วิธีกำจัด สิวที่หลัง ให้หายขาด เพื่อชุดเจ้าสาวเปลือยหลังสวยมั่นใจในวันแต่งงาน!

สิวที่หลัง ปัญหากวนใจของเจ้าสาวที่อยากใส่ชุดแต่งงานเกาะอก สายเดี่ยว อยากกำจัดให้หายขาดมั้ย? ถ้าอยากมาอ่านวิธีกันเลย

เทรนด์ชุดเจ้าสาวยุคนี้ หนีไม่พ้น ชุดเกาะอก สายเดี่ยว เปลือยหลัง เปลือยไหล่ โชว์ผิวสวยและหุ่นงามระหงของเจ้าสาวในวันแต่งงาน แต่ปัญหากวนใจของสาวๆหลายคนที่กำลังจะเป็นว่าที่เจ้าสาว ก็คือ สิวที่หลัง หรือหน้าอก ที่บางทีทำให้ว่าที่เจ้าสาวต้องตัดใจากเหล่าบรรดาชุดสวยๆโชว์หลังโชว์ไหล่ที่อยากใส่ไปอย่างน่าเสียดายเพราะไม่รู้จะต่อกรกับปัญหาสิวที่หลังได้อย่างไร บอกเลยว่า แพรว เวดดิ้ง เห็นใจเหล่าว่าที่เจ้าสาวที่กำลังต้องเผชิญกับปัญหานี้มากๆ เราก็เลยรวบรวมข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยการสู้กับปัญหาสิวที่หลังและสิวตามตัวยังไงให้อยู่หมัด ทีนี้ละ ชุดเจ้าสาวแบบไหนๆเจ้าสาวก็จะเลือกใส่ได้ไม่หวั่นอีกต่อไป!

สิวที่หลัง

เข้าใจสาเหตุของสิวที่หลังก่อนเลย สิวที่หลังเกิดจากสาเหตุได้หลากหลาย เช่น

เกิดขึ้นจากเชื้อรา พี.โอวาเล (P.ovale) ซึ่งมีที่มาจากสุขอนามัยที่ไม่ดี เช่น การหมักหมมไม่อาบน้ำ ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ หรือความสกปรกที่เกิดขึ้นจากเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นไม่สะอาด อับชื้น แม้กระทั่งผ้าเช็ดตัว หรือ ผ้าปูที่นอนที่นานๆเปลี่ยนที (นานๆ ในที่นี้ คือ สองสามเดือนเปลี่ยนทีหรือนานกว่านั้น)

การแพ้สารเคมี เช่น ยาสระผม สบู่ ผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม น้ำหอม รวมทั้งครีมบำรุงผิว

ฮอร์โมน ซึ่งวิธีการสังเกตก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ในช่วงที่ก่อนเป็นรอบเดือนหรือระหว่างที่เป็นรอบเดือน หากพบว่ามีสิวผุดระเบิดขึ้นมาที่หลังเป็นจำนวนมาก นั้นแปลว่าคุณเป็นสิวที่หลังเพราะฮอร์โมนนะคะ

การทาครีมกันแดดที่หลังมากเกินไป ข้อนี้สาวๆที่ชอบใส่บิกินี่ไปทะเลกันน่าจะเจอบ่อย เพราะบางที สารเคมีในครีมกันแดด หรือครีมกันแดดที่เนื้อหนาหนัก ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอุดตันจนเกิดเป็นสิวที่หลังได้

การสครับผิว หลายคนเข้าใจว่า ยิ่งเป็นสิวที่หลังยิ่งต้องสครับผิวเพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป แต่แท้จริงแล้ว การสครับผิวที่หลังจะยิ่งเป็นการทำลายเกราะป้องกันผิว และยังกระตุ้นให้ผิวระคายเคือง จนทำให้สิวที่เป็นอยู่ ลุกลามกว่าเดิมได้ค่ะ

สิวที่หลัง

รู้สาเหตุแล้ว จะป้องกันยังไงดี?

เอาล่ะคะ หลังจากที่เรารู้สาเหตุของการเกิดสิวไปแล้ว ทีนี้เรามาดูวิธีการรักษากันบ้างดีกว่า

ถ้าสาเหตุเกิดจากอนามัยของเราไม่ดีพอ วิธีนั้นง่ายมากค่ะ เพียงแค่ทำความสะอาดชำระล้างร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ หากชอบเข้าฟิตเนส หลังออกกำลังกายก็อาบน้ำทันทีอย่าหมักหมมตัวเองไว้ในชุดออกกำลังกายนานเกินไป ตากเสื้อผ้าให้โดนแดดเพื่อไม่ให้เกิดความอับชื้น เปลี่ยนผ้าเช็ดตัวและผ้าปูที่นอนอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างต่ำหรือบ่อยกว่านั้นได้ยิ่งดี

ใช้ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย อย่าง salicylic acid หรือ benzoyl peroxide แต่สำหรับ benzoyl peroxide ต้องเตือนไว้นิดนึงว่าสามารถกัดสีเสื้อผ้าของเราได้นะ จึงอาจจะเลือกทาเฉพาะตอนก่อนนอน และใส่เสื้อสีอ่อนค่ะ

ส่วนใครที่สงสัยว่าจะแพ้สารเคมีในยาสระผม แนะนำให้คุณสาวๆ ก้มศีรษะลงเวลาสระผมนะคะ (วิธีแสนจะง่ายเลยใช่ไหมล่ะ) เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีจะสัมผัสกับผิวหลังของคุณ เปลี่ยนมาใช้สบู่ก้อนที่มีคุณสมบัติลดแบคทีเรียแทนสบู่เหลว หรือจะเลือกใช้สบู่เหลวแบบอ่อน ใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดอ่อน หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสมุนไพรอันนี้ก็ช่วยได้นะคะ

ถ้าสิวหลังที่เกิดจากฮอร์โมน สามารถดูแลได้ด้วยการทายาฆ่าเชื้อรา หรือการกินยาฆ่าเชื้อรา หรือสาวๆ สามารถเลือกซื้อยาคุมที่มีส่วนผสมของเอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสเตอโรน (Progesterone) มากินเพื่อรักษาสิวที่แผ่นหลังก็ได้เช่นกัน แต่ข้อนี้เราอยากให้สาวๆปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญร่วมด้วยนะคะ

หากต้องใช้ครีมกันแดดที่หลัง เลือกชนิดสำหรับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ หรือกันแดดเนื้อสเปรย์บางเบาที่ไม่อุดตันรูขุมขน รวมทั้งงดสครับผิวที่หลังด้วยนะคะ

สิวที่หลัง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสาวๆ วิธีการรักษาไม่ได้ยากเลยใช่ไหม ถ้าหากมีวินัยและทำตามเราครบทุกข้อ รับรองว่าอาการสิวที่หลังจะค่อยๆดีขึ้นและไม่กลับมากวนใจอีกแน่นอน ทีนี้ละ เราก็จะได้ใส่ชุดเจ้าสาวเปลือยแผ่นหลังที่เฝ้าฝันอย่างมั่นใจในวันวิวาห์ได้แล้ว เย้!

ขอบคุณข้อมูลผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย 

Credit Story: allure.com

รวมมาแล้ว 8 ร้านแคเทอริ่งงานแต่งเจ้าเด็ด พร้อมราคาบ่าวสาวรีบเช็กดูด่วน

รวมมาแล้วไม่ต้องหากับ 8 แคเทอริ่งงานแต่ง เจ้าเด็ด

จัดงานแต่งงาน เรื่องอาหารถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องเลือกให้ดูดี สมกับหน้าตาฐานะของบ่าวสาว เพราะถ้าอาหารแย่ ต้องถูกแขกในงานเอากลับไปเมาท์แน่ๆ เลย แพรว wedding รวบรวม 8 แคเทอริ่งงานแต่ง ที่หลายคนเขาบอกว่าเด็ดมาฝากกัน ลองเช็กกันดูได้ว่าเจ้าไหนที่เหมาะกับเรา

Dee Catering

ดีเคเทอริ่งร้านเคเทอริ่งและรับจัดงานเลี้ยง ที่สำคัญคือรับจัดงานแต่งงานแบบครบวงจรอีกด้วย มีทั้งบุฟเฟต์ ค็อกเทล และออกร้านโต๊ะไทย มีเมนูอาหารให้เลือกหลากหลาย ทั้งไทยและสากล การันตีความอร่อยด้วยเมนูอาหารต้นตำรับจากร้านอาหารดีพร้อม ที่มีชื่อเสียงยาวนานกว่า 50 ปี

– เซทเมนูบุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท/ท่าน

– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 230 บาท/ท่าน

– ออกร้าน ราคาเริ่มต้นที่ 7,000 บาท/เมนู

ติดต่อ Dee catering เฟซบุ๊ก : DeeCatering / โทร. 08-2782-8958, 0-2718-8033

 เชฟโจวแคทเทอริ่ง

เปิดบริการมายาวนานสำหรับบริการรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ และรับจัดงานหมั้นงานแต่งงาน พร้อมบริการรับจัดซุ้มอาหารและเครื่องดื่มสไตล์โรงแรม มีให้เลือกหลากหลายเมนูทั้งของหวานและของคาว


– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท/ท่าน

– บุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 280 บาท/ท่าน

– ออกซุ้ม ราคาเริ่มต้นที่ 20,000 บาท

ติดต่อ เชฟโจวแคทเทอริ่ง เว็บไซต์ : www.chefjowcatering.com / ไลน์ : chefjow /โทร. 08-2220-8444 , 08-9990-3444

Mongkol Catering

รับจัดงานแต่งงานและอาหารครบวงจรด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปี มีบริการอาหารให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งบุฟเฟต์, ค็อกเทล คานาเป้, โต๊ะไทย จีน ตลอดจนซุ้มอาหาร

– บุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท/ท่าน

– โต๊ะจีน ราคาเริ่มต้นที่ 3,000 บาท/โต๊ะ

– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท/ท่าน

ติดต่อ Mongkol catering  เฟซบุ๊ก : Mongkol Catering / โทร. 09-3995-4246

NCC Catering

ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี และเป็นที่รู้จักกันในนาม ผู้บริหารงานด้านอาหาร และ เครื่องดื่มของศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดงาน และมีทีมงานมืออาชีพ สามารถจัดงานเลี้ยงได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงขนาดเล็ก ไปจนถึงงานเลี้ยงขนาดใหญ่จำนวนหมื่นคน พร้อมการันตีคุณภาพการบริการที่ได้รับมาตรฐาน ระบบ จี เอ็ม พี ระดับสากล ในราคาที่คุ้มค่า

catering

– บุฟเฟต์ ราคาเริ่มต้นที่ 500 บาท/ท่าน

– ค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 400 บาท/ท่าน

– โต๊ะจีน ราคาเริ่มต้นที่ 8,300 บาท

ติดต่อ NCC cateing เว็บไซต์ : www.ncccatering.com / เฟซบุ๊ก : NCC Catering / โทร. 06-1389-5651

ข้อเท็จจริงของการตรวจ มะเร็งปากมดลูก ที่ว่าที่เจ้าสาวทุกคนควรต้องรู้

สูตินรีแพทย์ตัวจริง มาให้คำตอบเกี่ยวกับการเตรียมสุขภาพผู้หญิงก่อนแต่งงาน พร้อมทั้งข้อเท็จจริงของการตรวจ มะเร็งปากมดลูก ที่หลายคนยังเข้าใจผิด

การตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน เป็นสิ่งจำเป็นที่คู่รักควรจะต้องทำก่อนจูงมือกันเข้าพิธีวิวาห์และเข้าเรือนหอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่กำลังจะเตรียมตัวตั้งครรภ์หลังแต่งงาน เพราะนอกจากสุขภาพโดยทั่วไปของเราแล้ว สุขภาพระบบสืบพันธุ์ของเรายังเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับการเตรียมพร้อมเป็นคุณแม่หลังแต่งงานด้วยจริงไหมคะ? ซึ่งการตรวจระบบสืบพันธุ์เพื่อการเตรียตัวมีครอบครัวนั้น หนีไม่พ้นการตรวจคัดกรอง มะเร็งปากมดลูก ซึ่งถือเป็นการตรวจที่สำคัญสำหรับสาวๆ แต่เรากลับพบว่ายังมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจมะเร็งปากมดลูกในหมู่ผู้หญิงอยู่มาก เราก็เลยยกหูขอสัมภาษณ์คุณหมอผู้เชี่ยวชาญ .. กษิติ แสงจันทร์ แพทย์สูตินรีเวช เกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการตรวจมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงเพื่อเตรียมตัวมีครอบครัว รวมทั้งวิธีการดูแลสุขภาพก่อนแต่งงานเพื่อจะเตรียมตัวเป็นคุณแม่ในอนาคตค่ะ

มะเร็งปากมดลูก
hauteofftherack.com

ทำไมเราจึงต้องให้ความสำคัญกับการตรวจมะเร็งปากมดลูก?

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งทั้งหมดในผู้หญิงไทย รองจากมะเร็งเต้านม แต่ในปัจจุบันนี้พบว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ และอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกของผู้หญิงไทยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยตัวเลขล่าสุดเมื่อปี 2555 คือ 14 คน ต่อวันเลยทีเดียว

ใครบ้างที่ควรไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก?

ผู้หญิงอายุ 21 ปีขึ้นไป ที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว สามารถไปตรวจคัดกรองหมด ไม่ว่าจะอายุเท่าไร และไม่ต้องรอให้มีแผนจะแต่งงานหรือมีบุตรก่อนก็สามารถมาตรวจได้เลยครับ

วิธีการตรวจคัดกรองในปัจจุบันนี้ใช้วิธีอะไร เจ็บไหมคะ?

มีสองวิธีหลักๆ วิธีแรก เรียกว่า Pap Smear แพทย์จะใช้เครื่องมือสอดผ่านคลอด จากนั้นจะทำการป้ายเซลล์จากมดลูกส่งตรวจทางเซลล์วิทยาเพื่อตรวจหาเซลล์ผิดปกติ ซึ่งถือเป็นวิธีที่นิยมใช้เนื่องจากทำได้ง่ายและราคาถูก และเนื่องจากปัจจุบันทราบแล้วว่าสาเหตุของการเกิดมะเร็งปากมดลูกส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อ HPV จึงเป็นที่มาของการตรวจอีกวิธีหนึ่งเรียกว่า การตรวจ HPV DNA test(การตรวจเพื่อหาเชื้อไวรัสเอชพีวีซึ่งวิธีนี้มีความแม่นยำมากกว่า แต่ค่าใช้จ่ายก็จะสูงกว่า ทั้งสองวิธีไม่เจ็บครับ

มะเร็งปากมดลูก
Kallimaphotography.com

สิ่งที่ผู้หญิงมักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก คืออะไรคะ?

ข้อแรกคือ ไม่รู้ว่าควรจะมาตรวจหากผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว และเมื่ออายุมากกว่า 21 ปี ส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าต้องรอให้อายุมากๆก่อนค่อยมาตรวจ

ข้อที่สองคือ เข้าใจว่ามะเร็งปากมดลูกสืบต่อกันทางพันธุกรรมเหมือนมะเร็งชนิดอื่นๆ คือถ้าในครอบครัวไม่มีประวัติก็คิดว่าตัวเองไม่เสี่ยง แต่ที่จริงแล้วคือ หากเคยมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว ถือว่ามีความเสี่ยงครับ

ข้อที่สามคือ คิดว่า หากไม่มีอะไรผิดปกติอะไรก็ไม่ต้องมาตรวจ แต่ที่จริงแล้วมะเร็งปากมดลูกใช้เวลานานกว่า 10 ปีกว่าจะแสดงอาการ นั่นหมายความว่าหากคนไข้มีอาการ แสดงว่าอยู่ในระยะท้ายๆของโรคแล้วครับ

แล้วอาการที่จะสงสัยได้ว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก มีอะไรบ้างคะ?

มีตกขาวผิดปกติ ไม่ว่าจะเยอะเกินไป หรือมีสี/ กลิ่น ที่ไม่ปกติ

เลือดออกกระปิดกระปรอยเมื่อมีเพศสัมพันธ์

เลือดออกกระปิดกระปรอย แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน

หากมีอาการเหล่านี้ แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจวิเคราะห์อย่างละเอียดครับ

ข้อสุดท้าย แล้วถ้าเรายังเป็นผู้หญิงบริสุทธิ์ เราสามารถทำอะไรเพื่อป้องกันได้บ้างคะ?

แนะนำให้เข้ามารับวัคซีน HPV เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูก เพราะวัคซีนชนิดนี้จะทำงานได้ดีที่สุดในผู้หญิงที่ไม่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อน ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 9 ปีขึ้นจนถึง 26 ปีไปก็สามารถเข้ามารับวัคซีนได้ แต่ผู้หญิงที่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้ว, อายุมากกว่า26ปีหรือเคยมีประวัติการติดเชื้อHPV มาแล้ว ก็สามารถรับวัคซีนได้เช่นกันครับ แต่ประโยชน์ของวัคซีนอาจจะลดลง 

มะเร็งปากมดลูก
BRITTA MARIE PHOTOGRAPHY

ได้ความรู้กันแบบเต็มๆ สำหรับการป้องกันตัวเองจากมะเร็งปากมดลูกจากคุณหมอสูตินรีเวชตัวจริง บอกเลยว่าเรื่องเล็กๆแบบนี้ผู้หญิงเราไม่ควรมองข้ามนะคะ ยิ่งถ้าเป็นว่าที่เจ้าสาวที่กำลังจะมีครอบครัว ยิ่งต้องดูแลตัวเองมากเป็นพิเศษ ว่าแล้วใครที่ยังไม่ได้บุ๊คคิวเข้าตรวจสุขภาพกับคุณหมอ ก็รีบจูงมือคู่รักไปบุ๊คคิวซะละคะ จะได้เข้าเรือนหอกันแบบสบายใจ ไร้โรค และเตรียมตัวเป็นคุณแม่อย่างเต็มที่ได้ค่ะ

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก .. กษิติ แสงจันทร์ แพทย์สูติ-นรีเวช
อ่านข้อมูลทางการแพทย์ที่เป็นประโยชน์สำหรับความรู้เพิ่มเติมเรื่องมะเร็งปากมดลูก ได้ที่นี่

จริงหรือปลอม!! ใบเซอร์เพชร กับเทคนิคการเช็กก่อนรับเพชรกลับบ้าน

ใบเซอร์เพชร คืออะไร? สำคัญแค่ไหน? มาดูกัน

เดี๋ยวนี้ใครจะซื้อเพชรเป็นต้องเรียกหา ใบเซอร์เพชร เพื่อความอุ่นใจ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าใบเซอร์ที่ได้มาเป็นของจริง และจับคู่กับเพชรเม็ดที่ครอบครองแบบถูกคู่ แพรว wedding เลยไปเสาะหาเทคนิคการตรวจเช็กใบเซอร์มาฝาก

  • มาทำความเข้าใจคำว่า “ใบเซอร์” กันก่อน

ก่อนอื่นต้องบอกว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายก่อนว่า ถ้าเจอใบรับรองคุณภาพเพชร หรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าใบเซอร์ ไม่ว่าจะเจอใบเล็กหรือใบใหญ่ก็อย่าเพิ่งเอามือทาบอกเพราะตกใจ เพราะเดี๋ยวนี้สถาบันดังๆ เช่น GIA จะออกใบเซอร์ให้กับคนรักเพชร 2 ขนาด คือขนาดใหญ่เท่ากับกระดาษ A4 พับ 3 ทบ เรียกว่า Diamond Grading Report (หรือบางทีก็เรียกว่าใบเซอร์แบบ Full Report) และขนาดเล็กเท่ากระดาษ A5 (ครึ่งหนึ่งของกระดาษ A4) แล้วพับครึ่ง ที่เรียกว่า Diamond Dossier

ความต่างของใบเซอร์ 2 ขนาดนี้ก็คือ ใบใหญ่ออกให้กับเพชรทุกขนาด  แต่ที่นิยมคือเพชรขนาด 1 กะรัตขึ้นไป เพราะคุ้มค่าใช้จ่ายมากกว่า โดยใบเซอร์นั้นจะระบุคุณสมบัติไว้อย่างครบถ้วนพร้อมรูปประกอบแบบละเอียด ในขณะที่ใบเล็กนิยมออกให้กับเพชรที่มีขนาดต่ำกว่า 1 กะรัต ไม่มีภาพแสดงตำหนิในเม็ดเพชร และจะกำหนดให้ยิงเลเซอร์หมายเลขเพชรทุกเม็ด (อาจเป็นเพราะเม็ดเล็กนั้นหาง่าย มีมากกว่าเพชรเม็ดใหญ่ จึงต้องเลเซอร์ไว้กันความสับสนนั่นเอง)

ใบเซอร์เพชร

  • “ใบเซอร์” ปลอมมีอยู่ 2 แบบ

ในวงการเพชรนั้นให้ความหมายของคำว่า ใบเซอร์ปลอม เป็น 2 กรณีคือ

  1. ใบเซอร์ปลอมทั้งแผ่น คือไม่ใช่ใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบันใดทั้งสิ้น เป็นเพียงการลอกเลียนแบบรายละเอียดทุกอย่างให้เหมือนของจริง ซึ่งหากใบเซอร์โดยเลียนแบบใบเซอร์ที่ออกโดยสถาบันรับรองคุณภาพเพชร GIA ก็จะมีจุดตรวจสอบทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน คือ

ที่ QR Code เมื่อสแกนคิวอาร์โค้ดแล้วเชื่อมต่อไปยังหน้าเว็บไซต์ของสถาบันเพื่อให้กรอกรหัสหมายเลขเพชร และตรวจสอบต่อไปว่าตรงกันกับเพชรในมือหรือไม่

ที่สัญลักษณ์รูปกุญแจ วิธีการคือ ใช้ยางลบลบที่รูปกุญแจสีเทา เมื่อถูกลบตรงสีเทานั้นจะกลายเป็นสีขาวแล้วกลับมาเป็นสีเทาเสมอ เนื่องจากบริเวณนี้ใช้หมึกชนิดพิเศษที่เรียกว่า Thermochromic Ink ในการพิมพ์ จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาดังกล่าว

ที่ Hologram Logo GIA โลโก้ของสถาบันที่มีรูปร่างคล้ายพระอาทิตย์ พิมพ์แบบปั๊มนูนด้วยสีทอง มีจุดสังเกตคือมีลายน้ำบางๆ เหมือนลายนิ้วมืออยู่ภายใน

  1. ใบเซอร์กับเพชรไม่ตรงกัน

ถ้าเป็นภาษาปากก็จะเรียกว่า การสวมใบเซอร์ พบได้บ่อยกว่ากรณีแรก ถ้าเริ่มไม่มั่นใจว่าจะอยู่ในกรณีนี้หรือไม่ ลองตรวจสอบตามนี้

– ส่องเช็กตำหนิที่ระบุในใบเซอร์กับเพชรในมือ

– ให้ทางร้านวัดสัดส่วนต่างๆ ของเพชรเม็ดนั้นว่าตรงกันกับที่ระบุในใบเซอร์หรือไม่

– ในกรณีที่ใบเซอร์นั้นออกโดยสถาบัน GIA ให้นำเพชรไปส่องกล้องตรวจสอบโลโก้ของสถาบัน GIA เพราะโลโก้ที่ว่าจะเป็นเส้นคู่แต่ตัวเลขเป็นเส้นปกติ

– หากในใบเซอร์แผ่นใหญ่มีหัวข้อ Inscription แปลว่าเพชรเม็ดดังกล่าวต้องมีการเลเซอร์หมายเลขไว้แน่นอน ซึ่งหมายเลขที่ว่าก็จะต้องตรงกันกับใบเซอร์ด้วย

เรื่องควรรู้

ว่าที่บ่าวสาวสามารถส่งเพชรไปให้ร้านเพชรทั่วไปยิงเลเซอร์ได้ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อเล่น ประโยคหวานๆ แต่ไม่สามารถยิงหมายเลขเพชรได้ เพราะหมายเลขดังกล่าวจะต้องออกและรับรองโดยสถาบันเท่านั้น นอกจากนี้ เพชร 1 เม็ดสามารถมีใบเซอร์ได้มากกว่า 1 สถาบัน โดยในแต่ละครั้งที่นำเข้าตรวจสอบจะมีการระบุรายละเอียดของเพชรเม็ดนั้นๆ เพิ่มเข้าไปเสมอ เช่น ครั้งแรกนำไปทำใบเซอร์กับสถาบัน GIA และมีการเลเซอร์โดยทาง GIA เมื่อนำไปให้สถาบัน HRD ตรวจสอบ ในใบเซอร์จาก HRD ก็จะระบุว่าบนตัวเพชรมีเลเซอร์ของ GIA นั่นเอง

ว่าที่บ่าวสาวหลายคู่ที่ยังสงสัยว่า แล้วจะทำอย่างไรให้รอดพ้นจากใบเซอร์ปลอม แพรว wedding แนะนำว่าให้ว่าที่บ่าวสาวหาข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับร้านเพชรที่จะซื้อควบคู่ไปกับการหาข้อมูล คุณสมบัติเพชร และใบเซอร์ เพื่อที่ก่อนจะตัดสินใจซื้อและรับของจากร้าน จะได้รู้วิธีตรวจสอบความถูกต้องของใบเซอร์และเพชรเม็ดที่ต้องการช็อป

มาเพิ่มเลเวลความรู้เรื่องเพชรอีกนิดกับ >>> ถอดรหัส 4Cs อ่านป้ายบนแหวนแต่งงานให้เป็นไม่ถูกหลอก

ภาพ Youtube/Howcast, unsplash.com

4 เรื่องต้องเคลียร์กันให้จบก่อนแล้วค่อยวางงบประมาณจัดงานแต่ง

งบประมาณจัดงานแต่ง เรื่องสำคัญที่ต้องเคลียร์ใจก่อนเริ่มต้นวางแผน

แพรว wedding ไม่อยากให้ช่วงเวลาแห่งการเตรียมจัดงานแต่งงานกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามเรื่องเงินๆ ทองๆ ระหว่างคุณทั้งคู่เพียงเพราะความเข้าใจไม่ตรงกันหรือหาข้อสรุปไม่ลงตัวแล้วรีบร้อนจัดแจงเตรียมทุกสิ่ง ก็เลยสรุปมาให้ 4 เรื่องด้านล่างนี้ ว่าที่บ่าวสาวค่อยๆ อ่าน ทำความเข้าใจ แล้วหันหน้าหาข้อสรุปแล้วค่อยวาง งบประมาณจัดงานแต่ง งานก็ยังทันนะคะ

 

อะไรสำคัญมากที่สุดในการจัดงานแต่งงานครั้งนี้

เสื้อผ้า? หน้าผม? สถานที่? อาหารและเครื่องดื่ม? หรือวงดนตรีสร้างความบันเทิง? ลองเรียงลำดับความสำคัญดูก่อนนะคะ คุณจะได้เกลี่ยงบประมาณที่มีไปยังหัวข้อต่างๆ อย่างลงตัวและตรงใจ โดยในการเรียงลำดับความสำคัญที่ว่านี้ อาจใช้วิธีแฟร์ๆ แบบว่าต่างคนต่างไปเรียงลำดับแล้วมาคุยกันเพื่อฟังเหตุผลและความรู้สึกที่ต่างฝ่ายต่างเทใจให้ความสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเห็นความสำคัญเรื่องไหนเด่นๆ พอๆ กัน การใช้จ่ายเงินกองกลางสำหรับจัดงานแต่งงานก็ไร้ปัญหา แต่ถ้าคุณมองลำดับความสำคัญต่างกันไป จะได้เป็นช่องทางให้หาข้อสรุปที่ลงตัว ไม่มีตีกันเมื่อต้องควักเงินจ่ายให้เสียความรู้สึก

 งบประมาณจัดงานแต่ง

จะใช้งบประมาณเท่าไหร่ในแต่ละหัวข้อการเตรียมงาน

นำงบประมาณก้อนโตนั้นมาย่อยสู่หัวข้อต่างๆ ในการเตรียมงานแต่ง โดยตั้งลิมิตงบประมาณเลยว่า ในแต่ละเรื่องจะใช้เงินสูงสุดไม่เกินเท่าไหร่ จะได้ไม่ต้องคอยโยกเงินจากก้อนนั้นมาโปะก้อนนี้เมื่อเวลาที่เผลอตามใจตัวเองจนราคาที่ต้องจ่ายเกินงบ ซึ่งองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องที่มองข้ามไม่ได้ในการตั้งลิมิตงบประมาณก็คือ คุณควรรู้ว่านอกจากคุณทั้งคู่จะช่วยกันจ่ายแล้ว มีใครที่ยินดีจะเป็นสปอนเซอร์ให้บ้าง และเป็นสปอนเซอร์ให้ในหัวข้อไหน เช่น พ่อแม่ของคุณบอกว่าจะช่วยจ่ายค่าโรงแรม ก็ควรเช็คให้แน่ว่าสถานที่ของงานเช้าหรือเย็น รวมถึงถ้าบ้านไหนหรือใครมีความสัมพันธ์พิเศษจะได้ส่วนลดใดๆ ก็ควรรู้ และเฟิร์มให้ชัวร์ว่าจะได้รับส่วนลดหรือไม่ เพื่อที่เวลาตั้งลิมิตการใช้งบจะได้ตั้งแบบเผื่อเหลือเผื่อขาด และเกลี่ยงบไปทุ่มที่หัวข้ออื่นๆ ได้อย่างสบายๆ

ถ้าเกินงบมาจะจ่ายได้ประมาณไหน

อย่าลืมคิดเผื่อๆ ไว้เลยค่ะว่า ถ้าเลี่ยงไม่ได้ว่าจะต้องจ่ายเกินงบที่ตั้งไว้แน่ๆ คุณจะจ่ายเกินไปได้สักแค่ไหน ซึ่งเหตุการณ์ที่เจอบ่อยๆ และบ่าวสาวบ่นมาทุกยุคก็คือ จำนวนแขกที่อยู่ๆ ก็งอกขึ้นมาจากบุพการีที่เพิ่งจะสรุปได้ว่าจำเป็นต้องเชิญมาให้ได้ ทำให้เกิดผลกระทบไปทั่ว ทั้งเรื่องขนาดสถานที่ที่ต้องขยับขยายปรับห้องจนต้องจ่ายเพิ่มแน่ๆ ต่อเนื่องยาวๆ ไปถึงปริมาณอาหารที่สั่งไว้ก็ต้องออเดอร์ใหม่ใส่ความเยอะลงไปอีก ซึ่งทั้งหมดที่เกินมา ถ้าบุพการีไม่ช่วยจ่าย และคุณเองต้องรับผิดชอบจะสามารถจ่ายเกินกันได้แค่ไหน เพราะอย่าลืมนะคะว่า อาการเกินงบ บางทีก็มาจากบ้านใดบ้านหนึ่ง ซึ่งแปลว่า อีกบ้านต้องโอเคด้วยนะจ้ะ

เข้าใจตรงกันว่าอะไรควรทุ่มทุนจ่าย

เคยได้ยินไหมคะว่างานแต่งงานในหลายๆ คู่ที่จัดซะใหญ่โตอลังการ อาจไม่ได้จัดขึ้นจากความต้องการของบ่าวสาว แต่ที่ต้องจัดเพราะทำเพื่อรักษาหน้าตาทางสังคมของครอบครัวเอาไว้ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในชีวิตจริงนะคะ และแพรว wedding ไม่อยากให้คุณเลี่ยงความจริงในข้อนี้ด้วย ดังนั้นก็ควรทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนเลยว่า เมื่อจำเป็นก็ต้องยอม แต่อะไรบ้างล่ะที่ต้องจ่ายแพงเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่เป็นหน้าเป็นตาและสร้างความพอใจให้กับทั้งสองครอบครัว

งบประมาณจัดงานแต่ง

นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่แพรว wedding ไม่อยากให้คุณมองข้ามคือ บางครั้งของตกแต่งในธีมงานที่ชอบหรือผู้ให้บริการงานแต่งบางกลุ่มราคาค่าจ้างสูงมากแต่งานดีสุดๆ จนคุณไม่อาจปฏิเสธความดีงามได้ ก็ลองคุยกันค่ะ ถ้าเห็นตรงกันว่าคุ้มค่าจะจ่ายก็จะได้สบายใจและมีบ่นตามหลังว่า แพงจังเลย

ทั้ง 4 เรื่องที่ว่าไปทั้งหมดนี้ คือเรื่องสำคัญที่อาจจะเกิดกับคู่ของคุณได้ทุกหัวข้อหรือบางทีเกิดขึ้นเพียงข้อเดียวก็เป็นได้ แต่ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกี่ข้อ ถ้าคุณมีการเตรียมใจและทำความเข้าใจให้ตรงกันไว้ตั้งแต่แรกแล้วละก็ ในช่วงของการเตรียมงานจะเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ลงตัวกันทางความคิดอย่างแน่นอนค่ะ

แถมให้อีกนิด ทริคเด็ดเก็บเงินเตรียมแต่งงานให้บรรลุเป้าใน 10 เดือน

ภาพ : www.today.com

ไอเดียสำหรับเจ้าสาว โดดเด่นและมีสไตล์เหมาะกับฐานะนางเอกของงาน

เป็นนางเอกของงานทั้งที ไอเดียสำหรับเจ้าสาว ก็ต้องเริดให้สมฐานะสิคะ

ในวันสำคัญของชีวิตอย่างวันแต่งงาน ไม่ว่าจะทำอะไร ว่าที่เจ้าสาวมักจะเต็มที่และจัดเต็มกันมากๆ โดยเฉพาะลุคเสื้อผ้าหน้าผมที่อาจจะให้ความสำคัญเยอะหน่อย แพรว wedding เลยมาแนะนำ ไอเดียสำหรับเจ้าสาว เด็ดๆ ที่จะช่วยทำให้ลุคของว่าที่เจ้าสาวดูโดดเด่นขึ้นอย่างไม่ยาก

ไอเดียเจ้าสาว

ผมทรง topknot นั้นอินเทรนด์ตลอดกาลและช่วยให้ลุคเจ้าสาวดูเพอร์เฟกต์ แถมยังทำให้ช่วงคอดูระหงพร้อมกับได้อวดความหรูหราของชุดแต่งงานไปในตัว

ใส่รองเท้าแบบส้นเตารีด (Wedge Shoe) ในงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ จะได้เดินอย่างคล่องตัวไม่ต้องกลัวส้นรองเท้าปักดิน หรือสะดุดหกล้ม

หากจัดงานแต่งงานริมทะเลแล้วเจ้าสาวคิดจะปล่อยผมเพื่อให้สยายไปตามแรงลม…ขอบอกว่าคิดผิด!! เพราะเส้นผมที่พลิ้วไหวนั้นจะปลิวไปคนละทิศละทาง จากนางเอกของงานอาจกลายเป็นปศาจแห่งท้องทะเล แนะนำให้เกล้าผมหลวมๆ แล้วปล่อยปอยผมให้ล้อกับแรงลมสักเล็กน้อยก็พอแล้ว

แอคเซสซอรี่สำหรับเจ้าสาวผมสั้น ลองหาที่คาดผมสวยๆ เฮดพีชเก๋ๆ กิ๊บดีไซน์เริด เทียร่าหรูหรา หรือจะเลือกใส่เวลไปเลยก็ได้ เท่านี้ก็สวยไม่แพ้เจ้าสาวผมยาวแล้ว

“สนุกให้สุดเหวี่ยงในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ โดยไม่ต้องกังวลว่าเจ้าบ่าวจะหาตัวไม่เจอ ด้วยที่คาดผม DIY ที่มีตัวอักษรกลิตเตอร์คำว่า Bride ใหญ่เบ้อเริ่มอยู่บนศีรษะ”

สวยแบบไม่ทิ้งแก๊งเพื่อนสุดเลิฟ ด้วยการหาเครื่องประดับสักชิ้นที่มีสีแมตช์กับทีมเพื่อนเจ้าสาวและธีมสีของงาน เมื่อถ่ายภาพออกมาจะได้สวยแบบเข้ากั๊นเข้ากันยกแก๊ง

ถุงมือสำหรับเจ้าสาวก็เป็นไอเท็มที่ช่วยเสริมลุคให้ดูหรูหราขึ้นได้เหมือนกันนะ โดยจะเลือกแบบสั้น แบบยาว หรือแบบลูกไม้ ก็ให้ดูจากสไตล์ของชุดแต่งงาน และให้เหมาะสมกับสถานที่ก็พอ

เลือกเวลที่ใช่ในสไตล์คุณ

ไอเดียเจ้าสาว

Pouf Veil ทำจากผ้าโปร่งซ้อนกันเป็นชั้นติดไว้ด้านหลังศีรษะ ให้ลุคโมเดิร์นและขี้เล่น

Cage Veil ผ้าคลุมหน้าตาข่ายแบบสั้นสุดเก๋ เข้ากันได้ดีกับชุดแต่งงานเกือบทุกสไตล์ และเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับเจ้าสาวผมสั้น

Dropped Veil ผ้าคลุมหน้าแบบทิ้งชาย สามารถใส่คลุมทับเครื่องประดับผมได้

Mantilla Veil ผ้าคลุมหน้าแบบยาวลงมาจนถึงบริเวณหัวเข่า ตัวผ้ามักไม่มีลูกไม้ เหมาะกับชุดแต่งงานที่ค่อนข้างเรียบร้อยและเจ้าสาวสไตล์หวาน

แต่สำหรับว่าที่เจ้าสาวที่อยากได้เวลมาถ่ายรูปเก๋ๆ แต่ไม่อยากซื้อในราคาสูง ลองหาผ้าโปร่งบางพลิ้วไหวสักผืนมาตกแต่งด้วยลูกไม้ กิ๊บเพชร เทียร่า หรือมงกุฎดอกไม้ เท่านี้ก็ได้ลุคสวยหรูดูแพงแล้ว หรือจะเพิ่มความเก๋ให้กับเวลด้วยการปักตัวอักษรย่อของบ่าวสาวเอาไว้ที่ส่วนปลายก็ได้ หรือจะเลือกเป็นสัญลักษณ์บางอย่างที่แทนใจคุณสองคนก็ได้เหมือนกันนะ

หากเจ้าสาวสวมเวลในงานแต่งริมทะเลหรืองานแบบเอ้าท์ดอร์ที่ลมค่อนข้างแรง แนะนำให้หาแม่เหล็กสำหรับติดเวลเพื่อล็อกเวลกับผมไว้ให้อยู่ด้วยกันจนจบงาน

เลือกชุดแต่งงานแบบ 2 ชิ้นที่สามารถใส่ได้ทั้งในงานพิธีอาฟเตอร์ปาร์ตี้ เช่น ออกแบบให้กระโปรงมีลูกเล่นที่สามารถถอดแยกชิ้นได้ นอกจากจะเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแล้วยังประหยัดงบได้อีกด้วย

หากเจ้าสาวเลือกชุดแต่งงานทรงที-เล้นจ์ (Tea-Lenght) ซึ่งเป็นชุดที่เหมาะกับเจ้าสาวร่างบางระหง แนะนำให้เลือกความยาวแบบคลุมเข่า แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าสาวร่างเล็กที่อยากใส่จริงๆ ล่ะก็ ควรให้ความยาวของกระโปรงอยู่สูงขึ้นมาจากข้อเท้าประมาณ 1 คืบ แล้วเลือกรองเท้าแบบเปิดหัวจะได้ดูไม่ตัน

โบ ริบบิ้น หรือแอคเซสซอนี่ที่ออกแบบให้ถอดแยกชิ้นกับชุดได้ ถือเป็นของเล่นชิ้นเด็ดสำหรับว่าที่เจ้าสาว

– หากเดรสสั้นยังขาดสีสัน อาจเพิ่มลูกเล่นด้วยการติดโบไว้ด้านหน้าหรือด้านหลังของชุด
– นำริบบิ้นมาผูกไว้กับรองเท้าดีไซน์เรียบ ก็ช่วยให้ดูมีดีเทลมากขึ้นแล้ว
– ใช้โบหรือริบบิ้นสร้างกิมมิกให้ชุดเพื่อนเจ้าสาว
– ใช้ริบบิ้นคาดประดับศีรษะ เพื่อเพิ่มความน่ารักสดใส

นอกจากทีมเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวที่แต่งตัวเหมือนกันแล้ว ลองให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายแต่งตัวเป็นเซตเดียวกันบ้างก็ดูสวยเป๊ะดีนะ

เตรียมโละชุดชั้นในเซตเก่า แล้วหาแบบสวยๆ เตรียมไว้สำหรับคือเข้าหอที่สุดแสนจะโรแมนติก เพื่อเป็นการเริ่มต้นคืนต่อๆ ไปที่จะได้อยู่ด้วยกัน

เตรียมรองเท้าผ้าใบไว้ปล่อยพลังในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้แบบไม่ต้องกลัวสะดุด

สุดท้ายว่าที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวไม่ควรมโนความสวยไปไกลสุดโต่งหรืออิงกระแสแฟชั่นมากเกินไป เพราะคุณควรจะดูเป็นตัวเองให้มากที่สุดในวันแต่งงาน แพรว wedding เชื่อว่าเจ้าบ่าวคงอยากเห็นผู้หญิงคนเดิมที่เขาเคยประทับใจในวันแรกที่เจอกัน ไม่ใช่ใครก็ไม่รู้ที่เหมือนหลุดมาจากในแมกกาซีน

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย >> https://praewwedding.com/dress-suites-library

ภาพ www.lunss.com, www.pinterest.com, unsplash.com

10 คำถามที่บ่าวสาวต้องถามวงดนตรีงานแต่งก่อนตกลงจ้าง

เช็กให้ดี 10 คำถามนี้ต้องถาม วงดนตรีงานแต่ง ให้รู้เรื่อง!

เสียงเพลง คืออีกหนึ่งสีสันที่ช่วยทำให้งานแต่งงานมีบรรยากาศ บางคู่อาจจะเลือกเปิดด้วยซีดีเพราะสะดวกต่อการควบคุม แต่สำหรับคู่บ่าวสาวบางคู่ที่ต้องการให้เสียงเพลงนั้นแลดูจับต้องได้ การจ้าง วงดนตรีงานแต่ง จึงเป็นอะไรที่ตอบโจทย์มากที่สุด อ๊ะๆ…แต่ไม่ใช่ว่าพอเจอวงปุ๊ปก็จ้างปั๊ปนะ เพราะก่อนจะตัดสินใจวางมัดจำหรือจ้างงานนั้น แพรว wedding อยากให้ว่าที่บ่าวสาวสอบถามกับวงดนตรีให้ชัดเจนกับทั้ง 10 ข้อนี้ที่เรานำมามาฝาก

1. สไตล์โดดเด่นของวงดนตรีและแนวเพลงที่ถนัด

เพื่อให้เพลงและงานออกมาในทิศทางเดียวกัน

2. วงดนตรีสามารถเล่นเพลงที่บ่าวสาวขอ หรือเพลงป๊อปทั่วไปได้หรือไม่

หากบ่าวสาวมีเพลงประทับใจที่อยากให้วงดนตรีเล่นในวันสำคัญ ให้แจ้งกับวงล่วงหน้าเพื่อนักดนตรีจะได้ไปฝึกซ้อม ที่สำคัญถามด้วยว่า ขอพิเศษแบบนี้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือไม่ นอกจากนี้หากทางวงสามารถเล่นเพลงป๊อปทั่วไปได้ด้วยถือว่าน่าสนใจ เผื่อมีแขกในงานรีเควสต์ก็จะช่วยสร้างอารมณ์ร่วมได้ดี

3. ตกลงเรื่องพื้นที่การแสดงของวงดนตรี และเช็กว่ามีเครื่องขยายเสียงมาด้วยหรือไม่

ที่ตั้งของวงดนตรีภายในงาน ส่งผลต่อเรื่องของเสียงเพลงที่จะดังก้องไปทั่วงาน เพราะฉะนั้นต้องปรึกษากับวงดนตรีว่าพื้นที่ตรงไหนเหมาะสมที่สุด และอย่าลืม!! สอบถามเรื่องเครื่องขยายเสียงว่าทางวงจะเป็นคนเตรียมมาหรือจะยกหน้าที่นี้ให้บ่าวสาวจัดการ

4. มีนักดนตรีทั้งหมดกี่คน และมีนักร้องหรือไม่? กี่คน?

เพื่อจะได้จัดสรรพื้นที่ในงานให้วงดนตรีได้ถูก หากมีนักร้องด้วยควรสอบถามเรื่องอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพิ่มให้ชัดเจน เช่น ไมโครโฟนต้องใช้กี่ตัว ใครเป็นฝ่ายเตรียม

5. วงดนตรีต้องการแสงหรือสเปเชียลเอฟเฟกต์อื่นๆ ขณะเล่นหรือไม่

นอกจากเสียงเพลงที่จะสร้างสีสันในงานแต่งงานแล้ว แสงสีและสเปเชียลเอฟเฟกต์ เช่น ฟ็อกกี้ ก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูโรแมนติกได้ไม่น้อย ถ้าจะมีต้องนัดแนะคิวให้ชัดเจน จะได้ไม่พลาดในนาทีสำคัญ

วงดนตรีงานแต่ง

6. บุคคลที่จะมาเซตอัพอุปกรณ์ก่อนงานเริ่ม

ในวันงานควรมีคนในวงดนตรีมาเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนแขกจะมาถึง บ่าวสาวจึงควรสอบถามชื่อและเบอร์ติดต่อไว้ เผื่อผู้ดูแลสถานที่จะได้ประสานงานได้สะดวก

7. ในแพ็คเกจสามารถเล่นได้กี่ชั่วโมง

วงดนตรีบางวงอาจมีข้อจำกัดเรื่องเวลาการเล่น หรือใน 1 วันอาจรับงาน 2-3 คิว จึงควรตกลงเวลากันให้ดี นอกจากนี้ต้องสอบถามให้ชัดเจนว่าจะพักช่วงไหนและกี่นาที หรือหากงานล่าช้าเกินจากเวลาที่ตกลงกันไว้ จะสามารถอยู่ต่อให้ได้หรือไม่ และจะคิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ และขอแนะนำให้จัดอาหารให้นักดนตรีด้วยจะได้มีแรงเล่นจนจบงาน

8. นักดนตรีจะใส่ชุดอะไรมาร่วมงาน

ถ้าหากคุณเชิญวงดนตรีระดับมืออาชีพที่มีประสบการณ์ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ แต่หากต้องการให้นักดนตรีแต่งการเป็นพิเศษเพื่อให้เข้ากับธีมงานของคุณก็ต้องแจ้งล่วงหน้า เช่น ชุดทักซิโด หรือชุดตามธีมสี

9. ถ้าเกิดต้องเลื่อนหรือยกเลิกงาน จะมีการดำเนินการอย่างไร

หากเกิดเหตุขัดข้องต้องเปลี่ยนวันหรือขอยกเลิกการจ้าง ต้องจ่ายค่าเสียหายหรือไม่อย่างไร

10. ประสบการณ์การเล่นดนตรีในงานแต่งงาน

เพราะวงดนตรีที่มีประสบการณ์เล่นในงานแต่งจะมีความเชี่ยวชาญ และมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็ว จึงแนะนำให้บ่าวสาวลองสืบดูจากการเขียนรีวิวในอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากบ่าวสาวที่เคยใช้บริการดูก่อนเพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจ

แถมให้อีกนิดกับ คำแนะนำการเลือกวงดนตรีในงานแต่งจากกูรู…เลือกอย่างไรให้ปัง

ภาพ julesbridaljewellery.wordpress.com, www.sararogers-photography.com

เสริมดวงความรัก ด้วยศาสตร์ฮวงจุ้ย พร้อมธีมงานสุดปังและดวงรักพุ่ง

เสริมดวงความรัก ให้ปังตั้งแต่ธีมงานแต่ง ไปจนถึงเรือนหอกันเลย

ใครๆ ก็อยากเฮงกันทั้งนั้น โดยเฉพาะคู่รักที่กำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ แพรว wedding เลยนำเคล็ด (ไม่) ลับในการ เสริมดวงความรัก สำหรับว่าที่บ่าวสาวมาฝาก แถมงานนี้เสริมกันตั้งแต่วันแต่งงานไปจนถึงเรือนหอหลังงามเลยทีเดียว 

ธีมสีงานแต่งสุดเฮง
ธีมสีในงานแต่งควรเป็นสีที่เกี่ยวข้องกับการก่อกำเนิดและชีวิตคู่

  • สีเขียวทั้งอ่อนและแก่ เป็นสีของธาตุไม้ซึ่งเป็นธาตุแห่งการก่อกำเนิด
  • สีฟ้าและน้ำเงินทุกเฉด เป็นสีของธาตุน้ำซึ่งหมายถึงความสุขความเจริญและร่มเย็น
  • สีขาวครีม เช่น สีไข่มุกหรือสีงาช้างที่ไม่ใช่ขาวล้วน เป็นสีของธาตุทอง สื่อถึงความรักที่เต็มไปด้วยความมั่นคงแข็งแรง
  • สีแดง เป็นสีของธาตุไฟ สื่อถึงความรักที่ร้อนแรง การหลอมรวมของ 2 สายเลือด และการมีบุตร

สัญลักษณ์มงคลที่ควรมีในงานแต่ง

เสริมดวงความรัก

สัญลักษณ์มงคลของงานแต่งมักทำเป็นคู่อย่าง เป็ดแมนดารินคู่ ภาษาจีนเรียกอวงเอีย สื่อถึงความรักเดียวใจเดียวตลอดชีวิต ไม่จำเป็นต้องเป็นสไตล์จีน จะเป็นสไตล์ฝรั่งอย่างของสวารอฟสกี้ก็ได้เหมือนกันแ

และอีกอย่างที่อยากแนะนำให้มีคือ ดอกไม้ ในงานแต่งงาน โดยเฉพาะ ดอกกุหลาบ สีใดก็ได้ เพราะเป็นตัวแทนของความรัก ดอกคาร์เนชั่น สื่อถึงความรักที่มีการขยายออก มีครอบครัว บุตร และบริวารที่มีความสุข และ ดอกลิลลี่ หมายถึงเจ้าสาวที่น่าทะนุถนอม

นอกจากนี้ควรมี การจุดเทียน เพราะไฟเป็นตัวแทนในการสลายความชั่วร้ายในทุกอารยธรรม การจุดเทียนจึงส่งผลให้ชีวิตคู่สุขใส สว่าง ปราศจากความไม่ดี และควรมี การชนแก้ว เพราะการชนแก้วให้ดังกริ๊งคือความสุขกายสบายใจ

ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้คืออยากให้มี การอวยพร ในความเชื่อของชาวจีนหากมีคนทั้ง 12 นักษัตรมาอวยพรจะช่วยสลายสิ่งชั่วร้ายให้บ่าวสาวได้ ซึ่งในงานก็ต้องมีแขกครบทุกนักษัตรอยู่แล้ว ซึ่งงานแต่งงานเป็นพลังชี่ที่ดี เพราะความสุขของหนุ่มสาวมีพลังที่ช่วยสลายสิ่งไม่ดีทั้งปวง

เรือนหอรอรัก…นิรันดร์

ทิศที่ดีจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละปี แต่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือถือเป็นทิศแม่ซึ่งสื่อถึงเจ้าสาว ควรตกแต่งทิศนี้ด้วยของแต่งบ้านสีส้ม อิฐ เหลือง แดง ชมพู และอย่าให้มีของมีคม ส่วนทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นทิศพ่อสื่อถึงเจ้าบ่าว ควรตกแต่งด้วยสีโทนฟ้า น้ำเงิน ขาว ครีม ทอง ซึ่งการติดภาพแต่งงานไว้ทิศใดทิศหนึ่งใน 2 ทิศนี้ จะช่วยส่งให้ชีวิตคู่ยืนยาวและมีความสุข

และสุดท้ายขอแถมให้แก๊งสาวโสดหนุ่มโสดที่ยังไม่มีคู่ ให้หาปลาทอง 8 ตัว มาวางไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของห้องนอน จะเป็นภาพ เซรามิค หรือคริสตัลก็ได้ (แต่อย่าใช้ปลาจริงนะจ๊ะ เพราะเกิดตัวไหนไปไม่รอด เหลือไม่ครบแปดล่ะแย่เลย) จะส่งผลให้คุณมีความรักเข้ามา

สุดท้ายท้ายสุดโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ ^^

อ่านเรื่องราวความรักและความสัมพันธ์เพิ่มเติม คลิกเลย!

ภาพ unsplash.com, www.pinterest.com

4 ทริคเติมความสนุกให้แขกด้วยเทคโนโลยีในงานแต่งงาน

อย่าปล่อยให้งานแต่งงานแห้งแล้งด้วยอะไรแบบเดิมๆ มาเติมความก้าวล้ำนำสมัยด้วยเทคโนโลยีสุดเจ๋งในงานแต่งงาน ของคุณกันดีกว่า รับรองว่า ไอเดียงานแต่งงาน นี้แขกไม่ต้องยืนเหงาๆ รองานเริ่มอีกแล้ว

โฟโต้ สเตชั่น 

หากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าในงานแต่งงานหลายๆ งานมักจะมีซุ้มถ่ายรูปที่เมื่อถ่ายปุ๊บก็ปริ้นภาพออกมาได้ปั๊ป หรือบางงานก็สามารถแต่งภาพเพิ่มเติมได้อีก และถ้าจะให้ล้ำกว่านี้บางงานถึงขั้นสามารถลิงค์ผ่านโซเชียลมีเดียได้เลยก็มี แล้วอย่าลืมแจก #แฮชแท็ก ด้วยนะจ๊ะ รับรองว่าบ่าวสาวจะได้รูปเจ๋งๆ จากแขกที่มาร่วมงานมากมายแบบที่คาดไม่ถึงแน่นอน

ภาพถ่ายแบบ 360 องศา

การถ่ายภาพลักษณะนี้เป็นที่นิยมมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเป็นลักษณะภาพถ่ายที่สามารถเก็บภาพบรรยากาศภายในงานได้แบบครบทุกมุมไม่ตกหล่น ก้าวล้ำนำสมัยขนาดนี้แล้วจะพลาดไม่มีในงานแต่งงานได้ยังไง จริงไหม เพราะฉะนั้นลองปรึกษากับช่างภาพของคุณดูว่า ขอเพิ่มภาพแบบ 360 องศาในงานแต่งงานของคุณได้หรือไม่ หากช่างภาพเซย์เยสว่าทำให้ได้ชัวร์ รับรองว่าบ่าวสาวจะได้ภาพงานแต่งสุดประทับใจแบบครบทุกองศาแน่นอน

งานแต่งงาน

จุดชาร์ตแบตเตอรี

แน่นอนว่าเมื่อแขกได้รับเชิญไปงาน สิ่งแรกที่หลายคนจะทำคือถ่ายรูปแล้วอัพลงโซเชียลมีเดียทันที แถมบางคนไม่ได้อัพแค่ภาพสองภาพแล้วจากไป แต่อัพตลอดช่วงเวลาของพิธีการเลยด้วย เรียกได้ว่าทั้งภาพถ่ายทั้งคลิปมาครบจบในคนเดียว ทำเอาแขกบางคนแบตเตอรีอ่อนระโหยโรยแรงจะหมดมิหมดแหล่ก่อนงานจะเริ่ม หรือแขกบางคนอาจจะมีธุระที่อื่นก่อนที่จะมาถึงงานของบ่าวสาว เมื่อรู้ตัวอีกทีก็พบว่าแบตเตอรีโทรศัพท์อ่อนแรงเต็มทนเนื่องจากผ่านการใช้งานยาวนานมาตลอดวัน แถมยังลืมพกที่ชาร์ตสำรองมาอีก ยังไม่จบแค่นั้นนะจ๊ะสาวๆ บางคนที่ถือกระเป๋ามางานใบเล็กนิดเดียวก็ดันใส่ที่ชาร์ตแบตสำรองมาไม่ได้อีก เพราะฉะนั้นเพื่อให้แขกของบ่าวสาวอยู่ในงานได้อย่างสบายใจไร้กังวล อาจจะจัดสักหนึ่งจุดไว้เป็นสเตชั่นสำหรับชาร์ตแบตเตอรีรับรองงานนี้แขกต้องปลื้ม

ภาพสตรีมมิ่งจาก #แฮชแท็ก งานแต่ง

#แฮชแท็ก ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของว่าที่บ่าวสาวที่ต้องคิดไว้สำหรับวันแต่งงาน แถม #แฮชแท็ก นี้ นอกจากจะเป็นที่รวบรวมภาพถ่ายของบ่าวสาวหรือภาพของแขกที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันงานแล้ว ยังสามารถทำอะไรสนุกๆ ได้อีกด้วย อย่างเช่น การฉายภาพจาก #แฮชแท็ก งานแต่งของคุณแบบเรียลไทม์ผ่านจอในงาน หรือจะฉายลงบนกำแพงสีขาวก็ได้ เพื่อให้แขกได้รู้สึกว่าเขามีส่วนร่วมกับงานแต่งของบ่าวสาว รับรองว่างานนี้แขกจะต้องสนุกสนานและอมยิ้มที่ได้เห็นภาพตัวเองอยู่บนจอแน่นอน แถมงานนี้บ่าวสาวอาจจะได้ภาพถ่ายสุดฮาเก็บไว้ดูเล่นจาก #แฮชแท็ก งานแต่งที่ตั้งไว้อีกด้วย

มีเทคโนโลยีในงานแต่งงานแล้ว ก็อย่าลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่งกันด้วยนะจ๊ะกับ >> 10 ไอเดียใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่งงาน

ภาพ www.usatoday.com, prettyweddingplans.com, www.pinterest.com

9 ทรงผมเจ้าสาวพร้อมไอเดียเครื่องประดับอัพลุคเจ้าสาวให้สวยหรูดูแพง

อีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าสาวหลายคนตัดสินเลือกยากพอๆ กับชุดแต่งงานคือ ทรงผมเจ้าสาว เพราะนอกจากจะต้องเลือกให้สวยแล้ว ทรงผมทรงนั้นจะต้องเข้ากับเจ้าสาวและเข้ากับชุดแต่งงานด้วย แต่เดี๋ยว! ยังไม่พอ…เมื่อเลือกทรงผมได้แล้ว บางคนยังต้องเลือกเครื่องประดับที่จะมาประดับผมอีก แพรว wedding เลยมี 9 ทรงผมเจ้าสาวสวยๆ และ 9 เครื่องประดับที่รับรองว่าเข้ากับชุดแต่งงานที่เจ้าสาวเลือกแน่นอนจ้า

BOW

สำหรับเจ้าสาววัยรุ่นออกแนวน่ารักสวยหวาน ไม่มีอะไรที่จะเหมาะไปกว่าทรงผมประดับโบอีกแล้ว เพราะนอกจากจะดูเป็นหญิงสาวผู้อ่อนโยนแล้ว ยังดูทันสมัยไปด้วยในตัว

TIARA 

สาวๆ ที่มีความใฝ่ฝันในวัยเด็กว่าอยากเป็นเจ้าหญิงจัดไปโลดค่ะ กับทรงผมประดับเทียร่าสุดหรู แต่ขอแนะนำให้เลือกเทียร่าดีไซน์เก๋ๆ ไม่ต้องใหญ่มากนะคะ เอาแค่พอสวยกรุบๆ ก็พอ เพราะถ้าใหญ่เกินไปจากเจ้าสาวอาจจะดูเป็นนางเอกลิเกเอาได้

HEADBAND

สำหรับเจ้าสาวที่อยากหาเครื่องประดับศีรษะสักอัน แต่เทียร่าก็ดูใหญ่ไปไม่ตอบโจทย์ ลองหาเป็นที่คาดศีรษะดีไซน์เก๋วิบวับๆ สักชิ้น ก็ช่วยให้ลุคของเจ้าสาดูหรูขึ้น และดูไม่เยอะเกินไปอีกด้วย แถมยังเหมาะกับเจ้าสาวผมสั้นสุดๆ

HALO

เจ้าสาวที่อยากเติมความโบฮีเมียนจัดไป กับ Halo หรือมงกุฎทรงกลม ที่สามารถสวมลงไปบนศีรษะได้เลยคล้ายการสวมมงกุฎดอกไม้ แค่ปล่อยผมดัดลอนหลวมๆ แล้วสวม Halo ก็สวยพร้อมเดินเข้างานแล้วจ้า

BARRETTE

กิ๊บติดผม ไอเท็มสุดฮิตในช่วงนี้ก็ติดโผเครื่องประดับศีระษะของเจ้าสาวเหมือนกันนะจ๊ะ ไม่ว่าจะกิ๊บเล็ก กิ๊บใหญ่ ติดแล้วก็ให้ลุคย้อนวัยสไตล์ 90s ถ้าติดแค่กิ๊บอย่างเดียวแล้วกลัวโล่งก็จัดเวลสักผืนมาเสริมเท่านี้ก็สวยแบบน้อยแต่มากของจริง

PEARLS

เจ้าสาวที่อยากได้ความคลาสสิค สวยหรู ดูดีแบบนิ่งๆ แนะนำให้เลือกเครื่องประดับสไตล์ไข่มุก เพราะเป็นเครื่องประดับที่ร่วมสมัยฆ่าไม่ตาย แถมยังเข้ากับชุดแต่งงานสีขาวของเจ้าสาวสุดๆ

HAIR PIN 

สำหรับเจ้าสาวที่เลือกทรงผมสไตล์ bun ไม่ว่าจะมวยผมต่ำหรือมวยผมสูง แนะนำให้ประดับผมด้วยปิ่นปักผมชิ้นงามสัก 2-3 ชิ้น ก็ช่วยให้ทรงผมมวยธรรมดาๆ ของเจ้าสาวดูดีได้แล้ว

HAIR VINE

ถ้าผมเปีย คือทรงผมในวันแต่งงานของเจ้าสาว แนะนำให้ประดับด้วย hair vine เครื่องประดับที่ให้ลุคอ่อนหวานเข้าเกลียวผมเปียที่สุดแล้ว

COMB

หวีสับประดับดอกไม้ ไอเท็มคลาสสิคฆ่าไม่ตายที่อยู่คู่กับเจ้าสาวมาทุกยุคทุกสมัย เหมาะสำหรับเจ้าสาวที่เกล้าผมแบบมวยต่ำ ถ้าคิดอะไรไม่ออกบอกเลยว่าเครื่องประดับชิ้นนี้พร้อมที่จะอัพลุคให้เจ้าสาวได้ดีทีเดียว

ดูไอเดียเกี่ยวกับเจ้าสาวเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย >> https://praewwedding.com/dresses-and-suits/bride

Cr. stylemepretty.com

เช็กลิสต์พิธีเช้างานไทยสิ่งไหนต้องมี ควรมี และไม่จำเป็นต้องมี

พิธีเช้า จะหมดความยุ่งยาก หากว่าที่บ่าวสาวมีเช็กลิสต์นี้ไว้

กว่าจะมาเป็นงานแต่งสักงานต้องพร้อมด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง โดยเฉพาะ พิธีเช้า อย่างงานไทยที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะจนหลายคนอาการกลัวๆ เกร็ง แพรว wedding จึงขอรวบรวมสิ่งสำคัญที่ต้องมี ควรมี หรือไม่จำเป็นต้องมี มาให้ว่าที่บ่าวสาวได้อุ่นใจ รับรองว่ามีเช็กลิสต์นี้ไว้ไม่พลาดแน่นอน

บุคคลสำคัญ

  • คู่บ่าวสาว
    ระดับความสำคัญ
    สำคัญสุดในงาน คงไม่ต้องบอกนะคะว่าต้องมี ควรมี หรือจำเป็นต้องมี!
    แทนด้วย
    ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้เด้อ ^^
  • คุณพ่อคุณแม่บ่าวสาว
    ระดับความสำคัญ ต้องมี ไม่อย่างนั้นใครจะสู่ขอ – ยกลูกสาวให้ รวมทั้งรดน้ำอวยพร ไปจนถึงส่งตัวเข้าหอด้วยนะ
    แทนด้วย ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่อยู่แล้ว อีกท่านสามารถปฏิบัติหน้าที่คนเดียวได้ หรือขอให้ญาติผู้ใหญ่ที่สนิทมาทำหน้าที่แทน
  • เถ้าแก่หรือประธานในพิธี
    ระดับความสำคัญ
    ต้องมี เพราะท่านคือผู้นำในการทำพิธีต่างๆ
    แทนด้วย ข้อนี้ไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะมีหลายออปชั่น ไม่ว่าจะเชิญผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือญาติผู้ใหญ่มาทำหน้าที่นี้ก็ได้

พิธีเช้า

  • พระสงฆ์
    ระดับความสำคัญ
    ควรมี เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นชีวิตคู่
    แทนด้วย ถ้าไม่สะดวกนิมนต์พระมาทำพิธีอาจพากันไปตักบาตรเช้าที่วัดใกล้สถานที่จัดงานแทน
  • คู่สมรสตัวอย่าง (ครองคู่อย่างมีความสุข มีลูกหลานดี)
    ระดับความสำคัญ 
    ควรมี เพื่อทำพิธีปูเตียงเรียงหมอน (ส่งตัวเข้าหอ)
    แทนด้วย นิยมเชิญผู้ใหญ่ที่เคารพมากกว่าญาติสนิท หากคู่ที่หมายตาไม่ว่าง อาจเชิญเจ้านายหรือเพื่อนคุณพ่อคุณแม่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่มีคุณสมบัติดังกล่าวแทน
  • ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย
    ระดับความสำคัญ
    ควรมี เพื่อร่วมทำพิธีรดน้ำ พิธีไหว้ผู้ใหญ่
    แทนด้วย ถ้าไม่มีญาติที่ไหนเลย อาจเชิญเจ้านายหรือผู้ใหญ่ที่ทำงานแทน
  • เพื่อนเข้าบ่าว – เจ้าสาว
    ระดับความสำคัญ
    ควรมี เพื่อคอยช่วยงานบางอย่าง เช่น เติมน้ำสังข์ ถือพาน เฝ้าโต๊ะลงทะเบียน เป็นต้น
    แทนด้วย ถ้าไม่มีเพื่อนจริงๆ (เศร้าไปนะ…) น้องๆ ที่ทำงานช่วยคุณได้ เสร็จงานก็อย่าลืมพาน้องๆ ไปเลี้ยงตอบแทนด้วยนะจ๊ะ
  • แขกเหรื่อ
    ระดับความสำคัญ
    มีหรือไม่มีก็ได้
    แทนด้วย บางคู่อาจจัดงานไทยภายในครอบครัวจึงไม่ได้เชิญแขกทั่วไป หรือบางคู่อาจเชิญเฉพาะที่สนิทจริงๆ หรือบางคู่จัดพิธีไทยแล้วเลี้ยงกลางวันต่อเลย ก็อาจเชิญแขกมาในคราวเดียวกันไปเลย

วิธีง่ายๆ ไม่ต้องคิดเยอะช่วยสร้างงานแต่งงานเล็กๆ ในฝันให้ได้ดั่งใจบ่าวสาว

อยากจัด งานแต่งงานเล็กๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี มาดูทริคดีๆ ที่เรานำมาฝากกัน

แน่นอนว่าบ่าวสาวแต่ละคู่ก็มีงานแต่งงานในฝันเป็นของคู่ตัวเองกันทั้งนั้น บางคู่ก็อยากจะจัดงานให้ใหญ่โต บางคู่ก็อาจจะมีธีมงานสุดแนว หรือบางคู่ก็แค่อยากจัด งานแต่งงานเล็กๆ เป็นกันเองภายในครอบครัว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะจัดการงานแต่งงานเล็กๆ ที่ว่านี้ยังไงดี จะต้องเริ่มต้นจากอะไร และต้องคุยกับผู้ใหญ่ให้เข้าใจได้อย่างไรบ้าง มาค่ะ แพรว wedding มีทริคดีๆ มาบอกต่อ

อย่าเพิ่งรีบ ใจเย็นๆ ก่อน

หลายคนพอรู้ตัวว่าจะแต่งงานก็รีบเอามากๆ วิ่งหานักจัดงานแต่งงานเป็นว่าเล่น ยิ่งหาก็ยิ่งไม่ใช่ ยิ่งไปเจอ ยิ่งคุยก็ยิ่งงง เวลายุ่งๆ หลายคนคิดว่านักจัดงานแต่งงานคือทางออก แต่บางครั้งกลับไม่ใช่ เพราะทางออกใหม่ที่ว่าอาจเป็นการสร้างปัญหาให้หนักใจมากขึ้น จากงบน้อยๆ อาจกลายเป็นงบมาก ฉะนั้น อย่าลืมนึกในใจไว้เสมอว่า ไม่มีใครรู้สิ่งที่เราต้องการได้ดีเท่าตัวเราเอง เริ่มต้นจากตัวเองก่อน หาสิ่งที่เราต้องการให้เจอ แล้วคนอื่นๆ ที่มาร่วมช่วยงานก็จะทำงานได้ง่ายและตรงเป้าหมายมากขึ้นด้วย

จับมือกัน ร่วมทำงานเล็กๆ นี้ให้ดีที่สุด

งานแต่งงานไม่ใช่ภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และยิ่งไม่ใช่งานที่จัดขึ้นเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นงานของ “เรา” ต่างหาก หลายคนมองว่าการจัดงานเป็น “งานงอก” หรืองานที่เพิ่มขึ้นมาให้รับผิดชอบโดยไม่ทันตั้งตัว เลยชวนให้มีเรื่องปวดหัวเพิ่มขึ้น แต่เรามักลืมไปว่างานแต่งก็เป็นงานอย่างหนึ่งเหมือนกัน และเป็นงานกลุ่มที่ทำให้เราได้ศึกษาเพื่อนร่วมทีม ได้พบเจอปัญหาและแก้ไขไปด้วยกัน เป็นบททดสอบหนึ่งของชีวิตคู่ ถ้าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งต้องเล่นเกมนี้คนเดียว คิดคนเดียว ทำคนเดียว คงเหงาน่าดู ว่าไหม

งานแต่งงานเล็กๆ

ธีมไม่ใช่ข้อจำกัด

อยากได้ธีมสีฟ้า สีมชมพู ธีมทะเล ธีมญี่ปุ่น ธีมวินเทจ ธีมเจ้าหญิง ฯลฯ คำว่า “ธีม” ทำให้คนทั่วไปเห็นภาพงานแต่งงานของเราง่ายขึ้นก็จริง แต่บางครั้งคำว่าธีมกลับเป็นข้อจำกัดที่ทำให้งานของเราคล้ายๆ กันกับของคนอื่น และขาดสิ่งที่เป็นตัวตนของเราไป ดังนั้นก่อนเริ่มจัดงาน อย่าเพิ่งรีบสรุปว่าเราจะจัดธีมอะไร แต่ให้หาภาพที่เราชอบเยอะๆ อาจจะเป็นภาพวิว ภาพบ้าน ภาพสถานที่ท่องเที่ยว หรือจะจดเป็นการระดมไอเดียก่อนก็ได้ และคิดไว้เสมอว่า ธีมไม่ใช่ข้อห้ามหรือข้อจำกัด แต่เป็นการตีกรอบความคิดกว้างๆ ไม่ให้เราออกนอกเส้นทางเกินไปต่างหาก

ถามใจดีๆ สิ่งนี้มีไปทำไม

พอข่าวการแต่งงานของเราเริ่มขยายวงกว้างทั้งในหมู่เพื่อนฝูงและคนรอบข้าง ก็จะเป็นช่วงที่ผู้หวังดีและผู้มีประสบการณ์เริ่มแสดงตัว นอกจากนี้ยังมีสื่ออื่นๆ อย่าง นิตยสาร เว็บไซต์ เฟซบุ๊ก งานเวดดิ้งแฟร์ หรือกูรูด้านงานแต่งงาน ที่จะเริ่มเล่าเรื่องราวเก่าๆ และให้คำแนะนำเราต่างๆ นานา จนทำเอาหลายคนตั้งตัวไม่อยู่ ไม่เป็นไรค่ะ ขอให้ตั้งสติไว้ การหาข้อมูลและเห็นตัวอย่างงานของคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่อย่าลืมว่าไม่ใช่ทุกเรื่องที่เคยมีมาจะเหมาะกับตัวเรา เวลารับข้อมูล เห็นภาพงานที่เราชอบ เห็นตัวอย่างงานที่คนอื่นบอกว่าดี หรือได้คำแนะนำต่างๆ มา อย่าเพิ่งเชื่อ ให้ถามตัวเองก่อนว่า มันใช่ตัวเราไหม หรือ เราจะมีสิ่งนี้ไปทำไมกัน หาที่มาที่ไปของสิ่งที่เราอยากจะมีในงาน แล้วทุกอย่างที่เราเลือกจะเป็นสไตล์ของเราเองอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนเลยล่ะ

อุปกรณ์ใน พิธีสงฆ์ ที่บ่าวสาวต้องรู้เพื่อการเตรียมงานได้เป๊ะไม่มีตกหล่น

ไม่ต้องงงอีกแล้วว่าใน พิธีสงฆ์ ต้องเตรียมอะไรบ้าง เพราะเราจัดเต็มมาให้ที่นี่แล้ว

พิธีที่ขาดไม่ได้ในประเพณีแต่งงานแบบไทยก็คือ พิธีสงฆ์ ซึ่งบ่าวสาวหลายคู่ให้ความสำคัญและถือว่าเป็นพิธีแรกเริ่มต้นใหม่ของชีวิตคู่แต่พิธีนี้ไม่ได้จบแค่การนิมนต์พระมาประกอบพิธีนะคะ เพราะในพิธีที่ว่านี้มีข้าวของเครื่องใช้ในพิธีสงฆ์เยอะซะเหลือเกิน บ่าวสาวก็เลยต้องคิดว่าจะไปหายืมหรือหาเช่าที่ไหนได้บ้างไม่รู้ บ่าวสาวหลายคู่ก็เลยเกิดอาการหัวหมุนกันไปตามๆ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ เรารวบรวมอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในพิธีสงฆ์ มาให้แล้วตามไปเช็คลิสกันเลยค่ะ

อุปกรณ์มีอะไรบ้างเช็คกันหน่อย

  • พระประธานในพิธี ในที่นี้คือพระพุทธรูปซึ่งตั้งอยู่บนโต๊ะหมู่บูชา โดยปางที่นิยมใช้ในการประกอบพิธีสงฆ์มากที่สุดคือ ปางมารวิชัย ที่มีความหมายว่า ชนะมาร ชนะอุปสรรค และขวากหนามต่างๆ บ่าวสาวที่กำลังเริ่มต้นชีวิตคู่อาจเพราะจะต้องเจออุปสรรคในอนาคต ซึ่งการเลือกพระพุทธรูปปางมารวิชัยเปรียบเสมือนการอวยพรให้ชีวิตคู่ราบรื่นนั่นเอง
  • ชุดโต๊ะหมู่บูชา โต๊ะหมู่บูชาที่นิยมใช้มี 3 ประเภทคือ โต๊ะหมู่ 5 หมู่ 7 และหมู่ 9 ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นที่และขนาดของพิธีเลยค่ะ
  • เชิงเทียน 1 คู่
  • กระถางธูป 1 ใบ
  • เทียนสีเหลือง 2 เล่ม
  • เทียนต่อ 1 เล่ม
  • แจกัน 1 คู่
  • ธูป 3 ดอก
  • สายสิญจน์
  • อาสนะ 9 ที่ มี 2 แบบ พรมปูกับพื้น หรือ แบบสำเร็จรูปมีพนักพิง
  • ชุดทำน้ำมนต์ได้แก่ ขันน้ำมนต์ ที่พรมน้ำมนต์ เทียนสีขาวสำหรับทำน้ำมนต์
  • ที่กรวดน้ำ
  • แก้วน้ำ
  • กระโถน
  • พรมสำหรับบ่าวสาว
  • เสื่อปูให้แขกในงาน

3

อุปกรณ์เหล่านี้หาได้จากที่ไหน

เริ่มจากพระประธานก่อนนะคะ ในการอัญเชิญพระประธานมาใช้ในพิธี องค์พระมาจาก 2 กรณี คือพระพุทธรูปที่มีอยู่แล้วที่บ้าน ซึ่งจะเป็นบ้านของเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวก็ได้ และอีกกรณีคือ ขอยืมจากวัดที่ไปขอยืมอุปกรณ์ในการประกอบพิธี หรือวัดที่สนิทสนมกัน (แต่ห้ามอุ้บอิ๊บนะคะ ใช้เสร็จแล้วต้องคืนล่ะ) ซึ่งการยืมจากวัดควรแจ้งล่างหน้าอย่างน้อย 1 เดือน (กันว่าอาจมีคนอื่นมายืมไปก่อนไงคะ)

สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ว่าที่บ่าวสาว สามารถหาได้จาก 3 ช่องทางดังนี้ค่ะ

ช่องที่ 1 วัด

แน่นอนว่าอุปกรณ์ทั้งหมดเกี่ยวกับพระสงฆ์ ช่องทางแรกที่คุณควรนึกถึงก็คือ วัดไงคะ เพราะที่วัดมีอุปกรณ์ที่พระสงฆ์ต้องใช้ค่อนข้างครบ แต่อย่าลืมเข้าไปติดต่อขอยืมจากทางวัดล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน จะได้รู้ว่ามีอะไรขาดไปบ้างเพื่อที่จะได้มีเวลาหาจากที่อื่นทัน ส่วนการขนส่งนั้น ถ้าเป็นกรณีนี้มักจะต้องขนเอง ก็อย่าลืมลิสต์รายการเช็คของด้วยนะคะ จะได้ยืมครบคืนครบ

ช่องทางที่ 2 ซัพพลายเออร์ หรือร้านเช่า

บ่าวสาวที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว แบบว่ามีบริการรับส่ง ก็ใช้บริการซัพพลายเออร์ที่เปิดกิจการให้เช่าอุปกรณ์ต่างๆในพิธีแต่งงานได้เลยคะ เพราะร้านเหล่านี้ทำเป็นอาชีพก็จะมีอุปกรณ์ให้ครบในราคาหลากหลาย โดยราคาเช่าส่วนใหญ่แบบอุปกรณ์ครบชุดอยู่ที่ประมาณ 5 พันบาทขึ้นไป หรือจะเช่าแยกชิ้นก็ได้เช่นกัน ส่วนราคาจะบวกค่าขนส่งด้วยไหมต้องสอบถามให้ดีๆ นะคะ

สำหรับบ่าวสาวที่ต้องการจะเช่าอุปกรณ์ แต่ไม่รู้ว่าจะเช่าร้านไหนดี เราหามาให้จำนวนหนึ่งลองเลือกตามความชอบกันเลยค่ะ

2

ช่องทางที่ 3 เวดดิ้งแพลนเนอร์

บ่าวสาวที่ใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์อยู่แล้วไม่ต้องห่วงเลยจ๊ะ เพราะทางทีมงานจะบริการจัดหามาให้คุณเรียบร้อยทุกอย่าง ชนิดที่ว่าคุณไม่ต้องเหนื่อยออกแรงอะไรเลยแต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์จัดงานก็ยังเช่าอุปกรณ์เวดดิ้งแพลนเนอร์ได้ค่ะ ลองโทรถามดูสิคะ เพราะนี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จบ ครบทุกอุปกรณ์ ในที่เดียว

ขอปิดท้ายด้วยเรื่องของค่าบริการค่ะ ราคาค่าเช่าและค่าขนส่งขึ้นอยู่กับว่าคุณใช้บริการจากทางใด ถ้าเช่ายืมจากร้านการขนส่งก็ต้องเจรจากับร้าน ซึ่งอาจคิดตามระยะทางและแรงงานคนที่ขนของมาส่งและจัดให้ แต่ถ้าเรายืมอุปกรณ์จากทางวัด ก็ต้องจัดหารถไปขนอุปกรณ์ ซึ่งตรงนี้อาจจะต้องมีค่าขนส่งให้กับคนขับรถ และต้องไม่ลืมเตรียมซองถวายให้กับทางวัด เพื่อเป็นปัจจัยหรือเป็นการทำบุญไปในตัว

เป็นไงกันบ้างคะ กับอุปกรณ์ที่เรารวบรวมมาให้ ครบครันแบบที่ว่าไม่ขาดตกบกพร่องกันเลยใช่ไหมล่ะ แถมยังมีร้านเช่าให้เลือกกันตามความชอบอีกด้วย ยังไงแล้วบ่าวสาวที่กำลังจะจัดงาน ก็อย่าลืมนำแนวทางดีๆ ที่เรานำมาฝากวันนี้ไปใช้ดูนะคะรับรองว่าเป๊ะแน่นอนคะ

เมื่อรู้แล้วว่าต้องเตรียมอะไร ก็ไปศึกษาลำดับขั้นตอนในพิธีสงฆ์กันต่อเลย >>>  ลำดับพิธีสงฆ์ในงานแต่งแบบไทย จัดมาให้แบบเป๊ะทุกขั้นตอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : Jr.Glam โทร. 08-1680-6745

แจกจ้า!! สคริปต์งานแต่งสำหรับพิธีปูเตียงเรียงหมอนเวอร์ชั่น 2 ภาษา

สคริปต์งานแต่ง พิธีปูเตียงเรียงหมอนเวอร์ชั่นเต็มแบบ 2 ภาษา

บ่าวสาวคู่ไหนที่กำลังมองหา สคริปต์งานแต่ง สำหรับพิธีปูเตียงเรียงหมอนฟังทางนี้ เตรียมตัวเซฟให้ดี เพราะเรามีสคริปต์แบบจัดเต็ม พร้อมขั้นตอนแบบครบชุดมาฝาก แถมยังเป็นเวอร์ชั่น 2 ภาษาเอาใจบ่าวสาวสายฝ. อีกด้วย 

ในพิธีปูที่นอนจะต้องเชิญผู้ใหญ่ที่เป็นคู่สามีภรรยาอาวุโสที่อยู่กินกันอย่างมีความสุข และมีลูกหลานดีมาช่วยกันปูที่นอนพอเป็นพิธี เพื่อเป็นเคล็ดว่าบ่าวสาวจะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เช่นเดียวกับพวกท่านที่ครองคู่กันอย่างยาวนาน เมื่อได้ฤกษ์ คู่สามีภรรยาและญาติคนอื่นๆ จะเข้าไปนั่งในห้องหอ และผู้ใหญ่ชายจะลุกขึ้นยืนแล้วร้องถาม แล้วให้ญาติโยมคนอื่นๆ ทั้งในห้องและนอกห้องคอยตอบ ตามนี้

ผู้ใหญ่ชาย : ถึงฤกษ์ดีหรือยัง
ญาติคนอื่นๆ : ถึงแล้ว
ผู้ใหญ่ชาย : นาย บุญมั่น มาแล้วหรือยัง
ญาติคนอื่นๆ : มาแล้ว
ผู้ใหญ่ชาย : นาย บุญคง มาแล้วหรือยัง
ญาติคนอื่นๆ : มาแล้ว

สามารถถามถึงคนที่ชื่อเป็นมงคลอื่นๆ ได้อีก 3-4 คน เมื่อขานว่ามาครบทุกครั้ง ผู้ใหญ่ชายจะนั่งลงบนเตียงและคุยกับผู้ใหญ่หญิงผู้เป็นภรรยาว่า “ถึงฤกษ์ดีแล้ว ผู้จะมาช่วยอำนวยพรก็มาพร้อมกันแล้ว เรามาช่วยกันปูที่นอนเถิด” 

หลังจากปูที่นอนเรียบร้อย ผู้ใหญ่ทั้งคู่จะขึ้นไปนั่งข้างกันบนที่นอนโดยหันหน้าไปทางหัวนอน แล้วไหว้พระสวดมนต์ด้วยกัน พอจบแล้วก็ลองนอนเคียงกันบนที่นอน โดยให้ผู้ใหญ่ชายอยู่ทางขวา

ผู้ใหญ่ชาย : ที่นอนน่านอน ใครนอนเห็นจะอยู่เย็นเป็นสุขสบาย อายุยืนนะแม่
ผู้ใหญ่หญิง : สบายมากค่ะ ถ้าใครนอนที่นอนนี้ คงจะเกิดทรัพย์สินมากมูลพูนเขา มีลูกเต้าน่ารักน่าชม

จากนั้นให้ทั้งสองหลับตาลง เมื่อตื่นขึ้นมาให้ผู้ใหญ่หญิงกล่าวว่า “นอนหลับฝันดี ฝันเห็นสิ่งมงคล ทรัพย์สินเงินทองมากมาย” จากนั้น ผู้ใหญ่พรมน้ำมนต์ โปรยข้าวตอกดอกไม้ ให้ศีลให้พรและให้โอวาทในการครองเรือนแก่บ่าวสาว และพ่อแม่ให้ศีลให้พรและให้โอวาทในการครองเรือนแก่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี

เพียงส่งสคริปต์ให้เจ้าบ่าวและผู้ที่เกี่ยวข้องอ่าน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติก็อินกับงานแต่งไทยได้ง่ายๆ เชื่อเถอะ!

The Bedding Ceremony
              • A senior couple whose marriage has been successful and whose offspring have grown up to be respectable are invited to make the bed ceremonially as a gimmick for the groom and the bride.
              • The senior couple pretends to sleep on the bed and to wake up to speak about auspicious thing, such as:
  Husband: This bed is very comfortable. Whoever sleeps on it must be blessed with happiness and blessings.
Wife: That’s right. Whoever sleeps on this bed must be full of assets and wealth, as well as adorable and admirable children.
              • The parents give blessings and teachings on marriage. The ceremony concludes.
              With the help of this guide, the groom and his helpers will understand the Thai-style wedding ceremony and the thoughtful ideas behind it. 

แจก!! สคริปต์งานไทย 2 ภาษาจัดเต็มทั้ง เจรจา สู่ขอ นับสินสอด และสวมแหวน

จะเริ่มต้นซื้อแหวนแต่งงานยังไงดี?? ทำตามนี้สิ รับรองได้ของดีคุ้มค่าชัวร์

เมื่อถึงเวลาต้อง ซื้อแหวนแต่งงาน มันก็จะงงๆ อยู่หน่อยๆ ใช่ไหมล่ะ?? เลิกงงแล้วล้อมวงมาอ่านคำแนะนำแล้วทำตามนี้กันค่ะ

การเลือก ซื้อแหวนแต่งงาน ก็เหมือนการเลือกซื้อชุดแต่งงานนั่นแหละคะ เพราะต้องเลือกให้สวยถูกใจ เหมาะกับผู้สวมใส่ และต้องมีงบไม่แรงด้วย แต่ขึ้นชื่อว่าแหวนแต่งงานแถมยังประดับเพชรด้วย ก็อาจจะทำให้หลายคู่เริ่มต้นไม่ถูกเพราะดูเป็นของที่มีราคา เข้าถึงยาก และไกลตัว แพรว wedding เลยจัดทิปส์ง่ายๆ มาให้ รับรองว่าทำตามนี้เริ่มต้นถูก ได้แหวนถูกใจ แถมยังเซฟงบได้อีก

 

1. กำหนดงบประมาณ
อาจตั้งงบสูงสุดไว้ว่าจะไม่ซื้อเกินราคานี้ จากนั้นปรึกษาผู้รู้หรือผู้มีประสบการณ์ในการซื้อเพชร เพื่อให้ช่วยคำนวณระหว่างความต้องการของคุณกับงบที่มี แล้วเริ่มทำการบ้านได้เลยว่า งบประมาณกับเพชรสเป็คที่รับได้ตรงกันมากน้อยแค่ไหนก่อนจะหาร้านที่มีเพชรตามต้องการ ซึ่งเหมาะกับงบประมาณที่ตั้งไว้ตามต้องการซึ่งเหมาะกับงบประมาณที่ตั้งไว้

2. ชัดเจนกับสิ่งที่จะซื้อ
ถามตัวเองก่อนว่าอยากซื้อเครื่องประดับประเภทใด เพื่อใช้ในงานไหน และสไตล์ที่ต้องการเป็นอย่างไร จากนั้นก็อย่าได้เขว เพราะหลายครั้งที่สาวๆ เกิดอาการเปลี่ยนใจกะทันหันเมื่อเจอแสงวิบวับที่มาพร้อมดีไซน์น่ารักของเครื่องประดับนอกความตั้งใจเป้าหมายที่วางไว้จึงเปลี่ยนไปทันที ทำให้แทนที่จะได้ของที่ต้องการกลับกลายเป็นซื้อของสไตล์เดิมๆ ที่มีอยู่เต็มบ้านมาแทน เทคนิคคือบอกความตั้งใจกับทางร้านทันทีที่เดินเข้าไปว่ากำลังมองหาอะไร เพื่อทางร้านจะได้ช่วยมองหาสิ่งที่คุณต้องการเสียก่อน

3. ร้านเพชรชื่อดัง (ในทางลบ)
สำรวจก่อนเข้าร้านเพชรว่าร้านไหนมีชื่อเสียบ้าง เพื่อจะได้เลี่ยงไม่เข้าไปเจอสินค้าไม่ได้มาตรฐานหรือบริการที่ไม่ประทับใจ ปัจจุบันเช็กจากอินเทอร์เน็ตได้ง่ายๆ ทุกที่ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะขยันทำการบ้านก่อนเดินเข้าร้านหรือไม่ ในกรณีที่ไม่รู้จักร้านเพชรสักร้าน แค่เสิร์ชด้วยคีย์เวิร์ด “ร้านเพชร” บรรดารายชื่อร้านก็เรียงรายให้เห็นเป็นตับ จากนั้นค่อยๆ หาร้านที่มีสไตล์เครื่องประดับตรงกับที่อยากได้ แล้วจึงเช็กความน่าเชื่อถือของร้านผ่านคอมเมนต์ต่างๆ ของผู้มีประสบการณ์ที่เคยซื้อเพชรจากร้านนั้นๆ โดยตรง

4. จุดเด่นของแต่ละร้าน
เพราะบางร้านเน้นดีไซน์สวยเก๋ ไม่มีแบบหวานแหวว ในขณะที่บางร้านอาจเน้นแค่แหวนคู่เกลี้ยงๆ ไม่เน้นเพชร เป็นต้น จึงเป็นการดีมากหากคุณได้รู้ก่อนว่าร้านเพชรที่เล็งไว้โดดเด่นด้านใดกันแน่ แค่เข้าไปดูเว็บไซต์ของร้านก็จะพอเห็นภาพคร่าวๆ แล้วว่าสินค้าส่วนใหญ่เป็นอย่างไร หากคัดสรรร้านที่มีสไตล์โดยรวมตรงกับจริตของคุณได้สักสองสามร้าน แล้วค่อยตระเวนดูชิ้นงานจริงๆ อีกที เท่านี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาเดินดุ่มๆ ไปกวาดตาค้นหาสิ่งที่ต้องการแบบไร้จุดหมาย

ส่องขันหมากจีน เจ้าบ่าวเตรียมตามนี้ถูกตามประเพณีแน่นอน

เมื่อได้ฤกษ์แต่งงานมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่เจ้าบ่าวสายตี๋ต้องเตรียม ขันหมากจีน ไปสู่ขอเจ้าสาวอาหมวย ซึ่งเครื่องขันหมากจีนทั้งหมดของฝ่ายเจ้าบ่าวนั้นจะต้องติดตัวอักษรจีน ‘ซังฮี้’ ที่หมายความว่าคู่ความสุข คู่ความยินดี ไว้ด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็เตรียมตัวอักษรไว้ให้พร้อม แล้วนำมาติดไว้กับของในขันหมากที่ต้องเตรียมตามนี้ได้เลย

1. เครื่องขันหมาก หรือ เพ้งกิม 

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เจ้าบ่าวต้องเตรียมมาก็คือ สินสอดทองหมั้นตามที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งในส่วนของทองนั้นส่วนใหญ่คนจีนจะเรียกว่า ‘สี่เอี่ยกิม’ หรือทอง 4 อย่าง คือกำไลทอง, สร้อยทอง, ต่างหูทอง และเข็มขัดทอง ส่วน ‘เพ้ง’ หรือเงิน เจ้าบ่าวจะต้องแยกไว้ทั้งหมด 4 ซองเพื่อให้กับพ่อแม่ของเจ้าสาว ซองแรกคือค่าน้ำนม, ซองที่สองคือ ค่าเสื้อผ้า, ซองที่สามคือ ค่าทำผม และซองที่สี่ไว้สำหรับเป็นทุนตั้งตัว ซึ่งงานนี้ไม่ได้เตรียมให้แค่พ่อแม่อย่างเดียวนะคะ เพราะถ้าหากอากงอาม่าของเจ้าสาวยังมีชีวิตอยู่ เจ้าบ่าวจะต้องเตรียมอั่งเปาไว้ให้ทุกคนเป็นพิเศษอีกด้วย (ในบางครอบครัวที่เคร่งจัดๆ อาจเพิ่มชุดหัวหมู 1 ชุด)

2. กล้วยสีเขียวทั้งเครือ

ให้ความหมายว่าดึงสิ่งดีสู่บ่าวสาวและอวยพรให้มีลูกหลานสืบสกุลมากๆ ฉะนั้นเวลาจะสรรหากล้วยมาเข้าพิธีต้องคัดที่เครือใหญ่ๆ สีเขียวๆ ยิ่งถ้านับจำนวนหวีในเครือได้เป็นเลขคู่ด้วยละก็ เชื่อว่าจะได้ลูกแฝดมาเชยชม พร้อมกับใช้กระดาษแดงพันไว้ที่ก้านเครือด้วย และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ทุกลูกต้องติดตัวอักษรซังฮี้สีแดง ย้ำนะคะ ต้องติดทุกลูกทั้งเครือ เมื่อเข้าพิธีสู่ขอแล้ว ฝ่ายชายเป็นผู้นำกล้วยเครือนี้กลับบ้านไป

3. ต้นอ้อย

ไม่ต่างจากคนไทยที่เชื่อว่า อ้อยคือตัวแทนความหอมหวานของชีวิตคู่ ดังนั้นเจ้าบ่าวจึงต้องสรรหา อ้อยปล่องโตมา 1 คู่ แต่เรื่องอ้อยนี้แล้วแต่บ้านเหมือนกันนะคะ เพราะบางบ้านรู้สึกว่า อ้อยนั้นแม้จะหวานแต่เวลากินยากลำบากต้องปอกเปลือก ต้องแทะ ก็อาจตัดอ้อยออกจากสิ่งที่เจ้าวบ่าวต้องเตรียมาได้

ขันหมากจีน

4. ส้มเช้งผลเขียว

ส้มนั้นเป็นสัญลักษณ์ของผลไม้มงคลที่เชื่อว่าจะให้โชคดี โดยต้องเตรียมไว้เป็นเลขคู่ เช่น 44, 84 หรือร้อยกว่าลูกไปเลยก็ได้ถ้าใจถึง พร้อมกับติดตัวหนังสือซังฮี่สีแดงทุกผล ซึ่งนอกจากจะต้องเตรียมเป็นเลขคู่แล้ว ต้องเตรียมให้เท่ากับที่ตกลงกับฝ่ายหญิงไว้ด้วย แต่สมัยนี้ก็อาจยืดหยุ่นกันไปตามฐานะได้

5. ขนมหมั้น,ขนมแต่งงาน หรือขนมจันอับ

ในสมัยก่อนที่เคร่งครัดในธรรมเนียมปฎิบัติมากๆ จะให้ฝ่ายเจ้าสาวเป้นผู้กำหนดชนิดและจำนวนขนมที่จะยกไปสู่ขอแต่งงาน แต่หลังๆ มีร้านค้ามากมายทำกิจกรรมจัดขนมแต่งงานสำหรับลูกหลานชาวจีน ก็ขอเพียงสั่งมาให้มีในพิธีเป็นพอ

ขนมที่ว่าได้แก่ ขนม 4 สีที่เรียกว่า “ซี้เส็กหม่วยเจี๊ยะ” หรืออาจเป็นขนม 5 สี ที่เรียกว่า “โหงวเส็กทึ้ง” ประกอบด้วย ขนมเหนียวเคลือบงา, ขนมเปี๊ยะโรยงา, ขนมถั่วตัด,ขนมข้าวพองทุบ และขนมโก๋อ่อน บางบ้านอาจให้มงคลเกิดเต็มที่ก็อาจขอให้จัดน้ำตาลทราย ซาลาเปาไส้หวานและคุกกี้กระป๋องด้วย โดยต้องจัดเตรียมไว้เป็นชุดตามจำนวนแขกที่ฝ่ายหญิงเชิญมา ซึ่งขนมที่เพิ่มพิเศษนี้เรียกว่า “สั่งเปี้ย” แปลว่า ให้ขนมค่ะ

ขันหมากจีน

6. ถาดหมูสด

ถ้าเป็นงานแต่งงานแบบจีนแท้ๆ จีนจัดๆ ต้องมีชุดหมูค่ะ โดยจะมีด้วยกันถึง 3 ถาด แต่ละถาดวางหมูในสัดส่วนต่างๆ ไป คือถาดที่ 1 วางหัวหมูพร้อม 4 เท้าและ 1 หาง (อย่าลืมตัดเล็บหมูให้เรียบร้อย และติดตัวหนังสือซังฮี่) ถาดที่ 2 วางขาหมูสดติดตัวซังฮี่ ถาดที่ 3 วางเนื้อหมูตรงส่วนท้องของแม่หมูเท่านั้น เพื่ออวยพรให้เจ้าสาวได้เป็นแม่คน และเอาเคล็ดให้ได้ลูกชาย แต่ถ้าบ้านไหนไม่สะดวกจัดถาดของสด ก็อาจนำเงินใส่ซองแล้วเขียนหน้าซองว่าสำหรับซื้อหมูแต่ละถาดแทนก็ได้

ซึ่งตามธรรมเนียมบอกว่า ฝ่ายหญิงต้องให้ชุดหมูกับเจ่าบ่าวกลับไปด้วย แต่เป็นถาดวางหัวใจหมูที่ต้องเป็นหัวใจทั้งยวงที่ยังมีปอดและตับติดอยู่ด้วยกัน โดยเมื่อเสร็จพิธีจะนำหัวใจนี้มาแบ่งให้ฝ่ายชายนำกลับไปครึ่งใจ อีกครึ่งใจไว้บ้านฝ่ายหญิง แล้วนำไปประกอบอาหารทานร่วมกัน ซึ่งคงเดาไม่ยากใช่ไหมละว่าหัวใจคือ เคล็ดอวยพรให้หญิงชายมีจิตใจร่วมกันเป็นใจหนึ่งใจเดียวกัน

7. ของเซ่นไหว้ที่บ้านเจ้าสาว

ที่บ้านแต่ละบ้านมักมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ เพราะฉะนั้นเวลาที่หนุ่มๆ จะเข้าไปสู่ขอลูกสาวบ้านจีนมาเป็นภรรยา ต้องไม่ลืมเตรียมของไหว้อีก 2 ชุด สำหรับไหว้เจ้าที่และไหว้บรรพบุรุษ โดยของไหว้ก็ไม่มีอะไรมากมาย จัดเตรียมของคาว ขนมหวาน ผลไม้ เหล้า พร้อมอาหาร 10 อย่าง และที่ขาดไม่ได้คือ เส้นหมี่ เพื่ออวยพรให้ชีวิตคู่ยืนยาวและนิยมหา เถ้าแก่ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่นับถือและมีชีวิตครอบครัวที่ดีมาเป็นผู้นำขบวนหรือช่วยถือของขันหมากเพื่อเป็นสิริมงคล

บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีแต่งงานจีน

Step by Step พิธีแต่งงานจีน แบบเป๊ะๆ จัดอย่างนี้สิผู้ใหญ่ปลื้ม
เช็คลิสต์! ของแต่งงานจีนที่เจ้าสาวต้องเตรียม
ทานขนมอี๋แบบนี้ในงานแต่ง รับรองมีแต่เฮงเฮงเฮงแน่นอน!!

เทคนิคการเลือกชุดแต่งงานสีขาว ให้แมตช์กับสีผิวเจ้าสาวแต่ละแบบ

รู้หรือไม่! ว่าสีขาวไม่ได้มีแค่เฉดเดียว แล้วอย่างนี้ ชุดแต่งงานสีขาว เฉดไหนที่จะเหมาะกับสีผิวอย่างเรากันนะ??

สีขาว มันก็คือสีขาวไม่ใช่เหรอ? ขอตอบเลยว่าไม่ใช่!! เพราะสีขาวนี้ กลับมีอีกหลายเฉดให้ว่าที่เจ้าสาวได้เลือก แพรว wedding เลยขอมาแตกแยกเฉดของ ชุดแต่งงานสีขาว ให้ว่าที่เจ้าสาวได้รู้ เพื่อที่จะได้เลือกแมตช์ให้เข้ากับสีผิวตัวเองได้ดีที่สุด

เฉดสีขาวของชุดแต่งงานมีกี่เฉด มาดูกัน

ชื่อเฉดสีขาวแต่ละชื่ออาจทำให้ว่าที่เจ้าสาวสับสน แพรว wedding เลยรวบรวมชื่อเฉดสีขาวที่เป็นสากลและเป็นนิยมมาให้สาวๆ ได้รู้กัน

  • Stark White หรือ Bright White

สีขาวบริสุทธิ์ สีขาวเปล่งประกาย และสร้างความโดดเด่นได้เป็นพิเศษ แต่เป็นเฉดสีที่สวมใส่ได้ยาก แต่กลับเหมาะสำหรับว่าที่เจ้าสาวผิวคล้ำ  เนื่องจากเฉดสีนี้จะดูกลืนไปกับสาวๆ ที่ผิวขาวมากหรือผิวปานกลางนั่นเอง

  • Champagne White หรือ Rum White

เป็นเฉดสีที่สวยงามเหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีผิวอมชมพู แถมยังเป็นเฉดสีที่ดูดีในภาพถ่าย หรือในที่ที่มีแสงสว่างไม่มากเฉดนี้ก็ยังดูสวยอยู่ เป็นเฉดสีที่ไม่ขาวมาก แต่สามารถเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับสาวๆ ผิวสีแทนหรือสีน้ำผึ้งได้เป็นอย่างดี

จากซ้าย : Bright White, Champagne White, Ivory, Candlelight (ภาพจาก : Azazie, DHgate, UCenter Dress, Wedding Picture Idea)
  • Ivory

เฉดสีไอวอรี่ หรือเฉดสีงาช้างเป็นอีกเฉดสีที่เหมาะจะเป็นทางเลือกสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่ไม่อยากได้ชุดแต่งงานสีขาวจั๊วะ และเป็นเฉดสียอดนิยมในหมู่เจ้าสาว แต่ก็ต้องดูว่าเมื่อใส่แล้วเฉดสีนี้เข้ากับสีผิวของเจ้าสาวได้ดีจริงหรือไม่ เพราะเจ้าสาวที่มีสีผิวอมชมพูอาจจะเหมาะกับเฉดสีออกครีมนิดๆ มากกว่า เป็นต้น

  • Candlelight

อีกหนึ่งเฉดสีขาวที่มีเฉดใกล้เคียงกับเฉดงาช้างหรือไอวอรี่ แต่จะมีสีน้ำตาลมาผสมทำให้เข้มกว่าสีไอวอรี่เล็กน้อย แต่ความพิเศษของเฉดสีนี้คือ เมื่ออยู่ภายใต้แสงเทียนเฉดสีนี้จะเปลี่ยนเป็นสีขาว จึงเหมาะสำหรับใส่ในงานแต่งงานตอนเย็นมากๆ

  • Ecru

เป็นเฉดสีที่ลึกที่สุดของเฉดสีงาช้างหรือไอวอรี่ สีจะออกเป็นเฉดสีดิบๆ ของผ้าลินินที่ไม่ได้ผ่านการฟอกสี เหมาะสำหรับว่าที่เจ้าสาวที่กำลังมองหาความไม่เป็นทางการในชุดแต่งงาน และต้องการเฉดสีที่มีความต่างออกไปจากชุดแต่งงานแบบเดิมๆ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเฉดที่น่าลองจริงๆ

จะเลือกชุดแต่งงานเฉดสีขาว, สีไอวอรี่ หรือเฉดสีครีม ให้เข้ากับสีผิวของเราได้ยังไง?

  • เจ้าสาวผิวขาว

หากคุณเป็นคนที่ผิวขาวถึงขาวมาก สีขาวโทนอบอุ่นหรือสีขาวโทนเหลือง ไม่ควรเลือกชุดแต่งงานที่ขาวมากๆ เพราะจะทำให้สีผิวกับสีชุดดูกลืนกันไปหมด

  • เจ้าสาวผิวสีแทน

สำหรับว่าที่เจ้าสาวผิวสีแทน หรือสาวผิวคล้ำดำแดง เฉดสีขาวที่เหมาะสมและจะทำให้สีผิวของว่าที่เจ้าสาวดูสดใสไม่หมองคล้ำและดูเปล่งปลั่งขึ้น คือเฉดสีแชมเปญ

  • เจ้าสาวสีผิวกลางๆ

หากคุณมีผิวเฉดสีกลางๆ คือ ไม่ขาวมาก แต่ก็ไม่ถึงกับแทน ชุดแต่งงานเฉดสีขาวที่เหมาะกับสาวๆ ที่มีผิวแบบนี้คือ ชุดแต่งงานเฉดสีครีม เฉดสีไอวอรี่ และชุดแต่งงานสีขาว เพราะสาวๆ ผิวสีนี้จะมีสีเหลืองเป็นเฉดสีหลักของสีผิว

  • สาวผิวคล้ำ

หากคุณมีผิวที่คล้ำมากๆ เฉดสีขาวทุกเฉดดูเหมือนจะเหมาะกับสีผิวของคุณ ยกเว้นว่าถ้าหากคุณมีสีผิวที่ติดโทนเหลือง อาจต้องหลีกเลี่ยงชุดแต่งงานในเฉดสีไอวอรี่

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ว่าที่เจ้าสาวอาจจะลองสอบถามกับดีไซเนอร์หรือร้านชุดอีกทีเพื่อความชัวร์ และควรได้ลองสวมใส่ชุดแต่งงานจริงๆ ดูก่อนว่าสีนี้เหมาะกับเราจริงหรือไม่ ที่สำคัญการเชื่อใจในร้านชุดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะพวกเขาไม่เพียงที่จะแนะนำเฉดสีของชุดแต่งงานให้เหมาะกับคุณได้เท่านั้น แต่ยังมีทางเลือกอื่นๆ และแนะนำสิ่งที่เหมาะกับคุณได้ดีอีกด้วย โดยดูจากสีผิวของคุณเป็นหลัก

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมอีกเพียบ คลิกที่นี่!

ภาพเปิด stocksnap.io

How To รับมืออาการไมเกรนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ไม่ปวดหัวให้ทรมานกลางงานแต่ง

ไมเกรน อาการปวดหัวที่ทรมานหลายๆ คนให้อยากจะเอาหัวไถกับอะไรสักอย่างเพื่อให้หายปวด แต่ปวดวันไหนก็ไม่ทรมานเท่าปวดในวันแต่งงาน เพราะทั้งเหนื่อย ทั้งล้า แล้วต้องมาปวดหัวอีก แถมในวันแต่งงานก็มีแต่เรื่องชวนให้อาการกำเริบทั้งนั้น แพรว Wedding จึงขอยกหูถามคุณหมอว่า “เราจะช่วยบ่าว – สาว ที่เป็นไมเกรนในงานแต่งงานยังไงดีนะ” ผู้ที่จะมาช่วยบ่าว – สาว จากอาการไมเกรนในงานแต่งของตัวเองก็คือ นพ. กีรติกร ว่องไววาณิชย์ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าโรคไมเกรน คืออาการที่เกิดจากความผิดปกติของระบบสมอง ที่ไวต่อบางสิ่งบางอย่าง เช่น แสง เสียง สี หรือแม้กระทั่งกลิ่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นสมองให้ทำงานผิดปกติจนเกิดเป็นอาการปวดหัวขึ้นนั่นเอง และเพราะเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติของสมอง จึงทำให้ไมเกรนไม่ได้มีแค่การปวดหัวเท่านั้น แต่ยังมี คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว อีกด้วย

จะแต่งงานแล้ว ทำยังไงดีไม่ให้ปวดหัว

ณ จุดนี้คุณหมอพูด 2 คำสั้นๆ ได้ใจความว่า “ยากนะ!” เพราะใช่ว่าโดนกระตุ้นแล้วจะปวดทุกครั้ง หรือไม่ปวด ทางที่ดีคือหลีกเลี่ยงสิ่งเร้านั้นๆ อย่าง รู้ว่านอนไม่พอจะปวดหัว วันแต่งงานก็อาจจะต้องนอนให้เร็วขึ้นมากๆ เพราะยังไงก็ต้องตื่นเช้าอยู่ดี เป็นต้น หรือถ้าเครียดแล้วจะปวดหัว ก็ขอให้พยายามปล่อยวาง ไว้วางใจเพื่อนเจ้าบ่าว – เจ้าสาวและทีมงานที่เลือกมาจัดงาน

แต่ถ้ามีสิ่งกระตุ้นให้ปวดหัวเป็นแสง หรือเสียงวันแต่งงานก็จะลำบากหน่อย เพราะสิ่งเหล่านี้ในงานแต่งหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย นอกจากว่าจะเปิดเพลงในงานแต่งให้เบาหน่อย ลดสปอตไลท์ที่ส่องไปยังคู่บ่าวสาว ก็จะช่วยให้สิ่งกระตุ้นน้อยลง โอกาสเกิดน้อยลงได้

ทางที่ดีสำหรับบ่าวสาวที่ไม่อยากเสี่ยงปวดหัวให้เป็นความทรงจำที่ไม่ดีในงานแต่ง ก็อาจจะไปพบแพทย์ก่อนงานแต่งสัก 4 – 5 เดือน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการปวดหัว เพราะบางครั้งก็อาจมาจากสาเหตุอื่นๆ ได้ และแพทย์อาจให้ยาเพื่อป้องกันการปวดหัว ซึ่งเป็นยาที่หมอเป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้น และต้องกินติดต่อกันเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงจะป้องกันได้ผล

ไมเกรน

ปวดหัวในงานแต่ง ทำไงดี

บ่าวสาวที่มีอาการไมเกรนควรต้องมียาแก้ปวดพกไว้ใกล้ตัว หรือเรียกหาได้ง่าย ทางที่ดีควรมีกระเป๋าพกที่ใส่ของจำเป็นๆ ฝากเพื่อนๆ เอาไว้ ปวดปุ๊บก็เรียกหามากินได้ทันที แต่หากว่ากินยาไปแล้วยังไม่ดีขึ้น ก็ยังมีวิธีที่จะบรรเทาได้ แต่ก็ต้องแอบแว่บออกมาจากงานแต่งชั่วเวลาหนึ่ง

  1. ประคบเย็นบริเวณที่ปวด
  2. หายใจเข้า ออก ช้าๆ
  3. หลับตา
  4. อยู่ในที่มืด และเย็น
  5. นวดเบาๆ บริเวณที่ปวด

ซึ่งทั้ง 5 วิธีนี้ เป็นวิธีที่จะช่วยบรรเทาให้อาการปวดดีขึ้น ในกรณีที่ไม่สามารถเลี่ยงสิ่งกระตุ้นได้ เพราะในงานแต่งก็เต็มไปด้วยสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ละ

สำหรับบ่าวสาวที่มีอาการปวดหัว ไมเกรน เราก็ขอให้ผ่านงานแต่งงานไปได้อย่างราบรื่นไร้การปวดหัว นอกจากไมเกรนแล้ว เราก็ยังมีอีกสารพัดเรื่องสุขภาพที่บ่าวสาวต้องเตรียมตัวให้พร้อมมาให้อ่านอีก คลิกเลย

ขอบคุณ นพ. กีรติกร ว่องไววาณิชย์ ศูนย์สมองและระบบประสาทกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ

ภาพ unsplash.com, pixabay.com, Pinterest