ทำตามนี้แล้วจะได้รองเท้าคู่เหมาะมาใส่แต่งงานแน่นอน

รองเท้าแต่งงาน ดีๆ ไม่ใช่จะได้มาง่ายๆ นะคะ และถ้าคุณกำลังคิดว่า ไม่ต้องเตรียมข้อมูลในเรื่องนี้ละก็ ขอบอกว่าคุณก็ชะล่าใจไปสักหน่อย ลองมาดูคำแนะนำที่แพรว wedding สรุปมาให้กันก่อน จะได้รู้ว่าอะไรควรทำและไม่ควรทำเมื่อจะหารองเท้ามาใส่ในงานแต่งนะคะ

 

  • หาชุดแต่งงานให้ได้ก่อน

ไม่ว่าจะเป็นชุดเจ้าสาวแบบไทยแท้-สากล หรือชุดเจ้าบ่าวสไตล์ไหน อย่างน้อยๆ คุณต้องได้ชุดที่จะใช้จริงมาก่อนที่จะซื้อรองเท้าเสมอนะคะ จะได้รู้ว่าชุดที่เลือกเข้ากันได้ดีกับรองเท้าไหม อย่าลืมว่าชุดมีเรื่องของสีเข้ามาเอี่ยว โดยเฉพาะชุดของคุณผู้ชาย ถ้าคุณเลือกไม่เข้ากัน แถมยังต้องไปยืนข้างเจ้าสาวในชุดขาวทั้งงาน ความต่างจะยิ่งเห็นชัดนะคะ

  • ทำความรู้จักพื้นของสถานที่จัดงานแต่ง

อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ คุณต้องรู้ว่าพื้นห้องหรือพื้นสนามที่ใช้จัดงานแต่งเป็นแบบไหน เพราะเรื่องนี้สัมพันธ์กับประเภทของส้นรองเท้า ซึ่งถ้าคุณรู้ว่าพื้นเป็นแบบไหนจะได้ไม่พลาดเลือกรองเท้าที่ส้นไม่อำนวยมาใช้งาน เช่นพื้นสนามเททรายซะส่วนมากก็จะได้ไม่เลือกส้นเข้มที่แม้จะช่วยให้ดูเซ็กซี่แต่เดินย่ำกี่ก้าวก็จมทรายทุกที

  • ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องใส่สบายด้วย

หัวใจสำคัญของการซื้อรองเท้ามาใส่ในวันแต่งงานไม่ได้จบแค่ทุกอย่างสวยงาม วางคู่กับพร้อพต่างๆ แล้วได้ภาพสวย เพราะคุณต้องใส่รองเท้าคู่นั้นยาวนานอย่างต่ำๆ 3 ชั่วโมง ดังนั้น อย่ายึดติดว่าสวยจังและยอมทนที่บีบหน้าเท้า เพราะไม่คุ้มกับท่าเดินแปลกๆ ที่คุณไม่อยากให้เกิดอย่างแน่นอน

รองเท้าแต่งงาน

  • เทียบความสูงด้วยก็ดี

ไม่ใช่ความสูงเดิมกับตอนที่ต่อส้นสูงค่ะ แต่เป็นความสูงระหว่างเจ้าบ่าวและเจ้าสาว ต้องเลือกรองเท้าที่พอใส่แล้วความสูงกำลังเหมาะ ไม่ใช่เจ้าบ่าวตัวเล็กแต่เจ้าสาวก็เอาแต่จะใส่ส้นสูงสุดๆ เว้นเสียแต่ว่าคุณทั้งคู่ตกลงกันแล้วว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาก็โอเค

  • อย่าส่องแค่ร้านเดียวเด็ดขาด

จริงอยู่ที่คุณมีแบบรองเท้าที่ชอบและเข้ากับชุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีแค่ร้านเดียวที่จำหน่ายรองเท้าแบบนั้นนี่คะ ลองดูในหลายๆ ร้าน คุณจะพบทางเลือกและราคาอันหลากหลายค่ะ

  • อย่าคิดจะซื้อทางออนไลน์

เครื่องประดับเล็กๆ น้อยๆ ที่ใช้ในงานจะจะเปิดไอจีหรือเฟชบุ๊คแล้วช้อปไม่ว่ากัน แต่เรื่องรองเท้านี่อันตรายมากนะคะ ถ้าไม่ได้ลองอย่าได้คิดซื้อมาใส่เชียวล่ะ เพราะไหนจะการวัดขนาดเท้าที่อาจไม่ตรงกับขนาดรองเท้าของร้านนั้นๆ ไหนจะวัสดุที่ใช่ตัดเย็บไม่ได้สัมผัสของจริง แล้วแบบนี้ไม่เรียกว่าเสี่ยงก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะคะ

  • อย่ารอจนนาทีสุดท้าย

หลายคู่ที่ใจเย็นเพราะเห็นเป็นเรื่องเล็กๆ กับแค่รองเท้าก็เลยนอนใจใช้เวลาไม่กี่วันก่อนถึงวันจริงไปช้อปปิ้ง แต่แพรว wedding บอกเลยนะว่าคุณคิดผิด เพราะหลังจากซื้อมาแล้วคุณต้องใส่บ่อยๆ ให้ชินเท้า รวมถึงซ้ำใส่เพื่อความคล่องตัวยามเดินเหิน

นอกจากจะเลือกรองเท้าแต่งงานให้ดีและถี่ถ้วนตามคำแนะนำที่แพรว wedding บอกไปด้านบนแล้ว ขอทิ้งท้ายอีกสักนิดว่า แม้รองเท้าจะดีงามแค่ไหนก็ควรเตรียมรองเท้าสำรองไว้ด้วยนะคะ เพราะต่อให้คุณซื้อรองเท้าคู่นั้นมาในราคาเหยียบหมื่น แต่ไม่ได้การันตีว่าถ้าเดินสะดุดหรือส้นติดพื้นระแนงจะไม่หลุดหรือพัง นี่ยังไม่รวมจังหวะที่แขกเมาแล้วทำไวน์แดงหกรดใส่รองเท้าผ้าซาตินอีกนะ ฉะนั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า คุณต้องเตรียมรองเท้าสำรองไว้ด้วย ซึ่งคุณสมบัติทั้งหลายก็ควรใกล้เคียงกับที่เราแนะนำไปจะดีมากค่ะ

ติดตามไอเดียและเคล็ดลับดีๆ ยังมีอีกเพียบ คลิกเลย!

เรื่อง : ดอกปีบ
ภาพ : pxhere

มาฟังคำแนะนำ มาลัยบ่าวสาว ว่าเลือกแบบไหนที่ถูกต้องและอินเทรนด์

มาลัยบ่าวสาว เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บ่าวสาวไม่ควรมองข้าม เพราะเป็นสิ่งของสำคัญไว้สำหรับคล้องคอบ่าวสาวทั้งในพิธีแต่งงานแบบไทยและในช่วงฉลองมงคลสมรส แพรว wedding จึงไปบุกถึงถิ่นดอกไม้เพื่อไปขอจับเข่าคุยกับคุณพิมพ์นิภา เดชกุล ผู้จักการร้าน Flower land ณ ปากคลองตลาด ที่จะมาให้แนะนำเราเกี่ยวกับมาลัยบ่าวสาวทั้งในเรื่องของสีดอกไม้ สีริบบิ้น รวมไปถึงลักษณะของดอกไม้ต่างๆ ที่นำมาทำมาลัยบ่าวสาวด้วย เพื่อที่ว่าที่ทั้งหลายจะได้มีความเข้าใจและเลือกมาลัยได้อย่างถูกต้อง 

มาลัยบ่าวสาวมาลัยบ่าวสาวในปัจจุบันมีกี่ลาย?

“ในปัจจุบันมาลัยมีหลายแบบหลายลายมาก ไม่ว่าจะเป็นมาลัยคชกริด มาลัยเกรียว มาลัยยกซีก ลายตราประชุม ลายข้าวหลามตัด มาลัยแบน อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้เป็นลายอะไร โดยสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากันได้ แต่ในปัจจุบันที่เราเห็นบ่อยจะเป็นมาลัยสองชายค่ะ”

ชนิดของดอกไม้มีผลให้มาลัยเหี่ยวไหม?

“จริงๆ ชนิดของดอกไม้มีผลต่อการเก็บรักษามาลัยมากๆ นะคะ เพราะว่าเรานำดอกไม้ที่เป็นดอกๆ มาแกะ มายำ ให้เป็นกลีบ จึงทำให้ดอกไม้ขาดน้ำ ขาดสารอาหาร ดังนั้นดอกไม้ที่เรานำมาใช้ก็จะเหี่ยวง่าย เช่น กุหลาบหรือดอกรัก เมื่อก่อนมีดอกบานบุรีที่นิยมนำมาใช้กันแต่ในปัจุบบันก็จะมีดอกกล้วยไม้ที่นิยมนำมาใช้เพราะไม่เหี่ยวเฉา แต่ดอกรัก ดอกพุดจะบวมน้ำง่าย แต่โดยส่วนมากแล้วดอกไม้ที่นิยนำมาใช้เป็นมาลัยคล้องคอในงานแต่งก็จะคำนึงถึงความหมายมากกว่า เช่นดอกรัก ดอกบานไม่รู้โรย ดอกกุหลาบ ที่จะหมายถึงความรักที่คงทน ไม่โรยรา ส่วนรูปแบบของมาลัยก็อาจจะทำเป็นรูปหัวใจ มาลัยโซ่ ให้เหมือนกับโซ่ทองคล้องใจ และเลือกใช้ริบบิ้นสีทองที่เป็นสีมงคล

สีของดอกไม้ที่นิยมในการทำมาลัยคือสีใด?

“ใช้ได้ตั้งแต่สีขาวเขียว ชมพู แดง แต่ในปัจจุบันจะนิยมเป็นสีอ่อนค่ะ เช่น สีชมพู แต่ในอดีตส่วนมากบ่าวสาวจะชอบใช้เป็นสีแดงเขียว ส่วนสีริบบิ้นจะเริ่มมาเปลี่ยนเทรนด์ตอนงานแต่งงานของคุณนุ่น – วรนุช ที่ใช้เป็นผ้าแก้วอ่อนๆ หรือเห็นได้ชัดจากงานคุณตุ๊กกี้ก็สวยงามเช่นกันค่ะ ซึ่งสายริบบิ้นก็เริ่มเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ในตอนนั้น อาจจะเพราะด้วยสื่อโซเชียลมันแพร่หลาย จึงทำให้หลายคนเห็นแบบที่ดาราใช้กันมากขึ้นและอยากที่จะทำตาม เลยส่งผลให้ช่างทำมาลัยหลายคนเปลี่ยนแปลงแบบ และเปลี่ยนแปลงรูปแบบกันออกไปค่ะ เช่น จากที่เคยนิยมเป็นอุบะก็เปลี่ยนไปแล้ว”

มาลัยบ่าวสาว

สีริบบิ้นที่ห้ามใช้กับมาลัยคล้องคอบ่าวสาว

“สีดำค่ะ เพราะเป็นสีที่ใช้ในงานศพ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบ่าวสาวด้วยว่าอยากได้สีไหน ถ้าบ่าวสาวบอกมาว่าขอสีดำ อันนี้ก็ไม่ว่ากันนะคะ แต่สีที่นิยมเลยก็คือสีทอง ซึ่งหลังๆ ก็เริ่มนำผ้าแก้วมาใช้มากขึ้น แต่ถ้าเบื่อก็สามารถใช้ดอกไม้ร้อยเป็นมาลัยทั้งสายเลยก็ได้ ก็จะเหมือนงานของอินเดีย ที่นำดอกไม้มาร้อยเป็นเส้นเดียวก็สามารถนำมาประยุกต์ได้เช่นกันค่ะ”

มาลัยบ่าวสาว

ราคามาลัยบ่าวสาวในปัจจุบันประมาณเท่าไหร่?

“ถ้าตามปากคลองตลาดทั่วไปก็ 600-800 หรือ 1,500 ค่ะ แต่ถ้าสั่งทำขึ้นมาใหม่ ดีไซน์ใหม่ ก็ 2,500 ขึ้นไป เพราะเป็นการร้อยขึ้นมาใหม่หมดเลย ไม่ได้นำมาประกอบ ก็ขึ้นอยู่กับลูกค้าว่าอยากได้แบบไหนค่ะ”

จะสั่งทำมาลัยบ่าวสาวใช้เวลานานมากน้อยแค่ไหน?

“ถ้าแบบนำมาประกอบก็ไม่นานค่ะ หรือมาหาซื้อแถวปากคลองตลาดก็มีแบบสำเร็จรูปขายเลย แต่ถ้าต้องการงานฝีมือ ควรคุยกับช่างร้อยมาลัยล่วงหน้า 1 อาทิตย์ เพื่อที่จะได้คุยและทำความเข้าใจกันว่าอยากได้แบบไหนเป็นพิเศษ และ ให้เวลาช่างในการทำค่ะ”

สุดท้ายอยากฝากอะไรถึงบ่าวสาวที่ต้องการหาซื้อมาลัยคล้องคอไหมคะ?

“ถ้าบ่าวสาวมั่นใจแล้วว่าอยากได้มาลัยแบบนี้ ก็อย่าไปต่อราคาช่างมาลัยเลยนะคะ เพราะมาลัยเป็นงานฝีมือ กว่าจะกรองได้แต่ละพวงใช้เวลานาน เป็นงานประณีต และควรให้เวลากับช่างสักหน่อยนะคะ เพราะแต่งงานทั้งทีใช้มาลัยเต็มที่ก็แค่ 2  คู่ในงานเช้ากับงานเย็น ดังนั้นก็ลงทุนไปเลย เพื่อจะได้มีมาลัยคล้องคอสวยๆ เป็นศิริมงคลในงานแต่งด้วยค่ะ”

ฟังคำแนะนำจากคุณพิมพ์นิภา ไปแล้วก็ได้ทราบถึงรายละเอียดมาลัยมากขึ้นแล้วใช่ไหมคะ ซึ่งบ่าวสาวสามารถลองดูแบบมาลัยก่อนได้ตามอินเทอร์เนต เพื่อที่จะได้มีแบบไว้ในใจไปให้ช่างมาลัยได้ดู จะได้มีมาลัยสวยๆ ไว้คล้องคอในงานแต่งงานไงคะ เพราะฉะนั้นบ่าวสาวลองปรึกษากันก่อนนะคะว่าชอบมาลัยแบบใด จากนั้นก็ควงแขนกันไปสั่งทำหรือหาซื้อได้เลย

Read More : มาลัยบ่าวสาว…มาลัยมงคลในวันแต่งงานที่ต้องคล้อง

ภาพจาก : Pinterest.com , Sanook.com

Dad Bod รูปร่างผู้ชายไม่เพอร์เฟกต์แต่อบอุ่นกำลังดีแมตช์เสื้อผ้ายังไงให้ลงตัว

Dad Bod คืออะไร?? คือ รูปร่างผู้ชาย ประมาณไหน?? มาดูกัน

เวลาหนุ่มๆ มองตัวเองในกระจกแล้วรู้สึกภูมิใจกับรูปร่างตัวเองมากน้อยแค่ไหน ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องหุ่นดีฟิตเปรี๊ยะกล้ามปูเท่านั้นนะที่จะทำให้คุณรู้สึกชื่นชมในหุ่นตัวเอง เพราะความมั่นใจบวกกับการมีสุขภาพกายและใจที่ดี ยังคงมีความสุขกับการกินดื่มบ้างตามประสาผู้ชาย จะไม่ทำให้คุณมีความสุขมากกว่าเหรอ แพรว wedding เลยอยากนำเสนออีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่จะทำให้หนุ่มๆ รู้สึกภูมิใจใน รูปร่างผู้ชาย สไตล์แบบตัวเอง

Dad Bod มาจากคำว่า Dad ที่แปลว่า พ่อ รวมกับคำว่า Bod ที่มาจากคำว่า Body ที่แปลว่ารูปร่าง รวมๆ แล้ว Dad  Bod จึงหมายถึงคนที่มีรูปร่างเหมือนพ่อ หรือผู้ชายที่มีรูปร่างปกติทั่วไป มีพุงเล็กน้อย ไม่ถึงกับอ้วนลงพุงจนน่าเกลียด แต่ก็ไม่ได้หุ่นเฟิร์มจนเห็นซิกซ์แพ็กเป็นมัดๆ Dad Bod จะรักษาสมดุลระหว่างการกิน การดื่ม และการออกกำลังกาย ผู้ชายที่มีหุ่นแบบนี้จะมีไลฟ์สไตล์ประมาณว่า เข้ายิมบ้างแต่ไม่บ่อย ชอบดื่มเบียร์หนักในวันหยุด และก็สนุกกับการกินแบบไม่กลัวอ้วน

แพรว wedding เลยนำการแต่งกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ชายหุ่น Dad Bod มาให้ดูถึง 4 สไตล์เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ชายที่มีรูปร่างใหญ่แต่ไม่อ้วน

รูปร่างผู้ชาย

เสื้อยืดคอวีพอดีตัว อาจแมตช์เข้ากับกางเกงยีนสีน้ำเงินหรือกากี คาดด้วยเข็มขัดสาน จะทำให้คุณกลายเป็นหนุ่มที่แนวโดยไม่ต้องสไตลิ่งอะไรให้มากมาย แถมหากเอาชายเสื้อไว้ในกางเกงยังเป็นลุคสบายๆ ที่ใส่ไปงานแต่งแบบไม่เป็นทางการหรืองานปาร์ตี้ก็ได้นะ

รูปร่างผู้ชาย

จากลุคแรก ลองเพิ่มเสื้อเชิ้ตแขนสั้นพอดีตัว หรือจะเป็นเชิ้ตแขนยาวก็ได้ แนะนำให้พับแขนเสื้อขึ้นสักนิดเพื่อให้ลุคที่ดูผ่อนคลายไม่อึดอัด และหากไม่มั่นใจอยากปิดพุงน้อยๆ ก็อาจจะติดกระดุมพรางหุ่นสักนิด โดยติดจากกระดุมเม็ดล่างเพียงแค่ 3 เม็ด แต่ถ้ามั่นใจในหุ่นสุดอบอุ่นก็ปล่อยไปเลยตามสบาย จากนั้นก็เลือกเติมความเท่ด้วยสร้อย นาฬิกา และแหวนเงิน ก็จะทำให้ลุคของหนุ่มๆ ดูเป็นทางการมากขึ้น

รูปร่างผู้ชาย

ถ้าคุณจะใส่สูท ขอแนะนำให้เลือกแบบกระดุมเม็ดเดียว เพราะการใส่สูทกระดุมสองแถวจะเน้นรูปร่างมากเกินไปจนทำให้คุณดูอึดอัด ส่วนเรื่องสี คุณไม่จำเป็นต้องใส่สีเข้มเสมอไป เพราะสามารถใส่สีอ่อนๆ ได้ รวมถึงสีขาว แต่ที่ไม่แนะนำและห้ามเด็ดขาดเลยคือ สูทลายขวาง เพราะจะยิ่งทำให้รูปร่างดูขยายจนกลายเป็นคนอ้วน

หากเลือกสูทแบบที่เหมาะกับตัวเองได้แล้ว ก็เลือกแอคเซสซอรี่เสริมหล่ออีกนิดได้เลย >>> 5 สไตล์เนคไท & โบไท แมตช์ลุค ชุดเพื่อนเจ้าบ่าว สไตล์ Spring

ภาพ www.pinterest.com

เช็คลิสต์ฉบับเต็ม! ข้าวของอะไรที่ต้องใช้ในพิธีปูเตียงเรียงหมอน

พิธีปูเตียงเรียงหมอน ต้องเตรียมอะไรบ้าง เช็กเลย…

พิธีปูเตียงเรียงหมอน คือ พิธีจัดปูที่นอนในห้องหอคืนส่งตัว เพื่อช่วยเสริมมงคลให้กับชีวิตคู่ของบ่าวสาว โดยผู้ใหญ่ที่จะสามารถมาทำพิธีนี้ให้ได้จะต้องเป็นคู่สามีภรรยาที่ครองรักกันมายืนยาว เป็นครอบครัวที่อบอุ่นและสมบูรณ์แบบ เพื่อที่บ่าวสาวจะได้ครองเรือนและครองตนเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ทั้งสองท่านนี้ เพราะฉะนั้นถ้าจะให้พิธีนี้เป๊ะแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ข้าวของที่ต้องใช้ก็ต้องเช็กให้ครบ มีอะไรบ้างไปดูกันเลย

สิ่งที่ต้องมีในพิธี

  • หินบดยา  1 ก้อน หมายถึง จิตใจหนักแน่น เเต่เดิมใช้ก้อนเส้าหรือหินเตาไฟสำหรับหุงต้ม แต่เห็นว่ามีคราบเขม่าสีดำสกปรกง่าย จึงเปลี่ยนมาใช้หินบดยาแทน สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาและร้านขายอุปกรณ์ทางการแพทย์
  • แมวคราว (แมวตัวผู้ที่อายุมากแล้ว) 1 ตัว หมายถึง อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน ในอดีตใช้เเมวตัวผู้เเบบมีชีวิตจริง เเต่ปัจจุบันสามารถใช้รูปปั้นหรือตุ๊กตาแทนก็ได้
  • ไก่ขาว 1 ตัว หมายถึง ขยันหมั่นเพียร สามารถใช้รูปปั้นหรือตุ๊กตาแทนก็ได้
  • ไม้เท้า 1 อัน  หมายถึง ครองรักกันจนแก่เฒ่า
  • ฟักเขียว 1 ผล  หมายถึง ให้อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
  • ถั่วและงา อย่างละ 1 ถุง หมายถึง ความเจริญงอกงาม
  • ภาชนะใส่น้ำ 1 ที่  หมายถึง ความสามัคคีกลมเกลียวเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
  • เครื่องนอนของเจ้าบ่าว เจ้าสาว สีตามความเหมาะสมอย่าง สีชมพู สีฟ้า หรือเลือกตามความชอบของคู่บ่าวสาว

ข้าวของเครื่องใช้ที่ได้กล่าวไปนี้ เป็นที่มาของคำอวยพรบ่าวสาวที่ว่า “ขอให้อยู่เป็นสุขเย็นเหมือนฟักแฟง จิตใจหนักแน่นเหมือนหินบดยา และให้อยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนเหมือนแมวคราว” คู่รักที่ไม่สะดวกจัดเตรียมอุกปกรณ์ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านรับจัดขันหมากที่มีขายเป็นชุดรวดเร็วทันใจไม่ต้องวุ่นวายให้เสียเวลา

อ่านเพิ่มเติม เสริมความเป็นมงคลด้วยข้าวของ 4 อย่างที่ต้องมีในพิธีรดน้ำสังข์

ภาพเปิดถ่ายโดย OAT-CHAIYASITH’s Teama a a a a a a

4 ธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้องบ่าวสาวควรรู้ไว้ในพิธีรับไหว้

พิธีรับไหว้ จัดให้เป๊ะ ผู้ใหญ่ปลื้ม

พิธีรับไหว้ ถือเป็นอีกหนึ่งพิธีสำคัญในงานแต่งพิธีไทย เพราะเป็นการแสดงออกถึงการมีสัมมาคารวะและนอบน้อมต่อบิดามารดารวมถึงบรรดา ญาติผู้ใหญ่ของคู่บ่าวสาว หลายๆ คนคงรู้จักและเคยได้ร่วมในพิธีอันดีงามนี้กันมาบ้างแล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้ธรรมเนียมปฏิบัติที่ถูกต้อง ด้วยเหตุนี้เราจึงนำ 4 ธรรมเนียมปฏิบัติควรรู้ในพิธีรับไหว้มาบอกเล่าไว้ ถึงคราวต้องรับหน้าที่บ่าวสาวเมื่อไหร่จะได้ปฏิบัติกันได้อย่างถูกต้องนะคะ

“การจัดที่นั่ง” ธรรมเนียมดั้งเดิมที่เปลี่ยนแปลงไป

พิธีรับไหว้ตามธรรมเนียมดั้งเดิมนั้น คู่บ่าวสาวจะต้องถือพานดอกไม้ธูปเทียนคลานเข้าไปไหว้ผู้ใหญ่ เพื่อเป็นการฝากเนื้อฝากตัวและแสดงถึงความเคารพนอบน้อม แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นการจัดสถานที่เตรียมไว้ อาจเป็นเก้าอี้หรือเสื่อให้ญาติผู้ใหญ่ได้นั่งต่อหน้าคู่บ่าวสาว ครั้นพอทำพิธีเสร็จจึงลุกออกไป ให้ญาติผู้ใหญ่ท่านอื่นได้เข้ามานั่งทำพิธีต่อ ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกของคู่บ่าวสาวให้ดำเนินพิธีการได้อย่างราบรื่นไม่ ขลุกขลัก และได้มุมถ่ายภาพที่สวยงาม

“ลำดับไหว้ผู้ใหญ่” ใครก่อนใครหลัง

ลำดับการไหว้ผู้ใหญ่ในพิธีรับไหว้จะเริ่มต้นที่พ่อแม่ของคู่บ่าวสาวก่อน แล้วค่อยไล่เรียงญาติผู้ใหญ่ไปตามลำดับความอาวุโส เช่น ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา โดยส่วนใหญ่หากทำพิธีที่บ้านของเจ้าสาว ทางเจ้าบ้านก็จะให้เกียรติญาติผู้ใหญ่ของเจ้าบ่าวได้ทำพิธีรับไหว้ก่อน

“กราบใคร” อย่างไรไม่เหมือนกัน

การกราบผู้ใหญ่ในพิธีรับไหว้จะมีธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างจากการกราบ ผู้ใหญ่ในโอกาสปกติทั่วไป โดยถ้าเป็นพ่อแม่ปู่ย่าตายายของคู่บ่าวสาวจะต้องกราบ 3 ครั้ง ไม่ต้องแบมือ ส่วนญาติอื่นๆ ให้กราบเพียงครั้งเดียวไม่ต้องแบมือเช่นเดียวกัน

ปิดท้ายให้สวยด้วย “พิธีเพิ่มเงินทุน”

หลังจากทำพิธีรับไหว้เสร็จ บางครอบครัวจะจัดให้มีพิธีเพิ่มเงินทุนแก่คู่บ่าวสาว โดยให้พ่อแม่หรือญาติพี่น้องของคู่บ่าวสาว (ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ใหญ่) ได้ใส่เงินเพิ่มเข้าไปในพานที่ใส่เงินรับไหว้ จะมากน้อยอย่างไรก็ได้ตามความสะดวก หลังจากนั้นจึงนำถั่วงาและแป้งประพรมพร้อมอวยพรแล้วมอบให้แก่คู่บ่าวสาว

แจกกันแบบสเต็ปบายสเต็ป กับขั้นตอนลำดับพิธีแต่งงานไทยฉบับสมบูรณ์

5 สิ่งต้องเช็คก่อนตัดสินใจเลือกเช่าชุดแต่งงานมือสอง-สาม-สี่…

หนึ่งในทางเลือกของการหาชุดแต่งงานมาใช้ในวันแต่งงานคือการ เช่าชุดแต่งงาน ซึ่งว่าที่เจ้าสาวส่วนใหญ่รับได้ที่จะใช้ชุดเช่านั้นๆ ต่อจากเจ้าสาวคนก่อน ด้วยเหตุผลที่ว่าชุดนั้นสภาพยังดี ไม่ต้องเสียเวลารอนานและที่สำคัญราคาไม่แพง ยิ่งเป็นชุดเช่าต่อๆ กันมาหลายมือหรือเป็นแบบเก่าหลุดเทรนด์ไปแล้วยิ่งราคาประหยัด ฉะนั้นใครไม่ซีเรียสแต่คิดว่าชอบใจกับชุดนี้ก็มักเซย์เยสได้ไม่ยาก

แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกชุดเช่าที่ว่านั้นง่ายแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่คุณต้องระวังและไม่ลืมนำไปประกอบการตัดสินใจเช่าชุดคือ 5 เรื่องต่อไปนี้ค่ะ

 

  • สภาพของชุดยังโอเคอยู่ไหม

แน่นอนว่าชุดที่ผ่านการใช้งานมานักต่อนักมันจะเสื่อมสภาพหรือชำรุดไปตามการใช้งาน ฉะนั้นอย่าเพียงแค่มองเผินๆ ผ่านๆ แล้วรู้สึกว่าชุดนี้ยังโอเค พอใส่ได้แล้วคิดว่าถูกเงินก็เลือกมาใช้ เพราะความโทรมของชุดจะทำให้ราศีเจ้าสาวของคุณดร๊อปไปได้ง่ายๆ แถมดีไม่ดี แขกที่มองมายังรู้สึกได้ถึงความเก่าและไม่สวยงาม แถมถ้าผ้าสีขาวกลายเป็นผ้าสีหม่นด้วยแล้วละก็ จะสะท้อนออกมาในภาพถ่ายที่เปิดมาดูเมื่อไหร่ รับรองว่าถอนหายใจเฮ้ออออแน่นอน

  • ใช้ในงานเอาทดอร์หรือเปล่า

เรื่องว่าจะจัดงานแต่งงานอินดอร์หรือเอาทดอร์มีผลอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะไม่ใช่ว่าชุดเช่าแค่เลือกมาให้เหมาะกับสไตล์งานแต่งก็เพียงพอซะที่ไหน ความเป็นชุดเช่าหมายถึงคุณยังคงต้องส่งชุดนั้นคืนไปยังร้านที่ปล่อยเช่า และยังต้องมีว่าที่เจ้าสาวคนอื่นๆ รอต่อคิวใช้อยู่ไงละคะ ฉะนั้นถ้าจะจัดงานแต่งเอาทดอร์ อย่าพยายามเลือกชุดเช่าที่หางลากยาวเสี่ยงจะเลอะเทอะและทำให้คุณต้องเสียค่าซักแห้งราคาแพงเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นราคารวมๆ ที่ต้องเสียไปกับชุดคนเท่ากับราคาสั่งตัดก็เป็นได้

  • เนื้อผ้าอำนวยในการแก้ไขให้เข้ากับรูปร่างไหม

ใช่ว่าจิ้มชุดที่ชอบมาแล้วจ่ายเงินค่าเช่าก็ใส่ได้เลยซะที่ไหน คุณต้องมีการแก้ไขชุดเช่าที่ว่านี้แน่นอน เว้นเสียแต่ว่าโชคดีมากที่รูปร่างของคุณกับเจ้าสาวคนก่อนใกล้เคียงกันจนไม่ต้องขยับขนาด แต่นั่นก็เกิดขึ้นยากมาก สิ่งที่ต้องพิจารณาคือ เนื้อผ้าของชุดเช่านั้นเปื่อยยุ่ยมากแค่ไหนแล้ว ผ่านการแก้ไขจนชุดช้ำมากถึงขั้นจับเบาๆ ผ้าก็ขาดเพราะมีรูเข็มเดิมคาอยู่หรือไม่ ถ้ารู้สึกว่าผ้านั้นบอบบางมากแล้ว ยอมเปลี่ยนแบบไปเอาชุดเช่าชุดอื่นที่เนื้อผ้ายังดีแทน แบบนั้นจะคุ้มค่าและสวยงามกว่านะคะ

  • ค่าประกันชุดและตำหนิ

อย่างที่บอกไปแล้วว่า ชุดเช่าคือชุดที่เมื่อใช้เสร็จแล้วคุณต้องทำการนำส่งคืนทางร้านเพื่อให้คนอื่นๆ ได้ใช้ต่อ ทางร้านส่วนใหญ่จึงตั้งกฎการทำประกันความเสียหายจากการใช้งาน คุณจึงควรศึกษาเงื่อนไขการรับผิดชอบหากชุดเสียหายเช่น เสียหายเท่านี้จ่ายเงินเท่าไหร่ แผลแบบไหนยอมความกันได้อะไรแบบนั้น นอกจากนี้เวลาที่ไปรับชุดอย่าลืมสำรวจตำหนิทั้งหลายบนชุดให้ละเอียดและแจ้งบอกกับทางร้านเสมอไม่ว่าจะเป็นตรงตะเข็บนี้ขาดนะ ต้องช่วงหลังด้ายรันหรืออะไรก็ตาม แล้วให้ทางร้านช่วยจัดการแก้ไขให้พร้อมใช้งานจึงนำชุดออกนอกร้าน และเมื่อส่งคืนก็อย่าลืมสำรวจให้ดีว่าเราได้ทำแผลใหม่ให้เกิดขึ้นกับชุดหรือเปล่า เพื่อจะได้แจ้งกับทางร้านแบบแฟร์ และรับผิดชอบกันไปตามความเสียหาย

  • เช็ควันรับและส่งชุดพร้อมรายละเอียดให้แม่นยำ

เมื่อตัดสินใจจะใช้ชุดที่ว่านี้แล้ว อย่าลืมเด็ดขาดที่จะนัดแนะวันรับชุดล่วงหน้าให้แม่นยำ เพราะถ้าชุดเดียวกันนี้มีคนใช้งานก่อนคุณ ต้องมั่นใจว่า ชุดที่จะมาถึงมือคุณนั้น ได้รับการแก้ไขขนาดเป็นตัวคุณเรียบร้อยแล้ว และรับชุดล่วงหน้าได้เมื่อไหร่ ชุดนี้ซักแห้งมาก่อนหรือยัง เมื่อจะส่งชุดเช่าคืน อย่าลืมถามทางร้านให้แน่ใจว่าสามารถส่งคืนได้ช้าสุดวันไหน และคุณเองต้องเข้มงวดในการส่งให้ตรงวันเพื่อว่าที่เจ้าสาวคนต่อไปจะได้ไม่มีปัญหาในการใช้งานเพราะคุณ

ภาพ : www.lightinthebox.com

4 เรื่องที่คู่บ่าวสาวมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับงานแต่งงาน

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กำลังจะเตรียม จัดงานแต่งงาน ทุกๆ ท่านคะ หากคุณกำลังอ่านบทความนี้อยู่ ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ เพราะบทความนี้จะช่วยคุณในการเปิดเผยชี้แจง ถึง 4 เรื่องที่คู่บ่าวสาว ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิด หรือหลงลืมละเลยไปเกี่ยวกับการจัดงานแต่งงาน ด้วยความที่เป็นมือใหม่กันทุกคน ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ค่ะ มาดูกันซิว่ามีอะไรบ้าง

 

  • พิธีกรนั้นเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ทำกันเองก็ได้

ความเป็นจริงแล้ว สำหรับงานเช้าที่เป็นพิธีการนั้นการจ้างพิธีกรหรือแม่งานที่มีประสบการณ์นั้นจะช่วยลดบรรยากาศความตึงเครียดที่มักจะเกิดขึ้นอยู่เป็นประจำในงานเช้าได้เป็นอย่างดีค่ะ บางคนอาจมองว่าไม่สำคัญแต่แท้จริงแล้ว สำคัญมากเลยล่ะค่ะ ลองนึกภาพดูนะคะว่า งานหมั้นที่เงียบๆไม่มีพิธีกร แขกเหรื่อที่อุตส่าเชิญมานั่งต้องคอยชะเง้อคอมองเพราะไม่รู้ว่าบริเวณเวทีหรือแท่นพิธีนั้นทำอะไรกันอยู่บ้าง ก็คงจะทำให้แขกเบื่อและงานกร่อยไปโดยปริยาย

  • ช่างภาพไม่ใช่สิ่งสำคัญ ไว้จองทีหลังก็ได้

นอกจากห้องจัดเลี้ยงแล้ว ช่างภาพและช่างวีดีโอแทบจะเป็นอย่างเดียวเลยค่ะ ที่แยกร่างไม่ได้ หมายความว่า ถ้าคุณชอบผลงานถ่ายภาพของเจ้าไหน แล้วอยากให้คนๆนั้น หรือทีมนั้นมาถ่ายภาพให้คุณ คุณควรรีบจองและวางมัดจำค่ะ เพราะช่างภาพเก่งๆ สมัยนี้ มักไม่ค่อย ใช้วิธีการ สร้างแบรนด์แล้วแยกทีมไปถ่าย เพื่อให้รับงานได้วันนึงหลายๆเจ้ากันแล้ว โดยมาก ช่างภาพ 1 ทีม ก็จะมีช่างภาพประจำซึ่ง แน่นอนว่า 1 คน จะสามารถรับได้แค่ 1 งานต่อช่วงเวลาเท่านั้น  เพราะฉะนั้น หากว่าคุณจองช้า คุณอาจจะไม่ได้คิวของช่างภาพที่คุณชอบ กลายเป็นว่าต้องจำใจไปเอาเจ้าอื่นที่แพงกว่าหรือไม่ได้ชอบมากนักไปโดยปริยาย

  • วันงานจะต้องทานให้น้อยที่สุด จะได้ดูผอมๆ

ด้วยความที่เจ้าสาวบางคนเลือกชุดแต่งงาน แบบเกาะอกทรง mermaid เข้ารูปโชว์สัดส่วนเต็มที่วันงานก็เลยมุ่งมั่นว่าจะไม่ทานอะไรนอกจากจิบน้ำเล็กน้อยขอบอกเลยค่ะว่า “อย่าเชียว” เพราะนอกจากจะเสี่ยงจากภาวะขาดน้ำ ปากแห้งทาลิปสติกไม่สวย แล้วยังอาจจะเป็นลมเพราะขาดอาหารและตื่นเต้นเพราะต้องขึ้นเวทีได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนี้ อาการแรกที่จะเกิดก่อนใครเพื่อนนั่นคืออาการชุดหลวม ต้องคอยกระโดดดึงขึ้นอยู่ตลอดให้เสียบุคลิกค่ะ ดีไม่ดี เดินเข้างานแค่เหยียบชายกระโปรงตัวเองนิดเดียว ชุดหลุดลงมาถึงเอว คงดูไม่จืดแน่ๆค่ะ

หากอยากลดหุ่น ลดให้หุ่นคงที่ก่อนวันfitting ชุดครั้งสุดท้ายซัก 1 เดือน หลังจากนั้นพยายามอย่าลดและอย่าเพิ่มเพราะไม่อย่างนั้นปัญหาเรื่องชุดตามมาแน่นอนค่ะ วันงานก็ทานอาหารแต่พอหอมปากหอมคออย่ามากไป อย่าน้อยไปเอาพอมีแรงยิ้มสดใสๆ สวยๆวันงานนะคะ

  • เลือกอะไรก็แล้วแต่ให้เอาราคาเป็นตัวตั้ง อันไหนถูกกว่าเลือกอันนั้น

พูดกันตามตรง ของถูกและดีนั้นอาจมีอยู่จริงค่ะ แต่เชื่อเถอะว่าน้อยมาก ถ้าจะให้ดีลองเปลี่ยนวิธีการมองใหม่นะคะ ลองมองของที่เหมาะสมกับคุณค่าและราคานั้นคือดีที่สุดเลยค่ะ หากคุณเป็นคู่บ่าวสาวที่มีการหาข้อมูลมาพอสมควรคุณจะพอทราบว่า ในบรรดาสิ่งของและบริการที่เกี่ยวข้องกับ งานแต่งงานทั้งหมดนั้น มีอยู่มากมายหลายเรทราคา ตั้งแต่หลักไม่ถึงพันบาท ไปจนถึงหลักหลายล้านบาท การตัดสินใจซื้อบริการอะไรที่ถูกเข้าว่า เพราะมันสร้างหายนะมานักต่อนักแล้วนะคะ เข้าตำรา เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย ทางที่ดี ใช้งบที่มีเป็นตัวตั้ง ยอมเสียเงินในราคาที่เหมาะสมกับงานและงบประมาณที่ตั้งไว้ อาจจะมากหน่อยแต่เป็นสิ่งที่มีคุณภาพ ไว้ใจได้ ที่เดียวให้จบดีกว่าค่ะ ดีกว่าเจ็บแล้วยังไม่จบ มันจะยิ่งช้ำใจไปกันใหญ่นะคะ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : brides.com, huffingtonpost.com

สำหรับคู่รักที่คิดว่าจะแต่งงานกัน “การตรวจสุขภาพ” คือเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

ปัจจุบันมีโรคภัยไข้เจ็บมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อ หรือโรคที่เกิดจากกรรมพันธุ์ซึ่งอาจจะมากจากฝ่ายว่าที่เจ้าบ่าว หรือว่าที่เจ้าสาว ดังนั้น การตรวจสุขภาพ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าคนที่เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจะไม่ทำให้เราต้องเป็นโรคติดต่อ หรืออาจเกิดปัญหาในระยะยาวในตอนมีลูก ถือเป็นการวางแผนครอบครัวไปด้วยในตัว

 

การตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนแต่งงาน โดยทั่วไปคุณหมอก็จะถามประวัติครอบครัว และตรวจร่างกาย ตรวจปัสสาวะ ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด

ตรวจหาโรคเลือดทางพันธุกรรม เช่น

  • โรคธาลัสซีเมีย เป็นโรคที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมมากที่สุดในประเทศไทย สาเหตุของการเกิดโรคมากจากการที่เกิดจากความผิดปกติของยีนในการควบคุมการสร้างฮีโมโกลบินซึ่งเป็นสารสำคัญในเม็ดเลือดแดง ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการตัวซีด ตับม้ามโต หากมีอาการรุนแรงอาจทำให้เสียชีวิตได้ หากคู่แต่งงานที่วางแผนมีบุตรเลยจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจ
  • โรคฮีโมฟิเลีย เป็นโรคที่เลือดออกแล้วหยุดยาก สาเหตุจากความผิดปกติของหลอดเลือด เกร็ดเลือด หรือระบบการแข็งตัวของเลือด เป็นโรคที่สามารถถ่ายทองทางกรรมพันธุ์ซึ่งมีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่เป็นโรคนี้ แต่ผู้หญิงจะมีความผิดปกติทางกรรมพันธุ์ ซึ่งไม่แสดงออกแต่สามารถถ่ายทอดไปให้ลูกหลานได้ ผู้หญิงส่วนน้อยมากที่อาจมีอาการของโรคนี้ ซึ่งจะต้องมีทั้งพ่อและแม่ที่มีกรรมพันธุ์ของโรคนี้ทั้งคู่
  • ภาวะพร่อง G 6 PD การขาดเอนไซม์ G 6 PD ในเม็ดเลือดแดงทำให้เม็ดเลือดแดงแตกง่าย ซึ่งเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม ส่วนใหญ่พบในเพศชาย ผู้ที่เป็นโรคจะมีอาการตัวเหลือง ซีด เพลีย ปัสสาวะคล้ายสีโคล่า ไม่มีการรักษาให้หายขาดได้ ผู้เป็นโรคไม่ควรใช้ลูกเหม็น และไม่ควรรับประทานถั่วปากอ้า เพราะเม็ดเลือดแดงอาจแตกง่าย

ตรวจโรคติดต่อต่างๆ เช่น

  • โรคเอดส์ ซึ่งเป็นโรคที่ติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ และติดต่อทางเลือด และยังติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ด้วย
  • เชื้อซิฟิลิส หรือกามโรค ติดต่องทางเพศสัมพันธ์เช่นกัน และสามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้

ตรวจหาภูมิคุ้มกัน และการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และสำหรับว่าที่เจ้าสาวต้องตรวจหาภูมิคุ้มกันหัดเยอรมันด้วย

นอกจากตรวจเลือดเพื่อหาโรคอันตรายต่างๆ ข้างต้นแล้วยังต้องตรวจกรุ๊ปเลือดเพื่อบันทึกไว้ในกรณีฉุกเฉินจะได้หาเลือดได้

จะเห็นว่าโรคที่ว่ามาข้างต้นน่ากลัว และอันตราย ส่งผลต่อชีวิตในระยะยาว บางรายก่อนแต่งงานมีสุขภาพดี สมบูรณ์ แต่หลังแต่งงานงานแล้วต้องติดโรคจากสามี หรือภรรยา ทำให้ส่งผลเสียในชีวิตการแต่งงาน หรือบางรายอาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยที่เกิดมา

“ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ” คำกล่าวนี้เห็นจะจริง ดังนั้นการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในปัจจุบัน เพราะเป็นการป้องกันตัวเองจากโรคติดต่อ ทั้งคู่สามี-ภรรยา และลูกน้อยจะได้มีสุขภาพที่ดี

ดูเรื่องราวความงามและสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

cr : si.mahidol.ac.th, conceiveplease.com

เทคนิค ยืดอายุดอกไม้ ขั้นเทพ ช่วยเซฟความสดใสให้อยู่ได้นานในงานแต่ง

บางครั้งการจัดเตรียมตกแต่งสถานที่งานแต่งก็ต้องจัดกันล่วงหน้าก่อนงานเริ่มหลายชั่วโมง แถมงานแต่งส่วนใหญ่ก็ใช้เวลาลากยาวไปอีกเฉลี่ยประมาณ 3 ชั่วโมง จึงทำให้บ่าวสาวหลายคู่กังวลใจว่า เหล่ามวลผกานานาพันธุ์ที่นำมาตกแต่งไว้ที่งานนั้นจะเหี่ยวเฉาร่วงโรยลงไปหรือไม่ สบายใจได้เลยค่ะ เพราะแค่ทำตามวิธีต่อไปนี้ก็จะช่วย ยืดอายุดอกไม้ ได้ รับรองว่าดอกไม้อยู่ทนเหมือนรักของคุณที่ยืนยาวแน่นอน…ฮิ้วววว

1. สำหรับดอกไม้ที่ต้องการน้ำมากและมีความบอบบางสูงอย่างไฮเดรนเยีย มีเทคนิคการดูแลก่อนใช้งานง่ายๆ คือ ตัดก้านให้สั้น หลังจากนั้น มัดถุงน้ำหรือต่อหลอดน้ำเตรียมไว้ก่อน แล้วค่อยนำมาปักตกแต่งเป็นอย่างสุดท้าย

2. วิธีหนึ่งที่ทำให้ดอกไม้สวยสดเปล่งปลั่งคือเลี้ยงให้อิ่มน้ำมากๆ ก่อนใช้งานและไม่วางแบบตากแดด-ตากลม

3. ไม่ควรฉีดน้ำบริเวณตัวดอกยิปโซ เนื่องจากดอกยิปโซดูดน้ำได้ง่าย จึงอาจทำให้ตัวดอกช้ำน้ำและดำเร็ว หากต้องการฉีดให้มีหยดน้ำเกาะเพื่อเพิ่มความสวยงาม ต้องมั่นใจว่าอากาศบริเวณดังกล่าวถ่ายเทได้ดี

4. ดอกกล้วยไม้ไวต่อก๊าซเอทิลีน ซึ่งเป็นสารเร่งการสุกของผลไม้ (พบได้ในผลไม้สุกทุกชนิด) จึงไม่ควรวางดอกกล้วยไม้ไว้ใกล้ๆ หรือบริเวณเดียวกันกับผลไม้สุกเพราะจะทำให้ดอกเหี่ยวเร็ว

5. ดอกบัวเป็นไม้น้ำ ก่อนใช้งานต้องแช่ก้านไว้ในน้ำเย็นผสมน้ำแข็งประมาณ 30 นาที จากนั้นคลุมพลาสติกไว้อย่างมิดชิดเพื่อป้องกันลมที่ส่งผลให้น้ำในดอกบัวระเหยจนทำให้ดอกดำเร็ว

6. ควรเด็ดใบเฉพาะบริเวณก้านที่จุ่มลงไปในน้ำ เพราะแบคทีเรียที่แฝงตัวในน้ำจะส่งผลให้ดอกไม้และใบที่พ้นน้ำเฉาและเน่าตามได้

เห็นไหมคะว่าง่ายนิดเดียว แต่ในวันงานเราขอแนะนำว่าบ่าวสาวไม่ต้องลงมาจัดการสิ่งเหล่านี้ด้วยตัวเองหรอกนะคะ แค่ไหว้วานคนสนิทให้ช่วยเหลือก็พอ

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ อีกเพียบเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพ : modwedding.com

9 ไอเดียให้บ่าวสาวจัดงานแต่งงานไม่มากไม่น้อย แต่ดูแล้วสุดหรูหรา

คนแต่งตัวดีไม่จำเป็นต้องประโคมของแบรนด์เนมแพงๆ ตั้งแต่หัวจรดเท้าแต่ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกให้ความสำคัญกับของชิ้นไหนบ้าง งานแต่งงานโก้หรูดูดีก็ไม่จำเป็นต้องเยอะไปซะทุกอย่าง ถ้าบ่าวสาวกำลังงงกับคำบอกเล่าที่ว่านี้ แพรว wedding ได้ไปไถ่คุณนัท – จิรายุ นิ่มคง เวดดิ้งแพลนเนอร์มือเก๋าถึงไอเดียและเทคนิคในการ จัดงานแต่งงาน ให้ออกมาเรียบหรู ไม่มากและไม่น้อยเกินไป

1. โทนสี 

งานหรูส่วนใหญ่มักใช้สีน้อยๆ เช่น คู่สีน้ำเงิน – เงิน และน้ำตาล – ทอง ซึ่งเป็นสีที่ดูหรูหราและยังช่วยขับกัน สัดส่วนของสีที่ใช้ก็สำคัญ ถ้าสีหลักเป็นโทนขรึม สีรองที่จับมาคู่กันก็ควรเป็นโทนที่ช่วยขับสีหลักให้เด่นขึ้น เคล็ดลับสำคัญของการจัดงานให้หรูโดยใช้สีน้อยๆ คือ ต้องอิงจากสีของสถานที่จัดงานเป็นหลัก ไม่เน้นการเปลี่ยนรูปลักษณ์ของสถานที่นั้นมากนัก

คุณนัทเสริมว่า เราต้องแยกความหรูหรากับความอลังการออกจากกันเสียก่อน หากต้องการ เน้นความอลังการ เราจะโฟกัสไปที่การเปลี่ยนลุคของสถานที่นั้น แต่กับงานเรียบหรูโก้จะต้องคำนึงถึงสีเดิมของสถานที่ เช่น ห้องฉัตราบอลรูม โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ เป็นโทนม่วง – ทอง – ชมพู ขณะที่ห้องแกรนด์ฮอลล์ โรงแรมพลาซ่า แอทธินีเป็นโทนสีน้ำตาล – ครีม – ทอง การเลือกใช้สีที่เข้ากับสถานที่เดิมทำให้งานดูเรียบหรูได้ง่าย เพราะไม่ต้องแตกไปใช้สีโทนอื่นให้กระจัดกระจาย ทั้งยังประหยัดงบประมาณ (ไม่ต้องทุ่มงบไปกับการปรับแต่งอะไรมาก) เน้นโชว์ความสวยงามของโครงสร้างเดิม ซึ่งโรงแรมห้าดาวส่วนใหญ่ตกแต่งได้หรูหราอยู่แล้ว

2. ตัวอักษรหรือฟ้อนต์ 

เลือกลักษณะฟ้อนต์ให้เหมาะสมกับพื้นหลัง ถ้าพื้นหลังมีลวดลายเยอะ ฟ้อนต์ก็ควรจะดูน้อย แต่หากชอบฟ้อนต์สุดวิจิตร พื้นหลังก็ไม่ควรเล่นอะไรเยอะ อย่างไรก็ตาม เราสามารถใช้ฟ้อนต์วิจิตรบนพื้นหลังเยอะได้เช่นกัน แต่สไตล์เยอะบวกเยอะต้องคำนึงว่า ใช้กับวัสดุประเภทไหนเป็นหลัก เช่น การ์ดแต่งงานที่ทั้งฟ้อนต์และลายดูเยอะ ก็ต้องอย่าพิมพ์ลายด้วยวัสดุหรือสีที่จะยิ่งขับให้ลวดลายดูเด่นแข่งกับตัวอักษร หลักสำคัญคือ ต้องเลือกวัสดุหรือวิธีการพิมพ์ที่ทำให้ทั้งสององค์ประกอบนี้ไม่แย่งความเด่นกันเอง

3. การ์ด 

แม้ไม่ได้มีส่วนกับการตกแต่งในวันงาน แต่การ์ดคือด่านแรกที่แขกได้เห็นงานของคุณ ช่วงหลังบ่าว – สาวนิยมใช้การ์ดแผ่นเดียว (Single Page) สไตล์เรียบโก้กันมาก แต่เพราะความนิยมที่มากขึ้น ทำให้แต่ละคู่ต้องเพิ่มลูกเล่นเข้าไปเพื่อไม่ให้เหมือนคนอื่น เช่น ปรับไซส์ให้ใหญ่ขึ้นกว่าปกติ ปรับเป็นแนวนอน ปรับความหนาความบางของวัสดุ เช่น ใช้ไม้วีเนียร์ แผ่นอะคริลิก หรือกระดาษแปลก ๆ มาทำเป็นการ์ด เป็นต้น

4. โลโก้

งานเรียบหรูมักไม่แตกดีไซน์ออกไปไกล แต่ใช้ประโยชน์จากโลโก้ที่ออกแบบมาแล้ว พูดง่าย ๆ ก็คือ ใช้ประโยชน์จากตัวการ์ดให้มากที่สุด ดึงดีไซน์จากการ์ดมาใช้กับกล่องใส่ซอง แบ็กดร็อปและเวทีใหญ่ ไม่จำเป็นต้องแตกไอเดียออกไปให้วุ่นวาย แค่รู้จักปรับและต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่แล้ว

5. ตกแต่งแบบ Oversized

การเลือกให้ความสำคัญกับจุดดึงดูดสายตาบางจุดและทำจุดนั้นให้ใหญ่กว่าปกติ เป็นการดึงความสนใจจากแขกที่ง่ายที่สุด

6. ความวิ้งวับ 

จิลเวลรี่และคริสตัลต่าง ๆ ช่วยให้งานดูดีขึ้นได้ แต่ท่องไว้ว่า อย่าประโคมเยอะ ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นงานเกิน ๆ ได้

7. ดนตรี 

ส่วนใหญ่ต้องการเสียงดนตรีคลอเบา ๆ คุณนัทแนะนำว่า ใช้แค่วงทริโอ (เครื่องดนตรีสามชิ้น) ก็เพียงพอ โดยเน้นที่เครื่องสายและเครื่องเป่า เพราะจะช่วยให้บรรยากาศหรูดูมีรสนิยมมากขึ้น

8. แสงสี 

ช่วงพิธีการไม่ควรย้อมสีไฟ แสงไฟแชนเดอเลียร์ปกติก็ทำให้งานหรูดูสวยอยู่แล้ว แต่หลังพิธีการจะเล่นสีอะไรบ้างก็ตามใจชอบ

9. สีดอกไม้ 

งานหรูส่วนใหญ่ใช้สีดอกไม้ไม่เยอะ มักเน้นสีเดียวและนิยมดอกไม้สีขาว แต่เลือกใช้หลายชนิดเพื่อให้มีเท็กซ์เจอร์ที่หลากหลาย เช่น ไฮเดรนเยียขาว กุหลาบขาว ไลเซียนทัสขาว พีโอนีขาว อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับข้อด้อยที่ว่า แม้ดอกไม้ขาวจะทำให้งานดูหรูและสะอาดตาแต่เมื่อถ่ายภาพออกมาอาจไม่โดดเด่นเท่างานที่เน้นสีสัน

คุณนักดนตรีช่วยขยายความว่า แจ๊ซดูน่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะจังหวะดนตรีให้ความรู้สึกอบอุ่นจากเสียงอะคูสติกของดับเบิลเบส แต่ก็ยังฟังสนุก ท่วงทำนองไม่เบาและไม่ดังเกินไป หากต้องการดนตรีที่หรูหรามาก ๆ แน่นอนว่าควรใช้เครื่องดนตรีที่ดูมีราคาอย่างแกรนด์เปียโน หรือลดความอลังการลงมาหน่อยด้วยการเลือกเป็นอัพไรต์เปียโน และอีกสองชิ้นแนะนำให้เลือกเป็นกลองชุดกับดับเบิลเบส หากเปียโนดูยุ่งยากไปจะเปลี่ยนเป็นกีตาร์หรือเลือกแซ็กโซโฟนแทนกลองชุดก็ได้เช่นกัน (ดับเบิลเบสแนะนำว่าน่าจะคงไว้) สรุปง่ายๆ คือ เราเลือกแมตช์เครื่องดนตรีสามชิ้นเพื่อสร้างเสียงดนตรีที่ให้บรรยากาศหรูหราได้หลายทางเลือกดังนี้ เปียโน หรือกีตาร์ / กลองชุดหรือแซ็กโซโฟนหรือไวโอลิน / ดับเบิลเบส

ดูไอเดียงานแต่งงานและคำแนะนำดีๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่อีกเพียบ คลิกเลย!

ขอบคุณ : จิรายุ นิ่มคง Jirayu The Wedding Planner โทร.08-6998-9339

มาดูแบบ ผมเจ้าสาว หน้าม้า หลากหลายลุค จัดหนักตั้งแต่คิ้วท์ๆจนถึงแกลมสุด!

ว่าที่เจ้าสาวผมหน้าม้ามามุงเร็วค่ะ เราจัดแบบ ผมเจ้าสาว สำหรับสาวๆที่ไว้หน้าม้าโดยเฉพาะ รวมทุกลุคตั้งแต่สไตล์น่ารักไปจนถึงหรูหราเลอค่า มาดูกันเลยค่ะว่าลุคแบบไหน ทำผมเจ้าสาวคู่กับผมหน้าม้าทรงไหนเพอร์เฟ็คสุด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ยุคนี้ ผมหน้าม้า กลายมาเป็นทรงผมฮิตติดลมบนของสาวๆหลายคน หลายช่วงอายุเลยว่ามั้ยคะ นอกจากจะเป็นทรงผมที่ช่วยให้หน้าดูเด็กลงแล้ว ผมหน้าม้ายังเป็นทรงผมที่สามารถช่วยปรับลุคของตัวเจ้าของได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นลุคแบ๊วๆ แนวสาวเกาหลีน่ากอด ลุดเปรี้ยวแบบสาวมั่น หรือจะปรับให้ดูหรูหราขึ้นมาก็ยังได้ ทำให้ยุคนี้เราได้เห็น ผมเจ้าสาว หลายคนเป็นผมหน้าม้าในวันแต่งงานกันมากขึ้น ว่าที่เจ้าสาวคนไหนที่ตอนนี้ยังไว้ผมหน้าม้าและตัดสินใจแล้วว่าเราจะเป็นอีกหนึ่งเจ้าสาวคนสวยที่ไว้ผมหน้าม้าในวันแต่งงาน มาดูกันเลยค่ะว่าเราจะแมทช์ผมหน้าม้าของเรากับทรงผมเจ้าสาวยังไงให้เรากลายเป็นเจ้าสาวในลุคสวยแบบที่เราต้องการ!

ผมหน้าม้าหนาแน่นตัดตรงแบบสาวมั่น

สาวๆที่ไว้ผมหน้าม้าทรงนี้มักจะมีลุคมั่นใจปนความน่ารักขี้เล่นในตัว ลองแมทช์ผมหน้าม้าทรงนี้เข้ากับผมเกล้ามวยสูง ประดับด้วยแอ็คเซศเซอรี่ขนาดกำลังดีเพิ่มความชัดเจนในสไตล์ของคุณ หรือดอกไม้สดสีสันสดใสก็ได้เหมือนกันค่ะ

ผมเจ้าสาว ผมเจ้าสาว

ผมเจ้าสาว
Source: Bridal Musings Wedding Blog

(คลิกอ่านหน้าต่อไปเลย)

รวมเทรนด์ เค้กแต่งงาน ในปี 2019 ทั้งสวยงามแถมอร่อยด้วยนะ

เค้กแต่งงาน สุดอินเทรนด์ สวยด้วยอร่อยด้วยในก้อนเดียว

เค้กแต่งงาน เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานแต่ง บ่าวสาวหลายคู่อาจจะยังไม่มีไอเดียในการเลือกเค้กแต่งงานก็ไม่แปลกค่ะ เพราะเค้กแต่งงานไม่ใช่สิ่งที่จะสั่งกันบ่อยๆ ในทุกๆ เทศกาลนี่หน่า เพราะฉะนั้นแพรว wedding เลยได้รวบรวมเทรนด์เค้กแต่งงานที่กำลังได้รับความนิยมในตอนนี้มาฝาก ที่ไม่ว่าจะด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงาม บวกกับรสชาติที่อร่อย จึงเป็นไอเดียที่เก๋กู๊ดที่บ่าวสาวจะปฎิเสธไม่ลงเลยล่ะจ่ะ

1. เค้กเมทัลลิค

กระแสเมทัลลิคกำลังมาแรงแซงโค้งไม่ว่าจะอะไรที่ใช้สีเมทัลลิคก็จะดูดีไปเสียหมด ไม่ว่าจะเสื้อผ้า หน้าผม รวมไปถึงเค้กแต่งงาน!!!  ไม่ว่าจะสีเงิน สีทอง สีนาค เมื่อจับคู่กับรูปทรงเรขาคณิตของตัวเนื้อเค้กแล้ว ยิ่งเพิ่มความแพงให้กับตัวเค้ก และขอบอกเลยว่าไม่ว่าจะตกแต่งคู่กับดอกไม้หรือจับคู่กับอะไรก็สวยและปังแน่นอนค่ะ

เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงาน

2. Naked Cake (หรือเค้กเปลือยเปล่า)

คุ้นตากันหรือไม่จ๊ะ กับเค้กที่เห็นเนื้อเค้กอย่างชัดเจน ปาดด้วยครีมบางๆ และตกแต่งด้วยดอกไม้หรือผลไม้สด เค้กแบบเปลือยเปล่ากำลังมาแรงเลยล่ะขอบอก แถมยังตอบโจทย์เจ้าสาวสายเฮลตี้ที่ต้องการให้เค้กมีครีมน้อยที่สุด เก๋ไก๋ด้วยการดีไซน์ที่เหมือนจะยังปาดครีมไม่เสร็จดี ก็ยิ่งเพิ่มความสวยแปลกแตกต่างให้กับตัวเค้กด้วย นอกจากนี้ยังสามารถหาผลไม้รสชาติเปรี้ยวๆ มาตกแต่งเพื่อเพิ่มรสชาติที่อร่อยให้กับตัวเค้กได้ด้วยนะจ๊ะ

เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงาน

3. เค้กเพ้นท์ลาย

เบื่อกับการนำพร๊อพส์มาตกแต่งเค้กหรือยังเอ่ย ถ้าเบื่อ งั้นมาลองดูเป็นเค้กเพ้นท์ลายกัน บ่าวสาวสามารถบอกร้านเค้กได้ว่าอยากจะให้เพ้นท์เค้กเป็นลวดลายอะไร มีตั้งแต่ลายดอกไม้ ลายแพทเทิร์น ลายหินอ่อน หรือจะเป็นรูปอื่นๆ ก็ได้ตามแต่ความสะดวก บอกเลยว่าไม่ซ้ำใครแน่นอน แต่อาจจะต้องหาร้านเค้กที่มีช่างทำเค้กฝีมือดีๆ นะจ๊ะ

เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงาน

4. เค้กสีขาวล้วน

เค้กแต่งงานสีขาวล้วนยังไงก็ฆ่าไม่ตาย ด้วยสีที่ดูเรียบหรู เข้ากับทุกธีมงาน ไม่ว่าจะตกแต่งคู่กับดอกไม้สีขาวหรือตัดกับสีอื่นๆ ยังไงก็รอด แต่ถ้าอยากได้แบบเรียบๆ แต่สวยงาม สามารถบอกทางร้านให้ปั้นน้ำตาลเป็นรูปทรงดอกไม้ ใบไม้ หรืออื่นๆ ให้เป็นเท็กซ์เจอร์ขึ้นมา เพื่อที่เค้กจะได้ไม่ดูแบนราบไปนั่นเองค่ะ

เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงาน

5. เค้กลายลูกไม้

ชุดที่เจ้าสาวนิยมใส่ในวันแต่งงานร้อยทั้งร้อยจะต้องมีลูกไม้ประดับ ซึ่งก็คงไม่แปลกที่จะมีเค้กลายลูกไม้ถูกไหมจ๊ะ … เค้กลายลูกไม้ ก็คือการตกแต่งหน้าเค้กให้เป็นลายๆ คล้ายกับลายผ้าลูกไม้ของเจ้าสาวนั่นแหล่ะ ด้วยตัวเค้กจะมีสีที่แตกต่างกับตัวลูกไม้ เพื่อให้มีความโดดเด่นแยกออกจากกัน แต่ทางที่ดีก็ควรคุมโทนไม่ให้สีตัดกันฉึบฉับมากจนเกินไปนะจ๊ะ หรือจะเลือกเป็นเนื้อเค้กสีชมพูอ่อนที่ตัดกับสีลูกไม้สีขาวก็สวยปังพาสเทลไปอีก

เค้กแต่งงาน เค้กแต่งงาน

 

แต่ล่ะแบบสวยๆ ทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ เราหวังว่าบ่าวสาวน่าจะพอมีแบบอยู่ในใจกันแล้วแน่ๆ ถ้าได้แบบที่ต้องการแล้ว อย่ารอช้าค่ะไปลองติดต่อร้านเค้กกันไว้ได้เลย เพื่อที่จะทำได้ทันในวันสำคัญนั่นเองกับ ร้านเค้กแต่งงาน ที่อยากบอกต่อ คัดมาให้แล้วรับประกันความอร่อย

ภาพจาก : Pinterest.com

“เข้าใจและอภัยในทุกเรื่อง” นิยามความรัก บี มาติกา – กร กรกฤช ที่ใช้ฝ่าทุกปัญหาจนมีวันนี้

กำลังจะเข้าพิธีวิวาห์อีกคู่หนึ่งแล้วสำหรับนักแสดงสาว บี มาติกา อรรถกรศิริโพธิ์ กับทายาทแสนล้านอาณาจักรซัมมิท กรุ๊ป กร กรกฤช จุฬางกูร ที่คบหาดูใจกันมานานถึง 9 ปี โดยเมื่อปีที่แล้วหนุ่มกรจัดเซอร์ไพร้ส์ชุดใหญ่คุกเข่าขอบีแต่งงานในวันครบรอบท่ามกลางเพื่อนพ้องของทั้งสองฝ่าย และปลายปีนี้ทั้งคู่ได้ฤกษ์ดีเตรียมพร้อมจูงมือเข้าสู่ประตูวิวาห์เป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่เราจะได้เห็นบรรยากาศงานแต่งงานของทั้งคู่ แพรว wedding ขอไปแง้มความลับในใจหนุ่มกร ว่าที่เจ้าบ่าวที่มีต่อว่าที่เจ้าสาวสักหน่อย พร้อมที่มาแผนการเซอร์ไพร้ส์ที่หนุ่มกรไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน และอัพเดทธุรกิจใหม่ของว่าที่เจ้าสาวที่บอกเลยว่างานนี้สาวบีหน่ะอินสุดๆ

 

PART 1 – ความบังเอิญที่เป็นเหมือนพรหมลิขิต

กร : วันนั้นผมไปทานข้าว ส่วนบีไปงานวันเกิดเพื่อนเขาที่ร้านนั้นพอดี แล้วบังเอิญรุ่นน้องผมที่ไปด้วยกันเป็นเพื่อนของบีด้วย พอได้เจอกันเขาก็เลยแนะนำให้รู้จักครับ

บี : มันเป็นเรื่องบังเอิญมากที่เราเจอกัน วันนั้นเป็นวันเกิดเพื่อนบีพอดี แล้วก็ดันไปเจอรุ่นน้องที่เรารู้จัก ซึ่งเขาเป็นรุ่นน้องที่สนิทกับพี่กรด้วย แล้วเราไม่ได้เจอรุ่นน้องคนนี้นานมากก็เลยเข้าไปทักถามสารทุกข์สุขดิบกัน

กร : ซึ่งบังเอิญว่าน้องคนนี้เขานั่งอยู่ที่โต๊ะผม (ยิ้ม)

บี : ใช่ คือบังเอิญมาก ถ้าเราคลาดกันแค่วันนั้นวันเดียวก็อาจจะไม่ได้เจอกันเลย

กร :  หลังจากที่เจอกันผมก็ถามรุ่นน้องว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ทำไมน่ารักจัง จากนั้นก็เลยได้คุยกันมาเรื่อยๆ ครับ ซึ่งช่วงนั้นเรายังใช้บีบีกันอยู่เลย

บี : คือวันนั้นรุ่นน้องบอกว่าโทรศัพท์เขาแบตหมด ขอบีบีเราหน่อยเดี๋ยวจะแอดพินไป แต่พอขึ้นมาก็ปรากฏว่ามีพินบีบีของพี่กรอยู่ด้วย

เราคบกันมาปีนี้เป็นปีที่ 9 มันเป็นความรักที่มั่นคง ไม่หวือหวาอะไรมากมาย สิ่งที่เราประทับใจในตัวเขาตลอดเวลาที่คบกันมาคือ พี่กรเป็นคนมีน้ำใจ ให้ความช่วยเหลือทุกคนที่อยู่รอบตัวบี ที่สำคัญตอนเราเจอเหตุการณ์ที่แย่ที่สุดในชีวิตหันไปก็ยังมีเขา

PART 2 – 9 ปีที่โตมาด้วยกัน เดินไปพร้อมกัน

กร : เราคบกันมา 8 ปีเข้าปีที่ 9 ทะเลาะกันน้อยมาก นับครั้งได้เลย เพราะว่าผมไม่ชอบทะเลาะ เสียสุขภาพจิต งานก็เหนื่อยแล้ว ซึ่งเราไม่เคยทะเลาะแบบขอเลิกหรือไม่คุยกันเป็นอาทิตย์ ส่วนใหญ่จะเคลียร์ตอนนั้นหรือวันรุ่งขึ้น เอาจริงๆ ย้อนกลับไปก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยทะเลาะกันเรื่องอะไรบ้าง

บี : บีมองว่าอาจเพราะเราโตขึ้นด้วย ได้เห็นการดำเนินชีวิตของเขาว่าเป็นยังไง เริ่มเข้าใจอะไรต่างๆ มากขึ้น ไม่มีใครต้องการเอาชนะใคร เรื่องไหนที่แต่ละคนยอมได้ก็จะยอม จะมีก็แบบงุ้งงิ้งๆ พี่กรบ่นบ้าง เราก็แบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา (หัวเราะ)

กร :  ส่วนใหญ่บ่นเรื่องทั่วไป เรื่องใจร้อน เรื่องการทำงาน อย่างการทำงานในรูปแบบบริษัทที่ต้องติดต่อเรื่องต่างๆ เขาอาจต้องเจอคำพูดที่ไม่เข้าหูบ้าง โดนเอาเปรียบบ้าง เจอคนพูดกลับไปกลับมาบ้าง ผมก็จะคอยบอกเขาว่าถ้าเราเป็นนักธุรกิจที่ดีต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจแล้วแก้ไขปัญหา ซึ่งส่วนมากก็สอนเรื่องทั่วไปที่ใช้ดำเนินชีวิต ในการทำงานประมาณนี้มากกว่า

บี : ตั้งแต่เด็กจนโตส่วนใหญ่บีใช้ชีวิตอยู่ในกองถ่าย มีการทำงานอยู่แค่นั้น พอต้องมาทำธุรกิจพี่กรจะสอนให้เรียนรู้ในเรื่องการติดต่อประสานงาน การดีลกับลูกน้อง การจัดการกับอุปสรรคที่มันยากกว่าที่เราเคยเจอ แต่เขาจะไม่เข้ามาก้าวก่ายแต่คอยชี้แนะมากกว่า

กร :  ผมมองว่าถ้าคนจะโตได้เราบอกเขาทุกอย่างไม่ได้หรอก ต้องให้เขาเจอเองบ้าง แต่เขาแค่ต้องรักษาระดับอารมณ์ของเขาให้ได้เท่านั้นเอง

อ่าน >>> PART 3 – Will You Mary Me? >>> หน้าถัดไป คลิกเลย!

10 เรื่องฮิตที่ แขกบ่นในงานแต่ง บ่าวสาวรู้ไว้รับมือได้ไม่ยาก

จากประสบการณ์ที่ แพรว wedding ไปงานแต่งมามากมาย ได้ยินเสียงบ่นในงานแต่งมาเป็นร้อยๆ เรื่อง  แต่มีอยู่ 10 เรื่องที่เป็นท็อปเทน แขกบ่นในงานแต่ง กันเยอะที่สุด มีเรื่องอะไรบ้างที่บ่าวสาวมือใหม่ต้องระวังยามจัดงานแต่ง เรามาดูกัน

 

ร้อน

ปัญหายอดนิยมของคนไทย กับอากาศร้อนๆ แล้วยิ่งไปงานแต่ง แขกแต่ละคนก็แต่งตัวจัดเต็ม ผู้ชายใส่สูท ผู้หญิงแต่งหน้าแน่น ถ้ามาเจออากาศร้อนๆ ให้เหงื่อออกจักกะแร้เปียก เมคอัพไหลเยิ้ม รับรองว่ามีแต่อารมณ์หงุดหงิด ทางที่ดีบ่าวสาวควรเลือกห้องจัดงานที่แอร์เย็น หรือไม่เชิญแขกมากเกินกว่าที่ห้องจะรองรับได้

ไกล

เรื่องนี้ยากมาก เพราะแต่ละคนก็มากันคนละทิศ คนละทาง ทางที่ดีคือเอาที่บ่าวสาวสะดวก แต่ก็ต้องเดินทางไปมาสะดวกเช่นกัน เข้าถึงง่าย มีบริการขนส่งสาธารณะอย่างพวกรถไฟฟ้า และที่สำคัญก็ควรมีที่จอดรถฟรีเพียงพอต่อจำนวนแขกด้วย เพียงเท่านี้แม้จะจัดไกลแค่ไหน แต่ก็ลดเสียงบ่นลงไปได้เยอะ

แคบ แออัด

งานแต่งงานบางงานมีคนเป็นลม เพราะคนเยอะเกินไป บ่าวสาวจึงไม่ควรเชิญแขกเกินจากจำนวนที่สถานที่จัดงานรองรับได้ หรืออาจจะถามผู้ให้เช่าสถานที่ก่อนก็ได้ว่า หากเชิญแขกเต็มพิกัด คนจะแน่น จะแออัดประมาณไหน อ้อ! แล้วอย่าลืมเผื่อที่สำหรับการตกแต่งด้วยนะ ทางที่ดี ก็อย่าเชิญแขกมาเต็มพิกัดห้อง ควรกะสักประมาณ 80 -90% เพื่อไม่ให้งานแออัดจนเกินไป

ธีมงานแปลกประหลาด

บ่าวสาวบางทีก็ช่างครีเอทเกินไป คิดค้นธีมแปลกประหลาด หรือสีที่หาใส่ได้ยาก จนทำให้แขกที่มางานรู้สึกว่าหาชุดลำบากจัง ทางที่ดีก็เลือกธีมจัดงานที่ไม่ต้องหวือหวามากนัก หรือเป็นธีมสีที่หาเสื้อผ้าใส่ไม่ยากนัก

เริ่มงานช้า

นี่เป็นเรื่องที่เราแอบได้ยินคนบ่นบ่อยมาก หากว่าเลยสักทุ่ม หรือทุ่มครึ่งไปแล้วแต่บ่าวสาวยังไม่เปิดตัว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ว่ามีแขกมารอถ่ายรูปเป็นจำนวนมาก หรือความไม่พร้อมต่างๆ เอาเป็นว่าหากงานเริ่มช้าจากที่ตั้งใจไว้ บ่าวสาวก็ควรส่งตัวแทนออกมาก่อน เพื่อไม่ให้แขกทั้งหลายหงุดหงิดนะจ๊ะ

พิธีการเยอะ ใช้เวลานาน

ปกติแล้วในแต่ละช่วงเวลาไม่ควรใช้เวลานานเกินไป เบ็ดเสร็จพิธีการตั้งแต่เปิดตัวบ่าว – สาว ไปจนถึงโยนช่อดอกไม้ไม่ควรเกิน 2 ชั่วโมง เพราะนานกว่านั้นแขกทั้งหลายที่ไม่อยากอยู่ร่วมอาฟเตอร์ปาร์ตี้ต่อก็ชักจะโมโหบ่นกันงึมงำเป็นหมีกินผึ้งแล้ว

เสียงดังเกินไป

ช่วงก่อนที่บ่าวสาวยังไม้เปิดตัว และในช่วงพิธีการต่างๆ ที่ต้องมีเสียงเพลง หรือเสียงของพิธีกร หากว่าเสียงดังเกินไปก็ทำให้แขกหลายคนหงุดหงิดได้ ทางที่ดีควรเปิดดังแต่พอเหมาะ ไม่อย่างนั้นแขกอาจจะแอบบ่นกันงุ้งงิ้งลับหลัง เพลงก็ดัง ลำโพงก็แตก อายเขาแย่เลย

ที่นั่งไม่พอ

แม้ว่าจะจัดงานแบบค็อทเทล หรือซุ้มอาหารที่สามารถยืนกินได้เลย แต่ก็ควรหาสถานที่หากว่าแขกจะเมื่อยเท้าอยากได้ที่นั่ง อาจจัดเตรียมเอาไว้ในงานบริเวณมุมๆ ห้องจัดเลี้ยงส่วนหนึ่ง และอีกส่วนอยู่รอบๆ งานเลี้ยง

อาหารไม่พอ

โอ้ยย อันนี้ไม่ใช่แค่แขกบ่น แต่แขกถึงขั้นอารมณ์เสีย เราเคยเจอที่แขกหน้าหงิกหน้างอ แถมนินทาบ่าวสาวด้วยว่า งก! จัดอาหารมาน้อย ทางที่ดีบ่าวสาวควรคำนวณอาหารให้พอเพียงกับจำนวนแขกที่มาร่วมงาน และควรเตรียมเกินกว่าจำนวนแขกเอาไว้ด้วย เผื่อแขกจะพาผู้ติดตามมามากกว่าที่บอกไว้

เด็กวิ่งไปมา

อูวหู้ว อย่าว่าแต่แค่แขกบ่นเลย แม้แต่เราเองยังปวดหัว บ่าวสาวที่รู้แน่ๆ ว่างานนี้มีแขกตัวน้อยมาในงานหลายคน เราแนะนำว่าให้ทำมุมเด็กเอาไว้ด้วย จัดเลยสารพัดของเล่นเด็ก ทั้งสมุดวาดรูประบายสี เอาใจแขกตัวน้อยเป็นพิเศษ เพื่อให้พวกเขาไม่ออกมาวิ่งเล่นให้เกะกะแขกคนอื่น

เนี่ยละ คือ ท็อปเท็นที่แขกชอบบ่นในงานแต่ง รู้อย่างนี้แล้ว บ่าวสาวจะได้ระวังเรื่องการจัดงานให้เป๊ะ มีแต่รอยยิ้มของทั้งคนจัดงาน และแขกที่ได้รับเชิญ ส่วนใครที่ยังไม่แน่ใจว่าจะจัดงานแต่งต้องเตรียมตัวอะไรอีกบ้างเรามีมาบอกให้แล้วอย่างครบถ้วน อ่านสิ

ภาพ pixabay

เทคนิคการเลือกใช้เต็นท์งานแต่งสำหรับบ่าวสาวที่คิดจะจัดงานกลางแจ้ง

งานแต่งงาน เราควบคุมงบและควบคุมรายละเอียดต่างๆ ได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เราควบคุมไม่ได้นั่นก็คือ สภาพดินฟ้าอากาศ  ถ้าคุณคิดจะจัดงานกลางแจ้งแล้วล่ะก็ เต็นท์งานแต่ง มีความสำคัญอย่างมาก ยังไงซะ จ่ายเงินเช่าเต็นท์ ยังดีกว่ามานั่งเสียน้ำตาเพราะโดนฝนถล่มงานหรือโดนแสงแดดแผดเผาจนตัวไหม้เกรียมอีกนะ

แพรว wedding เลยมีเทคนิคการเลือก เต็นท์งานแต่ง สำหรับงานแต่งงานมาฝากบ่าวสาวกัน ดังนี้

เต็นท์

1. เมื่อไหร่ที่ควรเช่าเต็นท์สำหรับงานแต่ง?

หากคุณตัดสินใจเลือกสถานที่จัดงานกลางแจ้ง นั่นคือคุณต้องยอมรับว่ามีโอกาสที่จะเกิดสภาพอากาศแปรปรวนในวันแต่งงานได้ ดังนั้นการเช่าเต็นท์ควรจะรวมอยู่ในลิสต์ “จองสถานที่” ด้วย เพื่อใช้คำนวณค่าใช้จ่าย

2. ขนาดของเต็นท์สำหรับงานแต่งที่เราต้องการเป็นอย่างไร?

หากคุณกำลังวางแผนในขั้นต้น คุณอาจยังไม่ได้กำหนดขนาดที่แน่นอน คุณต้องเช็คราคาจากร้านค้า หรือออแกไนเซอร์ เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจเลือกว่าจะใช้เต็นท์แบบไหน ตามปกติแล้ว จะต้องเลือกเต็นท์ที่กว้างที่สุดที่เหมาะสมกับสถานที่ ซึ่งเต็นท์รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าจะมีเพดานสูงกว่า ที่ทำให้บรรยากาศงานดูดีและมีการถ่ายเทอากาศให้เย็นสบาย

3. กำหนดประเภทของเต็นท์ที่คุณต้องการ

มีเต็นท์ให้เช่าหลากหลายรูปแบบ แต่แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เต็นท์เฟรม (Frame Tent) และเต็นท์เสา (Pole Tent) โดยใช้หลักการพิจารณา 3 ข้อที่ควรคำนึงถึง ได้แก่ พื้นที่ในการจัดงาน ความสวยงาม และงบประมาณ

เต็นท์เสา (Pole Tent)

เต็นท์

  • ข้อดี

– เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะมีดีไซน์ที่สวยงามจากความโดดเด่นของหลังคาโค้งเว้าและสูงโปร่ง

– ราคาไม่แพง

– ไม่มีกรอบในการคลุมรอบๆ

– ใช้เวลาในการประกอบไม่นาน

  • ข้อเสีย

– ต้องมีขั้วกลางในการยึด อาจทำให้กีดขวางในการตกแต่งจัดวาง

– ต้องตอกตัวยึดกับพื้นดิน

– ต้องใช้พื้นที่ทุกด้านในการยึดเชือก

 

เต็นท์เฟรม (Frame Tent)

เต็นท์

  • ข้อดี

– สามารถจัดวางบนพื้นผิวใดก็ได้

– สามารถยึดติดกันระหว่างเสาภายในเต็นท์ได้ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น

– ไม่มีจุดยึดตรงกลาง ทำให้ไม่มีสิ่งกีดขวาง

– สามารถตั้งทิ้งไว้ได้เป็นเวลานาน

  • ข้อเสีย

– มีราคาที่แพงกว่า

– สามารถมองเห็นเสาได้จากภายใน ทำให้หลายคนไม่ชอบรูปลักษณ์ของเต็นท์แบบนี้ ซึ่งต้องแก้ไขด้วยการซื้อซับที่มีราคาแพงมาปกปิด

– ใช้เวลาในการประกอบนาน

4. อุปกรณ์เพิ่มเติมสำหรับเต็นท์งานแต่ง

ซึ่งอาจทำให้ราคารวมของเต็นท์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เต็นท์ที่สูงด้านบนปลอดโปร่งอย่างเต็นท์สีขาว เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมและไม่มีค่าใช้จ่ายมากนัก แต่จำไว้ว่า ถ้าการจัดงานในช่วงกลางวัน แสงจากดวงอาทิตย์สามารถเปลี่ยนเต็นท์เป็นกระจกดูดความร้อนขนาดใหญ่ได้เลย จึงมีอุปกรณ์เสริมสำหรับเต็นท์เพิ่มขึ้นมาอย่างเช่น

ผ้าคลุมซับใน หากต้องการซับในคลุมด้านบนของเต็นท์ ควรแจ้งร้านค้า หรือออแกไนเซอร์ล่วงหน้า เพราะอาจจะมีราคาแพงกว่าเต็นท์ปกติอยู่มาก และถ้าต้องการผ้าซับในที่มีสีสัน ก็ยิ่งต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน

เต็นท์

กำแพง หลักๆ แล้ว ประเภทของกำแพงต้องคงทน ใส มีช่องหน้าต่างและผ้า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิเฉลี่ยของวันแต่งงานด้วย ถ้าวันแต่งงานของคุณอยู่ในช่วงอากาศอบอุ่น ก็ไม่ควรใช้ เพราะเหมาะกับการใช้ในช่วงอากาศเย็นมากกว่า หรือวันที่ฝนตกโปรยปราย กำแพงจะช่วยป้องกันสายฝนได้ (การใช้ผ้ามากั้นเป็นกำแพงไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยทั้งอากาศเย็นและฝนตก เพราะมันเป็นเพียงการตกแต่งให้สวยงามเท่านั้น)

เต็นท์

ปูพื้น การปูพื้นดินเป็นกระบวนการที่ใช้งบประมาณมาก มีค่าใช้จ่ายสูง และมีข้อเสียคือ หากในวันที่จัดงานแต่งมีฝนตกจะทำให้พื้นบริเวณงานเปียกและลื้นได้ หากจะวางเต็นท์บนพื้นที่ลาดเอียง หรือไม่สม่ำเสมอ ต้องพิจารณาถึงการปรับระดับให้พื้นเท่ากัน ซึ่งก็จะมีค่าใช้จ่ายตามมา แต่ก็ไม่มากจนน่ากังวล

เต็นท์

แสง ถ้าคุณจัดงานแต่งเวลากลางคืน จำเป็นต้องเตรียมหลอดไฟเพื่อให้แสงสว่างในเต็นท์อย่างทั่วถึง ซึ่งมีหลอดไฟมากมายเป็นตัวเลือกให้คุณใช้ในการตกแต่ง และการจัดแสงยังสามารถช่วยสร้างบรรยากาศภายในงานได้

เต็นท์

เครื่องปรับอากาศ หากสภาพอากาศร้อน คุณต้องลงทุนกับการใช้เครื่องปรับอากาศให้ความเย็นภายในงาน ซึ่งพัดลมก็เป็นตัวเลือกที่ดี เต็นท์ที่ไม่มีผ้าคลุมปิดล้อมรอบ จะต้องใช้เครื่องปรับอากาศจำนวนมากเพื่อให้ความเย็น พัดลมจึงเป็นตัวเลือกของคนส่วนใหญ่ที่มักจะประหยัดค่าเช่าและยังหมุนเวียนอากาศให้ถ่ายเทได้ดีอีกด้วย

เมื่อได้ไอเดียในสิ่งที่ต้องการแล้ว คุณก็สามารถติดต่อบริษัท/ร้านค้า เพื่อเช่าและประเมินราคา แล้วคุณจะตามหาบริษัท/ร้านค้าให้เช่าอย่างไร ลองดูตามลิ้งก์ รวม 8 ร้านเช่าเต็นท์ ที่บ่าวสาวจัดงานกลางแจ้งควรดูไว้  นี้ดูสิ เรารวมมาให้แล้ว

ห้ามลืมเด็ดขาด!

1. ควรถามบริษัท/ร้านค้าให้เช่าว่า ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการติดตั้ง ซึ่งจะต้องเตรียมพร้อมและติดตั้งเสร็จล่วงหน้าก่อนวันงาน เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาตกแต่งสถานที่ไปพร้อมๆ กัน

2. ตรวจสอบให้เข้าใจตรงกันกับบริษัท/ร้านค้าให้เช่าว่า เต็นท์นั้นสำหรับงานแต่งงาน เพราะดีไซน์ของเต็นท์ในแต่ละงานแตกต่างกัน

 

ประสานงาน : พัฒน์นรี ศิริคำ
เครดิตภาพ : pinterest

ติดตามไอเดียและเทคนิคต่างๆเกี่ยวกับงานแต่งงานได้ที่ praewwedding

ส่องสถานที่จัดงานแต่งริมเจ้าพระยา @ อวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ & อนันตรา ริเวอร์ไซด์ รีสอร์ท

อวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ และ อนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท 2 โรงแรมหรูระดับห้าดาวริมโค้งน้ำเจ้าพระยา สถานที่จัดงานแต่ง ในฝันของคู่บ่าวสาว ร่วมมือครั้งสำคัญจัดมหกรรมสานฝันวันวิวาห์ครั้งยิ่งใหญ่กับ “ริเวอร์ไซด์ เวดดิ้ง เฟสติวัล” ประจำปี 2562 เพื่อเนรมิตพื้นที่ต่างๆ ของโรงแรมฯ ทั้งสองแห่งในรูปแบบของการจัดงานแต่งงานเสมือนจริงให้แก่คู่บ่าวสาวที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานฉลองมงคลสมรสที่หรูหรา หรืองานเลี้ยงเฉพาะคนสนิทท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเคียงคู่ความงามละลานตาของวิวสวยระฟ้าสุดโรแมนติก

ริเวอร์ไซด์ เวดดิ้ง เฟสติวัล จัดขึ้นภายใต้ธีม “Now & Forever – Your Riverside Wedding” โดยภายในงานได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการจัดงานแต่งงานในรูปแบบต่างๆ การจัดแสดงสินค้าชั้นนำจากบูทพันธมิตรธุรกิจด้านการจัดงานแต่งงาน พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษที่ทีมงานฝ่ายขายมืออาชีพพร้อมดูแลและให้คำแนะนำ เพื่อให้การจัดงานของทุกคู่รักออกมาสวยงามคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด

โรงแรมอนันตรา ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ท และ อวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ เป็นอีกสองสถานที่ที่มีราคาสมเหตุสมผล มีพื้นที่การจัดงานแต่งงานที่เหมาะสำหรับทุกความต้องการ ทั้งฝั่งของโรงแรมอวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ ที่มีห้องให้เลือกหลากหลายขนาด ไล่ไปตั้งแต่ ห้องแกรนด์ ริเวอร์ไซด์ บอลรูม ที่มีขนาดใหญ่พิเศษ เพดานสูงโปร่ง สามารถรองรับแขกได้มากถึง 1,200 ท่าน ไปจนถึงห้องไซส์กระทัดรัดสำหรับจัดงาน After Party เลยทีเดียว

และที่พิเศษเลยสำหรับอวานี พลัส คือ ความสวยงามของวิวที่สามารถมองเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน ในส่วนของอนันตรา ริเวอร์ไซด์ ก็มีพื้นที่สวนเขียวขจีที่สวยงามร่มรื่นติดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งหาได้ยากในกรุงเทพฯ คู่บ่าวสาวสามารถเลือกจัดงานได้ทั้งในแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ ตัวอาคารและบรรยากาศโดยรอบได้รับการออกแบบให้มีความสวยงามอย่างมีเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย มีมุมที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพมากมาย ซึ่งคู่บ่าวสาวสามารถเลือกใช้เป็นสถานที่ถ่ายภาพพรีเวดดิ้งได้อย่างสะดวกสบาย

ข้อดีอีกประการของที่นี่คือ มีความยืดหยุ่นที่ลูกค้าสามารถเลือกจัดงานไม่ว่าจะเป็นพิธีการใดก็ได้ในทั้ง 2 โรงแรม เพราะมีพื้นที่ที่สามารถรองรับได้ทั้งหมด เช่น พิธีสงฆ์ช่วงเช้าที่อนันตรา แล้วมาเลี้ยงฉลองที่อวานี พลัส หรือจะจัดพิธียกน้ำชาที่ อวานี พลัส แล้วย้ายมาจัดงานเลี้ยงฉลองที่อนันตราก็ย่อมได้

เทรเดอร์ วิคส์ การ์เด้นท์ (อนันตรา ริเวอร์ไซด์) พื้นที่สวนสวยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เหมาะสำหรับจัดพิธีในช่วงเช้า ทั้งพิธีสงฆ์ พิธีสวมแหวน และพิธีรดน้ำสังข์ สามารถรองรับแขกได้ 200 ท่าน

ห้องเจริญนคร (อนันตรา ริเวอร์ไซด์) ห้องจัดเลี้ยงขนาดกลาง เหมาะสำหรับจัดพิธียกน้ำชา หรืองานแต่งงานขนาดกลาง เน้นความอบอุ่นเฉพาะครอบครัวหรือเพื่อนสนิท สามารถรองรับแขกได้ 100 ท่าน

เจ้าพระยา บอลรูม (อนันตรา ริเวอร์ไซด์) ห้องจัดเลี้ยงที่มีขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม เพดานสูง ตกแต่งในสไตล์ไทยร่วมสมัย เหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ หรูหรา สามารถรองรับแขกได้ 600 ท่าน

แกรนด์ ริเวอร์ไซด์ บอลรูม (อวานี พลัส) ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่พิเศษบนชั้น 10 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา      มีเพดานสูงโปร่งถึง 11 เมตร เหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยงขนาดใหญ่ สามารถรองรับแขกได้ 1,200 ท่าน

สกาย รูม (อวานี พลัส) ห้องจัดเลี้ยงขนาดกลาง ที่วันนี้เราเนรมิตให้กลายเป็นห้องตัวอย่างสไตล์          After Party สามารถรองรับแขกได้ 80 ท่าน

ในด้านอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งสองโรงแรมมีทีมเชฟฝีมือระดับห้าดาวคอยดูแลให้อย่างพิถีพิถันทั้งในเรื่องรสชาติและคุณภาพของอาหาร คู่รักคู่ไหนที่พลาดมาร่วมชมงานไม่ต้องเสียใจ เพราะทั้งสองโรงแรมยังมีแพ็กเกจดีๆ ราคาพิเศษสำหรับทุกท่านที่ต้องการจัดงานแต่งงานที่นี่ สามารถโทรเข้ามาสอบถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 02-431-9100, 02-476-0022 หรืออีเมล์  [email protected], [email protected]

ดูสถานที่แต่งงานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

สคริปต์งานแต่งจีน ครบถ้วนแบบม้วนเดียวจบไม่มีตกหล่นแน่นอน

เราขอเอาใจบ่าวสาวสายอาตี๋อาหมวยที่กำลังจะเข้าสู่ประตูวิวาห์ด้วย สคริปต์งานแต่งจีน แบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก ที่เรียงลำดับงานก่อนหลังมาให้ตั้งแต่เริ่มจนจบ พร้อมบทเจรจาของผู้ใหญ่ที่สามารถจะนำไปซักซ้อมก่อนได้ที่จะถึงวันจริง ถ้าจะให้ดีขอแนะนำให้ปริ้นต์แจกกันไปเลยจ้า ถึงวันจริงจะได้เป๊ะทุกพิธีไม่มีตกหล่น

สู่ขอ

เริ่มด้วย “พิธีสู่ขอ” ซึ่งเป็นพิธีแรกเริ่มของงานมงคลทั้งหมด โดยหลังจากที่พิธีกรเชิญคุณพ่อคุณแม่และเถ้าแก่ทั้งสองฝ่ายขึ้นนั่งประจำที่บนเวทีเรียบร้อยแล้ว ก็จะเริ่มต้นด้วยการเชิญเถ้าแก่ฝ่ายชายกล่าวสู่ขอว่าที่เจ้าสาวจากเถ้าแก่ฝ่ายหญิง

เถ้าแก่ฝ่ายชาย : ก่อนอื่นขอกล่าวสวัสดีแขกทั้งสองฝ่ายทุกท่านนะครับ/ ค่ะ วันนี้กระผม/ ดิฉันได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากครอบครัวของฝ่ายชาย (หรืออาจจะใส่เป็นชื่อเจ้าบ่าวก็ได้ตามถนัด) ให้เป็นผู้ใหญ่ทำหน้าที่สู่ขอ ว่าที่เจ้าสาว คุณ… (ชื่อว่าที่เจ้าสาว) ซึ่งจากที่ทราบกันดี ว่าทั้งคู่ได้คบหาดูใจกันมาและมีความเหมาะสมกันเป็นอย่างมาก โอกาสนี้กระผม/ ดิฉันจึงเรียนขอกล่าวทาบทามสู่ขอจากฝ่ายหญิง เพื่อให้ทั้งคู่ได้หมั้นหมายกัน ไม่ทราบว่าทางฝ่ายหญิงจะเห็นควรมิควรอย่างไรบ้างครับ/ คะ

เถ้าแก่ฝ่ายหญิง : ทางฝ่ายหญิงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และไม่มีอะไรขัดข้องแต่อย่างใด เพราะเห็นดีแล้วว่าทั้งคู่รักและเหมาะสมกันมาก

จากนั้นนำเข้าสู่ “พิธีแต่งงาน” โดยในตอนนี้สินสอดที่เตรียมมาได้ถูกจัดวางไว้ที่โต๊ะเบื้องหน้าของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายแล้ว ก็ถึงเวลาที่เถ้าแก่ฝ่ายชายต้องกล่าวอีกครั้ง

เถ้าแก่ฝ่ายชาย : สินสอดทั้งหมดนี้ ทางฝ่ายชายได้เตรียมมาเพื่อเป็นหลักประกันให้ฝ่ายหญิงได้มั่นใจว่า ฝ่ายชายจะสามารถดูแลฝ่ายหญิงได้ ขอให้ทางฝ่ายหญิงตรวจสอบได้เลยนะครับ/ ค่ะ

เถ้าแก่ฝ่ายหญิง : ด้วยความยินดีครับ/ ค่ะ ทางเราก็เชื่อมั่นเช่นนั้นเช่นกัน และขอให้ดูแลรัก (ชื่อเจ้าสาว) เหมือนลูกหลานของท่าน หลังจากนี้ทางครอบครัวฝ่ายหญิงก็ขอฝาก (ชื่อเจ้าสาว) ด้วยนะครับ/ คะ

หลังจากนั้นก็ให้ทั้งคู่สวมแหวนแต่งงานกันได้เลย หรือทางเถ้าแก่ฝ่ายหญิงอาจจะเป็นผู้กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอเชิญฝ่ายชายสวมแหวนให้กับฝ่ายหญิงให้เลย ทางครอบครัวของเรายินดีเป็นอย่างยิ่ง” แบบนี้ก็ได้ เพื่อเป็นสัญญาณให้เข้าสู่การสวมแหวนต่อไปได้อย่างไหลลื่น

รับตัว

สำหรับใน “พิธีรับตัวเจ้าสาว” นั้น เมื่อเจ้าบ่าวจะมาถึงที่บ้านเจ้าสาว เจ้าพิธีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนทำพิธีจะเป็นผู้เริ่มกล่าว

เจ้าพิธี : ตอนนี้ก็ได้เวลารับตัวเจ้าสาวแล้วนะครับ/ ค่ะ ขอเชิญคุณพ่อคุณแม่เจ้าสาวและเจ้าสาวเข้าสู่ภายในห้องเจ้าสาว สำหรับเพื่อนๆ ญาติๆ ฝ่ายเจ้าสาวก็กั้นประตูดักเจ้าบ่าวกันตามอัธยาศัยเลยนะครับ

ภายในห้องเจ้าสาวที่มีพ่อแม่อยู่ด้วย พ่อแม่เสียบกิ่งทับทิมและปิ่นให้กับเจ้าสาว พร้อมอวยพรให้ลูกสาวของตนเป็นหญิงสาวที่โชคดี มีความสุข มีความมั่งมี มีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์เมื่อเจ้าบ่าวผ่านกั้นประตูมา อย่าลืมไหว้ทำความเคารพพ่อแม่ และมอบช่อดอกไม้ให้เจ้าสาว

สคริปต์งานแต่งจีน

จากนั้นก็ทานอาหารมงคล 10 อย่าง (บางบ้านอาจกินอาหารมงคล 10 อย่างนี้แค่ในครอบครัวเจ้าสาวก็ได้) โดยมีผู้ใหญ่หรือเจ้าพิธีค่อยอธิบายความหมายมงคลให้ฟังดังนี้

ตามธรรมเนียมจีนการกินอาหารมงคล 10 อย่างถือเป็นเคล็ดให้คู่บ่าวสาวมีความสุข อาหารทั้ง 10 อย่างที่รับประทานรวมกันนั้นประกอบไปด้วย

  • วุ้นเส้นหรือเส้นหมี่ หมายถึง ให้รักกันนานๆ และมีอายุยืนยาว
  • เห็ดหอม หมายถึง ให้ชีวิตคู่มีแต่ความหอมหวาน
  • ผักกุ๋ยช่าย หมายถึง ให้รักกันยั่งยืนนาน
  • ผักเกาฮะไฉ่ มีนัยสื่อถึง “ฮัวฮะ” ซึ่งเป็นเซียนคู่ที่รักกันมาก “ฮัวฮะ”” จึงมีความหมายให้รักใคร่ปรองดองกัน
  • หัวใจหมู หมายถึง ให้รักกันเป็นใจเดียว
  • ไส้หมู และกระเพาะหมู ซึ่งไส้หมูคือ ตึ๊ง กระเพาะหมูคือ โต้ว รวมกันเป็นภาษามงคลว่า”อั่วตึ๊งอั่วโต้ว” หมายความว่าให้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นหมายถึงการปรับตัวเข้าหากัน นิสัยใดที่ไม่ดีก็ให้เปลี่ยนเป็นนิสัยที่ดีเพื่อให้คู่ครองได้มีความสุขและรักกันยืนยาว
  • ตับหมู เป็นนัยสื่อถึงความก้าวหน้ารุ่งเรือง
  • ปลา แปลว่าให้มีเหลือกินเหลือใช้ คือมีมากมาย ร่ำรวยจนกินใช้ไม่หมดนั่นเอง
  • ปู เมื่อต้มแล้วเป็นสีแดงมงคล และตัวปูเดินเร็ววิ่งเร็วเป็นการอวยพรคู่บ่าวสาวให้ทำอะไรได้คล่องแคล่วว่องไว ขยันทำมาหากินทำงาน

สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี”

หลังกินอาหารมงคล 10 อย่างเสร็จแล้วก็ตั้งขบวนเพื่อส่งตัวเจ้าสาว

สคริปต์งานแต่งจีน

เมื่อไปถึงบ้านเจ้าบ่าว ทั้งคู่จะเข้าสู่ “พิธีไหว้บรรพบุรุษ” ซึ่งญาติผู้ใหญ่ผู้เป็นเจ้าพิธีหรือนำพิธีจะกล่าวบอกบ่าวสาวว่า “การไหว้ฟ้าดิน ไหว้เจ้าที่ในบ้าน ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้พ่อแม่ เพื่อเป็นการบอกกล่าวว่าทั้งคู่ได้แต่งงานกันแล้ว บ่าวสาวจงตั้งใจบอกกล่าว และฝากเนื้อฝากตัวกับท่านนะครับ/ คะ”

จากนั้นต่อด้วยพิธียกน้ำชา โดยผู้ใหญ่ผู้ประกอบพิธีจะอธิบายถึงจุดประสงค์ของการยกน้ำชา หรือ “ขั่งเต๊” ว่า “เป็นการแสดงความเคารพกับพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว ขอให้ทั้งสองคุกเข่าลง พร้อมกับรินน้ำชาใส่ถ้วยวางลงบนถาดแล้วส่งให้ผู้ใหญ่ (ผู้ใหญ่จะรับถ้วยชามาดื่มแล้วให้ศีลให้พร และเงินทองเพื่อเป็นทุนตั้งตัว)

เห็นไหมคะว่าไม่ได้มีบทพูดเจรจามากมายให้ปวดหัว แต่ทุกคำล้วนให้ความเป็นมงคลและตรงตามพิธีทุกอย่าง ใครกำลังมองหาสคริปต์พิธีจีนก้อปปี้ไปใช้ได้เลยค่ะ

อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพิธีงานแต่งงานอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิกเลย!

ภาพเปิด : hdmphotography.co.uk
ขอบคุณภาพประกอบจาก my.inlovephoto.com, commons.wikimedia.org, Vin Buddy

7 เนื้อผ้าบางเบาเหมาะสำหรับตัดเย็บชุดเจ้าสาวในช่วงซัมเมอร์

หากคุณเป็นว่าที่เจ้าสาวที่ดันได้ฤกษ์แต่งงานในช่วงซัมเมอร์ แถมยังเลือกสถานที่แต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ไปอีก เพราะฉะนั้นสิ่งที่สาวๆ ต้องคำนึงถึงมากเป็นพิเศษนอกจากการป้องกันเมคอัพไม่ให้ละลายแล้ว เรื่องชุดแต่งงาน หรือแม้กระทั่งชุดเพื่อนเจ้าสาวก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนะคะ โดยเฉพาะการเลือกเนื้อผ้าที่ต้องเป็น เนื้อผ้าบางเบา ที่ช่วยระบายความร้อน และช่วยให้สาวๆ เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบาย เพราะคงไม่มีสาวๆ คนไหนที่อยากเหงื่อโทรมทั่วร่างกายในวันสำคัญหรอกจริงไหมคะ แพรว wedding เลยไปเดินสำรวจเนื้อผ้าที่เหมาะกับการตัดชุดแต่งงานและชุดเพื่อนเจ้าสาวในช่วงซัมเมอร์มาฝาก

 

ผ้าชาร์มัวส์ (Charmeuse)

เป็นเนื้อผ้าที่มีลักษณะโดดเด่นเรื่องความมันวาวและเรียบลื่น จึงช่วยให้ผู้สวมใส่เคลื่อนไหวได้อย่างสะดวกสบายภายใต้เนื้อผ้าลักษณะนี้ และด้วยความเงาวาวของเนื้อผ้าก็ช่วยทำให้สาวๆ ดูเซ็กซี่น่าค้นหาในชุดแบบนี้อีกต่างหาก โดยเฉพาะกับว่าที่เจ้าสาวที่เปิดตัวเข้าสู่ช่วงพิธีการในชุดแต่งงานผ้าชาร์มัวส์ ก็จะช่วยให้ลุคของคุณดูน่าทึ่งได้ท่ามกลางบรรยากาศงานแต่งงานแบบเอ้าท์ดอร์ หรือแม้กระทั่งงานแต่งงานที่เป็นทางการมากๆ เจ้าสาวก็ยังรอดในชุดแต่งงานเนื้อผ้ามันวาวนี้อยู่ดี

เนื้อผ้าบางเบา

ผ้าชีฟอง (Chiffon)

เป็นผ้าโปร่งที่มีน้ำหนักเบา จึงทำให้เนื้อผ้าลักษณะนี้ถูกนำมาใช้ซ้อนกันเป็นเลเยอร์ให้ฟูฟ่องสำหรับชุดแต่งงานหลากหลายแบบ ซึ่งความบางเบาและความฟุ้งของเนื้อผ้าช่วยให้ชุดที่ตัดเย็บออกมานั้นดูสวยและสง่างาม และถ้าหากเจ้าสาวจัดงานแต่งงานแบบออน เดอะ บีช ชุดแต่งงานที่เป็นผ้าชีฟองนั้นเหมาะอย่างแรงส์ อ่ะ ลองนึกภาพตามนะคะ ว่าคุณอยู่ในชุดแต่งงานผ้าชีฟองสุดบางเบาพร้อมความฟูฟ่องของกระโปรง ที่มีฉากหลังเป็นท้องฟ้าสีสดใสและท้องทะเลสีคราม โอย แค่คิดก็สวยจนขนลุกแล้ว จริงไหมคะ

ผ้าเครป (Crepe)

เป็นอีกหนึ่งเนื้อผ้าที่ได้รับความนิยมในชุดแต่งงาน เพราะด้วยลักษณะเนื้อผ้าที่บางเบา น้ำหนักน้อย เหมาะกับการใส่ในช่วงซัมเมอร์สุดๆ และยังให้ลุคที่สวยงามเมื่อนำมาตัดเป็นชุดแต่งงานอีกด้วย อีกทั้งเนื้อผ้ายังมีเท็กซ์เจอร์แบบเรียบหรูดูดีเหมาะกับการนำมาตัดชุดที่ไม่ต้องการความซับซ้อนของดีไซน์มากนัก เพราะด้วยเนื้อผ้าที่มีความสวยงามอยู่ในตัวอยู่แล้วก็จะช่วยให้ทั้งลุคและทั้งชุดออกมาดูดีแน่นอน

ผ้าฝ้ายหรือผ้าคอตตอนลายจุด (Swiss Dot)

จัดงานแต่งในช่วงซัมเมอร์ทั้งที ลุคของสาวๆ ก็ต้องเน้นความสนุกสดใสให้เข้ากับบรรยากาศสักหน่อย เพราะฉะนั้นเนื้อผ้าที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ชนิดนี้จึงเหมาะกับสาวๆ ที่ต้องการความแตกต่างเป็นที่สุด เพราะด้วยเนื้อผ้าที่มีลายจุดแบบเฉพาะตัว แถมยังให้ความบางเบามากกก จึงการันตีได้ว่าเจ้าสาวจะสบายคลายร้อนอยู่ในชุดนี้ได้เป็นวันแบบไร้ความหงุดหงิด แต่ด้วยเนื้อผ้าที่มีลูกเล่นค่อนข้างเฉพาะตัว จึงอาจจะเหมาะกับเจ้าสาวที่จัดงานแต่งงานแบบไม่เป็นทางการมากนัก เพราะด้วยเนื้อผ้าที่มีความโดดเด่นขี้เล่นนี้ หากใส่ในงานแต่งที่ทางการจ๋ามากๆ แขกอาจจะตกใจได้ว่า เอ๊ะ เจ้าสาวมาผิดงานหรือเปล่าก็ได้!!

ผ้ามุ้ง หรือผ้าโปร่ง

เนื้อผ้าลักษณะนี้นิยมนำมาใช้เสริมเป็นดีเทลในชุดแต่งงานอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ เรียกได้ว่าเห็นจนชินตาก็ว่าได้ โดยเฉพาะในดีเทลของช่วงแขน ช่วงเนคไลน์ หรือด้านหลังของชุดแต่งงาน ที่มักจะนิยมนำมาตัดเย็บเสริมเพื่อให้ชุดแต่งงานเกิดความสวยงามและมีเอกลัษณ์เฉพาะตัว แถมเนื้อผ้าลักษณะนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับเจ้าสาวที่ต้องการเผยผิวเพิ่มความเซ็กซี่นิดๆ แบบไม่ติดโป๊ แถมยังให้ลุคคลาสสิคแฝงความโมเดิร์นอีกด้วย

ผ้าออร์แกนซ่า (Organza)

หากสาวๆ กำลังมองหาบางอย่างที่มอบความสวยงามให้กับลุคภายใต้ชุดที่มีเนื้อผ้าบางเบา เนื้อผ้าออร์แกนซ่าก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่เราอยากแนะนำ แถมเนื้อผ้าชนิดนี้ยังมีประกายแวววาวที่ช่วยให้ลุคของเจ้าสาวดูโรแมนติกมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนมากแล้วเนื้อผ้าลักษณะนี้จะนิยมนำมาใช้สำหรับตัดเย็บเป็นกระโปรงฟูฟ่องอย่างกระโปรงทรงบอลกาวน์ หรือชุดแต่งงานที่ลากยาวมากๆ เพื่อช่วยให้ลุคโดยรวมของชุดดูน่าสนใจ

ผ้าทูลล์ (Tulle)

เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของผ้าโปร่งเนื้อบางเบา น้ำหนักน้อยที่ให้อารมณ์โรแมนติกสุดๆ และนิยมนำมาใช้ตัดเย็บเป็นกระโปรงทูทู่เพื่อให้ฟูฟ่องดูมีวอลลุ่มได้ลุคสวยงามชวนฝัน อีกทั้งผ้าชนิดนี้ยังสามารถนำไปสร้างสรรค์เป็นลุคต่างๆ ได้ตามสไตล์ของสาวๆ แต่ละคนอีกด้วย โดยเฉพาะในชุดแต่งงานทรงบอลกาวน์ที่เน้นความมีวอลลุ่มของกระโปรง ซึ่งเราคอนเฟิร์มเลยว่าให้ความสวยงามราวกับเจ้าหญิงเมื่อยามที่เจ้าสาวย่างกรายเข้าสู่งานแน่นอน

เลือกเนื้อผ้ากันได้แล้ว ก็ยังมีเรื่องที่เจ้าสาวต้องรู้อีกนะคะหากจะจัดงานแต่งงานหน้าร้อนกับ 5 เรื่องเจ้าสาวต้องรู้เมื่อถึงเวลาเลือกชุดแต่งงานริมทะเล!

ภาพ zingermanscornmanfarms.com, pinterest.com