แพรว wedding มาพร้อมกับเคล็ดลับดีๆ กับ อาหารผิว ที่จะช่วยให้ผิวของว่าที่บ่าวสาวดูดีขึ้น แต่ก่อนอื่นลองมาสำรวจตัวเองกันหน่อยว่าคุณกำลังทำสิ่งนี้อยู่หรือเปล่า ทานคอลลาเจนเป็นอาหารเสริม? แต่เรามีวิธีที่ง่ายกว่านั้น เพราะเคล็ดลับผิวสวยสร้างได้ง่ายๆ ด้วยเมนูอาหารประจำวัน แถมยังสามารถดูแลสุขภาพของบ่าวสาวได้แบบองค์รวมอีกด้วย
และนี่คืออาหารผิวที่ บาร์บาร่า โคลส ผู้บริหารและผู้ก่อตั้งแบรนด์ความงามแบบองค์รวม Naturopathica อยากจะนำมาบอกต่อให้กับว่าที่บ่าวสาว “โภชนาการมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผิวดูดีจากภายในสู่ภายนอก” ซึ่งบาร์บาร่ากำลังจะตีพิมพ์หนังสือเล่มใหม่ของเธอที่ชื่อว่า The Naturopathica Effect: A Holistic Approach to Skin Health ที่จะพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างอาหารและผิวพรรณพร้อมสูตรอาหารบูสต์ผิวให้เปล่งปลั่งดูสุขภาพดี
ว่าแล้วก็จูงมือกันไปทำเมนูอาหารที่จะช่วยให้ผิวของบ่าวสาวเปล่งปลั่งในวันสำคัญกันเลย
เมนูเครื่องดื่มตอนเช้า :สมูทตี้น้ำมะนาวและผักใบเขียว
บาร์บาร่าให้ข้อมูลว่า การจิบน้ำมะนาวจะช่วยรักษาภาวะความเป็นกรดด่างของระบบในร่างกายให้ทำงานได้ดีขึ้น และยังช่วยลดอาการพุงป่องระหว่างวันได้อีกด้วย และในผักใบเขียวอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและช่วยระงับอาการอักเสบต่างๆ ภายในร่างกายได้ด้วย
ส่วนผสม
อะโวคาโด ½ ลูก
มะม่วงหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 1 ถ้วย
ผักใบเขียว เช่น ผักสวิสชาร์ด, กะหล่ำปลีสีเขียว, ผักโขม เป็นต้น 2 กำมือ
แตงกวาสไลด์ ½ ลูก
น้ำมะนาว 1 ลูก
ขิงปอกเปลือกและหั่นบางๆ ขนาด 1 นิ้ว
อินทผลัม 1-2 เม็ด
นมอัลมอนด์ หรือน้ำมะพร้าวแบบไม่หวาน 1 แก้ว
เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ ** อันนี้แล้วแต่ว่าจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้
ก้อนน้ำแข็ง ¼ ถ้วย หากคุณต้องการความเย็นชื่นใจ
วิธีทำ
1. ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงในเครื่องปั่นและปั่นทุกอย่างให้เข้ากัน เพิ่มก้อนน้ำแข็งลงไปหากต้องการให้เครื่องดื่มเหลวเพื่อง่ายต่อการดื่ม
2. เสร็จแล้วจึงเทเครื่องดื่มลงในแก้วสวยๆ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดื่ม
เมนูอาหารกลางวัน :แซลมอนต้มราดด้วยซอสส้มมิโซะ
แซลมอนไม่เพียงแค่ให้โปรตีนและไขมันที่ดีเท่านั้น แต่ยังมีกรดอะมิโนที่ช่วยกระตุ้นสารเคมีในสมองให้เกิดการนอนหลับที่ง่ายขึ้นด้วย บาร์บาร่าแนะนำว่าให้รับประทานอาหารมื้อใหญ่ในระว่างวันเพื่อช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหารและให้พลังงานที่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน
Tips :ปลาแซลมอน อุดมไปด้วยไขมันที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงมีโปรตีนสูง และยังมีคุณสมบัติที่ช่วยต้านการอักเสบของผิว และชะลอการเกิดริ้วรอยได้อีกด้วย
ส่วนผสม
ขิงขนาดประมาณ 3 นิ้ว
น้ำส้มคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
มิริน 2 ช้อนโต๊ะ
มิโซะ 3 ช้อนโต๊ะ
เนื้อปลาแซลมอนขนาด 8 ออนซ์ แบบไม่มีมันเอาหนังออก
น้ำมันมะกกบริสุทธิ์ 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือ
วิธีทำ
1. วอร์เตาอบเอาไว้ก่อน
2. ขูดขิงใส่ลงในชามใบเล็ก แล้วบดให้ละเอียดอีกครั้งด้วยมือจนได้เป็นน้ำขิง จากนั้นกรองเอาแต่น้ำ
3. เติมน้ำส้มคั้นสด, มิริน และมิโซะ ลงในชาม ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วพักไว้
4. ใช้แปรงชุบน้ำมันมะกอกแล้วทาลงบนแซลมอน โรยด้วยเกลืออีกนิดหน่อย จากนั้นวางลงบนถาดที่รองไว้ด้วยฟอยด์ แล้วนำเข้าเตาอบเป็นเวลา 2 นาที
5. เมื่อครบ 2 นาทีนำออกจากเตาอบ ระวังตอนพลิกเนื้อปลา จากนั้นจึงอบอีกด้านเป็นเวลา 2 นาที จนเนื้อปลาเริ่มเป็นสีน้ำตาลนิดๆ
6. เมื่อครบเวลาจึงนำออกจากเตาอบ ใช้แปรงจุ่มลงในซอสที่พักไว้แล้วทาลงบนเนื้อปลา แล้วนำเข้าเตาอบอีก 1 นาที
7. เมื่อครบเวลาแล้ว ก็จัดจานพร้อมเสิร์ฟได้เลย
เมนูมื้อดินเนอร์ : น้ำซุปต้มกระดูก มื้ออาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
จบมื้ออาหารของวันด้วยเมนูที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างน้ำซุปต้มกระดูก ที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิว เล็บ และเส้นผมแข็งแรง แถมยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งได้จากน้ำซุปเพียงถ้วยเดียวอีกด้วย
Tips :น้ำซุปจากการต้มกระดูก, น้ำมะนาว และการเติมผักใบเขียวลงในเมนูสมูทตี้ คือเคล็ดลับดีๆ ที่จะช่วยให้ผิวของคุณดูดีทั้ง 365 วัน!
ส่วนผสม
ไก่แบบออร์แกนิค น้ำหนัก 2-3 ปอนด์
หอมใหญ่หั่นเตรียมไว้ 1 ลูก
แครอตหั่นเป็น 3 ท่อน ใช้ทั้งหมด 2 ลูก
ผักชีฝรั่งสับละเอียด 2 ก้าน
กระเทียมสับ 6 กลีบ
ก้านโหระพามัดรวมกันประมาณ 4-5 ก้าน
ใบกระวาน 1 ใบ
สาหร่ายทะเลขนาดประมาณ 8 นิ้ว 1 ชิ้น
พริกไทยดำ 6 เม็ด
น้ำสะอาดประมาณ 1 ลิตร
รากแอสทรากาลัส 2 ชิ้น
เกลือทะเล
วิธีทำ
1. หั่นไก่ออกเป็นชิ้นให้รับประทานง่าย เช่น ส่วนอก, ปีก, น่อง และขา แล้วเก็บส่วนที่เป็นกระดูกและคอไว้ เพราะส่วนเหล่านี้อุดมไปด้วยคอลลาเจน
2. ในหม้อต้ม ให้นำไก่ หอมใหญ่ แครอต ผักชีฝรั่ง กระเทียม โหระพา ใบกระวาน สาหร่ายคอมบุ และพริกไทยดำ จากนั้นเติมน้ำลงไปใหท่วมส่วนผสมทั้งหมดแล้วต้ม ระหว่างนั้นอาจใช้ช้อนคอยกรองเอาไขมันที่ลอยขึ้นมาด้านบนออก เมื่อเดือดได้ที่ลดความร้อนลงแล้วเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 2 ชั่วโมง
3. จากนั้นตักไก่ออกจากหม้อ แล้วแยกเนื้อออกจากกระดูก แยกไว้อีกจาน แล้วนำกระดูกใส่กลับลงไปในหม้อ แล้วใส่รากแอสทราลากัส แล้วต้มต่อไปจนกว่าน้ำสต๊อกจะรสชาติดีเป็นที่ถูกใจ ซึ่งส่วนมากจะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงเป็นอย่างมาก หรือบางบ้านอาจจะต้มทิ้งไว้เป็นวันเลยก็มี ขณะที่ต้มสามารถเติมน้ำเพิ่มได้หากน้ำเริ่มมีความงวดมากเกินไป ซึ่งเคล็ดลับน้ำสต๊อกที่อร่อยก็คือ ยิ่งต้มนานมากเท่าไหร่รสชาติก็ดีตามมากเท่านั้น
4. ก่อนที่น้ำสต๊อกจะเคี่ยวจนได้ที่ เติมผักชีฝรั่งลงไป ปรุงรสด้วยเกลือเพิ่มอีกนิดหน่อย เมื่อรสชาติได้ที่ จึงตักกระดูกและส่วนผสมทั้งหมดออก แล้วกรองอีกครั้งผ่านตะแกรง จากนั้นพักให้น้ำซุปเย็นหรือจะนำเข้าตู้เย็นก็ได้เป็นเวลา 4 ชั่วโมง จากนั้นอีกวัน ให้ช้อนไขมันด้านบนทิ้ง
5. แล้วนำเข้าตู้เย็นอีก 3 วัน ก็เป็นอันพร้อมรับประทาน แถมฟรีซไว้ทานได้นานถึง 3 เดือนเลยทีเดียว
>> ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับความสวยความและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย! <<
ภาพ pexels.com, minimalistbaker.com, jessicagavin.com, acalculatedwhisk.com