม่ควรให้แผลโดนแดดค่ะ

- เผลอบีบสิวอักเสบซะแล้ว!
หากมีเลือดออก ให้ใช้ทิชชูสะอาดกดบริเวณปากแผลจนเลือดหยุด หลังจากนั้นให้ทายารักษาสิวที่มีส่วนผสมของ benzoyl peroxide เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ทิ้งไว้จนแผลแห้งสนิท ต่อจากนั้นให้ทาหัวสิวด้วยยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid ที่จะช่วยลดการอักเสบ หากช่วงนั้นต้องแต่งหน้า สามารถใช้แผ่นแปะสิวที่มีวางจำหน่ายตามร้านขายยาแปะก่อนเพื่อเป็นตัวช่วยป้องกันแบคทีเรียได้ค่ะ

- จู่ๆก็แพ้สกินแคร์จ้า!
และนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมว่าที่เจ้าสาวจึงไม่ควรลองสกินแคร์ใหม่ที่ไม่เคยลองในช่วงใกล้แต่งงานนะคะ แต่ถ้าหากดันเกิดไปลองอะไรแปลกๆ และแพ้ขึ้นมา สิ่งเดียวที่จะช่วยได้คือหยุดใช้ทันที! และไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อให้คุณหมอช่วยเยียวยาผิวหน้าของเราโดยด่วนค่ะ
- รอยฟกช้ำดำเขียว!
ทันทีที่ถูกอะไรกระแทกแรงๆ และรู้ตัวว่าวันสองวันต่อมาจะต้องฟกช้ำแน่นอน! สิ่งแรกที่ควรทำคือประคบเย็นบริเวณดังกล่าวประมาณ 10 นาที ความเย็นจะช่วยให้เส้นเลือดหดตัวและลดการฟกช้ำได้ นอกจากนั้น การยกบริเวณที่ฟกช้ำไว้สูงๆ บ่อยๆ ก็สามารถช่วยลดอาการฟกช้ำ นอกจากนั้น ควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีผลต่อเส้นเลือดอย่าง ibuprofen, naproxen หรือ aspirin ค่ะ

ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันจะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่สุดท้ายถ้าหากเกิดขึ้นแล้ว ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่าจะรับมือกับมันยังไงต่างหากค่ะ ว่าที่เจ้าสาวทั้งหลายอย่าลืมว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ สติ ที่จะช่วยให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดีนะคะ
ดูเรื่องราวเกี่ยวกับความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!
credit: healthline.com , medthai.com , pobpad.com
credit Feature Photo: jennkavanagh.com



















<<




ชาวอินเดียเรียกคนที่เกิดภายใต้อิทธิพลดาวอังคารว่า Manglik และเชื่อว่าหากแต่งงานกับพวกที่ไม่ได้เกิดภายใต้อิทธิพลดาวอังคาร จะทำให้เกิดสิ่งอัปมงคล เกิดเรื่องโชคร้าย ชีวิตไม่ราบรื่น มีเหตุให้ต้องหย่าร้างจนถึงคู่ครองเสียชีวิต จึงต้องมีพิธีสะเดาะเคราะห์ก่อนเข้าพิธีแต่งงานจริง โดยให้เจ้าสาวแต่งงานกับต้นไม้ ซึ่งนิยมใช้ต้นกล้วยมาเป็นตัวแทนเจ้าบ่าวนั่นเอง
ชนเผ่า Yugur ในประเทศจีน มีประเพณีสุดแปลกก่อนเข้าพิธีแต่งงานคือเจ้าบ่าวต้องยิงธนูใส่เจ้าสาวเป็นจำนวน สามดอกแต่ไม่ต้องตกใจไปเพราะลูกธนูไม่มีหัวจ้า โดยเชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักชั่วนิรันด์
จะขอลูกสาวเขาทั้งทีต้องมีของมาแลกเปลี่ยนสักหน่อย ประเพณีและวัฒนธรรมของหมู่เกาะฟิจิ ชายหนุ่มต้องนำเขี้ยวปลาวาฬมาแลกหญิงสาวกับพ่อของเธอ แค่นี้หนุ่มๆ ก็จะมีสาวๆ มาเคียงกายล่ะค่ะ
ประเพณีสุดแปลกที่ไม่ค่อยได้ยินมากนักเกิดขึ้นที่สกอตแลนด์ โดยครอบครัวและเพื่อนๆ ของเจ้าสาวจะจับเธอมัดไว้และราดสิ่งสกปรกลงบนตัวเจ้าสาวเพื่อพิสูจน์ว่าหากเธอทนได้กับสิ่งสกปรกเหล่านี้ เธอก็จะทนความยากลำบากทุกๆเรื่องในชีวิตแต่งงานได้ เอิ่ม…ไม่อยากคิดถึงเวลาอาบน้ำเลยว่านางจะต้องสบู่มากโขขนาดไหน
ประเพณีของชนเผ่า Tidong บนเกาะบอร์เนียวในประเทศอินโดนีเซียหลังจากที่บ่าวสาวเข้าพิธีแต่งงานแล้วห้ามเข้าห้องน้ำเพื่อชำระร่างกายและขับถ่ายเป็นเวลาสามวันเพราะเชื่อกันว่าบ่าวสาวคู่ใดที่ไม่สามารถอั้นการเข้าห้องน้ำได้เป็นเวลาสามวัน จะทำให้ต้องหย่าร้าง แท้งบุตรหรือลูกที่เกิดจะต้องเสียชีวิตในวัยเด็ก งานนี้บอกเลยว่าต้องอาศัยความอดทนขั้นสูงสุดกันเลยทีเดียว
เป็นใครก็ต้องอิจฉาประเพณีอย่างแน่นอน เพราะเป็นประเพณีที่บ่าวสาวจะต้องเต้นรำท่ามกลางกองเงินที่โปรยอยู่บนพื้นเต็มไปหมด โอ้ยเป็นไทยหน่อยล่ะไม่ได้ บุพการีร้องแน่นอนที่เอาเงินมาเหยียบย้ำ
ประเพณีในแต่งงานชวนสยิวของชาวฝรั่งเศสนั้น คือบ่าวสาวจะต้องทานอาหารในโถชำระจำลอง ลองคิดดูสิวะถ้าหากเป็นของจริงที่ผ่านการใช้งานมาแล้วจะเป็นอย่างไร !!
หลังจากพิธีแต่งงานของชาวเกาหลี เจ้าบ่าวจะถูกมัดปลายเท้าด้วยเชือกและถูกตีด้วยปลาที่ปลายเท้า แสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงและแข็งแกร่งของเจ้าบ่าว ว่าแต่ปลาที่ใช้ตีเสร็จแล้วเอาไปไหนต่อล่ะนี่
ชนเผ่า Massai ในประเทศเคนย่ามีประเพณีดั้งเดิมที่ปัจจุบันยังคงสืบทอดกันมาอยู่คือ พ่อของเจ้าบ่าวจะถ่มน้ำลายลงบนศีรษะและหน้าอกของลูกสาวเพื่อเป็นการให้พรก่อนที่จะแยกย้ายออกไปมีครอบครัว แหม..พรจากพ่อนี่ชุ่มฉ่ำเป็นน้ำทิพย์จริงแต่เอ๊ะรับน้ำแต่ขอไม่รับกลิ่นด้วยได้ไหมคะคุณพ่อ
ตามธรรมเนียมของประเทศสวีเดนหากเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวคนใดคนหนึ่งเผลอไปเข้าห้องน้ำ เขาหรือเธอจะถูกขโมยจูบจากแขกผู้ร่วมงาน หึๆ รู้แบบนี้แล้วหากใครมีหวานใจเป็นชาวสวีเดนก็อย่าเผลอเข้าห้องน้ำเชียวล่ะ เอ๊ะ ! หรือจูบแบบนี้เรียกว่าจูบส่งท้ายความโสดนะ








3. ขนาดของงานแต่งงานที่ได้รับเชิญ












































