5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่สวยได้ทั้งงานกลางวันและงานยามค่ำคืน

แก๊งสุดล้ำนำสมัย ก็เลือก 1 ใน 5 สไตล์นี้ไปใส่ได้แน่นอน

ปัจจุบัน สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาว มีให้เลือกมากมายจนทำเอาบรรดาเพื่อนเจ้าสาวปวดหัวไม่แพ้กับเจ้าสาวเลย แพรว wedding เลยรวบ 5 สไตล์สุดฮิตที่เหมาะกับว่าที่เพื่อนเจ้าสาวในสไตล์ต่างๆ มาฝาก จะแก๊งหวาน แก๊งเปรี้ยว หรือแก๊งสุดล้ำนำสมัย ก็เลือก 1 ใน 5 สไตล์นี้ไปใส่ได้แน่นอน

เฉดสีชมพู Nostalgic Pink

เฉดสีสุดฮิตสำหรับแก๊งเพื่อนเจ้าสาวสายหวานคงหนีไม่พ้นเฉดสีโรแมนติกสุดเฟมินีนอย่างสีชมพู โดยเฉพาะเฉดสี “Nostalgia Pink” ที่อยู่ในเฉดสีชมพูบลัชที่เป็นที่นิยมในปีนี้ ซึ่งจะมีความหม่นกว่าสีชมพูนิดๆ และค่อนไปทางเฉดสีอมม่วงหน่อยๆ ซึ่งถือเป็นเฉดสีชมพูที่เหมาะกับสาวๆ ทุกสีผิว และชุดเฉดสีนี้ยังสามารถแมตช์กับเครื่องประดับสีไหนก็รอดอีกด้วย โดยเฉพาะเครื่องประดับในเฉดสี jewel tone บอกเลยว่าถ้านำมาป๊ะกันแล้ว เริดมาก

ชุดแบบไหล่เดี่ยว

เรียกได้ว่าเป็นสไตล์ที่ฮิตติดลมบนมาตั้งแต่ปี 2000 จนถึงกระทั่งตอนนี้ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ แถมชุดสไตล์นี้ยังสามารถครีเอทช่วงไหล่ได้อย่างหลากหลาย ไมว่าจะเป็น สายแบบเนื้อผ้าธรรมดาที่เป็นส่วนหนึ่งของชุด หรือจะดีไซน์ให้เป็นแบบผูกเป็นโบก็ได้ลุคที่ดูเป็นสาวหวานน่ารักขึ้นมาทันที แถมชุดสไตล์นี้ยังช่วยพรางรูปร่างของสาวที่มีช่วงไหล่กว้างได้ดีอีกด้วย อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างรูปร่างของสาวๆ ให้ดูมีช่วงเอว และเน้นช่วงสะโพกให้ดูเป็นหุ่นนาฬิกาทราย หุ่นในฝันของสาวๆ หลายคนได้ด้วยนะ

ชุดเดรสแบบพลิ้วไหว

ชุดเดรสสไตล์นี้เน้นความบางเบาของเนื้อผ้าเป็นหลัก แต่ในเรื่องดีไซน์บอกเลยว่าสามารถครีเอทได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นแบบไหล่เดี่ยว แบบเกาะอก หรือแบบแขนยาว แต่ที่สำคัญที่จะทำให้ชุดสไตล์นี้โดดเด่นคือ การเล่นเลเยอร์กับชุด เพราะจะยิ่งเน้นให้ชุดดูหวานและมีความพลิ้วไหวมากขึ้น ซึ่งชุดสไตล์นี้บอกเลยว่าเหมาะมากกับงานแต่งงานในสวน หรืองานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์

ชุดแบบสองชิ้น

สำหรับสาวๆ ที่มองหาความคุ้มค่าต้องไม่พลาดกับชุดสไตล์นี้ แถมเป็นชุดที่ไม่ได้รับความนิยมแค่เฉพาะในหมู่เพื่อนเจ้าสาวเท่านั้นนะ แต่บรรดาว่าที่เจ้าสาวก็หันมาสวมชุดสไตล์นี้กันเยอะขึ้น เพราะสามารถครีเอทลุคได้หลากหลาย แถมเสร็จจากงานนี้ยังสามารถนำทั้งชิ้นบนและชิ้นล่างไปแมตช์กับเสื้อผ้าตัวอื่นๆ จนได้เป็นชุดใหม่อีก 1 ชุด ซึ่งชุดแบบสองชิ้นนี้บรรดาสาวๆ อาจจะใส่เหมือนกันแบบยกแก๊ง หรือจะครีเอทสไตล์ใครสไตล์มันเพื่อให้เหมาะกับรูปร่างของตัวเองก็ยังสวยได้ แถมยังสามารถสร้างลูกเล่นกับการเปลี่ยนท่อนบน หรือสลับท่อนล่างในช่วงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ได้อีกด้วย

ชุดเดรสผ่าหน้าโชว์ความเซ็กซี่

สาวๆ ที่อยากใส่เดรสยาว แต่อีกใจก็อยากอวดความเซ็กซี่นิดๆ ต้องไม่พลาดกับชุดเดรสสไตล์นี้ ที่สามารถเผยช่วงขาเรียวยาว พร้อมรองเท้าคู่สวยได้เป็นอย่างดี แถมยังช่วยให้สาวๆ เคลื่อนไหว ยืน เดิน หรือนั่งได้สะดวกอีกด้วย

ติดตามไอเดียชุดเพื่อนเจ้าสาวดีๆ อีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ stylemepretty.com, pinterest, shoprevelry.com

5 เหตุผลที่เจ้าสาวควรเลือก ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว เป็นชุดแต่งงาน

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว ที่ถ่ายทอดความงดงามของเจ้าสาวมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

เพราะ ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว เต็มไปด้วยความงดงาม มีเพิ่มเสน่ห์ และเสริมบุคลิกให้เจ้าสาว แพรว wedding เลยขน ชุดแต่งงานแขนยาวคอกลมหรือคอปาด มาฝาก แบบหลากสไตล์ ไม่ว่าจะเซ็กซี่ หรือน่ารัก ที่สามารถถ่ายทอดออร่าความสง่าและดูแพงให้กับเจ้าสาวได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าคุณกังวลที่จะเลือกชุดแต่งงานลายลูกไม้ในวันแต่งงานอยู่ เราขอให้ช้าก่อน เพราะเรามีข้อดีของชุดแต่งงานสไตล์นี้มาฝาก

1. เพราะดีเทลของชุดแต่งงาน

ดีไซน์เนอร์ต้องอาศัยความละเอียดและประณีตในการตัดเย็บ และปักลวดลายลูกไม้ต่างๆ อย่างประณีต เพราะลายลูกไม้คือจุดเด่นของชุดที่มองไกลๆ แต่ก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงชุดที่เต็มไปด้วยความมีสง่าราศี โดยไม่ว่าจะทักทอด้วยลายลูกไม่อย่างเดียว หรือประดับคริสตัลเพื่อเพิ่มความระยิบระยับให้ชุดด้วยก็ตาม ซึ่งงานลักษณะนี้ดีไซน์เนอร์ที่ออกแบบชุดแต่งงานจะต้องมีความเชี่ยวชาญเฉพาะและประสบการณ์มากๆ จึงเหมาะสำหรับเจ้าสาวที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

 

2. เพราะสไตล์ของชุดแต่งงาน

เหล่าดีไซน์เนอร์มักจะออกแบบชุดแต่งงานประดับลูกในหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะใช้ผ้าลูกไม้ทึบตลอดช่วงตัว หรือจะเพิ่มความเซ็กซี่ให้เจ้าสาวด้วยผ้าโปร่งประดับลูกไม้ในช่วงเนินอกและแขน ที่ดูอ่อนโยนและมีความเซ็กซี่ในขณะเดียวกัน พร้อมช่วงเนคไลน์ทั้งแบบคอกลม หรือคอปาด ที่ช่วยเน้นให้ช่วงไหล่ของเจ้าดูดีและโดดเด่น

นอกจากนี้ลวดลายลูกไม้ยังสามารถออกแบบได้อย่างไม่ตายตัว ซึ่งส่วนมากก็ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติรอบตัว เช่น ใบไม้ ดอกไม้ พฤกษาต่างๆ เป็นต้น เรียกได้ว่าเหมาะกับเจ้าสาวสายหวานสุดๆ 

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

3. เพราะความคลาสสิกของชุดแต่งงาน

เป็นที่รู้กันว่าชุดแต่งงานจะถ่ายทอดความงดงามของผู้หญิง และสะท้อนบุคลิกของแต่ละคน โดยเฉพาะชุดแต่งงานลายลูกไม้ ที่ไม่ได้เน้นความหวือหวา แต่กลับเป็นชุดแต่งงานที่มีความคลาสสิกที่สะกดสายตาอยู่เสมอ เช่น การตัดเย็บผ้าลูกไม้ในช่วงบนให้ดูเข้ารูป แมตช์กับกระโปรงทรงเอไลน์ที่มีความพลิ้วไหว เพื่อเสริมบุคลิกให้เจ้าสาวดูสูงสง่า

ซึ่งลุคนี้เป็นชุดแต่งงานที่มักได้รับความนิยมในหมู่เจ้าสาวมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เพราะหากย้อนกลับไปดูชุดแต่งงานในยุคแรกๆ แฟชั่นชุดแต่งงานที่ได้รับความนิยมก็มักจะเป็นชุดแต่งงานแขนยาวแบบนี้แหละ เพราะฉะนั้นเจ้าสาวที่อยากได้ลุคคลาสสิคที่ดูดีอยู่เสมอต้องไม่พลาด

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

4. เพราะความระยิบระยับและประณีตตลอดทั้งชุดแต่งงาน

ผ้าลูกไม้นิยมนำมาใช้กับชุดแต่งงาน เพราะมีความอ่อนช้อยและความประณีตของลวดลาย สะท้อนถึงความอ่อนโยนของผู้หญิง ดังนั้น การตัดเย็บด้วยผ้าลูกไม้ตลอดทั้งชุด จึงไม่ได้ทำให้ชุดดูเยอะแต่กลับทำให้ชุดดูแพง เดิมลวดลายลูกไม้มักจะมีความบางเบา เพื่อเสริมความสมดุลให้ลุคเจ้าสาวดูอ่อนหวาน และมีเสน่ห์เย้ายวน ซึ่งเมคอัพที่เหมาะกับชุดแต่งงานแบบนี้คือ เมคอัพแบบธรรมชาติ และทรงผมเรียบๆ ไม่ว่าจะปล่อยผมหรือเกล้าผมเปิดหน้า แต่ความมีออร่ายังอยู่ครบ

5. เพราะการครีเอทในแบบใหม่ๆ

เปลี่ยนชุดแต่งงานทรงเอไลน์แบบเดิม ด้วยการครีเอทในแบบสมัยใหม่ ด้วยการเล่นเลเยอร์ซ้อนทับด้วยผ้าทูลโปร่งบางในสไตล์แบบเมอร์เมด เพื่อให้ชุดผสมผสานทั้งความคลาสสิกและโมเดิร์น จากเช่น ชุดที่เน้นการประดับคริสตัลบนลวดลายผ้าลูกไม้สีนู้ด ที่ถึงแม้จะดูเรียบๆ แต่กลับหรูหรา สง่างามสุดๆ

ชุดแต่งงานลูกไม้แขนยาว

 

มาชมกันต่อกับดีไซน์ในปัจจุบันที่เราอยากแนะนำจาก 5 แบรนด์ใน ชุดแต่งงานลายลูกไม้ พร้อมความบางเบาและเรียบหรูในเทรนด์ปี 2019

ภาพจาก Pinterest

4 ร้าน รองเท้าเจ้าสาวสั่งตัด ในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นเพียงหลัก 1,000 เท่านั้น

รองเท้าเจ้าสาวสั่งตัด เพื่อเสริมความมั่นใจให้เจ้าสาวงดงามทุกย่างก้าว

เพราะรองเท้าที่ดีไม่เพียงแต่ต้องสวยและเหมาะกับชุดแต่งงานเท่านั้น แต่ต้องเข้ากับรูปเท้าและเดินได้อย่างสบายด้วย รองเท้าเจ้าสาวสั่งตัด จึงเป็นอีกหนึ่งดีเทลที่เจ้าสาวควรให้ความสำคัญ แม้ว่าหลายๆ คนอาจคิดว่าการสั่งตัดรองเท้าเฉพาะของตนจะมีรายจ่ายมากขึ้น แต่ แพรว wedding ได้รวบรวมร้านรองเท้าสั่งตัด ที่ราคาเริ่มต้นเพียงหลักพันมาฝาก เพื่อเป็นทางเลือกให้เจ้าสาวได้มีโอกาสนำแบบรองเท้าในฝัน มาดีไซน์ให้เป็นรองเท้าคู่สวยในวันสำคัญเพื่อเสริมบุคลิกให้โดดเด่นในวันวิวาห์

Areethan

รองเท้าสั่งตัดในแบบของคุณเอง เพิ่มความอ่อนหวานและเซ็กซี่จากดีไซน์ของทางร้าน มีทั้งบริการรองเท้าสั่งตัดและพร้อมจำหน่ายที่หน้าร้านด้วย โดยเจ้าสาวสามารถเลือกแบบสั่งตัด เพื่อให้ได้แบบที่ชื่นชอบ เลือกความสูงและสีที่ต้องการ เพราะรองเท้านั้นต้องสวมใส่เหมาะสมพอดีกับเท้า และเดินได้คล่องตัวอย่างมั่นใจ

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 3,200 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 20 วัน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 081-2619114 หรือเฟซบุ๊ก: Areethan Shoes

CNK SHOP

ด้วยการใช้วัตถุดิบชั้นดีที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน เพื่อผลิตรองเท้าและงานสั่งตัดที่เต็มไปด้วยความเรียบหรู กับรองเท้าประดับผ้าลูกไม้ ให้เจ้าสาวสง่างามทุกย่างก้าว พร้อมทั้งสามารถนำผ้าที่ใช้ตัดเย็บชุดเจ้าสาวมาใช้เพื่อตัดรองเท้าให้เข้ากับชุดได้ แถมที่ร้านก็มีเฉดสีให้เลือกหลากหลาย เพื่อให้เจ้าสาวได้เลือกแบบรองเท้าในฝันตามแบบของตน

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 1,690 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 15 วัน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 081-2747887 หรือเฟซบุ๊ก: CNK SHOP

THAT JRP

เสริมความมั่นใจด้วยสไตล์หรูหราและความระยิบระยับจากดีไซน์ของทางร้านกับ รองเท้าคลาสสิกแบบ Stella, Gala และ Dorothy ผสมผสานกับตัวตนของเจ้าสาวเพื่อรองเท้าเจ้าสาวสั่งตัดที่คู่ควรกับคุณ โดยเจ้าสาวสามารถสั่งได้ทั้งแบบส้น สี หรือวัสดุที่ใช้ได้ ซึ่งทางร้านมีผ้าและหนังให้เลือกมากกว่า 30 สี รวมไปถึงการนำผ้าลูกไม้มาให้ตัดเพื่อให้เข้ากับชุดเจ้าสาวด้วย

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 3,480 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 10-15 วัน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 098-6353651 หรือเฟซบุ๊ก: THAT JRP

Descendantshoes

โดดเด่นด้วยความคลาสสิก เงางามของรองเท้า และความประณีตที่มาพร้อมดีไซน์รองเท้าให้เจ้าสาวสวยและดูแตกต่าง เช่น รองเท้าทรงหัวแหลม และทางร้านยังมีแบบรองเท้า เฉดสี หนัง ผ้าลูกไม้ และคริสตัลที่หลากหลายเพื่อให้เข้ากับชุดเจ้าสาว นอกจากนี้ความพิเศษของทางร้านคือการดีไซน์รองเท้าสำหรับเจ้าสาวที่มีปัญหาเรื่องรูปเท้าได้อย่างตรงจุด และสามารถรีเควสความสูงของรองเท้าให้กับเจ้าสาวตัวเล็กที่ต้องการเพิ่มความสูงได้เช่นกัน

  • ราคารองเท้าสั่งตัด เริ่มต้นที่ 3,590 บาท
  • ออเดอร์ล่วงหน้า 1 เดือน
  • สนใจติดต่อเพิ่มเติม โทร. 081-8542528 หรือเฟซบุ๊ก: Descendantshoes

รู้ไว้ก่อนกับ เคล็ดลับตัดรองเท้าแต่งงานยังไงให้ได้ดั่งใจ แถมใส่สบายในวันวิวาห์

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Areethan/ CNK SHOP/ THAT JRP/ Descendantshoes

ภาพเปิดจาก Unsplash

รวมร้านเช่า แบ็กดร็อปงานแต่ง งานดี ดีไซน์เก๋ และราคาประหยัด

แบ็กดร็อปงานแต่ง ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับงานแต่งงานพอสมควร เพราะเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงธีมงาน และเป็นหน้าเป็นตาให้แก่บ่าวสาว ถ้าบ่าวสาวคู่ไหน อยากประหยัดค่าใช้จ่าย แนะนำว่าให้ใช้ร้านเช่าแบ็กดร็อปสวยๆ แทนการผลิตใหม่ แพรว wedding  ทำการรวบรวมร้านเช่า แบ็กดร็อปงานแต่ง ดีไซน์เก๋ มาให้แล้วค่ะ

Seethrough Wedding

บริการให้เช่าฉาก,  อุปกรณ์ตกแต่งงานแต่งงาน พร้อมออกแบบและสร้างงานแต่งงานให้ในรูปแบบเฉพาะ มีรูปแบบฉากให้เลือกหลากหลายแนว ทั้ง vintage,  retro, garden,  modern,  chic,  sweet วัสดุเป็น inkjet sticker เคลือบด้าน ไม่สะท้อนแสง งานเนี้ยบ สีสวยสด คมชัดเหมาะกับการถ่ายรูป และที่ร้านมีการเปลี่ยน inkjet sticker ใหม่เรื่อยๆ เพราะมีเครื่อง inkjet sticker เป็นของตัวเอง

โทร :  06-3326-3514, 08-1817-9881
เฟชบุ๊ค : Seethroughwedding

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

Idea Wedding

รับจัดงานแต่งงาน บริการให้เช่าพร๊อพงานแต่ง และอุปกรณ์ตกแต่งงานแต่งราคาประหยัด

โทร : ปลา 08-9045-5446 , แดน 09-0424-2441

ไลน์ :plazuzaipad, ladyzuzashop
เฟชบุ๊ค : Ideaweddingshop

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

Madarose Wedding Backdrop

รับจัดฉากและให้เช่าฉากแต่งงาน

ไลน์ : @ipr3268r

เฟชบุ๊ค :  MadaroseWeddingBackdrop

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

Proppiness

รับตกแต่งงานแต่งงาน ให้เช่าอุปกรณ์, ฉาก และพร็อพ โดยที่คุณสามารถเลือกแบบได้ตามต้องการ และสามารถปรับแต่งให้เข้ากับธีมงานของคุณได้

โทร. : 08-5091-0741, 08-1696-9173

เว็บไซต์ : www.proppiness.com

แบ็กดร็อป

 

Tang Tung

สำหรับลูกค้าที่สนใจงานตกแต่งสถานที่สวยๆ ทั้งซุ้มทางเข้างาน, Photo Backdrop และประตูดอกไม้ประดับต่างๆ ที่นี่มีทีมให้บริการครบครันในราคาประหยัด

โทร : 08-3883-0180

Facebook  : TangTungDecorator

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

 Istein

งานแปลกแหวกแนวกับแบ็กดร็อปไม้ฉลุลาย ให้อารมณ์วินเทจเบาๆ

โทร. :  08-9897-3663

เว็บไซต์ : www.isteindecor.com

เฟชบุ๊ค : signdd

แบ็กดร็อปงานแต่ง

 

2B Wedding

ให้เช่าแบคดรอปราคาไม่แพง

โทร. : 08-1834-4245

ไลน์ : tee23085, 2bwedding, 2bweddingshop

เว็บไซต์ : www.2bwedding.com

แบ็กด็อปงานแต่งงาน

 

Bokeh Wedding Backdrop

บริการฉากเช่างานแต่งงาน ในรูปแบบโครงสร้างเก๋ๆ มีมิติดูแปลกตา พร้อมพร๊อพแบบจัดเต็ม

โทร : 08-6507-7070

ไลน์ : bokeh.non, nonny.manu

เฟชบุ๊ค : bokehbackdrop

แบ็กดร็อปงานแต่งงาน

 

Elite Professional

บริการให้เช่าแบร็กดร็อป งานละเอียดสวยหรูดูแพง แต่ราคาไม่แรงอย่างที่คิด

โทร : 06-2515-6416, 09-6298-9829
ไลน์ : eliteproplanner , muwhan

เฟชบุ๊ค : eliteproplanner

แบ็กดร็อป

มัดรวมมาให้แล้ว…เช็กลิสต์จัดงานแต่ง ที่ว่าที่ทั้งหลายนำไปทำตามได้ไม่ยาก

เมื่อถึงเวลาต้องวางแผนจัดเตรียมงานแต่งงานก็ทำเอาว่าที่บ่าวสาวหลายคนหัวหมุน เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร แพรว wedding จึงขออาสาทำหน้าที่ผู้ช่วยจัดงานแต่งงานให้คุณแบบเอกซ์คลูซีฟด้วย เช็กลิสต์จัดงานแต่ง ที่จำเป็นต่อการเตรียมงาน เมื่อบ่าวสาวได้วันวันแต่งงาน  จำนวนแขกคร่าวๆ สถานที่ และแบ่งหน้าท่ีในการรับผิดชอบเรื่องต่างๆ  พร้อมกับเคลียร์ใจกับทางครอบครัวเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาต้องมาลงรายละเอียดในการเนรมิตงานแต่งกันแล้ว

1. แขกในงาน

  • ลิสต์รายชื่อแขกที่จะเชิญมาร่วมงานอย่างจริงจัง จะเชิญแขกงานเช้ากับงานเย็นแยกกันหรือไม่ รวมไปถึงนำลิสต์ รายชื่อแขกของพ่อแม่มารวมด้วย จะได้รู้ว่าจำนวนแขกทั้งหมดที่จะมางานของคุณมีจำนวนกี่คน
  • เผื่อจำนวนแขกจากจำนวนการด์เชิญไวด้วย เช่น ให้การ์ดไป 1 ใบ แต่แขกอาจจะพาคนรู้ใจหรือครอบครัวมาด้วย
  • ใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตั้งอีเวนต์ผ่านทางเฟซบุ๊กแล้วให้เพื่อนๆ กดว่าจะไป ไม่ไป หรืออาจจะไป เพื่อจะนำมาคำานวณได้ถูก แต่วิธีนี้เหมาะสำาหรับเพื่อนๆ เท่านั้น เพราะแขกผู้ใหญ่นั้นการไปเชิญด้วยตัวเองดีที่สุด

2. งบประมาณที่ตั้งไว้

  • วางแผนว่าจะใช้จ่ายเงินเท่าไรในเรื่องใดบ้าง เช่น ค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าชุด ค่าตกแต่งงาน ฯลฯ
  • จัดลำดับความสำคัญในเรื่องการใช้จ่าย ว่าคุณให้ความสำคัญกับเรื่องใดในงานแต่งที่สุด เช่น ดอกไม้ต้องอลัง หรืออาหารต้องอร่อย เพื่อจะได้เทงบให้กับเรื่องที่อยากให้ความสำคัญมากกว่าเรื่องอื่น ๆ
  • อย่าลืมแยกค่ามัดจำต่างๆ เอาไว้ด้วย และตั้งเดดไลน์ในการจองหรือมัดจำในเรื่องต่างๆ ให้รอบคอบ

3. สถานที่จัดงานแต่งงาน

  • เช็กเรื่องต่างๆ กับสถานที่ให้ดีก่อนที่จะจอง เช่น มีที่จอดรถพิเศษสำหรับแขกวีไอพีหรือไม่ ห้องพักหรือห้องเก็บตัวสำหรับบ่าวสาวและครอบครัว ห้องน้ำสะดวก และเพียงพอต่อจำนวนแขกหรือไม่ เป็นต้น
  • หากจัดงานแต่งงานต่างจังหวัด จะต้องจัดหาห้องพักสำหรับแขกผู้ใหญ่หรือแก๊งเพื่อนเจ้าบ่าว-เจ้าสาวหรือไม่ หรือหากจัดงานที่กรุงเทพฯ แต่มีแขกจากต่างจังหวัดมา ต้องเตรียมห้องพักเพื่อรองรับด้วยหรือเปล่า
  • อย่าเพ่ิ่งจองสถานท่ี่หากคุณคิดจะใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ เพราะเหล่าเวดดิ้งแพลนเนอร์มืออาชีพอาจจะสามารถให้ความช่วยเหลือเรื่องสถานที่ได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยเสนอไอเดียและช่วยแจ้งให้ทราบเรื่องสิทธิพิเศษต่างๆ หรือแม้กระทั่งส่วนลดที่ดีกว่า
  • หากบ่าว-สาวมีอาหารหรือเครื่องดื่มที่จะนำเข้าไปเพิ่มเติมเองในงานควรแจ้งทางสถานที่ให้รู้ล่วงหน้า และอย่าลืมสอบถามว่าต้องมีค่าใช้จ่ายสำาหรับการนำอาหารและเครื่องดื่มจากข้างนอกเข้ามาหรือไม่ และควรแจ้งกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วยเพื่อช่วยในเรื่องของการจัดพื้นที่ในงาน

4. เวดดิ้งแพลนเนอร์

  • มองหาเวดดิ้งแพลนเนอร์ที่ไว้ใจให้มาเนรมิตงานแต่ง
  • แจ้งธีมงานที่อยากได้ให้ชัดเจน พร้อมบอกงบประมาณที่มีแบบตรงไปตรงมา เพื่อที่ทางเวดดิ้งแพลนเนอร์จะได้ออกแบบงานแต่งให้อยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้
  • แจ้งรูปแบบการจัดงานกับเวดดิ้งแพลนเนอร์ให้ชัดเจนว่าจะเป็นงานเลี้ยงแบบค็อกเทล โต๊ะจีน หรือซิตดาวน์ ดินเนอร์ เพื่อจะได้จัดรูปแบบภายในงานได้อย่างถูกต้องเหมาะสมและตรงกับธีมที่บ่าว-สาวอยากได้
  • ให้ความเชื่อใจในความเป็นมืออาชีพว่าเขาจะทำทุกอย่างให้กับคุณได้ดีที่สุด และอดทนรอคำตอบในเรื่องต่างๆ เพราะอย่าลืมว่าเขาไม่ได้จัดงานแต่งให้คุณแค่คู่เดียว ที่สำคัญบ่าวสาวต้องให้ความเคารพในเวลาส่วนตัวของเวดดิ้งแพลนเนอร์ด้วย

5. ชุดแต่งงาน

  • วางแผนเรื่องชุดแต่งงานล่วงหน้าอย่างน้อย 6 เดือน ก่อนถึงวันงาน เพราะอย่าลืมว่าต้องเผื่อเวลาไว้สำหรับ การแก้ไขชุดให้พอดีกับรูปร่างด้วย โดยเฉพาะชุดเจ้าสาวที่มีรายละเอียดเยอะกว่าชุดเจ้าบ่าวมากเป็นพิเศษ
  • สำหรับชุดเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว คุยกันให้ชัดเจนว่าจะปล่อยให้เพื่อนๆ จัดการตัวเองด้วยงบของพวกเขา หรือจะออกค่าใช้จ่ายในส่วนไหนให้กับเพื่อนๆ ได้บ้าง
  • แนะนำให้รีบมองหารองเท้าแต่เนิ่นๆ อย่าลืมว่าลุคโดยรวมทั้งหมดของคุณจะต้องออกมาดูดี โดยเฉพาะเจ้าสาวที่ใส่รองเท้าส้นสูง เพราะทางร้านจะได้นำความสูงของรองเท้ามาออกแบบความยาวของชุดแต่งงานให้พอดีกัน
  • มองหาเครื่องประดับอื่นๆ เช่น เฮดพีซ ต่างหู เวล โบไท หรือบูโทเนียร์ เป็นต้น
  • อย่าลืมแอ๊กเซสซอรี่ส์ของเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวด้วย เช่น ข้อมือหรือช่อดอกไม้เพื่อนเจ้าสาว และแอ๊กเซสซอรี่ส์สุดพิเศษที่แก๊งเพื่อนเจ้าบ่าวอยากใส่ให้เข้ากัน

เพื่อนเจ้าสาวต้องมีกี่คน? กับความจริงที่แฝงอยู่ในจำนวนเพื่อนเจ้าสาว!

จำนวน เพื่อนเจ้าสาว บอกบุคลิกและไลฟ์สไตล์เจ้าสาวได้นะ!!

หลากหลายงานแต่งที่เราถูกเทียบเชิญให้ไปร่วมงาน ขอบอกเลยว่าบางงาน เพื่อนเจ้าสาว ก็เดินขบวนกันมาเป็นสิบ (30 คนก็เคยมี!!) หรือบางงานก็มีน้อยจนนึกว่าเพื่อนเจ้าสาวหายไปไหนหมด! แต่เชื่อหรือไม่ว่า จำนวนเพื่อนเจ้าสาว ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น เพราะยังมีนัยยะเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของคุณแฝงอยู่ด้วยนะ มาเดี๋ยวแพรว wedding จะบอกให้!

1. มากกว่า 10 คน

เจ้าสาวคนไหนที่มีเพื่อนเจ้าสาวมากกว่า 10 คนขึ้นไป ขอสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า คุณจะต้องเป็นปาร์ตี้เกิร์ลตัวแม่ เป็นคนชอบเริงร่า ชอบงานสังสรรค์ และมักจะมีคติประจำใจว่า Work Hard Play Hard ซึ่งการที่คุณเลือกเพื่อนเจ้าสาวเยอะๆ ก็จะทำให้คุณดูโดดเด่นท่ามกลางเพื่อนสาวมากมาย (แน่นอนว่าต้องเด่นอยู่แล้ว เพราะชุดคุณไม่เหมือนใคร) และสามารถสร้างบรรยากาศสนุกสนานให้กับงานวิวาห์ได้เป็นอย่างดี แถมยังบ่งบอกได้อีกว่า คุณเป็นคนมีเสน่ห์แบบสุดๆ จนมิตรรักเพื่อนเลิฟคุณกันทุกคน ถึงได้ยอมสละเวลามาเป็นเพื่อนเจ้าสาวเริดๆ เยอะแยะขนาดนี้

2. 7-9 คน

จำนวนประมาณนี้เราคิดว่ากำลังดีนะคะ อาจจะไม่เยอะเหมือนข้อแรก แต่ขอบอกว่าสำหรับคุณแล้วเพื่อนเจ้าสาวทุกคนคือ The Best เลยใช่ไหมล่ะ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ใช่สาวนักสังสรรค์ ออกปาร์ตี้บ้างเป็นครั้งเป็นคราวตามแต่โอกาส แต่ถ้าหากมีวันหยุดยาวๆ เมื่อไหร่ คุณจะต้องหาเวลานัดเกิร์ลแก๊งกลุ่มนี้ออกมาเจอกัน แล้วจับกลุ่มเม้าท์สนทนาตามประสาหญิงสาวแน่ๆ

3. 4-6 คน

จำนวนนี้ก็ยังไม่ถือว่าน้อยนะคะ ยังสามารถกั้นประตูเงินประตูทองได้อยู่นะ อิอิ! ซึ่งจำนวนนี้เนี่ยไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ชอบงานปาร์ตี้นะ จริงๆ แล้วคุณอาจจะชอบ แต่ว่าอยู่กับคนเยอะๆ นานๆ ไม่ค่อยได้ ติดจะชอบใช้เวลาอยู่คนเดียวหรืออยู่กับเพื่อนที่สนิทจริงๆ มากกว่า รวมถึงเพื่อนเจ้าสาวที่คุณเลือกก็มักจะเป็นคนใกล้ชิดเช่น พี่สาว น้องสาว หรือเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ นั่นเอง

4. 1-3 คน

เห็นจำนวนเพื่อนเจ้าสาวน้อยอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีเพื่อนสนิทนะ แต่จริงๆ แล้วคุณอาจจะคิดว่า “ยิ่งคนมาก ปัญหาก็ยิ่งเยอะ” (รึเปล่า?) หรือมีเพื่อนสาวเยอะจนเกรงว่าถ้าไม่ได้เลือกใครอาจมีน้อยใจกันได้ สุดท้ายเลยตัดสินใจเลือกคนในครอบครัวอย่างพี่สาว น้องสาว แค่นี้พอ! รวมถึงคุณคงเป็นคนที่ไม่ชอบเที่ยวสถานที่หวือหวา แต่ชอบที่จะไปเดินชมพิพิธภัณฑ์ อาร์ตแกลลอรี่ หรือขอไปดูหนังสวีทวี้ดวิ้วกับคนรักแบบสองต่อสอง แค่นี้ก็มีความสุขมากแล้ว

5. ไม่มีเลย

เพื่อนเจ้าสาว 0 คน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มีเพื่อนคบ หรือไม่คบใครเป็นเพื่อนนะจ๊ะ แต่จริงๆ แล้วงานวิวาห์ของคุณอาจจะเป็นงานเล็กๆ เรียบง่าย ไม่ใหญ่โตหวือหวา เลือกที่จะให้ความสำคัญกับว่าที่สามีข้างกาย และครอบครัว เพื่อนสนิทซะมากกว่า เรียกว่าคนไม่เยอะแต่อบอุ่นและมีคุณค่าทางจิตใจมากกก! ก็ดีเหมือนกันนะคะ จะได้ไม่มีปัญหาเพื่อนเจ้าสาวแย่งซีน

เจ้าสาวทั้งหลายอ่านแล้วรู้สึกว่ามันใช่เลย โป๊ะเชะกับตัวเองกันบ้างไหมคะ ตรงหรือไม่ตรงก็คอมเมนท์บอกกันได้ข้างล่างนี้เลยจ้า ส่วนแก๊งไหนที่สรุปจำนวนคนลงตัวแล้วก็มาต่อกันเรื่อง >>> 5 สไตล์ชุดเพื่อนเจ้าสาวที่สวยได้ทั้งงานกลางวันและงานยามค่ำคืน <<< คลิกเลย!

ข้อมูลจาก : www.brides.com
ภาพ : nouba.com.au

รวม 8 ร้านเช่าเต็นท์ ที่บ่าวสาวจัดงานกลางแจ้งควรดูไว้

บ่าวสาวที่คิดจะจัดงานกลางแจ้ง คงต้องหา ร้านเช่าเต็นท์ เผื่อเอาไว้บ้าง อย่ามั่นใจกับอากาศของบ้านเรามากเกินไป เพราะว่าอากาศบ้านเรานั้นคงต้องยอมรับอย่างนึงว่า ช่างแปรปรวนซะเหลือเกิน คงจะไม่ดีแน่ๆ ถ้าแขกที่มาร่วมงาน ต้องตากแดดตัวไหม้เกรียมหรือต้องมาคอยวิ่งหลบฝน ถ้าไม่เตรียมพร้อมเอาไว้งานอาจจะกร่อยได้ง่ายๆ

ร้านเช่าเต็นท์ ที่แพรว wedding คัดมาให้ มีร้านอะไรบ้างมาดูกันเลย

1. วิคเตอร์ เต็นท์ เซอร์วิส

บริการให้เช่าอุปกรณ์จัดงานกว่า 100 รายการ มานานกว่า 7 ปี อุปกรณ์เน้นขาวสะอาด มีให้เลือกหลากหลายนอกจากเต็นท์แล้วยังมี ชุดโซฟา ชุดโต๊ะกลม เก้าอี้ พัดลม เวที พรม จอภาพ และอื่นๆอีกมากมาย

ร้านเช่าเต๊นท์

www.victor-services.com

Facebook : victorservice

Line ID : @victortent

Instragram : @victor_services

2. Bloomlives

บริการอุปกรณ์จัดงาน และประดับตกแต่งสถานที่ ประดับผ้า ดอกไม้ โต๊ะเก้าอี้ เวที บูธ รับตกแต่งสถานที่งานแต่งงาน งานพิธี  มีให้เลือกทั้งเต็นท์ติดแอร์และเต็นท์กลางแจ้ง  สามารถโทรปรึกษาได้ตลอด24ชั่วโมง

ร้านเช่าเต็นท์

ร้านเช่าเต็นท์

www.air-tent-rent.com

Facebook : bloomlives

Mobile : 09-0240-0216, 09-9451-6344

Tel. :  0-2378-0918, 0-2731-1726

3. Goodlooking

ให้เช่า เต็นท์และอุปกรณ์จัดงาน โครงสร้างเต็นท์แข็งแรง ทนทาน สวยงาม มีให้เลือกหลายขนาด หลายรูปแบบ จัดส่งตรงถึงหน้างาน แบบ DELIVERY

ร้านเช่าเต็นท์

goodlooking.co.th

Facebook : GoodlookingTent

Line : @good_looking

Mobile : 09-2716-6699

4. ส.สุวรรณ ผ้าใบ

ส.สุวรรณ ผ้าใบ ให้บริการ เต็นท์เช่า และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เต็นท์ครบวงจร วัสดุที่ใช้ประกอบและติดตั้งทุกชิ้นมีคุณภาพสูง ทนทานสวยงาม และประณีต โดยช่างผู้มีประสบการณ์  มีให้เลือกมากมายทั้งแบบสำเร็จรูปและตามสั่ง เช่น เต็นท์ทรงโค้ง เต็นท์ทรงปิระมิด เต็นท์ทรงพลับพลา เต็นท์ติดแอร์ ฯลฯ มีการจัดส่งทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล จังหวัดใกล้เคียง และภาคตะวันออก

ร้านเช่าเต็นท์

เต็นท์ให้เช่า.com

Facebook : tentsorsuwan

Mobile : 08-6827-9367, 08-3905-5308

อาหารไทยสำหรับเจ้าสาวที่กำลัง ไดเอ็ท กินยังไงก็ไม่อ้วนแถมเปี่ยมด้วยประโยชน์

ว่าที่เจ้าสาวที่กำลัง ไดเอ็ท เตรียมหุ่นสวยในวันแต่งงาน คุณมาถูกที่แล้วค่ะ เพราะท่ามกลางกระแสนิยมอาหารออร์แกนิคส์จากเมืองนอกที่มีวัตถุดิบราคาแพงทั้งหลาย เราอยากจะกระซิบบอกเหล่าคุณว่าที่เจ้าสาว ว่าแท้ที่จริงแล้วไม่ต้องไปหาที่ไหนอื่นไกล อาหารไทยบ้านเรามีหลากหลายเมนูที่นอกจากจะเปี่ยมด้วยคุณค่าจากสมุนไพรไทยหลากชนิด ยังไม่ทำให้อ้วนเพราะให้พลังงานไม่สูง และที่สำคัญราคาไม่แพงแถมหากินง่าย ทำกินเองที่บ้านก็ยังได้ ของไทยของเรานี่ดีจริงๆค่ะ ^^  ว่าแล้วมาดูกันเลยค่ะว่าอาหารไทยอะไรบ้างที่จะช่วยให้หุ่นคุณว่าที่เจ้าสาวลีนสวยในวันวิวาห์

อาหารไทย ไดเอ็ท
photo from: eatingthaifood.com

น้ำพริก

สมุนไพรกลุ่มเผ็ดร้อนในน้ำพริก ไม่ว่าจะเป็น ข่า ตะไคร้ หอมแดง และพริก ต่างก็เปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดเชื้อโรคในทางเดินอาหาร กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต แนะนำให้ทานคู่กับผักสดเป็นหลัก ทานข้าวไม่เยอะ เป็นอาหารไดเอ็ทให้พลังงานน้อยแถมอร่อยอีกด้วย

แกงเลียง

มีงานวิจัยจาก สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบว่ามุนไพรและส่วนประกอบในแกงเลียง ไม่ว่าจะเป็นกระชาย หอมแดง กะปิ พริกไทย ฟักทอง บวบ ตำลึง หรือ ใบแมงลัก เมื่อผสมผสานกันแล้วสามารถลดการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ นอกจากนั้นส่วนผสมเหล่านี้ยังให้พลังงานต่ำ ซดน้ำซุปร้อนๆ คล่องคอดีงาม ทั้งอร่อยและไม่อ้วนด้วยค่ะ

แกงป่า

อีกหนึ่งแกงไทยที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งเช่นเดียวกับแกงเลียง ตะไคร้และข่าในแกงป่ายังมีฤทธิ์ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ทานคู่กับขนมจีนอร่อยเว่อร์ (พูดแล้วเราก็หิวเลยค่ะ อิอิ) นอกจากนั้นขนมจีนยังเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานไม่สูง คือประมาณ 80 แคลอรีต่อ 1จับเท่านั้นเอง แต่เราแอบเตือนว่าพยายามเลือกขนมจีนเส้นสดที่ไม่ใส่สารกันบูดนะคะ

อาหารไทย ไดเอ็ท
photo from: eatingthaifood.com

แกงส้ม

ผักและสมุนไพรต่างๆ ในแกงส้ม ก็มีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งอีกเช่นกันค่ะ นอกจากนั้นแล้ว ผักต่างๆที่นิยมใส่ในแกงส้ม อย่างผักบุ้งไทย มีสารแคโรทีนอยด์ และฟลาโวนอยด์ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ให้ผิวพรรณเราดูอ่อนเยาว์ด้วยนะ

ต้มยำ

พริก ที่เป็นส่วนผสมสำคัญในต้มยำ ช่วยบรรเทาความดันโลหิตและต้านอนุมูลอิสระ ส่วนประกอบอื่นๆ อย่างใบมะกรูดก็ยังช่วยแก้อาการจุดเสียดแน่นท้องและแก้ไอได้ด้วยค่ะ เราแนะนำว่าเจ้าสาวที่กำลังไดเอ็ทควรเลือกทานต้มยำชนิดน้ำใสที่ไม่ใส่กะทิหรือนมข้นจืดนะคะ

น้ำตก / ลาบ

ผักชีและใบสะระแหน่ในน้ำตกหรือลาบ อาหารอีสานสุดโปรดของหลายๆคน ช่วยดูดซับแก๊สในช่องท้อง แก้อาการท้องอืดได้ดี ผักชียังมีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ส่วนหอมแดงช่วยป้องกันหวัดได้ค่ะ แต่เราแนะนำให้เลือกลาบที่ให้พลังงานไม่สูงมาก อย่างลาบไก่ หรือลาบหมูไม่ติดมัน จะดีกว่าลาบหมูติดมันเยอะๆหรือลาบวุ้นเส้นที่เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตพลังงานสูงค่ะ

อาหารไทย ไดเอ็ท
photo from: eatingthaifood.com

และสุดท้าย เราอยากฝากว่าทานอาหารไทยที่มีประโยชน์เหล่านี้แล้ว ให้ระวังเรื่องการใส่โซเดียม หรือผงชูรสมากไปด้วยนะคะ ทางที่ดีถ้าทำทานเองที่บ้านได้จะช่วยให้เราอุ่นใจเรื่องส่วนประกอบที่สะอาดและปลอดภัยได้ค่ะ และอีกอย่างหนึ่งคืออย่าลืมออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์หุ่นสวยควบคู่กันไปด้วยนะคะ

ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก thaihealth.or.th, pharmacy.mahidol.ac.th, medthai.com

ขอขอบพระคุณภาพจาก eatingthaifood.com

อัพเดท แบบชุดแต่งงาน คอลเล็กชั่นใหม่ Fall Bridal จากแบรนด์ H&M

H&M แบรนด์ฟาสต์แฟชั่นเอาใจว่าที่เจ้าสาวกับ แบบชุดแต่งงาน ในคอลเล็กชั่น Fall Bridal ที่งานนี้มาพร้อมราคาที่เจ้าสาวทุกคนจับต้องได้ แถมยังมีแบบชุดแต่งงานให้เลือกหลายหลายตั้งแต่ ชุดแต่งงานลูกไม้ไปจนถึงชุดแต่งงานเรียบเนี้ยบด้วยคัตติ้งสุดทันสมัย ที่สำคัญยังออกแบบมาให้เหมาะกับเจ้าสาวทุกบุคลิกอีกด้วย

คอลเล็กชั่นนี้ดีไซน์ออกมาในกลิ่นอายสไตล์วินเทจ โดดเด่นด้วยผ้าลูกไม้ ผ้าทูลล์ และการประดับเลื่อมลงบนตัวชุด พร้อมรูปทรงชุดที่เรียบง่ายแต่ดูทันสมัยอย่าง ชุดแต่งงานสายเดี่ยว หรือชุดแต่งงานแบบสองชิ้น ซึ่งคอลเล็กชั่นนี้เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่ไม่เป็นทางการมากนัก เหมาะมากที่จะสอยมาใส่ในวันสำคัญสุดๆ ยิ่งถ้าหากเจ้าสาวกำลังอยากประหยัดงบด้วยล่ะก็บอกเลยว่าเหมาะมากๆ

ราคา $299 หรือราวๆ 9,000 บาท

ราคา $349 หรือราว 10,000 บาท

ราคา $249 หรือราว 7,500 บาท

ราคา $149 หรือราว 4,500 บาท

ราคา $149 หรือราว 4,500 บาท

เสื้อครอปผ้าลูกไม้ราคา $69.99 หรือราว 2,000 บาท

นอกจากนี้ H&M ยังมีชุดเดรสสวยๆ ออกมาเอาใจแก๊งเพื่อนเจ้าสาว หรือสาวๆ ที่กำลังหาชุดใส่ไปงานในฐานะแขก ก็เรียกได้ว่าสวยรอดหมด เพราะ H&M จัดมาให้ในธีมสี Jewel สุดหรู พร้อมรูปแบบชุดที่มีความหลากหลายเหมาะสำหรับสาวๆ ทุกแบบ

ราคา $99 หรือราว 3,000 บาท

ราคา $79.99 หรือราว 2,400 บาท

ราคา $69.99 หรือราว 2,000 บาท

ราคา $34.99 หรือราว 1,000 บาท

เรียกได้ว่างานนี้เจ้าสาวและแก๊งเพื่อนเจ้าสาวสามารถควงแขนยกแก๊งกันไปช้อปชุดด้วยกันได้เลย

ดูแบบชุดแต่งงานเพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

cr. Brides.com

เตรียมตัวก่อนจองห้องจัดเลี้ยงตามนี้ รับรองไม่มีความนกแน่นอน

ตามมาส่องเทคนิคการ จองห้องจัดเลี้ยง อย่างไรไม่ให้พลาดได้ที่นี่

ในการเตรียมงานแต่ง อันดับแรกที่บ่าวสาวต้องทำคือการหาสถานที่จัดเลี้ยงที่เหมาะกับงานแต่งงานของบ่าวสาว ซึ่งแน่นอนว่าบางคู่อาจจะมีสถานที่ในใจกันแล้ว แต่สถานที่ในใจกับความเป็นจริงที่จะจัดได้นั้น เหมือนกันหรือเปล่า? แพรว wedding เลยจะมาขอสะกิดสติว่าที่บ่าวสาวกันสักนิดก่อนคิดจะ จองห้องจัดเลี้ยง ว่าควรจะเลือกที่ไหน และต้อคำนึงถึงสิ่งใดและปัจจัยอะไรบ้างที่จะทำให้สถานที่นั้นเป็นสถานที่แต่งงานสุดเพอร์เฟกต์สำหรับคุณทั้งคู่

– ก่อนอื่นต้องหาวันหรือดูฤกษ์แต่งงานให้พร้อม ถ้าเป็นไปได้ควรจะมีวันสำรองไว้ เพราะถ้าเป็นวันที่ฤกษ์ดีมากๆ อาจมีหลายคู่ที่แต่งในวันนั้น ซึ่งสถานที่จัดเลี้ยงบางแห่งจึงอาจเต็มได้

– เมื่อได้ฤกษ์มาแล้วบ่าวสาวควรจะมีสถานที่แต่งงานในใจก่อนสัก 3-4 แห่ง ซึ่งควรเป็นสถานที่ที่บ่าวสาวชอบ อยากแต่งงานที่นี่ หลังจากนั้นให้โทร. สอบถามกับทางโรงแรมว่า ในวันนั้นห้องเต็มหรือไม่หรือเหลือห้องแบบใดบ้าง และทำการนัดหมายเพื่อเข้าไปดูสถานที่ก่อน ไม่ควรวอร์คอินเข้าไปเพราะเซลล์อาจจะไม่ว่างหรือไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการพาไปดูห้องได้ เนื่องจากอาจมีการจัดเลี้ยงอยู่ ซึ่งนอกจากจะเสียความรู้สึกแล้วยังเสียเวลาด้วย

– ควรเริ่มวางโครงร่างคร่าวๆ ก่อนว่าอยากจัดงานเป็นรูปแบบไหน เช่น งานเลี้ยงค็อกเทล บุฟเฟต์ โต๊ะจีน ซิตดาวน์ดินเนอร์ อินดอร์หรือเอ้าท์ดอร์

– นับจำนวนแขกทั้งสองฝ่ายคร่าวๆ แล้วบวกเพิ่มเข้าไปอีก 10-20 เปอร์เซ็นต์ล่วงหน้ากันตกหล่น และต้องสอบถามว่าห้องนั้นๆ สามารถรองรับแขกได้สูงสุดเท่าไหร่ เพียงพอกับจำนวนการ์ดเชิญหรือไม่

– คำนวณงบประมาณ ที่ต้องใช้ในการจัดงานคร่าวๆ เท่าที่พอจะเป็นไปได้

– เริ่มลิสต์รายชื่อโรงแรม โดยดูที่ทำเลก่อนว่าอยากได้เป็นโซนในเมืองที่มีทางเลือกในการเดินทางในการเดินทางมาได้หลายวิธี เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน หรือชอบทำเลริมน้ำเพื่อให้ได้บรรยากาศสุดฟิน จากนั้นจึงค่อยๆ เริ่มตัดตัวเลือกว่า ขนาดห้องจัดเลี้ยงแต่ละแห่งนั้นที่ใดพอจะเป็นไปได้ แล้วจึงคอยโทร. ไปเช็กวันว่างและนัดดูสถานที่พร้อมคุยรายละเอียดกับเซลล์ และอย่าลืมเช็กเรื่องจำนวนที่จอดรถกันด้วยนะจ๊ะ

– หลังจากที่นัดดูห้องพร้อมคุยรายละเอียดกับเซลล์โรงแรมเรียบร้อยแล้ว จึงตกลงทำสัญญาและวางเงินมัดจำก้อนแรก โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ของค่าใช้จ่ายทั้งงาน จากนั้นจะมีระยะเวลาในการชำระค่ามัดจำก้อนต่อไปตามนโยบายของสถานที่นั้นๆ

จองห้องจัดเลี้ยง

ปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึง

– เรื่องทางเข้าออกของสถานที่ นับตั้งแต่ทางเข้าไปจนถึงห้องจัดเลี้ยงว่ามีความสะดวกมากน้อยเพียงใด ที่จอดรถเพียงพอหรือไม่ หรือมีทางเลือกอื่น เช่น โรงแรมอาจมีทางเชื่อมจากสถานีรถไฟฟ้าเข้าถึงโรงแรมเลย ก็ยิ่งเป็นการอำนวยความสะดวกแก่แขกที่มาร่วมงาน

– ลักษณะการตกแต่งของห้องจัดเลี้ยงเป็นแบบที่เราชอบหรือไม่ เช่น ดูโปร่งโล่งหรือมีเสาบังหรือเปล่า สามารถมองเห็นบ่าวสาวได้จากทุกมุมของห้องหรือไม่ หรือถ้าเป็นห้องที่ชัดเจนในเรื่องคอนเซปต์ของตัวห้อง ให้พิจารณาว่าขนาดของห้องสามารถรองรับแขกได้เต็มที่เท่าไหร่

– สถานที่นั้นๆ มีอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ที่จะต้องใช้ในช่วงพิธีการให้หรือไม่ เช่น ไฟฟอลโลว์ จอแอลซีดี โปรเจ็กเตอร์ เครื่องเล่นดีวีดี ไมโครโฟน ฯลฯ เผื่อในกรณที่ไม่มีให้บริการ บ่าวสาวจะได้หาอุปกรณ์มาเสริมให้ครบครัน

– อุปกรณ์ที่ใช้ในการตกแต่งและจัดสถานที่ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ผ้าคลุมโต๊ะ มีสีหรือรูปแบบอะไรบ้าง เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องการจัดและตกแต่งสถานที่เพิ่มเติม เพื่อที่บ่าวสาวจะได้วางแผนล่วงหน้าถ้าต้องหาบริการจากข้างนอกมาเสริมในกรณีที่ไม่มีเตรียมไว้ให้

ถ้าเลือกสถานที่กันได้แล้ว ก็ขอเชิญไปที่สเดชั่นต่อไปตามนี้เลย 5 สไตล์การจัดเลี้ยงงานแต่ง เลือกแบบไหนให้งานแต่งรอด?!

ภาพ : longwoodvenues.com, pexels.com

เคล็บลับจัดงานแต่งให้หรูไม่แคร์งบ มีงบหลักแสนแต่ได้งานแต่งระดับล้าน!

เคล็บลับจัดงานแต่งให้หรูไม่แคร์งบ มีงบหลักแสนแต่ได้งานแต่งระดับล้าน!

ทันทีที่คู่รักตัดสินใจจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคงหนีไม้พ้น จะต้องใช้เงินเท่าไหร่เนี่ย?’ และแน่นอนว่าเหล่าว่าที่ทั้งหลายก็ย่อมมีงานแต่งในฝัน และอยากที่จะให้งานออกมาดูหรูหราเพอร์เฟกต์เป็นที่ประทับใจ จนแขกต้องเอ่ยปากชม แพรว wedding เลยมีเคล็ดลับแบบไม่แคร์งบแต่จบที่งานแต่งสุดหรูมาฝาก จะทำตามยากง่ายแค่ไหน ไปดู เคล็บลับจัดงานแต่ง ที่เรานำมาฝากกันเลย

ใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่ง

บ่าวสาวควรมีส่วนตัดสินใจตั้งแต่เรื่องเลือกดอกไม้ไปจนถึงอาหารที่เสิร์ฟ เพราะหากเดินเข้าไปคุยกับเซลล์โรงแรม แน่นอนว่าสิ่งที่บ่าวสาวจะได้ก็อาจจะเป็นแพตเทิร์นเดียวกันกับงานแต่งงานอื่นๆ ที่เคยจัดมาแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้งานแต่งงานของบ่าวสาวดูแตกต่างคือการคัดสรรสิ่งที่ดีสุดมาใส่ไว้ในงาน ซึ่งงานนี้บ่าวสาวอาจจะต้องใช้ความพยายามในการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเองให้เจอ แต่ถ้าหากบ่าวสาวเลือกใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ เราขอแนะนำให้คุณคุยกับแพลนเนอร์อย่างเปิดใจเพื่อให้แพลนเนอร์เข้าถึงและเข้าใจในตัวตน และความต้องการของบ่าวสาวให้มากที่สุด

สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับแขก

การทำให้แขกรู้สึกว่าเขาได้รับการต้อนรับดูแลเป็นอย่างดีและรู้สึกสนุกร่วมไปกับงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดงานให้ดูหรูแบบไม่ต้องใช้งบใดๆ เพราะใช้ใจล้วนๆ และเป็นข้อที่ทำง่ายที่สุดไม่ว่าคุณจะมีงบเท่าไหร่ โดยการเน้นการลงรายละเอียดและการบริหารจัดการที่ลื่นไหล ซึ่งบ่าวสาวอาจจะลองสมมติให้ตัวเองเป็นแขกที่จะมาร่วมงาน แล้วคิดว่าสิ่งไหนที่คุณจะได้เห็นหรืออยากเห็น หรืออะไรและตรงไหนที่คุณอยากจะมีส่วนร่วมด้วยมากที่สุด จะช่วยให้บ่าวสาวคิดได้ว่าคุณอยากให้งานแต่งงานของตัวเองนั้นออกมาเป็นแบบไหนในรูปแบบใด จากนั้นก็ลองคิดต่อไปอีกนิดว่าจุดไหนที่คุณจะสามารถสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้แขกได้อีกบ้าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งนั้นต้องไม่ใช้สิ่งที่ทำแล้วจะทำให้บ่าวสาวต้องเสียเวลาหรือเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแปะโน้ตทักทายเล็กๆ หรืออะไรก็ตามที่คุณสามารถเตรียมการล่วงหน้าไว้ได้อย่างไม่หนักหนาหรือเกินกำลังจนเกินไป

เคล็ดลับจัดงานแต่ง

หรือหากบ่าวสาวเลือกจัดงานแบบซิตดาวน์ดินเนอร์ หรือจัดโต๊ะอาหารแบบที่ระบุเลขที่นั่ง ก็อาจจะจัดให้มี seating chart และมีป้ายชื่อให้ชัดเจน แทนที่จะให้แขกเดินงงๆ หาโต๊ะเองกันให้วุ่นวาย หรืออาจจะจัดให้เพื่อนบ่าวสาวเป็นคนเชิญแขกไปนั่งให้ถึงโต๊ะ นี่ก็ถือเป็นเพียงดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นสิ่งที่งานแต่งสไตล์ลักชัวรี่ต้องการที่สุด

เน้นความรู้สึกร่วมแบบ 4D

เราอยากให้บ่าวสาวมองงานแต่งงานเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ดูแลแขกให้ได้แฮปปี้กันถ้วนหน้า และแน่นอนว่าต้องครบถ้วนทุกสัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เพราะการจัดงานก็เหมือนโปรดักชั่นอย่างหนึ่ง ที่บ่าวสาวต้องให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ เพราะทุกอย่างล้วนมีส่วนสำคัญต่องาน ไม่ว่าจะเป็น อาหารหรือความเอนเตอร์เทน ซึ่งแต่ละอย่างก็จะต้องทำหน้าที่สนองทุกความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปด้วย เช่น อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ อาฟเตอร์ปาร์ตี้สนุก อย่างนี้เป็นต้น

จัดงานแต่งงาน

ทำเช็กลิสต์งานแต่งป้องกันการตกหล่น

การสร้างไทม์ไลน์และเช็กลิสต์จะช่วยบ่าวสาวได้มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะก๊อปจากอินเทอร์เน็ตมาใช้แบบเป๊ะๆ เลยนะจ๊ะ แต่บ่าวสาวควรจะนำมาปรับให้เข้ากับงานตัวเองด้วย เพราะถ้าไปหาเช็กลิสต์แบบ 12 เดือนมาดู แต่กลับมีเวลาเตรียมงานจริงๆ แค่ 4 เดือน โอโห คราวนี้งานเข้าแน่ๆ เพราะจากที่มีเวลาเตรียมตัวน้อยอยู่แล้ว ยังต้องมางงกับตารางอีกว่าจะเริ่มทำอะไรตรงไหนก่อนดี เพราะฉะนั้นการทำเช็กลิสต์ขึ้นมาเพื่องานแต่งของคุณเองโดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงเวลาที่คุณมี จำนวนแขก และสิ่งที่บ่าวสาวต้องการ หรือสิ่งที่บ่าวสาวอยากให้มีหรือเกิดขึ้นภายในงาน ก็จะทำให้คุณทราบได้ทันทีว่าควรจะต้องทำอะไรในเดือนไหนล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน

ตามเทรนด์ได้ แต่ต้องเป็นตัวเองด้วย

ก่อนอื่นบ่าวสาวต้องเข้าใจก่อนว่างานแต่งงานไม่เหมือนงานแฟชั่นบนรันเวย์นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นอย่าเอาเทรนด์มาใส่ในงานแต่งของงคุณจนลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าบ่าวสาวจะเลือกจัดงานแต่งตามเทรนด์ไม่ได้น้า เพียงแค่จะต้องคำนึงว่าเทรนด์ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนั้น เป็นสิ่งที่หากคุณทั้งคู่อยากจะย้อนกลับมาดูอีกครั้งหรือไม่เมื่อเวลาผ่านไปสักสิบหรือยี่สิบปี และเมื่อได้ย้อนกลับมาดูอีกครั้งคุณจะเกิดความรู้สึกแบบไหนระหว่างมีความสุข หรือรู้สึกพลาดว่าไม่น่าจัดแบบนั้นเลย หรือคุณกล้าที่จะนำมาอวดให้ลูกให้หลานดูหรือเปล่า และถ้าพวกเขาถามว่าคุณได้แรงบันดาลใจในการจัดงานมาจากไหน คุณก็คงไม่อยากบอกว่าก๊อปมาจากหนังเรื่องโปรดหรอกจริงไหม แต่ถ้าเทรนด์ใหม่มันใช่สำหรับคุณทั้งคู่แล้วล่ะก็ ถ้าจะจัดตามนั้นเราก็ไม่ขัดนะคะ

ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วยิ้มให้สุดในวันแต่งงาน

สิ่งที่บ่าวสาวควรจะทำมากที่สุดในวันแต่งงานก็คือ การควบคุมสติและสีหน้าให้ดี เพราะไม่ว่างานจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหากเกิดปัญหาแล้วบ่าวสาวคุมสีหน้าไม่ได้ บางทีก็อาจจะทำงานกร่อยเอาได้ง่ายๆ เหมือนกันนะคะ เพราะถ้าหากบ่าวสาวกังวลจนเริ่มนั่งไม่ติด พาลอาการหงุดหงิดขึ้นหน้าด้วยแล้วล่ะก็ แขกที่มาร่วมงานอาจจะเริ่มสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนอาจทำให้แขกพาลมองหาสิ่งผิดปกติแทนที่จะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศภายในงานแต่งงาน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ่าวสาวก็ควรที่จะยิ้มเข้าไว้ แล้วปล่อยใจให้มีความสุขกับวันสำคัญในชีวิตก็พอ

จำไว้ว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง!

เชื่อหรือไม่ว่า งานแต่งที่ใช้เงินเป็นล้านๆ ก็ออกมาดีไม่ได้ถ้าบรรยากาศในงานไม่ไปด้วยกัน และแน่นอนว่าสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ก็คือบรรยากาศแห่งความสุขที่แขกในงานจะช่วยส่งต่อให้ตัวงานสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพราะงานแต่งงานที่ดีที่สุดไม่ใช่งานที่ใช้เงินเยอะที่สุด แต่เป็นงานที่บ่าวสาวมีความสุขและมีรอยยิ้มอิ่มใจตลอดเวลาต่างหาก

และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับจัดงานแต่งง่ายๆ ที่บ่าวสาวสามารถทำตามได้แบบไม่เหนือบ่ากว่าแรง จัดงานแต่งให้ดูหรูแบบไม่แคร์งบแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะแคร์ธรรมชาติด้วยนะจ๊ะกับ 5 เคล็ดลับจัดงานแต่งงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ภาพ : pexels.com, pinterest.com

รู้ไว้ก่อนเลือก…กับรายละเอียดที่บ่าวสาวต้องใส่ใจใน วิดีโองานแต่ง

วิดีโองานแต่ง อีกหนึ่งการบันทึกความทรงจำที่บ่าวสาวต้องใส่ใจ

ปัจจุบันการบันทึกแค่ภาพนิ่งในวันสำคัญอาจไม่เพียงพอสำหรับว่าที่บ่าวสาวบางคู่ เพราะฉะนั้น วิดีโองานแต่ง หรือพรีเซ้นต์เทชั่นจึงเป็นอีกหนึ่งอิลิเม้นต์สำคัญที่บ่าวสาวหลายคู่หันมาให้ความสำคัญและมักเลือกใช้ในงานแต่งงานของตัวเอง แต่ก่อนที่จะจ้างทีมช่างวิดีโอ หรือทำพรีเซ้นต์เทชั่นงานแต่ง ว่าที่บ่าวสาวทั้งหลายจงมาศึกษาหน่วยนี้ในงานแต่งกันให้ดีก่อนดีกว่าว่า ทีมช่างวิดีโอนั้นเขาทำงานกันอย่างไร และว่าที่บ่าวสาวต้องเตรียมอะไรบ้างหากจะทำพรีเซ้นต์เทชั่นงานแต่ง

ทีมงานบันทึกวิดีโอในงานแต่งงาน แบ่งออกเป็น

  • ช่างหลัก : ทำหน้าที่เก็บเนื้องานหรือบรรยากาศหลักๆ ทั้งหมด คอยเก็บภาพแขกที่เข้ามาร่วมงานให้ได้มากที่สุด ไม่เน้นภาพสวยเท่าใดนัก เพราะต้องการปริมาณภาพเป็นหลัก
  • ช่างเก็บภาพสวย : หรือเรียกว่า Cinematographer จะเก็บแต่ภาพมุมมองสวยๆ องค์ประกอบภาพหรือจังหวะดีๆ บวกกับการสร้างเรื่องราวให้ได้ ซึ่งช่างภาพในลักษณะนี้บางครั้งจำเป็นต้องมีหลายคนเพื่อให้ได้ภาพหลายมุมมอง ต้องใช้สมาธิในการถ่ายภาพสูงและต้องใช้อุปกรณ์เสริมต่างๆ อีกเพียบ เช่น ดอลลี่ เครน กล้องสเตดี้ เป็นต้น เพื่อให้ภาพออกมาดูสวยและมีคุณภาพที่สุด
  • ช่างภาพขึ้นจอ : หน้าที่หลักคือนำภาพจากหน้าแบ็กดร็อปขึ้นขอโปรเจกเตอร์ให้แขกในงานได้รับชมกันแบบสดๆ ตั้งแต่หน้างานไปจนถึงช่วงพิธีการด้านใน เป็นการใช้ภาพจากหลายมุมกล้อง ตัดสลับกันในเวลาเดียวกัน โดยมีการควบคุมจากผู้ที่คุมสวิตช์อีกที จะทำให้ได้ภาพกิจกรรมในมุมต่างๆ แบบสดๆ ตัดสลับได้

วิดีโองานแต่ง

เทคนิคการจะบันทึกภาพให้ได้ดีต้องดูสถานที่จัดงานเป็นหลัก ดังนี้

  • ห้องที่มีขนาดกว้างหรือใหญ่ ฉากหลังจะรับภาพได้ไกล ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น สามารถทำงานได้ด้วยเลนส์ระยะไกล ทำให้ได้ภาพที่เป็นธรรมชาติของคู่บ่าวสาว
  • ห้องขนาดเล็ก ทำให้ระหว่างทำงานอาจต้องกระทบกระแทกกับแขกบ้าง เพราะบางครั้งภาพที่เกิดขึ้นนั้นต้องอาศัยจังหวะที่เร็วเพื่อเก็บภาพ และแขกในงานอาจมีจำนวนมาก จึงทำให้พื้นที่ในการทำงานของช่างภาพลดลงไป

รายละเอียดที่บ่าวสาวควรบอกกับทีมบันทึกวิดีโอ

  • รูปแบบของงานแต่งงาน เช่น ค็อกเทล บุฟเฟ่ต์ โต๊ะจีน คอนเซปต์ สไตล์ของภาพที่อยากได้และธีมงาน แบบแปลนของห้องที่บอกว่าสิ่งใดอยู่ตรงไหน เพื่อให้รับทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนไหน ที่ไหน
  • ซีเควนซ์พิเศษ บางงานอาจมีลำดับพิธีที่แตกต่างกันออกไป เช่น เซอร์ไพรส์จากเพื่อนที่ออกมาร้องเพลงให้เกิดขึ้นตอนไหน นักร้อง/นักแสดงมาช่วงเวลาใด หรือแม้กระทั่งการเปิดตัวบ่าวสาวเดินเข้างานจะเริ่มจากที่ไหน มาเจอกันตรงไหน หรือการโยนดอกไม้บางงานไม่โยนบูเกต์ แต่เจ้าสาวจะเดินนำไปให้เพื่อนเลย ฯลฯ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ควรบอกให้ทีมบันทึกภาพอัดวิดีโอทราบ เพื่อจะได้วางแผนการทำงานได้ว่าใครจะต้องรอดักมุมไหน ใช้เลนส์หรืออุปกรณ์ชนิดใดในกรณีที่มีความพิเศษหรือเฉพาะของช่วงนั้นๆ

การทำพรีเซ้นต์เทชั่นให้ปัง

–  การทำพรีเซ้นต์เทชั่นงานแต่งงานไม่มีรูปแบบที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับจินตนาการของคู่บ่าวสาวว่ามีความสร้างสรรค์มากน้อยเพียงใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้แขกที่มาร่วมงานเกิดความประทับใจและได้รู้จักบ่าวสาวมากขึ้น

– วิดีโอพรีเซ้นต์เทชั่นมีมากมายหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การเรียงร้อยเรื่องราวด้วยภาพถ่าย การ์ตูนเอนิเมชั่น หรือภาพยนตร์สั้นที่บอกเล่าเรื่องราว แต่ความยาวต้องไม่เกิน 8 นาทีนะจ๊ะ เพราะหากนานเกินไปแขกจะเบื่อแล้วหันไปสนใจอาหารแทนพรีเซ้นต์งานแต่งงานของบ่าวสาวเอาได้

– ควรบอกถึงความต้องการของตนเองว่าอยากให้ทีมงานสร้างสรรค์พรีเซ้นท์เทชั่นให้ออกมาสไตล์ไหน ซึ่งใช้หลักการเดียวกันกับการถ่ายภาพนิ่งหรือพรีเวดดิ้งนั่นแหละคะ

– การถ่ายทำพรีเซ้นต์เทชั่นนอกสถานที่ คู่บ่าวสาวต้องศึกษาทำความเข้าใจกับสถานที่นั้นๆ เพื่อที่ช่างทำพรีเซ้นต์เทชั่นจะได้เตรียมอุปกรณ์และแผนสำรองต่างๆ ให้พร้อม เพราะการทำงานนอกสถานที่นั้น เรื่องไม่คาดฝันอาจเกิดขึ้นได้เสมอ

– ถ้าบ่าวสาวชอบสถานที่ใดเป็นพิเศษ ควรเป็นสถานที่ที่ใกล้เคียงกับเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่อยากนำเสนอให้แขกได้ชม

คุยกับช่างวิดีโอในงานแต่งอย่างไรให้งานออกมาเป๊ะ ไม่มีพลาด คลิกเลย!!

ภาพ : unsplash.com

ว่าที่เจ้าสาวมาดูวิธี ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน ด้วยอาหารดูแลธาตุเจ้าเรือน จากกูรู

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน ทำได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย ถูกต้องไหมจ๊ะสาวๆ หลายคนต้องที่กำลังดูแลตัวเองให้มีผิวพรรณ และสุขภาพที่ดีเพื่อเตรียมพร้อมเป็นเจ้าสาว แต่ก็อาจจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า ทำไมดูแลตัวเองเท่าไหร่ก็ยังไม่รู้สึกสดชื่น หรือมีผิวพรรณที่ดีขึ้นมาเลย นั่นหมายความว่าเราดูแลตัวเองโดยไม่ถูกหลักนั่นเอง

แพรว wedding ขอพาสาวๆ ที่กำลังเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวมาฟังเคล็ดลับ ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน ด้วยอาหารดูแลธาตุเจ้าเรือนจากอาจารย์อินทร์ชิรา (วชิราภรณ์ ห้าวหาญ) นักพยากรณ์และนักโภชนาการที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในธุรกิจอาหารมาฝาก

สงสัยกันใช่ไหมคะ ว่าธาตุเจ้าเรือนคืออะไร เรามีคำตอบจากอาจารย์ อินทร์ชิรา มาให้ค่ะ

ผู้หญิงทุกคนเกิดมาในร่างกายจะประกอบด้วยธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ  แต่ธาตุที่แสดงออกมาเป็นลักษณะเด่นประจำตัวนั้นเรียกว่า “ธาตุเจ้าเรือน” ซึ่งเรียกตามหลักโหราศาสตร์ไทย ถูกกำหนดไว้ตามราศีเกิดของแต่ละบุคคล อาจรวมถึงพิจารณาจากบุคลิกลักษณะ อุปนิสัย ทางกายภาพ รวมไปถึงสภาวะจิตใจของแต่ละบุคคลด้วย สาวๆ สามารถเสริมเสน่ห์จากภายในสู่ภายนอกให้ดูเปล่งปลั่ง ด้วยการปรับพลังธาตุตามธาตุเจ้าเรือนด้วยการรับประทานอาหารให้ถูกต้องตามธาตุ ซึ่งทำได้โดยไม่ต้องพึ่งยาหรือวิตามิน ดังนั้นเราจึงต้องพิถีพิถันกับเรื่องการบริโภคให้มากขึ้น และในเฉพาะสาวๆ ที่กำลังเตรียมพร้อมจะเป็นเจ้าสาว สามารถบริโภคอาหารแต่ละชนิดให้เหมาะสมกับตนเอง โดยยึดหลักบริโภคให้ตรงกับธาตุเจ้าเรือนของคุณเอง เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ รวมถึงผิวพรรณที่ดีจากภายในสู่ภายนอก และเพิ่มออร่าให้ตนเองสง่างามยิ่งขึ้นค่ะ

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุเจ้าเรือนตามราศีเกิดสามารถ และวิธีรับประทานอาหารอย่างไรให้บำรุงธาตุเจ้าเรือน สามารถอัพเดตได้ตามนี้เลย

 ธาตุไฟ

เจ้าสาวราศีเมษ  (13 เม.ย.- 13 พ.ค.)
• เป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่อยู่นิ่ง ชอบการผจญภัย ชอบความโดดเด่น ไม่ยอมใคร
• หิวเก่ง กินจุ ขี้ร้อน เหงื่อมาก มีโรคประจำตัวคือ ผิวแพ้ง่าย ผิวแห้ง ริมฝีปากแห้ง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด
• น้ำผักผลไม้ แตงโม พุทธา แอปเปิ้ล ใบเตย เก็กฮวย น้ำมันมะกอกแท้ 100%  นมแพะ
• ผักสด ผักบุ้ง ตำลึง สายบัว มะระ สะเดา หม่อน กระเฉด
• อาหาร เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า แกงจืด แกงส้ม สลัดผักสด เนื้อปลาน้ำจืด

เจ้าสาวราศีสิงห์  (17ส.ค. – 16 ก.ย.)
• ใจร้อน และชอบย้ำคิดย้ำทำ หวังความก้าวหน้าแต่จะไม่กล้าเสี่ยง
• หิวเก่ง กินจุ ขี้ร้อน เหงื่อมาก มีโรคประจำตัวคือผื่นแพ้ และฮอร์เพศหญิงน้อย มดลูกไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด
• น้ำผักผลไม้ แตงโม มันแกว พุทธา แอปเปิ้ล ใบเตย เก็กฮวย น้ำผึ้งแท้100%
• ผักสด ผักบุ้ง ตำลึง สายบัว มะระ สะเดา หม่อน
• อาหาร เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า แกงจืด แกงส้ม สลัดผักสด เนื้อปลาน้ำจืด

เจ้าสาวราศีธนู  (16 ธ.ค. – 15 ม.ค.)
• ทะเยอทะยาน รักตัวเอง พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงในทันที
• หิวเก่ง กินจุ ขี้ร้อน เหงื่อมาก มีโรคประจำตัวคือ ผิวมันเป็นสิวและผื่นแพ้ง่าย
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขม เย็น จืด
• น้ำผักผลไม้ แตงโม มันแกว พุทธา แอปเปิ้ล ใบเตย เก็กฮวย ซารารี่
• ผักสด ผักบุ้ง ตำลึง สายบัว มะระ สะเดา หม่อน
• อาหาร เนื้ออกไก่ ปลาทูน่า แกงจืด แกงส้ม สลัดผักสด เนื้อปลาน้ำจืด

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุดิน

เจ้าสาวราศีพฤษภ  (14 พ.ค. – 13 มิ.ย.)
• เป็นคนเข้มแข็ง หนักแน่น อ่อนนอกแข็งใน มีเสน่ห์
• อ้วนง่าย หิวบ่อย มีโรคประจำตัวคือความดันสูง ภูมิแพ้ ฮอร์โมนเพศหญิงไม่ปกติ ส่งผลถึงมดลูกไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสฝาด มัน และถั่วต่างๆ
• น้ำผักผลไม้ มังคุด ฝรั่ง กระเจี๊ยบ กล้วย สมอ มะยม ลูกเดือย ข้าวโพด นมสด น้ำมันมะพร้าว
• ผักสด ฟักทอง เผือก ถั่ว บวบ ผักโขม
• อาหาร เนื้อแดง ปลาทะเล ผัดสะตอ แกงมะระ แกงเลียง เต้าส่วน วุ้นกระทิ

เจ้าสาวราศีกันย์  (17 ก.ย. – 16 ต.ค.)
• รักอิสระ พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อความมั่นคงแต่ต้องชัดเจน
• อ้วนง่าย หิวบ่อย มีโรคประจำตัวคือความดันสูง ภูมิแพ้ทางระบบการหายใจ  มีกลิ่นตัวหรือกลิ่นปาก
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสฝาด มัน และถั่วต่างๆ
• น้ำผักผลไม้ มังคุด ฝรั่ง กระเจี๊ยบ กล้วย สมอ มะยม ลูกเดือย ข้าวโพด นมสด
• ผักสด ฟักทอง เผือก ถั่ว บวบ ผักโขม ผักหวาน
• อาหาร เนื้อแดง ปลาทะเล ผัดสะตอ แกงมะระ แกงเลียง เต้าส่วน วุ้นกระทิ

เจ้าสาวราศีมังกร  (16 ม.ค. – 12 ก.พ.)
• ขี้น้อยใจ ชอบสอนแนะนำผู้อื่น นิสัยดื้อรั้นแบบเด็ก
• หิวบ่อย มีโรคประจำตัวคือความดันสูง ภูมิแพ้ทางระบบการหายใจ เหนื่อยง่าย
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสฝาด มัน และถั่วต่างๆ
• น้ำผักผลไม้ มังคุด ฝรั่ง กระเจี๊ยบ กล้วย สมอ มะยม ลูกเดือย ข้าวโพด นมสด
• ผักสด ฟักทอง เผือก ถั่ว บวบ ผักโขม
• อาหาร เนื้อแดง ปลาทะเล ผัดสะตอ แกงมะระ แกงเลียง เต้าส่วน วุ้นกระทิ

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุลม

เจ้าสาวราศีมิถุน  (14 มิ.ย. – 14 ก.ค.)
• ไม่ชอบอยู่เฉย ชอบคิดเพ้อฝัน รักสวยรักงาม ตัดสินใจเร็ว
• ผอม ผิวแห้ง หลับง่าย มีโรคประจำตัวคือ ท้องผูก โรคผิวหนัง ปวดตามข้อ เมื่ออ่อนเพลียนัยตาจะเหลืองไม่สดใส
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
• น้ำผักผลไม้ แตงโม แตงไทย เงาะ แก้วมังกร มะละกอ ส้ม น้ำผึ้ง เบอรี่สีม่วง ซารารี่  ขิง
• ผักสด สมุนไพร ขิง ข่า ตะใคร้ กระชาย ขมิ้นชัน สาระแหน่ พริก สาระแหน่
• อาหาร  ปลาแมคเคอเรล ต้มข่า ต้มยำ บัวลอยน้ำขิง เมี่ยงคำ มันเทศต้มขิง

เจ้าสาวราศีตุลย์  (17 ต.ค. – 15 พ.ย.)
• ชอบความสงบสุข รักสวยรักงาม พิถีพิถัน เก็บตัว ไม่ชอบความหวือหวา
• ผอม ผิวแห้ง หลับง่าย มีโรคประจำตัวคือ ท้องผูก โรคผิวหนัง ปวดตามข้อ และระบบประสาท
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
• น้ำผักผลไม้ แตงโม แตงไทย เงาะ แก้วมังกร มะละกอ ส้ม
• ผักสด สมุนไพร ขิง ข่า ตะใคร้ กระชาย ขมิ้นชัน สาระแหน่ พริก
• อาหาร ปลาแมคเคอเรล ต้มข่า ต้มยำ บัวลอยน้ำขิง เมี่ยงคำ มันเทศต้มขิง

เจ้าสาวราศีกุมภ์  (13 ก.พ. – 12 มี.ค.)
• ชอบหาความรู้และมีเหตุผลมาก  แต่เชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไปบางทีกลายเป็นมุทะลุ
• ผอม ผิวแห้ง หลับง่าย มีโรคประจำตัวคือ โรคผิวหนัง และเส้นผมไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน และสมุนไพร
• น้ำผักผลไม้ แตงโม แตงไทย เงาะ แก้วมังกร มะละกอ ส้ม
• ผักสด สมุนไพร ขิง ข่า ตะใคร้ กระชาย ขมิ้นชัน สาระแหน่ พริก
• อาหาร ปลาแมคเคอเรล ต้มข่า ต้มยำ บัวลอยน้ำขิง เมี่ยงคำ มันเทศต้มขิง

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ธาตุน้ำ

เจ้าสาวราศีกรกฎ  (15 ก.ค. – 16 ส.ค.)
• เป็นคนชอบสันโดษ เข้าถึงยาก ความคิดระเอียดและอ่อนโยน
• น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงเร็ว โรคประจำตัวคือ โรคความดัน เล็บมือเล็บท้าวไม่แข็งแรง ผมแห้ง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขมและเปรี้ยว
• น้ำผลไม้ มะนาว ส้ม สัปปะรด มะยม กระท้อน มะขาม กระเจี๊ยบ อะโวคาโด้
• ผักสด ขี้เหล็ก แคแดง ผัดติ้ว  แครอท มะแว้ง ใบยอ  ผักหวาน ผัดบุ้ง
• อาหาร ปลาเนื้อขาว เต้าหู้ ยำผักสดแบบบ้านๆ แกงอ่อม ต้มส้ม ผัดเปรี้ยวหวาน

เจ้าสาวราศีพิจิก  (16 พ.ย. – 15 ธ.ค.)
• เป็นลึกลับ ชอบเก็บตัว เข้าถึงยาก จิตใจอ่อนไหวง่าย
• อ้วนง่าย ชอบกิน โรคประจำตัวคือ โรคความดัน ไขมันสะสมง่าย กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขมและเปรี้ยว
• น้ำผลไม้ มะนาว ส้ม สัปปะรด มะยม กระท้อน มะขาม กระเจี๊ยบ น้ำผึ้งแท้100% โยเกิร์ต
• ผักสด ขี้เหล็ก แคแดง ผัดติ้ว  แครอท มะแว้ง ใบยอ
• อาหาร ปลาเนื้อขาว เต้าหู้ ยำผักสดแบบบ้านๆ แกงอ่อม ต้มส้ม ผัดเปรี้ยวหวาน

เจ้าสาวราศีมีน  (13 มี.ค. – 12 เม.ย.)
• มีโลกส่วนตัวสูง เชื่อในสิ่งเร้นลับ ชอบการแสวงหา
• น้ำหนักเปลี่ยนแปลงง่าย โรคประจำตัวคือ โรคความดัน ไซนัสอักเสบ ลมหายใจมีกลิ่นไม่สดชื่น
• ควรบริโภคอาหารที่มีรสขมและเปรี้ยว
• น้ำผลไม้ มะนาว ส้ม สัปปะรด มะยม กระท้อน มะขาม กระเจี๊ยบ เบอรี่สีแดง
• ผักสด ขี้เหล็ก แคแดง ผัดติ้ว  แครอท มะแว้ง ใบยอ
• อาหาร ปลาเนื้อขาว เต้าหู้ ยำผักสดแบบบ้านๆ แกงอ่อม ต้มส้ม ผัดเปรี้ยวหวาน

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

และสิ่งที่เจ้าสาวที่มีธาตุเจ้าเรือนแตกต่างกัน มีเคล็ดลับเพิ่มเติมให้ คือสามารถรับประทาน น้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติ 100% ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมาก และยังบำรุงสมองและผิวพรรณ ที่สำคัญสามารถใส่ลงไปในเครื่องดื่มและอาหารทุกอย่างได้ด้วย

ว่าที่เจ้าสาวที่อยาก ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน รวมถึงสาวๆ สามารถนำไปใช้ได้เพื่อเตรียมพร้อม ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน รับรองว่าสุขภาพดียิ่งขึ้น รวมไปถึงมีผิวพรรณที่สวยงามตามไปด้วยนะจ๊ะ และถ้าหากอยากให้สุขภาพดีจากสมุนไพรไทยลองไปอ่าน มาฟังคำแนะนำจากเภสัชกรว่า เลือกสมุนไพรบำรุงความงามยังไงให้เจ้าสาวสวยปัง กันดูนะ

ดูแลตัวเองก่อนแต่งงาน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก อ.อินทร์ชิรา (วชิราภรณ์ ห้าวหาญ)
นักพยากรณ์และนักโภชนากร ประสบการณ์มากกว่า 20ปี ในธุรกิจอาหาร

ภาพจาก : Pinterest.com , cheechongruay.smartsme.co.th , CatDumb.com

คัดมาให้แล้ว วิธี ต่อเล็บเจ้าสาว แบบต่างๆ เพิ่มความเรียวยาวให้นิ้วมือเจ้าสาวสวยปัง

เจ้าสาวหลายคนที่กำลังหาวิธี ต่อเล็บเจ้าสาว เพื่อเพิ่มความเรียวยาวให้นิ้วมืออยู่นั้น ไม่ต้องเครียดไปค่ะ เพราะเราคัดการต่อเล็บแบบต่างๆ มาให้แล้ว รับรองว่าสวยนิ้วดูเรียวยาวขึ้นแน่นอน

แล้วสงสัยไหมคะว่า วิธี ต่อเล็บเจ้าสาว มีกี่แบบ แล้วทำไปทำไม?? การต่อเล็บ คือการเพิ่มความยาวให้เล็บ โดยใช้สารเคมีที่มีรูปทรงคล้ายกับเล็บ หรือนำมาปั้น ขึ้นรูปให้เป็นเล็บนั่นเอง การต่อเล็บที่เป็นที่นิยมอยู่ในปัจจุบันคือการต่อเล็บแบบ พลาสติค (PVC) , อะครีลิค และเจล ส่วนความทนทาน ความสวยงาม และราคาก็จะแตกต่างกันออกไปค่ะ

การต่อเล็บมีประโยชน์อย่างไร?? สำหรับสาวๆ ที่หน้าเล็บสั้นนั้นจำเป็นอย่างมาก เพราะการต่อเล็บจะช่วยเพิ่มความยาวให้กับนิ้วมือได้ด้วย ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า วิธีต่อเล็บแต่ล่ะแบบเป็นเขาทำกันยังไงบ้าง

1. พลาสติค (PVC)

เป็นการต่อเล็บที่ง่ายและสะดวกที่สุดแล้ว สาวๆ สามารถเลือกได้ว่าอยากจะทำที่ร้านหรือซื้อกลับมาต่อเองที่บ้านก็แล้วแต่สะดวก เพราะว่าเป็นเล็บปลอมแบบสำเร็จรูป ที่มีรูปทรงเป็นแบบเล็บอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องเลือกให้มีขนาดที่ตรงกับเล็บเราแค่นั้นเอง แต่ถ้าต่อที่ร้านก็อาจจะมีแบบสำเร็จรูปที่มีลายหรือรูปทรงมากมายมาให้เลือก หรือจะเป็นการต่อเล็บเปล่าๆ แล้วให้ช่างทำเล็บเพ้นท์ลายให้ใหม่ก็ได้ แต่ในกรณีที่สาวๆ สะดวกซื้อกลับมาทำเองที่บ้าน ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านเสริมสวยทั่วไปได้เลยค่ะ แต่อาจจะเลือกความยาวของเล็กไม่ได้เนอะ ที่สำคัญวิธีต่อเล็บแบบ PVC อาจจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควร ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกาวที่ใช้ติดนั่นเองค่ะ แต่ข้อดีก็มีตรงไม่ต้องเสียเวลามานั่งทำเล็บนานๆ เนี่ยแหล่ะจ้า

วิธีต่อเล็บ วิธีต่อเล็บ

2. อะครีลิค

วิธีต่อเล็บแบบนี้จะคงอยู่นานกว่าแบบ PVC แต่ราคาก็จะสูงขึ้นเช่นกัน สาวๆ สามารถเลือกความสั้นยาว และรูปทรงของเล็บได้ เพียงแค่บอกกับช่างทำเล็บเท่านั้นเอง ช่างก็จะนำอะครีลิคมาปั้นขึ้นรูปทรงบนเล็บเรา และต้องตะไบเพื่อเปิดให้หน้าเล็บบางเพื่อรองรับเนื้ออะครีลิคนั่นเอง ซึ่งข้อดีของการต่อเล็บแบบนี้ก็คือ เจ้าสาวจะได้เล็บที่สวยและหลากหลายมากกว่า แถมยังสามารถอยู่ได้นานเป็นเดือนๆ ถ้าหากเล็บยาวขึ้นมาก็เพียงแค่ไปเติมโคนเล็บ (ลงอะครีลิคบริเวณโคนเล็บ) เท่านั้นเอง แต่ข้อเสียคือ ต้องหมั่นเติมโคนเล็บตลอดๆ นี่สิ ที่สำคัญต้องระวังถ้าเล็บหักหรือฉีกจะเจ็บมาก เพราะตัวอะครีลิคติดกับเนื้อเล็บของเรานั่นเอง และถ้าหากเบื่ออยากถอดเล็บแล้ว ก็ไ่ม่ใช่ว่าหักได้ด้วยตัวเองนะจ๊ะ เพราะต้องไปให้ช่างถอดเล็บออกให้เท่านั้น ห้ามทำเองนะจ๊ะ

วิธีต่อเล็บ วิธีต่อเล็บ

3. เจล

เป็นการต่อเล็บที่กำลังมาแรง และอีกหน่อยอาจจะนิยมมากกว่าการต่อแบบอะครีลิคแน่นอนค่ะ แต่ราคาก็จะสูงกว่าอะครีลิคขึ้นมาอีกกกก ซึ่งการต่อแบบเจลจะบางกว่าอะครีลิค และไม่สามารถต่อให้ยาวมากได้ เพราะมีความแข็งแรงน้อยกว่าอะครีลิคนั่นเอง แต่ตัวเล็บจะมีความมันๆ วาวๆ ฟรุ้งฟริ้งมากกว่า (เรียกว่างานดีกว่าเย๊อะ) แถมเวลานั่งต่อเล็บยังไม่มีกลิ่นฉุนๆ มาคอยกวนจมูกเหมือนอะครีลิคอีกด้วยน้า แต่ข้อเสียคือ หากว่าที่เจ้าสาวไปต่อก่อนวันงานล่วงหน้านานๆ อาจจะต้องระมัดระวังการใช้มือหยิบจับข้าวของหรือทำนู่นที่นี่ เพราะอย่างที่บอกว่าเล็บแบบเจลนั้นบอบบางกว่าแบบอะคริลิค หักเปาะไปนิดเดียว นั่นเท่ากับว่าต้องไปทำใหม่เลยนะจ๊ะ

วิธีต่อเล็บ วิธีต่อเล็บ

อ่านมาถึงตรงนี้ เราเชื่อว่าว่าที่เจ้าสาวหลายคนจะต้องมีรูปแบบการต่อเล็บอยู่ในใจกันแล้วแน่ๆ แต่ไม่ต้องไปทำล่วงหน้านานนักนะคะ ทางที่ดีไปทำล่วงหน้าสัก 1-2 วันก็พอ เพราะเล็บจะได้ไม่เสียหายหรือหักก่อนวันงานจะมาถึง แต่ถ้าว่าที่เจ้าสาวยังไม่มีทรงเล็บในดวงใจ ขอแนะนำ … อ่านก่อน! เลือกทรงเล็บเจ้าสาวแบบไหนดี ช่วยส่งให้นิ้วมือดูเรียวยาว

ภาพจาก : Pinterest

รู้ก่อนแต่ง พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์ สำหรับบ่าวสาวตี๋หมวยยุคใหม่

พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์ ถึงจะเป็นงานแต่งลูกผสมแต่ก็เต็มไปด้วยความเป็นสิริงคลอย่างเต็มเปี่ยม

ในยุคจีนรุ่นเหลนอย่างเราที่เหลือคนรุ่นเก่าเคร่งธรรมเนียมในตระกูลน้อยเต็มที อาม้าอาป๊าก็เป็นลูกครึ่งจีนที่ไม่เป๊ะเท่าไรนัก หลายบ้านจึงนิยมลดทอนพิธีแต่งงานลงเพื่อความสะดวก ยิ่งเมื่อแต่งกับคนไทยด้วยแล้วบางบ้านอาจจัดงานควบรวมกับพิธีไทยไปเลย เราจึงนำเสนอ พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์ ที่เคยเห็นมาเพื่อเป็นแนวทางให้ลูกหลานจีนที่พบรักกับคนไทย ส่วนจะคงความเป็นจีนเข้มข้นหรือเจือจางกว่านี้ก็แล้วแต่ความเคร่งของแต่ละบ้าน

สู่ขอ

02_123_scoop_chinese

ก่อนกระทำการทุกอย่างคนจีนจะให้ซินแสดูฤกษ์รอไว้ เมื่อถึงฤกษ์สู่ขอ ฝ่ายชายพร้อมคณะคือพ่อแม่และเถ้าแก่ (เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแม่สื่ออย่างเป็นทางการแล้ว) จะนำกระเช้าผลไม้หรือขนมติดไม้ติดมือไปยังบ้านฝ่ายหญิงเพื่อพูดคุยสู่ขอ คุยเรื่องสินสอด และกำหนดการจัดพิธีต่าง ๆ รวมทั้งตกลงว่าใครจะดูแลค่าใช้จ่ายส่วนไหน ปกติแล้วฝ่ายหญิงจะรับผิดชอบงานหมั่น ฝ่ายชายจะรับผิดชอบงานแต่ง แต่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามฐานะ

เทียบเชิญ

การเชิญแขกผู้ใหญ่ตามธรรมเนียมไทยและจีนจะคล้ายกัน คือ บ่าว – สาวควรไปเชิญด้วยตัวเอง แต่ตามธรรมเนียมจีนจะต้องเตรียมขนมติดไม้ติดมือไปมอบให้ผู้ใหญ่ด้วย เช่น ขนมจันอับ คุกกี้ ฯลฯ

หมั้น – รดน้ำ – ยกน้ำชา

งานแต่งจีนประยุกต์

ในวันงานส่วนใหญ่จะเริ่มด้วยพิธีแบบไทยตามปกติ คือ มีพิธีสงฆ์ แห่ขันหมาก พิธีหมั้น หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และเลี้ยงอาหารกลางวัน แต่อาจมีการผสมผสานความเป็นจีนเข้าไปในบางช่วง

  • ขันหมากไทยผสมจีน ในขบวนขันหมากจะมีการแทรกขันหมากจีนเข้าไปด้วย เช่น มีถาดส้มเช้งและผลไม้ติดอักษรจีน “ซังฮี่” ถาดขนมแต่งงาน ถาดชุดหมู ฯลฯ สังเกตได้ไม่ยาก เพราะจะมีสีแดงหรือชมพูโดดเด่นตัดกับชุดขันหมากใบตองแบบไทย
  • ขันหมากฝ่ายเจ้าสาว บางบ้านอาจเตรียมขันหมากฝ่ายเจ้าสาวไว้ตามธรรมเนียมจีน เช่น ต้นชุงเช่า (ต้นเมียหลวง) ส้ม กล้วย อ้อย ขนมมงคล ฯลฯ โดยจัดวางเตรียมไว้ใกล้จุดประกอบพิธีแยกจากขันหมากของเจ้าบ่าว โดยหลังเสร็จพิธีจะต้องแบ่งผลไม้และขนมขันหมากจากทั้งสองฝ่ายมาผสมกันและมอบให้ทางฝั่งเจ้าบ่าวนำกลับไปด้วย
  • พิธีหมั้น เมื่อขันหมากฝ่ายชายมาถึงก็เป็นการสู่ขอ ไปรับตัวเจ้าสาวลงมาเข้าพิธีหมั้น และสวมแหวนหมั้น
  • ป้อนขนมอี๊ หลังจากสวมแหวนแล้วอาจแทรกการป้อนขนมอี๊เข้ามา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความรักและกลมเกลียว
  • พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ หลังพิธีหมั้นจะต่อด้วยพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ตามปกติ
  • พิธียกน้ำชา ตามธรรมเนียมดั้งเดิมเมื่อเจ้าสาวไปถึงบ้านเจ้าบ่าวจะยกน้ำชาให้ญาติเจ้าบ่าวดื่ม โดยจะต้องเตรียมน้ำชาใส่น้ำตาลกรวดเล็กน้อยเพื่อเป็นเคล็ดว่าผู้ใหญ่ดื่มแล้วจะรักและเอ็นดู แต่ในคู่ที่ไม่เคร่งครัดนักอย่างคู่ผสมไทย – จีนก็อาจนำพิธีนี้มาไว้ก่อนหรือหลังพิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์ และเชิญผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายมารับน้ำชาแทนพิธีรับไหว้ไปเลยเพราะมีจุดประสงค์เดียวกัน เพียงแต่เปลี่ยนจากพานธูปเทียนแพมาเป็นยกน้ำชา จากนั้นผู้ใหญ่จะให้ของรับไหว้เป็นเงินทองของมีค่าและบ่าว – สาวมอบของขวัญขอบคุณ เช่น ผ้า ขนม ฯลฯ ตามธรรมเนียมไทยและจีน

ส่งตัว

พิธีแต่งงานจีนแบบประยุกต์
มีทั้งส่งตัวในคืนแต่งงานและหลังจากนั้นอีกหลายวันตามแต่ฤกษ์ส่งตัวที่ได้มา ถ้าได้ฤกษ์ส่งตัวในวันแต่งงานส่วนใหญ่จะสมมติว่าห้องใดห้องหนึ่งในโรงแรมเป็นเสมือนบ้านของฝ่ายหญิง จากนั้น

  • คุณแม่เจ้าสาวจะติดปิ่นทองและทับทิมให้เจ้าสาว ก่อนที่เจ้าสาวจะกินอาหารมงคล 10 อย่างที่คุณพ่อคุณแม่คีบให้ พร้อมรับฟังคำอวยพรที่ช่วยกัน เอ่ยตามความหมายของอาหารมงคลแต่ละชนิด (1. วุ้นเส้น 2. เห็ดหอม 3. กุยช่าย 4. ผักเกาฮะฉ่าย 5. หัวใจหมู 6. ปลา 7. ปู 8. ไก่ และ 9. – 10. ให้เลือก 2 อย่างระหว่าง “ตับ – ไส้ – กระเพาะหมู”)
  • เจ้าบ่าวมารับตัว เจ้าสาวที่ถือพัดแดงนั่งคอยอยู่ จากนั้นกินขนมอี๊ด้วยกัน (บางบ้านที่ไม่ได้ส่งตัวแบบจีนอาจไปป้อนกันหลังสวมแหวนหมั้น) ลาพ่อแม่แล้วขึ้นรถแต่งงานไปบ้านเจ้าบ่าว โดยมีญาติผู้ชายฝ่ายเจ้าสาวที่อายุน้อยกว่าถือตะเกียงนำไปจนถึงที่หมายเพื่อเป็นเคล็ดว่าบ่าว – สาวจะมีลูกชายสืบสกุล ทั้งนี้ในรถแต่งงานหรือรถในขบวนจะต้องขนกระเป๋าเสื้อผ้า ทรัพย์สิน และของติดตัวที่พ่อแม่ให้มาไปพร้อมกันด้วย
  • พิธีไหว้ฟ้าดิน เม่อื ถึงบ้านเจ้าบ่าว บ่าว – สาวต้องทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ไหว้บรรพบุรุษเพื่อแจ้งให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รู้ว่าครอบครัวนี้กำลังจะมีสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่ม และเพื่อขอพรให้อยู่กันอย่างราบรื่น จากนั้นจะผลัดกันป้อนขนมอี๊อีกครั้ง

สำหรับคู่ที่ได้ฤกษ์ส่งตัวเป็นอีกวันหนึ่ง เจ้าบ่าวก็จะไปรับเจ้าสาวที่บ้าน โดยเจ้าสาวจะต้องทำพิธีไหว้เทพยดาฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ และไหว้บรรพบุรุษก่อนที่จะกินอาหารมงคล 10 อย่างกับพ่อแม่ จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนตามปกติ

อ่านเพิ่มเติม >>> รวบตึงมาให้กับพิธีรับตัวเจ้าสาว จีน-ไทย อ่านง่ายเข้าใจทุกขั้นตอน <<< คลิกเลย!

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก Dovids Photogropher
ภาพเปิด www.promessastudios.com

แนะนำ 3 โฟโต้บูธถ่ายภาพงานแต่ง ไอเท็มเด็ดที่บ่าวสาวต้องสอยมาไว้ในงานแต่งงาน

คงไม่มีแขกคนไหนที่ไปงานแต่งงานแล้วจะไม่เจอกับ โฟโต้บูธถ่ายภาพงานแต่ง เรียกได้ว่างานไหนงานนั้นแถวต้องยาวเป็นหางว่าวทุกที จนบูธถ่ายภาพงานแต่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่บ่าวสาวมักจะหามาเติมไว้ในงานแต่งงานของตัวเสมอ (ถ้ามีงบพอ ^^) แพรว wedding เลยจัด 3 บูธถ่ายภาพงานแต่งมาให้ว่าที่บ่าวสาวได้เลือกช้อปกันตามใจชอบ ถ้างบเหลือก็จัดไปโลด

1. MIRMIR PHOTO

โฟโต้บูธเจ้าดังจากอเมริกาที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าเซเลบฯ และดารานักแสดงระดับโลก อย่าง ครอบครัว Kardashians, Madonna, Jay-Z, Gigi Hadid เพราะเป็นโฟโต้บูธที่ให้คุณภาพของภาพถ่ายเทียบเท่ากับภาพที่ถ่ายแบบ Studio Photo Shoot แต่ได้รับภาพไว้กว่าในเวลาเพียง 4 วินาที เรียกได้ว่าเป็นพอร์เทรท โฟโต้ สตูดิโอ เคลื่อนที่ก็ว่าได้ ซึ่ง 2 องค์ประกอบหลักที่ทำให้ภาพของ MIRMIR PHOTO ออกมาสวยงามมีคุณภาพเหมือนจัดไฟชุดใหญ่มาไว้ตรงหน้าคือ

– Studio Lighting Solutions ระบบไฟสตูดิโอชนิดพิเศษที่ไม่มีใครลอกเลียนแบบได้ ขนาดเล็กกะทัดรัดแต่คุณภาพระดับบิ๊ก เคลื่อนย้ายสะดวก ไม่เกะกะทางเดิน

– MIRMIR Filter ที่ปรับภาพให้มีความสวยงามเหมือนผ่านการรีทัชมาแล้วภายในเวลาเพียงแค่ 4 วินาที พร้อมให้แขกปริ้นต์หรือแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องพึ่งแอปฯ เพิ่ม

MIRMIR PHOTO มีทั้งภาพสี, ภาพขาวดำ, ฉากหลังแบบ Green Screen และภาพเคลื่อนไหวแบบ GIF ทั้งแบบธรรมดาและแบบ Green Screen ไว้ให้บริการแบบครบครันจุใจกันไปเลย

ติดต่อ MIRMIR PHOTO โทร. 08-6354-5463 / เฟซบุ๊ก mirmirphotothailand / ไอจี mirmirphotothailand / เว็บไซต์ www.mirmirphotothailand.com

2. RABBIT PHOTOBOOTH

RABBIT PHOTOBOOTH โฟโต้บูธถ่ายภาพงานแต่ง ที่พร้อมสร้างสรรค์งานสำคัญของบ่าวสาวให้สนุกขึ้นด้วยบูธถ่ายภาพที่แขกสามารถรับภาพสวยๆ เป็นที่ระลึกกลับบ้านได้ทันที พร้อมทีมงานมืออาชีพที่คอยให้บริการ ที่สำคัญแขกที่มาถ่ายภาพยังได้ทำกิจกรรมสนุกๆ ที่ทางแรบบิท โฟโต้บูธ จัดไว้ให้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น สารพัดพร็อพส์ประกอบการถ่ายภาพ อย่างแว่นตาเก๋ๆ หมวกสวยๆ หรือวิกผมไว้เปลี่ยนลุค เมื่อเลือกพร็อพส์ได้แล้ว ช่างภาพจะถ่ายภาพทั้งหมด 3 แอ็คชั่น เสร็จแล้วสามารถรับภาพได้ทันที

RABBIT PHOTOBOOTH มีฟังก์ชั่นสุดเจ๋งที่รับประกันว่ารูปถ่ายจะออกมามีคุณภาพแน่นอน เพราะถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพ และใช้กล้อง DSLR ที่ให้ภาพคมชัดกว่าการถ่ายด้วยไอแพด ทำให้ได้ภาพขนาดใหญ่แบบคมชัด และครบครันด้วยอุปกรณ์คุณภาพสูงด้วยการเลือกใช้ไฟ LED แบบเดียวกับไฟในสตูดิโอ พร้อม Ring Light ที่ให้แสงสวยๆ แบบที่สาวๆ ส่วนใหญ่ชื่นชอบ ที่สำคัญไม่ต้องกลัวแชะแล้วหน้าเหวอเพราะเขามีจอพรีวิวขนาดใหญ่ให้ดูก่อนที่จะปริ้นต์ภาพออกมา ปิดท้ายด้วยลูกเล่นเทมแพลตสนุกๆ ที่ออกแบบได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะอิงตามธีมสีของงาน หรือจะเลือกเป็นภาพกราฟิกต่างๆ ก็ได้ จากนั้นก็รอรับภาพที่ปริ้นต์ด้วยเครื่องปริ้นต์ภาพแบบพิเศษที่ให้ภาพเงางามกันน้ำคงทนนานถึง 10 ปีไม่มีซีด พร้อมอัตราการปริ้นต์ด้วยความเร็วเพียงแค่ 15 วินาทีต่อ1 ภาพเท่านั้น

และหากจองแพ็คเกจกับ RABBIT PHOTOBOOTH ไม่ว่าจะแพ็คเกจไหน เขายินดีปริ้นภาพให้แบบไม่อั้น! (ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) และฟรี! ค่าออกแบบเทมเพลตให้ด้วย กับแพ็คเกจราคาเริ่มต้นเพียง 7,999 บาท (ระยะเวลา 2 ชั่วโมง)

ติดต่อ RABBIT PHOTOBOOTH โทร. 08-3088-9747 / ไลน์ @rum9789i / เฟซบุ๊ก Rabbit Photobooth / ไอจี Rabbit Photobooth / เว็บไซต์ www.rabbitphotobooth.com

3. SELFIPRINT

SELFIPRINT โฟโต้บูธสุดไฮเทคที่มีคิวการจองยาวนานที่สุดในบรรดาโฟดต้บูธถ่ายรูปแต่งงาน การันตีความนิยมได้จากการที่ถูกดารา เซเลบฯ เรียกไปสร้างสีสันอยู่บ่อยๆ เพราะนอกจากที่จะปริ้นต์รูปถ่ายได้ทันทีแล้ว ยังมีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย และใช้งานง่ายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย

SELFIPRINT นอกจากเป็นโฟโต้บูธถ่ายภาพแล้ว ยังมีฟังก์ชั่นสุดล้ำอย่าง SelfiGreeting นวัตกรรมถ่ายคลิปอวยพรบ่าวสาวความยาว 15 วินาที พร้อมเซ็นอวยพรบน iPad Pro ที่ไม่ต้องกลัวเขียนผิดหรือเลอะเทอะ เพราะสามารถแก้ไขใหมได้จนกว่าจะพอใจ แถมยังเขียนสะดวก ใช้งานง่ายแขกผู้ใหญ่หลายท่านเอ่ยปากชมมาแล้ว ซึ่งคำอวยพรทั้งหมดจะถูกแรนดอมขึ้นบนจอ LCD ที่ทางทีมงานนำมาติดตั้งไว้ เพื่อให้แขกได้เห็นคลิปที่ตัวเองเพิ่งอวยพรไปโดยไม่ต้องรอหลังจบงาน

SelfiGreeting  เห็นไฮเทคขนาดนี้แต่มาในราคาแค่ 40,000 บาท สามารถปริ้นตภาพได้ไม่จำกัดจำนวน พร้อมทีมงามที่คอยดูแลในวันงานตลอด 4 ชม. แต่แพ็คเกจนี้สงวนไว้สำหรับงานที่มีจำนวนแขก 500 ท่านเท่านั้นนะจ๊ะ แต่หากงานไหนแขกเกินจากจำนวนนี้และอยากเพิ่ม SelfiGreeting อีกจุด SELFIPRINT ลดให้ทันที 50% เลยทีเดียว และว่าที่บ่าวสาวที่กลัวว่าจะตกหลายคำอวยพรของแขกท่านไหนไปก็ไม่ต้องห่วง เพราะหลังจบงาน 1 สัปดาห์ทาง SELFIPRINT จะมีแฟลชไดร์ฟรวมทั้งคลิปและภาพส่งให้บ่าวสาวได้เก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

ติดต่อ SELFIPRINT โทร. 02-663-7878, 081-6549356 / เฟซบุ๊ก SelfiPrintx / ไอจี Selfiprintx / เว็บไซต์ www.selfiprintx.com

ภาพจาก : MIRMIR PHOTO, RABBIT PHOTOBOOTH, SELFIPRINT

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงานและไอเดียงานแต่งงานอีกเพียบที่นี่ คลิกเลย!

นักโภชนาการบอกมา! 7 เคล็ดลับสำหรับสาวๆ ที่อยากมีผิวสวย หุ่นดี ทันวันแต่งงาน

ไม่ว่าตอนนี้ตัวคุณจะเป็นเพื่อนเจ้าสาวหรือเป็นเจ้าสาวเสียเองก็คงตื่นเต้นไม่น้อยสำหรับงานแต่งงานที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทันทีที่ส่องกระจกความตื่นเต้นก็กลับกลายเป็นความวิตกกังวลเสียมากกว่า ทำไมหน่ะหรอ? ก็ดูหุ่นฉันสิ ยังไม่ผอมเพียว หุ่นดี เท่าที่ควรสักที ผิวก็ยังไม่ใส กลัวจะสวยไม่เป๊ะทันวันงาน…

สำหรับผู้หญิงบางคนการจัดเตรียมงานแต่งงานรวมถึงการวางแผนการออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนัก หรือ การทำสมาธิ เพื่อบรรเทาจิตใจและขจัดความเครียด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังเติมแคลอรี่ที่สูญเสียไปด้วยอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการควบคุมน้ำหนักเลยก็ว่าได้ ถ้าอยากมีผิวสวย หุ่นดี ก็ควรเลือกหม่ำอาหารกันสักนิดนะจ๊ะสาวๆ

แพรว wedding ก็ได้ไปเสาะแสวงหาเคล็ดลับสุขภาพที่จะทำให้คุณผอมด้วยและสวยด้วยทันวันแต่งงานที่กำลังจะมาถึงนี้!!! โดยเป็นคำแนะนะดีๆ จาก คิมเบอร์ลี ไนเดอร์ นักโภชนาการและผู้เขียนหนังสือความงามที่ขายดิบขายดีให้กับ New York Times เธอจะมีวิธีการเลือกกินและต้องทำอย่างไรบ้างรีบตามมาดูกันเร็วววว

หุ่นดี

1. เครื่องดื่มสมูทตี้สีเขียว

งงกันล่ะสิ ว่าเจ้าเครื่องดื่มสมูทตี้สีเขียวมันคืออะไร มันก็คือน้ำผักทั่วไปเลยค่ะ แต่ต้องเป็นผักใบเขียวนะคะเพราะคุณประโยชน์ช่างมีมากล้น เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่า หากคุณสามารถดื่มได้ในทุกๆ เช้าเลยยิ่งดีค่ะ พื่อให้ผิวกระจ่างใสเปล่งประกายมากที่สุดเท่าที่คุณเคยจินตนาการมา และยังช่วยกรองของเสียจำพวกสารพิษที่คุณได้รับไปในแต่ละวันได้อีกด้วยน้า ให้ประโยชน์ทั้งผิวสวยและได้หุ่นที่เป๊ะเลยแหละ แต่ใครที่ไม่เคยดื่ม ก็อาจจะรู้สึกดื่มยากสักนิดนึงนะคะ ด้วยกลิ่นที่ออกจะเหม็นเขียวนิดๆ คุณอาจต้องหาสูตรที่ทำให้คุณทานง่ายขึ้น เช่น ใส่ผลไม้และโยเกิร์ตเข้าไปปั่นด้วยก็จะช่วยให้ดื่มได้ง่ายขึ้นในทันที

2. งดดื่มนม

อ้าว นมก็มีประโยชน์ทำไมห้ามดื่มล่ะ? ก็เพราะนมอาจนำไปสู่อาการท้องอืดและความทุกข์ทรมานของทางเดินอาหาร ดีไม่ดีช่วงนั้นธาตุในร่างกายของคุณทำงานผิดปกติก็จะยิ่งทำให้เกิดอาการท้องเสียได้ง่าย สำหรับอาการท้องอืดส่งผลไปถึงเรื่องการสวมใส่ชุดด้วยนะคะ คนที่ท้องอืดบ่อยๆ มักจะรู้ดีว่าพุงของคุณมันจะป่องเป็นพิเศษ รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ไม่สบายตัว จะสวมใส่อะไรก็ขาดความมั่นใจไปเลย

3. เลิกปรุงอาหารด้วยน้ำตาลทรายไปได้เลย

ลองตัดน้ำตาลทราย และโดยเฉพาะน้ำตาลทรายขาวออกจากการปรุงอาหารหรืออาจใช้วิธีลดให้น้อยลงกว่าปกติ เพราะน้ำตาลไม่ได้จะทำให้เกิดความอ้วนเพียงอย่างเดียวนะคะ น้ำตาลยังเป็นตัวเร่งริ้วรอย ที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ทำให้คอลลาเจนแข็งตัวขึ้นซึ่งสามารถสร้างริ้วรอยได้ ผิวของคุณก็จะดูแก่กว่าวัยอันควร นึกดูนะคะ หากคุณไม่ปรุงอาหารด้วยน้ำตาลเลย อาศัยความหวานจากผักเอา ผิวของคุณจะดูสดใสและสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยน้า ไม่เชื่อก็ลองดูสิคะ

4. ควรลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลม

หากคุณต้องการดื่มแอลกอฮอล์เพื่อเฉลิมฉลอง ขอแนะนำให้ดื่มเป็นไวน์แดงแทนค่ะ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงและไม่ส่งผลเสียต่อตับของคุณเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ไวน์แดงยังมีวิตามิน แร่ธาตุ และมีสารที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ส่วนทางด้านน้ำอัดลมเป็นไปได้ช่วงใกล้วันแต่งงานก็ควรงดไปก่อนนะคะ เพราะมีน้ำตาลสูงมากกก จากที่คุณอยากลดน้ำหนักรักษาหุ่นจะกลับกลายเป็นน้ำหนักพุ่งขึ้นปรี๊ดแทนนะคะ

หุ่นดี

5. ดื่มน้ำมะนาว

ใส่น้ำมะนาวสดลงไปในน้ำที่คุณจะดื่มตลอดทั้งวันและอย่าลืมที่จะเริ่มต้นทุกเช้าด้วยแก้วน้ำร้อนที่บีบน้ำมะนาวลงไปด้วย มะนาวจะช่วยย่อยอาหารโดยการเพิ่มการหลั่งของน้ำดีจากตับ ในขณะที่ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นสารเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เอนไซม์ในตับ ช่วยย่อยอาหารในลำไส้ใหญ่ กำจัดของเสียได้อย่างดีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นเครื่องฟอกเลือดและเป็นตัวแทนทำความสะอาดเพื่อล้างเชื้อแบคทีเรียและสารพิษในร่างกาย และยังมีคุณสมบัติในการช่วยย่อยอาหารและทำความสะอาดภายในร่างกายของคุณได้ระยะยาวอีกด้วย เมื่อระบบขับถ่ายดี ท้องไส้ดี ผิวพรรณก็จะดีตามมา

6. รับประทานอาหารจำพวกที่มีจุลินทรีย์ชนิดดีเยี่ยม

นั่นก็คือ อาหารที่มีสารอาหารโพรไบโอติกส์ ชนิดที่เหมาะสมของโพรไบโอติกเป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพที่จะช่วยเสริมความงาม ปรับปรุงระบบการย่อยอาหารและนำไปสู่สุขภาพความงามโดยรวมในร่างกายของคุณ อาหารที่มีสารโพรไบโอติกส์ ก็เช่น โยเกิร์ต ที่สาวๆ ชอบกินกันนั่นแหละค่ะ เป็นของกินอีกหนึ่งชนิดที่ช่วยในเรื่องการขับถ่าย ควรเลือกสูตรธรรมชาติ ไร้ไขมัน ไร้น้ำตาล สำหรับสาวๆ ที่อยากลดความอ้วนเจ้าตัวนี้ก็จะสามารถหม่ำแทนอาหารว่างเวลาหิวๆ งี้ หม่ำเลยไม่อ้วนค่ะ

7. ผ่อนคลายกันหน่อย

ความกระวนกระวายใจก่อนแต่งงาน คุณสามารถหยุดมันได้โดยการฝึกสมาธิหรือเล่นโยคะ เพลิดเพลินไปกับความเงียบสงบ ฟังเสียงรอบๆ ตัวหรือฟังเสียงธรรมชาติแทน เมื่อจิตใจคุณสงบแล้วการทำงานส่วนต่างๆ ของร่างกายก็จะดียิ่งขึ้น การเล่นโยคะจะช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี เมื่อเลือดลมในร่างการดีผิวพรรณก็จะดีตามมา และยังช่วยเรื่องการหยืดหยุ่น ยกกระชับกล้ามเนื้อ ให้คุณมีหุ่นเพียว ไร้ไขมันส่วนเกิน จะใส่อะไรก็สวยแน่ในวันงานที่จะถึงนี้

หุ่นดี

ว่าด้วยเรื่องโยคะ บางคนอาจจะไม่เคยเล่น ไม่รู้ว่าเขาเล่นกันไปแบบไหน จริงๆ แล้วก็สามารถฝึกได้ด้วยตัวเองนะคะ เพียงแค่ทำตาม Let’s stay in shape! กับ 5 ท่าโยคะง่ายๆเพื่อเจ้าสาวหุ่นสวย นี้ทุกวันดู คุณอาจจะผอมทันวันงานก็ได้ใครจะไปรู้

เรียบเรียงข้อมูลจาก : insideweddings.com
ภาพจาก : alicialaceyphotography.com, unsplash.com

ทำฟัน ก่อนแต่งงาน เพื่อรอยยิ้มสวยปิ๊งในวันวิวาห์ ต้องเตรียมตัวยังไงบ้างมาดูกัน

ฟันเหลือง ฟันไม่สวย ยิ้มไม่มั่นใจ แต่จะแต่งงานแล้ว! ต้องทำยังไงถึงจะยิ้มสวยมั่นใจในวันแต่งงาน เราหาคำตอบเกี่ยวกับการ ทำฟัน มาให้แล้วจากทันตแพทย์ตัวจริง!

การ ทำฟัน ก่อนแต่งงาน เป็นอีกหนึ่งเช็คลิสต์ที่คู่บ่าวสาวหลายคนไม่ยอมพลาด เพราะจะแต่งงานทั้งทีจะยอมให้รูปสวยๆ ออกมาพังเพราะรอยยิ้มที่ดูไม่มั่นใจได้ยังไงกันละจริงไหมคะ แต่การไปหาหมอฟันสำหรับหลายๆคนกลายเป็นเรื่องยาก เพราะไม่รู้ว่าเราจะต้องเตรียมตัวก่อนวันแต่งงานนานแค่ไหนนะ? แล้วเราจะต้องทำอะไรกับสุขภาพฟันของเราบ้างเพื่อที่ในวันแต่งงานเราจะได้มีรอยยิ้มที่สวยงามเพิ่มความมั่นใจให้เราได้ตลอดทั้งวัน แพรว เวดดิ้ง ก็เลยขออาสาแทนคู่บ่าวสาวไปหาคำตอบมาให้จากหมอฟันคนสวย ทันตแพทย์หญิง แพรพรรณ ลิมปิพิพัฒนกร หรือคุณหมอแพร จาก คลินิกทันตกรรม เดนทัล โฮม เเคร์  มาดูกันเลยค่ะว่า สำหรับคู่รักที่กำลังจะมีวันวิวาห์ในเร็วๆนี้ อะไรคือส่ิงที่คุณต้องทำกับสุขภาพฟันเพื่อเตรียมตัวยิ้มสวยอย่างเต็มที่ในวันแต่งงาน

ทันตแพทย์หญิง แพรพรรณ ลิมปิพิพัฒนกร

การตรวจสุขภาพช่องปากเพื่อประเมิน

อย่างแรกเลยที่คุณหมอแพรแนะนำให้คู่รักทำ ก็คือการเดินจูงมือกันเข้าคลินิกทันตกรรมเพื่อตรวจเช็คสุขภาพโดยรวมของช่องปากและฟัน เพื่อเช็คว่าสีฟันของเราดูสม่ำเสมอกันดีหรือไม่ เรามีฟันแตก หัก บิ่น ที่ต้องซ่อมแซมเพื่อความสวยงามหรือไม่ เป็นต้น โดยขั้นตอนนี้คุณหมอแพรแนะนำว่า ควรทำก่อนวันแต่งงานประมาณ 3 เดือนล่วงหน้า เพื่อให้หมอฟันมีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ในกรณีที่ต้องมีการซ่อมแซมหรือตกแต่งฟันให้สวยงาม

ในกรณีที่ไม่มีปัญหาสุขภาพฟัน

คุณหมอแพรมักแนะนำให้ขูดหินปูนและขัดฟัน นอกจากนี้ในคู่บ่าวสาวที่ไม่พอใจกับสีฟันที่เข้มไม่สวย คุณหมอก็แนะนำให้ฟอกสีฟันเพื่อให้ฟันดูขาวสวย โดยการฟอกสีฟันนั้นทำได้สองแบบ คือแบบทำเองที่บ้าน และแบบทำที่คลินิกโดยทันตแพทย์ โดยการฟอกสีฟันเองที่บ้านนั้น ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากเพื่อทำถาดฟอกสีฟัน เพื่อให้พอดีกับรูปร่างฟันของคนไข้แต่ละคน และจ่ายเจลฟอกสีฟันพร้อมคำแนะนำที่ถูกต้องให้ การฟอกสีฟันแบบทำเองที่บ้านนี้จะมีราคาถูกกว่า แต่ข้อเสียคือต้องอาศัยความสม่ำเสมอของคนไข้ที่ต้องใส่ถาดฟอกสีไว้วันละไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง ติดต่อกันไม่ต่ำกว่าสองอาทิตย์ กว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ขาวขึ้นสัก 1-2 ระดับและต้องทำต่อไปจนกว่าจะได้ความขาวที่พึงพอใจ ในขณะที่การฟอกสีฟันที่คลินิกซึ่งมีการใช้รังสีเลเซอร์ช่วยเพื่อกระตุ้นให้น้ำยาฟอกสีฟันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพดีขึ้นนั้น อาจจะราคาสูงกว่า แต่ใช้เวลาเพียงไม่นาน (ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) ก็สามารถทำให้ฟันดูขาวอย่างน้อย 3-5 ระดับขึ้นไป นอกจากนี้คนไข้มักแสดงอาการเสียวฟันระหว่างหรือหลังฟอกสีฟันน้อยกว่าการฟอกสีเองที่บ้าน ซึ่งถ้าหากเป็นการฟอกสีฟันที่คลินิกด้วยเลเซอร์แล้ว คุณหมอแพรจะแนะนำให้ทำก่อนวันแต่งงานประมาณ 1 เดือน

ทำฟัน
Source: Hannah Martin Photography

การแก้ไขในกรณีที่ฟันสีไม่เรียบสม่ำเสมอ

ในกรณีที่ฟันมีวัสดุอุดเดิมบริเวณฟันหน้าหลายตำแหน่ง ทำให้ฟันมีสีไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเกิดจากการอุดฟันเป็นระยะเวลานานทำวัสดุอุดฟันเดิมดูดซับสีและคราบจากอาหารต่างๆที่เรารับประทาน วิธีการแก้ไขที่คุณหมอแพรแนะนำคือ ในกรณีที่วัสดุมีตำแหน่งเดียวขนาดเล็ก การเปลี่ยนวัสดุอุดใหม่สามารถทำได้ โดยเลือดสีวัสดุอุดภายหลังการฟอกสีฟันในกรณีที่คนไข้ฟอกสีฟัน  แต่ถ้าวัสดุอุดมีขนาดใหญ่เกินกว่าการเปลี่ยนวัสดุอุดจะสร้างความสวยงามได้ การทำเคลือบฟันวีเนียร์ (Veneer) หรือการทำครอบฟันจะถูกแนะนำเป็นลำดับต่อมา  ซึ่งการทำวีเนียร์ และการทำครอบฟันนอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องสีฟันได้แล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาเรื่องรูปทรงของฟันที่ไม่สวยงามได้ด้วย

การทำเคลือบฟันวีเนียร์ คือการนำเอาวัสดุแผ่นเคลือบฟันวางไว้ด้านหน้าของซี่ฟัน เหมาะกับคนที่เนื้อฟันธรรมชาติเหลือเยอะ ช่วยปรับรูปร่างและสีสันของฟันให้ดูสวยสมบูรณ์ขึ้น คนไข้สามารถออกแบบรูปร่างฟันที่ตนชอบได้ตามความต้องการ วัสดุที่นิยมใช้ทำวีเนียร์ฟันในปัจจุบันคือพอร์ซเลน ซึ่งมีความสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ จะเห็นได้จากดาราหลายท่านิยมทำวีเนียร์กันเพื่อสร้างความสวยงามตามแบบฉบับของตนเอง

การทำครอบฟัน มีขั้นตอนคล้ายกับการทำวีเนียร์แต่วัสดุจะครอบคลุมตัวฟันทั้งหมด เสมือนกับการสร้างรูปฟันขึ้นมาใหม่จากทุกด้าน เหมาะสำหรับผู้ที่เนื้อฟันธรรมชาติน้อย มีวัสดุอุดฟันเยอะ หรือต้องการสร้างความแข็งแรงให้กับฟัน วิธีนี้ช่วยสร้างฟันใหม่ที่ดูสวยงามและแข็งแรง อยู่ได้เป็นระยะเวลานานถึง 10-15 ปี แต่แลกกับราคาค่อนข้างสูง

 

การจัดฟัน

คุณหมอแพรกล่าวว่ามีคู่บ่าวสาวหลายคนที่อยากจัดฟันเพื่อให้ฟันเรียงตัวกันสวยงามก่อนวันแต่งงาน แต่การจัดฟันจะต้องใช้ระยะเวลาในการประเมินและการรักษาพอสมควรซึ่งการจัดฟันมักใช้เวลาอย่างน้อย1-2ปี โดยคุณหมอแพรแนะนำว่าควรมาหาหมอฟันเพื่อประเมินอย่างต่ำ 2 ปีก่อนวันแต่งงานเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันนี้มีทางเลือกหลายทางสำหรับผู้ที่ไม่อยากติดเครื่องมือจัดฟันแบบเหล็กที่เห็นได้ชัดและไม่สวยงาม เช่นการจัดฟันแบบใสที่สามารถถอดได้ แต่อาจจะมีราคาสูงและต้องดูแลรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม คุณหมอแพรแนะนำให้ว่าที่บ่าวสาวที่อยากจัดฟันเพื่อให้ฟันสวยพร้อมสำหรับวันวิวาห์ รีบมาปรึกษาแพทย์เพื่อเตรียมตัวกันอย่างเนิ่นๆจะชัวร์สุดค่ะ

Junebugweddings.com

สุดท้ายแล้ว คุณหมอแพรฝากทิ้งท้ายไว้ว่า การเข้ามาหาหมอฟันครั้งแรกเพื่อประเมินสุขภาพฟันนั้นสำคัญที่สุด ควรมาก่อนวันแต่งงานอย่างน้อย 3 เดือน เพราะหมอฟันจะทราบได้ว่าคุณมีสุขภาพฟันที่เป็นปกติดีหรือไม่ ถ้าหากมีอะไรที่ต้องซ่อมแซม จะต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้มีเวลาเตรียมตัว และหมอฟันเองจะได้มีเวลาในการทำงานอย่างเต็มที่ด้วย ทั้งนี้เพื่อให้คู่บ่าวสาวได้มีรอยยิ้มสวย เพอร์เฟ็ค มั่นใจเต็มที่ และยังจะมีภาพสวยๆในวันแต่งงานเก็บไว้ดูตลอดไปด้วยค่ะ

ถ้าชอบคอนเท้นต์นี้ของเรา คลิกอ่าน เช็กลิสต์บิวตี้ มาเตรียมเป็นเจ้าสาวสุดเพอร์เฟกต์ภายในเวลา 1 ปีกันเถอะ

 

ขอขอบพระคุณ ข้อมูลจาก คุณหมอแพร ทันตแพทย์หญิง แพรพรรณ ลิมปิพิพัฒนกร
คลินิกทันตกรรมเดนทัลโฮมเเคร์