5 เรื่องนี้คนเป็นแขกต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจพกใครไปงานแต่งงาน

ไปงานแต่ง คนเดียวก็กลัวจะเขิน แต่ก็เกรงใจถ้าจะพกใครไปด้วย งั้นมาเช็ก 5 เรื่องนี้กันก่อนว่า คุณควรจะพกใครไปงานแต่งด้วยไหม

ใช่ว่าเป็นแขกที่ได้รับการ์ดเชิญ ไปงานแต่ง จะไม่มีเรื่องอื่นให้คิดนอกเหนือไปจากเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมนะคะ เพราะเรื่องหนึ่งที่ทำเอาบรรดาแขกทั้งหลายตัดสินใจไม่ได้คือ การ์ดหนึ่งใบพาใครไปด้วยได้บ้าง ก็แหม…งานแบบนี้จะให้ลุยเดี่ยวบางทีก็เก้อๆ เขินๆ ใช่ไหมล่ะ แต่ของแบบนี้สุ่มสี่สุ่มห้าพาไปก็อาจไม่เวิร์คนะคะ งั้นเอางี้ แพรว wedding มี 5 เรื่องให้คุณเก็บไปคิดก่อนตัดสินใจจะพกใครไปเป็นเพื่อนค่ะ

1. นึกถึงความสนิทของคุณกับเจ้าภาพเป็นอย่างแรก

เรียกได้ว่าเป็นประเด็นแรกเลยที่ต้องคิด เพราะถ้าคุณไม่ได้สนิทสนมอะไรกับเจ้าภาพมากมายนัก เช่นเจ้าภาพคือลูกค้าของบริษัทและคุณคือตัวแทนไปร่วมงาน การที่จะพาคนอื่นๆ ที่แม้จะเป็นแฟนไปด้วยไม่น่าจะเหมาะ แต่ถ้าเจ้าภาพเป็นลูกค้าที่มีความสนิทสนมกับคุณมากเป็นการส่วนตัว จะพกแฟนไปอีกคนคงไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่พกลูกและพี่เลี้ยงไปด้วย แบบนั้นก็เยอะเกินไม่ควรพาไปให้ยั้วเยี้ยงานแต่งเขานะคะ

2. ทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าภาพกับคนที่คุณจะพาไปด้วย

อย่าลืมเด็ดขาดว่างานแต่งงานต้องมีการถ่ายภาพร่วมกัน แล้วถ้าคนที่คุณจะพาไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นแฟนหรือเพื่อนเป็นคนที่คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าเจ้าภาพเขาไม่ค่อยปลื้มหรืออกแนวจะเกลียดขี้หน้าด้วยซ้ำ คุณจะพาไปให้เขาเสียอารมณ์ทำไม อย่าลืมนะคะว่าเขาคือเจ้าของงาน คุณน่ะเป็นแค่แขก และวันนี้คือวันสำคัญในชีวิตของเขา ทำอะไรต้องให้เกียรติเจ้าภาพและนึกถึงความรู้สึกของเขาซะหน่อย ถ้าคุณยังดื้อดึงคิดเอาเองง่ายๆ ว่าไม่เป็นไรหรอก ระวังให้ดีเถอะหลังงานเลิก คุณนั่นแหละจะเสียความสัมพันธ์ดีๆ นั้นไปอีกคน

ไปงานแต่ง3. ขนาดของงานแต่งงานที่ได้รับเชิญ

แม้ว่าคุณจะสนิทกับเจ้าภาพมากจนสามารถพาใครไปเป็นเพื่อนได้ก็ไม่น่าเกลียด หรือคนที่คุณจะพาไปนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเจ้าภาพ แต่อย่าลืมสืบก่อนไปสักนิดว่างานที่จัดเป็นงานแต่งงานขนาดไหน วิธีง่ายๆ คือสืบจากชื่อสถานที่จัดงานแต่งงานในการ์ดเชิญนี่แหละค่ะ ถ้าเป็นห้องบอลรูมในโรงแรม ก็อนุมานได้ว่างานน่าจะอยู่ในขนาดกลางถึงใหญ่แบบว่าเชิญแขกมาเกิน 300 คนขึ้นไป การจะพาใครไปด้วยอีกคนไม่น่าจะเป็นอะไร แต่ถ้าสืบแล้วพบว่าเป็นสถานที่รับจัดงานเล็กๆ ที่มีแนวโน้มว่าเจ้าภาพอาจต้องการความเป็นส่วนตัว อยากประหยัดงบประมาณหรืออยากได้บรรยากาศอบอุ่นที่มีแต่คนสนิท ก็หยุดคิดอีกสักรอบว่าจะพาไปด้วยดีไหม

4. ประเภทของการจัดเลี้ยงในงานแต่ง

งานแต่งงานจัดแบบค็อกเทล โต๊ะจีนหรือซิตดาวน์ดินเนอร์คะ ถ้าในการ์ดเชิญระบุมาว่าเป็นแบบค็อกเทลก็โอเคหน่อยที่คุณอาจพาไปได้แบบเต็มที่ทั้งภรรยาและลูก แต่ถ้าเป็นการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน ขอแนะนำว่าพาไปเพิ่มแค่คนเดียวก็พอ เพราะโดยส่วนใหญ่เจ้าภาพที่จัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีนจะใช้สูตรคำนวณปริมาณแขกแบบเผื่อๆ ว่า การ์ด 1 ใบต่อแขก 2 คนเป็นมาตรฐาน แต่ถ้าเป็นการเลี้ยงแบบซิตดาวน์ดินเนอร์เมื่อไหร่ละก็ การ์ดหนึ่งใบต่อแขกหนึ่งคนแน่นอนค่ะ

5. ชั่งน้ำหนักความจำเป็นที่ต้องพาไปด้วย

ถ้าคิดตามทั้ง 4 ข้อที่ว่าไปแล้วแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ต้องพาไปด้วยไหม แพรว wedding อยากให้ถามใจตัวเองว่า คุณมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่ต้องพาคนอื่นไปด้วย ถ้าไม่พาไปจะส่งผลถึงขั้นบ้านแตกหรือก่อให้เกิดปัญหาอะไรตามมาในชีวิตหรือเปล่า เช่นมีลูกแต่ไม่มีใครเลี้ยง งานแต่งงานครั้งนี้จะไม่ไปก็ไม่ได้ ถ้างั้นก็พาไปค่ะ แต่อย่าลืมเตรียมพร้อมไม่ทำให้ลูกของคุณมาสร้างความรำคาญให้คนในงานด้วยนะคะ แต่ถ้าเป็นกรณีว่าเป็นแฟนกันไม่พาไปเธอจะงอนจะขอเลิกละก็ อยู่ที่คุณแล้วละค่ะว่า เหตุผลที่ว่าจำเป็นต้องพาไปเพราะเธอจะงอน มัน ‘ใช่’ จริงไหม

ลองนำทั้ง 5 ข้อนี้ไปคิดดูให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจพาใครไปงานแต่งงานเป็นเพื่อนนะคะ แล้วเชื่อเถอะค่ะว่า คุณจะไม่โดนเจ้าภาพเบ้หน้าใส่อย่างแน่นอน

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับแขกในงานแต่ง >>> มารยาทที่ดีสำหรับแขกที่ได้รับเชิญไปงานแต่งต้องทำยังไง? เรามีคำตอบ

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : www.theviewonthehudson.com

Recommended