เคล็บลับจัดงานแต่งให้หรูไม่แคร์งบ มีงบหลักแสนแต่ได้งานแต่งระดับล้าน!

เคล็บลับจัดงานแต่งให้หรูไม่แคร์งบ มีงบหลักแสนแต่ได้งานแต่งระดับล้าน!

ทันทีที่คู่รักตัดสินใจจูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ คำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคงหนีไม้พ้น จะต้องใช้เงินเท่าไหร่เนี่ย?’ และแน่นอนว่าเหล่าว่าที่ทั้งหลายก็ย่อมมีงานแต่งในฝัน และอยากที่จะให้งานออกมาดูหรูหราเพอร์เฟกต์เป็นที่ประทับใจ จนแขกต้องเอ่ยปากชม แพรว wedding เลยมีเคล็ดลับแบบไม่แคร์งบแต่จบที่งานแต่งสุดหรูมาฝาก จะทำตามยากง่ายแค่ไหน ไปดู เคล็บลับจัดงานแต่ง ที่เรานำมาฝากกันเลย

ใส่ความเป็นตัวเองลงไปในงานแต่ง

บ่าวสาวควรมีส่วนตัดสินใจตั้งแต่เรื่องเลือกดอกไม้ไปจนถึงอาหารที่เสิร์ฟ เพราะหากเดินเข้าไปคุยกับเซลล์โรงแรม แน่นอนว่าสิ่งที่บ่าวสาวจะได้ก็อาจจะเป็นแพตเทิร์นเดียวกันกับงานแต่งงานอื่นๆ ที่เคยจัดมาแล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะช่วยให้งานแต่งงานของบ่าวสาวดูแตกต่างคือการคัดสรรสิ่งที่ดีสุดมาใส่ไว้ในงาน ซึ่งงานนี้บ่าวสาวอาจจะต้องใช้ความพยายามในการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเองให้เจอ แต่ถ้าหากบ่าวสาวเลือกใช้บริการเวดดิ้งแพลนเนอร์ เราขอแนะนำให้คุณคุยกับแพลนเนอร์อย่างเปิดใจเพื่อให้แพลนเนอร์เข้าถึงและเข้าใจในตัวตน และความต้องการของบ่าวสาวให้มากที่สุด

สร้างประสบการณ์ร่วมให้กับแขก

การทำให้แขกรู้สึกว่าเขาได้รับการต้อนรับดูแลเป็นอย่างดีและรู้สึกสนุกร่วมไปกับงาน ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการจัดงานให้ดูหรูแบบไม่ต้องใช้งบใดๆ เพราะใช้ใจล้วนๆ และเป็นข้อที่ทำง่ายที่สุดไม่ว่าคุณจะมีงบเท่าไหร่ โดยการเน้นการลงรายละเอียดและการบริหารจัดการที่ลื่นไหล ซึ่งบ่าวสาวอาจจะลองสมมติให้ตัวเองเป็นแขกที่จะมาร่วมงาน แล้วคิดว่าสิ่งไหนที่คุณจะได้เห็นหรืออยากเห็น หรืออะไรและตรงไหนที่คุณอยากจะมีส่วนร่วมด้วยมากที่สุด จะช่วยให้บ่าวสาวคิดได้ว่าคุณอยากให้งานแต่งงานของตัวเองนั้นออกมาเป็นแบบไหนในรูปแบบใด จากนั้นก็ลองคิดต่อไปอีกนิดว่าจุดไหนที่คุณจะสามารถสร้างประสบการณ์ดีๆ ให้แขกได้อีกบ้าง แต่เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งนั้นต้องไม่ใช้สิ่งที่ทำแล้วจะทำให้บ่าวสาวต้องเสียเวลาหรือเปลืองงบประมาณโดยใช่เหตุ ซึ่งบางทีมันอาจจะเป็นเพียงแค่สิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแปะโน้ตทักทายเล็กๆ หรืออะไรก็ตามที่คุณสามารถเตรียมการล่วงหน้าไว้ได้อย่างไม่หนักหนาหรือเกินกำลังจนเกินไป

เคล็ดลับจัดงานแต่ง

หรือหากบ่าวสาวเลือกจัดงานแบบซิตดาวน์ดินเนอร์ หรือจัดโต๊ะอาหารแบบที่ระบุเลขที่นั่ง ก็อาจจะจัดให้มี seating chart และมีป้ายชื่อให้ชัดเจน แทนที่จะให้แขกเดินงงๆ หาโต๊ะเองกันให้วุ่นวาย หรืออาจจะจัดให้เพื่อนบ่าวสาวเป็นคนเชิญแขกไปนั่งให้ถึงโต๊ะ นี่ก็ถือเป็นเพียงดีเทลเล็กๆ น้อยๆ แต่เป็นสิ่งที่งานแต่งสไตล์ลักชัวรี่ต้องการที่สุด

เน้นความรู้สึกร่วมแบบ 4D

เราอยากให้บ่าวสาวมองงานแต่งงานเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ดูแลแขกให้ได้แฮปปี้กันถ้วนหน้า และแน่นอนว่าต้องครบถ้วนทุกสัมผัสทั้งรูป รส กลิ่น เสียง เพราะการจัดงานก็เหมือนโปรดักชั่นอย่างหนึ่ง ที่บ่าวสาวต้องให้ความสำคัญกับทุกองค์ประกอบ เพราะทุกอย่างล้วนมีส่วนสำคัญต่องาน ไม่ว่าจะเป็น อาหารหรือความเอนเตอร์เทน ซึ่งแต่ละอย่างก็จะต้องทำหน้าที่สนองทุกความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไปด้วย เช่น อาหารอร่อย ดนตรีไพเราะ อาฟเตอร์ปาร์ตี้สนุก อย่างนี้เป็นต้น

จัดงานแต่งงาน

ทำเช็กลิสต์งานแต่งป้องกันการตกหล่น

การสร้างไทม์ไลน์และเช็กลิสต์จะช่วยบ่าวสาวได้มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะก๊อปจากอินเทอร์เน็ตมาใช้แบบเป๊ะๆ เลยนะจ๊ะ แต่บ่าวสาวควรจะนำมาปรับให้เข้ากับงานตัวเองด้วย เพราะถ้าไปหาเช็กลิสต์แบบ 12 เดือนมาดู แต่กลับมีเวลาเตรียมงานจริงๆ แค่ 4 เดือน โอโห คราวนี้งานเข้าแน่ๆ เพราะจากที่มีเวลาเตรียมตัวน้อยอยู่แล้ว ยังต้องมางงกับตารางอีกว่าจะเริ่มทำอะไรตรงไหนก่อนดี เพราะฉะนั้นการทำเช็กลิสต์ขึ้นมาเพื่องานแต่งของคุณเองโดยเฉพาะ โดยคำนึงถึงเวลาที่คุณมี จำนวนแขก และสิ่งที่บ่าวสาวต้องการ หรือสิ่งที่บ่าวสาวอยากให้มีหรือเกิดขึ้นภายในงาน ก็จะทำให้คุณทราบได้ทันทีว่าควรจะต้องทำอะไรในเดือนไหนล่วงหน้าก่อนที่จะถึงวันแต่งงาน

ตามเทรนด์ได้ แต่ต้องเป็นตัวเองด้วย

ก่อนอื่นบ่าวสาวต้องเข้าใจก่อนว่างานแต่งงานไม่เหมือนงานแฟชั่นบนรันเวย์นะจ๊ะ เพราะฉะนั้นอย่าเอาเทรนด์มาใส่ในงานแต่งของงคุณจนลืมใส่ความเป็นตัวเองลงไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าบ่าวสาวจะเลือกจัดงานแต่งตามเทรนด์ไม่ได้น้า เพียงแค่จะต้องคำนึงว่าเทรนด์ที่กำลังฮิตอยู่ในขณะนั้น เป็นสิ่งที่หากคุณทั้งคู่อยากจะย้อนกลับมาดูอีกครั้งหรือไม่เมื่อเวลาผ่านไปสักสิบหรือยี่สิบปี และเมื่อได้ย้อนกลับมาดูอีกครั้งคุณจะเกิดความรู้สึกแบบไหนระหว่างมีความสุข หรือรู้สึกพลาดว่าไม่น่าจัดแบบนั้นเลย หรือคุณกล้าที่จะนำมาอวดให้ลูกให้หลานดูหรือเปล่า และถ้าพวกเขาถามว่าคุณได้แรงบันดาลใจในการจัดงานมาจากไหน คุณก็คงไม่อยากบอกว่าก๊อปมาจากหนังเรื่องโปรดหรอกจริงไหม แต่ถ้าเทรนด์ใหม่มันใช่สำหรับคุณทั้งคู่แล้วล่ะก็ ถ้าจะจัดตามนั้นเราก็ไม่ขัดนะคะ

ทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลัง แล้วยิ้มให้สุดในวันแต่งงาน

สิ่งที่บ่าวสาวควรจะทำมากที่สุดในวันแต่งงานก็คือ การควบคุมสติและสีหน้าให้ดี เพราะไม่ว่างานจะดีแค่ไหน แต่ถ้าหากเกิดปัญหาแล้วบ่าวสาวคุมสีหน้าไม่ได้ บางทีก็อาจจะทำงานกร่อยเอาได้ง่ายๆ เหมือนกันนะคะ เพราะถ้าหากบ่าวสาวกังวลจนเริ่มนั่งไม่ติด พาลอาการหงุดหงิดขึ้นหน้าด้วยแล้วล่ะก็ แขกที่มาร่วมงานอาจจะเริ่มสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนอาจทำให้แขกพาลมองหาสิ่งผิดปกติแทนที่จะได้ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศภายในงานแต่งงาน เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ่าวสาวก็ควรที่จะยิ้มเข้าไว้ แล้วปล่อยใจให้มีความสุขกับวันสำคัญในชีวิตก็พอ

จำไว้ว่าเงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง!

เชื่อหรือไม่ว่า งานแต่งที่ใช้เงินเป็นล้านๆ ก็ออกมาดีไม่ได้ถ้าบรรยากาศในงานไม่ไปด้วยกัน และแน่นอนว่าสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้ก็คือบรรยากาศแห่งความสุขที่แขกในงานจะช่วยส่งต่อให้ตัวงานสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพราะงานแต่งงานที่ดีที่สุดไม่ใช่งานที่ใช้เงินเยอะที่สุด แต่เป็นงานที่บ่าวสาวมีความสุขและมีรอยยิ้มอิ่มใจตลอดเวลาต่างหาก

และทั้งหมดนี้คือเคล็ดลับจัดงานแต่งง่ายๆ ที่บ่าวสาวสามารถทำตามได้แบบไม่เหนือบ่ากว่าแรง จัดงานแต่งให้ดูหรูแบบไม่แคร์งบแล้ว แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะแคร์ธรรมชาติด้วยนะจ๊ะกับ 5 เคล็ดลับจัดงานแต่งงานให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ภาพ : pexels.com, pinterest.com

Recommended